Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนหน่อยหัวข้อ 105

แผนหน่อยหัวข้อ 105

Published by มณีวัลย์ แซ่เฮ้อ, 2020-08-20 07:23:47

Description: แผนหน่อยหัวข้อ 105

Keywords: แผน

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่ือง เทคโนโลยีสารสนเทศและพลเมืองดิจิทัล กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2563 ชว่ั โมง/คาบ หนว่ ย/บทที่ 5 การใช้เทคโนโลยอี ยา่ งปลอดภัย วันที่ 29 เดอื น กรกฎาคม พ.ศ. 2563 ใช้เวลา 2 1.มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ ว4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชิงคาํ นวณในการแกป้ ัญหาทพี่ บในชีวิตจริงอย่างเป็นข้นั ตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร้เู ท่าทนั และมีจริยธรรม ป.4/5 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตนเคารพในสิทธิของผู้อื่น แจ้งผเู้ ก่ียวขอ้ งเมื่อพบขอ้ มลู หรือบุคคลที่ไม่เหมาะสม 2. สาระสำคญั เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) คือ การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ โทรคมนาคม (เทคโนโลยี) เพื่อจัดเก็บ ค้นหา ส่งผ่าน และประมวลผลข้อมูล ซึ่งข้อมูลที่ถูกประมวลผล เรยี บร้อยแล้วจะเรยี กว่า สารสนเทศ พลเมืองดิจิทัล (Digital Citizen) คือ บุคคลที่มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และสื่อดิจิทัลเป็น ประจำได้อย่างปลอดภัย มีความรับผิดชอบ และมีประสิทธิภาพ พลเมืองดิจิทัลจะต้องมีความรับผิดชอบต่อ ตนเอง ความรับผิดชอบต่อครอบครัวและเพื่อน และความรับผิดชอบต่อชุมชน เพื่อให้สังคมมีความสงบ เรยี บรอ้ ย 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ 1.สามารถอธิบายความหมายเกยี่ วกับเทคโนโลยีสารสนเทศได้ 2.สามารถอธิบายความหมายพลเมืองดิจิทลั ได้

ดา้ นทักษะกระบวนการ -ใช้เทคโนโลยีสารสนเทคไดอ้ ย่างถูกวิธี -ปฏบิ ตั ิตนตามพลเมืองดิจิทลั ได้อยา่ งเหมาะสม ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มุ่งม่นั ในการทำงาน สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 4. สาระการเรียนรู้ - เทคโนโลยีสารสนเทศและพลเมืองดิจทิ ัล 5. กิจกรรมการเรียนรู้ คร้ังท่ี 1 (1 ชม.) ข้ันนำเข้าสบู่ ทเรยี น ครูถามคาํ ถามประจำหนว่ ยการเรียนรูกับนักเรียนวา การใชเทคโนโลยีสารสนเทศใหปลอดภยั ควร ปฏิบตั อิ ยา่ งไร จากนัน้ ใหนักเรยี นภายในหองช่วยกนั หาคําตอบ และทำแบบทดสอบก่อนเรียน 10 ข้อ (แนวคำตอบ การใชงานเทคโนโลยใี หปลอดภยั มีขอควรปฏบิ ัติ ดงั นี้ ต้งั รหสั ผา่ นหรืออเี มลทง้ั ตัวเลข ตัวอักษรภาษาอังกฤษใหคาดเดาได้ยากเพื่อปองกนั การถูกโจรกรรม ไม่พบปะกับคนแปลกหนาที่รจู ักกันทางอนิ เทอรเน็ตตามลำพัง และไมใ่ ชคําหยาบคายในการสนทนาผานทางอนิ เทอรเน็ต)

ข้ันสอน (วธิ สี อน/นวัตกรรม) 1. ครูอธบิ าย เรอื่ ง การใชเทคโนโลยสี ารสนเทศในยุคดิจิทลั อย่างปลอดภัย โดยพดู ถงึ คําวาเทคโนโลยี สารสนเทศวา เป็นการประยุกตใช้คอมพิวเตอร์และปุกรณโทรคมนาคมเพื่อจัดเก็บ คนหา และประมวลผล ข้อมลู ซงึ่ ขอ้ มลู ทถ่ี กู ประมวลผลเรยี บรอ้ ยแลวจะเรยี กวา สารสนเทศ 2. ครูถามคําถามกับนักเรียนว่าเราจะใชเทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั และเคารพสิทธิของผู้อืน่ ไดอ้ ยา่ งไร จากนัน้ ใหนักเรยี นภายในหองช่วยกันตอบคาํ ถามนี้ (แนวตอบ ใชงานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยและเคารพสทิ ธิของผู้อื่นน้ันจะตองปฏิบัติ ดังนี้ ไม่ควรเปิดเผยขอมูลสวนตัว เชน ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพทใหกับบุคคลอื่น ไม่ควรใชคําไม่สุภาพหยาบคาย ในการสนทนาทางชองทางออนไลน์กบั ผู้อ่ืน) 3. ครเู ปิดวีดีโอ เร่ืองการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างถูกต้อง ใหน้ กั เรียนดูและถามนักเรียนว่าจะใช เทคโนโลยีสารสนเทศในชีวิตประจำวันอย่างไรใหปลอดภัยและไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น หลังจากนั้นครูจะสุ่ม นักเรยี นออกมาตอบหนา้ ช้นั ให้เพอื่ นๆฟัง (แนวคำตอบ •ไมเ่ ปิดดเผยขอมลู สวนตัว เชน ทอ่ี ยู่ เบอรโ์ ทรศพั ท ชือ่ โรงเรยี น ช่อื ผู้ปกครอง ผานส่อื สงั คมออนไลน์ • ไมส่ งรูป หรอื ขอมูลสวนตัวใหกับคนที่ไมร่ จู กั ทางอนิ เทอรเน็ต • ไมอ่ อกไปพบบุคคลท่ีไม่รจู ักผานสอื่ สังคมออนไลน์ หากรูสกึ กดดันใหรีบ ปรึกษาผใู้ หญ่ทนั ที • ใชคาํ ที่สภุ าพในการสนทนาผ่านเครือขา่ ย และไมล่ ะเมิดเรื่องสวนตวั • ไมส่ งจดหมายลูกโซไปสร้างความราํ คาญใจใหแกผู้อืน่ • ไม่คัดลอกขอมูลทางอินเทอรเนต็ ไปใช เพื่อผลประโยชนทางธุรกจิ และไม่แอบอา้ งข้อมลู ของผู้อื่นมาเป็นขอมูลของตนเอง

• ไมค่ วรสงไฟลข้อมูลทีม่ ีกลุมซอฟต์แวร์ประสงครา้ ย เชน ไวรสั ไปใหผู้อนื่ ) ขั้นสรุป ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ความร้ทู เี่ รียนมาเรอื่ ง การใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัย ครัง้ ที่ 2 (1 ชม.) ขัน้ นำ ครูถามคําถามเพื่อเป็นการกระตุนการเรียนรูกับนักเรียนวา พลเมืองดิจิทัลคืออะไร หลังจากนั้นครสู ุม่ นักเรยี นใหตอบคาํ ถามนี้ (แนวคำตอบ บุคคลท่ีมคี วามสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี และส่ือดจิ ทิ ัลเปน็ ประจำไดอ้ ย่างปลอดภัย มี ความรับผิดชอบ และมีประสิทธิภาพ) ขัน้ สอน 1. ครูอธิบาย เรื่อง พลเมืองดิจิทัล ใหนักเรียนฟงว่าเป็นบุคคลที่มีความสามารถในการใชเทคโนโลยี และสื่อดิจิทัลเป็นประจำอย่างปลอดภัย จากนั้นครูใหนักเรียนยกตัวอย่างลักษณะของพลเมืองดิจิทัลวามี อะไรบา้ ง (แนวคำตอบ1. ใชเทคโนโลยีสารสนเทศใหเกิดประโยชนตอตนเองและผู้อื่น 2. ปองกันคอมพิวเตอร์จากภัย คุกคามต่าง ๆ 3. ปองกันขอมูลสวนตัว ไม่เผยแพรลงสื่อสังคมออนไลน์4. ไม่ใชเทคโนโลยีสารสนเทศสร้าง ความเดอื ดร้อนแกผู้อน่ื 5. เคารพสทิ ธิสวนบุคคล ปฏิบัตติ ามกฎ กติกา 6. ใชอุปกร์คอมพิวเตอร์และสมารตโฟ นอย่างเหมาะสม 7. มีความรูเทาทนั สือ่ ดจิ ิทัล 8. ลดปริมาณการสื่อสารแบบออนไลน์ ใชเทาทจี่ ำเป็น 2. ครูใหนักเรียนยกตัวอย่างขอมูลสวนตัวที่นักเรียนพบเห็นในชีวิตประจำวันวามีอะไรบ้างและสุ่ม นักเรียนออกมาตอบคาํ ถามน้ี (แนวคำตอบ -ชื่อและนามสกุลจริง ที่อยู่ โรงเรียน ที่อยู่อีเมลวันเดือนปเกิด หมายเลขโทรศัพท์ ชื่อและ นามสกุลผู้ปกครอง และภาพถา่ ยทม่ี รี ายละเอียดข้อมูลสว่ นตวั เชน่ บตั รประชาชนหนงั สอื เดนิ ทาง) 3. ครูใหนักเรียนศึกษาเกี่ยวกับ เรื่อง ลักษณะของพลเมืองดิจิทัล และอธิบายเกี่ยวกับมุมCom Sci เรือ่ ง ขอมลู สวนตวั ใหนกั เรยี นฟงว่าคอื ขอ้ มูลท่ีเปน็ ความลบั ไมค่ วรเปดิ เผยตอบคุ คลอื่น 4. ครูอธิบายตัวอย่างสถานการณ เรื่อง พลเมืองดิจิทัลที่ดี โดยมีสถานการณ 4 สถานการณ ให นักเรียนแบงกลุมออกเป็น 4 กลุมใหญ่และช่วยกันระดมความคิดเห็นภายในกลุมวา ทั้ง 4 สถานการณ มี

ความนาเชอ่ื ถอื หรือไม่ และหากนกั เรียนไดร้ บั ขอ้ ความเหลานี้ นักเรยี นจะมวี ิธีในการปฏิบตั ติ นอย่างไร กับทง้ั 4 สถานการณนี้ ทำในรูปแบบแผงผงั ความคดิ ระบายสตี กแตง่ ให้สวยงาม หลังจากนั้นครใู หนักเรยี นแตล่ ะกลุมส่ง ตัวแทนออกมานาํ เสนอวธิ ีการปฏิบตั ติ นจากสถานการณดงั กล่าวหนาช้นั เรยี น กรณีท่1ี ครีมทาผวิ ขาวภายใน 1 วัน ซง่ึ มีสวนผสมของ ทองคำทาแลรบั ประกนั ความขาวใส ซื้อตอนนแ้ี ถมฟรที ันที 2 กระปุก หากสนใจสามารถติดตอไดท้ ีเ่ บอร์โทรศพั ท 02-222- 2222 นักเรยี นจะแก้ไขปญั หาในสถานการณ์นี้ อยา่ งไรจากนั้นให้นกั เรยี นชว่ ยกันหาคําตอบ (วิเคราะห์คําตอบ จากสถานการณที่กำหนดใหเป็นการโฆษณาที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ เพราะครีมทาผิวไม่ สามารถทำใหผิวขาวใสเห็นผลภายใน 1 วัน ซึ่งการเห็นผลภายใน 1 วันของครีม อาจจะมีสวนผสมท่ีเป็น อันตรายต่อผิวซึ่งอาจ สงผลทำให้เกิดอาการแพหรืออันตรายถึงชีวิตได้ดังนั้น ควรใช่วิจารณญาณในการซ้ือ สินค้า) (แนวคำตอบ ปรึกษาผู้ปกครองกอ่ นเพราะเปน็ เรื่องใหญ่ แลว้ คอ่ ยทำการไปแจง้ ความ)

กรณที 3ี วนั เกดิ หลวงปแู่ ม่นสง่ ตอ่ ให้ ครบ 9 คน ภายในเวลา 1 ช่วั โมง หา้ มเก็บ ไว้คนเดยี วชีวิตจะเจอแตส่ ่ิงดี ๆ เข้ามาหากส่งต่อไม่ครบ 9 คน ชีวติ จะมแี ต่เรื่อง ร้าย (ไม่เช่ืออยา่ ลบหลู่) นักเรยี นจะแก้ไขปัญหาในสถานการณ์นี้อยา่ งไรจากนน้ั ให้นกั เรียนชว่ ยกันหา คาํ ตอบ (แนวคำตอบหากนักเรยี นได้รับข้อความดงั กล่าว ยงั ไม่ควรปฏิบตั ิตามข้อความท่ีไดร้ ับ นักเรียนควร พจิ ารณาขอ้ มลู วา่ มีความนา่ เชื่อถือหรอื ไม่ โดยปรกึ ษาครูหรือผู้ปกครองเมื่อรบั ขอ้ ความจากบุคคลท่ีไมร่ ู้จัก) กรณที 4่ี ยนิ ดีด้วย !!! คุณคือผโู้ ชคดรี ับรางวลั เงินสด 10,000 บาท หากต้องการรบั สทิ ธ์ใิ หก้ ลับข้อมูลมาหาเรา ดังต่อไปน้ี ช่ือนามสกุล วนั เดอื นปเกิด เลขบัตรประชาชน ทอี่ ยู่ นกั เรียนจะแก้ไขปัญหาในสถานการณ์น้ีอย่างไร จากนั้นให้นกั เรยี นชว่ ยกนั หาคําตอบ (แนวคำตอบหากนักเรยี นได้รับข้อความดงั กลา่ ว ยงั ไม่ควรปฏิบตั ติ ามข้อความที่ไดร้ ับ นักเรียนควร พจิ ารณาข้อมลู วา่ มีความน่าเช่ือถือหรือไม่ โดยปรึกษาครหู รือผูป้ กครองเมื่อรบั ขอ้ ความจากบุคคลที่ไม่รจู้ ัก)

ข้ันสรุป 1.ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปความรู้ท่ีเรียนมาเรือ่ ง พลเมืองดิจิทัล โดยครูจะถามคําถามนกั เรียนเพื่อ ทบทวนความรู้กับนักเรียนว่า คุณลักษณะของพลเมืองดิจิทัลมีอะไรบ้างให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์เพื่อหา คาํ ตอบน้ี 6.สอื่ /แหล่งการเรียนรู้ -หนังสอื เรยี น รายวชิ าวิทยาการคำนวณ ป.4 -เพาเวอร์พอย -วีดีโอ เรือ่ งการใช้เทคโนโลยอี ย่างปลอดภัย -แบบทดสอบหลงั เรยี น -แบบทดสอบหลังเรียน -ใบกจิ กรรมสถานการณ์ -อินเทอร์เน็ต 7. การวัดและประเมนิ ผล 7.1 การวัดผล จุดประสงค์การเรยี นรู้ วธิ ีการวัด เครอื่ งมือ 1.แบบทดสอบ ด้านความรู้ นักเรียน ตรวจแบบทดสอบ ใบกิจกรรม สามารถอธบิ ายความหมาย เก่ยี วกบั เทคโนโลยี สารสนเทศและพลเมือง ดจิ ิทัล ดา้ นทกั ษะกระบวนการ 1.ใชเ้ ทคโนโลยไี ด้อย่างถกู วิธี ตรวจใบกิจกรรม

2. ปฏิบัตติ นตามพลเมือง ดจิ ทิ ลั ได้อย่างเหมาะสม ดา้ นคุณลักษณะอันพึง สงั เกตจากแบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั ประสงค์ สังเกตการปฏบิ ตั ิงาน การตอบคำถาม พงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน แบบสังเกตการปฏบิ ัตงิ าน สมรรถนะสำคัญผเู้ รียน 1. ความสามารถในการ ส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการ แกป้ ญั หา 7.2 เกณฑ์การประเมนิ ผล 1) ด้านความรู้ แบบทดสอบ ( 10 คะแนน ) 9-10 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 7-8 คะแนน หมายถงึ ดี 5-6 คะแนน หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า5 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง หมายเหตุ: ด้านความรู้เกณฑผ์ า่ น ร้อยละ 70 ทุกประเดน็ การประเมิน

2.) ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ และดา้ นสมรรถนะผ้เู รียน ประเดน็ การะประเมิน (4) ระดบั คุณภาพ (1) ดมี าก ปรับปรงุ (3) (2) ดี พอใช้ ใช้เทคโนโลยีได้ อยา่ งถูกวิธีและไม่ ด้านทักษะกระบวนการ ใชเ้ ทคโนโลยไี ด้ ใชเ้ ทคโนโลยีได้ ใชเ้ ทคโนโลยีได้ ปฏบิ ัตติ นตาม อยา่ งถูกวธิ ีและ อย่างถูกวิธีและ อย่างถูกวธิ ีและ พลเมอื งดจิ ิทลั 1.ใช้เทคโนโลยีสารสนเท ปฏบิ ัติตนตาม ปฏบิ ตั ติ นตาม ปฏิบัตติ นตาม โดยต้องมีผู้ คได้อย่างถูกวธิ ี พลเมืองดิจทิ ัลได้ พลเมอื งดิจิทัลได้ พลเมืองดิจทิ ัลได้ แนะนำ 2.ปฏิบัติตนตามพลเมือง อย่างเหมาะสมทุก บ่อยครั้ง บางคร้ัง ดจิ ิทลั ได้อย่างเหมาะสม ครง้ั ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ตัง้ ใจเรยี น เอาใจใส่ ต้ังใจเรยี น เอาใจ ไม่ค่อยตั้งใจเรียน ไมต่ งั้ ใจเรียน ไม่ ประสงค์ มีความเพียร ใสม่ คี วามเพยี ร ไม่เอาใจใส่ ไมค่ ่อย เอาใจใส่ ไมค่ ่อย 1. ใฝ่รู้ใฝ่เรียน พยายามในการ พยายามในการ สนใจเขา้ ร่วม สนใจเขา้ รว่ ม เรียนรู้ สนใจเขา้ เรียนรู้ สนใจเขา้ กิจกรรมการเรยี นรู้ กิจกรรมการ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ร่วมกจิ กรรมการ รว่ มกจิ กรรมการ ตา่ ง ๆ ไม่ศึกษา เรียนรตู้ ่าง ๆ ไม่ ประสงค์ 2. มุง่ ม่ันในการ เรียนรู้ต่าง ๆ เรียนร้ตู ่าง ๆ ศึกษา คน้ ควา้ หาความรู้ ศกึ ษาคน้ ควา้ หา ทำงาน ศึกษาค้นควา้ หา ค้นควา้ หาความรู้ จากแหลง่ เรยี นรู้ ความรูจ้ ากแหล่ง ความรูจ้ ากแหล่ง จากแหลง่ เรยี นรู้ ต่าง เลือกใช้ส่ือได้ เรียนรู้ต่าง เรยี นร้ตู า่ ง เลอื กใช้ ต่าง เลอื กใชส้ ื่อได้ อย่างเหมาะสม เลือกใชส้ ่ือได้ สอ่ื ได้อย่าง อย่างเหมาะสม อย่างเหมาะสม เหมาะสมบนั ทึก บันทกึ ความรู้ ความรู้ และ สรุป เป็นองค์ความรู้ และนำไปใช้ใน ชีวิตประจำวัน ตั้งใจและ ตงั้ ใจและ ไมค่ ่อยตง้ั ใจและ ไมต่ งั้ ใจและไม่ รับผดิ ชอบในการ รับผิดชอบในการ รบั ผดิ ชอบในการ รบั ผดิ ชอบในการ ปฏิบัติหนาทีก่ าร ปฏิบตั ิหนาท่ีการ ปฏบิ ตั หิ นาทีก่ าร ปฏิบัตหิ นาทก่ี าร

งานทำงานด้วย งานทำงานด้วย งานทำงานด้วย งานทำงานด้วย ความเพยี รพยายาม ความเพียรพยายาม ความเพียรพยายาม ความเพียร และอดทนเพื่อให พยายาม งานสำเรจ็ ตาม เป้าหมาย ด้านสมรรถนะผู้เรียน ใชภ้ าษาถา่ ยทอด ใชภ้ าษาถา่ ยทอด ใช้ภาษาถ่ายทอด ไม่สามารถใช้ 1. ความสามารถในการ ความคดิ ความรู้ ความคดิ ความรู้ ความคดิ ความรู้ ภาษาถา่ ยทอด สือ่ สาร ความเข้าใจ ความเข้าใจ ความเขา้ ใจ ความคิด ความรู้ ความรู้สกึ และ ความรสู้ ึก และ ความรู้สกึ และ ความเขา้ ใจ ทศั นะของตนเอง ทัศนะของตนเอง ทัศนะของตนเอง ความร้สู ึก และ เพ่ือเปล่ยี นขอ้ มูล เพื่อเปลยี่ นข้อมลู เพอ่ื เปล่ยี นข้อมูล ทศั นะของตนเอง ขา่ วสารและ ขา่ วสารและ ข่าวสาร เพ่อื เปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์อนั จะ ประสบการณ์อันจะ ข่าวสารและ เปน็ ประโยชน์ต่อ เป็นประโยชนต์ อ่ ประสบการณ์อัน การพัฒนาตนเอง การพัฒนาตนเอง จะเปน็ ประโยชน์ และสงั คม ตอ่ การพัฒนา ตนเองและสังคม ด้านสมรรถนะผเู้ รยี น คิดวิเคราะห์ คิด คดิ วิเคราะห์ คิด คิดวิเคราะห์ คิด ไมส่ ามารถคดิ 2. ความสามารถในการคดิ อยา่ งสรา้ งสรรค์ อย่างสรา้ งสรรค์ อยา่ งสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ คิด คิดอย่างมี คดิ อยา่ งมี คดิ อย่างมี อย่างสร้างสรรค์ วิจารณญาณ และ วิจารณญาณ และ วิจารณญาณ และ คดิ อยา่ งมี คดิ เปน็ ระบบ เพอื่ คดิ เป็นระบบ เพื่อ คดิ เป็นระบบ เพื่อ วิจารณญาณ และ นำไปสูก่ ารสร้าง นำไปสกู่ ารสร้าง นำไปส่กู ารสร้าง คดิ เป็นระบบ เพ่ือ องค์ความรหู้ รือ องค์ความรูห้ รือ องค์ความรหู้ รอื นำไปสูก่ ารสรา้ ง สารสนเทศ เพ่ือ สารสนเทศ เพ่ือ สารสนเทศ เพ่ือ องค์ความรู้ การตดั สินใจ การตัดสินใจ การตดั สินใจ เกี่ยวกับตนเองและ เกี่ยวกบั ตนเองและ เกี่ยวกบั ตนเอง สังคมได้อยา่ ง สงั คมได้อยา่ ง บางครั้ง เหมาะสม เหมาะสมบ่อยคร้งั

ด้านสมรรถนะผ้เู รียน ใชก้ ระบวนการต่าง ใช้กระบวนการต่าง ใช้กระบวนการต่าง ไมส่ ามารถใช้ 3.ความสามารถในการใช้ ๆ ในการดำเนนิ ๆ ในการดำเนนิ ๆ ในการดำเนิน กระบวนการต่าง ทักษะชีวิต ชีวติ ประจำวัน ชีวติ ประจำวัน ชวี ิตประจำวัน ๆ ในการดำเนนิ เรียนรู้ด้วยตนเอง เรียนรดู้ ้วยตนเอง เรียนรูด้ ว้ ยตนเอง ชวี ติ ประจำวัน อย่างต่อเนอ่ื ง อย่างต่อเนือ่ ง อย่างต่อเนือ่ ง เรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง ทำงานและอยู่ บางคร้งั อยา่ งต่อเน่ือง รว่ มกันในสงั คม ดว้ ยการสรา้ งเสริม ความสมั พนั ธ์อนั ดี ระหว่างบคุ คล หมายเหตุ: ระดับคุณภาพทักษะกระบวนการ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ และด้านสมรรถนะสำคัญของ ผูเ้ รียน ระดับ 2 ข้ึนไปทุกตวั ชี้วดั ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน 8. กจิ กรรมเสนอแนะ ( บอกรายละเอียดหรอื ขอ้ เสนอแนะอื่น ๆทจ่ี ะช่วยพัฒนากระบวนการเรยี นรู้ของ ผเู้ รียน ) 1……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2…………………………………………………………………………………………………………………………………………………......... 3…………………………………………………………………………………………………………………………………………………......... . 9. ข้อเสนอแนะ ใช้สอนได้ ควรปรับปรงุ ลงชอ่ื .................................................. (...........................................................) ครูพ่ีเลย้ี ง วนั ที่....................เดอื น.............................พ.ศ.............

10. บนั ทึกหลังการจัดการเรียนรู้ คน คิดเปน็ ร้อยละ ผลท่เี กดิ ขนึ้ กบั ผ้เู รียน คน คิดเป็นร้อยละ ด้านความรู้ จำนวนนกั เรียนที่ผา่ นเกณฑ์ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ จำนวนนักเรยี นทีไ่ มผ่ ่านเกณฑ์ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ คน คิดเป็นรอ้ ยละ จำนวนนักเรียนทผ่ี ่านเกณฑ์ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ จำนวนนักเรียนท่ีไมผ่ ่านเกณฑ์ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ จำนวนนักเรียนท่ผี ่านเกณฑ์ จำนวนนักเรยี นที่ไมผ่ ่านเกณฑ์ ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน จำนวนนกั เรยี นที่ผ่านเกณฑ์ จำนวนนกั เรยี นท่ไี มผ่ ่านเกณฑ์ 11. ปัญหาและอปุ สรรค

12. แนวทางการแก้ปญั หา ลงช่อื ............................................................. (…………………………………………………………..) ผู้สอน วนั ท.่ี .............. เดอื น............................พ.ศ………

แบบประเมินดา้ นกระบวนการของผเู้ รียน ใช้เทคโนโลยีสาร ปฏบิ ตั ิตนตาม สนเทคไดอ้ ย่าง พลเมอื งดจิ ิทลั ได้ ที่ ชื่อ-สกุล ถกู วิธี อย่างเหมาะสม ผลการประเมนิ 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ผ่าน ไมผ่ ่าน 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25

26 27 28 29 30 31 32 33 เกณฑก์ ารประเมิน ผู้เรยี นต้องได้ระดบั 2 ขึ้นไปถือวา่ ผา่ น

แบบประเมนิ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ท่ี ชื่อ-สกุล ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งม่ันในการ ผลการประเมิน ทำงาน 1 4 3 2 1 4 3 2 1 ผา่ น ไม่ผ่าน 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27

28 29 30 31 32 33 เกณฑก์ ารประเมิน ผูเ้ รยี นต้องได้ระดับ 2 ขนึ้ ไปถอื วา่ ผ่าน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook