“วา้ วววววว สุดยอดไปเลยคะ่ คณุ ตา แลว้ มีกล่มุ ดาวอน่ื ๆ อกี ไหมคะ ไลลาอยากใหค้ ณุ ตาเลา่ ใหฟ้ ังอีกเยอะ ๆ เลยค่ะ” แตใ่ นขณะท่ีคุณตากำลงั จะตอบหลานสาวไปน้ัน ก็มเี สยี งคณุ ยายดงั ขน้ึ มาจากในตวั บา้ น “สองตาหลานทำอะไรกันอยู่ ดกึ มากแล้วนะ เข้าบา้ นนอนกันไดแ้ ลว้ ” “ไลลาเราเข้าบ้านไปนอนกันเถอะ คุณยายเรียกแล้ว ไว้วันหลังตาจะเล่าให้ฟังอีกนะ” คุณตาตอบหลานสาวไปพร้อมกับลูบหัว หลานสาวด้วยความเอ็นดู และจงู มอื พาหลานสาวตัวนอ้ ยเข้าบ้าน เด็กน้อยทำหน้าหงอย เนื่องจากกำลังสนุกกับการที่ได้รู้เรื่องราวของดวงดาวที่คุณตาเล่าให้ฟัง แต่ก็ต้องทำตามที่คุณตาบอก เพราะถึงแม้ว่าอยากจะให้คุณตาเล่าต่อมากแค่ไหน แต่คงไม่มีใครอยากโดนคุณยายสุดที่รักดุหรอกใช่ไหมล่ะ ไว้วันหลังเธอค่อยให้ คุณตาเล่าให้ฟังอีกก็ได้ ว่าแต่ครั้งหน้าเธอจะได้ฟังเรื่องราวสนุก ๆ ของกลุ่มดวงดาวกลุ่มไหนอีกกันนะ อยากรู้แล้วสิ เด็กน้อยคิดในใจ 47
กลุม่ ดำวม้ำปกี เช้าวันใหม่ในฤดูหนาวที่แสนจะสดใส ท้องฟ้า ปลอดโปรง่ แต่ยงั มีเมฆเลก็ นอ้ ยพอให้เหน็ รม่ ไม้ ไลลาตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงนกริมหน้าต่างที่ เปรียบเสมือนเสียงปลุกประจำวัน เด็กหญิงบิดขี้เกียจเล็กน้อย ก่อนที่จะพาตัวเอง ลงมาจากเตียง และทำกิจวัตรส่วนตัวใน ตอนเชา้ หลังจากผมเผ้าของเธอผ่านการหวีมาอย่างประณีต และใบหน้าถูกล้างด้วยน้ำสะอาดจนคราบที่มาจากการนอน หลบั หายไปหมดสน้ิ เด็กหญิงจึงค่อย ๆ เดินลงบันไดไปหาคุณแม่ที่กำลัง ทำอาหารจนกลิ่นหอมลอยเตะจมูกของเธอ 48
“คุณแมท่ ำอะไรเหรอคะ กลิ่นหอมจงั ” ไลลาถามเสยี งเจอื้ ยแจ้ว พลางเดินมากอดมารดาอย่างเตม็ รกั “ทำบะหมผ่ี ดั น้ำพริกเผาเมนูโปรดของหนไู ง” “เย้ ดใี จจงั ค่ะ หนจู ะกนิ 2 จานเลย” “อุ๊ย! ตายจริง” คุณแมเ่ อย่ ออกมาดว้ ยความตกใจ “แม่ลมื ใบโหระพาไปซะสนทิ เลย” “ง้ันฝากหนไู ปเด็ดใบโหระพาทสี่ วนผักหลงั บ้านทีนะจ๊ะ” คุณแมท่ ำทา่ ชี้นิ้วไปท่สี วนผกั ทางหลงั บ้าน “ไดเ้ ลยค่ะ” เด็กหญงิ พยักหน้ารับอยา่ งเตม็ ใจ ก่อนทีจ่ ะหยบิ หมวกใบโปรดและตะกร้าใบน้อยประจำตวั ของเธอออกไปหลงั บ้าน 49
ขณะที่มือน้อยกำลังเอื้อมเก็บใบโหระพาอยู่นั้น หางตาของเธอก็เหลือบไปเห็นสิ่งที่คล้ายกับม้าตัวหนึ่งที่มีสีขาวผ่อง ลกั ษณะของมนั เหมือนม้าทวั่ ๆ ไป แตม่ สี ิ่งทแี่ ตกตา่ งน่นั คอื ม้าตวั นี้มี ‘ปกี ’ สีขาวสะอาดราวกับสำลีนุ่ม ไลลาจอ้ งม้าตัวนน้ั อย่างไมล่ ะสายตา ความสวยงามตรงหน้าเดก็ หญิงเหมือนกับส่ิงทแ่ี ม่ เคยได้เล่าให้ฟังในนิทานเกี่ยวกับดวงดาวและเทพเธอจำ ได้ว่าม้ามีปีกพวกนี้ถูกเรียกว่า ‘เพกาซัส’ เธอสะบัด ใบหนา้ ไปมาราวกับมนั คือความฝนั ม้าตัวนั้นค่อย ๆ เดินลับหายเข้าไปในป่ารกทาง หลังบ้าน เด็กหญิงไม่รอช้า รีบก้าวขาเล็กตามม้าตัวนั้น ไปอย่างเร็วไวพลางกระชับตระกร้าในมือและหมวกบน หัวให้แนน่ ยงิ่ ขน้ึ 50
ยิ่งเดินเข้าไปไลลาก็ยิ่งรู้สึกว่าป่าแห่งนี้รกขึ้นเรื่อย ๆ และ เริ่มรู้สึกว่าเธอเดินตามมันมาหลายนาทีแล้ว จนตอนนี้ม้ามีปีก ข้างหน้าของเด็กหญิงกำลังเดินช้าลง และสุดท้ายก็ล้มลงไป กองกับพื้นราวกับหมดเรี่ยวแรง ไลลาจึงหยุดเดินเช่นเดียวกันและ ยืนดเู จ้ามา้ มีปีกอย่หู ่าง ๆ สายตาของเธอเหลือบไปเห็นลูกธนูที่ปักเด่นอยู่ตรงขาหลัง ของมันพร้อมกับเลือดที่ไหลลงมา ราวกับว่ามันโดนทำร้ายมาจึงเกิด อาการหมดเรี่ยวแรงและวิ่งต่อไปไม่ได้ เธอรู้สึกสงสารเจ้าม้าและ อยากจะช่วยมันทำอะไรสักอย่าง จึงค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ ๆ จน เจา้ มา้ สงั เกตเหน็ และมีอาการตกใจเล็กนอ้ ย 51
“ไมต่ ้องกลัวนะ” ไลลาวางตะกร้า ยกฝา่ มือขึน้ สองข้างเพ่อื บอกวา่ ตนเองน้ันมาดี และไมม่ อี าวธุ ใด ๆ ม้ามปี ีกจอ้ งมองเธออย่างไม่ละสายตา เด็กสาวค่อย ๆ เดินเข้าไปใกลม้ นั มากขึ้น ก่อนจะเอื้อมมอื เล็กไปลูบหัวมนั เบา ๆ เจา้ มา้ มปี กี ดูสงบลงและยอมใหเ้ ธอลบู หวั แตโ่ ดยดี “ฉันเห็นเธอมแี ผล เจบ็ นา่ ดูเลยนะ” เธอจ้องมองไปยงั ลกู ธนูท่ปี ักแนน่ อยบู่ ริเวณขาหลังของมนั ไลลาเกดิ ความสงสาร และอยากทีจ่ ะช่วยดงึ ลูกธนูออก “เจ้าม้า เจ็บนิดหน่อยนะ” เด็กสาวเอื้อมมือเล็กไปกอบกุมท่ี ลูกธนูไว้ ก่อนจะค่อย ๆ ออกแรงดึงมันขึ้นมา เจ้าม้ารู้สึกตกใจ เล็กนอ้ ยจงึ กรดี ร้องออกมาเบา ๆ แต่ในที่สุดมันก็ยอมให้เธอดึงออกจนสำเร็จไลลาเดินไป หยิบผ้ารองตะกร้าของเธอมาจากนั้นจึงพันมันไว้ที่แผลของเจา้ ม้าใหเ้ หมือนกบั ทเ่ี คยเรยี นในวิชาปฐมพยาบาลจากโรงเรยี น 52
“เท่านกี้ ็เสรจ็ แล้วละ่ หายเจบ็ แลว้ ใชไ่ หมเจา้ มา้ ” ไลลาพูดพลางลูบหลงั มา้ เบา ๆ “ขอบใจเจ้ามากนะ” เสียงของม้าตรงหน้าดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบสงัดในป่า เด็กหญิงเบกิ ตาโพลงดว้ ยความตกใจ “พ...พดู ได้ดว้ ย” นำ้ เสียงของเธอตะกกุ ตะกกั เลก็ นอ้ ย “ใช่ ขา้ พดู ได้ ขา้ คอื เพกาซสั มาจากบนฟากฟา้ แสนไกล” เจา้ มา้ เอ่ยต่อ “ในตอนกลางวัน ข้านึกสนุกอยากลงมาบนโลก เพราะข้าอยู่แต่ข้างบนมาตลอด แตแ่ ลว้ ก็ถกู ทำรา้ ยดว้ ยกล่มุ คนอำมหติ ที่พยายามยงิ ลกู ธนูใสข่ า้ ” “เจา้ อยู่บนฟ้างั้นหรอื ” เด็กน้อยถามพลางเอียงศีรษะ “ใช่แล้วล่ะ ข้าอยู่บนฟากฟ้าและจะส่องสว่างในยามราตรีในฤดูหนาว เจ้าจะมองเห็นข้าไดช้ ัดเจน นัน่ กค็ ือในช่วงนี”้ มา้ เพกาซัสพูดตอบ “เจ้าพดู ราวกบั วา่ ตัวเองเป็นดวงดาว” “ใชแ่ ลว้ ขา้ คือกลมุ่ ดาวม้าปีก เจ้าฉลาดและกล้าหาญมากเลยนะเด็กน้อย” “ขา้ ชอบเรอ่ื งดวงดาวเป็นชีวติ จติ ใจ ช่วยเล่าประวัติของเจ้าให้ข้าฟังได้หรือไม”่ ไลลาพดู พลางยิ้มออกมาจนตาหยี 53
“ได้สิ... เรื่องมันเกิดขึ้นนานมาแล้ว ตัวข้าที่จริงเป็นบุตรของเมดซู ่าที่เป็นสัตว์ประหลาด เธอมีใบหน้าเป็นมนุษย์ มีงูพิษเปน็ ผมกับพ่อที่เป็นเทพโพไซดอน เทพแห่งท้องทะเล แต่ไม่คลอดออกมาจนกระทั่งเมื่อเพอร์ซิอุสบุตรของเทพซุสกับหญิงชาวมนุษย์ ชื่อนางแดนาอี ได้ใช้ดาบตัดศีรษะเมดูซ่าออก ข้าจึงทะยานออกมาจากร่างที่ไร้ศีรษะของเมดูซ่า เพอร์ซิอุสจึงขี่ข้าออกไปจากถ้ำ ของพวกสัตวป์ ระหลาดนามวา่ กอร์กอนส์ และหลังจากเสร็จภารกจิ ขา้ กไ็ ดไ้ ปอยู่ทภี่ ูเขาเฮลคิ อน และต่อมาเบลเลโรฟอนทหารแหง่ สวรรค์ ไดร้ บั คำส่งั จากเทพีอาเธนา่ ใหไ้ ปปราบสตั วร์ ้ายไคมรี า จึงออกตามหาตัวข้าเพ่ือใช้ เป็นพาหนะ เมื่อข้าพบกับเบลเลโรฟอนซึ่งเขามีบังเหียนของเทพีอาเธน่า ข้าก็ยอมให้เบลเลโรฟอนขึ้นขี่แต่โดยดี ก่อนที่เราจะ ร่วมกนั ปฏบิ ตั ภิ ารกิจกำจดั ไคมีราไดส้ ำเร็จ 54
S ต่อมาเบลเลโรฟอนเกิดความอหังการ์คิด จะข่ีข้าขึ้นสู่สวรรค์ จึงถูกเทพซุสส่งแมลงมา ต่อยจนตกหลังขา้ ตาย สว่ นขา้ ก็ถูกเทพซุสจบั ไว้ และนำกลับไปยังสวรรค์ ซึ่งข้าก็เป็นผู้รับใช้ที่ดี ของซุส ซุสจึงยกให้ข้ากลายเป็นกลุ่มดาวอยู่บน ท้องฟา้ มาจนถึงทกุ วันน”ี้ “สุดยอดไปเลย ตำนานของเจ้ามหัศจรรยม์ าก ๆ นีเ่ ปน็ สาเหตทุ ท่ี ำใหข้ ้าชอบดวงดาว” เดก็ หญิงตาวาว “ดวงดาวเป็นสิ่งที่น่าค้นหา เจ้ารู้ไหม ยังมีกลุ่มดาวอีกมากมายที่ข้าอยากจะให้เจ้าได้พบเจอ แต่ตอนนี้ข้าจะต้องรีบไปแล้ว เป็นเพราะเจ้าที่ทำให้แผลของข้าหายเร็วกว่าเดิม ข้าขอขอบใจเจ้ามากจริง ๆ” ม้าเพกาซัสพยายามพยุงตัวเอง จนลุกขึ้นยืนได้สำเร็จ 55
“ข้นึ มาสิ ข้าจะพาเจ้าไปส่งที่บา้ น” เจ้ามา้ ย่อขาท้งั สลี่ ง เพือ่ ใหไ้ ลลาปืนขึ้นไปนั่งบนหลังของตน เด็กสาวตื่นเตน้ มากที่เธอจะได้โบยบินไปพร้อมกบั เจ้ามา้ มา้ เพกาซสั บนิ ขน้ึ เหนอื ผืนป่าอยา่ งนุม่ นวลและรวดเร็วในเวลาเดียวกัน อดึ ใจเดยี วก็ทำให้เธอกลับมาถึงบ้านได้อย่างปลอดภยั 56
“ขอบคุณมากเลยนะเจ้าม้า ข้าจะไม่มีวันลืมเรื่องในวันนี้เลย” เดก็ สาวพดู พลางสง่ ยมิ้ ใหม้ า้ อีกรอบ “ขอบคุณเจา้ มากเชน่ กนั ” เจ้าม้าโคง้ ศีรษะให้เบา ๆ “เราจะไดเ้ จอกันอกี ไหม” ไลลาถาม “เจ้าจะได้เจอข้า บนท้องฟ้าซีกเหนือในยามราตรีช่วงฤดูหนาวพยายาม มองหาดาวฤกษ์ที่สุกสว่าง 4 ดวง เรียงกันเป็นรูป 4 เหลี่ยมจัตุรัสที่ เรียกว่า The Great Square ข้าจะอยู่ตรงนั้น” พูดจบเจ้าม้าเตรียมตวั จะบินขึ้นไปอกี รอบ “ลาก่อนนะ ข้าจะดูเจ้าจากหน้าต่างห้องนอนทุกคืนในหน้าหนาว” ไลลาโบกมือลาเจา้ ม้าบินท่แี สนวเิ ศษ “ข้าก็จะเฝ้ามองเจ้าอยู่บนฟากฟ้าเสมอ” ม้าเพกาซัสพูดทิ้งท้าย ก่อนท่ี จะบินขึ้นเหนือตัวของไลลา และค่อย ๆ สูงขึ้น จนห่างไกลออกไปลับ สายตาเบา ๆ “เราจะได้เจอกนั อกี ไหม” ไลลาถาม 57
‘กร๊ิงๆๆๆๆๆๆ’ เสยี งนาฬิกาปลกุ ข้างตวั เดก็ สาวดังขน้ึ เธอสะด้งุ เฮอื กพร้อมกับลุกขึน้ มาปดิ มัน “นี่ฉันฝันไปเหรอเนี่ย” ไลลากล่าวกับตัวเอง พร้อมสะบัดหน้าเบา ๆ เพื่อคลายความง่วง เธอนึกย้อนไปถึงความฝันที่เพิ่งเกิดข้ึน เมื่อชั่วครู่ที่ผ่านมา มันเป็นฝันที่ดีและช่างน่าสนุกเหลือเกิน เธอจะจดจำฝันครั้งนี้ไว้และจะคอยมองหากลุ่มดาวม้าปีกเสมอ ในช่วงฤดหู นาวทแ่ี สนยาวนานน้ี “ขา้ ชอบเรอ่ื งดวงดาวเปน็ ชีวติ จิตใจ ช่วยเลา่ ประวตั ขิ องเจ้าใหข้ า้ ฟงั ไดห้ รอื ไม่” ไลลาพูดพลางยิม้ ออกมาจนตาหยี 58
กลมุ่ ดำวลกู ไก่ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในค่ำคืนที่มืด มิดท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงของดวงดาวนับล้าน ดาวทั้งหลายแข่งกันทอแสงระยิบระยับจนสุดลูกหู ลูกตา แต่ดาวดวงใดเล่าจะทอแสงเปล่งประกาย ออกมาไดส้ วยทีส่ ดุ ไมม่ ีใครรูไ้ ดเ้ ลย… 59
“คณุ แม่เล่าตอ่ สิคะ หนอู ยากฟงั จะแย่แลว้ ” ไลลาเอ่ยออกไปดว้ ยน้ำเสยี งท่ตี น่ื เตน้ ... “ใช่ค่ะ พวกเราชอบฟังนิทานที่คุณแม่เล่าที่สุดเลย” ลีอาพี่สาวผู้ซึ่งกลับมาจากการแลกเปลี่ยนจากต่างประเทศรีบพูดเสริม อย่างรวดเร็ว คณุ แม่ยิ้มอยา่ งปล้มื ใจ แลว้ จงึ ตอบไปว่า “ได้สิจ๊ะ แต่พวกหนูต้องเป็นเด็กดี ตั้งใจฟังนิทานที่แม่เล่า ทำได้ไหมจ๊ะ ” เด็กน้อยทั้ง 2 คนตาโตเป็นประกาย แล้วเอ่ยกัน อย่างพรอ้ มเพรียงว่า “ไดค้ ่ะ คุณแม่” 60
จากนั้นคุณแม่ก็เริ่มเล่าต่อ “ณ ป่าแห่งหนึ่ง ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเชิงเขา มีตากับยายคู่หนึ่งปลูกกระท่อมอาศัยอยู่ด้วยกัน ทั้งคู่ประกอบอาชีพปลูกผัก เก็บพืชในป่าไปขายเพื่อเลี้ยงชีพ ตากับยายได้เลี้ยงแม่ไก่ไว้ตัวหนึ่ง ต่อมาแม่ไก่ได้ฟักไข่ออกมา เปน็ ลูกนอ้ ยทงั้ 7 ตัว ทุก ๆ เช้าแม่ไก่จะพาลูกน้อยออกไปหากิน สอนให้คุ้ยเขี่ยหาอาหารและแมลงเล็ก ๆ ตามพื้นดิน บางวันยายก็จะโปรยข้าวสุกให้กินด้วย แม่ไก่กับลูก ๆ ทั้ง 7 อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข อีกทั้งยังรู้สึกซาบซ้ึง ในบุญคุณของตากับยายเป็นอย่างมาก แต่แล้ว เย็นวันหนึ่งมีพระมาธุดงค์มาปักกลดอยู่ไม่ไกลนัก ตากับยายได้เข้าไปนมัสการและตั้งใจว่าจะทำอาหาร มาถวายในวันพร่งุ นี้ 61
แต่เมื่อทั้งคู่ค้นดูเสบียงอาหารในครัวก็พบว่าไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย ตากับยายสงสารพระท่านเกรงว่าท่านจะอดอาหาร เพราะในละแวกนี้มีเพียงแค่บ้านตายายเท่านั้น ทั้งคู่ได้ปรึกษากันว่าอาจจะต้องฆ่าแม่ไก่เพื่อนำมาทำอาหารถวายแก่พระ ตากับยาย รู้สึกเศร้าใจมาก ด้วยเพราะความรัก ความสงสารที่มีต่อแม่ไก่กับลูกน้อยอีก 7 ตัว ซึ่งจะต้องกลายเป็นลูกไก่กำพร้า ในระหว่างน้ัน แม่ไก่ก็ได้ยินตากับยายคุยกันพอดี จึงคิดทบทวนแล้วจึงตัดสินใจยอมเสียสละชีวิตโดยการกระโดดเข้ากองไฟเพื่อตอบแทนบุญคุณ ของตากับยาย เมื่อลูกไก่เห็นแม่ของตนเอง ถูกนำไปทำอาหาร ทำให้พวกมันเกิดความเสียใจเป็นอย่างมาก จึงได้พากระโดดเข้ากองไฟ เพื่อตายตามแม่ เมื่อเทวดารับรู้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงได้รับเอาลูกไก่ทั้ง 7 ตัวขึ้นไปอยู่บนฟากฟ้า เพื่อเป็นการประกาศถึงความรัก ความเสียสละ และความกตัญญูทีล่ ูกไก่ทั้งหมดมีตอ่ แม่ไก่ ถา้ หากเปน็ ลกู ๆ จะต้งั ชอ่ื ดาวดวงน้วี า่ อะไรดจี ๊ะ” 62
หลังจากที่คุณแม่เล่าจบ สองสาวลีอาและไลลาก็น้ำตาซึม ไปตาม ๆ กนั “ดาวไก่ย่างค่ะ เพราะแม่ไก่ยอมเสียสละชีวิตเป็นไก่ย่าง” ไลลาสะอื้นพร้อมตอบด้วยความเศร้าโศก ทั้งคุณแม่และพี่สาวก็อดท่ี จะกลัน้ ขำไม่ได้ ลอี าปาดนำ้ ตาแลว้ จงึ ได้พดู ตอ่ ว่า “ดาวลูกไก่ใชไ่ หมคะคณุ แม่ หนูเคยเรยี นมา” ไลลาเอย่ ด้วยน้ำเสียงอนั ตน่ื เตน้ “ชือ่ ดาวลูกไกจ่ รงิ หรือคะ” 63
“ถูกต้องจ้ะสาวน้อย แล้วพวกหนูรู้ไหมว่าดาวที่ถูกขนานนามว่า ดาวลูกไก่ หรือที่มีอีกหลายชือ่ ไม่ว่าจะเป็นกระจุกดาวลูกไก่ กระจุกดาวไพลยา ดีส หรือดาวเจ็ดพี่น้อง แท้ที่จริงแล้วมันคือกระจุกดาวที่ประกอบด้วยดาวสว่าง ปานกลางหลายดวง เป็นกระจุกดาวที่รู้จักกันดีที่สุดบนท้องฟ้าเพราะว่าเห็นได้ ง่ายด้วยตาเปล่า อยู่ห่างโลกประมาณ 440 ปีแสง บางคนนับดาวในกระจุก ได้ 6 ดวง แต่บางคนก็อาจเห็นได้ถึง 7 ดวงหรือมากกว่า โดยเฉพาะในคืนเดือน มืดหรือในสถานที่ซึ่งไม่มีมลพิษทางแสงรบกวนมากนัก ดวงดาวทั้งหลาย คงเปล่งประกายไม่ได้เลย หากท้องฟ้าไม่เสียสละความมืดมิดให้แก่มัน เหมือนกับแม่ไก่ที่ยอมเสียสละชีวิตเพื่อทดแทนบุญคุณของตายายโดยไม่หวัง สง่ิ ตอบแทน และรกั กันเหมอื นที่ลูกไก่นัน้ รักแม่ไกอ่ ย่างสุดหวั ใจ ถ้าผู้ใดเสียสละ ผู้นั้นก็จะได้รับสิ่งตอบแทนที่แสนวิเศษ แล้วคุณแม่ก็อยากให้เจ้าตัวน้อยทั้งสอง ของคุณแม่เป็นแบบนั้นด้วย” คุณแม่กล่าวพร้อมเอามือไปลูบหัวเด็กน้อย ทง้ั 2 คนดว้ ยความเอน็ ดู 64
ไลลาและลีอายิ้มออกมาด้วยความตื้นตันใจ เด็กหญิงทั้งสองรีบโผตัวเข้าไปสวมกอดแม่ผู้เป็นที่รัก อย่างแนบแน่นเพราะรับรู้ได้ถึงความรักที่เต็มเปี่ยมไป ทั้งหัวใจ และได้รับการกอดตอบด้วยอ้อมกอดที่แสนอบอุน่ จากผูเ้ ปน็ แม่ ลีอารู้สึกซาบซึ้งอย่างสุดหัวใจแล้วพูดด้วยสายตาอนั มุ่งมั่น “ต้องขอขอบคุณความมืดมิดของท้องฟ้าที่ทำให้เรา รู้ว่าดวงดาวนั้นสวยเพียงใด หนูสัญญาว่าจะเป็นให้ได้ด่ัง นิทานดาวลกู ไก่เลยค่ะ” ทุกคนมองตามนิ้วไลลาแล้วได้พบกับกลุ่มดาวลูกไก่ ท่เี ปล่งประกายแสงอนั ระยิบระยบั 65
ไลลาเอ้อื มไปจบั มอื พีล่ ีอาและคุณแม่แล้วเอย่ ต่อวา่ “ต่อไปนี้มันเป็นตัวแทนดวงดาวของพวกเรานะ เมื่อไหร่ที่เราคิดถึงกันก็มองมาที่ดาวดวงนี้ อย่างน้อยจะได้รู้ว่าเราก็ยังมองดาว ดวงเดียวกนั ทกุ คนคะ หนูกส็ ญั ญาเหมอื นกันวา่ หนจู ะเป็นแบบแมไ่ กย่ า่ งใหไ้ ด้เลยคะ่ ” หลังจากที่ไลลาพูดจบ ทั้ง 3 คนก็ได้เกี่ยวก้อยสัญญาท่ามกลางดวงดาวนับล้านเป็นคอยเป็นสักขีพยาน ทั้งห้องอบอวลไปด้วย รอยย้ิมและเสยี งหัวเราะอันอบอ่นุ “เอาล่ะเดก็ ๆ ดึกมากแล้ว เข้านอนกนั ได้แลว้ นะคะ ฝนั ดีทรี่ ักทงั้ สองของแม่” คุณแม่พูดพรอ้ มหยบิ ผา้ ห่มมาห่มและจบู หน้าผาก ของสองสาวน้อย “ฝนั ดคี ่ะ คณุ แม่” ไลลากับลีอาเอย่ จากนน้ั ทงั้ สองสาวน้อยกค็ ่อย ๆ เคลิม้ และผล็อยหลบั ไปในท่ีสดุ 66
ทำงช้ำงเผือก หลังจากที่ไลลาได้อ่านหนังสือเรื่องราวการผจญภัย ของดวงดาวทั้งหมดแล้ว ไลลาก็เกิดความรู้สึกปลื้มใจที่ได้รับรู้ เรื่องราวส่วนหนึ่งของจักรวาลที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ และอยากที่จะรูจ้ กั เรื่องราวของดวงดาวเพิ่มขึ้นอีก ในขณะที่ไลลากำลังนั่งคิดถึง เรื่องดวงดาวต่าง ๆ อยู่นั้น คุณพ่อของไลลาได้เดินเข้ามาหา แล้วสงสัยว่าลูกสาวของเขานั้นกำลังทำอะไรอยู่ จึงเอ่ยถาม ออกไปวา่ “ไลลา หนทู ำอะไรอย่เู หรอลกู ” “ไลลาพึ่งอ่านหนังสือการผจญภัยของดวงดาวจบค่ะ มันสนุกมาก ๆ เลยค่ะคุณพ่อ ไลลาอยากไปเห็นดวงดาวที่สว่าง เตม็ ทอ้ งฟา้ จังเลยคะ่ ” ไลลาตอบคุณพอ่ 67
“อืมมม... งั้นลูกอยากไปงานเทศกาลชมทางช้างเผือกที่จะจัดขึ้น ในเดือนกุมภาพันธท์ ี่จะถงึ นไ้ี หม” คุณพ่อบอกกับไลลา “สนใจค่ะ ว่าแต่งานเทศกาลชมทางช้างเผือกเป็นอย่างไรเหรอ คะ” ไลลาถามกลับไปด้วยความตื่นเตน้ ปนสงสยั “งานเทศกาลชมทางช้างเผือก เป็นงานที่จะจัดในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ถึงเมษายน เพราะเป็นช่วงที่เห็นใจกลางทางช้างเผือกเด่นชัด ที่สุด ในทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ระหว่างกลุ่มดาวแมงป่องกับกลุ่มดาว คนยิงธนู สังเกตได้ทุกภูมิภาคของประเทศ บริเวณที่มืดสนิทไร้แสงเมือง รบกวน และนอกจากใจกลางทางช้างเผือกที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว ยังมีดาว เคราะห์ให้ชมอีก 3 ดวง ได้แก่ ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี และดาวเสาร์ ท่ีปรากฏใกล้กบั แนวทางชา้ งเผือกอกี ดว้ ย” “ว้าวว ไลลาจะตั้งตารอเลยค่ะ” ไลลากระโดดโลดเต้นอย่างมี ความสขุ โดยมีคณุ พ่อมองดดู ้วยสายตาเอน็ ดู 68
ณ งานเทศกาลชมทางช้างเผอื ก “เร็ว ๆ ค่ะคุณพ่อ เดี๋ยวเราจะไปไม่ทันดูทางช้างเผือก” ไลลารีบวิ่งไปชุดดูดาว พรอ้ มกับแหงนมองขน้ึ ไปบนทอ้ งฟา้ อนั กว้างใหญ่ สดุ ลกู หลู ูกตา “ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ต้องรีบไปหรอกไลลา ทางช้างเผือกที่เรามาดูกันนี้สามารถมองเห็นได้ ตลอดหน้าหนาวนี้เลยล่ะ แต่ก่อนอื่นเราต้องหาที่ตั้งเจ้าสิ่งนี้ก่อนนะ” คุณพ่อหยิบกล้อง โทรทรรศน์ออกมาจากกระเป๋า และหาที่ตั้งกล้องในมุมที่เหมาะสม ก่อนจะเรียกไลลา เพอ่ื ให้เขา้ มาดูผลงานของตน “มาสิไลลา พ่อตั้งกล้องดูดาวเสร็จแล้ว สิ่งนี้แหละที่จะช่วยให้เราได้เห็นทาง ชา้ งเผือกกนั ” คุณพอ่ ตะโกนเรยี กไลลา ไลลารีบวงิ่ มาหาคณุ พอ่ และได้ทำการสอ่ งกล้องดดู าวทค่ี ุณพ่อตง้ั ไว้ให้อยา่ งตนื่ เตน้ 69
ไลลารีบวิง่ มาหาคณุ พ่อและไดท้ ำการส่องกลอ้ งดดู าวทคี่ ุณพอ่ ตัง้ ไว้ใหอ้ ย่างตื่นเต้น เมื่อไลลาได้เห็นทางช้างเผือกส่องแสงเปล่งประกาย มองเห็นดวงดาวชัดเจน ราวกับจะไขว่คว้าลงมาได้ ทั้งหมดนี้คือหมู่ดาวที่ ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้านบั แสนล้านดวง นับเป็นความฝันเล็ก ๆ ของเด็กน้อยท่มี าเหน็ กบั ตาตวั เอง ไลลาจึงถามคณุ พ่อว่า ... “คณุ พอ่ คะ ทำไมถงึ เรียกที่นี่วา่ ทางชา้ งเผือกเหรอคะ” คณุ พอ่ ได้แตเ่ พียงยิ้มรับและพูดตอบกลบั ไลลาไปวา่ “ไลลาหนูรูไ้ หม ทน่ี ี่กม็ ีตำนานไมต่ า่ งจากดาวดวงอื่น ๆ เลยนะ” ไลลาตาลุก วาวและตอบกลบั คุณพ่อดว้ ยความต่ืนเตน้ วา่ “จรงิ เหรอคะคณุ พ่อ หนูอยากฟังคะ่ คณุ พ่อช่วยเล่าใหห้ นฟู ังไดไ้ หมคะ” 70
คุณพ่อจึงเล่าตำนานเกี่ยวกับทางช้างเผือกให้ไลลาฟัง ระหวา่ งเดนิ ชมไปวา่ “ทางช้างเผือก คือดาราจักรที่มีระบบสุริยะและโลกของ เราอยู่ เมื่อมองบนท้องฟ้าจะปรากฏเป็นแถบขมกุ ขมวั คล้ายเมฆ ของแสงสว่างสีขาวซึ่งเกิดจากดาวฤกษ์จำนวนมากภายในดารา จักรที่มีรูปร่างเป็นแผ่นจาน ส่วนที่สว่างที่สุดของทางช้างเผือก อยู่ในกลุ่มดาวคนยิงธนู ซึ่งเป็นทิศทางไปสู่ใจกลางดารา จักร กาลครั้งหนึ่งมีชายหญิงคู่หนึ่งสัญญากันไว้ว่า จะเจอกันที่เดิม ท่ีทางช้างเผือกปลี ะครง้ั ซ่ึงชายหญงิ คู่นั้นกไ็ ดท้ ำตามท่ีสัญญากัน ไวใ้ นทกุ ปี แตน่ า่ เสียดายท่คี รง้ั สุดทา้ ยทีน่ ัดเจอกนั ...” ไลลาแหงนหน้ามองคุณพ่อที่หยุดพูดไปกะทันหัน พลางเอ่ยถามว่า “ครง้ั สดุ ทา้ ยทำไมเหรอคะ” 71
คุณพ่อลูบหัวไลลาอยา่ งอ่อนโยนและตอบไลลากลับว่า “น่าเสียดายที่ครั้งสุดท้าย ชายหญิงคู่นั้นกลับไม่ได้เจอกัน เพราะหญิงสาวผู้นั้นได้จากโลกนี้ไปเป็นดวงดาวอยู่บนท้องฟ้าไป ก่อนนะลกู ” ไลลาได้ยินดงั นั้นจงึ พดู ตอบคุณพอ่ ไปว่า “ดวงดาวบนทอ้ งฟ้าท่หี นเู ห็นเหรอคะคณุ พอ่ ” คุณพ่อยิ้มรับและตอบกลับว่า “ใช่ลูก และหลังจากนั้นลูกรู้ไหม เวลาที่ชายหนุ่มผู้น้ัน คิดถึงหญิงสาวขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็จะไปที่เดิมที่เคยนัดพบกัน เพราะเขาหวังวา่ สกั วนั หน่งึ เราจะไดพ้ บกนั อกี คร้งั ” หลังจากท่ีไลลาได้ฟงั ตำนานเก่ยี วกับทางช้างเผือกทคี่ ุณพ่อ เล่าจบก็เอย่ ถามคุณพอ่ อย่างสงสัยไปว่า “คุณพอ่ คะ แลว้ ตกลงเขาทง้ั สองจะได้เจอกนั อกี ไหมคะ?” 72
จำกโลกส่ดู วงดำว ในคืนที่ดาวเต็มฟ้า เรามักจะมองดวงดาวที่สว่างไสวและทำได้ เพียงสังเกตแสงระยิบระยับ ของดวงดาวด้วยตาเปล่า แต่หากเราต้องการรู้ ลักษณะของดวงดาวหรือวัตถุท้องฟ้าอืน่ ๆ ที่แสนไกลให้ชัดเจนย่ิงขึ้น ที่อาจต้อง พึ่งอุปกรณ์ของนักดาราศาสตร์ ดังนั้นในนิทานเล่มนี้เราจะพาทุกคนไปท่อง ท้องฟ้า หาดวงดาวด้วยอปุ กรณ์ต่าง ๆ ท่ีทำให้การดดู าวนน้ั ไมน่ ่าเบื่ออกี ตอ่ ไป 73
1. กล้องโทรทรรศน์ : สมบัติพเิ ศษทม่ี ากกวา่ ดวงตามนุษย์ กล้องโทรทรรศน์ (Telescope) หรือ กล้องดูดาว เป็นอุปกรณ์ช่วย การมองเห็นทีน่ กั ดาราศาสตรใ์ ชใ้ นการศึกษาวัตถุบนท้องฟ้า ซ่ึงประกอบดว้ ย เลนส์นูนสองชุดทำงานร่วมกัน หรือกระจกเงาเว้าทำงานร่วมกับเลนส์นูน เลนส์นูน หรือกระจกเงาเว้าขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านใกล้วัตถุทำหน้าที่รวมแสง ส่วนเลนส์นูนที่อยู่ใกล้ตาทำหน้าที่เพิ่มกำลังขยาย การเพิ่มกำลังรวมแสง ช่วยให้นักดาราศาสตร์มองเห็นวัตถุที่มีความสว่างน้อย การเพิ่มกำลังขยาย ช่วยให้นักดาราศาสตร์สามารถมองเห็นรายละเอียดของวัตถุมากขึ้น ดังนั้น ภาพที่เห็นจะมาจากเลนส์ที่ต่างกัน จึงมีลักษณะและรายละเอียด ที่แตกต่างกัน กล้องโทรทรรศน์จึงสามารถใช้ในการถ่ายภาพดวงดาว เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการศึกษาลักษณะของดวงดาวเหล่านั้นได้อีกด้วย ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการดูดาว คือ หลังเที่ยงคืน ควรดูดาวนอกบ้าน มากกว่าในบ้านเพราะอุณหภูมิที่ต่างกันจะทำให้ภาพที่เห็นจะเพี้ยนสูง สภาพอากาศที่เหมาะในการดูดาวสังเกตได้ จากการกระพริบของดาว หากดาวกระพรบิ เปน็ ประกายแสดงว่าอากาศไม่นิ่ง ทำใหก้ ารดดู าวถกู จำกดั 74
2. หอดูดาว : มองออกไปใหก้ ว้างกวา่ ทต่ี าเหน็ หอดูดาว หรือ Observatory เป็นสถานที่สำหรับใช้สังเกตการณ์ท้องฟ้าและ ดวงดาว ในการศึกษาด้านดาราศาสตร์ หรือโหราศาสตร์ หอดูดาวทางดาราศาสตร์ ในปัจจุบันมักก่อสร้างเป็นอาคารรูปโดมมีช่องเปิด ภายในมีกล้องโทรทัศน์ เพื่อใช้ ขยายภาพท้องฟ้า สาเหตุที่ใช้อาคารมีช่องเปิด ก็เพื่อลดแสงรบกวนจากภายนอก สว่ นอาคารรปู โดมนั้นเหมาะกบั ประเทศที่มอี ากาศหนาวเยน็ 75
ในฤดูหนาวจะไม่มหี ิมะคา้ งอยู่บนหลังคา อาคารโดมอาจติดต้ังกลไกการหมุนเพ่ือติดตามดาว หลายคนอาจไม่ทราบว่าประเทศไทยนั้นก็มีสถานที่ดูดาว ตั้งอยู่ ณ อุทยานแห่งชาติอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เรียกว่า “หอดูดาวแห่งชาติ” ของไทยหรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า หอดูดาว เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ภายในหอดูดาวติดตั้งกล้องโทรทรรศน์ ซึ่งนับเป็น กล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่หอดูดาวแห่งชาติ เปน็ หอ้ งปฏบิ ัติการขนั้ สงู สำหรับนกั วิจยั และนักดาราศาสตร์ 76
ยังมีโครงการจัดตั้งหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ภูมิภาค หรือ “หอดูดาวภูมิภาค” สำหรับบริการประชาชน โดยเน้นให้เกิดกิจกรรมทางด้านดาราศาสตร์ ซึ่งตามแผนมีโครงการจัดตั้งหอดูดาวภูมิภาคใน 5 จังหวัด ได้แก่ จ.ฉะเชิงเทรา , จ.นครราชสีมา, จ.สงขลา, จ.พิษณุโลก และ จ.ขอนแก่น ภายในหอดูดาวภูมิภาคมีโครงสร้างพื้นฐาน ที่สำคัญ ได้แก่ อาคารหอดูดาว และอาคารฉายดาว หอดูดาวภูมิภาคเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางดาราศาสตร์ที่กระจายโอกาส ให้แก่ประชาชน เนื่องจากหอดูดาว แห่งชาติที่ตั้งอยู่บนยอดดอยอินทนนท์ เน้นสำหรับใช้งานวิจัย เป็นหลัก และเปิดให้บริการแก่ประชาชนเป็นครั้งคราว ส่วนหอดูดาว ภูมิภาคจะเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายกว่า ส่วนอาคารหอดูดาวจะเปิดให้บริการเมื่อมีกิจกรรมหรือปรากฏการณ์ทางดารา ศาสตร์ อีกทั้งยังรองรับงานวิจัยระดับนักศึกษาตั้งแต่ปริญญาตรีถึงปริญญาเอก รวมถึงบริการถ่ายภาพแก่นักดาราศาสตร์สมัครเล่น 77
ปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกปัจจุบันก้าวหน้าไปด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยอย่างไม่หยุดหย่อน ส่งผลให้การใช้ชีวิตประจำวันของคน ทั่วไปแวดล้อมไปด้วยแอปพลิเคชันหรือบริการต่าง ๆ ที่คอยอำนวยความสะดวกอย่างหลากหลาย ทำให้มีโปรแกรมทางด้านดารา ศาสตร์มากมายลงในหลากหลายแพลตฟอร์ม ที่สามารถจำลองท้องฟ้ามาไว้บนหน้าจอของเรา เพื่อใช้ศึกษาท้องฟ้าหรือเตรียมดูดาว ในช่วงวันและเวลาที่ต้องการ โดยเราสามารถดูดาวได้โดยที่ไม่ต้องออกจากบ้าน เพียงแค่เปิดเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกขึ้นมา เท่านั้น โดยโปรแกรมที่จะช่วยให้เราได้เห็นลักษณะของดวงดาว และรู้จักกับมันมากขึ้น คือ Google Sky อีกหนึ่งวิทยาการก้าวหน้า ของ Google ที่เปิดให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตรับชมภาพวัตถุต่าง ๆ ที่ปรากฏอยู่บนห้วงอวกาศ โดยไม่ต้องดาวน์โหลดหรือติดตั้งซอฟต์แวร์ ใด ๆ ไม่วาใครกส็ ามารถเข้าใชง้ านได้ 78
3. Google Sky เปิดแผนทจ่ี ักรวาล พาทอ่ งอวกาศ แผนที่จักรวาลที่ช่วยให้การมองเห็นกลุ่มดาวต่าง ๆ รวมถึงทำความเข้าใจกับตำแหน่งของวัตถุต่าง ๆ บนจักรวาลได้ง่ายข้ึน มีทั้งภาพถ่ายของดวงดาวต่าง ๆ พร้อมคำบรรยาย ที่เพียงแค่คลิกเดียวก็จะสามารถเข้าใจข้อมูลของดาวนั้น ๆ รวมถึงสามารถเห็นภาพ ได้ชัดเจนอีกด้วย เพียงเท่านี้เราก็ได้ชมภาพบรรยากาศสวย ๆ ของอวกาศได้จากที่บ้านของตัวเองแล้ว ซึ่งโปรแกรมตัวนี้สามารถใช้ได้ กับทุกระบบปฏิบัติการ ทั้ง Windows Mac และ Linux หรือจะเข้าไปโดยตรงที่ google.com/sky ก็ได้ นอกจากนี้ยังสามารถเข้าใช้ ผ่านทางโทรศัพท์สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android และ IOS อีกทั้งยังมีภาษาให้เลือกถึง 26 ภาษาด้วยกัน เพื่ออำนวยความ สะดวกสบายใหก้ ับผใู้ ชง้ านทวั่ โลกอกี ดว้ ย 79
4. Nasa เตมิ เต็มพืน้ ที่ว่างให้กับดวงดาว แอปพลิเคชันอย่างเป็นทางการของ NASA เป็นวิธี ที่ยอดเยี่ยมในการสำรวจพื้นที่อันกว้างใหญ่ของ จักรวาล โดยรวมบทความข่าวอย่างเป็นทางการ ทวีต วิดีโอ ภาพถ่าย และคุณสมบัติจาก National Aeronautics and Space Administration แอป NASA นำเสนอทุกสิ่งที่คุณต้องการจากหนึ่ง ในแอปดูดาวที่ดีที่สุด ที่จะเติมเต็มความฝันการ ท่องอวกาศให้แก่ทกุ คน 80
เกยี รตินำ. (2558). คยุ กนั เลน่ เรื่องสิง่ ท่เี ปน็ สญั ลกั ษณข์ องกลมุ่ ดาว : กลุม่ ดาวม้า เอกสำรอ้ำงองิ บิน (Pegasus). [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก https://pantip.com/ topic/33218134. สืบคน้ เมอื่ 2 ตลุ าคม 2564 Atchara. (2017). “กล่มุ ดาว”. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก: http://starlove789.blogspot.com/2016/09/blog- ญดา ลือสัตย์. (2556). กลมุ่ ดาวมา้ ปีก. [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก post_13.html. สบื คน้ เมอื่ 6 กันยายน 2564 http://teacheryada2.blogspot.com/2013/04/blog- post_5865.html สบื คน้ เมอ่ื 2 ตลุ าคม 2564. Gotoknow. (2012). ตํานานกรกี โบราณกบั หมดู่ าวหมีน้อยดาวหมีใหญ.่ [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก https://www.gotoknow.org/posts/ วกิ พิ เี ดยี . (2018). “กล่มุ ดาวไถ”. [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ไดจ้ าก: 93947. สบื คน้ เม่อื 1 ตุลาคม 2564 https://th.wikipedia.org/wiki/ดาวไถ. สืบคน้ เมือ่ 6 กนั ยายน 2564 NGThai. (2019). กลมุ่ ดาวหมีเล็ก. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก https://ngthai.com/science/24921/ursa-minor/. ศูนยก์ ารเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรโ์ ลกและดาราศาสตร์. การสังเกตกลมุ่ ดาวสวา่ ง. สบื คน้ เมื่อ1ตุลาคม2564 [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก http://www.lesa.biz/astronomy/ celestial-sphere/constellations. สบื ค้นเมอ่ื 5 กนั ยายน 2564 Nitanonline. (2555). นิทานดาวลกู ไก.่ [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก http://nitanonline.blogspot.com/2012/02/blog- สถาบันวจิ ัยดาราศาสตร์แหง่ ชาติ. (ม.ป.ป.) “กล่มุ ดาวนายพรานและดาวไถ” post_07.html. สืบค้นเมอ่ื 1 ตลุ าคม 2564. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก: http://www.narit.or.th. สบื คน้ เมื่อ 5 กนั ยายน 2564 permalink. (2018). ตำนานเลา่ ขานของกลมุ่ ดาวนายพราน. [ออนไลน์]. เข้าถงึ ไดจ้ าก http://hogwartsthai.com สามัคควี ทิ ยาคม. (2556). กลมุ่ ดาวจระเข้ หรอื ดาวหมีใหญ.่ [ออนไลน์]. สบื ค้นเมื่อ 5 กนั ยายน 2564 เข้าถงึ ไดจ้ าก https://sites.google.com/a/samakkhi.ac.th/ withy-phun-than-w23102/klum-daw-crakhe-hrux-daw- Torquoise. กล่มุ ดาวมา้ มปี กี . [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก hmi-hiy-ursa-major สืบค้นเม่ือ 31 กันยายน 2564. https://phuketindex.com/travel/photo-stories/other/s- star/pegasus.htm สืบค้นเมอ่ื 2 ตลุ าคม 2564.
Search