Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทความวิชาการ

บทความวิชาการ

Published by da7485652, 2020-05-07 00:04:30

Description: บทความวิชาการ

Search

Read the Text Version

๑ เอกสารเผยแพร่เกษตรกร สนับสนนุ “ปี 2559 ปีแห่งการลดตน้ ทุนการผลิต” โดย สานกั วิจยั และพัฒนาการเกษตรเขตที่ ๘ กรมวชิ าการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

๒ คานา พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั ฯ ในพธิ พี ระราชทานปริญญา บัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 19 กรกฎาคม 2516 มีความตอนหน่ึงว่า “การ ทางานอย่างให้มีคุณภาพให้ได้ผลบริบูรณ์จะทาอย่างไร เบื้องต้น ต้องทาความเห็นให้ ถกู ต้องในงานท่ีจะทาเสียก่อน โดยใช้ปัญญาไตร่ตรองให้เห็นเหตุที่แท้ ผลที่แท้ ที่ถูกต้อง ตรงตามเป้าหมายที่พึงมุ่งหวัง แล้ววางแผนการอันแน่นอนท่ีจะดาเนินการต่อไป ด้วย หลักวิชา ด้วยความร่วมมือปรองดองกัน และสาคัญที่สุด ต้องมีความพากเพียร ไม่ย่อ หยอ่ นในอันทจี่ ะกระทาตอ่ ไปจนกว่าจะเป็นผลสาเรจ็ ” การจัดทาหนังสือฉบบั นี้ จงึ มีวัตถุประสงค์เพ่ือ นาเสนอหลักวิชาการและให้ข้อคิด เกย่ี วกบั เร่อื งการลดต้นทุน และเพิม่ ประสทิ ธภิ าพการผลติ พืช โดยเนอื้ หาในเอกสารมงุ่ ให้ ผู้อ่านได้เข้าใจถึงหลักการในเชิงวิชาการเป็นสาคัญ ตามนัยแห่งพระราชดาริฯ คือ เมื่อ สรา้ งความกระจ่างแจ้งในหลักวิชาการแล้ว ก็จะทาให้เกิดแนวความคิดและภูมิปัญญาใน การที่จะ ค้นหา ปรับใช้ ดัดแปลง องค์ความรู้ต่างๆ มาทาการปฏิบัติในการปลูกพืชที่ให้ เหมาะสมกับตนเองได้ และจะทาให้เกษตรกรบรรลุเป้าหมายของการสามารถพึ่งพาการ ผลติ พืชได้อย่าง “สมดุล มัน่ คง ยง่ั ยืน และพอเพียง” อนันต์ อกั ษรศรี ผูอ้ านวยการสานกั วจิ ยั และพฒั นาการเกษตรเขตที่ 8 จังหวัดสงขลา

๓ 23 หลักการทรงงานของในหลวง ข้อท่ี 1 จะทาอะไรตอ้ งศึกษาขอ้ มลู ให้เป็นระบบ ศึกษาข้อมูลใหร้ อบดา้ น ขอ้ ที่ 2 ระเบดิ จากภายใน สรา้ งความเขม้ แขง็ จากภายใน ใหเ้ กิดความเขา้ ใจ อยากทา ขอ้ ท่ี 3 แกป้ ญั หาจากจุดเล็ก มองภาพรวมก่อน แต่การแกป้ ญั หาตอ้ งเรม่ิ จากจดุ เลก็ ๆ ขอ้ ท่ี 4 ทาตามลาดับข้ัน เริ่มทาจากความจาเปน็ กอ่ น สิง่ ที่ขาดคอื สิง่ ทจ่ี าเปน็ ขอ้ ท่ี 5 เหมาะสมตาม ภูมสิ ังคม ภมู ศิ าสตร์ สงั คมศาสตร์ คานกึ ถึงทุกดา้ นรอบตัว ขอ้ ที่ 6 ทางานแบบองคร์ วม โดยคิดความเชื่อมโยงครบวงจรทงั้ ระบบ ข้อที่ 7 ไม่ตดิ ตารา อยา่ ยึดทฤษฎจี นเกนิ ไปจนทาอะไรไม่ได้เลย ขอ้ ท่ี 8 ประหยดั ขอ้ ที่ 9 ทาให้ง่าย ทาอะไรใหง้ า่ ยๆ ทาให้ชีวิตงา่ ย ขอ้ ท่ี 10 การมีสว่ นรว่ ม ข้อที่ 11 ตอ้ งยึดประโยชนส์ ่วนรวม ข้อที่ 12 บริการทจ่ี ุดเดียว ข้อท่ี 13 ใชธ้ รรมชาตชิ ่วยธรรมชาติ ขอ้ ท่ี 14 ใช้อธรรมปราบอธรรม เช่นเอาปัญหายาเสพตดิ มาชว่ ยพัฒนาคุณธรรม ขอ้ ที่ 15 ปลูกปา่ ในใจคน ตอ้ งปลกู ทจ่ี ิตสานกึ ก่อน ขอ้ ที่ 16 ขาดทนุ คอื กาไร อย่ามองทีต่ วั เงินมากจนเกินไปใหม้ องประโยชนอ์ ยา่ งอนื่ ดว้ ย ขอ้ ที่ 17 การพ่ึงตนเอง ข้อที่ 18 พออยพู่ อกิน ข้อท่ี 19 เศรษฐกิจพอเพียง ขอ้ ท่ี 20 ความซอ่ื สตั ยส์ ุจริต จริงใจต่อกัน ข้อที่ 21 ทางานอย่างมคี วามสุข ขอ้ ท่ี 22 ความเพยี ร ขอ้ ที่ 23 รู้ รกั สามัคคี

๔ อะไร คอื การลดต้นทนุ เพ่ิมประสทิ ธภิ าพ และเพม่ิ มูลค่า ลดคา่ ปจั จยั การผลติ เชน่ ลดปยุ๋ เคมี ลดสารเคมี ลดจานวนเมล็ดพันธ์ุ ให้อยู่ในระดับท่เี หมาะสม จะทาให้ต้นทุนตอ่ ไรล่ ดลง เพิม่ ผลผลิต ลดสิ่งทไ่ี มจ่ าเป็นและลดการสญู เปลา่ เชน่ ให้ปุ๋ยอย่างถกู ตอ้ ง เพม่ิ เชน่ ถ้าดนิ มีปยุ๋ อยู่ก็ไม่ตอ้ งใส่ปุ๋ยมาก ระบบน้า ใช้พันธดุ์ ี จะทาให้ หรือไม่จาเป็นต้องใช้อาหารเสรมิ พืช ผลผลติ สูงขนึ้ เมือ่ คดิ ต้นทนุ กาไร ยังทาให้ต้นทนุ ตอ่ ราคาแพง หรือใส่ปุ๋ยแล้วให้น้าเพอ่ื กิโลกรัมลดลง กาไรเพ่มิ ขนึ้ ปอ้ งกันการระเหิดไปในอากาศ รวมกันจา้ งรวมกันซื้อ เพิม่ มูลค่าการตลาด เชน่ รวมกันซ้ือปัจจัยหรือ รวมกนั เชน่ แปรรูป เพม่ิ บรรจภุ ณั ฑ์ ทาให้คุณค่า ใช้เครอ่ื งจกั รกล มากข้ึน ขายได้ราคาสูงข้นึ มีกาไรมากข้นึ จะทาให้ได้ราคาถูก เพิม่ การทาเกษตรผสมสานและ การดารงชีพแบบพอเพียง เชน่ ปลูกพชื ผสมผสาน ทาให้ใช้ปจั จัยการผลติ มีประสทิ ธิภาพ เก้ือกลู กนั จะทาให้ต้นทุนการเกษตรลดลงและ การใช้ชวี ิตแบบพอเพียงจะเกดิ การพึ่งตนเองได้ ลดตน้ ทนุ เพ่ิมประสทิ ธภิ าพ เพิ่มมูลค่า กาไรเพิ่มขึ้น

๕ การปฏิบัติทไ่ี ม่เหมาะสมจะเป็นสาเหตุทาให้มีต้นทนุ การผลติ สงู ลองตรวจสอบการปฏิบตั ิในการปลูกพืชของทา่ นแต่ละขนั้ ตอนที่เปน็ สาเหตใุ หต้ ้นทุนสงู ข้ันตอนการเลอื กพืน้ ท่ีปลกู ส่งผลใหพ้ ืชโตช้าหรือเสยี หาย ทาให้เพ่ิมต้นทุน ถ้าพ้นื ท่ีปลกู พชื เปน็ ดินเลว ทีล่ ุม่ น้าท่วมขงั การปรับพน้ื ท่ี และค่าซ่อมแซมตน้ พชื เสยี หาย หรอื ท่ดี อนขาดน้า ขัน้ ตอนการเลอื กชนิดพชื มาปลกู ส่งผลให้พืชเจรญิ เตบิ โตไมด่ ี ถ้าเลอื กพชื ไมเ่ หมาะสมกบั สภาพพน้ื ที่ ทาให้เพมิ่ ต้นทุนการดแู ลรักษา ข้นั ตอนการเลอื กพนั ธุ์ปลกู สง่ ผลให้พืชออ่ นแอ ทาให้เพิม่ ตน้ ทุนการ ถ้าเลอื กพันธท์ุ ี่ไมท่ นทานต่อโรคแมลง ป้องกันกาจดั ศัตรูพืช และตน้ ทุนการดูแล และสภาพอากาศฝนแลง้ น้าขัง รกั ษาอน่ื ๆ ขนั้ ตอนการเตรยี มดิน สง่ ผลใหพ้ ืชงอกไมด่ ี โตชา้ วชั พืชมาก ทาให้เพิม่ ถา้ เตรียมดินไม่ดี และไมม่ ีการปรบั ปรงุ ดิน ตน้ ทนุ การปอ้ งกนั กาจดั วัชพชื และต้นทุนป๋ยุ ส่งผลให้พชื ขนึ้ หนาแนม่นากทาให้เพ่มิ ตน้ ทนุ ค่าพนั ธุ์ ขั้นตอนการปลกู พชื เป็นโรคง่าย เพ่มิ ตน้ ทุนปอ้ งกันกาจัดศตั รพู ชื ถ้าใชเ้ มล็ดพนั ธุม์ ากหรือปลกู ถ่ีเกินไปหรอื ห่าง เพิ่มตน้ ทนุ การดูแลรกั ษาและได้ผลผลติ ตา่ เกินไป ส่งผลให้พืชโตช้าไมแ่ ข็งแรง หรอื อวบเกนิ ไป ศัตรูพืชทาลายมาก ทาใหเ้ พิ่มต้นทนุ การ ขนั้ ตอนการให้ปุ๋ย ป้องกันกาจัดโรคแมลง และต้นทุนปยุ๋ ถ้าใส่มากหรือน้อยเกินไป ผิดสตู ร ผดิ เวลา สง่ ผลให้พชื เตบิ โตชา้ ไดผ้ ลผลติ ต่า ทาใหต้ ้อง ขน้ั ตอนการใหน้ า้ เพ่ิมตน้ ทุนการใส่ปุ๋ย ถ้าใหน้ า้ ไม่พอดี มากหรอื นอ้ ยไป ข้ันตอนการปอ้ งกนั และกา้ จัดศตั รพู ชื ส่งผลใหศ้ ตั รพู ืชระบาดมาก กาจดั ไมไ่ ดผ้ ล ทาให้ ถา้ วินจิ ฉัยศตั รูพชื ผิดและใช้วิธีการป้องกนั เพมิ่ ตน้ ทุนการป้องกันกาจัดศตั รพู ชื กา้ จดั ไม่ถูกต้อง สง่ ผลให้จานวนก่ิงใบมาก ทาให้เพิ่มต้นทนุ ปุ๋ย การปอ้ งกันกาจัดศัตรูพืช และต้นทุนใหน้ ้า ขน้ั ตอนการตัดแต่งกิ่ง ถา้ ไม่ตดั แต่งหรือตัดแตง่ ผิดวิธี ขั้นตอนการเกบ็ เก่ียว สง่ ผลใหผ้ ลผลิตและคุณภาพสญู เสยี ลาต้น เกบ็ เก่ียวไม่ถกู ต้อง เสียหาย ทาให้เพ่ิมต้นทุนการปอ้ งกันกาจัดโรค

๖ 9 หลักวชิ าการ เพอ่ื ลดต้นทุนและสร้างมลู ค่าเพ่ิมในการผลิตพชื หลักวิชาการที่ ๑ การลดต้นทุนดา้ นการจัดการดนิ และเตรยี มดิน หลกั วชิ าการที่ ๒ การลดต้นทนุ ด้านการจัดการพันธุพ์ ืช หลกั วชิ าการท่ี ๓ การลดต้นทุนดา้ นการจดั การป๋ยุ หลักวิชาการท่ี ๔ การลดต้นทุนดา้ นการจดั การศัตรพู ชื และการใช้สารเคมี หลกั วชิ าการที่ ๕ การลดตน้ ทนุ ด้านการจัดการแรงงานและเคร่ืองจักรกล การเกษตร หลักวชิ าการที่ ๖ การลดต้นทนุ ด้วยการปลูกพชื ผสมสาน หลกั วชิ าการที่ ๗ การลดตน้ ทนุ จากการเพิ่มผลผลิต หลักวชิ าการที่ ๘ การสร้างมลู ค่าเพมิ่ หลักวชิ าการที่ ๙ การสรา้ งความมน่ั คงด้วยการดารงชพี ด้วยปรชั ญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง

๗ หลกั วิชาการที่ ๑ การลดต้นทุนดา้ นการจัดการดินและเตรียมดิน ขอ้ คดิ : เมอ่ื ดนิ ดี พืชแขง็ แรง จะชว่ ยลดต้นทุนการปลูกพชื และทาให้พืชไดผ้ ลผลิตสูง ๑. ก่อนปลูกพืช ควรศึกษาข้อจากัดของสภาพพ้ืนท่ีปลูกพืช เช่น สภาพดิน สภาพน้า การ ตัดสินใจเลือกพืชให้เหมาะสมกับพ้ืนที่ จะเป็นการป้องกันความเสียหายจากปัญหาน้าท่วม ขาดน้า หรือดินเลว ซึ่งปัญหาจากการปลูกพืชไม่เหมาะสมกับสภาพพ้ืนที่มักเป็นปัญหา เร้ือรังต้องเสียเงินลงทุนแก้ไขมาก และมักได้ผลไม่คุ้มค่า ทั้งน้ีเพราะพืชแต่ละชนิดมีความ เหมาะสมหรอื ทนทานตอนสภาพพ้ืนที่ที่แตกต่างกัน เช่น ยางพาราไม่เหมาะสมในที่ลุ่ม แต่ ส้มโอจะทนทานต่อสภาพดนิ เค็ม เป็นต้น ๒. ดินดี คือ ในดินท้ังหมด 100 ส่วน ควรมีสมดุลของสัดส่วนต่างๆ คือส่วนที่เป็นเน้ือดิน 45 ส่วน มีอินทรียวัตถุ 5 ส่วน น้า 25 ส่วน และอากาศอีก 25 ส่วน ดินจะไม่แน่น มี ความร่วนซุย หน้าดินลึก หากวิเคราะห์ทางเคมีจะพบปริมาณอินทรียวัตถุไม่น้อยกว่า ๑.๕ % มีระดับความเป็นกรดด่าง (pH) 6-7 และมักพบแมลงหรือสิ่งมีชีวิตในดิน ถ้าไม่เป็นไป ตามนี้แสดงวา่ ตอ้ งพจิ ารณาเร่ืองการปรับปรุงดิน

๘ หลกั วิชาการเพ่ือลดต้นทุนการผลิตด้านการจัดการดินและเตรียมดนิ 1. บารงุ ดินเปน็ ประจา โดยใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก การปลูกพืชบารุงดิน หรือไถ กลบตอซัง จะช่วยให้ดินดีข้ึนในระยะยาว พืชบารุงดินท่ีควรปลูก เช่น ปอเทือง ให้น้าหนัก สด 2-4 ตนั /ไร่ ถว่ั พร้า ให้น้าหนักสด 4-6.5 ตัน/ไร่ และถ่ัวพุ่ม ให้น้าหนักสด 1.6-2.5 ตัน/ไร่ 2. แก้ไขดนิ ทเี่ ปน็ กรดเกนิ ไป โดยวัดคา่ พีเฮช (pH) หรือค่าความเปน็ กรดดา่ ง ถ้าไดค้ ่าต่ากว่า 5.5 แสดงว่าดนิ เป็นกรด แมม้ ีการใสป่ ุย๋ ลงไป แตพ่ ชื จะไม่สามารถนาธาตุอาหารบาง ชนดิ ไปใชไ้ ด้เต็มที่ เนื่องจากเม็ดดินจะดดู ธาตอุ าหารเอาไว้ จงึ ต้องปรบั สภาพดินกรดใหม้ ี ค่าความเปน็ กรดด่าง 5.5-7.0 ด้วยการใส่ปนู ขาว โดโลไมท์ หรอื หนิ ฝุ่น 3. เตรยี มดินให้ถูกวธิ ี ไถตากดินจนแน่ใจวา่ วชั พืชตาย ไถดนิ ใหล้ ะเอียดพอดี หรือเตรียม ขนาดหลมุ ปลกู ใหเ้ หมาะสมกับชนิดพืช 4. รักษาความชน้ื ของดนิ เช่น ใช้ฟางคลมุ หรอื ให้มหี ญ้าปกคลมุ ในหนา้ แลง้ 5. ป้องกันการชะล้าง ในที่ลาดชนั ควรมกี ารทาข้นั บนั ใดเพอื่ ลดการชะลา้ ง และปลูกพชื ป้องกนั การพังทลาย เช่น แฝก

๙ หลกั วชิ าการที่ ๒ การลดต้นทนุ ด้านการจดั การพันธ์ุพืช ข้อคิด : พนั ธพ์ุ ืช โดยธรรมชาตจิ ะมคี ณุ สมบัตเิ ฉพาะตวั ต่างพันธ์จุ ะมคี วามดีเดน่ ตา่ งกันไป แตท่ ่แี ตกตา่ งจากสตั ว์เด่นชัดคือ รุ่นลูกหลานอาจจะมกี ารสืบทอดลักษณะดดี ตี อ่ ๆไป หรืออาจทา ใหล้ กั ษณะดีดสี ญู หายไปจากพอ่ แม่กไ็ ด้ 1. พนั ธุ์พืชลกู ผสม มาจากการผสมของตน้ พอ่ กบั ตน้ แม่ที่มลี กั ษณะดีคนละอยา่ ง แต่ ลาพงั ตัวเองจะใหผ้ ลผลติ ไมด่ ี แต่เม่อื นามาผสมกันจะได้ลูกที่มีลกั ษณะดีหลายอย่าง และใหผ้ ลผลิตสูง เชน่ ปาล์มน้ามัน และข้าวโพดหวาน พนั ธ์ุเหลา่ น้ีจะไมส่ ามารถ เอาเมลด็ จากตน้ ลกู ไปปลกู เพอื่ ทาพันธตุ์ อ่ ได้ เพราะทาให้ผลผลติ ลดลงมาก ตอ้ งใช้ ตน้ ท่ผี สมจากต้นพอ่ และแม่เท่านน้ั การซ้ือพันธุ์จึงต้องมาจากแหลง่ ที่เชอ่ื ถือได้ 2. พันธ์ุพชื กบั ความทนทานตอ่ โรคหรือสภาพดนิ ฟา้ อากาศ แตล่ ะพนั ธ์ุจะมคี วาม ทนทานแตกต่างกนั เช่น มะนาวพันธุพ์ จิ ิตรจะทนทานมากโรคแคงเกอร์ ขณะท่ี พันธุ์อน่ื อาจทนทานนอ้ ย จึงต้องศึกษาประวตั ขิ องพนั ธพุ์ ชื ก่อนนามาปลกู 3. เมลด็ พนั ธ์ุพืชมวี นั หมดอายุ เมลด็ พนั ธ์ุพชื บางชนดิ เมอื่ เก็บไว้นานความมีชวี ิตจะ ลดลง จะมีผลตอ่ ความงอก ความแขง็ แรงของตน้ อ่อนทีง่ อก ซึง่ มีผลกบั การ เจรญิ เติบโต และการใหผ้ ลผลติ

๑๐ หลักวชิ าการเพ่ือลดต้นทุนการผลิตด้านการจัดการพันธ์พุ ืช ๑. ค่าพนั ธุ์พืชที่ส้นิ เปลอื งและไมค่ มุ้ ค่า เกดิ จากการใช้เมลด็ พันธุ์ที่มีความงอกตา่ มีพนั ธป์ุ น ขนาดไม่ไดม้ าตรฐาน ไมร่ ู้แหลง่ ที่มา ใชจ้ านวนเมล็ดมากเกินความจาเปน็ ซอื้ พันธ์ทุ ่มี ี ราคาแพง มีศตั รทู าลายขณะปลกู และประสบปญั หาปลูกแลว้ เสยี หายจากฝนแล้งนา้ ท่วม ๒. การนาเมลด็ มาเพาะทดสอบความงอก โดยเอาเมล็ดมา ๑๐๐ เมล็ดมาเพาะดูการงอก จะ ทาให้ทราบว่าเมล็ดมชี วี ิตอยู่ก่เี ปอร์เซ็นต์ ช่วยใหส้ ามารถกาหนดจานวนเมล็ดทีใ่ ชป้ ลกู ได้ เหมาะสม ชว่ ยลดต้นทุนจากการใช้เมลด็ พนั ธ์ุมากเกนิ ไป ๓. การเพาะกล้าก่อนปลกู พันธุ์พืชผักบางชนิดท่ีมรี าคาสงู หรือการปลูกในที่เส่ียงต่อการ ขาดนา้ ในชว่ งเริ่มปลกู หากมีการเพาะกล้าก่อนปลกู จะชว่ ยลดอัตราการตายของต้นพันธ์ุ การเพาะกล้าทาใหส้ ามารถดแู ลต้นออ่ นไดอ้ ย่างใกล้ชดิ ๔. การเกบ็ เมล็ดพนั ธพุ์ ชื ไว้ใช้เองในโรงเรือนเพาะชาชุมชน หรือ ธนาคารเมลด็ พันธ์ุ จะชว่ ยลดตน้ ทุนจากเมล็ดพนั ธร์ุ าคาแพง การเก็บเมลด็ พันธุโ์ ดยจะตอ้ งคดั เลอื กจากตน้ พอ่ แม่ทใี่ ห้ผลผลติ ดี ไม่เปน็ โรค หรือใช้พนั ธจุ์ ากศูนย์วิจยั พชื ขณะปลูกตอ้ งตัดพนั ธุป์ นออก หลงั เก็บผลผลติ ต้องมกี ารทาความสะอาด คัดแยกเอาเมล็ดท่ดี ี ตากแดดลดความชนื้ และ เก็บในสภาพอากาศท่ีเหมาะสม ๕. การขยายพนั ธจุ์ ากต้นแม่พนั ธ์ุดี การตอน ปกั ชา ทาบกง่ิ จะลดตน้ ทุนค่าพนั ธุ์ไม้ผล ๖. แหล่งพนั ธ์ุจากราชการ เชน่ ศนู ย์วจิ ัย หรือศูนย์เมล็ดพันธ์ุพืช เป็นพันธุ์ที่มีคุณภาพสูงและ ราคาถูก

๑๑ หลักวชิ าการที่ ๓ การลดต้นทุนด้านการจัดการปุ๋ยและน้า ขอ้ คิด : ความสาเรจ็ ของการจัดการปยุ๋ ไมไ่ ดว้ ัดกนั ทีก่ ารประหยดั เงินคา่ ปุ๋ย แตว่ ดั ตรงท่ี ผลผลติ และกาไร การใสป่ ยุ๋ ต้อง “ถูกช่วงเวลาท่พี ชื เจริญเติบโต ถกู สูตร ถกู วิธี ถกู ปริมาณที่ พืชตอ้ งการ” ๑. พฤติกรรมทที่ าให้ใชป้ ๋ยุ เกิดประโยชน์ไม่เตม็ ท่แี ละมตี ้นทุนค่าปยุ๋ สงู คอื ปุ๋ยกระสอบเดยี ว ใช้กบั ทุกพืช ใช้กบั ทกุ ชว่ งการเจริญเติบโต ไม่จาสตู รปุ๋ยเคมีที่ใช้ แตจ่ ะซ้อื ปุ๋ยตามตราย่หี อ้ ไม่เขา้ ใจหนา้ ที่ของธาตุอาหาร ใสป่ ุ๋ยเคมีแลว้ ไมไ่ ด้ประโยชนเ์ ตม็ ท่ีเน่อื งจากดนิ ไม่มคี วามชนื้ ดินมีสภาพเปน็ กรดสงู ดินมกี ารชะล้าง ใส่ในบรเิ วณทีพ่ ืชไม่ได้ดูดเอาไปใช้ และไม่รู้วา่ ใน ดนิ มีธาตุอาหารอะไรตกคา้ งอยู่เท่าไหร่ ๒. หนา้ ท่ีของธาตุอาหาร เช่น ไนโตรเจน (N) ชว่ ยบารุงลาตน้ ใบ ฟอสฟอรสั (P) ชว่ ยบารุง ราก ดอก โพแทสเซียม (K) ช่วยบารงุ ผล ทาใหพ้ ืชแขง็ แรง แคลเซียม (Ca) ทาให้เนอื้ เย่อื พชื แบ่งตัวและแข็งแรง การผสมเกสร โบรอน (B) ช่วยในการออกดอกและการผสมเกสร ๓. การลงทุนระบบการให้น้าเปน็ การลงทุนทีค่ มุ้ ค่า เพราะน้ามผี ลมากต่อการเจริญเติบโต ของพืช โดยเฉพาะด้านช่วยทาให้พชื แตกกอ ออกดอก ออกผล และคุณภาพผลผลิตดี ๔. การใชป้ ุ๋ยเคมีแบบ \"ส่ังตัด\" คอื การจดั การธาตอุ าหารพืชเฉพาะพื้นท่ี โดยนาข้อมูลชุดดิน และข้อมูล เอ็น-พี-เค ในดินมาประกอบการตัดสินใจเลือกสูตรปุ๋ย และกาหนดปริมาณปุ๋ย ในการปลกู พืช เป็นการใชป้ ๋ยุ เคมีตามชุดดนิ และค่าวเิ คราะหด์ นิ นอกจากนย้ี ังนาปัจจัยหลัก ที่เก่ียวข้องกับการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิตของพืช เช่น พันธ์ุพืช แสงแดด อุณหภูมิ ปริมาณน้าฝน ฯลฯ มาสร้างแบบจาลองทางคณิตศาสตร์โดยใช้คอมพิวเตอร์ เพ่ือเพิ่ม ประสทิ ธภิ าพการใช้ปุย๋ เคมอี ีกดว้ ย

๑๒ หลักวชิ าการเพ่ือลดต้นทุนการผลิตด้านการจัดการปยุ๋ และนา้ ๑. คดิ ก่อนใส่ปุ๋ย เช่น จะบารงุ ส่วนไหนในการเจริญเติบโตของพืช จะใส่ธาตุอะไร ปริมาณเท่าไร จึงเหมาะสม ใส่แล้วพืชเอาไปใช้ได้ไม่สูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ เพื่อการน้ีเกษตรกรควรมี เอกสารคูม่ ือวิชาการปลกู พืช และคมู่ ือเร่อื งการใชป้ ุ๋ย ๒. การวิเคราะหด์ นิ และวเิ คราะห์ใบพืช จะช่วยลดตน้ ทุนการใส่ปุ๋ย คือได้ทราบว่ามีธาตุอาหาร ในดนิ ในใบอะไรบา้ ง ขาดธาตอุ ะไร ควรใส่เพ่ิมอีกเท่าไหร่ ต้องปรับสภาพดินอย่างไรจึงจะเป็น ประโยชน์ตอ่ พืชและลดตน้ ทนุ คา่ ป๋ยุ ๓. เข้าใจสตู รปุ๋ย ปุ๋ยเคมสี ูตร 15-7-18 ใน 2 กระสอบ 100 กโิ ลกรมั จะมีไนโตรเจน 15 กิโลกรมั ฟอสฟอรสั 7 กโิ ลกรัม โพแทสเซียม 18 กโิ ลกรัม รวม 40 กิโลกรมั อีก 60 กโิ ลกรมั จะเป็นตวั เตมิ ใหป้ ุ๋ยมีการจบั ตัวเป็นเมด็ ซึ่งไมใ่ ช่ธาตอุ าหารพืช ๔. การซอื้ ปุย๋ เจาะจงสตู ร เลอื กตราที่เช่อื ถอื ได้ ซื้อจากรา้ น Q SHOP หรือร้านทีไ่ ด้รับอนุญาต ค้าป๋ยุ จะลดความเส่ียงเรื่องปุ๋ยปลอมหรอื ปุ๋ยไมเ่ ต็มสตู รได้ ๕. ปุย๋ ชวี ภาพละลายฟอสเฟต ชว่ ยลดต้นทนุ คา่ ปยุ๋ ฟอสเฟต คอื เม่ือใสร่ ่วมกับหนิ ฟอสเฟตจะมี ผลใหพ้ ืชไดป้ ุ๋ยฟอสเฟตราคาถกู กวา่ ปุ๋ยเคมี และการใสล่ งในดินที่มปี ริมาณฟอสฟอรสั สงู อยู่ แล้วจะทาให้ไปละลายฟอสฟอรสั ท่ีถูกยึดตรึงอย่ใู นดินให้ออกมาเปน็ ประโยชน์ตอ่ พชื อีกครง้ั ๖. การใสป่ ุ๋ยอนิ ทรรี ว่ มกบั ปยุ๋ เคมี จะทาให้ปุ๋ยเคมีเกดิ ประโยชนเ์ พ่มิ ขน้ึ ๗. ปุ๋ยอนิ ทรแี หง้ ปยุ๋ อินทรีนา้ หรอื น้าหมัก มกั จะมีฮอรโ์ มนพืช จะช่วยเสรมิ การเจรญิ เตบิ โต และเป็นการลงทุนทร่ี าคาถูก ๘. การบังคบั การใหน้ า้ มีผลตอ่ การออกดอกนอกฤดกู าลของไมผ้ ลหลายชนดิ เช่น มะนาว มะม่วง โดยใชห้ ลักการคือเรง่ การให้นา้ ในชว่ งที่ต้องการให้แตกใบ แล้วงดการให้นา้ เพ่ือให้พชื สะสมอาหารให้เพยี งพอสาหรับการแตกตาดอก และใหน้ า้ อีกครง้ั เพื่อกระตนุ้ การแตกตาดอก

๑๓ หลักวชิ าการที่ ๔ การลดต้นทนุ ดา้ นการจัดการศัตรพู ชื และการใชส้ ารเคมี ขอ้ คิด : สารเคมีเป็นดาบสองคม ใชถ้ ูกมีคุณ ใช้ผิดเป็นภัย ๑. พฤติกรรมที่ทาให้ใชส้ ารกาจัดศัตรพู ืชเกดิ ประโยชนไ์ ม่เตม็ ท่ีและมตี ้นทนุ สูง คือ 1) ถอื คติฉดี พน่ ไวก้ ่อน คือฉดี ก่อนที่จะมีการระบาด 2) ไม่เชื่อใจ จงึ ใช้มากไวก้ ่อน ใชป้ รมิ าณเกินทีร่ ะบไุ ว้ในฉลาก เพราะใช้ น้อยๆกลัวไม่ได้ผล 3) ไมร่ วู้ ่าปัญหาเกิดจากแมลงชนิดไหน หรอื พืชเปน็ โรคอะไร คิดวา่ แตเ่ ป็น สารเคมกี าจัดแมลงแล้วใช้ได้ทกุ ชนดิ ๒. แมลงเป็นสัตวท์ ่มี วี ิวฒั นาการรวดเร็ว การใช้สารเคมมี ากๆซ้าๆ แมลงจะ ปรบั ตวั เองให้ทนทานและเกิดอาการท่ีเกษตรกรเรียกวา่ ดอ้ื ยา ๓. สารเคมีเปน็ เร่อื งท่ตี อ้ งมคี ณุ ธรรมในการใช้ แม้เราไม่ฉีดพ่นในพืชโดยตรง แต่ เรามีโอกาสจะได้รบั สารเคมีจากการสมั ผัสโดยการระเหย ลม ดิน นา้ สัตว์นา้ ผลผลติ จากคนที่ขาดคณุ ธรรมในการใช้ ๔. ความปลอดภัยของระยะการตกคา้ งในผลผลติ ของสารเคมี ถือเปน็ เรื่องท่ตี ้อง ปฏิบตั ิโดยเครง่ ครัด

๑๔ หลักวิชาการเพื่อลดต้นทุนการผลิตด้านการจัดการศัตรูพืชและการ ใช้สารเคมี ๑. การบารุงพืชให้แขง็ แรง ปรับดินใหม้ ีระดบั ความเป็นกรดด่างพอเหมาะ การทาให้ แปลงไม่มคี วามช้ืนมากเกินไป และทาแปลงใหส้ ะอาด จะช่วยลดการเป็นโรคของพชื ลงได้ ๒. การใช้สารทดแทนสารเคมี การใชว้ ิธีธรรมชาติ เชน่ กับดัก สารลอ่ การหอ่ ผล ทดแทนสารเคมี การใชก้ ากน้าตาลผสมนา้ สามารถล่อดักผีเส้ือกลางคืนได้ สารสกัดจากพืช โดยใชพ้ ืชสบั ละเอียดแชน่ ้าท้ิงไว้ ๑ คืนกรองน้าไปฉดี พ่นบ่อยๆ สามารถป้องกนั กาจัดแมลงได้หลายชนิดตามคุณสมบัติของพชื เชน่ สะเดา หนอนใยผกั หนอนคืบกะหลา่ หนอนกระท้หู อม เพล้ยี จกั จน่ั สาบเสือ กาจดั เพล้ียอ่อน ไล่หนอนใยผัก หนอนกระท้ผู กั และแมลงศตั รูในโรงเกบ็ ปอ้ งกันกาจดั โรคพืชทีเ่ กิดจากเช้ือราและแบคทีเรีย หนอนตายหยาก กาจัดหนอนแมลงวนั ป้องกนั กาจดั แมลงศัตรพู ชื ยับยัง้ การกินของ หนอนกระทู้ผัก มีความเป็นพิษต่อลูกน้ายงุ ๓. กอ่ นใชส้ ารเคมีกาจดั ศัตรพู ชื ต้องสารวจปริมาณการระบาดกอ่ นเสมอ เลอื กใช้ สารเคมีใหต้ รงกบั ชนดิ โรคแมลง จะชว่ ยลดการสูญเปลา่ ของสารเคมี ๔. การใชส้ ารเคมีกาจัดศตั รพู ืช อา่ นฉลาก ดวู า่ ใช้กบั ศตั รชู นดิ ใด ให้ใช้ตามอัตราที่ ระบไุ วใ้ นฉลาก ดูข้อหา้ มใช้ วธิ ีการใช้ การเก็บ และการทาลาย

๑๕ หลักวิชาการที่ ๕ การลดต้นทุนด้านการจดั การแรงงานและ เคร่อื งจกั รกลการเกษตร ขอ้ คดิ : เคร่ืองจักรกลการเกษตร แม้มรี าคาแพงแต่ชว่ ยลดค่าแรงและสามารถ ทาใหไ้ ด้ผลผลติ สงู 1. แรงงานเกษตรต้องมคี ณุ ภาพ คนท่ีเขา้ ใจพชื รู้ว่าเปน็ สง่ิ มีชวี ิตท่ตี อ้ งการความเอา ใจใสป่ ฏิบัติดูแลรกั ษาเช่นเดยี วกบั สงิ่ มชี ีวิตอ่ืนๆ ยงิ่ ผู้ปลูกรจู้ ักพชื มากย่ิงประสบ ความสาเร็จในการปลกู มาก 2. เคร่ืองจกั รกลการเกษตรและเครื่องทนุ่ แรง 1) การใชเ้ ครอื่ งมอื เครื่องทุ่นแรงทเี่ หมาะสมจะชว่ ยให้ลดการใชแ้ รงงานและทา ใหผ้ ลผลิตเพิ่มข้ึน 2) การลงทุนเครอื่ งจกั รกล ควรพจิ ารณาท่ผี ลตอบแทนท่ีเพิ่มขึ้น ไมค่ วรสนใจ เพียงแต่ราคาเคร่อื งจกั รกลอย่างเดยี ว ยิง่ ถ้ามีพ้นื ท่มี าก มีการปลกู พชื หลายคร้ัง ในรอบปี และสามารถนาออกไปรับจา้ งได้ การลงทนุ เครอ่ื งจกั รกลจะยิง่ มีความ คุ้มค่า 3) บางครั้งผ้นู าเกษตรกรอาจจะต้องทบทวนแผนการลงทนุ ด้วยการซอ้ื รถ แทรกเตอร์ แทนการซ้อื รถกระบะ เพราะสามารถสร้างรายได้ ท้ังเพิม่ ผลผลิต การเกษตร ลดตน้ ทนุ ค่าจ้าง และสามารถนาไปเปน็ อาชีพรับจ้างสร้างรายได้

๑๖ หลักวชิ าการเพ่ือลดต้นทุนการผลิต ด้านการจัดการแรงงาน และเคร่ืองจักรกลการเกษตร 1. ผู้ทาหน้าท่ปี ลูกพชื ควรมกี ารพฒั นาทักษะ ความรู้ ประสบการณ์ ศึกษาดูงาน 2. หลักการลงทนุ เคร่ืองจักรกลการเกษตร 1) เลือกซื้อเคร่ืองจกั รกลทมี่ กี าลังหรอื ขนาดเหมาะสมกับลักษณะการทางาน 2) การปรับขนาดแปลงให้ใหญจ่ ะลดการกลับรถทห่ี ัวแปลงซง่ึ ชว่ ยให้ประหยัด นา้ มนั 3) จะตอ้ งวางแผนระยะปลูกพชื ใหเ้ หมาะสมกบั การใช้เครื่องจกั รกลเตรียมดิน กาจดั วัชพืช ใส่ปุ๋ย และเก็บเกี่ยว 4) คานวณความค้มุ คา่ เปรยี บเทียบระหว่างการจา้ งและการซ้อื พร้อมทง้ั โอกาสการ สร้างรายได้ 3. เคร่ืองจักรกลการเกษตร และอปุ กรณ์ทีน่ ่าสนใจ เชน่ 1) เครื่องมอื ไถพรวนดนิ ชนิดต่างๆ 2) เคร่ืองปพู ลาสตกิ เคร่ืองปลกู เครอื่ งพน่ หรอื หยอดเมล็ดพนั ธ์ุ 3) เครือ่ งมือให้ปุ๋ยในระบบน้า 4) เครอ่ื งพ่นสารกาจดั วชั พืช /สารกาจัดแมลงชนิดแรงดนั สูงสาหรับสวนไม้ผล 5) เครอื่ งหน่ั ยอ่ ยซากพชื เพอ่ื ใชใ้ นการทาปุ๋ยหมัก 6) อุปกรณ์ที่ใชใ้ นการห่อผล อุปกรณท์ ่ีใช้ในการเกบ็ เกี่ยว

๑๗ หลักวิชาการที่ ๖ การลดต้นทุนดว้ ยการปลูกพืชผสมสาน ข้อคิด : เกษตรผสมผสานคอื การอย่รู ่วมกนั ของพชื สตั วม์ นษุ ย์อย่างสมดลุ และ เกื้อกลู ๑. ในสวนธรรมชาติ พืชตา่ งๆจะพงึ่ พาอาศยั อยู่รว่ มกนั และออกดอกออกผล เพราะแตล่ ะชนิดมีนสิ ัยไม่เหมือนกัน บางชนิดต้องการแสงแดดมาก บางชนดิ ต้องการรม่ เงา บางชนดิ มีรากสน้ั บางชนดิ มีรากยาว บางชนิดตน้ เตย้ี บางชนดิ ต้นสูง ๒. ไร่นาสวนผสม คือการทาเกษตรทใี่ ห้มีการใชป้ ระโยชน์ทเี่ กื้อกลู กนั ของพชื สตั ว์ ปลา มีการใช้พนื้ ท่ไี ดเ้ กิดประโยชน์ไม่ว่างเปล่า พืชเป็นอาหารสัตว์ สตั ว์ให้ปุ๋ยแก่ พชื พืชเป็นอาหารปลา น้าในสระใชร้ ดต้นพืช เปน็ ตน้ ๓. การปลูกพืชแบบผสมผสานจะทาให้มีการรว่ มกนั ใช้ที่ดิน ใชน้ า้ ใชป้ ุ๋ย อยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ และลดการระบาดของศตั รพู ืช

๑๘ หลกั วิชาการเพอ่ื ลดต้นทุนการผลิตด้วยการปลกู พืชผสมสาน ๑. การปลูกพชื ผสมผสานตามลาดับชัน้ เชน่ -ชน้ั ท่ี๑ พืชกนิ หวั กนิ ฝักใต้ดนิ เช่น ขมิ้น ถ่วั ลสิ ง มันเทศ -ชน้ั ท่ี๒ พชื ผิวดิน เชน่ พชื ผกั ตา่ งๆ -ชน้ั ท่ี๓ พชื ล้มลุกระดับกลาง เชน่ พริก มะเขอื -ชน้ั ที่๔ พชื ลม้ ลุกประเภทขึน้ คา้ ง เชน่ พรกิ ไทย บวบ -ชั้นที่๕ พชื ยนื ตน้ ระดับกลาง เช่น ผักหวาน -ชั้นที่๖ พชื ยืนต้นระดบั สูงประเภททรงพ่มุ ทึบ เช่น มังคุด -ช้นั ที่๗ พชื พชื ยนื ตน้ ระดับสงู ประเภททรงพุ่มโปรง่ เช่น สะตอ ๒. การปลกู พืชตระกูลถ่วั ตามกนั กับพืชหลกั จะลดต้นทุนคา่ ปยุ๋ เช่น ข้าว-ถั่ว (ถว่ั เขยี ว ถั่วลสิ ง) ถ่ัวให้รายได้และชว่ ยเพิ่มปุ๋ยให้ขา้ ว ขา้ ว-พืชบารุงดิน(ปอเทือง ถว่ั พรา้ ) การไถกลบพืชบารุงดินช่วยเพิม่ ปยุ๋ และทาให้ดินรว่ นข้นึ 3. เลยี้ งสัตว์ในสวนไม้ยนื ต้น ส่วนของพชื เปน็ อาหารสัตว์ และสัตวจ์ ะใหป้ ๋ยุ และชว่ ยกาจัดวชั พชื เปน็ ตน้

๑๙ หลักวชิ าการที่ ๗ การลดต้นทนุ จากการเพิม่ ผลผลิต ขอ้ คดิ : ต้นทุนท่ีเหมาะสมตอ้ งอยภู่ ายใต้การไดผ้ ลผลติ ทเ่ี ตม็ ศักยภาพและคมุ้ ค่า ๑. เพราะธรรมชาตเิ ปลย่ี นไปการปลูกพืชตอ้ งอาศัยการลงทนุ ในอดตี เรามดี ินทด่ี ี แม้ไม่ตอ้ งใสป่ ุย๋ ก็ให้ผลผลิตดี แต่เราใช้ท่ดี ินนนั้ ปลูกพืชซ้าๆมานับสบิ ๆปี ดินจึง เปลยี่ นแปลงไปจนบางทไี่ ม่เหลือความสมบรู ณไ์ วส้ าหรบั การปลกู พืชในฤดถู ัดไป จึง จาเปน็ ต้องเพ่ิมการลงทนุ ในการปรับปรุงบารุงดนิ ๒. การลดตน้ ทนุ ใหส้ มดลุ กบั การให้ผลผลติ การลดต้นทนุ เกินไปอาจทาใหผ้ ลผลติ ไดไ้ มเ่ ต็มประสิทธิภาพ เช่นใส่ปุ๋ยนอ้ ยไมพ่ อที่พชื ตอ้ งการ ไม่ลงทนุ ใหน้ า้ พืชไม่ เจริญเติบโต ตวั อย่างทางเลือกท่ี๑ ลงทุน ๒,๐๐๐ บาท ได้ผลผลิต ๑,๐๐๐ กิโลกรัม ราคาขาย ๑๐ บาทต่อกิโลกรมั ขายได้ ๑๐,๐๐๐ บาท กาไร ๘,๐๐๐ บาท ตน้ ทนุ ต่อกิโลกรัม เทา่ กบั ๒ บาท ทางเลือกทีด่ กี วา่ ลงทนุ ใสป่ ุย๋ เพ่มิ ข้ึน ๑,๐๐๐ บาท เพ่ือใหไ้ ด้ผลผลติ เพมิ่ ขน้ึ รวม ลงทนุ เปน็ ๓,๐๐๐ บาท ไดผ้ ลผลิตเพ่มิ เป็น ๑,๕๐๐ กโิ ลกรัม ราคาขาย ๑๐ บาท ต่อกโิ ลกรัม ขายได้ ๑๕,๐๐๐ บาท กาไร ๑๒,๐๐๐ บาท ตน้ ทนุ ตอ่ กโิ ลกรัมเท่ากบั ๒ บาท เท่าเดมิ แต่กาไรมากกว่า

๒๐ หลักวชิ าการเพอื่ ลดต้นทุนการผลิตด้วยการเพ่มิ ผลผลิต ๑. เลือกพ้ืนทป่ี ลูกและศกึ ษาสภาพพื้นที่ ดนิ น้า และปัญหาข้อจากดั ๒. เลอื กชนิดพืชเหมาะสมกับสภาพพนื้ ทนี่ นั้ ๆ ๓. เลือกพันธ์ดุ ีทนทานตอ่ สภาพปัญหาพืน้ ทแี่ ละทนทานศตั รูพชื ๔. ใชเ้ มล็ดพนั ธท์ุ มี่ คี วามงอกดี จานวนเหมาะสม ใช้ระยะปลกู เหมาะสม ไมป่ ลกู แนน่ เกนิ ไปจนเกิดปัญหาการสะสมของโรคแมลง ๕. ใส่ปุ๋ยใหถ้ กู ตอ้ งตามระยะการเจริญเติบโต ๖. ตัดแตง่ กิง่ ตดั แต่งชอ่ ดอก ๗. ให้น้าเหมาะสมกับชว่ งการเจริญเตบิ โต ๘. ป้องกนั กาจัดศัตรูพืช ๙. การบังคับให้ออกนอกฤดู

๒๑ หลกั วิชาการที่ ๘ การสรา้ งมูลค่าเพ่ิม ขอ้ คิด : สินค้าทม่ี คี วามเชื่อถอื ย่อมจะขายไดด้ แี ละมรี าคามากกวา่ สนิ คา้ ท่ไี มม่ ที ีม่ า ๑. ข้าวสังขห์ ยดเมอื งพัทลงุ เดิมเป็นขา้ วพ้ืนเมอื งที่คนไม่ค่อยรู้จกั ราคา ขา้ วสารประมาณ สบิ กว่าบาทต่อกโิ ลกรัม หลงั จากทม่ี กี ารขน้ึ ทะเบียนเป็น สนิ คา้ สิ่งบง่ ช้ีทางภมู ิศาสตร์(จไี อ) และรับรองมาตรฐานสนิ คา้ ปจั จุบนั ขาย ขา้ วสารราคาประมาณ ๔๐-๗๐ บาท ๒. สละปา่ บอน สละลุงถนั พทั ลุง ราคาขายจากสวน ๕๐ บาทต่อกิโลกรัม ตลอดปี โดยเจา้ ของสวนรักษาคณุ ภาพเปน็ ทเ่ี ช่ือถอื มีการบนั ทกึ วันผสม เกสรและกาหนดวนั เก็บเกี่ยวตามระยะทช่ี ัดเจนเพื่อให้ได้ผลผลิตคณุ ภาพดี ๓. การบรรจหุ บี ห่อท่สี วยงาม สามารถยกระดับราคาสินคา้ ให้เพิ่มขน้ึ จาก สนิ ค้าธรรมดาเปน็ สินค้าท่ีมคี ณุ ค่าเปน็ ของกานลั ภมู ิใจท้งั ผู้ให้และผรู้ ับ

๒๒ หลักวชิ าการเพ่ือการสรา้ งมูลค่าเพิม่ วิธกี ารสรา้ งมลู คา่ เพมิ่ ใหก้ ับผลผลติ ทางการเกษตร ๑. ขายผลผลติ เน้นระดบั คณุ ภาพ เชน่ แยกเกรด แยกราคา ๒. ขายความปลอดภยั จากสารพิษตกค้าง เชน่ ผกั อนิ ทรีย์ ๓. ขายความมีเอกลักษณ์ท่ไี ม่เหมือนใคร เช่น สม้ โอทับทมิ สยาม ๔. ขอจดทะเบียนเปน็ สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมศิ าสตร์ เชน่ ขา้ วสงั ข์หยดเมืองพทั ลงุ ๕. ขายเรอื่ งราวขายช่ือเสียงที่มีมาตง้ั แต่อดตี เช่น ส้มจุกจะนะ ลองกองตันหยงมสั ๖. ขายผลผลิตแปรรูป ๗. ขายการบรรจภุ ัณฑ์ทส่ี วยงาม ๘. ขายการท่องเทย่ี วเชงิ เกษตร

๒๓ หลักวชิ าการที่ ๙ การสร้างความมั่นคงด้วยการดารงชีพดว้ ย ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ขอ้ คดิ : 1. พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ฯ ได้ทรงพระราชทานแนวพระราชดาริ เศรษฐกจิ พอเพียงเพื่อใหเ้ ปน็ หลักคดิ ถงึ การดารงชีพ ทม่ี คี วามพอประมาณ มีเหตมุ ีผล มีภูมคิ ุม้ กนั ภายใต้ความรอบรู้ รอบคอบและมคี ณุ ธรรม 2. การปลกู พืชตามหลักเศรษฐกิจพอเพยี ง ในขั้นตน้ ให้เพียงพอการอยู่การ กนิ และข้ันก้าวหน้าให้ถงึ ระดับอยูด่ ีมใี ช้ สามารถพัฒนาจนถึงระดับ เศรษฐกจิ ชมุ ชนหรือประดบั ประเทศได้

๒๔ หลกั วชิ าการเพ่อื ลดต้นทุนการดารงชีพ ด้วยหลักปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง เทคนคิ การนาปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาประยุกตใ์ ช้ในการปลูกพชื ควรปฏิบตั ติ าม แนวทาง ๔ เสาหลกั สู่ความพอเพยี ง ดงั นี้ ๑. เสาหลักท่ี๑ “หัวใจพอเพียง” คือเร่ิมท่ีความตั้งใจ เปิดใจเรียนรู้ พัฒนาตนเอง พฒั นาแปลงปลูกพชื และมีจติ อาสา ๒. เสาหลักที่๒ “๙ พืชผสมสานและเกษตรผสมผสานพอเพียง” คือปลูกพืชผสม สาน ๙ กลุ่มตามความเหมาะสมได้แก่ พืชอาหาร พืชรายได้ พืชสมุนไพรเพ่ือ สุขภาพ พืชสมุนไพรเพื่อป้องกันกาจัดศัตรูพืช พืชอาหารสัตว์ พืชใช้สอย พืช อนุรักษ์ดินน้า พืชอนุรกั ษ์พันธุกรรมทอ้ งถิ่น และพชื ทาพลงั งานเชื้อเพลิง พร้อมทา เกษตรผสมสาน ๓. เสาหลักท่ี๓ “ภูมิปัญญาภิวัติพอเพียง” คือ การรู้จักศึกษาค้นคว้า ทดลอง เปรียบเทียบสิ่งใหม่อยู่เสมอเพื่อเป็นการพัฒนาความรู้ ใหม่โดยมีข้ันตอนคือ ศึกษา วิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุปัญหาอย่างรอบด้าน รวบรวมภูมิปัญญาและความรู้ สมัยใหม่หรือผลงานวิจัยต่างๆที่เก่ียวข้องนามาผสมสานกันและกาหนดเป็นวิธีการ แก้ปัญหา 1-2 วิธี นาวิธีเหล่านี้ไปทาแปลงทดลองเพ่ือศึกษาเปรียบเทียบ ติดตาม บันทึกข้อมูลอย่างสม่าเสมอ สรุปผลการทดลองสรุปบทเรียน ทาการทดลองซ้า จนกว่าจะได้ผลคงที่ สรุปเป็นองค์ความรู้ใหม่ และถ่ายทอดสู่บุคคลอ่ืนๆเพื่อ นาไปใช้และพัฒนาต่อไป ๔. เสาหลักที่๔ “ดารงชีพพอเพียง” คือการนาเอาคาสอนของในหลวงมายึดถือ ปฏิบัติในชีวิตประจาวัน ตามหลักความพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน รอบรู้ รอบคอบและมคี ุณธรรมความเพยี ร

๒๕ เอกสารเผยแพร่เกษตรกร เรอ่ื ง 9 หลักวิชาการ เพือ่ ลดตน้ ทนุ และสรา้ งมูลคา่ เพิ่มในการผลิตพืช ผ้แู ต่ง ธัชธาวินท์ สะรุโณ หนว่ ยงาน สานักวิจยั และพัฒนาการเกษตรเขตท่ี 8 จงั หวัดสงขลา อาเภอหาดใหญ่ จงั หวัดสงขลา กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จดั พิมพ์ตามโครงการ ขบั เคลือ่ นผลงานวจิ ยั ส่กู ารใชป้ ระโยชน์ ปีงบประมาณ 2559 สานกั วิจยั และพฒั นาการเกษตรเขตท่ี 8 จังหวดั สงขลา สนบั สนนุ โดย กลมุ่ วเิ คราะหก์ ารใช้ประโยชนผ์ ลงานวจิ ยั กองแผนงานและวชิ าการ กรม วิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คาขอบคุณ การจดั ทาเอกสารฉบับนี้ไดร้ บั คาแนะนาจากผูบ้ ริหารและ นักวิชาการของกรมวิชาการเกษตรหลายทา่ น ผู้แต่งใครข่ อขอบคณุ มา ณ ทน่ี ้ี แหลง่ สบื คน้ ระบบออนไลน์: www.เศรษฐกิจพอเพยี ง.com


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook