RMUTTO มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลตะวนั ออก Rajamangala University of Technology Tawan-ok คู่มือ นักศึกษา ระดบั ปริญญาตรี 2561
คำนำ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลตะวนั ออก เปน็ สถาบนั อุดมศึกษาท่ีมงุ่ พัฒนานักศึกษาใหม้ ี คณุ ลกั ษณะบณั ฑิตที่พงึ ประสงคข์ องมหาวิทยาลัย มีคุณธรรม จริยธรรม มคี วามรบั ผดิ ชอบ รจู้ ักคดิ วเิ คราะห์ มีความสามารถในการแข่งขันและความเป็นสากลทางวิชาการ มที กั ษะทางภาษาและการสื่อสาร ตลอดจนทกั ษะดา้ นอื่น ๆ ที่จาเป็นตอ่ การดารงชวี ิต ดงั น้ันการศกึ ษาในมหาวิทยาลัย นักศึกษาจึงต้องมี ความตง้ั ใจ ใฝ่รู้ และแสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ เรยี นรูต้ ่าง ๆ เพอ่ื พัฒนาตนเองใหม้ ีคุณลกั ษณะเปน็ บัณฑิตที่ พึงประสงค์ ดงั คาขวัญ “สู้งาน วชิ าการดี มวี นิ ัย ใส่ใจสงั คม” คูม่ ือนักศึกษาเล่มน้ี มหาวิทยาลยั จัดทาขนึ้ โดยรวบรวมขอ้ มูลที่เก่ียวข้องกบั นักศึกษา ประวัติ ความเปน็ มาของมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวนั ออก พระราชบญั ญัติ พระราชกฤษฎีกา ระเบียบ ข้อบังคับ และประกาศต่าง ๆ ทนี่ ักศึกษาควรทราบ แนวปฏบิ ัติสาหรับนกั ศึกษาในด้านการเรียน และอ่นื ๆ ท้งั น้ี เพ่ือใหน้ ักศึกษาได้ทาความเขา้ ใจและถือปฏบิ ัตติ ลอดระยะเวลาของการเปน็ นกั ศึกษา หากมขี ้อสงสยั ประการใดในระหวา่ งการศึกษาขอใหต้ ดิ ต่ออาจารยท์ ี่ปรกึ ษา และสานักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน เพือ่ แก้ไขปัญหาด้านการจดั การเรยี น และดา้ นวิชาการ ซง่ึ หวงั ว่านกั ศกึ ษาจะใชค้ ู่มือเล่มน้ีใหเ้ กดิ ประโยชน์ ใหม้ ากทสี่ ุด
สำรบญั หน้า เกยี่ วกบั มหำวทิ ยำลัยเทคโนโลยีรำชมงคลตะวันออก .....................................................................๑ ประวัตคิ วามเปน็ มา...................................................................................................................๒ ต้นไม้ประจามหาวทิ ยาลัย..........................................................................................................๒ สัญลักษณข์ องมหาวิทยาลัย.......................................................................................................๓ ปณิธานประจามหาวทิ ยาลัย......................................................................................................๓ สปี ระจามหาวิทยาลัย................................................................................................................๔ สถานท่ีต้ังวิทยาเขต ................................................................................................................... ๔ หลักสูตร / สาขาวิชาทเ่ี ปิดสอนในวิทยาเขตต่างๆ .....................................................................๗ พระรำชบัญญัติ พระรำชกฤษฎกี ำ ข้อบังคับ ระเบียบ และประกำศต่ำงๆ................................... ๑๐ พระราชบัญญตั ิมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล พ.ศ. ๒๕๔๘............................................... ๑๐ พระราชกฤษฎีกา ว่าดว้ ยปริญญาในสาขาวชิ า อักษรย่อสาหรับ .............................................. ๓๓ สาขาวิชา ครุยวทิ ยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครยุ ประจาตาแหนง่ ของมหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลตะวนั ออก พ.ศ. ๒๕๕๐ พระราชกฤษฎกี า วา่ ด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสาหรบั .............................................. ๓๘ สาขาวิชา ครยุ วิทยฐานะ เขม็ วิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่ง ของมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลตะวันออก (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๕ พระราชกฤษฎกี า วา่ ด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสาหรบั .............................................. ๔๑ สาขาวชิ า ครยุ วิทยฐานะ เขม็ วิทยฐานะ และครุยประจาตาแหนง่ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๘ ข้อบงั คับมหาวิทยาลัยฯ ว่าดว้ ย การศกึ ษาระดับปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๕๓ ............................... ๔๔ ขอ้ บงั คับมหาวิทยาลัยฯ ว่าดว้ ย การศกึ ษาระดับปรญิ ญาตรี (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๕.............. ๕๖ ขอ้ บงั คับมหาวิทยาลยั ฯ ว่าดว้ ย การศึกษาระดับปรญิ ญาตรี (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐.............. ๕๘ ขอ้ บังคบั มหาวิทยาลยั ฯ ว่าดว้ ย การจัดการสหกิจศึกษาและการฝกึ งานวชิ าชีพ พ.ศ. ๒๕๕๖.............๖๑ ขอ้ บงั คับมหาวิทยาลัยฯ วา่ ดว้ ยเครื่องแบบ เคร่อื งหมาย และเครอ่ื งแตง่ กายนกั ศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๙..๖๕ ข้อบงั คับมหาวิทยาลัยฯ ว่าดว้ ย วนิ ยั ของนักศึกษามหาวทิ ยาลัยฯ พ.ศ. ๒๕๔๙....................... ๖๙ ระเบียบมหาวทิ ยาลยั ฯ วา่ ดว้ ยการเทียบโอนผลการเรยี น พ.ศ. ๒๕๕๐ ................................... ๗๓ ระเบียบมหาวิทยาลยั ฯ วา่ ดว้ ยการเก็บเงินค่าบารุงการศึกษา ค่าลงทะเบยี น........................... ๗๗ และค่าธรรมเนยี มการศึกษา ระดบั ปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๔๙ ระเบียบมหาวิทยาลัยฯ ว่าดว้ ยการเก็บเงนิ ค่าบารงุ การศึกษา ค่าลงทะเบยี น........................... ๗๘ และค่าธรรมเนียมการศึกษา ระดบั ปรญิ ญาตรี คณะสัตวแพทยศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๒
สำรบญั (ตอ่ ) ระเบยี บมหาวิทยาลัยฯ วา่ ดว้ ย การปฐมนิเทศและปัจฉิมนเิ ทศนกั ศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๑ .................. ๘๑ ระเบยี บมหาวทิ ยาลยั ฯ ว่าด้วย หอพกั นักศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๖........................................................ ๘๔ ระเบยี บสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ว่าด้วยการสอบของนักศึกษา ............................................... ๙๕ ระดับปรญิ ญาตรี พ.ศ. ๒๕๓๗ ประกาศมหาวทิ ยาลยั ฯ เร่ือง การวดั และประเมนิ ผลการศึกษา............................................................ ๙๘ ประกาศมหาวิทยาลัยฯ เรื่อง อัตราค่าบารุงการศกึ ษา ค่าลงทะเบยี น ....................................................๑๐๔ และค่าธรรมเนียมการศึกษาในการจดั การศึกษาระดับปริญญาตรี ภาคปกติ พ.ศ. ๒๕๕๗ ประกาศมหาวทิ ยาลยั ฯ เรื่อง แก้ไขเพม่ิ เติมอัตราค่าบารุงการศึกษา ค่าลงทะเบียน...............................๑๑๑ และค่าธรรมเนียมการศึกษาในการจดั การศึกษาระดับปริญญาตรี ภาคปกติ พ.ศ. ๒๕๕๗ ประกาศมหาวิทยาลัยฯ เรื่อง แก้ไขเพม่ิ เติมอัตราคา่ บารงุ การศึกษา ค่าลงทะเบียน...............................๑๑๓ และค่าธรรมเนียมการศึกษาในการจดั การศึกษาระดับปริญญาตรี ภาคปกติ พ.ศ. ๒๕๕๗ (ฉบบั ที่ ๒) ประกาศมหาวิทยาลยั ฯ เรื่อง แก้ไขเพ่มิ เติมอัตราค่าบารุงการศึกษา ค่าลงทะเบียน...............................๑๑๕ และค่าธรรมเนียมการศึกษาในการจดั การศึกษาระดับปริญญาตรี ภาคปกติ พ.ศ. ๒๕๕๗ (ฉบับท่ี ๓) ประกาศมหาวทิ ยาลัยฯ เร่ือง การเก็บเงินค่าบารุงการศึกษา ค่าลงทะเบียน ...........................................๑๑๘ และค่าธรรมเนียมการศึกษาระดบั ปริญญาตรี ภาคปกติ หลักสูตร สตั วแพทยศาสตรบัณฑิต พ.ศ. ๒๕๕๗ ประกาศมหาวิทยาลยั ฯ เร่ือง อตั ราค่าบารุงการศกึ ษา ค่าลงทะเบียน และ.............................................๑๒๑ ค่าธรรมเนียมการศึกษาในการจดั การศึกษาระดบั ปริญญาตรี ภาคสมทบ พ.ศ. ๒๕๕๘ ประกาศมหาวทิ ยาลัยฯ เรื่อง กิจกรรมเสริมหลักสูตรเพื่อพัฒนานักศกึ ษา.......................................๑๒๕ ประกาศมหาวิทยาลัยฯ เร่ือง หลกั เกณฑ์การเขา้ พักอาศัย ในหอพักมหาวิทยาลัยฯ ........................๑๒๘ ประกาศมหาวทิ ยาลยั ฯ เรื่อง เคร่ืองแตง่ กายนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีการบนิ ....................................๑๒๙ สาขาการจัดการการบนิ ประกาศสถาบันเทคโนโลยรี าชมงคล เรื่อง ข้อปฏิบัติในการสอบของนักศึกษา.......................................๑๓๑ ระดับปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๓๘
สำรบญั (ตอ่ ) ประกาศมหาวทิ ยาลยั ฯ เรื่อง แนวปฏิบตั ิในการดาเนนิ การเทยี บโอนผลการเรียน ........................ ๑๓๔ จากการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอธั ยาศัย เข้าสู่การศึกษาในระบบ ประกาศมหาวทิ ยาลยั ฯ เรื่อง ค่าธรรมเนียมการเทียบโอนผลการเรียน......................................... ๑๓๖ ระบบบรกิ ำรกำรศึกษำสำหรับนกั ศกึ ษำ ...................................................................................... ๑๓๗ เข้าสรู่ ะบบ ............................................................................................................................. ๑๓๙ เปลี่ยนรหสั ผา่ น...................................................................................................................... ๑๔๐ ลงทะเบยี น............................................................................................................................. ๑๔๑ ผลการลงทะเบียน .................................................................................................................. ๑๕๐ ตารางเรียนตารางสอบ ........................................................................................................... ๑๕๑ ระเบียนประวตั ิ....................................................................................................................... ๑๕๒ ภาระค่าใช้จ่าย/ทุน................................................................................................................. ๑๕๒ ผลการศกึ ษา .......................................................................................................................... ๑๕๓ รายวิชาท่ไี ม่มีเกรด/ช่วยประมวลผลการเรียน......................................................................... ๑๕๓ ตรวจสอบจบ.......................................................................................................................... ๑๕๖ เขียนคาร้องและตดิ ตามผลคารอ้ ง........................................................................................... ๑๕๗ ทะเบยี นรายชื่อ ...................................................................................................................... ๑๕๘ เสนอความคิดเหน็ .................................................................................................................. ๑๕๘ สถิติการเข้าใช้ระบบ............................................................................................................... ๑๕๙ ออกจากระบบ........................................................................................................................ ๑๕๙ ขอ้ มูลท่ัวไปที่นักศึกษำควรทรำบ ................................................................................................ ๑๖๐ เครือ่ งแต่งกาย แบบปกติ........................................................................................................ ๑๖๑ ความหมายของรหัสประจาตวั นกั ศึกษา ๑๓ หลัก................................................................... ๑๖๓ การปฏิบัตติ นในการขอรบั บรกิ าร ........................................................................................... ๑๖๓ ขน้ั ตอนการลงทะเบยี นเรียน................................................................................................... ๑๖๓ การขอหนงั สอื รบั รองทางการศกึ ษา........................................................................................ ๑๖๓ การเพิ่ม-ถอนรายวชิ า ............................................................................................................. ๑๖๔ การขอลาพักการศึกษา........................................................................................................... ๑๖๔ การขอรักษาสภาพนักศกึ ษา ................................................................................................... ๑๖๕ การขอกลับเข้าศึกษา.............................................................................................................. ๑๖๕ การขอคืนสภาพการเป็นนักศึกษา .......................................................................................... ๑๖๕
สำรบญั (ตอ่ ) เกณฑ์การพน้ สภาพนักศึกษา..................................................................................................๑๖๖ บรกิ ารแนะแนวการศึกษาและจดั หางาน.................................................................................๑๖๗ ทุนการศึกษา ..........................................................................................................................๑๖๘ การประกนั อุบตั ิเหตุสว่ นบุคคล...............................................................................................๑๗๐ กจิ กรรมนักศึกษา ...................................................................................................................๑๗๐ คุณสมบัติและข้อปฏบิ ัติในการขอผ่อนผนั การตรวจเลือกเข้ารับราชการหารกองประจาการ .......๑๗๓ การขอผ่อนผนั การเขา้ รับราชการทหารกองประจาการเพ่ือลาศึกษาต่อ .........................................๑๗๔ การขอผ่อนผันการเรียกพลเพื่อตรวจสอบ เพ่ือฝึกวิชาทหารหรอื ....................................................๑๗๕ การระดมพลเพ่ือความพรง่ั พร้อม
เกยี่ วกับมหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก
RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY TAWAN-OK ประวตั มิ หาวิทยาลยั มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เป็นมหาวิทยาลยั ด้านวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี จดั ต้ังขึ้นตามพระราชบัญญตั ิมหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล พ.ศ. ๒๕๔๘ ซง่ึ ไดร้ บั การประกาศในราช- กิจจานุเบกษา และมีผลบงั คับใชต้ ั้งแต่วนั ที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๔๘ เป็นต้นมา โดยในพระราชบญั ญตั ิฉบบั น้ี ไดก้ าหนดใหร้ วมกลมุ่ วิทยาเขตในสงั กัดสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล จานวน ๔ วิทยาเขต และ ๑ คณะ ตาม มาตรา ๖๕(๓) ไดแ้ ก่ วิทยาเขตจักรพงษภูวนารถ วิทยาเขตอเุ ทนถวาย วิทยาเขตบางพระ วทิ ยาเขต จันทบรุ ี และคณะเกษตรศาสตร์บางพระ พรอ้ มทั้งใหย้ กฐานะขนึ้ เป็นมหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล ตะวนั ออก ตามมาตรา ๕(๓) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลตะวันออก จัดการศึกษาทง้ั ในระดับปรญิ ญาโท และปริญญาตรี ในสาขาวิชาชีพตา่ ง ๆ กระจายอยตู่ ามวิทยาเขตในสังกัดทัง้ ๔ แหง่ ตามความเชย่ี วชาญเฉพาะทางของ แตล่ ะวทิ ยาเขต ซง่ึ หน่วยงานแต่ละแหง่ ของมหาวทิ ยาลัยฯ ล้วนมปี ระวตั ใิ นการก่อตัง้ และจัดการศึกษา ด้านวชิ าชพี ไมน่ ้อยกวา่ ๕๐ ปี ตน้ ไม้ประจามหาวทิ ยาลัย ต้นพะยอม (Pha-yom) พะยอม เป็นไม้หวงห้ามประเภท ก ของกรมป่าไม้ และเป็นไม้อนุรักษ์ในโครงการพันธ์ุไม้หายาก ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซ่ึงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ตะวันออกร่วมอยู่ในโครงการฯ โดยมหาวิทยาลัยฯ ได้อนุรักษ์ต้นพะยอมขนาดใหญ่อายุกว่า ๕๐ ปี ไว้ท่ี บริเวณอาคารคณะสัตวแพทยศาสตร์ ๑ ต้น มีลักษณะทรงต้นท่ีโดดเด่นสวยงามมาก พะยอมต้นท่ี มหาวิทยาลัยฯ อนุรักษ์ไว้นี้จะออกดอกประมาณช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคม ซ่ึงเป็นช่วง เทศกาลแห่งความสุขของทุกคน ในช่วงเวลาดังกล่าวจะตรงกับช่วงเวลาที่นักศึกษาช้ันปีสุดท้ายของ มหาวิทยาลัยฯ กาลังจะสาเร็จการศึกษา เป็นบัณฑิตท่ีกล้าแข็งเสมือนผลของต้นพะยอมที่สุกแก่เต็มท่ี ๒
คู่มือนกั ศกึ ษาระดับปรญิ ญาตรี ๒๕๖๑ พร้อมท่ีจะร่วงหล่นจากต้นแม่ อันเปรียบเสมือนตัวมหาวิทยาลัยฯ โดยมีปีกทั้ง ๓ ปีก ซ่ึงเปรียบเสมือน ความรู้ คุณธรรม และจริยธรรม ที่บัณฑิตได้รับขณะศึกษาอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยฯ คอยช่วยพยุงและค้าจุน ขณะหลุดร่วงออกไปจากต้นแม่ พร้อมท่ีจะงอกและเจริญเติบโตเป็นพะยอมต้นใหม่นอกรั้วมหาวิทยาลัย ต่อไป สัญลกั ษณข์ องมหาวทิ ยาลยั ภายในวงกลมเปน็ รูปดอกบวั บาน ๘ กลีบ ลอ้ มรอบ ดอกบัวบาน ๘ กลีบ หมายถงึ ทางแห่ง ความสาเรจ็ มรรค ๘ และความสดช่นื เบิกบาน ก่อใหเ้ กิดปัญญา แผข่ จรไปท่ัวสารทิศ ภายใต้ดอกบวั เป็น ดวงตราพระราชลญั จกรบรรจุอยู่ หมายถึง สัญลกั ษณแ์ ละเคร่อื งหมายประจาพระองคพ์ ระมหากษัตริยข์ อง รัชกาลท่ี ๙ ซึง่ พระองค์ เป็นผู้พระราชทานนามวา่ “มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลตะวนั ออก” บนตรา รปู วงกลม มีพระมหาพชิ ัยมงกฎุ ครอบและมเี ลข ๙ อยู่ หมายถึง รชั กาลท่ี ๙ ด้านลา่ งของตราวงกลมทา พับกรอบโค้งรองรับ ชอ่ื “มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลตะวนั ออก” ค่นั ปิดหัวท้ายของกรอบด้วย ลวดลายดอกไม้พิมพป์ ระจายามทั้งสองข้าง หมายถึง ความเจรญิ รุ่งเรือง แจม่ ใส เบิกบาน ปณธิ านประจามหาวิทยาลัย “สูง้ าน วิชาการดี มีคุณธรรม เป็นผนู้ าดา้ นเทคโนโลยี” ๓
RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY TAWAN-OK สีประจามหาวทิ ยาลัย สีน้าเงนิ น้าทะเล สนี า้ เงินน้าทะเล (sea blue) หรอื สีเทอรค์ วอยส์ (turquoise) เปน็ สที ี่มคี วามสดใส ดจุ ดังผนื ทะเล แห่งภาคตะวันออก ขณะท่สี นิ แร่เทอร์ควอยส์เปน็ เสมือนสัญลกั ษณแ์ หง่ ทอ้ งฟ้าและสุริยเทพ ซ่ึงเปน็ ตัวแทน ของพลงั อานาจและความศักดส์ิ ทิ ธ์ิ ชว่ ยให้มีสตปิ ญั ญาดีและมีความสามารถเหนือผ้อู ่ืน แคลว้ คลาด ปลอดภยั และมชี ัยชนะเหนือศตั รู ตลอดจนอุปสรรคท้ังปวง สถานที่ตง้ั วทิ ยาเขต วทิ ยาเขตบางพระ (ที่ตงั้ สานักงานอธิการบด)ี ประกอบดว้ ย : คณะเกษตรศาสตร์และทรพั ยากรธรรมชาติ คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะสตั วแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีการบิน ท่อี ยู่ : ๔๓ หมู่ ๖ ตาบลบางพระ อาเภอศรรี าชา จงั หวัดชลบรุ ี รหัสไปรษณยี ์ ๒๐๑๑๐ โทรศพั ท์ 033-136099 เวบ็ ไซต์ www.rmutto.ac.th ๔
คูม่ อื นักศึกษาระดับปริญญาตรี ๒๕๖๑ วทิ ยาเขตจันทบุรี ประกอบด้วย : คณะเทคโนโลยอี ตุ สาหกรรมการเกษตร คณะเทคโนโลยสี ังคม ที่อยู่ : ๑๓๑ หมู่ ๕ ถนนบาราศนราดูร ตาบลพลวง ก่งิ อาเภอเขาคิชฌกูฎ จงั หวดั จันทบรุ ี รหัสไปรษณีย์ ๒๒๒๑๐ โทรศพั ท์ ๐-๓๙๓๐-๗๒๖๘ เวบ็ ไซต์ www.chan.rmutto.ac.th วิทยาเขตอุเทนถวาย คณะในสังกดั : คณะวิศวกรรมศาสตรแ์ ละสถาปตั ยกรรมศาสตร์ ท่อี ยู่ : ๒๒๕ ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทมุ วัน กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณยี ์ ๑๐๓๐๐ โทรศพั ท์ ๐-๒๒๕๒-๗๐๒๙ เวบ็ ไซต์ www.uthen.rmutto.ac.th ๕
RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY TAWAN-OK วทิ ยาเขตจักรพงษภวู นารถ คณะในสงั กดั : คณะบรหิ ารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะศิลปศาสตร์ ที่อยู่ : ๑๒๒/๔๑ ถนนวิภาวดรี งั สติ แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ รหัสไปรษณีย์ ๑๐๔๐๐ โทรศัพท์ ๐-๒๖๙๒-๒๓๖๐-๔ เวปไซด์ www.cpc.rmutto.ac.th ๖
คู่มือนกั ศึกษาระดับปริญญาตรี ๒๕๖๑ หลักสูตร/สาขาวชิ าท่ีเปิดสอนในวิทยาเขตต่าง ๆ ปริญญาตรี คณะ/หลกั สตู ร/สาขาวชิ า ๔ ปี ๕ ปี ๖ ปี ๒-๓ ปี เทียบโอน วิทยาเขตบางพระ คณะเกษตรศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติ ๏๏ หลกั สตู รวิทยาศาสตรบัณฑิต (วท.บ.) ๏๏ สาขาวิชาพืชศาสตร์ ๏๏ สาขาวิชาออกแบบและสร้างสรรค์ภมู ทิ ศั น์ ๏๏ สาขาวิชาสัตวศาสตร์ ๏๏ สาขาวิชาเกษตรกลวิธาน ๏๏ สาขาวิชาเทคโนโลยีเพาะเลี้ยงสัตวน์ ้า ๏๏ สาขาวิชาเทคโนโลยีการผลติ พืช สาขาวชิ าวศิ วกรรมเคร่อื งจกั รกลเกษตร ๏๏ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ๏ หลกั สตู รบริหารธุรกิจบณั ฑติ (บธ.บ.) ๏ สาขาวชิ าการจัดการ ๏ สาขาวชิ าการจัดการโลจสิ ติกส์และซพั พลายเชนดจิ ทิ ลั สาขาวิชาการบริหารธุรกิจบัณฑิต ๏ หลักสตู รเศรษฐศาสตรบัณฑิต (ศ.บ.) หลักสตู รศิลปศาสตรบณั ฑิต (ศศ.บ.) ๏๏ สาขาวิชาภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสารสากล ๏ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๏ หลักสูตรวิทยาศาสตรบณั ฑิต (วท.บ.) ๏๏ สาขาวชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยกี ารอาหาร ๏ สาขาวิชาเทคโนโลยชี ีวภาพ สาขาวชิ าวิทยาการคอมพวิ เตอร์ ๏ สาขาวิชาเทคโนโลยีการประกอบอาหารและการบรกิ าร สาขาวิชาผลติ ภณั ฑ์เพ่ือสุขภาพและความงาม สาขาวิชาเทคโนโลยีชวี ภาพเกษตร ๗
RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY TAWAN-OK ปรญิ ญาตรี คณะ/หลักสูตร/สาขาวิชา ๔ ปี ๕ ปี ๖ ปี ๒-๓ ปี เทยี บโอน คณะสัตวแพทยศาสตร์ หลกั สูตรวิทยาศาสตรบณั ฑิต (วท.บ.) ๏๏ สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตรส์ ุขภาพสตั ว์ หลกั สตู รสตั วแพทยศาสตรบัณฑิต (สพ.บ.) ๏ สาขาวชิ าสตั วแพทยศาสตร์ ๏ หลกั สูตรสัตวแพทยศาสตรบ์ ัณฑติ ๏ สถาบันเทคโนโลยกี ารบิน หลกั สตู รบริหารธรุ กจิ บณั ฑติ (บธ.บ.) ๏๏ สาขาวิชาการจัดการการบนิ ๏๏ สานักวิชาวิศวกรรมศาสตร์และนวตั กรรม หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑติ (วศ.บ.) ๏ สาขาวิชาวิศวกรรมเกษตร สาขาวิชาวิศวกรรมเมคคาทรอนกิ สแ์ ละหนุ่ ยนต์ ๏๏ สาขาวิชาเทคโนโลยีพลงั งาน ๏ ๏๏ วทิ ยาเขตจันทบุรี ๏๏ คณะเทคโนโลยอี ตุ สาหกรรมการเกษตร ๏๏ หลกั สตู รวิทยาศาสตรบณั ฑิต (วท.บ.) ๏๏ สาขาวิชาพชื ศาสตร์ ๏๏ สาขาวชิ าวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีการอาหาร สาขาวชิ าเพาะเล้ยี งสัตว์นา้ และการจัดการประมง ๏ สาขาวชิ าเทคโนโลยชี ีวภาพอุตสาหกรรมการเกษตร ๏ สาขาวชิ าเทคโนโลยกี ารจดั การอตุ สาหกรรมอาหาร ๏ สาขาวชิ าเทคโนโลยกี ารผลติ สตั ว์ สาขาวิชาเทคโนโลยีการเกษตร สาขาวิชานวัตกรรมอาหารและธุรกิจ - นวัตกรรมอาหารและโภชนาการ - นวัตกรรมธรุ กิจอาหาร - การประกอบอาหารและแปรรูป ๘
คมู่ อื นกั ศกึ ษาระดับปรญิ ญาตรี ๒๕๖๑ ปริญญาตรี คณะ/หลกั สูตร/สาขาวชิ า ๔ ปี ๕ ปี ๖ ปี ๒-๓ ปี เทยี บโอน หลกั สตู รอุตสาหกรรมศาสตรบัณฑิต (อส.บ.) สาขาวชิ าเทคโนโลยเี ครือ่ งกล ๏๏ โครงการจดั ตง้ั คณะวิศวกรรมศาสตรบ์ รู ณาการและเทคโนโลยี ๏๏ หลกั สูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑติ (วศ.บ.) ๏๏ สาขาวิชาวศิ วกรรมอุตสาหการ ๏๏ สาขาวชิ าวิศวกรรมไฟฟา้ สาขาวิชาวศิ วกรรมบูรณาการ ๏๏ คณะเทคโนโลยีสังคม ๏๏ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑติ (บธ.บ.) ๏๏ สาขาวิชาการจดั การทรัพยากรมนษุ ย์ ๏ สาขาวชิ าการจดั การเพ่ือผ้ปู ระกอบการ สาขาวิชาการจัดการโลจสิ ติกส์ ๏ หลกั สูตรบัญชบี ัณฑิต (บช.บ.) ๏๏ หลกั สูตรวิทยาศาสตรบณั ฑิต (วท.บ.) ๏ สาขาวิชาวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ สาขาวชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศ ๏ สาขาวิชาธุรกจิ เกษตรดิจทิ ัล หลักสตู รศลิ ปศาสตรบณั ฑิต (ศศ.บ.) ๏ สาขาวิชาภาษาอังกฤษเพอื่ อุตสาหกรรมธุรกจิ บริการ อนุปริญญา ๏๏ สาขาวชิ าธรุ กิจบริการสขุ ภาพและการท่องเท่ียว ๏๏ วิทยาเขตอุเทนถวาย ๏ คณะวิศวกรรมศาสตรแ์ ละสถาปัตยกรรมศาสตร์ หลักสูตรวศิ วกรรมศาสตรบัณฑิต (วศ.บ.) สาขาวชิ าวศิ วกรรมก่อสรา้ ง สาขาวิชาวศิ วกรรมโยธา สาขาวิชาการบรหิ ารการกอ่ สรา้ ง ๙
RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY TAWAN-OK ปรญิ ญาตรี คณะ/หลักสูตร/สาขาวชิ า ๔ ปี ๕ ปี ๖ ปี ๒-๓ ปี เทยี บโอน หลกั สตู รสถาปัตยกรรมศาสตรบณั ฑิต (สถ.บ.) สาขาวชิ าเทคโนโลยสี ถาปตั ยกรรม ๏ สาขาวชิ าออกแบบอตุ สาหกรรม สาขาวชิ าสถาปัตยกรรมภายใน ๏๏ สาขาวิชาเทคโนโลยีการออกแบบผลิตภณั ฑอ์ ุตสาหกรรม ๏๏ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต (วธ.บ.) สาขาวิชาการจดั การโลจิสตกิ ส์และซพั พลายเชน ๏๏ วิทยาเขตจักรพงษภูวนารถ ๏ คณะบรหิ ารธุรกิจและเทคโนโลยสี ารสนเทศ หลกั สตู รบรหิ ารธุรกจิ บัณฑติ (บธ.บ.) ๏ สาขาวชิ าการตลาด สาขาวชิ าการจดั การ ๏๏ สาขาวชิ าระบบสารสนเทศ ๏๏ สาขาวชิ าการจดั การโลจิสตกิ ส์ ๏๏ หลักสตู รบญั ชบี ัณฑติ (บช.บ.) ๏ หลกั สตู รเศรษฐศาสตรบัณฑิต (ศ.บ.) ๏๏ หลกั สตู รวิทยาศาสตรบณั ฑิต (วท.บ.) ๏ สาขาวชิ าวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ สาขาวชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศ ๏ หลกั สตู รเทคโนโลยบี ณั ฑติ (ทล.บ.) ๏ สาขาวิชาเทคโนโลยมี ัลตมิ เี ดีย สาขาวชิ าเทคโนโลยีการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ๏ ๏ คณะศิลปศาสตร์ หลกั สูตรศิลปศาสตรบณั ฑติ (ศศ.บ.) ๏ สาขาวชิ าภาษาอังกฤษเพื่อการสือ่ สารสากล ๏ สาขาวิชาการทอ่ งเทย่ี ว ๑๐
พระราชบัญญัติ พระราชกฤษฎีกา ข้อบงั คับ ระเบยี บ และประกาศตา่ ง ๆ
RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY TAWAN-OK พระราชบญั ญัติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ. ๒๕๔๘ ——————————— ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘ เปน็ ปที ี่ ๖๐ ในรัชกาลปจั จุบัน พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยทเ่ี ปน็ การสมควรจดั ตั้งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลข้ึนแทนสถาบนั เทคโนโลยี ราชมงคล จงึ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ราพระราชบญั ญัติข้ึนไว้โดยคาแนะนาและยินยอมของ รัฐสภา ดังต่อไปน้ี มาตรา ๑ พระราชบัญญัติน้เี รยี กว่า “พระราชบัญญตั ิมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล พ.ศ. ๒๕๔๘” มาตรา ๒ พระราชบญั ญัตนิ ีใ้ ห้ใชบ้ ังคบั ตง้ั แต่วันถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา เป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิก (๑) พระราชบัญญัตวิ ทิ ยาลยั เทคโนโลยแี ละอาชวี ศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๑๘ (๒) พระราชบัญญัตเิ ปล่ียนชื่อวิทยาลยั เทคโนโลยแี ละอาชีวศกึ ษาเปน็ สถาบันเทคโนโลยี ราช มงคล พ.ศ. ๒๕๓๒ มาตรา ๔ ในพระราชบญั ญัตนิ ี้ “มหาวิทยาลยั ” หมายความวา่ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลตามพระราชบัญญตั ิน้ี “สภามหาวิทยาลยั ” หมายความว่า สภามหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลตามพระราชบัญญตั นิ ี้ “สภาวชิ าการ” หมายความว่า สภาวชิ าการมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตาม พระราชบญั ญตั ินี้ “สภาคณาจารยแ์ ละข้าราชการ” หมายความว่า สภาคณาจารยแ์ ละข้าราชการมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลตามพระราชบญั ญตั ิน้ี “วิทยาเขต” หมายความวา่ เขตการศึกษาของมหาวิทยาลัยท่ีมีคณะ สถาบนั สานัก วิทยาลัย หรอื สว่ นราชการท่เี รยี กช่อื อย่างอน่ื ที่มฐี านะเทียบเท่าคณะ ตง้ั แตส่ องสว่ นราชการขนึ้ ไปตั้งอยใู่ นเขต การศกึ ษานัน้ ตามที่สภามหาวิทยาลยั กาหนด รฐั มนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ มาตรา ๕ ใหส้ ถาบันเทคโนโลยรี าชมงคลตามพระราชบัญญตั ิสถาบันเทคโนโลยรี าชมงคล พ.ศ. ๑๐
คมู่ อื นักศกึ ษาระดับปริญญาตรี ๒๕๖๑ ๒๕๑๘ เป็นมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลตามพระราชบัญญัตินี้ จานวน ๙ แห่ง ดังนี้ (๑) มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี (๒) มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลกรงุ เทพ (๓) มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก (๔) มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (๕) มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลรตั นโกสินทร์ (๖) มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา (๗) มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลศรีวิชยั (๘) มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลสวุ รรณภมู ิ (๙) มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ใหม้ หาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลแต่ละแห่งตามวรรคหนึง่ เปน็ นติ ิบคุ คลและเป็นสว่ นราชการ ตามกฎหมายวา่ ด้วยวิธกี ารงบประมาณในสงั กัดสานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวง ศึกษาธิการ มาตรา ๖ ให้รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธกิ ารรักษาการตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี และ มี อานาจออกกฎกระทรวง และประกาศ เพื่อปฏิบัตกิ ารตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวง และประกาศนั้น เมอื่ ได้ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาแล้วให้ใชบ้ ังคับได้ หมวด ๑ บทท่ัวไป ———————————- มาตรา ๗ ใหม้ หาวทิ ยาลัยเป็นสถาบนั อุดมศึกษาด้านวิชาชีพและเทคโนโลยี มีวตั ถุประสงค์ ใหก้ ารศึกษา สง่ เสริมวิชาการและวชิ าชพี ชัน้ สงู ท่เี น้นการปฏบิ ตั ิ ทาการสอน ทาการวิจยั ผลติ ครูวิชาชีพ ใหบ้ ริการทางวิชาการในดา้ นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ก่สังคม ทะนุบารงุ ศิลปะและวัฒนธรรม และ อนรุ กั ษส์ งิ่ แวดลอ้ ม โดยใหผ้ ู้สาเรจ็ อาชีวศึกษามีโอกาสในการศึกษาต่อดา้ นวชิ าชพี เฉพาะทางระดบั ปริญญาเปน็ หลกั มาตรา ๘ มหาวทิ ยาลัยอาจแบ่งสว่ นราชการ ดงั นี้ (๑) สานักงานอธกิ ารบดี (๒) สานกั งานวทิ ยาเขต (๓) บณั ฑติ วิทยาลัย (๔) คณะ (๕) สถาบนั (๖) สานกั ๑๑
RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY TAWAN-OK (๗) วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั อาจให้มสี ่วนราชการทเ่ี รยี กช่ืออย่างอน่ื ท่ีมีฐานะเทียบเท่าคณะ เพ่ือดาเนินการ ตามวัตถปุ ระสงคใ์ นมาตรา ๗ เปน็ ส่วนราชการในมหาวิทยาลยั อีกได้ สานกั งานอธิการบดแี ละสานักงานวิทยาเขต อาจแบ่งสว่ นราชการเป็นกองหรอื ส่วนราชการ ท่ี เรยี กช่อื อย่างอ่นื ทมี่ ีฐานะเทียบเทา่ กอง บณั ฑิตวิทยาลยั อาจแบ่งสว่ นราชการเปน็ สานักงานคณบดี กองหรือสว่ นราชการท่เี รยี ก ช่อื อยา่ งอนื่ ที่มีฐานะเทียบเทา่ กอง คณะ อาจแบ่งส่วนราชการเป็นสานักงานคณบดี ภาควิชา กองหรือส่วนราชการที่เรยี กช่ืออย่าง อน่ื ทีม่ ฐี านะเทียบเทา่ ภาควิชาหรือกอง สถาบัน สานักหรือส่วนราชการท่เี รยี กชือ่ อยา่ งอืน่ ทม่ี ีฐานะเทยี บเทา่ คณะ อาจแบ่งส่วนราชการ เปน็ สานกั งานผูอ้ านวยการ กองหรอื ส่วนราชการทีเ่ รยี กช่อื อยา่ งอน่ื ท่ีมีฐานะเทียบเทา่ กอง วิทยาลัย อาจแบ่งส่วนราชการเป็นสานกั งานผอู้ านวยการ ภาควชิ า กองหรอื ส่วนราชการ ท่ี เรยี กชือ่ อย่างอ่นื ทีม่ ฐี านะเทยี บเท่าภาควิชาหรือกอง สานกั งานคณบดี สานักงานผู้อานวยการ ภาควชิ า กองหรือส่วนราชการท่เี รยี กชอื่ อย่างอ่ืนท่ีมี ฐานะเทยี บเทา่ ภาควิชาหรอื กอง อาจแบง่ สว่ นราชการเปน็ งานหรือส่วนราชการทเ่ี รยี กชอื่ อยา่ งอน่ื ท่ีมฐี านะ เทยี บเทา่ งาน มาตรา ๙ การจัดตง้ั การรวม และการยุบเลิกสานักงานวทิ ยาเขต บณั ฑติ วทิ ยาลัย คณะ สถาบัน สานัก วิทยาลัยหรอื ส่วนราชการทีเ่ รยี กช่ืออย่างอ่นื ทม่ี ฐี านะเทยี บเทา่ คณะ ใหท้ าเปน็ กฎกระทรวง การแบ่งส่วนราชการเปน็ สานักงานคณบดี สานกั งานผู้อานวยการ ภาควิชา กองหรอื ส่วน ราชการท่เี รยี กชอ่ื อยา่ งอ่ืนท่ีมีฐานะเทยี บเท่าภาควชิ าหรือกอง ใหท้ าเป็นประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ การแบ่งสว่ นราชการเป็นงานหรือสว่ นราชการทเ่ี รียกช่ืออย่างอ่นื ท่ีมีฐานะเทยี บเท่างาน ให้ทา เปน็ ประกาศมหาวทิ ยาลยั มาตรา ๑๐ ภายใตว้ ตั ถุประสงค์ตามมาตรา ๗ มหาวิทยาลัยจะรบั สถาบันการศึกษาชน้ั สูงหรอื สถาบันอื่นเข้าสมทบในมหาวิทยาลัยก็ได้ และมีอานาจให้ปรญิ ญา อนุปรญิ ญาหรือประกาศนยี บตั รชน้ั หนงึ่ ชัน้ ใดแกผ่ ้สู าเรจ็ การศึกษาจากสถาบันสมทบน้นั ได้ การรับเข้าสมทบหรือยกเลิกการสมทบซ่ึงสถาบนั การศึกษาชั้นสูงหรือสถาบันอืน่ ให้เป็นไปตาม ขอ้ บงั คบั ของมหาวทิ ยาลัยและประกาศในราชกจิ จานุเบกษา การควบคมุ สถาบนั การศกึ ษาชัน้ สงู หรอื สถาบนั อนื่ ที่เข้าสมทบในมหาวิทยาลัย ใหเ้ ปน็ ไปตาม ข้อบังคบั ของมหาวิทยาลัย มาตรา ๑๑ มหาวิทยาลยั จะปฏิเสธการรับผู้ใดเขา้ ศึกษาในมหาวิทยาลัย หรอื ยุตหิ รอื ชะลอ การศกึ ษาของนักศึกษาผู้ใดด้วยเหตุเพียงว่าผู้นั้นขาดแคลนทนุ ทรพั ยเ์ พือ่ จ่ายคา่ ธรรมเนยี มการศึกษาต่างๆ แก่มหาวิทยาลัยมิได้ ๑๒
คู่มอื นกั ศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรี ๒๕๖๑ หลักเกณฑ์การพิจารณาว่านักศึกษาผู้ใดขาดแคลนทุนทรัพย์ ให้เป็นไปตามระเบียบทสี่ ภา มหาวทิ ยาลยั กาหนด มาตรา ๑๒ นอกจากเงินที่กาหนดไว้ในงบประมาณแผน่ ดินมหาวิทยาลัยอาจมีรายได้ ดังน้ี (๑) เงนิ ผลประโยชน์ คา่ ธรรมเนียม คา่ ปรับ และคา่ บริการต่าง ๆ ของมหาวทิ ยาลัย (๒) รายได้หรือผลประโยชน์ท่ไี ด้มาจากการใช้ท่ีราชพัสดุซ่งึ มหาวทิ ยาลัยปกครอง ดูแลหรอื ใช้ ประโยชน์ (๓) เงนิ และทรพั ย์สินซ่ึงมผี อู้ ุทิศให้แกม่ หาวทิ ยาลยั (๔) รายได้หรือผลประโยชนท์ ไ่ี ด้จากการลงทุนและจากทรัพยส์ นิ ของมหาวิทยาลยั (๕) เงินอุดหนุนจากองค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ หรือเงินอดุ หนนุ อ่นื ท่มี หาวิทยาลัยได้รับ (๖) รายได้หรือผลประโยชน์อยา่ งอนื่ ใหม้ หาวทิ ยาลยั มีอานาจในการปกครอง ดูแล บารุงรักษา ใชแ้ ละจัดหาผลประโยชน์จาก ทรัพยส์ นิ ของมหาวทิ ยาลยั ท้ังทเี่ ป็นทีร่ าชพสั ดุตามกฎหมายวา่ ด้วยท่ีราชพัสดุและทเี่ ป็นทรพั ย์สนิ อื่น รวมทงั้ จดั หารายไดจ้ ากการให้บริการ และการจัดเก็บคา่ ธรรมเนยี มการศกึ ษาของสว่ นราชการใน มหาวิทยาลัย รายได้และผลประโยชนข์ องมหาวทิ ยาลยั เบย้ี ปรบั ทีเ่ กิดจากการดาเนนิ การตามวัตถุประสงค์ ของมหาวิทยาลัย รวมทงั้ เบย้ี ปรบั ท่ีเกิดจากการผดิ สญั ญาลาศกึ ษา และเบ้ยี ปรบั ทีเ่ กิดจากการผดิ สญั ญา การซือ้ ทรพั ย์สินหรือสัญญาจ้างทาของที่ดาเนนิ การโดยใช้เงินงบประมาณ ไม่เป็นรายได้ที่ตอ้ งนาสง่ กระทรวง การคลังตามกฎหมายว่าดว้ ยเงินคงคลงั และกฎหมายวา่ ด้วยวิธกี ารงบประมาณ มาตรา ๑๓ บรรดาอสงั หาริมทรพั ย์ทีม่ หาวทิ ยาลยั ไดม้ าโดยมผี ูอ้ ุทิศให้หรือได้มาโดยการซือ้ หรือแลกเปล่ียนจากรายได้ของมหาวทิ ยาลยั ตง้ั แต่วันท่ีพระราชบัญญัตนิ ีใ้ ชบ้ งั คับ ไมถ่ ือเปน็ ทรี่ าชพัสดแุ ละ ใหเ้ ปน็ กรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย มาตรา ๑๔ บรรดารายได้และทรพั ยส์ ินของมหาวทิ ยาลัยจะตอ้ งจดั การเพ่อื ประโยชน์ภายใต้ วัตถปุ ระสงค์ของมหาวทิ ยาลัยตามมาตรา ๗ เงนิ และทรัพย์สนิ ท่ีมผี ู้อุทิศให้แก่มหาวทิ ยาลยั จะต้องจัดการตามเงือ่ นไขทผ่ี อู้ ุทิศให้กาหนดไว้ และตอ้ งเปน็ ไปตามวตั ถุประสงค์ของมหาวิทยาลยั แต่ถ้ามีความจาเปน็ ตอ้ งเปลีย่ นแปลงเงื่อนไขดงั กล่าว มหาวทิ ยาลยั ตอ้ งได้รบั ความยินยอมจากผู้อทุ ิศให้หรือทายาท หากไมม่ ที ายาทหรอื ทายาทไมป่ รากฏ จะต้องได้รบั อนมุ ตั จิ ากสภามหาวิทยาลัย ๑๓
RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY TAWAN-OK หมวด ๒ การดาเนินการ ————————————— มาตรา ๑๕ ให้มหาวทิ ยาลัยแต่ละแหง่ มสี ภามหาวิทยาลัย ประกอบด้วย (๑) นายกสภามหาวิทยาลัย ซึ่งจะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แตง่ ตง้ั (๒) กรรมการสภามหาวทิ ยาลัยโดยตาแหน่ง ได้แก่ อธกิ ารบดีและประธานสภาคณาจารย์ และ ข้าราชการ (๓) กรรมการสภามหาวิทยาลัยจานวนหกคน ซ่งึ เลอื กจากผู้ดารงตาแหนง่ รองอธิการบดี คณบดี ผอู้ านวยการสถาบนั ผอู้ านวยการสานกั ผ้อู านวยการวทิ ยาลยั และหวั หนา้ ส่วนราชการ ท่เี รยี กชื่ออย่าง อืน่ ทีม่ ฐี านะเทยี บเทา่ คณะ (๔) กรรมการสภามหาวิทยาลัยจานวนหกคน ซงึ่ เลอื กจากคณาจารยป์ ระจาของมหาวิทยาลยั และข้าราชการพลเรือนในสถาบนั อดุ มศึกษาที่มิใชผ่ ู้ดารงตาแหน่งตาม (๓) (๕) กรรมการสภามหาวทิ ยาลัยผทู้ รงคุณวุฒิจานวนสิบสี่คน ซ่ึงจะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แตง่ ตั้งจากบคุ คลภายนอกมหาวทิ ยาลัย โดยคาแนะนาของนายกสภามหาวิทยาลัย และกรรมการสภา มหาวทิ ยาลยั ตาม (๒) (๓) และ (๔) ทง้ั น้ี ผทู้ รงคณุ วุฒิดังกลา่ วต้องมาจากผมู้ ีความรู้ ความเชยี่ วชาญด้าน วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กฎหมาย การงบประมาณและการเงิน การบรหิ ารงานบุคคล การศกึ ษา เศรษฐศาสตร์ และสังคมศาสตร์ อยา่ งน้อยดา้ นละหนึ่งคน และด้านอื่น ๆ ตามทสี่ ภามหาวทิ ยาลยั เห็นสมควร ให้สภามหาวิทยาลัยแตง่ ต้ังรองอธิการบดีคนหนง่ึ ซึง่ มิใชก่ รรมการสภามหาวิทยาลัยตาม (๓) เป็น เลขานกุ ารสภามหาวิทยาลยั โดยคาแนะนาของอธกิ ารบดี ใหส้ ภามหาวทิ ยาลัยเลือกกรรมการสภามหาวิทยาลัยผ้ทู รงคณุ วุฒิคนหนึง่ เป็นอุปนายกสภา มหาวิทยาลยั ทาหน้าที่แทนนายกสภามหาวิทยาลยั เมอื่ นายกสภามหาวิทยาลยั ไม่อาจปฏิบัติหนา้ ทไ่ี ด้ หรือ เม่อื ไมม่ ผี ดู้ ารงตาแหนง่ นายกสภามหาวิทยาลัย คุณสมบัติ หลกั เกณฑ์ และวิธกี ารได้มาซึ่งนายกสภามหาวิทยาลยั และกรรมการสภา มหาวทิ ยาลัยผทู้ รงคุณวฒุ ิ คุณสมบตั ิของผเู้ ลือก ตลอดจนหลักเกณฑ์ และวธิ ีการเลอื กกรรมการสภา มหาวิทยาลยั ตาม (๓) และ (๔) ใหเ้ ป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย มาตรา ๑๖ นายกสภามหาวทิ ยาลัยและกรรมการสภามหาวทิ ยาลัยตามมาตรา ๑๕ (๓) (๔) และ (๕) มีวาระการดารงตาแหน่งคราวละสามปี แต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ แต่งตั้งหรืออาจไดร้ ับ เลอื กใหม่อีกได้ นอกจากการพ้นจากตาแหน่งตามวาระตามวรรคหนงึ่ นายกสภามหาวิทยาลยั และกรรมการสภา มหาวิทยาลยั ตามมาตรา ๑๕ (๓) (๔) และ (๕) พน้ จากตาแหนง่ เม่อื (๑) ตาย ๑๔
คู่มือนักศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรี ๒๕๖๑ (๒) ลาออก (๓) ขาดคุณสมบตั ิของการเป็นนายกสภามหาวิทยาลยั หรอื กรรมการสภามหาวิทยาลัยใน ประเภทน้นั (๔) ถูกจาคุกโดยคาพิพากษาถึงท่สี ดุ ใหจ้ าคกุ (๕) สภามหาวิทยาลัยมีมตใิ ห้ออกเพราะมีความประพฤตเิ สื่อมเสีย บกพร่องต่อหนา้ ที่หรือหย่อน ความสามารถ (๖) เปน็ บคุ คลลม้ ละลาย (๗) เป็นคนไร้ความสามารถหรอื คนเสมือนไร้ความสามารถ การพน้ จากตาแหนง่ ตาม (๕) ต้องมีคะแนนเสียงลงมติไมน่ ้อยกว่าสองในสามของจานวน กรรมการสภามหาวิทยาลัยเท่าทีม่ ีอยู่ ในกรณที ต่ี าแหน่งนายกสภามหาวิทยาลยั หรือกรรมการสภามหาวทิ ยาลยั วา่ งลง ไมว่ า่ ดว้ ย เหตุ ใดและยงั มิได้ดาเนนิ การให้ได้มาซงึ่ นายกสภามหาวทิ ยาลัยหรือกรรมการสภามหาวิทยาลัยแทนตาแหน่งท่ี วา่ ง ให้สภามหาวิทยาลัยประกอบดว้ ยกรรมการสภามหาวิทยาลัยเท่าทมี่ ีอยู่ ในกรณที นี่ ายกสภามหาวิทยาลัยหรือกรรมการสภามหาวิทยาลยั ตามมาตรา ๑๕ (๓) (๔) หรอื (๕) พ้นจากตาแหน่งก่อนครบวาระ และได้ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งหรือได้มกี ารเลอื กผู้ดารง ตาแหน่งแทนแล้ว ใหผ้ ู้ซง่ึ ไดท้ รงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ แต่งตงั้ หรอื ไดร้ บั เลือกอยใู่ นตาแหนง่ เท่ากับวาระ ท่เี หลืออยู่ของผ้ซู ึ่งตนแทน แตถ่ า้ วาระการดารงตาแหนง่ เหลอื อยนู่ ้อยกวา่ เก้าสิบวนั จะไม่ดาเนนิ การให้มีผู้ ดารงตาแหนง่ แทนก็ได้ ในกรณที น่ี ายกสภามหาวิทยาลัยหรือกรรมการสภามหาวทิ ยาลัยตามมาตรา ๑๕ (๓) (๔) และ (๕) พน้ จากตาแหน่งตามวาระ แต่ยังมไิ ด้ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้ังนายกสภามหาวทิ ยาลยั หรือ กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคณุ วฒุ ิหรือยงั มไิ ด้เลอื กกรรมการสภามหาวทิ ยาลัยอ่นื ข้ึนใหม่ ให้นายก สภามหาวิทยาลัยหรือกรรมการสภามหาวทิ ยาลัยซ่งึ พน้ จากตาแหน่งปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ต่อไปจนกว่าจะได้มนี ายก สภามหาวทิ ยาลยั หรือกรรมการสภามหาวิทยาลัยใหมแ่ ล้ว ใหม้ ีการดาเนนิ การให้ไดม้ าซง่ึ นายกสภามหาวิทยาลัยหรอื กรรมการสภามหาวทิ ยาลัยตาม มาตรา ๑๕ (๓) (๔) และ (๕) ภายในเกา้ สิบวันนับแต่วนั ทีผ่ ู้นนั้ พ้นจากตาแหนง่ มาตรา ๑๗ สภามหาวิทยาลยั มีอานาจและหนา้ ที่ควบคุมดูแลกจิ การท่ัวไปของมหาวทิ ยาลัย และ โดยเฉพาะให้มีอานาจและหน้าท่ี ดงั น้ี (๑) วางนโยบาย และอนมุ ตั ิแผนพัฒนาของมหาวทิ ยาลัยเก่ยี วกบั การศึกษา การส่งเสริมวชิ าการ และวชิ าชีพช้นั สูงท่ีเน้นการปฏิบัติ ทาการสอน ทาการวจิ ยั ผลติ ครวู ิชาชีพ ให้บริการทางวิชาการในด้าน วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ก่สังคม ทะนุบารุงศลิ ปะและวัฒนธรรม และอนรุ ักษ์สิ่งแวดล้อม (๒) วางระเบียบ ออกข้อบังคับและประกาศของมหาวิทยาลยั และอาจมอบใหส้ ่วนราชการใดใน มหาวิทยาลยั เปน็ ผวู้ างระเบยี บ ออกข้อบงั คบั และประกาศสาหรบั สว่ นราชการนัน้ เป็นเร่อื ง ๆ ไปก็ได้ ๑๕
RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY TAWAN-OK (๓) กากบั มาตรฐานการศกึ ษาและการประกันคุณภาพการศึกษา (๔) ติดตามและประเมินผลการดาเนนิ งานของมหาวิทยาลยั (๕) พิจารณาใหค้ วามเห็นชอบหลกั สตู รการศึกษาให้สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานที่คณะกรรมการการ อุดมศกึ ษากาหนด (๖) พจิ ารณาการจัดตั้ง การรวม และการยบุ เลิก สานักงานวทิ ยาเขต บัณฑิตวทิ ยาลัย คณะ สถาบนั สานกั วทิ ยาลัยหรอื ส่วนราชการทเ่ี รยี กชือ่ อยา่ งอ่ืนทม่ี ฐี านะเทยี บเท่าคณะ รวมทั้งการแบ่งส่วน ราชการของส่วนราชการดังกล่าว (๗) อนมุ ัติให้ปรญิ ญา ประกาศนียบตั รบัณฑิตชน้ั สงู ประกาศนียบัตรบัณฑิต อนุปรญิ ญา และ ประกาศนยี บตั ร (๘) อนุมตั ิการรับสถาบันการศึกษาชั้นสูง และสถาบันอื่นเขา้ สมทบ หรือการยกเลิกการสมทบ (๙) พิจารณาเสนอเร่ืองเพ่ือทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ แต่งตง้ั และถอดถอนนายกสภา มหาวทิ ยาลัย กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ อธกิ ารบดี ศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์พิเศษ (๑๐) แตง่ ตง้ั และถอดถอนรองอธิการบดี คณบดี ผ้อู านวยการสถาบัน ผอู้ านวยการสานกั ผอู้ านวยการวิทยาลยั หรอื หวั หนา้ ส่วนราชการทเ่ี รียกชอื่ อย่างอน่ื ท่ีมีฐานะเทยี บเท่าคณะ ศาสตราจารย์ เกยี รติคุณ รองศาสตราจารย์พิเศษ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์พิเศษ และกรรมการสภาวิชาการ (๑๑) อนมุ ตั งิ บประมาณรายจ่ายจากเงนิ รายได้ของมหาวทิ ยาลัย (๑๒) วางระเบยี บและออกข้อบงั คบั เกีย่ วกับการบรหิ ารการเงนิ และทรัพย์สนิ ของมหาวิทยาลัย และการจัดหารายได้ของมหาวทิ ยาลยั (๑๓) พิจารณาดาเนินการเกีย่ วกบั การบริหารงานบุคคลของมหาวทิ ยาลยั ตามกฎหมายว่าด้วย ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอดุ มศึกษา และตามที่คณะกรรมการข้าราชการพลเรอื นใน สถาบนั อดุ มศึกษามอบหมาย (๑๔) แตง่ ตง้ั คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือบุคคลหนง่ึ บุคคลใดเพื่อพิจารณาและเสนอ ความเหน็ ในเรอื่ งหนึ่งเรอ่ื งใด หรอื เพื่อมอบหมายให้ปฏบิ ัติการอย่างหนึง่ อยา่ งใดอนั อย่ใู นอานาจและ หน้าที่ของสภามหาวิทยาลยั (๑๕) พจิ ารณาและให้ความเห็นชอบในเรอ่ื งที่เกี่ยวกับกิจการของมหาวิทยาลยั ตามท่ีอธกิ ารบดี เสนอ และอาจมอบหมายให้อธิการบดีปฏบิ ัตอิ ยา่ งหน่ึงอย่างใดอันอยใู่ นอานาจและหนา้ ท่ีของสภา มหาวทิ ยาลัยก็ได้ (๑๖) สง่ เสริม สนับสนนุ และแสวงหาวิธีการ เพ่ือพัฒนาความก้าวหน้าของมหาวทิ ยาลัย (๑๗) ปฏบิ ตั ิหน้าทีอ่ ืน่ เก่ียวกับกิจการของมหาวทิ ยาลยั ที่มิได้ระบุใหเ้ ปน็ หน้าทขี่ องผ้ใู ด โดยเฉพาะ มาตรา ๑๘ การประชุมสภามหาวิทยาลัย ให้เปน็ ไปตามข้อบงั คับของมหาวทิ ยาลัย มาตรา ๑๙ ให้มหาวิทยาลยั แต่ละแห่งมสี ภาวชิ าการ ประกอบดว้ ย ๑๖
คู่มือนกั ศกึ ษาระดับปริญญาตรี ๒๕๖๑ (๑) อธิการบดี เป็นประธานสภาวชิ าการ (๒) รองอธกิ ารบดฝี ่ายวิชาการ เป็นรองประธานสภาวิชาการ (๓) กรรมการสภาวิชาการโดยตาแหน่ง ไดแ้ ก่ รองอธกิ ารบดปี ระจาวิทยาเขต คณบดี ผู้อานวยการสถาบนั เพ่ือการวิจัย และผู้อานวยการวทิ ยาลัย ถ้ามี (๔) กรรมการสภาวิชาการจานวนหกคน ซึ่งเลอื กจากคณาจารยป์ ระจาในมหาวทิ ยาลัย (๕) กรรมการสภาวชิ าการผ้ทู รงคุณวฒุ ิจานวนสบิ คน ซึ่งแต่งตงั้ จากบุคคลภายนอก โดยความ เห็นชอบของสภามหาวิทยาลัย คณุ สมบัติ หลักเกณฑ์ และวธิ กี ารไดม้ าซง่ึ กรรมการสภาวิชาการตาม (๔) และ (๕) ให้เป็นไป ตามข้อบังคับของมหาวทิ ยาลัย ให้อธกิ ารบดีแต่งตั้งคณาจารย์ประจาในมหาวิทยาลัยคนหน่ึงเปน็ เลขานุการสภาวชิ าการ และ อาจแตง่ ตั้งคณาจารย์ประจาในมหาวทิ ยาลยั อีกไม่เกินสองคนเปน็ ผูช้ ่วยเลขานกุ าร มาตรา ๒๐ วาระการดารงตาแหน่ง และการพน้ จากตาแหนง่ ของกรรมการสภาวิชาการ ตลอดจนการประชุมและการดาเนินงานของสภาวิชาการ ใหเ้ ปน็ ไปตามขอ้ บังคับของมหาวิทยาลัย มาตรา ๒๑ สภาวชิ าการมีอานาจและหน้าท่ี ดงั นี้ (๑) พิจารณาเกณฑ์มาตรฐานเกย่ี วกบั หลักสตู ร การเรียนการสอน การวิจัย การวัดผล การศึกษา และการประกันคุณภาพการศึกษาเสนอต่อสภามหาวทิ ยาลยั (๒) เสนอความเห็นเกย่ี วกับการรวมและการยกเลิกสาขาวชิ าตอ่ สภามหาวทิ ยาลัย (๓) เสนอความเหน็ เกยี่ วกบั การเปดิ สอนตามหลักสูตรของมหาวิทยาลัย (๔) พิจารณาเสนอความเหน็ ในเร่อื งทเ่ี กย่ี วกบั วิชาการต่อสภามหาวิทยาลยั (๕) สง่ เสรมิ การวจิ ยั และการบริการทางวิชาการที่สอดคล้องกบั ภารกจิ ของมหาวทิ ยาลยั และ ความตอ้ งการของชมุ ชน (๖) แต่งตงั้ คณะอนุกรรมการ หรอื บคุ คลหน่ึงบุคคลใดเพื่อกระทาการใด ๆ อนั อยใู่ นอานาจและ หน้าที่ของสภาวิชาการ มาตรา ๒๒ ให้มหาวิทยาลยั แต่ละแหง่ มีสภาคณาจารยแ์ ละข้าราชการ ประกอบด้วย ประธานสภาคณาจารยแ์ ละข้าราชการ และกรรมการสภาคณาจารยแ์ ละข้าราชการซึ่งเลอื กจากคณาจารย์ ประจาและข้าราชการของมหาวิทยาลัย จานวน คณุ สมบัติ หลักเกณฑ์และวิธกี ารไดม้ า วาระการดารงตาแหนง่ และการพ้นจาก ตาแหน่งของประธานสภาคณาจารยแ์ ละข้าราชการ และกรรมการสภาคณาจารย์และข้าราชการตามวรรค หน่งึ ตลอดจนการประชุมและการดาเนนิ งานของสภาคณาจารยแ์ ละข้าราชการ ใหเ้ ป็นไปตามข้อบังคับ ของมหาวิทยาลยั ๑๗
RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY TAWAN-OK มาตรา ๒๓ สภาคณาจารยแ์ ละข้าราชการมอี านาจและหน้าที่ ดังน้ี (๑) ให้คาปรึกษาและข้อเสนอแนะในกิจการของมหาวิทยาลัยและการพฒั นามหาวทิ ยาลัยแก่ อธกิ ารบดหี รือสภามหาวิทยาลัย (๒) สง่ เสริมและพฒั นาศักยภาพของคณาจารย์และขา้ ราชการในการปฏิบตั หิ น้าทต่ี าม จรรยาบรรณแหง่ วชิ าชีพ (๓) พิทักษ์ผลประโยชนข์ องมหาวทิ ยาลยั และปฏิบัตหิ น้าท่ีอ่ืนตามทอี่ ธกิ ารบดีหรือสภา มหาวทิ ยาลยั มอบหมาย (๔) เรยี กประชุมคณาจารย์และขา้ ราชการ เพอื่ พจิ ารณากิจกรรมของมหาวทิ ยาลยั และ นาเสนอความคดิ เหน็ ตอ่ สภามหาวทิ ยาลยั ท้งั น้ี ตามขอ้ บังคับของมหาวิทยาลัย การปฏิบัติหน้าท่ีของสภาคณาจารยแ์ ละขา้ ราชการถือเปน็ การปฏิบัติหน้าทรี่ าชการ และการ ดาเนินการใด ๆ ในการปฏิบตั ิหน้าทโี่ ดยชอบยอ่ มไดร้ ับความคุม้ ครองและไม่เปน็ เหตใุ นการดาเนนิ การทาง วินัย มาตรา ๒๔ ให้มีอธกิ ารบดีเปน็ ผู้บังคับบญั ชาและรับผิดชอบการบรหิ ารงานของมหาวิทยาลยั แต่ ละแหง่ และอาจมีรองอธิการบดี หรอื ผ้ชู ว่ ยอธิการบดี หรือจะมีทั้งรองอธิการบดี และผ้ชู ่วยอธกิ ารบดีตาม จานวนท่ีสภามหาวิทยาลยั แต่ละแหง่ กาหนด เพื่อทาหน้าที่และรบั ผิดชอบตามที่อธกิ ารบดมี อบหมายก็ได้ มาตรา ๒๕ อธกิ ารบดีนั้นจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตง้ั โดยการสรรหาตามข้อบังคับ ของมหาวิทยาลัยจากผู้มคี ุณสมบตั ิตามมาตรา ๒๖ วรรคหนึ่ง ทั้งน้ี ให้คานึงถึงการมีส่วนร่วมของบุคลากรของ มหาวิทยาลยั อธกิ ารบดีมวี าระการดารงตาแหนง่ คราวละสี่ปี และจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งใหม่ อกี ได้ แตจ่ ะดารงตาแหน่งเกินสองวาระตดิ ต่อกนั มิได้ นอกจากการพ้นจากตาแหนง่ ตามวาระตามวรรคสอง อธิการบดพี ้นจากตาแหน่งเม่ือ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) ถูกลงโทษทางวินัยอยา่ งร้ายแรงหรอื ถูกสั่งให้ออกจากราชการ เพราะเหตมุ ีมลทนิ หรือ มัว หมองในกรณที ่ีถกู สอบสวนทางวนิ ัยอย่างรา้ ยแรง (๔) เปน็ บคุ คลลม้ ละลาย คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ (๕) ถกู จาคุกโดยคาพิพากษาถึงท่ีสดุ ให้จาคกุ (๖) สภามหาวิทยาลัยใหพ้ ้นจากตาแหนง่ เพราะบกพรอ่ งต่อหน้าที่ มีความประพฤติเสือ่ มเสยี หรือหย่อนความสามารถ มติของสภามหาวิทยาลัยให้พ้นจากตาแหนง่ ต้องประกอบด้วยคะแนนเสยี งไม่ นอ้ ยกว่าสองในสามของจานวนกรรมการสภามหาวทิ ยาลยั ทงั้ หมด รองอธิการบดี ใหส้ ภามหาวิทยาลัยแตง่ ตงั้ โดยคาแนะนาของอธกิ ารบดจี ากผ้มู คี ุณสมบตั ิตาม มาตรา ๒๖ วรรคหนึ่ง ๑๘
คมู่ อื นกั ศึกษาระดับปริญญาตรี ๒๕๖๑ ผชู้ ่วยอธกิ ารบดี ใหอ้ ธกิ ารบดีแต่งตั้งจากขา้ ราชการพลเรอื นในสถาบันอดุ มศึกษาซึ่งมคี ุณสมบัติ ตามมาตรา ๒๖ วรรคสอง และให้อธิการบดีมีอานาจถอดถอนผ้ชู ว่ ยอธิการบดีด้วย เมื่ออธกิ ารบดีพ้นจากตาแหน่ง ให้รองอธิการบดีและผชู้ ่วยอธิการบดี พ้นจากตาแหนง่ ด้วย มาตรา ๒๖ อธิการบดีและรองอธิการบดี ต้องสาเรจ็ การศกึ ษาไมต่ ่ากว่าปริญญาตรีหรือ เทียบเท่าจากมหาวทิ ยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาอน่ื ที่สภามหาวิทยาลยั รบั รอง และได้ทาการสอนหรือ มีประสบการณ์ดา้ นการบรหิ ารมาแล้วไม่น้อยกว่าหา้ ปีในมหาวิทยาลัย หรือสถาบันอดุ มศึกษาอน่ื ทีส่ ภา มหาวทิ ยาลัยรับรอง หรือเคยดารงตาแหนง่ กรรมการสภามหาวิทยาลยั ไม่น้อยกวา่ สามปี หรอื ดารง ตาแหน่งหรือเคยดารงตาแหน่งศาสตราจารย์ รวมทั้งมีคุณสมบตั ิอ่นื และไมม่ ีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามที่กาหนด ในข้อบังคับของมหาวิทยาลยั ผู้ช่วยอธิการบดี ตอ้ งสาเรจ็ การศกึ ษาไม่ต่ากว่าปรญิ ญาตรีหรือเทียบเท่าจากมหาวิทยาลัย หรือ สถาบันอดุ มศึกษาอ่ืนทส่ี ภามหาวทิ ยาลัยรับรอง และได้ทาการสอนหรอื มีประสบการณ์ด้านการบริหาร มาแลว้ ไม่น้อยกวา่ สามปีในมหาวิทยาลยั หรอื สถาบนั อดุ มศกึ ษาอื่นท่ีสภามหาวทิ ยาลัยรบั รอง มาตรา ๒๗ อธกิ ารบดมี ีอานาจและหนา้ ที่ ดังนี้ (๑) บริหารกิจการของมหาวทิ ยาลยั ใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมาย กฎ ระเบยี บ ขอ้ บงั คับของทาง ราชการและของมหาวทิ ยาลัย รวมท้งั นโยบายและวัตถุประสงคข์ องมหาวิทยาลัย (๒) บริหารบคุ ลากร การเงิน การพัสดุ สถานที่และทรพั ย์สินอน่ื ของมหาวทิ ยาลยั ให้เป็นไปตาม กฎหมาย กฎ ระเบยี บ ข้อบังคับของทางราชการและของมหาวิทยาลัย (๓) จดั ทาแผนพฒั นามหาวิทยาลัย ดูแลให้มกี ารปฏิบตั ิตามนโยบายและแผนงาน รวมทั้งติดตาม ประเมนิ ผลการดาเนนิ งานด้านตา่ ง ๆ ของมหาวทิ ยาลัย (๔) แต่งต้ังและถอดถอนผชู้ ่วยอธกิ ารบดี รองคณบดี รองผู้อานวยการสถาบนั รองผูอ้ านวยการ สานัก รองผอู้ านวยการวทิ ยาลัย รองหวั หน้าสว่ นราชการทเ่ี รยี กชือ่ อย่างอื่นทม่ี ีฐานะเทียบเทา่ คณะหัวหนา้ ภาควชิ า หัวหน้าส่วนราชการทีเ่ รยี กชือ่ อยา่ งอนื่ ท่มี ีฐานะเทียบเท่าภาควชิ าและอาจารย์พิเศษ (๕) รายงานเก่ียวกับกิจการและการดาเนนิ การของมหาวิทยาลัยตอ่ สภามหาวทิ ยาลยั (๖) สง่ เสรมิ และสนับสนนุ การดาเนนิ งานของสภาคณาจารย์และข้าราชการ คณะกรรมการ ส่งเสรมิ กิจการวทิ ยาเขต และส่งเสริมการพฒั นานักศึกษาและกจิ การนักศึกษา (๗) สง่ เสรมิ ความสมั พันธ์ระหว่างมหาวทิ ยาลัยกบั ชมุ ชน รวมทั้งการเข้าไปมสี ว่ นรว่ มในการ สร้างความสมั พันธ์กบั ชมุ ชน (๘) เปน็ ผ้แู ทนมหาวิทยาลัยในกจิ การท่ัวไป (๙) ปฏบิ ตั ิหน้าทอี่ ืน่ ตามระเบียบ ข้อบังคับ และประกาศของมหาวิทยาลัย ตามทส่ี ภา มหาวิทยาลัยมอบหมายหรอื ตามท่กี ฎหมายกาหนดให้เปน็ อานาจหน้าท่ขี องอธิการบดี มาตรา ๒๘ ในกรณีที่ผดู้ ารงตาแหนง่ อธิการบดไี ม่อย่หู รือไม่อาจปฏิบตั ิราชการได้ ให้ รอง อธกิ ารบดเี ป็นผรู้ ักษาราชการแทน ถา้ มรี องอธิการบดีหลายคน ใหร้ องอธกิ ารบดีซึ่งอธิการบดมี อบหมาย ๑๙
RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY TAWAN-OK เป็นผู้รักษาราชการแทน ถา้ อธิการบดีมไิ ด้มอบหมาย ใหร้ องอธิการบดซี ่ึงมีอาวุโสสงู สุดเปน็ ผรู้ กั ษาราชการ แทน ในกรณีที่ไม่มีผรู้ ักษาราชการแทนอธิการบดีตามความในวรรคหน่ึง หรอื มีแตไ่ ม่อาจปฏบิ ัติ ราชการได้ หรือ ไมม่ ีผ้ดู ารงตาแหน่งอธิการบดี ให้สภามหาวทิ ยาลยั แตง่ ตงั้ ผูม้ ีคุณสมบัติตามมาตรา ๒๖ วรรคหนึง่ เป็นผูร้ กั ษาราชการแทนอธกิ ารบดี มาตรา ๒๙ ในวิทยาเขต ให้มีรองอธกิ ารบดีคนหนง่ึ ซงึ่ สภามหาวิทยาลัยแต่งต้ังโดยคาแนะนา ของอธิการบดเี ปน็ ผู้บังคบั บญั ชาและรบั ผดิ ชอบการบรหิ ารงานของวทิ ยาเขตใหเ้ ป็นไปตามกฎหมาย ระเบยี บ ข้อบังคับ และประกาศของมหาวทิ ยาลยั และปฏบิ ัติหน้าทอี่ ื่นตามท่ีอธกิ ารบดีมอบหมาย มาตรา ๓๐ ในวทิ ยาเขต ให้มีคณะกรรมการประจาวิทยาเขตคณะหนึ่ง องค์ประกอบ จานวน คณุ สมบตั ิ หลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารไดม้ า วาระการดารงตาแหนง่ และการ พ้นจากตาแหน่งของกรรมการประจาวทิ ยาเขต ตลอดจนการประชมุ ของคณะกรรมการประจาวทิ ยาเขต และการจดั ระบบบริหารงานในวิทยาเขต ใหเ้ ป็นไปตามขอ้ บงั คับของมหาวิทยาลัย ทง้ั นี้ ตอ้ งมีกรรมการที่ เปน็ ผทู้ รงคณุ วฒุ ิซ่ึงแตง่ ต้ังจากบคุ คลภายนอกไม่น้อยกวา่ หนง่ึ ในสาม มาตรา ๓๑ คณะกรรมการประจาวทิ ยาเขตมอี านาจและหน้าท่ี ดังนี้ (๑) สง่ เสรมิ ให้วิทยาเขตดาเนินภารกิจใหส้ อดคล้องกบั นโยบาย เปา้ หมาย และแผนพฒั นาตามท่ี สภามหาวิทยาลัยกาหนด (๒) ใหค้ าปรึกษาและข้อเสนอแนะเกีย่ วกับการดาเนินกจิ การต่าง ๆ ของวิทยาเขตแก่อธิการบดี (๓) เสนอแนะการเปิดสอนตามหลักสูตรของมหาวิทยาลัยในวิทยาเขตตอ่ สภาวิชาการ (๔) ประสานงานระหว่างบัณฑติ วิทยาลยั คณะ สถาบัน สานกั วิทยาลัย และสว่ นราชการท่ี เรียกชอื่ อย่างอื่นทมี่ ฐี านะเทยี บเท่าคณะภายในวิทยาเขต (๕) พจิ ารณาวางระเบียบหรือออกข้อบงั คับอ่ืนตามท่สี ภามหาวทิ ยาลยั มอบหมาย (๖) พิจารณาเสนอแผนพัฒนา แผนงาน และงบประมาณประจาปแี ละจัดทารายงานผลการ ดาเนนิ กิจการของวิทยาเขตเสนอต่ออธกิ ารบดี (๗) แต่งตงั้ คณะอนุกรรมการ หรอื บคุ คลหนึ่งบุคคลใดเพ่ือกระทาการใด ๆ อันอยูใ่ นอานาจและ หนา้ ทข่ี องคณะกรรมการประจาวทิ ยาเขต (๘) ปฏบิ ตั งิ านอื่นตามที่อธิการบดีมอบหมาย มาตรา ๓๒ ในวิทยาเขต ใหม้ ีคณะกรรมการส่งเสริมกิจการวทิ ยาเขต ประกอบด้วย (๑) ประธานกรรมการส่งเสริมกจิ การวทิ ยาเขต (๒) กรรมการส่งเสริมกิจการวทิ ยาเขตโดยตาแหน่ง ได้แก่ รองอธิการบดปี ระจาวทิ ยาเขต คณบดี ผอู้ านวยการสถาบนั ผอู้ านวยการสานกั และผู้อานวยการวิทยาลยั ถา้ มี (๓) กรรมการส่งเสริมกิจการวทิ ยาเขตจานวนส่คี น ซ่งึ แตง่ ต้ังจากผูแ้ ทนศิษย์เก่า จานวนหนึง่ คน ผู้แทนผู้ปกครอง จานวนหนง่ึ คน และผแู้ ทนนักศึกษา จานวนสองคน ๒๐
คูม่ ือนกั ศึกษาระดับปรญิ ญาตรี ๒๕๖๑ (๔) กรรมการส่งเสรมิ กจิ การวิทยาเขตผู้ทรงคุณวฒุ จิ านวนเทา่ กบั จานวนกรรมการตาม (๒) และ (๓) รวมกนั ซง่ึ สภามหาวทิ ยาลัยแตง่ ตงั้ จากผมู้ ีความรู้ ความเชยี่ วชาญ หรือมีประสบการณ์ในสาขาวชิ า ต่าง ๆ ตามที่สภามหาวิทยาลัยเห็นสมควร ในจานวนน้ี ใหแ้ ต่งตงั้ จากบุคคลในเขตพื้นทีบ่ รกิ ารการศึกษา ของวิทยาเขตไมน่ ้อยกว่ากง่ึ หนึ่ง คุณสมบตั ิ หลกั เกณฑ์และวธิ ีการได้มา วาระการดารงตาแหน่ง และการพน้ จากตาแหนง่ ของ ประธานกรรมการส่งเสริมกจิ การวิทยาเขต และกรรมการสง่ เสริมกิจการวิทยาเขตตาม (๓) และ (๔) ตลอดจนการประชุมและการดาเนินงานของคณะกรรมการสง่ เสรมิ กิจการวทิ ยาเขต ให้เป็นไปตาม ข้อบงั คบั ของมหาวิทยาลัย มาตรา ๓๓ คณะกรรมการส่งเสรมิ กิจการวทิ ยาเขตมีอานาจและหนา้ ที่ ดงั น้ี (๑) สง่ เสริม สนบั สนุน ให้คาปรึกษาและข้อเสนอแนะแก่วิทยาเขตเพอื่ พฒั นาแนวทางการ ดาเนนิ งานของวทิ ยาเขต (๒) สง่ เสรมิ ให้มที ุนการศึกษาแก่นักศกึ ษาท่ีขาดแคลนทุนทรัพย์ ใหม้ โี อกาสศึกษาใน มหาวทิ ยาลัยอันเป็นการสนับสนนุ ความเสมอภาคในโอกาสทางการศึกษา (๓) ส่งเสริม และสนบั สนุนการสร้างสัมพนั ธภาพและการเรียนรูร้ ะหว่างมหาวทิ ยาลัยกบั นกั ศึกษาและประชาชน (๔) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ หรอื บุคคลหนึ่งบุคคลใดเพื่อกระทาการใด ๆ ตาม (๑) (๒) และ (๓) มาตรา ๓๔ ในบณั ฑิตวทิ ยาลยั ให้มคี ณบดีเปน็ ผู้บังคับบัญชาและรับผดิ ชอบงานของบัณฑิต วิทยาลัย และจะให้มรี องคณบดตี ามจานวนทส่ี ภามหาวทิ ยาลยั กาหนด เพื่อทาหน้าทแี่ ละรับผิดชอบตามที่ คณบดีมอบหมายกไ็ ด้ คณบดีนั้น ใหส้ ภามหาวิทยาลัยแต่งต้งั โดยการสรรหาตามข้อบังคบั ของมหาวิทยาลยั จากผมู้ ี คุณสมบัติตามมาตรา ๒๖ วรรคสอง รองคณบดีนั้น ใหอ้ ธิการบดีแตง่ ต้ังโดยคาแนะนาของคณบดีจากผ้มู ีคุณสมบัตติ ามมาตรา ๒๖ วรรคสอง และให้อธกิ ารบดีมีอานาจถอดถอนรองคณบดีโดยคาแนะนาของคณบดี วาระการดารงตาแหน่ง และการพน้ จากตาแหน่งคณบดี ให้นามาตรา ๒๕ วรรคสอง และวรรค สาม มาใชบ้ ังคับโดยอนโุ ลม การรักษาราชการแทนคณบดี ใหน้ ามาตรา ๒๘ มาใชบ้ งั คับโดยอนุโลม เมือ่ คณบดีพน้ จากตาแหน่ง ให้รองคณบดีพน้ จากตาแหน่งด้วย มาตรา ๓๕ ในบัณฑติ วทิ ยาลัย ใหม้ คี ณะกรรมการประจาบัณฑิตวทิ ยาลยั คณะหนึ่ง ประกอบดว้ ย คณบดีเปน็ ประธานกรรมการและกรรมการอื่นอีกจานวนหน่ึง จานวน คณุ สมบตั ิ หลักเกณฑ์และวิธกี ารได้มา อานาจและหน้าที่ วาระการดารงตาแหน่ง และ การพ้นจากตาแหน่งของกรรมการประจาบัณฑิตวิทยาลยั ตลอดจนการประชมุ ของคณะกรรมการประจา บัณฑิตวิทยาลยั และการจดั ระบบบรหิ ารงานในบณั ฑิตวิทยาลัย ใหเ้ ปน็ ไปตามขอ้ บงั คับของมหาวิทยาลัย ๒๑
RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY TAWAN-OK มาตรา ๓๖ ในคณะ ใหม้ คี ณบดีเปน็ ผบู้ งั คับบัญชาและรับผดิ ชอบงานของคณะ และจะให้มี รองคณบดีตามจานวนท่ีสภามหาวิทยาลัยกาหนด เพื่อทาหนา้ ท่ีและรบั ผดิ ชอบตามท่ีคณบดมี อบหมายก็ได้ คณุ สมบัติ การแตง่ ตั้ง วาระการดารงตาแหนง่ และการพ้นจากตาแหน่งของคณบดีและรอง คณบดีตามวรรคหน่งึ และการรักษาราชการแทน ใหน้ ามาตรา ๓๔ มาใช้บังคับโดยอนโุ ลม มาตรา ๓๗ ในคณะ ให้มีคณะกรรมการประจาคณะ ประกอบดว้ ย คณบดีเป็นประธาน กรรมการ และกรรมการอน่ื อีกจานวนหนงึ่ จานวน คณุ สมบตั ิ หลักเกณฑ์และวธิ ีการได้มา วาระการดารงตาแหน่ง และการพน้ จากตาแหน่ง ของกรรมการ ตลอดจนการประชุมของคณะกรรมการประจาคณะและการจัดระบบบรหิ ารงานในคณะ ให้ เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวทิ ยาลยั มาตรา ๓๘ คณะกรรมการประจาคณะมีอานาจและหน้าท่ี ดังนี้ (๑) จดั ทาแผนพัฒนาของคณะให้สอดคล้องกับนโยบายของมหาวทิ ยาลยั (๒) พิจารณาวางระเบียบและออกขอ้ บังคับภายในคณะตามทสี่ ภามหาวิทยาลยั มอบหมาย (๓) พจิ ารณากาหนดหลกั สตู รและรายละเอยี ดเกย่ี วกับหลกั สูตรสาหรบั คณะเพื่อเสนอต่อสภา มหาวิทยาลยั (๔) จัดการวดั ผล ประเมินผล และควบคุมมาตรฐานการศึกษาของคณะ (๕) ส่งเสริมงานวิจยั งานบริการวิชาการแก่สังคม งานทะนุบารงุ ศิลปะและวฒั นธรรม และงาน รักษาสงิ่ แวดล้อม (๖) ให้คาปรึกษาและข้อแนะนาเกย่ี วกบั การดาเนนิ กจิ การต่าง ๆ ของคณะ (๗) แต่งตงั้ คณะอนุกรรมการเพอื่ ดาเนินการอย่างหนงึ่ อย่างใดอันอยใู่ นอานาจและหน้าที่ของ คณะกรรมการประจาคณะ (๘) ดาเนินการอน่ื ใดตามทสี่ ภามหาวิทยาลยั สภาวชิ าการ หรอื อธิการบดีมอบหมาย มาตรา ๓๙ ในกรณีที่มีการแบง่ ภาควิชาหรือส่วนราชการทีเ่ รยี กช่อื อย่างอืน่ ทีม่ ฐี านะเทียบเทา่ ภาควชิ าในคณะ ให้มหี ัวหน้าภาควชิ าหรอื หัวหนา้ ส่วนราชการทเี่ รียกช่ืออยา่ งอื่นทมี่ ีฐานะเทยี บเท่า ภาควิชาเปน็ ผบู้ ังคบั บัญชาและรบั ผดิ ชอบงานของภาควิชาหรอื สว่ นราชการทเ่ี รียกชือ่ อย่างอ่ืนท่ีมฐี านะ เทียบเท่าภาควิชา หัวหน้าภาควิชาหรอื หัวหน้าสว่ นราชการท่ีเรยี กชื่ออยา่ งอื่นทมี่ ฐี านะเทียบเทา่ ภาควชิ าให้ อธกิ ารบดีแต่งตัง้ จากคณาจารย์ประจา โดยการสรรหาตามข้อบังคบั ของมหาวทิ ยาลัยจากผ้มู ีคุณสมบตั ิ เชน่ เดยี วกับคณบดี และให้อธิการบดมี ีอานาจถอดถอนหวั หนา้ ภาควชิ า หรอื หัวหน้าส่วนราชการทเ่ี รียกช่ือ อย่างอน่ื ทมี่ ฐี านะเทยี บเทา่ ภาควชิ าโดยคาแนะนาของคณบดี คุณสมบตั ิ วาระการดารงตาแหน่ง และการพน้ จากตาแหน่งของหวั หนา้ ภาควิชาหรือหัวหนา้ ส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นทม่ี ีฐานะเทยี บเทา่ ภาควิชาตามวรรคสอง และการรักษาราชการแทนใหน้ า มาตรา ๓๔ มาใชบ้ ังคบั โดยอนโุ ลม ๒๒
คมู่ ือนกั ศกึ ษาระดับปริญญาตรี ๒๕๖๑ มาตรา ๔๐ ในสถาบันหรอื สานัก ใหม้ ผี ู้อานวยการสถาบนั หรือผู้อานวยการสานกั เปน็ ผู้บงั คบั บัญชาและรับผดิ ชอบงานของสถาบนั หรอื สานัก แล้วแต่กรณี และจะให้มีรองผู้อานวยการสถาบนั หรือรองผู้อานวยการสานกั ตามจานวนท่ีสภามหาวทิ ยาลยั กาหนด เพอื่ ทาหนา้ ทแี่ ละรับผิดชอบตามท่ี ผู้อานวยการสถาบันหรือผ้อู านวยการสานกั มอบหมายก็ได้ คุณสมบตั ิ การแตง่ ต้งั วาระการดารงตาแหนง่ และการพน้ จากตาแหน่งของผู้อานวยการสถาบนั หรือผอู้ านวยการสานัก และรองผู้อานวยการสถาบนั หรือรองผู้อานวยการสานักตามวรรคหน่งึ และการ รกั ษาราชการแทน ใหน้ ามาตรา ๓๔ มาใช้บังคบั โดยอนโุ ลม มาตรา ๔๑ ในสถาบันหรือสานัก ใหม้ ีคณะกรรมการประจาสถาบันหรอื สานัก แล้วแต่กรณี องคป์ ระกอบ จานวน คุณสมบตั ิ หลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการไดม้ า อานาจและหน้าท่ี วาระการดารง ตาแหนง่ และการพ้นจากตาแหน่งของกรรมการประจาสถาบนั หรอื สานกั ตลอดจนการประชุมของ คณะกรรมการประจาสถาบันหรอื คณะกรรมการประจาสานัก และการจดั ระบบบรหิ ารงานในสถาบันหรือ สานัก ใหเ้ ปน็ ไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย มาตรา ๔๒ ในกรณีท่ีมหาวทิ ยาลยั มวี ิทยาลัยหรือสว่ นราชการทเี่ รยี กชือ่ อยา่ งอืน่ ท่ีมีฐานะ เทียบเท่าคณะ ใหม้ ผี ู้อานวยการวทิ ยาลยั หรือหัวหน้าสว่ นราชการท่ีเรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทยี บเท่าคณะ เป็นผ้บู งั คบั บัญชาและรับผิดชอบงานของวทิ ยาลยั หรือส่วนราชการทเ่ี รียกชอื่ อย่างอืน่ ท่ีมีฐานะเทยี บเทา่ คณะแลว้ แตก่ รณี และจะใหม้ ีรองผู้อานวยการวทิ ยาลัยหรือรองหัวหนา้ สว่ นราชการทเี่ รยี กชื่ออยา่ งอืน่ ที่มี ฐานะเทยี บเท่าคณะตามจานวนที่สภามหาวิทยาลยั กาหนด เพอื่ ทาหนา้ ท่แี ละรับผิดชอบตามที่ ผอู้ านวยการวิทยาลัยหรอื หัวหนา้ สว่ นราชการทีเ่ รยี กชือ่ อย่างอื่นที่มฐี านะเทียบเทา่ คณะมอบหมายก็ได้ คุณสมบตั ิ การแต่งตง้ั วาระการดารงตาแหน่ง และการพน้ จากตาแหนง่ ของผู้อานวยการ วิทยาลัย หรอื หวั หนา้ สว่ นราชการที่เรียกช่ืออยา่ งอ่ืนที่มีฐานะเทยี บเท่าคณะ รวมทงั้ ผู้ดารงตาแหนง่ รอง ของตาแหน่งดงั กลา่ วตามวรรคหนึ่ง และการรักษาราชการแทนใหน้ าความในมาตรา ๓๔ มาใชบ้ ังคบั โดย อนุโลม ในกรณที ่ีมีการแบง่ ภาควชิ า หรอื สว่ นราชการท่ีเรียกชือ่ อยา่ งอน่ื ทมี่ ีฐานะเทยี บเท่าภาควิชาใน วิทยาลยั ใหน้ าความในมาตรา ๓๙ มาใชบ้ ังคับโดยอนุโลม มาตรา ๔๓ ในวทิ ยาลยั หรือสว่ นราชการที่เรยี กชอื่ อย่างอน่ื ทม่ี ฐี านะเทยี บเทา่ คณะ ให้มี คณะกรรมการประจาวทิ ยาลัยหรือสว่ นราชการทเี่ รยี กชอื่ อยา่ งอนื่ ท่ีมฐี านะเทียบเทา่ คณะ แลว้ แตก่ รณี องค์ประกอบ จานวน คุณสมบัติ หลกั เกณฑ์และวิธีการไดม้ า อานาจและหน้าท่ี วาระการดารง ตาแหนง่ และการพ้นจากตาแหน่งของกรรมการประจาวทิ ยาลยั หรือส่วนราชการทเี่ รียกชื่ออยา่ งอน่ื ท่ีมี ฐานะเทียบเทา่ คณะ ตลอดจนการประชุมของคณะกรรมการประจาวทิ ยาลัยหรอื คณะกรรมการประจา สว่ นราชการท่ีเรยี กช่อื อย่างอ่ืนทมี่ ฐี านะเทยี บเท่าคณะ และการจดั ระบบบรหิ ารงานในวทิ ยาลยั หรอื สว่ น ราชการทีเ่ รยี กชอื่ อยา่ งอนื่ ท่ีมีฐานะเทียบเทา่ คณะ ให้เปน็ ไปตามข้อบงั คบั ของมหาวิทยาลยั มาตรา ๔๔ ผูด้ ารงตาแหนง่ อธิการบดี คณบดี ผอู้ านวยการ และหัวหนา้ สว่ นราชการทเ่ี รยี กชื่อ ๒๓
RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY TAWAN-OK อย่างอืน่ ท่ีมีฐานะเทยี บเทา่ คณะ จะดารงตาแหน่งดังกล่าวเกินหนง่ึ ตาแหนง่ ในขณะเดียวกนั มไิ ด้ ผู้ดารงตาแหน่งตามวรรคหนง่ึ จะรักษาราชการแทนตาแหน่งอน่ื อีกหน่ึงตาแหนง่ ก็ได้ แตต่ ้องไม่ เกนิ หน่งึ รอ้ ยแปดสบิ วนั มาตรา ๔๕ เพ่ือประโยชนใ์ นการบริหารราชการในวิทยาเขต บัณฑิตวทิ ยาลัย คณะ สถาบัน สานัก วิทยาลัย และภาควชิ าหรอื ส่วนราชการที่เรยี กชื่ออยา่ งอืน่ ทม่ี ฐี านะเทยี บเท่าคณะหรอื ภาควชิ า อธิการบดีจะมอบอานาจโดยทาเปน็ หนงั สือให้ผู้ดารงตาแหน่งรองอธิการบดี คณบดี ผู้อานวยการ หัวหน้า ภาควิชาหรอื หวั หน้าส่วนราชการทีเ่ รียกชือ่ อยา่ งอน่ื ท่มี ฐี านะเทียบเท่าคณะหรือภาควิชา ปฏบิ ัตริ าชการ แทนอธกิ ารบดเี ฉพาะในราชการของส่วนราชการน้นั ก็ได้ ให้ผูป้ ฏบิ ตั ริ าชการแทนตามวรรคหนึง่ มอี านาจและหนา้ ที่ตามท่ีอธิการบดกี าหนด มาตรา ๔๖ ให้ผู้รักษาราชการแทนตามท่ีบญั ญตั ิไวใ้ นพระราชบญั ญัตนิ ี้มอี านาจและหนา้ ท่ี เช่นเดียวกบั ผซู้ ึง่ ตนแทน ในกรณที ่ีกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคบั คาส่งั หรอื มติคณะรฐั มนตรี แตง่ ตัง้ ให้ผู้ดารงตาแหนง่ ใด เป็นกรรมการหรือให้มีอานาจและหน้าท่ีอย่างใด ให้ผรู้ กั ษาราชการแทนทาหนา้ ทีก่ รรมการ หรือมอี านาจ และหนา้ ทเี่ ชน่ เดียวกับผู้ดารงตาแหน่งนั้นในระหว่างทีร่ ักษาราชการแทนดว้ ย หมวด ๓ ความรว่ มมือดา้ นวชิ าการและการใช้ทรพั ยากร ———————————— มาตรา ๔๗ เพื่อประโยชนใ์ นความรว่ มมือดา้ นวชิ าการและการใชท้ รัพยากรรว่ มกนั ของ มหาวทิ ยาลัย ให้มีคณะกรรมการอธกิ ารบดี ประกอบดว้ ย อธิการบดีของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ทกุ แห่งเปน็ กรรมการ ใหก้ รรมการตามวรรคหนงึ่ เลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานกรรมการ และเลอื กกรรมการอีก คนหน่ึงเปน็ เลขานุการ การประชมุ ของคณะกรรมการอธกิ ารบดี ให้เปน็ ไปตามระเบยี บทคี่ ณะกรรมการอธิการบดี กาหนด มาตรา ๔๘ ให้คณะกรรมการอธิการบดมี ีอานาจและหนา้ ท่ี ดงั น้ี (๑) เสนอนโยบายและแผนพัฒนาเกี่ยวกับการจัดการศึกษา การรว่ มมอื ด้านวิชาการและการใช้ ทรัพยากรรว่ มกันของมหาวิทยาลัยตอ่ สภามหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง (๒) จัดให้มีข้อตกลงระหว่างมหาวทิ ยาลัยเก่ยี วกับความร่วมมอื ทางวชิ าการและการใชท้ รัพยากร รว่ มกนั ในการปฏบิ ตั ภิ ารกจิ โดยความเห็นชอบของสภามหาวทิ ยาลยั แตล่ ะแห่ง (๓) จดั ใหม้ ขี ้อตกลงระหวา่ งมหาวทิ ยาลยั แต่ละแหง่ กบั สถาบันอาชวี ศึกษาท้งั ท่ีเป็นของรัฐและ เอกชน ในการให้ความร่วมมือด้านวชิ าการและการศกึ ษาต่อดา้ นวิชาชีพเฉพาะทางระดบั ปรญิ ญา โดย ๒๔
ค่มู ือนกั ศึกษาระดบั ปรญิ ญาตรี ๒๕๖๑ ความเหน็ ชอบของสภามหาวิทยาลยั แตล่ ะแห่ง (๔) กาหนดแนวทางในการแสวงหาความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลยั แตล่ ะแหง่ กับชุมชน องค์กรเอกชนและองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ (๕) แต่งตั้งคณะทางานหรอื บุคคลหนึง่ บุคคลใดเพื่อพจิ ารณาและเสนอความเห็นในเร่ืองหน่งึ เร่อื งใด หรอื เพ่ือมอบหมายให้ปฏิบตั ิการอย่างหนึ่งอยา่ งใดอันอย่ใู นอานาจและหนา้ ทีข่ องคณะกรรมการ อธกิ ารบดี หมวด ๔ ตาแหน่งทางวิชาการ ——————————— มาตรา ๔๙ คณาจารย์ประจาในมหาวิทยาลยั มตี าแหน่งทางวิชาการ ดังน้ี (๑) ศาสตราจารย์ (๒) รองศาสตราจารย์ (๓) ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ (๔) อาจารย์ คุณสมบตั ิ หลักเกณฑ์ และวิธีการแตง่ ตง้ั และถอดถอนคณาจารย์ประจาตามวรรคหน่งึ ใหเ้ ปน็ ไป ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยระเบียบขา้ ราชการพลเรือนในสถาบนั อุดมศึกษา ศาสตราจารยน์ น้ั จะทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ แต่งตั้งโดยคาแนะนาของสภามหาวิทยาลยั มาตรา ๕๐ ศาสตราจารยพ์ เิ ศษน้ัน จะทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ แตง่ ตง้ั โดยคาแนะนาของ สภามหาวิทยาลัยจากผู้ซ่ึงมิได้เป็นคณาจารย์ประจาของมหาวิทยาลัย คุณสมบตั ิและหลักเกณฑ์ในการแตง่ ตงั้ ศาสตราจารยพ์ เิ ศษ ใหเ้ ป็นไปตามข้อบังคับของ มหาวิทยาลยั มาตรา ๕๑ ศาสตราจารยซ์ ่ึงมีความรู้ความสามารถและความชานาญเป็นพเิ ศษ และพ้นจาก ตาแหนง่ ไปโดยไมม่ ีความผดิ สภามหาวทิ ยาลยั อาจแตง่ ตั้งให้เป็นศาสตราจารย์เกียรติคุณในสาขาที่ ศาสตราจารย์ผูน้ ัน้ มีความเชยี่ วชาญเพอื่ เปน็ เกยี รติยศได้ คณุ สมบตั ิ หลักเกณฑ์ และวธิ ีการแต่งตงั้ ศาสตราจารย์เกียรตคิ ณุ ให้เป็นไปตามข้อบังคบั ของ มหาวทิ ยาลัย มาตรา ๕๒ สภามหาวทิ ยาลัยอาจแต่งตัง้ ผู้ซงึ่ มีคุณสมบัตเิ หมาะสมและมิไดเ้ ป็นคณาจารย์ ประจาของมหาวิทยาลัยเป็นรองศาสตราจารย์พิเศษและผชู้ ว่ ยศาสตราจารยพ์ เิ ศษได้ โดยคาแนะนาของ อธกิ ารบดี อธิการบดีอาจแตง่ ตง้ั ผู้มคี ุณสมบัตเิ หมาะสมและมิได้เป็นคณาจารย์ประจาของมหาวิทยาลัยเป็น ๒๕
RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY TAWAN-OK อาจารย์พิเศษโดยคาแนะนาของคณบดี ผอู้ านวยการหรือหัวหนา้ ส่วนราชการท่ีเรียกชอ่ื อยา่ งอนื่ ท่ีมีฐานะ เทยี บเทา่ คณะ แลว้ แต่กรณี คุณสมบตั แิ ละหลักเกณฑ์ในการแตง่ ต้งั รองศาสตราจารย์พิเศษ ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์พิเศษและ อาจารยพ์ ิเศษตามวรรคหนง่ึ และวรรคสอง ใหเ้ ป็นไปตามขอ้ บังคับของมหาวิทยาลัย มาตรา ๕๓ ให้ผู้ดารงตาแหนง่ ศาสตราจารย์ ศาสตราจารย์พเิ ศษ ศาสตราจารยเ์ กียรตคิ ุณ รองศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์พิเศษ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ และผชู้ ่วยศาสตราจารยพ์ ิเศษ มสี ิทธิใช้ ตาแหนง่ ศาสตราจารย์ ศาสตราจารยพ์ ิเศษ ศาสตราจารยเ์ กยี รตคิ ณุ รองศาสตราจารย์ รอง ศาสตราจารย์พิเศษ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ หรอื ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยพ์ เิ ศษ แล้วแต่กรณี เปน็ คานาหนา้ นามเพ่ือแสดงวทิ ยฐานะได้ตลอดไป การใชค้ านาหน้านามตามความในวรรคหนึ่ง ใหใ้ ช้อักษรย่อดงั น้ี ศาสตราจารย์ ใช้อักษรยอ่ ศ. ศาสตราจารย์พิเศษ ใชอ้ ักษรย่อ ศ. (พิเศษ) ศาสตราจารยเ์ กียรติคุณ ใชอ้ ักษรยอ่ ศ. (เกียรติคุณ) รองศาสตราจารย์ ใช้อกั ษรย่อ รศ. รองศาสตราจารย์พิเศษ ใช้อักษรย่อ รศ. (พิเศษ) ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ใชอ้ ักษรยอ่ ผศ. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์พเิ ศษ ใช้อักษรย่อ ผศ. (พเิ ศษ) หมวด ๕ ปริญญาและเครอื่ งหมายวทิ ยฐานะ ———————————— มาตรา ๕๔ ปรญิ ญามีสามชนั้ คือ ปริญญาเอก เรียกวา่ ดุษฎบี ัณฑิต ใช้อกั ษรยอ่ ด. ปรญิ ญาโท เรียกว่า มหาบณั ฑติ ใชอ้ กั ษรยอ่ ม. ปรญิ ญาตรี เรียกวา่ บณั ฑิต ใช้อกั ษรย่อ บ. มาตรา ๕๕ มหาวิทยาลยั มีอานาจใหป้ รญิ ญาในสาขาวชิ าทมี่ ีการสอนในมหาวทิ ยาลยั การกาหนดให้สาขาวิชาใดมปี ริญญาชัน้ ใด และจะใชอ้ ักษรย่อสาหรบั สาขาวิชานนั้ อยา่ งไร ให้ ตราเปน็ พระราชกฤษฎกี า มาตรา ๕๖ สภามหาวิทยาลัยอาจออกขอ้ บงั คบั ให้ผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาชน้ั ปริญญาตรีไดร้ บั ปรญิ ญาเกียรตินิยมอันดับหน่ึง หรอื ปรญิ ญาเกยี รตินิยมอันดบั สองได้ มาตรา ๕๗ สภามหาวิทยาลัยอาจออกขอ้ บังคับให้มปี ระกาศนียบตั รบัณฑิตช้นั สูง ประกาศนียบัตรบณั ฑติ อนปุ ริญญา และประกาศนยี บตั รสาหรับสาขาวิชาใดได้ ดงั น้ี ๒๖
ค่มู ือนักศึกษาระดับปรญิ ญาตรี ๒๕๖๑ (๑) ประกาศนียบตั รบัณฑติ ช้ันสูง ออกให้แกผ่ สู้ าเรจ็ การศึกษาในสาขาวิชาหนึ่งสาขาวิชาใด ภายหลังทีไ่ ด้รับปริญญาโทแลว้ (๒) ประกาศนียบัตรบัณฑิต ออกให้แก่ผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาในสาขาวิชาหน่งึ สาขาวชิ าใดภายหลงั ที่ ได้รับปรญิ ญาตรีแลว้ (๓) อนุปริญญาหรือประกาศนยี บตั ร ออกให้แก่ผูส้ าเรจ็ การศกึ ษาตามหลักสูตรในสาขาวชิ าหนึ่ง สาขาวิชาใดกอ่ นถึงขนั้ ได้รบั ปริญญาตรี (๔) ประกาศนยี บัตร ออกใหแ้ ก่ผ้สู าเร็จการศึกษาเฉพาะวิชา มาตรา ๕๘ มหาวทิ ยาลยั มีอานาจให้ปรญิ ญากิตติมศักด์ิแก่บุคคลซึ่งสภามหาวิทยาลัยเหน็ วา่ ทรงคณุ วุฒสิ มควรแก่ปริญญาน้นั ๆ แตจ่ ะใหป้ ริญญาดงั กล่าวแก่คณาจารยป์ ระจา ผ้ดู ารงตาแหน่งตา่ ง ๆ ในมหาวิทยาลัย นายกสภามหาวิทยาลยั หรือกรรมการสภามหาวิทยาลัยในขณะท่ีดารงตาแหน่งนัน้ มไิ ด้ ช้นั สาขาของปรญิ ญากิตติมศักดิ์ และหลกั เกณฑ์การใหป้ ริญญากิตติมศักดิ์ ใหเ้ ปน็ ไปตาม ขอ้ บงั คบั ของมหาวิทยาลยั มาตรา ๕๙ มหาวิทยาลัยอาจกาหนดใหม้ ีครยุ วิทยฐานะหรอื เขม็ วิทยฐานะเปน็ เครื่องหมาย แสดงวิทยฐานะของผ้ไู ด้รบั ปริญญา ประกาศนียบัตรบัณฑิตชัน้ สูง ประกาศนียบตั รบัณฑิต อนุปรญิ ญา และประกาศนียบัตร และอาจกาหนดใหม้ ีครยุ ประจาตาแหน่งกรรมการสภามหาวทิ ยาลัยหรือคณาจารย์ ของมหาวิทยาลยั ได้ การกาหนดลักษณะ ชนิด ประเภท และส่วนประกอบของครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และ ครยุ ประจาตาแหนง่ ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎกี า ครยุ วทิ ยฐานะ เขม็ วทิ ยฐานะ และครยุ ประจาตาแหนง่ จะใช้ในโอกาสใด โดยมีเงื่อนไขอยา่ งใด ใหเ้ ปน็ ไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลยั มาตรา ๖๐ สภามหาวทิ ยาลัยอาจกาหนดให้มตี รา เคร่ืองหมาย หรือสัญลกั ษณ์ของ มหาวิทยาลัย หรอื สว่ นราชการในมหาวทิ ยาลัยได้ โดยทาเป็นข้อบงั คบั ของมหาวทิ ยาลัยและประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา สภามหาวทิ ยาลัยอาจกาหนดใหม้ เี คร่ืองแบบ เครื่องหมาย หรือเคร่อื งแต่งกายนกั ศึกษาได้ โดย ทาเป็นข้อบังคับของมหาวิทยาลยั และประกาศในราชกิจจานุเบกษา หมวด ๖ บทกาหนดโทษ —————————— มาตรา ๖๑ ผ้ใู ดใชต้ รา สญั ลักษณ์ ครุยวิทยฐานะ เขม็ วทิ ยฐานะ ครยุ ประจาตาแหน่ง เครือ่ งแบบ เครอื่ งหมาย หรอื เครือ่ งแต่งกายนักศึกษาของมหาวิทยาลยั โดยไม่มีสทิ ธิทจ่ี ะใช้หรอื แสดงด้วย ประการใด ๆ ว่าตนมีตาแหน่ง ปริญญา ประกาศนยี บตั รบัณฑติ ชนั้ สงู ประกาศนียบตั รบัณฑติ อนุปริญญา ๒๗
RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY TAWAN-OK หรือประกาศนียบัตรของมหาวิทยาลัย โดยท่ตี นไมม่ ี ถ้าได้กระทาเพอ่ื ให้บคุ คลอืน่ เชือ่ ว่าตนมสี ทิ ธิทีจ่ ะใช้ หรือมีตาแหน่ง หรือวทิ ยฐานะเช่นน้นั ตอ้ งระวางโทษจาคุกไมเ่ กนิ หกเดือน หรอื ปรบั ไม่เกินหา้ หม่นื บาท หรือท้งั จา ทงั้ ปรับ มาตรา ๖๒ ผูใ้ ด (๑) ปลอม หรอื ทาเลียนแบบซึง่ ตรา เครือ่ งหมาย หรือสัญลักษณ์ของมหาวทิ ยาลัยหรือส่วน ราชการของมหาวทิ ยาลัยไมว่ า่ จะทาเป็นสีใด หรือทาด้วยวิธีใด ๆ (๒) ใช้ตรา เครื่องหมาย หรือสญั ลกั ษณ์ของมหาวทิ ยาลยั หรือส่วนราชการของมหาวิทยาลัยปลอม หรอื ซึง่ ทาเลยี นแบบ หรอื (๓) ใช้ หรือทาให้ปรากฏซ่ึงตรา เคร่ืองหมาย หรือสัญลกั ษณ์ของมหาวิทยาลยั หรือส่วนราชการ ของมหาวทิ ยาลยั ทวี่ ตั ถหุ รือสนิ ค้าใด ๆ โดยไม่ไดร้ บั อนญุ าตจากมหาวิทยาลัย ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกนิ หนึง่ ปี หรือปรบั ไม่เกนิ หน่ึงแสนบาท หรือทั้งจาท้งั ปรับ ถ้าผู้กระทาความผดิ ตาม (๑) เป็นผูก้ ระทาความผิดตาม (๒) ดว้ ย ใหล้ งโทษตาม (๒) แต่กระทงเดียว ความผดิ ตาม (๓) เปน็ ความผิดอนั ยอมความได้ บทเฉพาะกาล ————————— มาตรา ๖๓ ใหโ้ อนบรรดากิจการ ทรพั ยส์ ิน หนสี้ นิ สิทธิ ภาระผูกพนั ทง้ั ปวง ขา้ ราชการ ลูกจ้าง อัตรากาลัง เงนิ งบประมาณ และรายได้ของสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล สานักงานคณะกรรมการการ อุดมศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการไปเป็นของมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล แตล่ ะแห่งตาม พระราชบัญญัติน้ี ท้ังน้ี ตามรายการท่ีรฐั มนตรีประกาศกาหนด โดยต้องดาเนนิ การให้แลว้ เสรจ็ ภายในหน่ึง ร้อยยสี่ ิบวันนับแตว่ ันที่พระราชบญั ญตั ิน้ีใช้บงั คับ ให้ข้าราชการซ่งึ โอนไปตามวรรคหนง่ึ เปน็ ข้าราชการพลเรอื นในสถาบันอุดมศึกษาตามกฎหมาย วา่ ดว้ ยระเบียบขา้ ราชการพลเรอื นในสถาบันอดุ มศึกษา โดยในระยะเร่ิมแรกใหข้ ้าราชการดังกล่าวยงั คง ดารงตาแหน่งและรบั เงนิ เดือน ตลอดจนไดร้ บั สทิ ธปิ ระโยชน์เชน่ เดมิ ต่อไป จนกว่าจะได้รับแต่งตง้ั ใหด้ ารง ตาแหนง่ ตามกฎหมายว่าดว้ ยระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบนั อดุ มศึกษา มาตรา ๖๔ ให้สว่ นราชการทจี่ ดั ต้ังขนึ้ ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการซึ่งตราขึ้นตาม ข้อ ๒๓ แหง่ ประกาศของคณะปฏวิ ตั ิ ฉบับท่ี ๒๑๖ ลงวนั ท่ี ๒๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๑๕ สว่ นราชการที่ จัดตัง้ ขึ้นตามประกาศกระทรวงศึกษาธกิ ารซง่ึ ตราขึ้นตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญตั ิสถาบันเทคโนโลยี ราชมงคล พ.ศ. ๒๕๑๘ และส่วนราชการทจี่ ดั ตัง้ ขึน้ ตามประกาศกระทรวงศึกษาธกิ ารซ่ึงตราขนึ้ ตาม มาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติปรับปรงุ กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๓๔ ท่มี ีอยใู่ นวันที่พระราชบญั ญัติ น้ปี ระกาศในราชกจิ จานุเบกษาคงมีอยู่ตอ่ ไป จนกวา่ จะมกี ารออกกฎกระทรวงจัดตัง้ สว่ นราชการใน มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลแตล่ ะแห่งซ่งึ ออกโดยอาศยั อานาจตามพระราชบัญญัติน้ี ทั้งนี้ ตอ้ งไมเ่ กิน ๒๘
คมู่ อื นกั ศกึ ษาระดับปรญิ ญาตรี ๒๕๖๑ หน่งึ รอ้ ยแปดสบิ วนั นบั แต่วันท่พี ระราชบญั ญตั นิ ้ี ใช้บงั คับ มาตรา ๖๕ ภายใต้บังคบั มาตรา ๖๓ และมาตรา ๖๔ ใหม้ หาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตาม มาตรา ๕ ประกอบดว้ ยส่วนราชการ ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี ประกอบด้วย สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล จังหวดั ปทุมธานี และวิทยาเขตปทุมธานี (๒) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ประกอบดว้ ย วิทยาเขตเทคนิคกรงุ เทพ ฯ วทิ ยา เขตบพิตรพิมุข มหาเมฆ และวิทยาเขตพระนครใต้ (๓) มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ประกอบด้วย วทิ ยาเขตจกั รพงษภวู นารถ วทิ ยา เขตอุเทนถวาย วิทยาเขตบางพระ จังหวัดชลบรุ ี วิทยาเขตจันทบรุ ี และคณะเกษตรศาสตรบ์ างพระ จงั หวัดชลบุรี (๔) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร ประกอบดว้ ย วทิ ยาเขตเทเวศร์ วิทยาเขตโชติ เวช วิทยาเขตพณชิ ยการพระนคร วิทยาเขตชุมพรเขตรอดุ มศักด์ิ และวิทยาเขตพระนครเหนือ (๕) มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลรัตนโกสนิ ทร์ ประกอบด้วย วทิ ยาเขตเพาะช่าง วทิ ยา เขตบพิตรพมิ ุข จักรวรรดิ วทิ ยาเขตศาลายา และวทิ ยาเขตวงั ไกลกงั วล (๖) มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ประกอบด้วย วิทยาเขตภาคพายัพ จงั หวัด เชยี งใหม่ วิทยาเขตนา่ น วทิ ยาเขตลาปาง วทิ ยาเขตเชยี งราย วทิ ยาเขตตาก วทิ ยาเขตพิษณโุ ลก และ สถาบันวจิ ัยและฝกึ อบรมการเกษตรลาปาง (๗) มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลศรวี ิชยั ประกอบดว้ ย วทิ ยาเขตภาคใต้ จงั หวัดสงขลา วิทยาเขตนครศรธี รรมราช วทิ ยาเขตศรวี ิชยั จังหวัดนครศรีธรรมราช คณะเกษตรศาสตร์นครศรธี รรมราช และคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง จงั หวัดตรัง (๘) มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลสวุ รรณภูมิ ประกอบด้วย วิทยาเขตนนทบรุ ี วทิ ยาเขต พระนครศรอี ยธุ ยา วาสุกรี วิทยาเขตพระนครศรีอยุธยา หันตรา และวทิ ยาเขตสุพรรณบุรี (๙) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอสี าน ประกอบด้วย วทิ ยาเขตภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ จังหวัดนครราชสีมา วทิ ยาเขตสรุ ินทร์ วิทยาเขตขอนแกน่ วทิ ยาเขตกาฬสินธุ์ วิทยาเขตสกลนคร และ สถาบันวิจยั และฝกึ อบรมการเกษตรสกลนคร ให้สภามหาวทิ ยาลยั แต่ละแห่งกาหนดทต่ี ้ังของสานกั งานอธิการบดี โดยความเหน็ ชอบของ คณะกรรมการการอุดมศึกษา มาตรา ๖๖ ใหผ้ ดู้ ารงตาแหนง่ นายกสภาสถาบัน อุปนายกสภาสถาบนั และกรรมการสภา สถาบนั ของสถาบนั เทคโนโลยรี าชมงคลตามพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ. ๒๕๑๘ อยู่ ในวนั ท่ีพระราชบัญญัตนิ ้ีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ปฏิบัติหนา้ ทีน่ ายกสภามหาวทิ ยาลัย อุปนายกสภา มหาวิทยาลยั และกรรมการสภามหาวิทยาลัยของมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลแตล่ ะแหง่ ตาม พระราชบญั ญตั ิน้ีต่อไป จนกว่าจะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แตง่ ต้งั นายกสภามหาวิทยาลัยและ ๒๙
RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY TAWAN-OK กรรมการสภามหาวทิ ยาลยั ผู้ทรงคณุ วฒุ ิ และมีการเลือกกรรมการสภามหาวิทยาลยั ของมหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลแต่ละแห่ง แลว้ แต่กรณี ตามพระราชบัญญตั นิ ี้ ท้งั นี้ ตอ้ งไมเ่ กินหน่งึ ร้อยแปดสิบวันนบั แตว่ นั ท่พี ระราชบญั ญตั นิ ใี้ ชบ้ ังคบั มาตรา ๖๗ ให้ผู้ดารงตาแหน่งอธิการบดี คณบดี ผูอ้ านวยการสถาบนั ผ้อู านวยการสานัก และ หวั หน้าภาควชิ าของสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลตามพระราชบัญญัติสถาบนั เทคโนโลยรี าชมงคล พ.ศ. ๒๕๑๘ อยูใ่ นวนั ท่ีพระราชบัญญตั นิ ี้ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา รักษาการในตาแหนง่ ต่อไป จนกว่าจะมี การแต่งต้งั ผ้ดู ารงตาแหน่งดงั กลา่ วข้ึนใหม่ ทงั้ นี้ ต้องไมเ่ กินหนง่ึ รอ้ ยแปดสิบวนั นบั แต่วนั ทพี่ ระราชบญั ญตั ิ นี้ใชบ้ งั คับ ใหผ้ ดู้ ารงตาแหนง่ รองอธิการบดี รองคณบดี รองผู้อานวยการสถาบัน และรองผู้อานวยการ สานักของสถาบนั เทคโนโลยรี าชมงคลตามพระราชบัญญตั สิ ถาบนั เทคโนโลยรี าชมงคล พ.ศ. ๒๕๑๘ อยูใ่ น วันทพ่ี ระราชบญั ญัตนิ ี้ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา รกั ษาการในตาแหน่งต่อไปจนกว่าผู้ดารงตาแหนง่ อธิการบดี คณบดี ผอู้ านวยการสถาบัน และผู้อานวยการสานักตามวรรคหน่ึง จะพน้ จากตาแหน่ง มาตรา ๖๘ การนบั วาระการดารงตาแหน่งของอธิการบดี คณบดี ผอู้ านวยการสถาบนั ผู้อานวยการสานัก และหวั หน้าภาควชิ า ใหน้ บั วาระการดารงตาแหนง่ ตามพระราชบัญญัตนิ ้ี เป็นวาระ แรก มาตรา ๖๙ ใหผ้ ดู้ ารงตาแหนง่ ประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการประจาคณะ คณะกรรมการประจาสถาบนั และคณะกรรมการประจาสานกั ของสถาบันเทคโนโลยรี าชมงคล ตาม พระราชบัญญตั สิ ถาบนั เทคโนโลยรี าชมงคล พ.ศ. ๒๕๑๘ อยใู่ นวันท่ีพระราชบัญญัตินี้ประกาศใน ราชกจิ จานุเบกษา คงปฏบิ ตั ิหน้าที่ตอ่ ไปจนกว่าจะได้มคี ณะกรรมการประจาคณะ คณะกรรมการประจา สถาบัน และคณะกรรมการประจาสานักตามพระราชบญั ญัติน้ี ทงั้ นี้ ต้องไมเ่ กินหน่ึงรอ้ ยแปดสิบวันนับแต่ วนั ท่พี ระราชบญั ญัตนิ ใี้ ช้บังคับ มาตรา ๗๐ ให้ผดู้ ารงตาแหน่งผู้อานวยการวทิ ยาเขตตามกฎหมายวา่ ดว้ ยระเบยี บข้าราชการ ครู และประธานกรรมการ และกรรมการบรหิ ารวิทยาเขตของสถาบันเทคโนโลยรี าชมงคลตามประกาศ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ลงวันที่ ๑ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๓๕ อยใู่ นวนั ท่ีพระราชบัญญัตินี้ประกาศในราช กิจจานุเบกษา คงปฏิบตั ิหนา้ ทต่ี อ่ ไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งผู้ดารงตาแหนง่ รองอธกิ ารบดีประจาวทิ ยาเขต และคณะกรรมการประจาวิทยาเขตตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี ท้งั น้ี ตอ้ งไม่เกนิ หน่ึงรอ้ ยแปดสบิ วนั นบั แต่วันที่ พระราชบัญญตั ินีใ้ ช้บังคบั เว้นแต่กรณียังไม่มกี ารออกกฎกระทรวงจดั ตงั้ ส่วนราชการซึ่งออกโดยอาศยั อานาจตามพระราชบญั ญัตินี้ มาตรา ๗๑ ภายใตบ้ งั คบั มาตรา ๖๗ ในระหว่างทยี่ งั ไมม่ ีสภาวิชาการตามมาตรา ๑๙ ใหม้ สี ภา วิชาการ ประกอบด้วย อธิการบดเี ปน็ ประธานสภาวชิ าการ รองอธิการบดฝี ่ายวชิ าการเป็นรอง ประธานสภาวชิ าการ รองอธิการบดี คณบดี และคณาจารยป์ ระจาซงึ่ อธิการบดีแต่งตั้งจานวนหกคนเป็น กรรมการสภาวชิ าการ และผู้อานวยการสานกั บริการทางวชิ าการและทดสอบเปน็ เลขานุการสภาวชิ าการ ๓๐
คูม่ อื นกั ศึกษาระดบั ปรญิ ญาตรี ๒๕๖๑ ทาหน้าทส่ี ภาวชิ าการของมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลแตล่ ะแหง่ ตามพระราชบัญญัตินี้ จนกวา่ จะมี การแต่งตั้งสภาวิชาการของมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล แตล่ ะแห่งตามพระราชบัญญัตินี้ ท้ังนี้ ต้องไม่ เกนิ หนงึ่ รอ้ ยแปดสิบวนั นับแต่วนั ท่พี ระราชบญั ญัตนิ ้ีใชบ้ ังคับ มาตรา ๗๒ ภายใตบ้ งั คับมาตรา ๖๖ และมาตรา ๖๗ ในระหวา่ งที่ยงั ไม่มีอธกิ ารบดเี ป็น ผู้บังคับบัญชาและรบั ผิดชอบการบรหิ ารงานของมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลแต่ละแห่งตามมาตรา ๒๔ ใหส้ ภามหาวทิ ยาลยั แตง่ ต้งั ผมู้ คี ณุ สมบัติตามมาตรา ๒๖ วรรคหน่ึง ทาหน้าทร่ี ักษาการใน ตาแหนง่ อธกิ ารบดขี องมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลแต่ละแห่งเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมกี ารแตง่ ตัง้ ผู้ดารง ตาแหน่งดงั กลา่ วขนึ้ ใหม่ ท้งั นี้ ต้องไม่เกินหน่งึ ร้อยแปดสิบวันนับแตว่ ันท่ีพระราชบญั ญตั นิ ้ีใชบ้ งั คับ เว้นแต่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรใี ห้แต่งตง้ั ผู้ดารงตาแหนง่ อธกิ ารบดีตามมาตรา ๖๗ วรรคหนึง่ เปน็ ผูร้ ักษาการในตาแหนง่ อธิการบดี มาตรา ๗๓ ใหผ้ ูซ้ ่ึงเป็นศาสตราจารย์ ศาสตราจารย์พิเศษ รองศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์พิเศษ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารยพ์ ิเศษ และอาจารย์ประจาสถาบนั เทคโนโลยรี าชมงคลตามพระราชบัญญัตสิ ถาบนั เทคโนโลยรี าชมงคล พ.ศ. ๒๕๑๘ อยใู่ นวนั ท่ี พระราชบญั ญัตินปี้ ระกาศในราชกิจจานเุ บกษา มีฐานะเปน็ ศาสตราจารย์ ศาสตราจารย์พิเศษ รอง ศาสตราจารย์ รองศาสตราจารยพ์ ิเศษ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ผชู้ ่วยศาสตราจารยพ์ ิเศษ และอาจารยป์ ระจา ของมหาวิทยาลยั ต่อไปตามพระราช บญั ญัตนิ ี้ ให้ผ้ซู ง่ึ เปน็ อาจารย์พิเศษของสถาบนั เทคโนโลยีราชมงคลตามพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยี ราชมงคล พ.ศ. ๒๕๑๘ อยูใ่ นวันที่พระราชบัญญัตนิ ีใ้ ช้บังคับ เปน็ อาจารย์พิเศษของมหาวทิ ยาลยั ตอ่ ไป ตามพระราชบัญญัตนิ ้ีจนครบกาหนดเวลาท่ีได้รบั แต่งตงั้ มาตรา ๗๔ ให้ผูไ้ ดร้ บั ประกาศนียบัตรชนั้ สูงตามพระราชบัญญัตสิ ถาบันเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ. ๒๕๑๘ เปน็ ผไู้ ดร้ บั ประกาศนียบตั รบัณฑติ ตามพระราชบัญญตั ิ มาตรา ๗๕ ในระหว่างทย่ี ังไม่มพี ระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ข้อบงั คับ ประกาศและ ระเบียบ เพื่อปฏบิ ตั กิ ารตามพระราชบัญญัตนิ ้ี ใหน้ าพระราชกฤษฎกี า ข้อบงั คับ ประกาศและระเบยี บ ซ่ึง ออกตามพระราชบญั ญตั สิ ถาบันเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ. ๒๕๑๘ ที่ใชอ้ ยใู่ นวนั ทีพ่ ระราชบญั ญตั นิ ี้ ประกาศในราชกิจจานเุ บกษามาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม ในกรณีที่มีปญั หาเกีย่ วกับการปฏบิ ตั ิการ อานาจหน้าท่ีของผูด้ ารงตาแหน่ง หรอื หนว่ ยงานต่าง ๆ ตามทกี่ าหนดไวใ้ นบทเฉพาะกาลนี้ ให้รัฐมนตรเี ปน็ ผมู้ อี านาจตีความและวนิ จิ ฉัยช้ีขาด ผู้รบั สนองพระบรมราชโองการ วษิ ณุ เครอื งาม รองนายกรฐั มนตรี ๓๑
RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY TAWAN-OK หมายเหตุ : เหตผุ ลในการประกาศใชพ้ ระราชบญั ญัตฉิ บบั นี้ คือ โดยทม่ี าตรา ๓๖ แหง่ พระราชบญั ญตั ิ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ บญั ญตั ใิ หส้ ถานศึกษาของรัฐท่จี ดั การศึกษาระดับปริญญาเปน็ นติ บิ ุคคล เพื่อให้สถานศึกษาของรฐั ดาเนินกจิ การไดโ้ ดยอิสระ สามารถพฒั นาระบบบริหาร และการจัดการทีเ่ ปน็ ของตนเอง มีความคล่องตัว มีเสรภี าพทางวิชาการและอยูภ่ ายใตก้ ารกากับดูแลของสภาสถานศึกษา ดงั น้ัน สมควรจัด ตัง้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล จานวน ๙ แห่ง ขึน้ แทนสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล เพ่ือใหม้ หาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลเปน็ สถาบนั อุดมศึกษาของรัฐด้านวิชาชีพและเทคโนโลยที ม่ี ี วัตถุประสงค์ ใหก้ ารศึกษา สง่ เสรมิ วิชาการและวิชาชีพชั้นสูงทมี่ ุ่งเนน้ การปฏบิ ัติ ทาการสอน ทาการวจิ ัย ผลิตครูวิชาชพี ใหบ้ ริการทางวชิ าการในด้านวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี และทะนบุ ารุงศลิ ปะและ วฒั นธรรม โดยให้ผู้สาเร็จการอาชวี ศึกษามีโอกาสในการศกึ ษาต่อด้านวิชาชีพเฉพาะทางระดบั ปรญิ ญาเป็น หลัก จึงจาเป็นต้องตราพระราชบญั ญตั นิ ี้ ๓๒
ค่มู อื นกั ศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรี ๒๕๖๑ พระราชกฤษฎกี า วา่ ด้วยปรญิ ญาในสาขาวิชา อักษรย่อสาหรับสาขาวิชา ครยุ วิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่งของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลตะวนั ออก พ.ศ. ๒๕๕๐ —————————- ภูมพิ ลอดุลยเดช ป.ร. ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี ๒๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ เปน็ ปีท่ี ๖๒ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ ประกาศวา่ โดยที่เปน็ การสมควรกาหนดปรญิ ญาในสาขาวิชา อักษรย่อสาหรบั สาขาวชิ า ครุยวทิ ยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครยุ ประจาตาแหนง่ ของมหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลตะวันออก อาศยั อานาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย กับมาตรา ๕๕ วรรคสอง และมาตรา ๕๙ วรรคสอง แหง่ พระราชบัญญตั ิมหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล พ.ศ. ๒๕๔๘ จงึ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ใหต้ ราพระราชกฤษฎีกาข้นึ ไว้ ดังตอ่ ไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรยี กว่า “พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อกั ษร ย่อสาหรับสาขาวิชา ครยุ วิทยฐานะ เขม็ วทิ ยฐานะ และครยุ ประจาตาแหนง่ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลตะวนั ออก พ.ศ. ๒๕๕๐” มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ใหใ้ ชบ้ ังคับตั้งแตว่ ันถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานุเษกษา เป็น ต้นไป มาตรา ๓ ให้กาหนดปริญญาในสาขาวชิ า และอักษรย่อสาหรบั สาขาวิชาของมหาวทิ ยาลัย เทคโนโลยรี าชมงคลตะวันออก ดงั ต่อไปนี้ (๑) สาขาวิชาเทคโนโลยีมีปริญญาหนง่ึ ชัน้ คือ ตรี เรยี กวา่ “เทคโนโลยบี ณั ฑติ ” ใชอ้ ักษรย่อ “ทล.บ.” (๒) สาขาวชิ าบริหารธรุ กจิ มปี รญิ ญาสามชน้ั คือ (ก) เอก เรยี กว่า “บรหิ ารธรุ กิจดุษฎีบัณฑิต” ใชอ้ ักษรย่อ “บธ.ด.” และ ปรชั ญาดษุ ฎี บณั ฑติ ” ใช้อักษรย่อ “ปร.ด.” (ข) โท เรยี กว่า “บริหารธุรกิจมหาบัณฑติ ” ใช้อักษรย่อ “บธ.ม.” (ค) ตรี เรียกว่า “บริหารธรุ กิจบัณฑติ ” ใช้อกั ษรยอ่ “บธ.บ.” (๓) สาขาวชิ าวิทยาสาสตร์ มปี ริญญาสามชน้ั คือ ๓๓
RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY TAWAN-OK (ก) เอก เรยี กว่า “วิทยาศาสตรดษุ ฎบี ัณฑติ ” ใชอ้ ักษรยอ่ “วท.ด.” และ ปรชั ญาดุษฎี บัณฑติ ” ใช้อกั ษรยอ่ “ปร.ด.” (ข) โท เรยี กวา่ “วทิ ยาศาสตรมหาบณั ฑิต” ใชอ้ กั ษรยอ่ “วท.ม.” (ค) ตรี เรียกว่า “วิทยาศาสตรบัณฑติ ” ใชอ้ ักษรย่อ “วท.บ.” (๔) สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มีปรญิ ญาสามชัน้ คือ (ก) เอก เรียกว่า “วิศวกรรมศาสตรดษุ ฎีบณั ฑติ ” ใชอ้ ักษรยอ่ “วศ.ด.” และ “ปรัชญา ดษุ ฎีบัณฑติ ” ใช้อกั ษรยอ่ “ปร.ด.” (ข) โท เรียกว่า “วศิ วกรรมศาสตรมหาบัณฑิต” ใชอ้ ักษรยอ่ “วศ.ม.” (ค) ตรี เรยี กวา่ “วศิ วกรรมศาสตรบัณฑิต” ใช้อกั ษรย่อ “วศ.บ.” (๕) สาขาวชิ าศลิ ปศาสตร์ มปี ริญญาสามชั้น คอื (ก) เอก เรียกว่า “ศิลปศาสตรดุษฎบี ณั ฑิต “ ใช้อักษรย่อ “ศศ.ด.” และ“ปรชั ญาดุษฎี บัณฑติ ” ใช้อกั ษรย่อ “ปร.ด.” (ข) โท เรยี กวา่ “ศิลปศาสตรมหาบัณฑติ ” ใชอ้ ักษรย่อ “ศศ.ม.” (ค) ตรี เรยี กว่า “ศิลปศาสตรบัณฑติ ” ใช้อกั ษรย่อ “ศศ.บ.” (๖) สาขาวชิ าเศรษฐศาสตร์ มีปริญญาสามชัน้ คอื (ก) เอก เรียกว่า “เศรษฐศาสตรดุษฎีบณั ฑติ ” ใช้อักษรย่อ “ศ.ด.” และ“ปรัชญาดุษฎี บัณฑิต” ใช้อกั ษรย่อ “ปร.ด.” (ข) โท เรยี กว่า “เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต” ใช้อกั ษรย่อ “ศ.ม.” (ค) ตรี เรยี กวา่ “เศรษฐศาสตรบัณฑติ ” ใช้อักษรย่อ “ศ.บ.” (๗) สาขาวิชาสถาปตั ยกรรมศาสตร์ มีปรญิ ญาสามชน้ั คือ (ก) เอก เรียกวา่ “สถาปตั ยกรรมศาสตรดุษฎีบณั ฑติ ” ใช้อักษรยอ่ “สถ.ด.” และ “ปรชั ญาดษุ ฎีบัณฑติ ” ใช้อักษรย่อ “ปร.ด.” (ข) โท เรยี กว่า “สถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต” ใช้อกั ษรยอ่ “สถ.ม.” (ค) ตรี เรียกวา่ “สถาปตั ยกรรมศาสตรบัณฑติ ” ใชอ้ ักษรย่อ “สถ.บ.” (๘) สาขาวิชาอตุ สาหกรรมศาสตร์ มีปรญิ ญาสามชัน้ คือ (ก) เอก เรยี กว่า “อตุ สาหกรรมศาสตรดษุ ฎีบัณฑิต” ใช้อักษรยอ่ “อส.ด.” และ “ปรชั ญา ดุษฎีบณั ฑิต” ใช้อกั ษรยอ่ “ปร.ด.” (ข) โท เรยี กว่า “อุตสาหกรรมศาสตรมหาบัณฑิต” ใช้อักษรย่อ “อส.ม.” (ค) ตรี เรยี กว่า “อุตสาหกรรมศาสตรบณั ฑิต” ใชอ้ ักษรย่อ “อส.บ.” ท้งั นี้ หากมสี าขาหรือวิชาเอกใหร้ ะบุชอ่ื สาขาหรอื วชิ าเอกนนั้ ไวใ้ นวงเล็บต่อทา้ ยปริญญาดว้ ย มาตรา ๔ ครุยวทิ ยฐานะของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวนั ออก มสี ามช้ัน ดงั ต่อไปนี้ (๑) ครุยดษุ ฎีบณั ฑิต เปน็ เสอื้ คลยุ แขนยาวทาด้วยผา้ โปรง่ สขี าว ผ่าอกตลอดยาวคลุมเข่า มี ๓๔
คมู่ อื นกั ศกึ ษาระดับปริญญาตรี ๒๕๖๑ สารดรอบขอบ สารดต้นแขน และสารดปลายแขน ดังต่อไปนี้ (ก) สารดรอบขอบ พ้ืนสารดทาด้วยผ้าสักหลาดสนี ้าเงินนา้ ทะเลกว้าง ๑๐ เซนตเิ มตร มี แถบทองกวา้ ง ๑ เซนตเิ มตร ทร่ี มิ ทั้งสองข้างเวน้ ระยะห่าง ๒.๓ เซนตเิ มตร ท้ังสองข้าง ทาบแถบทอง กวา้ ง ๐.๗ เซนติเมตร ตอนกลางสารดมแี ถบผา้ มนั ตามสปี ระจาคณะกวา้ ง ๑.๓ เซนตเิ มตร และมตี รา สัญลักษณ์มหาวิทยาลยั ทาด้วยโลหะชุบสีเงิน สูง ๖ เซนตเิ มตร ตดิ บนสารดรอบขอบด้านหนา้ อกท้ังสอง ข้าง (ข) สารดตน้ แขน แบง่ เป็น ๓ ตอน ระยะห่างตอนละ ๑.๕ เซนตเิ มตร แตล่ ะตอนกว้าง ๖.๕ เซนติเมตร พ้ืนสารดทาด้วยผ้าสกั หลาดสนี ้าเงนิ น้าทะเล มแี ถบทอง กว้าง ๑ เซนติเมตร ทีร่ มิ ท้งั สองขา้ ง ตอนกลางสารด มีแถบผา้ มันตามสีประจาคณะกวา้ ง ๑.๓ เซนตเิ มตร (ค) สารดปลายแขน พื้นสารดทาดว้ ยผ้าสักหลาดสนี ้าเงนิ น้าทะเล กวา้ ง ๑๐ เซนติเมตร มีแถบทอง กว้าง ๑ เซนตเิ มตร ทร่ี มิ ทง้ั สองข้าง เวน้ ระยะห่าง ๒.๓ เซนติเมตร ทงั้ สองข้าง ทาบแถบทอง กว้าง ๐.๗ เซนติเมตร ตอนกลางสารด มีแถบผา้ มันตามสีประจาคณะ กวา้ ง ๑.๓ เซนติเมตร (๒) ครยุ มหาบัณฑติ เช่นเดยี วกับครุยดุษฎีบัณฑิต เวน้ แตม่ ีสารด ตน้ แขน ๒ ตอน (๓) ครยุ บัณฑติ เช่นเดียวกับครยุ มหาบณั ฑติ เวน้ แต่มสี ารดต้นแขน ๑ ตอน มาตรา ๕ เขม็ วิทยฐานะของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลตะวันออกมีลักษณะเปน็ รปู ตรา สัญลกั ษณ์มหาวิทยาลยั ทาด้วยโลหะดุนนนู ชุบสีทอง ส่วนพ้ืนของพระราชลญั จกรและดอกบัวลงยาสีน้าเงนิ ส่วนพนื้ ของชื่อมหาวทิ ยาลยั ลงยาสีขาว ความสูง ๖ เซนติเมตร มาตรา ๖ ครุยประจาตาแหน่งและเคร่ืองหมายประกอบครุยประจาตาแหน่งของนายกสภา มหาวิทยาลยั กรรมการสภามหาวิทยาลัย และคณาจารยม์ หาวทิ ยาลยั มดี งั ต่อไปนี้ (๑) นายกสภามหาวิทยาลัย ครยุ เปน็ เสือ้ คลุมแขนยาวทาด้วยผ้าโปร่งสีขาว ผา่ อกตลอด ยาว คลุมเข่า มีสารดรอบขอบ สารดต้นแขน และสารดปลายแขน ดงั ตอ่ ไปนี้ (ก) สารดรอบแขน พนื้ สารดทาด้วยผ้าสักหลาดสนี า้ เงนิ น้าทะเล กว้าง ๑๐ เซนตเิ มตร โดยทาบแถบทอง กวา้ ง ๑ เซนตเิ มตร จานวน ๖ แถบ บนผา้ สกั หลาดสนี ้าเงนิ น้าทะเล มรี ะยะห่างระหวา่ ง แถบ ๐.๘ เซนตเิ มตร มสี ารดเฉยี งโดยพ้ืนสารดทาดว้ ยผ้าสักหลาดสนี า้ เงนิ น้าทะเล กวา้ ง ๑๐ เซนตเิ มตร วางเฉียง ๓๖ องศา ทาบบนสารดรอบขอบบรเิ วณกลางอกเส้ือ มีแถบทอง กวา้ ง ๑ เซนตเิ มตร ทรี่ ิมทั้งสอง แบง่ ครึ่งผ้าสักหลาดสีนา้ เงินนา้ ทะเลที่เหลือ ๘ เซนตเิ มตร ทาบแถบทอง กว้าง ๑ เซนติเมตร บนผา้ สกั หลาดสนี ้าเงนิ นา้ ทะเล ณ จุดแบ่งครึ่งข้างละ ๑ แถบ รวม ๒ แถบ และใช้แถบทอง กว้าง ๐.๕ เซนติเมตร ทาบบนผ้าสักหลาดสนี ้าเงินนา้ ทะเลนั้น สว่ นที่เหลือท้ังสองข้าง มีตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยทา ดว้ ยโลหะชบุ สที อง สูง ๖ เซนตเิ มตร ตดิ กลางสารดเฉียงทง้ั สองข้าง (ข) สารดต้นแขน แบ่งเปน็ ๓ ตอน ระยะหา่ งตอนละ ๒ เซนตเิ มตร แต่ละตอน กวา้ ง ๓.๕ เซนติเมตร พนื้ สารดทาด้วยผา้ สกั หลาดสีน้าเงินนา้ ทะเล มีแถบทองกวา้ ง ๑ เซนติเมตร ทีร่ มิ ทงั้ สอง ข้าง ๓๕
RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY TAWAN-OK (ค) สารดปลายแขน แบง่ เปน็ ๓ ตอน ระยะหา่ งตอนละ ๒ เซนตเิ มตร แต่ละตอนกว้าง ๓.๕ เซนติเมตร พ้ืนสารดทาด้วยผ้าสักหลาดสีนา้ เงนิ นา้ ทะเล มีแถบทอง กวา้ ง ๑ เซนตเิ มตร ที่ริมทั้งสอง ข้าง ให้มีสายสร้อยประกอบครยุ ประจาตาแหน่งนายกสภามหาวิทยาลยั ทาด้วยโลหะชุบสีทอง ประกอบด้วยรปู ดอกไมท้ ิพย์ ๙ ดอก มเี กสรเป็นพลอยสีน้าเงนิ นา้ ทะเล ก่ึงกลางสายสร้อยประดับตรา สัญลักษณม์ หาวิทยาลัยดนุ นูนลงยาสียึดติดกบั ครยุ ประมาณรอ่ งหัวไหล่ (๒) กรรมการสภามหาวทิ ยาลัย เช่นเดียวกบั นายกสภามหาวทิ ยาลัย แต่ไม่มสี ายสร้อยประดับ (๓) คณาจารย์มหาวิทยาลัย เชน่ เดียวกบั กรรมการสภามหาวิทยาลยั เวน้ แต่สารดรอบขอบพื้น สารดทาดว้ ยผา้ สักหลาดสนี า้ เงินนา้ ทะเล กวา้ ง ๑๐ เซนตเิ มตร มีแถบทอง กวา้ ง ๑ เซนติเมตร ท่รี ิมทงั้ สอง ข้าง เวน้ ระยะห่าง ๐.๕ เซนติเมตร ทั้งสองข้างทาบแถบทอง กวา้ ง ๐.๗ เซนติเมตร เวน้ ระยะหา่ ง ๐.๕ เซนตเิ มตร ท้ังสองขา้ งทาบแถบทอง กวา้ ง ๑ เซนติเมตร ส่วนทเ่ี หลอื ทงั้ สองขา้ ง มีตราสัญลักษณ์ มหาวิทยาลัยทาด้วยโลหะชบุ ทอง สงู ๖ เซนตเิ มตร ติดบนสารดรอบขอบด้านหน้าอกทั้งสองขา้ ง มาตรา ๗ สปี ระจาคณะ มีดังตอ่ ไปน้ี (๑) คณะเกษตรศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติ สีเขยี วเข้ม (๒) คณะเทคโนโลยสี งั คม สสี ม้ (๓) คณะเทคโนโลยีอตุ สาหกรรมการเกษตร สชี มพู (๔) คณะบรหิ ารธุรกจิ และเทคโนโลยีสารสนเทศ สฟี ้า (๕) คณะมนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สมี ว่ งดอกตะแบก (๖) คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สเี หลือง (๗) คณะวศิ วกรรมศาสตรแ์ ละสถาปัตยกรรมศาสตร์ สเี ลือดหมู มาตรา ๘ ให้มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลตะวันออกจัดทาครยุ วิทยฐานะ เขม็ วิทยฐานะ และครุยประจาตาแหนง่ ตามพระราชกฤษฎีกาน้ีข้นึ ไวเ้ ป็นตวั อยา่ ง มาตรา ๙ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธกิ ารรักษาการตามพระราชกฤษฎกี านี้ ผ้รู บั สนองพระบรมราชโองการ (พลเอก สรุ ยุทธ์ จลุ านนท์) นายกรฐั มนตรี ๓๖
คมู่ อื นักศึกษาระดับปรญิ ญาตรี ๒๕๖๑ หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับน้ี คือ เนื่องจากไดม้ ีการประกาศใช้บงั คับ พระราชบญั ญัติมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ. ๒๕๔๘ ประกอบกับมาตรา ๕๕ วรรคสอง และ มาตรา ๕๙ วรรคสอง แหง่ พระราชบัญญตั ดิ งั กลา่ วบัญญตั วิ ่า การกาหนดใหส้ าขาวชิ าใดมีปรญิ ญาชั้นใด และจะใช้ อักษรย่อสาหรับสาขาวชิ านน้ั อย่างไร และการกาหนดลักษณะ ชนดิ ประเภท และสว่ นประกอบ ของครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครยุ ประจาตาแหนง่ ใหต้ ราเปน็ พระราชกฤษฎีกา จงึ จาเปน็ ต้องตรา พระราชกฤษฎกี าน้ี ๓๗
RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY TAWAN-OK พระราชกฤษฎีกา วา่ ดว้ ยปรญิ ญาในสาขาวิชา อกั ษรย่อสาหรับสาขาวิชา ครยุ วิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครยุ ประจาตาแหนง่ ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลตะวันออก (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๕ —————————- ภูมพิ ลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันท่ี ๒๔ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นปีท่ี ๖๗ ในรัชกาลปจั จุบนั พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ ประกาศว่า โดยท่ีเป็นการสมควรแก้ไขเพ่ิมเติมพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อ สาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช มงคลตะวันออก อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กับมาตรา ๕๕ วรรคสอง และมาตรา ๕๙ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ.๒๕๔๘ จึงทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ราพระราชกฤษฎกี าขนึ้ ไว้ ดงั ตอ่ ไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกาน้ีเรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษร ย่อสาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลตะวนั ออก (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๕” มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกาน้ีให้ใชบ้ ังคับต้ังแตว่ ันถดั จากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็น ตน้ ไป มาตรา ๓ ใหย้ กเลกิ ความในมาตรา ๓ แหง่ พระราชกฤษฎกี าวา่ ด้วยปรญิ ญาในสาขาวชิ า อักษรยอ่ สาหรับสาขาวชิ า ครยุ วิทยฐานะ เขม็ วทิ ยฐานะ และครยุ ประจาตาแหน่งของมหาวิทยาลัย เทคโนโลยรี าชมงคลตะวันออก พ.ศ. ๒๕๕๐ และให้ใช้ความต่อไปนแี้ ทน “มาตรา ๓ ใหก้ าหนดปริญญาในสาขาวชิ าและอักษรย่อสาหรบั สาขาวชิ าของมหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลตะวนออก ั ดังต่อไปน้ี (๑) สาขาวชิ าการบญั ชีมปี รญิ ญาสามช้ัน คอื (ก) เอก เรียกวา่ “บัญชดี ษุ ฎีบณั ฑติ ” ใชอ้ กั ษรยอ่ “บช.ด.” และ “ปรชั ญาดุษฎีบัณฑติ ” ใชอ้ กั ษรยอ่ “ปร.ด.” (ข) โท เรียกว่า “บญั ชมี หาบัณฑติ ” ใช้อกั ษรย่อ “บช.ม.” ๓๘
คูม่ อื นักศกึ ษาระดับปริญญาตรี ๒๕๖๑ (ค) ตรี เรยี กวา่ “บญั ชบี ัณฑิต” ใช้อักษรย่อ “บช.บ.” (๒) สาขาวชิ าเทคโนโลยมี ีปริญญาหนึง่ ชั้น คอื ตรี เรยี กว่า “เทคโนโลยีบณั ฑิต” ใช้อกั ษรย่อ “ทล.บ.” (๓) สาขาวิชาบริหารธุรกิจ มีปริญญาสามชน้ั คอื (ก) เอก เรียกว่า “บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต” ใช้อักษรย่อ “บธ.ด.” และ “ปรัชญาดุษฎี บัณฑติ ” ใชอ้ ักษรย่อ “ปร.ด.” (ข) โท เรยี กว่า “บรหิ ารธุรกจิ มหาบณั ฑิต” ใชอ้ ักษรย่อ “บธ.ม.” (ค) ตรี เรียกว่า “บรหิ ารธรุ กิจบัณฑติ ” ใช้อกั ษรยอ่ “บธ.บ.” (๔) สาขาวชิ าวิทยาศาสตร์มปี รญิ ญาสามชั้น คอื (ก) เอก เรยี กวา่ “วิทยาศาสตรดุษฎบี ณั ฑติ ” ใชอ้ กั ษรยอ่ “วท.ด.” และ “ปรชั ญาดษุ ฎี บัณฑิต” ใช้อกั ษรยอ่ “ปร.ด.” (ข) โท เรียกว่า “วทิ ยาศาสตรมหาบณั ฑิต” ใช้อักษรย่อ “วท.ม.” (ค) ตรี เรยี กว่า “วิทยาศาสตรบัณฑิต” ใช้อกั ษรย่อ “วท.บ.” (๕) สาขาวิชาวศิ วกรรมศาสตร์มีปริญญาสามชนั้ คอื (ก) เอก เรียกว่า “วิศวกรรมศาสตรดษุ ฎีบณั ฑิต” ใชอ้ ักษรย่อ “วศ.ด.” และ “ปรชั ญา ดษุ ฎบี ณั ฑติ ” ใชอ้ กั ษรย่อ “ปร.ด.” (ข) โท เรยี กวา่ “วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑติ ” ใชอ้ ักษรยอ่ “วศ.ม.” (ค) ตรี เรยี กว่า “วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต” ใช้อกั ษรยอ่ “วศ.บ.” (๖) สาขาวชิ าศลิ ปศาสตรม์ ีปริญญาสามชนั้ คอื (ก) เอก เรยี กวา่ “ศลิ ปศาสตรดุษฎบี ณั ฑติ ” ใชอ้ ักษรย่อ “ศศ.ด.” และ “ปรัชญาดุษฎี บณั ฑติ ” ใช้อกั ษรย่อ “ปร.ด.” (ข) โท เรยี กว่า “ศลิ ปศาสตรมหาบัณฑิต” ใช้อักษรย่อ “ศศ.ม.” (ค) ตรี เรียกวา่ “ศลิ ปศาสตรบัณฑิต” ใช้อักษรย่อ “ศศ.บ.” (๗) สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์มปี รญิ ญาสามช้นั คอื (ก) เอก เรยี กว่า “เศรษฐศาสตรดุษฎีบัณฑติ ” ใช้อักษรยอ่ “ศ.ด.” และ “ปรชั ญาดุษฎี บัณฑติ ” ใช้อกั ษรยอ่ “ปร.ด.” (ข) โท เรยี กว่า “เศรษฐศาสตรมหาบณั ฑติ ” ใช้อักษรย่อ “ศ.ม.” (ค) ตรเี รียกว่า “เศรษฐศาสตรบัณฑิต” ใช้อักษรย่อ “ศ.บ.” (๘) สาขาวิชาสถาปตั ยกรรมศาสตร์มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรยี กวา่ “สถาปัตยกรรมศาสตรดุษฎบี ัณฑติ ” ใช้อักษรยอ่ “สถ.ด.” และ“ปรัชญา ดุษฎบี ัณฑติ ” ใช้อกั ษรย่อ “ปร.ด.” (ข) โท เรียกวา่ “สถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต” ใชอ้ กั ษรย่อ “สถ.ม.” ๓๙
RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY TAWAN-OK (ค) ตรเี รยี กว่า “สถาปัตยกรรมศาสตรบณั ฑิต” ใช้อักษรย่อ “สถ.บ.” (๙) สาขาวิชาอุตสาหกรรมศาสตร์มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรยี กว่า “อุตสาหกรรมศาสตรดษุ ฎบี ณั ฑิต” ใช้อักษรยอ่ “อส.ด.” และ “ปรัชญา ดุษฎบี ณั ฑติ ” ใช้อักษรย่อ “ปร.ด.” (ข) โท เรียกวา่ “อุตสาหกรรมศาสตรมหาบัณฑิต” ใชอ้ กั ษรย่อ “อส.ม.” (ค) ตรี เรยี กวา่ “อุตสาหกรรมศาสตรบณั ฑติ ” ใช้อักษรย่อ “อส.บ.” ท้งั น้ี หากมสี าขาหรอื วชิ าเอกให้ระบุชอื่ สาขาหรือวชิ าเอกนนั้ ไว้ในวงเลบ็ ตอ่ ทา้ ยปริญญาด้วย” มาตรา ๔ ใหย้ กเลกิ ความในมาตรา ๗ แหง่ พระราชกฤษฎกี าวา่ ด้วยปริญญาในสาขาวชิ า อกั ษรย่อสาหรบั สาขาวิชา ครุยวทิ ยฐานะ เขม็ วทิ ยฐานะ และครยุ ประจาตาแหนง่ ของมหาวทิ ยาลัย เทคโนโลยรี าชมงคลตะวนั ออก พ.ศ. ๒๕๕๐ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “มาตรา ๗ สปี ระจาคณะและสถาบัน มีดังต่อไปนี้ (๑) คณะเกษตรศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติ สเี ขยี วเขม้ (๒) คณะเทคโนโลยีสังคม สสี ม้ (๓) คณะเทคโนโลยีอตุ สาหกรรมการเกษตร สีชมพู (๔) คณะบรหิ ารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ สีฟา้ (๕) คณะมนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สมี ่วงดอกตะแบก (๖) คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี สเี หลือง (๗) คณะวศิ วกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ สเี ลอื ดหมู (๘) คณะศิลปศาสตร์ สสี ้มทอง (๙) สถาบนั เทคโนโลยีการบนิ สีเทา” ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ยิ่งลกั ษณ์ ชินวัตร นายกรฐั มนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพ้ ระราชกฤษฎีกาฉบบั น้คี ือ เนื่องจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลตะวนั ออก ได้เปดิ สอนสาขาวิชาการบัญชีเพิ่มขน้ึ และจัดตั้งคณะศิลปะศาสตร์และสถาบัน เทคโนโลยีการบินเพิ่มขึ้น สมควรกาหนดปริญญาในสาขาวชิ าและอักษรย่อสาหรบั สาขาวิชาของสาขาวิชา การบัญชี รวมทั้งกาหนดสปี ระจาคณะและสถาบนั ของคณะศลิ ปศาสตร์และสถาบนั เทคโนโลยีการบิน จงึ จาเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกาน้ี ๔๐
คู่มอื นกั ศกึ ษาระดับปรญิ ญาตรี ๒๕๖๑ พระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยปรญิ ญาในสาขาวิชา อักษรย่อสาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครยุ ประจาตาแหนง่ ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลตะวันออก (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๘ —————————- ภมู พิ ลอดลุ ยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วนั ท่ี ๑๖ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ เปน็ ปีที่ ๗๐ ในรชั กาลปจั จุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อ สาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลตะวันออก อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๒๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๗ กับมาตรา ๕๕ วรรคสอง และมาตรา ๕๙ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย เทคโนโลยรี าชมงคล พ.ศ.๒๕๔๘ จึงทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ราพระราชกฤษฎีกาข้ึนไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกาน้ีเรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษร ย่อสาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลตะวนั ออก (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๘” มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับต้ังแตว่ ันถดั จากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็น ตน้ ไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๓ แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่งของมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก พ.ศ. ๒๕๕๐ ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาใน สาขาวิชาอักษรย่อสาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่งของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลตะวันออก (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๕ และใหใ้ ช้ความต่อไปนี้แทน “มาตรา ๓ ใหก้ าหนดปริญญาในสาขาวิชาและอกั ษรยอ่ สาหรับสาขาวชิ าของมหาวทิ ยาลัย เทคโนโลยรี าชมงคลตะวนออก ั ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) สาขาวิชาการบญั ชี มีปรญิ ญาสามช้ัน คอื (ก) เอก เรียกว่า “บญั ชีดษุ ฎบี ัณฑิต” ใชอ้ กั ษรย่อ “บช.ด.” และ “ปรัชญาดุษฎีบณั ฑิต” ๔๑
RAJAMANGALA UNIVERSITY OF TECHNOLOGY TAWAN-OK ใช้อกั ษรยอ่ “ปร.ด.” (ข) โท เรียกว่า “บญั ชีมหาบณั ฑติ ” ใช้อักษรยอ่ “บช.ม.” (ค) ตรี เรยี กวา่ “บัญชบี ณั ฑิต” ใช้อกั ษรย่อ “บช.บ.” (๒) สาขาวชิ าเทคโนโลยี มปี ริญญาหนงึ่ ชัน้ คอื ตรี เรยี กวา่ “เทคโนโลยีบัณฑิต” ใช้อกั ษรยอ่ “ทล.บ.” (๓) สาขาวิชาบริหารธุรกจิ มปี รญิ ญาสามชัน้ คอื (ก) เอก เรียกว่า “บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต” ใช้อักษรย่อ “บธ.ด.” และ “ปรัชญาดุษฎี บณั ฑติ ” ใชอ้ กั ษรยอ่ “ปร.ด.” (ข) โท เรียกวา่ “บรหิ ารธุรกิจมหาบัณฑติ ” ใชอ้ ักษรย่อ “บธ.ม.” (ค) ตรี เรียกวา่ “บริหารธรุ กิจบัณฑิต” ใช้อกั ษรย่อ “บธ.บ.” (๔) สาขาวิชาวทิ ยาศาสตร์ มปี ริญญาสามชั้น คอื (ก) เอก เรียกว่า “วิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑติ ” ใช้อกั ษรย่อ “วท.ด.” และ “ปรชั ญาดุษฎี บณั ฑิต” ใช้อักษรยอ่ “ปร.ด.” (ข) โท เรยี กวา่ “วทิ ยาศาสตรมหาบณั ฑติ ” ใช้อักษรย่อ “วท.ม.” (ค) ตรี เรียกว่า “วทิ ยาศาสตรบัณฑิต” ใช้อักษรยอ่ “วท.บ.” (๕) สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มีปรญิ ญาสามชน้ั คือ (ก) เอก เรียกวา่ “วิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต” ใช้อักษรย่อ “วศ.ด.” และ “ปรชั ญา ดุษฎบี ณั ฑติ ” ใชอ้ กั ษรยอ่ “ปร.ด.” (ข) โท เรยี กว่า “วศิ วกรรมศาสตรมหาบณั ฑติ ” ใชอ้ ักษรย่อ “วศ.ม.” (ค) ตรี เรยี กวา่ “วศิ วกรรมศาสตรบณั ฑิต” ใช้อักษรย่อ “วศ.บ.” (๖) สาขาวชิ าศิลปศาสตร์ มีปรญิ ญาสามช้ัน คอื (ก) เอก เรียกวา่ “ศิลปศาสตรดษุ ฎบี ัณฑิต” ใชอ้ กั ษรย่อ “ศศ.ด.” และ “ปรชั ญาดุษฎี บณั ฑติ ” ใช้อักษรย่อ “ปร.ด.” (ข) โท เรียกวา่ “ศิลปศาสตรมหาบณั ฑิต” ใชอ้ ักษรย่อ “ศศ.ม.” (ค) ตรี เรียกวา่ “ศิลปศาสตรบัณฑิต” ใช้อกั ษรยอ่ “ศศ.บ.” (๗) สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คอื (ก) เอก เรยี กวา่ “เศรษฐศาสตรดษุ ฎบี ัณฑติ ” ใช้อักษรย่อ “ศ.ด.” และ “ปรชั ญาดุษฎี บัณฑติ ” ใช้อกั ษรยอ่ “ปร.ด.” (ข) โท เรยี กวา่ “เศรษฐศาสตรมหาบัณฑติ ” ใชอ้ ักษรย่อ “ศ.ม.” (ค) ตรี เรยี กวา่ “เศรษฐศาสตรบัณฑิต” ใช้อกั ษรยอ่ “ศ.บ.” (๘) สาขาวชิ าสถาปตั ยกรรมศาสตร์ มีปรญิ ญาสามช้นั คอื (ก) เอก เรียกวา่ “สถาปตั ยกรรมศาสตรดุษฎบี ณั ฑิต” ใช้อกั ษรย่อ “สถ.ด.” และ“ปรัชญา ๔๒
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185