Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ebook-32

ebook-32

Published by ju_sureerut, 2020-06-12 03:40:26

Description: ebook-32

Search

Read the Text Version

ปที ่ี 39 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม-มนี าคม 2561 ฉบบั อเิ ล็กทรอนิกส์ 32

ปีท่ี 39 ฉบับที่ 1 มกราคม-มนี าคม 2561 ฉบบั อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 26 สารบญั บทความ หยุดชะงักไป มาเร่ิมตนอีกครั้ง ป 2008 ทดลองปลูกท่ีรัฐโอ 2 การจดั ระดับการเตบิ โตของตน้ ยางพันธุ์ RRIT 251 สหรัฐอเมริกา ป 2012 ไดจดสิทธิบัตรยางลอรถยนตจากแดนดิไล 11 ผลของระยะเวลาการขัดผิวเมล็ดโดยใชก้ รดซลั ฟูรกิ เข้มขน้ NovaBioRubber Green Technologies ป ร ะเท ศ แ ค น าด า ป ต่อความงอกของเมลด็ ถวั่ มคู นู า แบรค็ เทยี ตาบริษัทบริดสโตน รวมกับมหาวิทยาลัยโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา เส 19 แนวทางในการพฒั นาศกั ยภาพอุตสาหกรรมไม้ยางพารายางจากแดนดิไลออนเปนยางลอรถยนต และป 2015 Novabio แ ล ะม ห า วิ ท ย าลั ย แ ค น าด า ร ว ม มื อ กั น วิ จั ย แ ล ะพั ฒ น า โร ในเขตพื้นท่ีภาคใต้อตุ สาหกรรมผลติ ยางลอรถยนตจากแดนดิไลออน 33 รัสเซยี น แดนดไิ ลออน พชื ให้นำ�้ ยางอกี ชนิดหน่ึง ซ่ึงในอนาคต อาจเป็นคูแ่ ขง่ ของยางพาราได้

บทบรรณาธกิ าร การท�ำสวนยางพารา มีอตุ สาหกรรมเกิดขึน้ 2 ด้าน อยา่ งไรก็ตาม อตุ สาหกรรมเฟอรน์ เิ จอร์ไมย้ างของ คือ อุตสาหกรรมน�้ำยาง และ อุตสาหกรรมไม้ยางพารา ไทยยังมีปัญหาการกีดกันทางการค้าจากตลาดยุโรป โดยอุตสาหกรรมท้ัง 2 ดา้ นนี้ ประกอบดว้ ยอตุ สาหกรรม นอกจากน้ี บางครั้งผู้ผลิตไม้แปรรูปนิยมส่งออกไปต่าง ต้นน้�ำ กลางน�้ำ และปลายน�้ำ มีความเกี่ยวข้องกับผู้คน ประเทศท่ีให้ผลตอบแทนสูงกว่าขายในประเทศ เช่น มากมาย หลากหลายอาชีพ และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซ่ึงเป็นคู่แข่งในอุตสาหกรรม หลายแสนล้านบาท เฟอร์นิเจอร์ และมีความต้องการไม้แปรรูปเป็นจ�ำนวน ที่ผ่านมา นโยบายของรัฐบาลได้มุ่งเน้นการใช้ มาก ท�ำให้ผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์มีความยุ่งยากใน ประโยชน์จากน้�ำยางพาราเป็นหลัก มิได้มองเห็น การบริหารจัดการวัตถุดิบ และวางแผนด้านการตลาด ประโยชน์จากการน�ำไม้ยางพาราไปใช้ ทั้ง ๆ ที่ นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ส่งออกเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา มี ประเทศไทยมีก�ำลังผลิตไม้ท่อนป้อนสู่อุตสาหกรรมไม้ ปัญหาขาดเงินทุนหมุนเวียน รวมท้ังเสียเปรียบคู่แข่งขัน ยางพาราของประเทศประมาณปลี ะ 300,000 ไร่ คดิ เป็น ในด้านต่าง ๆ เช่น คุณภาพวัตถุดิบ ต้นทุนการผลิตและ ปริมาณเนื้อไม้ประมาณ 11.4 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี คา่ ขนส่ง ตน้ ทุนคา่ แรงงาน และการออกแบบสินค้า และสามารถน�ำไม้ยางพารามาใช้ประโยชน์ได้ร้อยละ ในสถานกาณ์เช่นน้ี จึงได้มีการศึกษาแนวทางใน 70-75 ของปริมาณไม้ท่อนที่ผลิตได้ต่อไร่ โดยไม้ การพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไม้ยางพารา โดย ยางพาราส่วนใหญ่จะถูกน�ำมาผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์ และ เฉพาะในเขตพ้นื ทภี่ าคใต้ ซึ่งเป็นแหล่งใหญข่ องการปลูก ไมย้ างพาราแปรรูป ซึ่งมีมูลค่าสง่ ออกไมต่ �่ำกวา่ ปีละหมื่น ยางของประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพ ล้านบาท เนื่องจากอุตสาหกรรมไม้ยางพาราขยาย ท่ัวไปของการแปรรูปไม้ยางพารา และการผลิต ตัวอย่างรวดเร็ว และเป็นท่ีต้องการของตลาดทั้งในและ เฟอรน์ ิเจอร์ไมย้ างพารา ตั้งแต่ตน้ น�้ำ กลางนำ�้ และปลาย ต่างประเทศ อาทิ เครื่องเรือนไม้ ของเล่น แผ่นไม้อัด น�้ำ รวมทั้งศึกษาศักยภาพในการแข่งขันของโรงงาน ไม้ปาร์เกต์ ไม้เสาเข็ม ล้อไม้พันสายไฟ เชื้อเพลิง ลังใส่ แปรรูปเฟอร์นิเจอร์ไม้ยาง โดยแบ่งกลุ่มเป้าหมายออก ปลา เปน็ ต้น เป็น 3 กลมุ่ คือ เกษตรกรผ้ทู ีข่ ายไมย้ างพารา ลานรับซือ้ อุตสาหกรรมปลายน้�ำ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิต ไม้ยางพารา และผู้ประกอบการแปรรูปไม้ยางพาราและ เฟอร์นิเจอร์ เป็นกลุ่มสินค้าท่ีสร้างมูลค่าเพิ่มจากไม้ เฟอรน์ ิเจอรไ์ มย้ างพารา ซึง่ รายละเอียดผลของการศกึ ษา ยางพาราได้มากที่สุดเม่ือเทียบกับอุตสาหกรรมต้นน�้ำ ครั้งนีไ้ ดต้ พี มิ พ์ลงในวารสารฉบบั นี ้ และกลางน�้ำ และมูลค่าการส่งออกมีแนวโน้มเพ่ิมข้ึน อยา่ งต่อเน่อื ง ดร. วทิ ยา พรหมมี บรรณาธิการ เจา้ ของ: สถาบนั วิจัยยาง การยางแห่งประเทศไทย เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 บรรณาธกิ ารบริหาร: นายพิเชฏฐ์ พรอ้ มมูล ผูอ้ �ำ นวยการสถาบนั วจิ ัยยาง บรรณาธิการ: ดร. วิทยา พรหมมี กองบรรณาธกิ าร: ดร.ฐติ าภรณ์ ภูมไิ ชย,์ ดร.พิศมัย จนั ทุมา, นางสาวภรภทั ร สุชาตกิ ลู , นางปรดี ์ิเปรม ทัศนกุล, นางอารมณ์ โรจน์สุจิตร, นางสาวอธิวณี ์ แดงกนิษฐ์ ผ้จู ัดการสอ่ื สิ่งพิมพ:์ ดร. วิทยา พรหมมี ผ้จู ัดการสอ่ื อิเล็กทรอนกิ ส:์ นายชยั วฒั น์ ยศพมิ สาร ผชู้ ว่ ยผู้จัดการสอื่ อิเลก็ ทรอนกิ ส:์ นายอาเดล มะหะหมดั พิสูจน์อกั ษร: นางอบุ ลพรรณ แสงเดช

2 ฉบบั อิเลก็ ทรอนกิ ส์ 32 มกราคม-มีนาคม 2561 การจดั ระดบั การเตบิ โตของต้นยางพันธุ์ RRIT 251 ภรภทั ร สุชาติกูล ศูนย์วิจยั ยางสรุ าษฎรธ์ านี สถาบนั วจิ ยั ยาง การยางแหง่ ประเทศไทย วิธีวัดการเติบโตของพืชที่นิยมใช้และสามารถวัด นิยมใช้ในกรณีที่มีการเติบโตเป็น 2 มิติ ท้ังความกว้าง ได้อย่างง่าย ๆ ได้แก่ 1) การหาน�้ำหนักสด เป็นวิธีวัดท่ี หรือความยาว และความหนา ตวั อยา่ งในกรณีของใบทมี่ ี ท�ำได้ง่ายและอาจไม่จ�ำเป็นต้องท�ำลายหรือเป็นอันตราย การเพ่ิมขนาด หรือใบที่ก�ำลังขยายตัว (ลิลล่ี, 2549) วิธี ต่ออวัยวะพืชหรือระบบการเติบโตของต้นพืช อย่างไร การวัดการเตบิ โตต่าง ๆ ท่กี ล่าวมา จัดเปน็ วธิ หี ลกั ทน่ี ิยม ก็ตาม อวัยวะของพืชท่ีใช้วัดน้ันอาจต้องถูกแยกออกมา ใช้เป็นเกณฑ์ในการวัดการเติบโตของพืชชั้นสูง ส�ำหรับ จากต้นพืช หรือในบางกรณีท่ีต้องการวัดพืชทั้งต้น ต้อง ต้นยางวิธีที่นิยม คือ วัดความยาวเส้นรอบวงล�ำต้นที่ แยกตน้ พชื ออกมาจากดนิ หรอื วสั ดุปลูก ซ่ึงเป็นไปได้ยาก ความสูงจากพื้นดินระดับหน่ึง เช่น 150 หรือ 170 ท่ีจะไม่ท�ำให้เกิดการกระทบกระเทือนหรือเป็นอันตราย เซนตเิ มตรจากพน้ื ดนิ ต่อต้นพืช ดังนั้น การวัดหาน�้ำหนักสดของพืชในทาง พิศมัย (2551) กล่าวว่าขนาดล�ำต้นมีความ ปฏิบัติจ�ำเป็นต้องใช้วิธีสุ่มตัวอย่างต้นพืชมาเป็นระยะ ๆ สัมพนั ธก์ ับการเปดิ กรดี เน่อื งจากการเปดิ กรดี จะค�ำนึงถงึ จากตน้ พชื ที่มีอยเู่ ป็นล�ำดบั 2) การหานำ้� หนกั แหง้ ใหผ้ ล ขนาดของต้นยางมากกว่าอายุต้นยาง โดยต้นยางท่ี ดีกว่าน�้ำหนักสด เพราะน�้ำหนักสดของพืชที่เพิ่มขึ้นน้ัน พร้อมจะเปิดกรีดได้ควรมีความยาวเส้นรอบวงล�ำต้นไม่ อาจเป็นผลมาจากการท่ีต้นพืชท้ังต้นได้รับน้�ำเข้าไป ต�ำ่ กว่า 50 เซนตเิ มตร ทค่ี วามสูง 150 เซนติเมตรจากพ้ืน มากกว่าปกติ และน้�ำหนักสดท่ีวัดได้มีความแปรปรวน ดิน มจี �ำนวนไม่นอ้ ยกวา่ ครง่ึ หนึ่งของจ�ำนวนทงั้ หมด หรือ อย่างมากและไม่แน่นอน เนื่องจากได้รับน�้ำในปริมาณที่ มีจ�ำนวนต้นยางท่ีมีความยาวเส้นรอบวงล�ำต้นไม่ต�่ำกว่า แตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม ในต้นอ่อนของพืชท่ีเพ่ิง 45 เซนติเมตร มากกว่าร้อยละ 80 ของจ�ำนวนท้ังหมด งอกน้นั น้ำ� หนักแหง้ ของพืชท่กี �ำลังเรม่ิ เติบโตโดยปกติจะ การเติบโตของล�ำต้นมีผลต่อจ�ำนวนวงท่อน�้ำยาง ลดลง ขณะที่น้�ำหนักสดกลับมีค่าเพิ่มขึ้น ในกรณีเช่นนี้ เน่ืองจากเม่ือต้นยางอายุมากขึ้น เยื่อเจริญจะแบ่งตัว การหาน้�ำหนักสดจะเป็นวิธีการวัดการเติบโตท่ีดีกว่าการ ออกทางดา้ นนอกท�ำใหค้ วามหนาของเปลือกนอกเพ่ิมขึ้น หาน�้ำหนักแห้ง 3) การวัดความกว้างหรือความยาว เป็น ในขณะเดียวกันมีการสร้างท่อน้�ำยางเพ่ิมขึ้นควบคู่กันไป วิธีวัดที่เหมาะสมส�ำหรับวัดการเติบโตของอวัยวะพืชที่มี ด้วย ซ่ึงความหนาของเปลือกและจ�ำนวนวงท่อน�้ำยาง การเติบโตไปทิศทางใดทิศทางหน่ึง โดยมีการเพ่ิมของ โดยทั่วไปเพิ่มในอัตราค่อนข้างสูงเม่ือต้นยางอายุน้อย ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางอย่างสม�่ำเสมอ 4) การหาพื้นท่ี เนอ่ื งจากอยู่ในระหวา่ งการเตบิ โต การท�ำใหต้ ้นยางมกี าร

3 ฉบบั อิเลก็ ทรอนกิ ส์ 32 มกราคม-มีนาคม 2561 จากการศกึ ษาของ สายใจ และคณะ (2553) โดย การน�ำความยาวเสน้ รอบวงล�ำตน้ ของตน้ ยางพนั ธุ์ RRIM เติบโตที่สูงได้ต้องมีการจัดการที่ดี และดินต้องมีความ 600 อายุ 4 ปจี �ำนวน 4,154 ตน้ มาวเิ คราะห์การแจกแจง อดุ มสมบรู ณ์ หากดนิ ขาดธาตอุ าหารจะสง่ ผลให้การแบง่ ความถ่ี และพบว่าเส้นโค้งการแจกแจงมีลักษณะคล้าย ตัวของเยื่อเจริญไม่เป็นไปตามปกติ ต้นยางที่ปลูกใน ระฆงั คว�ำ่ (Gaussian distribution curve) แสดงให้เห็น สภาพเหมาะสม คือ มีความเป็นกรดเป็นด่างของดิน อิน ว่าตวั อย่างมีการกระจายตามโอกาสปกตขิ องความน่าจะ ทรียวัตถุ และปฏิสัมพันธ์ระหว่างธาตุอาหารพืชเหมาะ เป็น และสามารถใช้เป็นตัวแทนของพ้ืนท่ีศึกษาได้ จาก สมจะสามารถเปดิ กรีดได้เรว็ และใหผ้ ลผลติ สงู นั้นผู้วิจัยได้น�ำข้อมูลทั้งหมดมาจัดระดับการเติบโตของ การประเมินการเติบโตของต้นยางในแต่ละสวน ยาง (Ranking) เป็น 6 ระดบั คอื การเติบโตต่�ำมาก (Very นั้นท�ำได้ โดยน�ำค่าความยาวเส้นรอบวงล�ำต้นเฉลี่ยของ low), ต่�ำ (Low), ค่อนข้างต่�ำ (Moderately low), ค่อน สวนน้ันมาเทียบกับค่าระดับการเติบโตที่มีการจัดล�ำดับ ข้างดี (Moderately high), ดี (High), และดมี าก (Very ไว้เพื่อเป็นค่ามาตรฐานไว้เปรียบเทียบ เช่น ถ้าวัดความ high) โดยแต่ละระดับหา่ งกัน 6.4 เซนติเมตร (1 เทา่ ของ ยาวเส้นรอบวงล�ำตน้ ที่ความสงู 150 ซม. ของต้นยางอายุ ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน) (ตารางท่ี 2) ผลการจัดระดับ 3 ปี ในแปลงตา่ ง ๆ จ�ำนวน 3 แปลง ไดค้ า่ เฉลี่ยเทา่ กบั สอดคล้องกับมาตรฐานการเติบโตของต้นยาง ซึ่งเสนอ 30.0, 26.5 และ 24.7 ซม. ตามล�ำดบั จะประเมินวา่ ตน้ โดยสถาบนั วจิ ัยยาง (2550) ยางในแต่ละแปลงมีการเติบโตแตกต่างกันหรือไม่ และ ในการจัดระดับการเติบโตคร้ังน้ีจะท�ำการศึกษา อยู่ในระดับใด ต้องน�ำมาเทียบกับค่ามาตรฐานการ ตง้ั แต่ยางอายุ 1 ปี จนถงึ 7 ปี และแยกระดับช้นั วนิ ิจฉัย เติบโตที่วัดจากความสูงท่ีระดับเดียวกัน และค่า ออกเป็น ต่ำ� มาก ตำ�่ ค่อนขา้ งต่ำ� คอ่ นข้างดี ดี และดีมาก มาตรฐานควรเป็นค่าที่บอกเป็นช่วง (Range) เพ่ือให้ ท�ำการจัดระดับโดยการเก็บข้อมูลเส้นรอบวงล�ำต้นยาง สามารถครอบคลุมได้ทุกค่าที่วัดได้ ซ่ึงปัจจุบันยังไม่มีค่า ในแต่ละช่วงอายุ จากสวนยางพันธุ์ RRIT 251 มาตรฐานการเติบโตของยางพันธุ์ RRIT 251 ค่า (สถาบันวิจัยยาง 251) ให้กระจายครอบคลุมทุกระดับ มาตรฐานท่ีมีอยู่ในปัจจุบันเป็นค่ามาตรฐานการเติบโต การเติบโต จ�ำนวนหลาย ๆ สวน แล้วท�ำการแยกชั้น ของต้นยางพันธุ์ RRIM 600 และไม่ได้เป็นค่าที่บอกเป็น วินิจฉัยโดยใช้ทฤษฏี Gaussian distribution และใช้ค่า ช่วง โดยสถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร ได้ก�ำหนด Standard deviation ในการจดั ระดบั มาตรฐานการเติบโตของต้นยางพันธุ์ RRIM 600 ดัง แสดงไวใ้ นตารางท่ี 1 ตารางท่ี 1 ระดบั การเตบิ โตของตน้ ยางพนั ธ์ุ RRIM 600 กอ่ นเปดิ กรดี โดยใชค้ วามยาวเสน้ รอบวง ลำ� ตน้ ทค่ี วามสงู 150 เซนตเิ มตรจากพนื้ ดนิ อายุ (ป)ี ความยาวเส้นรอบวงล�ำต้น (ซม.) สูง 16 2 ต�่ำ ปานกลาง 27 3 12 14 37 4 21 24 46 5 29 33 52 6 36 41 43 47 ท่ีมา: ดัดแปลงจากสถาบนั วิจัยยาง (2550)

4 ฉบับอเิ ล็กทรอนิกส์ 32 มกราคม-มีนาคม 2561 ตารางที่ 2 ผลการจดั ระดบั การเตบิ โตของยางพนั ธ์ุ RRIM 600 อายุ 4 ปี โดยการวดั ความยาว เสน้ รอบวงลำ� ตน้ ทค่ี วามสงู 150 เซนตเิ มตร จากพน้ื ดนิ ระดับการเติบโต ความยาวเส้นรอบวงลำ� ตน้ (ซม.) ตำ่� มาก < 17.8 ต�่ำ 17.8 – 24.2 ค่อนขา้ งต�่ำ 24.3 – 30.6 คอ่ นข้างดี 30.7 – 37.0 ดี 37.1 – 43.5 ดมี าก > 43.5 ท่ีมา: สายใจ และคณะ (2553) การดำ� เนินการวจิ ัย จายของขอ้ มูลวา่ มีการกระจายแบบปกตหิ รือไม่ โดยการ วิเคราะห์การแจกแจงความถี่และแสดงภาพด้วยฮีสโต การเกบ็ ข้อมูล แกรม จากนั้นท�ำการจัดระดับการเติบโตของยาง ออก ด�ำเนินการรวบรวมข้อมูลที่อยู่เจ้าของสวนยาง เป็น 6 ระดับ คือ การเติบโตต่�ำมาก, ต่�ำ, ค่อนข้างต่�ำ, พร้อมที่ตั้งสวนยางของผู้ขอทุนสงเคราะห์การท�ำสวนยาง คอ่ นขา้ งดี, ด,ี และดมี าก โดยแตล่ ะระดับหา่ งกนั เทา่ กบั ท่ีปลูกยางพันธุ์ RRIT 251 อายุต้ังแต่ 1 ปี ถงึ 7 ปี ในพืน้ ท่ี ค่าเฉล่ียบวกลบดว้ ย 1 เทา่ ของคา่ เบย่ี งเบนมาตรฐาน จังหวดั สรุ าษฎร์ธานี จากการยางแห่งประเทศไทยจงั หวดั สุราษฎร์ธานี (สวนยางท่ีขอรับทุนสงเคราะห์การท�ำสวน ผลการวิจยั และวิจารณ์ ยางในปี 2552 ถึงปี 2559) จากน้นั ออกส�ำรวจเก็บขอ้ มลู ความยาวเส้นรอบวงล�ำต้นจากข้อมูลท่ีได้ โดยเลือก การส�ำรวจสวนยางท่ีปลูกยางพันธุ์ RRIT 251 ท่ี เฉพาะสวนยางท่ีมีขนาดสวน 3 - 5 ไร่ ข้ึนไป หรือมี มอี ายตุ ั้งแต่ 1 ถงึ 7 ปี ในพ้นื ท่จี ังหวดั สุราษฎรธ์ านี และ จ�ำนวนต้นยางไมต่ ่�ำกว่า 200 ต้น และเป็นแปลงทต่ี ้นยาง วัดขนาดเส้นรอบวงล�ำต้นของต้นยางระยะก่อนเปิดกรีด มีการเจริญเติบโตอย่างสม่�ำเสมอ ถ้าเป็นแปลงขนาด ท่ีระดับ 150 เซนติเมตรจากพื้นดิน จ�ำนวน 100 ต้นต่อ ใหญ่ ท�ำการคัดเลือกเฉพาะบางส่วนของแปลงที่มีความ สวน สามารถด�ำเนินการเก็บข้อมูลขนาดเส้นรอบวง สม�่ำเสมอของต้นยาง การเก็บข้อมูลในแต่ละช่วงอายุให้ ล�ำต้นได้ท้ังส้ิน 54,400 ต้น จากสวนยางจ�ำนวน 544 ครอบคลุมทุกระดับขนาดของต้นยางทั้งต่�ำ ปานกลาง แปลง แบง่ เป็นกลมุ่ ตน้ ยางที่มีอายตุ ่าง ๆ กนั ดังแสดงไว้ และสงู โดยวดั ความยาวเส้นรอบวงล�ำต้นท่คี วามสูง 150 ในตารางที่ 3 เซนตเิ มตร จากพนื้ ดินจ�ำนวน 100 ต้น/สวน จ�ำนวนอายุ จากน้ันน�ำข้อมูลขนาดความยาวเส้นรอบวงที่ได้ ละประมาณ 40 - 50 สวน ในแต่ละแปลงมาพิจารณาคัดเลือกตัดค่าท่ีต่างจากกลุ่ม การวิเคราะห์ข้อมูล มาก ๆ ในดา้ นต�่ำท้ิงไป โดยมสี มมตุ ฐิ านวา่ นา่ จะเป็นต้น ข้อมูลความยาวเส้นรอบวงล�ำต้นท่ีได้ท้ังหมดน�ำ ที่ปลูกซ่อมแทนต้นที่ตาย พบว่า มีจ�ำนวนข้อมูลท่ี มาหาค่าเฉลี่ย (Mean) และตรวจสอบลักษณะการกระ สามารถน�ำมาจัดระดับการเติบโตในกลุ่มอายุต่าง ๆ ดัง แสดงไวใ้ นตารางที่ 3

5 ฉบับอเิ ล็กทรอนกิ ส์ 32 มกราคม-มีนาคม 2561 ตารางที่ 3 การแบง่ กลมุ่ ตน้ ยางตามอายตุ า่ ง ๆ จากการสำ� รวจสวนยางทป่ี ลกู ยางพนั ธ์ุ RRIT 251 ทม่ี อี ายตุ ง้ั แต่ 1 - 7 ปี ในพน้ื ทจ่ี งั หวดั สรุ าษฏรธ์ านี อายุ (ป)ี จำ� นวน ต้น แปลง 6,800 (5,200) 15,500 (9,560) 1 - 2 68 10,300 (7,516) 7,500 (6,474) 2 - 3 155 8,300 (6,977) 6,000 (4,194) 3 - 4 103 54,400 ( 39,921) 4 - 5 75 5 - 6 83 6 - 7 60 รวม 544 หมายเหตุ: คา่ ในวงเลบ็ หมายถงึ จ�ำนวนตน้ ยางหลงั จากตดั คา่ ทต่ี ่างจากกลมุ่ มาก ๆ ในด้านต�ำ่ ท้งิ ไป ข้อมูลทคี่ ดั กรองแลว้ ในแตล่ ะกลุ่มอายนุ �ำมาหาคา่ ต้นยางในกลุ่มอายุ 2 - 3 ปี สูงสุด (Maximum) และค่�ำต่�ำสุด (Minimum) วัดแนว มีจ�ำนวนข้อมูล 9,560 ต้น มีขนาดเส้นรอบวง โน้มเข้าสู่ส่วนกลาง ได้แก่ ฐานนิยม (Mode) คือ ค่า ล�ำต้นสูงสุด 40.4 เซนติเมตร ต่�ำสุด 7.4 เซนติเมตร ข้อมูลท่ีพบบ่อยที่สุด มัธยฐาน (Median) คือ ค่าของ ฐานนิยมเท่ากับ 21.1 เซนติเมตร มัธยฐานเท่ากับ 21.1 ข้อมูลท่ีอยู่ก่ึงกลางของกลุ่มข้อมูล และค่าเฉล่ีย (Mean) เซนติเมตร มีค่าเฉลี่ยของเส้นรอบวงล�ำต้นเท่ากับ 21.0 วัดการกระจายของข้อมูลโดยใช้ค่าส่วนเบี่ยงเบน เซนตเิ มตร และมสี ่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน 5.3 เซนติเมตร มาตรฐาน (Standard deviation : sd) จากน้ันท�ำการ ต้นยางในกลุ่มอายุ 3 - 4 ปี ตรวจสอบลักษณะการกระจายของข้อมูล โดยการ มีจ�ำนวนข้อมูล 7,516 ต้น มีขนาดเส้นรอบวง แจกแจงความถีแ่ ละแสดงภาพดว้ ยฮสี โตแกรม พบวา่ มี ล�ำต้นสูงสุด 63.9 เซนติเมตร ต่�ำสุด 11.9 เซนติเมตร ลักษณะรูปร่างคล้ายระฆังคว�่ำหรือใกล้เคียง แสดงให้ ฐานนิยมเท่ากับ 33.6 เซนติเมตร มัธยฐานเท่ากับ 33.6 เห็นว่าตัวอย่างทุกกลุ่มอายุมีการกระจายแบบปกติ เซนติเมตร มีค่าเฉล่ียของเส้นรอบวงล�ำต้นเท่ากับ 33.4 สามารถใช้เป็นตัวแทนของขนาดต้นยางที่ศึกษาในแต่ละ เซนติเมตร และมสี ว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน 6.2 เซนติเมตร กล่มุ อายุได้ (ตารางท่ี 4 และ ภาพท่ี 1 ถึง 5) ตน้ ยางในกลุ่มอายุ 4 - 5 ปี ตน้ ยางในกลมุ่ อายุ 1 - 2 ปี มีจ�ำนวนข้อมูล 6,474 ต้น มีขนาดเส้นรอบวง มีจ�ำนวนข้อมูล 5,222 ข้อมูล มีขนาดเส้นรอบวง ล�ำต้นสูงสุด 60.0 เซนติเมตร ต่�ำสุด 26.8 เซนติเมตร ล�ำต้นสูงสุด 27.0 เซนติเมตร ต�่ำสุด 5.0 เซนติเมตร ฐานนิยมเท่ากับ 42.0 เซนติเมตร มัธยฐานเท่ากับ 42.0 ฐานนิยมเท่ากับ 13.3 เซนติเมตร มัธยฐานเท่ากับ 13.3 เซนติเมตร มีค่าเฉลี่ยของเส้นรอบวงล�ำต้นเท่ากับ 41.9 เซนติเมตร มีค่าเฉลี่ยของเส้นรอบวงล�ำต้นเท่ากับ 13.8 เซนตเิ มตร และมีสว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน 6.0 เซนติเมตร เซนตเิ มตร และมสี ว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน 3.7 เซนตเิ มตร (ตารางที่ 4)

6 ฉบบั อิเลก็ ทรอนกิ ส์ 32 มกราคม-มนี าคม 2561 ตารางที่ 4 จำ� นวนขอ้ มลู คา่ ตำ่� สดุ คา่ สงู สดุ คา่ เฉลยี่ และคา่ เบยี่ งเบนมาตรฐาน ของตน้ ยางพนั ธ์ุ RRIT 251 ระยะกอ่ นเปดิ กรดี แยกตามกลมุ่ อายุ อายุ (ป)ี จำ� นวน ค่าต�่ำสุด คา่ สูงสดุ ฐานนิยม มธั ยฐาน ค่าเฉลีย่ ค่าเบี่ยงเบน ตน้ ยาง มาตรฐาน 1-2 5.0 27.0 13.0 13.3 2-3 5,222 7.4 40.4 21.1 21.1 13.8 3.7 3-4 9,560 11.9 63.9 33.6 33.6 21.0 5.3 4-5 7,516 26.8 60.0 42.0 42.0 33.4 6.2 5-6 6,474 20.5 74.0 49.0 49.0 41.9 6.0 6-7 6,977 39.5 79.0 57.0 58.0 48.5 6.0 4,194 57.3 5.6 ตน้ ยางในกล่มุ อายุ 5 - 6 ปี เทา่ กับ < 10.5, 10.5 – 15.7, 15.8 – 21.0, 21.1 – 26.3, มีจ�ำนวนข้อมูล 6,977 ต้น มีขนาดเส้นรอบวง 26.4 – 31.6 และ > 31.6 เซนติเมตร ตามล�ำดับ อายุ ล�ำต้นสูงสุด 74.0 เซนติเมตร ต�่ำสุด 20.5 เซนติเมตร มากกวา่ 3 ปี – 4 ปี เท่ากับ < 21.0, 21.0 – 27.1, 27.2 – ฐานนิยมเท่ากับ 49.0 เซนติเมตร มัธยฐานเท่ากับ 49.0 33.3, 33.4 – 39.5, 39.6 – 45.7 และ > 45.7 เซนตเิ มตร เซนติเมตร มีค่าเฉล่ียของเส้นรอบวงล�ำต้นเท่ากับ 48.5 ตามล�ำดับ อายุมากกว่า 4 ปี – 5 ปี เท่ากบั < 30.0, 30.0 เซนตเิ มตร และมสี ว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน 6.0 เซนตเิ มตร – 35.9, 36.0 – 41.9, 42.0 – 47.9, 48.0 – 53.9 และ > ต้นยางในกลุม่ อายุ 6 - 7 ปี 53.9 เซนติเมตร ตามล�ำดับ อายุมากกว่า 5 ปี – 6 ปี มีจ�ำนวนข้อมูล 4,194 ต้น มีขนาดเส้นรอบวง เท่ากับ < 36.6, 36.6 – 42.5, 42.6 – 48.5, 48.6 – 54.5, ล�ำต้นสูงสุด 79.0 เซนติเมตร ต่�ำสุด 39.5 เซนติเมตร 54.6 – 60.5 และ > 60.5 เซนตเิ มตร ตามล�ำดบั และอายุ ฐานนิยมเท่ากับ 57.0 เซนติเมตร มัธยฐานเท่ากับ 58.0 มากกวา่ 6 ปี – 7 ปี เท่ากบั < 47.2, 47.2 – 52.7, 52.8 – เซนติเมตร มีค่าเฉลี่ยของเส้นรอบวงล�ำต้นเท่ากับ 57.3 58.3, 58.4 – 63.9, 64.0 – 69.5 และ > 69.5 เซนติเมตร เซนติเมตร และมสี ว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน 5.6 เซนติเมตร ตามล�ำดับ (ตารางท่ี 5) เม่ือน�ำขอ้ มลู ทัง้ หมดมาจดั ระดบั การเติบโตของตน้ ยางออกเป็น 6 ระดับ คือ การเติบโตต�่ำมาก, ต�่ำ, ค่อน สรปุ ผลการวจิ ัยและข้อเสนอแนะ ข้างต่ำ� , คอ่ นข้างดี, ดี และดมี าก โดยแตล่ ะระดับหา่ งกัน 1 เท่าของค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน พบว่า การเติบโตของ ผลการจัดระดับการเติบโตของต้นยางพันธุ์ RRIT ตน้ ยางพนั ธ์ุ RRIT 251 ทีร่ ะดบั ต่�ำมาก, ต่�ำ, ค่อนข้างตำ�่ , 251 เม่ือเปรียบเทียบกับผลการจัดระดับการเติบโตของ ค่อนข้างดี, ดี และดีมาก มีช่วงขนาดล�ำต้นท่ีระดับ 150 ต้นยางพันธุ์ RRIM 600 อายุ 4 ปี ซึ่งจัดท�ำโดย สายใจ เซนติเมตรจากพืน้ ดนิ อายุ 1 – 2 ปี เท่ากบั < 6.5, 6.5 – และคณะ (2553) พบว่า ยางพันธุ์ RRIT 251 ท่ีอายุ 4 ปี 10.1, 10.2 – 13.8, 13.9 – 17.5, 17.6 – 21.2 และ > มีขนาดล�ำต้นโตกวา่ ยางพันธ์ุ RRIM 600 ในทกุ ระดบั การ 21.2 เซนติเมตร ตามล�ำดับ อายุมากกว่า 2 ปี – 3 ปี เติบโต การประเมินระดับการเติบโตจึงควรใช้ค่า มาตรฐานการเติบโตท่ีเป็นพันธุ์เดียวกันในการเปรียบ เทยี บ

2) ตน้ ยางในกลุ่มอายมุ ากกวา่ 2 ปี - 3 ปี มีจาํ นวนขอ้ มูล 9,560 ตน้ มีขนาดเสน้ รอบวงลาํ ตน้ สูงสุด 4 เซนติเมตร ต่าํ สุด 7.4 เซนติเมตร ฐานนิยมเท่ากบั 20.0 เซนติเมตร มธั ยฐานเทา่ กบั 21.1 เซนติเมตร มีคา่ เฉ 7 ของเสน้ รอบวงลาํ ตน้ เท่ากบั 21.0 เซนติเมตร และมีส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน 5.3 เซนติเมตร ฉบับอิเลก็ ทรอนิกส์ 32 มกราคม-มนี า5ค)ม ต2น5้ 6ย1างในกลุ่มอายมุ ากกวา่ 5 ปี - 6 ปี มีจาํ นวนขอ้ มูล 6,977 ตน้ มีขนาดเสน้ รอบวงลาํ ตน้ ส 74.0 เซนติเมตร ต่าํ สุด 20.5 เซนติเมตร ฐานนิยมเทา่ กบั 50.0 เซนติเมตร มธั ยฐานเท่ากบั 49.0 เซนติเมต ค่าเฉล่ียของเสน้ รอบวงลาํ ตน้ เท่ากบั 48.5 เซนติเมตร และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 6.0 เซนติเมตร ภาพท่ี 3 ฮีสโตแกรมแสดงลกั ษณะการแจกแจงความยาวเสน้ รอบวงลาํ ตน้ ของยางพนั ธุ์ RRIT 251 อายุ 3 ปี วดั ท่ีระดบั 150 เซนติเมตรจากพ้นื ดิน 3.9 เซน3ต)ิเมตตน้ รยาตง่าํใสนุดกล11ุ่ม.อ9าเยซมุ นาตกิเกมวตา่ ร3ฐปานี -น4ิยมปเี ทม่าีจกาํ บันว3น3.ข0อ้ เมซูลนต7ิเ,ม51ต3ร6ต0มน.้ธั0ยมเฐซีขานนน4ตเา)ทดิเมต่าเสกตน้ บน้ัรยราต3อง3่าํใบ.ส6นวุดกงเซลล2นาํ6ุ่มตต.อ8น้ิเมาสเยซตูงมุ รนสาตุมดกิเีกมวตา่ ร4ฐปานี -น5ิยมปเี ทมา่ ีจกาํ บันว4น1.ข5อ้ เมซูลนต6ิเ,ม47ต4ร ตน้ มีขนาดเสน้ รอบวงลาํ ตน้ สูง มธั ยฐานเท่ากบั 42.0 เซนติเมต าฮเฉีสลโ่ียตขแอกงรเสมน้ แรสอดบRภงวRาลงพIกTัลทษา2ํ ่ี ต5ณ1น้1ะลเอทกักา่าาษยกรณุ บแั1จะ–3กก32าแ.3รปจแเีงซวจคัดนกวทแตา่ีรจิเมะมงดยตคบัารววา1แเมส5ล0ยน้ะามเรซวีสอนเส่วบต้นนวิเมรเงบอตลี่ยบราํจงวตเางบน้กลนพข�ำคมภตนื้อ่าา้นดางเตฉพยนิขรลาอทฐงี่ยงี่าพ2ยขนานอั ฮง6งธพีส.เ2ุ์สันRโเน้ตธซRุ์แรนIอกTตบริเ2มมวRภ5ตแง1RารลสพIอTาํดทตาง2ี่ยน้ล52ุ 11เกั ทลษอ–่าักาณก2ษยบัะณุ 2ก4ะา–1กร.39าแรปจเแซกี วจนแดั กจตทแงิเรี่ จมคะงวตดคาับรวมาแ1ยม5ลา0ยวะาเมเสซวีสน้นเส่วตร้นนิเอมรเบบอตวบี่รยงจงวลาเงบกาลํ ตนพ�ำน้ต้นืม้นดขาตินขออรงฐงยยาางนาพงพ6นั .ัน0ธธุ์เRุ์ซRนIตTิเม2ต51ร อายุ 2 ปี วดั ท่ีระดบั 150 เซนติเมตรจากพ้นื ดิน ปี วดั ที่ระดบั 150 เซนติเมตรจากพ้ืนดิน 2) ตต่าํน้ สยุดาง7ใ.น4กเซลนุ่มอตาิเมยตมุ รากฐกาวนา่ น2ิยปมี เ-ท3่ากปีบั มีจ2า0ํ น.0วนเซขนอ้ ตมิเมูลต9ร,56ม0ธั ยตฐน้ านมภเีขทาน่าพากทดบั เี่ ส52น้ 1ฮปร.ีส1ีอวโบเดซตั วทแนงก่ีรลตระาิเํ มมตดตนบแั้ รสส1ดูงม5สง0ีคลุด่าเกซัเฉ4ษน0ลณต.่ีย4ิเะมกตารรจแาจกกพแ้นื จดงคินวามยาวเสน้ รอบวงลาํ ตน้ ของยางพนั ธุ์ RRIT 251 อายุ ร อบวงลาํ ตน้ เท่ากบั 21.0 เซนติเมตร และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 5.3 เตซน้นตมิเีมข6)นตราตดน้ เสยาน้ งรใอนบกวลงุ่มลอาํ าตยน้ มุ สากูงสกุวดา่ 6 ปี - 7 ปี มีจาํ นวนขอ้ มูล 4,698 ตน้ มีขนาดเสน้ รอบวงลาํ ตน้ ส 5) ตน้ ยางในกลุ่มอายมุ ากกวา่ 5 ปี - 6 ปี มีจาํ นวนขอ้ มูล 6,977 เซนติเมตร ต่าํ สุด 20.5 เซนติเมตร ฐานนิยมเท่ากบั 50.0 เซนติเมต7ร9.ม0ธั เซยฐนาตนิเมเทต่ารกบัต่าํ 4ส9ุด.03เ9ซ.5นตเซิเมนตตริเมมตี ร ฐานนิยมเทา่ กบั 59.0 เซนติเมตร มธั ยฐานเท่ากบั 58.0 เซนติเมต าลพ่ียทข่ีอ3งฮเสีสน้ โรตอแบกรวภRมงRาแลพIสTาํ ทตด2ี่ น้ง53ล1เทลกั อัก่าษากษณยบัณุ ะ3ก4ะ–8าก4ร.า5แรปจเแีซกวจนดัแกทจตแงี่ริเจมะคงดวตคับารวมา1แยม5ลา0ยวะาเเมสซวีสนน้เสต่วร้นเิอนมรบเอตบวบรี่ยงจวลงางเากํลบตพ�ำคนภน้ ต้นื า่ ามข้นดเพฉาอนิขตทลงอยรี่ยี่ง4าฐขยงาอาพฮนงงีสนัพเ6สโธัน.ตุน้์0ธRแุ์รเRซกอIรนบTมตว2Rภแิงเ5Rามสล1พIตดTาํอทตรง2าี่ ลน้ย54กัุ1เ3ทลษอ–่าักณากษ4ยะบั ณุ 4ก5ะา–8รก5.แา3จรปเแกซี วจแนดั กจทตแงีร่ิเจคมะงวดตคาับรวมา1แยม5ลา0ยวะเาเมสซวีสน้นเส่วตร้นนิเอมรเบอตบวบรี่ยจงวงลางเกบลาํ ตพ�ำนนตนื้้ ม้นดขาินขอตองรงยฐยาาางนงพพ5นั ัน.6ธธุ์ เุ์RซRนIตTิเม25ต1รอายุ 4 ปี วดั ท่ีระดบั 150 เซนติเมตรจากพ้นื ดิน ปี วดั ท่ีระดบั 150 เซนติเมตรจากพ้นื ดิน 4) ตน้ ยางในกลุ่มอายมุ ากกวา่ 4 ปี - 5 ปี มีจาํ นวนขอ้ มูล 6,474 ตน้ มีขนาดเสน้ รอบวงลาํ ตน้ สูงสุด 0.0 เซนติเมตร ต่าํ สุด 26.8 เซนติเมตร ฐานนิยมเทา่ กบั 41.5 เซนติเมตร มธั ยฐานเท่ากบั 42.0 เซนติเมตร มี าเฉลี่ยของเสน้ รอบวงลาํ ตน้ เท่ากบั 41.9 เซนติเมตร และมีส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน 6.0 เซนติเมตร ฮีสโตแกรมแสดงลกั ษณะการแจกแจงความยาวเสน้ รอบวงลาํ ตน้ ของยางพนั ธุ์ RRIT 251 อายุ 2 – 3 ปี วดั ท่ีระดบั 15ภ0าเพซทนี่ ต5ิเมลักตษรจณาะกกพา้ืนรแดจินกแจงความยาวเส้นรอบวงล�ำต้นของยางพันธุ์ ภาพท่ี 6 ลักษณะการแจกแจงความยาวเส้นรอบวงล�ำต้นของยางพันธุ์ ที่ 5 ฮีสโตแกรมRแRสIดTง2ล5กั1ษอณายะุ 5กา–ร6แปจกี วแัดจทงี่รคะดวบัาม1ย5า0วเเสซนน้ ตรเิ อมบตรวจงาลกาํ พภตน้ื าน้ ดพขนิ ทอ่ีง6ยาฮงีสพโนั ตธแุ์ กRรRมIRTแRส2IดT51ง2ล5อกั1าษยอุณา5ยะ–ุ 6ก6า–ร7แจปกี วแดั จทงีร่ คะวดาับม1ย5า0วเเสซนน้ ตรเิ อมบตรวจงาลกาํ พต้ืนน้ ดขนิ องยางพนั ธุ์ RRIT 251 อายุ ปี วดั ที่ระด บั 150 เจซานกติเกมาตรรสจา�กำรพว้นื จดเินพ่ือเก็บข้อมูลการเติบโตขอปงี ตวดั้นท่ีระดกบั ับ1พ50ืชเแซนซตมิเยมตารงจยา่อกพม้นืสด่งินผลให้ธาตุอาหารไม่เพียงพอต่อ ยางพบว่า การเติบโตของต้นยางมีหลาย ๆ ปัจจัยเข้ามา การเจริญเติบโตของต้นยาง เป็นต้น ปัจจัยที่พบเหล่านี้ 6) ตน้ ยางในเกกลี่ยุ่มวอขาย้อมุ งากไกดว้แา่ ก6่ ปสี -ภ7าพปี พม้ืนีจทาํ นี่ วลนักขษอ้ ณมูละ4เ,น69ื้อ8ดตินน้ ปมีขริมนาาดณเสน้ รอแบสวงดลงาํ ตในห้ ส้เหูงส็นุดว่าหากต้องการให้ต้นยางเติบโตดี เพ่ือ เซนติเมตร ต่าํ สุวดัช3พ9.ืช5 เกซนารตใิเมสต่ปรุ๋ยฐากนานริยปมลเทูก่าพกบัืชร5่ว9ม.0พเซืชนแตซิเมมตรเปม็นธั ตยฐ้นานสเทว่านกบั 58ส.0ามเซานรตถิเใมหตผ้รลมผี ลติ ท่สี ูง ต้องประกอบดว้ ยหลายปจั จยั จะ าลพ่ียทขี่อ4งฮเสีสน้ โตรอแกบรวยมงาแลสงาํ ตทดน้งี่อลเทยกั ่าษูบกณนบั ะทก58ี่าลร.3าแดจเซกชนแันจตงิเมคสวตวารมนแยยลาวาะเมสงีสทน้ ่วรีปอนลบเบ่วอ่ียงยลงเใาํบตหน้ ้วมขัชาอตพงยรืชาฐงขาพน้ึนนั 5จธ.ุน์6RเRซIนTตจ2ิเ5ัดม1ตกอรายรุป4 ั–จจ5 ัยใดปัจจัยเดียวไม่ได้ หากไม่มีปัจจัยอื่นมา ปี วดั ที่ระหดนบั า1แ50นเ่นซนแติเลมะตสรจวานกพย้นืาดงิทนี่ปลูกในสภาพพนื้ ท่ีทม่ี ีน�ำ้ ขัง มัก จ�ำกดั การเติบโตของตน้ ยาง การใส่ปุ๋ยให้ต้นยางอยา่ งถกู มีการเจริญเติบโตช้า ต้นมีขนาดเล็กแคระแกร็น และมี ต้องและเหมาะสมน่าจะท�ำให้เกษตรกรสามารถเพิ่ม ตน้ ตายหลายตน้ การปลูกพชื แซมยางแลว้ ไม่ไดใ้ สป่ ๋ยุ ให้ ประสิทธิภาพการผลิตยางได้อีก ท�ำให้ต้นยางมีการ

8 ฉบบั อเิ ล็กทรอนกิ ส์ 32 มกราคม-มีนาคม 2561 ตารางท่ี 5 ผลการจดั ระดบั การเตบิ โตของยางพนั ธ์ุ RRIT 251 โดยการวดั ความยาวเสน้ รอบวงลำ� ตน้ ทคี่ วามสงู 150 เซนตเิ มตร จากพนื้ ดนิ อายุ (ปี) จำ� นวน 1-2 ต่�ำมาก ต่ำ� คอ่ นขา้ งตำ�่ ค่อนขา้ งดี ดี ดีมาก 2-3 < 6.5 6.5 - 10.1 10.2 - 13.8 > 21.2 3-4 < 10.5 10.5 - 15.7 15.8 - 21.0 13.9 - 17.5 17.6 - 21.2 >31.6 4-5 < 21.0 21.0 - 27.1 27.2 - 33.3 > 45.7 5-6 < 30.0 30.0 - 35.9 36.0 - 41.9 21.1 - 26.3 26.4 - 31.6 > 53.9 6-7 < 36.6 36.6 - 42.5 42.6 - 48.5 > 60.5 < 47.2 47.2 - 52.7 52.8 - 58.3 33.4 - 39.5 39.6 - 45.7 > 69.5 42.0 - 47.9 48.0 - 53.9 48.6 - 54.5 54.6 - 60.5 58.4 - 63.9 64.0 - 69.5 ภาพที่ 7 สวนยางอายุ 4 ปี 11 เดือน ท่ีมีการเติบโตอยู่ในระดับดี (H) มีขนาดเส้นรอบวงล�ำต้นเฉลี่ย 49.7 เซนติเมตร อยู่ในพื้นท่ี ม. 5 ต. เวียงสระ อ.เวียงสระ จ. สุราษฎรธ์ านี เติบโตอยู่ในระดับดีถึงดีมาก ในขณะที่พ้ืนท่ีปลูกยางท่ี สามารถครอบคลุมได้ทุกค่าท่ีท�ำการวัด ท้ังน้ีผู้ที่น�ำค่า เหมาะสมมอี ยูจ่ �ำกัด การเพ่ิมผลผลติ ตอ่ พนื้ ทโ่ี ดยสง่ เสรมิ มาตรฐานการเติบโตน้ีไปใช้ต้องวัดขนาดเส้นรอบวง ให้มีการใช้ยางพันธุ์ดีและใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสม ล�ำต้นของต้นยางจากความสูงท่ีระดับเดียวกันกับค่า อาจสามารถเพิ่มผลผลิตได้โดยไม่จ�ำเป็นต้องขยายพ้ืนที่ มาตรฐานทจี่ ัดท�ำขึ้น คือ 150 เซนตเิ มตรจากพ้ืนดิน และ ปลกู ต้องเป็นยางพันธุ์เดียวกัน คือ RRIT 251 หากเปรียบ เทียบแล้วพบว่าต้นยางพันธุ์ RRIT 251 มีการเติบโตอยู่ การนำ� ผลงานวิจยั ไปใช้ประโยชน์ ในระดับต่�ำ หรือค่อนข้างต�่ำ ควรมีการแก้ไขเพื่อเร่งการ เจริญเติบโตของต้นยางให้อยู่ในระดับอย่างน้อยค่อนข้าง ค่ามาตรฐานการเติบโตสามารถน�ำมาใช้เพื่อ ดี เมื่อต้นยางมีการเติบโตดีก็จะส่งผลให้ต้นยางมีขนาด เปรียบเทียบและจัดระดับการเติบโตของต้นยางในแต่ละ ใหญ่ เนื่องจากขนาดล�ำต้นมีความสัมพันธ์กับการเปิด พื้นท่ีได้ และค่ามาตรฐานนี้ เป็นค่าที่บอกเป็นช่วง จึง

9 ฉบับอิเล็กทรอนิกส์ 32 มกราคม-มีนาคม 2561 สถาบันวิจัยยาง, กรมวิชาการเกษตร. กรุงเทพฯ. หน้า 173-189. กรีด เพราะการเปิดกรีดจะค�ำนึงถึงขนาดของต้นยาง ลิลลี่ กาวีต๊ะ. 2549. รูปแบบการเติบโตและพัฒนาการ มากกว่าอายุตน้ ยาง ดงั น้นั ถา้ ต้นยางมกี ารเตบิ โตดตี น้ มี ของพืช. ใน: สรีรวิทยาของพืช. มหาวิทยาลัย ขนาดใหญ่ก็จะสามารถเปิดกรีดได้เร็วข้ึน อีกทั้งการ เกษตรศาสตร:์ กรุงเทพมหานคร. หน้า 178-183. เติบโตของล�ำต้นมีผลต่อจ�ำนวนวงท่อน�้ำยาง เม่ือความ สายใจ สชุ าตกิ ลู , สมศกั ด์ิ มณพี งศ์ และ มนตรี อศิ รไกรศีล. หนาของเปลือกนอกเพ่ิมข้ึนก็จะมีการสร้างท่อน�้ำยาง 2553. การใช้ปุ๋ยและการเติบโตของยางก่อนเปิด เพ่ิมข้ึนควบคู่กันไปด้วย ส่งผลต่อการเพิ่มปริมาณ กรีดในจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรี- ผลผลิตและรายได้ เกษตรกรจึงควรมีการจัดการดูแล ธรรมราช. ว. ดินและปยุ๋ 32(3): 180-197. สวนยางที่ดีเพอ่ื ใหต้ น้ ยางมกี ารเตบิ โตอยูใ่ นระดบั ดี สถาบันวิจัยยาง. 2550. ข้อมูลวิชาการยางพารา 2550. กรมวชิ าการเกษตร, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. เอกสารอ้างอิง กรงุ เทพมหานคร. พิศมัย จันทุมา. 2551. การกรีดยางและสรีรวิทยาที่ เก่ียวข้อง. ใน: เอกสารประกอบการฝึกอบรมเจ้า หน้าที่กรมวิชาการเกษตร หลักสูตรวิชายาง.



11 ฉบบั อเิ ล็กทรอนิกส์ 32 มกราคม-มนี าคม 2561 ผลของระยะเวลาการขดั ผวิ เมล็ดโดยใชก้ รด ซัลฟรู กิ เขม้ ข้นต่อความงอกของเมล็ด ถ่วั มูคูนา แบร็คเทยี ตา ภัทธาวุธ จิวตระกูล* 93/75 นพิ ทั ธ์สงเคราะห์ 5 ต. หาดใหญ่ อ. หาดใหญ่ จ. สงขลา 90110 e-mail: [email protected] เมล็ดพืชคลุมตระกูลถ่ัวท่ีใช้ปลูกในสวนยางพารา และเพอราเรีย) มาก่อน หลังที่ได้โค่นต้นยางเก่าออก และสวนปาล์มน้�ำมัน ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ที่ใช้ปลูกกัน และมีการไถพรวน เมื่อดินมีความช้ืน เน่ืองจากฝนที่ ดั้งเดิม (คาโลโปโกเนียม, เซ็นโตรซีมา, เพอราเรีย และ ตกลงมา ส่ิงท่ีพบเห็นนอกจากวัชพืชโดยทั่วไปแล้ว จะมี ซีรูเลียม) หรือพันธุ์ที่นิยมใช้ปลูกกันในปัจจุบัน (มูคูนา ต้นอ่อนของพืชคลุมตระกูลถ่ัวขึ้นอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะ แบรค็ เทียตา) มักจะมีเปลือกหมุ้ เมล็ดทแ่ี ข็ง มากนอ้ ยขน้ึ อย่างยิ่ง คาโลโปโกเนียม และ เซ็นโตรซีมา ถามว่า อยู่กับพันธุ์ถั่ว ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากระยะเวลาที่ พืชคลุมเหล่าน้ีมาจากไหน ค�ำตอบท่ีแน่ชัดก็คือ มาจาก ใช้ในการขัดผิวเมล็ด (Scarification) โดยใช้เครื่องขัด เมล็ดพืชคลุมตระกูลถั่วที่เคยปลูกไว้ตั้งแต่ตอนปลูกสร้าง หรอื การใช้กรดซลั ฟรู ิกเขม้ ข้น สวนยางเก่า เมล็ดที่ร่วงลงสู่ดิน จะสามารถพักตัวอยู่ได้ การที่เมล็ดพืชคลุมตระกูลถ่ัวมีเปลือกหุ้มเมล็ดท่ี ในสวนยางเป็นระยะเวลาท่ียาวนาน (มากกว่า 20 ปี) แข็ง ย่อมท�ำให้น�้ำซึมผ่านเข้าไปในเมล็ดได้ยาก ดังนั้น จนกว่าจะมีสภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสม (ร้ือสวนยางเก่า ถ้าหากน�ำเมล็ดไปปลูกโดยไม่ได้ขัดผิวเมล็ด หรือตัดบาง ออก และมีการไถพรวน) จึงจะงอกและเจริญเติบโตเพ่ือ ส่วนของเปลือกออก เมล็ดจะมีความงอกต�่ำถึงต�่ำมาก แพรพ่ ันธุต์ อ่ ไป (Chee et al., 1980; Methews and Leong, อ้างตาม ปัจจุบัน การปลูกพืชคลุมในสวนยาง และปาล์ม Lee et al., 2007) อาจส่งผลให้การปลูกพืชคลุมไม่ น้�ำมัน นิยมใช้ถ่ัวมูคูนา แบร็คเทียตา มากกว่าถั่วชนิด ประสบความส�ำเร็จได้ อย่างไรก็ตาม ในทางธรรมชาติ อืน่ ๆ เนื่องจากมจี ุดเด่นตรงทว่ี ่า เป็นถ่วั ที่มเี ถาหรือล�ำต้น ก า ร ท่ี พื ช ส ร ้ า ง เ ม ล็ ด ที่ มี เ ป ลื อ ก หุ ้ ม เ ม ล็ ด ที่ แ ข็ ง ก็ มี ท่ีเจริญเติบโตไปได้ไกล จึงสามารถปลูกเพียงแถวเดียว ประโยชน์ส�ำหรับตัวของพืชเองในแง่ที่ต้องการรักษาเผ่า ตรงกลางระหว่างแถวต้นยาง และระยะระหว่างต้น พันธุ์ สังเกตได้จากเมื่อมีการปลูกแทนสวนยางเก่าซ่ึงมี สามารถปลกู ห่างกนั ได้ 3 ถึง 8 เมตร จงึ ท�ำใหใ้ ช้จ�ำนวน การปลูกพืชคลุม 3 ชนิด (คาโลโปโกเนียม, เซ็นโตรซีมา ตน้ ปลูกตอ่ ไร่นอ้ ยมาก (นอ้ ยกว่า 76 ต้น/ไร)่ เทยี บกบั พชื * อดตี นกั วิชาการศูนย์วิจยั การยาง และศนู ย์วิจยั ยางสงขลา อ. หาดใหญ่ จ. สงขลา (ระหวา่ งปี พ.ศ. 2517-2553)

12 ฉบับอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 32 มกราคม-มีนาคม 2561 การด�ำเนนิ การทดลอง คลุมชนิดเดิมท่ีแนะน�ำให้ใช้เมล็ดผสม 3 พันธ์ุ ในอัตรา ขนั้ ตอนการทดลอง ประมาณ 1 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งจะมีจ�ำนวนต้นต่อไร่ท่ีสูง งานทดลองท้ังหมดมี 4 การทดลอง เร่ิมต้นจาก มาก แคเ่ มลด็ เพอราเรียอย่างเดียว เมลด็ หนกั 1 กิโลกรมั งานทดลองแรก (ระหวา่ ง 3-21 ธ.ค. 60) เป็นการทบทวน มเี มลด็ ประมาณ 80,000 เมล็ด ดังนนั้ การปลูกถัว่ มูคนู า ผลของการใช้กรดซัลฟูริกเข้มข้นนานสูงสุด 30 นาที ย่อมมีการแก่งแย่งน�้ำและธาตุอาหารจากต้นยางน้อย เทยี บกบั การไมไ่ ม่ใช้กรด (Control) ซึ่งผลท่ีได้ชีใ้ ห้เห็นวา่ กว่าพืชคลุมชนิดเดิม ส่วนข้อดีอื่นๆของถ่ัวมูคูนา ได้แก่ ควรเพิ่มระยะเวลาของการขัดผิวเมล็ด จึงได้ท�ำการ ทนแล้ง ทนร่ม และให้ปริมาณซากพืชมากกว่าพืชคลุม ทดลองท่ี 2 (ระหว่าง 22 ธ.ค. 60 - 5 ม.ค. 61) ซึ่งเพ่ิม ชนดิ เดิมประมาณ 3 เท่า (Shaharudin et al., อา้ งตาม ระยะเวลาของการขัดผิวเมล็ดสูงสุดถึง 60 นาที ผลท่ีได้ Shaharudin and Jamaluddin, 2007) ปรากฏว่า ยังคงมีเมล็ดแข็ง (Hard seed) เหลืออยู่ การท่ีถั่วมูคูนา แบร็คเทียตา มีถิ่นก�ำเนิดแถบ จ�ำนวนหนึ่ง ซึ่งเมล็ดแข็งน้ี จัดอยู่ในประเภทเมล็ดดี เทือกเขาหิมาลัย ประเทศอินเดีย ดังน้ัน เม่ือน�ำเข้ามาใช้ (จวงจันทร์, 2529) สามารถงอกได้ ถ้าหากท�ำให้เปลือก ปลูกเป็นพืชคลุมในประเทศต่าง ๆ ซ่ึงตั้งอยู่ในแถบ หุ้มเมล็ดยอมให้น้�ำผ่านเข้าไปได้ และแสดงให้เห็นว่าระ บริเวณเส้นศูนย์สูตร เช่น ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ยะเเวลาของการใช็กรด (60 นาที) ยังคงไม่เพียงพอต่อ ไมส่ ามารถให้เมล็ดได้ ต้องน�ำเข้าจากประเทศอินเดีย จงึ การท�ำลายการพักตัวของเมล็ดท่ีมีเปลือกแข็งมากได้ ดัง เป็นเหตุผลหนึ่งท่ีท�ำให้เมล็ดมีราคาค่อนข้างแพง น้ัน จึงท�ำการทดลองต่อ เป็นการทดลองท่ี 3 (ระหว่าง (ประมาณ 3,000 บาท/กิโลกรมั ) 11-30 ม.ค. 61) ซ่ึงยืดระยะเวลาการขัดเมล็ดให้นานข้ึน นอกจากเมล็ดมีราคาแพงแล้ว เมล็ดยังมีเปลือก สูงสุดถึง 120 นาที ผลการทดลองได้ผลเป็นท่ีน่าพอใจ หมุ้ เมลด็ ท่ีแข็ง กอ่ นปลกู จงึ จ�ำเป็นอยา่ งย่งิ ทจี่ ะตอ้ งขดั ผิว และเพื่อยืนยันผลการทดลองท่ีดีที่สุดของการทดลองท่ี 3 เมล็ดเพื่อให้น�้ำสามารถซึมผ่านเข้าไปได้ วิธีการท่ีนิยม จงึ ท�ำการทดลองที่ 4 (ระหวา่ ง 21 ก.พ. - 7 ม.ี ค. 61) โดย ปฏิบัติกัน ได้แก่ การใช้กรรไกรตัดเล็บตัดบางส่วนของ เปรียบเทียบกับ Control หรือวิธีการตัดเปลือกหุ้มเมล็ด เปลือกหุ้มเมล็ดออก พอให้เห็นส่วนของใบเลย้ี ง (Cotyle- บางส่วนออกโดยใช้กรรไกรตัดเล็บ เพ่ือให้น้�ำสามารถซึม don), แชเ่ มลด็ ในนำ้� รอ้ น, ใช้เครื่องขดั ด้วยกระดาษทราย ผ่านเข้าภายในเมล็ดได้ทุกเมล็ด วิธีน้ีสามารถขจัดเมล็ด และการใช้กรดซัลฟูริกเข้มข้นคลุกกับเมล็ด (Chee, แข็ง หรอื Hard seed ได้ 100% 2007; Lee et al. 2007; Chua et al. 2007; Goh, 2007) การทดลองทง้ั หมด (ยกเว้นการทดลองที่ 2 ซง่ึ มี 1 ซ่ึงแต่ละวิธีสามารถเพิ่มความงอกของเมล็ดถ่ัว มูคูนา ซำ�้ ) วางแผนการทดลองแบบ Completely randomized แบรค็ เทียตา ไดแ้ ตกต่างกัน (Methews and Leong อ้าง design มี 4 ซ�้ำ ใชเ้ มล็ดจ�ำนวน 100 เมลด็ ตอ่ ซ้�ำ ตาม Lee et al., 2007) เมล็ดทีใ่ ช้ทดลอง ในกรณีของการใช้กรดซัลฟูริกเข้มข้น มีการ ทกุ การทดลอง ใช้เมลด็ ชุดเดียวกัน เป็นเมล็ดท่นี �ำ แนะน�ำให้ใช้ระยะเวลานาน 30 นาที (Chee, 2007) แต่ เข้าจากประเทศมาเลเซยี (Chemical Sdn. Bhd.) ได้รับ บางรายงานก็ไม่ได้ระบุถึงระยะเวลาที่ใช้ (Lee et al., เมล็ดเม่ือ 1 กันยายน 2560 เมล็ด 1 กิโลกรัม มีเมล็ด 2007) อย่างไรก็ตาม เมื่อน�ำวิธีน้ีไปปฏิบัติโดยใช้ระยะ ประมาณ 6,000 เมล็ด ซึ่งจัดว่า เมล็ดส่วนใหญ่มีขนาด เวลา 30 นาที สงั เกตพบว่า เมลด็ ยังคงมีเปอรเ์ ซนตค์ วาม ปานกลาง งอกท่ียังต�่ำอยู่ ซ่ึงแสดงว่า ระยะเวลาท่ีใช้ในการขัดผิว การขัดผวิ เมลด็ โดยใช้กรดซัลฟรู กิ เข้มข้น เมล็ดนา่ จะยงั คงนอ้ ยไป ดังนน้ั จึงเปน็ เหตุจูงใจใหท้ �ำการ กรดซัลฟูริกท่ีใช้ขัดผิวเมล็ดเป็นของบริษัท B.T. ทดลองเพ่ือหาระยะเวลาท่ีดีท่ีสุดของการใช้กรดซัลฟูริก Baker มคี วามเขม้ ข้น 95.0 - 98.0 เปอร์เซนต์ เข้มข้นในการขัดผิวเมล็ดของถั่วมูคูนา แบร็คเทียตา ซึ่ง จ ะ ช ่ ว ย ใ ห ้ ส า ม า ร ถ ใ ช ้ ป ร ะ โ ย ช น ์ เ ม ล็ ด ไ ด ้ อ ย ่ า ง มี ประสิทธภิ าพและคมุ้ ค่าตอ่ ราคา

13 ฉบับอิเลก็ ทรอนิกส์ 32 มกราคม-มนี าคม 2561 หลังเพาะเมล็ดได้ 2 วัน คลี่มว้ นกระดาษเพาะออก ท�ำการแยกเมลด็ ออกเปน็ 2 ประเภท คือ เมล็ดก�ำลังงอก การขัดผิวเมล็ดกระท�ำโดยเทกรดลงบนเมล็ด หรือเมล็ดที่เปลือกหุ้มเมล็ดเร่ิมปริและมีรากอ่อนแทง จ�ำนวน 100 เมล็ด ทอ่ี ย่ใู นบีกเกอร์ (Beaker) ขนาด 100 ออกมา และเมล็ดที่ยังไม่งอก น�ำเมล็ดท้ัง 2 ประเภท มิลลิลิตร ให้มีปริมาณกรดพอท่วมเมล็ด จากน้ันใช้แท่ง แยกเพาะบนกระดาษเพาะใหม่ วางกระดาษปิดทับเมลด็ แก้วกวนเพ่ือให้กรดเคลือบผิวเมล็ดได้ทั่วถึงกัน ทั้งนี้ใช้ ระยะเวลาเพยี งสั้น ๆ ประมาณ 10 - 15 วนิ าที จากนัน้ เท กรดส่วนเกินออก เหลือเพียงแค่กรดท่ีเคลือบผิวเมล็ดพอ หมาด ๆ ต้ังทิ้งไว้ตามระยะเวลาหรือกรรมวิธีที่ก�ำหนดไว้ แต่มีการใช้แท่งแก้วกวนเมล็ดเป็นระยะ ๆ เพ่ือให้กรด เคลือบผิวเมล็ดได้อย่างสม�่ำเสมอ เม่ือครบก�ำหนดระยะ เวลาตามกรรมวิธีที่วางไว้ เทเมล็ดจากบีกเกอร์ลงในน�ำ้ ท่ี อยู่ในถังพลาสติกขนาด 1 ลิตร เพ่ือล้างกรดออกจาก เมล็ด เทน�้ำล้างทิ้ง แล้วเติมน�้ำใหม่ ท�ำเช่นน้ีประมาณ 4-5 ครัง้ แล้วปล่อยให้เมลด็ อยู่ในสภาพนำ�้ ไหล ประมาณ 5 นาที จากน้ันเทน�้ำออก แล้วน�ำเมล็ดแต่ละกรรมวิธีมา ผึ่งให้แห้งในท่ีร่ม ก่อนที่จะน�ำไปเพาะเพ่ือตรวจสอบ ความงอกต่อไป การตดั เปลือกหมุ้ เมลด็ บางสว่ นออก ภาพที่ 1 ตำ� แหนง่ ของการตดั เปลือกหุ้มเมลด็ เพือ่ มิใหเ้ กิดความเสยี หาย การตัดเปลือกหุ้มเมล็ด กระท�ำโดยใช้กรรไกรตัด ต่อสว่ นที่จะพัฒนาไปเปน็ รากและยอด เล็บ ตัดเปลือกหุ้มเมล็ดให้เปิดออกเล็กน้อย พอที่จะมอง เหน็ สว่ นของใบเล้ียง (Cotyledon) ซ่ึงในการทดลองครั้งนี้ ตดั เปลอื กหมุ้ เมลด็ ในต�ำแหนง่ เดยี วกนั ทกุ เมลด็ (ภาพที่ 1) ทั้งนี้เพ่ือมิให้ไปท�ำลายส่วนที่จะพัฒนาไปเป็นส่วนราก และยอด การเพาะเมล็ด ภาพท่ี 2 มว้ นกระดาษเพาะเก็บในกล่องพลาสสติกใส มีฝาปดิ เพอื่ รักษา เมล็ดหลังจากขัดผิวเมล็ดด้วยกรด หรือตัดเปลือก ความชน้ื ของกระดาษเพาะ และวางกล่องเอยี ง 45 องศา หุ้มเมล็ดออกเป็นบางส่วนแล้ว น�ำเมล็ดมาวางเรียงบน กระดาษเพาะท่ีมีความช้นื ท่เี หมาะสม จ�ำนวน 100 เมลด็ ต่อกะดาษเพาะทมี่ ีพื้นที่ 23 x 11.5 ซม. ซ่ึงในการทดลอง ครั้งนี้ใช้กระดาษทิชชูอย่างหนาและเหนียว ซ้อนกัน หลายช้ัน หลังจากวางเรียงเมล็ดเสร็จแล้ว ใช้กระดาษทิชชู ขนาดเดียวกัน จ�ำนวนหลายช้ัน วางปิดทับเมล็ด ม้วน กระดาษเพาะให้เป็นม้วน แล้วน�ำไปไว้ในกล่องพลาสติก ใส ขนาด 19 x 28 x 10 ซม. (กวา้ ง x ยาว x หนา) ปิดฝา แลว้ เกบ็ ไว้ทีอ่ ณุ หภูมหิ ้อง โดยวางกล่องให้เอียง 45 องศา เพื่อให้นำ้� ส่วนเกนิ ไหลออกจากกระดาษเพาะ (ภาพท่ี 2)

14 ฉบับอิเลก็ ทรอนิกส์ 32 มกราคม-มีนาคม 2561 แค่ 8.8 เปอร์เซนต์ ซึ่งมีค่าใกล้เคียงกับงานทดลองของ Methews and Leong (อ้างตาม Lee et al., 2007) และ ม้วนกระดาษเพาะ ใสใ่ นกลอ่ งพลาสติก ปดิ ฝา แล้วน�ำไป มีจ�ำนวนเมล็ดแข็งสูงถึง 66.8 เปอร์เซนต์ ส่วนการคลุก เก็บไวใ้ นต�ำแหน่งเดิม เมลด็ โดยใช้กรดซลั ฟรู กิ เข้มข้มนาน 10 นาที มจี �ำนวนต้น อ่อนปกติไม่แตกต่างกับกรรมวิธีท่ีไม่คลุกกรดอย่างมีนัย การบันทกึ ผลการทดลอง ส�ำคัญทางสถิติ กล่าวคือ มีจ�ำนวนต้นอ่อนปกติเพิ่มข้ึน การบันทึกผลการทดลอง กระท�ำ 2 คร้ัง คือ หลัง เพียง 2.5 เปอร์เซนต์ แต่ก็ยังมีส่วนช่วยในการลด จากเพาะได้ 7 วนั (ครง้ั แรก) และหลงั จากเพาะได้ 14 วนั เปอรเ์ ซนตเ์ มลด็ แข็งไดอ้ ย่างมีนัยส�ำคญั ทางสถิติ (ครั้งสุดท้าย) ข้อมูลท่ีบันทึก ได้แก่ จ�ำนวนของต้นอ่อน ระยะเวลาการคลุกกรดนาน 20 และ 30 นาที ปกติ ต้นออ่ นผดิ ปกติ (ภาพที่ 3) เมล็ดตาย และเมล็ดแข็ง สามารถเพิ่มความงอกของเมล็ดและลดจ�ำนวนเมล็ด อน่ึง ในช่วงระหว่างการเพาะคร้ังแรกและคร้ัง แข็งได้อย่างมีนัยส�ำคัญย่ิงทางสถิติเม่ือเทียบกับกรรมวิธี สุดท้าย มีการตรวจนับความงอกทุก 2-3 วัน พร้อมกับ ท่ีไม่คลุกด้วยกรด อย่างไรก็ตาม ในการทดลองน้ี ถึง เปล่ียนกระดาษเพาะใหม่ทุกครั้ง ท้ังนี้ เพื่อน�ำเมล็ดตาย แมว้ า่ ระยะเวลาการคลกุ กรดนาน 30 นาที สามารถท�ำให้ ซึ่งจะมีราข้นึ ออกจากกระดาษเพาะ เมล็ดงอกเป็นต้นอ่อนปกติสูงสุด (33.8%) แต่ก็ยังมี จ�ำนวนที่ต่�ำอยู่ และเม่อื พจิ ารณาจ�ำนวนเมล็ดแขง็ ซึ่งจัด ผลการทดลองและวิจารณ์ ว่าเป็นเมล็ดดีแต่อยู่ในสภาพที่ยังพักตัว หรือเป็นเมล็ดท่ี น�้ำไม่สามารถซึมผ่านเข้าไปในเมล็ดได้ ยังคงมีจ�ำนวน การทดลองท่ี 1 เหลืออยู่ค่อนข้างมาก (34.5%) เป็นตัวชี้ให้เห็นว่าระยะ การทดลองประกอบด้วยระยะเวลาการขัดผิว เวลาของการขดั ผวิ เมลด็ โดยใชก้ รดยงั คงน้อยไป เมลด็ โดยใชก้ รดซัลฟรู กิ เขม้ ข้น 3 เวลา คือ 10, 20 และ ส�ำหรบั เปอรเ์ ซนตเ์ มลด็ ตาย ไมพ่ บวา่ มีความแตก 30 นาที โดยการไม่ขัดผิวเมล็ดเป็นกรรมวิธีเปรียบเทียบ ต่างระหว่างกรรมวิธีอย่างมีนัยส�ำคัญทางสถิติ หรือเมล็ด (Control) มี 4 ซำ�้ ท่ีน�ำมาใช้ในการทดลองคร้ังน้ีมีเมล็ดตายเฉล่ียเท่ากับ ผลจากการทดสอบความงอกหลังจากการเพาะ 28.2 เปอร์เซนต์ ซ่ึงจ�ำนวนเมล็ดตายนี้จะส่งผลต่อ Ex- เมล็ดได้ 14 วัน (ตารางที่ 1) ปรากฏว่า กรรมวิธีไม่คลุก periment error ผ่านการสุ่มเมล็ดท่ีจะใช้เป็นหน่วย เมล็ดดว้ ยกรด เมล็ดมคี วามงอกต่�ำสุด โดยมตี ้นออ่ นปกติ ทดลองของแต่ละกรรมวธิ ี ภาพที่ 3 ตน้ ออ่ นปกติ (สองตน้ ซา้ ยมอื ) และตน้ ออ่ นผดิ ปกติ (สองตน้ ขวามอื ) การทดลองที่ 2 การทดลองประกอบด้วยระยะเวลาการขัดผิว เมล็ดโดยใช้กรดซัลฟูริกเข้มข้น 4 เวลา คือ 30, 40, 50 และ 60 นาที โดยใหร้ ะยะเวลาการคลกุ กรดนาน 30 นาที เปน็ กรรมวิธีเปรียบเทียบ (Control) มี 1 ซ�ำ้ ผลจากการทดสอบความงอกหลงั จากเพาะ 14 วัน (ตารางท่ี 2 ) ปรากฎวา่ การคลกุ เมลด็ โดยใช้กรดซัลฟรู กิ ทย่ี าวนานข้นึ มผี ลท�ำใหเ้ มลด็ มีความงอกหรอื จ�ำนวนตน้ อ่อนปกติเพ่ิมชึ้น และในขณะเดียวกันก็จะช่วยลด จ�ำนวนเมล็ดแข็งลงได้ อยา่ งไรกต็ าม ระยะเวลาการคลกุ กรดนาน 60 นาที ถึงแม้ว่าจะมีจ�ำนวนต้นอ่อนปกติเพ่ิม ขน้ึ ถงึ 26 เปอร์เซนต์ และลดจ�ำนวนเมลด็ แข็งลงได้ 21

15 ฉบบั อิเล็กทรอนกิ ส์ 32 มกราคม-มนี าคม 2561 ตารางที่ 1 ผลการทดสอบความงอก (หลงั จากเพาะ 14 วนั ) ของเมลด็ ถวั่ มคู นู า แบรค็ เทยี ตา หลงั จากคลกุ ดว้ ยกรดซลั ฟรู กิ เขม้ ขน้ นาน 0, 10, 20 และ 30 นาที ระยะเวลาทคี่ ลกุ กรด ตน้ ออ่ นปกติ ต้นอ่อนผดิ ปกติ เมลด็ แขง็ เมลด็ ตาย (นาที) (%) (%) (%) (%) 8.8 0.2 66.8 24.2 0 (Control) 11.3 1.2 59.5 28.0 10 19.0 0.2 50.8 30.0 20 33.8 1.2 34.5 30.5 30 18.2 0.7 52.9 28.2 เฉลีย่ 4.7 6.7 8.3 LSD.05 6.5 9.4 11.7 LSD.01 16.7 8.2 19.2 cv (%) เปอร์เซนต์ เม่ือเทยี บกบั ระยะเวลาการคลกุ กรดนาน 30 ปกตมิ ากกวา่ การคลกุ กรดนาน 30 นาที (กรรมวิธีเปรยี บ นาที ซ่ึงเป็นกรรมวิธีเปรียบเทียบ แต่เมล็ดท่ีคลุกกับกรด เทยี บ) อย่างมีนัยส�ำคญั ย่งิ ทางสถิติ โดยท่กี ารคลกุ เมลด็ นาน 60 นาที ยงั คงมีแขง็ ที่ยงั ไมส่ ามารถงอกได้อยู่ถึง 12 กับกรดนาน 120 นาที มีจ�ำนวนต้นอ่อนปกติสูงสุด เปอร์เซนต์ ซ่ึงแสดงว่า การที่จะท�ำให้เมล็ดแข็งสามารถ เท่ากับ 64.2 เปอร์เซนต์ และสามารถท�ำลายการพักตัว งอกได้ทั้งหมด ย่อมต้องใช้ระยะเวลาการคลุกกรดนาน ของเมล็ดแข็งได้เกือบ 100 เปอร์เซนต์ ซึ่งถือว่าเป็นจุด กวา่ 60 นาที เด่นของกรรมวิธนี ี้ ส�ำหรับเปอร์เซนต์เมล็ดตาย พบว่าไม่มีความแตก การคลุกเมล็ดด้วยกรดนาน 60 และ 90 นาที เมล็ด ตา่ งระหว่างกรรมวธิ ี เฉลีย่ เท่ากบั 31.0 เปอรเ์ ซนต์ ซ่งึ ใกล้ มีเปอร์เซนต์ต้นอ่อนปกติไม่แตกต่างกันในทางสถิติ แต่ เคียงกบั การทดลองท่ี 1 (เฉลยี่ เท่ากบั 28.2%) เนื่องจาก การคลุกเมล็ดด้วยกรดนาน 90 นาที สามารถลด สุ่มมาจากเมลด็ ชุดเดียวกนั เปอร์เซนต์เมล็ดแข็งได้มากกว่าการคลุกเมล็ดด้วยกรด การทดลองท่ี 3 นาน 60 นาที และไม่แตกต่างทางทางสถิติเมื่อเทียบกับ การทดลองประกอบด้วยระยะเวลาการขัดผิว การคลุกกรดนาน 120 นาที เมล็ดโดยใช้กรดซัลฟูริกเข้มข้น 4 เวลา คือ 30, 60, 90 ความแตกต่างของเปอร์เซนต์ต้นอ่อนปกติระหว่าง และ 120 นาที โดยให้ระยะเวลาการคลุกกรดนาน 30 กรรมวิธีจะมีมากข้ึนเมื่อมีการตรวจวัดความงอกหลังจาก นาที เปน็ กรรมวธิ ีเปรียบเทยี บ เพาะเมล็ดได้ 7 วัน (ตารางที่ 4) กล่าวคือ จะพบความ (Control) มี 4 ซำ�้ แตกต่างอย่างมีนัยส�ำคัญย่ิงทางสถิติระหว่างกรรมวิธี ผลจากการทดสอบความงอกหลังจากการเพาะ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างการคลุกเมล็ด เมล็ดได้ 14 วัน (ตารางที่ 3) ปรากฏวา่ ทกุ ระยะเวลาการ ด้วยกรดนาน 90 และ 120 นาที กล่าวคือ เมือ่ มีการตรวจ คลุกกรด (60, 90 และ 120 นาที) มีเปอร์เซนต์ต้นอ่อน ความงอกหลงั จากเพาะเมลด็ ได้ 7 วนั การคลุกเมล็ดดว้ ย กรดนาน 120 นาที มีจ�ำนวนต้นอ่อนปกติมากกว่าการ

16 ฉบบั อิเล็กทรอนกิ ส์ 32 มกราคม-มนี าคม 2561 ตารางท่ี 2 ผลการทดสอบความงอก (หลงั จากเพาะ 14 วนั ) ของเมลด็ ถวั่ มคู นู า แบรค็ เทยี ตา หลงั จากคลกุ ดว้ ยกรดซลั ฟรู กิ เขม้ ขน้ นาน 30, 40, 50 และ 60 นาที ระยะเวลาทคี่ ลุกกรด ตน้ อ่อนปกติ ตน้ ออ่ นผิดปกติ เมล็ดแขง็ เมลด็ ตาย (นาท)ี (%) (%) (%) (%) 30 0 33 37 30 (Control) 44 0 28 28 40 50 1 22 27 50 56 0 12 32 60 45.0 0.2 23.7 31.0 เฉลีย่ ตารางท่ี 3 ผลการทดสอบความงอก (หลงั จากเพาะ 14 วนั ) ของเมลด็ ถวั่ มคู นู า แบรค็ เทยี ตา หลงั จากคลกุ ดว้ ยกรดซลั ฟรู กิ เขม้ ขน้ นาน 30, 60, 90 และ 120 นาที ระยะเวลาท่ีคลุกกรด ตน้ อ่อนปกติ ตน้ ออ่ นผดิ ปกติ เมล็ดแข็ง เมล็ดตาย (นาที) (%) (%) (%) (%) 28.8 0.7 36.5 34.0 30 (Control) 51.2 1.3 15.5 32.0 60 56.2 3.0 5.3 35.5 90 64.2 2.0 0.3 33.5 120 50.1 1.8 14.4 33.8 เฉล่ีย 5.6 5.6 6.7 LSD.05 7.9 7.9 9.4 LSD.01 7.3 25.5 12.9 cv (%) คลุกเมลด็ ด้วยกรดนาน 90 นาที เท่ากับ 20.3 เปอร์เซนต์ ปริมาณมากภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ ต่างจาก ในขณะท่ีการตรวจความงอกหลังจากเพาะเมล็ดได้ 14 กรรมวิธีอื่น ๆ ซึ่งเมลด็ จะทะยอยงอกไปเร่อื ย ๆ จนกวา่ จะ วัน การคลุกเมล็ดด้วยกรดนาน 120 นาที มีจ�ำนวนต้น ครบ 14 วนั อ่อนปกติมากกว่าการคลุกเมล็ดด้วยกรดนาน 90 นาที ส�ำหรับเปอร์เซนต์เมล็ดตาย พบว่าไม่มีความแตก เพียง 12 เปอร์เซนต์ แสดงให้เห็นได้ว่า การคลุกเมล็ด ตา่ งระหวา่ งกรรมวธิ ี เฉล่ียเทา่ กับ 33.8 เปอร์เซนต์ สงู กว่า ด้วยกรดนาน 120 นาที ท�ำให้เมล็ดสามารถงอกได้ใน การทดลองที่ 1 และ 2 เล็กนอ้ ย

17 ฉบบั อิเลก็ ทรอนกิ ส์ 32 มกราคม-มนี าคม 2561 ตารางท่ี 4 เปอรเ์ ซนตต์ น้ ออ่ นปกตขิ องถวั่ มคู นู า เมล็ดชุดเดยี วกนั แบรค็ เทยี ตา หลงั จากเพาะเมลด็ เปน็ เวลา 7 วนั สรุปผลการทดลอง ระยะเวลาที่คลกุ กรด ตน้ ออ่ นปกติ (นาที) (%) การใช้กรดซัลฟูริกเข้มข้นคลุกกับเมล็ดถ่ัวมูคูนา 9.0 แบร็คเทียตา เป็นระยะเวลานาน 120 นาที เปน็ วิธกี ารท่ี 30 (Control) 17.5 ดีท่ีสุด เม่ือเทียบกับระยะเวลาการคลุกกรดท่ีน้อยกว่านี้ 60 29.2 และได้ผลเทียบเท่ากับการตัดเปลือกหุ้มเมล็ดบางส่วน 90 49.5 ออก กล่าวคือ สามารถท�ำให้เมล็ดท่ีมีเปลือกหุ้มที่แข็ง 120 7.9 หรือท่ีเรียกว่า เมล็ดแข็ง (Hard seed) งอกเป็นต้นอ่อน LSD.01 14.0 ปกติได้ วิธีน้ีเหมาะท่ีจะใช้กับเมล็ดจ�ำนวนมาก ซึ่งไม่ cv (%) สามารถทีจ่ ะใชว้ ธิ ตี ดั เปลือกหุ้มเมลด็ บางสว่ นออกโดยใช้ กรรไกรตัดเล็บ เนอ่ื งจากเสยี เวลา และสิน้ เปลอื งแรงงาน การทดลองที่ 4 อย่างไรก็ตาม วิธีการใช้กรดต้องกระท�ำด้วยความ การทดลองประกอบด้วยวิธีการเพ่ิมความงอกของ ระมัดระวัง เน่ืองจากกรดท่ีใช้มีความเข้มข้นสูงมาก เมลด็ ถว่ั มคู นู า แบร็คเทียตา 2 วธิ ี คอื การคลุกเมล็ดด้วย (ประมาณ 98%) หากผู้ใช้มีความรู้ความเข้าใจก็ไม่มี กรดซลั ฟูริก นาน 120 นาที ซึง่ เป็นวธิ กี ารทีด่ ีทีส่ ุดของการ ปัญาหาแต่อยา่ งใด ขัดผิวโดยการใช้กรดซัลฟูริกเข้มข้น (ตารางที่ 3 และ 4) เปรียบเทียบกับวิธีตัดบางส่วนของเปลือกหุ้มเมล็ดออก ประโยชนท์ จี่ ะไดร้ บั โดยใช้กรรไกรตัดเล็บ ซ่ึงเป็นวิธีการท่ีท�ำให้น�้ำสามารถ เข้าไปในเมล็ดได้ทุกเมล็ด หรือเป็นวิธีท่ีสามารถขจัดการ ที่ผ่านมา การปลูกถั่วมูคูนา แบร็คเทียตา เป็นพืช พกั ตวั ของเมลด็ แข็งได้ 100 เปอรเ์ ซนต์ คลุมดิน ถ้าหากมีการใช้กรดซัลฟูริกเข้มข้นคลุกกับเมล็ด ผลจากการทดสอบความงอกหลังจากการเพาะ ก่อนปลูก มักใช้ระยะเวลาไม่เกิน 30 นาที ซ่ึงระยะเวลา เมล็ดเปน็ เวลา 14 วนั (ตารางท่ี 5) ปรากฏว่า ทัง้ สองวธิ ี ดังกล่าวจากการทดลองคร้ังนี้ พบว่า ยังคงมีเมล็ดแข็ง เมล็ดมีเปอร์เซนต์ต้นอ่อนปกติไม่แตกต่างกันในทางสถิติ เหลืออยู่ประมาณ 35 เปอร์เซนต์ (เฉลี่ยจาก 3 การ และที่ส�ำคัญคือ ทั้งสองวิธี สามารถขจัดการพักตัวของ ทดลอง) ซ่ึงเมล็ดเหล่านี้ยังคงเป็นเมล็ดดี สามารถงอก เมลด็ แข็งได้ไมแ่ ตกตา่ งกันทางสถติ ิ ถึงแมว้ า่ การใช้กรด เป็นต้นอ่อนปกติได้ ถ้าหากขยายเวลาการคลุกกรดออก จะไม่สามารถขจัดการพักตัวของเมล็ดแข็งได้ร้อย ไปอีกเป็น 120 นาที โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่ เปอร์เซนต์ ทัง้ น้เี นอ่ื งจากไม่สามารถท�ำให้เมลด็ ทม่ี ขี นาด ประการใด ก็จะได้ต้นถ่ัวเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 35 เลก็ (คาดวา่ มีเปลอื กหมุ้ เมลด็ หนามาก) งอกได้ แตเ่ มล็ด เปอรเ์ ซนต์ ในจ�ำนวน 35 เปอรเ์ ซนต์ น้ี นบั ว่ามีมูลคา่ ไม่ จ�ำพวกนี้ก็มีจ�ำนวนน้อยมาก และในทางปฏิบัติ หาก น้อย เมื่อเทียบกับราคาเมล็ดซึ่งมีราคาค่อนข้างแพง ต้องการใช้กรดคลุกกับเมล็ดควรแยกเมล็ดท่ีมีขนาดเล็ก (กิโลกรัมละ 3,000 บาท) ออกแลว้ ใช้วธิ ตี ดั เปลือกหมุ้ เมลด็ บางสว่ นออก ผลจากการทดลองครั้งน้ี นอกจากเป็นการเพ่ิม ส�ำหรับเปอร์เซนต์เมล็ดตาย พบว่าไม่มีความแตก มูลค่าให้กับเมล็ดแล้ว ยังสามารถน�ำมาใช้ปฏิบัติส�ำหรับ ต่างระหว่างกรรมวธิ ี เฉลีย่ เท่ากบั 31.0 เปอร์เซนต์ ซงึ่ ใกล้ การทดสอบความงอกของเมล็ดถั่วมูคูนา แบร็คเทียตา เคียงกับการทดลองที่ 1, 2 และ 3 เนื่องจากสุ่มมาจาก โดยก่อนเพาะให้น�ำเมล็ดมาคลุกกับกรดซัลฟูริกเข้มข้น นาน 120 นาที จะได้เปอร์เซนต์ความงอกของเมล็ดดี และเมล็ดตาย ส่วนเมล็ดแข็งแทบไม่มี ถ้ามีก็มีเฉพาะ เมลด็ ทมี่ ขี นาดเลก็ ซง่ึ จดั เปน็ เมลด็ ทม่ี คี ณุ ภาพคอ่ นขา้ งตำ�่ (Chee, 2007)

18 ฉบับอิเลก็ ทรอนิกส์ 32 มกราคม-มีนาคม 2561 ตารางท่ี 5 เปรยี บเทยี บความงอกของเมลด็ ถวั่ มคู นู า แบรค็ เทยี ตา ระหวา่ งวธิ กี ารคลกุ เมลด็ ดว้ ยกรดซลั ฟรู กิ เขม้ ขน้ นาน 120 นาที กบั วธิ ตี ดั เปลอื กหมุ้ เมลด็ บางสว่ นออกโดยใชก้ รรไกรตดั เลบ็ กรรมวธิ ี ตน้ อ่อนปกติ ต้นออ่ นผดิ ปกติ เมลด็ แขง็ เมลด็ ตาย (%) (%) (%) (%) ตัดเปลอื กหุ้มเมลด็ บางส่วนออก 1.2 0 โดยใช้กรรไกรตดั เล็บ (Control) 61.3 37.5 คลุกเมล็ดด้วยกรดซัลฟรู ิกเข้มขน้ นาน 120 นาที 63.3 (2.0ns) 1.0 0.5 35.2 (2.3ns) เฉล่ีย cv (%) 62.3 1.1 0.25 36.4 4.8 6.9 เอกสารอ้างองิ Goh, K. J. 2007. The cultivation of Mucuna bracteata - A pictorial guide. In: Goh, K. J. and S. B. จวงจนั ทร์ ดวงพัตรา. 2529. การตรวจสอบและวิเคราะห์ Chiu (ed) Mucuna bracteata A Cover Crop คณุ ภาพเมลด็ พนั ธ์ุ (พมิ พค์ รง้ั ท่ี 1). โรงพมิ พท์ งั่ ฮวั่ ชนิ : And Living Green Manure. Agricultural Crop กรงุ เทพมหานคร. 194 หนา้ . Trust (ACT): Pataring Jaya, Selangor Darul Chau, C. K., K. P. Ong and A. Zainuriah. 2007. Ehsan. pp. 165-170. Kulim experiences with establishing Mucuna Lee, C. T., A. Izwanizam, K. C. Chu and J. M. 2007. bracteta under oil palm. In: Goh, K. J. and S. Nursery and field establishment of Mucuna B. Chiu (ed) Mucuna bracteata A Cover Crop bracteata in oil palm plantations. In: Goh, K. And Living Green Manure. Agricultural Crop J. and S. B. Chiu (ed) Mucuna bracteata A Trust (ACT): Pataring Jaya, Selangor Darul Cover Crop And Living Green Manure. Agri- Ehsan. pp. 85-95. cultural Crop Trust (ACT): Pataring Jaya, Chee, C. F. 2007. Mucuna bracteata seeds and Selangor Darul Ehsan. pp. 29-44. seeds quality. In: Goh, K. J. and S. B. Chiu Shaharudin, B. and N. Jamaluddin. 2007. Golden (ed) Mucuna bracteata A Cover Crop And Hope,s experiences with establishing Mucuna Living Green Manure. Agricultural Crop Trust bracteata under oil palm. In: Goh, K. J. and S. (ACT): Pataring Jaya, Selangor Darul Ehsan. B. Chiu (ed) Mucuna bracteata A Cover Crop pp. 21-28. And Living Green Manure. Agricultural Crop Chee, Y. K., T. V. Chin and A. Rashid Bin Shariff. Trust (ACT): Pataring Jaya, Selangor Darul 1980. Legume seed in rubber cultivation. Ehsan. pp. 29-44. Proc. Rubb. Res.Inst. Malaysia Plrs,Conf. Kuala Lumpur 1979: 241-251.

19 ฉบบั อเิ ล็กทรอนิกส์ 32 มกราคม-มีนาคม 2561 แนวทางในการพฒั นาศักยภาพอตุ สาหกรรม ไมย้ างพาราในเขตพนื้ ท่ภี าคใต้ ปณั ณวิชญ์ วงศส์ ุวฒั น,์ ภัทรพงศ์ วงศ์สุวัฒน์, อรอนงค์ เวียงแก้ว, กติ ติพงษ์ ซม้ิ สมบูรณ,์ และ พรธริ ัฐฐ์ พจนสุนทร กองโลจิสติกส์ ฝา่ ยวิจัยและพัฒนาเศรษฐกจิ ยาง การยางแห่งประเทศไทย ปริมาณไม้ยางของไทยท่ีออกสู่ตลาดน้ัน มาจาก อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไม้ พน้ื ท่ีปลกู แทนยางประมาณปีละ 300,000 ไร่ การตดั โค่น ยางพาราของไทยยังมีปัญหาการกีดกันทางการค้าจาก ไม้ยางพาราในพ้ืนท่ี 1 ไร่ จะได้ไม้ยางพาราประมาณ ตลาดสหภาพยุโรป ซึ่งก�ำหนดการอนุญาตน�ำเข้าไม้ต้อง 38 ลูกบาศก์เมตร ดังนั้นคิดเป็นปริมาตรไม้ปีละ 11.4 มาจากแหล่งท่ีถูกกฎหมาย เม่ือเทียบกับคู่แข่งอย่าง ล้านลูกบาศก์เมตร จะเห็นว่าไทยมีวัตถุดิบในการผลิต อินโดนีเซียซึ่งมีความร่วมมือข้อตกลงโดยสมัครใจการส่ง เฟอรน์ เิ จอรไ์ ม้ยางพาราไดอ้ ยา่ งเพยี งพอ ซึง่ วตั ถดุ ิบเหลา่ ออกไม้ท่ีตัดโคน่ จากปา่ ทม่ี ีสทิ ธ์ถิ ูกต้อง (Voluntary Part- นี้จะเก่ียวข้องกับผูป้ ระกอบการ 3 สว่ นด้วยกนั ไดแ้ ก่ nership Agreement: VPA) นอกจากนี้ บางคร้งั ผู้ผลิตไม้ 1) อุตสาหกรรมตน้ น�ำ้ ประกอบด้วยกล่มุ เกษตรกร แปรรูปนิยมส่งออกไปต่างประเทศที่ให้ผลตอบแทนสูง ผู้ปลูกยางพารา นายหน้าหรือผู้ประกอบการรับจ้างโค่น กว่าขายในประเทศ เช่น จนี ซ่งึ เปน็ คแู่ ขง่ ในอตุ สาหกรรม ยางและขนส่งไมย้ างพารา เฟอร์นิเจอร์และมีความต้องการไม้แปรรูปจ�ำนวนมาก 2) อตุ สาหกรรมกลางน้ำ� ประกอบดว้ ย กลมุ่ ธุรกจิ ท�ำให้ผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารามีความยุ่ง แปรรปู ไมย้ างพารา เชน่ โรงเลอ่ื ยไม้ ยากในการบริหารจัดการวัตถุดิบและการวางแผนด้าน โรงอบไม้ โรงงานผลติ ชน้ิ ไมอ้ ัดและแผ่นใยไม้อัด การตลาด รวมท้ังยังถูกคู่แข่ง ได้แก่ จีน เวียดนาม แย่ง 3) อุตสาหกรรมปลายน้�ำ ประกอบด้วย กลุม่ ผ้ผู ลติ ตลาด นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ส่งออกเฟอร์นิเจอร์ไม้ เฟอร์นิเจอร์ อุตสาหกรรมเคร่ืองเรือนและผลิตภัณฑ์จาก ยางพารา มีปัญหาขาดเงินทุนหมุนเวียน รวมทั้งเสีย ไม้ยางพารา เปรียบคู่แข่งในด้านต่างๆ เช่น คุณภาพวัตถุดิบ ต้นทุน อุตสาหกรรมปลายน�้ำ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิต การผลิตและค่าขนส่ง ต้นทุนค่าแรงงาน และเสียเปรียบ เฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นกลุ่มสินค้าท่ีสร้างมูลค่าเพิ่มจากไม้ ดา้ นการออกแบบสนิ คา้ ยางพารามากที่สุดเม่ือเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรม ดังน้ัน จึงควรศึกษาสถานการณ์การผลิต การ ต้นน้�ำและกลางน�้ำ โดยเม่ือพิจารณาจากมูลค่าการส่ง ตลาด ตลอดจนปัญหาอุปสรรคท่ีเกี่ยวข้อง อันจะเป็น ออกเฟอร์นิเจอร์ไม้ (รวมเฟอร์นิเจอร์ท่ีผลิตจากไม้ แนวทางในการสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มขีดความ ยางพาราและไมช้ นดิ อื่น ๆ ) ระหว่างปี 2557 – 2559 พบ สามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไม้ วา่ มูลคา่ การสง่ ออกมีแนวโนม้ เพ่ิมขน้ึ อยา่ งต่อเนอ่ื ง โดย ยางพาราตามยุทธศาสตรก์ ารยางแหง่ ประเทศไทย 20 ปี มีอัตราการเติบโตเฉล่ียร้อยละ 11.86 (Rubber Intelli- (พ.ศ. 2560 – 2579) (การยางแห่งประเทศไทย, 2560) gence Unit, 2016) เพ่ือเพ่ิมมูลค่าไม้ยางให้มากขึ้น และน�ำไปสู่การเพ่ิมการ

20 ฉบบั อิเลก็ ทรอนกิ ส์ 32 มกราคม-มนี าคม 2561 จ้างงานในประเทศ การค้าเป็นการค้าแบบเสรี มีเพียง 2 ประเทศ และมี สินค้าส่งออกเพียง 2 ชนิด ปัจจัยแรงงานเป็นปัจจัยการ ทฤษฎีและแนวคดิ ทใี่ ช้ในการศกึ ษา ผลิตเพียงชนิดเดียว ฉะน้ัน มูลค่าของผลผลิต (สินค้า) หรือต้นทุนการผลิตถูกก�ำหนดมาจากปัจจัยแรงงานเพียง ทฤษฎีการคา้ ระหว่างประเทศ ปัจจยั เดยี ว (The labor theory of value) ดังนัน้ เม่ือเกดิ ทฤษฎีการค้าระหว่างประเทศมุ่งที่จะอธิบายว่า การค้าระหว่างประเทศแต่ละประเทศจะมีต้นทุนในการ เหตุใดประเทศต่าง ๆ จึงมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า ผลิตสนิ ค้าท่ีแตกต่างกนั ซ่งึ ความแตกตา่ งของต้นทุนการ ระหว่างกัน ราคาและปรมิ าณทซ่ี ้ือขายกันจะเป็นเทา่ ไร มี ผลิตสินค้าชนิดต่างๆ ของแต่ละประเทศ ก็สืบเนื่องมา ปริมาณมากน้อยเป็นประการใด ประกอบด้วย จากความแตกต่างของประสิทธิภาพของแรงงานโดย แนวคิดความได้เปรียบโดยสมบูรณ์ (Absolute เปรียบเทียบในการผลิตสินค้า 2 ชนิด หรือกล่าวอีกนัย advantage theory) แนวคิดนี้เสนอโดย อดัม สมิธ หนึ่งคือความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบตามแนวคิดของ (Adam Smith) (กรานต์เลิศ, 2550) ทฤษฎีน้ีกล่าวว่า Ricardo แล้วถูกวัดมาจากประสทิ ธภิ าพของแรงงานโดย “ ป ร ะ เ ท ศ ที่ มี ค ว า ม ส า ม า ร ถ ผ ลิ ต สิ น ค ้ า ไ ด ้ อ ย ่ า ง มี เปรยี บเทยี บในการผลิตสนิ คา้ ประสิทธิภาพมากกว่าอีกประเทศหนึ่ง ประเทศน้ันจะ ทฤษฎีการวิเคราะหส์ ภาพแวดลอ้ มทางธรุ กิจ ผลิตเฉพาะสินค้าท่ีตนมีความได้เปรียบโดยสมบูรณ์ออก การวเิ คราะห์ SWOT ศริ วิ รรณ และคณะ (อา้ งตาม มาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของอีกประเทศหนึ่งซ่ึงเกิดจาก อรไท, 2546) ได้กล่าวถึงการวิเคราะห์ SWOT ซ่ึงเป็น หลักของการแบ่งงานกันท�ำ (Division of labor) ท�ำให้ เคร่ืองมือในการประเมินสถานการณ์ท่ีช่วยผู้บริหาร เกิดความช�ำนาญ (Specialization) แต่แนวคิดนี้มีข้อ ก�ำหนดจุดแข็งและจุดอ่อนจากส่ิงแวดล้อมภายใน บกพร่องคือ ถ้าประเทศใดประเทศหนึ่งมีความได้เปรียบ โอกาส และอุปสรรคจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ตลอดจน โดยสมบูรณ์ในการผลิตสินค้าทั้ง 2 ชนิดมากกว่าอีก ผลกระทบที่มีศักยภาพจากปัจจัยเหล่านี้ต่อการท�ำงาน ประเทศหน่ึง ก็ไม่ควรจะเกิดการค้าระหว่างประเทศท้ัง ขององค์กร หรือหมายถึงวิธีการซ่ึงช่วยผู้บริหารในการ สอง แตใ่ นทางปฏิบตั ปิ รากฏวา่ ประเทศใดประเทศหนง่ึ มี ก�ำหนดจุดแข็งขององค์กร (Organizational Strengths: ความได้เปรียบโดยสมบูรณ์ในสินค้า 2 ชนิด แต่ก็ยังคง S) จุดอ่อนขององค์กร (Organizational Weaknesses: ท�ำการค้ากับอีกประเทศหน่ึง ซ่ึงมีความเสียเปรียบโดย W) โอกาสจากส่ิงแวดล้อมภายนอก (Environmental สมบรู ณ์ในสินค้าท้งั 2 ชนดิ Opportunities: O) และอุปสรรคจากสิ่งแวดล้อม แนวคิดเชิงทฤษฎีความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบ ภายนอก (Environmental Threats: T) (Comparative advantage theory) หลังจากความล้ม การวิเคราะห์ SWOT จะช่วยให้ผู้น�ำองค์กร เหลวของแนวคิดความได้เปรียบโดยสมบูรณ์ ที่น�ำเสนอ สามารถก�ำหนดกลยุทธ์ในการบริหารจัดการองค์กรได้ โดย อดัม สมิธ ไม่สามารถที่จะอธิบายได้ว่าท�ำไมยังมี สอดคล้องกับสถานการณท์ ่เี ปลยี่ นแปลงอยตู่ ลอดเวลา การค้าระหว่างประเทศเกิดข้ึน ในกรณีท่ีประเทศหนึ่งมี ตัวแบบระบบเพชร (Diamond model) ทฤษฎีนี้ ความได้เปรียบโดยสมบูรณ์ในการผลิตสินค้าทุกชนิด ใน เสนอโดย Michael E. Porter (ศูนย์วิจัยเศรษฐศาสตร์ ขณะท่ีอีกประเทศหน่ึงไม่มีความได้เปรียบโดยสมบูรณ์ ประยุกต์, 2550) ตัวแบบระบบเพชร (Diamond model) เลยในการผลิตสินค้าเลยแม้เพียงอย่างเดียว ซ่ึงภายหลัง เป็นตัวแบบที่สามารถวิเคราะห์ได้ถึงสาเหตุท่ีท�ำให้ ต่อมา David Ricardo ได้มีการปรับปรุงแนวคิดของ อดัม ศักยภาพการแข่งขันของประเทศหน่ึงมีมากกว่าอีก สมิธ และ พยายามอธิบายถึงสาเหตุที่ท�ำให้เกิดการค้า ประเทศหนง่ึ หรือศกั ยภาพการแข่งขนั ของผปู้ ระกอบการ ระหว่างประเทศใหม่ว่า การค้าระหว่างประเทศเกิดขึ้นได้ หน่ึงจึงมีมากกว่าผู้ประกอบการรายอ่ืนในอุตสาหกรรม ก็เนื่องจากแต่ละประเทศมีต้นทุนการผลิตเชิงเปรียบ ทั้งนี้เพราะตัวแบบได้แสดงถึงองค์ประกอบหลักและ เทียบ (Comparative cost) ในสินค้าชนิดต่าง ๆ ท่ี แตกต่างกัน โดยกรอบการวิเคราะห์ของ Ricardo ก็คือ

21 ฉบับอเิ ล็กทรอนิกส์ 32 มกราคม-มนี าคม 2561 เทคโนโลยี ราคาปัจจัยการผลิตที่ส�ำคัญ การเปล่ียน แปลงทางตลาดการเงินโลกหรืออัตราแลกเปล่ียนคร้ัง ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสามารถหรือความได้เปรียบใน ส�ำคัญ การเพ่ิมสูงข้ึนมากอย่างกะทันหันของอุปสงค์โลก การแข่งขันของอุตสาหกรรมของประเทศใดประเทศหน่ึง หรืออุปสงค์ในแถบหน่ึงของโลก การตัดสินใจทางการ อันมีผลต่อการพัฒนาและการปรับตัวของอุตสาหกรรม เมืองโดยรัฐบาลประเทศอ่ืน และสงคราม เป็นต้น น้นั ตัวแบบระบบเพชรไดว้ ิเคราะห์ปจั จัยแวดลอ้ ม 4 ด้าน เหตุสุดวิสัยมีความส�ำคัญต่อการก�ำหนดข้อได้เปรียบ ท่ีมีผลกระทบต่อการเพ่ิมผลผลิตของบริษัท ได้แก่ (1) ทางการแข่งขนั ของประเทศ เพราะเหตสุ ดุ วิสยั กอ่ ใหเ้ กดิ ปัจจัยการผลิตในประเทศ (Factor conditions) (2) การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างอุตสาหกรรมในระบบเพชร อุปสงค์ในประเทศ (Demand conditions) (3) หรือในปัจจัยท่ีผลต่อความได้เปรียบทางการแข่งขันของ อุตสาหกรรมท่ีเก่ยี วเนอ่ื งและสนับสนุนกนั (Related and อุตสาหกรรม เหตุสุดวิสัยอาจลบล้างข้อได้เปรียบด้าน supporting industries) และ (4) ยุทธการ โครงสร้าง การแข่งขันของผู้แข่งขันรายเดิม จึงเกิดช่องว่างท่ีผู้ และสภาพการแข่งขันของประเทศ (Firm strategy, แข่งขันรายใหม่สามารถเอาชนะผู้แข่งขันรายเดิมได้ ใน structure and rivalry) โดยความสัมพันธ์ของปัจจัย ข ณ ะ ท่ี เ ห ตุ สุ ด วิ สั ย ก ่ อ ใ ห ้ เ กิ ด ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ใ น แวดล้อมทง้ั 4 ดา้ นจะมีผลสนับสนนุ ซงึ่ กนั และกนั โครงสร้างอุตสาหกรรมในระบบเพชร หรือในปัจจัยท่ี ส่วนสภาพการแข่งขันระหว่างประเทศจะเป็นตัว ก�ำหนดความได้เปรียบด้านการแข่งขันของอุตสาหกรรม ก�ำหนดตัวหนึ่งในระบบเพชร โดยการแข่งขันที่รุนแรง ประเทศที่จะประสบความส�ำเร็จในการใช้ประโยชน์จาก ของอุตสาหกรรมในประเทศ จะท�ำให้อุตสาหกรรมน้ัน การเปลี่ยนแปลงนั้น ก็คือประเทศที่มีระบบเพชรท่ี ประสบความส�ำเร็จระหว่างประเทศในระดับที่สูงมาก สอดคลอ้ งกบั การเปลยี่ นแปลงนั้น เนอื่ งจากจะเกดิ แรงกดดันกนั และกนั ใหม้ กี ารพัฒนาและ รัฐบาล เป็นสถาบันท่ีมีผลและได้รับผลจากตัว นวตั กรรม ซึง่ การแข่งขนั ในประเทศท่เี ขม้ ข้น มกั จะกดดนั ก�ำหนดท้ังส่ี ท้ังท่ีเป็นผลทางบวกและผลทางลบ ดังเช่น ให้เกิดการส่งออก เพื่อแสวงหาตลาดเพ่ิมเติม เพื่อก่อให้ ปัจจัยการผลิตในประเทศได้รับผลกระทบจากนโยบาย เกิดความได้เปรียบด้านต้นทุนที่ลดลงเมื่อมีการผลิตคร้ัง รัฐด้านตลาดหลักทรัพย์ ด้านการศึกษา ด้านเงินช่วย ละมาก ๆ เหลือจากรฐั บาล เปน็ ต้น อุปสงค์ในประเทศได้รบั ผลกระ กระบวนการแข่งขันข้างต้นจะเพ่ิมคุณประโยชน์ ทบจากนโยบายรัฐบาลด้านมาตรฐานสินคา้ และด้าน ข้ึนอีกมาก ถ้าผู้แข่งขันในอุตสาหกรรมเดียวกันไม่อยู่ อื่น ๆ ทเี่ ก่ยี วข้องกบั ความต้องการของผูซ้ ้อื ผบู้ รโิ ภค รวม กระจัดกระจายท่ัวประเทศ แต่กระจุกตัวอยู่ในบริเวณ ทั้งรัฐบาลยังเป็นผู้ซ้ือรายใหญ่ของสินค้าและบริการ หรือเมืองเดียวกัน และการเปิดตลาดในประเทศโดยไม่ หลาย ๆ ชนิด อุตสาหกรรมสนับสนุนและเก่ียวเนื่องใน กีดกันการน�ำเข้าอย่างสมบูรณ์ อาจทดแทนการ ประเทศ ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐบาลด้านการ ขาดแคลนสภาพการแข่งขันในประเทศที่เข้มข้นได้บ้าง โฆษณาและด้านอื่น ๆ ยุทธการ โครงสร้าง และสภาพ ส�ำหรับประเทศเล็ก ๆ และจ�ำนวนผู้แข่งขันเพียงอย่าง การแข่งขันในประเทศของบริษัท ได้รับผลกระทบจาก เดียวไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ จุดส�ำคัญคือ คุณภาพของ นโยบายรฐั ดา้ นภาษี และดา้ นปอ้ งกนั การผกู ขาด เปน็ ต้น การแข่งขันต้องเข้มข้นด้วย เพราะสภาพการแข่งขันใน รัฐบาลสามารถส่งเสริมหรือขัดขวางการเสริมสร้างรักษา ประเทศที่เข้มข้นถือได้ว่าเป็นทรัพยากรที่ล้�ำค่าของ ข้อได้เปรียบด้านการแข่งขันของประเทศ แต่รัฐบาลไม่มี ประเทศ ความสามารถท่ีจะสร้างข้อได้เปรียบด้านการแข่งขันของ นอกจากตัวก�ำหนดท้ังสี่ในระบบเพชรแล้ว ยังมี ประเทศได้เองโดยตรง การสร้างข้อได้เปรียบด้านการ ปัจจัยภายนอกท่ีมีบทบาทต่อปัจจัยท่ีมีผลต่อความ แข่งขันของประเทศเป็นบทบาทของภาคธุรกิจเอกชน สามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศอกี 2 ประการ คือ โดยการเชือ่ มโยงของปัจจัยต่างๆในระบบเพชร เหตุสุดวิสัย หมายถึง การเปล่ียนแปลงคร้ัง ส�ำคัญท่ีอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัทต่าง ๆ ใน อุตสาหกรรม เช่น สิ่งประดิษฐ์ใหม่ การเปลี่ยนแปลง

22 ฉบบั อิเล็กทรอนกิ ส์ 32 มกราคม-มนี าคม 2561 หน่วยงานตา่ ง ๆ ทเ่ี กีย่ วข้อง วตั ถุประสงคข์ องการศึกษา การวเิ คราะหข์ อ้ มูล 1. ศึกษาสภาพทั่วไปของการแปรรูปไม้ยางพารา วิธีการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ประกอบดว้ ยวิธดี งั ต่อไปน้ี และผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา ต้ังแต่ระดับต้นน�้ำ 1. การวเิ คราะหเ์ ชงิ พรรณนา (Descriptive analy- กลางน�ำ้ และปลายนำ้� sis) เป็นการน�ำข้อมูลที่ได้จากการศึกษาด้วยการจัด 2. ศึกษาศักยภาพในการแข่งขันของโรงงาน ระบบข้อมูล แยกแยะองค์ประกอบของข้อมูล หาความ แปรรปู และเฟอรน์ ิเจอร์ไมย้ างพารา สัมพันธ์ของข้อมูลมาตีความ และน�ำเสนอด้วยการเขียน บรรยาย ขอบเขตการศึกษา 2. การวิเคราะหเ์ ชิงปริมาณ (Quantitative analy- sis) เป็นการน�ำข้อมูลซ่ึงได้จากการศึกษามาลงรหัส 1. ศึกษาสภาพทั่วไปของอุตสาหกรรมแปรรูปไม้ ขอ้ มลู แล้ววิเคราะหด์ ้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ผา่ นสถติ ิ ยางพารา และเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา ตั้งแต่ต้นน้�ำ ขั้นพ้นื ฐาน กลางนำ้� และปลายน�ำ้ 2. ศกึ ษากลุม่ เปา้ หมาย 3 กลุม่ ไดแ้ ก่ เกษตรกรผูท้ ี่ ขายไม้ยางพารา (จ�ำนวน 120 ราย) ลานรับซื้อไม้ ผลการศึกษา ยางพารา (จ�ำนวน 25 แห่ง) และผู้ประกอบการโรงงาน แปรรูปไม้ยางพารา และเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา สภาพทวั่ ไปของอตุ สาหกรรมการแปรรปู (จ�ำนวน 16 ราย) ไมย้ างพารา และเฟอรน์ เิ จอร์ไม้ยางพารา 3. ศกึ ษาในพน้ื ที่ภาคใต้ โดยแบง่ ออกเปน็ 4 กลมุ่ จากการศึกษาพบว่า ไม้ยางพาราแปรรูป และ จงั หวดั ไดแ้ ก่ ชุมพร ระนอง และ สรุ าษฎรธ์ านี (กล่มุ ที่ 1) เฟอร์นิเจอร์ไมย้ างพาราของไทย เป็นทีต่ ้องการของตลาด พังงา และกระบ่ี (กลุ่มท่ี 2) นครศรีธรรมราช และตรัง ตา่ งประเทศเป็นอยา่ งมาก ตลาดส่งออกหลักที่ส�ำคญั คือ (กลุม่ ที่ 3) พทั ลงุ สงขลา และสตลู (กลมุ่ ท่ี 4) จีน ซ่ึงมูลค่าการส่งออกปรับตัวเพ่ิมสูงข้ึนอย่างต่อเนื่อง 4. ระยะเวลาในการศึกษาระหว่างเดือนตุลาคม โดยในปี 2559 มีมูลค่า 1,960.57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 2559 – กนั ยายน 2560 และไม้ยางพาราแปรรูปมีการส่งออกเพ่ิมสูงข้ึนมากท่ีสุด ร้อยละ 34.49 (ศูนย์สารสนเทศการส่ือสาร, 2560) ซ่ึง วธิ กี ารศกึ ษา คาดว่าในอนาคตอุตสาหกรรมแปรรูปไม้ยางพารา และ เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารายังมีแนวโน้มที่ดี เน่ืองจากจีนมี 1. ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary data) โดยการสงั เกต การขยายตัวด้านอสังหาริมทรัพย์มากข้ึนท�ำให้ความ แบบมีส่วนรว่ ม (Participant observation) ต่อเกษตรกร ต้องการเฟอร์นิเจอร์เพ่ิมข้ึน ส่งผลให้ความต้องการ ชาวสวนยาง เจา้ ของและพนกั งานลานรับซอ้ื ไม้ยางพารา วัตถุดบิ เพ่มิ ข้ึน และผู้ประกอบกิจการโรงงานแปรรูปเฟอร์นิเจอร์ไม้ ยางพารา เพอื่ ศกึ ษาถึงกระบวนการจ�ำหนา่ ยวตั ถดุ ิบ การ การศกึ ษาความได้เปรยี บโดยเปรยี บเทียบ รับซ้ือวัตถุดิบ การขนส่งวัตถุดิบ กระบวนการแปรรูปไม้ เม่ือพิจารณาความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบของ ยางพาราและเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา ปริมาณผลผลิต ประเทศคู่แข่งของประเทศไทยในการด�ำเนินธุรกิจ และชนิดของผลผลิต การจัดจ�ำหน่ายสินค้า ตลาดท่ีจัด ประเภทโรงงานแปรรูปไม้ยางพารา และเฟอร์นิเจอร์ไม้ จ�ำหน่าย รวมทงั้ การสัมภาษณ์เชงิ ลึก (In - depth inter- ยางพารา ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม และ อินโดนีเซีย view) กับผู้บริหารของโรงงานแปรรูปเฟอร์นิเจอร์ไม้ พบว่า ไทย เป็นประเทศท่ีมีการปลูกยางพารา และส่ง ยางพารา เพ่ือรวบรวมข้อมูลด้านปัญหา อุปสรรค และ ออกยางพารา ไมย้ างพาราแปรรปู มากเป็นอันดับ 1 ของ ขอ้ เสนอแนะที่มีตอ่ หน่วยงานภาครฐั โลก ปัจจุบันอุตสาหกรรมการแปรรูปไม้ยางพารา และ 2. ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary data) ได้จากการ รวบรวมข้อมูล จากเอกสาร หนังสือ และเว็บไซต์ของ

23 ฉบับอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 32 มกราคม-มีนาคม 2561 การศกึ ษาสภาพแวดลอ้ มของอตุ สาหกรรม (Diamond model) เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพาราของไทยมีอัตราการเจริญเติบโต ผลการศึกษาสภาพแวดล้อมของอุตสาหกรรมโดย และมูลค่าการส่งออกเพ่ิมขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากนโยบาย ใชต้ วั แบบระบบเพชร พบวา่ การสนับสนุนการเพ่ิมพ้ืนท่ีปลูกยางของรัฐบาล และจาก เงื่อนไขทางดา้ นปจั จัยการผลิต ผปู้ ระกอบการของ ปริมาณการตัดโค่นไม้ยางพาราประมาณปีละ 300,000 ไทยมีความได้เปรียบทางด้านวัตถุดิบ การส่งออก มี – 500,000 ไร่ ท�ำให้ผลผลิตของไม้ยางพาราแปรรูปของ ทักษะและประสบการณ์ในการท�ำงาน แต่มีข้อเสีย ไทยสูงถึง 2.5 – 4.3 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ซึ่งผู้ เปรียบด้านต้นทนุ แรงงาน ขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะ ประกอบการไทยมีขีดความสามารถและศักยภาพในการ แรงงานฝีมือ ต้องพึ่งพาแรงงานต่างประเทศ มีปัญหา ผลิตและส่งออกสูงกว่าประเทศคู่แข่งอื่นๆ แต่อย่างไร อุปสรรคทางด้านข้อกฎหมาย และขาดความรู้ความ ก็ตาม ประเทศไทยมีข้อเสียเปรียบในด้านต้นทุนในการ เขา้ ใจในการท�ำการตลาด ผลิต โดยเฉพาะต้นทุนของแรงงานซ่ึงสูงกว่าประเทศคู่ เงื่อนไขด้านอุปสงค์ พบว่า ผู้ประกอบการไทยยัง แข่ง และมาตรการส่งเสริมการลงทุนและสิทธิพิเศษทาง คงมีความได้เปรียบ เนื่องจากการขยายตัวของ ภาษี เปน็ ตน้ อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ และอสังหาริมทรัพย์ในจีน จึง ส่งผลให้การสง่ ออกไมย้ างพาราของไทยไปยงั จีน คาดว่า การศกึ ษาสภาพแวดลอ้ มทางธรุ กจิ (SWOT analysis) จะยังเติบโตข้ึนในอนาคต จากการศึกษาพบวา่ ผ้ปู ระกอบการโรงงานแปรรูป บริบทการแข่งขันและกลยุทธ์ทางธุรกิจ พบว่า ผู้ ไม้ยางพารา และเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพาราของไทย มีจุด ประกอบการของไทยยังเสียเปรียบด้านต้นทุน เน่ืองจาก แข็งในด้านปริมาณวัตถุดิบเพียงพอต่อการผลิต มี การแข่งขันในธุรกิจนี้เน้นการใช้ต้นทุนท่ีต่�ำ มากกว่าการ อุตสาหกรรมปลายน้�ำรองรับผลผลิต มีการรวมกลุ่มกัน แข่งขันทางด้านราคา หรือคุณภาพ รวมทงั้ การแข่งขันใน ของผู้ประกอบการ การส่งออกสามารถท�ำได้อย่าง ระยะยาว ผู้ประกอบการของไทยยังคงต้องปรับตัวให้รับ สะดวก แต่จดุ ออ่ น คือ ผปู้ ระกอบการยังขาดความเขา้ ใจ กับการเปล่ยี นแปลงท่ีเกิดข้นึ ในเรื่องการตลาด รวมถึงการท�ำการตลาดต่างประเทศ อุตสาหกรรมท่ีเก่ียวโยงและสนับสนุน พบว่า ระดับโลก ท�ำการตลาดเชิงรุกและการสร้างตราสินค้า ประเทศไทยยังคงมีข้อจ�ำกัดเก่ียวกับผู้ประกอบการ อย่างจริงจัง และมีตลาดหลักเพียงแค่ตลาดจีนเท่านั้น โรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารามีจ�ำนวนน้อย และผู้ รวมไปถึงความเสียเปรียบในการแข่งขันทางด้านต้นทุน ผลิตไม้ยางพาราแปรรูปก็นิยมผลิตเพ่ือส่งออกไปยังต่าง และการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ เม่ือพิจารณา ประเทศ ท�ำให้ไม่สามารถสร้างมูลค่าเพ่ิมให้แก่ สภาพแวดล้อมภายนอกพบวา่ ผูป้ ระกอบการของไทยยัง ผลิตภณั ฑ์ได้ มีโอกาสท่ีดี เน่ืองจาก ภาพลักษณ์สินค้าของไทยอยู่ใน บทบาทรัฐบาล ปัจจุบันรัฐบาลได้มีการจัดต้ัง ระดับที่ดีในมุมมองของผู้ซื้อ และอุปสงค์ในตลาด หน่วยงานรับผิดชอบด้านยางพาราท้ังระบบของประเทศ อาเซียนเพิ่มขึ้น เอ้ือประโยชน์ต่อการส่งออกสินค้าของ คอื การยางแห่งประเทศไทย ซึ่งจะมาเปน็ องค์กรกลางใน ไทย รวมทั้งยังมีการรวมกลุ่มกันของประเทศในอาเซียน การบริหารจัดการยางพาราทั้งระบบ ท้ังในส่วนของ ของผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ (ASEAN furniture industry เกษตรกร สถาบันเกษตรกร ผู้ประกอบการ และทุกภาค council) เพ่ือให้มีการแสดงสินคา้ ในระดับอาเซยี น มีการ ส่วนท่ีเกี่ยวข้องกับยางพารา รวมไปถึงการบริหารจัดการ ก�ำหนดหลักเกณฑ์ FFC (มาตรการก�ำหนดท่ีมาของไม้ อุตสาหกรรมไม้ยางพารา และเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา ยาง) แต่อุปสรรคที่ส�ำคัญคือ การที่ความต้องการของ โดยได้มีการจัดท�ำยุทธศาสตร์ยางพาราระยะ 20 ปีข้ึน ตลาดในแต่ละภูมิภาคแตกต่างกัน คู่แข่งรายใหม่ใน (พ.ศ. 2561 – 2579) เพื่อใชใ้ นการก�ำหนดนโยบาย การ ตลาดโลกเพ่ิมข้ึน รวมทงั้ ราคาวัตถุดิบมคี วามผนั ผวน ด�ำเนินงานด้านยางพาราในระยะยาว จึงเป็นโอกาสท่ีดี

24 ฉบบั อิเล็กทรอนกิ ส์ 32 มกราคม-มีนาคม 2561 ได้แก่ ผู้มีอิทธิพลในพ้ืนที่เป็นผู้ผูกขาดการซื้อขายไม้ยาง ในพ้ืนท่ี ไม้ยางท่ีโค่นส่วนใหญ่เป็นไม้ลายซ่ึงเกิดจากการ ในการพัฒนาศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการของไทยใน เป็นโรค ท�ำให้ขายได้ในราคาที่ต่�ำ ผู้ซื้อที่เข้ามาเหมา อนาคต สวนไม่ท�ำตามที่ตกลงไว้ในการปรับสภาพดิน มีพ่อค้า เหตุสุดวิสัย จากการวิเคราะห์เหตุสุดวิสัย ซึ่ง คนกลางเข้ามากดราคาในการซ้ือขายไม้ยางพารา ใช้ เป็นการประเมินโอกาสและอุปสรรคจากสภาพแวดล้อม ระยะเวลาในการตกลงราคาและการโค่นนาน ส่งผลกระ ภายนอก อันได้แก่ การวิเคราะห์ทางด้านการเมือง ทาง ทบต่อการปลกู แทนเนอ่ื งจากผิดฤดูกาล เศรษฐกิจ ทางสังคมและวัฒนธรรม และทางเทคโนโลยี ส่ิงที่เกษตรกรอยากให้หน่วยงานภาครัฐ หรือการ และสิ่งแวดล้อม พบว่า ผู้ประกอบการของไทยยังคงได้ ยางแห่งประเทศไทยเข้ามาดูแล ได้แก่ ควรจะมีเจ้า รับผลกระทบทางด้านการเมือง ในแง่ของการลงทุนหรือ หน้าที่ของการยางแห่งประเทศไทยในพื้นท่ีเป็นผู้เข้ามา การร่วมทุนจากต่างชาติ และการกีดกันทางการค้าจาก ร่วมการประเมินมูลค่าไม้ยางพารา จัดฝึกอบรมเก่ียวกับ ประเทศมหาอ�ำนาจ เช่น กลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป การประเมินมูลค่าไม้ยางพาราให้แก่เกษตรกรชาวสวน การส่งออกสินค้าต้องมีเอกสารระบุต้นก�ำเนิดของ ยาง ก�ำหนดมาตรฐานราคากลางหรือหลักเกณฑ์ในการ ผลิตภัณฑ์ไม้ยางพารา (FSC) ซึ่งจะท�ำให้การส่งออกน้ัน ก�ำหนดราคาไม้ยางพารา และควบคุม ติดตาม การซื้อ ยาก ในส่วนด้านสังคม วฒั นธรรม และเทคโนโลยี ถอื วา่ ขายไม้ยางพาราให้เป็นไปตามกลไกตลาด ป้องกันการ เอื้อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการของไทย เน่ืองจาก กดราคาของพ่อคา้ คนกลาง ปัจจุบันกระแสการใช้ผลิตภัณฑ์ท่ีช่วยลดภาวะโลกร้อน ลานรับซื้อไม้ยางพารา ลานรับซ้ือส่วนใหญ่ (ร้อย เพ่ิมมากข้นึ ท�ำให้ผลิตภัณฑท์ ผี่ ลิตจากไมย้ างพาราไดร้ ับ ละ 96) เป็นลานรับซื้อไม้ยางพาราเพียงอย่างเดียว และ ความนิยมเพิ่มมากข้ึนอย่างต่อเนื่อง ซ่ึงเป็นโอกาสที่ดีที่ สว่ นใหญ่ (รอ้ ยละ 56) จะรับซอื้ ทัง้ ไม้ทอ่ นยางพาราและ จะท�ำให้อุตสาหกรรมไม้ยางพาราแปรรูป และ ไม้ฟืน ซึ่งไม้ท่อนท่ีจะรับซ้ือต้องมีขนาดเส้นผ่าน เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารามีอัตราการเจริญเติบโตอย่างต่อ ศนู ยก์ ลางไมต่ ่�ำกวา่ 5 นิ้ว โดยลกั ษณะของการรับซอื้ พบ เน่ือง และเทคโนโลยีในการผลิตในปัจจุบันส่งผลดีต่อ ว่า ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 56) เกษตรกรชาวสวนยางหรือผู้ ประสิทธิภาพการผลิต ซ่ึงจะช่วยลดของเสียระหว่าง ขายจะน�ำมาขายเองที่ลานรับซ้ือภายในอ�ำเภอ ซ่ึงมี กระบวนการผลิต และท�ำให้ประหยัดต้นทุนด้านแรงงาน สถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรงอันเกิดจากการเพิ่มข้ึน และพลงั งานได้มากขน้ึ ของคู่แขง่ นอกจากน้ี จากการศกึ ษายงั พบวา่ ลานรบั ซื้อ ไม้ยางพาราส่วนใหญ่ (ร้อยละ 52) มีก�ำลังในการรับได้ ขอ้ มลู ภาคสนาม ไม่เกิน 10,000 ตัน/ปี และจะน�ำไม้ยางพาราทรี่ บั ซือ้ ได้ไป เกษตรกรชาวสวนยางทข่ี ายไม้ยางพารา เกษตรกร ขายให้แก่โรงงานแปรรูปไม้ยางพาราเป็นล�ำดับแรก ใน ชาวสวนยางในพื้นที่ภาคใตส้ ว่ นใหญ่ (รอ้ ยละ 83.33) จะ การศึกษาต้นทุนในการขนส่ง พบว่า ลานรับซื้อไม้ ด�ำเนินขายไม้ยางให้กับผู้ซื้อท่ีเข้ามาเหมาสวน ซ่ึง ยางพาราส่วนใหญ่ (ร้อยละ 36) มีต้นทุนค่าขนส่งน้อย เกษตรกรส่วนใหญ่ (ร้อยละ 50.00) สามารถขายไม้ยาง กว่า 0.15 บาท/กิโลกรัม เนื่องจากจะจ�ำหน่ายให้แก่ ไดใ้ นราคา 30,001 – 50,000 บาท/ไร่ (ตารางที่ 1) โดย โรงงานแปรรูปไม้ยางพารา หรือโรงงานผลิตไม้อัดใน พันธุ์ยางท่ีปลูกแล้วขายไม้ยางได้ในราคาท่ีสูง ส่วนใหญ่ พื้นทใี่ กล้เคยี ง (ตารางที่ 2) จะเปน็ พนั ธุ์ RRIM 600 ส่วนพันธุย์ างท่ขี ายไดใ้ นราคาที่ ปัญหาและอุปสรรคในการด�ำเนินธุรกิจของลาน ต�่ำ คอื พันธุ์ BPM 24 เนือ่ งจากไม้ยางจะมีตาที่ท�ำใหไ้ ม้ รบั ซอื้ ไม้ยางพารา ได้แก่ ปริมาณไม้ยางพาราขาดแคลน ยางพาราแปรรูปมีลักษณะเป็นไม้ลาย ไม่สามารถ ในชว่ งฤดูฝน เนื่องจากจะเกดิ ความยากล�ำบากในการน�ำ แปรรปู เปน็ ไม้คณุ ภาพ AB ตามที่ตลาดต้องการได้ ระยะ ไม้ยางพาราออกมาจากสวน เกษตรกรชาวสวนยางขาด เวลาท่ีเกษตรกรจะโค่นต้นยางพาราคือ ในช่วงอายุ ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณภาพและมาตรฐานไม้ ระหวา่ ง 25 – 35 ปี ปัญหาที่เกษตรกรชาวสวนยางประสบปัญหา

25 ฉบบั อิเล็กทรอนิกส์ 32 มกราคม-มนี าคม 2561 ตารางท่ี 1 เกษตรกรชาวสวนยางทข่ี ายไมย้ างพารา จำ� แนกตามวธิ กี ารขาย ชอ่ งทางในการจดั จำ� หนา่ ย และรายไดจ้ ากการขายไมย้ างพารา รายละเอียด จำ� นวน ร้อยละ วิธีการขาย 110 83.33 - ผู้ซ้ือมาเหมาสวน 10 16.67 - เกษตรกรเปน็ ผโู้ คน่ ขายเอง ชอ่ งทางในการจดั จ�ำหนา่ ย 102 85.00 - ลานรบั ซ้อื ไม้ยางพารา 18 15.00 - โรงงานแปรรปู ไมย้ างพารา รายได้จากการขายไม้ยางพารา (บาท/ไร)่ 33 27.50 - ไมเ่ กนิ 30,000 60 50.00 - 30,001 - 50,000 15 12.50 - 50,001 - 70,000 8 6.67 - 70,001 - 90,000 4 3.33 - มากกว่า 90,000 ท่ีมา: จากการส�ำรวจโดยใชแ้ บบสอบถามกับเกษตรกรชาวสวนยางจ�ำนวน 120 ราย ยางพาราที่ตลาดมีความต้องการ เจ้าหน้าท่ีภาครัฐเรียก แย้งในการซื้อขายไม้ยางพารา เร่งขจัดปัญหาการทุจริต รับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการ เช่น เจ้าหน้าที่ต�ำรวจ คอรัปช่ัน และการเรียกรับผลประโยชน์ รวมถึงสนับสนุน เจ้าหน้าทช่ี ่งั ตวงวดั จ�ำนวนรถบรรทุกมีไม่เพยี งพอ สง่ ผล และจัดหาสินเช่ือดอกเบ้ียต่�ำ ในการด�ำเนินกิจการและ ให้ต้นทุนในการขนส่งสูงขึ้น ขาดเงินทุนหมุนเวียนในการ เร่งแก้ปัญหาด้านมาตรการในการจ้างแรงงานต่างด้าว ด�ำเนินธุรกิจ ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขัน ถูกกฎหมาย โดยลดขั้นตอน ระยะเวลาในการด�ำเนินการ ขาดแคลนแรงงาน เน่ืองจากคนไทยไม่นิยมท�ำงาน โรงงานแปรรูปไม้ยางพารา และโรงงานผลิต ประเภทน้ี ต้องใช้แรงงานต่างด้าว ซ่ึงมีปัญหาเร่ืองการ เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นผู้ ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว คู่แข่งรายใหม่เพ่ิมข้ึนอยู่ ประกอบการโรงงานแปรรูปไม้ยางพารา คิดเป็นร้อยละ อย่างต่อเน่ือง เกิดการแข่งขันสูง และปัญหาในการคัด 87.50 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 12.50 เป็นโรงงานแปรรูป คณุ ภาพไม้ยางพาราของโรงงานแปรรปู ไม้ยางพารา เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา เมื่อแบ่งขนาดของผู้ประกอบ ส่ิงท่ีผู้ประกอบการลานรับซ้ือไม้ยางพาราอยากให้ การพบว่าส่วนใหญ่ (ร้อยละ 56.25) เป็นผู้ประกอบการ หน่วยงานภาครัฐ หรือการยางแห่งประเทศไทยเข้ามา ขนาดกลาง (ทรัพย์สินน้อยกว่า 200 ล้านบาท) มีก�ำลัง ดูแล ได้แก่ ให้ภาครัฐมีมาตรการและแผนงานที่ชัดเจน การผลิตน้อยกว่า 200,000 ลูกบาศก์ฟุต/ปี สัดส่วนการ เกี่ยวกับปริมาณการโค่นไม้ยางพาราในแต่ละปี จัดให้มี จ�ำหน่ายของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ (ร้อยละ 25) จะมี การอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับคุณภาพและมาตรฐานไม้ สัดส่วนการจ�ำหน่าย ในประเทศ : ต่างประเทศ เป็น ยางพาราแก่เกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อป้องกันข้อขัด สัดสว่ น 10 : 90 และ 0 : 100 และเม่ือพิจารณาโอกาสใน

26 ฉบับอิเล็กทรอนิกส์ 32 มกราคม-มีนาคม 2561 ตารางที่ 2 ลานรบั ซอื้ ไมย้ าง จำ� แนกตามประเภทของลาน ชนดิ ของไมย้ างพาราทรี่ บั ซอ้ื ลกั ษณะการรบั ซอื้ พนื้ ทใี่ นการรบั ซอื้ สถานการณก์ ารแขง่ ขนั ชอ่ งทางการจดั จำ� หนา่ ย กำ� ลงั การรบั ซอื้ และคา่ ขนสง่ ในการจดั จำ� หนา่ ย รายละเอยี ด จำ� นวน รอ้ ยละ ประเภทของลาน 24 96 - รับซ้อื ไมย้ างพาราอยา่ งเดยี ว 1 4 - รบั ซื้อไมย้ างพารา และปาล์มน�้ำมัน 6 24 ชนิดของไมย้ างพารามีร่ ับซ้อื 4 16 - ไม้ท่อน 1 4 - ไมฟ้ ืน 14 56 - ปกี ไม้ 17 68 - ไมท้ อ่ นและไม้ฟนื 8 32 ลักษณะการรบั ซอื้ 20 80 - เกษตรกรน�ำมาขายเอง 5 20 - มีนายหนา้ เหมาสวนน�ำมาขาย 20 80 พน้ื ท่ใี นการรบั ซ้อื 3 12 - ภายในอ�ำเภอ 2 8 - ท้งั ภายในและตา่ งอ�ำเภอ 13 52 สถานการณ์การแขง่ ขันของธรุ กิจ 7 28 - แข่งขันรุนแรง 5 20 - แข่งขันปานกลางข้นึ อยกู่ บั ปริมาณไม้ 13 52 - ไม่มกี ารแขง่ ขนั 10 40 ช่องทางในนการจัดจ�ำหน่าย 2 8 - โรงงานแปรรปู ไม้ยางพารา 9 36 - โรงงานผลติ ไม้อัด 8 32 - โรงงานแปรรูปไม้ยางพาราและโรงงานผลิตไมอ้ ดั 5 20 ก�ำลังรบั ซื้อ (ตัน/ป)ี 3 12 - ไม่เกิน 10,000 - ระหว่าง 10,001 - 30,000 - มากกวา่ 30,000 คา่ ขนสง่ (บาท/กก.) - นอ้ ยกว่า 0.15 - ระหวา่ ง 0.16 - 0.30 - ระหวา่ ง 0.31 - 0.45 - มากกว่า 0.45 ท่ีมา: จากการส�ำรวจโดยใชแ้ บบสอบถามกบั ลานรับซอ้ื ไม้ยางพาราจ�ำนวน 25 แหง่

27 ฉบับอิเลก็ ทรอนิกส์ 32 มกราคม-มนี าคม 2561 ตารางท่ี 3 โรงงานแปรรปู ไมย้ างพารา และโรงงานผลติ เฟอรน์ เิ จอรไ์ มย้ างพารา จำ� แนกตามประเภทของโรงงาน ขนาดของ โรงงาน ชนดิ ของไมย้ างพาราทร่ี บั ซอื้ กำ� ลงั การผลติ สดั สว่ นการจดั จำ� หนา่ ย และแนวโนม้ ในการขยายกจิ การ รายละเอียด จ�ำนวน รอ้ ยละ ประเภทของโรงงาน - โรงงานแปรรูปไม้ยางพารา 14 87.50 - โรงงานผลิตเฟอรน์ เิ จอรไ์ มย้ างพารา 2 12.50 ขนาดของโรงงาน 4 25.00 - ขนาดเลก็ (ไมเ่ กิน 50 ล้านบาท) 9 56.25 - ขนาดกลาง (ไมเ่ กนิ 200 ล้านบาท) 3 18.75 - ขนาดใหญ่ (เกิน 200 ล้านบาท) 14 87.50 ชนดิ ของไมย้ างพาราที่รบั ซอื้ 2 12.50 - ไมท้ อ่ นยางพารา 7 43.75 - ไม้ยางพาราแปรรปู 4 25.00 ก�ำลังการผลิต (ลบ.ฟุต/ป)ี 2 12.50 - นอ้ ยกว่า 200,000 3 18.75 - ระหว่าง 200,001 - 500,000 4 25.00 - ระหว่าง 500,000 - 1,000,000 4 25.00 - มากกว่า 1,000,000 1 สัดส่วนการจัดจ�ำหน่าย (ในประเทศ : ต่างประเทศ) 2 6.25 - 0 : 100 2 12.50 - 10 : 90 3 12.50 - 20 : 80 9 18.75 - 30 : 70 7 56.25 - 40 : 60 43.75 - 100 : 0 แนวโนม้ การขยายกิจการ - ขยาย - ไม่ขยาย ท่ีมา: จากการส�ำรวจโดยใชแ้ บบสอบถามกบั ผปู้ ระกอบการจ�ำนวน 16 ราย การขยายกิจการ พบว่า ผู้ประกอบการร้อยละ 56.25 มี ของผู้ประกอบการโรงงานแปรรูปไม้ยางพารา และ แนวโน้มท่ีจะขยายกิจการ ส่วนอีกร้อยละ 43.75 จะไม่ โรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพาราท่ีมีต่อปัญหา ขยายกจิ การ (ตารางที่ 3) อุปสรรคที่ส่งผลกระทบต่อการด�ำเนินธุรกิจของผู้ นอกจากนี้ ผู้วิจัยยังได้ท�ำการส�ำรวจความคิดเห็น ประกอบการ (ตารางที่ 4) พบว่า ผู้ประกอบการโรงงาน

28 ฉบับอเิ ล็กทรอนกิ ส์ 32 มกราคม-มีนาคม 2561 ตารางท่ี 4 ระดบั ความคดิ เหน็ ของผปู้ ระกอบการโรงงานแปรรปู ไมย้ างพารา และโรงงานผลติ เฟอรน์ เิ จอรไ์ มย้ างพารา ทมี่ ตี อ่ ปญั หาอปุ สรรคทสี่ ง่ ผลกระทบตอ่ การดำ� เนนิ ธรุ กจิ ของผปู้ ระกอบการ ปญั หาอุปสรรค คา่ เฉลี่ย ระดบั ความคดิ เห็น การแปรผล1 1.78 เหน็ ดว้ ยนอ้ ยที่สดุ ตน้ ทุนในการลงทนุ 4.11 สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน เห็นด้วยมาก โครงสร้างองค์กร บคุ ลากร และแรงงาน 3.33 0.97 เหน็ ด้วยปานกลาง ความรุนแรงในการแข่งขัน คู่แขง่ 2.56 0.93 เหน็ ด้วยน้อย ก�ำลงั การผลติ สว่ นเกนิ ในอตุ สาหกรรม 3.56 1.80 เหน็ ดว้ ยมาก ตน้ ทนุ ในการผลติ 2.78 1.74 เห็นดว้ ยปานกลาง วตั ถดุ ิบในการผลิต 1.11 1.59 เหน็ ดว้ ยนอ้ ยทส่ี ดุ ท�ำเล ที่ต้งั ของผ้ปู ระกอบการ 1.56 1.20 เหน็ ดว้ ยน้อยที่สดุ การขนส่ง และต้นทนุ ในการขนสง่ 2.89 0.33 เหน็ ดว้ ยปานกลาง กฏหมายทีเ่ ก่ียวข้อง 1.78 1.13 เห็นด้วยนอ้ ยท่ีสุด การจดั จ�ำหนา่ ย 1.69 1.30 1ค่าเฉล่ียระหว่าง 4.21 - 5.00 หมายความวา่ เห็นด้วยอย่างยิ่ง ค่าเฉลี่ยระหวา่ ง 3.41 - 4.20 หมายความวา่ เห็นดว้ ยมาก คา่ เฉลยี่ ระหวา่ ง 2.61 - 3.40 หมายความว่า เหน็ ด้วยปานกลาง ค่าเฉลีย่ ระหวา่ ง 1.81 - 2.60 หมายความวา่ เหน็ ดว้ ยน้อย คา่ เฉลี่ยระหว่าง 1.00 - 1.80 หมายความวา่ เหน็ ดว้ ยนอ้ ยทสี่ ดุ หรอื ไม่เหน็ ด้วย แปรรูปไม้ยางพารา และโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ แนวทางในการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไม้ ยางพารา มีความคิดเห็นต่อปัญหาอุปสรรคที่ส่งผลกระ ยางพาราในพนื้ ทภ่ี าคใต้ ทบตอ่ การด�ำเนนิ ธรุ กจิ ของผปู้ ระกอบการ โดยเรยี งล�ำดับ แนวทางส�ำคัญที่จะพัฒนาศักยภาพให้แก่ผู้ จากมากไปหาน้อย พบว่า ปัญหาด้านโครงสร้างองค์กร ประกอบการ ต้องได้รับความร่วมมือและการสนับสนุน บุคลากร แรงงาน ส่งผลกระทบต่อการด�ำเนินงานมาก จากทุกภาคส่วนอย่างบูรณาการ ไม่ว่าจะเป็นทั้งในส่วน ที่สุด (4.11) รองลงมา คือ ต้นทุนในการผลิต (3.56) ของรัฐบาล ส่วนงานที่รับผิดชอบโดยตรงเก่ียวกับ ความรุนแรงในการแข่งขัน (3.33) กฎหมายท่ีเก่ียวข้อง ยางพารา เช่น การยางแห่งประเทศไทย กระทรวงต่างๆ ท่ี (2.89) วัตถุดิบในการผลิต (2.78) ก�ำลังการผลิตส่วนเกิน เกี่ยวข้อง และตัวของผู้ประกอบการเอง โดยรัฐบาลจะ ในอุตสาหกรรม (2.56) ต้นทุนในการลงทุน (1.78) การ ต้องเร่งส่งเสริม สนับสนุนการขยายตลาดไปสู่ตลาดใหม่ จัดจ�ำหน่าย (1.78) การขนส่งและต้นทุนในการขนส่ง แก้ไขปรับปรุง ทบทวน กฎหมาย กฎระเบียบ ท่ีเป็นข้อ (1.13) และสุดท้ายคือ ท�ำเลที่ต้ังของผู้ประกอบการ จ�ำกัด และอปุ สรรคต่อการประกอบการ ของอุตสาหกรรม (1.11) ไม้ยางพาราทั้งระบบ การช่วยเหลือและพัฒนาแรงงาน แ ล ะ ก า ร ก�ำ ห น ด ข ้ อ ผ ่ อ น ป ร น แ ร ง ง า น ต ่ า ง ด ้ า ว ใ น อุตสาหกรรมการแปรรูปไม้ยางพาราและผลิตเฟอร์-

29 ฉบับอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 32 มกราคม-มีนาคม 2561 ภาพท่ี 1 ลานรบั ซอ้ื และแปรรปู ไมย้ างพาราขนาดเลก็ ภาพที่ 2 พนื้ ทภี่ ายในโรงงานแปรรปู ไมย้ างพารา ภาพที่ 3 กระบวนการผลติ เฟอรน์ เิ จอรไ์ มย้ างพารา ภาพท่ี 4 ของเลน่ เดก็ จากไมย้ างพาราเพอื่ การสง่ ออก นิเจอร์ไม้ยางพารา การพัฒนาภาพลักษณ์ของ ยางพาราเพื่อปรับปรุงให้ได้ผลผลิตท่ีมีปริมาณเพิ่มขึ้นใช้ อุตสาหกรรมว่า “ไม่เป็นการท�ำลายสิ่งแวดล้อม” การ เวลาในการด�ำเนินการลดลง มีต้นทนุ การผลิตลดลง และ ก�ำหนดมาตรฐานบังคับ (มอก.) เพื่อป้องกันการน�ำเข้า มีการสูญเสียลดลง สนับสนุนเงินทุนดอกเบ้ียต่�ำในการ สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน และเพื่อเป็นการพัฒนา ปรับเปล่ียนเครื่องจักรเพ่ือเพ่ิมปริมาณผลผลิตและลด อุตสาหกรรมให้ผลิตสินค้าได้มาตรฐานสากล การ ตน้ ทุนการผลิต การเร่งด�ำเนนิ การส่งเสรมิ สนบั สนุน และ สนับสนุนสินค้าคุณภาพจากผู้ผลิตภายในประเทศ และ จูงใจ ให้เกษตรกรย่ืนขอใบรับรองมาตรฐานการจัดป่าไม้ การมีตราสัญลักษณ์ที่แสดงถึงคุณภาพ เพื่อความม่ันใจ อย่างย่ังยืน (FSC/PEFC) การประสานความร่วมมือใน ในการใช้งาน การติดตามการเคล่ือนย้ายการค้าและการ การวิจัยยาง และความร่วมมือทางการค้าใน ลงทุนท้งั ในประเทศและต่างประเทศ รวมทง้ั นโยบายการ อุตสาหกรรมการแปรรูป และผลิตภัณฑ์ไม้ยางพารา ใชม้ าตรการกดี กนั ทางการลงทุนของต่างประเทศ เปน็ ต้น และในส่วนกระทรวงศึกษาธิการก็ต้องเร่งด�ำเนินการ นอกจากรัฐบาลแล้ว หน่วยงานที่เก่ียวข้องก็ต้อง พัฒนาหลักสูตรการศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการ เร่งด�ำเนินการเพ่ือพัฒนาศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการ ของภาคอุตสาหกรรม และแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน ของไทย อาทิ การยางแห่งประเทศไทย จะต้องถ่ายทอด ในสายวิชาชีพ อาทิ เพม่ิ หลักสูตร ปวช./ปวส. ทีเ่ ก่ียวข้อง เทคโนโลยี/นวัตกรรมในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ ไม้ การแปรรูปไม้ยางพารา และการผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้

30 ฉบับอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 32 มกราคม-มีนาคม 2561 และกันในกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น การน�ำเอาการปฏิบัติท่ี ดีท่ีสุด (Best practice) ของแต่ละโรงงานมาใช้เพ่ือลด ยางพารา รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรด้านภาษา ท้ัง ต้นทุน และแก้ไขเรื่องค่าแรงสูงแต่ไม่มีประสิทธิภาพ ภาษาอังกฤษ จีน รวมถึงภาษาในประเทศอาเซียน เช่น เปน็ ตน้ ภาษาพม่า ลาว กมั พชู า รวมไปถึงกระทรวงแรงงานกจ็ ะ ต้องเร่งด�ำเนินการในการสร้างมาตรฐานฝีมือแรงงานใน บทสรปุ อตุ สาหกรรม และใหก้ ารชว่ ยเหลือและพฒั นาแรงงานใน การสนับสนุนด้านวิชาชีพ การประกอบอาชพี แนวทางในการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไม้ สุดท้ายผู้ประกอบการก็จะต้องปรับตัวเพื่อพัฒนา ยางพาราในเขตพื้นที่ภาคใต้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ศกั ยภาพของตวั เอง โดยการการเสรมิ สร้างศกั ยภาพดา้ น สภาพทั่วไปของการแปรรูปไม้ยางพาราและการผลิต การผลิต การลดต้นทุนการผลิต ด้วยการบริหารจัดการ เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพาราตั้งแต่ระดับต้นน้�ำ กลางน�้ำ และ ต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ มีการน�ำเครื่องจักรและ ปลายน�้ำ รวมท้ังศึกษาศักยภาพในการแข่งขันของ เทคโนโลยีท่ีทันสมัยเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต ผลัก โรงงานแปรรูปเฟอร์นิเจอร์ไม้ยาง ระหว่างเดือน ดันการผลติ สินค้าให้มีมลู ค่าเพิ่มมากขึน้ (Product value ตุลาคม 2559 – กันยายน 2560 โดยแบ่งกลมุ่ เปา้ หมาย creation) เพื่อหลีกเล่ียงการแข่งขันทางด้านราคา การ ออกเป็น 3 กลมุ่ ไดแ้ ก่ เกษตรกรผู้ท่ีขายไมย้ างพารา ลาน พัฒนาด้านการออกแบบอุตสาหกรรม ทั้งในด้านการ รับซ้ือไม้ยางพารา และผู้ประกอบการโรงงานแปรรูปไม้ อบรมการแข่งขันในระดับชาติ ระดับภูมิภาค และระดับ ยางพาราและเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา ในเขตพื้นท่ีภาค โลก การเสริมสร้างศักยภาพด้านการตลาด โดยการเร่ง ใต้ 4 กลุ่มจังหวดั ได้แก่ ชมุ พร ระนอง สรุ าษฎร์ธานี (กลุ่ม การท�ำการค้า การสง่ ออกเชงิ รุก สร้างให้ประเทศไทยเป็น ท่ี 1) พงั งา กระบี่ (กล่มุ ท่ี 2) นครศรีธรรมราช ตรัง (กลมุ่ ที่ ศูนย์กลาง (Hub) อุตสาหกรรมไม้ยางพาราแปรรูป และ 3) และ สงขลา สตูล (กลมุ่ ที่ 4) เฟอร์นเิ จอรไ์ มย้ างพารา สง่ เสรมิ สนับสนนุ การสรา้ งภาพ ใช้วิธีการศึกษาปฐมภูมิโดยการสังเกตแบบมีส่วน ลักษณ์ไม้ยางพาราเป็น Eco-friendly wood และ ร่วม ร่วมกับการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้บริหารของโรงงาน ประชาสัมพันธ์ให้สังคมรับรู้ การให้ผลิตภัณฑ์ของผู้ แปรรูปเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา เพ่ือรวบรวมข้อมูลใน ประกอบการไทยได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐาน ด้านปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะต่อหน่วยงานภาค สากล การแสวงหาตลาดและลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใหม่ รัฐ และท�ำการรวบรวมขอ้ มูลทุตยิ ภมู ิ วเิ คราะห์ข้อมูลเชิง ควบคู่ไปกับการติดตามสถานการณ์การเปล่ียนแปลง พรรณนาและเชงิ ปรมิ าณ ของค่แู ขง่ และคูค่ า้ อย่างสม�ำ่ เสมอ พัฒนาผลติ ภณั ฑใ์ หม่ จากการศึกษาสภาพทั่วไป พบว่า ไม้ยางพารา รูปแบบที่หลากหลาย ยืนยงต่อแนวโน้มแฟช่ันท่ีมีการ แปรรูปและเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพาราของไทยเป็นท่ี เปล่ียนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งตอบสนองความ ต้องการของตลาดต่างประเทศ มีการขยายตัวของ ตอ้ งการของผู้บรโิ ภคอย่างสูงสดุ รวมไปถึงการเสริมสร้าง อุตสาหกรรม โดยเฉพาะจีนท่ีก�ำลังขยายตัวด้าน ศกั ยภาพด้านการจัดการหว่ งโซอ่ ุปทาน โดยการรวมกลมุ่ อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งในอนาคตยังมีแนวโน้มท่ีดีอย่างต่อ (Cluster) หรือ การรวมกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิด เนื่อง แม้ว่าประเทศไทยมีจุดแข็งในด้านปริมาณวัตถุดิบ ความร่วมมือ เกื้อหนุน เช่ือมโยงและเสริมกิจการซ่ึงกัน แต่ยังมีจุดอ่อนส�ำคัญเร่ืองความเข้าใจเรื่องการตลาด และกนั อยา่ งครบวงจร ท้งั ในแนวตั้งและแนวนอน ตงั้ แต่ และมีข้อเสียเปรียบด้านต้นทุนการผลิต ซ่ึงส่งผลต่อ ธุรกิจต้นน้�ำ จนถึงปลายน�้ำ และความเช่ือมโยงในแนว ความสามารถในการแขง่ ขันในระยะยาวได้ นอน เป็นความเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมสนับสนุนด้าน จากการศึกษาห่วงโซ่อุปทานจากต้นน้�ำ กลางน�้ำ ต่าง ๆ รวมทง้ั ธุรกิจให้บริการ สมาคมการคา้ สถาบันการ และปลายน�้ำ พบว่า เกษตรกรในพ้ืนที่ภาคใต้เกือบ ศึกษา สถาบันวิจัยพัฒนา ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ ทั้งหมดขายไม้ยางโดยวิธีเหมาสวนให้ลานรับซ้ือไม้ ตา่ ง ๆ ท่ีเกย่ี วข้อง เพอื่ เพ่ิมความสามารถในการแข่งขันที่ ยางพารา และส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ RRIM 600 สามารถ ย่ังยืน มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ซึ่งกัน

31 ฉบับอิเล็กทรอนิกส์ 32 มกราคม-มนี าคม 2561 จงั หวดั ในพื้นทเี่ ขตภาคใตท้ ุกท่านเป็นอยา่ งสงู ทีอ่ �ำนวย ความสะดวกในการสัมภาษณ์เกษตรกรชาวสวนยาง ขายไม้ยางได้ในราคา 30,001 – 50,000 บาท/ไร่ แต่ยัง ผู้ประกอบการลานรับซ้ือไม้ยาง โรงงานแปรรูปไม้ ประสบปัญหาการผูกขาดจากนายทุนผู้มีอิทธิพลท่ีไม่ท�ำ ยางพารา และโรงงานเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา และให้ ตามข้อตกลง ส่งผลเสียระยะยาวต่อการวางแผนการ ความรว่ มมือแก่ผวู้ จิ ยั เปน็ อย่างดี ผลติ ในฤดูกาลถัดไป ลานรับซ้ือไม้ยางพาราในพ้ืนที่ภาคใต้ส่วนใหญ่ เอกสารอ้างองิ เป็นลานรับซื้อไม้ยางพาราอย่างเดียว โดยเกษตรกรเป็น ผู้น�ำมาขายเอง แต่ลานรับซ้ือมีก�ำลังในการรับซื้อไม่เกิน กรานตเ์ ลิศ สหายวงศ.์ 2550. ความไดเ้ ปรยี บโดยเปรยี บ 10,000 ตัน/ปี และน�ำไปส่งขายให้แก่โรงงานแปรรูปไม้ เทียบของอุตสาหกรรมเครื่องประดับทองใน ยางพาราในพ้ืนท่ีใกล้เคียงอันดับแรก มีต้นทุนค่าขนส่ง ประเทศไทย. วิทยานพิ นธป์ รญิ ญโท, มหาวทิ ยาลัย 0.15 บาท/กก. อย่างไรก็ตาม ลานรับซ้ือไม้มีปัญหาใน ธรรมศาสตร:์ กรุงเทพมหานคร. การด�ำเนินงานเป็นอย่างมากในช่วงฤดูฝน เนื่องจาก การยางแห่งประเทศไทย. 2560. ยุทธศาสตร์ยางพารา เกษตรกรไม่สามารถขนไม้ยางพารามาขายได้ท�ำให้เกิด ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579). ศูนย์พยากรณ์ ความขาดแคลน นอกจากนี้ ยังพบว่าเกษตรกรท่ียังขาด เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย: ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณภาพและมาตรฐานท่ี กรงุ เทพมหานคร. ตลาดต้องการ การเรียกเก็บเงินจากเจ้าหน้าที่รัฐ ศูนย์สารสนเทศและการสื่อสาร. 2560. รายงานสภาวะ การขนส่ง เงินทนุ หมนุ เวยี น และแรงงาน อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยางพารา. โรงงานแปรรูปไม้ยางพาราและโรงงานผลิต ส�ำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์.แหล่งข้อมูล: เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา ในพื้นท่ีภาคใต้ส่วนใหญ่เป็นผู้ http://rubber.oie.go.th/box/Article/48014.pdf. ประกอบการขนาดกลาง โดยเป็นการผลิตเพ่ือการส่ง ค้นเมือ่ 25 สงิ หาคม 2560. ออก ครึ่งหน่ึงมีแนวโน้มขยายกิจการเพื่อรองรับการ ศูนย์วิจัยเศรษฐศาสตร์ประยุกต์. 2550. กิจกรรมการ ขยายตัวต่อไป ปญั หาและอุปสรรคทส่ี ง่ ผลกระทบต่อการ ประเมินศักยภาพกลุ่มอุตสาหกรรม ภายใต้ ด�ำเนินธุรกิจ พบว่า โครงสร้างองค์กร บุคลากร แรงงาน โครงการพัฒนาการรวมกลุ่มและเช่ือมโยง ส่งผลมากที่สุด รองลงมา คือ ต้นทุนในการผลิต ความ อุตสาหกรรม. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. หน้า รุนแรงในการแขง่ ขนั 16-21. ดังน้ัน แนวทางส�ำคัญทจ่ี ะพฒั นาศักยภาพให้แกผ่ ู้ อรไท ก�ำธรกติ ตกิ ุล. 2546. ผลกระทบจากการเตบิ โตของ ประกอบการ จ�ำเป็นต้องได้รับความร่วมมือและการ ร้านค้าปลีกแบบซูเปอร์เซ็นเตอร์ท่ีมีต่อร้านค้าปลีก สนับสนุนจากทุกภาคส่วนอย่างบูรณาการ ทั้งจากทาง แบบสะดวกซื้อในประเทศไทย. วิทยานิพนธ์ ภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงภาคสถาบันการศึกษา ปริญญาโท, มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร:์ กรุงเทพ- อย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพ่ือพัฒนาและยกระดับ มหานคร. ศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการไม้ยางพาราในเขตพื้นท่ี Rubber Intelligence Unit. 2560. อุตสาหกรรมไม้ ภาคใต้ ยางพารา. แหล่งข้อมูล: http://rubber.oie.go.th/ ImExThaiByProduct.aspx?pt=im&hgid=4. คน้ คำ� ขอบคุณ เมือ่ 15 มิถุนายน 2560. งานวิจัยฉบับน้ีส�ำเร็จลุล่วงได้ ผู้วิจัยต้องขอ ขอบคุณผู้อ�ำนวยการการยางแห่งประเทศไทยจังหวัดทุก



33 ฉบบั อเิ ลก็ ทรอนิกส์ 32 มกราคม-มีนาคม 2561 รัสเซยี น แดนดไิ ลออน พืชให้นำ�้ ยางอกี ชนดิ หน่งึ ซ่ึงในอนาคต อาจเปน็ ค่แู ขง่ ของยางพาราได้ พศิ มัย จันทมุ า ศูนยว์ ิจยั ยางฉะเชิงเทรา สถาบนั วิจัยยาง การยางแห่งประเทศไทย ในอุตสาหกรรมการผลิตล้อยาง ใช้ยางธรรมชาติ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ มากถงึ 70% ของโลก กลมุ่ ประเทศทางยุโรปและอเมรกิ า ได้คัดเลือกพืชท่ีให้น้�ำยาง 2 ชนิดท่ีมีศักยภาพท่ีจะให้น้�ำ แดนดิไลออน เป็นวัชพืชชนิดหนึ่ง มีหลายสาย ยางสูง ได้แก่ วายูเล่ (guayule, Parthenium argenta- พันธุ์ (Varieties) หลายชนิด (Species) ที่นิยมปลูกใน tum Gray) และรัสเซียน แดนดิไลออน (Russian dan- ป ั จ จุ บั น มี ช่ื อ วิ ท ย า ศ า ส ต ร ์ ว ่ า T a r a x a c u m delion, Taraxacum koksaghyz) มาวิจัยและพัฒนา koksaghyz อยู่ในวงศ์ Asteraceae (Krotkov, 1945) เพ่ือผลิตล้อยางรถยนต์ โดยในปี 2012 ได้จดสิทธิบัตร กลุ่มเดียวกับแก่นตะวัน เป็นพืชเจริญเติบโตทางล�ำต้น ยางล้อรถยนต์จากแดนดิไลออนท่ี NovaBioRubber, เปน็ หวั ส่วนชอื่ ภาษาองั กฤษท่เี ขียนวา่ dandelion เพ้ยี น Green Technologies Inc. ประเทศแคนาดา ในปถี ัดมา มาจากภาษาฝรั่งเศสที่เขียนว่า dent de lion แปลว่า บริษัทบริดสโตน ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยโอไฮโอ เขี้ยวสิงโต ซ่ึงหมายถึงใบของต้นแดนดิไลออนที่มี สหรัฐอเมริกา เสนอให้ใช้ยางจากแดนดิไลออนเป็นยาง ลักษณะหยัก ๆ คล้ายเขี้ยวของสิงโต เป็นพืชที่มี ล้อรถยนต์ และในปี 2015 NovaBioRubber และ โครโมโซมคู่ เรยี กว่า ดพิ ลอย (Diploid, 2n=16) มดี อก มหาวทิ ยาลยั แคนาดา ร่วมมอื กนั วิจัยและพัฒนาโรงงาน แบบสมบูรณ์เพศ มีทั้งสองเพศในต้นเดียวกัน การ อตุ สาหกรรมผลติ ยางล้อรถยนต์จากแดนดิไลออน สืบพันธุ์เป็นแบบอาศัยเพศ (Sexual reproduction) แต่ ในสภาวะทร่ี าคายางตกต่ำ� เมื่อมพี ชื อ่ืนปรากฏขึ้น เป็นพวกผสมตัวเองไม่ติด (Self-incompatibility) มามีแนวโน้มว่าจะเป็นพืชคู่แข่งของยางพารา ท�ำให้ เนื่องจากการเป็นหมันของเพศผู้ (Male sterile) มีใบ เกษตรกรชาวสวนยางบางคนอดหวั่นไหวไม่ได้ การทราบ ออกจากโคนล�ำต้นเป็นกระจุก ใบเจริญเรียงตัวกันเป็น ข้อมูลท่ีแท้จริงของแดนดิไลออนจึงเป็นแนวทางหน่ึง พุ่ม (Rosette formation) แต่ละใบเว้าเป็นแฉกแหลม เหมือนกบั สุภาษติ จนี ทวี่ า่ “รเู้ ขา รู้เรา รบสบิ ครง้ั ชนะสบิ มีดอกสีเหลือง เม่ือดอกร่วงจะกลายเป็นเมล็ดติดอยู่ท่ี ครั้ง” เป็นการการสร้างภูมิคุ้มกันให้อยู่กับความไม่ ฐานเป็นปุยสีขาวกลมๆ ต้นสูงประมาณ 30-50 ประมาท และหันกลับมาใส่ใจสวนยาง ปรับปรุงดูแล เซนติเมตร เป็นวัชพืชอายุยืนหลายปีหรือพืชข้ามปี (Bi- หน้ากรีดยาง ลดต้นทุนการผลิตลง รวมทั้งการผลิตยาง ennial) เมอ่ื ถงึ ปลายฤดูใบไมร้ ่วง พชื เหลา่ นีจ้ ะแหง้ ตาย คณุ ภาพดี เพอื่ ใหป้ ระเทศไทยเป็นแหลง่ ผลติ ยางเกรดพรี ไป แตส่ ่วนทอ่ี ยู่ใต้ดนิ จะยังมีชวี ติ อยขู่ ้ามฤดหู นาว เมื่อ เม่ียมของโลกตอ่ ไป ถึงฤดูใบไม้ผลิอีกครั้งก็จะแทงช่อดอก (Bolting) ถือว่า เป็นพืชยืนต้น (Perennial) เพราะมีชีวิตอยู่ได้มากกว่า 2

34 ฉบบั อเิ ล็กทรอนิกส์ 32 มกราคม-มีนาคม 2561 แหลง่ ของน�ำ้ ยางและผลพลอยได้ ฤดูการปลกู เป็นพชื ทมี่ ีระบบรากแกว้ (Taproot) มีระบบ น�้ำยางของต้นแดนดิไลออนอยู่ในท่อน�้ำยางบริ ท่อน�้ำจากรากไปยังยอดและมีท่อน�้ำยาง ซึ่งพบมากใน เวณส่วนของราก (ภาพที่ 3) โดยทั่วไปส่วนของรากทเ่ี ปน็ สว่ นของรากสภาพแวดลอ้ มท่ีเหมาะสม หัวและแขนง มีน้�ำหนักแห้ง 0.8-1.0 กรัม จะมีปริมาณ แดนดิไลออน ปลกู มากในเขตอบอ่นุ (Temperate ยาง 3 - 28% ของน�้ำหนักแห้งของราก ในหนึ่งฤดูกาล zone) สามารถทนต่อสภาพอุณหภูมิต่�ำสุด ได้ถึง - 8.1 ปลกู ประมาณ 2 ปี แดนดไิ ลออนให้ผลผลิตยางแห้ง 3-5 องศาเซลเซียส และทนต่ออากาศหนาวเย็น อุณหภูมิต่�ำ มิลลิกรัมต่อน�้ำหนักแห้งของราก 100 มิลลิกรัม กว่าศูนย์องศาเซลเซียส ในฤดูหนาวได้นานถึง 53 วัน (Ulmann, 1951) ต่อมาได้มีการพัฒนาทั้งด้านการเขต และทนต่ออุณหภูมิสูงในทะเลทรายได้เช่นเดียวกัน กรรมและการปรับปรุงพันธุ์ สามารถเพ่ิมปริมาณความ ความต้องการปริมาณน�้ำฝนเฉลี่ย 250-600 มิลลิลิตร/ปี เข้มขน้ ของยางเปน็ 15-16% ตอ่ นำ�้ หนกั แห้งของราก ปลูกได้ในดินที่มีสภาพความเป็นกรด-ด่าง หรือ pH นอกจากนี้ จากการสกัดยางจากรากแดนดิ- ระหว่าง 5.5 - 8.5 ชอบดินที่มคี วามชนื้ และรม่ เงา ไลออน ยังมผี ลพลอยไดอ้ ีก คือ อินนลู นิ (Innulin) จัดเปน็ แหล่งผลิตคาร์โบไฮเดรท 25-40% โดยน้�ำหนักแห้งของ ชีพจักรและการใหผ้ ลผลติ ราก โดยท่ัวไปอินนูลินพบในรากของพืชชิโครี (Chicory, Cichorium intybus L.) (ภาพท่ี 4) อินนูลิน มีสูตร จากการศึกษาทางด้านเขตกรรมของ Kreuzberg- โครงสร้างเป็น beta-2,1- fructan น�ำไปใช้ใน er et al. (2016) พอทจี่ ะสรปุ ใหเ้ หน็ ภาพรวมของชีพจกั ร อุตสาหกรรมอาหารเพื่อปรับปรุงรสชาดของอาหาร เพิ่ม หรือระยะการเจริญเติบโต และการให้ผลผลิตของแดนดิ เนื้อสัมผัส และความรู้สึกในปากและล�ำคอ คือ ความ ไลออน (ภาพที่ 1 และ 2) ไดด้ ังน้คี ือ รู้สึกอ่ืนที่ไม่ใช่รสชาติ ที่รู้สึกได้ในปากและล�ำคอ เช่น ในปีแรก เม่ือปลูกในช่วงเดือนมีนาคม เมล็ดจะ ความเข้มข้น ความฝาด อินนูลินเป็นวัตถุดิบท่ีใช้ในการ งอกราว ๆ เดือนพฤษภาคม จากนนั้ ในชว่ งระหวา่ งเดอื น ผลิตน้�ำตาลฟรุกโตรส อย่างไรก็ตาม การสกัดอินนูลิน พฤษภาคมถึงมิถุนายน จะมีการเจริญเติบโตทางใบและ จากยางธรรมชาติในแดนดิไลออน คุณภาพท่ีได้ค่อนข้าง ล�ำต้น (Vegetative growth) ใบมีการเรียงตัวกันเป็นพุ่ม ต่ำ� แต่มีน้�ำหนักโมเลกุลสงู (Hahn et al., 2016) (Rosette growth) จ�ำนวน 20-30 ใบ เริ่มออกดอก (Reproductive growth) ตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม วธิ ีสกดั ยางจากรากแดนดิไลออน แต่ระยะออกดอกที่มากถึง 50% อยู่ในช่วงกลางเดือน ในห้องปฏิบตั กิ าร มิถุนายนถึงกลางเดือนสิงหาคม ติดเมล็ดหลังจาก ออกดอก 10-14 วัน จนถึงต้นเดือนกันยายน ปีแรกใช้ การสกัดยางจากรากแดนดิไลออน ใช้สารละลาย เวลาในการออกดอกและพัฒนาผลถึงเมล็ด 9 สัปดาห์ และการป่ันหมนุ โดยใชแ้ รงเหวยี่ ง มีขั้นตอนดังนี้ พักตัวในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ผลิใบและ 1. น�ำราก/หัวของแดนดิไลออนมาอบแห้ง บดให้ ออกดอกอีกคร้ังในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ประมาณกลางเดือน เป็นผง แลว้ เกบ็ ไว้ที่อุณหภูมหิ อ้ ง พฤษภาคม ในปีถดั มา หรือปีท่ี 2 มีจ�ำนวนต้นเหลอื นอ้ ย 2. น�ำส่วนผงของราก 0.5 กรัม เติมสารละลายไซ กว่างปีแรก 50% ผลผลิตในปีท่ี 2 น�้ำหนักแห้งของราก ลีน (xylene) 5 มิลลิลิตร แล้วน�ำไปบ่มท่ีอุณหภูมิ 80 (3.5-6.8 กรัม/ตน้ ) มากกว่าการเกบ็ เก่ียวในปที ่ี 1 ส�ำหรับ องศาเซลเซยี ส จากนนั้ น�ำมาเขยา่ ในแนวขนานทคี่ วามเร็ว ผลผลติ ยาง พบว่า ในชว่ งปแี รกให้ปริมาณยางมากกว่าปี 700 รอบต่อนาที นาน 16 ชว่ั โมง ท่ี 2 ในปีที่ 1 ให้ผลผลิตยางแห้ง 31.8-62.1 กิโลกรัม/ 3. น�ำสารแขวนลอย 2 มิลลลิ ิตร ไปป่ันดว้ ยเคร่ือง เฮกตาร์ แต่ผลผลิตของอินนลู ินในปีท่ี 2 (ประมาณ 128- เซนติฟิวส์ (Centrifuge) นาน 10 นาที ทคี่ วามเร็ว 16,060 209 กิโลกรัม/เฮกตาร์) มากกว่าปีที่ 1 มีอินนูลินในราก RCF (Relative Centrifugal Force หรือแรงหนศี นู ยก์ ลาง แดนดไิ ลออน 15% ใกลเ้ คยี งกบั ชโิ ครี1 สมั พทั ธ์ มหี นว่ ยเป็น g)

35 ฉบบั อเิ ล็กทรอนกิ ส์ 32 มกราคม-มีนาคม 2561 ภาพที่ 1 ชพี จกั ร หรอื ระยะการเจริญเติบโตของแดนดิไลออน (a) ตน้ กลา้ อายุ 14 วนั (b) ใบเจรญิ เรยี งตัวกนั เป็นพุม่ (Rosette growth) (c) ระยะออกดอก (d) ต้นมี 2 ชนิด คือ มีดอกกับไม่มีดอก (e) ระยะออกดอกสูงสุด (f) พักในช่วงฤดูร้อน (g) การออกดอกอีกครั้งในปีถัดมา ผ่านช่วงพัก และผลิใบใหม่ (h) ชว่ งออกดอกสงู สุด และ (i) ระยะเจรญิ เตม็ ท่ี ตดิ เมลด็ (ภาพจาก Kreuzberger et al., 2016) ภาพท่ี 1 ระยะการเจริญเติบโตของแดนดิไลออน แบงเปนระยะตา 4. แยกส่วนที่เป็นของเหลว 1.8 มิลลิลิตร ใส่ใน 9. ค�ำนวณผลผลิตยางต่อพื้นท่ี โดยค�ำนวณจาก ดังนี้ (หaลอ)ดใตหมน่ นก�ำไปลใสา ่ในอเคารื่อยงปุ ั่น1เห4วี่ยงวระเนั หยส(าbรท)�ำใหใ้ บปเรจิมารณิญน้�ำหนักแห้งของราก/หัว จะได้ปริมาณยางต่อน้�ำ เข้มข้น ที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส และความดัน 10 หนักแหง้ ของราก และค�ำนวณความหนาแน่นของต้น จะ สมเาิลรรลตียบิ ้งั าตงรน้ ์ ตท�ำัวใหกไ้ ด้สนั ารเมปคี วนามเพข้มขุม ้มเพ(ม่ิ rเปo็นs3 eเทา่tขtอeง gไrดo้ผลwผลิตtยhาง)ต่อ(พc้ืนท)่ี 1รเฮะกตยาระ์ ออกดอก (d) ดอก ข ชองนยา5งิด.ตกเตตคิมะเกอืออทนธามนอีดล อปรกิมาตกรับ2 เไท่ามจมะทีด�ำใหอ้ส่วกน (e ) รน้�ะำยยางะจาอกแสอดมนกบดัติดไลขิ อออองนกยามสงีสูตูงรสโคุดรงสร(้าfง)เป็พน ักในช เ ฤซลดเซยี ูร6ส.อนนา�นนำส3า0ร(ทนgี่าเหท)ลี แือกลไะปปาบ่นั ร่เมหอวทยี่ ่ีองอุณ2กนหาภดทูมี ทิอ่คี4วกอามงอเศร็วาีกคPcรiasr-ั้งt1h,eใ4n-ipนuomlyปaisrogถpernัดetantมeusmาเหGมrผaือyน)ากแับนลวะายชยายงพวูเลา่งร(าgพu(Hayeักuvelea,และผล 1ใ6,ห0607มR. Cส F่ว(นทhขอ่ี อณุ)งหตชภะมูกหิอวอ้นงลงค้าอ่งอดย้ๆวอยรนนิ ก้�สำว่ 1ดนทมเ่ีอิปลลน็ กิลนิตำ้� อสรอแกูงลไปะสุดแbrปaแรsปiliรลeวnนsะiอs)ย(่รู นะiห้�ำ)หวา่นรงกั โะม47เยล2ก-1ลุะ,ข9เอ80งจแKดรDนaดิญิไเปลอรเยีอบตนเคท็อ่มียนบขทก้าับงี่ ติดเม ลดภา้ว้ งยาดคว้วพยาอมจาเรซว็ ีโาปตานกน(กAลcKาeงtornee)u1 มzลิ bลิลeติ รrตgามeล�ำrดับMเขย.า่ etน45�้ำ0aห-น2lั,ก2.โ0,ม0เล2แกล0ุละข11อ,2ง0ว60า-ย1ย,4ูเล9่0แKลDะaยาตงาพมาลร�ำาดบัอยเนู่ระือ่ หงจวา่ากง 8. น�ำยางที่ตกตะกอนไปตากแห้งข้ามคืน และช่ัง น้�ำยางท่ีได้จากยางพารา วายยูเล่ และแดนดิไลออนมี น้�ำหนัก สูตรโครงสร้างของน้�ำยางเหมือนกัน แต่ต่างกันที่องค์

36 ฉบับอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 32 มกราคม-มนี าคม 2561 ภาพท่ี 2 การเจรญิ เตบิ โตของรากแดนดไิ ลออน (a) ปแี รก (b) ปที ่ี 2 ชว่ งออกดอกเตม็ ที่ (c) ปลายชว่ งออกดอก (d) เมอื่ ลอกเปลอื กนอกออก เหน็ ยางจบั ตัว (e) ปลายฤดกู ารเก็บเกีย่ ว (ภาพจาก Kreuzberger et al., 2016) ประกอบภายในนำ�้ ยาง ดังนั้น นำ้� ยางจากแดนดไิ ลออน การศกึ ษาคน้ คว้าวิจยั เกย่ี วกับ ภาพท่ี 3 การเจริญเติบโตของรากแดนดิไลออยางจากยางพารา จึงสามารถน�ำไปท�ำผลิตภัณฑ์ได้เกือบทุกชนิดเหมือนน�้ำ แดนดิไลออน ในปี 1933 Rodin (อา้ งตาม Lipshitz, 1934) ได้ รายงานว่า แดนดิไลออน เป็นพืชที่พบในหุบเขาเทียน 2 ชวงออกดอกเต็มที่ c). ปลายชว งซาน รัสเซียตอนใต้ ประเทศคาซัสสถาน ติดต่อกับทิเบต เขตปกครองของสาธารณรัฐประชาชนจีน และค้นพบว่า ออกดอก d). ลอกเป ลือก น อก ออกเป็นพืชที่ให้เน้ือยางในส่วนของรากในปริมาณสูง เป็น ให

แ ล ะม ห า วิ ท ย าลั ย แ ค น าด า ร ว ม มื อ กั น วิ จั ย แ ล ะพั ฒ น า โร อุตสาหกรรมผลิตยางลอรถยนตจากแดนดิไลออน 37 ฉบับอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 32 มกราคม-มีนาคม 2561 ภาพท่ี 3 ทอ่ นำ้� ยาง (Laticifer tube) ทอี่ ยใู่ นรากของแดนดไิ ลออน เวลานานถึง 2 ทศวรรษ จนถึงปี 1950 สหภาพโซเวียตได้ ชว่ ง 10 กวา่ ปีทีผ่ ่านมา นักวิจยั แถบยโุ รปเหนอื และยโุ รป ทุ่มเทการศึกษาค้นคว้าวิจัยและพัฒนาน้�ำยางธรรมชาติ ตะวันออก ได้หันกลับมามุ่งพัฒนาแดนดิไลออน โดยได้ จากพืชแดนดิไลออน จนต่อมาในชว่ งสงครามโลกครัง้ ที่ พฒั นาพนั ธุ์ใหม่ คอื Taraxacum koksaghyz (Tks) มงุ่ 2 ประเทศตา่ งๆ ไดแ้ ก่ สหรัฐอเมรกิ า เยอรมันนี สหราช ศึกษาลักษณะทางเขตกรรม (Agronomic perfor- อาณาจักร และฟินแลนด์ มีการเร่งรัดการปลูกแดนดิ mance) เพือ่ ผลติ เปน็ การคา้ ทงั้ น�้ำยางธรรมชาติ และอีก ไลออนเพื่อผลิตน�้ำยางธรรมชาติส�ำหรับเป็นวัตถุดิบทาง อย่างทคี่ น้ พบขึ้นมาใหม่ คอื น้ำ� ตาลเชงิ ซอ้ นกลุม่ อนิ นูลนิ ดา้ นยทุ ธปจั จยั อาหาร และเภสัชกรรม (Inulin) ใช้เป็นอาหารและสารด้านเภสัชกรรม เป็นสาร แต่หลังสงครามโลกครั้งท่ี 2 เป็นต้นมา การวิจัย เร่ิมต้นในการผลิตเอทานอล น�ำไปเป็นวัตถุดิบในการ และพัฒนายางจากแดนดิไลออนเป็นไปอย่างไม่ต่อเนื่อง ผลิตเค่ืองดื่มแอลกอฮอล์ ใช้เป็นเช้ือเพลิง และเป็น บางช่วงก็ชะงัก เนื่องจากมีปริมาณยางธรรมชาติจ�ำนวน อาหารเสรมิ สขุ ภาพ สมนุ ไพร ใบชา ใบสลดั ยาชกู �ำลงั ตับ มากจากยางพาราในเขตเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และ และยาขับปสั สาวะ เป็นต้น สาเหตุทคี่ าดว่าแดนดไิ ลออน ยางสังเคราะห์จากน้�ำมันดิบเป็นคู่แข่งหลัก ภายหลังใน น่าจะเป็นพืชที่มีศักยภาพในอนาคต วิเคราะห์จาก 1) ยางสังเคราะห์มีราคาสูงข้ึนเนื่องจากราคาน้�ำมันดิบสูง ภาพท่ี 4 ชโิ ครี พชื ผลติ อนิ นลู นิ ข้ึน 2) ความต้องการยางธรรมชาติสูงขึ้น 3) การแพร่ ระบาดของโรคใบไหม้ลาตินอเมริกัน (South american leaf blight, SALB) ซ่ึงจะท�ำให้ผลผลิตยางในเขตภูมิภาค เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ลดลง และ 4) น�้ำยางท่ีได้จาก แดนดิไลออนไม่มีสารท่ีก่อให้เกิดภูมิแพ้ ต่างน�้ำยางจาก ยางพาราท่ีมีโปรตีนท่ีท�ำให้เกิดภูมิแพ้ อย่างไรก็ตาม จากงานวิจัยของ Cornish et al. (2015) พบว่า น�้ำยาง จากแดนดิ-ไลออนก็มีโปรตีนท่ีก่อให้เกิดอาการแพ้เช่น เดยี วกบั ยางพารา ก่อนป1ี 942 ประเทศสหภาพโซเวยี ตได้เริ่มวิจยั พืช แดนดิไลออน แต่เป็นที่น่าเสียดายท่ีผลงานวิจัยของ รัสเซียไม่ได้เผยแพร่เพราะไม่ได้พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษที่ นักวิทยาศาสตร์ใช้สื่อสารกัน งานวิจัยช่วงแรกได้คัด

38 ฉบบั อเิ ลก็ ทรอนิกส์ 32 มกราคม-มีนาคม 2561 ใชใ้ นปัจจุบนั ยงั คงเปน็ พันธ์ุเดิม คอื Taraxacum koksa- ghyz จากปัญหาการเจริญเติบโตในระดับแปลงไม่ดี จึง เลือกสายพันธุ์ท่ีให้ผลผลิตสูงและเก็บรักษาไว้ในแหล่ง ท�ำให้หันมามุ่งเน้นเทคนิคอ่ืนๆ เช่น เทคนิคทางอณู เก็บอนุรักษ์เช้อื พันธ์ุพืช (Germplasm bank) ที่ สถาบนั ชีววิทยา (Molecular biology) ซ่ึงอยู่ในระหว่างการ Vavilov ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ซ่ึง ศึกษาการแสดงออกของยีน และการตัดต่อยีนท่ีควบคุม เมลด็ พันธุเ์ หลา่ นไี้ ม่ได้น�ำมาใชป้ ระโยชน์ ปัจจบุ นั ได้เรม่ิ การเจรญิ เติบโตของราก แตย่ ังไม่มคี วามกา้ วหนา้ ในการ เก็บสะสมเมล็ดพันธุ์ป่าใหม่อีกคร้ัง โดยได้รับทุน วจิ ยั ด้านนีอ้ อกมาเผยแพร่ สนบั สนุนจาก USDA-ARS (United State Department ส่วนงานด้านเขตกรรม Kreuzberger et al. of Agriculture - Agriculture Research Service) รวม (2016) ได้น�ำเมล็ดพันธุ์จากแหล่งเก็บอนุรักษ์เช้ือ US- ทั้งสะสมเมล็ดพันธุ์จากนักเดินทางในหุบเขาเทียนซาน DA-ARS มาทดลองในช่วงปี 2012-2014 การปลูกในปี ประเทศคาซัสสถาน ภายใต้โครงการของ EU-PEARLS แรก ปลูกเดือนมีนาคม ไถลึก 25-30 เซนติเมตร ระยะ (EU - based Production and Exploitation of Alterna- ระหว่างแถว 50 เซนติเมตร ขุดเป็นรอ่ งโรยเมลด็ ลกึ 5-10 tive Rubber and Latex Sources) เซนตเิ มตร แล้วฝังกลบ เปรียบเทยี บผลผลิตรากทไ่ี ดจ้ าก งานวิจัยด้านปรับปรุงพันธุ์ เน่ืองจากแดนดิไลออน การใช้ความหนาแน่นของต้นปลูกระหว่าง 60,000 ต้น/ มีหลายชนิด (Species) มาก จึงได้มีการผสมข้ามชนิด เฮกตาร์ (ใชเ้ มล็ดพันธ์ุ 1.3 กโิ ลกรมั /เฮกตาร์ ก�ำหนดให้มี ระหว่าง Taraxacum officinale และ Taraxacum ต้นกล้า 100 ต้น/เมตร หรือต้นเมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิต 4 koksaghyz แต่ไม่ประสบความส�ำเร็จ เพราะมีจ�ำนวน ต้น/เมตร) กับ 500,000 ต้น/เฮกตาร์ (ใช้เมล็ดพันธุ์ 5 โครโมโซมแตกตา่ งกนั ในแตล่ ะสปซี สี น์ น่ั เอง (Josefsson, กิโลกรัม/เฮกตาร์ ก�ำหนดใหม้ ตี ้นกล้า 388 ตน้ /เมตร หรือ 1952) แดนดิไลออนชนิด T. officinale มโี ครโมโซมแบบ ต้นเม่อื เก็บเก่ยี วผลผลิตมากกว่า 4 ต้น/เมตร) ผลปรากฏ Triploid เจริญเติบโตไวและมีรากขนาดใหญ่ แต่ต้นกล้า ว่าวิธีแรก แดนดิไลออนให้ผลผลิตน้�ำหนักรากสด 1.3- มีความอ่อนแอ มีปัญหาในการออกดอก เก็บเมล็ด และ 1.9 ตนั /เฮกตาร์ ในขณะทีว่ ธิ กี ารหลงั เน่อื งจากเมล็ดของ อ่อนไหวท้ังในสภาพแห้งและเปียก มีปัญหาการเก็บ แดนดิไลออนมีเปอร์เซ็นต์ความงอกค่อนข้างต�่ำ ให้ เก่ียวรากและใช้แรงงานมาก ส่วน T. koksaghyz มี ผลผลิตน�้ำหนกั รากสด 2.2-3.7 ตัน/เฮกตาร์ โครโมโซมแบบ Diploid มีรากขนาดใหญ่กว่า เจริญ เตบิ โตเร็วกวา่ และใหเ้ มล็ดมากกว่าเชน่ กัน การปรับปรงุ สรุป พันธุ์โดยวิธีมาตรฐาน (Conventional breeding) โดย สมาคมเมล็ดพนั ธ์ขุ อง Swedish ในช่วงปี 1944-1952 มุ่ง แดนดิไลออน ถึงแม้ว่าจะหวนกลับมาศึกษา ไปท่ีการเพิ่มปริมาณยางในราก และเพิ่มขนาดของราก ค้นคว้าวิจัยอีกคร้ังเพ่ือปลูกในยุโรป และอเมริกา แต่ท้ัง อย่างไรก็ตาม ท่อน�้ำยาง (Latex vessel) พบในรากแขนง ผลผลิตและสมบัติของยางยังสู้ยางธรรมชาติจากต้น (Root branches) มากกวา่ ในรากแกว้ (Taproot) และใน ยางพาราไมไ่ ด้ เนอ่ื งจาก รากแขนง ยังพบอีกกว่า รากแขนงขนาดใหญ่จะมี 1. แดนดิไลออน ให้ผลผลิตน้�ำหนักแห้งของราก ปริมาณยางมากกว่ารากแขนงขนาดเล็ก (Josefsson, 150-500 กิโลกรัม/เฮกตาร์ และน้�ำหนักแห้งของราก 1 1952) ผลการด�ำเนนิ งานปรบั ปรงุ พนั ธ์ุ 7 ปี สามารถเพิ่ม ตนั มปี ริมาณยางเพยี ง 45 กโิ ลกรมั ดงั นั้น แดนดิไลออน ปริมาณยางสูงขึ้น 15-30% เปรียบเทียบกับพันธุ์ป่ามี จึงให้ผลผลิตยางแค่ 6.75-22.5 กิโลกรัม/เฮกตาร์ น้อย ปริมาณยาง 6-7% หลังจากปี 1953 งานปรับปรุงพันธุ์ มากเมื่อเปรียบกับยางพารา ซ่ึงให้ผลผลิตยาง 1,500- หยดุ ลง ท�ำให้พนั ธพุ์ ชื ลกู ผสมหายไปดว้ ย 2,500 กิโลกรมั /เฮกตาร์ ปัจจุบันงานด้านปรับปรุงพันธุ์มีการผสมพันธุ์ป่า แดนดิไลออนยังต้องการพัฒนาทั้งทางด้าน เพ่ือให้ได้พันธุ์ท่ีให้ผลผลิตราก/หัวสูง ปริมาณเนื้อยางสูง ปรับปรุงพันธุ์ อณูวิทยาระดับโมเลกุล การใช้เทคนิคทาง และเมล็ดมีความแข็งแรงสูงสามารถเก็บรักษาได้เป็น ด้านพนั ธุวิศกรรม (Genetic engineering) เพอื่ ถ่ายฝาก เวลานาน ความงอกของเมล็ดดี แตอ่ ย่างไรกต็ าม พนั ธ์ุที่

39 ฉบบั อเิ ลก็ ทรอนิกส์ 32 มกราคม-มีนาคม 2561 รวมทงั้ หาวิธลี ดต้นทนุ การผลติ ลง เรง่ ผลติ ยางคณุ ภาพดี เพื่อให้ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตยางเกรดพรีเมี่ยมของ ยีน เป็นต้น ส่วนด้านการเขตกรรมทั้งการผลิตและเก็บ โลกต่อไป รักษาเมล็ดพันธุ์ การปลูก ความหนาแน่นของต้น การ ก�ำจัดวัชพืช ใส่ปุ๋ยและการเก็บเกี่ยวผลผลิต เป็นต้น เอกสารอ้างองิ แดนดิไลออนมีศักยภาพการปลูกต�่ำ รวมทั้งการขยาย พันธุ์ด้วยเมล็ดทีมีเปอร์เซนต์การงอกต่�ำเช่นกัน เมล็ด Cornish, K., W. Xie, D. Kostyal, D. Shintani and พันธุ์ท่ีปลูก ได้จากการผสมพันธุ์กับพันธุ์ป่า หรือวัชพืช R. G. Hamilton. 2015. Immunological analysis ชนิดอ่นื เนอื่ งจากเป็นพืชผสมขา้ มดอก จึงไดผ้ ลผลิตต�ำ่ of the alternate rubber crop Taraxacum kok- และยังใช้แรงงานมากทั้งในการดูแลรักษาและเก็บเกี่ยว saghyz indicates multiple proteins cross- ผลผลิต รวมทัง้ มชี พี จักร 2 ปี จงึ เก็บเกยี่ วผลผลิตได้ reactive with Hevea brasiliensis latex aller- 2. ถึงแม้นว่ายางล้อรถยนต์ท่ีท�ำจากแดนดิไลออน gens J. Biotechnol. Biometer 5 (207): มีความยืดหยุ่นดีพอ ๆ กับยางจากยางพารา และมี 10.4172/2155-952X.1000207. คุณภาพดีกว่ายางจากวายยูเล่ การพัฒนาเทคโนโลยีให้ Hahn, T., A. Klemm, P. Zieße, K. Harms, W. Wach, ส า ม า ร ถ ใ ช ้ แ ท น ที่ ย า ง พ า ร า ยั ง ท�ำ ไ ม ่ ไ ด ้ ใ น ข ณ ะ นี้ S. Rupp, T. Hirth and S. Zibek. 2016. Optimi- เน่ืองจากน้�ำหนักโมเลกุลของยางจากแดนดิไลออนมี zation and scale-up of inulin extraction from ขนาดไม่สม่�ำเสมอ การน�ำไปใช้ทางด้านอุตสาหกรรม Taraxacum koksaghyz roots Nat. Prod. Com- ตอ้ งการเทคนิคพิเศษในขบวนการผลติ เพมิ่ ขึ้น mun. 11 (5): 569-706. 3. แหล่งปลูกของแดนดิไลออนอยู่ในเขตยุโรป Josefsson, A. 1952. Breeding experiments with เหนือและอเมริกา มีจุดเด่น คือ ประเทศเหล่าน้ีมี rubber dandelion Taraxacum koksaghyz Rodin. เทคโนโลยีในระดับสูง ในอีกไม่ก่ีปีอาจจะสามารถผลิต Sveriges Utsadesforenings Tidskrift 63:293– ยางจากแดนดิไลออนจนเป็นคู่แข่งยางได้ หรือในสภาวะ 385. ที่ราคายางจากยางพาราตกต่�ำ อาจจะท�ำให้งานวิจัยพืช Kreuzberger, M., T. Hahn, S. Zibek, J. Schiemann ทดแทนหยุดชะงักลงก็ได้เช่นเดียวกับในช่วงทศวรรษ and K. Thiele. 2016. Seasonal pattern of 1950 และแหล่งผลิตอยู่ในเขตที่ค่าแรงงานค่อนข้างสูง biomass and rubber and inulin of wild จงึ มีผลตอ่ ต้นทุนการผลติ Russian dandelion (Taraxacum koksaghyz L. 4. ยางเป็นพชื ยนื ต้น ทไ่ี ม่ต้องดแู ลรักษามาก หลัง Rodin) under experimental field conditions. จากปลูก เช่น ก�ำจัดวัชพืช ใส่ปุ๋ย ท�ำแนวป้องกันไฟไหม้ European Journal of Agronomy 80: 66-77. สวนยาง เป็นต้น ในขณะท่ีแดนดิไลออนเป็นพืชข้ามปี Lipshitz, S.U. 1934. Novyj kauchukonosny joduvan- แตม่ อี ายุแค่ 2 ปี ต้องการการดูแลรักษาอย่างใกลช้ ดิ แต่ chik Taraxacum koksaghyz. Goschimtechizdat, ผลผลิตแดนดิไลออนต่�ำมาก มุมมองทางด้านเศรษฐกิจ Moskva & Leningrad. [A new rubber plant of สงั คม (Socio-economic) อาจจะได้รับผลกระทบ สร้าง Kazakhstan the Taraxacum koksaghyz]. ความตระหนกตกใจแก่เกษตรกรและตลาดว่ามีพืชคู่แข่ง Ulmann, A. 1951. Wertvolle Kautschukpflanzen des จะท�ำใหร้ าคาของยางพาราตกต�ำ่ ลงไปอีก แต่เทคโนโลยี Gemässigten Klimas dargestellt aufgrund การผลิตยางจากแดนดิไลออนยังไม่ประสบความส�ำเร็จ Sowjetischer Forschungsarbeiten Akademie- ในการเพิ่มผลผลิตได้ เกษตรกรไทยควรหันมาใส่ใจสวน Verlag GmbH, Berlin. ยาง ปรับปรุงดูแลหน้ากรีดยางท�ำให้กรีดยาวนานข้ึน

ใช้กรดซลั ฟิวริกในการทา� ยางกอ้ นถ้วย ✘ซลั ฟิวริก ✔ฟอร์มิก 1. โรงงานผู้ผลิตยางลอ้ ไม่รับซอื้ 1. เป็นทีต่ ้องการของโรงงาน 2. ได้ยางคณุ ภาพต่�า 2. ไดย้ างคุณภาพดี 3. ท�าให้เครอ่ื งจกั รเสยี หาย 3. ไม่ทา� ให้เครอื่ งจกั รเสยี หาย 4. หน้ากรีดยางเสียหาย 4. ไม่กระทบต่อหนา้ กรีดยาง 5. อันตรายตอ่ สขุ ภาพ 5. ไม่กระทบต่อสขุ ภาพ 6. สรา้ งมลพิษตอ่ ส่ิงแวดล้อม 6. ไมก่ ระทบตอ่ สง่ิ แวดล้อม สอบถามข้อมูลไดท้ ี่ สถาบันวจิ ยั ยาง การยางแหง่ ประเทศไทย โทร. 0-2579-1576 ตอ่ 301, 0-2940-6653


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook