เรื่องเลา่ จากดวงดาว The stars told me ชือ่ เรอ่ื ง : เรอ่ื งเล+าจากดวงดาว คาํ นาํ พมิ พ4ครง้ั ที่ 1 ธนั วาคม 2564 หนังสือนิทาน เรื่องเล4าจากดวงดาว ข\"อมลู ทางบรรณานุกรมของหอสมดุ แหง4 ชาติ เปcนหนังสือที่จัดทำขึ้นเพื่อถ+ายทอดความรูa ปรวรรณ ภมรสตู ร, ประภาพรรณ วิไลโรจน4วรกลุ , เกี่ยวกับเรื่องของกลุ+มดาวที่มีความสำคัญใน ระบบสุริยะจักรวาล โลกและดาราศาสตร4 ผ+าน ศศนิ ันท4 ปริญจิตต4 และคณะ. (2564). การเล+าเรื่องประกอบภาพ ดaวยเนื้อหาท่ีใหa เรื่องเลา) จากดวงดาว. กรงุ เทพฯ: สำนกั พมิ พ4 ความสนุกสนานและสรaางความเพลิดเพลิน พรaอมทั้งสอดแทรกคติสอนใจและขaอคิด ซึ่ง บรรณาธกิ ารอำนวยการ : ดร. นพิ าดา ไตรรัตน4 สามารถนำไปปรับใชใa นชีวติ จริงไดa บรรณาธกิ าร/พสิ ูจน4อักษร : สุกฤษฎิ์ ตั้งใจ, อรชพร โพธงิ์ าม นกั เขยี น/นักแปล : ปรวรรณ ภมรสูตร, ศศินันท4 ปรญิ จติ ต4 คณะผจaู ัดทำ นกั วาดภาพประกอบ/นักออกแบบกราฟ^ก : ธมน ศรีแจม+ ใส, ประภาพรรณ วไิ ลโรจนว4 รกลุ , รุง+ นภา ย้ิมสมบรู ณ4 จำนวน XX หนาa ราคา 150 บาท
สารบญั บทนาํ ...........................................................................XX บทท่ี 5 กลมุ่ ดาวคา้ งคาว...............................................XX บทท่ี 1 กลมุ่ ดาวนายพราน...........................................XX บทที่ 6 กลุม่ ดาวม้าปกี .................................................XX บทท่ี 2 กลุ่มดาวไถ......................................................XX บทที่ 7 กลมุ่ ดาวลูกไก.่ ................................................XX บทที่ 3 กลุ่มดาวหมใี หญ.่ ............................................XX บทที่ 8 ทางช้างเผือก....................................................XX บทที่ 4 กลุ่มดาวหมเี ลก็ ...............................................XX จากโลกสดู่ วงดาว.........................................................X
คุณรู้ไหมว่าการไล่ล่าตามความฝันของคนเราต้องว่ิง ออกไปไกลแค่ไหน ? หากคุณคิดว่าความฝันของคุณอยู่ไกลที่สุดจน แทบจะไม่สามารถเอ้ือมถึงได้ แต่ยังมีคนอีกคนหนึง่ ท่มี ี ความฝันอยู่ไกลกว่าคุณหลายเท่าเกินกว่าจะ จินตนาการและออกไปไขว่คว้าได้ เธอคือ ไลลา สาว น้อยนักผจญภัย ผู้ที่มีความฝันอยู่ห่างไกลออกไป แต่ เธอก็ไม่ละทิ้งความตั้งใจ พยายามพาตัวเองไปให้ถึง จุดมุ่งหมายที่ได้วาดฝันเอาไว้ แม้ท้ายที่สุดไม่รู้ว่าจะ สามารถไล่ตามความฝันนนั้ ไดส้ ำเร็จหรือไม่
ไลลาในวัย 12 ปี เด็กหญิงผู้มีความสดใสร่า เริง มักมีรอยยิ้มติดอยู่บนใบหน้าเสมอ แม้เธอจะกำลัง เรียนอยู่แค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แต่กลับมีความฝันท่ี ย่งิ ใหญเ่ กนิ ตัว เพราะความฝนั ของเธอไม่ได้มีปลายทาง ส้ินสดุ ลงเพยี งแคบ่ นโลกเท่านน้ั มันกลับยาวไกลออกไป จนถึงท้องฟ้าอันกว้างขวาง หรือสิ่งที่เรียกว่า “... จักรวาล...” ความฝนั นจ้ี ะเกิดข้นึ ไมไ่ ดห้ ากไมไ่ ด้รับการสนบั สนุนจากครอบครวั ของเธอ คณุ พอ่ ผเู้ ปน็ เหมือนตน้ แบบและผนู้ ำทางไปใน ทกุ ท่ี คุณแม่ผ้เู ปน็ คนท่ีคอยให้ช่วยเหลอื และสนับสนนุ อยูเ่ สมอ อกี ทงั้ ยังมีคณุ ตาและคุณยายที่คอยเป็นกำลังใจและแรงผลักดัน ให้เธอก้าวต่อไปข้างหน้า ตลอดชีวิตวัยเด็กของเธอคลุกคลีอยู่กับดวงดาวและอวกาศ ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวจากนิทานเลม่ โปรดในทกุ คนื ก่อนนอน และการทำกจิ กรรมต่าง ๆ ของครอบครวั ทมี่ ดี วงดาวมาเก่ยี วข้อง น่ีจงึ เปน็ จุดเรม่ิ ตน้ ความฝนั ของเธอ และการเดินทางออกผจญภยั สจู่ ักรวาลทแี่ สนกว้างใหญ่ไพศาลก็ได้เริม่ ต้นขึ้น...
กลุ่มดาวนายพาน หรือกล่มุ ดาวเต่า ในสมัยโบราณผ้คู นมักมีจินตนาการเกยี่ วกับกลุ่ม ดาวบนท้องฟ้าและนามาร้อยเรียงเป็นเรื่องเล่าที่แฝงไว้ด้วย ความเชื่อ วิถีการดาเนินชีวิต และการทานายดวงชะตา จนก่อ เกิดเป็นตานานที่เล่าขานสืบต่อกันมาจนถึงปจั จุบนั ที่พิเศษไป กว่านั้นคือ ในท้องฟ้าที่กว้างขวางอันหาจุดจดของขนาดที่ ยิ่งใหญ่นี้ไม่ได้ ยังมีกลุ่มดาวกลุ่มหนึ่งชื่อว่ากลุ่มดาวนายพราน ซึ่งเป็นกลุ่มดาวที่สามารถสังเกตได้ง่ายบนท้องฟ้า เต็มไปด้วย เรื่องเลา่ กลา่ วขาน ผู้คนต่างว่ากนั ว่าดาวพวกนี้เปน็ ตานานของ กรีกโรมัน ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะได้ออกไปสนุกและท่องโลก กว้างพร้อมทั้งเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับสาวน้อยนักผจญภัยคน หนง่ึ ที่เตม็ ไปดว้ ยความฝนั
ไลลาสาวน้อยนักผจญภัย ผู้รักการเดินทางท่องไปในอวกาศและได้เดินทางเทีย่ วชมกลุ่มดาวทั้งน้อยใหญ่มาแล้วนับไม่ถ้วน คืน หนึ่งในฤดูหนาวที่อากาศหนาวเย็นจนไลลาต้องซุกตัวอยู่บนเตียงใต้ผ้าห่มเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย สายตาของสาวน้อยมอง ออกไปนอกหน้าต่าง คืนนี้ท้องฟ้าแจ่มใสและมีหมู่ดาวมากมายกระจัดกระจายอยูเ่ ตม็ ท้องฟ้าไปหมด ทันใดนั้น ไลลาได้สงั เกตเห็นกลมุ่ ดาวขนาดใหญ่ท่ีส่องแสงสว่างไสวท่ามกลางท้องฟา้ ที่มืดมิด ความงดงามพร่างพราวของดาวกลุ่มนั้นทาให้ไลลามีความฝันว่าอยากทีจ่ ะ เขา้ ไปชมดวงดาวเหลา่ น้ันให้ได้ในสักวนั หนงึ่ เพียงไดแ้ ต่คิดกับตัวเอง ไม่นานเดก็ น้อยผนู้ ก้ี ไ็ ดผ้ ล็อยหลับไป
ร่งุ เชา้ ไลลาไดพ้ บกับหนังสือเล่มหนึ่งของคุณตาวางอยู่บน ชั้นหนังสือภายในบ้าน น่าตกใจที่หน้าปกหนังสือเลม่ นี้ ปรากฏ รูปกลุ่มดาวกลุ่มที่ไลลาเพิ่งได้พบเห็นเมื่อคืนตอนมองขึ้นไปบน ท้อ งฟ ้ากว้างส าวน้อ ย ฉงนใจเล ็กน้อ ย แ ต่ค วามตื่นเต้นกลั บ มีมากกว่า ไวเท่าความคิด ไลลาจึงรีบเปิดหนังสอื เล่มนั้นออกมา และอ่านอยา่ งตง้ั ใจ ในที่สุดเรอื่ งราวของดาวในตานานกรีกโรมัน ก็ได้ถูกเปิดเผยไปสู่สาวน้อยนักผจญผู้นี้อย่างไม่คาดคิด โดยเรอ่ื งราวของหนังสอื เล่มนม้ี ีอย่วู า่ …
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วพรานหนุ่มรูปงามนาม \"โอไรอัน\" บุตรผ้เู กดิ จากโพไซดอน เทพแหง่ ท้องทะเลและราชินียูเรียลแห่งลมุ่ น้าอะเมซอนผู้เป็นมนุษย์ เนื่องจากเขามีเชื้อสายเทพเจ้า โอไรอัน จึงมีความสามารถเหนือมนุษย์ทั่วไป ทาให้เขาสามารถเอาชนะ สิงโตได้ บิดามารดาจึงมอบสุนัขซีรีอุสให้เป็นของขวัญ นับแต่ นนั้ มาซรี อี สุ ก็ไดก้ ลายเป็นสุนัขคูใ่ จของโอไรอนั วนั หนึ่ง ทั้งสองออก ผจญภัยในท้องทะเลจนมาถึงเกาะครีตกระทั่งได้พบกับอาร์ทีมิส เทพแหง่ ดวงจันทรแ์ ละการล่าสตั ว์
โอไรอันและอาร์ทีมิสตกหลุมรักซึ่งกันและกัน ทว่าอะพอลโลเทพแห่งดวงอาทิตย์กลับไม่พอใจที่อาร์ทีมิสผู้เป็นน้องสา ว ไปชอบมนุษย์จึงไปบอกมหาเทพซุส ผู้เป็นบิดาและเป็นเทพเหนือกว่าเทพทั้งปวงว่าโอไรอันมีความโอหัง จนมหาเทพซุสไม่พอใจ และไดม้ อบแมงปอ่ งพิษให้อะพอลโลไปจัดการโอไรอนั ในการต่อสูโ้ อไรอันสามารถเอาชนะคู่ตอ่ สู้ทเ่ี ป็นสิงโตแสนดุรา้ ยลงได้ ทว่า กลับถกู แมงป่องท่ีซ่อนอยใู่ นสงิ โตต่อยเข้าท่แี ขน ก่อนส้ินใจได้เอย่ ช่อื คนรกั คอื อาร์ทีมิสเป็นครัง้ สุด ฝ่ายอาร์ทีมสิ กร็ า่ ไหเ้ สยี ใจอย่าง มากที่สูญเสียคนรักไป มหาเทพซุสเห็นเช่นนั้นก็สงสารลูกจึงได้ชดเชยด้วยการส่งดวงวิญญาณของโอไรอันขึ้นไปบนท้องฟ้า กลายเปน็ “กลุม่ ดาวนายพราน” พร้อมซีรอี สุ สุนัขค่ใู จท่กี ลายเปน็ “กลุม่ ดาวสุนขั ใหญ่” และอยหู่ ่างไกลจากกลุ่มดาวแมงป่อง มากที่สุด โดยกลุ่มดาวนายพรานจะเห็นได้เฉพาะในฤดูหนาว ส่วนกลุ่มดาวแมงป่องจะเห็นได้ในฤดูร้อนทาให้กลุ่มดาวทั้งสองไม่ เคยปรากฏบนท้องฟ้าพรอ้ มกันสักครงั้ นับต้ังแตน่ นั้ มา
เรื่องราวของหมู่ดาวกลุ่มนายพรานที่เป็นตานาน กรีกโรมนั อันนา่ อัศจรรยใ์ จได้จบลงไปแล้ว เหลือแตเ่ พยี ง สาวน้อยผู้ที่ยังคงล่องลอยอยู่กับภวังค์เรื่องเล่าจาก หนังสือที่เธออ่านเมื่อสักครู่ จนเริ่มรู้ว่าแท้จริงแล้ว ดวงดาวบนท้องฟ้านั้นมีประวัติและตานานเรื่องราว เป็นมาอยา่ งไร เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วไลลาจึงอยากออกเดินทางเพื่อตามหากลุ่มดาวนายพราน และเข้าไปชมความงามด้วยตาตัวเองสักครั้งในชีวิต ความฝันของเด็กน้อยคนหนึ่งจึงได้เริ่มต้นขึ้น ไลลาเฝ้าออกเดินทางตามล่าหาหมู่ดาวนายพราน แต่แล้วแต่เล่า ก็ไม่พบดวงดาวท่ี เดก็ หญิงคนนตี้ ามหาเลย ไลลาพยายามอยา่ งมากเพอื่ ที่จะไดเ้ หน็ ดวงดาวกลุ่มนี้ จึงไลถ่ ามหมูด่ าวทร่ี ะยิบระยบั บนทอ้ งฟ้าว่า “พี่ ๆ พอจะรบู้ า้ งไหมคะ วา่ กล่มุ ดาวนายพรานจะมองเหน็ ได้อย่างไร”
เม่อื หมู่ดาวได้ฟังดงั นั้นแล้วก็หัวเราะและตอบว่า “เจ้าเด็กน้อย ดาวนายพรานที่เจ้าว่า เป็นดาวที่เจ้าสามารถมอง หางา่ ยทสี่ ดุ ในบรรดาดาวทั้งหลายบนท้องฟ้าแล้ว หากเจ้าลองต้ัง สติแล้วมองดี ๆ จะต้องพบกับดาวดวงที่โดดเด่นและสามารถ มองเหน็ ไดช้ ัดแทบทัว่ มุมโลกอยา่ งแนน่ อน ไหนเจา้ ลองดูดี ๆ สิ” เมื่อไลลาได้ยินดังนัน้ แล้ว จึงมองขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง ก็พบว่าเจอดวงดาวสามดวงเรียงกันเป็นเส้นตรงแล้วจึงร้องอยา่ งดีใจว่า “จรงิ ดว้ ยคะ่ หนเู ห็นแล้ว แล้วดาวท้งั สามดวงเป็นดาวนายพรานเหมอื นกนั หมดเลยหรอคะ” หมู่ดาวจึงตอบว่า “ใช่แล้ว เมื่อมองไปยังกลุ่มดาวนายพราน ดาวสามดวงที่เรียงในระนาบเดียวกันนั้นเรียกว่าเข็มขัดนายพราน หรือคนไทยเรียกวา่ ดาวคันไถ เจ้าสามารถมองเห็นได้เด่นชัด แต่สาหรับการเริม่ มองหา ให้เริ่มจากการมองหาที่เข็มขัดนายพราน กอ่ น แลว้ ค่อยเชื่อมโยงดาวบริเวณใกลเ้ คียงท้ังสี่มมุ ก็จะเหน็ ภาพรวมของกลมุ่ ดาวนายพรานปรากฏชดั ขึ้น”
ไลลามองดูกลุ่มดาวนายพรานประกอบกับฟังการอธิบายจากหมู่ดาวอย่างเงียบ ๆ จึงแปลกใจในความมหัศจรรย์ของท้องฟ้าที่มี เรือ่ งราวและรายละเอียดทน่ี า่ สนใจ ไลลาจงึ เอย่ ขึน้ มาว่า “อยา่ งนีแ้ ลว้ หม่ดู าวทกุ ดวงมเี รอ่ื งเล่าตานานเหมอื นกนั หมดไหมคะ อยา่ งพ่ี ๆ มีตานานไหม” หม่ดู าวจึงตอบว่า “ดาวทุกดวงที่เจ้าเห็นบนท้องฟ้าล้วนมีเรื่องเล่าตานานที่คนเล่ากันปากต่อปาก และปรุงแต่งเสริมสร้างมากันทั้งนั้น เพื่อให้เรา สามารถเรยี นรูแ้ ละทาความเข้าใจกับหมูด่ าวบนทอ้ งฟา้ ได้งา่ ยมากยง่ิ ขน้ึ หากยามใดท่เี จา้ มองไปยังกลุม่ ดาวนายพรานเจ้าจงเห็นการเกิด ใหม่ การดารงอยู่ และการตาย การตายของดวงดาวนั้นมิใช่การลาจากแตด่ าวที่ใกล้สิ้นชีพจะเกดิ การหลอมรวมตัวเองเพ่ือสร้างดาวดวง ใหม่ให้เกดิ ขึน้ อกี ในร่นุ ถดั ๆ ไป ทกุ คร้งั ท่ีแหงนหนา้ มองดวงดาวขอให้ระลึกอย่เู สมอวา่ เรากาลังเห็นอดีตของดาวดวงนั้น ๆ อยูไ่ ม่ใช่ดาว ดวงปัจจบุ ัน พรอ้ มทงั้ กาลงั เห็นการเกิดและการตายเกิดขนึ้ ภายใตก้ ารดารงอยู่ของดวงดาวทกี่ าลังส่องแสง”
สิ้นเสยี งของหมูด่ าวทีเ่ ลา่ เรือ่ งราวนา่ อัศจรรยใ์ จให้เธอฟัง ความรู้สกึ มากมายก็ตี ตื้นเข้ามาในใจของไลลา ยิ่งหมู่ดาวบอกกับเธอวา่ เรื่องราวของดาวแต่ละชนิดแตกต่าง กันไปเท่าไหร่ ยิ่งทาให้ไลลาสาวน้อยนักผจญภัยตื่นตาตื่นใจเท่าน้ัน ตานานของดาวที่ เธอได้ฟังมาต่างสะท้อนทั้งคาสอนและจินตนาการที่ไมม่ ีสิน้ สุด แล้วทาไมไลลาจึงต้อง หยดุ ท่จี ะเรียนรตู้ ่อด้วย ดง้ั นั้น ไลลาจึงตัดสนิ ใจแล้ววา่ เธอจะศึกษาตานานของหมู่ดาว อื่น ๆ อีกต่อไปในไม่ช้า ให้สมกับที่ตนเองเป็นสาวน้อยนักผจญภัยอย่างที่ใคร ๆ ตา่ งเรยี ก
กลุม่ ดาวไถ เสียงนกร)องจิ๊บ ๆ เป$นสัญญาณของการเดินทางครั้งใหม8 ไลลาสาวน'อยนักผจญภัย ผู;มีความสนใจและใฝCฝDนที่จะได;ไป สำรวจอาณาจักรของดวงดาวบนท;องฟJา แม;ว8ากลุ8มดาวน้ัน จะอยู8ห8างออกไปแสนไกลแต8เธอไม8เคยหยุดที่จะเรียนรู; ตามหา และออกเดนิ ทางไปจนพบ
“หนขู อเอากล;องโทรทรรศนไS ปดว; ยได;ไหมคะ” ไลลาเอย8 เสียงใส เมื่อได;รับคำอนุญาตจากคุณแม8 เด็กตัวเล็กก็รีบจัดเตรียมสัมภาระให;เรียบร;อยเพื่อออกเดินทางไปยังจุดหมาย ปลายทาง คืนนี้มีภารกิจสุดแสนพิเศษของครอบครัว คือการตั้งแคมปYก8อกองไฟบนยอดเขา ในฤดูหนาวแบบน้ี ถือเป$น กิจกรรมที่ได;รับความนิยมเป$นอย8างมาก หลายครอบครัวต8างพากันมาตักตวงช8วงเวลาแห8งความสุขกลับไป ครอบครัวของ ไลลากเ็ ชน8 กัน
โชคดีที่ช8วงนี้เพิ่งจะเริ่มต;นเข;าหน;าหนาวจึงทำให;นักท8องเที่ยวยังไม8เยอะมาก การทำกิจกรรมต8าง ๆ จึงค8อนข;าง เป$นส8วนตัว เมื่อพระอาทิตยSตกดินพระจันทรSจึงขึ้นมาแทนที่ ยิ่งดึกอุณหภูมิก็ยิ่งต่ำลงไปเรื่อย ๆ อากาศที่เย็นเฉียบกับ ท;องฟJาที่มืดสนิท แต8กลับเปล8งประกายเต็มไปด;วยดวงดาวนับสิบที่ส8องแสงระยิบระยับอยู8บนนั้นจึงทำให;ฤดูหนาวนี้ ดสู มบูรณแS บบข้นึ มาทันที
“ไลลา ลกู มองหาอะไรอย8จู ะ` ” ผเ;ู ปน$ แม8เอ8ยถามเด็กหญงิ ตัวนอ; ยทกี่ ำลังยนื มองท;องฟJาอย8างไม8ละสายตา “หนูกำลังมองหากลุ$มดาวไถอยู8ค8ะคุณแม8” ไลลากล8าวตอบแต8ยังคงมุ8งมั่นกับการค;นหากลุ8มดาวที่ขึ้นชื่อว8ามองเห็น ได;ชัดท่สี ุดในช8วงฤดูหนาว เพราะเหตุผลนี้เธอจึงตืน่ เต;นกับการมาตั้งแคมปใY นครง้ั น้เี ปน$ พิเศษ “คุณพ8อบอกว8าในคืนนี้กลุ8มดาวไถจะส8องแสงสว8างกว8าดาวทุกดวง ใช8ไหมคะคุณพ8อ” เด็กหญิงหันมาเอ8ยถาม คณุ พอ8 ผูเ; ปน$ เหมือนแรงบันดาลใจใหเ; ธอไดเ; จอในสงิ่ ท่ีชอบ “ใช8แล;วล8ะ ลูกหาเจอหรือยัง” ผู;เป$นพ8อตั้งคำถามกลับไป ไลลาได;แต8ส8ายหน;าให;เป$นคำตอบเพราะแหงนมองเท8าไร ก็ยังไม8พบกลม8ุ ดาวไถอยดู8 ี “ลกู เดนิ มาหาพ8อทางน้ีสิ” เมื่อได;ยินดังนนั้ เด็กตัวเลก็ จงึ รีบวง่ิ ไปยงั จดุ ที่ชายวัยกลางคนยืนอยู8ทนั ที
คุณพ8ออุ;มลูกสาวขึ้น แล;วชี้ไปยังจุดที่มีดวงดาวระยิบระยับจนสะดุดตา “เห็นอะไรไหม” ไลลามองตามไป ดวงตากลมโตประกายชดั ไปดว; ยจุดสเี หลืองเล็ก ๆ “นั่นคือกลุ8มดาวไถที่คุณพ8อบอกใช8ไหมคะ สวยจังเลย” รอยยิ้มเล็กผุดขึ้นบนใบหน;าของผู;เป$นพ8อก8อนจะพูดขึ้นว8า “ใช8แลว; คนเก8งของพอ8 รไ;ู หมครับว8าทำไมถึงเรยี กวา8 ดาวไถ” เด็กหญิงครุ8นคิดอย8ูพักหนึ่งแล;วจึงตอบคุณพ8อกลับไป ซ่ึงเป$นคำตอบทไ่ี ด;ยินจากวทิ ยเุ มือ่ วนั ก8อน “หนูเคยอ8านเจอว8าลักษณะของดาวกลุ8มนี้เหมือนกับ คันไถหรือเครื่องมือที่ชาวบ;านเอาไว;ทำไร8ทำนา คนไทยเลย เรียกว8า ดาวไถ ค8ะ” ฝCามือใหญ8วางลงบนศีรษะของเด็กตัวเล็ก พร;อมกับขยับเบา ๆ ด;วยความเอ็นดู “เก8งจังเลย” พ8อพูด พลางปลอ8 ยตัวไลลาลงจากอ;อมแขน “คุณพ8อช8วยเล8าเรื่องเกี่ยวกับดาวไถให;ไลลาฟDงหน8อย ได;ไหมคะ แต8ว8าหนูขอไปหยิบสมุดบันทึกก8อนน;า” เมื่อ เด็กหญิงหันมาพูดจบก็รีบวิ่งกลับเข;าไปในเต;นทSเพื่อหยิบเอา สิ่งของคู8ใจที่พกติดตัวไปทุกที่ แล;วกลับออกมานั่งข;าง ๆ ผเู; ปน$ พ8อตามเดิม
“กลุ8มดาวไถ มีดาวฤกษSอยู8ด;วยกันทั้งหมด 3 ดวง ซึ่งทั้งสามดวงนี้มีชื่อเป$นของตัวเองด;วยนะ” ชายวัยกลางคน เริ่มเล8าเมื่อลูกสาวของตนส8งสัญญาณว8าพร;อมแล;ว “ดวงที่อยู8ในระนาบต่ำสุดนั่นชื่อว8า Alnitak อยู8ห8างจากเราไป 800 ปl แสงเลย สว8างกว8าดวงอาทิตยSถึง 100,000 เท8า และใหญ8กว8าดวงอาทิตยS 20 เท8าเชียวล8ะ ดวงที่อยู8สูงจาก Alnitak ขึ้นมา นิดหน8อยนั้นมีชื่อเรียกว8า Alnilam ถือว8าเป$นดวงดาวที่สว8างกว8าดวงอาทิตยSมากที่สุดในสามดวงนี้ และใหญ8กว8า ดวงอาทิตยถS งึ 24 เทา8 ดว; ย ส8วนดวงนน้ั ท่อี ยสู8 ูงกวา8 เพอื่ นเลย ช่อื ว8า Mintaka หา8 งจากเรา 900 ปlแสง สว8างกวา8 ดวงอาทติ ยS 90,000 เท8า และใหญ8กวา8 ดวงอาทิตยS 16 เทา8 ”
เม่ือไลลาจดบันทกึ เสรจ็ เรยี บรอ; ย กเ็ งยหนา; ข้นึ มามองผ;เู ป$นพ8อ “โห อยา8 งนี้ต;องใหญ8กว8าตวั ไลลา หลายรอ; ยเท8าแน8เลย” คนเป$นแมส8 8งเสียง หัวเราะใหก; ับคำพูดทีส่ ุดแสนจะไรเ; ดยี งสา ของลกู สาวก8อนจะเอ8ยขอออกไป “แม8ขอดดู าวกับลูกดว; ยได;ไหมจะ` ” เด็กหญงิ ย้ิมจนตาหยแี ลว; ตอบออกมาเสียงดังฟงD ชัดว8า “ได;ค8ะ คุณพ8อคุณแม8คะเราเอากล;องโทรทรรศนSมา สอ8 งดูดาวกันเถอะ” ไลลาตื่นเต;นจนเก็บอาการไม8อยู8ทุกครั้งที่จะได;ส8องกล;องดูดาวแบบนี้ เพราะเธอร;ูสึกเหมือนว8ามันทำให;เราได;เข;าใกล; กล8ุมดาวเหล8านัน้ ไปอกี ขั้น เดก็ หญงิ หมนุ กลอ; งโทรทรรศนSอยู8นาน ขยบั ไปทางซา; ยทีและขยบั กลบั มาทางขวาทอี ย8ูแบบนน้ั
แล;วจู8 ๆ เสียงเล็กก็พูดขึ้น “คุณพ8อคะ เหมือนหนูเจอดาวกลุ8มอื่นด;วยเลยค8ะ มันอยู8ใกล; ๆ กับกลุ8มดาวไถเลย” ผู;เป$น พ8อหยิบหมวกใบโปรดของไลลาขึ้นมา สวมให;ด;วยความเป$นห8วงกลัวว8าเด็กตัว เล็กจะไม8สบายจากหยาดน้ำค;างที่เริ่ม หนักเพราะเรม่ิ ดึกมากข้นึ “ถ;าลูกเคยอ8านประวัติของกลุ8มดาวนายพรานลูกจะรู;ว8าแท;จริงแล;วกลุ8มดาวไถที่ลูกเห็นสามดวงนั้นเปรียบเสมือน กับเข็มขัดของนายพราน การที่ลูกจะหากลุ8มดาวนายพรานเจอ ลูกจะต;องมองหากลุ8มดาวไถนี้ให;เจอก8อน เนื่องจากกลุ8ม ดาวไถเป$นส8วนที่สังเกตเจอได;ง8ายเพราะเด8นสง8าส8องสว8างชัดที่สุด วางเรียงกันอยู8สามดวง และถูกล;อมรอบด;วยกลุ8มดาว นายพราน หรอื กลุม8 ดาวเต8ายังไงล8ะ”
“คุณพ8อเหมอื นกลุ8มดาวไถเลยคะ8 ” เด็กตัวเล็กละจากกลอ; งดดู าวแล;วหนั มาพูด กับผูเ; ปน$ พ8อ “เหมือนยงั ไงครับ” คุณพอ8 เอ8ยถาม “ก็เพราะคุณพ8อทำให;หนูได;มารู;จักกับกลุ8มดาวพวกนี้ไงคะ ถ;าไม8มีคุณพ8อเป$นต;นแบบและเป$นเหมือนกลุ8มดาวไถ หนูคงไมม8 ีโอกาสที่จะไดเ; รียนรู;เกยี่ วกบั เรือ่ งของหม8ูดาวทีค่ อยส8องแสงสวา8 งอยบู8 นทอ; งฟJานนั่ ” ผ;เู ป$นพอ8 ส8งยิ้มออกมาอยา8 งปดu ไมม8 ิดพรอ; มกบั ยอ8 ตวั นั่งลงข;าง ๆ กับเดก็ หญงิ “พ8อก็อยากให;ไลลาเป$นเหมือนกลุ8มดาวไถเช8นกันนะ เพราะดาวไถมีประโยชนSในการค;นหาดาวอื่น ๆ เป$นเหมือน สะพานทจ่ี ะนำพาเราไปเจอดาวต8าง ๆ อีกมากมายเลย ในวันหนึ่งถ;าลูกมีโอกาสได;แบ8งปDนความรู;นี้ต8อไปให;คนอื่น พ8ออยาก ให;ลกู ชว8 ยเป$นดาวไถให;กบั พวกเขาเหล8าน้นั ดว; ย”
เด็กหญิงพยักหน;ารับคำขอจากคุณพ8อ พลางส8งยิ้มหวานและนึกขอบคุณคุณพ8อ และคุณแม8ของเขาอยู8ในใจ ขอบคุณที่ทำให;เขาได;รู;จักกับดวงดาวเหล8านั้น แม;เขาจะไม8 เคยได;เห็นใกล; ๆ สักครั้งแต8ก็ยังตั้งใจศึกษาเรื่องราวของหมู8ดาวนั้นต8อไป ก8อนนอนคืนน้ี ไลลาไม8ลืมที่จะขอพรกับคุณดวงดาวเหมือนกับทุกครั้ง ขอให;ดวงดาวทุกดวงทอแสง สวา8 งสดใสแบบนี้ และช8วยนำทางให;กบั ทกุ คนตลอดไป
ดาวจระเข้ (ดาวหมีใหญ่) เข็มสั้นชี้เลข 6 เข็มยาวชีเ้ ลข 12 เสียงนาฬิกาดัง “ติ๊กต็อก ๆ ๆ” ไลลานั่งกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันกับคุณพ่อและคุณแม่อย่างสุข สำราญ ระหวา่ งกินขา้ ว คุณแมพ่ ดู กับไลลาวา่ “อาทิตย์หนา้ ไปหาคุณตากับคณุ ยายบนดอยกันนะไลลา พ่อกับแม่ จะไปร่วมทำบญุ กฐิน เพราะคณุ ตากบั คุณยายเป็นเจ้าภาพในปีน้ี” “ถ้าอย่างนั้น เราก็ถือโอกาสไปเที่ยวด้วยเลยดีไหมคะแม่” ไลลา ถามด้วยความตื่นเต้น “ไดส้ ิลูก ไปตา่ งจงั หวดั ท้งั ทีกเ็ ที่ยวให้เตม็ อิม่ ไปเลย” คุณพอ่ กลา่ ว ไลลาดีใจ กระโดดจนตัวลอย รีบตักข้าวใส่ไว้ในกระพุ้งแก้มทั้งสองข้าง อย่างรวดเรว็ แล้วกลับเข้าไปในหอ้ งเพ่ือเตรยี มตัวจะไปเทีย่ วตา่ งจังหวดั
ครั้นถึงวันที่ต้องออกเดินทาง ไลลารีบตื่นตั้งแต่รุ่งเช้า ลุกขึ้นล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมตัวออกเดินทางด้วยรถยนต์สี แดงคู่ใจ เพื่อมุ่งหน้าไปยังบ้านตากบั ยาย ระหว่างการเดินทาง เด็กน้อยไลลาตื่นตาตื่นใจ กับการพบเส้นทางใหม่ ๆ เสมอ ไลลาชื่นชอบการเดินทาง การนั่งรถที่นานแสนนานของไลลา จงึ ไมน่ ่าเบอื่ เลย
เมอ่ื ถงึ บ้านตากับยาย พระอาทิตย์เริ่มลอยตำ่ ลง ไลลาพูดกบั คณุ พ่อวา่ “พ่อจา๋ ...หนูอยากออกไปดูดาวบนดอยจังเลย” ไลลากะพรบิ ตาปริบ ๆ “อืม...ไดส้ ิลกู ยามท่ีอากาศเริ่มเปล่ียนแปลงจากฝนไปสู่หนาวเชน่ น้ี การดดู าวบนดอยกเ็ ปน็ ทางเลือกที่ดไี มน่ ้อย” พ่อกลา่ ว พรอ้ มกบั จูงมือไลลาเดนิ ขน้ึ ไปจนถงึ ยอดดอย
เมื่อเด็กน้อยไลลาเดินไปถึงจุดชม ดาว ดวงตาทั้งสองข้างของเด็กน้อยเป็น ประกายวิบวับเหมือนกับดวงดาว ไลลา จ้องมองท้องฟ้าอย่างไม่ละสายตา เวลาลม หนาวพัดโชยไปมายิ่งทำให้การดูดาวมี เสน่ห์ ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน ทอ้ งฟ้ากจ็ ะปลอดโปร่ง มองเห็นสายหมอก ดอกหญ้า และทะเลดาวได้อย่างชัดเจน เมื่อเด็กน้อยนอนดูไปสักพักก็ถามกับคุณ พ่อว่า “พ่อจ๋า ดาวท่ีคลา้ ย ๆ กระบวยตกั น้ำควำ่ ชอ่ื ดาวอะไร” คณุ พอ่ มองไปตามนวิ้ ที่ไลลาชี้ “ดาวจระเข้ หรือจะเรยี กอีกช่ือว่า ดาวหมใี หญ่ก็ได้ กลมุ่ ดาวนี้จะข้ึนจากขอบฟา้ ทางทศิ ตะวันออกเฉียงเหนอื และตกในทิศตะวันตก เฉียงเหนือ” ไลลาทำหน้าสงสัย พ่อจึงจับนิ้วไลลาลากจากกลุ่มดาวเล็ก ๆ ที่ไลลาเห็นเป็นดาวสองดวงตรงบริเวณปลายกระบวยมาต่อกนั แลว้ ลากนิ้วลงมายังดวงเลก็ ๆ ที่อยตู่ ่ำลงมา
“ดาวเล็ก ๆ ทสี่ วา่ งนเี่ รียกว่าดาวเหนอื ดาวจระเขอ้ ยใู่ กลด้ าวเหนือ ดาวจระเขห้ รอื ดาว หมีใหญม่ ปี ระโยชนอ์ ย่างมากในการหาทิศทาง เมอื่ ลกู รตู้ ำแหน่งของดาวเหนอื ลกู ก็จะรู้ตำแหน่งของทศิ เหนอื ลกู ลองจำลองตัวเอง เป็นเข็มทิศแลว้ หันหน้าเข้าหาทิศเหนือ และกางแขนสองข้างออกมา มือซ้ายจะชี้ไปยังทิศตะวันตก มือขวาจะชี้ไปยังทิศตะวนั ออก และขา้ งหลังของลูกจะเป็นทศิ ใตน้ ่นั เอง”
คุณพ่อจับมอื ไลลาลากไปตามตำแหน่งดวงดาวบนท้องฟ้า แล้วถามวา่ “เห็นดาว 4 ดวงเรียงกันไหมดาว 4 ดาวที่ลูกมองเป็นตัวขนั คนโบราณมองวา่ เป็นตวั จระเข้ ลากออกมาหน่อยกจ็ ะเห็นเปน็ ดาว 3 ดวงดูคลา้ ยดา้ มจับ คนโบราณมองเป็นหางของจระเข้ จึงเรยี กรวมกัน วา่ ดาวจระเข้” “ดยู งั ไงกเ็ ปน็ กระบวยตกั นำ้ คว่ำไมเ่ หมือนจระเข้เลย” ไลลากลา่ ว “ไมเ่ ปน็ ไรหรอกลกู แตล่ ะคนต่างมองไมเ่ หมือนกัน ชาวจนี และชาวยุโรปเขาเหน็ เป็นรปู กระบวย จงึ เรียกกลมุ่ ดาวกล่มุ นวี้ ่า กระบวย ใหญ่ ชาวกรกี ซึ่งเป็นดินแดนแห่งเทพนิยายอันเกี่ยวกับดวงดาวต่าง ๆ เห็นเป็นหมีใหญ่ แต่จะเป็นแคส่ ่วนท้ายตวั และหางของหมีใหญ่ คน ไทยเห็นเปน็ จระเข้ ทัง้ กรีกและไทยมสี ิง่ ท่ีเห็นเหมือนกันอยูห่ นงึ่ อยา่ ง คือ เห็นดาว 3 ดวง ท่เี ปน็ ทางดา้ มกระบวยเป็นหางหมีและหางจระเข้ เหมอื นกัน”
“ท่พี ่อพูดดาวจระเข้มีท้งั หมด 7 ดวงหรอคะ ?” ไลลาถามเสียงใส “ใช่แล้วลกู ” คุณพ่อตอบพรอ้ มพยกั หน้า “แตท่ ำไมหนูนบั ได้ 8 ดวง หนูเห็นดาว 2 ดวงทอี่ ย่ใู กล้ ๆ กันตรงกลางหางจระเขด้ ว้ ย” ไลลาถามตอ่ คุณพ่อยิ้มแล้วบอกว่า “อ๋อ เป็นดาวคู่ 2 ดวง คือ ไมซาร์ (Mizar) กับอัลคอร์ (Alcor) ไมซาร์จะสว่างกว่า เลา่ กันวา่ ชาวอาหรับโบราณใชด้ าวสองดวงนที้ ดสอบสายตา ถา้ สายตาดีกจ็ ะเหน็ เปน็ สองดวง แสดงวา่ ลูกยัง สายตาดี”
ถา้ ลกู สนใจ พอ่ จะเล่าตำนานของดาวจระเขใ้ หล้ กู ฟัง... “นานมาแล้วมีเศรษฐีคนหนึ่งแอบเอาสมบัติไปฝังไว้ใกล้ท่าน้ำหน้าบ้านโดยไม่บอกให้ใครรู้แม้แต่ภรรยาของตน เมื่อเศรษฐี เสียชวี ติ จงึ มาเขา้ ฝันบอกทซี่ อ่ นสมบัติแก่ภรรยา และขอใหแ้ บง่ ทรัพยส์ มบัตทิ ขี่ ดุ ขึ้นมาได้ไปทำบุญโดยการทอดกฐินแผ่ส่วนกศุ ลไปให้ตน เวลาผ่านไปภรรยาของเศรษฐีคิดว่าเป็นเพียงความฝัน และลืมมันไป จนกระทั่งเศรษฐีไปเกิดเป็นจระเข้เฝ้าว่ายเวยี นใกล้ท่าน้ำนั้นอยู่ เสมอ ชาวบ้านเลา่ ลือกันถึงเรื่องประหลาดนี้ไปตลอดท้ังคุ้งน้ำ การปรากฏตัวของจระเข้และจากคำร่ำลือของชาวบ้านทำให้ภรรยาของ เศรษฐนี ึกถึงความฝันข้ึนมาได้ จงึ ให้คนไปขุดทรัพย์สมบัติข้ึนมาจากที่ซอ่ น ทกุ คนประหลาดใจเมอ่ื ขดุ พบหีบใบโตใบหนึ่ง ภรรยาเศรษฐี จึงเปดิ หบี สมบตั ินน้ั ดกู พ็ บแก้วแหวนเงินทองจำนวนมาก นางแบ่งทรพั ยส์ ่วนหนงึ่ ไปทำบญุ ทอดกฐนิ ตามท่ีเศรษฐตี อ้ งการ”
“ในวันแห่กฐินขณะที่ขบวนเรือนำองค์กฐินออกจากท่าน้ำ จระเข้เศรษฐีก็ว่ายนำขบวนเรือไปแต่ยังไม่ถึงวัดก็หมดแรงว่าย ต่อไปไม่ไหว ภรรยาเศรษฐีแล้วชาวบ้านจึงพากันวาดภาพจระเข้ลงบนผืนผ้านำไปผูกติดหัวเรือนำขบวนเผือเป็นสัญลักษณ์ว่าจระเข้ เศรษฐีได้ไปร่วมทำบุญทอดกฐินในครั้งน้ี เมื่อจระเข้เศรษฐตี ายไปผลบุญจากกการทอดกฐินก็บันดาลให้ไปเกดิ เป็นดาวจระเข้กระพรบิ วิ บวบั อยบู่ นทอ้ งฟา้ และนบั ตงั้ แต่นน้ั มาธงจระเขจ้ งึ เป็นสัญลกั ษณ์ของการทอดกฐนิ ในประเทศไทยมาจนถงึ ทุกวันนี้” “แสดงวา่ วนั พรุ่งนี้หนูจะได้เห็นธงกฐนิ รปู จระเขใ้ ช่ม้ัยคะพ่อ” ไลลาถาม พ่อจึงตอบกลับว่า “ใช่แล้วลูก ในอดีตการเดนิ ทางไปทอดกฐินที่วัดจะอาศัยดูกลุ่มดาวจระเข้เปน็ หลัก เมื่อกลุ่มดาวจระเข้ขึ้นมา เต็มตัวเมือ่ ไร ก็จะเริ่มเคลือ่ นองค์กฐนิ และไปสว่างที่วดั พอดี” หลังจากนั้นบรรยากาศเริ่มเงียบสงบ เด็กน้อยไลลาท่พี ูดเจื้อยแจ้วก็นอน เงยี บกวาดสายตาดูดาวดวงอืน่ ๆ ต่อ
เวลาผ่านไป ไลลาถีบตวั ลุกขน้ึ ยืนแล้วถามวา่ “ทำไมกระบวยมันไมไ่ ด้อยู่ท่ีเดิมแลว้ ล่ะคะ” “ในตอนหวั คำ่ เราจะเห็นด้านหวั ของดาวจระเข้เขา้ ขน้ึ ทางทางทศิ ตะวนั ออกเฉยี งเหนือและเม่ือถึงเวลาเที่ยงคืน กลุ่มดาวนี้จะอยู่ กลางท้องฟา้ โดยสว่ นหวั จะชี้ไปทางทิศเหนอื และเมือ่ ใกลส้ ว่างส่วนหัวจะค่อย ๆ ลับขอบฟา้ ไปทางทิศตะวนั ตกเฉยี งเหนอื เราจึงนิยมใช้ กลุ่มดาวหมใี หญ่หรือกล่มุ ดาวจระเข้ในการบอกเวลา อ๊ะ...พูดถึงเวลาพอ่ ลืมดูนาฬิกาไปเลย ตอนนี้คงจะดกึ แลว้ ละ่ ลูก กลับบ้านไปนอน กนั เถอะ เด๋ยี วจะตนื่ ไปงานทอดกฐนิ ตอนเชา้ ไมไ่ หว” ไลลาพยักหนา้ แลว้ เดินจบั มือกับพอ่ ขณะเดินทางกลบั บ้าน เช้ามืดวันต่อมาไลลารีบ ลุกขึ้นออกมาดูดาวจระเข้ ไลลา เงยหน้ามองท้องฟ้าโยกหัวไป ทางซ้ายที ขวาที ก็เจอดาว จระเขเ้ ตม็ ตัวเหมอื นท่ีพอ่ บอก ไลลายิ้มดีใจ ตะโกนบอก ทุกคนว่า “ทุกคนคะ ได้เวลา เคลื่อนขบวนกฐินไปที่วัดกัน เถอะค่ะ” ครอบครัวของไลลา หัวเราะปลื้มใจ แล้วเริ่มเคลื่อน ขบวนทอดกฐนิ ไปยังวัด
กลมุ ดาวหมีเลก็ ตอนนี้ฤดูหนาวก็เขามาถึงแลว คุณพอของไลลาก็ได ขับรถพาคุณแมกับไลลามาเที่ยวกางเต็นทกันที่ ดอยอินทนนท จังหวัดเชียงใหม ภาคเหนือประเทศไทยของเรา ซึ่งคุณพอบอก ไลลาวาเปนภูเขาที่มีความสูงเหนือ ระดับน้ำทะเลมากที่สุดของ ประเทศไทยเลยนะ ไลลาก็ถามคณุ พอไปวา “กลมุ ดาวที่เราจะมาดูกันคราวน้ี คอื กลมุ ดาวอะไรบางคะคณุ พอ ?” คุณพอตอบ “ก็คงจะเปนดาวเหนือหรือดาวหมีเล็ก ทเ่ี ห็นชัดที่สุดในฤดหู นาวของเราแลวละไลลา” พรอมยนื่ หนังสอื ดวงดาวใหไลลาดขู อมลู ในหนังสือประกอบภาพ
เนื่องจากกลุมดาวที่เราจะพูดถึงกันในตอนนี้จัดเปน 1 ใน 88 กลุมดาวสากลของโลก เลยนะ และจะสามารถเห็นไดชัดมากที่สุดใกลบริเวณขั้วฟาเหนือของโลกเรา ซึ่งกลุมดาวนี้ คอื กลมุ ดาวหมเี ลก็ หรอื กลมุ ดาวคนั ไถของเรานั่นเอง ทุกคนคงอยากรูแลวสินะวากลุมดาวหมีเล็กนั้นมีดวงดาวใดบางที่มีความสำคัญ เดี๋ยวไลลาจะเปดหนังสือดวงดาว ที่ไดมาจากคุณพอแลวลองสรุปขอมูลดูนะ จะไดขอมูลวา กลุมดาวหมีเล็กนั้นจะประกอบไปดวย 7 กลุมดาวยอย ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 256 ตารางองศา หรือมีขนาดใหญ เป นลำดั บที่ 56 ของกลุ มดาวทั้งหมดเลย และกลุมดาวหมีเล็กนั้น ถูกจัดเปนกลุมดาวที่สามารถใชนำทางสำหรับนักเดินทาง ทุกทานไดในตอนกลางคืน ตลอดทั้งปอกี ดวย
เนื่องจากมีกลุมดาว “Polaris” เปนกลุมดาวฤกษ ที่สวางท่ีสดุ ในกลุมดาวหมเี ลก็ และอยูใกลขั้วฟาเหนือ หรือเหนือแกนหมุนของโลก ทำให กลุมดาวหมีเล็กนั้นสามารถ มองเห็นไดตลอดทั้งป ในทองฟาฝงซีกโลกเหนือแตจะมองเห็นไดชัดเจนที่สุดในเดือน มิถุนายนหรือชวงรอยตอของฤดูใบไมผลิและฤดูรอน แตจะไมปรากฏขึ้นใหเห็นบน ทองฟาของฝงซกี โลกใต ซง่ึ จะมกี ลมุ ดาวท่สี ามารถช้ีตำแหนงดาวเหนอื ไดอยู 2 กลุมดาว อกี ดวยและไลลาก็จะพานกั เดนิ ทางทกุ คนไปรูจกั กลุมดาวหมีเล็กกนั เลย
เริ่มจากกลุมดาวหมีใหญ หรือดาวจระเข ที่คนไทยรูจัก กัน ซึ่งกลุมดาวหมีใหญนี้ มีหนาที่สำคัญในการหาทิศของดาว เหนือไดถูกตองจากกลุมดาว 2 กลุมในชวงฤดูรอน ตรงปาก กระบวยชอื่ Dubhe และ Merek ซง่ึ เรยี กวาเครื่องชี้ (Pointer) ดาว 2 ดวงนี้ ถาลากเสนตรงจากดาว 2 ดวงน้ีจะชี้ไปท่ี ดาวเหนือ นับจากดาว Dubhe จะถึงจดุ ของดาวเหนือพอดี ตอมาก็จะเปนกลุมดาวคางคาว หรือกลุมดาวแคสซิโอเปย โดยกลุมดาวคางคาวนี้สามารถหาตำแหนงของ ดาวเหนือได เชนเดียวกับกลุมดาวหมีใหญ แตจะตางกันที่กลุมดาวคางคาว จะมองเห็นไดในชวงฤดูหนาว ซึ่งการหาตำแหนงของดาวเหนือ จากกลุมดาวคางคาวนั้น คือการลากเสนตัดผานปกของคางคาว ในกลุมดาวท่ี 1 และ 2 ในระหวางกลางของทง้ั สองกลมุ นี้ จนไปถึง ทศิ ที่ดาวเหนอื อยู เปนตน
“โอโห คุณพอคะ กลุมดาวหมีเล็กนีไ้ มไดเล็กเหมือนชือ่ เลย นะคะอีกทั้งยังเปนกลุมดาวที่มีความสำคัญในการบอกทิศทาง อีกดวย” ไลลาบอกกับคุณพอหลังไดอานหนังสือดวงดาวเรื่อง ดาวหมีเล็กจบแลว “แตเรื่องราวของกลุมดาวหมีเล็กนั้นยังไมหมดหรอกนะ” คุณพอบอกไลลา คุณพ อได พูดต อเกี ่ยว กั บ ต ำนา นของ กลุ ม ดาว หม ี เ ล็ ก และกลุมดาวหมีใหญ ซึ่งเปนเรื่องราว ท่ีมาจากตำนานปรัมปรา ของกรีกโบราณที่เลาสืบตอกันมาอยางยาวนาน ไลลารูสึกตื่นเตน ที่จะไดฟงคุณพอเลาเรือ่ งราวน้ี
โดยเรื่องราวทั้งหมดนี้ เริ่มมาจากเทพีอเมทิสต เทพีแหง การลาสตั ว มีศักดิ์เปนภรรยาของเทพเจาซุส ไดเดินทางไปลาสัตว พรอมกับผูติดตาม ซึ่งหนึ่งในผูติดตามที่เดินทางไปดวยครั้งนั้นมี นางหนึ่งที่ชื่อคาลิสโต ลูกสาวของเจาเมืองเคเดียโดยนางเปนหญิง รปู งามซึง่ เปนที่หมายตาของเทพเจาซุสเปนอยางมาก ท้ังสองจึงได มีความสัมพันธลึกซึ้งกัน จนนางคาลิสโตไดตั้งครรภและใหกำเนิด บุตรชายชื่ออารคัส ซึ่งเมื่อเทพีอเมทิสตไปรูเรื่องเขา ก็ไดทำการ สาปนางคาลิสโตใหกลายเปนหมีไป ทำใหตองพลัดพรากจาก บตุ รชายของตนเอง นาสงสารมากเลย
ตอมาเมื่ออารคัสเติบโตขึ้นเปนนายพราน ก็ไดออกลาสัตว แลวไดบังเอิญไปพบกับนางคาลิสโตที่กำลังเดินอยูในปา เมื่อนาง คาลิสโตพบลูกชายตนเองก็จำได ก็ดีใจจนลืมว าตนเองเ ปนหมี จึงเดินอาแขนเพื่อที่จะเขาสวมกอด บุตรที่จากกนั มานานหลายป แตอารคสั เขาใจวาหมีจะเขามาทำรายตนจึงงางธนูคูกายหมายจะ ยิงออกไปเพอื่ ที่จะปองกันตัว ดวยความที่เรื่องเลวรายอยางที่สุดกำลังจะเกิดขึ้น เทพเจาซุสจึงไดยับยั้งเหตุดังกล าวโดยการเสกใหนางคาลิสโตในรางหมี กลายเปนหมดู าวหมใี หญปรากฏอยูในทองฟายามคำ่ คืน เนื่องจากมิอาจลบลางคำสาปที่เทพีอเทมิสตไดสาปไวได จึงทำไดเพียงใหนางกลายเปนกลุมดาวหมีใหญ ที่เรียกกันวา Ursa Major และตอมาภายหลังเทพเจาซสุ จึงนำอารคสั ลกู ชายนำไปไวบนฟากับแมกลายเปนกลมุ ดาวหมเี ล็ก หรือ Ursa Minor ท่ีจะโคจร ตามดาวหมีใหญไป
แต ด วยความโกรธของเทพีอเทมิสต ที่ยังมีต อแม ลูกคู นี้อยู แล ะ เม ื่อเห็นว าทั้งสองแม ลูกไ ด ร ับค วา มเ อ็ นดู จา กเ ทพเ จ าซุส ถงึ ขนาดใหกลายเปนดวงดาว นางจึงไปรองขอใหเทพโพไซดอน เทพเจาแหงทองทะเล ชวยผลักไมใหดาวหมีทั้งสองไดลงไปพัก ในทองมหาสมุทร ดั่งดาวดวงอื่นทำกันได ทำใหดาวหมีทั้งสอง เปนเพียงกลุมดาว สองหมูที่ไมได ลับไปจากขอบฟาเลยตลอดเวลาชั่วกาลนานป จนมาถึงปจจุบันนี้
“จบแลวเหรอคะคุณพอ เสียดายจังเรื่องราวกำลังสนุก เลย สวนใหญเรื่องราวของเทพเจากรีกมักจะมีเทพเจาซุสเขามา เกยี่ วของทุกเรอื่ งเลยใชไหมคะ?” ไลลาถามคุณพอออกไป “ใชแลวจะไลลา ตอนนี้ก็ดึกมากแลวเราพักชวงเวลาเลา นิทานแลวอีกสักประเดี๋ยวก็เขานอนไดแลวนะ ตอนนี้ดึกมาก แลว” คณุ แมบอกไลลา ตอนนี้ก็เปนเวลาเกือบสี่ทุมแลว ไลลาคงตองขอจบการ เขียนไดอารี่ของวันนี้ลงเสียกอนที่คุณพอและคุณแมจะดุไลลา วัน ขางหนาจะมเี รื่องราวของกลุมดาวอะไรใหไลลาไดเรียนรูอกี นะ แค คดิ กต็ ื่นเตนแลวสิ ราตรีสวัสด์ิ
กลมุ่ ดาวค้างคาว หรือกลุ่มดาวแคสสิโอเปีย ในค่ำคืนที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวนับล้าน เด็กน้อย ไลลาได้นอนดูดาวอยู่กับคุณตาท่ีชานระเบยี งหน้าบ้าน ไลลาได้นึก ถึงค้างคาวที่เจอมาในสวนของคุณตาเมื่อเย็นวันนี้ เด็กน้อยจึงเอ่ย ถามคณุ ตาข้นึ มาว่า “คุณตาคะ มดี วงดาวทชี่ ่ือค้างคาวไหมคะ” “มสี หิ ลานรกั เขาเรยี กกันว่ากลมุ่ ดาวค้างคาว” คุณตาตอบคำถาม ด้วยความเอ็นดหู ลานสาวของตนเอง “จริงหรอคะคุณตา!!! แล้วกลุ่มดาวค้างคาวอยู่ส่วนไหนบนท้องฟ้า หรอคะ” เด็กน้อยตาลุกวาวถามคุณตากลับไปทันทีด้วยความ ต่ืนเต้น
“ตรงนั้นไง ดวงดาว 5 ดวง ท่ีเรียงกันเหมือนรูปตัวเอ็ม (M) กลุ่มดาวค้างคาวจะเคลื่อนท่ีอยู่รอบดาวเหนือ (Polaris) โดยอยู่ห่างจาก ดาวเหนือประมาณ 30 องศาและอยู่ทิศตรงข้ามกับกลุ่มดาวหมีใหญ่ (Ursa Major) เสมอ กลุ่มดาวค้างคาวจะขึ้นไปสูงสุดกลาง ทอ้ งฟ้าช่วงกลางเดอื นตุลาคมเวลาประมาณเท่ยี งคนื หลานเหน็ ไหม” คุณตาช้ีขนึ้ ไปบนทอ้ งฟ้าทีต่ ำแหนง่ ของกลุ่มดาวคา้ งคาวอยู่ เดก็ นอ้ ยมองตามมือของคณุ ตามองหาอยูค่ รหู่ นงึ่ กเ็ จอกลมุ่ ดาวคา้ งคาวตามท่คี ุณตาบอก “เห็นแลว้ ค่ะ แล้วทำไมถึงเรยี กวา่ กลุม่ ดาวคา้ งคาวหรอคะ” เดก็ นอ้ ยเกิดนึกสงสยั ถงึ ทมี่ าของชอ่ื กลุม่ ดาวคา้ งคาว “เพราะว่ากลุ่มดาวค้างคาวประกอบด้วยดาวฤกษ์สวา่ ง 5 ดวง ทีเ่ รยี งกันเหมือนรปู ตวั เอ็ม (M) ใน ภาษาองั กฤษ คนไทยจะเหน็ เปน็ รูปคา้ งคาว จงึ เรียกช่ือกล่มุ ดาวนว้ี ่า “กลุ่มดาวคา้ งคาว” โดยดาว ดวงตรงกลางเปน็ กลางตัวค้างคาว อกี 4 ดวงท่ีเหลอื นน้ั จะอยูข่ ้าง ๆ เปน็ ปกี ทง้ั 2 ขา้ งของค้างคาว ราวกบั วา่ มนั บินเข้าหาดาวเหนอื เสมอ แตก่ ลมุ่ ดาวค้างคาวยังมีอกี หนึ่งชอื่ เขาเรียกกันวา่ กลุ่มดาว แคสซโิ อเปีย หลานอยากรูท้ ม่ี าของชือ่ น้ไี หม” “อยากสคิ ะคุณตา” “ง้ันหลานก็เขยิบมาใกล้ ๆ เด๋ียวตาจะเล่าใหฟ้ ัง” เดก็ นอ้ ยไลลาเขยิบเข้าไปใกล้ ๆ คณุ ตาแลว้ ตงั้ ใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ ก่อนทีค่ ุณตาจะเรม่ิ เล่าท่ีมาของช่ือกลมุ่ ดาวแคสซโิ อเปยี ให้ฟัง
“เร่ืองมีอยู่วา่ ราชินีแคสซิโอเปียแห่งประเทศเอธิโอเปียโบราณ มีความสวยงามมาก และมีพระสวามีคอื ราชาเซเฟอุส ทา่ นท้งั 2 มีพระราชธิดาที่ทรงมีความสวยงาม นามว่า แอนโดรเมดา แคสซิโอเปียมีนิสัยเสียชอบคุยโอ้อวดว่า ลูกสาวและตน มีความสวยงามกว่าใคร ทำให้เทพธิดาแห่งทะเลทั้งหลายที่เป็นพระสนมกำนัล ของราชาเนปจนู และเจา้ แหง่ ทะเลไม่พอใจ จงึ นำเรอ่ื งนไ้ี ปฟ้องต่อคณะกรรมการ แห่งสวรรค์และได้ตัดสินลงโทษด้วยวิธีประจานแคสซิโอเปีย โดยนำเธอขึ้นไปไว้ บนฟ้านั่นคือดาว 5 ดวงเรียงเหมือนรูปตัวเอ็ม (M) หรือรูปตัวดับเบิลยู (W) ในประเทศที่อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรไปทางเหนือมาก ๆ อยู่ละติจูดสูง ๆ เช่น ประเทศแคนาดาจะเห็นราชินีแคสซิโอเปียอยู่ต่ำกว่าดาวเหนือ เเละเห็นว่าเธอ เอาศรีษะลง นับว่าเป็นการประจานราชินีแบบหนึ่ง แต่ในประเทศไทยจะไม่มี โอกาสเห็นแคสสิโอเปียในลักษณะเช่นนั้น เพราะอยู่ละติจูดต่ำ อย่างมากก็เห็น เธอตะแคงขนานกับขอบฟ้า และดาวที่เรียงกันเป็นรูปตัวเอ็ม M คือพระที่นั่ง หรือเก้าอี้ของพระองค์ เมื่อพระองค์ประทับบนพระที่นั่งเเล้ว ดาวเหนือจะอยู่ ด้านหลงั ของพระองคเ์ สมอ
ทีนี้หลานรู้แล้วใช่ไหมว่าที่มาของชื่อกลุ่มดาวแคสซิโอเปียนั้นมีที่มาอย่างไร แล้วหลานอยากรู้ไหมว่าดาวฤกษ์ 5 ดวงในกลุ่มดาวค้างคาวนั้นมีดาว อะไรบ้าง” “อยากรคู้ ่ะ ๆ” เดก็ น้อยตอบกลบั คณุ ตาไปอยา่ งตน่ื เต้นกบั เรอ่ื งราวทีไ่ ดฟ้ งั และสงิ่ ท่คี ุณตาจะเลา่ ตอ่ จากนี้ “ดาวฤกษ์ 5 ดวงในกล่มุ ดาวคา้ งคาว ประกอบไปด้วย ดวงที่ 1 แกมมา (Gamma) เป็นดาวฤกษ์สีน้ำเงินที่สว่างที่สุด อยู่ ตรงใจกลางของกลุ่มดาวค้างคาว เป็นดาวฤกษท์ ีอ่ ยูห่ ่างจากโลกราว 600 ปี แสง มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ถึง 15 เท่า และสว่างกว่าถึง 40,000 เท่า เลยทเี ดยี ว ดวงท่ี 2 เชดดาร์ (Schedar) เป็นดาวฤกษ์ทส่ี ว่างท่ีสดุ รองลงมาเป็น ลำดับที่ 2 ในกลุ่มดาวค้างคาว อยู่ห่างจากโลกราว 230 ปีแสง มีมวล มากกวา่ ดวงอาทิตยป์ ระมาณ 4 เทา่ โดยท่ีชือ่ ของดาวดวงนใี้ นภาษาอาหรับ นั้นหมายถงึ “หนา้ อก” จากการเป็นท่ตี ั้งของหวั ใจหรือดวงใจขององค์ราชนิ ี แคสซโิ อเปยี ”
ในระหว่างท่คี ณุ ตาเล่าใหฟ้ ังไลลาก็ไดล้ ากนิ้วตามทีค่ ณุ ตาชใ้ี หด้ ปู ระกอบการเล่าไปด้วย “ดวงที่ 3 ชาฟ (Caph) เป็นดาวแปรแสง (Variable star) เพราะดาวชาฟมีความสว่างไม่คงที่ โดยดาวชาฟอยู่ห่างจากโลก ประมาณ 55 ปีแสง มีมวลมากกวา่ ดวงอาทิตยร์ าว 4 เทา่ ดวงท่ี 4 รุคบาห์ (Ruchbah) เป็นดาวยกั ษ์ขาว (Giant star) ในระบบดาวคู่ (Binary system) อยูห่ า่ งจากโลกราว 100 ปีแสง และดวงที่ 5 เซกิน (Segin) เป็นดาวฤกษ์ที่สว่างน้อยที่สุด อยู่ห่างจากโลกราว 400 ปีแสง มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ประมาณ 9 เท่า และสวา่ งมากกว่าถึง 2,500 เทา่ เชยี วละ่ ”
“ว้าวววววว สดุ ยอดไปเลยค่ะคุณตา แล้วมีกล่มุ ดาวอนื่ ๆ อกี ไหมคะ ไลลาอยากใหค้ ณุ ตาเล่าใหฟ้ ังอีกเยอะ ๆ เลยค่ะ” แต่ในขณะที่คุณตากำลงั จะตอบหลานสาวไปนน้ั กม็ เี สียงคณุ ยายดังขึน้ มาจากในตัวบ้าน “สองตาหลานทำอะไรกนั อยู่ ดกึ มากแล้วนะ เข้าบ้านนอนกันไดแ้ ลว้ ” “ไลลาเราเข้าบ้านไปนอนกันเถอะ คุณยายเรียกแล้ว ไว้วันหลังตาจะเล่าให้ฟังอีกนะ ” คุณตาตอบหลานสาวไปพร้อมกับลูบหัว หลานสาวด้วยความเอน็ ดู และจงู มือพาหลานสาวตัวน้อยเข้าบ้าน เด็กน้อยทำหน้าหงอย เนื่องจากกำลังสนุกกับการที่ได้รู้เรื่องราวของดวงดาวที่คุณตาเล่าให้ฟัง แต่ก็ต้องทำตามที่คุณตาบอก เพราะถึงแม้ว่าอยากจะให้คุณตาเลา่ ต่อมากแค่ไหน แต่คงไม่มีใครอยากโดนคุณยายสดุ ที่รักดุหรอกใช่ไหมละ่ ไว้วันหลังเธอค่อยให้คณุ ตาเล่าใหฟ้ ังอีกก็ได้ วา่ แต่ครงั้ หน้าเธอจะได้ฟังเรอื่ งราวสนกุ ๆ ของกลมุ่ ดวงดาวกลมุ่ ไหนอกี กันนะ อยากรูแ้ ล้วสิ เด็กน้อยคดิ ในใจ
กลุ่มดาวมา้ ปีก เช้าวันใหม่ในฤดูหนาวที่แสนจะสดใส ท้องฟ้าปลอดโปร่ง แต่ยังมเี มฆเล็กนอ้ ยพอให้เห็นรม่ ไม้ ไลลาตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงนกริมหน้าต่างที่เปรียบเสมอื น เสียงปลกุ ประจำวนั เด็กหญิงบดิ ขเ้ี กยี จเล็กน้อยกอ่ นที่จะพาตัวเอง ลงมาจากเตยี ง และทำกิจวตั รสว่ นตวั ในตอนเชา้ หลังจากผมเผ้าของเธอผ่านการหวีมาอย่างประณีต และ ใบหน้าถูกล้างด้วยน้ำสะอาดจนคราบที่มาจากการนอนหลับ หายไปหมดส้ิน เด็กหญิงจึงค่อย ๆ เดินลงบันไดไปหาคุณแม่ที่กำลัง ทำอาหารจนกลนิ่ หอมลอยเตะจมูกของเธอ
Search