แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เวลา 12 ชั่วโมง หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 7 เร่ือง การวัดน้าหนัก เวลา 1 ช่วั โมง เรือ่ ง การชง่ั โดยใชเ้ ครื่องชั่งท่ีมีหนว่ ยไมใ่ ช่หน่วยมาตรฐาน (1) มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ดั มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพนื้ ฐานเก่ียวกบั การวัด วดั และคาดคะเนขนาดของสง่ิ ท่ีตอ้ งการวดั และนาไปใช้ ตวั ช้วี ัด ค 2.1 ป.1 /2 วดั และเปรยี บเทยี บ น้าหนักเป็นกิโลกรมั เป็นขดี สาระการเรียนรู้ การชง่ั โดยใหเ้ คร่ืองช่ังทีม่ ีหน่วยไมใ่ ช่หน่วยมาตรฐาน จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) เมื่อกาหนดส่งิ ตา่ ง ๆ ให้สามารถชั่งโดยใช้เครอ่ื งชง่ั ท่มี ีหน่วยมาตรฐานและบอกน้าหนักได้ ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) 1. ใช้วธิ ีการทีห่ ลากหลายแกป้ ัญหา 2. ใชค้ วามรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์และเทคโนโลยีในการแกป้ ัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ อย่างเหมาะสม 3. ให้เหตุผลประกอบการตัดสนิ ใจ และสรุปผลได้อยา่ งเหมาะสม ดา้ นคุณลกั ษณะ (A) ทางานเป็นระเบียบเรยี บร้อย รอบคอบ และมีความเชอ่ื มัน่ ในตนเอง สาระการเรยี นรู้ การจัดลาดับนา้ หนกั
กระบวนการจดั การเรยี นรู้ 1. นักเรยี นพิจารณาภาพสัตวต์ ่าง ๆ จากบัตรภาพ ช่วยกนั พจิ ารณาและเรียงลาดับ ชื่อสตั ว์ ตาม นา้ หนกั ตามความนา่ จะเปน็ ตามความเป็นจรงิ เชน่ ววั แม่ไก่ เปน็ ตน้ 2. ครูแบ่งนกั เรยี นออกเปน็ 4 – 5 กลมุ่ ให้แต่ละกลมุ่ เวียนกนั ไปเปรยี บเทียบสิ่งของในแตล่ ะกลุ่มทีค่ รู วางไว้ โดยเรียงลาดบั ส่งิ ทมี่ นี ้าหนักมากท่ีสดุ รองลงมา จนถงึ สงิ่ ทน่ี ้าหนักนอ้ ยท่สี ุด ลงในแบบบนั ทึกทค่ี รูจดั เตรยี ม ไว้ 3. ครใู หแ้ ตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมารายงานผล และสง่ บันทกึ ทีค่ รู กลมุ่ ใดทาได้ถกู ต้องมากที่สุด เปน็ ผู้ชนะ 4. ครูใหน้ ักเรียนทม่ี ีขนาดต่าง ๆ กนั 3 คน ออกมายืนหน้าห้อง แลว้ ใหน้ ักเรยี นคน อืน่ ๆ ชว่ ยกนั จัด เขา้ แถวเรยี งตามลาดับ จากคนทห่ี นักทีส่ ุด จนถงึ เบาทีส่ ดุ 5. ครใู หน้ ักเรยี นทาแบบฝึกเสริมทกั ษะ สื่อการเรียนและแหลง่ เรียนรู้ ทาแบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะ การวัดผลและประเมินผล 1. สังเกตจากความสนใจ ตัง้ ใจในการเรียน ความรับผดิ ชอบในการทาแบบฝึกเสรมิ ทักษะ 2. ตรวจแบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะ
แบบฝกึ เสริมทกั ษะ ค้าชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นดรู ูปแล้วตอบวา่ สิง่ ของต่อไปนี้หนักเทา่ ใด ตัวอย่าง ชดุ กาแฟ 1 ชดุ เท่ากบั มะเขือเทศ 4 ผล 1. แตงโม 1 ลกู เท่ากบั มะเขอื เทศ ……… ผล 2. ปลา 1 ตัว เทา่ กับ มะเขอื เทศ …………ผล
3. มะเขือยาว 1 ลกู เท่ากบั มะเขอื เทศ …………….ผล 4. เค๊ก 1 ปอน เทา่ กบั มะเขือเทศ …………….ผล 5. ปลา 1 ตวั เท่ากบั มะเขอื เทศ …………….ผล
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ เวลา 12 ช่วั โมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 เร่อื ง การวดั นา้ หนกั เวลา 1 ชวั่ โมง เร่อื ง การช่ังนา้ หนักโดยใชเ้ ครอื่ งมือท่มี ีหน่วยไม่ใชม่ าตรฐาน (2) มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวช้ีวัด มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพื้นฐานเก่ยี วกบั การวดั วดั และคาดคะเนขนาดของสงิ่ ทีต่ อ้ งการวัด และนาไปใช้ ตัวชีว้ ัด ค 2.1 ป.1/2 วัดและเปรยี บเทยี บ น้าหนกั เปน็ กิโลกรัม เป็นขีด สาระสา้ คญั การชัง่ นา้ หนักของส่ิงของอาจทาได้โดยการเทียบกับหนว่ ยกลางทไี่ มใ่ ช่หนว่ ยมาตรฐาน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (K) 1. บอกนา้ หนกั ของส่ิงของใช้เคร่อื งมอื ท่มี ีหน่วยไมใ่ ชม่ าตรฐาน ได้ 2. สามรถเปรียบเทียบน้าหนักของส่งิ ของโดยใชห้ น่วยกลาง ตามท่กี าหนดได้ 3. บอกความสัมพนั ธข์ องนา้ หนกั ส่ิงของกบั จานวนสิ่งของที่ใชเ้ ปน็ หนว่ ยกลางใช้ ด้านทักษะกระบวนการ (P) 1. ใชว้ ธิ กี ารทีห่ ลากหลายแกป้ ญั หา 2. ใชค้ วามรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในการแก้ปญั หาในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้ อย่างเหมาะสม 3. ให้เหตุผลประกอบการตดั สินใจ และสรปุ ผลได้อยา่ งเหมาะสม ดา้ นคุณลักษณะ (A) ทางานเป็นระเบียบเรยี บร้อย รอบคอบ และมีความเชอื่ มัน่ ในตนเอง สาระการเรียนรู้ หนว่ ยกลางในการชัง่ โดยใช้เคร่อื งมอื ทไี่ มใ่ ชห่ น่วยมาตรฐาน
กระบวนการจดั การเรยี นรู้ 1. ครนู าสนทนา อภปิ ราย ซกั ถาม นกั เรยี นเพ่อื ทบทวนเรื่องการเปรียบเทยี บนา้ หนักท่ีไดเ้ รยี นมาแลว้ 2. นกั เรียนออกเป็นกลุ่ม ให้แต่ละกล่มุ ใช้เครอ่ื งช่ังสองแขนท่ที าดว้ ยไมแ้ ขวนเสื้อ ทดลองช่งั สิ่งของ ต่างๆ เช่น สมุด ดนิ สอ แปรงลบกระดาน กลอ่ งชอลก์ กล่องดินสอ โดยใช้ ฝานา้ อัดลม ชอลก์ เป็นหน่วยกลางใน การชง่ั แทนหนว่ ยการชัง่ มาตรฐาน 3. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ เลือกชง่ั สง่ิ ของทงั้ หมด 5 อยา่ ง และจดบันทึกสง่ิ ของแตล่ ะอย่างมนี ้าหนัก กี่หนว่ ย 4. แต่ละกลมุ่ นาเสนอผลงานให้เพือ่ นๆฟัง 5. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ เปรยี บเทยี บน้าหนักของส่ิงของต่างๆสง่ิ ใดหนกั กว่า เบากวา่ และเบาทีส่ ุด และ หนักท่สี ุด โดยเปรยี บเทยี บจากจานวนหน่วยกลางทชี่ ่งั ได้ และเรยี งลาดับความหนักของสิง่ ของ เช่น ปากกา นา้ หนกั 5 ฝา สมดุ น้าหนัก 10 ฝา 6. นกั เรยี นส่งตวั แทนออกมาสาธติ การเปรยี บเทียบน้าหนักส่ิงของโดยการชั่งดว้ ยเครื่องชง่ั สองแขน แลว้ บอกว่าส่งิ ใดหนกั กวา่ สิง่ ใดเบากวา่ จากวัสดุสง่ิ ของใกล้ตวั 7. รว่ มกันอภิปรายเก่ียวกบั การนาความร้เู ร่อื งหนว่ ยกลางในการช่ังและสรุปนาไปใช้ในชวี ิตประจาวนั 8. ครูใหน้ ักเรยี นทาแบบฝกึ เสรมิ ทักษะ สอ่ื การเรยี นและแหลง่ เรยี นรู้ แบบฝึกเสริมทกั ษะ การวดั ผลและประเมินผล 1. สังเกตจากความสนใจ ต้ังใจในการเรียน ความรบั ผิดชอบในการทาแบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ 2. ตรวจแบบฝึกเสริมทกั ษะ
แบบฝึกเสริมทกั ษะ คา้ สั่ง กาหนดให้ ฝานา้ อดั ลม 1 ฝา แทนหนว่ ยกลาง 1 หนว่ ย จงใชเ้ ครื่องช่ังสองแขนอยา่ งงา่ ย ช่งั น้าหนกั สิง่ ของต่อไปนี้ โดยปฏบิ ัติจรงิ แล้วเตมิ คาตอบ 1. กล่องชอลก์ หนกั ประมาณ……………………………………หน่วย 2. แปรงลบกระดานหนกั ประมาณ……………………………..หน่วย 3. สมุดหนกั ประมาณ………………………………………….หนว่ ย 4. กล่องดนิ สอหนกั ประมาณ………………………………….หน่วย 5. ไม้บรรทดั หนักประมาณ……………………………………หนว่ ย เฉลยอยู่ในดุลยพนิ ิจของครูผู้สอน
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 3 ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1 กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เวลา 12 ชัว่ โมง หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 7 เรอื่ ง การวัดน้าหนกั เวลา 2 ช่วั โมง เรอื่ ง การเปรียบเทยี บน้าหนกั (1) มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพ้นื ฐานเกีย่ วกบั การวัด วดั และคาดคะเนขนาดของส่งิ ท่ีต้องการวัด และนาไปใช้ ตวั ชี้วัด ค 2.1 ป.1 /2 วดั และเปรยี บเทียบ นา้ หนกั เป็นกโิ ลกรัม เป็นขดี สาระการเรียนรู้ 1. การเปรียบเทียบนา้ หนกั อาจใช้คานหรอื เคร่อื งช่งั สองแขนอยา่ งง่าย ๆ ท่ีไมใ่ ช่เครือ่ งชง่ั มาตรฐาน 2. ของชิน้ หน่งึ เมื่อแบ่งออกเป็นสว่ น ๆ น้าหนักของแตล่ ะส่วน เมอื่ นามารวมกันจะเทา่ กบั น้าหนักของ ของชิ้นเดมิ นนั้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) เปรียบเทียบน้าหนกั ของสง่ิ ต่าง ๆ ได้ ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) 1. ใช้วธิ ีการทหี่ ลากหลายแก้ปัญหา 2. ใชค้ วามรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหาในสถานการณ์ ตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3. ใหเ้ หตุผลประกอบการตัดสินใจ และสรปุ ผลไดอ้ ย่างเหมาะสม ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A) ทางานเปน็ ระเบยี บเรียบร้อย รอบคอบ และมีความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง สาระการเรียนรู้ การเปรยี บเทียบนา้ หนกั โดยการกะประมาณ
กระบวนการจดั การเรียนรู้ ชวั่ โมงท่ี 1 1. ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ครูทบทวนเรือ่ งการชงั่ โดยครแู ละนกั เรยี นสนทนาทบทวนเกย่ี วกบั การชั่งส่งิ ของตา่ ง ๆ ว่า การช่ังเปน็ การวัดนา้ หนักของสงิ่ ของ นา้ หนักของสิ่งของไมข่ น้ึ อยกู่ บั รูปร่าง ขนาดและสเี สมอไปและของชนดิ เดียวกัน ถ้ามีขนาดใหญ่กว่าจะมีน้าหนกั มากกว่า 3. ครูสนทนาเก่ียวกับความหมายของ คาว่า “น้าหนกั ” ตามท่นี ักเรียนเคยได้ยินหรือมปี ระสบการณม์ า 4. ครูใหน้ กั เรียนนาสิง่ ของทมี่ ีขนาดเล็ก ๆ เชน่ ฝาจุก มาเปรียบเทยี บน้าหนักโดยการใช้มือยก หรอื วางน้าหนักของส่ิงของเลก็ ๆ นนั้ ให้นักเรียนพิจารณาเปรยี บเทียบ น้าหนัก ซ่งึ จะพบวา่ เปรียบเทยี บ ค่านา้ หนักโดยอาศัยความร้สู กึ ทย่ี กดว้ ยมอื ไดย้ าก 5. นักเรียนชั่งฝาจกุ ด้วยเคร่ืองช่งั สองแขนที่ไม่ใชเ่ ครอ่ื งช่ังมาตรฐานแบบง่าย ๆ ท่ที าดว้ ยขวด นา้ อัดลม (ขนาดเทา่ กนั ) ผูกเชือกแขวนปลายไมแ้ ขวนเสือ้ ให้ระยะหา่ งจุดกึ่งกลางเทา่ ๆ กัน นกั เรียน ทดลองชงั่ หลาย ๆ คร้งั จนสรปุ ได้วา่ ถ้าเครื่องช่งั เอยี งลงดา้ นใดแสดงวา่ ของด้านนัน้ หนักกว่าของอีกด้าน หนึง่ ถ้าเคร่ืองช่งั ไม่เอยี ง คอื มรี ะดบั เสมอกันพอดี แสดงว่าของในเคร่อื งช่ังทั้งสองขา้ งหนักเทา่ กัน ช่ัวโมงท่ี 2 6. นกั เรียนช่วยกนั บอกชื่อสิ่งของในหอ้ งเรียนทสี่ ามารถยกได้ และไม่สามารถยกได้ แล้วอภิปรายกนั ว่าทาไมจงึ ยกได้ ทาไมจงึ ยกไมไ่ ด้ 7. ครใู ห้นักเรยี นนาสิง่ ของทีม่ ีขนาดเลก็ ๆ เช่น ฝาจกุ มาเปรียบเทียบน้าหนกั โดยการใช้มอื ยก หรือวางนา้ หนกั ของสงิ่ ของเล็ก ๆ นนั้ ให้นักเรยี นพจิ ารณาเปรยี บเทยี บ น้าหนกั ซง่ึ จะพบวา่ เปรียบเทยี บ คา่ นา้ หนักโดยอาศยั ความรู้สกึ ท่ยี กดว้ ยมอื ไดย้ าก 8. ครูใหน้ กั เรยี นลองยกส่ิงของดูแลว้ บอกว่าสิง่ ใดเบากว่า สิ่งใดหนักกวา่ เชน่ กล่องชอล์ก กับแปรง ลบกระดาน ก้อนหนิ ทม่ี ขี นาดตา่ งกัน กลอ่ งเปล่าทมี่ ขี นาดใหญ่กับกล่องขนาดเล็กแตบ่ รรจขุ องไว้หนกั กวา่ เป็น ตน้ โดยให้นักเรียนผลดั เปล่ยี นกันออกมาลองยกแล้วบอกวา่ ส่งิ ใดหนักกวา่ สงิ่ ใดเบากวา่ ทีละคน 9. ครใู หน้ ักเรยี นทาแบบฝึกเสริมทักษะ ส่อื การเรยี นและแหล่งเรียนรู้ 1. แบบทดสอบก่อนเรียน 2. ใบความรู้ 3. แบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะ การวัดผลและประเมินผล 1. สังเกตจากความสนใจ ตัง้ ใจในการเรียน ความรับผดิ ชอบในการทาแบบฝกึ เสรมิ ทักษะและ แบบทดสอบก่อนเรียน 2. ตรวจแบบฝึกเสรมิ ทักษะ 3. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน
ใบความรู้ การช่งั โดยใช้เคร่ืองชัง่ ทม่ี ีหน่วยไมใ่ ชห่ น่วยมาตรฐาน ชา้ ง 1 ตวั แอปเปิล้ 1ผล ฟุตบอล 1ลูก
แบบฝึกเสรมิ ทักษะ คา้ สัง่ จงเลอื กรปู สิ่งทีห่ นักกว่า แล้วเขยี นเคร่อื งหมาย X ทบั รูป 1. 2. 3. 4. 5.
แบบทดสอบกอ่ นเรียน ค้าสง่ั จงเขียน หนา้ ข้อท่ีถกู ต้อง 1. สง่ิ ของใดหนักกว่า ก. พริก ข. แตงโม 2. สิ่งใดเบากวา่ ก. รถยนต์ ข. ลกู บอล มงั คุด 3. ผลไมช้ นดิ ใดเรียงจากน้าหนกั นอ้ ยไปมาก สม้ เชอร์ร่ี ก. เชอร์รี่ มังคุด สม้ ข. เชอรร์ ี่ สม้ มังคุด ค. มงั คดุ ส้ม เชอร์รี่
4. ถ้า หนกั เท่ ากับ จะเติม อกี กผ่ี ลจึงจะเทา่ กบั 1 ผล ก. 1 ผล ข. 2 ผล ค. 3 ผล 5. สงิ่ ใดหนักกว่า ก. กล้วยหนกั กว่าแตงโม ข. แตงโมหนักกวา่ กล้วย ค. กลว้ ยกับแตงโมหนักเท่ากนั 6. ส่ิงของใดต่อไปนีเ้ รียงจากน้าหนักน้อยไปหามากทงั้ หมด ก. ดนิ สอ สมดุ กระเปา๋ ข. ปากกา แปลงลบกระดาน ยางลบ ค. ช้าง ไก่ เปด็
7. สง่ิ ของใดต่อไปนี้เรียงจากน้าหนักมากไปหานอ้ ยท้งั หมด ก. กระดาษ รองเทา้ ถุงเทา้ ข. กระเป๋า สมดุ ปากกา ค. ม้า ช้าง ววั 8. ผลไม้ชนิดใดหนักสดุ ก. ทุเรียน ข. มะขาม ค. มะยม 9. ส่ิงของใดหนกั สดุ ก. กลอ่ งเปลา่ ข. แปลงสีฟนั ค. อิฐ 10. ส่ิงของใดเบาสดุ ก. สมุด ข. ยางลบ ค. หนังสือเรยี น
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ เวลา 12 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 7 เรอ่ื ง การวัดนา้ หนกั เวลา 2 ช่วั โมง เรือ่ ง การเปรยี บเทียบน้าหนกั (2) มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ัด มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพ้นื ฐานเกี่ยวกบั การวดั วดั และคาดคะเนขนาดของสงิ่ ท่ตี อ้ งการวดั และนาไปใช้ ตัวชว้ี ัด ค 2.1 ป.1/2 วดั และเปรยี บเทยี บ น้าหนกั เป็นกโิ ลกรมั เป็นขดี สาระการเรยี นรู้ 1. การเปรียบเทยี บนา้ หนกั อาจใช้คานหรอื เครอ่ื งช่ังสองแขนอยา่ งงา่ ย ๆ ท่ีไม่ใชเ่ คร่อื งชั่งมาตรฐาน 2. ของช้ินหนง่ึ เมือ่ แบ่งออกเปน็ ส่วน ๆ น้าหนกั ของแต่ละส่วน เมื่อนามารวมกนั จะเท่ากับนา้ หนักของ ของชนิ้ เดิมนน้ั จุดประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) เปรียบเทยี บน้าหนักของสิง่ ต่าง ๆ ได้ ด้านทักษะกระบวนการ (P) 1. ใชว้ ธิ กี ารท่ีหลากหลายแกป้ ญั หา 2. ใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในการแก้ปญั หาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ อย่างเหมาะสม 3. ใหเ้ หตุผลประกอบการตัดสนิ ใจ และสรุปผลได้อยา่ งเหมาะสม ด้านคณุ ลักษณะ (A) ทางานเปน็ ระเบียบเรียบร้อย รอบคอบ และมคี วามเช่อื ม่ันในตนเอง สาระการเรยี นรู้ การเปรยี บเทยี บน้าหนกั ของสิง่ ของ 2 สงิ่ โดยใชเ้ ครอ่ื งช่ังสองแขนอยา่ งงา่ ย
กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ช่วั โมงที่ 1 1. ครสู นทนาเกี่ยวกับความหมายของ คาวา่ “น้าหนกั ” ตามท่นี ักเรียนเคยไดย้ ินหรอื มี ประสบการณม์ า 2. ครูให้นักเรียนนาสงิ่ ของทม่ี ีขนาดเล็ก ๆ เชน่ ฝาจุก มาเปรยี บเทียบนา้ หนกั โดยการใชม้ ือ ยกหรอื วางน้าหนักของส่ิงของเล็ก ๆ นั้น ใหน้ ักเรียนพจิ ารณาเปรียบเทียบ นา้ หนัก ซง่ึ จะพบวา่ เปรยี บเทยี บ ค่าน้าหนกั โดยอาศัยความร้สู กึ ทย่ี กดว้ ยมือไดย้ าก 3. นักเรียนช่ังฝาจุกด้วยเคร่ืองช่ังสองแขนทไี่ มใ่ ชเ่ ครื่องช่งั มาตรฐานแบบงา่ ย ๆ ทท่ี าดว้ ย ขวดน้าอัดลม (ขนาดเท่ากัน) ผูกเชอื กแขวนปลายไมแ้ ขวนเส้อื ใหร้ ะยะห่างจดุ กึง่ กลางเทา่ ๆ กัน นักเรียน ทดลองช่งั หลาย ๆ ครัง้ จนสรปุ ได้ว่า ถา้ เครอ่ื งชัง่ เอยี งลงดา้ นใดแสดงว่าของดา้ นนนั้ หนักกวา่ ของอีกดา้ น หนึง่ ถ้าเคร่อื งช่งั ไมเ่ อียง คือ มีระดับเสมอกนั พอดี แสดงว่าของในเครอื่ งชั่งทง้ั สองข้างหนกั เทา่ กนั 4. ครูใหน้ กั เรียนยกสิ่งของต่าง ๆ ในหอ้ งเรียน แล้วบอกครูว่าสง่ิ ของสง่ิ ใดท่ีนักเรยี นสามารถ ยกไดแ้ ละสง่ิ ของสิ่งใดท่นี กั เรยี นไม่สามารถยกได้ พรอ้ มทง้ั บอกเหตุผล 5. นกั เรยี นพิจารณาส่งิ ของตา่ ง ๆ ตอ่ ไปนี้ ดินสอ ไมบ้ รรทัด กลอ่ งดนิ สอ กระเป๋า แล้ว เปรียบเทยี บและเรียงลาดับจากสงิ่ ของทมี่ นี า้ หนกั มากท่สี ดุ ไปหาสง่ิ ของทีม่ ีนา้ หนกั น้อยที่สดุ ซ่ึงจะได้ดงั นี้ กระเปา๋ กลอ่ งดินสอ ดินสอ ไมบ้ รรทดั ชวั่ โมงท่ี 2 6. นักเรยี นแบ่งกลุ่มออกเปน็ กลมุ่ ละ 3-5 คน แต่ละกลมุ่ จดั หาสง่ิ ของ 4 สิง่ แลว้ เปรยี บเทียบ และจดั เรียงลาดับสิ่งของตามนา้ หนักจากสิ่งของที่มีน้าหนกั มากท่สี ุดไปหาสิง่ ของท่มี นี ้าหนักนอ้ ยที่สดุ 7. ครูให้นักเรยี นลองยกส่ิงของดแู ล้วบอกวา่ ส่งิ ใดเบากว่า สงิ่ ใดหนักกวา่ เชน่ กล่องชอล์ก กบั แปรงลบกระดาน กอ้ นหนิ ทีม่ ีขนาดต่างกนั กลอ่ งเปลา่ ท่มี ีขนาดใหญ่กบั กลอ่ งขนาดเลก็ แตบ่ รรจขุ องไว้หนกั กว่า เป็นต้น โดยให้นักเรยี นผลดั เปล่ยี นกนั ออกมาลองยกแลว้ บอกวา่ สงิ่ ใดหนกั กวา่ สงิ่ ใดเบากวา่ ทีละคน 8. ครูนาดินน้ามนั บนเครื่องชัง่ ข้างละ 1 กอ้ น ให้นักเรียนสงั เกตว่าน้าหนกั เท่ากันหรอื ไม่ ถ้าไม่ เทา่ กันใหเ้ ติมดนิ นา้ มนั หรือเอาออก จนกระทง่ั เท่ากนั แลว้ นาดินน้ามนั กอ้ นหนึง่ มาป้นั เป็นรูปยาว ใหน้ กั เรียน ทายนา้ หนักของดนิ น้ามันทั้งสองก้อนยงั เท่ากันหรอื ไมแ่ ลว้ ทดลองชง่ั ดู 9. ครูนาดินนา้ มนั แตล่ ะก้อนไปป้ันเป็นรปู ตา่ ง ๆ หลาย ๆ รปู ใหน้ กั เรยี นทายวา่ ยังมนี ้าหนัก เทา่ กันหรอื ไม่ ทดลองชงั่ ดู และรว่ มกันอภิปรายเพ่อื สรปุ วา่ นา้ หนกั ของสง่ิ ของไมไ่ ดข้ น้ึ อยู่กับขนาดและรูปรา่ ง 10. นักเรียนทาแบบฝกึ เสริมทักษะ
สอ่ื การเรียนและแหลง่ เรียนรู้ แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ การวัดผลและประเมินผล 1. สงั เกตจากความสนใจ ต้งั ใจในการเรยี น ความรบั ผิดชอบในการทาแบบฝกึ เสริมทกั ษะ 2. ตรวจแบบฝกึ เสริมทกั ษะ
แบบฝึกเสริมทักษะ ค้าชแ้ี จง จงเลอื กรปู ส่ิงท่หี นักกวา่ แลว้ เขียน X ทบั รูป ตวั อย่าง 1. 2. 3.
4. 5.
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 5 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ เวลา 12 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 7 เร่ือง การวดั น้าหนกั เวลา 2 ชั่วโมง เรอื่ ง การเปรยี บเทยี บน้าหนกั (3) มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชวี้ ัด มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพ้นื ฐานเกย่ี วกับการวดั วดั และคาดคะเนขนาดของสิ่งทีต่ อ้ งการวดั และนาไปใช้ ตัวช้ีวัด ค 2.1 ป.1/2 วัดและเปรียบเทยี บ นา้ หนักเปน็ กิโลกรมั เป็นขดี สาระการเรียนรู้ 1. การเปรียบเทยี บนา้ หนักอาจใช้คานหรือเคร่ืองชง่ั สองแขนอย่างงา่ ย ๆ ที่ไม่ใช่เครอ่ื งช่ังมาตรฐาน 2. ของชิน้ หนึง่ เมื่อแบ่งออกเป็นส่วน ๆ น้าหนกั ของแตล่ ะส่วน เมอื่ นามารวมกันจะเทา่ กบั นา้ หนกั ของ ของชิ้นเดมิ นัน้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) เปรยี บเทยี บนา้ หนักของสิง่ ต่าง ๆ ได้ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) 1. ใชว้ ธิ กี ารทหี่ ลากหลายแก้ปัญหา 2. ใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยีในการแกป้ ญั หาในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้ อยา่ งเหมาะสม 3. ให้เหตุผลประกอบการตัดสนิ ใจ และสรปุ ผลได้อยา่ งเหมาะสม ดา้ นคุณลกั ษณะ (A) ทางานเปน็ ระเบียบเรียบร้อย รอบคอบ และมคี วามเชือ่ ม่ันในตนเอง สาระการเรยี นรู้ การเปรียบเทยี บน้าหนกั โดยใช้เครือ่ งชัง่ สองแขนอย่างง่าย
กระบวนการจดั การเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 1. ครสู นทนาเกยี่ วกับความหมายของ คาว่า “น้าหนัก” ตามท่นี กั เรียนเคยไดย้ นิ หรอื มี ประสบการณม์ า 2. ครูนาดินน้ามันสองก้อนวางบนเครอ่ื งชั่ง แลว้ ใหน้ ักเรยี นสังเกตวา่ นา้ หนักของดนิ นา้ มนั เทา่ กนั หรือไม่ ถ้าไมเ่ ทา่ กันใหเ้ ตมิ ดนิ น้ามันขา้ งท่ีเบากว่า หรือเอาขา้ งทีห่ นักกว่าออกจนเหลอื ดนิ นา้ มันหนกั เท่ากนั 3. นกั เรยี นชั่งดนิ น้ามนั ที่มีขนาดเท่ากันสองก้อน โดยใชเ้ คร่ืองชัง่ สองแขนอย่างง่าย นาดนิ นา้ มันออกหรือนาใส่ให้มีน้าหนกั เท่ากนั ท้ังสองขา้ ง จากน้นั นาดินน้ามันข้างหนงึ่ ออกมาแบง่ เป็นสามกอ้ น รว่ มกันอภปิ รายวา่ ดนิ น้ามนั สามก้อนน้ยี งั หนักเทา่ กบั ดินนา้ มนั อกี กอ้ นหนง่ึ ทอี่ ยู่บนเคร่ืองชงั่ หรือไม่ (เท่ากนั ) เพรา เหตุใด (ของช้ินหนึ่งเมอ่ื แบ่งออกเปน็ สว่ น ๆ นา้ หนักของของแตล่ ะสว่ นเม่ือนามารวมกันจะเท่ากับนา้ หนักของของ ช้ินเดิมน้นั ) 4. ให้นกั แบง่ กลุ่ม 3 กลมุ่ แต่ละกลุ่มนาดินน้ามันออกมาปั้นเป็นรปู ต่าง ๆ อาจจะเปน็ รูปแบน ๆ ยาว ๆ หรอื รี ๆ แลว้ ลองชงั่ ใหม่นักเรยี นสงั เกตดูว่า น้าหนกั จะยังคงเทา่ เดมิ หรอื ไม่ (เทา่ เดิม) ร่วมกนั อภปิ รายวา่ นา้ หนักของสิ่งของไม่ข้ึนอยกู่ บั ขนาดหรอื รูปร่าง 5. ครูให้นกั เรียนนาสง่ิ ของท่ีมขี นาดเล็ก ๆ เชน่ ฝาจุก มาเปรียบเทียบนา้ หนกั โดยการใช้ มือยกหรือวางน้าหนกั ของสิง่ ของเลก็ ๆ นัน้ ให้นักเรยี นพจิ ารณาเปรยี บเทียบ นา้ หนกั ซ่งึ จะพบวา่ เปรียบเทยี บคา่ น้าหนกั โดยอาศยั ความรสู้ กึ ทยี่ กด้วยมือได้ยาก ชัว่ โมงท่ี 2 6. นกั เรียนแบง่ กลมุ่ ออกเป็นกลุ่มละ 3-5 คน แตล่ ะกลมุ่ จัดหาส่งิ ของ 4 สิ่ง แลว้ เปรียบเทยี บและจดั เรยี งลาดบั สิ่งของตามน้าหนกั จากสิ่งของท่มี ีนา้ หนักมากท่สี ดุ ไปหาสิง่ ของท่ีมนี ้าหนกั น้อย ทส่ี ุด 7. ครูใหน้ กั เรยี นลองยกสงิ่ ของดแู ล้วบอกวา่ สง่ิ ใดเบากว่า สิ่งใดหนักกวา่ เช่น กล่องชอล์ก กบั แปรงลบกระดาน กอ้ นหินทีม่ ขี นาดต่างกนั กลอ่ งเปลา่ ทีม่ ขี นาดใหญ่กบั กลอ่ งขนาดเล็กแต่บรรจขุ องไว้หนกั กว่า เป็นตน้ โดยใหน้ ักเรยี นผลัดเปล่ียนกันออกมาลองยกแล้วบอกวา่ ส่งิ ใดหนกั กว่า สง่ิ ใดเบากวา่ ทีละคน 8. นกั เรียนพิจารณาสงิ่ ของตา่ ง ๆ ต่อไปน้ี ดินสอ ไมบ้ รรทัด กลอ่ งดนิ สอ กระเป๋า แลว้ เปรยี บเทยี บและเรยี งลาดับจากสง่ิ ของทมี่ ีนา้ หนกั มากที่สดุ ไปหาส่ิงของท่มี ีนา้ หนักนอ้ ยทสี่ ดุ ซึง่ จะได้ดังนี้ กระเป๋า กล่องดินสอ ดนิ สอ ไม้บรรทัด 9. ครใู หน้ ักเรียนยกส่ิงของตา่ ง ๆ ในหอ้ งเรียน แลว้ บอกครวู ่าสง่ิ ของสิ่งใดท่นี ักเรยี น สามารถยกได้และส่งิ ของสง่ิ ใดท่นี กั เรยี นไม่สามารถยกได้ พรอ้ มท้ังบอกเหตผุ ล 10. ครูใหน้ กั เรยี นทาแบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะ
สอ่ื การเรียนและแหลง่ เรียนรู้ แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ การวัดผลและประเมินผล 1. สงั เกตจากความสนใจ ต้งั ใจในการเรยี น ความรบั ผิดชอบในการทาแบบฝกึ เสริมทกั ษะ 2. ตรวจแบบฝกึ เสริมทกั ษะ
แบบฝกึ ทกั ษะ คา้ ช้แี จง จงเลือกกาเครือ่ งหมาย X ทับขอ้ ท่ีถูกทส่ี ุด 1. ข้อใดนา้ หนักน้อยทสี่ ดุ ก. ข. ค. 2. ข้อใดน้าหนักมากทส่ี ดุ ก. ข. ค. 3. ข้อใดเมือ่ น้ามารวมกนั แล้วนา้ หนักน้อยทส่ี ดุ ก. ข. ค.
4. ข้อใดเมอ่ื น้ามารวมกันแล้วน้าหนกั มากท่ีสุด ก. ข. ค. 4. ขอ้ ใดเรยี งล้าดบั นา้ หนักมากไปหาน้อยท่สี ุด ก. ข. ค. ค.
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 6 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุม่ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ เวลา 12 ช่วั โมง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 7 เร่ือง การวดั น้าหนกั เวลา 2 ช่วั โมง เรอื่ ง การวดั นา้ หนกั เป็นกิโลกรมั เปน็ ขีด มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ัด มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพ้ืนฐานเก่ยี วกบั การวดั วดั และคาดคะเนขนาดของส่งิ ทตี่ อ้ งการวดั และนาไปใช้ ตวั ช้ีวัด ค 2.1 ป.1/2 วัดและเปรยี บเทียบ น้าหนักเปน็ กโิ ลกรัม เป็นขดี สาระการเรียนรู้ การวัดนา้ หนักเปน็ กิโลกรมั เป็นขีด จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) เม่อื กาหนดสิ่งต่าง ๆ ให้สามารถชัง่ โดยใช้เคร่ืองช่ังท่มี ีหนว่ ยไมใ่ ช่หนว่ ยมาตรฐานและบอกน้าหนักได้ ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) 1. ใชว้ ิธีการที่หลากหลายแก้ปัญหา 2. ใช้ความรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยีในการแกป้ ัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ อย่างเหมาะสม 3. ให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจ และสรปุ ผลได้อยา่ งเหมาะสม ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A) ทางานเป็นระเบยี บเรียบร้อย รอบคอบ และมีความเช่อื มั่นในตนเอง สาระการเรียนรู้ การวัดนา้ หนกั เปน็ กโิ ลกรัม เปน็ ขีด
กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 1. ครูนาแผนภาพแสดงการเปรียบเทยี บนา้ หนกั เปน็ หน่วยน้าหนกั ท่ีไมใ่ ชห่ นว่ ยมาตรฐานติดบน กระดาน 2. นักเรยี นสงั เกตและพิจารณาการเปรยี บเทยี บนา้ หนกั จากแผนภาพ จากนั้นครูและนักเรียน รว่ มกันอภิปรายเกี่ยวกับการเปรยี บเทยี บนา้ หนักว่า กล่องใหญ่ 1 ใบ หนักเท่ากบั กลอ่ ง สี่เหลยี่ มเลก็ 6 กล่อง 3. ครูนาดนิ น้ามนั ทแี่ บ่งแลว้ 1 ก้อน มาชง่ั ให้นักเรียนสังเกตเคร่ืองช่งั 4. ครูอธบิ ายวธิ ีการชงั่ น้าหนักเปน็ กโิ ลกรัม และเป็นขดี 5. ครใู ห้นักเรยี นฝกึ ชงั่ นา้ หนักเป็น กิโลกรัม และเป็นขดี ชั่วโมงที่ 2 6. นักเรียนนาสิ่งของต่าง ๆ ทตี่ ้องการชั่งน้าหนกั มาวางไวบ้ นโตะ๊ เปน็ ตน้ 7. นักเรยี นช่ังน้าหนักสิ่งของต่าง ๆ ทต่ี อ้ งการชั่งนา้ หนกั เป็น กิโลกรมั และเป็นขดี จากน้นั ครู และนักเรยี นร่วมกนั อภิปรายเก่ียวกบั การเปรยี บเทียบนา้ หนกั 8. นักเรียนเปรียบเทียบนา้ หนกั ของสิง่ ของ 3 – 4 ส่ิงทีช่ งั่ ได้ ว่า สิ่งใดหนักกว่า สิ่งใดเบากวา่ สิ่งใด หนักท่สี ดุ สิ่งใดเบาทีส่ ุด ส่ิงใดหนักเทา่ กนั โดยเปรียบเทียบจากกิโลกรมั และเป็นขดี ที่ชงั่ ได้ 9. ให้นักเรียนฝกึ ชงั่ ส่ิงของต่าง ๆ โดยใชห้ นว่ ยกโิ ลกรัม และเป็นขีด เชน่ ลวดเสยี บกระดาษ สมดุ หนังสอื และบอกน้าหนัก 10. ให้นักเรยี นทาแบบฝึกเสรมิ ทักษะ ส่อื การเรยี นและแหล่งเรยี นรู้ ทาแบบฝึกเสริมทักษะ การวัดผลและประเมินผล 1. สงั เกตจากความสนใจ ตัง้ ใจในการเรียน ความรับผิดชอบในการทาแบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะ 2. ตรวจแบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ
แบบฝกึ เสริมทักษะ ค้าชี้แจง จงเลอื กรปู ส่ิงที่เบากว่า แล้วเขียนกากบาท ทบั รปู ตวั อยา่ ง 1. 2.
3. 4. 5.
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 7 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เวลา 12 ชัว่ โมง หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 เรื่อง การวดั น้าหนกั เวลา 2 ชว่ั โมง เรือ่ ง โจทย์ปญั หาการบวกและการลบเกยี่ วกับน้าหนักเปน็ กิโลกรัม เป็นขดี มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วัด มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพื้นฐานเกีย่ วกับการวดั วดั และคาดคะเนขนาดของส่ิงท่ีต้องการวัด และนาไปใช้ ตวั ชว้ี ัด ค 2.1 ป.1 /2 วัดและเปรียบเทยี บ น้าหนกั เปน็ กโิ ลกรัม เปน็ ขีด สาระการเรยี นรู้ การวดั น้าหนักเป็นกโิ ลกรัม เปน็ ขีด จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) เม่ือกาหนดสิ่งตา่ ง ๆ ให้สามารถชั่งโดยใช้เคร่อื งชัง่ ท่มี หี น่วยไมใ่ ช่หน่วยมาตรฐานและบอกน้าหนกั ได้ ด้านทักษะกระบวนการ (P) 1. ใช้วธิ กี ารที่หลากหลายแก้ปัญหา 2. ใช้ความรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยีในการแกป้ ญั หาในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้ อย่างเหมาะสม 3. ใหเ้ หตุผลประกอบการตดั สินใจ และสรุปผลได้อย่างเหมาะสม ดา้ นคุณลกั ษณะ (A) ทางานเป็นระเบยี บเรียบร้อย รอบคอบ และมคี วามเชอ่ื มนั่ ในตนเอง สาระการเรยี นรู้ โจทยป์ ญั หาการบวกและการลบเก่ยี วกบั นา้ หนกั เป็นกโิ ลกรัม เป็นขีด
กระบวนการจัดการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี 1 1. ครนู าแผนภาพแสดงการเปรียบเทยี บนา้ หนักเปน็ หน่วยนา้ หนักทีไ่ ม่ใช่หนว่ ยมาตรฐานติดบน กระดาน 2. นกั เรียนสังเกตและพจิ ารณาการเปรียบเทียบนา้ หนักจากแผนภาพ จากนน้ั ครูและนกั เรยี น รว่ มกนั อภปิ รายเกีย่ วกบั การเปรียบเทียบน้าหนกั 3. ครูทบทวนวิธกี ารชง่ั นา้ หนกั เปน็ กิโลกรัม และเป็นขดี
ชั่วโมงที่ 2 4. ใหน้ ักเรียนศึกษาภาพทก่ี าหนดให้ 5.ครูสร้างโจทย์ปัญหาจากภาพ ผลไมบ้ นเครอ่ื งชัง่ ท่ี 1 หนกั 3 กิโลกรัม บนเคร่ืองชัง่ ที่ 2 หนัก 2 กโิ ลกรัม ผลไมท้ ี่ช่ัง ท้ังสองเครอ่ื งชง่ั รวมกันหนกั ก่กี โิ ลกรัม 6.ครเู ขียนประโยคสญั ลกั ษณ์จากโจทย์ปัญหา ประโยคสญั ลักษณ์จากโจทยป์ ญั หา 3 +2 = =5 7. ใหน้ ักเรยี นทาแบบทดสอบประเมนิ ผลหลงั เรียน สื่อการเรยี นและแหลง่ เรียนรู้ แบบทดสอบประเมนิ ผลหลงั เรียน การวัดผลและประเมินผล 1. สังเกตจากความสนใจ ต้ังใจในการเรียน ความรบั ผดิ ชอบในการทาแบบทดสอบประเมินผลหลงั เรยี น 2. ตรวจแบบทดสอบประเมินผลหลังเรียน
แบบทดสอบหลงั เรียน ค้าสงั่ จงเขยี น หน้าขอ้ ทถี่ ูกตอ้ ง 1.ส่งิ ของใดหนกั กว่า ก. พริก ข. แตงโม 2.สง่ิ ใดเบากว่า ก. รถยนต์ ข. ลกู บอล 3.ผลไมช้ นดิ ใดเรียงจากนา้ หนักนอ้ ยไปมาก สม้ เชอรร์ ่ี มังคุด ก. เชอร์ร่ี มังคดุ สม้ ข. เชอร์ร่ี ส้ม มงั คุด ค. มงั คดุ สม้ เชอร์รี่
4. ถา้ หนัก เทา่ กบั จะเตมิ อีกกผ่ี ลจงึ จะเทา่ กบั 1 ผล ก. 1 ผล ข. 2 ผล ค. 3 ผล 5. สิง่ ใดหนกั กว่า 1. กลว้ ยหนกั กวา่ แตงโม 2. แตงโมหนักกวา่ กลว้ ย 3. กล้วยกบั แตงโมหนักเทา่ กนั
6. สิง่ ของใดต่อไปนี้เรียงจากน้าหนักน้อยไปหามากท้ังหมด ก. ดนิ สอ สมดุ กระเป๋า ข. ปากกา แปลงลบกระดาน ยางลบ ค. ช้าง ไก่ เปด็ 7. ส่งิ ของใดต่อไปนเ้ี รยี งจากน้าหนกั มากไปหาน้อยทง้ั หมด ก. กระดาษ รองเทา้ ถงุ เทา้ ข. กระเป๋า สมดุ ปากกา ค. ม้า ชา้ ง ววั 8. ผลไมช้ นิดใดหนักสดุ ก. ทเุ รียน ข. มะขาม ค. มะยม 9. ส่ิงของใดหนักสดุ ก. กลอ่ งเปลา่ ข. แปลงสีฟัน ค. อฐิ 10. สิ่งของใดเบาสุด ก. สมุด ข. ยางลบ ค. หนงั สือเรยี น
Search
Read the Text Version
- 1 - 34
Pages: