Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือระบบพี่เลี้ยงเกษตรกรชาวสวนยาง

หนังสือระบบพี่เลี้ยงเกษตรกรชาวสวนยาง

Published by ju_sureerut, 2020-02-14 07:40:30

Description: รวมทั้งหมด

Search

Read the Text Version

1 ระบบพเ่ี ลยี้ งเกษตรกรชาวสวนยาง ดร. วิทยา พรหมมี หัวหนากองวจิ ยั และพัฒนาการผลติ ยาง สถาบันวิจัยยาง การยางแหงประเทศไทย อบรมเชิงปฏิบตั ิการ หลักสตู ร “หลักการเปนพเี่ ลี้ยงเกษตรกรผปู ลกู สรางสวนยางแบบผสมผสาน” ภายใตโครงการสรา งเครือขา ยเกษตรกรผูป ลูกยางแบบผสมผสานโดยมพี เ่ี ลย้ี ง ระหวางวนั ที่ ๑๘– ๒๐ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๖๓ ณโรงแรมซนั ไรส ลากูนโฮเทล แอนด กอลฟ อําเภอบางคลา จังหวดั ฉะเชิงเทรา

2 คํานํา ระบบพ่ีเล้ียงเกษตรกรชาวสวนยางเปนระบบการดูแล คอยให คาํ ปรกึ ษา แนะนาํ สอนงาน และเปน ทปี่ รกึ ษาใหกับเกษตรกรชาวสวนยาง เปน ระบบท่ีสรางความสมั พันธร ะหวา งพนักงานขององคก รทีม่ คี วามรูความเขาใจใน เรื่องการจัดการสวนยางเปนอยางดีกับเกษตรกรผูปลูกยาง โดยพนักงานจะทํา หนาที่ในการใหคําแนะนาํ สอนงาน และใหคาํ ปรึกษา เพ่ือสนับสนุนการพัฒนา ศักยภาพในการทํางานใหกับเกษตรกรผูปลูกยางสามารถปลูกสรางสวนยางได อยางมีประสทิ ธิภาพจงึ ไดน ําระบบพี่เล้ยี งเกษตรกรนํามาใชเ ปนเครอื่ งมือในการ จัดการความรูดานการผลิตยางในแงของการถายทอดความรูระหวางพนักงาน และเกษตรกรชาวสวนยาง ระบบพ่ีเลี้ยงเกษตรกรจะประสบผลสําเร็จไดนั้นตองมีการยอมรับ หลักการของระบบพี่เลี้ยงเกษตรกร ทั้งของผูบริหาร ทีมพี่เล้ียง และเกษตรกร ซ่ึงตองมีการทําความเขาใจกันอยางชัดเจนวาระบบพ่ีเล้ียงเปนสิ่งที่เปน ประโยชนตอองคกรและเกษตรกร โดยเฉพาะพ่ีเลี้ยงนั้นจะตองมีคุณสมบัติท่ี เหมาะสมทงั้ ในเร่ืองขององคค วามรู ทกั ษะ และทศั นคติท่ีดีเยย่ี มจงึ จาํ เปน ตอ งมี การฝก อบรมกลุมพี่เล้ียงเพ่ือใหเขาใจถึงหลักการ บทบาทและความรับผิดชอบ ของการเปนพ่ีเล้ียงท่ีดีเพื่อรองรับการเปนพี่เล้ียงใหกับเกษตรกรในการจัดการ สวนยางอยา งมีประสิทธิภาพ เน่ืองจากการฝกอบรมพี่เล้ียงสามารถเพิ่มโอกาส ของความสําเร็จไดถึง 40 % เพื่อเปนการสรางทีมพี่เล้ียงเกษตรกรเพ่ือรองรับ การดําเนินงานการจัดการสวนยางอยางย่ังยืนเชน ปลูกสรางสวนยางแบบ ผสมผสาน การปฏิบัติตามหลักเกษตรดีที่เหมาะสมในการจัดการสวนยาง เพื่อใหมีการจัดการสวนยางอยางมีประสิทธิภาพชวยลดตนทุนและเพ่ิมรายได ของเกษตรเพื่อเกษตรกรมีชีวิตความเปนอยูทั้งทางดานเศรษฐกิจและสังคมที่ดี ข้นึ อยา งมั่นคงและยั่งยนื วิทยา พรหมมี 2563

สารบญั 3 เรอื่ ง หนา ระบบพ่ีเลี้ยงเกษตรกรชาวสวนยาง 1 บทบาทและความรบั ผิดชอบของเกษตรกร 2 บทบาทและความรับผิดชอบของพีเ่ ล้ียง 2 บทบาทและความรบั ผดิ ชอบขององคกร 3 ขอดีของระบบพี่เลยี้ งเกษตรกร 4 คุณสมบัติในการเปน พีเ่ ลยี้ งเกษตรกรท่ดี ี 5 ปจ จยั ที่ทําใหระบบพีเ่ ล้ยี งเกษตรกรประสบผลสาํ เรจ็ 10 หลักการเปนพ่ีเลีย้ งใหกับเกษตรกร 11 การเปนพเี่ ล้ยี ง (Mentoring) 11 การสอนงาน (Coaching) 13 การใหคําปรึกษา (Counseling) 15 บรรณานกุ รม 20

1 ระบบพ่เี ล้ยี งเกษตรกรชาวสวนยาง ระบบพ่ีเลี้ยงเกษตรกรชาวสวนยาง คือ ระบบการดูแล คอยให คาํ ปรกึ ษา แนะนาํ สอนงาน และเปน ที่ปรึกษาใหกับเกษตรกรชาวสวนยาง เปนระบบที่สรางความสัมพันธระหวางพนักงานไดแก นักวิชาการเกษตร หรือ นักสงเสริมการเกษตร ท่ีมีความรูความเขาใจในเรื่องการจัดการสวน ยางเปนอยางดี เชน หลักการสรางสวนยางแบบผสมผสาน หรือ หลัก เกษตรดีที่เหมาะสม(GAP: Good Agricultural Practice)กับเกษตรกรผู ปลูกยางโดยพนักงานจะทําหนาท่ีในการใหคําแนะนํา สอนงาน และให คําปรึกษา เพอื่ สนับสนนุ การพัฒนาศักยภาพในการทํางานใหกับเกษตรกร ผูปลกู ยางสามารถปลูกสรา งสวนยางไดอยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ ระบบพ่ีเลี้ยงเกษตรกรจะถูกนํามาใชเปนเครื่องมือในการจัดการ ความรดู า นการผลติ ยางในแงของการถา ยทอดความรรู ะหวางพนักงานและ เกษตรกรชาวสวนยาง ซ่ึงวิธีการถายทอดความรูท่ีดีที่สุดก็คือการท่ีบุคคล ไดพูดคุยกับอีกคนหนึ่ง ดังนั้นการพูดคุยในระบบพ่ีเลี้ยงแทจริงแลวก็คือ การติดตอส่ือสารระหวางพี่เล้ียงที่มีประสบการณมากกวากับเกษตรกรผู ปลกู ยาง ทําใหก ารถายทอดความรูจํานวนมากจึงเกิดขึ้นซึ่งเปนสิ่งท่ีสําคัญ สําหรับการจัดการสวนยางอยางมีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืนใน ปจ จุบันระบบพเ่ี ล้ียงน้ันไดรับการพิสูจนแลววาเปนระบบท่ีมีประสิทธิภาพ สูงและนิยมใชกันมากในหลายๆวงการโดยเฉพาะงานทางดานทรัพยากร มนุษย ทีมพ่ีเลี้ยงจะตองเปนผูที่มีความสามารถในกระบวนการผลิต ยางพาราเปนอยางดี ไดแก ความรู ทักษะ ทัศนคติ และ มีการบริหาร ความเส่ียงต้ังแตการเตรียมวัสดุปลูก การเตรียมพ้ืนที่ปลูก การปลูก การ ดูแลรกั ษาการเกบ็ เก่ียวผลผลติ การแปรรปู วัตถุดิบเบ้ืองตน และการจัดทํา บญั ชรี ายรบั รายจา ยของตัวเอง การทําหนาท่ีพ่ีเลี้ยงอาจเร่ิมต้ังแตเกษตรกรไดรับการอนุมัติใหทุน ปลูกแทนจากการยางแหงประเทศไทยเพ่ือใหเกษตรกรมีความรูสึกไมโดด

2 เด่ยี วเน่ืองจากมีผูเชี่ยวชาญในการผลติ ยางคอยอยขู างๆและมีความรูสึกท่ีดี ตอหนวยงานที่ทําหนาท่ีดูแลเกษตรกรเปนการปองกันไมใหเกษตรจัดการ สวนยางแบบไมมีประสิทธิภาพและนําไปสูการมีทัศนคติที่ดีตอองคกรเพ่ือ เปนการสรา งบรรยากาศของการทาํ งานแบบมสี วนรวมระหวางภาครัฐและ ภาคเกษตรกรการทําหนาท่ีเปนพี่เล้ียงใหกับเกษตรกรน้ันข้ึนอยูกับผลการ ปฏบิ ตั ิงานของเกษตรกรถามีผลการปฏิบัติงานที่สูงกวามาตรฐานพนักงาน จะรับบทบาทการเปนพ่ีเลี้ยง (Mentoring) หากเกษตรกรมีผลการ ปฏิบัติงานตรงตามมาตรฐานพนักงานจะรับบทบาทเปนผูสอนงาน (Coaching) แตถาเกษตรกรมีผลการปฏิบัติงานต่ํากวามาตรฐานพนักงาน จะรับบทบาทเปน ผูใหคําปรึกษาคอยใหคําแนะนาํ (Counseling/Advisor) บทบาทและความรบั ผิดชอบของเกษตรกร เกษตรกรตองเปนสมาชิกในเครือขายเกษตรกรผูปลูกยางแบบ ผสมผสานมีการเรยี นรทู ักษะจากพี่เลยี้ ง เสาะหาและพัฒนาทักษะใหมและ ความสามารถที่ตองการมีในอนาคต มีความรบั ผดิ ชอบในการพัฒนาตนเอง มีการริเริ่มในการบริหารความสัมพันธ เปนผูรับและมีการตอบสนองดวย ความคิดใหม ฟงและซักถาม มีการแลกเปลี่ยน ความคิดและสิ่งอื่นๆตาม ความเหมาะสม เขา รวมการพัฒนาอยางเปนทางการ ทํางานใหเปนไปตาม วัตถุประสงคตามความสามารถของตนเอง แนะนําความคิดใหมๆใหกับพี่ เลีย้ ง เคารพความแตกตา ง และทาํ งานตามวตั ถปุ ระสงคทถ่ี ูกตงั้ โดยพเ่ี ลี้ยง บทบาทและความรับผิดชอบของพ่ีเลย้ี ง พี่เลี้ยงจะตองเปนพนักงาน ไดแก นักวิชาการเกษตรหรือนัก สงเสรมิ การเกษตร โดยตองมีการสรางความไวเนื้อเช่ือใจและเคารพใหกับ เกษตรกรท่ีไดรับการสอนงาน ดูแลเกษตรที่ไดรับการสอนงานเสมือนเปน ทรัพยากรอนั มคี า สอนองคความรูดา นการผลิตยางและผลกระทบจากการ

3 สรางสวนยางไมมีประสิทธิภาพเปนอันดับแรก ยอมรับความสัมพันธใน ระยะยาว ปฏิบัติในฐานะท่ีเปนเสียงขององคกรและชวยเกษตรกรที่ไดรับ การสอนงาน ในการช้ีนําและเขาถึงวัตถุประสงคที่จะสามารถไปถึงได ล ง ทุ น ใ น เ รื่ อ ง เ ว ล า แ ล ะ พ ลั ง ง า น ใ น ก า ร พั ฒ น า อ ย า ง เ ข ม แ ข็ ง แ ล ะ ความสัมพันธกับเกษตรกรท่ีไดรับการสอนงาน แลกเปลี่ยนประสบการณ ทักษะ ความรู กลยุทธ และบทเรียนท่ีเหมาะสม สงเสริมใหมีวิจารณญาณ มุมมอง และการตอบสนองท่ีสรางสรรคตอเกษตรกรท่ีไดรับการสอนงาน เผชิญหนากับพฤติกรรมและทัศนคติในทางลบ สงเสริมใหมีความเขาใจ อยางถองแทตอการจัดการสวนยางตามหลักเกษตรดีที่เหมาะสมและ วัฒนธรรมองคกร ตองเปนตนแบบที่ดีและสอนดวยตัวอยาง ใหคําแนะนํา ความชวยเหลือ เม่ือถูกรองขอจากเกษตรกรที่ไดรับการสอนงาน ตาม ความเหมาะสม สนับสนุนและใหคาํ แนะนําอยางฉลาดตามความเหมาะสม เคารพความแตกตางของแตละบุคคล เสนอใหเกษตรกรที่ไดรับการสอน งานไดร ับการพฒั นาความเปน มอื อาชีพ และเขา รวมการพฒั นาบคุ ลากร บทบาทและความรบั ผิดชอบขององคกร การยางแหงประเทศไทยซึ่งเปนหนวยงานหลักในการพัฒนางาน ดานยางพาราของประเทศไทย โดยมีสถาบันวิจัยยางทําหนาท่ีในการศึกษา คนควาวิจัยดานการผลิตยางหรืองานวิจัยดานตนน้ํา และฝายสงเสริมมี หนาที่ในสงเสริมสนับสนุนเกษตรกรในเรื่องของการปลูกแทน ในหลายๆ องคกรระบบพ่ีเลี้ยงมักจะลมเหลวเพราะองคกรขาดการสงเสริม ซ่ึงเปน หนาท่ีขององคกรที่จะตองจัดกระบวนการพัฒนาพ่ีเล้ียงที่มีศักยภาพและ เสนอโอกาสใหทั้งพีเ่ ลยี้ งและเกษตรกรท่ไี ดร ับการสอนงานนอกเหนือจากน้ี องคกรควรจะฝกหัดและสนับสนุนระบบพี่เลี้ยง มีการฝกอบรม และมีการ ใหค ําแนะนาํ ตอพ่ีเลยี้ งและเกษตรกรท่ไี ดร บั การสอนงาน

4 ขอดีของระบบพีเ่ ลี้ยงเกษตรกร 1. หนวยงานมีการถา ยทอดการทํางานใหกับเกษตรกรโดยตรงและมี การถายทอดจากประสบการณตรง ทําใหเกษตรกรมีแบบแผนใน การจัดการสวนยางท่ีจะสงผลใหมีการจัดการสวนยางท่ีดีมี ประสทิ ธิภาพเพอื่ ใหไ ดผ ลผลิตตามศกั ยภาพของตนยาง 2. รักษามาตรฐานในการจัดการสวนยางของเกษตรกรไดดี เพราะมี การถายทอดระบบการจัดการที่ชัดเจน และเปนมาตรฐาน เดยี วกันทุกราย 3. ไมเสียเวลาในการลองผิดลองถูกของเกษตรกรซ่ึงบางคร้ังอาจ สรางผลลัพธท่ีแย หากใหเกษตรกรเกิดการลองผิดลองถูกดวย ตนเอง 4. มีโอกาสเกิดความเสยี หายในการจดั การสวนยางนอ ยลง เพราะมีผู มีประสบการณคอยดูแลอยู และไมปลอยปะละเลยใหเกษตรกร ทําอะไรโดยความไมรูที่อาจเกดิ ความเสีย่ งตอความเสยี หายสูง 5. มีการสอดสองดแู ลการทาํ งานเพื่อคอยตรวจสอบขอผิดพลาดและ ชวยกนั แกไ ขปญ หาได 6. สรางประสิทธิภาพในการจัดการสวนยางไดดีย่ิงข้ึน ทําให เกษตรกรมีการพัฒนาทักษะอยางถูกวิธีและรวดเร็วชวยเพิ่ม ศกั ยภาพใหเ กษตรกรไดม ากขึ้น 7. สรางสัมพันธที่ดีระหวางหนวยงานกับเกษตรกร ระบบพ่ีเลี้ยง นอกจากจะเปนประโยชนในเร่ืองการทํางานแลวยังเปนประโยชน ในดานการสง เสริมความสัมพันธระหวางบุคลากรท่ีดีไปในตัวดวย สรางเครือขายและความสามัคคีที่ดีในการทํางาน ตลอดจนการ ดูแลซ่งึ กันและกนั 8. สรางวัฒนธรรมองคกรและสงเสริมภาพลักษณที่ดีขององคกรตอ เกษตรกร

5 9. เกษตรกรเกิดความประทับใจในตัวพนักงาน ระบบการทํางาน ตลอดจนองคกร และสรา งความจงรกั ภกั ดใี หกับองคก รไดในที่สดุ คณุ สมบตั ิการเปนพเ่ี ลีย้ งเกษตรกรท่ดี ี 1. มคี วามเตม็ ใจท่จี ะแบง ปน การจะเปนพ่ีเล้ียงที่ดีน้ันควรมีคุณสมบัติน้ีเปนอันดับแรกเพราะ หนาท่ีน้ีคือการใหคําปรึกษา ใหคําแนะนํา และสอนงานผูท่ีไมเต็มใจจะมา ทําหนาท่ีนี้จะทําใหรูสึกวาเปนภาระซ่ึงไมเปนผลดีตอการดูแลเกษตรกร เพราะหากไมเต็มใจต้ังแตตนแลวก็จะทําใหไมเต็มท่ีในการดูแลและสอน งานอกี ดว ย 2. มนี ิสัยชอบดแู ลใหค าํ แนะนํา พีเ่ ลีย้ งที่ดีควรมีนิสัยชอบดูแลและใหคําแนะนําผูอื่น รูจักเอาใจใส ผอู ่ืน เพราะตองคอยดูแลและเปนท่ีปรึกษาใหกับเกษตรกร หากเลือกคนท่ี เกง งานแตไมเกง การดูแลเปนฝายตั้งปอมกอนวาเกษตรกรจะตองมาถามพ่ี เล้ยี งกอนเทาน้ันถามแลวจึงจะตอบเพราะตัวเองก็มีภารกิจเชนกัน ซ่ึงตาม หลักความเปนจริงแลวไมใชเกษตรกรทุกคนจะเปนคนกลาซักถามเสมอไป หรือเกรงใจในการสักถาม อาจทําใหไมไดสอนงานกัน เกิดความอึดอัด และงานไมสัมฤทธิ์ผลได หรือบางอยางเกษตรกรก็ไมรูวาจะตองทํา อะไรบาง ส่ิงใดควรหรือไมควรทํา ความไมรูอาจทําใหเกิดขอบกพรองใน การทํางานได ซึ่งสวนน้ีพ่ีเลี้ยงตองทําการสอนงาน หรือแนะนําให เกษตรกรรู 3. มคี วามเชย่ี วชาญในงาน พี่เล้ียงควรจะตองมีเขาใจและเช่ียวชาญในงานที่ทํา ตลอดจนมี ทักษะความชํานาญการในงานนั้นๆเพราะนอกจากจะตองสอนงานใหกับ เกษตรกรแลวยังจะตองคอยตอบขอสงสัยตางๆอีกดวย การเขาใจและ เช่ียวชาญในงานน้ันจะทําใหสามารถตอบปญหา ขอซักถามตางๆ ไดรอบ

6 ดาน หากพ่ีเลี้ยงไมชํานาญการในการทํางานแลวก็จะไมสามารถตอบ ปญหาหรือไขขอของใจได ก็อาจทําใหการทํางานมีปญหาได หรือหาก เกษตรกรมีความรูความสามารถท่ีดีกวา ก็อาจทําใหลดความไววางใจหรือ เชื่อถือในตัวพี่เลี้ยงไดอีกสวนท่ีพ่ีเล้ียงควรตองเขาใจอยางดีก็คือเขาใจใน องคกร เพราะนอกจากองคความรูในการทํางานแลวองคความรูเร่ือง องคกรตา งๆ พี่เลยี้ งจะตองทําหนา ที่ในการถายทอดในตวั ดว ย 4. มีมนุษยสัมพนั ธที่ดแี ละมที ศั นคติทด่ี ีเยย่ี ม คุณสมบัติขอนี้อาจไมใชเปนคุณสมบัติท่ีเปนหลัก แตหากพี่เล้ียงมี คุณสมบัติขอน้ีก็จะทําใหการเปนพี่เลี้ยงมีประสิทธิภาพมากขึ้น การมี มนษุ ยส มั พันธท ่ดี จี ะทําใหเกิดการสนทิ สนม ไวเ นื้อเชอ่ื ใจกัน ยอมรับนับถือ กันรวมถึงเปดใจระหวา งกันไดงา ย เม่ือพีเ่ ล้ียงและเกษตรกรยอมรับกันและ กันตลอดจนสรางปฏิสัมพันธระหวางกันไดดีแลวก็ยอมทําใหการถายทอด งานตลอดจนการพูดคุยตางๆ ดูราบร่ืน และประสบผลสําเร็จไดงายการมี ทัศนคติท่ีดีเปนส่ิงสําคัญไมควรเลือกคนที่มีทัศนคติไมดีกับการทํางาน โดยเฉพาะอยางยิ่งทัศนคติที่ไมดีตอองคกรมาทําหนาที่เปนพ่ีเลี้ยงเพราะ น่ันเปนจุดเริ่มตนท่ีอาจสงผลตอการถายทอดเรื่องแยๆ ทัศนคติที่ไมเปน ประโยชนตอการทํางานและตอ องคก ร เม่ือเกษตรกรซึมซับทัศนคติแยๆไป ก็จะสงผลใหมีพื้นฐานทัศนคติที่แยไดเชนกัน ทัศนคติในเชิงบวกนั้นยัง สงผลดีตอการมองปญหาและแกปญหา ตลอดจนการสงเสริมกําลังใจซึ่ง กันและกันดวย หากมองปญหาเปนทัศนคติในทางลบก็อาจทําใหเราอยาก วิ่งหนีปญหาได หรือกลัวปญหาและไมกลาเผชิญในที่สุด แตหากมอง ปญหาบนพ้ืนฐานทัศนคติในทางบวกก็อาจเปนแรงผลักดันในการตอสู ตลอดจนเอาชนะปญหาเพอื่ มงุ สคู วามสําเร็จไดเ ชนกนั

7 5. มีทักษะการส่อื สารท่ดี ี ถือเปน คุณสมบตั ิท่ีสําคัญเพราะไมใชวาคนเกงทุกคนจะเขาใจการ สอนหรือถายทอดงานที่ดี ในขณะเดียวกันผูที่จะรับหนาท่ีในการถายทอด งานที่ดีนั้นก็ไมจําเปนวาจะตองเปนคนท่ีเกงที่สุดเสมอไป แตหากคนเกง แลวมีทักษะการสื่อสารที่ดีนั้นก็จะย่ิงเปนพี่เล้ียงท่ียอดเย่ียมที่สุด พ่ีเล้ียง ควรจะตองมีทักษะในการส่ือสารถายทอดขอมูลที่ดี รูจักการถายทอดงาน ใหเ ปนขั้นเปนตอน ใชภ าษาท่ีทําใหเขาใจงาย เหมาะสม ทักษะการส่ือสาร ท่ดี จี ะชว ยทาํ ใหเ กษตรกรเขาใจไดง ายข้ึน ในทางตรงกันขามหากเลือกคนท่ี ไมมีทักษะในการสื่อสารท่ีดีมาทําหนาที่ตรงน้ี ก็อาจทําใหการส่ือสาร ระหวางกันไมรูเร่ือง สอนงานไมเปน ลําดับข้ันตอนไมถูก ก็อาจทําใหงาน เกดิ การเสยี หาย หรือเกษตรกรจําวิธกี ารทํางานแบบผิดๆ ไปไดเชนกัน 6. มคี วามรบั ผิดชอบ ผูท่ีมีความรับผิดชอบจะสามารถถายทอดความรับผิดชอบท่ีดีสู เกษตรกรไดเชนกัน ความรับผิดชอบนี้ต้ังแตการรับผิดชอบในงานของตน ไมทงิ้ งาน ปฏิบัติหนาท่ีอยางเต็มความสามารถ ผูท่ีไมมีความรับผิดชอบใน การทํางานก็อาจสงผลใหไมมีความรับผิดชอบในการสอนงานไดเชนกัน พี่ เล้ียงอาจเกิดความข้ีเกียจ หรือไมใสใจเพราะไมใชงานของตน ปลอยปะ ละเลย กอ็ าจทาํ ใหเ กิดผลเสยี ตอการดูแลเกษตรกรได 7. มีภาวะเปนผูนําท่ดี ี ต้งั แตรูจักการประเมินสถานการณ วางแผนการทํางาน ตลอดจน บริหารจัดการไดดี รวมถึงมีทักษะในการเผชิญหนากับอุปสรรคท่ีดี และมี ทกั ษะการแกปญ หาท่ียอดเยย่ี มดวย หากเลือกพี่เล้ียงที่มีคุณลักษณะผูนําท่ี ดีน้ันจะทําใหส ามารถบรหิ ารจัดการเกษตรกรไดดีสรางความนานับถือและ นาเช่ือถือ สามารถใหคําปรึกษา ใหคําแนะนํา และสอนงานและถายทอด ได ขับเคล่อื นการทาํ งานไดดี ตลอดจนมที กั ษะในการตัดสินใจท่ีดี ซึ่งจะทํา ใหส ามารถใหคําปรึกษาหรอื แกปญ หากบั ไดทันทว งที

8 8. รับฟงความคดิ เหน็ และขอเสนอแนะของผอู น่ื ผูท่ีเปนพี่เล้ียงท่ีดีนั้นควรรูจักฟงใหเปน ต้ังใจฟง และยอมรับฟง ความคิดเห็นของผูอ่ืนที่แตกตางจากตนรวมถึงขอเสนอแนะตางๆของผูอ่ืน และสามารถวิเคราะหเพ่ือเลือกส่ิงท่ีเหมาะสมที่สุดได นอกจากพี่เล้ียงจะ เปนผูถายทอดท่ีดียังตองเปนผูรับฟงเกษตรกรท่ีดี เปดใจทําใจเปนกลาง และท่ีสําคัญตองเปดโอกาสใหเกษตรกรไดแสดงความคิดเห็นตลอดจน เสนอแนะส่ิงตางๆดวย อยาต้ังตนเปนผูรู ไมยอมรับฟงคนอ่ืน การรับฟง ความคิดเห็นตลอดจนขอเสนอแนะจากผูอ่ืนนั้นบางทีอาจเปนตัวเลือกท่ี เหมาะสมที่สุด หรือเปนวิธีคิดรูปแบบใหมๆที่เรามักคิดไมถึงเพราะเรา อาจจะอยูกบั ส่งิ ท่คี ุนเคยจนสรางกรอบใหตัวเองอยางไมร ตู ัว 9. เปนคนใจเย็น มีลกั ษณะนิสัยทเ่ี ปนคนใจเย็น รอบคอบในการตัดสินใจ ไมใจรอน ดวนตัดสินใจ หรือมีอารมณฉุนเฉียว ควบคุมอารมณไมได มนุษยทุกคนไม มีใครอยากอยูดวยหรือรวมกับคนที่อารมณไมดี ระบายอารมณโกรธใสกัน ทะเลาะเบาะแวง ระบายความฉุนเฉียว หรือแมแตเปนท่ีรองรับอารมณ ของคนอน่ื นนั่ จะทาํ ใหเกิดการสงั่ สมสขุ ภาพจิตทไ่ี มดี การเปน พเี่ ลี้ยงใหกับ เกษตรกรที่ยังขาดประสบการณน้ันยอมตองใชเวลามากกวาปกติในการ สอนงาน หรืออาจตองตอบคําถามในสิ่งท่ีเกษตรกรไมรูแตเปนเรื่องงาย สําหรับเราอยูบอยๆ หรือตองทนกับการถามคําถามเดิมซ้ําๆ ในบางทีถาม คําถามอยูตลอดเวลาหากพ่ีเลี้ยงไมเปนคนใจเย็นก็อาจจะเกิดการรําคาญ และระเบดิ อารมณใ สกันไดพ่ีเล้ียงตองเขาใจวาสถานการณตอนน้ีคือชวยท่ี กําลังอยูในขั้นตอนการเรียนรู ไมมีใครทุกคนที่รูมากอน การเรียนรูจะทํา ใหทุกคนชํานาญ ดังนั้นตองเขาใจสถานะของเกษตรกรเพราะเมื่อกอนเรา ก็เปนคนท่ไี มเคยรูมากอนเชนกัน ตองใจเย็นในการสอนสิ่งเดิมๆ เปดใจใน การรับฟง ไขขอของใจในสิ่งท่ีเกษตรกรไมรู การเขาใจและใจเย็นจะทําให เปนประโยชนตอทุกฝาย และการดูแลเปนไปอยางราบร่ืน ในขณะท่ีความ

9 ใจรอนก็ทําใหการทํางานประสบปญหา เกษตรกรปฏิบัติงานไมเปน องคกรไดร ับความเสียหายไดเชน กนั 10.รูจ ักการใหกําลงั ใจและสรา งความประทับใจใหเปน ถือเปนกุญแจสําคัญที่จะสรางความสัมฤทธิ์ผลไดอยางดีเย่ียม พ่ี เล้ียงท่ีดีควรรูจักการสงเสริมใหกําลังใจในทิศทางท่ีเหมาะสม และใน สถานการณต ลอดจนชวงเวลาที่ถูกตองดวย เวลาเราเจอปญหาหรือทอกับ สิง่ ใดๆ เรามักตอ งการกาํ ลังใจเสมอและบอ ยครั้งผูท่ีไมรูมากอนมักมีโอกาส สูงท่ีจะทํางานผิดพลาด บกพรองหรือตกหลน พี่เลี้ยงไมควรจะดุดาวา กลาวในเหตุที่ไมสมควร ไมควรโยนความผิดใหกับเกษตรกรเพียงอยาง เดียว ควรเปลี่ยนวิกฤติใหเปนโอกาสดวยการชี้ใหเห็นปญหา ขอบกพรอง เพื่อแนะวิธีแกไขหรือการปฏิบัติที่ถูกตอง ตลอดจนสงเสริมกําลังใจในการ ตอสูกับอุปสรรค และใหกําลังใจในการทํางานตอไป แลวหัวใจสําคัญที่สุด ของการเปนพ่ีเลี้ยงท่ีดีนั้นก็คือการสรางความประทับใจใหเกิดข้ึนกับ เกษตรกรซ่ึงอาจเกิดจากความไมตั้งใจหรือตั้งใจก็ได ความประทับใจอาจ เปนลักษณะนิสัยหรือคุณสมบัติท่ีดีที่ควรทําเพราะน่ันจะทําใหเกษตรกร จดจําภาพดีๆ เก็บความทรงจําที่ดี สรางมนุษยสัมพันธที่ดีตอกัน ท่ีอาจ สงผลดีตอการทํางานรวมกันตอๆไป สงผลดีกับองคกรและยังเปนการ ปลูกฝงใหเกษตรกรกลายเปนพ่เี ลีย้ งที่ดใี นอนาคตไดด วยเชนกนั

10 ปจจัยท่ีทําใหร ะบบพเ่ี ลี้ยงเกษตรกรประสบผลสาํ เร็จ 1. การยอมรับหลักการของเครือขายการสรางสวนยางแบบผสมผสาน โดยมีระบบพ่ีเล้ียง ทั้งของผูบริหาร ทีมพี่เลี้ยง และเกษตรกร ซ่ึงตอง มีการทําความเขาใจกันอยางชัดเจนวาระบบพ่ีเลี้ยงเปนส่ิงที่เปน ประโยชนต อ องคก รและเกษตรกร 2. คุณลักษณะของพ่ีเล้ียงท่ีเหมาะสม กําหนดคุณลักษณะความเปนพ่ี เลีย้ งแลว คัดเลอื กบุคคลท่ีมีความเหมาะสมในการทําหนาท่ีพเี่ ลี้ยง 3. การมอบหมายทีมพี่เลี้ยงไปทําหนาที่ในการสอนงานใหเหมาะสมกับ เกษตรกรในพ้ืนทแี่ ละประเภทของการสรา งสวนยางแบบผสมผสาน 4. การฝก อบรมกลุมพี่เล้ียง การฝกอบรมพ่ีเลี้ยงสามารถเพิ่มโอกาสของ ความสําเร็จไดถึง 40% แตอยางไรก็ตามทุกบทบาทควรไดรับการฝก เพื่อใหเขาใจถึงความเคล่ือนไหว ของระบบพี่เล้ียงและบทบาท ความ รับผดิ ชอบของทุกภาคสว นท่เี กยี่ วของ 5. การส่ือสาร การส่ือสารเปนเรื่องสําคัญของระบบพ่ีเลี้ยง การขาดการ ส่ือสาร การขาดการแลกเปลี่ยนความรู และการขาดการตอบสนอง เก่ียวกับกลยุทธของความเปนพี่เลี้ยงเปนสาเหตุสําคัญของความ ลม เหลวในระบบพเ่ี ล้ียง 6. การยอมรับในความหลากหลาย เปนลักษณะสําคัญของความสําเร็จ ของระบบพี่เลี้ยง พ่ีเล้ียงตองเขาใจในภูมิหลังของเกษตรกรที่ไดรับ การสอนงาน ตลอดจนตองทราบวาวิธีใด/เร่ืองใดทจ่ี ะสง ผลกระทบถึง ภูมิหลังของความสัมพันธระหวางพี่เล้ียงและเกษตรกรท่ีไดรับการ สอนงาน 7. การติดตามและการประเมินผล เชนเดียวกับโครงการอื่นๆที่ตองมี การติดตามและประเมนิ ผลเพอื่ ใหบรรลถุ งึ วตั ถปุ ระสงค

11 หลกั การเปนพีเ่ ล้ยี งใหก บั เกษตรกร การทาํ หนาท่ีพ่ีเล้ียงอาจเริ่มต้ังแตเกษตรกรไดรับการอนุมัติใหทุน ปลูกแทนจากการยางแหงประเทศไทยเพ่ือใหเกษตรกรมีความรูสึกไมโดด เด่ียวเนอื่ งจากมผี ูเ ชี่ยวชาญในการผลิตยางคอยอยูข า งๆและมีความรูสึกท่ีดี ตอหนวยงานท่ีทําหนาท่ีดูแลเกษตรกรเปนการปองกันไมใหเกษตรจัดการ สวนยางแบบไมมีประสิทธิภาพและนําไปสูการมีทัศนคติท่ีดีตอองคกรเพ่ือ เปน การสรางบรรยากาศของการทํางานแบบมีสวนรว มระหวางภาครัฐและ ภาคเกษตรกร ซ่ึงข้ึนอยูกับผลการปฏิบัติงานของเกษตรกร ถาการ ปฏิบัติงานของเกษตรที่สูงกวามาตรฐานพนักงานจะรับบทบาทการเปนพ่ี เล้ยี ง (Mentor) หากการปฏบิ ตั ิงานของเกษตรตรงตามมาตรฐานพนักงาน จะรับบทบาทเปนผูสอนงาน (Coach) แตถาการปฏิบัติงานของเกษตรกร ต่าํ กวามาตรฐานพนักงานกจ็ ะรับบทบาทเปน ผูใหค ําปรกึ ษา (Counselor) การเปน พ่เี ลีย้ ง (Mentoring) การเปนพ่ีเล้ียง คือ การทําหนาที่เปนผูดูแลบุคคล/กลุมบุคคลท่ี ไดรับมอบหมาย คอยสอนงานตลอดจนเปนที่ปรึกษาตามทักษะ ความ เชี่ยวชาญ หรือประสบการณท่ีตนถนดั และทาํ อยูกอนหนาแลว โดยมากมัก เปนผทู ่ีทํางานมากอ นหนา และมีความเขา ใจการทาํ งานเปนอยางดีผูรับการ ดูแล / นองเลี้ยง (Mentee) หมายถึง ผูที่ตองอยูในการดูแลของพี่เลี้ยง เรียนรูการทํางาน ฝกฝนทักษะ ตลอดจนส่ังสมประสบการณการทํางาน เพื่อใหเกิดความชํานาญย่ิงขึ้น หรือผูท่ีรูและเขาใจการทํางานมากกวาจะ เปนผูท่ีคอยดูแลนั่นเอง อาจไมไดข้ึนอยูกับอายุจริงแตข้ึนอยูกับอายุและ ประสบการณก ารทํางานเปน หลกั

12 คณุ สมบตั ขิ องพเ่ี ล้ยี ง ประกอบดว ย 3E 1. Experience คือ มีประสบการณ จะไปสอนเขาได ตัวเองตอ งมีประสบการณเคยทํามากอ น 2. Exchange คือ มีการแลกเปลี่ยนเรยี นรูไ ดส ามารถ แลกเปลี่ยนประสบการณกันไดเ พื่อเพ่ิมพูน ความรู 3. Explain คอื อธิบายได ตอ งอธิบายเปนเพอ่ื ใหคนเรียน เขา ใจ ขั้นตอนการเปน พี่เลย้ี ง 1. Explain คอื สามารถอธบิ ายไดว า จะทําอะไร เพอื่ อะไร และสําคัญอยางไร 2. I Do คอื ตองทาํ ใหดูเปนตัวอยา ง 3. We Do คือ ทาํ ไปพรอ มกนั ชวยเหลอื ใหท ําไดแ ละมีคาํ ชม 4. You Do คอื ใหเ กษตรกรทาํ เอง โดยเขาจะตองทําใหเรา เหน็ กอ น เราถงึ จะปลอยใหทาํ เอง และเราตอง ตดิ ตามผลดวย กุญแจสําคัญที่จะทําใหระบบการเปน พเี่ ลยี้ งสําเร็จ 1. Real Situation คือ ใหลองทาํ จริง พาไปเห็นของจริง 2. Understand คือ เราตองเขาใจ และอธบิ ายให เกษตรกรเขาใจ 3. Show คือ ทําใหเกษตรกรดู 4. Time คอื ใหเ วลาเกษตรกรในการเรยี นรู

13 การสอนงาน (Coaching) การสอนงาน หรือ การโคช เปนกระบวนการทํางานรวมกัน ระหวางโคชซ่ึงเปนผูที่คอยชวยเหลือ ชวนคิด หรือ ปลดลอคบางอยางใน ตัวผูรับการโคช (Coachee,โคชชี่) ใหมีศักยภาพสูงข้ึน หรือมีความสุข อยา งทีต่ องการผา นวธิ กี ารและเคร่ืองมือตางๆเพื่อใหผูรับการโคชไดเรียนรู ตระหนักในตวั เองเปลย่ี นแปลง และลงมือทําดวยความคิด ความถนัด และ ความสามารถของตัวเอง การโคชจึงเปนการทํางานรวมกันระหวางโคช และผรู บั การโคช ใหถึงจุดหมายท่ีตอ งการ ดังน้ันการโคชจะสามารถเกิดข้ึน ได เมือ่ ผรู บั การโคช พรอ มและตอ งการรับการโคชเทานั้นเรียกวา สภาวะที่ พรอมรับการโคช (Coachable) กลาวคือเม่ือคนเกิดรูสึกวา ตองการ พัฒนาตอ เติบโตข้ึน แตอาจจะยังติดประเด็นบางอยาง ทําใหไมสามารถ กาวตอไปได จึงตองการโคชเพื่อมาชวยเปนเพ่ือนชวนคิด หรือที่ปรึกษา ชวยพฒั นาศักยภาพ การโคชมีหลายประเภท ไดแกโคชผูบริหาร (Executive coach) สนับสนุน พัฒนาผูบริหาร ท้ังดานอาชีพและชีวิต เพื่อใหเติบโตในอาชีพ การงานและเพ่ิมประสิทธิภาพของผลงานโคชกีฬา (Sport Coach) โคชท่ี ทําหนาที่สอน พัฒนา ฝกอบรม และเพิ่มศักยภาพของนักกีฬาโคชชีวิต (Life Coach) ชวยสรางและพัฒนาบุคคลรายคน สรางแรงบันดาลใจให บรรลุเปาหมายชีวิตในดานตางๆโคชการเงิน (Money Coach) โคชท่ีชวย ใหโ คช ช่ีบรรลุเปาหมายทางดานการเงินตามท่ีตั้งใจไว และโคชเพื่อผลการ ปฏิบัติงาน (Performance coach) โคชท่ีดึงศักยภาพ ความสามารถของ บคุ คลากรเผอ่ื ปรับปรุง หรอื เพิม่ ผลการปฏบิ ัตงิ าน เปนตน

14 ทักษะการโคช 1. ทักษะการสรางความสัมพันธ (Rapport) เพ่ือสรางความ ไวว างใจและผูกพันธุก บั ผูท ี่รบั การโคช 2. คําถามทรงพลัง(Powerful question)เพ่ือดึงศักยภาพและ ความสามารถของผูรับการโคช คําถามสวนใหญจะเปน คําถามปลายเปดเพ่ือระดมสมองใหไดความคิดใหมๆ สราง การเติบโตทางความคิด 3. การฟงอยางลึกซึ้ง (Deep Listening) เพ่ือใหไดยินเสียงที่ ไมไ ดพ ดู 4. การสะทอน (Feedback) ที่มีคุณภาพใหเกิดการพัฒนา ตัวเอง และการสรางแรงบันดาลใจดวย การดึงเอา ประสบการณหรือความรูที่อยูภายในผูที่รับการโคชมาใช ประโยชน หนาทีข่ องโคช 1. คนหา ทําใหชัด เรียบเรียง ในส่ิงท่ีผูรับการโคชตองการจะ บรรลุ 2. กระตุน ผรู ับการโคช ใหเกิดกระบวนการคน หาภายในตัวเอง 3. ทบทวนวิธีการและกลยุทธท่ีผูรับการโคชเปนผูสรางขึ้นดวย ตัวเอง 4. ผลักดันใหผูรับการโคชรับผิดชอบและเดินตามวิธีการของ ตวั เองจนบรรลเุ ปา หมาย

15 การใหค ําปรึกษา (Counseling) การใหคําปรึกษาเปนการใหคําแนะนํา หรือกระบวนการ ชวยเหลือใหผูท่ีรับการปรึกษาไดสํารวจตนเองจนเกิดความเขาใจตนเอง และการลงมือปฏิบัติอยางเหมาะสมเพ่ือการแกปญหา การปรับตัว การ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่พึงปรารถนาและการบริหารจัดการชีวิตท่ี เหมาะสมจนนาํ ไปสกู ารพฒั นาตนเองใหเ ปน ผูท่ีมคี วามสามารถสูง เปนการ ชวยใหผูรับการปรึกษามีแนวทางแกไขปญหา สามารถพิจารณาทางเลือก ไดมากข้ึนและตัดสินใจงายข้ึนการใหคําปรึกษาถือวาเปนวิธีการหน่ึงท่ีจะ ชวยเหลือบุคคลใหชวยเหลือตัวเองไดอยางยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมาก ทีส่ ุด ประเภทของการใหค าํ ปรกึ ษา 1. การใหค าํ ปรกึ ษาเปน รายบุคคล (Individual Counseling) การใหคําปรึกษาประเภทน้ีเปนแบบที่ไดรับความนิยม และถูก นํามาใชในหนวยงานตาง ๆ การใหคําปรึกษาจะเปนการพบกันระหวาง ผูใหคําปรึกษา 1 คน กับผูขอคําปรึกษา 1 คน โดยรวมมือกัน การให คําปรึกษาแบบนี้มีจุดมุงหมายที่จะชวยใหผูขอรับคําปรึกษาใหสามารถ เขาใจตนเอง เขาใจปญหาและสามารถแกไขปญหาตาง ๆ ไดดวยตนเอง หรอื เพือ่ ใหสมาชกิ เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบตั ิงานใหสงู ขน้ึ 2. การใหคําปรึกษาแบบกลุม (Group Counseling) ก า ร ใ ห คํ า ป รึ ก ษ า ป ร ะ เ ภ ท น้ี เ รี ย ก ว า ก า ร ใ ห คํ า ป รึ ก ษ า เ ชิ ง กระบวนการ เปนกระบวนการที่บุคคลท่ีมีความตองการหรือปญหาท่ี คลายกันหรือตรงกัน ตองการปรับปรุงตนเองในเร่ืองใดเรื่องหน่ึง หรือ ตองการจะแกไขปญหาใดปญหาหน่ึงรวมกันมารวมกันเปนกลุมเพ่ือ ปรึกษาหารือซ่ึงกันและกันโดยมีผูใหคําปรึกษาเปนผูชวยเหลือกลุม สมาชิกในกลุมประมาณ 7 ถึง 9 คน ตอผูใหคําปรึกษา 1 คนวิธีการให

16 คําปรึกษาแบบนี้สมาชิกของกลุมจะรวมกันคิด แลกเปล่ียนขอมูลเพ่ือให เกิดความคิดเห็นตางกันและการกระทําตางกัน ทําใหการปฏิบัติงานโดย รวมมอื กันการทํางานก็มีประสิทธิภาพ และอีกประการหน่ึงการใชวิธีน้ีจะ เปนการเปดโอกาสใหสมาชิกในกลุมแตละคนเปดโอกาสใหสมาชิกในกลุม แตละคนไดเสนอแนะความคิดเห็นตาง ๆ ซ่ึงทําใหเขาเกิดความภาคภูมิใจ วา ตนเองสามารถใหข อ คิดเหน็ อนั จะเปน ประโยชนแ กกลมุ ได หลักการใหคําปรึกษา 1. ผใู หความชวยเหลือที่เรียกวาผูใหญคําปรึกษา (Counselor) ซึ่งเปน ผูที่ไดรับการฝกอบรมเกี่ยวกับทักษะทางวิชาชีพในดานการชวยเหลือมา เปนอยางดีเปนผูท่ีไดรับการฝกฝนตนเอง เพ่ือใหมีการพัฒนาตนเองอยู เ ส ม อ เ พ่ื อ ที่ จ ะ ไ ด เ ป น ผู ท่ี มี คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ ที่ เ ห ม า ะ ส ม ใ น ก า ร ใ ห ค ว า ม ชวยเหลอื นอกจากน้ี ผูใหความชวยเหลือจะตองมีศรัทธาและความเชื่อวา ปญ หาตางๆ ที่เกิดข้ึน เกิดจากสาเหตุและมีแนวทางแกไขเสมอ 2. ผู ม า ข อ รั บ บ ริ ก า ร ห รื อ ข อ ค ว า ม ช ว ย เ ห ลื อ (Client) ซึ่งเปนผูท่ีมีปญหา มีความคับของใจและความไมสบายใจตางๆ ท่ียังไม สามารถจัดการกับความรูสึกดังกลาวได จึงมีความตองการที่จะแสวงหา ความชวยเหลือเพ่อื แกไ ขปญ หาเหลา นั้น 3. หลกั การท่ีสาํ คญั ของการชวยเหลอื คือผูใหความชวยเหลือจะตอง สรางสัมพันธภาพท่ีดีใหเกิดข้ึน ซึ่งถือวาเปนเคร่ืองมือพื้นฐานและเปน หัวใจสําคัญในการใหค วามชวยเหลือ 4. มีจรรยาบร รณเชิ งวิ ช าชี พในกา รใหคว าม ช ว ยเหลื อ ซึ่งเปนสิ่งจะสรางความมั่นใจวาการชวยเหลือน้ัน ๆ จะมีประสิทธิภาพ สูงสดุ แกผ ูขอรับคาํ ปรึกษา

17 กระบวนการใหค าํ ปรึกษา 1. การกําหนดวตั ถปุ ระสงคและเปา หมาย (Objective) การใหคําปรึกษาจําเปนตองกําหนดวัตถุประสงคของการให คําปรึกษา เพื่อใหทราบวาเราใหคําปรึกษาเพ่ืออะไร ตองการใหผูขอ คําปรึกษาบรรลุวัตถุประสงคหรือเปาหมายอะไร เชน เพื่อใหเกิดการ เปล่ยี นแปลงความรสู กึ ท่ไี มดีใหดีข้ึน เพื่อใหเกิดความเขาใจในตนเอง ผูอ่ืน และสิ่งแวดลอม หรือชวยใหผูขอคําปรึกษาสามารถตัดสินใจไดอยางมี ประสทิ ธภิ าพ และนาํ แนวทางของการตัดสินใจไปปฏิบัติไดอยางเหมาะสม อาทิ การพัฒนาตนเองอยางเต็มท่ี การปรับปรุงงานการเขาใจตนเองและ ผอู ่ืน ๆ เปน ตน 2. การรวบรวมขอมูล (Data Collecting) ในข้ันตอนท่ีสองหลังจากกําหนดวัตถุประสงคในการใหคําปรึกษา แลว ผูใหคําปรึกษาจะตองรวบรวมขอมูลเกี่ยวกับผูขอคําปรึกษาเพ่ือให ทราบขอมูลเบื้องตน ทราบพื้นฐานของครอบครัว ความรูความสามารถ ประวัติการทํางาน ประสบการณตาง ๆ โดยใชวิธีการทางจิตวิทยา เชน การสงั เกตการศึกษา ประวัติ การทดสอบ หรือไมทดสอบ การสัมภาษณ เปนตน 3. การวเิ คราะหปญ หา/สาเหตุ (Cause Analysis) ภายหลังจากรวบรวมขอมูลแลว ผูใหคําปรึกษาจะนําขอมูล เบ้ืองตนมาวิเคราะหเพ่ือวินิจฉัยปญหาการคนหาสาเหตุของปญหา การ คาดคะเนพฤติกรรมเพ่ือใหทราบท่ีมาของปญหาของผูขอคําปรึกษา เชน ผูขอคําปรึกษามีความกังวลใจ ความขัดแยงในใจ ไมทราบวาจะ ปฏิบัติงานใดกอนหลัง ทําใหไมสามารถทํางานสําเร็จตามที่ไดรับ มอบหมาย จากการวิเคราะหปญหาโดยขอมูลของผูขอคําปรึกษาทําให ทราบวา ผูขอคําปรึกษาขาดขอมูลท่ีเก่ียวของกับงานท่ีปฏิบัติ ทําใหเกิด ความลงั เลใจ ตดั สินใจไมถ ูก เปน ตน

18 4. การใหค ําปรึกษา (Counseling) เปนข้ันตอนการพบกันระหวางผูใหคําปรึกษาและผูขอคําปรึกษา เพ่ือรวมมือกันคนหาวิธีแกปญหาหรือเลือกตัดสินใจไดอยางเหมาะสมโดย ผูใหคําปรึกษาจะตองสรางสัมพันธภาพที่ดีกับผูขอคําปรึกษาทั้งน้ีเพ่ือให เกิดความรวมมือ ผูใหคําปรึกษาตองใหเกียรติผูขอคําปรึกษาแสดงความ เปนมิตรเพ่ือใหผูขอคําปรึกษามีความรูสึกอบอุนใจขณะเดียวกันก็ตอง รักษาความลับได เม่ือเกิดความคุนเคยและไววางใจกันแลวการให คําปรึกษาก็จะเกิดข้ึน ท้ังนี้ข้ึนอยูกับสภาพปญหาของผูขอคําปรึกษา ซ่ึง ผูใหคําปรึกษาจะเลือกใชวิธีการใหคําปรึกษาแบบใดมาใช เชน การให คําปรึกษาแบบนําทาง ซึ่งเหมาะกับผูท่ีมีปญหาเก่ียวกับการตัดสินใจ ไม เขาใจตนเอง สําหรับการใหคําปรึกษาแบบไมนําทาง เหมาะกับผูขอ คําปรึกษาท่ีมีปญหาทางอารมณ หรอื ใชท ง้ั สองวธิ รี วมกนั ซึ่งเรียกวาการให คําปรึกษาแบบมีสวนรวม เปนตน แตถากรณีของปญหาหรือส่ิงท่ีผูขอ คําปรึกษาตองการใหชวยเหลือเกินขอบขายความสามารถของผูให คําปรึกษา ก็อธิบายใหผูขอคําปรึกษาทราบและสงตอไปยังผูเชี่ยวชาญ เฉพาะดานตอไป ดังนั้นการใหคําปรึกษาจึงเปนการรับฟงอยางเห็นใจ เขาใจ วินิจฉัยปญหาใหฟง เสนอแนะพรอมชี้แจงเหตุผล ตัดสินใจเชนน้ัน เกดิ ผลอยา งไร สวนการตัดสนิ ใจเปนของผขู อคาํ ปรึกษาทต่ี องตัดสินใจเอง 5. การประเมินผล (Evaluation) เมื่อการใหคําปรึกษาสิ้นสุดลง ผูใหคําปรึกษาจําเปนตอง ตรวจสอบผลของการใหคําปรึกษารวมท้ังการใหความชวยเหลือวาบรรลุ วัตถุประสงคหรือเปาหมายที่ต้ังไวเพียงใด ถาหากมีขอบกพรองนี้จะนําไป ปรับปรุงแกไขวิธีการใหคําปรึกษาใหดีข้ึนไปอีก แตถาการใหคําปรึกษา บรรลุผลตามเปา หมายทก่ี ําหนดไวก ็สามารถนําเปนแบบอยางไปใชกับผูขอ คําปรึกษาท่ีมีปญหาหรือกรณีใกลเคียงกันได การประเมินผลอาจ

19 ประเมนิ ผลการใหค าํ ปรกึ ษาหรอื ผูใหคําปรึกษาก็ไดหรืออาจจะประเมินผล ทัง้ สองกรณที ง้ั นี้ข้นึ อยกู ับวัตถปุ ระสงคของการประเมินผล รปู แบบการใหคาํ ปรึกษา 1. การใหคําปรึกษาแบบนําทาง การใหคําปรึกษารูปแบบนี้จะยึด ผูใหคาํ ปรึกศึกษาเปน ศูนยก ลาง 2. การใหคําปรึกษาไมนําทาง การใหคําปรึกษาแบบนี้ยึดผูมา ขอรบั การปรกึ ษาเปน ศูนยก ลาง บุคคลมีความสามารถในการแกไขปญหา ดวยตนเอง 3. การใหค ําปรกึ ษาแบบผสม ผใู หคาํ ปรึกษามีอิสระท่ีจะใชวิธีการ หรอื หลักการอะไรก็ไดที่เห็นวามีความเหมาะสมกับลักษณะของผูมาขอรับ การปรกึ ษา

20 บรรณานุกรม สํานกั งานพฒั นาวิทยาศาสตรและเทคโนโลยแี หง ชาติ (สวทช.). 2563. ระบบพ่ีเลี้ยงในการจัดการความร.ู สบื คน เมอี่ วันท่ี 10 มกราคม 2563 จาก https://www.nstda.or.th/th/nstda- knowledge/144-km-knowledge/3266-km-mentoring. Tada Ratchagit. 2562. 10 คณุ สมบตั ิการเปนพ่ีเลยี้ งที่ดี. สบื คน เม่อื วนั ท่ี 3 กุมภาพนั ธ 2563 จาก http://th.hrnote.asia/orgdrvelopment/190628-good- mentor/ ศศมิ า สุขสวาง. 2563. ทักษะการโคชสาํ หรับผูน ํา. สบื คน เมอื่ วนั ที่ 3 กมุ ภาพนั ธ 2563 https://www.hcdcoaching.com/17020327/%E0%B8%97% E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B0%E0% B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8% 84%E0%B9%89%E0%B8%8A-coaching-skill %E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E 0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B 9%89%E0%B8%99%E0%B8%B3 เปล มทิ เชล. 2563. โคชช่ิงคอื อะไรเขาใจใน 3 นาท.ี สืบคนเมอื่ วันท่ี 3 กุมภาพันธ 2563 จาก https://coachnapoleonhill.com/blog/coaching/coaching/. อรนรนิ ทร ขจรวงศวัฒนา. 2552. การใหค าํ ปรึกษาคืออะไร. สบื คนเม่ือ วนั ท่ี 3 กมุ ภาพันธ 2563 จาก https://www.gotoknow.org/posts/277203.

21 Unknown. 2563. ทฤษฏกี ารใหคาํ ปรกึ ษา. สบื คนเม่อื วนั ที่ 3 กุมภาพันธ 2563 จาก http://kingroongthicha.blogspot.com/2013/01/1_30.html.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook