รายงาน เรื่อง สานวนชวนคิด สุภาษติ ชวนจา โดย 1.นายณชั นนั ท์ ดอกไมก้ ลุ ม.5/9 เลขที่ 3 2.นายญาณพฒั น์ ประเทศ ม5/9 เลขท่ี 4 3.นายสิรวชิ ย์ โบขนุ ทด ม.5/9 เลขที่ 5 4.นายอมรเทพ รุ่งเรือง ม.5/9 เลขที่ 30 นาเสนอ คุณครูสุภลกั ษณ์ พลเรือง รายงานน้ีเป็นส่วนหน่ึงของรายวชิ าภาษาไทย 4(ท32102) โรงเรียนราชสีมาวิทยาลยั
คานา รายงานเลม่ น้ีจดั ทาข้ึนเพื่อเป็นส่วนหน่ึงของวิชา ภาษาไทย เพือ่ ใหไ้ ดศ้ ึกษาหาความรู้ในเร่ือง สานวนและสุภาษติ ของไทย เพื่อไดศ้ ึกษาอยา่ งเขา้ ใจและเป็นประโยชน์กบั การเรียนรู้ผจู้ ดั ทาหวงั วา่ รายงานเล่มน้ีจะเป็นประโยชนก์ บั ผอู้ ่า นหรือนกั เรียน ที่กาลงั หาขอ้ มลู เร่ืองน้ี อยหู่ ากมีขอ้ แนะนาหรือขอ้ ผิดพลาดประการใด ผจู้ ดั ทาขอนอ้ มรับไว้ และขออภยั มา ณ ที่น้ีดว้ ย คณะผจู้ ดั ทา
เนื้อหา ความหมายของสานวนและสุภาษติ .................................................................................................................4 หมวดสานวนสุภาษิตเกี่ยวกบั น้า.................................................................................................................6 หมวดสานวนสุภาษติ เก่ียวกบั เสือ ...............................................................................................................7 - หมวดสานวน สุภาษติ เกี่ยวกบั ววั ............................................................................................................10 หมวดท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การเมือง....................................................................................................................11 - หมวดท่ีมีที่มาจากวรรณคดี.....................................................................................................................14
ความหมายของสานวนและสุภาษติ สานวนหมายถึง ถอ้ ยคาที่เรียบเรียงเป็นขอ้ ความ หรือคาพูดท่ีเป็นช้นั เชิง ไม่ตรงตามรูปแบบภาษา เป็นถอ้ ยคาหรือ คาพูดที่มีลกั ษณะเฉพาะตวั มีความหมายเป็นนยั แฝงอยู่ กินความกวา้ ง หรือลึกซ้ึง นามาใชใ้ หม้ ีความหมายแตกต่างไปจากความหมายเดิมของคา ๆ น้นั หรืออาจจะมีความหมายคลา้ ย กบั ความหมายเดิมของคาท่ีนามาประสมกนั แตก่ ไ็ ม่เหมือนกบั ความหมายเดิมทีเดียว เป็นความหมายใน เชิงอปุ มาเปรียบเทียบ มกั ใชถ้ อ้ ยคาที่ไมย่ าวมากแตก่ ินความมาก ใชค้ าที่ไพเราะ คมคาย สละสลวย ตอ้ งอาศยั การตีความจึงจะเขา้ ใจ ตัวอย่างสานวนไทย อย่าแหย่เสือหลบั ความหมายของสานวนน้ีหมายถึง อยา่ ก่อเร่ืองกบั ผมู้ ีอานาจ เพราะแมภ้ ายนอกจะดูสงบน่ิงแตถ่ า้ ผนู้ ้นั โกรธหรือไมพ่ อใจข้ึนมากส็ ามารถทาร้ายหรือทาใหเ้ กิดอนั ตรายแก่เ ราได้ เสือเป็นสตั วท์ ่ีดุร้ายอยแู่ ลว้ เม่ือเราเอาไมแ้ หยใ่ นขณะท่ีมนั หลบั มนั ยอ่ มไม่พอใจมนั ตื่นข้ึนมาอาจจะทาร้ายเราได้ ทานองเดียวกนั อยา่ ไปมีเรื่องกบั ผมู้ ีอานาจเพราะจะทาใหเ้ ราเดือดร้อนแมเ้ ขาจะดูสงบนิ่ง จึงเป็นท่ีมาของสานวนไทยอยา่ แหยเ่ สือหลบั
สุภาษติ หมายถึง ถอ้ ยคาที่กลา่ วแนะนา ส่ังสอน เตือนสติ ดว้ ยหลกั ความจริง ส่วนมากเป็นคาคลอ้ งจอง มีการสืบทอดมาแตโ่ บราณและแต่ละชุมชน กระทงั่ แต่ละเหล่าอาชีพก็มีสานวนของใครของมนั คลา้ ยกนั บา้ ง แตกต่างกนั ไปบา้ ง ท้งั น้ีเพราะท่ีมาไม่เหมือนกนั แต่โดยความหมายมกั เทียบเคยี งกนั ได้ แมแ้ ตภ่ าษาตา่ งวฒั นธรรมกย็ งั มีส่วนคลา้ ยกนั ในทางอปุ มา ตวั อยา่ งสุภาษติ หลงั สู้ฟ้า หน้าสู้ดิน สุภาษิตน้ีหมายถึง ที่ตอ้ งตรากตราทางานหนกั มกั หมายถึง ชาวไร่ชาวนา ซ่ึงในเวลาทาไร่ทานาหลงั ตอ้ งสูก้ บั แดด และหนา้ ตอ้ งกม้ ลงดิน ไก่ได้พลอย
สุภาษติ น้ีหมายถึง ไดส้ ิ่งที่มีคา่ แต่ไม่รู้คุณคา่ จึงไม่เกิดประโยชนแ์ ต่อยา่ งใด หมวดสานวนสุภาษติ เกย่ี วกับนา้ 1.กรวดน้าคว่าขัน หมายถึงตดั ขาดไม่คบคา้ สมาคมอีกต่อไป ที่มา : กรวดน้า เป็นวธิ ีปฏิบตั ิอยา่ งหน่ึงหลงั การทาบุญเพื่อแสดงความต้งั ใจอุทิศส่วนกศุ ลถึงคนท่ีตายแลว้ เม่ือใชเ้ ป็นสานวน หมายถึงความต้งั ใจที่จะไม่เก่ียวขอ้ งกนั อีกตอ่ ไปและเพ่ือเป็นการยนื ยนั ความต้งั ใจ จึงเติมคาวา่ คาขนั หรือตากะลา หรือควา่ คะนน(หมอ้ ดินสาหรับใส่น้า) หมายถึง จะไม่ติดตอ่ ดว้ ยอีกตอ่ ไปเด็ดขาด ตวั อยา่ ง :เพ่ือนตวั แสบโกงเงินฉนั ไปเป็นแสน ฉนั น่ะกรวดน้าคว่าขนั เลย 2.กระดกี้ ระด้า หมายถึงคนท่ีมีอาการดีใจสุดๆ ตื่นเตน้ มากๆ จนแสดงอาการ ท่ีมา : กระด่ีเป็นปลาตวั เลก็ ๆ อาศยั อยใู่ นหนอง บึง หรือ ลาคลองทว่ั ไป ยามอากาศร้อนจดั และน้าแหง้ ขอด ปลากระด่ีกด็ ้ินขลุกขลกั เพราะขาดน้า ถา้ มีคนชอ้ นเอาไปปล่อยในลาธารที่มีน้า มนั จะดีดตวั ข้ึน ๆ ลง ๆ ตวั อยา่ ง เมื่อป้าสมศรีไดร้ ู้ขา่ ววา่ ลูกชายสอบติดคณะแพทย์ ก็แสดงอาการราวกบั กระด่ีไดน้ ้าทาใหช้ าวบา้ นในระแวกน้นั ตา่ งตกใจและสงสัยวา่ ป่ าสมศรีเป็นอะไร ทาไมถึงดีใจขนาดน้นั 3. กนิ นา้ ใต้ศอก หมายถึง การจายอมตกอยใู่ นสถานะท่ีเป็นรองเขา ไม่สามารถเทียมหนา้ เทียมตา ที่มา สมยั ก่อนคนไทยนิยมใชก้ ระบวย ซ่ึงมีดา้ มยาวตกั น้าจากโอง่ มาดื่ม ขณะยกกระบวยจรดที่ปากเพื่อดื่ม นาส่วนหน่ึงจะไหลจากกระบวยไปตามมือ และรวมตวั ไหลลงตรงปลายศอก หากมีผอู้ า้ ปากรอรับน้าจากใตศ้ อกก็จะไดน้ ้าพอกล้วั คอ ตวั อยา่ ง : ถึงจะรักเขามากแค่ไหน ฉนั ก็ไมย่ อมกินน้าใตศ้ อกใคร 4.น้าขนึ้ ให้รีบตกั หมายถึงมีโอกาสดีใหร้ ีบทา
ท่ีมา : สมยั ก่อนคนใชน้ ้าในแมน่ ้าลาคลองเพ่อื อปุ โภคบริโภค น้าจะข้นึ เป็นเวลา เวลาน้าข้นึ น้าจะเปี่ ยมฝ่ังใสสะอาดและตกไดง้ ่าย แต่เวลาน้าลงน้าจะขอดตกั ยากและมกั ติดโคลนตมข้นึ มา เม่ือน้าข้ึนผคู้ นจึงรีบตกั ใส่ตุม่ เพอื่ ใหไ้ ดน้ ้าที่สะอาดไวใ้ ช้ ตวั อยา่ ง ตอนน้ีมีงานเขา้ มามาก ก็ใหร้ ับไว้ อยา่ มวั ข้ีเกียจอยเู่ ลย น้าข้นึ ใหร้ ีบตกั จะไดม้ ีรายไดเ้ พม่ิ ข้นึ 5.มือไม่พาย เอาเท้ารานา้ ที่มา : คาวา่ “ราน้า ในสานวนน้ี แปลวา่ ตา้ นน้า ซ่ึงการกระทาดงั กลา่ ว ทาใหพ้ ายเรือลาบากตอ้ งใชแ้ รงมากข้ึน ผทู้ ี่ลงเรือลาเดียวกบั คนอื่น นอกจากจะไมช่ ่วยพายเรือแลว้ ยงั จะเอาเทา้ ราน้าเลน่ ทาใหค้ นอื่นพายเรือลาบากข้นึ ตวั อยา่ ง : เขาไม่ช่วยทางานสักอยา่ ง แลว้ ยงั คอยคดั คา้ นทุกเรื่อง คนอะไรมือไมพ่ าย เอาเทา้ ราน้า หมวดสานวนสุภาษิตเกย่ี วกับเสือ 1.จับเสือมือเปล่า
ที่มา : เสือเป็นสตั วด์ ุร้าย การจะจบั เสือตอ้ งมีเครื่องมือพร้อม คนที่จบั เสือมือเปลา่ ได้ จึงถือวา่ เก่งและฉลาด ตวั อยา่ ง : เขาทาธุรกิจอยา่ งจบั เสือมือเปล่า แท้ ๆ ไม่ไดล้ งทุนอะไรเลย แตไ่ ดก้ าไรมาก 2. เสือซ่อนเลบ็ หมายถึง ผทู้ ่ีมีความเก่งกลา้ สามารถแต่ไม่แสดงออกมาให้ ปรากฏ หรือเลห่ ก์ ลอยใู่ นใจแตซ่ ่อนความร้ายกาจไว้ ที่มา : ปกติเสือจะงอเลบ็ ไวใ้ นเน้ือ จะกางเลบ็ ออกมากต็ อ่ เม่ือตอ้ งการตะปบเหยอ่ื หรือต่อสู้ศตั รู ตวั อยา่ ง : เพ่ือนบา้ นคนใหมข่ องฉนั เป็นคนหนา้ ตาดี สุภาพเรียบร้อย มีสมั มาคารวะ เม่ือวานเขาถกู จบั ขอ้ หามือปื นรับจา้ ง ฆา่ คนตายมาแลว้ หลายศพ น่ีแหละนะ เสือซ่อนเลบ็ จริง ๆ เลย 3. เสือนอนกิน หมายถึง คนท่ีไดร้ ับผลประโยชน์หรือผลกาไรดว้ ยอานาจหรือ อิทธิพลของตนโดยไมต่ อ้ งลงทนุ ลงแรง
ที่มา : ลกั ษณะของเสือเวลาเดินมกั ลากหางไปเร่ือย ๆ ทาใหเ้ หยอื่ ไม่ระแวง แตพ่ อไดท้ าเสือก็เขา้ ตะครุบเหยอ่ื ทนั ที เปรียบเหมือนคนคิดจะทาร้ายหรือคิดมิดีมิร้ายกบั ใคร แต่แกลง้ ทาเป็นไม่สนใจ พอไดโ้ อกาสก็เขา้ จดั การทนั ที ตวั อยา่ ง : เขาทาตวั เป็นเสือนอนกิน ใชอ้ ิทธิพลเรียกบริษทั ผรู้ ับเหมามาประมลู แลว้ คอยรับเปอร์เซ็นตส์ บายไป หมายถึง คนที่ทาทา่ เช่ืองซึมเป็นกลอบุ ายใหผ้ อู้ ่ืนตายใจ แลว้ เขา้ ทาการอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงโดยไม่ทนั ใหร้ ู้ตวั ที่มา ลกั ษณะของเสือเวลาเดินมกั ลากหางใบเรื่อย ๆ ทาใหเ้ หยอ่ื ไม่ระแวง แต่พอไดท้ าเสือกเ็ ขา้ ตะครุบเหยอ่ื ทนั ที เปรียบเหมือนคนคิดจะทาร้ายหรือคิดมีดีมิร้ายกบั ใคร แต่แกลง้ ทาเป็นไม่สนใจ พอไดโ้ อกาสก็เขา้ จดั การทนั ที ตวั อยา่ ง ฉนั เห็นเขาท่าทางเชื่อง ๆ เป็นเสือลากหาง ประเดียวเดียวก็กระชากสร้อยไปเสียแลว้
5.เสือสิ้นตวัก หมายถึง เมื่อจวนตวั หมดหนทางหน้ีกย็ ดึ สู้อยา่ งไม่คดิ ชีวติ ที่มา : ควกั หรือ วกั เป็นเครื่องใชด้ กั ขา้ มเละแกง มีลกั ษณะคลา้ ยองุ้ เทา้ เสือซ่ึงงอหุม้ เสือสิ้นตวกั โดยปริยายหมายถึง เมื่อไมม่ ีเลบ็ ที่จะใชต้ ่อสู้ สานวนน้ี มีความหมายเหมือน “หมาจนตรอก” ซ่ึงบางทีก็กลา่ ววา่ “เสือสิ้นตวกั สุนขั จนตรอก” สุนขั จนตรอกคอสุนขั ท่ีวง่ิ หนีการไลล่ ่าเขา้ ไปจนถึงทางตนั ท่ีไปไมไ่ ดอ้ ีก ท้งั เสียและสุนขั ที่ตกอยใู่ นฐานะจวนตวั หมดหนทางกม็ กั จะหนั มาสูเ้ อาตวั รอด ตวั อยา่ ง : คณุ รุกไมจ่ นเขากลายเป็น เสียสิ้นตวกั อยา่ งน้นั เขากต็ อ้ งซีดสูอ้ ยา่ งไม่คดิ ชีวติ ซ่ึงไมเ่ กิดผลดีต่อใครเลย - หมวดสานวน สุภาษติ เกย่ี วกบั ววั 1. ววั สันหลงั หวะ มีคาต่อทา้ ยคือ “ววั สนั หลงั ขาด เห็นกาบินผาดก็ตกใจ” หรือบางท่ีเรียกกนั วา่ \"ววั สันหลงั หวะ” กลวั วา่ จะมีคนที่รู้เร่ืองมาพูดใหค้ นอื่นๆรู้เร่ืองน้ี หมายถึงผทู้ ่ีที่อะไรผิดไปแลว้ มีอาการส่อพิรุธใหเ้ ห็น ท่ีมา : เปรียบเปรยถึงววั ท่ีเป็นแผลท่ีหลงั มกั จะมีอีกามาจิกแผลบ่อยๆ
ตวั อยา่ ง : เด็กชายสมชายแอบขโมยขนมของคุณครู แลว้ นาขนมไปกินหลงั หอ้ งเรียน วนั ต่อมาเมื่อครูเรียกชื่อ เขาก็ตกใจแสดงอาการมีพิรุธออกมา ตรงกบั สานวนไทยที่วา่ “ววั สนั หลงั หวะ” ๒) ววั หายลอ้ มคอก สานวนสุภาษติ น้ี หมายถึงมีเหตุการณ์ที่เสียหายเกิดข้นึ มาแลว้ ถึงจะมาหาวธิ ีแกไ้ ขป้องกนั ภายหลงั ซ่ึงที่ถูกควรจะคิดหาทางป้องกนั ไม่ใหเ้ หตกุ ารณ์เกิดข้ึนแต่แรก ที่มา : เปรียบเปรยถึงการท่ีมีววั หายหรือถกู ขโมยไปแลว้ คนเล้ียงจึงหาทางแกไ้ ขดว้ ยการทาคอกไวใ้ หว้ วั เพ่ือป้องกนั ววั หาย ซ่ึงหากท่าดอกไวต้ ้งั แต่แรกววั ก็ไม่หาย ตวั อยา่ ง เป็นตวั อยา่ งใหเ้ ห็นกนั บอ่ ยๆในหนา้ หนงั สือพมิ พ์ เช่น ถนนชารุต เกิดอุบตั ิเหตุ แลว้ ต่อยมาเขยี นป้ายเตือน หรือซ่อมแซมถนน ตอ้ งรอใหเ้ กิดการสูญเสียก่อนจึงค่อยหาทางป้องกนั แบบน้ีตรงกบั สานวนไทยท่ีวา่ “ววั หายลอ้ มคอก” หมวดท่เี กยี่ วข้องกบั การเมือง การเมืองเป็นเรื่องท่ียากและวนุ่ วาย ดงั น้นั เวลาเราจะพดู ถึงเหตกุ ารณ์ท่ีเกิดข้ึน หรือประเด็นของเร่ืองต่าง ๆ ถา้ ใชส้ านวนเขา้ ช่วยก็น่าจะทาใหก้ ารพูดคุยออกรสชาติยงิ่ ข้นึ แถมยงั ขมวดเรื่องหรือประเด็นที่จะตอ้ งพูดจนยดื ยาวใหส้ ้ัน กระชบั ลงไดด้ ว้ ย สานวนไทย ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การเมือง หรือเหตุการณ์ท่ีกาลงั เป็นกลา่ วขวญั ถึงในปัจจุบนั เช่น 1.กระเบื้องจะเฟื่ องฟูลอย น้าเต้าน้อยจะถอยจม หมายถึง เกิดเหตุอาเพศในบา้ นเมืองคนชวั่ จะรุ่งเรืองคนดีจะตกอบั ที่มา : สานวนน้ีมาจากคาพยากรณ์คร้ังกรุงเก่า กระเบ้ืองเป็นของหนกั ซ่ึงควรจะจมน้าแตก่ ลบั ลอยข้นึ มา เปรียบเหมือนคนชวั่ ท่ีไดเ้ ป็นใหญ่ ทาใหป้ ระชาชนเดือดร้อน น้าเตา้ เป็นพชื ผลจาพวกฟักแฟง เม่ือแก่และแหง้ จะเบาและลอยน้าไดแ้ ตก่ ลบั จมลงไปเปรียบเหมือนคนดีแตถ่ กู กีดกนั ไมม่ ีโอกาสเป็นใหญ่ การท่ีกระเบ้ืองลอยแตน่ ้าเตา้ จม ถือวา่ เป็นลางร้าย
ตวั อยา่ ง : บา้ นเมืองทุกวนั น้ี กระเบ้ืองจะเฟ่ื องฟูลอย น้าเตา้ นอ้ ยจะถอยจม เพราะคนชวั่ รุ่งเรืองมากกวา่ คนดี 2. ก่อหวอด หมายถึง เร่ิมจบั กล่มุ เพ่ือก่อการอยา่ งใดอยา่ งหน่ึง ที่มา : สานวนน้ีมาจากการวางไขข่ องปลาบางชนิด เมื่อจะวางไข่ปลาตวั ผตู้ วั เมียท่ีเป็นคกู่ นั จะช่วยพน้ น้าใหเ้ กิดฟองไปติดตามหญา้ รก ๆ ในน้า ฟองน้าท่ีเกิดข้ึนน้ีเรียกวา่ “หวอต” สาหรับเป็นท่ีวางไข่ ไข่ปลาจะอาศยั หวอดน้ีอยจู่ นเจริญข้นึ เป็นลกู ปลา ตวั อยา่ ง : พนกั งานแผนกน้ีกาลงั ก่อหวอด เรียกร้องให้เพ่ิมคา่ แรงข้นั ต่า พนกั งานบริษทั อ่ืน ๆ กส็ นบั สนุนและพร้อมท่ีจะเขา้ ร่วมชุมนุมดว้ ย 3.กงิ้ ก่าได้ทอง หมายถึง ผทู้ ี่ไดด้ ีแลว้ ลืมตวั เห่อเหิม หยง่ิ ผยอง ที่มา : สานวนน้ีมาจากนิทานโบราณซ่ึงเลา่ วา่ พระราชาเสด็จไปประพาสอุทยาน กิ้งก่าเกิ้งก่าเห็นพระราชากผ็ งกหวั ทาความเคารพ พระราชาพอพระทยั จึงใหเ้ งินคนสวนซ้ือเศษเน้ือใหก้ ้ิงก่ากินทกุ วนั วนั หน่ึงคนสวนหาซ้ือเศษเน้ือไม่ได้ จึงเอาเงินซ้ือเศษทองผกู ใหท้ ่ีคอก้ิงก่า ตอ่ มาพระราชาเสด็จประพาสอุทยานอีก กิ้งก่าทาทา่ หยงิ่ รูคออวดทอง ไมย่ อมผงกหวั คานบั พระราขาดงั เคย พระราชาทรงเห็นวา่ ก้ิงก่านิสยั ไม่ดี หยง่ิ ยโสเพราะไดท้ อง จึงทรงใหค้ นสวนเอาทองออกจากคอก้ิงก่า และงดซ้ือเศษเน้ือใหถ้ ึงคา่ กินอีกตอ่ ไป ตวั อยา่ ง : ถูกลอ็ ตเตอรี่แค่รางวลั ท่ีหา้ ทาเป็นถึงกาไดต้ อง เชียวนะเธอ
4. ไก่เห็นตนี งู งเู ห็นนมไก่ หมายถึง ต่างฝ่ายต่างรู้ความลบั ของกนั และกนั ท่ีมา : เป็นการกลา่ วเปรียบเสมือนวา่ ไก่สามารถเห็นตีนงู และกส็ ามารถเห็นนมไก่ได้ ท้งั ๆที่ไก่ไมม่ ีนมและงูกไ็ มม่ ีตีนปรากฏใหเ้ ห็น ตวั อยา่ ง: สองคนน้นั ทะเลาะกนั แลว้ กเ็ ลิกรากนั ไป ไม่มีใครกลา้ ไปฟ้องหวั หนา้ หรอก ตา่ งคนตา่ งรู้ความผิดของกนั และกนั เหมือนไม่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ 5.ชักซุงตามขวาง หมายถึง ขดั ขวางผมู้ ีอานาจ ยอ่ มไดร้ ับความเดือดร้อน ท่ีมา : การชกั หรือลากซุง ถา้ ชกั หรือลากตามแนวยาวจะสะดวกกวา่ ตามขวาง ตวั อยา่ ง : ทางานแบบ ชกั ซุงตามขวาง อยา่ งน้ี เม่ือไหร่จะเจริญสกั ที 6. ซักน้าเข้าลกึ ชักศึกเข้าบ้าน หมายถึง นาสิ่งที่เป็นอนั ตรายหรือศตั รูเขา้ ถึงตวั ท่ีมา : รักน้า คือ การทดน้าจากแมน่ ้าลาคลอง เขา้ ไปตามร่องสวน เพื่อใชใ้ นการดูแลตน้ ไม้ แต่ถา้ ระดบั น้าลึกมากเกินไปกจ็ ะทาใหพ้ ืชสวนเสียหาย ตวั อยา่ ง : จะขวนใครเขา้ มาอยดู่ ว้ ยก็ใหร้ ะมดั ระวงั เด๋ียวจะกลายเป็น ชกั น้าเขา้ ลึก ชกั ศึกเขา้ บา้ น 7.คางคกขนึ้ วอ หมายถึง คนท่ีมีฐานะต่าตอ้ ย พอไดด้ ีแลว้ ก็มกั แสดงกิริยาโออ้ วด ลืมตวั
ท่ีมา : คางคก เป็นสัตวค์ ร่ึงบกคร่ึงน้า มีรูปร่างคลา้ ยกบแต่หนงั หยาบและขรุขระน่าเกลียด จึงมกั เปรียบกบั คนที่ต่าตอ้ ย วอ เป็นยา่ นที่มีหลงั คาเป็นรูปเรือน ใชค้ นหาม สมยั ก่อนผเู้ ป็นขนุ บางหรือมียศฐาบรรดาศกั ด์ิจะเดินทางไปท่ีใดมกั จะนงั่ วอ มีขา้ ทาสบริวารหาม ตวั อยา่ ง แต่ก่อนเคยอยสู่ ลมั มาดว้ ยกนั แต่นอแต่งงานกบั เศรษฐี ท่าทางเธอก็เปล่ียนไป พบหนา้ เพอื่ นเธอก็ทาเชิดเหลิง ไม่ยอมหกั หาย ทาเหมือน คางคกข้นึ วอ ไมม่ ีผดิ 8.ช้างท้งั ตัวเอาใบบัวปิ ดไม่มดิ หมายถึง ความผิดหรือความชว่ั ร้ายแรงท่ีรู้กนั ทวั่ จะปิ ดยงั ไงกไ็ มม่ ิด ที่มา-ชา้ งเป็นสตั วข์ นาดใหญ่ ใบบวั จึงไม่พอที่จะปกปิ ดชา้ งได้ ตวั อยา่ ง ทาทุจริตคดโกงขนาดน้นั จะปิ ดบงั อยา่ งไรคนเขาก็รู้ ชา้ งตายท้งั ตวั เอาใบบวั ปิ ดไม่มิดหรอก - หมวดที่มีที่มาจากวรรณคดี ๓) กนิ จนพงุ แตก เป็นสานวนทานองเยาะหยนั แดกดนั หมน่ั ไส้ ผทู้ ่ีละโมบโลภมาก ไมร่ ู้จกั ประมาณในการกินอาหาร หรือมิฉะน้นั ก็กลา่ วเป็นทานองเสียดสีผทู้ ี่คดโกงทรัพยส์ ิน
คือโกงไดเ้ ทา่ ไรก็ไม่รู้จกั เพียงพอ ยงั กระทาการทจุ ริตเรื่อยไปไมล่ ะอายบาปกรรม จึงมกั จะกลา่ วกนั วา่ กินเขา้ ไปเถอะอีกหน่อยทอ้ งจะแตกตาย โดยนยั ดงั น้ีก็หมายถึง \"คนที่กินตะกละตะกลามอยา่ งตายอดตาย อีกดว้ ยสานวนน้ีมีท่ีมาจากมหาเวสสนั ดรชาดก กณั ฑม์ หาราช กลา่ วถึงตอนที่ ชูชกขอพระชาสีและกณั หาจากพระเวศสนั ดรมาไดแ้ ลว้ ก็พาสองกมุ ารเดินทางกลบั บา้ นของตน แตช่ ูชกหลงทางกลบั เดินไปสู่เมืองเชตุดร ซ่ึงพระเจา้ สัญชยั พระบิดาของพระเวสสันดรปกครองอยทู่ า้ วสัญชยั จึงไถ่สองกุมารจากชูชกดา้ ยพระราชทรัพยอ์ นั มากมาย แลว้ ประทานเล้ียงชูชกดว้ ยอาหารอนั อร่อยเลิศ ชูชกตะกละตะกลามกินเขา้ ไปจนเกินขนาดทาใหถ้ ึงแก่ความตาย การตายของชูชกเป็นที่กลา่ วกนั ตามประสาชาวบา้ นวา่ ทอ้ งแตกตาย ซ่ึงน่าจะมาจากอาหารไม่ยอ่ ย 2.จองถนน สานวนน้ีมีความหมายวา่ \"เตรียมแผนการรุกล้าที่ของคนอ่ืน ทาวางโต” คาวา่ จอง หมายถึง\"ผกู , สร้าง” เพราะฉะน้นั จองถนน ก็คือ “สร้างถนน ตามเน้ือเรื่อง รามายณะ และรามเกียรต์ิฉบบั พระราชนิพนธใ์ นรัชกาลท่ี 6 กลา่ วถึง พระรามยกไพร่พลลิงติดตามร่องรอยนางสีดาไปจนถึงฝ่ังมหาสมุทรตรงขา้ มเกาะลงั กา จะขา้ มไปไมไ่ ดจ้ ึงเกณฑพ์ ลวานรใหเ้ อาหินมาสร้างสะพานขา้ มไปลงั กา (ของไทยเราเรียกวา่ สร้างถนน จึงเกิดศพั ทว์ า่ จองถนน ซ่ึงมีปรากฏในวรรณคดีไทยหลายแห่ง เช่น ในกาสรวลโคลงด้นั โคลงบทที่ ๑๐๒ กลา่ ววา่ รามาธิราชใช้ พานร โถกนมทุ รอายาน ยา่ นกวา้ ง
จองถนนเปลง่ ศิลปะศร ผลาญราพน์ ใครอาจมาขวางขา้ ก่ายกอง บรรณานุกรม https://www.tewfree.com/สุภาษติ https://tanchanok1310.wordpress.com/ https://proverbthai.com/
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: