Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนพัฒนาตนเอง ID Plan 62

แผนพัฒนาตนเอง ID Plan 62

Published by Sunsern Poonsukkhho, 2020-08-26 23:00:43

Description: แผนพัฒนาตนเอง ID Plan 62

Search

Read the Text Version

บันทึกข้อความ สว่ นราชการ โรงเรยี นวดั เจา้ มลู ท่ี ................. / ................ วันที่ 4 มีนาคม ๒๕๖๓ เรอ่ื ง แผนพฒั นาตนเองและพฒั นาวชิ าชีพ (Individual Development Plan : ID Plan) ตามหลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารพฒั นาตนเองและวชิ าชีพครู (ว๒๒/๒๕๖๐) ประจำปกี ารศึกษา ๒๕๖2 เรียน ผอู้ ำนวยการโรงเรียนคงทองวิทยา อ้างถงึ หนังสอื สำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ. ๐๒๐๖.๓/ว ๒๒ ลงวนั ที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ตามหนังสือที่อ้างถึง ก.ค.ศ. ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาตนเองและวิชาชีพครู (ว ๒๒/๒๕๖๐) เม่ือวันท่ี ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ข้อ ๑. ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ต้องได้รับการ พัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยให้ประเมินตนเองตามแบบที่ ก.ค.ศ. กำหนด พร้อมทั้งจัดทำแผนการพัฒนา ตนเองเป็นรายปี ตามแบบที่ส่วนราชการกำหนดและเข้ารับการพัฒนาตามแผนอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง รายละเอียดทราบแลว้ นัน้ ดังน้ัน ครูก่อนจะเลือกหลักสูตรพัฒนาครูแบบครบวงจร ครูจะต้องประเมินตนเอง จัดทำแผนพัฒนาตนเอง เพอื่ ให้ผบู้ ริหารอนุมตั ิหลักสูตรตามแผนพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ (Individual Development Plan : ID Plan) บัดนี้ข้าพเจ้าได้จัดทำแผนพัฒนาตนเองรายบุคคลประจำปีการศึกษา ๒๕๖2 เรียบร้อยแลว้ รายละเอียดดังแนบ จงึ เรยี นมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณา ลงชื่อ ( นายสรรเสรญิ พลู สโุ ข ) ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย ความคดิ เหน็ ของผูช้ ่วยผูอ้ ำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ .............................................................................................................................. ................................................................................. ........................ .............................................................................................................................. ......................................................................................................... ลงชอ่ื ( นางตรงศรณ์ ตระกลู สม ) ผชู้ ่วยผูอ้ ำนวยการกลมุ่ บริหารวิชาการ ความคิดเห็นของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น ....................................................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ( นายพรี าวฏุ ฐ์ พมิ พร์ อด ) ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นวดั เจ้ามลู

คำนำ ด้วย ก.ค.ศ. ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาตนเองและวิชาชีพครูตามหลักเกณฑ์และวิธีการ พัฒนาตนเองและวิชาชีพครู (ว 22/2560) เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 ข้อ 1. ข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาตอ้ งไดร้ ับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทกุ ปี โดยใหป้ ระเมนิ ตนเองตามแบบที่ ก.ค.ศ. กำหนด พร้อม ทั้งจัดทำแผนพัฒนาตนเองเป็นรายปีตามแบบที่ส่วนราชการกำหนดและเข้ารับการพฒั นาตามแผนอย่างเป็น ระบบและตอ่ เน่ือง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ดำเนินการโครงการพัฒนาครูแบบครบวงจร ตาม นโยบายกระทรวงศกึ ษาธิการในการปฏิรูประบบการพัฒนาครู เพื่อตอบสนองต่อการพัฒนาทรัพยากรบุคคล อย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพสูงสุด สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560 - 2579) ซึ่ง กระทรวงศึกษาธิการ มีนโยบายพัฒนาครูเพื่อเชื่อมโยงกับวิทยฐานะ สำหรับการอบรมพัฒนาตนเองใน หลักสูตรที่สถาบันคุรุพัฒนารับรอง ก่อนที่ครูจะเข้ารับการพัฒนา ครูต้องจัดทำแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล (Individual Development Plan : ID Plan) ให้ผบู้ รหิ ารอนมุ ตั หิ ลกั สตู รท่ีจะไปเขา้ รบั การอบรมก่อน ข้าพเจ้า จึงได้ทำการวิเคราะห์ความต้องการจำเป็นในการพัฒนาพร้อมทั้งจัดทำแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล เพื่อขอ อนมุ ัติหลกั สตู รไปเข้ารับการพฒั นาต่อไป ( นายสรรเสริญ พูลสขุ โข ) ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย

1 บทนำ กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายในการปฏิรูประบบการพัฒนาครูเพื่อตอบสนองต่อการพัฒนา ทรัพยากรบุคคลอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพสูงสุด สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560 - 2579) เปน็ ประเทศพัฒนาแลว้ โดยกระทรวงศกึ ษาธิการ มีนโยบายการพฒั นาครูเพื่อเชื่อมโยงกับ วิทยฐานะ โดยการปรับปรุงหลักเกณฑ์การประเมินเพื่อขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะโดยให้ความสำคัญกับ \"ระยะเวลา\" ในการทำงานสั่งสมความชำนาญในระยะเวลาหนึ่งเชื่อมโยงกับการอบรมพัฒนาตนเอง โดยการ อบรมพัฒนาเองในหลักสูตรที่สถาบันคุรุพัฒนารับรอง และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน คัดเลือกหลักสูตรดังกล่าว เป็นหลักสูตรการพัฒนาข้าราชการครูของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ัน พนื้ ฐาน จากนโยบายดังกลา่ ว สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานจงึ ได้ดำเนินการโครงการพัฒนาครู รูปแบบครบวงจรของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานและให้ข้าราชการครูเลือกพฒั นาตนเองใน หลักสูตรที่สอดคล้องตามแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล (Individual Development Plan : ID Plan) และ สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษาและผู้เรียน เพื่อให้หน่วยงานส่วนกลางสามารถบริหารจัดการ จัดสรร งบประมาณไปยังสำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาเพอ่ื เปน็ ค่าใช้จ่ายใหก้ ับครูทีแ่ จ้งความประสงค์เข้ารับการอบรม ในหลกั สตู รต่าง ๆ และสามารถทราบความต้องการในการพฒั นาตนเองของครูในภาพรวมได้ ประกอบกบั การประเมินเพ่อื ขอมวี ิทยฐานะหรือเล่อื นวทิ ยฐานะทส่ี งู ขึ้นตาม ว 21/2560 กำหนดใหค้ รู ต้องทำแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล (Individual Development Plan : ID Plan) ในทุกวิทยฐานะ จึงได้ จัดทำแผนพฒั นาตนเองรายบคุ คล (Individual Development Plan : ID Plan) ขึ้น วตั ถุประสงค์ 1. เพอ่ื วางแผนการพฒั นาตนเองให้ไดต้ รงตามศักยภาพ 2. เพอื่ ใหพ้ ัฒนาตนเองตามหลกั สูตรโครงการพัฒนาครูรปู แบบครบวงจรของสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาข้ันพื้นฐานทีเ่ ป็นมาตรฐานผ่านการรบั รองจากสถาบนั ครุ พุ ัฒนา 3. เพ่ือให้สามารถนาความรู้จากการอบรมไปใช้ประโยชน์ได้จริงในการประกอบอาชีพและนำไปใช้ใน การเล่ือนวทิ ยฐานะ

2 กระบวนการจดั ทำแผนพัฒนาตนเองรายบคุ คล 1. ศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการจำเป็นในการพัฒนาตามกรอบหลักสูตรที่สถาบันคุรุพัฒนา กำหนดประกอบด้วย 3 องคป์ ระกอบ ดังน้คี อื องค์ประกอบดา้ นความรู้ ดา้ นทกั ษะ และดา้ นความเปน็ ครู 2. จัดทำแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล (Individual Development Plan : ID Plan) ตามความ ตอ้ งการพฒั นาตนเองทีส่ อดคลอ้ งกับภาระงานในหนา้ ทขี่ องตนเองและบรบิ ทของสถานศกึ ษาและผู้เรียน 3. ศึกษา ทำความเข้าใจหลกั สูตร คู่มอื หลักเกณฑ์ กฎ ระเบยี บของทางราชการทเ่ี ก่ียวข้อง และการ ดำเนนิ การอ่ืน ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งอย่างละเอียด 4. การพฒั นาตนเอง สามารถกระทำไดโ้ ดย 4.1 การอา่ นจากหนงั สอื ตำรา บทความทางวิชาการและงานวิจัยที่เก่ยี วข้อง 4.2 การสืบค้นข้อมูลผ่าน Search Engine ในเครือข่ายต่าง ๆ เช่น ThaiLis, Gotoknow, Google เปน็ ต้น 4.3 การไปเข้ารับการประชุม อบรมและพัฒนาตามที่ส่วนราชการจัดขึ้น เช่น โรงเรียน สำนักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษา สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน หรอื สถาบนั อุดมศึกษา 4.4 การไปเขา้ รับการอบรมพฒั นาตามทสี่ ถาบันอุดมศึกษาเปน็ ผจู้ ัด 4.5 การไปเข้ารับการพัฒนาในหลกั สตู รที่สถาบันครุ พุ ัฒนากำหนด (Training OBEC) 4.6 การอบรมพัฒนาผา่ นเครือขา่ ยต่าง ๆ เชน่ https://teacherpd.ipst.ac.th/ เปน็ ต้น

3 สามารถเขยี นเป็นแผนภูมแิ สดงความสมั พนั ธ์ได้ ดงั น้ี กระบวนการพฒั นาตนเอง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาตนเองและวชิ าชีพครู ตาม ว 22/2560 วิเคราะห์ความจำเปน็ ในการพัฒนา จัดทำแผนพฒั นาตนเองรายปี เสนอ ไม่อนุมตั ิ ผอ.โรงเรยี น อนมุ ตั ิ คณุ ภาพผู้เรียน เขา้ รบั การพฒั นา รายงานผลการพัฒนา แผนภูมิ : การพฒั นาตนเองเพื่อพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียน

4 สว่ นที่ 2 ข้อมลู ทว่ั ไปและผลการปฏบิ ตั งิ านทผี่ ่านมา ขอ้ มลู ทั่วไป ช่ือ : นายสรรเสรญิ พูลสขุ โข (Sunsern Poonsukkho) อายุ : 26 ปี ตำแหน่ง : ครูผชู้ ว่ ย อันดับ : - วิทยฐานะ : - เลขทต่ี ำแหนง่ : รบั เงนิ เดอื นอนั ดับ : ครูผู้ช่วย อัตราเงินเดือน : 15,800 บาท เข้ารบั ราชการเม่ือวันท่ี : 10 กันยายน 2562 อายุราชการถึงปัจจบุ ัน : 11 เดือน ระยะเวลาดำรงตำแหน่งปจั จุบัน : 11 เดอื น โทรศพั ทม์ ือถอื : 093-1134434 วุฒกิ ารศึกษา ตารางที่ 1 วฒุ ิการศกึ ษา ระดับการศึกษา วฒุ ิการศกึ ษา วิชาเอก สถาบัน ปที ี่จบ มัธยมศึกษาตอนตน้ ม.3 วทิ ย์ - คณิต โรงเรยี นภัทรญาณวทิ ยา พ.ศ.2549 มธั ยมศึกษาตอนปลาย ม.6 วทิ ย์ - คณิต โรงเรยี นภทั รญาณวิทยา พ.ศ.2554 ปรญิ ญาตรี คบ. สังคมศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนสุนนั ทา พ.ศ.2560 สถานท่ที ำงาน : โรงเรียนวดั เจา้ มลู สำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร สงั กดั ส่วนราชการ : สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ ประสบการณ์การทำงาน : พ.ศ.2562 - ปัจจุบัน ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย อนั ดบั ครูผ้ชู ่วย โรงเรียนวัดเจ้ามลู สำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษากรุงเทพมหานคร

5 งานในหน้าท่ีทรี่ ับผิดชอบ ในภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2562 ปฏิบตั กิ ารสอน ดังตอ่ ไปนี้ 1. งานจัดการเรียนรู้ที่สอนตามตารางสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและ วฒั นธรรมในปกี ารศึกษา 2562 มรี ายละเอยี ด ดังนี้ ตารางท่ี 2 การจดั การเรียนรูต้ ามตารางสอนกลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ปีการศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี วิชา รหสั วิชา ชั้น คาบ/ ชัว่ โมง/ สปั ดาห์ ภาคเรียน 2562 2 สงั คมศึกษา ส 14101 ป.4 2 40 สงั คมศึกษา ส 15101 ป.5/1,ป.5/2 4 160 สังคมศกึ ษา ส 16101 ป.6/1,ป.6/2 4 160 ประวัติศาสตร์ ส 12102 ป.2/1,ป.2/2 4 160 ประวตั ิศาสตร์ ส 13102 ป.3/1,ป.3/2 2 40 ประวตั ิศาสตร์ ส 14102 ป.4 1 20 ประวัตศิ าสตร์ ส 15102 ป.5/1,ป.5/2 2 40 ประวัตศิ าสตร์ ส 16102 ป.6/1,ป.6/2 2 40 ภาษาองั กฤษ ป.4 1 20 แนะแนว ป.4 1 20 รวมภาคเรียนที่ 2 23 700 รวมทง้ั สิ้น 700

6 2. งานจัดการเรียนรู้ที่สอนตามตารางสอนกิจกรรมเสริมหลักสูตรและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ในปีการศกึ ษา 2562 มีรายละเอียด ดงั นี้ ตารางที่ 3 การจัดการเรียนรูต้ ามตารางสอนกจิ กรรมเสริมหลักสตู รและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ปกี ารศึกษา ภาคเรียนท่ี วชิ า ชนั้ คาบ/ ช่วั โมง/ สัปดาห์ ภาคเรียน 2562 2 กจิ กรรมชุมนมุ อาเซียน ป.1-ป.6 1 20 กจิ กรรมวถิ พี ทุ ธ ป.4 1 20 กจิ กรรมลกู เสือ-เนตรนารี ป.4 1 20 Plc ครู 2 40 5 100 รวมภาคเรียนท่ี 2 รวมทง้ั สน้ิ 200 3. ชั่วโมงงานตอบสนองนโยบายและจดุ เน้น........................ชัว่ โมง 4. ช่ัวโมงการมีสว่ นรว่ มในชุมชนการเรยี นรู้ทางวิชาชพี (PLC)…………………………….ชัว่ โมง 5. ชวั่ โมงการอบรมตามท่ี ก.ค.ศ.รบั รอง......................... ช่วั โมง กลุม่ บรหิ ารงานวิชาการ 1.ครผู ู้สอนกลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม 2.ครูทป่ี รกึ ษาชุมนมุ อาเซยี น กลมุ่ บริหารงานบคุ คล 1. งานระบบการดแู ลช่วยเหลือนักเรียน ระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 (ครูท่ีปรึกษา) 2.เวรรกั ษาการณ์ประจำวนั พธุ อ่ืนๆ

7 ผลงานทเี่ กดิ จากการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีในตำแหน่งปัจจบุ นั ปีการศึกษา 2562 มีรายละเอยี ดดังนี้ 1. ผลท่ีเกิดจากการจัดการเรียนรู้ ผลจากการจัดการเรียนรู้ในทุกปกี ารศึกษาที่ปฏิบตั ิการสอนแลว้ ทำให้มผี ลที่เกิดจากการจัดการเรียนรู้ ในทกุ ปกี ารศึกษา ดงั นี้ 1.1 ร่วมกับคณะครูจดั ทำหลักสูตรสถานศึกษา วิเคราะหห์ ลักสูตร จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ และ นำแผนการจัดการเรยี นรูไ้ ปใชใ้ นการจดั ประสบการณใ์ ห้กบั นักเรยี น 1.2 ครูมีการวางแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างเป็นระบบมีการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคัญ โดยใช้สือ่ ทหี่ ลากหลาย เน้นกระบวนการคิด 1.3 มีการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ตามสภาพจริง โดยใช้เคร่อื งมืออย่างหลากหลายและนำผลไป ไปใชใ้ นการพฒั นาผูเ้ รยี น 1.4 ในปีการศกึ ษา 2562 นกั เรียนท่ีอยใู่ นความรบั ผดิ ชอบในการจดั การเรยี นรู้ มีผลการเรียนในระดับ 3 ข้นึ ไป จำแนกเป็นระดับช้นั ทีร่ บั ผดิ ชอบดงั น้ี รายวชิ าสังคมศกึ ษา -ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 4 คิดเปน็ ร้อยละ 86.67 -ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 คดิ เป็นรอ้ ยละ 85.37 -ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 คิดเปน็ ร้อยละ 76.92 รายวชิ าประวัตศิ าสตร์ -ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 คดิ เป็นร้อยละ 92.68 -ระดับชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 คิดเป็นรอ้ ยละ 85.00 -ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 คิดเป็นร้อยละ 80.00 -ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 คดิ เป็นร้อยละ 85.37 -ระดับชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6 คิดเปน็ ร้อยละ 88.46 โดยได้ดำเนินการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ให้กับนกั เรียน โดยร่วมกับคณะครูจดั ทำหลักสูตรสถานศึกษา ระดับประถมศกึ ษา เพอ่ื นำมาวเิ คราะห์หลักสูตร จัดทำแผนการจัดการเรยี นรู้ และนำแผนการจดั การเรียนรู้ไป ใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้กับนักเรยี น มีการวัดผลประเมินผลตามสภาพจริง โดยใช้แฟ้มสะสมผลงาน ชิ้นงาน แบบฝึก โดยการวัดผลประเมินผลดังกล่าวครอบคลุมทุกๆ ด้าน ได้แก่ ด้านความรู้ การปฏิบัติ กระบวนการและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของนักเรียนทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้าน ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา และมีคุณธรรม จริยธรรม ทั้งนี้เพื่อให้นักเรียนมีพัฒนาการที่ดี

8 มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตลอดจนมีการบนั ทึกหลังการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนอยา่ งสม่ำเสมอ ทั้งน้ี เพอ่ื จะไดช้ ว่ ยแก้ไขข้อบกพร่องใหก้ บั นักเรียนท่มี ีปญั หา 2. ผลท่ีเกดิ จากการพฒั นาวิชาการ ผลจากการไดม้ กี ารพัฒนาตนเองทางวชิ าการ จงึ ไดน้ ำความรเู้ หลา่ น้ันมาใช้ในการพัฒนาการเรยี นรู้ ใน แต่ละปีการศกึ ษา ดงั น้ี 2.1 มกี ารจัดหา พัฒนา ประยกุ ต์ใชส้ ่ือนวัตกรรมในการจัดการเรียนรู้ สามารถนำไปใชไ้ ดผ้ ลดี 2.2 การใชค้ วามคดิ เชิงระบบในการพฒั นางานอย่างครบวงจร และมปี ระสทิ ธภิ าพอย่างตอ่ เนื่อง 2.3 การนำความรู้ด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศมาพัฒนาระบบการเรียนรู้ 2.4 การส่งเสรมิ การคิดท่ีเนน้ ผลคุณภาพทตี่ ัวผเู้ รียน 2.5 การนำวธิ ีการวจิ ยั และพัฒนามาแกป้ ญั หา พรอ้ มทง้ั พัฒนางานอยา่ งครบวงจร 2.6 ฝึกสอนนักเรียนเข้าแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนในระดับเขตพื้นที่การศึกษาได้รับรางวัล เขา้ รว่ ม และกจิ กรรมเปดิ บา้ นโรงเรยี นวัดนวลนรดศิ การประกวดแขง่ ขนั มารยาทไทย ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อนั ดับท่ี 2 2.7 ฝึกสอนนกั เรยี นเข้าแขง่ ขนั ประกวดโครงงานตา่ ง ๆ ท่จี ัดข้นึ ผลที่เกิดจากการพัฒนาตนเองทางด้านวชิ าการ ส่งผลให้ตนเองได้พัฒนาในด้านต่างๆ มากมาย และ การพัฒนาผู้เรียนในด้านวชิ าการ การพัฒนาผู้เรียนด้านคุณธรรม จริยธรรมความมวี ินัยในตนเอง ซึ่งมีผลงาน เป็นที่ประจักษ์ ตลอดจนได้ร่วมพัฒนาบุคลากรในโรงเรียน โรงเรียนมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นโดย บุคลากรในโรงเรียน และโรงเรียนเป็นที่ยอมรับของบุคคลทั่วไปและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการเผยแพร่ ผลงานทางดา้ นวิชาการ นอกจากนั้นโรงเรียนยงั สนับสนนุ และสง่ เสริมใหบ้ ุคลากรไดพ้ ัฒนาสือ่ และนวตั กรรม

9 3. ผลทเี่ กดิ กับผูเ้ รียน 3.1 นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม และมีคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ตามสถานศึกษากำหนด 3.2 นกั เรยี นมผี ลสัมฤทธท์ิ างการเรียนผ่านเกณฑก์ ำหนดของโรงเรียน 3.3 นกั เรียนไดร้ บั การพฒั นาทนั ตอ่ ความก้าวหน้าทางวิชาการและการเปล่ียนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ และสงั คม 3.4 นักเรียนเข้าแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนในระดับเขตพื้นที่การศึกษาไดร้ ับรางวัล เข้าร่วม และกิจกรรมเปิดบ้านโรงเรียนวัดนวลนรดิศ การประกวดแข่งขันมารยาทไทย ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ที่ 2 3.5 นักเรียนเข้าแข่งขันประกวดโครงงานต่างๆ ที่จัดขึ้น และมีความรู้ในการทำงานอย่างเป็นระบบ จากการพัฒนาผลงานโครงงานท่ีไดเ้ ขา้ แขง่ ขนั ในรายการต่างๆ การจดั กจิ กรรมการการเรียนการสอนโดยเนน้ ผเู้ รียนเป็นสำคญั มีการใหน้ ักเรียนได้ฝึกการปฏิบัติจริง เพื่อให้นกั เรียนได้มีทักษะต่างๆ ตลอดจนสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงาม ความมีวินัยในตนเอง ส่งผลให้ ผู้เรยี นมคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม มีวนิ ยั ในตนเอง มสี ัมมาคารวะมีมารยาทตามวฒั นธรรมไทย มีความสามารถในการ ใช้ภาษาในการสื่อสาร การมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เรียนสามารถนำความรู้ความ เข้าใจและทักษะไปบูรณาการและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวนั เป็นการเพิ่มพนู สมรรถนะของตนเองให้มากขึ้น และส่งผลให้การใชช้ วี ติ ภายหน้าอยบู่ นพ้ืนฐานของคณุ ธรรม นำความรู้ และเศรษฐกจิ พอเพียง ตลอดจนการอยู่ ร่วมกนั ในสังคมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข 4. ผลทเี่ กิดกับสถานศึกษา 4.1 สถานศึกษาไดร้ ับการสนบั สนุนจากผ้ปู กครอง ชุมนมุ หนว่ ยงาน องคก์ รตา่ งๆ อยา่ งสม่ำเสมอ 4.2 มบี รรยากาศทงั้ ในและนอกหอ้ งเรยี นท่เี ออ้ื ต่อการเรยี นรู้ของครูและผู้เรียน 4.3 เปน็ แหล่งเรยี นรขู้ องสถานศกึ ษาหรือหนว่ ยงานต่างๆ 4.4 การนิเทศติดตามผลการปฏิบัติงานของครูทำให้การปฏิบัติงานมีความสมบูรณ์ และเป็นไปตาม เวลาท่กี ำหนด 4.5 มีระบบการทำงานเป็นทีมมากข้ึน 4.6 มีแนวปฏบิ ัติดา้ นเอกสาร หลักฐานทางการศึกษาที่ถูกตอ้ ง 4.7 การพฒั นางานมรี ะบบถกู ตอ้ งและครบวงจร จากการทส่ี ถานศกึ ษามีการวางแผนปฏบิ ัตริ าชการในการพัฒนา มีวิสัยทัศน์ เป้าหมาย และทิศทางใน การดำเนินงานเพ่ือพัฒนาสถานศึกษา นักเรียน โดยมีการจัดกิจกรรม โครงการต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่ง นักเรียนและครูมีสว่ นร่วมในการปฏบิ ัติกิจกรรม ทำให้ผลการดำเนินงานในโครงการหรือในด้านตา่ ง ๆ เป็นท่ี ยอมรบั ของผู้ปกครอง ชุมชน และทอ้ งถิ่น

10 5. ผลทีเ่ กิดกับชมุ ชน 5.1 ครู ผบู้ รหิ าร และผปู้ กครอง มกี ารประชมุ ทุกภาคเรียน 5.2 ครู และผู้บริหารร่วมกิจกรรมสำคญั ในชมุ ชนอยา่ งสม่ำเสมอ 5.3 โรงเรียนให้บริการแหล่งเรียนรู้แก่ชุมชนในด้านต่าง ๆ รวมทั้งส่งเสริม สนับสนุนให้ชมุ ชนมีความ เข้มแข็ง 5.4 ชมุ ชนใหค้ วามร่วมมอื และสนับสนนุ กิจกรรมตา่ ง ๆ ของโรงเรยี นดว้ ยดี สถานศึกษามีส่วนร่วมกับชุมชน ในกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดปีการศึกษา โดยเฉพาะกิจกรรมที่เกี่ยวกบั วัฒนธรรม ประเพณี และพิธีกรรมทางศาสนา เช่น ประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา ประเพณีลอยกระทง ประเพณีสงกรานต์ การทอดผา้ ปา่ ทอดกฐนิ งานประจำปี เป็นต้น ตลอดจนกจิ กรรมทเ่ี ป็นประโยชน์ กิจกรรม วนั สำคัญ เช่น กจิ กรรมวันแม่แห่งชาติ กิจกรรมวันพอ่ แห่งชาติ จนทำให้เกดิ ความร่วมมอื ความเข้าใจทีด่ ีต่อกัน เกิดความรักและความภาคภูมิใจในโรงเรียนและท้องถิ่น นอกจากนี้โรงเรียนยังได้จัดกิจกรรมการประชุม ผู้ปกครอง ประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในแต่ละภาคเรียนเพื่อชี้แจงนโยบายของโรงเรียนและ เพื่อหาแนวทางในการร่วมกันพัฒนาโรงเรียนท้ังพัฒนาอาคารสถานที่และพัฒนาทางวิชาการให้เป็นไปในทาง ทิศทางเดียวกนั

11 ส่วนท่ี 3 ผลการประเมนิ ตนเองตามกรอบหลกั สตู รของ ก.ค.ศ. ก.ค.ศ. ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาตนเองและวิชาชีพครู (ว22/2560) เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 ข้อ 1. กำหนดใหข้ า้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาต้องได้รบั การพัฒนาอย่างต่อเน่ือง ทุกปี โดยให้ประเมินตนเองตามแบบ ที่ ก.ค.ศ. กำหนด พร้อมทั้งจัดทำแผนการพัฒนาตนเองเป็นรายปี ตาม แบบที่ส่วนราชการกำหนด และเข้ารับการพัฒนาตามแผนอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ฉะนั้น ก่อนจะเลือก หลักสูตรคูปองการพฒั นา ครูจะต้องประเมินตนเอง จัดทำแผนพัฒนาตนเอง เพื่อให้ผู้บริหารอนุมัติหลักสูตร แผนพัฒนาตนเองรายบคุ คล (Individual Development Plan : ID Plan) การวเิ คราะหผ์ ลการประเมินตนเองตามกรอบหลกั สูตรทสี่ ถาบันครุ ุพัฒนารบั รอง การพฒั นาตนเองตามกรอบหลักสตู รทสี่ ถาบันครุ ุพฒั นากำหนดประกอบด้วย 3 องคป์ ระกอบ ดงั น้ีคือ องคป์ ระกอบด้านความรู้ ด้านทกั ษะ และดา้ นความเป็นครู ด้วยการประเมนิ ตนเองตามระดับคุณภาพ 5 ระดับ ดังนี้ 1 หมายถงึ ระดับทมี่ ีสมรรถนะนอ้ ยทีส่ ดุ 2 หมายถึง ระดบั ที่มีสมรรถนะนอ้ ย 3 หมายถึง ระดบั ทีม่ ีสมรรถนะปานกลาง 4 หมายถึง ระดบั ท่ีมสี มรรถนะมาก 5 หมายถึง ระดับท่มี สี มรรถนะมากที่สุด

12 ตอนที่ 1 ผลการประเมนิ ตนเองตามกรอบของ ก.ค.ศ. ตารางท่ี 4 ผลการประเมนิ ตนเองตามกรอบของ ก.ค.ศ. รายการพิจารณา ระดบั สมรรถนะ ลำดบั 5 4 3 2 1 ความสำคญั ด้านท่ี 1 ความรู้ความสามารถในการปฏบิ ัติหน้าท่ี 1. เนอ้ื หา ในรายวิชา/กลุ่มสาระการเรยี นรู้ทส่ี อน  2. วิธสี อน ถ่ายทอดความรเู้ ชงิ เนอื้ หา กิจกรรม บริบท เปา้ หมายการ เรียนรู้ ความรู้พ้ืนฐาน การปรบั พนื้ ฐาน และอุปสรรคการเรยี นร้ขู อง  1 ผ้เู รียน 3. หลกั การสอน และกระบวนการเรยี นรู้ 2 4. หลกั สูตร การออกแบบ วางแผนการใช้ ประเมนิ และแนวทาง  การเรยี นร้ใู นแตล่ ะเน้ือหา 5. พ้ืนฐานการศกึ ษา หลักการศึกษา ปรัชญาการศึกษา จติ วิทยา สงั คม นโยบายการศึกษา จุดมงุ่ หมายการจดั การศึกษาตัง้ แต่  ระดับชาตจิ นถงึ ระดบั หลกั สูตร 6. การจดั การศึกษาแบบรวม และการตอบสนองต่อความ  หลากหลายของผเู้ รยี น 7. ทฤษฎีการเรียนรู้ และจติ วทิ ยาการเรียนรู้  8. การใชเ้ ทคโนโลยี และสอื่ นวตั กรรมเพือ่ การเรยี นรู้  9. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้  ดา้ นที่ 2 ทักษะการปฏบิ ตั ิงาน 1. การสรา้ งและหรอื พฒั นาหลักสตู ร  2. การออกแบบหน่วยการเรียน  3. การจดั ทำแผนการจัดการเรยี นรู้  4. กลยทุ ธใ์ นการจดั การเรยี นรู้ 3 5. การสรา้ งและการพฒั นาสอ่ื นวตั กรรม เทคโนโลยี 4 ทางการศึกษาและแหลง่ เรียนรู้ 6. การจัดบรรยากาศการเรยี นรู้  7. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้  8. การวิจยั เพ่ือพัฒนาการเรียนรู้ 5 9. การทำงานร่วมกับผ้อู ื่น  10. การแลกเปล่ียนเรยี นรกู้ ับเพ่ือนร่วมวิชาชพี 6 11. ทักษะการใชภ้ าษาไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 

13 รายการพจิ ารณา ระดับสมรรถนะ ลำดับ ด้านท่ี 3 ความเปน็ ครู 5432 1 ความสำคัญ 1. ยึดมั่น ผูกพัน ศรัทธาในวชิ าชพี และทมุ่ เทเพื่อการเรยี นรูข้ อง ผู้เรียน  7 2. มคี ณุ ธรรม จริยธรรม และปฏิบัตติ นเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผ้เู รยี น ทง้ั กาย วาจา และจิตใจ ดำรงตนใหเ้ ป็นที่เคารพ ศรัทธา และ  น่าเชอ่ื ถอื ท้งั ใน และนอกสถานศึกษา 3. ปฏบิ ัตติ นตามจรรยาบรรณวิชาชีพครู  4. มวี ินยั และการรกั ษาวินัย  5. เป็นบคุ คลแห่งการเรียนรู้ ปรับปรงุ และพฒั นาตนเองอยา่ ง ต่อเนอ่ื ง ใหม้ คี วามรคู้ วามชำนาญในวิชาชพี เพ่ิมข้ึน  6. ปฏบิ ตั ิตนโดยนำหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้  7. มที ัศนคติท่ดี ีตอ่ บา้ นเมือง  ตอนที่ 2 สาระทีเ่ ปน็ ศาสตรท์ ่เี กยี่ วข้องกบั การจัดการเรยี นรู้ (Pedagogy) ตารางที่ 5 สาระทเ่ี ป็นศาสตรท์ เี่ กี่ยวข้องกบั การจดั การเรยี นรู้ (Pedagogy) รายการพิจารณา ระดบั สมรรถนะ ลำดบั 1. การสอนในศตวรรษที่ 21 5 4 3 2 1 ความสำคัญ 2. การแก้ปัญหาผูเ้ รยี น 3. จติ วิทยาการแนะแนว/จิตวิทยาการจัดการเรยี นรู้  4. การจดั การชั้นเรียน 5. การวิจยั พัฒนาการเรยี นการสอน/ชุมชนแห่งการเรียนรู้  ทางวชิ าชีพ 6. การพฒั นาหลักสูตร  7. สะเตม็ ศกึ ษา (STEM Education) 8. การใชส้ ื่อและเทคโนโลยใี นการจดั การเรียน  9. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 10. การออกแบบการเรียนรู้ 8  9  10   

14 สรุปผลการประเมินตนเอง ตอนที่ 1 ผลการประเมินตนเองตามกรอบของ กคศ. พบว่า ด้านที่ 1 ความรู้ความสามารถในการปฏบิ ัติหน้าท่ี สิ่งที่ควรพัฒนาให้ดีข้ึน คือ (1) วิธีสอน ถ่ายทอด ความรู้เชิงเนื้อหา กิจกรรม บริบท เป้าหมายการเรียนรู้ ความรู้พื้นฐาน การปรับพื้นฐาน และอุปสรรคการ เรียนรู้ของผู้เรียน (2) หลักการสอน และกระบวนการเรียนรู้ ดังนั้น จึงควรมีการพัฒนา 2 ด้านนี้ให้มีความรู้ กระบวนการ และทกั ษะให้เพิม่ มากข้ึน ด้านที่ 2 ทักษะการปฏิบัติงาน สิ่งที่ควรพัฒนาให้ดีขึ้น คือ (1) กลยุทธ์ในการจัดการเรียนรู้ (2) การ สร้างและการพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี (3) ทางการศึกษาและแหล่งเรียนรู้. การวิจัยเพื่อพัฒนาการ เรียนรู้ (4) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนร่วมวิชาชีพ ดังนั้น จึงควรมีการพัฒนา 4 ด้านนี้ให้มีความรู้ กระบวนการ และทกั ษะใหเ้ พมิ่ มากขึ้น ดา้ นที่ 3 ความเป็นครู สิง่ ที่ควรพัฒนาให้ดขี ้ึน คอื (1) เปน็ บุคคลแห่งการเรียนรู้ ปรับปรุง และพัฒนา ตนเองอย่างต่อเนื่อง ให้มีความรู้ความชำนาญในวิชาชีพ เพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงควรมีการพฒั นาดา้ นนี้ให้มีความรู้ กระบวนการ และทกั ษะใหเ้ พ่ิมมากขนึ้ ตอนท่ี 2 สาระท่เี ปน็ ศาสตร์ทเ่ี กี่ยวข้องกับการจัดการเรยี นรู้ (Pedagogy) พบว่า ควรมีการพัฒนาในด้าน (1) การวิจัยพัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (2) สะเต็มศึกษา (STEM Education) (3) การใช้สอื่ และเทคโนโลยใี นการจดั การเรยี น ใหด้ ยี ิ่งขน้ึ

15 ส่วนท่ี 4 แผนพฒั นาตนเองรายบุคคล กระทรวงศึกษาธิการ มุ่งเนน้ ใหค้ รูและบคุ ลากรทางการศึกษา พฒั นาตนเองโดยยึดหลกั การประเมิน สมรรถนะ (Competency Based Approach) จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถรู้จุดเด่น จุดด้อยขอ ง ความสามารถในการปฏิบตั ิงานของตน และสามารถพฒั นาตนเองใหส้ อดคลอ้ งกับความตอ้ งการจำเปน็ ผ่าน หลักสตู รการพฒั นาข้าราชการครู ซึง่ มรี ายละเอียดดงั น้ี ลำดับความสำคัญของสมรรถนะทจี่ ะพัฒนา ตารางท่ี 6 ลำดบั ความสำคญั ของสมรรถนะที่จะพฒั นา ลำดบั ท่ี สมรรถนะทจ่ี ะพฒั นา 1 วิธีสอน ถา่ ยทอดความรเู้ ชิงเนอ้ื หา กิจกรรม บริบท เปา้ หมายการเรยี นรู้ ความรูพ้ ้ืนฐาน การ ปรับพนื้ ฐาน และอปุ สรรคการเรียนรูข้ องผเู้ รียน 2 หลกั การสอน และกระบวนการเรยี นรู้ 3 กลยทุ ธ์ในการจดั การเรยี นรู้ 4 การสรา้ งและการพัฒนาสือ่ นวตั กรรม เทคโนโลยที างการศึกษาและแหล่งเรียนรู้ 5 การวิจยั เพอ่ื พัฒนาการเรยี นรู้ 6 การแลกเปล่ยี นเรยี นรกู้ บั เพอ่ื นร่วมวิชาชีพ 7 เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ ปรบั ปรุง และพัฒนาตนเองอยา่ งตอ่ เนื่อง ใหม้ คี วามรคู้ วามชำนาญใน วชิ าชพี เพิ่มขึน้ 8 การวจิ ยั พัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการเรยี นรทู้ างวชิ าชีพ 9 สะเตม็ ศกึ ษา (STEM Education) 10 การใช้ส่อื และเทคโนโลยีในการจดั การเรียน

16 ประวัตกิ ารเข้ารับการพัฒนาในปที ีผ่ ่านมา ตารางท่ี 7 ประวัติการเข้ารบั การพัฒนาในปีท่ีผ่านมา

17 ความตอ้ งการในการพัฒนา 1. หลกั สูตรใดที่ท่านตอ้ งการพัฒนา 1.1 หลักสตู ร เทคนคิ การใชโ้ ปรแกรม Google Application เพอ่ื การจดั การเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี 21 1.2 หลักสูตร “หลักสูตรการจัดการเรียนรู้แบบบรู ณาการรายวิชาสงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ระดับชัน้ ประถมศึกษา 2. เพราะเหตุใดท่านจงึ ต้องการเขา้ รับการพัฒนาในหลกั สตู รน้ี เนื่องดว้ ยความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี ในปจั จบุ นั มบี ทบาทสำคัญต่อการจัดการเรยี นรู้ การเขา้ ถึง องค์ความรูต้ ่าง ๆ เป็นเรื่องง่ายดาย เพียงการสืบคน้ ผ่านเครือขา่ ยอินเตอร์เน็ต ก็สามารถแสวงหาความรู้ตาม ความสนใจได้ทุกเวลา ดังนั้นจึงต้องการเข้ารับการพัฒนาหลักสูตร “เทคนิคการใช้โปรแกรม Google Application เพื่อการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21” และหลักสูตรการจดั การเรียนรู้แบบบรู ณาการรายวชิ า สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เพื่อนำวิธีการออกแบบสื่อการเรียนการสอนแบบออนไลน์มาใช้ในการ จัดการเรียนรใู้ นรายวิชาทส่ี อน อีกทั้งยังสอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี, แผนการศึกษาชาติ, นโยบายศธ. และนโยบาย สพฐ. ยุทธศาสตร์ที่ 4 ข้อ 2. การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ข้อ 2.2 ส่งเสริมสนับสนุนการใช้ เทคโนโลยีในการจัดการศึกษาให้ครอบคลุมทุกพื้นท่ีอยา่ งทั่วถึง ข้อ 2.7 สนับสนุนการผลติ จัดหา และใช้ส่ือ การเรยี นการสอน เทคโนโลยี นวัตกรรม ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาฯ ข้อ 1.2 ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ข้อ 1.3 การเรียนรู้ผ่านกิจกรรมการปฏิบัติจริง (Active Learning) ข้อ 1.4 การพัฒนาครูทั้งระบบท่ี เชื่อมโยงกับการเลื่อนวิทยฐานะ 3. ทา่ นคาดหวังส่ิงใดจากการเขา้ รับการพัฒนาในหลักสูตรน้ี 3.1 ด้านความรู้ 1) ดา้ นการจดั การเรยี นการสอน การสร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร การวิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน การงานพน้ื ฐานอาชีพ เพื่อพัฒนาหลักสตู ร แล้วใชเ้ ป็นขอ้ สนเทศใน การจดั ทำคำอธิบายรายวชิ าท่ีข้าพเจ้าปฏิบตั กิ ารสอน 2) การจัดการเรยี นรู้ - การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรใู้ หเ้ หมาะสม - การจัดทำแผนนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย ตลอดจนวิธีการบันทึกหลังสอนให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การ เรยี นรู้ - ประมวลความรู้ในประเด็นกลยุทธ์ในการจัดการเรียนรู้ ทั้งนี้จักได้ใช้เป็นแนวทางใน การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ ที่ขา้ พเจา้ ปฏบิ ัตกิ ารสอน

18 3) การสรา้ งและการพฒั นา ส่ือ นวตั กรรม เทคโนโลยีทางการศึกษา และแหลง่ เรียนรู้ 4) การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ คัดสรรและพัฒนาเครื่องมือวัดผล ในการพัฒนากิจกรรมการ เรียนรู้ ตามพสิ ยั ทัง้ 3 ดา้ น คือ พทุ ธิพสิ ยั จติ พิสัย และทกั ษะพิสยั ซงึ่ ประกอบด้วยแบบประเมินทหี่ ลากหลาย 5) การวจิ ยั เพอื่ พัฒนาการเรยี นรู้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ 1) ด้านการบรหิ ารจัดการชนั้ เรยี น - ความรู้การบริหารจัดการชั้นเรียน เพื่อเป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ วิชาที่ข้าพเจ้า ปฏิบัติการสอน ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ในการเรียนรู้ มีความปลอดภัยและมีความสุข ตลอดจน สง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รียนเกิดกระบวนการคิด มีทกั ษะชวี ิตและทักษะการทำงาน - ความรู้การจัดระบบดูแลชว่ ยเหลือผู้เรียน - การจัดทำขอ้ มูลสารสนเทศ และเอกสารประจำวิชา อยา่ งเปน็ ระบบถกู ต้องและเป็นปัจจุบัน ตลอดจนใชข้ ้อมลู สารสนเทศในการเสริมสรา้ งและพัฒนาผ้เู รยี น 3.3 ด้านความเปน็ ครู ดา้ นการพฒั นาตนเองและพัฒนาวิชาชพี - การพัฒนาตนเอง และพฒั นาการจัดการเรยี นรทู้ ีส่ อดคลอ้ งกับสภาพการปฏบิ ตั ิงาน - ข้อสนเทศในการขอมีและเลอื่ นวิทยฐานะ ผา่ นการสร้างชุมชนแห่งการเรียนร้ทู างวิชาชพี (PLC)

19 4. ทา่ นจะนำความรู้จากหลักสูตรไปพัฒนาการสอนของท่านอย่างไร 1) ข้าพเจ้าจะนำองค์ความรู้จากหลักสูตรไปใช้ในการจัดทำและพัฒนาหลักสูตรรายวิชาสังคมศึกษา และรายวิชาประวัตศิ าสตร์ที่ข้าพเจ้าปฏิบัตกิ ารสอน โดยมีการวเิ คราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดเพ่ือ จดั ทำคำอธบิ ายรายวิชา หนว่ ยการเรยี นรู้ รวมถงึ ประเมินความสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้วี ดั 2) ข้าพเจ้าจะนำองค์ความรู้จากหลักสูตร ไปใช้ในการจัดทำและพัฒนาหน่วยการเรียนรูท้ ี่สอดคล้อง กับคำอธิบายรายวิชา ธรรมชาติของสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โดยจะได้นำรูปแบบ การจัดการเรียนรู้ สอื่ นวัตกรรม เทคโนโลยี และการวัดและประเมินผลมาจากการพฒั นาตนเองตามหลักสูตร มาเป็นข้อมูลสารสนเทศในการจดั การเรยี นรู้ 3) ข้าพเจ้าจะนำองค์ความรู้จากหลักสูตร มาใช้ในการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียนการงานพื้นฐาน อาชีพ ให้มคี วามรู้ ทกั ษะ คณุ ลักษณะ ตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวดั สมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอัน พงึ ประสงค์ โดยไม่ฝืนธรรมชาตผิ ู้เรียนและเต็มตามศักยภาพของผ้เู รยี นตอ่ ไป 4) ข้าพเจ้าจะนำความรู้และทักษะที่ได้รับการพัฒนาระหว่างการฝึกอบรมไปประยุกต์ใช้ในการ ปฏิบัติงานจริงในห้องเรยี นของตนเอง โดยเสนอผลปฏิบัตติ ามแผนการจัดกิจกรรม แบบคู่ Buddy ผ่านระบบ ออนไลน์ เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนร่วมวิชาชีพในอันที่จะปรับปรุงการเรียนรู้ และการปฏิบัติงาน อยา่ งต่อเน่ืองตอ่ ไป ลงช่อื ( นายสรรเสริญ พลู สุโข ) ผจู้ ัดทำแผนพัฒนาตนเอง ความเห็นของผบู้ ังคับบญั ชา .............................................................................................................................. ......................................................................................................... .............................................................................................................................. ......................................................................................................... .............................................................................................................................. ......................................................................................................... ลงชือ่ ( นายพีราวุฏฐ์ พมิ พ์รอด) ผู้อำนวยการโรงเรยี นวดั เจ้ามูล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook