14

The 6TH National Conference on Computing and Information TechnologyNCCIT2010-59 วารสารคอมพวิ เตอร์ศึกษาออนไลน์ Online computer education journal system กรรณิกา แก้วฉุย (Kannika Keawchuy) 1 กนั ต์พงษ์ วรรัตน์ปัญญา (Kantpong Woraratpanya) 2 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ [email protected] บทคดั ย่อ other people can read publication, search publication, งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพ่ือพัฒนาเว็บไซต์ ระบบ send publication, consider publication, track report ofวารสารคอมพิวเตอร์ ศึกษาออนไลน์ จัดทาํ ขึน้ เพื่อใช้เผยแพร่ข่ า ว ส า ร แ ล ะ บ ท ค ว า ม เ ชิ ง วิ ช า ก า ร แ ล ะ วิ จั ย ข อ ง ค ณ า จ า ร ย์ considered publication online by type of user . In orderเจ้าหน้าท่ี นักศึกษา ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ตลอดจนบุคคลท่ัวไป ผู้ท่ีเกี่ยวข้อง that for promote, support researching and developmentสามารถอ่านและค้นหาบทความ ส่งบทความ ตรวจพิจารณาบทความ ติดตามรายงานผลการตรวจพิจารณาบทความ that made the useful academic publication ofออนไลน์ได้ตามสิทธ์ิของผ้ใู ช้ประเภทต่างๆ ทั้งนีเ้ พื่อส่งเสริมและสนับสนุน การวิจัย พัฒนา และสร้ างผลงานด้านวิชาการ university, vocation and the country. The system hasท่ี จะเป็ นประโยชน์ ต่ อมหาวิทยาลัย วิชาชี พ และต่ อประเทศชาติโดยส่วนรวม ในการทดสอบความพึงพอใจของ been tested by 5 experts. The statistics have been usedระบบโดยผู้เช่ียวชาญ จาํ นวน 5 คน สถิติที่นาํ มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมลู คือ ค่าเฉล่ีย และค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน ผลการ in analyzing the data, the average value and standardทดสอบความพึ งพอใจของระบบจากผ้ ูเชี่ ยวชาญได้ ค่ าเฉลี่ยโดยภาพรวมเท่ากับ 4.26 และค่าเบ่ียงเบนมาตรฐานโดย deviation are then calculated. The results of the expertภาพรวมเท่ากับ 0.72 ซ่ึงสรุปได้ว่าระบบวารสารคอมพิวเตอร์ศึกษาออนไลน์ท่ีได้พัฒนาขึน้ มีความพึงพอใจในระดับดีและ group shows average values = 4.26 and standardนาํ ไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพคาํ สําคญั : วารสารออนไลน์ คอมพิวเตอร์ศึกษา deviation = 0.72 which concluded that the system Abstract developed works at a good performance level, and can The objectives of this research were to develop be used effectively.online computer education journal system for using Keyword: Online Journal, Computer Educationrelate data information, academic publication, teacher 1. บทนําofficer and student’s research of King Mongkut’s ในงานดา้ นวชิ าการ วารสารวิชาการ (Academic Journal) มีบทบาทท่ีสําคัญ 3 ประการ คือ 1) เป็ นแหล่งรวบรวมUniversity of Technology North Bangkok including ผลงานทางความคิดท่ีสาํ คญั 2) เป็ นช่องทางสื่อสารสําหรับผู้ ที่สนใจในสาขาวิชาการต่าง ๆ และ 3) เป็ นกลไกในการรับรู้ และตอบรับสําหรับนักวิจยั และสถาบนั ต่าง ๆ ผูค้ น้ คิด นวัตกรรมให้เกิดความก้าวหน้าในสาขาวิชาการน้ัน [1] นอกจากน้ีการเผยแพร่ ผลงานวิชาการโดยลงพิมพ์ใน วารสารวิชาการยังเป็ นตัวนําช้ีที่สําคัญ ในการประเมิน คุณภาพในดา้ นวิชาการของนกั วิจยั และสถาบนั อีกดว้ ย [1] สําหรับประเทศไทยยงั มีวารสารที่เป็ นภาษาไทยมากหลาย ร้อยวารสารเม่ือมีวารจาํ นวนมากการเปรียบ เทียบว่าวารสาร868

The 6TH National Conference on Computing and Information Technologyใดดีกวา่ วารสารใด เพื่อการพฒั นาแข่งขนั และผบู้ ริโภคจะได้ เอกสาร อิเล็กทรอนิกส์และนาํ ไปไวใ้ นเวบ็ ไซต์ให้ผูอ้ ่านรู้ จึงไดม้ ีการจดั ลาํ ดบั วดั หาตวั ช้ีวดั (Index) ของวารสารน้นั ๆ ทวั่ ไปท่ีใชอ้ ินเทอร์เน็ต สามารถดาวน์โหลด หรืออ่านเน้ือหาการกาํ หนดตวั ช้ีวดั หรือดชั นีของวารสารจึงถกู กาํ หนดข้ึนเป็น ผา่ นคอมพิวเตอร์ของตนได้ ซ่ึงเน้ือหาของวารสารน้นั จะถูกimpact factor ของวารสารโดย ISI ได้ จัดไวอ้ ย่างเป็ นระบบ เพื่อให้ผูใ้ ช้สามารถคน้ หาเน้ือหาได้ อยา่ งรวดเร็ว และตรงตามความตอ้ งการ วิจารณ์ [2] ไดใ้ ห้ทศั นคติเกี่ยวกบั วิธีการจดั ทาํ วารสารวิชาการยุคเทคโนโลยีสารสนเทศไวว้ ่า วารสารตอ้ งไม่เป็ น 2.2 สารสนเทศดจิ ิทลั และ DOI (Digital Objectเพียงงานพิมพเ์ ท่าน้ัน แต่จะตอ้ งเนน้ การส่ือสารสารสนเทศทางวชิ าการสาขา น้นั ๆ ดว้ ย [2] Identifier) ภาควิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม DOI (Digital Object Identifier) เป็นรหสั เอกลกั ษณ์ม ห า วิ ท ย า ลัย เ ท ค โ น โ ล ยี พ ร ะ จ อ ม เ ก ล้า พ ร ะ น ค ร เ ห นื อ เฉพาะ ตวั ของไฟลด์ ิจิทลั การบริการรหสั DOI เป็นตระหนักถึงความสําคญั ของการจดั ทาํ วารสารวิชาการดงั ได้ รหสั มาตรฐานของ ทรัพยากรสารสนเทศในรูปแบบดิจิทลั ใช้กล่าวมา จึงมีนโยบายที่จะจดั ทาํ วารสารวิชาการข้ึน ท้งั น้ีได้ ระบุช่ือของทรัพยส์ ินทางปัญญาที่ใหบ้ ริการผา่ นอินเทอร์เน็ตเ ล็ง เ ห็ น ว่า ก า ร ส่ ง แ ล ะ ต ร ว จ พิ จ า ร ณ า บ ท ค ว า ม อ อ น ไ ล น์ วตั ถุประสงคข์ อง DOI เพือ่ สร้างรหสั ประจาํ ทรัพยากรดิจิทลั(Online Submission and Peer Review หรือ Electronic แตล่ ะชื่อ ใหส้ ัมพนั ธ์กบั ระบบ resolution เพื่อช่วยกาํ หนดSubmission and Peer Review) เป็ นช่องทางใหม่ ที่อาศยั สิทธ์ิทรัพยส์ ินทางปัญญาของทรัพยากรดิจิทลั น้นั ในเทคโนโลยีมารองรับเพ่ือให้เกิด ประ โยชน์ สําหรับท้งั อินเทอร์เน็ต (ดงั แสดงในภาพที่ 1)เจา้ ของบทความ บรรณาธิการ ผจู้ ดั พิมพ์ และผตู้ รวจพิจารณาเวบ็ เทคโนโลยีในปัจจุบนั เป็ นเทคโนโลยีที่สามารถรองรับ ภาพท่ี 1: DOI Model ในประเทศไทยระบบการส่ง และตรวจพิจารณาบทความออนไลน์ (OnlineSubmission and Peer Review System: OSPRS) [3] ได้ ดว้ ย 2.3 Google web APIคุณลกั ษณะท่ีผใู้ ชส้ ามารถเขา้ ถึงขอ้ มูลไดท้ ุกที่ ทุกเวลา และ การสืบคน้ ขอ้ มูลผา่ นเวบ็ กูเกิล (Search Engine) โดยรองรับรูปแบบขอ้ มูลท่ีหลากหลาย อีกท้งั ยงั มีภาษาสคริปท์ เทคโนโลยใี นการคน้ หา (Search Technology) จากฐานขอ้ มูล(scripting language) ท่ีช่วยให้การส่ง และการจดั การขอ้ มูล (Database) ของ Google ไดอ้ ยา่ งอตั โนมตั ิ ผลลพั ธ์ท่ีไดจ้ ากเป็ นไปไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ ท้งั น้ีจากขอ้ มูลการสํารวจท่ี การใช้ Google web API ขอ้ มูลสรุปเก่ียวกบั รายการผลลพั ธ์ระบุใน [4] พบวา่ OSPRS สามารถลดเวลาของกระบวนการ ท้งั หมดประกอบดว้ ยดงั น้ี <document Filtering> ค่าท้งั หมดได้ 25-30% และประหยดั คา่ ใชจ้ ่ายได้ 10% true/false ท่ีจะเป็นการระบุวา่ ผลลพั ธ์ท่ีได้ ขอ้ มูลในผลลพั ธ์ แต่ละรายการ ผลลพั ธ์แต่ละรายการจะบอกถึง URL ที่มาของ ดัง น้ัน ผู้วิ จัย จึ ง ส น ใ จ ท่ี จ ะ พัฒ น า ร ะ บ บ ว า ร ส า รคอมพิวเตอร์ศึกษาออนไลน์ (Online Computer EducationJournal System) เพอื่ ประโยชน์ในการตรวจรับ พิจารณา และเผยแพร่บทความวชิ าการ หรือบทความวจิ ยั ดา้ นคอมพิวเตอร์ศึกษาในระบบออนไลน์2. วรรณกรรมทเ่ี กย่ี วข้อง 2.1 ความรู้เกย่ี วกบั วารสารอเิ ลก็ ทรอนิกส์ E-journal หรือ electronics journal เป็ นรูปแบบของวารสาร ที่เน้ือหาท้งั หมด หรือบางส่วนไดถ้ ูกแปลงให้เป็ น 869

The 6TH National Conference on Computing and Information Technologyขอ้ มูล ชื่อเร่ือง (title) รวมถึงขอ้ ความที่ตดั ตอนบางส่วนมา ของเอกสารซ่ึงอาจทาํ ใหส้ ูญหาย การจดั เกบ็ ไม่เป็นระเบียบ ไม่มีจากเน้ือหา (snippet) ดว้ ย การบนั ทึกขอ้ มลู 2.4 Impact factor 3.1.2*ข้นั ตอนกระบวนการตรวจพิจารณาบทความไม่ชดั เจน Impact factor ของวารสารคือตวั วดั ความถี่ของบทความ ทาํ ให้ผูส้ ่งบทความ บรรณาธิการ และผูต้ รวจพิจารณา ยากต่อในวารสารโดยเฉล่ียที่ถูกนําไปอ้างถึงในปี น้ัน โดย การติดต่อขอดูขอ้ มูลข้นั ตอนสถานะกระบวนการในการตรวจเปรียบเทียบจาํ นวนวารสารที่ตีพิมพใ์ นวารสารดงั กล่าวใน 2 พิจารณาบทความของตน บรรณาธิการไม่มีขอ้ มูลท่ีเป็นปัจจุบนัปี ที่ผา่ นมา วารสารท่ีดีจะมีค่า Impact factor สูง วารสารท่ีมี ในการติดต่อประสานงานผทู้ ่ีเก่ียวขอ้ งกบั บทความImpact factor จะเป็นวารสารที่อยใู่ นฐานขอ้ มูล ISI เท่าน้นั 2.5 งานวจิ ัยทเ่ี กยี่ วข้อง 3.1.3*การค้นหาบทความแบบเดิมเป็ นในรู ปแบบของ กนิฐา [5] ไดพ้ ฒั นาระบบการออกแบบและพฒั นาระบบ วารสารซ่ึงจะตีพิมพเ์ ป็ นเล่มและจะออกเผยแพร่อยใู่ นวงท่ีจาํ กดัก า ร จั ด ก า ร ว า ร ส า ร อ อ น ไ ล น์ ร า ช ภั ฎ เ พ ช ร บู ร ณ์ ส า ร และการคน้ หาบทความน้นั คน้ หายากเน่ืองจากมีการจดั เก็บเป็ นมหาวิทยาลยั ราชภฎั เพชรบูรณ์ ซ่ึงระบบฐานขอ้ มูลที่สร้างข้ึน เอกสารจาํ นวนมากใชโ้ ปรแกรม My SQL โดยสร้างดว้ ยภาษา PHP และ HTMLเชื่อมโยงกบั ฐานขอ้ มูลและใชภ้ าษา SQL ในการสร้างเทคนิค 3.2 การวเิ คราะห์และออกแบบระบบการสืบคน้ จากการศึกษาและวิเคราะห์ขอ้ มูลทาํ ใหท้ ราบถึงข้นั ตอนการ จามรกุล [6] ได้พฒั นาระบบจัดการเอกสาร ทาํ งานของระบบ ขอ้ มูลท่ีจะนาํ เขา้ สู่ระบบ บุคคลที่เก่ียวขอ้ งกบัอิเลก็ ทรอนิกส์ สาํ หรับบริหารจดั การเอกสารขอ้ มูล ขา้ วสาร ระบบ และแหล่งจดั เก็บขอ้ มูล จึงไดใ้ ชแ้ ผนภาพ UML (Unifiedต่างๆ ภายในองคก์ ร มีประสิทธิผลดีย่งิ ข้ึน แต่มีขอ้ จาํ กดั คือ Modeling Language) แสดงให้เห็นถึงข้นั ตอนการทาํ งานของระบบน้ีไม่สามารถนาํ ไปใชก้ บั องคก์ รท่ีมีโครงสร้างซบั ซอ้ น ระบบ ขอ้ มูลที่เขา้ และออกจากระบบ รวมท้งั ขอ้ มูลท่ีไหลเวียนมากกวา่ 4 ระดบั ภายในระบบจากข้นั ตอนหน่ึงไปยงั อีกข้นั ตอนหน่ึง (ดงั แสดง พีระพล [7] ไดศ้ ึกษาเก่ียวกบั การพฒั นาระบบวารสาร ในภาพที่ 2 และ 3)อิเลก็ ทรอนิกส์บนอินเทอร์เน็ต เพื่อใชใ้ นงานผลิตวารสารโดยท่ีผูใ้ ช้สามารถคน้ หาวารสารหรือบทความ บอกรับวารสารจดั เกบ็ แกไ้ ข รวบรวมบทความ จดั ทาํ เอกสาร และส่งวารสารท่ีจดั ทาํ เสร็จแลว้ ซ่ึงระบบช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วใหก้ บั ผใู้ ชง้ าน3. วธิ ีการดาํ เนินงาน ภาพที่ 2: Use Case Diagram ของระบบ ในการออกแบบและพฒั นาระบบ ผูว้ ิจัยดาํ เนินงานเป็ นข้นั ตอนดงั น้ี 3.1* การศึกษาระบบงานเดมิ 3.1.1*กระบวนการส่งบทความ การพิจารณาบทความจะเป็นรูปแบบเอกสาร (paper based system) โดยรูปแบบการส่งบทความจะส่งทางไปรษณียแ์ ละบรรณาธิการจะนาํ เอกสารให้ผตู้ รวจพิจารณาตรวจพิจารณาบทความ กระบวนการน้ีทาํ ใหเ้ กิดความล่าชา้ ของการส่งบทความ อีกท้งั บทความยงั เป็ นรูปแบบ870

The 6TH National Conference on Computing and Information Technology ภาพที่ 3: Use Case Diagram ของระบบ (ต่อ) โดยไดแ้ บ่งทดสอบคุณภาพของระบบ 5 ดา้ นดงั น้ี 3.4.2.1*Functional Requirement Test เป็นการทดสอบ 3.3 การพฒั นาระบบ การพฒั นาเวบ็ แอพพลิเคชนั ระบบวารสารคอมพิวเตอร์ ความสามารถของระบบ ว่าตรงตามความตอ้ งการมากน้อยศึกษาออนไลน์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีพระจอมเกลา้ พระ เพียงใดนคร ใชภ้ าษา PHP Hypertext Preprocessor ในการพฒั นาโปรแกรม โปรแกรม AppServ เพื่อจาํ ลองเซิรฟเวอร์จดั การ 3.4.2.2*Functional Test เป็นการทดสอบความถูกตอ้ งในฐานขอ้ มูล และใชโ้ ปรแกรม Macromedia Dream weaver การทํางานของระบบว่าสามารถทาํ งานได้ตามหน้าท่ีได้8.0 ในการออกแบบและเขียนภาษา HTML ถกู ตอ้ งมากนอ้ ยเพียงใด 3.4 การพฒั นาระบบ 3.4.1 การทดสอบในข้นั แอลฟา (Alpha Stage) เพ่ือ 3.4.2.3*Usability Test เป็ นการทดสอบลกั ษณะการใช้ทดสอบหาขอ้ บกพร่องของระบบโดยผพู้ ฒั นาระบบเอง เพื่อ งานของระบบวา่ มีความง่ายต่อการใชง้ านมากนอ้ ยเพียงใดคน้ หาขอ้ บกพร่องของระบบ หลงั จากน้ันทาํ การแกไ้ ขปรับปรุงระบบใหม้ ีประสิทธิภาพดีข้ึน 3.4.2.4*Performance Test เป็นการทดสอบระบบในดา้ น 3.4.2 การทดสอบในข้นั เบตา้ (Bata Stage) ทาํ ประสิทธิภาพตามท่ีตอ้ งการวา่ มีมากนอ้ ยเพยี งใดแบบสอบถามเพ่ือประเมินความพึงพอใจ โดยผูเ้ ชียวชาญจาํ นวน 5 คน ผวู้ ิจยั กาํ หนดเกณฑใ์ นการประเมินระบบไว้ 5 3.4.2.5*Security Test เป็นการทดสอบระบบในดา้ นการระดบั (แสดงดงั ตารางท่ี 1) รักษาความปลอดภยั ของขอ้ มลู วา่ มีหรือไม่เพียงใด 3.5 การพฒั นาระบบ การวิเคราะห์ขอ้ มูลทางสถิติประกอบดว้ ยค่าเฉลี่ย และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เพื่อใชแ้ ปลความหมายของเทคนิค การทดสอบท้งั 5 ดา้ น 4. ผลการดาํ เนินงาน 4.1 ผลการพฒั นาระบบ การใชง้ านแบ่งออกเป็ น 7 ส่วน คือ ส่วนของสมาชิก ทั่วไป สมาชิกวารสาร นักวิจัยเจ้าของบทความ ผู้ตรวจ พิจารณาบทความ บรรณาธิการ ฝ่ ายศิลป์ การจัดพิมพ์ และ ผดู้ แู ลระบบ (แสดงดงั ภาพท่ี 4)ตารางท่ี 1: เกณฑค์ วามพงึ พอใจของผใู้ ชง้ านต่อระบบปริมาณ ความหมาย4.51 – 5.00 ความพึงพอใจของผใู้ ชท้ ่ีมีต่อระบบอยใู่ นระดบั ดีมาก3.51 – 4.50 ความพึงพอใจของผใู้ ชท้ ่ีมีต่อระบบอยใู่ นระดบั ดี ภาพท่ี 4: หนา้ จอของผดู้ ูแลระบบท่ีใชจ้ ดั การขอ้ มลู2.51 – 3.50 ความพึงพอใจของผใู้ ชท้ ่ีมีต่อระบบอยใู่ นระดบั ปานกลาง1.51 – 2.50 ความพึงพอใจของผใู้ ชท้ ี่มีต่อระบบอยใู่ นระดบั ตอ้ งปรับปรุง1.00 – 1.50 ความพงึ พอใจของผใู้ ชท้ ี่มีต่อระบบอยใู่ นระดบั ใชไ้ ม่ได้ 871

The 6TH National Conference on Computing and Information Technologyผลลพั ธ์จากการสืบคน้ อ่านผลงานวจิ ยั (แสดงดงั ภาพที่ 5) เข้าแฟ้ มในรูปเอกสาร ผูว้ ิจัยได้ทําการพัฒนาระบบโดย เปลี่ยนแปลงให้ทาํ งานในรูปของเวบ็ แอพพลิเคชนั่ อีกท้งั ยงั ภาพท่ี 5: หนา้ จอแสดงผลงานวจิ ยั แสดงถึงค่า Impact Factor ของวารสารท่ีตีพิมพใ์ นวารสาร คอมพวิ เตอร์ศึกษาออนไลน์ 4.2 ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจ ผ ล ก า ร ป ร ะ เ มิ น ค ว า ม พึ ง พ อ ใ จ ข อ ง ร ะ บ บ ว า ร ส า ร ระบบท่ีพฒั นาแลว้ ไดท้ าํ การประเมินระบบ โดยใชแ้ บบคอมพวิ เตอร์ศึกษาออนไลน์ (ดงั แสดงในตาราง 2-3) ประเมินจากผเู้ ชียวชาญ 5 คน ผลการวิเคราะห์การประเมิน ระบบวารสารคอมพิวเตอร์ศึกษาออนไลน์พบวา่ ผเู้ ชียวชาญที่ตารางท่ี 2: สรุปผลการประเมินของระบบวารสารคอมพิวเตอร์ศึกษา ใชง้ านมีความพึงพอใจต่อการใชง้ านของระบบอยใู่ นระดบั ดี ดังน้ันจึงขอสรุ ปได้ว่าระบบวารสารคอมพิวเตอร์ศึกษาออนไลน์ในทุกๆดา้ นโดยผเู้ ชียวชาญ X _ SD ความหมาย ออนไลนม์ ีประสิทธิภาพอยใู่ นระดบั ดี รายการประเมิน 5.2 ข้อเสนอแนะ ใ น ก า ร พัฒ น า ค ร้ ั ง ต่ อ ไ ป ค ว ร พัฒ น า ใ น ส่ ว น ข อ ง ก า ร1. ดา้ นความการทาํ งานตามความตอ้ งการของ 4.24 0.63 ดี ติดตามวารสารโดยผลลพั ธ์จากการสืบคน้ ผา่ น Google Webผใู้ ช้ API ควร เป็นแบบอตั โนมตั ิ2. ดา้ นความถูกตอ้ งในการทาํ งานของระบบ 4.40 0.76 ดี เอกสารอ้างองิ3. ดา้ นการใชง้ าน 4.13 0.69 ดี [1] C.E. Koh “IS Journal Review Process: A Survey on IS4. ดา้ นประสิทธิภาพของระบบ 4.28 0.77 ดี Research Practices and Journal Review Issues,” Information5. ดา้ นความปลอดภยั 4.24 0.75 ดี and Management 40, pp. 743-756, 2003. รวม 4.26 0.72 ดี [2] วิจารณ์ พานิช, “วิธีจดั ทาํ งานสารวิชาการยุค IT,” URL: ผลจากประเมินความพึงพอใจ โดยผเู้ ช่ียวชาญ 5 คน ได้ http://gotokhow.org/blog/council/49047(February6,2010)ค่าเฉล่ีย 4.26 และค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน 0.72 ดงั น้นั สามารถสรุปผลการประเมินไดว้ า่ ระบบวารสารคอมพิวเตอร์ศึกษา [3] P. Paver, “S.Probets, and D.Brailsford, The Development ofออนไลน์ ท่ีพฒั นาข้ึนมีความพึงพอใจในระดบั ดี an On-line Submission and Peer Review System,” URL:5. สรุปและข้อเสนอแนะ http://www.espere.org/ pdf/elpub2000.pdf (June 9, 2009). 5.1 สรุป งานวิจยั น้ีไดน้ าํ วิวฒั นาการของเทคโนโลยีในปัจจุบนั มา [4] M. Ware, “Online Submission and Peer – review Systems,”ปรับใช้ ให้เป็ นระบบงานท่ีอาํ นวยความสะดวกให้กับผูท้ ี่เกี่ยวขอ้ ง ซ่ึงเดิมเป็ นการเก็บและรวบรวมบทความวารสาร Learned Publishing 18(4), pp. 245-250, 2005. [5] กนิฐา แสงกระจ่าง. “การออกแบบและพฒั นาระบบการจดั การ วารสารออนไลน์.” สารนิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ บัณฑิตวิทยาลัย สถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ พระนครเหนือ, 2550. [6] จามรกุล เหล่าเกียรติกุล. “ระบบจดั การเอกสารอิเลก็ ทรอนิกส์.” สารนิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยี สารสนเทศ บัณฑิตวิทยาลัย สถาบนั เทคโนโลยีพระจอมเกลา้ พระนครเหนือ, 2545. [7] พีระพล ขุนอาสา. “การพฒั นาระบบวารสารอิเลก็ ทรอนิกส์บน อินเตอร์เน็ต.” สารนิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ บัณฑิตวิทยาลัย สถาบนั เทคโนโลยี พระจอมเกลา้ พระนครเหนือ, 2545 872