Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Hentook-4

Hentook-4

Published by ชมรมกัลยาณธรรม, 2021-04-18 07:15:11

Description: Hentook-4

Search

Read the Text Version

100 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ กต็ าย ท�ำไมไมม่ ีใครคดิ ออกจากเร่อื งนเ้ี ลยละ่ ?” ถา้ เราเปน็ ฉนั นะ เรากค็ ง “เฮอ้ ..ออกอยา่ งไรเนยี่ ? ออกแบบไหน  เหรอ? น่มี ันเป็นเรือ่ งธรรมดาไมใ่ ช่หรอื ? ผมถงึ บอกวา่  เราโชคดมี หาศาลทที่ า่ นไมเ่ หน็ เรอื่ งนเ้ี ปน็ ธรรมดา  พวกเราเกดิ มาเนย่ี  เรากย็ อมรบั เรอื่ งนเี้ ปน็ ธรรมดา ยอมจำ� นนหลงั   ตดิ ฝาไปเลย แตท่ า่ นเหน็ แคน่  ี้ ทา่ นถามวา่  “ไมม่ ใี ครคดิ จะออกมา  เลยหรอื  นี่มันเป็นทุกขม์ หันตข์ องมวลมนุษยชาตเิ ลยนะ” ทา่ นบอก “ฉนั นะ กลบั วงั ” หมดเวลาหรรษาแลว้  ดอู ะไรกไ็ มส่ วย  แล้ว...งง งงว่าคนท้ังหมดอยู่กับมันได้อย่างไร? ไม่มีใครคิดจะออก  จากมันเลย ท่านพูดค�ำหน่ึงว่า “ไม่มีใครคิดจะทุ่มเทสติปัญญา  ทั้งหมดที่ม ี เพื่อจะออกจากสงิ่ นเ้ี ลยเหรอ?” เราเปน็ ฉนั นะ เรากค็ งไมก่ ลา้ ตอบอะไรทงั้ นน้ั  คงนง่ั เงยี บๆ ดกี วา่   พอกลับวัง ระหว่างทางก็เห็นสมณะ สมณะมีมาก่อนท่านแล้ว มี  ทุกคนที่เห็นทุกข์แบบนี้แล้วพยายามจะออกเหมือนกัน แต่ออกไม่ได้  ได้แต่สมาธิ พยายามทรมานตนให้มันหลุดพ้นอะไร กระท�ำมัน 

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 101 ทกุ อยา่ งนะ่ ถึงตรงน ้ี ผมขอเบรกไว้ ผมขอตัดภาพกลับมา เรอื่ งอุปมาท่ีผม  จะอปุ ไมยใหฟ้ งั ถา้ มพี อ่  แม ่ ลกู  อยใู่ นบา้ น ในหมบู่ า้ นทหี่ า่ งไกล ทง้ั  ๓ คนเปน็   โรคร้ายที่ตายแน่ ตายแน่ เป็นโรคร้ายแบบตายแน่ ไม่มียารักษา  ไมเ่ คยหายารกั ษาได ้ คนในหมบู่ า้ นทง้ั หมด คนในละแวกนนั้ ทง้ั หมด  ในประเทศน้ันท้ังหมด ไม่มีใครมียารักษาเลย ทุกคนเป็นโรคนี้กัน  หมดเลย มีพ่อบ้านคนหน่ึง ท่ีไม่สามารถทนรอดูให้เมียของตัวเอง  ลูกของตัวเอง พ่อของตัวเอง แล้วคนในหมู่บ้าน คนในประเทศของ  ตวั เอง ตอ้ งทนตายอยา่ งทกุ ขท์ รมานกบั เรอ่ื งแบบน ี้ คนๆ นน้ั ตดั สนิ ใจ  ที่จะออกไปหายารักษาโรค โดยไมร่ วู้ ่ามันมไี หม ไม่ร้วู า่ มนั อยูท่ ไี่ หน  โดยจะทุ่มเทสรรพก�ำลังสรรพปัญญาท้ังหมด เพ่ือจะหายานี้ให้ได ้ ท้ังๆ ที่ไม่รู้ว่ามันมีอยู่ไหม ไม่ว่าจะล�ำบากยากเข็ญอย่างไร จะออก  ไปหายานใ้ี หไ้ ด ้ แตถ่ า้ บอกครอบครวั  บอกเมยี  บอกลกู  บอกทกุ คน  ทกุ คนกจ็ ะหา้ ม เพราะไมเ่ คยมใี ครคดิ วา่ มนั จะออกจากเรอ่ื งนไี้ ด ้ จงึ   ตดั สินใจออกไปกอ่ น เพ่ือออกไปหายามาช่วยทกุ คนให้ได้

102 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ ถา้ มคี นบอกวา่  “พอ่ คนทหี่ นอี อกไปเพอื่ จะชว่ ยลกู ทงั้ ๆ ทไ่ี มร่ วู้ า่   ยามไี หม พอ่ คนนเ้ี หน็ แกต่ วั ” ผมรบั ไมไ่ ด ้ ผมวา่ คนๆ นแ้ี หละ คอื คน  ทเี่ สยี สละทส่ี ดุ  ในโลกใบนนั้  ในหมบู่ า้ นนน้ั เลย ทไี่ มเ่ คยคดิ  มใี ครจะ  ออกไปทนลำ� บาก เพื่อจะหายานีม้ าเลย เพอ่ื ทกุ คน แลว้ วนั น ้ี ยานน้ั ถกู คน้ พบแลว้  มสี ว่ นผสมอย ู่ ๘ อยา่ งในยานน้ั   ชื่อยา อริยมรรคมีองค์ ๘ ซึ่งท่านได้พบแล้ว ท่านท�ำส�ำเร็จแล้ว  ทา่ นนำ� กลบั มาแลว้ กช็ ว่ ยเหลอื พระราชบดิ าได ้ เขา้ สมู่ รรคผลนพิ พาน  เขา้ ถงึ ความเปน็ พระอรหนั ตก์ อ่ นทจี่ ะสวรรคต พระนางพมิ พาทโี่ กรธ  ทา่ นแทบเปน็ แทบตาย ตอนทที่ า่ นหนอี อกไป สดุ ทา้ ยบรรลธุ รรมเปน็   พระอรหนั ต ์ ราหลุ ทบ่ี อกวา่ ทา่ นทง้ิ  ทา่ นไมเ่ คยทงิ้  สดุ ทา้ ยบรรลธุ รรม  เป็นพระอรหันต์ พ้นไปจากทุกข์ท้ังปวงทั้งส้ิน คนในหมู่บ้าน ผู้คน  ในเมอื งในประเทศของทา่ น พระอรหนั ตส์ าวก ลามมาถงึ  ๒,๖๐๐ ป ี ล่วงมาแล้ว อย่างน้ใี ชไ่ หมคนเห็นแกต่ วั ? ๑๔ กมุ ภาพนั ธ ์ ๒๕๕๖

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 103 ๒๐ คนเราไมร่ ้อู รยิ สจั เป็นค�ำถามท่ีดี คนเราไม่รู้อริยสัจ เคยได้ยินพระพุทธเจ้าตรัส  ใชไ่ หม อริยสัจท่ีคนเห็นนัน้ ต่างระดบั กันตามภูมิธรรมของแต่ละคน คนทั่วไปเหน็ ทุกข์ รู้ทกุ ข์แค่ความรู้สกึ เป็นทุกข์ น่นั เป็นพื้นฐาน  ไม่สามารถบรรลธุ รรมได้

104 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ เพราะทกุ ขใ์ นอรยิ สจั ไมใ่ ชค่ วามรสู้ กึ ทกุ ข ์ แตเ่ หน็ ขนั ธเ์ กดิ ดบั เปน็   ทกุ ข์ น้ีเปน็ เบื้องตน้ ของพระโสดาบนั จนเหน็ ไปถงึ สรรพสง่ิ เปน็ อนตั ตา การเขา้ ไปยดึ ถอื เปน็ ทกุ ข ์ จน  ปล่อยความยึดถือไปไดถ้ ึงจดุ หนึ่งจะตดั ตอน พระอนาคามี จะรู้สึกว่าปล่อยจนหมดปัญญาปล่อยแล้ว แต่ไม ่ หมดทกุ ข์ เพราะทุกขม์ าจากจติ ยดึ ตวั มันเอง จงึ มีความรูส้ กึ เป็นของเรา สัญโยชน์ตวั ท่ี ๑๐ จงึ เปน็ อวชิ ชา ยายยมิ้ รแู้ จง้ ดว้ ยวธิ ธี รรมชาต ิ ดว้ ยการไมม่ อี ะไรนา่ เอา นา่ เปน็   จนถอดถอนตัวตนได้ น่ันเป็นจุดเปลี่ยน ไม่ใช่ความรู้สึกสุข ทุกข์ แต่เป็นการถอน  ความเหน็ แกต่ ัว คนท่วั ไปท่วี ่าดีมีสขุ  น่ันเปน็ กสู ขุ แต่ยายยม้ิ สขุ จากการหมดความยดึ ถอื  ผิดกันไกล คนทั่วไปแค่ความรู้สึกสุขท่ีเป็นกูสุข แต่อริยบุคคลสุขไม่ได้มา  จากการมสี มาธ ิ การไดข้ องทต่ี อ้ งการ แตส่ ขุ จากการละตวั ตน ไมว่ า่   จะมอี ะไรหรอื ไมม่ อี ะไร ไดอ้ ะไรหรือไม่ได้อะไร เปน็ อะไรหรอื ไมเ่ ปน็   อะไร จะเปน็ มะเรง็  พกิ าร อมั พาต ญาตเิ สยี  ลกู ตาย ใครจะอยใู่ คร  จะไป ใครจะด่าใครจะชม ใครจะช่วยใครจะไม่ช่วย ไม่มีวันทุกข์  เพราะมนั เปน็ เชน่ น้ันของมันเอง

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 105 บทสมั ภาษณ ์ อ. ประเสริฐ ในกรงุ เทพธรุ กจิ อาจารยป์ ระเสรฐิ  อุทัยเฉลิม พ่อครวั  “ธรรม” โดย : ปริญญา ชาวสมุน เรอ่ื งธรรมะ ตอ้ งจใี้ หเ้ ขาเหน็ จรงิ ๆ วา่ เกดิ ทต่ี วั เขาจรงิ ๆ ทกุ คน  อยากรเู้ หมอื นกันวา่ จริงๆ คืออะไร จากหลกั ธรรมแสนยากซง่ึ นอ้ ยคนจะสนใจถอ่ งแท ้ อาจารยป์ ระเสรฐิ   อุทัยเฉลิม คือผู้ปรุงรสพระพุทธศาสนาให้คนรุ่นใหม่ลิ้มรสได้อย่าง  เอร็ดอร่อย ด้วยหวังว่ามนุษย์ทุกคนจะพ้นทุกข์ ต้ังแต่เกิด แก่ เจ็บ  และตาย ชือ่ ของเขาอาจไม่คนุ้ หูคนทัว่ ไปนกั  แต่ส�ำหรับผฝู้ กั ใฝท่ างธรรม  ชอื่ นไ้ี มเ่ พยี งแตค่ นุ้ ห ู ทวา่ ยงั ประทบั ตรงึ ในดวงใจอกี ดว้ ย ทก่ี ลา่ วเชน่ น้ี  จะหาว่ายกยอปอปั้นกันเกินไปก็ใช่ที่ แต่ด้วยกลวิธีสอนธรรมะอย่าง  แยบคาย พาให้ต้องพยักหน้าตามเพราะเชื่อถือ บางครั้งถึงกับร้อง อ๋อ...! เพราะวา่ ตรงใจ เขา้ ใจ และสะทอ้ นใจได้ในที

106 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ กายใจมโี อกาสพบปะ อ.ประเสรฐิ  ณ จรี งั เรสซเิ ดนท ์ จ.เชยี ง-  ใหม ่ ดว้ ยคา่ ท ่ี อ.ประเสรฐิ  ตง้ั ใจมาปฏบิ ตั ธิ รรมและถา่ ยทอดคำ� สอน  ของพระศาสดาอยา่ งยอ่ ยงา่ ย เราจงึ ไดเ้ หน็ กลวธิ เี หนอื ชนั้ ทไี่ มค่ ดิ วา่   ใครจะท�ำไดใ้ นยุคสมยั ทธ่ี รรมะกลายเปน็ ของแสลง เขาเลา่ วา่ เมอ่ื กอ่ นไมแ่ ตกตา่ งจากคนหนมุ่ สาวทว่ั ไปทใี่ ชช้ วี ติ หลง  มัวเมากับความสนุกสนาน แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังเคารพในพระพุทธ  ศาสนาอยา่ งมาก กระทงั่ ไดเ้ รมิ่ ปฏบิ ตั ธิ รรมตง้ั แตป่  ี ๒๕๔๐ จนเขา้ ไป  บวชท่ียุวพุทธ จ.ปทุมธานี หลังจากน้ันพอเข้าใจธรรมะพอสมควร  ก็ติดตามครูบาอาจารย์ไปเผยแพร่งานวิปัสสนา จนถึงวันนี้เขาเดิน  ทางเหมือนต้นไม้ท่ีโตแล้วช่วยแผ่ก่ิงก้านสาขาเผยแพร่งานพระพุทธ  .ศาสนาต่อไป  มีผเู้ ข้าร่วมปฏบิ ัติธรรมเยอะไหม ตอ่ หลกั สตู รมปี ระมาณ ๕๐-๗๐ คน ซงึ่ เปน็ ทง้ั คนเชยี งใหม ่ คน  กรงุ เทพฯ บางทกี ม็ จี ากตา่ งจงั หวดั อนื่ ๆ กม็  ี แสดงวา่ เปน็ คนทวั่ ๆ ไป  สมัครเข้ามาไดท้ างเวบ็ ไซต์

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 107 . ปฏบิ ตั ิอะไรบ้าง เรม่ิ ตงั้ แตร่ จู้ กั  ครง้ั แรกคอื หลกั สตู รพนื้ ฐานเรม่ิ จากสอ่ื ธรรมะที ่ คนรนุ่ ใหมเ่ ขา้ ใจไดง้ า่ ยๆ จนกระทงั่ เขา้ หลกั สตู รทส่ี อง คอื  หลกั สตู ร  เขม้  เหมาะกบั ผทู้ เี่ คยปฏบิ ตั มิ าแลว้  และรวู้ า่ การปฏบิ ตั คิ อื อะไร แลว้   ก็มุง่ ไปท่คี วามพ้นทุกข์จรงิ ๆ บางครั้งนักปฏิบัติที่เราเห็นบางคนต้องการความสุข ต้องการ  พน้ ทกุ ขบ์ า้ งเลก็ ๆ นอ้ ยๆ ทเี่ กดิ ขนึ้ กบั ชวี ติ  แตบ่ างคนกม็ เี ปา้ หมายท ่ี ไปไกลกวา่ นน้ั  เชน่  บางคนเดนิ ตามคำ� สอนของพระศาสดาเพอื่ ไปถงึ   ความหลุดพน้  แต่ก็ไม่สามารถออกบวชได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด๋ียวน้ีผู้หญิงจะเยอะ ถ้าไปดูคอร์สปฏิบัติ  ๙๐ เปอร์เซ็นต์จะเป็นผู้หญิง เพราะฉะนั้นผู้หญิงมีข้อจ�ำกัดในการ  ปฏิบัติธรรมเก่ียวกับสถานที่ค่อนข้างเยอะ คือ ผู้หญิงอาจออกไป  ปลกี วเิ วกลำ� บาก เพราะเรอื่ งความปลอดภยั  แตถ่ า้ มสี ถานทที่ ดี่ ที ำ� ให้  ผู้หญงิ มาแล้วรูส้ ึกสบายใจ

108 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ . ปญั หาหรอื ความทกุ ข์ของผเู้ ข้ามาปฏบิ ัตธิ รรม โอ.้..แตกตา่ งกนั เยอะนะครบั  มตี งั้ แตค่ ดิ ฆา่ ตวั ตาย หรอื ฆา่ ตวั ตาย  แล้วไม่ตายแล้วก็มา พอมาหลังจากน้ัน ส่วนมากคือหลุดพ้นจาก  เรื่องน้ันไป หรือแม้แต่คนท่ีกำ� ลังจะตาย แล้วโทรศัพท์เข้ามาพูดคุย  กบั เขาทางโทรศพั ทแ์ ลว้ เขากต็ ายอยา่ งสงบ คอื  กำ� ลงั จะตายอยา่ งสงบ  แตก่ พ็ ดู จนเขาเขา้ ใจ แลว้ กห็ ลบั ตาแลว้ ตายไปดว้ ยรอยยม้ิ  เพราะฉะนนั้   มีทุกอย่าง ธรรมะน.่ี ..หนทางแหง่ การพน้ ทกุ ขค์ อื หนทางแหง่ การพน้ ทกุ ข์  จรงิ ๆ คนทเ่ี ขา้ มาเขาจะไดอ้ ยา่ งทตี่ อ้ งการจรงิ ๆ คนทต่ี อ้ งการพน้   ทุกข์ ธรรมดากไ็ ม่มปี ัญหา ต้องการมคี วามสุขกไ็ ด้จากตรงนี้ แตถ่ า้ มองไปไกลกวา่ นนั้ อยา่ งคอรส์ เขม้  ทกุ คนจะปฏบิ ตั ภิ าวนา  ตลอดเวลาดว้ ยตนเอง ไมต่ อ้ งมใี ครไปควบคมุ อะไร เพราะนคี่ อื สงิ่ ท่ ี เขาตอ้ งการ และเปน็ คนรนุ่ ใหม ่ สาวๆ คนทำ� งานออฟฟศิ  จะบอกวา่   บางคนเป็นเศรษฐีก็ยังได้ อยู่กรุงเทพฯ แต่ละคนก็ใช้รถพวกบูชา  ดวงดาวเปน็ สรณะ (รถเบนซ์) กันทัง้ น้ัน แตพ่ อมาอยูต่ รงน้ที กุ คนก ็ สลดั คราบพวกนนั้ ออกหมด สง่ิ เหลา่ นนั้ กม็ แี คไ่ วใ้ ช ้ เขามเี งนิ เขากใ็ ช้  แตจ่ ะใชอ้ ยา่ งไรใหไ้ มย่ ดึ ถอื ไมย่ ดึ ตดิ  เขากเ็ ขา้ ใจ มาอยตู่ รงน ้ี มานอน 

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 109 เตน็ ท ์ มาใชช้ วี ติ ทถ่ี กู ตอ้ ง มาฟงั ค�ำสอนทถี่ กู ตอ้ ง มาปฏบิ ตั ทิ ถ่ี กู ตอ้ ง ความทกุ ขห์ ลากหลายครบั  หลากหลายมาก บางคนไมท่ กุ ขเ์ ลย  แต่ต้องการหนทางแห่งการพ้นทุกข์ คือ หลุดพ้นไปเลย บางคนมี  เงนิ ทอง มที รพั ย ์ ไมม่ ลี กู  มสี ามที ร่ี กั  บางคนมคี รอบครวั ทน่ี า่ รกั มาก  ทุกอย่างพร้อมสรรพ ไม่มีความทุกข์เลย แต่ทุกคนเข้าปฏิบัติอย่าง  เตม็ ตวั  คอื  มงุ่ พน้ ทกุ ขก์ นั เลย วนั นแี้ นวโนม้ ของคนรนุ่ ใหม ่ พอเขา้ ใจ  ธรรมะแลว้ มาแบบนท้ี งั้ นนั้ เลย บางคนถงึ ขนาดลาออกจากงานแลว้   .ก็ปฏิบัติเลย  คนที่ชีวิตวุ่นวาย มีหลักธรรมหรอื แนวคดิ อะไร ขอคดิ กอ่ นนะวา่ คนอา่ นกายใจเขาจะทกุ ขอ์ ะไร...ผมวา่ เราสะกดิ ใจ  อะไรบางอยา่ ง เชน่  ความทกุ ขท์ เี่ กดิ กบั เราทกุ วนั แลว้ เราไมเ่ หน็ เลย  อยา่ งเชน่ รถตดิ ไฟแดง ทกุ คนกห็ งดุ หงดิ  กลวั จะไปทำ� งานไมท่ นั อะไร  ก็แล้วแต่ ในทุกไฟแดงจะมีตัวเลขถอยหลังกลับ ตีว่า ๖๐ ก็แล้วกัน  ๕๙, ๕๘ ไปเรอ่ื ยๆ แตส่ งั เกตไหมวา่ คนในรถจะทกุ ข ์ ยงิ่ รบี มากกย็ ง่ิ   ทกุ ขม์ าก แตค่ วามทกุ ขข์ องเขาไมไ่ ดเ้ ปลย่ี นไฟแดงใหเ้ ปน็ ไฟเขยี วเรว็   ขน้ึ  แตก่ น็ า่ แปลกทที่ กุ คนยงั ทกุ ขอ์ ยกู่ บั สง่ิ เหลา่ น ้ี แลว้ เราจะมาบอก  “ฉนั ไมอ่ ยากทกุ ขเ์ ลย” แลว้ คณุ จะทกุ ขท์ ำ� ไมในเมอ่ื ไฟไมไ่ ดเ้ ปลยี่ นเรว็  

110 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ ขึ้น ไฟแดงไมไ่ ดเ้ ปล่ยี นเร็วขึน้ ตามความอยากหรอื ไม่อยากของใคร ถ้าวันนี้เราเร่ิมเข้าใจจากสิ่งนี้ เราจะเริ่มเข้าใจไปถึงหลายๆ  อยา่ งวา่  โลกทกุ วนั นเ้ี ราทกุ ขฟ์ รๆี  ไปมากมายมหาศาล ทำ� ไมทกุ ขแ์ คน่ ี้  เรายงั จดั การไมไ่ ด ้ แลว้ นบั ประสาอะไรกบั ทกุ ขใ์ หญๆ่  ทมี่ นั เลยไปจน  ไฟลกุ เหมอื นกบั ไฟฟแู่ รกบนไมข้ ดี  เราไมเ่ ปา่  พอมนั ลกุ ทง้ั หลงั เราเอา  นำ้� แกว้ หนง่ึ ทเี่ รามอี ยไู่ ปราด มนั ดบั ไมไ่ ดแ้ ลว้  วนั นเี้ ราจะอยา่ งไรถงึ   จะรวู้ า่ มนั เรม่ิ ตน้ ตงั้ แตเ่ มอ่ื ไร วนั นเี้ รากลบั ไมร่ เู้ ลยวา่ ความทกุ ขเ์ รม่ิ ตน้   ตง้ั แต่เมอื่ ไร เพราะอะไรรไู้ หมครบั ... ...หากนเี่ ปน็ แกว้ นำ�้ รอ้ น (หยบิ แกว้ มาหนงึ่ ใบ) แลว้ นเ่ี ปน็ แกว้ นำ�้   ธรรมดา (หยบิ แกว้ มาอกี หนงึ่ ใบ) ผมใหผ้ ปู้ ฏบิ ตั เิ อานวิ้ จมุ่ ลงไปในน�้ำ  ธรรมดา ผมถามวา่ รสู้ กึ อยา่ งไร กจ็ ะตอบวา่ เฉยๆ หลงั จากนนั้ ผมให ้ เขาจมุ่ ไปในนำ�้ อนุ่ เกอื บรอ้ น พอเขาจมุ่ ลงไปปบ๊ั  เขาจะบอกวา่ รอ้ นนะ  เขาก็จุ่มไปสักพักหนึ่ง ผมก็ชวนคุยไปเรื่อยๆ ผ่านไปสักสิบนาทีผม  ถามวา่ ตอนนรี้ สู้ กึ อยา่ งไร เขาตอบวา่ เฉยๆ ตอนแรกเขาบอกวา่ รอ้ น  แตย่ งิ่ เวลานานไปมนั กลายเปน็ เฉยๆ ผมใหอ้ กี คนหนง่ึ มาจมุ่ นำ้� ทเ่ี ขา  บอกว่าเฉยๆ ปรากฏว่าโอ้โห ร้อนจีเ๋ ลย ทำ� ไมคนแรกบอกเฉยๆ ทง้ั   ทรี่ อ้ นจะตาย เพราะวนั นที้ กุ คนชนิ กบั ความทกุ ข ์ จนไมร่ แู้ ลว้ วา่ อะไร

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 111 คอื ทกุ ข ์ ปญั หาทว่ี า่ ทำ� ไมเวลาเราโกรธเรามคี วามทกุ ขถ์ งึ ไมม่ สี ตริ สู้ กึ   ตัวกันเลย เพราะเราชนิ ไปกับมนั การทพี่ วกเขามาเดนิ จงกรม นง่ั สมาธ ิ เขากำ� ลงั จะเปลย่ี นจาก  นำ้� รอ้ นมาเปน็ นำ้� อณุ หภมู ปิ กต ิ แลว้ เชอ่ื ไหมวา่ วนั แรกทกุ คนทป่ี ฏบิ ตั  ิ จะอึดอัด แล้วจะหงุดหงิดมาก ในช่วงท่ีคนจุ่มน้�ำร้อนแล้วมาจุ่มน�้ำ  ธรรมดา ผมให้เขาลอง ทุกคนบอก เย็นเกินไปอาจารย์ กลายเป็น  เย็นเกินไป มานั่งสงบๆ เราไม่ได้ให้ท�ำอะไร นั่งเฉยๆ มีคนเอาข้าว  มาเลี้ยงทุกวัน ไม่ต้องท�ำมาหากิน น่ังเฉยๆ คุณกลับนั่งไม่ได้ คุณ  กลบั มคี วามทกุ ขก์ บั การนงั่ เฉยๆ นเ่ี ปน็ สญั ญาณเตอื นภยั แลว้ วา่ ตอนน้ ี คณุ มปี ญั หาแล้วนะ ท�ำไมการอยเู่ ฉยๆ เงียบๆ มันถงึ กลายเปน็ ทุกข ์ แตเ่ มอื่ เขาอยผู่ า่ นไปวนั ทสี่ ามวนั ทสี่  ี่ เขาจะเรมิ่ ชนิ กบั ความปกต ิ แลว้   เมอ่ื เขากลบั ไปในโลกอกี ครง้ั หนงึ่  เขาโดนนำ้� อนุ่ ๆ เขาจะรวู้ า่ นำ�้ นอ่ี นุ่   .แตว่ ันนเี้ ขาไม่รวู้ ่านำ้� อุ่นดว้ ยซำ้� เพราะเขาอย่ใู นน�ำ้ รอ้ น  ทำ� ไมคนรุ่นใหม่ถงึ เดนิ มาหาอาจารย์ เมอื่ กอ่ นศาสนาเปน็ ฝา่ ยตง้ั รบั  อยใู่ นพน้ื ท ี่ อยใู่ นวดั  อยใู่ นศนู ย ์ ปฏบิ ตั  ิ แลว้ มคี นสนใจเขา้ มาสกู่ ารปฏบิ ตั  ิ ไมย่ ากหรอกถา้ อยา่ งน ี้ ผม  ไดร้ บั เชญิ ออกไปใหบ้ รรยายในหนว่ ยงานทมี่ คี นไมส่ นใจศาสนา ตอ้ ง 

112 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ พูดให้พวกเขาฟัง ต้องเข้าไปในองค์กรท่ีเขาไม่สนใจเลย แต่เปลี่ยน  ความไม่สนใจใน ๑๕ นาที แล้วกลายเป็นน่ังตั้งตาดูจนกระท่ังจบ  หรอื แมแ้ ตห่ นว่ ยงานตอนนที้ ผ่ี บู้ รหิ ารหรอื เจา้ ขององคก์ รตอ้ งการให้  พนกั งานเปน็ คนดี เรากร็ ุกเขา้ ไป ธรรมะในวันน้ีต้องรุกเข้าไปหา เพราะคนไม่รู้สึก คนไม่เห็น  ความส�ำคัญมีมาก ก็เหมือนคนที่เข้ามาในศูนย์ปฏิบัติธรรม ไม่ได ้ ทำ� บาปทำ� ชว่ั อยแู่ ลว้  เขาเดนิ เขา้ มาเอง แตค่ นทำ� บาปทำ� ชว่ั อยขู่ า้ งนอก  ถา้ จะชว่ ยตอ้ งออกไปชว่ ยคนขา้ งนอก เพอ่ื เปลยี่ นใหเ้ ขาเปน็ คนดขี น้ึ   .มาบา้ ง แล้วสงั คมจะสงบเยน็ มากขน้ึ  ทีว่ า่ ต้องรุกไป รกุ อย่างมเี ทคนิคหรอื ตอ้ งมคี รบั  เพราะเรามเี วลาสน้ั มากทจ่ี ะสอ่ื สารกบั เขา สว่ นมาก  ทกุ องคก์ รจดั บรรยายในองคก์ รมเี วลาเตม็ ทแี่ คส่ องสามชวั่ โมง นอกจาก  องค์กรที่สนใจจริงๆ จัดท้ังวัน แต่ส่วนมากแค่สองช่ัวโมง ในเวลา  สองชว่ั โมงจะทำ� อยา่ งไรใหค้ นเขา้ ใจวา่  “เออจรงิ นะ...ใช”่  ตอ้ งจใ้ี หเ้ ขา  เหน็ จรงิ ๆ วา่ เกดิ ทตี่ วั เขาจรงิ ๆ ทกุ คนอยากรเู้ หมอื นกนั วา่ จรงิ ๆ คอื   อะไร

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 113 ซงึ่ วธิ ขี องเรา ถงึ เราจะใชส้ อื่ ตา่ งๆ มากมาย แตไ่ มเ่ คยออกหา่ ง  จากพุทธพจน์ แล้วเข้ามาหาสื่อเพ่ือให้คนเข้าใจ แต่ค�ำสอนแท้ๆ  .ยังอยู่  สถานทม่ี ผี ลต่อการปฏิบัติธรรมหรอื ไม่ สถานท่ีมีผลแน่นอนครับ เพราะผู้คนทั่วไปในปัจจุบันเนี่ย คน  รุ่นใหม่อยู่กับความสะดวกสบาย มีชีวิตความเป็นอยู่ท่ีมีมาตรฐาน  คอ่ นขา้ งสงู มาก ทนี ศ้ี นู ยป์ ฏบิ ตั ธิ รรม ถา้ ไมเ่ ขา้ ไปใกลเ้ คยี งกบั ชวี ติ เขา  บา้ ง พดู งา่ ยๆ เหมอื นสมยั กอ่ นเราไปวดั ปา่  แลว้ ความเปน็ อยอู่ ยา่ งท ่ี เราเขา้ ใจ คนรนุ่ ใหมจ่ ะเขา้ ยากมาก เพราะ หนงึ่  พอยงั ไมเ่ หน็ ความ  ส�ำคัญก็รู้สึกว่าล�ำบาก แต่ถ้าสถานท่ีพอจะรับได้ เข้ามาก่อนแล้ว  ได้ยิน ได้เห็นประโยชน์ วันข้างหน้าจะไปกางเต็นท์ หรือไปนอนป่า  ไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะเห็นประโยชน์แล้ว...พอเข้าใจ อยู่ท่ีที่มีความสุข  .ทำ� ไมจะไม่สขุ  ต่อใหอ้ ยใู่ นทท่ี ่ีไม่สขุ กย็ ังสขุ ได้  ท�ำไมยคุ น้ีตอ้ งใชเ้ ทคนิคมากมาย สาวกในวนั นกี้ บั สาวกในสมยั พทุ ธกาลมคี วามยากตา่ งกนั  สาวก  ในสมยั พทุ ธกาลยากตรงทที่ กุ คนไมร่ จู้ กั พทุ ธศาสนาเลย และมคี ำ� สอน  ลัทธิต่างๆ เยอะแยะ การท่ีสาวกออกไปประกาศพระศาสนาเพ่ือ 

114 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ เข้าใจหนทางแห่งการพ้นทุกข์ ยากตรงน้ี ที่ต้องเริ่มตั้งแต่ศูนย์ แต ่ ทกุ คนมที กุ ขเ์ ปน็ พน้ื ฐานแลว้ ตอ้ งการหาหนทางแหง่ การพน้ ทกุ ข ์ จงึ   จูนหากนั ไม่ยาก ความตา่ งกนั  ๒,๖๐๐ ป ี สาวกทเี่ ดนิ ประกาศธรรม มแี ตค่ นเขา้ ใจ  พุทธศาสนาอยู่แล้วในประเทศไทย ความล�ำบากตรงนั้นไม่มีเลย  ทกุ คนตดิ คกุ อย ู่ แตพ่ ระพทุ ธเจา้ มาเปดิ ประตคู กุ  แต ่ ๒,๖๐๐ ปใี หห้ ลงั   คนในคุกไม่มีใครเดินออก เพราะคุกถูกตกแต่งด้วยจอแอลซีดี คุกมี  ที่นอนดีๆ มีเคร่ืองท�ำน�้ำอุ่น มีเครื่องอ�ำนวยความสะดวก มีความ  บันเทิงทุกอยา่ งอย่ใู นคุก นักโทษไม่รูส้ กึ อะไรเลยตอนน้ี เราจะหาหนทางแห่งการพ้นทุกข์ ต้องมานั่งอธิบายว่าคุณทุกข ์ อยา่ งไร คนกน็ งั่ งงวา่ มนั ทกุ ขต์ รงไหน ท�ำไมตอ้ งออก ทนี เี้ หนอ่ื ยเลย  สาวกเหนื่อยตรงนี้แหละ สาวกจะไม่สนใจก็ได้นะ แล้วปล่อยให้เขา  ตดิ ไปเถอะ แตน่ า่ แปลกทวี่ นั นส้ี าวกกย็ งั ท�ำหนา้ ทกี่ นั อยา่ งสดุ เหวยี่ ง วนั นที้ ำ� ไมคณุ ยงั พอจะรสู้ กึ เฉยๆ อย ู่ รไู้ หมครบั  เพราะทกุ อยา่ ง  มันยังพอจะได้ดั่งใจ ลองทุกอย่างเปล่ียนไปสิ มีแฟนสักคนแล้วจู่ๆ  แฟนไปมีกิ๊ก ดูซิว่าจะยังสุขอยู่ไหม ทุกคนชอบดูหนังเวลามันหักมุม 

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 115 แต่ไม่ชอบเลยเวลาชีวิตหักมุม พอถึงตอนน้ันจะวิ่งหาเลยว่าจะท�ำ  อยา่ งไรด ี ถงึ ตอนนนั้ จะเปน็ ทางของสาวกบา้ งละ่  เขาจะวงิ่ มาหาเอง วันน้ีประตูคุกเปิดอยู่ แต่ไม่มีคนออก แล้ววันหนึ่งท่ีค�ำสอน  ของพทุ ธศาสนาคอ่ ยๆ หายไป พ.ศ. ในปฏทิ นิ จะหายไป แลว้ วนั นน้ั   ประตูคุกจะปิดถาวร ต่อให้อยากออกก็ออกไม่ได้แล้ว วันน้ันคือ  .ความนา่ กลวั  ส�ำหรบั คนท่ีไม่เคยปฏิบัติ จะมีวิธชี วนอย่างไร น่ีเป็นเรื่องยากของทุกคนครับ ผมบอกง่ายๆ เลยว่า วิธีการที ่ เกิดขึ้นง่ายๆ กับทุกคนเพราะคุณเปล่ียน ถ้าคุณมาปฏิบัติธรรมแล้ว  คณุ เปลยี่ นไปในทางทดี่ ขี น้ึ  จะมคี นมาสนใจเขา้ มาปฏบิ ตั ธิ รรม แตถ่ า้   เขาไมม่ า จะมคี ำ� ๆ หนง่ึ ทพ่ี ดู กนั  “ถา้ ปฏบิ ตั แิ ลว้ เปน็ อยา่ งคนนน้ี ะ่ เหรอ...  ฉนั ไมไ่ ป” ทกุ คนทป่ี ฏบิ ตั คิ อื คนทจ่ี ะออกไปประกาศศาสนา ถา้ คณุ ไม่  เปลยี่ นอะไรเลย แมแ้ ตค่ นรอบขา้ งยงั ดไู มอ่ อกเลย คณุ ท�ำลายศาสนา  .ด้วยซำ้�  แตส่ มัยนี้คนสนใจปฏิบัตธิ รรมมากขน้ึ เยอะมากขน้ึ ครบั  ถา้ มองจากเทรนด ์ เยอะมากขน้ึ  จะดว้ ยความ 

116 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ ทุกข์ท่ีมากข้ึน ความเข้าใจที่มากข้ึน สถานปฏิบัติธรรมดีๆ ต่อให้  คนไม่สนใจธรรมะ บางคนอยากมาพักผ่อน แต่พอมาแล้วได้ไปด้วย  พอไดไ้ ปดว้ ยกเ็ ลยเขา้ มาเลย เดก็ จะอยากอาบนำ�้ หรอื ไมอ่ ยากอาบนำ�้   ถา้ เขา้ ไปหอ้ งนำ�้ แลว้ โดนถสู บ ู่ ยงั ไงกส็ ะอาด...จะอยากมา ไมอ่ ยากมา  เข้ามาพอ จบก็ใจสะอาดแล้ว ................. หลังบทสนทนา (ทั้งทางธรรมและทางโลก) จบลง แม้ไม่ได ้ ต้ังใจฟังธรรม ไม่ได้คิดว่าต้องยกระดับจิตใจ ทว่ารู้ตัวอีกทีจิตใจ  กส็ ะอาดไปเปราะหนึ่งแล้ว ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๖

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 117 ๒๑ กระแสโลก มนั แรง คนท่ีมาเข้าคอร์สปฏิบัติ เวลากลับออกไป ก็มักจะมาเล่าให้ฟัง  เสมอๆ วา่  กระแสขา้ งนอกมันแรงจริงๆ เราพลาดอะไรไปบางอยา่ งรเึ ปลา่  ตอนทม่ี าฝกึ อยใู่ นคอรส์ นนั้   แนน่ อนการกระทบตา่ งๆ มนั นอ้ ยกจ็ รงิ  แตว่ า่ เราฝกึ ทจี่ ะไมล่ งไปเปน็   ผู้กระทบหรือเป็นเจ้าของการกระทบ น่ันจึงทำ� ให้เรารู้สึกเบาและ  สบาย

118 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ ยกตวั อยา่ งเชน่  เราไปเลน่ นำ้� ตก นำ้� ตกมที ง้ั ชว่ งทไี่ หลแรง มที ง้ั   ช่วงที่ไหลเบา หากมีคนลงไปเล่นน�้ำตกในช่วงท่ีน�้ำตกไหลแรง เขา  จะต้องต้านน้�ำตกนั้นอย่างมาก น่ันคือเขาต้องใช้พลังงานในการ  ยืนอยู่เพื่อรักษาเสถียรภาพไม่ให้ล้ม นั่นทุกข์มาก เม่ือเขาอยู่ใน  บริเวณที่น�้ำไหลเอ่ือยๆ เขาท�ำแบบเดียวกันแต่เผอิญว่าน�้ำมันไหล  ไม่แรง เขาจงึ รูส้ ึกว่ายืนไดไ้ มย่ ากนกั  นป่ี ระเภทปุถชุ นผูม้ ิไดส้ ดับ นกั ปฏบิ ตั ติ อ้ งยง่ิ ขนึ้ ไปกวา่ น ้ี ถา้ แบบทกี่ ลา่ วมานถ้ี อื วา่ ไมก่ า้ วหนา้   เลย หมายถงึ อยา่ งไร หากเราเอาตวั ตา้ นน้�ำตกกจ็ ะอยภู่ ายใตก้ ระแส  ที่เปลี่ยนไปมาตามเหตุปัจจัยของมัน เราก็ยังคงทุกข์อยู่น่ันล่ะ ใน  เบอื้ งตน้  เมอ่ื เกดิ สมั มาทฏิ ฐ ิ จะมธี รรมชาตหิ นง่ึ ทอ่ี ยใู่ นนำ้� เปน็ ไปตาม  เหตุตามปัจจัยคืออยู่กับวิบากของเขา อีกธรรมชาติหนึ่งอยู่บนฝั่งดู  ธรรมชาตนิ นั้  แตไ่ มท่ กุ ขก์ บั สง่ิ ทเ่ี กดิ ขนึ้ กบั การปะทะ การกระทบ (น่ ี เบอื้ งตน้ แนห่ รอื ?) อยา่ งนเี้ รยี กวา่  ผตู้ กอยใู่ นกระแส แตไ่ มใ่ ชก่ ระแสนำ้�   ทเี่ รากำ� ลงั พดู ถงึ นนี่ ะ หมายถงึ กระแสแหง่ พระนพิ พาน แคน่ ค้ี วามทกุ ข ์ กบั คนท่ีอยูใ่ นน้ำ� ไมม่ ีแล้วเขา้ ใจไหม ถ้าท�ำไปอย่างน้ีจะเห็นว่ามีคนอยู่ในนำ้� หนึ่ง มีคนอยู่บนบกเพื่อ  เฝา้ ดคู นอยใู่ นนำ�้ อกี หนง่ึ  แรกๆ กด็ เู หมอื นจะไมท่ กุ ขไ์ มร่ อ้ นกบั คนท ี่

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 119 อยู่ในนำ้� แล้ว แต่เช่ือไหมเมื่อยังเฝ้าดูมันก็ทุกข์กับการเฝ้าดู เท่ียวไป  รเู้ รอ่ื งคนทเี่ ราเฝา้ ด ู (คนขา้ งบา้ น...รจู้ กั รยึ งั ) คนทอ่ี ยใู่ นนำ้� จะเปน็ ยงั ไง  ก็เร่ืองของวิบาก ผู้เฝ้าดูอยู่บนฝั่งตัดใจที่จะไม่ผูกพันด้วยอีกต่อไป  ตดั ใจลกุ ขนึ้ ทง้ิ ทกุ อยา่ งทเ่ี คยรว่ มทกุ ขร์ ว่ มทกุ ขก์ นั มา (เขยี นถกู ..ไมผ่ ดิ   หรอก) ไม่มีคนข้างบ้าน เพราะไม่มีใครไปอยู่ข้างบ้านคนท่ีเราเคย  เฝา้ ดู หมดท่ีตง้ั ของความทุกข์ หมดเรอ่ื งกนั ...หมดเหตุเกดิ ทำ� อยา่ งน ี้ อยทู่ ไี่ หนๆ บนโลกกท็ ำ� ได ้ อยใู่ นเพศไหนๆ กท็ ำ� ได้  ขอใหเ้ จรญิ มรรคให้มากๆ ความสงบเย็นจักเกิดมใี นทกุ คน ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๖

120 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ ๒๒ การเจริญสติ  ต่างจาก การเจรญิ มรรคอยา่ งไร สารีบุตร! ที่มักมีค�ำกล่าวกันว่า โสดาบัน โสดาบัน ดังน้ีเป็น  อยา่ งไรเล่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ท่านผู้ใดเป็นผู้ประกอบพร้อมแล้วด้วย  อรยิ มรรคมอี งค ์ ๘ นอ้ี ย ู่ ผเู้ ชน่ นน้ั แล ขา้ พระองคเ์ รยี กบคุ คลผนู้ นั้ วา่   พระโสดาบนั  ผมู้ ชี อ่ื อยา่ งนอ้ี ยา่ งน ้ี มโี คตรอยา่ งนอ้ี ยา่ งน ้ี พระเจา้ คะ่

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 121 สารบี ตุ ร! ถกู แลว้  ถกู แลว้  ผทู้ ป่ี ระกอบพรอ้ มแลว้ ดว้ ยอรยิ มรรค  มีองค์ ๘ น้ีอยู่ ถึงเราเองก็เรียกผู้เป็นเช่นน้ันว่าเป็น พระโสดาบัน  ผู้มีชื่ออย่างนอี้ ยา่ งน้ี มโี คตรอย่างน้อี ยา่ งน.้ี .. ทงั้ พระพทุ ธเจา้ และพระสารบี ตุ รไมไ่ ดก้ ลา่ วเลยวา่  ผทู้ เ่ี จรญิ สตอิ ย ู่ เอะอะนักปฏิบัติก็จะบอกว่า เจริญสติไว้ ฟังดูดีนะ แต่พูดผิดพูดใหม ่ ดีกว่า และจะพูดใหม่ตอ้ งท�ำความเขา้ ใจให้ถูกด้วย เพราะเราไม่รู้จัก มรรคมีองค์ ๘ วันน้ีจึงพูดตามๆ กันมาโดย  ไม่รู้เร่ือง เห็นวิทยากรตามคอร์สเขาพูดกัน เห็นนักปฏิบัติรุ่นก่อน  เขาพูดกัน ก็เลยสลี พพตุปาทานไปกับเขาด้วย กอ่ นทา่ นจะอา่ นตอ่ ไป ไปหาหนงั สอื สวดมนตแ์ ปล แลว้ ศกึ ษาวา่   บทสวด อริยมรรคมอี งค ์ ๘ คืออะไร หรอื เอางา่ ยๆ เลยหาหนังสอื   กลวั เกดิ  ไมก่ ลวั ตาย หรอื ไมก่ ก็ ารบรรยายตามคอรส์ ตา่ งๆ ทสี่ าธยาย  ถึงมรรคมาศึกษาดู ในไฟลเ์ สียงมีใหด้ าวนโ์ หลดอยู่ จากนี้ไปจะถือว่าท่านรู้มรรคมีองค์ ๘ แล้วว่ามรรคแต่ละองค ์ หมายถงึ อะไร 

122 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ เราจะลองมาดวู า่  เราวา่ เราปฏบิ ตั ธิ รรม แลว้ ใชค้ ำ� วา่  เจรญิ สต ิ มากนิ รวบทกุ อยา่ งมนั พลาดตรงไหน ทำ� ไมพระพทุ ธเจา้ ใชค้ ำ� วา่  เจรญิ   มรรค ทา่ นไมไ่ ดใ้ ชค้ ำ� ว่า เจริญสติ • เวลาโกรธ คนทวั่ ไปบอกวา่  มสี ตริ ไู้ ว ้ คอื ใหเ้ ขา้ ไปรโู้ กรธเอาไว้  (คงคิดเอาเองว่าจะได้เห็นการเกิดดับของโกรธ) แต่การเจริญมรรค  คอื  ใชม้ รรคขอ้ ท ี่ ๖ สมั มาวายาโม ความเพยี รชอบ ใหเ้ พยี รละอกศุ ล  ผิดกันแล้วนะ หากท่านเถียงในใจว่า ก็จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน  ก็พูดไว้ชัดเจนว่า ให้รู้ชัดว่า จิตมีโทสะ จิตไม่มีโทสะ แล้วจะผิดได้  อยา่ งไร? เอาละ่  พดู เอง ยอ้ นกลบั ไปอา่ นอกี ครงั้ หนงึ่  ทเ่ี ราเขา้ ไปนนั้   เอาใหแ้ นว่ า่  เหน็ วา่ จติ มโี ทสะหรอื เรามโี ทสะ และทสี่ ำ� คญั คอื  ถา้ เหน็ วา่   จติ มโี ทสะ นนั่ ไมม่ เี ราเขา้ ไปปนในผดู้  ู และผถู้ กู ดกู ไ็ มเ่ ปน็ ของเราดว้ ย  เชน่ กนั  สภาพนนั้ จติ ตอ้ งตงั้ มนั่ มาก เพราะจติ ไมต่ งั้ มน่ั จากการเจรญิ   มรรค การดกู ารรู้จงึ หลงทั้งหมด เมอ่ื หลงจะเกิดเป็นภพ ชาติ ชรา  มรณะ ตอ่ ไปเร่ือยๆ • เวลาเล่นเกม ติดเกม คนท่ัวไปบอกว่าให้มีสติตามรู้ไว้ แต ่ การเจริญมรรค ใช้มรรคองค์ที่๒ สัมมาสังกัปโป การด�ำริชอบ  เพราะเหน็ วา่ นที้ กุ ข ์ นเ้ี หตใุ หเ้ กดิ ทกุ ข ์ จงึ ด�ำรทิ จ่ี ะเนกขมั มะออกจาก 

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 123 กาม คือวางสิ่งนั้นลง หรือถอนฉันทราคะในส่ิงน้ันๆ คือถอนความ  พอใจเมอ่ื เหน็ โทษภยั ของมนั  ตกลง “ละ” หรอื  “ร”ู้  ฟองกา๊ ซไขเ่ นา่   เกิดเป็นกล่ินเหม็นจากน�้ำในบ่อท่ีเน่า จะนั่งดูฟองก๊าซหรือ ถ้าท�ำ  อย่างน้ันเมื่อไหร่ฟองก๊าซไข่เน่าถึงจะหมดไป ไม่มีวันซะล่ะ ถ้าไม่ จัดการกับสภาพบ่อ การจัดการสภาพบ่อต้องใช้มรรคตั้งแต่องค์ท ่ี ๑-๖ • เวลาไปกินอาหารที่เขาจัดไว้อย่างดี เขาว่าให้เจริญสติไว้  อนั นีใ้ ช่ การเจริญสติและการเจรญิ มรรค เหมือนกนั ในข้อน ี้ เพราะ  อาหารอยา่ งไรกต็ อ้ งกนิ  จงึ ตอ้ งกนิ อยา่ งมปี ญั ญา จะมปี ญั ญากอ็ าศยั   สมาธไิ ปละราคะกอ่ น เพราะการเจรญิ สตนิ นั้  พระองคบ์ อกไวแ้ ลว้ วา่   “มีความเพียรเคร่ืองเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจ  และความไม่พอใจในโลกออกเสียได้” ดังน้ันตรงน้ีเหมือนกัน เม่ือ  เจรญิ สตจิ ะเหน็ วา่  เวทนาความสขุ จากความพอใจหรอื ความไมพ่ อใจ  ในรสชาต ิ จะเหน็ เปน็ เพยี งสง่ิ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ดบั ไป ไมม่ อี ะไรใหย้ ดึ ถอื  หรอื   แมว้ า่ จะมองในมมุ ของอายตนะ ลนิ้ หรอื รส กเ็ ชน่ กนั ลว้ นเกดิ ขน้ึ ดบั   ไป ตรงนี้คำ� วา่ เจรญิ มรรค คือการเจรญิ สติ

124 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ • มคี วามหลงใหลในเพศตรงขา้ ม บางคนทนไมไ่ หวอยากไป  เท่ียวสถานเริงรมย์ เช่น อาบอบนวด เมื่อถามนักปฏิบัติก็ตอบว่า  เจรญิ สตไิ ว้?? ส่วนการเจริญมรรคน้ัน จากการเนกขัมมะในมรรค  องค์ท่ี ๒ แล้ว ในมรรคองค์ที่ ๒ ยังกล่าวถึงการไม่มุ่งร้าย การไม่  เบยี ดเบยี นอกี  ซง่ึ นนั่ น�ำไปสมู่ รรคองคท์  ี่ ๔ สมั มากมั มนั โต เปน็ ศลี   ในข้อ ๑, ๒, ๓ ซึ่งหากเรามคี อู่ ยแู่ ล้ว นจี่ ะเป็นการทำ� รา้ ยจิตใจของ  คขู่ องเราหรอื อาจจะไปทำ� รา้ ยคขู่ องคนอน่ื หรอื ไปทำ� รา้ ยจติ ใจพอ่ แม่  ของเขาอีก ตกลงจะเอาแค่รู้กิริยาอาการเคล่ือนไหวในขณะก�ำลัง  สมสู่อย่างนั้นหรอื  ทวี่ ่าใหเ้ จรญิ สต ิ มนั ทะแมง่ ๆ นะ แล้วมวี ทิ ยากร  ตอบอยา่ งนี้จริงๆ นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องการจะส่ือให้นักปฏิบัต ิ ได้เข้าใจ เพราะการเจริญสติเป็นส่วนหน่ึงของการเจริญมรรค  เท่าน้ันเองไม่ใช่ทุกอย่างๆ จะเจริญสติกันอยู่เรื่อย จนมีคนเขาพูด  ท�ำนองแซวๆ ว่า ขโมยก็มีสติ คนก�ำลังด่าคนอื่นอยู่ ก็ว่าตัวเอง  มสี ต ิ เราเอาสตมิ าใชก้ นั จนเฝอื  โดยไมด่ เู ลยวา่  สตทิ ใี่ ชใ้ นกายานปุ สั ส-  นาสติปัฏฐานน้ัน มีไว้ให้เห็นว่า กายน้ีไม่ใช่ตัวตน บุคคล เรา เขา  เลน่ โยคะกว็ า่ ฝกึ กายาฯ มนั เลยเลอะเทอะไปกนั ใหญ ่ กำ� ลงั เอาคตั เตอร ์ ไปตัดต้นมะพร้าวกนั แล้ว

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 125 วันน้ีถึงเวลาแล้วท่ีเราควรท�ำการศึกษาและเจริญมรรค หลาย  ทา่ นมงุ่ มนั่ ปรารถนาในหนทางแหง่ การพน้ ทกุ ข ์ ไมอ่ ยากใหเ้ สยี เวลา  สะเปะสะปะ ปฏบิ ตั อิ ยา่ งมปี ญั ญา หนทางแหง่ การพน้ ทกุ ขอ์ ยทู่ กี่ าย  ยาววาหนาคบื นเ้ี อง ไมไ่ ดอ้ ยทู่ ค่ี รบู าอาจารยอ์ งคไ์ หน สว่ นของทา่ น  ก็เป็นของท่าน ส่วนท่ีเราน่ีล่ะท่ีต้องท�ำเอาเอง หนทางนั้นไม่ได้ไกล  อย่างกรุงเทพ-เชียงใหม่ แต่หนทางอยู่บนลู่วิ่งสายพาน ถึงไม่ถึงอยู่  ที่มีคนว่ิงไหม ถ้ายังมีคนวิ่งก็เหนื่อยแต่ย่ิงเหนื่อยก็ต้องวิ่งต่อไป  จนเขา้ ใจ เขา้ ถงึ  รแู้ จง้  สลดั คนื เมอื่ ไหร ่ เมอื่ นนั้ จะไมม่ ผี วู้ งิ่  จะเหลอื   แต่สังขารวิ่งไปชลอลง ชลอลงตามสภาพวิบากและอายุของเขา  จนเสอื่ มไป สลายตวั ออกจากลวู่ ง่ิ  สายพานของโลกยงั คงหมนุ ตอ่ ไป  เพราะยังมีผู้ว่ิง ว่ิงกันเต็มฟิตเนส แล้วต่างก็ตะโกนบอกกันทำ� นอง  เรยี กรอ้ งความเหน็ ใจวา่  เหนอ่ื ยจรงิ ๆ แตน่ า่ แปลกไมเ่ หน็ มใี ครคดิ จะ  หยุดว่ิง แถมยังดูเหมือนว่า ยิ่งวิ่งยิ่งมันส์ ...พวกปากกับใจไม่ตรง กนั ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๖

126 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ ๒๓ หน่วยศกึ ษา “ข”้ี  กบั  หนว่ ย “ทิ้งขี”้ วันนี้หากเราแบง่ นักปฏบิ ัติเป็น ๒ พวกใหญ่ๆ จะแบ่งได้เปน็ ๑. หน่วยศึกษาวิจัยข้ี ๒. หนว่ ยทง้ิ ข้ี หนว่ ยแรกไดย้ นิ มาแลว้ วา่  “ข”ี้  มนั ไมด่  ี แตม่ นั อดไมไ่ ดอ้ ยากร ู้ อยากเหน็  พวกนมี้ กั จะบอกวา่ ตวั เองมปี ญั ญา ตอ้ งรใู้ หไ้ ดว้ า่  “ข”้ี  มนั มี 

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 127 ส่วนผสมอะไรถึงได้เหม็นและสกปรก มีแบคทีเรียกี่ชนิด เป็นชนิด  ทมี่ พี ษิ รา้ ยอยา่ งไรบา้ ง เมอ่ื วเิ คราะหด์ ว้ ยเหตแุ ละผล จนแจม่ แจง้ แลว้   จงึ คดิ ไดว้ า่  ไฉนเลยเราจะมาเสยี เวลาดขู ดี้ มขอี้ ยทู �ำไม เราทง้ิ มนั เสยี   ดีกว่า หนว่ ยทสี่ อง ไดย้ นิ มาเหมอื นกนั วา่ ขไ้ี มด่  ี ทกุ ครงั้ ทม่ี ขี ก้ี ระเดน็   มาโดนกจ็ ะรบี ลา้ งออก ทกุ ครง้ั ทเี่ ขา้ ไปพบไปเจอ กจ็ ะรบี ทงิ้  รบี ออก  หา่ ง ประเภทนไี้ มเ่ ลน่ ข ้ี ไมเ่ อาข ี้ ฝกึ ทจี่ ะทำ� ความรจู้ กั วา่ อะไรคอื  “ข”้ี   แล้วทิ้งทันที พวกน้ี มือไม่เปื้อนข้ี ไม่เหม็นขี้ หน่วยนี้ไม่ต้องรอทิ้ง  “ข”ี้  เพราะทง้ิ มาตลอด ไมเ่ คยมานง่ั ดอมดม “ข”ี้  เพราะ “ข”้ี  นเ่ี ลน่ นานๆ จะเห็นดีเห็นงามพาลติด “ข้ี” ได้ง่ายๆ ชีสเน่าฝร่ัง (ก็ยัง)  ชอบ ปลาเน่า (ปลาร้า) คนไทย (ก)็  ชอบ ดูเผินๆ บุคคลากรใน ๒ หน่วยนี้ สุดท้ายไม่เอา “ขี้” ทั้งคู่ แต่  ระหว่างทางก่อนจะทิ้ง “ข้ี” นั้น จะต่างกันนะ หน่วยแรก วิจัยไป  วจิ ยั มา “ร”ู้  มาก เลยผกู พนั กบั  “ข”ี้  แตม่ นั ลกึ กวา่ นน้ั  ไมใ่ ชว่ า่ ไปผกู พนั   ทต่ี วั  “ข”ี้  หรอก แตด่ นั ไปผกู พนั กบั ความเกง่ กาจทไ่ี ป “รขู้ ”ี้  ไดต้ า่ งหาก  เลยกลายเป็น “กูรู้ข้ีได้เก่งกว่าใคร” ตรงน้ีเหน่ือยเลย “ข้ี” กองใหม่  ละเอยี ดกวา่ กองเดมิ อกี ทนี  ้ี มนั ทำ� ทา่ จะหอมหวลชวนดม เพราะชกั คนุ้

128 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ ส่วนพวกทิ้ง “ขี้” พอไม่มีข้ีก็สบาย ท�ำท่าจะไปติดสบายอีก แต ่ อันน้ีง่ายหน่อย เพราะทิ้ง “ข้ี” มาจนช�ำนาญ ท้ิง น้�ำตาล ก็ท้ิงมา  แลว้  ทงิ้ น้�ำเปลา่ มันจะยากอะไร แค่ของเกดิ ๆ ดับๆ ศึกษาค�ำจาก บรมครูให้ดีนะว่า ท่านสอนให้ท้ิง “ข้ี” หรือ “ให้  ดม “ขี้” ภพแคเ่ พยี งลดั นว้ิ มอื เดยี ว กน็ า่ รงั เกยี จ ดจุ มตู รคถู  : พทุ ธพจน์ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๖

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 129 ๒๔ ความห่วงใย ที่บ้านหลังหนึ่ง เนื่องจากความท่ีไม่ค่อยอยู่บ้านและบ้านก็ไม่มี  คนอยู่ จึงท�ำให้นกเขาน�ำเศษหญ้าเศษไม้มาสร้างรังอยู่ท่ีหน้าต่าง  ตรงบันไดข้นึ ชน้ั สอง ซ่งึ หนา้ ตา่ งอยตู่ ิดกบั ทางเดินทบ่ี ันได การเดินผ่านจะท�ำให้นกรู้สึกต่ืนเต้นตกใจด้วยสัญชาตญาณใน  การปกป้องของแม่ แม้นมันจะกลัวแต่ก็ไม่เคยท่ีจะบินหนี คนที่อยู่  บ้านหลังน้ันด้วยความสงสารและเห็นใจนกประกอบกับเป็นคนรัก  สตั ว์..

130 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ ก. พยายามสงั่ คนในบา้ นวา่ อยา่ ไปยงุ่ กบั มนั  ไปหากระดาษเพอื่   มาสรา้ งฉากบงั นกเพอ่ื ไมใ่ ห้เหน็ คนจะได้ไมต่ กใจกลวั ข. แสดงตัวว่าฉันรักและห่วงใยด้วยการเข้าไปเจ้ากี้เจ้าการ  จดั การดูแล หาอาหารไปให้มันไวใ้ กลๆ้ ค. เดินห่างๆ เบาๆ หลบๆ สายตา พยายามไม่เข้าไปยุ่งจนมัน วางใจวา่ เราไมเ่ ขา้ ไปยงุ่ กบั ชวี ติ มนั  เพอื่ ใหม้ นั ทำ� หนา้ ทแี่ มไ่ ป  แบบไว้วางใจ ทา่ นอยา่ เลอื กแบบทำ� ขอ้ สอบนะ เอาแบบทท่ี า่ นแสดงในชวี ติ จรงิ   ท่านท�ำแบบไหน? ท่านคิดว่าความรักท่ีแท้จริงในกรณีนี้น่าจะเป็น  อยา่ งไร? ตอ้ งทำ� ใหร้ วู้ า่ ฉนั รกั แกนะเจา้ นก แลว้ กท็ ำ� แบบขอ้  ก. และ ข. แต่หากเป็นข้อ ค. เขารักมันในแบบที่มันเป็น ให้เกียรติแบบ  ไม่ต้องการความรักตอบ รักแบบนกไม่รู้ด้วยซ้�ำว่ารัก ผู้น้ันมีแต่ให้  แบบไม่ตอ้ งให้ ไมห่ วังความรกั ตอบแทน

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 131 วันที่ลูกนกฟักไป ทั้งแม่และลูกก็บินจากไปอย่างอิสระ ส่วนข้อ  ก. และ ข. นน้ั จะทำ� ใหแ้ มน่ กผละรงั หนไี ปในทส่ี ดุ  นน่ั จะทำ� ใหล้ กู นก  ตอ้ งตาย และคนๆ นนั้ กไ็ ดแ้ ตพ่ ลา่ มปกปอ้ งตวั เองวา่ ฉนั ทำ� เพราะฉนั   เปน็ หว่ งมนั  ฉนั ทำ� ไปเพราะความหวงั ด ี แตท่ แี่ ทเ้ ปน็ เพยี งตอบสนอง  ตัณหาในใจของตนเองเทา่ นน้ั ๒ เมษายน ๒๕๕๖

132 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ ๒๕ ลูกของนักโทษ ลกู นกั โทษ เกดิ ในคกุ  ตนเองไมไ่ ดท้ �ำผดิ อะไร มสี ทิ ธเิ ขา้ ออกได้  แตด่ ว้ ยความทเ่ี กดิ มาแลว้ มสี ทิ ธนิ น้ั และกม็ ไิ ดเ้ หน็ คณุ คา่ ใดๆ ในสทิ ธ ิ นนั้  ทง้ั ๆ ทปี่ ระตคู กุ กเ็ ปดิ อา้ อย ู่ แตไ่ มเ่ คยคดิ จะออกไปทงั้ ๆ ทอี่ อกได้ จนเปลยี่ นพศั ดเี รอื นจำ� คนใหม ่ กฎระเบยี บใหมไ่ มอ่ นญุ าตใหใ้ ครๆ  เข้าออกคุกได้อีก ถึงเวลานั้นลูกนักโทษน้ันจึงร้องแรกแหกกระเชอ  อา้ งวา่ ตนเคยไดส้ ทิ ธนิ มี้ ากอ่ น ตอนนตี้ นตอ้ งการจะออกแลว้  ไมอ่ ยาก  อยใู่ นนี้แล้ว แต่ไดร้ บั ค�ำตอบว่า สทิ ธขิ องเจ้าหมดไปแลว้

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 133 หมดไปในวนั ท.ี่ ..ศาสนาในพระสมณโคดม สนิ้ สดุ ลง...เจา้ จะตอ้ ง  อยู่ในน้ีไปอีกชั่วกาลอันยาวนาน จนกว่าจะมีผู้มีบารมีมาเปิดประตู  ให้อีกครั้ง ตอนเจ้าได้สิทธิน้ันอยู่ แต่กลับไม่ใช้สิทธิในเวลาท่ียังมี  โอกาส แลว้ จะมารอ้ งขอความเหน็ ใจจากใคร..เจา้ คนเขลา....คนอยา่ ง  เจ้าสมควรอยใู่ นนี้ละ่ ๙ เมษายน ๒๕๕๖

134 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ ๒๖ แอร์  Inverter วนั นม้ี าชว่ ยเขาขายแอรห์ นอ่ ย ถา้ เราเหน็ โฆษณาทวี จี ะเหน็ วา่ แอร ์ รุ่นใหม่จะใช้ระบบ Inverter กันหมดแล้ว น่ันเพราะระบบ inverter  ช่วยประหยัดพลังงานได้มาก เพราะอะไร? ถ้าเราสังเกตแอร์ท่ีบ้าน เราจะพบว่าการท�ำงานของแอร์ท่ีเรา  คนุ้ เคยกค็ อื  เราตง้ั ความเยน็ ไวท้  ่ี ๒๕ องศา เมอ่ื แอรท์ ำ� งานมาจนถงึ  

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 135 อุณหภูมิท่ีตั้งไว้คอมเพรสเซอร์ (คือตัวที่อยู่ภายนอกบ้าน) จะหยุด  การทำ� งาน จนเมอื่ อณุ หภมู ใิ นหอ้ งสงู ขน้ึ จนถงึ  ๒๖ องศา คอมเพรส-  เซอร์ก็จะท�ำงานอีกคร้ัง แอร์บ้านท่านจึงท�ำงานแบบติดๆ ดับๆ  (หมายถงึ ตวั คอมเพรสเซอรน์ ะ แตพ่ ดั ลมภายในหอ้ งนนั่ ทำ� งานตลอด)  นี่เป็นสาเหตุให้กินไฟมากเพราะเม่ือหยุดสนิทแล้วสตาร์ทข้ึนมาใหม่  ไฟจึงกระชากและมีผลตามมาคือความเย็นในห้องเปลี่ยนแปลงขึ้นๆ ลงๆ ดว้ ย แลว้  Inverter ทำ� งานอยา่ งไร? Inverter ทำ� งานเหมอื นการปน่ั   จักรยาน คอมเพรสเซอร์จะสามารถเร่งรอบและชลอลงได้เหมือน  การถีบจักรยาน เม่ือตอนเร่ิมต้นออกตัวจะใช้แรงมากจนความเร็ว  เข้าใกล้ที่เราต้องการก็เร่ิมชลอลง จนถึงความเร็วที่ต้องการก็เพียง  เดนิ ชา้ ๆ หรอื หยดุ บา้ ง เมอื่ ความเรว็ จะลดลงกส็ ามารถถบี ใหม้ ากขน้ึ ได ้ จงึ เปน็ ระบบทย่ี ดื หยนุ่  นจ่ี งึ เปน็ สาเหตใุ หป้ ระหยดั ไฟ ไมต่ ดิ ๆ ดบั ๆ  ไฟไม่กระชาก ความเยน็ ภายในห้องจงึ สม่ำ� เสมอด้วย อย่าปฏิบัติแบบแอร์รุ่นเก่าคือปฏิบัติแต่ในคอร์ส ไม่อย่างน้ัน  พอถงึ คอรส์ กต็ ดิ เครอ่ื ง ออกจากคอรส์ กไ็ หลไปเตม็ ทเี่ ลย เขา้ คอรส์   กเ็ รง่ เต็มท ่ี อยา่ งน้เี ปลอื งไฟมากและไมม่ ีประสิทธิภาพ

136 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ นักปฏิบัติรุ่นใหม่ต้อง inverter ภาวนาในชีวิตประจ�ำวันไว้  เรอื่ ยๆ มากนอ้ ยตามสถานการณ ์ อกศุ ลไมม่ กี เ็ ขา้ สโู่ หมดสแตนด-์   บายได้บ้าง อย่างนี้ประหยัดพลังงานและมีประสิทธิภาพเข้าข้ัน  เบอร ์ ๕ ส่วนจะยีห่ อ้ อะไร ก็ดกู ันเองแล้วกัน ซื้อยี่หอ้ ไหนใช้แล้วสบายใจ  สตเิ กดิ  ปญั ญาเกดิ  กเ็ อายห่ี อ้ นนั้ แหละ เขามยี หี่ อ้  (ส�ำนกั ) ใหเ้ ลอื ก  ตงั้ เยอะ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๖

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 137 ๒๗ คิดเลขได ้ ไมเ่ ห็นตอ้ งเรียน ในตลาดสดแถวบ้าน พ่อค้าแม่ค้าขายมะนาวเป็นกองๆ กองละ  ๕ ลูก ในกระจาดมี ๑๐ กอง กองละ ๒๐ บาท ลูกค้ามาซื้อก่ีกอง  พ่อค้าแม่ค้าคิดเงินได้หมดไม่มีผิดเลย พ่อค้าแม่ค้าก็พูดเสมอๆ ว่า  ฉันไม่เห็นต้องเรียนหนังสือเลย ฉันก็ท�ำมาหากินจนร่�ำรวยมีเงิน  มีทองได้ พ่อค้าแม่ค้าขายผลไม้ เป็นคนใฝ่เรียนรู้ ใฝ่ศึกษา แม้ตอนเด็ก  จะไมม่ โี อกาสเรยี นหนงั สอื แตก่ ย็ งั ไปเรยี น กศน. เพอ่ื เพม่ิ พนู ความร้ ู

138 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ ไดเ้ รยี นการทอ่ งสตู รคณู  การนำ� สตู รคณู มาใช ้ การใชส้ มการแทนคา่   การคิดค�ำนวณเปอร์เซ็นต์ เรียนเร่ืองดอกเบ้ีย คอมมิชช่ัน เข้าใจ  เรือ่ งร้อยละ เพื่อนพ่อค้าแม่ค้าขายมะนาว เข้ามาพูดคุยและก็ยังคงปล้ืมอก  ปลื้มใจในการไม่เรียนหนังสือของตนเองแต่ขายได้ดีกว่าและร�่ำรวย  กว่า พ่อค้าแม่ค้าผลไม้ที่เสียเวลาไปเรียนหนังสือให้มันเหน่ือยเปล่า  แถมยงั โชวก์ ารคำ� นวณการคดิ เลขอยา่ งรวดเรว็  ทง้ั ๆ ทไี่ มเ่ หน็ ตอ้ งร ู้ สูตรคูณเลย แต่ทุกครั้งที่พ่อค้าแม่ค้ามะนาวคิดค�ำนวณราคาต่างๆ  ของมะนาว พอ่ คา้ แมค่ า้ ผลไมจ้ ะรหู้ มดวา่ นน่ั มาจากการค�ำนวณโดย  ผ่านสูตรคูณแบบไหน วิธีอะไร สามารถแสดงวิธีท�ำออกมาได้ แต่  พ่อค้าแม่ค้ามะนาวจะรู้เฉพาะผลตรงหน้าเท่านั้น เสมือนว่า พ่อค้า  แมค่ า้ มะนาวจะเหน็ มติ เิ ดยี ว แตพ่ อ่ คา้ แมค่ า้ ผลไมเ้ หน็ มติ เิ ชงิ ซอ้ นคอื   ไปเห็นเบอ้ื งหลงั การคำ� นวณดว้ ย ทา่ นคดิ วา่ ใครแตกฉานและผดิ พลาดนอ้ ยกวา่ ละ่ .. วนั หนงึ่ พอ่ คา้   แม่ค้ามะนาวเกิดช๊อตเงินต้องไปขอกู้หน้ียืมสินคนอ่ืน ไปธนาคาร   ธนาคารบอกวา่ ดอกเบย้ี รอ้ ยละ ๗ ตอ่ ป ี กไ็ มร่ วู้ า่ มนั เทา่ ไหรแ่ ละเหน็   หลักเกณฑ์ยุ่งยาก เลยไปกู้แถวบ้านนอกระบบ เขาว่าร้อยละ ๒๐ 

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 139 คิดไปคิดมาไม่เข้าใจ ต่อให้รู้ว่าร้อยละ ๒๐ ต่อเดือนจะมากกว่าแต ่ ไมร่ วู้ า่ มนั มากกวา่ แคไ่ หน เพราะไมเ่ คยรเู้ กย่ี วกบั ระบบตน้ ทนุ  ก�ำไร  ว่าท่ีเราค้าขายอยู่นี้ต้นทุนกี่เปอร์เซ็นต์ ก�ำไรก่ีเปอร์เซ็นต์ แล้วเราม ี คา่ ใชจ้ า่ ยรายเดอื นอยเู่ ทา่ ไหร ่ ขายไดเ้ ทา่ ไหรถ่ งึ จะคมุ้ ทนุ  จงึ ไดแ้ ตก่ ้ ู มาแล้วก็ขายไป สุดท้ายไม่สามารถจ่ายหนี้ได้เพราะดอกเบี้ยก็หามา  ไม่พอจ่าย แล้วจะจ่ายต้นได้อย่างไร แถมค่าใช้จ่ายตัวเองก็ไม่เหลือ  น่ีใชไ่ หมที่น่ังปลมื้ กบั การไมเ่ รยี นรู้ วนั นม้ี คี นทเี่ ขา้ สกู่ ารปฏบิ ตั โิ ดยไมศ่ กึ ษาอะไรเลยแลว้ มานงั่ ชนื่ ชม  กบั การทไี่ มเ่ หน็ ตอ้ งรตู้ อ้ งศกึ ษาอะไร หมวดธรรมตา่ งๆ กไ็ ปวา่ เรอื่ ง  ปริยัติ พวกเรานักปฏิบัติ ปฏิบัติตามๆ กันแล้วก็หลงว่าตัวเองท�ำด ี ครูบาอาจารย์ชม น่ังปลื้มจนตัวตนต้ังเด่ก็ไม่เห็นจะจัดการอะไรได้  ไปที่ไหนก็กร่างนึกว่าตัวเองรู้เสียเต็มประดา พ่อค้าแม่ค้าผลไม้เขา  ไปหัดท่องสตู รคูณก็วา่ ไม่จำ� เปน็ ชน้ั ไมเ่ ห็นตอ้ งเรียนเลย แลว้ ไงพอมี  ปญั หาแลว้ แก้ไดไ้ หม เขา้ ใจไหมวา่ ทางเดนิ ท่ีแทจ้ ริงคอื อะไร จะบอกใหว้ า่ สตู รคณู มาจากไหน? คนคดิ สตู รคณู เขาเอามาจาก  ของจรงิ

140 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ ด้วยการเอามะนาวกองละ ๒ ลูก ตั้งไว้ ๑๒ กอง ดึงออกมา  กองแรก แลว้ นบั  ได ้ ๒ จดไว ้ เอากองท ่ี ๒ เขา้ มารวมกนั แลว้ นบั ได ้ ๔  จดไว ้ กองท ี่ ๓ มารวมแลว้ ได ้ ๖ จดไว ้ ... กองท ่ี ๑๒ มารวมได ้ ๒๔  จดไว ้ แลว้ มาตง้ั เปน็ สตู ร ๒ x ๑ = ๒, ๒ x ๒ = ๔, ..., ๒ x ๑๒ = ๒๔  แล้วเขาก็ท�ำท่ีแม่ ๓, แม่ ๔, แม่ ๕, ... สูตรท้ังหมดมาจากของจริง  นี่ล่ะ ที่เรามาเรยี นกนั พระพุทธเจ้าน�ำมาบอกสอน ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ น่ันคือ  การปฏิบัติ ไม่ได้เรียนไว้สอบ ส่วนท่ีไม่เกี่ยวโดยตรงกับการปฏิบัต ิ กเ็ ปน็ สว่ นเพม่ิ เตมิ อนิ ทรยี ส์ ว่ นอนื่ เชน่  ศรทั ธา วริ ยิ ะ เพราะทา่ นเหน็   ความจริงแล้ว แต่การบอกสอนให้เร็วและกระชับให้ผู้ไม่รู้ที่มีอวิชชา  สามารถเรยี นรไู้ ด ้ กท็ ำ� การจดั หมวดหมเู่ ปน็ รปู แบบอยา่ งชดั เจน เชน่   อรยิ มรรคมีองค์ ๘ เรามาดูกนั ในผทู้ ่เี กี่ยวข้องกับเร่ืองนี ้ มที ง้ั หมด ๓ คน ๑. พอ่ ค้าแม่ค้ามะนาว ๒. พอ่ คา้ แมค่ า้ ผลไม้ ๓. ผูค้ ิดสูตร-สูตรคูณ

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 141 พ่อค้าแม่ค้ามะนาว ไม่รู้อะไรเลย ท�ำได้เท่าที่มีคนบอกมาหรือ  ประสบการณต์ วั เอง กห็ ากนิ ไดแ้ ตเ่ สยี่ งคอื ความรแู้ คบมาก ถงึ จะไป  เรยี นรกู้ เ็ รยี นรจู้ ากแมค่ า้ ในตลาดเดยี วกนั  ไดแ้ ตเ่ คลด็ ลบั การคดิ เลข  จากประสบการณข์ องพอ่ คา้ แมค่ า้ อกี คนทข่ี ายมากอ่ น ไมไ่ ดก้ ระบวน  การ มองไมเ่ หน็ เสน้ ทางเดินทงั้ หมดเลย พ่อค้าแม่ค้าผลไม้ ศึกษาเรียนรู้ สูตรคูณและน�ำมาประยุกต์ใช ้ กับชีวิตท�ำมาหากินได้ และเห็นความเป็นเหตุเป็นผลที่พ่อค้าแม่ค้า  มะนาวคิด แต่พอ่ คา้ แม่คา้ มะนาวไม่เห็น จึงเขา้ ใจได้มากกว่า ส่วนผู้คิดค้นสูตรนั้น จะมีมิติการมองท่ีเห็นทุกจุดท้ังฉากหน้า  ฉากหลงั  วธิ คี ดิ  วธิ แี กไ้ ขปรบั ปรงุ  ขอ้ บกพรอ่ ง จดุ ด ี จดุ เดน่  จดุ แขง็   จดุ ออ่ น เหน็ ทมี่ าทไี่ ป รายละเอยี ดทกุ แงม่ มุ  ปฏบิ ตั เิ องกไ็ ด ้ สงั่ สอน  ผ้อู น่ื กไ็ ด้ เห็นมติ ซิ อ้ นมติ ิ เหน็ ทุกมุมมอง แลว้ แบบไหนดกี วา่ กนั ยกตวั อยา่ งลงมาใหเ้ หน็ วา่  ๓ คนนถ้ี า้ เปน็ นกั ปฏบิ ตั จิ ะเปน็ อยา่ งไร? พวกแรก ไปสำ� นกั ไหนใครเขาใหท้ ำ� อะไรกท็ ำ� ตามเขา เขาบอกวา่   มาทน่ี ต่ี อ้ งทำ� อยา่ งของเขาใหท้ งิ้ ของทที่ ำ� มาแลว้ ใหห้ มด กท็ ำ� ตามเขา 

142 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ โดยไม่รู้ด้วยซ้�ำว่ามาท�ำอะไรและท�ำไปเพื่ออะไร เสร็จแล้วเห็นนั่น  เห็นน่ี ก็ว่าวิธีแบบน้ีดีอัศจรรย์ พวกนี้เห็นได้มิติเดียว แล้วนั่งปล้ืม  คุยโว คุยโอ่อย่างทรนง ว่าแบบของฉัน ส�ำนักของฉันดีกว่าใครๆ  พวกนถี้ า้ หากเปน็ ผสู้ ง่ั สมมา มอี ธั ยาศยั ทางธรรม แลว้ เกดิ เจอส�ำนกั   ทีถ่ ูกกับจริตกไ็ ปไดง้ า่ ย แตจ่ ะยง่ิ หลงคิดว่าวิธีนี้ดกี วา่ ทางใดๆ พวกทสี่ อง ศกึ ษาหลกั การมาและไดน้ ำ� มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการปฏบิ ตั ิ  รู้เหตุรู้ผลว่าเส้นทางเดินคืออะไร บางสูตรแม้จะศึกษาเกินไปบ้าง  แต่เมื่อปฏิบัติจริงก็จะได้เห็นจริงตามล�ำดับ เพราะน่ันเป็นค�ำท่ีพระ  พุทธเจ้าน�ำมาบอกสอนไว้ ท�ำให้มีศาสตราอาวุธครบถ้วนไม่ได้มีไว้  ยึดมั่นถอื ม่นั ส่วนบุคคลที่สาม ผู้คิดสูตร บุคคลนี้เห็นแจ่มแจ้งทุกมุมมอง  เหมอื นคนดลู ะครเวที คนแรกนั่งดูละคร เห็นผู้ร้ายแสดงเกิดอารมณ์ไม่ชอบใจ เห็น  พระเอก นางเอกแสดงเกิดอารมณ์ชอบใจ เห็นอารมณ์เกิดขึ้น  อารมณ์ดับไป พวกนี้จะเห็นมิติเดียว ในส่วนอนิจจัง เข้าถึงธรรม  ได้ไหม... ได้ ถ้าเผอญิ เหน็ ตรง

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 143 พวกทีส่ อง เห็นว่าท่ีพระเอก นางเอก ผ้รู า้ ยทีอ่ อกมาแสดงนัน้   ทเี่ ขาท�ำอยา่ งนน้ั เพยี งเพราะท�ำตามบทบาททผ่ี กู้ �ำกบั หลงั มา่ น หลงั   เวทเี ปน็ คนสงั่  เหน็ แตก่ ารแสดงหลอกๆ ลวงๆ ไมไ่ ดม้ อี ะไรเลย พวกน ี้ เห็นมิติในส่วน อนัตตาไมเ่ กิดอารมณ์เพราะรูท้ ันหรือเหน็ ความจรงิ สว่ นบคุ คลทส่ี ามนน้ั เหน็ ตงั้ แตว่ นั สรา้ งโรงละคร สรา้ งเวท ี สรา้ ง  ฉาก เห็นหมดว่าจะกี่คณะมาแสดงก็ท�ำอยู่อย่างน้ี ทุกคนมาหาเงิน  มาสรา้ งความรำ่� รวยกนั เทา่ นน้ั เอง มแี ตข่ องวา่ งของเปลา่  บคุ คลเหลา่ น ้ี เหน็ แจง้ โลก ไม่หลงโลก เขา้ ใจโลกหมดแล้ว เห็นทุกมติ ิ อริยสัจ ๔ น้ัน เอาแค่ ทุกขอริยสัจ ค�ำเดียว มีความหมาย  มากมายตามภมู ิธรรมของผทู้ ีเ่ กิดสัมมาทิฏฐ ิ คนทวั่ ไปกเ็ หน็  “ทกุ ข”์   ได้ในมิติ ความรู้สึกสุขทุกข์ มิติต่อไปก็เห็นได้ว่า ขันธ์ ๕ เป็นทุกข์  เพราะเหน็ มาจากการทอ่ งเทย่ี วในฐาน ๔ คอื  กาย เวทนา จติ  ธรรม  จึงไปเข้าใจขันธ์ ๕ จากน้ันเห็นว่าขันธ์ ๕ เป็นรูปนาม รูปนามน้ ี แจ่มแจ้งกว่าเดิมมากเพราะความที่ไปเห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา  ตลอดการเดนิ ทาง จงึ รเู้ ลยวา่ การแสดงผลของอนจิ จงั  ทกุ ขงั  อนตั ตา  นนั้ มาจากเหตใุ นความเปน็ รปู นามนน่ั เอง ปญั ญาจงึ ยอ้ นไปเขา้ ใจวา่   สรรพสง่ิ ลว้ นเปน็ รปู นาม ทกุ ขน์ นั้ มาจากการเขา้ ไปยดึ ถอื ขนั ธซ์ งึ่ เปน็  

144 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ ทุกข์ จะไม่ทุกข์ได้อย่างไร นี่จึงมาสู่ค�ำว่า “ว่าโดยย่ออุปาทานขันธ ์ ท้ัง ๕ เป็นตัวทุกข์” จากน้ันไม่ใช่แต่ขันธ์ ๕ ท่ีทุกข์ รูปนามทั้งโลก  ทั้งจักรวาลก็เป็นสภาพทนอยู่ไม่ได้ จิตเองก็เช่นกันการที่จิตยึดถือ  ตัวเองน่ันแหละคือต้นเหตุที่ท�ำให้ไปเกิดอุปาทาน เมื่อจัดการเหตุ  ท่ีท�ำให้จิตเข้าใจผิดคือมีอวิชชา น่ันจึงจะเปล่ียนอวิชชาเป็นวิชชา  ตณั หา อุปาทานกส็ ลาย จงึ เปน็ ความอสิ ระอย่างแท้จริง ฟังผู้รู้แจ้งเถอะ ไม่อย่างน้ันท�ำอะไรก็มีแต่ดี มีแต่ปลื้ม โดย  ไม่รู้ว่า ไอ้ปลื้ม ไอ้ดี น่ันน่ะผลผลิตของอวิชชา กบอยู่ในกะลา ถ้า  ฉลาดยงั พอรไู้ ดว้ า่ ตวั เองอยใู่ นกะลา แตพ่ วกกบทเี่ หน็ วา่ โลกทข่ี า้ เหน็   นี่ถูกท่ีสุดต้องแบบนี้ ใครๆ ต้องท�ำอย่างน้ี ผิดไปจากน้ีผิด แล้ว  กร่างอย่างทรนงว่าต้องแบบของกู นั่นกบเองยังไม่รู้ด้วยซ�้ำว่าอยู่  ใต้กะลา แล้วที่ว่าข้าเห็นหมดแล้วน่ันน่ะ เห็นแต่รอยฟันกระต่ายกับ  เศษมะพร้าวทีแ่ มค่ ้าเขาขูดไมห่ มดนะซิ... ๓๐ เมษายน ๒๕๕๖

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 145 ๒๘ คนน่ารงั เกยี จ... เพอ่ื นเดอื ดรอ้ น ตวั เราเองวางอเุ บกขา แถมยงั วา่ เขาวา่ ไมม่ สี ต ิ ตื่นตระหนกไปได้ แถมสอนธรรมะสารพัด...พวกนี้น่ารังเกียจ อย่า  ไปคบ แมเ่ ขา้ โรงพยาบาล พน่ี อ้ งโทรมาบอกดว้ ยเสยี งตน่ื ตระหนก แต่  กลบั บอกวา่  ไปหรอื ไมไ่ ปแมก่ ไ็ มด่ ขี นึ้ หรอก เดย๋ี วเสรจ็ งานจะไปเยย่ี ม  แถมมาคุยให้คนอ่ืนฟังว่าใจไม่สะทกสะท้านกับเหตุการณ์..พวกนี้ให ้ บอกแมเ่ ลยว่า ตดั มันออกจากกองมรดกได้

146 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ ใครจะเป็นจะตายจากภัยพิบัติ รู้สึกว่าใจวางเฉย อยู่ในห้อง ใน  คอนโด ในป่าในเขา ไม่แยแส เพราะไม่เก่ียวกับกู แล้วเที่ยวคุยว่า  ฉนั สงบทา่ มกลางความวนุ่ วาย... พวกน ี้ ออกหา่ งๆ พวกโมหะทงั้ นนั้ คนทล่ี ะความเหน็ ผดิ  เขาสงสารนะ หมดทกุ ขไ์ มใ่ ชห่ มดสงสาร  หมดความเหน็ ใจซะเมอ่ื ไหร ่ ยง่ิ ไมม่ ตี วั ตนยง่ิ เหน็ คนอนื่ เปน็ ทกุ ข ์ ยงิ่   อยากชว่ ย พวกเหน็ คนอนื่ ทกุ ขแ์ ลว้ ไมช่ ว่ ยนน่ั ไมไ่ ดล้ ะตวั ตน แตน่ นั่   มตี วั ตนขนึ้ มาบังความจริง วันน�้ำท่วมภาคใต้ หลวงปู่แบนอยู่อีสานขนข้าวสาร อาหาร  เครอ่ื งนอนไปชว่ ยแบบไมร่ อชา้  คอนวอย ๒๐ ฟตุ  คอนเทนเนอร ์ ๒  คนั  หลวงพอ่ เอย้ี น เรยี กชาวบา้ นคนชราในจงั หวดั พทั ลงุ  มารบั เงนิ   และหยกู ยาทเี่ ขาเอามาถวายทา่ นในถงั สงั ฆทานแจกใหช้ าวบา้ นทกุ ๆ  เดอื น ทง้ั ๆ ทที่ า่ นจะมเี งนิ รเึ ปลา่ ยงั ไมร่  ู้ ผมไมเ่ หน็ ทา่ นเหลา่ นวี้ างเฉย  ต่อเหตุการณ์ข้างนอกเลย มีแต่ปล่อยวางจิตโง่ท่ีจะปั่นตัวตนขึ้นมา  บงั ความจรงิ เท่านน้ั เอง วันท่ีพระพุทธเจ้าปรินิพพานเห็นพระอรหันต์รีบเดินทางมากัน  ไม่เห็นมีพระอรหันต์ปล่อยวางว่าเราจะมาหรือไม่มาพิธีก็เริ่มอยู่แล้ว 

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 147 เลย ปล่อยวางอะไร เข้าใจให้ถกู พวกวางเฉยข้างนอก แต่ยึดม่ันข้างใน (แต่นึกว่าตัวเองวาง)  ชว่ ยไปหา่ งๆ ทเี ถอะ คนไมป่ ฏบิ ตั ยิ งั กลุ กี จุ อชว่ ยเหลอื คนอน่ื มากกวา่   อีก ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เสียงในใจท่านที่ผสมสอดแทรกอยู ่ หากมันพูดปกป้องตัวท่านเอง คิดหาเหตุผลสารพัดมาชโลม เชลีย  ท่านเองว่าท่านท�ำถูกอย่างนั้นอย่างน้ีและด่าคนเขียน ก็จงรู้เถิดว่า  นน่ั ละ่ ตวั ตนละ่  ทดี่ า่ คนเขยี นนะ่ ไมม่ ปี ญั หาแตท่ ป่ี กปอ้ งตวั เองนน่ั ละ่ ..  ปัญหา ท่ีทา่ นไม่ตัง้ มนั่ พอจะเห็น

148 เ ห ็ น ถ ู ก รู้ แ จ ้ ง ๔ ๒๙ นกกบั ต้นไม้ ต้นไม้ของกู ใบกข็ องก ู ตน้ กข็ องกู รากกข็ องกู ทกุ อยา่ งมันโงอ่ ย่างนี้กเ็ พราะ “นกเปน็ ตัวก”ู เมอ่ื จิตยดึ ถอื ตัวเอง ขนั ธ ์ ๕ ก็เลยเป็นของกู จะวา่ ยากกย็ ากนะ เพราะจติ กบั วญิ ญาณผสานกนั จนแทบจะเปน็   เนื้อเดียว

อ .  ป ร ะ เ ส ริ ฐ  อุ ท ั ย เ ฉ ล ิ ม 149 จะท�ำไงล่ะทจี่ ะสลายกาวที่ยึดจิตกบั วญิ ญาณไวใ้ หห้ ลดุ จากกนั นน่ั ตอ้ งละ ราคะ นนั ท ิ ตณั หาในอาหาร ๔ ใหไ้ ด้ วิญญาณจะดับคือหมดสภาพ จิตจะไม่โดดตามไปงับเวลามัน  “เกิด” วญิ ญาณจะคงอยู่แตไ่ รส้ ภาพเปน็ เพยี งแสงไฟในอวกาศ เมอื่ นน้ั   จิตจะตง้ั มั่นเป็นอิสระเห็นความจริง จนปล่อยและสลดั คนื ในที่สดุ  นัน่ ล่ะ ศานตสิ ขุ ท่ีแท้จริง “ชาตสิ นิ้ แลว้  พรหมจรรยอ์ ยจู่ บแลว้  กจิ ทค่ี วรท�ำไดท้ ำ� เสรจ็ แลว้   กจิ อ่นื เพอ่ื ความเป็นอย่างนมี้ ิไดม้ อี ีก” หมายเหต:ุ  ขออนญุ าตนำ� มาลงจาก ไทมไ์ ลน ์ ในไลนข์ องกลมุ่  MAK!


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook