Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore logo

logo

Published by SIRARAT3063, 2017-09-07 05:41:40

Description: logo

Search

Read the Text Version

บทท่ี 7 มาตรฐานการเขียนแบบกอ่ สรา้ ง 7-9การจัดองค์ประกอบในแผ่นงาน ฉบบั ปี พ.ศ. 2554รูปที่ 7.11 รปู แบบการวางตวั หนงั สอื ทางแนวนอน รปู ท่ี 7.12 รปู แบบการตวั หนงั สอื ทางแนวตง้ัพื้นที่แสดงข้อมลู ในการผลิตแบบ (Production Data Area) คอื สว่ นทแ่ี สดงขอ้ มลู เกยี่ วกบั การผลติ แผน่ งานนน้ั ๆ ขอ้ มลู สว่ นนจ้ี ะแสดงไวบ้ รเิ วณขอบทางดา้ นซา้ ยมอื ของแผน่งาน ข้อมูลที่แสดงได้แก่ เวลาและวันที่ในการพล็อตแบบ (โดยท่ัวไปจะแสดงไว้บริเวณมุมบนสุดทางด้านซ้ายมือ)มาตราส่วนทใี่ ช้ในการสแกนแบบ ถ่ายย่อสว่ นหรอื ทำ� ไมโครฟลิ ม์ และขอ้ มูลอ่นื ๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ งกับการผลติ แบบ อันไดแ้ ก่ • ขอ้ มลู สารบัญการเก็บข้อมูล (File Path) • ช่ือแฟ้มงาน • การตั้งค่าเริ่มต้น • นำ�หนกั ปากกาท่ใี ชใ้ นการพมิ พ์แบบอาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ www.asa.or.th

บทที่ 7 มาตรฐานการเขยี นแบบกอ่ สร้าง 7-10การจดั องค์ประกอบในแผน่ งาน ฉบับปี พ.ศ. 2554 • คำ�สง่ั ในการพมิ พแ์ บบ • ขอ้ มูล Overlay drafting (เปน็ ขอ้ มูลพื้นฐานในหลักของการเขียนแบบดว้ ยมอื ซึง่ เขียนงานแยกแผน่ แลว้ นำ� มารวมกนั เมอื่ จะพมิ พง์ านแตล่ ะเรอื่ ง สำ�หรบั ในระบบ CAD นน้ั เรอ่ื งดงั กลา่ วจะถกู แทนทดี่ ว้ ยระบบ External Reference และ layer แลว้ ) • แฟม้ งานอา้ งองิ (Reference file) • Layer ท่พี ิมพ์ (Layers plotted) • ช่วั โมงการผลิตแบบ (Production hours)แผน่ หน้าปก (Cover Sheet) แผ่นหน้าปกแสดงช่ือโครงการ เจ้าของโครงการ และช่ือผรู้ ่วมโครงการท่มี สี ่วนในการจดั เตรยี มแบบ แผ่นหน้าปกอาจประกอบด้วยภาพถ่ายหรอื โลโกข้ องเจ้าของ ท่ีแผ่นหน้าปกควรระบหุ มายเลขของแผน่ งานดว้ ย ถา้ แผ่นหน้าปกนนั้แสดงขอ้ มูลอ่ืนๆ ดว้ ย เชน่ รายการของแผ่นงาน (list of sheets) รายการคำ� ย่อ ค�ำอธบิ ายทัว่ ไป (general notes) สรปุยอ่ ที่เกีย่ วกบั กฎหมายอาคาร (building code summary) หรือ key planแผ่นงานเพ่มิ เติม (Supplemental Drawing Sheets) รูปแบบของแผ่นงานเพิ่มเติมจะคล้ายคลึงกับรูปแบบมาตรฐานของแผ่นงานทั่วไป แต่มีการปรับให้เข้ากับขนาดของแผ่นงานท่ยี ่อส่วนลง (รปู ท่ี 7.13) ระยะขอบท่ใี ชส้ ำ� หรับแผน่ งานเพมิ่เตมิ โดยท่ัวไปควรมีระยะอยา่ งน้อยดังนี้ • ขอบดา้ นบนและดา้ นล่าง 15 mm • ขอบทางด้านซา้ ยและขวา 15 mm • ขอบทใ่ี ชใ้ นการเย็บเขา้ ปก 20 mm รปู ที่ 7.13 แผน่ งานเพิ่มเตมิ (Supplemental Drawing Sheet)อาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชปู ถัมภ์ www.asa.or.th

บทท่ี 8 มาตรฐานการเขยี นแบบกอ่ สร้าง 8-1มาตรฐานรูปลกั ษณ์การเขียนแบบ ฉบับปี พ.ศ. 2554 บทที่ 8 มาตรฐานรูปลกั ษณก์ ารเขียนแบบ สญั ลักษณแ์ สดงทศิ เหนอื ทศิ ทางการจัดวางแบบในแผ่นงาน ระบบกริด (Grid System) ระบบพิกดั (Coordinate System) การจัดวางแบบในแผน่ งาน (Sheet Layout) มาตราส่วน (Scale) ชนดิ ของเสน้ (Common Line Types) ความหนาของเส้น มิติ (Dimensions) มิติของผัง (Plan Dimensions) การให้มติ ิในแนวดิ่ง (Vertical Dimensions) สญั ลกั ษณ์ของวสั ดุ (Material Indications Symbols) คำ� อธิบายเพิ่มเติม (Notations) การตงั้ ชือ่ ชัน้ พื้นทใ่ี ช้สอยและวตั ถุ รปู แบบของตวั หนงั สือและข้อความ ชอื่ ของแบบ (Drawing Identification) ประเภทของแผ่นงาน (Sheet Types) แผ่นงาน Mock-up ตาราง Mock-upอาษา สมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ www.asa.or.th

บทที่ 8 มาตรฐานการเขยี นแบบก่อสรา้ ง 8-2มาตรฐานรปู ลกั ษณก์ ารเขยี นแบบ ฉบบั ปี พ.ศ. 2554อาษา สมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ www.asa.or.th

บทท่ี 8 มมาาตตรราฐฐาานนกกาารรเเขขียยี นนแแบบบบกกอ่ ่อสสรรา้ ้างง 8-1มาตรฐานรูปลักษณก์ ารเขียนแบบ ฉฉบบบั บั ปที พี่ 2.ศ.22555534มาตรฐานรปู ลักษณ์การเขยี นแบบ (Drafting Convention) หมวดนใ้ี หร้ ายละเอยี ดเกยี่ วกบั รปู แบบมาตรฐานสำ� หรบั ขอ้ มลู ทง้ั ทเี่ ปน็ กราฟกิ และขอ้ ความทป่ี รากฏในแบบ เพอ่ืความสะดวกในการอา้ งองิ การสบื ค้นข้อมูล และการสื่อสารทช่ี ดั เจนสำ� หรับผูท้ ำ� แบบและผู้ใชแ้ บบ เชน่ สัญลักษณแ์ สดงทศิ เหนือ การจดั วางผังในแผ่นงาน ระบบกริด ระบบพิกดั มาตราส่วน ประเภทของเส้นและความหนาทใ่ี ช้ การให้มติ ิการแสดงสญั ลกั ษณข์ องวสั ดุ การเขยี นขอ้ ความอธบิ าย ตลอดจนรายละเอยี ดเกยี่ วกบั การเขยี นแบบของแผน่ งานประเภทต่างๆ เชน่ ผงั พนื้ รูปด้าน รูปตัด แบบขยาย และแผน่ งาน Mock-up เป็นต้นสัญลักษณแ์ สดงทศิ เหนือ สญั ลกั ษณแ์ สดงทศิ เหนอื ในแผน่ งานมอี ยสู่ องประเภทคอื ทศิ เหนอื จรงิ (True North) คอื ทศิ ทช่ี ไ้ี ปยงั ขวั้ โลกเหนอืและทศิ เหนอื ผงั (Plan North) คอื ทศิ ทขี่ นานกบั เสน้ กรดิ ของผงั ในแนวดง่ิ ในแผน่ งานทแ่ี สดงผงั ทกุ แผน่ ควรแสดงสญั ลกั ษณ์ทิศเหนือกำ� กับ โดยวางไว้ทตี่ ำ� แหนง่ มุมล่างขวาของแบบ (drawing block) รปู ที่ 8.1 การตัง้ ช่ือรูปดา้ นอาคารจะอ้างอิงจากทศิ เหนอื ผงั ทแ่ี สดงในแผน่ งาน รูปท่ี 8.1 สญั ลักษณแ์ สดงทศิ เหนือและการจดั วางผังในแผน่ งาน ทศิ ทางการจดั วางแบบในแผ่นงาน ทศิ ทางการจดั วางแบบผงั อาคารในแผน่ งาน ควรวางในลกั ษณะทท่ี ศิ เหนอื ผงั (Plan North) ชไ้ี ปทางดา้ นบนของ แผน่ งานและขนานกบั เสน้ กรดิ ของอาคาร การจดั วางแบบในแผน่ งานควรสอดคลอ้ งกนั ตลอดทง้ั ชดุ ของแบบ เชน่ ลกั ษณะ การวางอาคารในแผน่ งานทแี่ สดงผงั บรเิ วณควรมลี กั ษณะเดยี วกนั กบั การวางอาคารในแผน่ งานทแ่ี สดงผงั อาคาร หรอื แบบ ขยายรายละเอยี ดของเสา ควรจะมที ศิ ทางการวางรปู ในแผน่ งานทเ่ี หมอื นกบั ผงั พน้ื (รปู 8.2) และแบบขยายรายละเอยี ดอาษา สมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ www.asa.or.th

บทท่ี 8 มาตรฐานการเขียนแบบก่อสรา้ ง 8-2มาตรฐานรปู ลกั ษณ์การเขยี นแบบ ฉบับปี พ.ศ. 2554ของรูปตัดควรวางทิศทางเดียวกนั กบั รปู ตัดของอาคาร เป็นตน้ แบบแสดงผังพนื้ ควรแสดงรายละเอยี ดไดค้ รบทง้ั หมดในแผ่นงานหนง่ึ แผ่น ในกรณที ีต่ ้องแสดงในแผน่ งานมากกว่าหนงึ่ แผ่น เนอ่ื งจากพ้นื ทกี่ ระดาษไม่พอ ควรจะแบ่งผงั พนื้ ออกเปน็ สว่ นๆ โดยมเี ส้นทาบตอ่ (match line) เพื่อใชใ้ นการอา้ งองิรปู ท่ี 8.2 แบบขยายที่มีทิศทางการจัดวางรปู เชน่ เดียวกบั ผงั พ้นืระบบกรดิ (Grid System) ระบบกริดใช้ส�ำหรับการอ้างอิงต�ำแหน่งของโครงสร้างเชน่ เสา ผนงั รบั น้�ำหนกั ระบบกรดิ ประกอบดว้ ยเสน้ กรดิ ในแนวดิ่งและเส้นกริดในแนวระดับ เส้นกริดในแนวต้ังควรให้ช่ือเป็นหมายเลข โดยเขียนไวท้ ี่ปลายดา้ นบนสุดของเส้นกรดิ เรียงตามลำ� ดบั หมายเลขจากทางดา้ นซา้ ยไปขวา เสน้ กรดิ ในแนวนอนควรให้ช่ือเป็นตัวอักษร โดยเขียนไว้ที่ปลายด้านขวามือของเส้นกริดเรยี งตามลำ� ดบั ตวั อกั ษรจากทางดา้ นลา่ งขน้ึ ไปดา้ นบน ควรหลกีเลยี่ งการใชต้ วั อกั ษร O หรอื I ในการระบชุ อื่ ของกรดิ ในแนวระดบัเพ่อื ปอ้ งกันความสับสนกบั หมายเลข 0 หรือ 1 ในบางกรณีอาจเขียนชื่อก�ำกับเส้นกริดที่ปลายทั้งสองด้านถ้าช่วยให้การอ้างอิงแนวกรดิ ทำ� ไดส้ ะดวกขนึ้ ในกรณที มี่ กี ารเพมิ่ แนวเสน้ กรดิ ระหวา่ งกลางให้ใช้ชื่อเป็นทศนิยม เช่น เส้นกริดที่อยู่ระหว่างกลางเส้นกริดท่ี 2 และ 3 ใหช้ ือ่ เปน็ 2.5 หรอื เสน้ กรดิ ทอ่ี ยู่ระหว่างกลางเสน้ กริด B และ C ให้ชือ่ เป็น B.5 รปู ที่ 8.3 รูปท่ี 8.3 แสดงเส้นกริดและการตั้งชื่ออาษา สมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ www.asa.or.th

บทท่ี 8 มาตรฐานการเขียนแบบกอ่ สรา้ ง 8-3มาตรฐานรปู ลกั ษณก์ ารเขียนแบบ ฉบับปี พ.ศ. 2554ระบบพิกดั (Coordinate System) ระบบพิกัดใชใ้ นการระบตุ ำ� แหนง่ ของส่วนต่างๆ ของอาคารทัง้ ในแนวตัง้ และแนวนอน การระบุตำ� แหน่งของตัวอาคารในแนวราบ ท�ำได้โดยการระบุระยะจากมุมอาคารไปยังแนวเขตท่ีดิน (รูปที่ 8.4) ในส่วนของผนงั อาคารที่เป็นลกั ษณะโคง้ สามารถบอกต�ำแหนง่ โดยการระบตุ ำ� แหนง่ จดุ ศนู ยก์ ลางของสว่ นโคง้ ระยะและมมุ ทว่ี ดั จากจดุ ศนู ยก์ ลางของสว่ นโคง้ (รูปที่ 8.5) รูปท่ี 8.4 การแสดงตำ� แหนง่ ของอาคารโดยการให้ระยะในแนวนอน รูปท่ี 8.5 การใหร้ ะยะส่วนโคง้ ของอาคารอาษา สมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระบรมราชูปถมั ภ์ www.asa.or.th

บทที่ 8 มาตรฐานการเขียนแบบกอ่ สรา้ ง 8-4มาตรฐานรปู ลกั ษณก์ ารเขยี นแบบ ฉบับปี พ.ศ. 2554 การใหร้ ะยะในแนวดง่ิ ในส่วนของระดับพืน้ ชนั้ ล่างของอาคาร (ground floor elevation) อาจใช้ค่าสมมตุ ิเช่น100 เมตร แทนทจี่ ะใชร้ ะดบั 0± เพอื่ ใหร้ ะดบั พนื้ ของอาคารในสว่ นทอี่ ยชู่ นั้ ใตด้ นิ ไมม่ เี ครอ่ื งหมายลบ เชน่ -10 เมตร โดยในผงั บรเิ วณ (site plan) จะตอ้ งมกี ารระบวุ า่ ระดบั พนื้ ชน้ั ลา่ งของอาคารทแ่ี สดงดว้ ยคา่ สมมตุ ิ 100 เมตร นน้ั มคี า่ เทา่ กบัระดับที่แท้จริงเทา่ ไร ซ่งึ คา่ ดังกลา่ วจะต้องสัมพนั ธก์ บั ระดับอ้างอิงในการสำ� รวจ (survey datum)การจัดวางแบบในแผ่นงาน (Sheet Layout) แบบ (drawing block) ประกอบด้วยข้อมูลทั้งในลักษณะกราฟิกและข้อความ โดยควรมีชื่อของรูป หมายเลขอา้ งองิ และมาตราสว่ น กำ� กบั ไว้ในแตล่ ะแบบ ควรแบ่งพ้นื ทีข่ องแบบเพื่อไมใ่ หเ้ กดิ การซอ้ นทบั กนั ของขอ้ มลู เช่น พน้ื ท่ีท่ีใชแ้ สดงกริดเสา มิติ พนื้ ทีท่ ่ใี ชแ้ สดงหมายเหตุ และพื้นทีท่ ีใ่ ชแ้ สดงช่ือ หมายเลขอา้ งองิ และมาตราสว่ น รปู ที่ 8.6 รปู ที่ 8.6 การแบง่ พน้ื ทส่ี ว่ นตา่ งๆ ของแบบ (drawing block) การจัดวางแบบ (drawing block) อันแรกในแผ่นงาน ควรวางไวท้ ต่ี ำ� แหน่งล่างสุดทางดา้ นขวามอื ของแผน่ งาน ซ่งึ อยู่ใกลก้ ับ title block หรือพนื้ ที่แสดงข้อมูลประกอบ (notation block) การจัดวางแบบถัดไปในแผ่นงาน จะมลี ำ� ดบั การจัดวางจากล่างขึ้นบนและจากขวาไปซ้าย การวางต�ำแหนง่ ของแบบจากขวาไปซ้ายชว่ ยให้สะดวกตอ่ การเปดิ อา่ นแผ่น งานในกรณที แ่ี ผน่ งานนนั้ มขี อ้ มลู เพยี งบางสว่ นไมเ่ ตม็ แผน่ เนอื่ งจากไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งพลกิ เปดิ ไปถงึ สดุ ขอบทเ่ี ยบ็ เลม่ ซง่ึ ทำ� ได้ ไม่สะดวกถ้าชดุ ของแบบนนั้ มจี ำ� นวนแผ่นงานและน้�ำหนกั มากอาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชปู ถัมภ์ www.asa.or.th

บทที่ 8 มาตรฐานการเขยี นแบบกอ่ สรา้ ง 8-5มาตรฐานรูปลักษณ์การเขียนแบบ ฉบับปี พ.ศ. 2554มาตราสว่ น (Scale) มาตราส่วนที่เลือกใช้ควรมีขนาดใหญ่พอท่ีจะสามารถแสดงกราฟิก ระยะ และข้อความในแบบได้ชัดเจน แบบหรอื ภาพทีแ่ สดงในแผน่ งานจะตอ้ งระบุมาตราสว่ นทีใ่ ช้ มาตราสว่ นอาจแสดงด้วยตวั เลขหรอื กราฟกิ แบบทจ่ี ะทำ� การย่อหรอื ขยายควรจะต้องมที งั้ มาตราส่วนแบบตัวเลขและแบบกราฟิกกำ� กับ ควรจะมีคำ� วา่ ”มาตราส่วน” เขยี นกำ� กับไวด้ ้านหนา้ ตัวเลข (รูปท่ี 8.7, 8.8, 8.9)รปู ท่ี 8.7 มาตราส่วนแบบกราฟิก ทไี่ ม่มีมาตราส่วนแบบตัวเลข รปู ท่ี 8.8 มาตราสว่ นแบบกราฟิก และมาตราสว่ นแบบตัวเลขรูปท่ี 8.9 มาตราส่วนแบบตัวเลข ทเ่ี ขียนคำ� วา่ มาตราส่วนน�ำหนา้ ขนาดขององคป์ ระกอบท่ีแสดงในแบบ เช่น ขอ้ ความ (notes) เส้นชี้ (leader) มิติ อา้ งอิง (reference bubbles)จะต้องมีขนาดท่ีเหมาะสมกับมาตราส่วนที่ใช้ในการพิมพ์งานขั้นสุดท้าย ตารางที่ 8.1 แสดงมาตราส่วนที่ใช้โดยท่ัวไปสำ� หรบั การแสดงแบบก่อสร้างประเภทตา่ งๆตารางที่ 8.1 มาตราสว่ นทนี่ ิยมใช้กนั ทว่ั ไปในแบบก่อสร้าง Metric Architectural Engineering การใชง้ าน - - 1” = 5000’ ผังบรเิ วณ - - 1” = 2500’ ผงั บริเวณ - - 1” = 1250’ ผงั บริเวณ - - 1” = 1000’ ผังบรเิ วณ - 1” = 500’ ผงั บริเวณ1 : 5000 - 1” = 200’ ผังบรเิ วณ1 : 2500 - 1” = 100’ ผงั บรเิ วณ1 : 1250 - 1” = 50’ ผังบรเิ วณ1 : 1000 - 1” = 40’ ผังบริเวณ1 : 500 1” = 30’ ผงั บริเวณ 1/32” = 1’-0” 1” = 20’ ผังพ้ืน รูปด้านภายนอก รูปตัดอาคาร - 1/16” = 1’-0” 1” = 10’ ผังพ้นื รูปดา้ นภายนอก รปู ตัดอาคาร1 : 200 1/8” = 1’-0”1 : 100อาษา สมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ www.asa.or.th

บทที่ 8 มาตรฐานการเขยี นแบบกอ่ สร้าง 8-6มาตรฐานรูปลกั ษณก์ ารเขียนแบบ ฉบบั ปี พ.ศ. 2554Metric Architectural Engineering การใชง้ าน1 : 50 1/4” = 1’-0” 1” = 5’ ผังพน้ื รปู ดา้ น รูปตดั1 : 30 3/8” = 1’-0” รปู ดา้ นภายใน1 : 20 1/2” = 1’-0” - แบบขยายผงั พนื้ รปู ตดั ผนงั ฐานราก 1” = 2’ ฐาน(footing) และอืน่ ๆ1 : 10 3/4\" = 1’-0” 1” = 1’-0” 1” = 1’ รปู ตัดผนงั ฐานราก ฐาน (footing) จุดตดั1:5 ของผนังและหลังคา จดุ เชือ่ มต่อ และอื่นๆ 1-1/2\" = 1’-0” -1:2 3” = 1’-0” แบบขยายประตูหนา้ ต่าง แบบขยายชน้ั หรือตู้ - วางของ จุดตดั ของหลังคาและผนัง และอนื่ ๆ1:1 Half Full Size แบบขยายประตหู น้าตา่ ง แบบขยายชัน้ หรือตู้ - วางของ จุดตดั ของหลังคาและผนัง และอืน่ ๆ Full Size แบบขยายประตูหนา้ ต่าง แบบขยายชน้ั หรอื ตู้ วางของ จดุ ตัดของหลงั คาและผนัง และอ่นื ๆทม่ี า: UCS, Drafting Conventions, p. UDS-04.12ชนดิ ของเสน้ (Common Line Types)ชนดิ ของเสน้ ทใ่ี ชใ้ นการเขยี นแบบ นอกจากชนดิ ของเสน้ ทใี่ ชแ้ สดงวตั ถแุ ลว้ ยงั ประกอบดว้ ยเสน้ ตา่ งๆ ดงั ตอ่ ไปน้ี• เสน้ ช้ี (Leader) เปน็ เสน้ ทีเ่ ชอื่ มระหว่างขอ้ ความ ระยะ หรอื สญั ลักษณ์ไปยงั จุดหรอื องคป์ ระกอบในแบบ เส้นช้ีอาจใช้เส้นเฉียงหรือเส้นโค้ง แต่ควรเลือกใช้ให้เหมือนกันทุกๆ แผ่นงานเส้นช้ีควรเริ่มจากมุมบนขวาหรือมุมบนซ้ายของข้อความ(notation) โดยหัวลูกศรท่ีปลายของเส้นช้ีควรอยู่ใกล้องค์ประกอบที่กำ�ลังช้ีอธิบายเส้นชี้ควรมีมุมเอียงท่ีไม่ก่อให้เกิดความสับสนกับเส้นที่ใช้ในแบบ และไมต่ ดั กบั เสน้ มติ ิ หรอืตัดกับเส้นชี้ด้วยกันเอง (รูปที่8.10) รูปท่ี 8.10 เสน้ ชแ้ี ละ pointerอาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ www.asa.or.th

บทที่ 8 มาตรฐานการเขียนแบบกอ่ สรา้ ง 8-7มาตรฐานรูปลกั ษณก์ ารเขยี นแบบ ฉบับปี พ.ศ. 2554• เส้นตดั ตอน (Break Line) ใช้แสดงแนวตดั ระหว่าง สองสว่ น เชน่ สว่ นของผนังที่ถกู ตดั ยอ่ ให้สน้ั ลงเพ่อื ให้ พอดีกับขนาดของแผ่นงาน ไม่ควรตัดส่วนของแบบที่ จำ�เปน็ ทจ่ี ะตอ้ งแสดงใหเ้ หน็ รายละเอยี ด (รปู ท่ี 8.11) รูปที่ 8.11 เสน้ ตดั ตอน (break lines)• เสน้ ศูนยก์ ลาง (Center Lines) ใชแ้ สดงศนู ย์กลางของเสา คาน ผนงั หรือช่องเปดิ เสน้ ศูนย์กลาง แสดง ด้วยเสน้ บางท่มี จี ุดคั่นเป็นชว่ งๆ• เส้นมิติ (Dimension Lines) แสดงด้วยเสน้ บางเชือ่ มระหว่างเส้นฉาย (extension line) ทใี่ ช้แสดงตำ�แหน่ง เร่ิมต้นและปลายของวัตถุท่ีต้องการแสดงมิติ โดยมีเครื่องหมายกำ�กับปลายเส้นมิติ (terminator mark) แสดงจุดตดั ระหวา่ งเสน้ ฉายและเสน้ มติ ิ เคร่ืองหมายกำ�กับปลายเส้นมติ ิควรใช้เส้นเฉียงในทศิ ทางเดยี วกัน (รปู ที่ 8.12) รูปที่ 8.12 เส้นมติ ิ • เสน้ ทาบตอ่ (Match Lines) แสดงแนวตดั แบง่ สว่ นทตี่ อ่ เนอื่ งกนั ของแบบทแ่ี สดงแยกกนั คนละแผน่ เพราะ ขนาดของแผน่ งานท่ใี ชไ้ ม่สามารถแสดงข้อมูลได้ครบทั้งหมดในแผน่ เดียว ไม่ควรเขยี นเส้นทาบต่อ บรเิ วณ เดยี วกันกบั เส้นแสดงแนวเสา เสน้ กริด หรือบริเวณรอยตอ่ เพ่อื การขยายตวั (expansion joint) ควรเขยี น เส้นทาบต่อที่เส้นแนวก่ึงกลางของผนังหรือทางเดิน เส้นทาบต่อควรเขียนให้ย่ืนเลยออกไปจากบริเวณที่อาษา สมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ www.asa.or.th

บทที่ 8 มาตรฐานการเขยี นแบบก่อสรา้ ง 8-8มาตรฐานรูปลักษณ์การเขียนแบบ ฉบบั ปี พ.ศ. 2554ตอ้ งการให้นำ�แบบมาต่อเขา้ ดว้ ยกนั ควรแสดงสว่ นของแบบทค่ี าบเกย่ี วกนั ที่อยู่ถดั ไปจากเส้นทาบต่อ แบบสว่ นที่คาบเก่ียวกนั น้คี วรแรเงาดว้ ยสอี ่อนให้เหน็ ความแตกตา่ ง เพื่อปอ้ งกนั การประมาณราคาท่ซี ำ้ �ซ้อนกัน(รูปท่ี 8.13) เสน้ ทาบตอ่ ทงั้ หมดควรแสดงไว้ใน key plan ในส่วนของ key plan ควรใสก่ ริดเสาบรเิ วณใกล้กับเส้นทาบตอ่ และบรเิ วณมมุ รปู ท่ี 8.13 เส้นทาบตอ่ และ key plan • เสน้ แสดงส่วนที่ถูกบงั (Hidden Lines) แสดงส่วนทถี่ ูกบงั จากการมองโดยส่วนอื่น ตวั อย่างเชน่ วตั ถทุ ่ี อยเู่ หนือหรือใต้ผังพืน้ ใช้เสน้ ประบางแสดงสว่ นท่ถี กู บัง • เสน้ แสดงแนวเขตที่ดนิ (Property Lines) แสดงขอบเขตของแนวเขตท่ีดิน ใช้เส้นที่คัน่ ด้วยจดุ สองจดุ เปน็ ระยะๆ เพ่อื แสดงแนวเขตทด่ี ินอาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชปู ถัมภ์ www.asa.or.th

บทที่ 8 มาตรฐานการเขียนแบบก่อสรา้ ง 8-9มาตรฐานรูปลกั ษณ์การเขยี นแบบ ฉบับปี พ.ศ. 2554ความหนาของเสน้ การเลือกใช้ความหนาของเส้นท่ีเหมาะสมจะช่วยให้ผู้ใช้แบบเข้าใจแบบได้ง่าย เช่น การใช้เส้นหนาในบริเวณที่ต้องการเน้นองค์ประกอบ สว่ นท่ถี กู ตดั หรอื การใชเ้ สน้ บางในส่วนที่อยู่ไกลออกไป ตารางท่ี 8.2 ให้ข้อแนะนำ� เกี่ยวกับขนาดความหนาของเสน้ ส�ำหรบั การใชง้ านในลักษณะต่างๆตารางที่ 8.2 ความหนาของเสน้ ทีใ่ ช้ความหนาของเสน้ (มม) ข้อแนะน�ำ ในการใช้งานเส้นเลก็ มาก 0.18 แสดงวัสดุ พน้ื ผิว เสน้ แรเงา ลวดลายเสน้ เล็ก 0.25 ตัวอักษร: 3 มม.เสน้ หนาปานกลาง 0.35 เส้นมติ ิ เส้นชี้ เส้นฉาย เสน้ ตดั ตอน เสน้ แสดงวตั ถุท่ีถกู บัง เสน้ ประแบบจุด เสน้ ประแบบขดี เสน้ แสดงระยะถอยรน่ เส้นแนวกงึ่ กลาง เส้นกริด เส้นกรดิ ของตาราง ตัวอักษร: 4 มม. ถึง 10 มม.เส้นหนา เส้นแสดงวตั ถุ เส้นแสดงแนวเขตทด่ี ิน เส้นแสดงขอ้ ความ ตวั อักษร เคร่อื งหมายก�ำกบั ปลายเส้นมติ ิ รูปดา้ นประตแู ละหนา้ ต่าง เสน้ กริดของ ตาราง Schedule ท่ีตอ้ งการเน้น 0.50 ตวั อกั ษร: 6 มม. ถงึ 10 มม.เสน้ หนามาก ชอื่ เร่อื ง เส้นขอบของรูปดา้ นภายในและภายนอก เสน้ ตัด (Cut line) เสน้ แสดงแนวเขตท่ดี ิน เสน้ แสดงแนวตัดของรปู ตดั กรอบของ drawing block 0.70 ตัวอกั ษร: 13 มม. ถึง 25 มม. เส้นทาบตอ่ ช่ือเรอ่ื งทีเ่ ขยี นดว้ ยอกั ษรขนาดใหญ่ footprints กรอบของ title block กรอบของแผ่นงาน เสน้ รอบนอกของ Scheduleที่มา: UCS, Drafting Conventions, p. UDS-04.14อาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ www.asa.or.th

บทท่ี 8 มาตรฐานการเขียนแบบก่อสรา้ ง 8-10มาตรฐานรปู ลกั ษณ์การเขยี นแบบ ฉบบั ปี พ.ศ. 2554มติ ิ (Dimensions) มิติใช้ก�ำหนดระยะระหว่างจุดสองจุด การกำ� หนดมิติของผนงั แต่ละด้านจะต้องอ้างอิงกับตำ� แหน่งท่ีคงที่ เช่นกง่ึ กลางเสาหรอื ผนงั รบั นำ้� หนกั สำ� หรบั รปู ตดั ของผนงั และแบบขยายของผนงั การกำ� หนดระยะความสงู จะอา้ งองิ จากระดบัพน้ื หอ้ ง การกำ� หนดมติ คิ วรแสดงเพยี งครง้ั เดยี วในบรเิ วณทเี่ หมาะสม หลกี เลยี่ งการก�ำหนดมติ ทิ เ่ี กนิ ความจ�ำเปน็ วธิ กี ารก�ำหนดมติ ิมีดังนี้ • ตำ�แหนง่ ควรอยูบ่ ริเวณดา้ นนอกของผังพื้นหรือรูปท่ีกำ�ลังใหม้ ิตอิ ยู่ โดยไว้ทางด้านบนหรอื ทางด้านขวามอื ของผงั ระยะหา่ งระหวา่ งเสน้ มติ คิ วรเทา่ กบั 10 mm. (รปู ที่ 8.14) ในกรณที ตี่ อ้ งแสดงระยะภายในบรเิ วณ ผังพ้นื ควรใช้เสน้ มิตทิ ่ตี ่อเนือ่ งกัน (รปู ท่ี 8.15) รปู ที่ 8.14 การให้มิตขิ องผงั พื้นรอบนอกอาคารอาษา สมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระบรมราชปู ถัมภ์ www.asa.or.th

บทท่ี 8 มาตรฐานการเขียนแบบกอ่ สรา้ ง 8-11มาตรฐานรปู ลักษณก์ ารเขียนแบบ ฉบบั ปี พ.ศ. 2554 รูปท่ี 8.15 การใหม้ ติ ขิ องผังพน้ื ภายในอาคาร • เครื่องหมายกำ�กับปลายเส้นมิติ เครื่องหมายกำ�กับปลายเส้นมิติแสดงตำ�แหน่งที่ตัดกันของเส้นมิติและ เส้นฉาย เขียนโดยใช้เส้นเฉยี งส้ัน ควรเขยี นใหข้ นานกนั เสมอ • ขนาดของตัวเลขและตำ�แหน่ง ควรให้พอเหมาะกับขนาดของตัวหนังสือท่ีแสดงในแบบ ตัวเลขควรวางท่ี ตำ�แหน่งก่ึงกลางและอยู่ด้านบนของเส้นมิติ ถ้าเส้นมิติมีขนาดสั้นไม่พอที่จะใส่ระยะตัวเลขบนเส้นมิติ ให้ แสดงตัวเลขไว้ดา้ นขา้ ง ในกรณที ค่ี วามยาวของเสน้ มิตนิ ้ันไม่ตรงกับค่าตัวเลขท่บี อกระยะใหเ้ ขียนกำ�กับวา่ NTS (Not To Scale) • ลำ�ดบั ขน้ั ของการใหม้ ติ ิ การใหม้ ติ คิ วรมลี ำ�ดบั ขน้ั เชน่ การใหม้ ติ ขิ องผงั หรอื รปู ดา้ น ควรเรมิ่ จากการกำ�หนด มติ โิ ดยรวมทงั้ หมด ตามดว้ ยกรดิ โครงสรา้ งหรอื ความสงู ระหวา่ งชน้ั ถงึ ชนั้ และขอ้ มลู เฉพาะเชน่ ตำ�แหนง่ ของ หนา้ ตา่ งและผนังกั้นห้อง หรอื ความสูงขององค์ประกอบตา่ งๆ ของอาคาร (รูปท่ี 8.16) อาษา สมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระบรมราชปู ถัมภ์ www.asa.or.th

บทท่ี 8 มาตรฐานการเขียนแบบกอ่ สร้าง 8-12มาตรฐานรปู ลักษณ์การเขยี นแบบ ฉบบั ปี พ.ศ. 2554 รปู ที่ 8.16 ลำ� ดับขนั้ ของการให้มติ ิของผังและรูปตดั มิติของผัง (Plan Dimensions) อาคารโครงสรา้ งเหลก็ และคอนกรตี เสรมิ เหลก็ อดั แรงโดยทวั่ ไป จะกำ� หนดระยะระหวา่ งเสน้ ศนู ยก์ ลางเสาถงึ เสน้ ศูนย์กลางเสา และระยะจากก่งึ กลางเสาริมสดุ ไปยงั ขอบนอกของอาคาร รปู ท่ี 8.17 สำ� หรับอาคารหลายชัน้ ซง่ึ ทำ� ดว้ ย โครงสร้างคอนกรีต ส่วนของเสาท่ีอยู่รอบนอกอาจก�ำหนดระยะโดยอ้างอิงจากขอบของเสาด้านนอกแทนท่ีจะเป็นแนว ก่ึงกลางเสา ถ้าความลึกของเสานน้ั มีขนาดท่ีลดลงในช้ันที่สูงข้ึนไป ในขณะที่กรอบของอาคารยังคงอยู่ในแนวเดิม รูปที่ 8.18อาษา สมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระบรมราชปู ถัมภ์ www.asa.or.th

บทที่ 8 มาตรฐานการเขยี นแบบกอ่ สรา้ ง 8-13มาตรฐานรูปลักษณ์การเขยี นแบบ ฉบับปี พ.ศ. 2554รปู ที่ 8.17 การให้มติ ิระบบโครงสรา้ งเสาคอนกรีต รูปท่ี 8.18 การใหม้ ติ ิระบบโครงสร้างเหลก็ การให้มติ ิของผนงั มวี ธิ ีการที่แตกต่างกนั 3 วิธีดังนี้คอื • ผวิ ของวสั ดุ การให้มติ ิกำ�หนดจากผิวของวัสดุ (เชน่ โครงเครา่ คอนกรตี วัสดกุ ่อ) โดยเร่มิ จากผิวของวสั ดุ ท่อี ย่ทู างดา้ นซา้ ยสุดหรือทางดา้ นล่างของผงั พน้ื ใหม้ ติ ติ ่อเนอ่ื งไปและจบลงทผ่ี ิวของวสั ดุอีกดา้ นหน่งึ การ ใหม้ ิติอาจใช้คา่ “±” เพ่ือเผ่อื ค่าความคลาดเคลอ่ื นในการกอ่ สรา้ ง (รูปที่ 8.19) สำ�หรับวสั ดุก่อ การให้ มติ ิควรเป็นค่าทวคี ณู ของหน่วยวัสดุกอ่ เพอื่ ลดการตดั วสั ดุในงานกอ่ สรา้ ง รูปท่ี 8.19 การใหม้ ิตจิ ากผวิ ของโครงคร่าว คอนกรตี หรอื ผนงั กอ่ อิฐอาษา สมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระบรมราชปู ถัมภ์ www.asa.or.th

บทที่ 8 มาตรฐานการเขียนแบบก่อสร้าง 8-14มาตรฐานรูปลกั ษณก์ ารเขยี นแบบ ฉบบั ปี พ.ศ. 2554• แนวกง่ึ กลาง การใหม้ ติ กิ ำ�หนดจากแนวกงึ่ กลางของวตั ถุ เชน่ ผนงั สว่ นกนั้ หนา้ ตา่ งและประตู วธิ นี มี้ คี วาม คลอ่ งตวั เมอ่ื ขนาดขององคป์ ระกอบตา่ งๆ มกี ารเปลยี่ นแปลงไประหวา่ งการทำ�แบบหรอื การกอ่ สรา้ ง (รปู ที่ 8.20) รูปที่ 8.20 การให้มติ ิจากก่งึ กลางผนงั • ผวิ สำ�เรจ็ การใหม้ ติ กิ ำ�หนดจากผวิ สำ�เรจ็ วธิ กี ารนเี้ หมาะสมสำ�หรบั งานปรบั ปรงุ ใหมแ่ ละงานตกแตง่ ภายใน อาคาร ซง่ึ ทราบวสั ดขุ องผวิ สำ�เรจ็ หรอื ผวิ สำ�เรจ็ มคี วามสำ�คญั การใหม้ ติ ริ ะหวา่ งผวิ สำ�เรจ็ โดยมคี ำ�วา่ “clear” นำ�หนา้ หมายความวา่ ระยะระหวา่ งผวิ สำ�เรจ็ ทง้ั สองดา้ นจะตอ้ งมขี นาดไมน่ อ้ ยกวา่ ระยะทก่ี ำ�หนดไว้ แตอ่ าจ มากกวา่ ได้ (รูปท่ี 8.21) รูปท่ี 8.21 การใหม้ ิตจิ ากผวิ สำ�เรจ็ ของผนังอาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถมั ภ์ www.asa.or.th

บทที่ 8 มาตรฐานการเขียนแบบก่อสร้าง 8-15มาตรฐานรปู ลกั ษณ์การเขยี นแบบ ฉบบั ปี พ.ศ. 2554การใหม้ ติ ิในแนวด่ิง (Vertical Dimensions) ก่อนการวางต�ำแหน่งของตัวอาคารในท่ีกอ่ สรา้ ง จะตอ้ งกำ� หนดจดุ เรม่ิ ตน้ สำ� หรบั การใหม้ ติ ใิ นแนวด่ิง โดยอาจอา้ งองิ จากหมุดระดับ (benchmark)หรอื ขอบถนนท่มี อี ยู่ • การให้มิติในรูปตัดอาคารและรูปด้าน เขียนเส้นฉายแสดงระดับของพ้ืนของ แต่ละช้ัน และเขียนเส้นในแนวดิ่งที่ เช่ือมระหว่างเส้นระดับของพ้ืน ให้มิติ ของพืน้ แตล่ ะชน้ั (รูปที่ 8.22) รูปที่ 8.22 การใหม้ ติ ิในแนวดิ่งของรูปด้านหรอื รปู ตัดอาคาร • การให้มิตริ ปู ตดั ผนังและแบบขยายรปู ตัด เส้นมติ ิจะวางไวด้ า้ นนอกของผนัง สำ�หรบั รปู ตัดผนงั จะประกอบ ด้วยเส้นมิติสองเส้นหลัก เส้นแรกจะวางไว้ใกล้กับตัวอาคารเพ่ือบอกขนาดช่องเปิดและส่วนบนสุดของ พ้ืน ส่วนเส้นท่ีสองแสดงความสูงจากพื้นถึงพ้ืน ไม่ควรให้ระยะความสูงรวมของอาคารท่ีได้แสดงไว้แล้วใน รูปตดั อาคาร หรอื ทไี่ ด้ระบไุ ว้แลว้ ใน Room Finish Schedule สำ�หรบั แบบขยายรูปตดั (section detail) ให้ใส่รายละเอียดของระยะที่ไม่ได้ระบุไว้ในแบบอื่นๆ ที่กล่าวมาก่อนหน้าน้ี และควรจะมีการวางทิศทาง เช่นเดียวกันรปู ตดั ผนงั (ดูรปู ท่ี 8.37 ประกอบ)สญั ลกั ษณข์ องวสั ดุ (Material Indications Symbols) การแสดงสญั ลกั ษณข์ องวัสดุ เพอ่ื บง่ บอกวสั ดทุ ีใ่ ชแ้ ละขอบเขตท่ใี ช้ ไม่จำ� เป็นท่จี ะต้องแสดงสญั ลกั ษณ์วสั ดลุ งไปในพนื้ ทแี่ บบท้ังหมด แสดงวสั ดุเฉพาะรอบๆ ขอบของพื้นทีห่ รอื ที่ปลายท้งั สองด้าน แสดงสัญลกั ษณ์วัสดเุ ตม็ พื้นทเี่ ฉพาะในกรณที ต่ี อ้ งการจะทำ� ลวดลายของวสั ดใุ นบรเิ วณนนั้ เปน็ พเิ ศษ ไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งแสดงสญั ลกั ษณว์ สั ดุ ถา้ พน้ื ทท่ี งั้ หมดนน้ั ทำ�ด้วยวัสดอุ ย่างเดียวกันและไม่มีลวดลาย ผังพื้นหรือรูปตัดท่ีเขียนด้วยมาตราส่วนขนาดเล็กควรใช้สัญลักษณ์ของวัสดุท่ีไม่แสดงรายละเอียดมากเกินไปเพื่อท�ำให้แบบไม่ดูสับสน ส่วนแบบขยายผังพ้ืนที่เขียนด้วยมาตราส่วนขนาดใหญ่ควรใช้สัญลักษณ์วัสดุท่ีมีรายละเอียดพอสมควรเพ่ือแสดงวัสดุและขนาดได้ชัดเจน ในส่วนของรูปด้านภายนอกและภายในและรูปตดั โดยทั่วไปควรแสดงสัญลกั ษณว์ สั ดุทใ่ี ช้ (รปู ที่ 8.23 8.24) นอกเหนือจากการแสดงสัญลักษณ์วสั ดแุ ลว้ ควรมีการใชเ้ ส้นชโี้ ยงบอกวสั ดุทใ่ี ชเ้ พอ่ื ความชัดเจนอาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชปู ถัมภ์ www.asa.or.th

บทท่ี 8 มาตรฐานการเขยี นแบบกอ่ สร้าง 8-16มาตรฐานรปู ลักษณก์ ารเขยี นแบบ ฉบบั ปี พ.ศ. 2554รปู ที่ 8.23 การแสดงสัญลักษณ์วัสดุท่ีใช้ในรปู ตัด รปู ที่ 8.24 การแสดงสัญลักษณ์วัสดุที่ใช้ในรูปดา้ นคำ�อธิบายเพิ่มเติม (Notations) คำ� อธิบายเพมิ่ เติม มีไว้เพ่อื ให้ขอ้ มูลตา่ งๆ ท่ีเก่ียวเนื่องกับแบบ เชน่ วสั ดุ องคป์ ระกอบ ชิน้ สว่ น การดำ� เนนิ การตามความตอ้ งการในการออกแบบ คำ� อธบิ ายเพมิ่ เตมิ ควรใชค้ ำ� ทส่ี น้ั กระชบั เปน็ คำ� ทใ่ี ชก้ นั ทวั่ ไป ใชค้ ำ� ยอ่ เทา่ ทจี่ ำ� เปน็ ในกรณที ่ีเป็นค�ำศัพท์เฉพาะทางควรเลือกใช้คำ� ให้สอดคล้องกันตลอดทั้งชุดของแบบ และไม่ควรแสดงคำ� อธิบายเพิ่มเติมท่ีซำ�้ ซอ้ นกนั ข้อความท่ใี ช้ในตาราง Schedules และแผนภาพ ควรจะสนั้ และเข้าใจไดง้ ่ายการตง้ั ชือ่ ช้นั พืน้ ทีใ่ ชส้ อยและวตั ถุ หลักในการตั้งช่ือชั้น พ้ืนที่ใช้สอยและวัตถุ เพื่อใช้อ้างอิงถึงใน Schedule และในรายการประกอบแบบ(specification) มีดังนี้ ชอื่ ชนั้ : การใหล้ ำ� ดบั หมายเลขของแตล่ ะชนั้ ในแบบผงั พนื้ มหี ลกั การดงั นค้ี อื ในสว่ นของพน้ื ชนั้ ลา่ ง (ground floor) กำ� หนดให้เป็นชั้นท่ีหนง่ึ ชั้นที่มีผู้ใช้งานท่ีอยู่เหนือช้ันแรกให้เรียงล�ำดับหมายเลขท่ีเพิ่มขึ้น ส่วนช้ันท่ีอยู่ใต้ชั้นท่ีหนงึ่ ให้ช่ือ “B1”ให้หมายเลขของช้นั ลอย (mezzanine) ที่มีขนาดและทางออกจำ� กดั วา่ (M1, M2) ส่วนชั้นลอยท่มี ีขนาดใหญ่ขนึ้ การให้หมายเลขให้นับรวมอยู่ในสว่ นของระบบหมายเลขชน้ั ส่วนชัน้ ที่เหมอื นกนั ในอาคารหลายช้นั ใหใ้ ช้ “Typical Floor Plan”และระบหุ มายเลขวา่ ประกอบด้วยชนั้ อะไรบ้างอาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถมั ภ์ www.asa.or.th

บทท่ี 8 มาตรฐานการเขยี นแบบก่อสรา้ ง 8-17มาตรฐานรปู ลักษณก์ ารเขยี นแบบ ฉบบั ปี พ.ศ. 2554 พนื้ ท่ีใช้สอย: • ห้อง การระบชุ ื่อห้องควรจะสัมพันธก์ บั หมายเลขชั้นของหอ้ งน้นั การใหห้ มายเลขหอ้ งควรเริ่มจากจดุ ทเี่ ข้า ถึงได้สะดวกที่สุดของชั้น ตัวอย่างเช่น ห้องแรกท่ีอยู่ทางด้านขวามือของลิฟท์หลักหรือบันไดหลักของชั้นที่ สอง ควรใช้ช่ือ 201 ชือ่ ห้องควรเรยี งลำ�ดบั วนตามเขม็ นาฬิกาไปรอบๆ อาคาร • บันได บันไดของอาคารในช้ันท่ีหนึ่ง (first floor) ซ่ึงเป็นบันไดหลักที่สำ�คัญและสามารถรองรับจำ�นวนผู้ ใชส้ อยไดม้ ากทสี่ ดุ ตงั้ ชอื่ เปน็ “บนั ได 1” ใหห้ มายเลขของบนั ไดเรยี งลำ�ดบั วนตามเขม็ นาฬกิ า ใหใ้ ชห้ มายเลข บนั ไดเดยี วกนั ตลอดความสงู ของบนั ไดทง้ั หมด บนั ไดทอี่ ยเู่ หนอื หรอื ใตช้ นั้ ที่ 1 ทไ่ี มไ่ ดเ้ ชอ่ื มตอ่ กบั ชนั้ แรกจะ ใหห้ มายเลขถดั จากหมายเลขบนั ไดทีเ่ ช่ือมต่อกับชน้ั ทห่ี น่ึง ถ้ามบี ันไดหลักอย่หู ลายบนั ได การใหห้ มายเลข จะเรยี งตามลำ�ดบั ความสำ�คญั ของบนั ไดทจี่ ะไปสทู่ างออกหลกั ของอาคาร บนั ไดเพม่ิ เตมิ อนื่ ๆ ใชห้ ลกั การให้ หมายเลขตามท่กี ลา่ วมา • พ้ืนท่ีใชส้ อยภายนอก ระเบียง เฉลยี งมุข เฉลียง และเฉลยี งมขุ รถ พืน้ ที่แต่ละส่วนทีก่ ลา่ วมานถี้ า้ มีอยา่ ง ละมากกว่าหน่งึ จะต้องใหห้ มายเลขกำ�กับ • ลฟิ ท์ ลฟิ ทท์ อ่ี ยใู่ กลก้ ับทางเข้าของอาคารซง่ึ มปี รมิ าณการเข้าออกมากทสี่ ุดต้งั ชอ่ื เปน็ “ลฟิ ท์ 1” ลิฟทอ์ ่ืนๆ ภายในโถงลฟิ ท์ นอกเหนือจากนใี้ หห้ มายเลขของลฟิ ทว์ นตามเขม็ นาฬิกา • ช่องท่อ (Shaft) ท่ีอยู่ใกล้กับทางเข้าของอาคารท่ีมีปริมาณการเข้าออกมากที่สุดต้ังช่ือเป็น “ช่องท่อ 1” ชอ่ งทอ่ อ่ืนๆ นอกเหนือจากน้ี ให้หมายเลขช่องท่อวนตามเข็มนาฬิกา วัตถุ (Objects) • ประตู การตงั้ ช่อื ประตูในกรณที หี่ ้องมีเพียงประตเู ดียว หมายเลขของประตูจะเปน็ หมายเลขเดยี วกนั กับชอ่ื หอ้ ง ถา้ มปี ระตมู ากกวา่ หนงึ่ บานในหอ้ ง ชอื่ ประตจู ะใชห้ มายเลขหอ้ งตามดว้ ยตวั อกั ษร โดยเรยี งวนตามเขม็ นาฬกิ าเริ่มจากประตูท่ีเขา้ จากทางเดนิ (corridor) ตวั อยา่ งเชน่ หอ้ งหมายเลข 205 ประตูทางเขา้ ห้องดัง กลา่ วจากทางเดินกำ�หนดใหม้ หี มายเลข 205A ประตบู านทส่ี องมีหมายเลข 205B และประตูบานทส่ี าม มีหมายเลข 205C • หนา้ ต่างและบานเกลด็ แต่ละประเภทจะตอ้ งมีชอื่ เฉพาะ • เฟอร์นเิ จอร์และอปุ กรณ์ ให้ใช้ตัวอักษรและหมายเลขกำ�กับบนเฟอรน์ ิเจอร์และอปุ กรณ์แตล่ ะชน้ิ ทแี่ สดง ในผัง พรอ้ มทงั้ มคี ำ�อธิบายสญั ลกั ษณ์ (legend) ประกอบ รูปแบบของตวั หนังสือและข้อความ ขนาดตวั หนงั สือทเ่ี ล็กท่ีสุดสำ� หรบั การเขียนด้วยมือคือ 3.2 mm สำ� หรับการเขียนดว้ ย CAD ขนาดท่เี ลก็ ทีส่ ดุ คอื 2.4 mm ขนาดตัวหนงั สือทเี่ ลก็ กว่านจี้ ะอา่ นไดย้ ากถ้ามกี ารยอ่ ขนาดลงคร่งึ หนง่ึ ในสว่ นของขอ้ ความ (note) ไมค่ วรใช้ เส้นหนา ตัวเอียง หรือขีดเส้นใตต้ วั อักษรอาษา สมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระบรมราชูปถมั ภ์ www.asa.or.th

บทที่ 8 มาตรฐานการเขยี นแบบกอ่ สร้าง 8-18มาตรฐานรปู ลกั ษณ์การเขียนแบบ ฉบบั ปี พ.ศ. 2554ช่ือของแบบ (Drawing Identification) แบบทุกแบบควรจะมีช่ือเฉพาะส�ำหรับแบบนั้นๆ แบบท่ีเขียนบางส่วนอาจต้องมีการอ้างอิงไปยังแบบหรือภาพที่อยู่ในแผ่นงานอ่ืนเพ่ือแสดงรายละเอียดเพิ่มเติมการอ้างอิงท�ำได้โดยการระบุหมายเลขแบบและแผ่นงานที่แบบน้ันปรากฎอยู่ (รูปที่8.25) รูปท่ี 8.25 ช่อื ของแบบและการอ้างอิงแบบขยาย ประเภทของแผน่ งาน (Sheet Types) แบบท่ีแสดงในแผน่ งานแบ่งออกเปน็ แบบท่ีมมี าตราสว่ นและแบบท่ไี ม่มมี าตราส่วน แบบทมี่ มี าตราสว่ น ไดแ้ ก่ ผัง รปู ด้าน รูปตัด แบบขยายผงั พ้ืน และแบบแสดงรายละเอียด (details) ส่วนแบบทไี่ มม่ มี าตราสว่ น ได้แก่ แผนภาพ (diagram) แบบสามมิติ และ schedule ประเภทของแบบแบง่ ได้เป็น 10 ประเภทดงั นค้ี ือ ประเภทที่ 0 - ข้อมลู ทัว่ ไป ประเภทท่ี 1 - ผัง ประเภทท่ี 2 - รูปดา้ น ประเภทที่ 3 - รปู ตดั ประเภทท่ี 5 - แบบขยายรายละเอียด ประเภทท่ี 6 - Schedule และแผนภาพ ประเภทท่ี 7 - ผใู้ ช้กำ� หนดขนึ้ เอง ประเภทท่ี 8 - ผู้ใช้กำ� หนดข้นึ เอง ประเภทที่ 9 – แบบสามมติ ิอาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ www.asa.or.th

บทท่ี 8 มาตรฐานการเขียนแบบก่อสรา้ ง 8-19มาตรฐานรูปลักษณก์ ารเขยี นแบบ ฉบบั ปี พ.ศ. 2554 ประเภทท่ี 0- ขอ้ มลู ทัว่ ไป แผ่นงานส่วนนจี้ ะอยู่ในส่วนแรกของชุดของแบบ โดยแสดงข้อมูลเกี่ยวกับ ดัชนีแบบ (drawing index) วัสดุคำ� อธบิ ายสัญลักษณ์ (legends) คำ� ยอ่ ทศิ แผนที่แสดงต�ำแหน่งของโครงการ และขอ้ มลู สว่ นอืน่ ๆ ที่เกย่ี วข้อง ประเภทที่ 1 – ผัง ผังของแตล่ ะสาขาประกอบด้วย ผังงานโยธา ผงั งานภมู ิทัศน์ ผงั งานโครงสร้าง ผงั งานสถาปัตยกรรม ผังงานตกแต่งภายใน ผังการป้องกนั เพลงิ ไหมแ้ ละผังการเดนิ ท่อ องคป์ ระกอบทวั่ ไปของผงั นอกเหนือจากการแสดงรายละเอียดท่เี กยี่ วข้องของผังแต่ละประเภทแล้ว ควรมีรายละเอียดอืน่ ๆ เชน่ มาตราส่วน เสน้ กรดิ เสา เส้นมิติ ทศิ Key Plan (ถ้ามีการใช)้ การอา้ งองิ ไปยังแบบส่วนอื่นๆ เชน่ การอา้ งอิงไปยังรูปตัด (รปู ที่ 8.26) รปู ดา้ น และแบบขยาย การอา้ งองิ ถงึ รปู ดา้ นภายนอกและรปู ดา้ นภายใน ใหใ้ สช่ อ่ื ของรปู ดา้ นสอดคลอ้ งกบั ทศิทีแ่ สดงไวใ้ นผัง (รูปท่ี 8.27) รปู ที่ 8.26 การแสดงแนวตัดในผัง รูปที่ 8.27 การตั้งช่อื รปู ดา้ นภายนอกและภายในอาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชปู ถัมภ์ www.asa.or.th

บทท่ี 8 มาตรฐานการเขยี นแบบก่อสรา้ ง 8-20มาตรฐานรูปลกั ษณ์การเขียนแบบ ฉบบั ปี พ.ศ. 2554 ประเภทที่ 2 – รูปดา้ น รูปดา้ นภายนอก แบบแสดงรูปด้านภายนอก นอกจากส่วนแสดงรายละเอียดของรูปด้านภายนอกอาคารแล้วควรประกอบดว้ ย กรดิ เสา มาตราสว่ น มติ จิ ากพน้ื ถงึพื้น เส้นทาบต่อ Key Plan (ถ้ามี) ประเภทและขอบเขตของวสั ดุ ชอ่ งเปดิ ลวดลาย การอา้ งองิ ถงึ แบบขยาย ส�ำหรับโครงการขนาดเล็กสัญลักษณ์แสดงประเภทของหน้าต่าง รูปตัดของอาคาร และรูปตัดผนงั อาจแสดงไว้ในผัง ส�ำหรับโครงการขนาดกลางและใหญ่ รปู ตดั ผนงั และสญั ลกั ษณป์ ระเภทหนา้ ตา่ งอาจแสดงไวใ้ นรปู ด้าน (รปู ที่ 8.28) รูปท่ี 8.28 ตวั อย่างของรูปด้านท่มี ีการแสดงสญั ลักษณ์ทงั้ หมด แนวรูปตัดอาจแสดงในผังหรือในรูปด้าน แต่แนวรูปตัดท่ีแสดงในผังจะช่วยให้อ่านแบบได้ง่ายกว่า การแสดงสญั ลกั ษณอ์ า้ งองิ ถงึ รปู ตดั ควรแสดงทผี่ งั หรอื รปู ดา้ น แตไ่ มค่ วรแสดงทงั้ สองที่ ในกรณที แี่ ผน่ งานทแ่ี สดงผงั มกี ารแสดง KeyPlan ควรใส่ Key Plan ในแบบรปู ด้านด้วย รวมท้ังเขยี นสญั ลกั ษณร์ ะบุตำ� แหนง่ ของรปู ดา้ นทแ่ี สดงในแผ่นงาน แสดงเสน้ทาบต่อ (Match line) ในรูปด้านในต�ำแหน่งเดียวกบั ที่แสดงในผงั (รปู ท่ี 8.29) รูปที่ 8.29 การแสดงสญั ลกั ษณ์ของรปู ด้านบริเวณ key plan เพ่ือบอกต�ำแหน่งของรูปด้านที่แสดงในแบบลวดลายของผนงั ในส่วนท่ีแตกต่างจากธรรมดา จะต้องแสดงระยะ และมีการอา้ งอิงถงึ แบบขยาย ควรแสดงเส้นประในสว่ นท่ีถูกบัง แสดงรอยต่อตา่ งๆ เช่น รอยต่อในระบบผนงั ส�ำเร็จรปู การแสดงวสั ดทุ �ำไดโ้ ดยการวาดเสน้ แรเงาทข่ี อบของพน้ื ทเ่ี พอื่ แสดงขอบเขต (รปู ที่ 8.24) เสน้ แรเงาจะตอ้ งเขม้ พอทย่ี งั คง เหน็ ได้ชัดเจน เมื่อน�ำไปท�ำส�ำเนาหรือเมื่อย่อขนาดลงครง่ึ หนง่ึอาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถมั ภ์ www.asa.or.th

บทท่ี 8 มาตรฐานการเขียนแบบกอ่ สรา้ ง 8-21มาตรฐานรปู ลักษณ์การเขียนแบบ ฉบับปี พ.ศ. 2554 การเขยี นรปู ดา้ นโดยทว่ั ไปทำ� ไดโ้ ดยการฉายเส้นลงมาโดยตรงจากผัง แม้แต่ในส่วนพื้นผิวที่เอียงหรือหรือโคง้ อย่างไรกต็ ามวิธีนี้ไม่เหมาะสำ� หรับการท�ำแบบพัฒนาหรือแบบก่อสร้าง รูปด้านของผิวโค้งควรจะแสดงเสมือนว่าเป็นพื้นผิวเรียบและให้ระบุว่า“straightened” แนวทางเดียวกันน้ีให้ใช้กับส่วนของอาคารที่เป็นมุมกับรูปด้านหลัก โดยให้ระบุว่า“unfolded” (รูปที่ 8.30) การเขียนรูปด้านในลกั ษณะนแ้ี สดงขนาดของชอ่ งเปดิ และสงิ่ อน่ื ๆ ในแบบตามระยะท่เี ป็นจริง รปู ท่ี 8.30 การแสดงรูปดา้ นทใ่ี ชส้ �ำหรับช่วงการท�ำงานท่ีแตกต่างกนั รปู ดา้ นภายใน (Interior Elevations) รปู ดา้ นภายในแสดงรายละเอยี ดภายในของพนื้ ทใี่ ชส้ อย เชน่ วสั ดผุ นงั ผนงั กนั้ ทางเขา้ ออกและขนาด ชอ่ งระบายอากาศ บานเกล็ด แผงสวิทซไ์ ฟฟา้ ช่องเจาะผ่านสำ� หรบั ทอ่ ขนาดใหญ่ ประตแู ละดวงไฟ มิตใิ นแนวตั่ง มิตใิ นแนวนอน(ถ้าไม่ได้แสดงในผัง) เตา้ รบั สำ� หรับอุปกรณไ์ ฟฟ้า ตูเ้ ก็บอุปกรณด์ บั เพลิง เฟอร์นิเจอร์ สุขภัณฑ์ รอยต่อต่างๆ เชน่ รอยต่อเผอ่ื ขยาย เปน็ ต้น (รปู ท่ี 8.31) รปู ท่ี 8.31 การให้มติ แิ ละการระบวุ สั ดุในรูปดา้ นภายในอาษา สมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ www.asa.or.th

บทที่ 8 มาตรฐานการเขยี นแบบกอ่ สรา้ ง 8-22มาตรฐานรปู ลักษณ์การเขียนแบบ ฉบบั ปี พ.ศ. 2554 ประเภทท่ี 3 – รูปตัด รปู ตดั อาคาร รปู ตดั อาคารโดยทว่ั ไปจะเขยี นโดยใชม้ าตราสว่ นเดยี วกนั กบั ผงั พนื้ รปู ตดั อาคารไมค่ วรแสดงรายละเอยี ดของผนงัภายนอก เนอื่ งจากแบบขยายผนงั ภายนอกจะแสดงรายละเอยี ดเหล่านน้ั รวมทง้ั ไม่ควรใหม้ ีการซ�้ำซ้อนกันของการอา้ งองิไปยังแบบขยายรายละเอยี ด ส่ิงที่ควรแสดงในรูปตดั อาคาร ได้แก่ Key Plan มาตราส่วน กริดเสา เส้นทาบตอ่ เบอร์ห้องมิตริ ะหวา่ งพืน้ ถึงพน้ื พ้นื ท่ีปรบั ระดบั ฝ้าเพดาน ผนงั ที่ถูกตัดผ่าน และสญั ลักษณ์วสั ดุท่ีใช้ เปน็ ตน้ รูปตัดผนงั รปู ตัดผนงั ควรอา้ งอิงถึงแบบขยายของบรเิ วณตา่ งๆ เชน่ สว่ นบนของหนา้ ต่างและธรณหี น้าตา่ ง ขอบกันตก รปูตดั ผนงั ไมค่ วรแสดงขอ้ มลู ซำ้� ซอ้ นกนั กบั สว่ นทแี่ สดงแลว้ ในแบบขยายรายละเอยี ด ในกรณที มี่ กี ารเขยี นรปู ตดั ผนงั มากกวา่หนง่ึ รูปในแผ่นงานเดียวกัน ให้ใช้เส้นระดับพื้นเดียวกัน ควรเขียนรูปตัดผนงั ภายนอกอาคารโดยใช้มาตราส่วนท่ีทำ� ให้สามารถแสดงรูปตัดได้โดยไมต่ ้องมเี สน้ ตดั ตอน (break line) ควรมีลำ� ดับข้ันของการใหร้ ะยะ เพื่อไมใ่ หเ้ กิดการซ้�ำซ้อนกันของข้อมูลทแี่ สดงในสว่ นของรูปตัดอาคาร รูปตัดผนงั และแบบขยายรูปตดั (รปู ท่ี 8.32) สิง่ ที่ควรแสดงในรูปตดั ผนงัไดแ้ ก่ วสั ดุและผวิ ตกแตง่ ทงั้ ภายในและภายนอก การอ้างองิ แบบขยาย ระดบั พ้นื ระยะจากพน้ื ถึงพืน้ เส้นโครงร่างของอุปกรณ์ทส่ี ร้างในที่ที่ตดิ อยูก่ ับผนงั บานเกล็ด ชอ่ งระบายอากาศ และแนวการก่ออฐิ เป็นต้น รูปท่ี 8.32 ลำ� ดับข้ันในการใหม้ ิติของรปู ตัดอาษา สมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ www.asa.or.th

บทที่ 8 มาตรฐานการเขยี นแบบกอ่ สร้าง 8-23มาตรฐานรูปลกั ษณก์ ารเขยี นแบบ ฉบับปี พ.ศ. 2554 ประเภทที่ 4 – แบบขยาย แบบขยาย คือแบบที่เขียนโดยใช้มาตราส่วนท่ีใหญ่ขึ้นเพ่ือแสดงรายละเอียดท่ีไม่สามารถแสดงได้ในแบบมาตราสว่ นทีเ่ ล็กกวา่ แบบขยายผงั พ้ืน เขยี นเสน้ ประรอบบริเวณพ้นื ทีห่ รือหอ้ งทีต่ ้องการขยายเพื่อแสดงรายละเอยี ดและระยะท่ีครอบคลมุ มากขนึ้ เชน่สว่ นของบนั ได หอ้ งนำ�้ ชอ่ งลฟิ ท์ และหอ้ งเครอื่ งและไฟฟา้ ไมค่ วรแสดงขอ้ มลู ทซี่ ้�ำซอ้ นกนั กบั ทแี่ สดงในผงั ทใ่ี ชม้ าตราสว่ นเลก็ กว่า ยกเวน้ ชื่อห้อง หมายเลข ประเภทของผนงั กน้ั หอ้ ง และกรดิ เสาทใี่ ช้สำ� หรับอ้างองิ ต�ำแหน่ง ควรแสดงระยะโดยรวมของบริเวณท่ีจะเขยี นแบบขยาย แบบขยายสำ� หรบั ชอ่ งลฟิ ท์ กรณที มี่ บี นั ไดทใี่ ชเ้ ปน็ ทางขนึ้ ลงหลมุ ลฟิ ท์ (pit) หรอื มี sump pit ควรแสดงในแบบขยายด้วย แบบขยายผงั หอ้ งนำ�้ แสดงอปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นหอ้ งนำ้� ระยะแสดงความกวา้ งและความยาวของการแบง่ สว่ นของหอ้ งนำ้�และระยะของผนงั โดยรอบ ใหร้ ะยะเสน้ ศูนยก์ ลางของสุขภณั ฑท์ ่โี ยงไปยงั จดุ คงท่ี (fixed point) ดภู าพท่ี 8.33 รูปที่ 8.33 ตวั อยา่ งผงั หอ้ งนำ้� ท่ีแสดงมิติ การระบุสขุ ภัณฑ์ และการอา้ งอิงรูปดา้ นอาษา สมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ www.asa.or.th

บทที่ 8 มาตรฐานการเขียนแบบกอ่ สร้าง 8-24มาตรฐานรูปลักษณ์การเขยี นแบบ ฉบับปี พ.ศ. 2554 แบบขยายผังบันได ผังบันไดชั้นแรกควรเขียนไว้ทางด้านล่างของแผ่นงาน โดยเขียนผังบันไดชนั้ ถดั มาทางดา้ นบนเรยี งตามลำ� ดบั ชนั้ แสดงราวจบัราวกนั ตก จมกู บันได แสดงระยะโดยรวม จำ� นวนข้ันบันได ความกว้าง ความยาวของแต่ละข้ันบันไดในแต่ละช่วงพาด และต�ำแหน่งของโครงสร้างที่รองรับ(รปู ท่ี 8.34) รปู ท่ี 8.34 ผงั บันได รปู ตดั บนั ได รปู ตดั บนั ไดควรจะโยงไปยงั กรดิ อา้ งองิ เชน่หมายเลขเสา แสดงความสงู จากพ้นื ถึงพืน้ จำ� นวนและความสงู ของลูกตัง้ ตำ� แหน่งของอุปกรณ์ดับเพลงิที่อยูภ่ ายในบันได การอา้ งอิงถงึ แบบขยาย เช่น แบบขยายในส่วนของราวจับและราวกันตก ควรเขียนรูปตัดบันไดบริเวณใกล้กับผังบันไดที่เกี่ยวข้อง ไม่ควรแสดงรายละเอยี ดเกินความจำ� เป็น เชน่ รายละเอียดของราวบนั ไดทีเ่ หมอื นกนั ทกุ ๆ ช้ัน ควรแสดงเฉพาะทสี่ ว่ นบนและลา่ งของบนั ได และต�ำแหนง่ ทร่ี าวบนั ไดมลี กั ษณะทตี่ า่ งออกไป ในกรณที อี่ าคารมหี ลายชนั้ ไม่ควรเขียนบันไดที่เหมือนกันซ้�ำๆ ถึงแม้ว่าจะมีเนื้อท่ีกระดาษท่เี พยี งพอ (รูปท่ี 8.35) รปู ที่ 8.35 รูปตดั บนั ไดอาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชปู ถัมภ์ www.asa.or.th

บทที่ 8 มาตรฐานการเขยี นแบบก่อสรา้ ง 8-25มาตรฐานรูปลักษณก์ ารเขียนแบบ ฉบับปี พ.ศ. 2554 รูปตัดปล่องลฟิ ท์ รปู ตดั ของปลอ่ งลฟิ ทค์ วรแสดงหลมุ ลฟิ ท์ (elevator pit) ความสงู ของประตู บนั ไดทล่ี งไปสหู่ ลมุ ลฟิ ท์ (pit ladder)dry sump (ถา้ ตอ้ งม)ี และชอ่ งระบายอากาศของปลอ่ งลฟิ ท์ (shaft vent) สำ� หรบั traction elevators ใหแ้ สดงหอ้ งเครอ่ื งทอ่ี ยดู่ า้ นบน พรอ้ มระบวุ ธิ กี ารระบายอากาศของปลอ่ งลฟิ ท์ รปู ตดั ควรอา้ งองิ ถงึ แบบขยายสว่ นบนของประตู (door head)ธรณีประตู และแบบขยายชอ่ งระบายอากาศ ประเภทที่ 5 – แบบขยายรายละเอยี ด แบบขยายแบ่งไดเ้ ปน็ สามกลุ่มคอื 1) แบบขยายในแนวราบหรือแบบขยายผงั เช่น แบบขยายรอยต่อเผือ่ ขยายและรอยตอ่ ควบคมุ (expansion and control joint) 2) แบบขยายในแนวดง่ิ หรอื แบบขยายรปู ตดั เช่น แบบขยายธรณีหน้าตา่ ง และ 3) แบบขยายสามมติ ิ เช่น ภาพวาดสามมิติ (isometric drawings) เพื่อช่วยในการสอื่ ถึงสภาพตา่ งๆ ที่ไม่สามารถส่ือได้อย่างสมบูรณ์ในแบบขยายสองมิติ การเขียนแบบขยายจะต้องค�ำนงึ ถึงค่าความคลาดเคล่ือนที่ระบุไว้ในรายการประกอบแบบ (specification) ประเภทท่ี 6 – Schedule และแผนภาพ Schedule มีลักษณะเปน็ ตารางที่ประกอบดว้ ยสามคอลมั น์เปน็ อย่างต�่ำ อาทิเช่น Schedule แสดงรายละเอียดของวสั ดุ (รปู ที่ 8.36) ส่วนแผนภาพ เป็นการน�ำเสนอดว้ ยกราฟกิ ท่โี ดยท่วั ไปจะไมเ่ ขียนโดยใชม้ าตราส่วนแตส่ ามารถเขยี นขนาดกำ� กบั ได้ เชน่ แผนภาพของงานระบบ งานท่อ ไฟฟ้า รปู ที่ 8.36 ตาราง และ Scheduleอาษา สมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระบรมราชูปถมั ภ์ www.asa.or.th

บทที่ 8 มาตรฐานการเขยี นแบบกอ่ สรา้ ง 8-26มาตรฐานรปู ลกั ษณ์การเขยี นแบบ ฉบับปี พ.ศ. 2554 ประเภทของประตแู ละกรอบประตู การเขยี นแบบแสดงประเภทของประตอู าจเขยี นโดยไมเ่ ขา้ มาตราสว่ น เนอื่ งจากประตปู ระเภทเดยี วกนั จะมลี กั ษณะรูปด้านที่คล้ายกันแต่อาจมีขนาดที่แตกต่างกันได้ ประตูประเภทเดียวกันอาจทำ� ด้วยวัสดุที่ต่างกัน เช่น ทำ� ด้วยไม้หรือเหลก็ กลวง (รปู ที่ 8.37) ในสว่ นของ door schedule จะบอกความแตกตา่ งระหวา่ งประตเู หลา่ นโ้ี ดยการระบปุ ระเภทของประตู วสั ดุ และขนาดของแตล่ ะบาน รูปท่ี 8.37 ตัวอยา่ งประเภทของประตู ประเภทของกรอบประตู (door frame types) แสดงรูปร่างของกรอบประตู รูปที่ 8.38 กรอบประตทู ลี่ อ้ มรอบประตบู านเดย่ี วหรอื ประตบู าน คจู่ ะเปน็ ประเภทเดยี วกนั เพราะวา่ มรี ูปรา่ งที่เหมอื น กนั โดยที่ door schedule จะระบุความกวา้ งทแี่ ตก ต่าง กรอบประตูประเภทอื่นๆ เช่น กรอบประตูที่มี ชอ่ งแสงทางดา้ นขา้ งเพยี งอนั เดยี ว กรอบประตทู มี่ ชี อ่ ง แสงทางดา้ นขา้ งสองดา้ น ประเภทของประตอู าจเขยี น ในแผ่นงานเดียวกันกับที่แสดงแบบขยายกรอบประตู แบบขยายธรณีประตู และ door schedule รูปท่ี 8.38 ประเภทของกรอบประตูอาษา สมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ www.asa.or.th

บทท่ี 8 มาตรฐานการเขียนแบบกอ่ สร้าง 8-27มาตรฐานรปู ลักษณ์การเขยี นแบบ ฉบับปี พ.ศ. 2554 ประเภทของหนา้ ตา่ ง (Window Types) การเขยี นประเภทของหนา้ ตา่ งอาจจะแสดงระยะในแบบทเี่ ขยี น หรอื แสดงระยะใน window schedule ขนาดของกรอบหนา้ ตา่ ง (window frame) และขอ้ ความทร่ี ะบคุ วามกวา้ งของรอยตอ่ ควรจะแสดงในแบบ ควรจะจดั กลมุ่ ของหนา้ ตา่ งตามประเภทของระบบที่เลือกใชถ้ า้ มีมากกวา่ หนงึ่ ระบบ เชน่ ระบบผนงั กระจกแขวน (curtain wall) ระบบ storefrontและระบบ punched window ควรมขี อ้ ความบรรยายลกั ษณะของหนา้ ตา่ งแตล่ ะประเภทอยา่ งสน้ั ๆ ในกรณที หี่ นา้ ตา่ งแบบเดยี วกันแตต่ ดิ ต้งั ทีผ่ นงั ท่ีต่างกนั เชน่ ผนงั ก่ออิฐ และผนงั metal cladding ควรแสดงการอา้ งองิ แบบขยายสำ� หรับแตล่ ะประเภท ประเภทที่ 7&8 – ผใู้ ช้กำ�หนดขนึ้ เอง ชุดของแบบในส่วนนี้ใช้ส�ำหรบั แบบที่ไมไ่ ดจ้ ดั อยใู่ นประเภทของแบบใดแบบหนง่ึ ทไ่ี ดก้ ล่าวมา ประเภทท่ี 9 – ภาพสามมติ ิ ภาพสามมิติประกอบดว้ ย axonometric, oblique, ทศั นยี ภาพ (perspective), และรูปถ่าย ซึ่งใชช้ ่วยให้ผ้ดู ภู าพเขา้ ใจความสมพันธข์ องรูปทรงสามมติ ไิ ดด้ ยี ิง่ ขึน้แผ่นงาน Mock-up แผน่ งาน Mock-up จดั ท�ำขนึ้ เพอื่ ชว่ ยในการจดั วางแบบและการผลติ ชดุ ของแบบ แผน่ งาน Mock-up แตล่ ะแผน่มลี กั ษณะเปน็ แบบยอ่ สว่ นของแผน่ งานกอ่ นทจ่ี ะผลติ แบบเทา่ ขนาดจรงิ แบบ (drawings) ตารางรายการ (Schedule) คำ�อธิบาย (notes) และขอ้ มลู อน่ื ๆ จะจดั วางภายในหน่วยพกิ ัด (module) ของพ้นื ทเี่ ขยี นแบบ เพ่อื ใหท้ ราบจำ� นวนรูปที่พอดกี บั แผ่นงาน แผน่ งาน Mock-up โดยทั่วไปมีขนาด 216 มม x 279 มม หรือ 279 มม x 432 มม การทำ� แผ่นงานMock-up จะมีการใชม้ าตราส่วนย่อ (scaling factor) เพ่ือใหท้ ราบขนาดของรูปทจ่ี ะเขียนลงไปในแผ่นงานจริงอาษา สมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระบรมราชปู ถัมภ์ www.asa.or.th

บทท่ี 8 มาตรฐานการเขียนแบบกอ่ สร้าง 8-28มาตรฐานรปู ลกั ษณ์การเขยี นแบบ ฉบบั ปี พ.ศ. 2554 รุปท่ี 8.39 แผน่ งาน Mock-up ทีแ่ สดงผังพื้น ตาราง Mock-up ตาราง Mock-Up เปน็ เครอ่ื งมอื ทช่ี ว่ ยในการประมาณจ�ำนวนแบบทง้ั หมดและเวลาทง้ั หมดทตี่ อ้ งใชใ้ นการท�ำชดุ ของแบบ ขอ้ มูลตา่ งๆ ท่ีแสดงในตาราง mock-up ประกอบดว้ ย หมายเลขแผ่นงาน ชอ่ื ของแผน่ งาน จำ� นวนรปู รายช่ือ ของรปู มาตราสว่ น เวลาทใี่ ชใ้ นการท�ำตอ่ แผน่ งาน ผู้ทำ� แบบ ราคาตอ่ แผ่นงาน และราคารวมทัง้ หมดอาษา สมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ www.asa.or.th

บทท่ี 9 มาตรฐานการเขียนแบบก่อสรา้ ง 9-1เปรยี บเทียบมาตรฐาน มอก. และ NCS ฉบบั ปี พ.ศ. 2554 บทที่ 9 เปรียบเทยี บมาตรฐาน มอก. และ NCSอาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ www.asa.or.th

บทที่ 9 มาตรฐานการเขียนแบบกอ่ สร้าง 9-2เปรยี บเทยี บมาตรฐาน มอก. และ NCS ฉบบั ปี พ.ศ. 2554อาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ www.asa.or.th

อาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชปู ถัมภ์ www.asa.or.th เปรยี บเทยี บมาตรฐาน มอก. และ NCS (National CAD Standard ver.4) บทท่ี 9 เปรียบเทยี บมาตรฐาน มอก. และ NCS มอก.ก. NCS ขนาดกระดาษเขยี นแบบ มี 3 มาตรฐาน คอื ISO, ANSI, Architectural 1) มาตรฐาน ISO เป็นท่นี ิยมใช้ ใชม้ าตรฐาน ISO มใี ห้เลอื กตามความนิยม 3 แบบ คือ A0 (841 X 1,189) มม. มมาาตตรราฐฐาานนกกาารรเเขขียียนนแแบบบบกกอ่ อ่ สสรรา้ ้างง 1) แบบ 1 แบบทนี่ ยิ มใช้กบั ท่วั ไป A1 (594 X 841) มม. ฉฉบบับบั ปที พี่ 2.ศ.22555534 A0 (841 X 1,189) มม. A2 (420 X 594) มม. A1 (594 X 841) มม. A3 (297 X 420) มม. 9-1 A2 (420 X 594) มม. A4 (210 X 297) มม. A3 (297 X 420) มม. 2) มาตรฐาน ANSI A4 (210 X 297) มม. A (216 x 279) มม. 2) แบบ 2 ต้องการกระดาษยาวมากขน้ึ B (279 x 432) มม. A3 X 3 (420 X 891) มม. C (432 x 559) มม. A3 X 4 (420 X 1,189) มม. D (559 x 864) มม. A4 X 3 (297 X 630) มม. E (864 x 1118) มม. A4 X 4 (297 X 840) มม. 3) มาตรฐาน Architectural -- A (229 x 305) มม. 3) แบบ 3 ต้องการกระดาษยาวมากกวา่ แบบ 2 B (305 x 457) มม. A0 x 2, A0 x 3, A1 x 3, A1 x 4, A2 x 3 C (457 x 610) มม. A2 x 4, A2 x 5, A3 x 5, A3 x 6, A3 x 7 D (610 x 914) มม. A4 x 5, A4 x 6, A4 x 7, A4 x 8, A4 x 9

อาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ www.asa.or.th มอก.ก. NCS บทที่ 9 เปรยี บเทยี บมาตรฐาน มอก. และ NCS E (914 x 1219) มม. F (762 x 1067) มม. การจัดพ้นื ท่ีกระดาษเขียนแบบ แบ่งพ้นื ท่อี อกกระดาษเขียนแบบเป็น 3 สว่ น แบง่ พื้นทก่ี ระดาษเขียนแบบออกเปน็ 3 สว่ น มาตรฐานการเขียนแบบกอ่ สร้าง 1) พนื้ ทีเ่ ขยี นแบบ 1) พืน้ ท่ีเขียนแบบ (drawing area) ฉบบั ปี พ.ศ. 2554 2) พื้นทีข่ ้อความ 2) พ้ืนที่แสดงขอ้ มูลเกี่ยวกบั การผลิต 3) กรอบชอ่ื แบบ 3) พ้นื ที่แสดงช่ือ (title block area) 1) พืน้ ทเี่ ขียนแบบ - รปู หลกั รูปเดียวควรจดั ใหอ้ ยูม่ ุมบนซา้ ยของแบบหรอื มมุ บนซ้ายของกลุม่ รปู - การจัดวางแบบอันแรกในพน้ื ทเ่ี ขยี นแบบจะวางท่ตี �ำแหน่งมุมล่างขวา ติดกับ title block แบบเพม่ิ เติมรูปอืน่ ๆ จะมลี ำ� ดับจากลา่ งข้ึนบนและจากขวาไปซา้ ย - ควรจัดรูปตา่ งๆ ท่ีเขียนใหอ้ ยู่ในขนาดเมอื่ พบั แลว้ เท่าขนาด A4 - พื้นทีเ่ ขียนแบบจะรวมพนื้ ทขี่ อ้ ความไวด้ ว้ ย 2) พ้ืนท่ขี ้อความ -- - ใชส้ �ำหรับบนั ทกึ รายละเอียดต่างๆ ได้แก่ คำ� อธิบาย ขอ้ ปฏบิ ตั ิ, การอา้ งองิ , - พืน้ ทีข่ ้อความ (Note Block) ควรวางไวท้ ่ีคอลมั น์ขวามอื สดุ ของพืน้ ที่เขยี น รปู แสดงตำ� แหน่ง และตารางแก้ไข แบบ 9-2 - ปกตจิ ะจดั ไว้ด้านขวาของกระดาษเขียนแบบ ความกวา้ งเท่ากับกรอบชือ่ แบบ ไม่เกิน 170 มม. และไม่นอ้ ยกวา่ 100 มม.

อาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ www.asa.or.th มอก.ก. NCS บทที่ 9 เปรียบเทยี บมาตรฐาน มอก. และ NCS - แตก่ ็สามารถเขียนเตม็ ความยาวหนา้ กระดาษเขยี นแบบ พืน้ ที่ข้อความควร อยู่ดา้ นล่าง ส่วนความสงู เป็นไปตามความตอ้ งการของการใชง้ าน รูปท่ี 1 การแบ่งพื้นท่กี ระดาษเขยี นแบบ แบบท่ี 1 มาตรฐานการเขียนแบบกอ่ สรา้ ง ฉบับปี พ.ศ. 2554 รูปท่ี 2 การแบง่ พนื้ ท่กี ระดาษเขียนแบบ แบบที่ 2 2) พ้ืนที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกบั การผลติ 9-3 - มอก. ไม่ก�ำหนดพ้ืนท่ีแสดงขอ้ มูลการผลติ แบบ - สว่ นของแผน่ งานซง่ึ ประกอบดว้ ยข้อมูลเกีย่ วกบั การผลิตแผน่ งานน้นั ๆ ขอ้ มูลส่วนนี้โดยท่วั ไปจะถกู ปดิ โดยสนั ปก เมอ่ื มีการรวมชดุ ของแบบ

อาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ www.asa.or.th มอก.ก. NCS บทที่ 9 เปรยี บเทยี บมาตรฐาน มอก. และ NCS - ขอ้ มลู การผลติ แบบอาจประกอบดว้ ย วนั และเวลาท่ีพิมพแ์ บบ (Plotter Time and Date Block) บลอ็ คแสดงข้อมูลการผลิตแบบ มาตราส่วนที่ใชใ้ นการ Scan 3) กรอบชอื่ แบบ 3) พนื้ ทีแ่ สดงชอื่ (title block area) - กรอบชอื่ แบบต้องกว้างไม่น้อยกว่า 100 มม. และไมเ่ กิน 170 มม. ความ - แสดงรายละเอียดเกยี่ วกบั ช่ือโครงการ ลูกค้า ผู้ออกแบบ ช่ือของแบบ และ มาตรฐานการเขียนแบบกอ่ สร้าง สงู ตามความเหมาะสม ข้อมลู ทีเ่ กี่ยวกับการจดั การแบบที่จำ� เปน็ สำ� หรบั ผใู้ ช้แผ่นงาน พื้นทใ่ี นสว่ นนี้จะ ฉบบั ปี พ.ศ. 2554 แบง่ ออกเป็นบล็อคยอ่ ยๆ ไดแ้ ก่ - รายละเอียดของกรอบช่อื แบบ ควรเปน็ ไปในรปู แบบเดยี วกัน เนือ้ หาของ กรอบชื่อแบบควรจดั ใหอ้ ยู่ในช่องสีเ่ หล่ยี มตดิ ต่อกนั เปน็ ช่องตา่ งๆ ไดแ้ ก่ ชอ่ ง • ชอ่ื ของผู้ออกแบบ บง่ ช้ี (identification zone) และช่องอนื่ ๆ เพอ่ื แสดงข้อสนเทศ • ชอื่ โครงการ - ชอ่ งบ่งชี้ ประกอบด้วย • Issue Block a ทะเบียนแบบหรอื หมายเลขแบบ ก�ำหนดโดยเจ้าของแบบ ควร อยมู่ มุ ล่างขวาของชอ่ งบง่ ช้ี • แสดงรายละเอียดการจดั การแบบ b ชื่อแบบ บ่งบอกเน้อื หาสาระของแบบ เช่น ผงั บริเวณ ผงั พนื้ • ช่อื ของแผ่นแสดงแบบ c ชอื่ เจา้ ของแบบตามกฎหมาย ควรจะเป็นช่อื ทเ่ี ป็นทางการ หรอื • หมายเลขของแบบ (Sheet Identification Block) เครื่องหมายทะเบียนการค้า เชน่ บรษิ ทั ห้างหนุ้ สว่ น องค์กร 9-4

อาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ www.asa.or.th มอก.ก. NCS บทที่ 9 เปรียบเทยี บมาตรฐาน มอก. และ NCS - รปู แบบของ Title Block มอี ยดู่ ้วยกันสองแบบคอื รปู แบบตัวหนงั สอื ทางแนวนอน (horizontal text format) เป็นรปู แบบทใ่ี ชก้ นั ท่วั ไปและเหมาะสม กว่ารปู แบบตวั หนังสอื ทางแนวตง้ั (vertical text format) มาตรฐานการเขียนแบบกอ่ สรา้ ง ฉบับปี พ.ศ. 2554 9-5

อาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ www.asa.or.th มอก.ก. NCS บทที่ 9 เปรยี บเทยี บมาตรฐาน มอก. และ NCS กรอบ (frame) - กระดาษเขยี นแบบขนาด A0 และ A1 กรอบควรมีระยะหา่ งจากขอบไม่ - กรอบของแผน่ งานควรมีระยะห่างจากขอบของแผ่นงานอยา่ งน้อยที่สดุ ดังนี้ น้อยกวา่ 20 มม. ขอบทางดา้ นบนและด้านลา่ ง 20 มม. ขอบทางดา้ นซา้ ย 40 มม. - กระดาษเขยี นแบบขนาด A2, A3 และ A4 กรอบควรมีระยะห่างจากขอบ ขอบทางด้านขวา 20 มม. ไม่น้อยกว่า 10 มม. - เสน้ กรอบของกระดาษเขยี นแบบ ควรจะเขยี นตอ่ เนอ่ื งกนั และกวา้ งไม่นอ้ ย - เส้นกรอบของกระดาษ ควรใช้เส้นตอ่ เนือ่ งความกวา้ ง 0.7 ม.ม. กวา่ 0.5 มม. หมายเหตุ กรณีใชเ้ ครือ่ งพมิ พ์แบบ Roll Feed เพอื่ พิมพ์แบบขนาดกระดาษ มาตรฐานการเขียนแบบกอ่ สร้าง A3 จะตอ้ งเวน้ ขอบดา้ นซ้ายอย่างนอ้ ย 1.5 ซ.ม. ฉบบั ปี พ.ศ. 2554 เส้นกรอบและขอบกระดาษ - จากขอบกระดาษทางด้านซ้าย 40 มม. ขอบเขา้ เลม่ (filing margin) - จากขอบกระดาษทางด้านซ้ายไม่น้อยกว่า 20 มม. เครื่องหมายแบง่ ครงึ่ (centering mark) 9-6

อาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ www.asa.or.th มอก.ก. NCS บทที่ 9 เปรียบเทยี บมาตรฐาน มอก. และ NCS - กระดาษเขยี นแบบตอ้ งมีเคร่ืองหมายแบ่งครึง่ หนา้ อยา่ งนอ้ ย 4 ตำ� แหน่ง - ไม่ได้ก�ำหนดเครึ่องหมายแบ่งครงึ่ เครื่องหมายแบง่ ครึ่งควรอยู่ระหว่างเสน้ กรอบกบั ขอบกระดาษ ระบบตารางอ้างองิ มาตรฐานการเขียนแบบกอ่ สรา้ ง ฉบับปี พ.ศ. 2554 - การแบง่ ตารางจะเรมิ่ จากขอบกระดาษดา้ นหน่ึงไปจรดขอบอกี ด้านหน่งึ - การแบง่ ตารางจะเร่มิ จากขอบของพื้นทีเ่ ขียนแบบไปจรดขอบของพน้ื ท่เี ขยี น แบบอีกด้านหน่งึ 9-7 - ตาตารางอา้ งองิ ควรเป็นรูปสเี่ หล่ียมผืนผ้า - ขนาดของตาตารางกวา้ งไมน่ อ้ ยกวา่ 25 มม และไม่เกนิ 75 มม - ตาตารางอ้างองิ เป็นรปู สี่เหลี่ยมจตั รุ สั - จ�ำนวนตาตารางในแนวด่ิงและแนวระดับจะตอ้ งเป็นจำ� นวนคู่ - ขนาดตาตารางไม่ได้การก�ำหนด แตม่ ีการยกตัวอย่างขนาดที่ใช้ เช่น 38 x 38 มม. 75 x 75 มม. 150 x 150 มม. - ไมไ่ ดก้ �ำหนดจ�ำนวนตารางเป็นเลขคู่หรือคี่

อาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ www.asa.or.th มอก.ก. NCS บทที่ 9 เปรยี บเทยี บมาตรฐาน มอก. และ NCS - ใช้ตวั อกั ษรก�ำกบั ดา้ นตั้ง และใชต้ ัวเลขกำ� กบั ดา้ นนอน โดยการล�ำดับใหเ้ ร่มิ - ใช้ตัวอกั ษรก�ำกับด้านตั้ง และใชต้ ัวเลขก�ำกบั ด้านนอน โดยตวั เลขเรมิ่ จาก ตน้ จากมุมตรงข้ามกรอบชื่อและใหเ้ ขยี นซ�้ำท่ดี า้ นตรงขา้ ม มมุ ลา่ งซา้ ยและเพิ่มขึน้ ทางขวา และตัวอักษรเร่มิ จากมุมซา้ ยลา่ งและเพิม่ ขน้ึ ดา้ นบน การกำ� หนดทิศทางของผงั มาตรฐานการเขียนแบบกอ่ สร้าง ฉบบั ปี พ.ศ. 2554 - ผงั ที่ตง้ั และผังบริเวณทุกแผน่ ตอ้ งแสดงเครอื่ งหมายทศิ เหนอื โดยแสดงไว้ท่ี - ต�ำแหนง่ ของลูกศรทศิ เหนอื และทิศเหนอื แปลนควรจะวางทตี่ �ำแหนง่ มมุ ล่าง มุมขวาบนของแบบและถา้ ท�ำไดค้ วรกำ� หนดทิศเหนือให้ช้ีไปทางด้านบนของ ขวาของแบบ (drawing block) แบบ 9-8

อาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ www.asa.or.th มอก.ก. NCS บทที่ 9 เส้น เปรียบเทยี บมาตรฐาน มอก. และ NCS - ชนิดของเสน้ มี 3 ชนิด - ชนิดของเสน้ มี 5 ชนิด 0.18 มม. เสน้ แคบ เสน้ เลก็ มาก 0.25 มม. เสน้ กวา้ ง เส้นเล็ก 0.35 มม. เสน้ กวา้ งมาก เส้นหนาปานกลาง 0.5 มม. เสน้ หนา 0.7 มม. - ความกวา้ งของเสน้ ทีใ่ ช้สำ� หรับแบบทัว่ ๆ ไป มดี ังน้ี 0.18 0.25 0.35 เสน้ หนามาก 0.5 0.7 1.0 1.4 และ 2.0 มม. - ความกว้างของเส้น ทใ่ี ชส้ ำ� หรับแบบทวั่ ๆ ไป มดี งั นี้ 0.18 0.25 0.35 0.5 และ 0.7 มม. เส้นแคบ เสน้ เล็กมาก มาตรฐานการเขียนแบบกอ่ สรา้ ง ฉบับปี พ.ศ. 2554 ใช้แสดงตารางอา้ งอิง เส้นมิติ เสน้ ฉาย และเสน้ แรเงา รวมถึงการตัดตอน ใช้แสดงวสั ดุ พ้นื ผิว เสน้ แรเงา ลวดลาย ส่วนที่ต่อเน่อื งกนั ใช้เส้นทขี่ าดตอนหรือต่อกันดว้ ยเส้นสลบั ซกิ แซก (zigzag), เส้นศูนย์กลางและเสน้ แกนใชเ้ ส้นลกู โซ,่ เส้นก�ำกบั ใช้เส้นลกู โซห่ รือเส้นเต็ม โดยมวี งกลมไว้ท่ีปลายเสน้ -- เสน้ เล็ก ใช้แสดงเสน้ ระยะ เสน้ ชี้ เสน้ ต่อ เส้นแสดงแนวตัด เส้นแสดงวัตถทุ ถี่ กู บงั เสน้ 9-9 ประแบบจดุ เส้นประแบบขีด เส้นแสดงระยะถอยร่น เสน้ แสดงแนวศนู ย์กลาง เส้นกริด เสน้ กรดิ ของตาราง

อาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ www.asa.or.th มอก.ก. NCS บทที่ 9 เปรยี บเทยี บมาตรฐาน มอก. และ NCS เส้นกวา้ ง เสน้ หนาปานกลาง ใชแ้ สดงอาคารเดมิ , รายละเอียดทวั่ ไป, รูปตดั ทางระดับหรอื ทางด่งิ ของส่วน ใช้แสดงเส้นแสดงวัตถุ เส้นแสดงแนวเขตที่ดิน เสน้ แสดงขอ้ ความ ตวั อักษร มูลและชิน้ สว่ น รูปดา้ นของช้ินสว่ น, เส้นขอบนอกของชน้ิ ส่วน, สว่ นท่ีมอง สัญลกั ษณแ์ สดงจุดจบ รปู ดา้ นประตูและหนา้ ต่าง เส้นกรดิ ของตาราง Sched- ไม่เหน็ และส่วนที่จะรื้อถอน ใชเ้ สน้ ประ ule ที่ต้องการเน้น -- เสน้ หนา ใชแ้ สดงช่อื เร่ือง เส้นขอบของรปู ด้านภายในและภายนอก เสน้ ตัด เสน้ แสดง แนวเขตที่ดนิ เส้นแสดงแนวตดั ของรปู ตัด กรอบของ drawing block เส้นกวา้ งมาก เสน้ หนามาก มาตรฐานการเขยี นแบบกอ่ สรา้ ง ฉบบั ปี พ.ศ. 2554 ใช้แสดงขอบนอกของอาคารใหม่, รปู ตัดทางระดับหรอื ทางดิง่ ของส่วนมูล ใช้แสดงเส้นแสดงแนวรอยต่อ ชอ่ื เรอื่ งที่เขียนดว้ ยอกั ษรขนาดใหญ่ footprints หลกั , เส้นขอบนอกทสี่ �ำคัญ, รูปตัดทางระดบั และทางดง่ิ กรอบของ title block กรอบของแผน่ งาน เส้นรอบนอกของ Schedule - อตั ราส่วนความกว้างของเสน้ แคบ : เส้นกว้าง : เสน้ กวา้ ง มาก เท่ากบั - ก�ำหนดไว้เป็นขอ้ แนะนำ� การใช้ 1 : 2 : 4 หรือใกลเ้ คียงทีส่ ุดเท่าท่ีจะทำ� ได้ เส้นเล็กมาก 0.18 มม. - แบบทีท่ ำ� ขึน้ เพอื่ ย่อมาตราสว่ นลงโดยระบบไมโครฟิลม์หรอื ระบบอืน่ ใน แบบพิมพอ์ อกมาแลว้ ความกว้างของเสน้ ไมค่ วรต�่ำกว่า 0.18 มม. และระยะ เสน้ เล็ก 0.25 มม. ห่างของเสน้ ไม่ควรต่ำ� กว่า 0.7 มม. เสน้ หนาปานกลาง 0.35 มม. เส้นหนา 0.50 มม. เส้นหนามาก 0.70 มม. - ความหนาของเสน้ นอ้ ยท่ีสุด คือ 0.18 มม. 9-10

อาษา สมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ www.asa.or.th มอก.ก. NCS บทท่ี 9 เปรียบเทยี บมาตรฐาน มอก. และ NCS เส้นชี้ (Leader) - ใชห้ วั ลูกศรที่ปลายของเส้นชี้ โดยใหอ้ ยใู่ กลอ้ งคป์ ระกอบทกี่ ำ� ลงั ช้อี ธบิ าย - เสน้ ชีค้ วรจะเขียนในลกั ษณะทสี่ อดคลอ้ งกัน เชน่ เขยี นโดยใช้เส้นตรงหรือ - ใชช้ ี้ภายในรูป ใหเ้ ขยี นจุดทป่ี ลายเสน้ เส้นโค้ง ควรเลอื กใชใ้ หเ้ หมอื นกันทุกๆแผ่น เพื่อใหอ้ า่ นไดง้ ่าย - ใชช้ ี้ท่ีขอบรูป ใหเ้ ขียนหัวลูกศรทบึ จุดที่ปลายเสน้ - เส้นชค้ี วรมีมมุ เอยี งท่ีไม่กอ่ ให้เกิดความสบั สนกบั เสน้ ทใ่ี ช้ในแบบ - ใช้ชี้รว่ มกบั เส้นมิติ ให้เขยี นหัวลูกศรทึบจุดท่ีปลายเสน้ ชีภ้ ายในรปู ชที้ ่ีขอบรูป ชรี้ ว่ มกบั เส้นมิติ มาตรฐานการเขียนแบบก่อสรา้ ง ฉบับปี พ.ศ. 2554 กรดิ เคร่ืองหมายกำ� กับกรดิ (grid notation) - ระบบกรดิ ที่ใชส้ ำ� หรบั การออกแบบอาคาร พฒั นามาจากระบบพกิ ดั (mod- - ให้ใช้ตามความเหมาะสมกับกริดของแต่ละรปู แบบ ule system) - วธิ ีการกำ� หนดเครื่องหมายกำ� กับกรดิ ที่ใชก้ ันทั่วไป จะใช้กบั การวางผังและ - ชอื่ ของเส้นกริดในแนวดงิ่ ควรจะวางที่ด้านบนสดุ ของกริดโดยใหห้ มายเลข กริดโครงสรา้ งเทา่ นั้น โดยใชต้ วั อกั ษรกำ� กบั ในแกนหน่งึ และตัวเลขก�ำกับ เรียงจากด้านซ้ายไปขวา อีกแกนหนึง่ - ชือ่ ของกรดิ ในแนวนอนควรจะไวท้ างด้านขวาของเสน้ กริดและเขยี นตวั อกั ษร - กรดิ โครงสรา้ ง (structural grid) ใชเ้ พื่อก�ำหนดต�ำแหน่งของโครงสรา้ ง โดย เรยี งจากด้านลา่ งขึน้ ด้านบน มีเครอ่ื งหมายก�ำกับปลายกรดิ ในวงกลม และกริดน้จี ะตรงกับตำ� แหนง่ ของ - ไม่ควรใชอ้ กั ษร O (โอ) หรือ I (ไอ) เพอ่ื ป้องกันการสบั สนกับการใช้ 9-11 กรดิ วางผัง หมายเลข 0 (ศนู ย)์ และ 1 (หน่งึ )

อาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ www.asa.or.th มอก.ก. NCS บทที่ 9 เปรยี บเทยี บมาตรฐาน มอก. และ NCS - กรณีทีม่ โี ครงสร้างเพิม่ เติมทีอ่ ยู่ระหว่างกลางเสน้ กรดิ ควรใช้ชอ่ื ในรปู แบบ ทศนยิ ม เช่น ถ้ามเี สาอยรู่ ะหว่างกง่ึ กลางของเส้นกรดิ 2 และ 3 ควรใชช้ อื่ 2.5 หรอื กรณที ่มี ีเสาอยทู่ ี่ต�ำแหนง่ กึ่งกลางระหว่างเสน้ กรดิ B และ C ให้ใช้ชือ่ ว่า B.5 กรดิ โครงสรา้ งแสดงแนวศนู ยก์ ลางของเสา มาตรฐานการเขยี นแบบกอ่ สรา้ ง ฉบบั ปี พ.ศ. 2554 - กริดวางผัง (planning grid) ใช้ก�ำหนดตำ� แหนง่ หลักของอาคารหรอื องค์ ประกอบของอาคาร กรณที กี่ ำ� หนดกรดิ วางผังโดยใชพ้ กิ ัด ไม่จำ� เป็นตอ้ ง ก�ำกับปลายเส้นดว้ ยวงกลม มติ ิ หรือการให้ระยะ - ควรหลกี เลยี่ งการเขยี นเส้นมติ ทิ ่ตี ัดกนั และเสน้ ฉายทีต่ ดั กัน ในกรณที หี่ ลกี - เส้นฉายจากตวั อาคารไปยงั เสน้ บอกระยะอาจตดั กบั เสน้ กริดโครงสร้าง เพอ่ื เล่ยี งไมไ่ ดใ้ หเ้ ขียนตัดกันธรรมดาโดยไม่ตอ้ งแสดงเคร่ืองหมายอืน่ ใด ป้องกันความสบั สน ควรเวน้ ชว่ งของเสน้ ใดเสน้ หน่ึงในจุดท่ตี ัดกัน 9-12

อาษา สมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ www.asa.or.th มอก.ก. NCS บทท่ี 9 เปรียบเทยี บมาตรฐาน มอก. และ NCS - เครื่องหมายก�ำกบั ปลายเสน้ มติ ิ มีดงั ต่อไปน้ี (หวั ลกู ศรเปิด, หัวลูกศรปดิ , - เครื่องหมายก�ำกับปลายเสน้ มติ ินี้จะแสดงดว้ ยเสน้ เฉียงส้ัน เสน้ เฉยี งส้ัน ขีดเอียง 45 องศาตัดกับเสน้ มิต,ิ จดุ ทบึ บนเสน้ มติ ,ิ วงกลมบนเส้นมติ )ิ เหล่าน้ีควรเขียนใหข้ นานกนั (ไมไ่ ด้มกี ารก�ำหนดให้ต้องมมี ุม 45 องศา) - การเขียนมิตคิ วรเขียนขนานไปกับเส้นมิติ ในต�ำแหน่งทใี่ กลก้ บั กง่ึ กลางและ - มติ ิควรเขยี นที่ต�ำแหนง่ กึง่ กลางและอย่เู หนอื เสน้ มิติ มาตรฐานการเขียนแบบก่อสรา้ ง อยู่เหนอื เสน้ มติ ิเลก็ น้อย ฉบับปี พ.ศ. 2554 - เสน้ มิตคิ วรเขียนบริเวณดา้ นนอกของผังพ้ืน โดยเขยี นไวท้ างดา้ นบน หรือ ด้านขวาของผงั 9-13

อาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ www.asa.or.th มอก.ก. NCS บทที่ 9 การเรยี กอาคารและระดบั สว่ นตา่ งๆ เปรยี บเทยี บมาตรฐาน มอก. และ NCS ช้ันและพืน้ - ในส่วนของพน้ื ชน้ั ล่าง (ground floor) กำ� หนดใหเ้ ปน็ ชัน้ ทห่ี นึ่ง ช้นั ที่อยู่ เหนือข้นึ ไปใหห้ มายเลขชน้ั มคี า่ เพมิ่ ขนึ้ ตามล�ำดับ ชั้นทีอ่ ยใู่ ต้ชน้ั ท่ีหน่งึ ให้ชอ่ื - หมายเลขชน้ั และพ้นื ตอ้ งกำ� หนดใหเ้ ป็นหมายเลขเดยี วกันและใหน้ ับจาก B1 สว่ นช้นั ทีม่ ีลักษณะและเรยี งซอ้ นกัน ใหใ้ ชค้ ำ� วา่ “Typical Floor Plan” และ ขา้ งลา่ งข้นึ ขา้ งบน โดยช้นั ล่างสุดทีใ่ ชง้ านไดเ้ ป็นชั้นท่ี 1 สว่ นชั้นลอยซง่ึ ขึ้น ระบุหมายเลขว่าประกอบดว้ ยช้ันอะไรบา้ ง ให้หมายเลขเรียงล�ำดบั ของชน้ั ลอย ลงดว้ ยบนั ไดห้ ลัก ทางลาด ลิฟต์ ใหถ้ ือเปน็ ระดบั หนง่ึ (mezzanine) ทม่ี ีขนาดและทางออกจำ� กดั ว่า (M1, M2) สว่ นชน้ั ลอยที่มีขนาด ใหญ่ขนึ้ การให้หมายเลขให้นบั รวมอยใู่ นส่วนของระบบหมายเลขชั้น มาตรฐานการเขยี นแบบกอ่ สรา้ ง ฉบบั ปี พ.ศ. 2554 9-14

อาษา สมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ www.asa.or.th มอก.ก. NCS บทท่ี 9 เปรียบเทยี บมาตรฐาน มอก. และ NCS วิธีกำ� หนดช้นั และระดบั ทีน่ ยิ มในประเทศไทย การเรียกช่อื หอ้ งและสว่ นตา่ งๆ - หมายเลขห้อง - การระบุชือ่ หอ้ งควรจะสัมพนั ธก์ บั หมายเลขชัน้ ของห้องน้นั การใหห้ มายเลข ควรใชแ้ ตล่ ะชน้ั เรียงตามลำ� ดับ โดยจ�ำกดั อยู่ในแต่ละอาคาร การให้ หอ้ งควรเริ่มจากจดุ ทเ่ี ข้าถงึ ไดส้ ะดวกทีส่ ดุ ของชั้น ตวั อยา่ งเช่น ห้องแรกท่ีอยู่ หมายเลขห้องควรเรยี งตามเขม็ นาฬกิ า นับจากหอ้ งท่ีถงึ กอ่ นเริม่ จากทางเข้า ทางด้านขวามอื ของลิฟท์หลกั หรือบนั ไดหลักของช้ันทสี่ าม ควรใชช้ ื่อ 301 ชอื่ หลัก หอ้ งควรเรยี งล�ำดับตามเข็มนาฬิกาไปรอบๆ อาคาร ถา้ มีหลายอาคารอยู่ในโครงการเดียวกัน ควรให้หมายเลขห้องทแี่ ยกกนั สำ� หรบั อาคารแตล่ ะหลงั เลขและชื่อหอ้ งควรแสดงอยู่ในแต่ละพื้นที่ - ทางเดนิ ภายในอาคารและพื้นท่ีเล็ก เช่น พน้ื ทเ่ี กบ็ อุปกรณ์ ห้องนำ้� ควรให้ - บันไดหลักที่สำ� คญั และมขี นาดที่กวา้ งทส่ี ุดก�ำหนดชือ่ เปน็ บนั ได 1 ในสว่ น มาตรฐานการเขียนแบบก่อสรา้ ง หมายเลขห้องด้วย ของชน้ั แรก (first floor) ให้หมายเลขของบนั ไดเรียงล�ำดบั วนตามเขม็ นาฬิกา ฉบับปี พ.ศ. 2554 ใหใ้ ชห้ มายเลขบนั ไดเดียวกนั ตลอดความสูงของบันไดทั้งหมด บันไดทอ่ี ย่เู หนือ - ห้องใต้ดินและหอ้ งใต้หลังคา ใหแ้ สดงหมายเลขชัน้ และหมายเลขห้องตาม หรือใตช้ ้ันที่ 1 ที่ไม่ได้เชื่อมต่อกบั ชั้นแรกจะต้องใหห้ มายเลขถัดจากหมายเลข เหมาะสม บันไดที่เชอ่ื มตอ่ กับชน้ั แรก ถ้ามีบนั ไดหลกั ที่มีขนาดกว้างอยหู่ ลายบันได การ ใหห้ มายเลขจะเรียงตามล�ำดบั ความส�ำคัญของบันไดทจี่ ะไปสู่ทางออกหลกั ของ - ห้องชดุ หมายเลขห้องชดุ ควรระบใุ นผัง หอ้ งแต่ละหอ้ งในหอ้ งชดุ ให้ อาคาร บันไดเพ่ิมเตมิ อื่นๆ ใชห้ ลักการใหห้ มายเลขตามที่กล่าวมา หมายเลขเรยี งติดตอ่ กันตอ่ จากหมายเลขหอ้ งชดุ เช่น 2/314/2 หมายถึง อาคาร 2 ห้อง 314 (หอ้ งชุดหมายเลข 14 ชัน้ 3) ห้อง 2 (ห้องพกั ผอ่ น) - พ้ืนทใ่ี ชส้ อยภายนอก ระเบียง เฉลยี งมขุ เฉลยี ง และเฉลยี งมุขรถ พ้นื ที่ แตล่ ะส่วนท่ีกลา่ วมานี้ถา้ มอี ย่างละมากกวา่ หนงึ่ จะตอ้ งใหห้ มายเลข - หอ้ งทเ่ี พิม่ เตมิ หรือหอ้ งยอ่ ย เพม่ิ หลังจากทีใ่ ห้หมายเลขหอ้ งเรยี บรอ้ ยแล้ว ใหแ้ ตล่ ะห้องเพ่มิ ตวั อักษรเพ่ือแสดงความแตกตา่ งออกไป เช่น 127A 128B 9-15 กรณมี ีการรวมหอ้ งเพ่อื ไม่ให้เกิดช่องวา่ งในการเรยี งลำ� ดบั หมายเลขห้อง หอ้ งทเี่ กิดใหมใ่ หเ้ ขยี นดงั น้ี 127/128 (เปน็ การรวมหอ้ ง 127 และห้อง 128 เปน็ ห้องเดยี วกัน)

อาษา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ www.asa.or.th มอก.ก. NCS บทที่ 9 เปรยี บเทยี บมาตรฐาน มอก. และ NCS - การใหห้ มายเลขโครงสร้างและรายละเอยี ดอื่นๆ - ลฟิ ทท์ ี่อยู่ใกล้กบั ทางเขา้ ของอาคาร ซ่งึ มีปรมิ าณการเข้าออกจ�ำนวนมาก กำ� หนดชือ่ เป็น Elevator 1 ให้หมายเลขของลิฟท์อน่ื ๆ ภายในโถงลิฟท์ นอก เลขตวั หน้า คอื เลขแสดงชัน้ ส่วนเลขสองตวั หลัง เป็นตัวเลขลำ� ดบั ชื่อเสา เหนอื จากนีเ้ รยี งตามเขม็ นาฬิกา ถา้ มีโถงลฟิ ท์นอกเหนือจากน้ีใหใ้ ช้หลกั การ แผน่ พ้นื ผนงั หรือคาน เดยี วกันในการใหห้ มายเลข เสา แสดงด้วยสญั ลักษณ์ C201 C202 - shaft ทีอ่ ยู่ใกลก้ ับทางเข้าของอาคารทม่ี ปี รมิ าณการเข้าออกมากก�ำหนดให้ แผ่นพนื้ แสดงด้วยสญั ลักษณ์ S201 S202 เปน็ Shaft 1 การให้หมายเลขของ shaft ให้วนตามเขม็ นาฬิกา ผนัง แสดงดว้ ยสญั ลักษณ์ W201 W202 คาน แสดงดว้ ยสัญลกั ษณ์ B201 B202 ระดบั ระดบั อ้างอิง (datum) มาตรฐานการเขยี นแบบกอ่ สรา้ ง ฉบบั ปี พ.ศ. 2554 - กำ� หนดข้ึนเพอ่ื ชว่ ยให้การบอกระดบั ตา่ งๆ สะดวกข้ึน ระดับท่ีเป็นลบทำ� ให้ - ระดบั พน้ื ชัน้ ล่าง (ground floor plan) ในแบบอาจก�ำหนดเปน็ ตัวเลขสมมุติ เกดิ ความสับสนเน่อื งจากอ่านเคร่อื งหมายลบผิดได้ง่าย จงึ ควรก�ำหนดระดับ เช่น 100 เมตร ในระบบ SI unit โดยระบหุ มายเหตไุ วใ้ นผังบริเวณ (site ต่างๆ เป็นบวก ระดับกำ� หนดควรแสดงในแบบใหช้ ดั เจน โดยมีหน่วยเปน็ plan) วา่ ระดับทแ่ี ท้จริงของพืน้ ชน้ั ล่าง คือ XXX ซึง่ มคี ่าเท่ากับระดับ 100 เมตร และใช้ทศนิยม 3 ตำ� แหนง่ เมตร ทแ่ี สดงไวใ้ นแบบ การกำ� หนดระดบั ท่ี 100 เมตร แทนท่ีจะเป็นระดับ ±0 เพื่อลดปัญหาการใหร้ ะดบั ของส่วนของอาคารทอ่ี ยู่ใต้ชั้น ground floor (เช่น ชัน้ ใตด้ ิน) ทีจ่ ะต้องมีเครอื่ งหมายลบ เชน่ -20 เมตร ซงึ่ อาจก่อใหเ้ กิด ความสบั สนกบั ผ้ใู ช้งาน 9-16


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook