ประวตั ิสุนทรภู่ วยั เยาว์ อนุสาวรียท์ ี่วดั ศรีสุดาราม กรุงเทพ
สุนทรภู่ มีชอื่ เดิมวา่ ภู่ เกดิ ในสมยั รัชกาลท่ี 1 แหง่ กรงุ รัตนโกสินทร์ เมอื่ วันจันทร์ เดอื น 8 ขนึ้ 1 คำ่ ปีมะเมีย จลุ ศักราช 1148 เวลาเชา้ 2 โมง (ตรงกบั วันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2329) ณ บริเวณดา้ นเหนือของพระราชวังหลงั ซง่ึ เป็นบริเวณสถานีรถไฟบางกอก น้อยปัจจุบนั น้ี เช่อื วา่ หลงั จากสุนทรภู่เกดิ ได้ไมน่ าน บดิ ามารดาก็หยา่ รา้ งกนั บดิ าออกไปบวชอยทู่ ่ีวัดป่ากรำ่ อันเปน็ ภูมลิ ำเนาเดมิ สว่ น มารดาไดเ้ ขา้ ไปอยู่ในพระราชวังหลัง ถวายตวั เปน็ นางนมของพระองคเ์ จา้ หญิงจงกล พระธดิ าในเจ้าฟ้ากรมหลวงอนรุ กั ษเ์ ทเวศร์ ดังนั้น สนุ ทรภู่จึงไดอ้ ย่ใู นพระราชวงั หลังกับมารดา และไดถ้ วายตวั เป็นขา้ ในกรมพระราชวงั หลงั สนุ ทรภ่ยู ังมีนอ้ งสาวตา่ งบดิ าอกี สองคน ชือ่ ฉมิ และนม่ิ เชอ่ื กันวา่ ในวยั เด็กสนุ ทรภูไ่ ดร้ ำ่ เรยี นหนังสอื กบั พระในสำนกั วดั ชีปะขาว (ซ่งึ ต่อมาไดร้ บั พระราชทานนามในรัชกาลที่ 4 ว่า วดั ศรี สุดาราม อย่รู ิมคลองบางกอกน้อย) ตามเน้ือความส่วนหนงึ่ ที่ปรากฏใน นริ าศสุพรรณ[8] ตอ่ มาได้เข้ารบั ราชการเป็นเสมียนนายระวางกรม พระคลงั สวน ในกรมพระคลงั สวน[9] แต่ไมช่ อบทำงานอ่นื นอกจากแต่งบทกลอน ซึง่ สามารถแตง่ ไดด้ ตี ง้ั แต่ยังรุ่นหน่มุ จากสำนวนกลอน ของสนุ ทรภู่ เชื่อวา่ ผลงานท่มี กี ารประพันธ์ขึน้ กอ่ นสนุ ทรภู่อายุได้ 20 ปี (คอื กอ่ น นริ าศเมอื งแกลง) เห็นจะไดแ้ ก่กลอนนทิ านเรอ่ื ง โค บตุ ร[10] สุนทรภลู่ อบรกั กับนางขา้ หลวงในวังหลงั คนหนงึ่ ชือ่ แมจ่ ัน ชะรอยว่าหลอ่ นจะเปน็ บตุ รหลานผมู้ ตี ระกูล จงึ ถกู กรมพระราชวงั หลงั กรวิ้ จนถงึ ให้โบยและจำคุกคนทั้งสอง แตเ่ มอ่ื กรมพระราชวังหลังเสดจ็ ทวิ งคตในปี พ.ศ. 2349 จึงมกี ารอภยั โทษแกผ่ ู้ถกู ลงโทษทง้ั หมด ถวายเป็นพระราชกศุ ล หลงั จากสุนทรภอู่ อกจากคกุ ก็เดนิ ทางไปหาบดิ าทเ่ี มอื งแกลง จังหวัดระยอง การเดนิ ทางครัง้ นส้ี ุนทรภไู่ ด้ แตง่ นิราศเมืองแกลง พรรณนาสภาพการเดนิ ทางตา่ ง ๆ เอาไวโ้ ดยละเอยี ด และลงทา้ ยเรอื่ งวา่ แต่งมาให้แกแ่ มจ่ นั \"เปน็ ขันหมากมิง่ มิตร พสิ มยั \" ในนิราศไดบ้ นั ทึกสมณศกั ดขิ์ องบิดาของสุนทรภ่ไู ว้ดว้ ยวา่ เปน็ \"พระครูธรรมรงั ษ\"ี เจา้ อาวาสวดั ป่ากรำ่ กลบั จากเมืองแกลง คราวนี้ สุนทรภู่จงึ ไดแ้ มจ่ นั เปน็ ภรรยา
แตก่ ลับจากเมอื งแกลงเพียงไมน่ าน สุนทรภตู่ อ้ งติดตามพระองคเ์ จา้ ปฐมวงศ์ในฐานะมหาดเล็กตามเสด็จไปในงานพิธมี าฆบชู าท่ีพระ พุทธบาท (เขตจังหวดั สระบรุ ใี นปจั จุบัน) เม่ือปี พ.ศ. 2350 สุนทรภู่ได้แต่ง นริ าศพระบาท พรรณนาเหตุการณใ์ นการเดินทางคราวน้ี ดว้ ย สนุ ทรภู่กบั แม่จนั มีบุตรดว้ ยกัน 1 คน ชอื่ หนพู ดั ได้อยใู่ นความอุปการะของเจา้ ครอกทองอยู่ ส่วนหนุ่มสาวท้งั สองมเี รอื่ ง ระหองระแหงกนั เสมอ จนภายหลงั ก็เลิกรากันไป หลังจาก นิราศพระบาท ที่สนุ ทรภู่แตง่ ในปี พ.ศ. 2350 ไมป่ รากฏผลงานใด ๆ ของสนุ ทรภอู่ กี เลยจนกระทง่ั เขา้ รับราชการในปี พ.ศ. 2359 ตำแหนง่ อาลกั ษณ์ สนุ ทรภไู่ ด้เขา้ รบั ราชการในกรมพระอาลักษณเ์ มอื่ พ.ศ. 2359 ในรชั สมยั รัชกาลที่ 2 มลู เหตใุ นการได้เข้ารบั ราชการน้ี ไมป่ รากฏ แน่ชัด แต่สันนษิ ฐานวา่ อาจแตง่ โคลงกลอนไดเ้ ป็นทพ่ี อพระทัย ทราบถงึ พระเนตรพระกรรณจึงทรงเรยี กเข้ารบั ราชการ แนวคิดหน่ึงว่า สนุ ทรภ่เู ปน็ ผแู้ ตง่ กลอนในบัตรสนเทห่ ์ ซง่ึ ปรากฏชกุ ชุมอยู่ในเวลานน้ั อีกแนวคิดหนึ่งสบื เนอ่ื งจาก \"ช่วงเวลาทห่ี ายไป\" ของสุนทรภู่ ซ่งึ น่าจะใช้วชิ ากลอนทำมาหากินเปน็ ที่รู้จักเลอ่ื งชอ่ื อยู่ ชะรอยจะเปน็ เหตใุ ห้ถกู เรียกเขา้ รับราชการก็ได้ เมือ่ แรกสนุ ทรภรู่ ับราชการเปน็ อาลักษณป์ ลายแถว มีหน้าทเ่ี ฝา้ เวลาทรงพระอักษรเพ่อื คอยรบั ใช้ แตม่ เี หตุให้ได้แสดงฝีมือกลอน ของตวั เม่ือพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหล้านภาลัยทรงแตง่ กลอนบทละครในเรือ่ ง \"รามเกียรต\"ิ์ ตดิ ขดั ไม่มผี ู้ใดต่อกลอนไดต้ ้องพระราช หฤทัย จงึ โปรดใหส้ ุนทรภทู่ ดลองแต่ง ปรากฏวา่ แต่งไดด้ ีเป็นท่ีพอพระทยั จงึ ทรงพระกรณุ าฯ เลื่อนใหเ้ ป็น ขุนสุนทรโวหาร การตอ่ กลอน ของสนุ ทรภ่คู ราวนเี้ ป็นทร่ี จู้ ักทวั่ ไป เน่อื งจากปรากฏรายละเอยี ดอยู่ในพระนพิ นธ์ ชีวติ และงานของสุนทรภู่ ของสมเดจ็ ฯ กรมพระยา ดำรงราชานุภาพ บทกลอนในรามเกียรต์ิที่สนุ ทรภ่ไู ดแ้ ต่งในคราวนนั้ คอื ตอนนางสีดาผกู คอตาย และตอนศกึ สิบขนุ สิบรถ ฉากบรรยายรถ ศกึ ของทศกณั ฐ์ สนุ ทรภไู่ ด้เลื่อนยศเป็น หลวงสุนทรโวหาร ในเวลาตอ่ มา ไดร้ ับพระราชทานบา้ นหลวงอยทู่ ี่ทา่ ช้าง ใกล้กบั วงั ท่า
พระ และมตี ำแหนง่ เข้าเฝ้าเป็นประจำ คอยถวายความเห็นเกีย่ วกบั พระราชนิพนธแ์ ละพระนิพนธ์วรรณคดีเรอ่ื งต่าง ๆ รวมถึงไดร้ ว่ มใน กิจการฟืน้ ฟศู ลิ ปวฒั นธรรมช่วงตน้ กรุงรัตนโกสนิ ทร์ โดยเป็นหนึ่งในคณะร่วมแต่ง ขนุ ช้างขนุ แผน ข้นึ ใหม่ ระหวา่ งรับราชการ สุนทรภตู่ ้องโทษจำคุกเพราะถกู อทุ ธรณ์ว่าเมาสรุ าทำรา้ ยญาตผิ ใู้ หญ่ แตจ่ ำคุกได้ไม่นานกโ็ ปรดพระราชทานอภยั โทษ เลา่ กันวา่ เนอื่ งจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลศิ หลา้ นภาลัยทรงตดิ ขดั บทพระราชนิพนธเ์ รอื่ งสังขท์ อง ไม่มีใครแต่งไดต้ อ้ ง พระทัย ภายหลังพน้ โทษ สุนทรภไู่ ด้เป็นพระอาจารยถ์ วายอักษรสมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ เจ้าฟ้าอาภรณ์ พระราชโอรสในรชั กาลท่ี 2 เช่ือว่าสุนทรภแู่ ต่งเรอื่ ง สวสั ดิรกั ษา ในระหว่างเวลานี้ ในระหวา่ งรบั ราชการอย่นู ้ี สุนทรภแู่ ต่งงานใหมก่ ับแมน่ ม่ิ มีบุตรด้วยกนั หนึ่งคน ชอ่ื พอ่ ตาบ ออกบวช
กุฏวิ ดั เทพธิดารามทส่ี ุนทรภูบ่ วชจำพรรษา เปน็ สถานทคี่ น้ พบวรรณกรรมทีท่ รงคณุ ค่ามากมายเช่น พระอภัยมณี ฯลฯ ทท่ี า่ นเก็บซ่อนไว้ ใต้เพดานหลังคากุฏขิ องท่าน สนุ ทรภรู่ ับราชการอยู่เพียง 8 ปี เมอื่ ถงึ ปี พ.ศ. 2367 พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลัยเสด็จสวรรคต หลังจากนน้ั สนุ ทรภู่ กอ็ อกบวช แตจ่ ะไดล้ าออกจากราชการกอ่ นออกบวชหรือไม่ยงั ไม่ปรากฏแนช่ ัด แม้จะไมป่ รากฏโดยตรงวา่ สุนทรภู่ไดร้ บั พระบรม ราชปู ถัมภจ์ ากราชสำนกั ใหม่ในพระบาทสมเดจ็ พระน่งั เกลา้ เจ้าอยหู่ วั แตก่ ไ็ ดร้ บั พระอปุ ถมั ภ์จากพระบรมวงศานวุ งศพ์ ระองคอ์ ืน่ อยู่เสมอ เชน่ ปี พ.ศ. 2372 สนุ ทรภไู่ ดเ้ ป็นพระอาจารยถ์ วายอกั ษรเจ้าฟา้ กลางและเจ้าฟ้าป๋วิ พระโอรสในเจ้าฟ้ากณุ ฑลทพิ ยวดี ปรากฏความอยู่ ใน เพลงยาวถวายโอวาท นอกจากนั้นยังได้อยใู่ นพระอปุ ถัมภข์ องพระองค์เจา้ ลกั ขณานคุ ณุ และกรมหมน่ื อปั สรสุดาเทพ ซงึ่ ปรากฏ เน้ือความในงานเขยี นของสนุ ทรภู่บางเรอ่ื งวา่ สนุ ทรภู่แต่งเรือ่ ง พระอภัยมณี และ สงิ หไตรภพ ถวาย สุนทรภูบ่ วชอยเู่ ปน็ เวลา 18 ปี ระหว่างนั้นไดย้ า้ ยไปอยวู่ ดั ตา่ ง ๆ หลายแห่ง เทา่ ทพี่ บระบใุ นงานเขยี นของท่านไดแ้ ก่ วัดเลียบ วัด แจ้ง วัดโพธิ์ วดั มหาธาตุ และวัดเทพธิดาราม งานเขยี นบางชิน้ ส่อื ใหท้ ราบว่า ในบางปี ภิกษุภู่เคยตอ้ งเรร่ อ่ นไมม่ ีทีจ่ ำพรรษาบ้าง เหมอื นกัน ผลจากการท่ภี ิกษภุ เู่ ดนิ ทางธุดงคไ์ ปท่ตี า่ ง ๆ ทว่ั ประเทศ ปรากฏผลงานเปน็ นิราศเรอ่ื งตา่ ง ๆ มากมาย และเช่ือวา่ นา่ จะยังมี นริ าศทคี่ น้ ไมพ่ บอกี เป็นจำนวนมาก งานเขียนชน้ิ สดุ ทา้ ยทภ่ี กิ ษุภแู่ ตง่ ไว้ก่อนลาสกิ ขาบท คือ รำพันพลิ าป โดยแตง่ ขณะจำพรรษาอยู่ทว่ี ัดเทพธดิ าราม พ.ศ. 2385 ชว่ งปลายของชีวติ ปี พ.ศ. 2385 ภกิ ษภุ จู่ ำพรรษาอยทู่ ีว่ ัดเทพธิดาราม ท่มี ีกรมหมน่ื อปั สรสดุ าเทพทรงอุปถัมภ์[1] คนื หนึ่งหลบั ฝันเห็นเทพยดาจะมา รับตัวไป เมื่อตนื่ ขึ้นคิดวา่ ตนถงึ ฆาตจะตอ้ งตายแล้ว จงึ ประพันธเ์ รอ่ื ง รำพันพลิ าป พรรณนาถึงความฝนั และเลา่ เรอ่ื งราวต่าง ๆ ทไ่ี ด้ ประสบมาในชีวติ หลังจากนน้ั กล็ าสกิ ขาบทเพ่ือเตรยี มตวั จะตาย ขณะนน้ั สุนทรภมู่ อี ายุได้ 56 ปี
หลงั จากลาสกิ ขาบท สนุ ทรภไู่ ด้รับพระอุปถมั ภจ์ ากเจา้ ฟ้านอ้ ย หรอื สมเด็จเจ้าฟ้าจฑุ ามณี กรมขนุ อิศเรศรงั สรรค์ รบั ราชการสนอง พระเดชพระคุณทางดา้ นงานวรรณคดี สุนทรภแู่ ต่ง เสภาพระราชพงศาวดาร บทเหก่ ลอ่ มพระบรรทม และบทละครเรอื่ ง อภยั นุ ราช ถวาย รวมถึงยังแตง่ เร่อื ง พระอภยั มณี ถวายใหก้ รมหม่นื อปั สรสดุ าเทพด้วย เมอื่ ถึงปี พ.ศ. 2394 พระบาทสมเดจ็ พระนั่งเกลา้ เจ้าอยู่หวั เสดจ็ สวรรคต เจ้าฟา้ มงกฎุ เสดจ็ ขน้ึ ครองราชยเ์ ป็นพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยู่หวั และทรงสถาปนาเจา้ ฟา้ นอ้ ยขน้ึ เปน็ พระบาทสมเดจ็ พระป่ินเกล้าเจ้าอยหู่ วั สุนทรภู่จึงไดร้ ับแต่งตั้งเป็นเจ้ากรมอาลกั ษณฝ์ า่ ยพระราชวังบวร มบี รรดาศกั ดเ์ิ ปน็ พระ สุนทรโวหาร ช่วงระหวา่ งเวลานส้ี นุ ทรภไู่ ดแ้ ตง่ นิราศเพม่ิ อีก 2 เรอื่ ง คอื นิราศพระประธม และ นิราศเมอื งเพชร สนุ ทรภพู่ ำนักอยู่ในเขตพระราชวงั เดมิ ใกล้หอนง่ั ของพระยามนเทยี รบาล (บัว) มีหอ้ งส่วนตัวเปน็ หอ้ งพักกั้นเฟ้ยี มท่ีเรยี กช่อื กนั ว่า \"ห้องสุนทรภู\"่ เชอ่ื ว่าสนุ ทรภ่พู ำนักอยทู่ ีน่ ี่ตราบจนถงึ แกอ่ นจิ กรรม[15] เม่อื ปี พ.ศ. 2398 สริ ิรวมอายไุ ด้ 69 ปี ทายาท สนุ ทรภมู่ ีบุตรชายสามคน คือพอ่ พัด เกิดจากภรรยาคนแรกคอื แมจ่ ัน พอ่ ตาบ เกิดจากภรรยาคนทส่ี องคอื แม่น่มิ และพอ่ นลิ เกิด จากภรรยาท่ีช่อื แมม่ ว่ ง นอกจากนป้ี รากฏชื่อบตุ รบญุ ธรรมอีกสองคน ชือ่ พอ่ กล่ัน และพ่อชุบ พอ่ พัดนีเ้ ปน็ ลูกรัก ไดต้ ดิ สอยหอ้ ยตามสนุ ทรภอู่ ย่เู สมอ เม่อื คร้งั สนุ ทรภู่ออกบวช พอ่ พดั ก็ออกบวชด้วย[16] เมื่อสนุ ทรภ่ไู ดม้ ารับ ราชการกบั เจา้ ฟ้านอ้ ย พอ่ พัดก็มาพำนักอยู่ดว้ ยเชน่ กนั ส่วนพอ่ ตาบน้นั ปรากฏวา่ ได้เปน็ กวีมีช่ืออย่พู อสมควร[12] เม่อื ถงึ รชั สมัย พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกล้าเจา้ อยหู่ วั ทรงตราพระราชบัญญัตินามสกุลขน้ึ ตระกูลของสนุ ทรภไู่ ดใ้ ชน้ ามสกลุ ตอ่ มาว่า ภเู่ รอื หงส์ (บาง สายสกลุ อาจเปน็ ภรู่ ะหงษ์] เร่อื งนามสกุลของสนุ ทรภู่นี้ ก.ศ.ร. กหุ ลาบ เคยเขยี นไว้ในหนังสอื สยามประเภท อา้ งถงึ ผู้ถอื นามสกลุ ภู่เรอื หงส์ ที่ได้รับบำเหน็จจากหมอสมิทเป็นคา่ พมิ พห์ นังสือเรอื่ ง พระอภยั มณี แตห่ นังสือของ ก.ศ.ร. กุหลาบ ไมเ่ ปน็ ทย่ี อมรบั ของราชสำนัก
ดว้ ยปรากฏอยบู่ อ่ ยครั้งว่ามักเขียนเร่ืองกุ เรอื่ งนามสกุลของสุนทรภู่จึงพลอยไมไ่ ด้รับการเชื่อถอื ไปด้วย จนกระทง่ั ศ.ผะอบ โปษะกฤษณะ ยืนยันความขอ้ นี้เนอื่ งจากเคยไดพ้ บกบั หลานปู่ของพ่อพัดมาด้วยตนเอง การสร้างวรรณกรรม งานประพนั ธว์ รรณคดีในยคุ ก่อนหนา้ สุนทรภู่ คือยคุ อยธุ ยาตอนปลาย ยงั เป็น วรรณกรรมสาหรับชนช้นั สูง ไดแ้ กร่ าชสานกั และขนุ นาง เป็นวรรณกรรมท่ีสร้าง ข้ึนเพ่อื การอ่านและเพอื่ ความรู้หรือพิธีการ เช่น กาพย์มหาชาติ หรือ พระมาลยั คาหลวง ทวา่ งานของสุนทรภเู่ ป็นการปฏิวตั ิการสร้างวรรณกรรมแห่งยคุ รัตนโกสินทร์ คือเป็นวรรณกรรมสาหรับคนทวั่ ไป เป็นวรรณกรรมสาหรับการฟัง และความบนั เทิง เห็นไดจ้ ากงานเขียนนิราศเรื่องแรกคือ นิราศเมืองแกลง มีท่ี ระบุไวใ้ นตอนทา้ ยของนิราศวา่ แต่งมาฝากแม่จนั รวมถึงใน นิราศพระ บาท และ นิราศภเู ขาทอง ซ่ึงมีถอ้ ยคาสื่อสารกบั ผอู้ า่ นอยา่ งชดั เจน วรรณกรรม เหล่าน้ีไม่ใช่วรรณกรรมสาหรับการศึกษา และไมใ่ ช่สาหรับพธิ ีการ
สาหรับวรรณกรรมท่ีสร้างข้ึนโดยหนา้ ท่ีตามท่ีไดร้ ับพระบรมราชโองการ มี ปรากฏถึงปัจจุบนั ไดแ้ ก่ เสภาเร่ืองขนุ ช้างขนุ แผน ตอน กาเนิดพลายงาม ในสมยั รัชกาลท่ี 2 และ เสภาพระราชพงศาวดาร ในสมยั รัชกาลท่ี 4 ส่วนท่ีแต่งข้ึนเพอ่ื ถวายแด่องคอ์ ปุ ถมั ภ์ ไดแ้ ก่ สิงหไตรภพ เพลงยาวถวายโอวาท สวสั ดิรักษา บท เห่กล่อมพระบรรทม และ บทละครเรื่อง อภยั นรุ าช งานประพนั ธ์ของสุนทรภ่เู กือบท้งั หมดเป็นกลอนสุภาพ ยกเวน้ พระไชย สุริยา ท่ีประพนั ธเ์ ป็นกาพย์ และ นิราศสุพรรณ ที่ประพนั ธ์เป็นโคลง ผลงานส่วน ใหญ่ของสุนทรภเู่ กิดข้ึนในขณะตกยาก คือเมื่อออกบวชเป็นภิกษแุ ละเดินทาง จาริกไปทวั่ ประเทศ สุนทรภ่นู ่าจะไดบ้ นั ทึกการเดินทางของตนเอาไวเ้ ป็นนิราศ ต่าง ๆ จานวนมาก แต่หลงเหลือปรากฏมาถึงปัจจุบนั เพียง 9 เรื่องเท่าน้นั เพราะ งานเขียนส่วนใหญ่ของสุนทรภู่ถูกปลวกทาลายไปเสียเกือบหมดเมื่อคร้ังจาพรรษา อยทู่ ่ีวดั เทพธิดาราม
ภาพกฏุ สิ ุนทรภู่ ภายในวดั เทพธิดาราม กรงุ เทพฯ ปจั จบุ นั เปดิ เป็นพพิ ิธภณั ฑ์สนุ ทรภู่
ผลงานสนุ ทรภ่ทู ี่โดดเดน่ คือ “พระอภยั มณ”ี
บทกลอนนิทานเรอ่ื งนีไ้ ดร้ บั การยกยอ่ งครงั้ แรกจากวรรณคดีสโมสร ว่าเป็นสดุ ยอดวรรณคดีไทยประเภท กลอนนิทาน และเรอ่ื งนีไ้ ดร้ บั การแปลเป็นภาษาต่างประเทศ และในปี พ.ศ.2529 สนุ ทรภ่ไู ดร้ บั การยกยอ่ ง จากยเู นสโกใหเ้ ป็นบคุ คลสาคญั ของโลกดา้ นวรรณกรรม ความโดดเดน่ ของ “พระอภยั มณี” แสดงใหเ้ หน็ วา่ สนุ ทรภ่เู ป็นผทู้ ่ีมคี วามสนใจในเทคโนโลยแี ละ นวตั กรรมสมยั ใหม่จากชาวต่างชาติท่เี ขา้ มาเผยแพรใ่ นพระนครในสมยั นนั้ คาดวา่ สนุ ทรภ่จู ะพูดภาษาองั กฤษ ได้ และไดแ้ ลกเปลี่ยนความรูก้ บั ชาวต่างชาติ ดงั สงั เกตเห็นไดจ้ ากตวั ละครผหู้ ญิงท่ขี นึ้ มาเป็นผนู้ า เป็นเจา้ เมอื ง และมสี ิทธิ์ตดั สนิ ใจ แตกตา่ งจากสตรไี ทยในยคุ นนั้ ท่ีจะตอ้ งอยกู่ บั เหยา้ เฝา้ กบั เรอื น ไม่มบี ทบาทขนึ้ มาทางาน เทยี บเท่าผชู้ ายได้ ผลงานสุนทรภทู่ งั้ หมด นิราศ 9 เร่อื ง ไดแ้ ก่ • นิราศเมืองแกลง (พ.ศ.2349) • นริ าศพระบาท (พ.ศ.2350)
• นิราศภเู ขาทอง (ประมาณ พ.ศ.2371) • นิราศสพุ รรณ (ประมาณ พ.ศ.2374) • นริ าศวดั เจา้ ฟ้า (ประมาณ พ.ศ.2375) • นิราศอเิ หนา (คาดวา่ เป็นสมยั รชั กาลท่ี 3) • ราพนั พลิ าป (พ.ศ.2385) • นริ าศพระประธม (พ.ศ.2385) • นิราศเมืองเพชร (พ.ศ.2388) นิทานกลอน 5 เรอ่ื ง • โคบตุ ร • พระอภยั มณี • พระไชยสรุ ยิ า
• ลกั ษณวงศ์ • สิงหไกรภพ สภุ าษิต 3 เรอ่ื ง • สวสั ดิรกั ษา • เพลงยาวถวายโอวาท • สภุ าษิตสอนหญิง บทละคร 1 เรอ่ื ง • อภยั นรุ าช บทเสภา 2 เร่อื ง ขนุ ชา้ งขนุ แผนตอนกาเนิดพลายงาม เสภาพระราชพงศาวดาร
บทเห่กลอ่ มพระบรรทม 4 เรอ่ื ง • เห่เร่อื งพระอภยั มณี • เห่เรอ่ื งโคบตุ ร • เห่เรอ่ื งจบั ระบา • เหเ่ ร่อื งกากี
ผลงานสุนทรภู่
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: