Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เศรษฐกิจพอเพียงปรีบ

เศรษฐกิจพอเพียงปรีบ

Published by ห้องเรียน ออนไลน์, 2022-05-29 05:43:32

Description: เศรษฐกิจพอเพียงปรีบ

Search

Read the Text Version

การใช้ทรพั ยากรธรรมชาติ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง นางมลวภิ า ดิษฐสะโร ครผู ูส้ อน

ความรู้ คุณธรรม รอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวัง ซอ่ื สัตย์สุจรติ ขยนั อดทน สตปิ ัญญา แบง่ ปัน ปรชั ญา เศรษฐกจิ /สังคม/ส่งิ แวดลอ้ ม/วฒั นธรรม ของเศรษฐกิจ สมดลุ /พรอ้ มรบั ตอ่ การเปลย่ี นแปลง พอเพยี ง มภี ูมคุม้ กันใน ตัวที่ดี ก า ร ใ ช้ ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ ต า ม ห ลั ก ป รั ช ญ า เ ศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เ พี ย ง

การใช้ทรัพยากรธรรมชาติตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง 1. ยึดทางสายกลาง เป็นการใช้ทรพั ยากรธรรมชาตใิ นปริมาณท่ีไม่มากหรอื นอ้ ยเกนิ ไป 2. ความไม่ประมาท เปน็ การนาทรพั ยากรธรรมชาติไปใช้อยา่ งเหมาะสมไม่เกินความจาเปน็ และต้องมกี ารสร้าง ขึน้ ทดแทน 3. ความพอประมาณ เป็นการนาทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสมโดยไม่ใช้ปริมาณมากเกิน ความจาเป็นหรอื ขาดการควบคุม 4. ความมีเหตุผล เป็นการใช้เหตุผลพิจารณาและตัดสินถึงระดับความพอเพียงจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผลทีค่ าดวา่ จะเกิดจากการกระทาอยา่ งรอบคอบ 5. การเตรียมความพร้อมกับความเปล่ียนแปลง เป็นการปรับตนให้สามารถพึ่งพาตนเอง ตามแนวทางปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจะเป็นแนวทางที่ทาให้คนในชุมชนมีความสามารถในการดารงชีวิตอยู่ได้อย่างยั่งยืน พรอ้ มทจี่ ะเผชิญกบั ความเปล่ียนแปลงตา่ งๆ ก า ร ใ ช้ ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ ต า ม ห ลั ก ป รั ช ญ า เ ศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เ พี ย ง

3 ห่วง 1. ความพอประมาณ 2. ความมเี หตุผล 3. ระบบภมู ิคุม้ กันในตวั ท่ดี ี คือ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน หมายถึง ความพอดีต่อ หมายถึง การตัดสินใจดาเนินการเรื่องต่าง ๆ หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับต่อผลกระทบ ความจาเป็น และเหมาะสมกบั ฐานะของตนเอง สังคม อย่างมีเหตุผลตามหลักวิชาการ หลักกฎหมาย และการเปล่ียนแปลงในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้าน สิ่งแวดล้อม รวมทั้งวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่น ไม่ หลักศีลธรรมจริยธรรม และวัฒนธรรมท่ีดีงาม โดย เศรษฐกิจ สังคม ส่ิงแวดล้อม และวัฒนธรรม เพ่ือให้ มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป และต้องไม่เบียดเบียน พิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน สามารถปรับตวั และรับมอื ได้อยา่ งทนั ท่วงที ตนเองและผ้อู น่ื คานึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทาน้ัน ๆ อยา่ งรอบรู้และรอบคอบ ก า ร ใ ช้ ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ ต า ม ห ลั ก ป รั ช ญ า เ ศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เ พี ย ง

2 เง่อื นไข 1. เง่ือนไขคุณธรรม ที่จะต้องสร้างเสริมให้เป็น 2. เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วยการฝึกตนให้มี พื้นฐานจิตใจของคนในชาติ ประกอบด้วย ด้านจิตใจ ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆ ที่ คือการตระหนักในคุณธรรม รู้ผิดชอบช่ัวดี ซ่ือสัตย์ เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน มีความรอบคอบ และความ สุจรติ ใช้สตปิ ัญญาอย่างถูกต้อง และเหมาะสมในการ ระมัดระวังท่ีจะนาความรู้ต่าง ๆ เหล่านั้น มาพิจารณา ดา เนินชี วิต และด้านการกระทา คื อมีควา ม ให้เช่ือมโยงกัน เพ่ือประกอบการวางแผน ขยันหม่ันเพียร อดทน ไม่โลภ ไม่ ตระหน่ี และในขนั้ ปฏบิ ตั ิ รู้จักแบ่งปัน และรับผิดชอบในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นใน สังคม ก า ร ใ ช้ ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ ต า ม ห ลั ก ป รั ช ญ า เ ศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เ พี ย ง

4 มิติ 1. ด้านเศรษฐกิจ ลดรายจ่าย / เพ่ิมรายได้ / ใช้ชีวิตอย่างพอควร / คิดและวางแผน อย่าง รอบคอบ / มภี ูมคิ ุม้ กัน / ไมเ่ ส่ยี งเกนิ ไป / การเผือ่ ทางเลือกสารอง 2. ด้านสงั คม ช่วยเหลือเกือ้ กูล / รู้รักสามคั คี / สร้างความเข้มแข็งใหค้ รอบครัวและชุมชน 3. ด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม รู้จักใช้และจัดการอย่างฉลาดและรอบคอบ / เลือกใช้ทรพั ยากรท่ีมีอยู่อยา่ งรู้ค่าและเกดิ ประโยชน์สงู สดุ / ฟื้นฟูทรัพยากรเพ่ือให้เกิดความยั่งยืน สูงสุด 4. ด้านวัฒนธรรม รักและเห็นคุณค่าในความเป็นไทย เอกลักษณ์ไทย / เห็นประโยชน์และ คุ้มค่าของภูมปิ ัญญาไทย ภูมิปญั ญาทอ้ งถ่ิน / รจู้ ักแยกแยะและเลือกรับวฒั นธรรมอน่ื ๆ

โครงการ อั น เ น่ื อ ง ม า จ า ก พ ร ะ ร า ช ดา ริ ท่ี ช่ ว ย แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า ม ล พิ ษ

โครงการบาบัดนาเสีย บงึ มักกะสนั โดยใช้ผักตบชวา ใช้หลักว่าผักตบชวาท่ีมีอยู่ทั่วไปนั้น เป็นพืชดูด ความโสโครกออกมาแล้วก็ทาให้น้าสะอาดข้ึนได้ เป็นเคร่ืองกรองธรรมชาติใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และธรรมชาตขิ องการเตบิ โตของพืช...” ก า ร ใ ช้ ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ ต า ม ห ลั ก ป รั ช ญ า เ ศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เ พี ย ง

โครงการการบาบดั มลพิษในนาด้วยการใช้กงั หนั นาชยั พัฒนาเตมิ ออกซเิ จนใหน้ า กังหันชัยพัฒนาเป็นกังหันน้าเพื่อบาบัดน้าเสียด้วยวิธีการหมุนปั่นเติม อากาศให้น้าเสียกลายเป็นน้าดี เพ่ือพัฒนาแหล่งน้าแก่ปวงชน สามารถ ประยุกตใ์ ช้บาบัดนา้ เสยี จากการอปุ โภค ของประชาชน น้าเสียจาก โรงงานอุตสาหกรรม รวมท้ังเพ่ิมออกซิเจน ให้กับบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้า ทาง การเกษตร การบาบดั มลพิษในน้าดว้ ยการใช้เครื่องกลเติมอากาศ กงั หันนา้ ชัยพัฒนา ได้ผลดีเปน็ ทน่ี ่าพอใจ ทาให้นา้ ใสสะอาดข้นึ ลดกลิ่นเหม็น ลงได้มากและมีปริมาณออกซิเจนในน้าเพ่ิมขึ้น สัตว์น้าสามารถอยู่อาศัยได้ อย่างปลอดภัย และสามารถบาบัดความสกปรกในรูปของมวลสารต่างๆ ให้ ลดต่าลง ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานท่กี าหนด ก า ร ใ ช้ ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ ต า ม ห ลั ก ป รั ช ญ า เ ศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เ พี ย ง

โครงการแหลมผักเบีย-หนองหารรักษ์ สงิ่ แวดล้อม โดยส่งน้าเสียผ่านท่อไปยังบ่อบาบัดและในบ่อสุดท้ายจะมีคณะวิจัย ตรวจสอบ คุณภาพน้าก่อนส่งต่อส่วนระบบบาบัด รองนั้นอาศัย การบาบัดโดยธรรมชาติ ประกอบด้วย 1.ระบบบึงชีวภาพ ซึ่งจะปลูกพืชที่สามารถเจริญได้ดีในน้าขังเสีย ดูดซับ สารพิษและสารอินทรยี ์ได้ เช่น กก อ้อ เป็นต้น 2.ระบบกรองน้าเสียด้วยหญ้า เช่น หญ้าเนเปีย หญ้าแฝก หญ้านวลน้อย หญา้ รูซ่ี เปน็ ต้น โดยจะส่งน้าเสียไปขงั ในแปลงหญา้ เป็นระยะ ๆ 3.ระบบกรองด้วยป่าชายเลน โดยในพ้ืนท่ีป่าชายเลนจะปลูกโกงกาง แสม ขาว เป็นต้น เพ่ือให้มีสภาพใกล้เคียงธรรมชาติ น้าที่ผ่านป่าชายเลนก็จะได้ การบาบัดตามธรรมชาติ ก า ร ใ ช้ ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ ต า ม ห ลั ก ป รั ช ญ า เ ศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เ พี ย ง

โครงการแกล้งดิน เรง่ กามะถนั ทาปฏกิ ิริยา ไล่หน้าดนิ เปรียว จากปัญหาดินเปรี้ยวในบริเวณป่าพรุที่ถูกน้าท่วมในจังหวัดนราธิวาส เนื่องจากมี สารประกอบไพไรทซ์ ึง่ มกี ามะถันเปน็ องค์ประกอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงมีพระราชดาริ ให้ทดลอง “แกล้งดิน”ด้วยการทาให้ดินแห้งและเปียกสลับกันไป เพ่ือกระตุ้นให้สารไพไรท์ทา ปฏิกิริยากับออกซิเจนแล้วปลดปล่อยกามะถันออกมา ทาให้ดินเปรี้ยวจัดจากน้ันปรับปรุงดินด้วย การใช้น้าร่วมกับปูนมาร์ลหรือปูน ฝุ่นแล้วไถพลิกกลบดิน ความเป็นเบสของปูนจะทาให้ดินซ่ึง เปร้ียวจัดถูกกระตุ้นให้ “ช็อก” จึงปรับสภาพสู่สภาวะปกติ จนกระทั่งเพาะปลูกข้าวได้ การปรับ พื้นท่ีและยกร่อง ก็เป็นวิธีระบายกรดบนหน้าดินอีกทางหนึ่ง ส่วนจะปลูกพืชชนิดใดนั้นต้องปรับ พน้ื ทีใ่ หเ้ หมาะสม เช่น หากจะปลูกข้าวต้องปรับดินให้ลาดเอียงเพื่อให้น้าไหลออก หากจะปลูกผัก หรอื พืชไรอ่ ืน่ ให้ยกรอ่ งและทาคเู พือ่ ป้องกันนา้ ท่วม นอกจากนีย้ ังต้องใสป่ ูนขาวเพ่ือปรับให้ดินเป็น กลาง หรอื อาจจะใช้นา้ จดื ชะลา้ งก็ไดแ้ ต่ใช้เวลานาน ก า ร ใ ช้ ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ ต า ม ห ลั ก ป รั ช ญ า เ ศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เ พี ย ง

ออกจากระบบหรือไม่ ? ใช่ ไม่ใช่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook