Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore มหาชนกคำกาพย์00

มหาชนกคำกาพย์00

Published by Mr.Peerapat Pimboon, 2021-02-22 07:33:43

Description: มหาชนกคำกาพย์00

Search

Read the Text Version

มหาชนกคํากาพย์ พระมหาชนกเจา้ กเ็ รยี นเล่าฝึ กพระองค์ อาจารยก์ ็เสริมส่ง ใหว้ ิชามหาศาล ลุสบิ หกพรรษวาร ครนั พระชนมายุ จึงคิดการชิงบลั ลงั ก์ วิชานนั แตกฉาน ประกอบการผิดแต่หลงั ครองบลั ลงั กม์ ิถลิ า เจา้ อาทํามิชอบ ลูกใจรอ้ นเป็ นหนกั หนา จําเราจะขึนนงั พระเจา้ อาไม่คู่ควร หนภี ยั มาเป็ นการด่วน ปรกึ ษาพระมารดร เก็บเอามาพออาศยั สมบตั ิพระบิดา ไปขายต่อเอาเงินไว้ ใหส้ มบตั ินนั เพมิ พูน เมือครงั พระมารดา ทรพั ยส์ ินสงิ ใดควร หากมีลูกจะขอ หวงั ออกคา้ ทางไกล

สรา้ งฐานใหม้ นั คง เพอื กูว้ งศพ์ งศป์ ระยูร จกั ปราบอาใหส้ ูญ ทวงบลั ลงั กพ์ ระบดิ า ทีพระถามว่าลูกยา เทวีจึงตอบความ แกว้ มุกดาแม่เกบ็ ไว้ เมือแม่จากพารา เลือมราศีประพาฬใส แกว้ วิเชียรกม็ ากมี อีกทงั แกว้ มณี ทาํ ทุนไวใ้ หพ้ อที ลว้ นแลว้ แกว้ ลูกใหญ่ ลูกขอรบั เพยี งกึงเดียว ไม่กลบั กลายคําจริงเจียว ลูกรกั จงรบั ไป สุวรรณภูมคิ ือจุดหมาย พระตอบพระเทวี ออกทําทุนเพอื คา้ ขาย ลงบรรทุกสําเภาไว้ จะทาํ ทุนคา้ ขาย พระมารดาทอี าลยั ไม่ปดไม่ลดเลียว ลูกจําใจตอ้ งทูลลา โอล้ ูกรกั ของมารดา พระจึงนาํ ทรพั ยส์ นิ สินคา้ มีมากมาย แลว้ จึงมาทูลลา สุวรรณภูมินนั อยู่ไกล เทวีอาลยั นกั

จะไปจนไกลตา ไม่ห่วงแม่ฤาอย่างไร พระปลอบพระมารดา ว่าลูกยาแสนอาลยั ดว้ ยการใหญ่นนั สําคญั แต่จําตอ้ งหกั ใจ พระลูกยาไม่แปรผนั เทวีจะวอนว่า แลว้ ออกเรอื สาํ เภาไป กราบลาพระทยั มนั ~~~~~~~~~~~~๐~~~~~~~~~~~

สาํ เภามเหาฬาร จะเปรยี บปานกบั วงั ใหญ่ บรรทกุ สนิ คา้ ไว้ ทงั ผูค้ นอีกเจ็ดรอ้ ย คา้ ผา้ ฝ้ ายทงั เพชรพลอย พอ่ คา้ วาณิชหลาย ขนไปคา้ เมืองสวุ รรณ สรอ้ ยคออีกแหวนกอ้ ย เจ็ดทวิ าตอ้ งหวาดหวนั ตีกราบเรือจนหกั พงั ฝ่ าคลืนฝื นลมมา รอ้ งรําพนั ดว้ ยหมดหวงั คลนื ใหญ่เขา้ โรมรนั จะมอดมว้ ยในนที มิหวาดหวนั ในฤดี พอ่ คา้ ทงั หลายนนั เรืออบั ปางเป็ นมนั คง เห็นทีว่าชีวงั กบั เนยใสมาปนลง ก็เสวยเอากําลงั ฝ่ ายพระชนกนนั ดว้ ยพระองคย์ งั มีหวงั เมือเห็นว่าถงึ ที มิถลิ าวิเทหรฐั จึงเอานําตาลกรวด สาํ เรจ็ ดงั ใจจง เปลียนผา้ ทสี วมทรง จะรอดไปถงึ ฝัง

เอาผา้ ชบุ นาํ มนั นาํ ผา้ นนั มานุ่งผลดั แต่งตวั ใหก้ ุมรดั แลว้ ปี นเสากระโดงเรอื ผูค้ นลอยคอเป็ นเบือ เรือจมทีละนอ้ ย สตั วท์ งั หลายในวารี ต่างตอ้ งตกเป็ นเหยือ ผืนนาํ นนั กเ็ ปลยี นสี พระก็หมายเขมน้ มอง ไม่นานกแ็ ปรผนั มิถลิ าทีเราปอง ดงั โลหิตนที หาทลี งใหห้ ่างภยั จนพน้ วงของสตั วร์ า้ ย นนั ฝังนครา ฝ่ าทะเลดว้ ยพากเพยี ร เห็นทางแลว้ จึงจอ้ ง ทําสตั วร์ า้ ยใหห้ นั เหียน ดว้ ยแคลงใจกลินไม่เคย แลว้ พระจึงโจนลง เจ็ดวนั วารก็ล่วงเลย ตงั มนั พระทยั ว่าย ยงั ว่ายสู่ฝังนคร นาํ มนั ทพี ระกาย ไม่เขา้ มาว่ายเวียน ทิวาราตรผี ่าน พระห่อนหยดุ นงิ เฉย

ครานนั นางมณี เมขลาผูอ้ าทร รกั ษาสีทนั ดร เห็นพระอยู่กลางนที อยากจะรูพ้ ระผูน้ ี ใคร่ลองนาํ ใจดู อยู่เช่นนสี กั เพยี งไร จะมนั ในฤดี กล่าวเป็ นเสียงเสนาะใส จึงทนว่ายอยู่ฉะนี จึงเหาะเขา้ มาเคียง ดูลาํ เค็ญจนเกนิ ที ท่านเห็นประโยชนใ์ ด ทําเช่นนเี พอื สิงใด แว่วสําเนยี งใหส้ งสยั ฝังหรอื กไ็ ม่เห็น ทนอยู่ไดเ้ ป็ นเจ็ดวนั ทนไปไม่ไดด้ ี ต่างมอดมว้ ยกนั ทงั นนั พระคิดแลว้ จึงเงยมอง พระชนกไดย้ ินเสยี ง จึงวาจาตามทํานอง เราอยู่สมุทรใหญ่ ทนว่ายอยู่เพราะความเพยี ร ไม่มีใครอยู่ดว้ ย แลว้ นเี สียงใครกนั เห็นเป็ นเทพธิดา เหตุทีเรานตี อ้ ง

ดว้ ยเพยี รนนั ใหผ้ ล กบั ผูค้ นไม่หนั เหียน บุคคลมีความเพยี ร ย่อมไดส้ ิงทีใจหวงั กล่าววาจาใหพ้ ระฟัง มณีเมขลา คงตายก่อนเป็ นแน่แท้ นมี องไม่เห็นฝัง มีใจมนั ไม่ปรวนแปร หากว่าแมจ้ ะตายไป พระตอบว่าใครนนั มไิ ดม้ ญี าติคนไหน ทาํ การไม่เชือนแช ลูกผูช้ ายพงึ กระทํา ท่านนแี กลง้ แต่กล่าวคํา ชือว่าไม่เป็ นหนี มไิ ดเ้ ห็นซึงจุดหมาย ติเตียนผูน้ นั ได้ ไม่นานจกั อนั ตราย พากเพยี รไปไม่เป็ นการ ฟังว่านางจึงแยง้ ดูน่าขําไรแ้ ก่นสาร สงิ ทีท่านกระทํา พงึ ป้ องกนั อนั ตราย ดูยากลาํ บากนกั ท่านนถี งึ ทตี าย พระว่าท่านกล่าวคํา บุคคลทาํ การงาน

หากไม่คิดไวก้ ่อน ไม่อาจผ่อนผนั ความตาย ชือว่าทฐิ ิรา้ ย ดว้ ยโง่เขลาเบาปัญญา ก็จะเปลยี นโชคชะตา ผูใ้ ดละความเพยี ร คนเกยี จครา้ นไม่ไดด้ ี ผลกรรมย่อมธรรมา ควรกระทําใหเ้ ต็มที แต่เราควรพยายาม แมห้ วงั เห็นผลกรรม ว่าเราคือผูร้ อดความ ไรผ้ ลกต็ ามที ดว้ ยความเพยี รใช่อืนใด เรอื พงั ภินทล์ ่มจมไป ท่านเห็นมใิ ช่หรือ เราคงตายไปเช่นกนั มรณะจากโชคทราม ทนว่ายนาํ มาเจ็ดวนั ยดึ เอาฝังเป็ นทีหมาย คนอืนลว้ นตายสิน ฟังวาจาพระฦาสาย หากขาดความเพยี รไซร้ เป็ นเลิศลําความมนั คง แต่เพยี รพยายาม ดว้ ยใจเราคงมนั มณีเมขลา ท่านนเี ป็ นยอดชาย

ทะเลใหญ่หลวงนกั ท่านหาญหกั ดว้ ยใจจง ไม่เกรงชีพปลดิ ปลง จงถงึ ฝังดงั ตงั ใจ เอากรอมุ้ พระองคไ์ ว้ แลว้ นางจึงลงชอ้ น ไปยงั เมืองมถิ ลิ า พาสู่นภาลยั ทพิ ยข์ องนางเมขลา จนถงึ เมืองทีประสงค์ พระชนกสมั ผสั กาย เมขลาก็วางลง กเ็ ขา้ สู่นทิ รา รกั ษาอุทยานนี พระจกั ราใหอ้ ยู่ดี ถงึ สวนอุทยาน กก็ ลบั ไปสที นั ดร เทวาทีอยู่คง จงช่วยกนั รกั ษา สงั ความแลว้ เทพี ~~~~~~~~~~๐~~~~~~~~~~

เจ็ดวนั ก่อนหนา้ นนั องคร์ าชนั ใกลม้ ว้ ยมรณ์ พระทยั ก็ร่มุ รอ้ น ดว้ ยมีแต่พระธิดา ทงั แหลมหลกั พระปัญญา รูปร่างวิไลลกั ษณ์ พระนามาสีวลี เป็ นเลศิ ในโลกา อํามาตยท์ ูลพระทรงศรี จะโปรดใหใ้ ครครองเมือง คราจวนจะสินสูญ จงฟังความไวส้ ืบเรือง หากพระสินชีวี ตอ้ งเป็ นผูน้ างยนิ ดี อชั ฌาสยั พระบุตรี พระตอบกระแสถาม หวั นอนแห่งบลั ลงั กท์ อง ผูท้ ีจะสบื เมือง ย่อมจะเบายกไดค้ ล่อง มเิ ขยอื นเคลือนจากพาน สามารถผูกนาํ ใจ เขารูแ้ หล่งจะบอกขาน ทงั เป็ นผูร้ ูท้ ี คนผูน้ นั ควรครองเมือง ธนูหนกั ของเรา พนั คนเขา้ จบั ตอ้ ง ขุมทรพั ยส์ บิ สามแห่ง แมใ้ ครปรชี าชาญ

อํามาตยก์ ราบทูลว่า ทรงเมตตาประทานเรือง ขุมทรพั ยอ์ นั รองเรือง พระพยากรณอ์ ย่างไร พระผ่านเกลา้ ทรงขานไข โปลชนกเจา้ อาทิตยข์ ึนคือทิศทาง ขุมทรพั ยแ์ ห่งหนงึ ไซร้ ภายในนกี ม็ ีบา้ ง ไม่ใช่ทงั นอกและใน อาทิตยต์ กก็มี ตรงไมร้ งั ทงั สีได้ ภายนอกก็หลายอย่าง ทีปลายงาทงั สองขา้ ง มีอีกหลายทปี ลายหาง ขาขึนและขาลง พระก็ดบั ไปกบั กาล หนงึ โยชนโ์ ดยรอบไกล จึงอํามาตยป์ ระชมุ งาน มิถลิ าวิเทหรฐั ทนี ําทีปลายไม้ คนสาํ คญั ของกษตั ริย์ จบคําหทยางค์ เพราะรบั ใชต้ ลอดมา ครนั สินการพระศพ หาผูจ้ ะขึนผ่าน จึงว่าคนผูน้ นั พระนางไม่ขอ้ งขดั

มหาเสนาบดี คือผูน้ ีทคี วรค่า จึงใหค้ นไปหา เพอื เชิญท่านขึนครองเมอื ง ทราบเรอื งนกี ็ฟ้ ุงเฟื อง มหาเสนาบดี จึงแต่งตวั มุ่งเขา้ วงั บุญเราจะครองเมอื ง ไปทูลกล่าวถงึ ความหวงั ว่าประสงคค์ รองแผ่นดิน เมอื ถงึ ก็ใหบ้ ่าว เกดิ คําถามเมือไดย้ ิน ใหร้ าชธิดาฟัง ท่านผูน้ หี รอื คู่ควร ท่านเสนาใหป้ ันป่ วน พระนางไดฟ้ ังความ ครองแผ่นดินหรอื อย่างไร สงสยั ไม่สดุ สิน รีบเขา้ มาใหเ้ รว็ ไว อย่าชา้ ใหต้ อ้ งเสยี การ จําจะลองปัญญา ทราบความนกี ็ลนลาน ว่าท่านนจี ะควร ผลนุ ผลนั เขา้ มาเฝ้ านาง จงเชิญท่านเสนา วิงมาถา้ วิงได้ มหาเสนาบดี วิงโผนโจนทะยาน

มาหมอบเฉพาะพกั ตร์ หายใจฮกั ดงั เสียงคราง ฟื ดฟาดประหลาดอย่าง เอาลาต่างมามดั คอ เพยี งแค่นยี งั ไม่พอ พระนางใคร่ลองดี รีบลกุ ขึนเดินเวียนวน เสนาอย่าเพอ่ ทอ้ แลว้ กลบั มาตามสถล เดินใหเ้ รว็ อย่าชา้ ที เดนิ ไปทอ้ งพระโรง พระพโิ รธอะไรนี เร็วไวอย่ามวั บ่น เดนิ กลบั ไปแลว้ กลบั มา วานท่านช่วยนวดบาทา มหาเสนาโอด ท่านเสนากน็ วดพลนั จําตอ้ งยอมโดยดี เราคงไดไ้ อศวรรย์ คงโปรดเราแลว้ คราวนี พระนางยืนพระบาท กําลงั เผลอก็โดนดี เร็วไวอย่าไดช้ า้ กลางอรุ ะท่านเสนา กระหยมิ อยู่ในใจ พระทยั ของเธอนนั เพลินนวดพระบาทเธอ เธอถบี เขา้ เต็มที

เจา้ โง่อุบาทวน์ กั เผยอรกั พระธิดา ขา้ หลวงอย่ารอชา้ จบั ไปทุบเสยี ใหต้ าย ทาํ ตามสงั นางโฉมฉาย นางในเมือไดฟ้ ัง มหาเสนาบดี กลุม้ รุมเขา้ ทํารา้ ย เสนารอ้ งตายแลว้ นี ออกจากวงั จึงรอดตาย ทงั ทุบทงั ถบี ถอง เสนาเขลากอ็ บั อาย ชลุ มุนวิงวุ่นหนี ว่าอย่างไรท่านเสนา นพี ระองคโ์ ปรดหรอื ขา ครนั พบผูค้ นเขา้ ฉนั ว่าท่านไม่ใช่คน เมือเขาเขา้ ทกั ทาย เอาตะพดตีจนป่ น นเี คราะหด์ จี ึงรอดมา สาํ เร็จดงั ประสงค์ ก็นงิ อนั อนาถา คําตอบท่านเสนา ผูค้ ู่ควรพระเทวี ดุรา้ ยราวรากษส ซอ้ มเสียแทบทพุ พล ขุนนางทงั ปวงนนั ตอ้ งเรมิ สบื เสาะหา

สบื ดูในรวั วงั ทงั ขุนคลงั ทงั เศรษฐี มหาดเลก็ ประดามี พนกั งานทกุ อตั รา เผือเกิดความเสน่หา เลอื กมาใหเ้ ธอถาม ใหท้ ําท่าเป็ นบา้ บอ เธอกลบั ลองปัญญา เห็นโฉมงามก็สอพลอ พระโฉมยงกอ็ ่อนใจ ทกุ คนลว้ นยอมตาม คงถงึ คราตอ้ งเปลียนใหม่ ดูนา่ อนาถหนอ คนผูน้ นั จึงจะควร ใหร้ ูถ้ งึ คนทงั มวล ขุนนางจึงปรกึ ษา มายกลองธนุศร คนยกธนูได้ คนนบั พนั จึงอาจถอน ไม่อาจยกขึนจากพาน ใหป้ ่ าวรอ้ งอืออึง เผือมใี ครรูส้ ถาน ชาวเมอื งพากนั ชวน ทศิ ทางไหนคือหวั นอน แต่ศาสตรานนั หนกั ต่างคนจึงตอ้ งจร จึงเปลียนวิธีใหม่ บลั ลงั กอ์ นั ตระการ

ป่ าวรอ้ งใหผ้ ูค้ น เขา้ มายลบรรจถรณ์ ต่างคนปัญญาอ่อน มิไดร้ ูว้ ่าทิศใด คอยสดบั จะมีใคร เปลียนมาหาขุมทรพั ย์ มผี ูใ้ ดรูส้ ถาน สิบสามแห่งไกลใกล้ มแี ต่เขลาไม่เป็ นการ ดว้ ยความเมอื งมอิ าจรอ รอแลว้ กร็ อเล่า จึงว่าเราอย่าเพ่อทอ้ ขุนนางกร็ นร่าน มหี วงั อยู่อย่าปรารมภ์ เพอื หาผูท้ เี หมาะสม ปุโรหิตผูเ้ ฒ่า กบั ผูท้ รี ถชีทาง หนทางนนั ยงั พอ พธิ ีการตามเยยี งอย่าง ผูกไวจ้ ูงราชยาน จกั ปล่อยราชรถ ดอกไมส้ ดดูตระการ เราควรจกั บงั คม กกธุ ภณั ฑก์ เ็ ชิญไว้ แลว้ จึงใหจ้ ดั งาน มา้ ขาวเขา้ ระวาง ประดบั ราชรถ เครืองทองทงั หีบพาน

จตุรงคเสนา ลอ้ มหลงั หนา้ ดูเกรียงไกร ประโคมดนตรที า้ ย พระเตา้ ทองรินนําลง เชือกพรอ้ มพรกั ไม่ใหลหลง สายหนงั แอกปฏกั พราหมณอ์ ่านเวทเอาฤกษช์ ยั ประพรมนาํ สวดส่ง ผูใ้ ดมบี ุญยิงใหญ่ จงตรงไปรบั เอามา อธิษฐานดว้ ยวจี จากวงั ใหญ่เขา้ สวนขวา ราชรถองคน์ ไี ซร้ พระชนกนนั บรรทม นกึ กงั ขาเกนิ จิตข่ม ราชรถก็แล่นไป ดูรูปลกั ษณก์ เ็ ขา้ ที หยดุ ทีแผ่นศิลา รีบยึดถอื ไม่พอที ประโคมขึนดูอาการ ขุนนางกต็ ามมา จะอยู่นงิ ไม่ฟ้ ุงซ่าน บุรุษนนี ่าชม จะลนลานรบี หนีไป จะใช่ผูค้ วรหรือ จะลองใหด้ นตรี หากเป็ นผูค้ วรจรงิ แต่หากเป็ นจณั ฑาล

ครนั ดนตรีบรรเลง เป็ นเสียงเพลงสนนั ไหว ฟื นองคพ์ ระทรงชยั พระกเ็ ปิ ดผา้ คลุมแล พระก็รูบ้ ุญเราแน่ เห็นราชรถอยู่ กค็ ลมุ ผา้ ไม่อาลยั ไดค้ รองเมอื งเป็ นแท้ มาดูบาทพระทรงชยั ว่าเป็ นใหญ่ในโลกา ปุโรหิตามาตย์ เพยี งเมอื งเดยี วเป็ นอาณา เห็นลกั ษณะได้ ไม่พอบุญพระจกั รี เป็ นเสยี งเพลงขึนอีกที ใช่ว่าพระจะครอง กเ็ ปิ ดผา้ ขึนมาดู แผ่นดนิ ทงั โลกหลา้ ราวจะปลีกจากคนผู้ ดว้ ยตืนใจพระบุญญา ใหด้ นตรีบรรเลง ลงกราบกรานพระนาถา ฝ่ ายองคพ์ ระทรงศรี มาถงึ องคพ์ ระทรงชยั แลว้ กลบั บรรทมอีก มาหอ้ มลอ้ มกนั อยู่ ปุโรหิตาจารย์ สมบตั ิมิถลิ า

กราบทูลเชิญพระองค์ ขอพระจงรบั เอาไว้ พระลุกขึนปราศรยั นอี ย่างไรไม่รูเ้ ลย ไปแห่งไหนกนั เล่าเอ่ย พระผูค้ รองเวียงใหญ่ ว่าพระองคน์ คิ าลยั ปุโรหิตเฉลย โอรสาอยู่ทไี หน ว่ามแี ต่พระธิดา พระจึงกล่าวถามว่า เราจะรบั เป็ นราชา ปุโรหิตกล่าวไข อภเิ ษกพระทรงยศ ของพระองคม์ ปิ รากฏ พระว่าหากกระนนั พระตอบความไปตามจริง ขุนนางต่างเขา้ มา สมประสงคต์ รงทุกสงิ เชิญเสดจ็ สู่เวียงชยั แลว้ ทูลว่าพระนาม ฟ้ ุงปรากฏยศไกร มหาชนกนามกําหนด ชมปราสาทอนั งามตา ขุนนางต่างชืนชม กระนนั อย่าประวิง พระทรงราชรถ เสด็จเขา้ ฝ่ ายใน

ความทราบถงึ พระบาท องคพ์ ระราชธิดา ขุนนางเชิญราชา องคใ์ หม่มาครองบลั ลงั ก์ ว่าจะเป็ นอย่างทีหวงั จะลองดูใหเ้ ห็น ใหเ้ ราขบั กลบั ออกไป หรอื เป็ นเพยี งไอง้ งั ทูลสาราพระทรงชยั ใหพ้ ระไปพบพระนาง จึงใหค้ นไปหา พระแสรง้ ทาํ เป็ นเมินหมาง ว่าเธอนนั หวงั ใจ แลว้ แกลง้ ชมปราสาทงาม เฝ้ าทูลยาํ เป็ นสองสาม ทรงยศไดฟ้ ังคํา จึงกลบั มาดว้ ยจนใจ จะทูลไปก็ช่าง แลว้ ทูลว่าพระทรงชยั กระแสความของพระองค์ ราชบุรษุ ก็ทูลซํา องคร์ าชานไี ม่หลง พระยงั ไม่ฟังความ แต่จะลองดูอีกที เขา้ เฝ้ าราชธิดา มิไดส้ นพระทยั พระนางดํารวิ ่า มีสติไม่โง่งง

แลว้ ใหร้ าชบุรษุ ไปกราบทูลพระจกั รี ว่าพระสีวลี ยงั อยากใหพ้ ระไปพบ ก็ไม่เขา้ ไปประสบ มหาชนกเจา้ ถงึ สามครงั ก็ทูลลา ราชบุรุษเมอื ทูลครบ ว่าภูมนี ปี รีชา ดูเหตุการณน์ ตี ่อไป พระนางสีวลี เธอไม่รูว้ ่าทรงชยั จําเราจะรอท่า ตกพระทยั ไม่รูอ้ งค์ กริ ยิ าดงั งวยงง ครนั เพลินพระองคอ์ ยู่ พระกเ็ กียวกรเธอไว้ เสดจ็ มาในทนั ใด บนบลั ลงั กอ์ นั เกรยี งไกร ว่าเมอื ครงั พระนาถา เผลอเสดจ็ เขา้ ไปหา เราใคร่รูพ้ จนา เธอยนื พระกรส่ง ตรสั สงั ความว่ากระไร จึงเสดจ็ ขึนประทบั แลว้ ถามอํามาตยใ์ หญ่ ยงั คงพระชนมอ์ ยู่ พระองคม์ ีบญั ชา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook