Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 1 แผนฯ การปลูกผักปลอดสารพิษ

1 แผนฯ การปลูกผักปลอดสารพิษ

Published by tong_yodya, 2021-12-18 05:55:11

Description: 1 แผนฯ การปลูกผักปลอดสารพิษ

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรู้ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (ประจำฐานการเรยี นร)ู้ ฐานการเรียนรทู้ ่ี 1 การปลกู ผกั ปลอดสารพิษ ครผู สู้ อน นางศิริพร เอ่ยี มพร้อม ครูอาสาสมัครการศกึ ษานอกโรงเรยี น ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอแมล่ าว สำนักงานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จังหวัดเชียงราย สำนักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ

แผนการจดั การเรยี นรู้ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ก คำนำ การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ประจำฐานการเรียนรู้) เป็นแผนบูรณาการเข้ากับการหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มีสาระ และมาตรฐานการเรียนรู้ 5 สาระ ไดแ้ ก่ ทกั ษะการเรยี นรู้ ความรูพ้ ้นื ฐาน การประกอบอาชีพ ทักษะการดำเนินชีวิต การพัฒนาสังคม เพื่อส่งเสริม ปลูกฝัง และเสริมสร้างอุปนิสัยความพอเพียงให้ผูเ้ รียน โดยจัดการเรียนรู้ให้ผูเ้ รียนได้ ฝึกใช้ หลักการเศรษฐกิจพอเพียง 2 เงื่อนไข คือ ความรู้ คุณธรรม 3 หลักการ คือ พอประมาณ ความมีเหตุผล มี ภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ในการคิดและปฏิบัติงานต่างๆ จนส่งผลให้การดำเนิน ชีวิตเกิดความสมดุลและพร้อมรับการ เปล่ียนแปลงใน 4 มิติ คือ วัตถุ/เศรษฐกจิ ดา้ นสงั คม ด้านวัฒนธรรม ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม ทั้งนี้ การจัดการเรียนรู้จะ ประสบความสำเร็จ ตามจุดประสงคท์ ีต่ ้ังไวค้ รูผสู้ อนจำ เปน็ ตอ้ งใช้หลกั การเศรษฐกิจพอเพยี ง (2 เงื่อนไข 3 หลักการ 4 มิติ) ในการวางแผนและจัดการเรียนรู้ กล่าวคือ ในการกำหนดเนื้อหา เวลา กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้/ อปุ กรณ์ แหล่งเรยี นรู้ และการวดั ประเมนิ ผล กศน.อำเภอแม่ลาว จึงได้ตระหนักถึงความสำคัญของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ ตอบสนองกลยุทธ์ การพัฒนาสถานศึกษา จึงได้ ให้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ นำหลัก 2 เงื่อนไข 3 หลักการ 4 มิติ บูรณาการสกู่ ารเรยี น การสอนในทกุ รายวชิ า เพ่อื ให้ นักเรียนมี ความรู้ ความเขา้ ใจสามารถปฏบิ ตั ิ ตามหลกั ปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพียงได้ อยา่ งถกู ต้อง เป็นผมู้ ี คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง กศน.อำเภอแม่ลาว กศน.อำเภอแมล่ าว สำนักงาน กศน.จงั หวัดเชยี งราย

แผนการจดั การเรียนรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ข สารบัญ หนา้ คำนำ ก สารบัญ ข ฐานการเรยี นรทู้ ี่ 1 การปลกู ผกั ปลอดสารพิษ 1 - 15 - การวิเคราะหก์ จิ กรรมการเรียนรู้ส่หู ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 1 - ผงั มโนทัศน์วเิ คราะห์หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน 2551 2 - แผนการจดั การเรียนรู้ การปลูกผักปลอดสารพษิ 3-6 - ใบความรู้ การปลูกผกั ปลอดสารพิษ 7 - 12 - แบบทดสอบ การปลูกผกั ปลอดสารพษิ 13 – 14 - แบบประเมินความพงึ พอใจการดำเนินงานของฐานการเรียนรู้ 15 ภาคผนวก 16 1. แผ่นพับฐานการเรียนรู้ 2. คำสั่งแต่งตัง้ คณะทำงาน และจัดทำแผนการจดั การเรียนรตู้ ามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง (ประจำฐานการเรยี นรู้) กศน.อำเภอแม่ลาว สำนักงาน กศน.จังหวดั เชยี งราย พุทธศกั ราช 2564 3. คำสงั่ แตง่ ตั้งคณะทำงาน และครูผสู้ อนประจำฐานการเรียนรตู้ ามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (ประจำฐานการเรยี นรู้) กศน.อำเภอแมล่ าว สำนกั งาน กศน.จังหวดั เชยี งราย พทุ ธศกั ราช 2564 4. คณะผู้จดั ทำ กศน.อำเภอแมล่ าว สำนกั งาน กศน.จังหวดั เชียงราย

แผนการจดั การเรยี นรตู้ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง กศน.อำเภอแมล่ าว 1 การวเิ คราะห์กิจกรรมการเรยี นร้สู หู่ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ฐานการเรยี นรู้ การปลกู ผักปลอดสารพษิ เงอื่ นไขความรู้ 2 เง่ือนไข 1.มีความรู้วิธีการปลกู ผักสวนครัว 2.มีความรู้เรอ่ื งฤดูกาลในการปลูกผกั แต่ละชนดิ เงอ่ื นไขคุณธรรม 3.รกู้ ลุ่มเป้าหมาย 1.มีความอดทน 4.มคี วามรู้เรอื่ งงบประมาณ 2.มคี วามเพยี รพยายาม 5.มคี วามรู้เกีย่ วกบั การใช้อปุ กรณก์ ารเกษตร 3.มคี วามซ่ือสัตย์ 6.รู้เรื่องวสั ดทุ ่ใี ช้ปลกู ผกั สวนครวั 7.รรู้ ะยะเวลาในการให้ผลผลติ ของพชื ผักแตล่ ะชนดิ 8.ร้วู ิธีการจดั จำหนา่ ยและการตลาด 9.รู้วิธีเกบ็ รกั ษาอุปกรณ์ 10.ร้กู ารทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย 11.รเู้ ร่อื งการพัฒนาผลิตภณั ฑ/์ การเพิม่ ผลผลิต 3 หลักการ 1. พอประมาณ 2.ความมีเหตุผล 3.มีภมู ิคุ้มกันในตัวทีด่ ี 1. วสั ดุท่ีใช้เหมาะสมในการปลูกผัก 1.การรกั ษาสภาพดนิ 1.มีการวางแผนในการทำปลกู ผัก 2. งบประมาณท่ใี ช้กับการปลกู ผกั 2.การรกั ษาสง่ิ แวดล้อม 2.เพ่ิมความระมัดระวังในการใช้อุปกรณ์ 3.เพ่อื ไวใ้ ชใ้ นครวั เรือน 3.มกี ารออมเพอ่ื ใช้จา่ ยในอนาคต 3. สถานท่เี หมาะสมในการปลูกผกั 4.การดูแลรักษาผลผลิตให้มีความ 4. ระยะเวลาเหมาะสมกบั การปลกู ผกั ปลอดภยั 4.มีการเก็บเมล็ดพันธุ์เพื่อใช้ในครั้ง 5. ตน้ ทนุ ในการปลกู ผัก 5.ความใส่ใจในทุกรายละเอียดทุก ต่อไป ขัน้ ตอน 5.มกี ารทำปุ๋ยหมกั ใชเ้ องเพือ่ ลดรายจา่ ย ชีวติ ที่มีความสมดุลและพรอ้ มรบั ตอ่ การเปล่ียนแปลงใน 4 มิติ วัตถุ/เศรษฐกจิ ด้านสงั คม ดา้ นวฒั นธรรม ด้านส่งิ แวดลอ้ ม 1.เพมิ่ รายไดใ้ ห้กบั ตนเอง/ 1.เกิดการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ 1.มีการนำภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ ใน 1.การอนุรักษ์ และรกั ษา ครอบครัว 2.เกิดการแบง่ ปนั เรือ่ งการปลกู ผักสวนครวั มาใช้ ส่งิ แวดล้อม 2.เพอื่ ใช้บริโภคในครวั เรือน 3.มีการรักษาคุณภาพผลผลิต 2.การใชว้ สั ดุเหลือใชใ้ หเ้ กดิ 3.ลดรายจา่ ยใหก้ ับครวั เรือน ทจี่ ะไปสู่ผบู้ ริโภค ประโยชน์ 4.เพอื่ ลดต้นทุนในการผลติ 4.การเอาใจใสผ่ ลผลติ เสมอื น 5.มกี ารพฒั นาผลิตภัณฑ์ใหม้ ี ให้คนในครอบครวั ได้บริโภค คณุ ภาพท่ีดี กศน.อำเภอแมล่ าว สำนกั งาน กศน.จงั หวดั เชยี งราย

แผนการจดั การเรียนรตู้ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ ผังมโนทัศนว์ เิ คราะหล์ ักสูตรฐานการเ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั สาระท่ี 1. ทักษะการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอ รายวชิ า ทกั ษะการเรยี นรู้ เรอื่ ง - การเรยี นรูด้ ้วยตวั เอง - การใช้แหล่งเรียนรู้ - การจดั การความรู้ - การคิดเป็น ฐานการเรยี สาระที่ 2. ความรพู้ ืน้ ฐาน การปลกู ผักปลอ รายวชิ า ภาษาไทย เร่ือง - การฟงั การดู การพูด การอ่าน การเขียน - ภาษาไทยกบั ช่องทางการประกอบอาชีพ รายวชิ า คณิศาสตร์ เร่ือง - จำนวน และการดำเนินงาน สาระที่ 5. การพฒั - ร้อยละ - สถิตแิ ละความน่าจะเปน็ รายวชิ า การพัฒนา รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ เรื่อง เร่ือง - การพัฒนาตนเอง - สิง่ มีชวี ิตและสงิ่ แวดล้อม รายวชิ า ศาสนา แล - กระบวนการดำรงชวี ิตของพชื เรือ่ ง - สารเคมกี ับชวี ิตและสิ่งแวดล้อม - ศาสนา วฒั นธรรม

จพอเพยี ง กศน.อำเภอแม่ลาว 2 เรียนรู้ การปลกู ผักปลอดสารพิษ บการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน 2551 อนตน้ มัธยมศกึ ษาตอนปลาย สาระท่ี 3. การประกอบอาชีพ รายวชิ า ช่องทางการเข้าส่อู าชีพ เรื่อง - ชอ่ งทางการเขา้ สู่อาชพี - ทกั ษะการประกอบอาชพี - พฒั นาอาชีพให้มีอยมู่ ีกิน ยนรู้ สาระที่ 4. ทักษะการดำเนนิ ชวี ติ อดสารพษิ รายวิชา เศรษฐกจิ พอเพยี ง เรอ่ื ง ฒนาสังคม - ความพอเพยี ง าตนเอง ชุมชน สงั คม - ชุมชนพอเพียง ง ชุมชน สังคม - การประกอบอาชีพตามหลักเศรษฐกิจ ละหน้าที่พลเมือง พอเพยี ง รายวชิ า สุขศกึ ษา พลศึกษา เรอ่ื ง - อาหารและโภชนาการ - สารอาหาร ม ประเพณี

แผนการจดั การเรยี นรตู้ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 3 แผนการจัดการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (ประจำฐานการเรยี นรู้) 1. ชอื่ ฐานการเรียนรู้ การปลกู ผกั ปลอดสารพษิ เวลา 3 ช่วั โมง 2. ช่อื ผู้จัดทำ นางศิริพร เอย่ี มพร้อม ครอู าสาสมคั รการศกึ ษานอกโรงเรยี น 3. สาระสำคญั พชื ผักเป็นพชื อาหารทคี่ นไทยนิยมนำมาใชร้ ับประทานกันมาก เนอื่ งจากมีคุณคา่ ทางอาหารท้ังวิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายสูง แต่ค่านิยมในการบริโภคผักนั้น มักจะเลือกบริโภคผักท่ี สวยงามไม่มีร่องรอยการทำลายของหนอนและแมลงศัตรูพืช จึงทำให้เกษตรกรที่ปลูกผักจะต้องใช้สารเคมี ป้องกันและกำจัดแมลงฉีดพ่นในปริมาณที่มาก เพื่อให้ได้ผักที่สวยงามตามความต้องการของตลาด เมื่อผู้ซื้อ นำมาบริโภคแล้วอาจได้รับอันตรายจากสารพิษที่ตกค้างอยู่ในผักน้ันได้ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว จึงควร หันมาทำการปลูกผักปลอดจากสารพิษ โดยนำเอาวิธกี ารป้องกันและกำจดั ศัตรูหลายวิธีมาประยุกตใ์ ช้ร่วมกนั เป็นการทดแทนหรือลดปริมาณการใช้สารเคมีให้น้อยลง เพื่อความปลอดภัยของผู้ปลูก ผู้บริโภคและ สิ่งแวดล้อม 4. วตั ถปุ ระสงค์ 4.1 วตั ถปุ ระสงคก์ ิจกรรมการเรยี นรู้ 4.1.1 เพอ่ื ให้ผ้เู รียนมีความรคู้ วามเข้าใจขน้ั ตอนการปลกู ผกั ปลอดสารพิษ 4.1.2 เพื่อใหผ้ ู้เรียนมีทกั ษะในการปลูกผักปลอดสารพษิ 4.1.3 เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมีทักษะการกำจัดวชั พืชดว้ ยสมุนไพร 4.2 วัตถุประสงค์ของฐานการเรียนรู้ 4.2.1 ให้ผเู้ รียนเห็นตวั อย่างการปลกู ผักปลอดสารพิษ 4.2.2 ให้ผ้เู รยี นได้รบั ความรู้เกยี่ วกับการปลูกผักปลอดสารพิษอย่างถูกวิธี 4.2.3 ให้ผูเ้ รยี นได้รบั ความรูเ้ รอ่ื งการกำจดั วชั พชื ด้วยสมุนไพร 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 5.1 แนะนำวิทยากรตวั และพ้ืนท่ีการอบรม 5.2 แจง้ ขอบเขตเนอ้ื หากิจกรรมการอบรมแก่ผู้เรียน 5.3 สาธิตการทำการปลกู ผกั ปลอดสารพษิ และ การกำจดั วชั พืชดว้ ยสมนุ ไพร 5.4 แบง่ กลุ่มผู้เขา้ รับการอบรมฝกึ ปฏิบตั กิ ารปลกู ผกั ปลอดสารพิษ 5.5 แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ สอบถาม และให้ข้อเสนอแนะ 6. สอ่ื / อปุ กรณ์ 6.1 แผ่นพบั องค์ความรู้การปลกู ผกั ปลอดสารพษิ 6.2 กลา้ พนั ธผ์ุ ักทเ่ี พาะไว้ ได้แก่ ผกั คะนา้ , แตงกวา, ถ่ัวฝักยาว, มะเขือ และผักสลดั 6.3 ดิน 6.4 ข้วี วั แหง้ 6.5 แกลบ กศน.อำเภอแมล่ าว สำนกั งาน กศน.จังหวัดเชยี งราย

แผนการจดั การเรียนรตู้ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 4 6.6 ถาดเพาะกล้า 6.4 ดินผสมสำหรับเพาะกล้า 6.8 เมลด็ พนั ธ์ผัก 6.9 สมุนไพรต่างๆ 7. ความร้ทู ี่ไดร้ ับจากฐานการเรียนรู้ 7.1 ศาสตร์พระราชา 7.1.1 พออยู่พอกนิ 7.1.2 จากงา่ ยไปหายาก 7.1.3 เศรษฐกจิ พอเพยี ง 7.1.4 พึงพาตนเอง 7.2 ศาสตรท์ ้องถนิ่ 7.2.1 การปลูกผักปลอดสารพิษพน้ื บ้าน 7.2.2 การกำจัดวชั พืชดว้ ยสมุนไพร 7.3 ศาสตรส์ ากล 7.3.1 การปลูกผักปลอดสารพิษโดยใชพ้ ลาสติกคลุมดิน 7.3.1 วิธีการการปลกู ผกั ปลอดสารพษิ ในโรงเรือนมงุ้ ตาข่าย 8. ความสอดคลอ้ งกบั หลกั การทรงงาน 8.1 พออยพู่ อกิน 8.2 จากงา่ ยไปหายาก 8.3 พ่ึงพาตนเอง 8.4 ความเพียร กศน.อำเภอแมล่ าว สำนกั งาน กศน.จังหวัดเชียงราย

แผนการจดั การเรียนรู้ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 5 9. ความสอดคลอ้ งกับหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง (2 : 3 : 4) 2 เง่ือนไข เงอื่ นไขความรู้ เงอ่ื นไขคณุ ธรรม - ธรรมชาติของการปลกู ผักปลอดสารพิษ - ความอดทน - วสั ดทุ ใ่ี ชแ้ ละวิธกี ารปลกู ผักปลอดสารพษิ - ความพากเพยี ร - วธิ ีการกำจัดศตั รพู ืชโดยใช้สมนุ ไพรพื้นบ้าน - ความซอื่ สตั ย์ - การเจรญิ เตบิ โตของพืชผักแตล่ ะชนดิ (ฤดกู าล) - ขยัน พอประมาณ 3 หลักการ มีภูมิคมุ้ กันในตัวทด่ี ี - ฤดูกาลของการเจรญิ เติบโตของ มเี หตผุ ล - มีการวางแผนก่อนการปลูกผัก ผักแต่ละชนิด ปลอดสารพิษ ตามขน้ั ตอน - ใช้สมุนไพรพ้นื บ้านมากำจดั - เพื่อใชบ้ รโิ ภคภายในครัวเรือน ศตั รพู ืช - เพอื่ เปน็ รายได้เสรมิ ของ - แบง่ งานเหมาะสมกบั ครอบครวั ความสามารถของแต่ละบุคล ดา้ น 4 ชีวติ ท่ีมีความสมดุลและพร้อมรบั ต่อการเปลยี่ นแปลงใน 4 มิติ ดา้ นวัตถุ ดา้ นสังคม ด้านสิง่ แวดล้อม ด้านวฒั นธรรม ความรู้ ปลกู ผกั โดยใช้วสั ดุ รับผดิ ชอบต่อสังคม ไมใ่ ชส้ ารเคมีแตใ่ ช้ ทอ้ งถิ่นหรอื เศษวัสดุ สมุนไพรพนื้ บ้านแทน เหลือใชต้ ่างๆ การกำจัดศตั รพู ืช ทักษะ มีรายได้จากการปลูก การทำงานเปน็ หมู่ ผักปลอดสารพิษ ใน คณะ แต่ละฤดกู าล เจตคติ นำเศษวัสดุเหลือใช้ ความภาคภูมิใจในการ ใช้วัสดุจากธรรมชาติ นำไปประกอบเป็น และสมุนไพรพื้นบ้าน ทำงานร่วมกบั หมู่ อาหารประจำพ้ืนเมือง มากำจัดศัตรูพืชของ คณะ การปลูกผักปลอด สารพิษ กศน.อำเภอแมล่ าว สำนักงาน กศน.จังหวัดเชยี งราย

แผนการจดั การเรียนร้ตู ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 6 10. การนำไปประยุกต์ใช้ 10.1 การประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวัน 10.1.1 การเลือกเพาะปลกู พชื ผักในฤดูกาลที่แตกตา่ งกนั 10.1.2 การจัดการ การวางแผน การปลูกผกั ปลอดสารพิษ 10.1.3 การใชส้ มนุ ไพรกำจัดศตั รพู ืช 10.2 การประยกุ ตใ์ ช้ในภารกิจตามหนา้ ที่ 10.2.1 การวางแผนการทำงานรอบคอบ 10.2.2 การมีความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม 11. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 11.1 สงั เกตความสนใจ และการซักถาม 11.2 แบบบนั ทกึ การเรยี นรู้/โครงงาน 11.3 แบบทดสอบก่อนเรียนและแบบทดสอบหลงั เรยี น 11.4 แบบประเมนิ ความพึงพอใจการเข้าร่วมกจิ กรรม ข้อเสนอแนะเพ่มิ เติม ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและนำไปจัดทำโครงงานในรายวิชา วิทยาศาสตร์ และวชิ าโครงงานเพอ่ื พัฒนาทกั ษะการเรยี นรู้ ได้ กศน.อำเภอแมล่ าว สำนักงาน กศน.จงั หวัดเชียงราย

แผนการจดั การเรียนรตู้ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 7 ใบความรฐู้ านการเรยี นรู้ การปลกู ผกั ปลอดสารพษิ การจดั การเรียนรตู้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง การปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ พืชผักเป็นพืชอาหารที่คนไทยนิยมนํามาใช้รับประทานกันมาก เนื่องจากมีคุณค่าทางอาการทั้ง วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่เป็นประโยชนต่อร่างกายสูง แต่ค่านิยมในการ บริโภคผักนั้น มักจะเลือก บริโภคผักที่สวยงามไม่มีร่องรอยการทำลายของหนอนและแมลงศัตรูพืช จึงทำให้ เกษตรกรที่ปลูกผัก จะต้องใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดแมลงฉีดพ่นในปริมาณที่มาก เพื่อให้ได้ผักที่สวยงาม ตามความ ต้องการของตลาด เมื่อผู้ซ้ือนํามาบริโภคแล้วอาจได้รับอนั ตรายจากสารพิษท่ีตกค้างอยู่ในพืชผักนนั้ ได้ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว เกษตรกรจึงควรหันมา ทำการปลูกผักปลอกภัยจากสารพิษ โดยนําเอา วิธกี ารปอ้ งกันและกำจัดศตั รูพชื หลายวิธีมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน เป็นการทดแทนหรือลดปริมาณการใช้ สารเคมี ให้น้อยลง เพื่อความปลอดภัยของเกษตรกร ผ้บู รโิ ภคและสิง่ แวดล้อม ความหมายของผักปลอดภัยจากสารพิษ ผักปลอดภัยจากสารพิษ หมายถึง ผลผลิตพืชผักที่ไม่มี สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชตกค้างอยู่ หรือมีตกค้างอยู่ไม่เกินระดับมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุข กำหนดไว้ ในประกาศกระทรวง สาธารณสุข ฉบับที่ 163 พ.ศ. 2538 ลงวันที่ 28 เมษายน 2538 เรื่อง อาหาร ทม่ี สี ารพษิ ตกคา้ ง ขอ้ ดีของการปลกู ผกั ปลอดภยั จากสารพษิ 1. ทำให้ไดพ้ ืชผักท่มี ีคณุ ภาพ ไมม่ สี ารพษิ ตกค้าง เกดิ ความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค 2. ช่วยให้เกษตรกรผูป้ ลกู ผักมีสุขภาพอนามัยดีขึ้นเนื่องจากไม่มีการฉดี พ่นสารเคมีป้องกัน และกำจัด ศตั รพู ชื ทำให้เกษตรกรปลอดภยั จากสารพิษเหล่าน้ดี ว้ ย 3. ลดตน้ ทุนการผลิตของเกษตรกรด้านคา่ ใช้จ่ายในการซอ้ื สารเคมีป้องกันและกำจัดศตั รูพชื 4. ลดปรมิ าณการนําเขา้ สารเคมีปอ้ งกนั และกำจดั ศัตรูพืช 5. เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผลผลิตที่ได้มีคุณภาพ ทำให้สามารถขายผลผลิต ได้ใน ราคาสงู ขึน้ 6. ลดปริมาณสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชที่จะปนเปื้อนเข้าไปในอากาศและน้ำ ซึ่งเป็น การ อนุรักษทรพั ยากรธรรมชาติ และลดมลพษิ ของส่งิ แวดล้อมได้ทางหนึ่ง วิธกี ารผลติ ผักปลอกภยั จากสารพษิ ในการปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษนั้น จะใช้หลักการปลูกพืชผักโดยการใช้สารเคมีในการผลิต ให้ น้อยที่สุด หรือใช้ตามความจำเป็นและจะใช้หลัก “การป้องกันและกำจัดศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสาน หรือไอพี เอ็ม” แทนแต่การที่จะป้องกันและกำจัดศัตรูพืชให้ได้ผลนั้นจะต้องเลือกวิธีที่ประหยัดเหมาะสม และมี ประสทิ ธิภาพซงึ่ ผู้ปลูกจะ ตอ้ งเข้าใจเรอื่ งต่างๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง ดังน้ี การปลูกผักปลอดภยั จากสารพษิ 1. สาเหตุการระบาดของศตั รูพชื 1.1 ศตั รูพชื เคลอ่ื นย้ายจากแหลง่ หน่งึ ไปยังอกี แหลง่ หนึ่ง ทีม่ ีความเหมาะสมมากกว่า ทำให้มี การขยายพันธ์ุและระบาดทำความเสยี หายเพ่ิมขน้ึ 1.2 สภาพแวดล้อมและสภาพทางนเิ วศน์เปล่ยี นแปลงไปทำให้ศตั รูพืชมีการขยายพนั ธุ์ได้ดีข้ึน เพิ่มจำนวนมากขึ้น หรือมีผลตการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีความต้านทาน และมีประสิทธิภาพในการเข้า ทำลาย มากข้ึน เช่น การกำจดั งู ทำให้หนรู ะบาด การใช้สารเคมี ทำให้แมลงท่ีกนิ แมลงศัตรูพชื ตาย เปน็ ต้น กศน.อำเภอแมล่ าว สำนักงาน กศน.จงั หวัดเชยี งราย

แผนการจดั การเรยี นร้ตู ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 8 1.3 สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมของมนุษย์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ความต้องการ ผลิตในการบริโภคเปล่ียนไป ทำให้ความต้องการผลผลติ ในการบริโภคเปล่ียนไป ทำให้ความต้องการผล ผลิตท่ี แตกต่างกันไปตามความต้องการของบริโภค ทำให้บางครั้งร่องรอยการทำลายของศัตรูพืชเพียงจุด เดียว ก็ถือ วา่ ผลผลิตตกเกรดไม่ได้มาตรฐาน มกี ารระบาดของศัตรพู ชื ได้ 2. การควบคมุ ศตั รูพชื ให้ประสบผลสำเร็จ มีหลกั การงา่ ยๆ 2.1 ต้องป้องกันไม่ให้เกิดโรคในแปลงปลูก เช่น การใช้พันธุ์ที่ปราศจากโรคและแมลง การไม่ นาํ ชนิ้ ส่วนของพืชทีม่ ีโรคแมลงเขา้ มาในแปลงปลกู เปน็ ตน้ 2.2 ถา้ มีศตั รูพืชเขา้ มาในแปลงปลกู หรอื แสดงอาการเป็นโรคแล้ว ตอ้ งยับยง้ั การแพร่ระบาด 2.3 และถ้ามีการระบาดแล้วต้องกำจัดให้หมดไป อย่างไรก็ตามสาเหตุสำคัญท่ีก่อให้เกิดการ ระบาดของศตั รูพืชในแปลงปลูก คอื ตัวเกษตรกรเอง ท่ีละเลยการควบคมุ ดูแลทำให้ศัตรูพืชสะสมในแปลงปลูก จนถึงระดบั ท่ีไมส่ ามารถควบคมุ กำจัดได้ 3. วิธีการควบคุมศตั รพู ชื อยา่ งมีประสิทธิภาพ มขี ้ันตอนดังนี้ 3.1 ตอ้ งศกึ ษาชนิดของศัตรูพชื ในแปลงปลกู นน้ั ๆ ก่อน 3.2 สาํ รวจสถานการณศ์ ัตรูพืชในแปลงปลกู 3.3 พิจารณาแนวโน้มการระบาดของศัตรพู ชื แลว้ จึงหาแนวทางปอ้ งกนั และกำจดั ตอ่ ไป 3.4 เมื่อควบคุมการระบาดให้อยู่ในระดบั ที่ไม่ก่อให้เกดิ ความเสียหายมากขึ้น แล้วให้เลือกใช้ วธิ ี การที่เหมาะสมเพอื่ ลดปริมาณ หรือรกั ษาระดบั การเข้าทำลายให้คงที่หรือลดลง 3.5 ในกรณีที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ศัตรูพืชด้วยวิธการอื่นๆ ได้มีความจำเป็นที่จะ ตอ้ ง ใช้สารเคมีให้เลือกใช้สารเคมีที่ถูกตอ้ งเหมาะสมกับชนิดศัตรพู ืชและการระบาดตามคำแนะนำวิธกี ารใช้ ใน ฉลาก 4. ผลดขี องการปอ้ งกันและกำจดั ศตั รพู ชื โดยวิธีผสมผสาน 4.1 ลดปรมิ าณศัตรูพชื ให้ตํา่ กว่าระดบั ท่จี ะก่อให้เกดิ ความเสยี หายแกพ่ ชื 4.2 ลดปริมาณการใช้สารเคมีปอ้ งกนั และกำจัดศตั รูพชื 4.3 มีความปลอดภัยต่อสุขภาพของเกษตรกรผู้บริโภครวมไปถึงสภาพแวดล้อม การปลูกผัก ปลอดภัยจากสารพิษ 5. วิธกี ารผสมผสานในการควบคุมศัตรพู ืช จะเป็นการนําเอาวธิ ีการป้องกันและกำจัดศัตรู พืชหลายวิธี มาประยกุ ตใ์ ช้ร่วมกนั โดยวิธีการปลูกผักปลอดภยั จากสารพิษนม้ี ีข้อแนะนาํ ให้เกษตรกร เลอื กใช้วิธกี ารป้องกัน และกำจดั ศัตรพู ืช ทดแทนการใช้สารเคมีดงั นี้ 5.1 การเตรยี มแปลงปลกู 5.2 การเตรียมเมล็ดพันธ์ุ 5.3 การปลกู และการดูแล 5.4 การให้ธาตอุ าหารเสรมิ 5.5 การใช้กับกัดกาวเหนยี ว 5.6 การใช้กบั ดักแสงไฟ 5.7 การใช้พลาสติกหรอื ฟางขา้ วคลมุ แปลงปลกู 5.8 การปลูกผกั ในโรงเรือนม้งุ ตาขา่ ยไนล่อน 5.9 การควบคุมโดยชีววธิ ี 5.10 การใช้สารสกดั จากพชื 5.11 การใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช (กรณีท่ีใช้วิธีการป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ข้างต้นไม่ได้ผล) กศน.อำเภอแมล่ าว สำนกั งาน กศน.จังหวดั เชียงราย

แผนการจดั การเรียนรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 9 การเตรยี มแปลงปลกู เนื่องจากเมลด็ พืชผกั สว่ นใหญ่มขี นาดเล็ก มีระบบรากละเอียดอ่อน ถ้าเกษตรกรเตรยี มดนิ ไมด่ ี ก็อาจ มีผลกระทบต่อการงอกของเมล็ดและการเจริญเติบโตของพืชผักได้ ดังนั้น ก่อนการปลูกพืชควรมี การปรับ สภาพดินให้เหมาะสมเสียก่อน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยมีการปลูกผักหรือพืชชนดิ อื่นโดยการ ปล่อยน้ำให้ท่วม แปลงแล้วสูบออก เพื่อให้น้ำชะล้างสารเคมีและกำจัดแมลงต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในดิน แล้ว จึงทำการไถพลิก หนาดินตากแดดไว้ เพื่อทำลายเชื้อโรคและแมลงศัตรูที่อาศัยอยู่ในดินอีกครั้ง จากนั้น เกษตรกรควรจะปรับ สภาพความเป็นกรดเป็นด่างของดินให้อยู่ในสภาพที่เป็นกลาง โดยใช้ปูนขาว ปูนมาร์ล หรือ แร่โดโลไมท์ อัตรา 200-300 กิโลกรัม/ไร่ แล้วรดน้ำตามหลังจากการใส่ปูนขาวเพื่อ ปรับสภาพดินท่ีเป็นกรดให้เป็นกลาง นอกจากนี้ควรเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินด้วยการใส่ปุ๋ยยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ในอัตรา 1,000- 2,000 กโิ ลกรัม/ไร่ ซึง่ จะชว่ ยให้ตน้ พชื ผกั มคี วามแขง็ แรง สามารถตา้ นทานตอ่ การเข้าทำลายของโรคและแมลง ได้ โรยปูนขาวเพ่ือปรบั สภาพดนิ การปลูกผกั ปลอดภัยจากสารพษิ การเตรียมเมลด็ พนั ธุ์ ก่อนนําเมล็ดพันธ์ุผักไปปลูกในแปลงปลูกหรือแปลงกล้าเกษตรกรควรทำความสะอาดเมล็ด พันธ์ุก่อน ตามขน้ั ตอนดงั น้ี 1. คัดแยกเมลด็ พนั ธุ์ โดยการคัดเมลด็ ที่เสยี เมลด็ วัชพชื ท่ีมีอยู่ปะปน และส่ิงเจอื ปนต่างๆ ออก 2. แช่เมล็ดพันธุ์ในน้ำอุ่น ที่อุณหภูมิ 50-55 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 15-30 นาทีจะช่วย ลดปริมาณ เชือ้ โรคทตี่ ิดมากบั เมล็ดพนั ธ์ุและยงั กระตนุ้ การงอกของเมล็ดอีกดว้ ย 3. ในพื้นท่ีทีม่ ีการระบาดของโรคราน้ำค้าง และโรคใบจดุ ควรคลุ๊กเมล็ดพนั ธุ์ดว้ ยสารเคมี เช่น เมทาแล็กซิน 35 เปอร์เซ็นต์ SD (เอพรอน) และไอโปรไดโอน (รอฟรัล) อัตรา 10 กรมั / เมลด็ พันธุ์ 1 กิโลกรัม การปลูกและการดแู ล การเลือกวิธกี ารปลูก ระยะปลูกเป็นเท่าใดนั้นจะขึ้นอยู่กับชนิดของพืชผักที่เกษตรกรเลือกปลูก แต่มี ข้อแนะนํา คือ เกษตรกรควรปลูกผักให้มีระยะห่างพอสมควร อย่าให้แน่นจนเกินไป เพื่อให้มีการ ระบายอากาศที่ดีเป็นการ ปรับสภาพแวดล้อมไม่ให้เหมาะสมต่อการระบาดของโรค นอกจากนี้ควรหมั่น ตรวจแปลงอยู่เสมอ โดยอาจ เลือกสํารวจเป็นจุดๆ ประมาณ 10-20 จุด/ไร่ ถ้าพบว่ามีการระบาดของ โรคและแมลงในระดับที่ก่อให้เกิด ความเสยี หายแก่พืชผักนั้น ก็ควรดำเนินการกำจัดโรคและแมลงท่ีพบ ทนั ที การให้ธาตุอาหารเสริมแก่พืช จะมี ความจำเป็นต่อพืชผักในบางชนิดเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อสร้างความต้านทานโรคให้แก่พืชนั้น เช่น พืชในตระกูล กะหลำ่ จะต้องการธาตุโบรอนเพ่ือสร้างความต้านทานโรคไส้กลวงดำ มะเขอื เทศจะต้องการ ธาตแุ คลเซียมเพื่อ สร้างความตานทานโรคผลเนา่ เปน็ ตน้ การสุมตรวจนับโรคและแมลง การปลูกผักปลอดภัยจากสารพษิ การใช้กับดกั กาวเหนียว กบั ดกั กาวเหนยี วนี้มคี ุณสมบตั ิไม่มสี ไี ม่มกี ล่ิน และไมม่ ีพษิ ต่อสิ่งแวดล้อม จะใช้ในการควบคุม ปริมาณ ตัวเต็มวัยของแมลงศัตรูพืชได้หลายชนิด เช่น เพลี้ยไฟ แมลงวันเจาะผล แมลงวันของหนอนชอน ใบ ผีเส้ือ กลางวันชนิดตา่ งๆ ทงั้ ของหนอนคืบและหนอนใย เปน็ ตน้ โดยทว่ั ไปมกั จะนิยมใช้กาวเหนียวมา ทาบนวัสดุท่ีมี สีเหลือง เช่น แผ่นพลาสติก หรือกระป๋องน้ำมันเครื่อง เนื่องจากแมลงมักชอบสีเหลืองโดย กับดักนี้จะใช้ล่อ แมลงให้บินมาติดกาวเหนียวที่ทาไว้สำหรับการติดตั้งนั้น ควรติดตั้งกับดักในแปลงผักให้ สูงประมาณ 30 เซนตเิ มตร หรอื สูงกว่ายอดตน้ ผกั เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่แลว้ โดยจะใช้กับดักประมาณ 60-80 กบั ดัก/พื้นท่ี 1 ไร่ ในชวงที่มกี ารระบาดมาก (ฤดรู อ้ น, ฤดูฝน) ส่วนในฤดหู นาวมีการระบาด น้อย อาจใช้เพียง 15-20 กับดกั /ไร่ วธิ กี ารทำกาวเหนยี ว วัสดุที่ใช้ประกอบดว้ ย 1. น้ำมนั ละหุ่ง 550 ซซี ี กศน.อำเภอแมล่ าว สำนักงาน กศน.จังหวัดเชยี งราย

แผนการจดั การเรียนร้ตู ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 10 2. นำ้ มนั ยางสน 380 กรมั 3. ไขคาร์นวั วา (Canova wax) 60 กรมั ขั้นแรกเคี่ยวน้ำมันระหุ่งจนเดือดแล้วจึงเติมน้ำมันยางสนและไขคาร์นัววาลงไป คนช้าๆ ให้เข้ากันดี แล้วจงึ ยกออกจากเตา ตง้ั ทิง้ ไว้ให้เย็นกอ่ นนาํ ไปใช้เป็นกบั ดกั กาวเหนียวตอ่ ไป การใช้กบั ดกั แสงไฟ เป็นการใช้แสงไฟจากหลอดฟลอู อร์เรสเซนต์ (หลอดนีออน) หรือหลอดไฟแบลค็ ไลท์ ล่อแมลง ในเวลา กลางคืน เช่น ผีเสื้อ หนอน กระทู้หอม หนอนกระทู้ผัก ให้มาเลนไฟและตกลงในภาชนะที่บรรจุ น้ำมันเครื่อง หรอื น้ำทีร่ องรบั อยดู่ ้านลา้ ง การตดิ ต้ังกบั ดักและแสงไฟจะตดิ ตั้งประมาณ 2 จุด/พืน้ ท่ี 1 ไร่ โดยติดตัง้ ให้สงู จาก พื้นดินประมาณ 150 เซนติเมตร และให้ภาชนะที่รองรับอยู่ห่างจากหลอดไฟ 30 เซนติเมตรและควรปิดส่วน อื่นๆ ที่จะทำให้แสงสว่างกระจายเป็นบริเวณกว้างเพื่อล่อจับแมลงเฉพาะ ในบริเวณแปลง มิใช่ล่อแมลงจากที่ อน่ื ให้เขา้ มาในแปลง กับดักกาวเหนยี ว การปลกู ผกั ปลอดภัยจากสารพษิ การใช้พลาสติกหรอื ฟางขา้ วคลุมแปลงปลูก เป็นการควบคุมปริมาณวัชพืชและเก็บรักษาความชื้นในดินไว้ได้นาน ทำให้ประหยัดน้ำท่ีใช้รด แปลง ผัก การใช้พลาสติกหรือฟางข้าวคลุมแปลงปลูกนี้ ควรใช้กับพืชผักที่มีระยะปลูกแน่นอน ในแปลง ที่พบการ ระบาดของโรคท่มี ีเช้ือไวรัสเป็นสาเหตุ และมีเพลยี้ ออ่ นหรอื แมลงเปน็ พาหะ แนะนําใหใ้ ช้ พลาสติกทม่ี สี ีเทา-ดำ โดยให้ด้านท่มี ีสีเทาอยูด่ า้ นบน เน่ืองจากสีเทาจะทำให้เกดิ จากสะท้อนแสง จงึ ช่วยไลแ่ มลงพาหนะได้ การปลกู ผกั ในโรงเรือนมงุ้ ตาข่ายไนลอ่ น พื้นที่ ที่จะใช้ปลูกผกั ในโรงเรือน ควรเป็นพนื้ ทท่ี ส่ี ามารถปลูกผักได้อย่างต่อเน่ือง ไม่นอ้ ยกว่า 3 ปี เพ่ือ จะได้คุ้มค่าต่อการสร้างโรงเรือนและการใช้ตาข่ายไนล่อน โครงสร้างของโรงเรือนอาจทำด้วย เหล็กหรือก็ได้ ขึ้นอยู่กับเกษตรกรว่าต้องการจะใช้พื้นที่นี้ปลูกผักนานเท่าใด ส่วนตาข่ายที่ใช้นั้นจะใช้ มุ้งตาข่ายไนล่อนที่มี ขนาด 16 ชอ่ งตอ่ ความยาว 1 นิ้ว โดยม้งุ สขี าวมีความเหมาะสมกับการปลูกผัก เนื่องจากแสงผ่านได้เกือบปกติ สว่ นม้งุ สฟี า้ ไมค่ ่อยเหมาะสม เนอื่ งจากแสงผ่านไดเ้ พียงร้อยละ 70 เทา่ นั้น การปลูกผักในโรงเรือนมุ้งตาข่ายนี้ จะไม่สามารถป้องกันแมลงศัตรูพืชผักได้ทุกชนิด มีเพียง หนอน ผีเสื้อและดวงหมัดผัก เท่านั้นที่สามารถป้องกันได้ ส่วนเพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ หนอนแมลงวันชอบ ใบแมลงหวี่ ขาวและไร ซึ่งเป็นแมลงขนาดเล็กจะไม่สามารถป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งถ้าหากใช้มุ้งไน ล่อนที่มีความถ่ี เพ่ิมขึ้นเปน็ 24 และ 32 ช่องตอ่ น้ิวแลว้ จะปอ้ งกนั ได้แตอ่ าจมีปญหาเร่ืองอณุ หภมู แิ ละ ความช้นื ภายในมุ้ง ข้อควรระวงั สำหรบั การปลูกผักในโรงเรอื นมุง้ ตาขา่ ย 1. อย่าให้มีหนอนผีเสื้อหรือหนอนต่างๆ หลุดเข้าไปในโรงเรือนได้เพราะหนอนต่างๆ เหล่านี้ จะ สามารถขยายพันธ์ุได้อย่างรวดเร็ว 2. ในการย้ายกลา้ จะตอ้ งตรวจดูกล้าผกั อย่าให้มไี ขต่ วั หนอนหรอื ดกั แด้ตดิ เข้าไปในโรงเรือน 3. ควรดูแลอย่าให้มุ้งตาข่ายชํารุดฉดี ขาด เพราะอาจทำให้ดวงหมัดผักเล็ดลอดเข้าไปได้อาจจะ มีการ รองดว้ ยผ้าหรอื แผ่นยางบรเิ วณทม่ี กี ารเสยี ดสรี ะหว่างตาขา่ ยกบั โครงสร้างเพ่ือป้องกนั การฉดี ขาด 4. มงุ้ ตาขา่ ยจะต้องปดิ มดิ ชดิ ตลอดเวลา และควรทำประตเู ปน็ แบบสองชนั้ 5.การปลูกผักในโรงเรือนมุ้งตาขา่ ยไม่สามารถป้องกนั แมลงขนาดเล็กได้ดงั นนั้ จงึ อาจจะตอ้ ง ใช้วิธีการ กำจดั ศตั รพู ชื อ่ืนๆ ร่วมดว้ ย 6. ผักที่ปลูกได้ในมุ้งตาข่ายไนล่อน ประเภทกินใบ ได้แก่ คะน้า ผักกาดขาว กวางตุ้ง ฮองเต้ ตั้งโอ๋ ปวยเล้ง ขึ้นฉ่าย เป็นต้น ประเภทกินดอก ได้แก่ กะหล่ำดอก บล็อกโคลี่ เป็นต้น ประเภทกินผักและผล ได้แก่ ถวั่ ฝักยาว มะเขอื เปราะ ถ่ัวลันเตา เปน็ ตน้ กศน.อำเภอแมล่ าว สำนกั งาน กศน.จังหวดั เชยี งราย

แผนการจดั การเรยี นรตู้ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 11 การควบคุมโดยชวี วิธี เป็นการใช้สิ่งมีชีวิตควบคุมศัตรูพืช ซึ่งได้แก่ แมลง ตัวห้ำ ตัวเบียน ที่ทำลายแมลงศัตรูพืชชนิด อ่ืน หรอื อาจใช้สิ่งมชี ีวิตเล็กๆ เช่น เชื้อบกั เตรีเชอื้ ไวรัส เชอ้ื รา ไส้เดอื นฝอย เป็นต้น ในการควบคุมซ่ึงมี รายละเอยี ด ดงั น้ี เช้อื บกั เตรี ที่นิยมใช้ในการควบคมุ แมลง คือ เชื้อบีที (BT) โดยแมลงที่ได้รบั เชื้อบักเตรีชนิดน้ี เข้าไปแล้ว น้ำย่อย ในลําไส้ของแมลงจะละลายผลึกของเชื้อบักเตรี ทำให้เกิดสารพิษทำลายระบบย่อย อาหารและอวัยวะของ แมลง ทำให้ขากรรไกรแขง็ กินอาหารไมไ่ ดเ้ คลื่อนไหวชาลง และตายไปในทีส่ ุด เช้ือบักเตรีทม่ี ขี ายเป็นการคาจะมี 2 กลมุ คอื 1. Kurstaki ไดแ้ ก่ แบคโทรฟนเอชพี ดบั เบล้ิ ยพู ี, เซน็ ทาร่ยี ดู ีจี มีประสิทธภิ าพในการกำจดั หนอนใน ผกั หนอนกระทู้หอม และหนอนคบื กะหลํา่ 2. Aizawai ได้แก่ ฟลอร์แบค เอชพี, ฟลอร์แบค เอฟซี, ธูรีไซด์ เอชพีมีประสิทธิภาพในการ กำจัด หนอนใยผัก และหนอนคืบกะหลา่ํ เท่านัน้ ดังนั้น การที่จะใช้เชื้อบักเตรีให้ได้ผล ควรเลือกชนิดของเชื่อให้ตรงกับแมลงศัตรู และควรฉีด พ่นเม่ือ หนอนยังเป็นตัวออ่ นอยู่ หลกี เล่ียงแสงในขณะฉดี พน่ และไมค่ วรให้นำ้ หลงั จากฉีดพ่นเชือ้ บกั เตรี แล้ว เชอ้ื ไวรสั เชื้อไวรัสท่ีใช้ในการควบคุม คือ เอ็นพีวี (NPV) โดยใช้ในการกำจัดหนอนหลอดหอมหรือหนอน หนัง เหนียว ซงึ่ เชอื้ ไวรสั ชนิดนจ้ี ะเข้าไปทำลายระบบตา่ งๆ ของรา่ งกาย ทำให้หนอนลดการกนิ อาหาร เคลื่อนไหวชา ลาํ ตวั มสี ีซีดลง มีจดุ สีขุ่นหรือสม แล้วจะใช้ขาเทียมเกาะท่ตี ้นพืชห้อยหัวลงมาตายในทสี่ ดุ เชือ้ รา ท่ีใช้ในการควบคุม คือ ไตรโครเดอร์มาจะควบคุมเชื้อสาเหตุของโรครากเน่า โคนเน่า เน่าคอดิน ของ มะเขือเทศและผักกาดหวั โดยจะใช้เช้ือราผสมกับรำข้าวและปุ๋ยหมกั ในอัตรา 1:10:40 แลว้ ใช้รองก้นหลมุ หรือ โรยรอบโคนต้น ไส้เดือนฝอย จะชว่ ยควบคมุ ดว้ งหมดั ผกั โดยชอนไชเขา้ สู่ระบบเลือดหรือกระเพาะอาหาร เมือ่ เข้าไปแล้วจะถกู ยอ่ ย ทำลาย จากนั้นจะปลดปล่อยเชื้อบักเตรีที่เป็นอันตรายต่อแมลงออกมา ทำให้แมลงตายในที่สุด การใช้ไส้เดือน ฝอยนั้น เกษตรกรควรเก็บรักษาไว้ในที่เย็น และใช้ไส้เดอื นฝอยในการควบคุมหลงั จาก การให้น้ำแก่ตน้ พชื ชวง เวลาเย็นๆ เนอ่ื งจากไส้เดือนฝอยจะไมท่ นทานต่อสภาพท่แี ห้งแล้ง หรือถูกแสง แดด การใชส้ ารสกดั จากพชื พืชที่นิยมนำมาใช้สกัดเป็นสารควบคุมโรคและแมลง คือ สะเดา เนื่องจากในสะเดามีสาร อะซาดิแร คตนิ (Azadirachtin) ซึ่งมคี ณุ สมบตั ิชว่ ยในการป้องกันและกำจัดแมลงไดโ้ ดย - สามารถใช้ฆ่าแมลงไดบ้ างชนดิ - ใช้เป็นสารไล่แมลง - ทำให้แมลงไมก่ ินอาหาร - ทำให้การเจริญเตบิ โตของแมลงผิดปกติ กศน.อำเภอแมล่ าว สำนักงาน กศน.จังหวัดเชียงราย

แผนการจดั การเรียนร้ตู ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 12 - ยบั ยั้งการเจรญิ เตบิ โตของแมลง - ยบั ยง้ั การวางไขแ่ ละการลอกคราบของแมลง - เปน็ พษิ ต่อไขข่ องแมลง ทำให้ไขไ่ มฟ่ กั - ยบั ยั้งการสร้างเอนไซม์ในระบบยอ่ ยอาหารของแมลง วิธีการใช้ คือ นําเอาผลสะเดาหรือสะเดาที่บดแล้ว 1 กิโลกรัม แช่ในน้ำ 20 ลิตร ทิ้งค้างคืนไว้ 1 คืน แต่ถ้าเกษตรกรมีเครื่องกวนส่วนผสมดังกล่าว ก็จะลดเวลาเหลือเพียง 3-4 ชั่วโมง จากนั้นกรอง เอาแต่น้ำมา ผสมด้วยสารจับใบประมาณ 1 ชอนโต๊ะ แล้วนำไปรดพืชผักทันทีส่วนกากของสะเดาที่เหลือ ให้นําไปโรยโคน ต้นเพอื่ ปรับปรุงสภาพดนิ และกำจัดแมลงในดนิ ได้อกี ดว้ ย ข้อควรระวัง พืชบางชนิดเมื่อได้รับสารนี้แล้วอาจเกิดอาการใบไหม้เห่ียวย่นหรือต้นแคระ แกร็น ดังน้ี เม่อื พบอาการตา่ งๆ เหลา่ นกี้ ็ควรจะงดใช้สารสกัดจากสะเดาทันที ชนิดของแมลงทีส่ ามารถกำจดั ได้ด้วยสะเดา 1. ชนดิ ท่ีใช้แลว้ ได้ผลดี ได้แก่ หนอนใยผัก หนอนหนงั เหนียว หนอนกระทู้ชนิดต่างๆ หนอน กัดกินใบ หนอนเจาะยอด หนอนชอนใบ หนอนม้วนใบ หนอนหัวกระโหลก 2. ชนิดท่ีใช้แล้วได้ผลปานกลาง ได้แก่ เพลี้ยจักจั่น หนอนเจาะ สมอฝ้าย หนอนต้นกล้าถั่ว แมลงหวี่ ขาว แมลงวนั ทอง เพลี้ยไกแ่ จ้เพลย้ี อ่อน 3. ชนดิ ที่ใชแ้ ล้วได้ผลน้อย ไดแ้ ก่ หนอนเจาะฝักถวั่ เพลยี้ ไฟ ไรแดง มวนและดวงชนดิ ต่างๆ พืชผักที่ใช้สารสกัดจากสะเดาได้ผล ได้แก่ ผักคะน้า กวาง ผักกาดหอม กะหล่ำปลีกะหล่ำดอก แตงกวา แตงโม แตงเทศ มะเขือเทศ มะเขือยาว ไกฝ่ รัง่ ขา้ วโพดอ่อน พริกขี้หนู ตำลึง มะนาว มะกรดู การใช้สารแคมีป้องกันและกำจดั ศัตรพู ืช จากข้อมลู ที่ได้กลา่ วมาแลว้ ข้างต้น ในการปฏิบตั จิ ริงของเกษตรกรนัน้ เกษตรกรต้องหมน่ั ตรวจ แปลง ปลูกพืชของตนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการพยากรณ์สถานการณ์ของศัตรูพืชในแปลงของตน เมื่อ ทราบ สถานการณ์แล้วจึงพิจารณาเลือกใช้วิธีการป้องกันและกำจัดที่เหมาะสม แต่ในกรณีที่ไม่สามารถ ควบคุม หรือไม่มีวิธีการควบคุมใดที่ใช้ได้ผลแล้ว เกษตรกรอาจใช้สารเคมีในการควบคุมศัตรูพืชน้ันๆ ได้ โดยพิจารณา จาก 1. เป็นสารเคมที เี่ หมาะสมกับศัตรพู ืชชนดิ น้นั 2. สารเคมนี ัน้ สลายตวั ไดเ้ ร็ว 3. ใช้ในอัตราทเี่ หมาะสมตามคำแนะนํา 4. เว้นระยะการเก็บเกย่ี วผลผลิตตามคำแนะนาํ ทั้งนี้เพื่อไม่ก่อให้เกิดอันตราย หรือมีสารพิษตกค้างในพืชผักน้ัน และมีความปลอดภัยต่อ ผู้บริโภคอกี ด้วย กศน.อำเภอแมล่ าว สำนกั งาน กศน.จงั หวดั เชียงราย

แผนการจดั การเรียนรตู้ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 13 แบบทดสอบกอ่ น-หลังเรยี น การจดั การเรียนรตู้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ฐานการเรยี นรู้ การปลูกผกั ปลอดสารพษิ ................................................................... จงเลอื กคำตอบท่ีถกู ต้องทีส่ ุดเพียงข้อเดียว (10 ข้อ 10 คะแนน) 1. ทำไมการปลูกพชื ผักปลอดสารพิษ ไว้รบั ประทานเองจึงถือว่ามีความปลอดภัย ก. ไมม่ กี ารฉดี ยาฆ่าแมลง ข. ปลูกในตาข่ายมุ้งลวดจงึ ไม่มแี มลงมารบกวน ค. ผปู้ ลกู ร้รู ะยะเวลาฉีดยาและการเก็บเกย่ี ว ง. ใชย้ าฆา่ แมลงทีม่ ีพษิ น้อยมากฉดี ผักจึงมคี วามปลอดภยั 2. ใครปลูกผักได้สอดคล้องกบั หลกั เศรษฐกิจพอเพียง ก. เดชาปลกู ผักไม่ใชส้ ารเคมี ข. ชาตรปี ลูกผกั หลากหลายชนิด ค. พมิ พรปลูกผักไว้เพือ่ จำหน่าย ง. เกษมปลกู ผกั ไวก้ นิ เอง เหลือก็แบ่งปันเพอื่ นบ้าน 3. ขอ้ ใดคือประโยชน์ของพชื ผกั ในการฝกึ ของสมาชกิ ในครอบครวั ให้รูจ้ กั การใช้เวลาว่างให้มปี ระโยชน์ ก. การปลกู พชื ผกั สวนครวั ข. การเกบ็ ผกั จากแหล่งธรรมชาติมาจำหนา่ ย ค. การทำสวนครวั เพ่อื การค้า ง. การออกกำลงั กายดว้ ยการเล่นกฬี า 4. พชื ผักปลอดสารพิษหมายความวา่ อยา่ งไร ก. พชื ผกั ทีส่ วยงาม ข. พืชผักที่ไม่มีสารพิษหรอื มีในระดับท่ีปลอดภยั ค. พชื ทเ่ี กดิ เองตามธรรมชาติ ง. ถกู ทกุ ข้อ 5. การปลูกพชื ผกั ในขอ้ ใดตอ้ งการน้ำในปรมิ าณน้อย ก. พรกิ ข. ผกั บงุ้ ค. ผกั กาดขาวปลี ง. กะหล่ำปลี 6. ในการปลกู พืชผักน้ัน เราควรพจิ ารณาถงึ สภาพของพ้ืนทใ่ี นข้อใดมากทส่ี ดุ ก. แหลง่ น้ำ ขนาดของพ้ืนท่ี ปัญหาเรอื่ งเพ่ือนบ้าน ข. แรงงาน แหล่งนำ้ เพ่อื นบ้าน ค. ใกลต้ ลาด การคมนาคมสะดวก แหลง่ น้ำ ง. ลักษณะของดิน แรงงาน แหล่งนำ้ กศน.อำเภอแมล่ าว สำนักงาน กศน.จังหวดั เชยี งราย

แผนการจดั การเรียนรตู้ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 14 7. การพจิ ารณาเลือกพน้ื ท่ีทำสวนพืชผกั ส่งิ ที่จำเป็นทีส่ ุดคือข้อใด ก. มพี ้นื ทม่ี าก ข. ดนิ มีความอดุ มสมบูรณ์ ค. ใกลแ้ หลง่ นำ้ ง. ใกลท้ ี่อย่อู าศัย 8. ดนิ ท่ีเหมาะในการทำสวนพืชผักมากทส่ี ดุ ควรเป็นเชน่ ไร ก. ดนิ ท่ีมีระดบั นำ้ ใตด้ ินต้ืน ข. ดนิ ทมี่ รี ะดบั น้ำใต้ดนิ ลกึ ค. ทร่ี ะบายน้ำได้ดี ง. ดนิ ท่ีมีความอุดมสมบูรณ์ 9. ขอ้ ใดคือความหมายของพืชผักปลอดสารพิษที่ถูกต้อง ก. พืชท่ใี ชร้ บั ประทานได้ ข. พืชผกั ทป่ี ลูกภายในบรเิ วณบา้ นเพ่ือใชผ้ กั บริโภคภายในครอบครัว ค. พืชอะไรก็ได้ทรี่ ับประทานแลว้ ไมม่ สี ารพิษภยั ง. พชื ทม่ี ีสเี ขียวมีคุณค่าทางอาหารสูง 10. ข้อดีของการปลกู พชื ผกั ปลอดสารพษิ ก. ทำให้ได้พืชผักท่มี ีคุณภาพ ข. ทำให้ผู้ปลกู พชื ผกั มีสุขภาพอนามัยดีขน้ึ ค. ลดต้นทุนการผลติ ดา้ นคา่ ใช้จ่าย ง. ถกู ทกุ ข้อ กศน.อำเภอแมล่ าว สำนกั งาน กศน.จงั หวัดเชียงราย

แผนการจดั การเรียนรตู้ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 15 แบบประเมินความพึงพอใจการดำเนนิ งานของฐานการเรยี นรู้ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอแม่ลาว สงั กัดสำนกั งาน สง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จงั หวัดเชียงราย คำช้ีแจง โปรดใสเ่ ครอ่ื งหมาย √ ลงในช่องทางขวามือ ตามความคิดเหน็ ของทา่ นท่มี ีตอ่ การดำเนนิ งานของฐานการเรียนร้ตู าม หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอแม่ลาว ในแตล่ ะข้อ โดยมี น้ำหนักคะแนน ดังนี้ ระดบั คะแนน 5 หมายถึง พงึ พอใจมากท่สี ดุ ระดับคะแนน 4 หมายถึง พึงพอใจมาก ระดบั คะแนน 3 หมายถึง พึงพอใจปานกลาง ระดับคะแนน 2 หมายถงึ พึงพอใจนอ้ ย ระดับคะแนน 1 หมายถึง พงึ พอใจนอ้ ยทสี่ ดุ ตอนท่ี 1 ข้อมูลท่วั ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม เพศ □ ชาย □ หญงิ อายุ □ นอ้ ยกวา่ 20 ปี □ 21 – 30 ปี □ 31 – 40 ปี □ 41 – 50 ปี □ 51 – 60 ปี □ มากกวา่ 60 ปี สถานภาพ □ นกั ศึกษา □ ครู □ ผ้บู รหิ าร □ อน่ื ๆ ระบ…ุ ……………… ตอนที่ 2 ความพงึ พอใจของผูต้ อบแบบสอบถามท่มี ตี อ่ การดำเนินงานฐานการเรยี นรู้ แหล่งเรยี นร้ทู ี่………….... / ช่อื แหลง่ เรยี นรู้ .............................................................................................................. ประเดน็ ความคดิ เห็น ระดับความพึงพอใจ 54321 ด้านวทิ ยากร 1. เทคนคิ การถ่ายทอดความรู้ 2. การเชอ่ื มโยงความร้ตู ามหลัก 2-3-4-3 3. ความครบถว้ นของเนื้อหาในการถ่ายทอด 4. ระยะเวลาถ่ายทอดองค์ความรู้ท่ีเหมาะสม 5. การเปดิ โอกาสให้ผูเ้ รียนมสี ว่ นรว่ ม 6. การตอบซักถาม ดา้ นสถานท่ี 7. สถานท่จี ัดการเรียนร้มู คี วามสะอาดและเหมาะสม 8. ความพรอ้ มของอปุ กรณก์ ารเรยี น 9. ความพร้อมของส่อื เทคโนโลยี ดา้ นความรคู้ วามเข้าใจ 10. ความคิดรวบยอดทีไ่ ด้จากการเรยี นร้ใู นฐาน 11. ความสามารถในการถ่ายทอดความร้แู ก่บคุ คลอ่ืน 12. การแลกเปลีย่ นประสบการณก์ ับบุคคลอน่ื ด้านการนำความรู้ไปใช้ 13. การนำความรูท้ ่ีได้รับสกู่ ารปฏบิ ตั ิในชีวติ ประจำวนั 14. การนำความร้ทู ีไ่ ด้รับสู่การประกอบอาชีพ 15. การเผยแพรค่ วามร้แู กบ่ ุคคลอ่นื ตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะเพ่ิมเตมิ ......................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... กศน.อำเภอแมล่ าว สำนกั งาน กศน.จังหวัดเชยี งราย

แผนการจดั การเรยี นรตู้ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 16 ภาคผนวก กศน.อำเภอแมล่ าว สำนกั งาน กศน.จงั หวดั เชียงราย

แผนการจดั การเรียนร้ตู ามหลกั ปร

รชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 17

แผนการจดั การเรียนร้ตู ามหลกั ปร

รชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 18

แผนการจดั การเรียนรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 19 กศน.อำเภอแมล่ าว สำนักงาน กศน.จงั หวัดเชยี งราย

แผนการจดั การเรียนรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 20 กศน.อำเภอแมล่ าว สำนักงาน กศน.จงั หวัดเชยี งราย

แผนการจดั การเรียนรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 21 กศน.อำเภอแมล่ าว สำนักงาน กศน.จงั หวัดเชยี งราย

แผนการจดั การเรียนรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 22 กศน.อำเภอแมล่ าว สำนักงาน กศน.จงั หวัดเชยี งราย

แผนการจดั การเรียนรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 23 กศน.อำเภอแมล่ าว สำนักงาน กศน.จงั หวัดเชยี งราย

แผนการจดั การเรียนรูต้ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 24 คณะผู้ทำงาน 1. นายวิเศษ พลธนะ ผอ. กศน.อำเภอแม่ลาว ประธาน 2. คณะกรรมการสถานศึกษา 3. องคก์ รนักศึกษา ท่ปี รึกษา 4. ปราชญช์ าวบา้ น 5. นางกาญจนณ์ ัฎฐา ครี ีธีรกุล ทป่ี รกึ ษา 6. นางสาวกฤติณา จินธะนู 7. นางสาวชุตาภรณ์ ศรียนจอง ทป่ี รึกษา 8. นางศริ พิ ร เอ่ียมพร้อม 9. นางกนกพร ถาคำ ครู ชำนาญการ คณะทำงาน 10. นางสรุ ภี รณ์ ศรีคำ 11. นายจรุญ ไชยชมภู ครู ผูช้ ่วย คณะทำงาน 12. นายสรุ เกยี รติ อำพนั ธ์ 13. นางสาวรัชฎาภรณ์ ยอดยา พนกั งานพิมพ์ ส.4 คณะทำงาน 14. นางสาวรัชนี สวสั ดี 15.นางสาวฤทยั รตั น์ เกนิ ตวั ครู อาสาฯ คณะทำงาน 16. นายศุภฤกษ์ ยอดยา ครู อาสาฯ คณะทำงาน ครู กศน.ตำบล คณะทำงาน ครู กศน.ตำบล คณะทำงาน ครู กศน.ตำบล คณะทำงาน ครู กศน.ตำบล คณะทำงาน เจ้าหนา้ ท่ีบรรณารกั ษ์ คณะทำงาน เจา้ หน้าท่ีธรุ การ คณะทำงาน ครู กศน.ตำบล คณะทำงานและเลขานุการ กศน.อำเภอแมล่ าว สำนกั งาน กศน.จงั หวดั เชยี งราย

แผนการจดั การเรียนร้ตู ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 25 ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอแม่ลาว สำนกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจงั หวดั เชียงราย สำนกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศึกษาธกิ าร กศน.อำเภอแมล่ าว สำนกั งาน กศน.จงั หวัดเชยี งราย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook