Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 1สรุปงานทักษะชีวิต 63

1สรุปงานทักษะชีวิต 63

Published by stanasan2517, 2020-09-16 01:39:41

Description: 1สรุปงานทักษะชีวิต 63

Search

Read the Text Version

รายงานผลการดาเนินงาน โครงการการดารงชีวติ อยู่อยา่ งไรให้มคี วามสุข วนั ท่ี 9 กรกฎาคม 2563 ณ ศาลา SML หมู่ 5 ตาบลไผ่พระ กศน. ตาบลไผ่พระ ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอบางไทร จงั หวัดพระนครศรีอยุธยา

ประจาปงี บประมาณ 2563 คานา เอกสาร รายงานผลการดาเนินงานการจัดกิจกรรมทักษะชีวิต โครงการการดารงชีวิตอยู่อย่างไร ใหม้ ีความสุข จดั ทาขนึ้ เพอ่ื รายงานผลการดาเนินงานด้านการจัดการศึกษาต่อเน่อื ง ของ กศน.ตาบล ภายใต้ การดูแลของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอบางไทร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ตรวจสอบขัน้ ตอนการดาเนนิ กิจกรรม ประเมินผลและพฒั นาการดาเนินกิจกรรมของ กศน.ตาบลไผ่พระ ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่า เอกสารรายงานผลการดาเนินงานการจัดกิจกรรมการจัดกิจกรรมใน ครง้ั น้ี จะเป็นแนวทางในการพัฒนางานและการจดั กจิ กรรมในครั้งตอ่ ไป ผจู้ ดั ทา นายธนสาร โกพฒั น์ตา ครูอาสาสมัครฯ

สารบัญ หนา้ คานา 1 สารบัญ 1 บทที่ 1 บทนา 2 2 เหตุผลและความจาเป็น 3 วัตถุประสงค์ 3 ประโยชน์ทค่ี าดวา่ จะได้รับ บทท่ี 2 เอกสารทเ่ี กี่ยวข้อง 4 ความสาคญั ของการจัดและสง่ กระบวนการเรียนรู้ 5 ตามแนวปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 10 ที่มาและความสาคัญของกิจกรรม 15 บทที่ 3 วิธกี ารดาเนนิ งาน 15 บทที่ 4 ผลการดาเนินงาน 15 บทท่ี 5 สรปุ อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ 15 วตั ถุประสงคก์ ารดาเนินงาน 16 วธิ ดี าเนนิ การ อภปิ รายผล ขอ้ เสนอแนะ และแนวทางในการพฒั นากจิ กรรม ภาคผนวก ภาพโครงการการดารงชีวติ อยู่อย่างไรให้มคี วามสขุ แบบประเมนิ ความพึงพอใจ รายช่ือผูเ้ ข้ารว่ มกจิ กรรม

บทที่ 1 บทนา เหตุผลและความจาเปน็ ปจั จุบนั ในชีวติ ของคนเรามีเร่ืองราวต่าง ๆ มากมายใหต้ ้องประสบพบเจอ แถมเรื่องบางเร่ืองยังเป็น เร่อื งทีช่ วนปวดเศียรเวยี นเกล้าอีกต่างหาก ซึ่งนเี่ องอาจจะเปน็ อกี สาเหตุสาคญั ท่ีทาให้เกิดผลเสยี ทง้ั ต่อสภาพ รา่ งกายและจติ ใจ รวมท้ังการเปลย่ี นแปลงของเศรษฐกจิ และสังคม ดังน้นั เพ่อื เปน็ การป้องกนั และเตรียมความ พรอ้ มในระยะยาว ไมใ่ ห้ตนเองต้องเปน็ ภาระกับลูกหลานในอนาคต การดแู ลตวั เองในทุกๆดา้ นของตนเองจึง สาคญั ยิง่ การจัดกิจกรรมเสริมทักษะชีวติ ใน ดา้ นการดูแลสุขภาพของตัวเองในเรอื่ งของการรับประทานอาหาร ทเี่ ปน็ ประโยชนจ์ ะเป็นวธิ กี ารข้นั ต้นทจ่ี ะสนับสนนุ และส่งเสริมความม่นั คงทางสุขภาพกายสุขภาพใจ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอบางไทร โดย กศน.ตาบลไผ่พระ ได้ ตระหนักถึงปัญหาในอนาคตดังกล่าว จึงได้จัดโครงการ การดารงชีวิตอยู่อย่างไรให้มีความสุขขึ้น โดยมี วัตถุประสงค์เพ่ือเพิ่มทักษะในการดูแลสุขภาพกายกับสุขภาพใจ เพ่ือการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงส่งผลถึง จติ ใจท่ีเขม้ แข็งสมบรู ณ์ นาพาซ่ึงการพัฒนาประเทศชาติ เศรษฐกิจ สงั คม ชุมชนต่อไป วตั ถุประสงค์ 1. เพ่ือให้ประชาชนผู้เข้าร่วมกิจกรรมเข้าใจในการอยู่อย่างไรให้มีความสุข ดูแลสุขภาพกายใจ รับประทานอาหาร อยา่ งถูกสุขลกั ษณะและการฝึกจิตใหเ้ ป็นสมาธเิ พอื่ ที่มีสุขภาพและจิตใจทแี่ ขง็ แรง 2. เพื่อใหป้ ระชาชนผ้เู ข้าร่วมมคี วามอดทน และมีความสามารถต่อส้อู ุปสรรคต่างๆ ได้ เปน็ คนที่ ยอมรับความจรงิ ในชวี ติ ทาตัวใหเ้ ปน็ ประโยชน์ตอ่ ตนเองและสงั คม ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะไดร้ บั 1. ประชาชนผู้เข้าร่วมกิจกรรมผู้เข้าร่วมกิจกรรมเข้าใจในการอยู่อย่างไรให้มีความสุข ดูแล สุขภาพกายใจรับประทานอาหาร อย่างถูกสุขลักษณะและการฝึกจิตให้เป็นสมาธิเพื่อท่ีมีสุขภาพและจิตใจท่ี แข็งแรง 2. ประชาชนผเู้ ข้ารว่ มมีความอดทน และมคี วามสามารถตอ่ สู้อปุ สรรคตา่ งๆ ได้ เปน็ คนท่ี ยอมรบั ความจริงในชีวิต ทาตัวให้เป็นประโยชนต์ อ่ ตนเองและสงั คม

บทท่ี 2 เอกสารที่เก่ยี วข้อง การดาเนินงานการจัดกิจกรรมทักษะชีวิต โครงการการดารงชีวิตอยู่อย่างไรให้มีความสุข ได้เสนอ แนวคดิ หลักการและเอกสารท่ีเก่ยี วขอ้ ง ตามลาดบั ดังตอ่ ไปนี้ 1. ความสาคัญของการจัดจัดกิจกรรมทักษะชีวิต 2. ท่ีมาและความสาคญั ของกิจกรรม 1. ความสาคัญของการจัดกิจกรรมทักษะชีวิต โครงการการดารงชีวิตอยู่อย่างไรให้มีความสุข ปัจจุบัน ประเทศไทยกาลังเข้าสู่ภาวะสังคมผู้สูงอายุ นับวันประชากรในวัยผู้สูงอายุจะมีจานวนเพิ่มมากข้ึนจากข้อมูล ของสานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช) บอกไว้ว่าประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นต้นไป จะมีจานวนประชากรอายุเกิน ๖๐ ปีกว่า ๑๐ ล้านคน สาหรับปี พ.ศ.๒๕๖๗ จะเป็นช่วงเวลาแห่ง สงั คมผู้สูงอายุอยา่ งสมบรู ณ์และท่ีสาคัญในอกี ๒๕ ปีข้างหนา้ หรอื ปี พ.ศ. ๒๕๘๓ ผู้สูงอายไุ ทย ๖๐ ปีข้ึนไปจะ มีจานวนสูงถึง ๒๐.๕ ล้านคน หรือร้อยละ ๓๒ ของประชากรท้ังหมด ขณะที่ประชากรวัยทางานจะลดเหลือ เพยี ง ๓๕.๑๘ ลา้ นคน ดงั นั้นเพือ่ เป็นการป้องกันและเตรยี มความพร้อมในระยะยาว ไม่ใหต้ นเองต้องเปน็ ภาระ กับลูกหลานในอนาคต การดูแลตัวเองในทุกๆด้านของผู้สูงอายุจึงสาคัญยิ่ง การจัดกิจกรรมเสริมทักษะชีวิต ใหก้ ับผสู้ ูงอายุ ด้านการดูแลสขุ ภาพของตัวเองในเร่ืองของการรับประทานอาหารทเ่ี ป็นประโยชน์จะเปน็ วิธกี าร ข้นั ตน้ ทีจ่ ะสนบั สนุนและสง่ เสรมิ ความมนั่ คงทางสุขภาพกายสุขภาพใจให้มคี วามสุข

บทที่ 3 วธิ ีการดาเนินงาน ด้วย กศน.ตาบลไผ่พระ ได้การมีการจัดกจิ กรรมทกั ษะชวี ติ โดยยึดเยาวชนและประชาชนในตาบลเป็น สาคัญ ทาให้เกิดเนื้อหาสาระ ระยะเวลาการจัดกิจกรรม สถานท่ี และลักษณะกิจกรรมการเรียนรู้ ทั้งนี้ ขึ้นอย่กู ับ ศกั ยภาพและความพร้อมของประชาชนกลุ่มเป้าหมายซ่ึงเป็นการตอบสนองนโยบายของสานักงาน ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ซึ่งได้ดาเนินการโครงการการดารงชีวิตอยู่อย่างไร ใหม้ ีความสขุ สาระสาคัญ 1. ผสู้ ูงอายแุ ละประชาชนผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมมีความเขา้ ใจในการดูแลสขุ ภาพกายสุขภาพใจในเรอ่ื ง การรบั ประทานอาหาร โภชนาการอยา่ งถูกสขุ ลกั ษณะเพอ่ื เป็นผสู้ งู อายุท่ีมสี ุขภาพร่างกายทีแ่ ข็งแรงทั้งกาย และใจพร้อมท้ังเห็นคณุ คา่ และภาคภมู ใิ จในตนเอง 2. บุตรหลานเข้าใจผู้สูงอายุและสามารถดแู ลผู้สูงอายไุ ด้อย่างถูกวิธีและสามารถสรา้ งขวญั และ กาลงั ใจ ให้แกผ่ ูส้ ูงอายุ ให้มีชวี ิตอยอู่ ยา่ งมศี ักดศ์ิ รี เปน็ ตวั อยา่ งทดี่ แี กล่ กู หลานสบื ไปการนาพชื ผกั สมุนไพรมา ใช้ในการบารุงร่างกายและรักษาโรคในการดาเนินชวี ิตของตนเองไดถ้ ูกวิธแี ละปลอดภยั วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพอ่ื ใหป้ ระชาชนของ กศน.ตาบลไผ่พระ เข้าใจของในการดแู ลสขุ ภาพกายในเรอื่ งการ รับประทานอาหาร โภชนาการอย่างถูกสุขลกั ษณะและการฝึกจติ ให้เป็นสมาธิเพือ่ เป็นผู้สูงอายุทมี่ ีสุขภาพ ร่างกายทแี่ ขง็ แรงท้ังกายและใจ 2. เพื่อใหป้ ระชาชนผู้เขา้ อบรมสามารถดูแลสุขภาพของตนเองไดอ้ ยา่ งถกู วิธีและมีชีวติ อยู่อยา่ งมี ความสขุ เปน็ ตัวอยา่ งที่ดีแก่ลูกหลานสบื ไป ผลทไ่ี ดร้ ับจากการดาเนนิ กจิ กรรม ประชาชนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความเข้าใจในการดูแลสุขภาพกายสุขภาพใจในเร่ืองการรับปร ะทาน อาหาร โภชนาการอย่างถูกสุขลักษณะเพื่อเป็นผู้สูงอายุที่มีสุขภาพร่างกายท่ีแข็งแรงทั้งกายและใจพร้อมท้ัง เหน็ คณุ คา่ และภาคภูมิใจในตนเอง

บทที่ 4 ผลการดาเนนิ งาน จากการสารวจความพึงพอใจ การจัดกิจกรรมทักษะชวี ิต โครงการดารงชีวติ อยู่อย่างไรใหม้ ีความสุข ของผู้เข้าร่วมโครงการ โดยใช้แบบประเมินความพึงพอใจ จานวน 25 ฉบับ และได้รับ กลับคืนมา จานวน 25 ฉบบั วิเคราะหข์ อ้ มูลโดยใชโ้ ปรแกรม Excel ตามขัน้ ตอนตา่ ง ๆ ดังตอ่ ไปน้ี 1. วเิ คราะหข์ ้อมลู จากแบบสอบถามตอนที่ 1 โดยแจกแจงความถ่แี ละคา่ ร้อยละ 2. วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามตอนท่ี 2 โดยหาค่าเฉลX่ีย ( ) แปลความหมายข้อมูลเชิง ปรมิ าณ ให้ระดับคะแนนในแบบสอบถามทเ่ี ป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ตามเกณฑ์ประเมินความ คดิ เห็นของเบสท์ (Best. 1981 :182) ดงั น้ี 4.51–5.00 หมายถึง ความพงึ พอใจอยู่ในระดับดมี าก 3.51–4.50 หมายถงึ ความพงึ พอใจอย่ใู นระดับดี 2.51–3.50 หมายถึง ความพงึ พอใจอยู่ในระดับปานกลาง 1.51–2.50 หมายถงึ ความพงึ พอใจอยใู่ นระดบั พอใช้ 1.00–1.50 หมายถึง ความพงึ พอใจอยู่ในระดบั ปรับปรงุ 3. วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามตอนท่ี 3 ข้อมูลท่ีเป็นมาตราส่วนประมาณค่า (RatingScale) โดยหาค่าเฉลี่ยX ( ) แปลความหมายข้อมูล แปลความหมายข้อมูลเชิงปรมิ าณ โดยใช้เกณฑ์ข้อ 2 ข้อมูล ท่ีเป็นความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหา(Content Analysis)จัดกลุ่มคาตอบและหา ค่าความถี่ สรุปผลการประเมินความพึงพอใจ กิจกรรมการจัดกิจกรรมทักษะชีวิต โครงการการดารงชีวิตอยู่ อย่างไรใหม้ คี วามสุข ที่เข้ารว่ มโครงการดงั นี้

ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนตวั ของผตู้ อบแบบสอบถาม ตารางที่1 ขอ้ มูลท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถาม จาแนกตาม เพศ อายุ ระดับการศกึ ษา และอาชีพ ข้อมูลท่ัวไป จานวน รอ้ ยละ เพศ ชาย 15 60.00 หญงิ 10 40.00 อายุ ต่ากว่า 15 ปี 0 00.00 15-39 ปี 0 00.00 40-59 ปี 12 48.00 60 ปีข้ึนไป 13 52.00 การศกึ ษา ประถมศึกษา 22 88.00 มัธยมศึกษาตอนต้น 2 8.00 มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 1 4.00 ปรญิ ญาตรี 0 00.00 อืน่ ๆ 0 00.00 อาชพี รบั จ้าง 14 56.00 คา้ ขาย 0 00.00 เกษตรกรรม 7 28.00 รับราชการ 0 00.00 อน่ื ๆ(ไม่ระบุ) 4 16.00

จากตารางที่ 1 แสดงจานวนผตู้ อบแบบสอบถามทั้งหมด 25 คน เปน็ เพศหญิง จานวน 10 คน (คิดเป็นรอ้ ยละ 40.00) เปน็ เพศชาย จานวน 15 คน (คิดเป็นร้อยละ 60.00) - ด้านอายุ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม อายุ 60 ปี มากที่สุดจานวน 13 คน (คิดเป็นร้อยละ 52.00) รองลงมาช่วงอายุชว่ งอายุ 40-59 ปีขนึ้ ไป จานวน 12 คน (คิดเป็นรอ้ ยละ 48.00) - ด้านการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีการศึกษาระดับประถมศึกษามากท่ีสุดจานวน 22 คน (คิดเปน็ ร้อยละ 88.00) รองลงมาคอื การศกึ ษาระดับมัธยมตน้ จานวน 2 คน (คิดเป็นร้อยละ 8.00) และระดับ มธั ยมศึกษาตอนปลาย จานวน 1 คน (คดิ เปน็ รอ้ ยละ 4.00) - ด้านอาชีพ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีอาชีพรับจ้างมากที่สุด จานวน 14 คน (คิดเป็นร้อยละ 56.00) เกษตรกรรมจานวน 7 คน(คิดเป็นร้อยละ 28.00) รองลงมามีอาชีพอ่ืนๆ จานวน 4 คน (คิดเป็นร้อย ละ 16.00) สรุปผลการประเมินความพึงพอใจโครงการท่เี ขา้ ร่วมโครงการ ไดด้ งั น้ี ผลการประเมนิ ตอนท่ี 2 ความพึงพอใจของผู้เรียน/ผู้รบั บรกิ าร โดยรวมและแยกเปน็ รายด้าน ตารางที่ 2 ความพงึ พอใจท่ีมีตอ่ โครงการโดยรวมและแยกเป็นรายดา้ น รายการประเมิน 1. ดา้ นหลักสตู ร ความหมาย X 4.35 ดี 2. ด้านวิทยากร 4.44 ดี 3. ดา้ นสถานที่/ระยะเวลา/ความพึงพอใจ 4.33 ดี รวม 4.37 ดี จากตารางที่ 2 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจที่มีต่อโครงการ โดยรวมและรายด้าน อยู่ ในระดับ ดี ทุกรายการ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหนึ่งคือ ด้านวิทยากร รองลงมา ด้าน หลักสตู ร และด้านสถานท่/ี ระยะเวลา/ความพงึ พอใจ ตามลาดบั

ตารางที่ 3 ความพึงพอใจที่มีต่อโครงการ ด้านหลกั สตู ร ผลการประเมนิ รายการประเมนิ ความหมาย 1. กิจกรรมทจี่ ัดสอดคล้องกับวตั ถุประสงค์ของหลักสตู ร X 2. เน้ือหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการของผเู้ รียน/ผูร้ ับบริการ 3. การจัดกจิ กรรมทาให้ผู้เรยี น/ผู้รบั บริการสามารถคดิ เปน็ ทาเปน็ 4.44 ดี แกป้ ญั หาเป็น 4.16 ดี 4. ผเู้ รียน/ผู้รับบรกิ ารมีส่วนรว่ มแสดงความคิดเหน็ ต่อการจัดทาหลักสูตร 5. ผู้เรียน/ผรู้ ับบริการสามารถนาความรูไ้ ปปรบั ใช้ในชวี ติ ประจาวัน ดี 6. ส่อื /เอกสารประกอบการจดั กจิ กรรมมีความเหมาะสม 4.42 4.42 ดี รวม 4.55 ดี 4.11 ดี 4.35 ดี จากตารางที่ 3 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจที่มีต่อโครงการด้านหลักสูตร โดยรวมและ รายด้านอย่ใู นระดับ ดี เมือ่ พิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหน่ึงคือ ผู้เรียน/ผู้รบั บรกิ ารสามารถนาความรู้ ไปปรับใช้ในชีวิตประจาวันรองมาอันดับสอง ด้านกิจกรรมที่จัดสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตรและ อันดับที่สามและท่ีส่ีเท่ากัน คือ ด้านการจัดกิจกรรมทาให้ผู้เรียน/ผู้รับบริการสามารถคิดเป็น ทาเป็น แก้ปัญหาเป็นและด้านผู้เรียน/ผู้รับบริการมีส่วนร่วม แสดงความคิดเห็นต่อการจัดทาหลักสูตร อันดับสุดท้าย คอื สือ่ /เอกสารประกอบการจัดกจิ กรรมมีความเหมาะสม ตามลาดับ

ตารางที่ 4 ความพึงพอใจดา้ นวิทยากร ผลการประเมิน ความหมาย รายการประเมิน X 1.วิทยากร มคี วามร้คู วามสามารถในการจัดกิจกรรม 2.วิทยากรมีเทคนิค กระบวนการจดั กจิ กรรม 4.57 ดมี าก 3.วิทยากรมีการใช้สื่อที่สอดคลอ้ งและเหมาะสมกบั กจิ กรรม 4.42 ดี 4.วิทยากรมีคุณธรรม จรยิ ธรรม 4.37 ดี 5.บคุ ลกิ ภาพของวิทยากร 4.50 ดี 4.38 ดี รวม 4.45 ดี จากตารางท่ี 4 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจท่ีมีต่อโครงการด้านวิทยากรโดยรวมและ รายด้านอยู่ในระดับ ดี เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหนึ่งคือ มีความรู้ความสามารถในการจัด กิจกรรม อันดับสองคือวิทยากรมีคุณธรรม จริยธรรม อันดับสาม คือ วิทยากรมีเทคนิค กระบวนการจัด กิจกรรม อันดับส่ี คือ บุคลิกภาพของวิทยากร และอันดับสุดท้าย คือวิทยากรมีการใช้ส่ือที่สอดคล้องและ เหมาะสมกบั กจิ กรรม ตามลาดบั

ตารางที่ 5 ความพงึ พอใจดา้ นสถานท/่ี ระยะเวลา/ความพึงพอใจ รายการประเมิน ผลการประเมนิ 1. สถานท่ใี นการจดั กจิ กรรม ความหมาย X 4.04 ดี 2. ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม 4.35 ดี 3. ความพึงพอใจในภาพรวมของผ้รู บั บรกิ ารตอ่ การเขา้ รว่ ม 4.60 ดมี าก กิจกรรม รวม 4.00 ดี จากตารางที่ 5 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจท่ีมีต่อโครงการด้านสถานที่/ระยะเวลา/ ความพึงพอใจ โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับดี เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหน่ึงคือ ความพึง พอใจในภาพรวมของผู้รับบริการต่อการเข้าร่วมกิจกรรมอันดับสองคือ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม และอนั ดับสุดทา้ ย คือ สถานทใ่ี นการจดั กจิ กรรม ตามลาดับ

บทท่ี 5 สรปุ อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนินโครงการการดาเนินชีวิตอยู่อย่างไรให้มีความสุข ที่เข้าร่วมโครงการ คร้ังน้ี มี วัตถุประสงค์เพ่ือประเมินผลความพึงพอใจของผู้เรียน/ผู้รับบริการท่ีมีต่อโครงการโดยรวมและแยกเป็นราย ดา้ น โดยใช้แบบสอบถามจานวน 25 ฉบับ เครอ่ื งมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามที่เป็นแบบมาตราส่วนประมาณ ค่า 5 ระดับ ตามเกณฑ์ประเมนิ ความคิดเห็นของเบสท์ (Best. 1981 : 182) วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลXี่ย ( ) แปลความหมายข้อมูล แปลความหมายข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้เกณฑ์ข้อ 2 ข้อมูลที่เป็นความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ใช้วิธีการวิเคราะห์เน้ือหา (Content Analysis) จัดกลุ่มคาตอบ และหาคา่ ความถ่ี สรุปผลการประเมนิ ความพึงพอใจของผเู้ รียน/ผรู้ บั บริการ จากแบบประเมนิ ความพึงพอใจสรปุ ผลได้ ดังน้ี 1. ดา้ นหลักสตู ร พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจทม่ี ีต่อโครงการด้านหลักสตู ร โดยรวมและรายดา้ น อยู่ในระดบั ดี เม่ือพิจารณาเปน็ รายข้อ พบว่า อันดับหนึ่งคือ ผู้เรยี น/ผูร้ บั บริการ สามารถนาความรู้ไปปรบั ใช้ใน ชวี ิตประจาวันรองมาอันดับสองคือ กิจกรรมท่ีจดั สอดคล้องกับวัตถปุ ระสงค์ ของหลกั สตู รอนั ดับสามและสเ่ี ท่ากัน คือ การจดั กจิ กรรมทาใหผ้ เู้ รยี น/ผู้รบั บริการสามารถคิดเป็น ทาเปน็ แก้ปญั หาเป็นและ ผเู้ รียน/ผู้รับบริการมีส่วนรว่ ม แสดงความคิดเหน็ ต่อการจัดทาหลักสูตร อนั ดับสุดทา้ ยคือ สือ่ /เอกสารประกอบการจดั กิจกรรมมคี วามเหมาะสม ตามลาดับ 2. ด้านวิทยากร พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมคี วามพึงพอใจท่ีมตี ่อโครงการด้านวิทยากรโดยรวมและ รายด้านอยู่ในระดับ ดี เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหนึ่งคือ มีความรู้ความสามารถในการจัด กิจกรรม อันดับสองคือวิทยากรมีคุณธรรม จริยธรรม อันดับสาม คือ วิทยากรมีเทคนิค กระบวนการจัด กิจกรรม อันดับสี่ คือ บุคลิกภาพของวิทยากร และอันดับสุดท้าย คือวิทยากรมีการใช้สื่อที่สอดคล้องและ เหมาะสมกับกจิ กรรม ตามลาดับ 3. ด้านสถานท่ี/ระยะเวลา/ความพึงพอใจ พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจท่ีมีต่อ โครงการด้านสถานท่ี/ระยะเวลา/ความพึงพอใจ โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับดี เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหนึ่งคือ ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้รับบริการต่อการเข้าร่วมกิจกรรมอันดับสองคือ ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรมเหมาะสม และอันดับสุดทา้ ย คือ สถานที่ในการจัดกจิ กรรม ตามลาดบั ผลการดาเนินงาน 1. ประชาชนผู้เข้ารว่ มกิจกรรมผู้เข้าร่วมกจิ กรรมเข้าใจในการอยู่อย่างไรให้มีความสุข ดูแลสขุ ภาพกายใจ รบั ประทานอาหาร อยา่ งถกู สุขลักษณะและการฝกึ จิตให้เป็นสมาธิเพอื่ ทีม่ ีสุขภาพและจิตใจท่แี ข็งแรง 2. ประชาชนผู้เข้ารว่ มมีความอดทน และมีความสามารถตอ่ สอู้ ุปสรรคต่างๆ ได้ เป็นคนที่ยอมรับความ จริงในชวี ติ ทาตัวใหเ้ ป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม



ภาคผนวก ภาพการจัดกจิ กรรม

โครงการเยาวชนตาบลโพแตงและตาบลบา้ นม้า ตา้ นภัยยาเสพติด วันท่ี 6 มถิ ุนายน 2559 ณ. กศน.ตาบลโพแตง หมูท่ ่ี 3 ตาบลโพแตง อาเภอบางไทร จงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook