พระพทุ ธรูปสาคญั ในสมยั ตา่ ง ๆ พระพทุ ธรูปศิลา สมยั ทวารวดี เป็นพระพทุ ธรูปขนาดใหญ่ชดุ หนง่ึ มี จานวน ๕ องค์ สร้างเป็นหินทรายสขี าว ๔ องค์ และอีก ๑ องค์เป็นหินทรายสีเขียว แตเ่ ดมิ ประดิษฐานอยทู่ ่ีวดั พระเมรุ จงั หวดั นครปฐม โดยเชื่อวา่ ๔ องค์แรก ซงึ่ มีลกั ษณะและขนาด เดียวกนั ประดษิ ฐานใน จระนาของซ้มุ เรือนธาตทุ งั้ ๔ ด้าน สว่ นองค์ที่ ๕ อาจอยใู่ นวิหาร พระพทุ ธรูปทงั้ หมดอยใู่ นสภาพชารุดแตกหกั เป็ นชิน้ สว่ น ได้มีการปฏิสงั ขรณ์ขนึ ้ ใหมใ่ น ภายหลงั และเคลื่อนย้ายไปประดิษฐานตาม ที่ตา่ งๆ คือ องค์ท่ี ๑ ประดิษฐานอย่ภู ายในพระ อโุ บสถ วดั พระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวหิ าร อาเภอเมืองฯ จงั หวดั นครปฐม เป็นองค์ที่ สมบรู ณ์ที่สดุ องค์ที่ ๒ ประดษิ ฐานท่ี บริเวณลานประทกั ษิณด้านทิศใต้ของพระปฐมเจดีย์ องค์ที่ ๓ จดั แสดงไว้ในพพิ ิธภณั ฑสถานแหง่ ชาตพิ ระนคร องค์ท่ี ๔ จดั แสดงไว้ในพิพธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาตเิ จ้าสามพระยา จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา และองค์ท่ี ๕ ประดิษฐานอยใู่ นวหิ าร น้อย วดั หน้าพระเมรุ จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา พระพทุ ธรูปศลิ าทรายขาว หรือหินทรายสีขาวทงั้ ๔ องค์ เป็นปางทรงแสดงธรรม(วติ รรกมทุ รา) ด้วยพระหตั ถ์ขวา พระหตั ถ์ ซ้ายวางบนพระเพลา ประทบั นงั่ ห้อยพระบาท ทงั้ ทา่ นง่ั และการครองผ้าได้รับอิทธิพลทางด้านรูปแบบมาจากศลิ ปะอนิ เดีย สมยั คปุ ตะและสมยั ปาละ สว่ นลกั ษณะพระพกั ตร์สร้างเป็ นแบบพืน้ เมืองแล้ว พระพทุ ธรูปนาคปรก ปางมารวิชยั สมยั ศรีวิชยั
พระพทุ ธรูปนาคปรกองค์นีพ้ บที่อาเภอไชยา จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี ปัจจบุ นั จดั แสดงไว้ในพิพธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาติพระนคร เป็นพระพทุ ธรูปสมยั ศรีวิชยั ตอนปลาย ท่ีมีอิทธิพลของศิลปะขอมเข้ามาปะปนแล้ว พระพทุ ธรูปองค์นีม้ ีความสาคญั คือ ที่ ฐานพระพทุ ธรูปมีจารึกท่ีกลา่ วถงึ ผ้สู ร้างคือ เจ้าเมืองครหิ สร้างใน พ.ศ. ๑๗๒๖ สนั นิษฐานวา่ เมอื งครหิคือ เมืองไชยาใน ปัจจบุ นั ตามปกตพิ ระพทุ ธรูปนาคปรกจะแสดงปางสมาธิ แตพ่ ระพทุ ธรูปองค์นีแ้ สดงปางมารวชิ ยั พระพทุ ธรูปนาคปรก ศิลปะเขมรท่ีพบในประเทศไทย สมยั นครวดั เป็นพระพทุ ธรูปนาคปรก สมยั นครวดั อายปุ ระมาณพทุ ธศตวรรษท่ี ๑๗ จดั แสดงในพิพธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาตพิ ระนคร มี ลกั ษณะสาคญั คือ เป็นพระพทุ ธรูปทรงเครื่องปางสมาธิ ประทบั นงั่ บนขนดนาค ๓ ชนั้ มีเศียรนาค ๗ เศียร พระพกั ตร์ สเ่ี หล่ียมถมงึ ทงึ พระเนตรเปิ ด ทรงเทริด และกรองศอ อนั เป็นรูปแบบที่นิยมในศิลปะนครวดั พระพทุ ธรูปสมยั สโุ ขทยั พระพทุ ธรูปสมยั สโุ ขทยั มีท่ีสาคญั มากหลายองค์ ได้แก่ ๑. พระพทุ ธชินราช ประดษิ ฐานอยใู่ นพระวิหารวดั พระศรีรัตนมหาธาตุ จงั หวดั พิษณโุ ลก เป็นพระพทุ ธรูปสาคญั และมีความงามมากท่ีสดุ องค์ หนงึ่ ในงานประติมากรรมไทย สนั นิษฐานวา่ สร้างขนึ ้ ในสมยั พระมหาธรรมราชาท่ี ๑ (ลไิ ท) พระมหากษัตริย์แหง่ กรุง
สโุ ขทยั ราวๆต้นพทุ ธศตวรรษท่ี ๒๐ มีลกั ษณะเฉพาะของสกลุ ช่างสโุ ขทยั ท่ีเรียกวา่ หมวดพระพทุ ธชินราช คือ พระพกั ตร์รูป ไข่ พระวรกายคอ่ นข้างอวบอ้วน นิว้ พระหตั ถ์ทงั้ ๔ ยาวเสมอกนั ๒. พระพทุ ธชินสหี ์ ประดิษฐานอยู่ ในพระอโุ บสถวดั บวรนิเวศวหิ าร กรุงเทพมหานคร เดิมประดษิ ฐานอยทู่ ่ีพระวหิ าร วดั พระศรีรัตนมหาธาตุ จงั หวดั พษิ ณโุ ลก สมเดจ็ พระบวรราชเจ้ามหาศกั ดพิ ลเสพ (ในรัชกาลที่ ๓) โปรดให้อญั เชิญลงมายงั กรุงเทพมหานคร เป็น พระพทุ ธรูปซงึ่ มีรูปลกั ษณะงดงาม สนั นิษฐานวา่ สร้างขนึ ้ ในคราวเดียวกบั พระพทุ ธชินราช ๓. พระศรีศากยมนุ ี ประดิษฐานอยใู่ นพระวหิ ารวดั สทุ ศั นเทพวราราม กรุงเทพมหานคร เดิมเป็นพระประธานในพระวหิ ารหลวง วดั มหาธาตุ อทุ ยานประวตั ิศาสตร์สโุ ขทยั พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้ าจฬุ าโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้อญั เชิญลงมายงั กรุงเทพมหานคร เมื่อ พ.ศ. ๒๓๕๑ พระศรีศากยมนุ ีจดั เป็นพระพทุ ธรูปสมั ฤทธิ์ขนาดใหญ่มากที่สดุ องค์หนง่ึ และเป็น พระพทุ ธรูปสมยั สโุ ขทยั รุ่นเดียวกบั พระพทุ ธชนิ ราช คงสร้างขนึ ้ ในสมยั ท่ีอาณาจกั รสโุ ขทยั รุ่งเรืองสงู สดุ ในตอนต้นพทุ ธ ศตวรรษที่ ๒๐ ๔. พระสโุ ขทยั ไตรมติ ร ประดิษฐานอยใู่ นพระวิหารวดั ไตรมิตรวิทยาราม เขตสมั พนั ธวงศ์ กรุงเทพมหานคร เป็นพระพทุ ธรูปปางมารวชิ ยั หน้าตกั กว้าง ๓.๑๐ เมตร สงู ๓.๗๗ เมตร หลอ่ ด้วยทองคา ท่ีเรียกวา่ ทองเนือ้ เจ็ดนา้ สองขา จดั เป็นเนือ้ ทองคอ่ นข้างบริสทุ ธ์ิ เดิมพระพทุ ธรูปองค์นีม้ ีปนู ห้มุ อยทู่ วั่ ทงั้ องค์ และประดิษฐานอยทู่ ่ีวดั โชตนิ าราม หรือวดั พระยาไกร มาตงั้ แตค่ รัง้ รัชกาลที่ ๓ ตอ่ มาใน พ.ศ. ๒๔๗๘ ได้มีการเคลอื่ นย้ายพระพทุ ธรูปองค์นีไ้ ปไว้ท่ีข้างพระเจดยี ์ ในวดั สามจีน ซงึ่ ปัจจบุ นั เรียกวา่ วดั ไตร มิตรวิทยาราม ครัน้ ถงึ พ.ศ. ๒๔๙๘ จงึ ได้มีการสร้างพระวิหารหลงั ใหม่ เพ่ือประดิษฐานพระพทุ ธรูปองค์นี ้ปรากฏวา่ ใน
การเคลอื่ นย้าย ปนู ท่ีห้มุ องค์พระได้กะเทาะออก ทาให้เหน็ วา่ มีพระพทุ ธรูปองค์ในที่เป็นเนือ้ ทองคาทงั้ องค์ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั ได้พระราชทานนามพระพทุ ธรูปองค์นี ้เม่ือ พ.ศ. ๒๕๓๕ วา่ พระพทุ ธมหาสวุ รรณปฏิมากร ลกั ษณะศลิ ปกรรมของพระสโุ ขทยั ไตรมิตรจดั เป็นพระพทุ ธรูปสโุ ขทยั ในหมวดใหญ่ พระพกั ตร์รูปไข่ ขมวดพระเกศาเลก็ พระรัศมีเป็นเปลว พระองั สาใหญ่ บนั้ พระองค์เลก็ ชายสงั ฆาฏิเป็นเส้นเลก็ ยาวลงมาจรดพระนาภี ปลายคล้ายเขีย้ วตะขาบ พระพทุ ธรูปสโุ ขทยั หมวดใหญ่นิยมสร้างในราวๆ กลางพทุ ธศตวรรษที่ ๑๙ ถงึ กลางพทุ ธศตวรรษท่ี ๒๐ ตงั้ แตส่ มยั พระมหา ธรรมราชาท่ี ๑ (ลิไท) เป็นต้นมา สาหรับพระสโุ ขทยั ไตรมติ ร นีม้ ีลกั ษณะท่ีสามารถเปรียบเทียบได้กบั กลมุ่ พระพทุ ธรูปท่ีมี จารึกที่ฐาน เชน่ พระพทุ ธรูป ทองโบราณ วดั หงส์รัตนาราม กรุงเทพมหา นคร ระบศุ กั ราชท่ีสร้างคือ ๑๙๖๓ ดงั นนั้ พระ สโุ ขทยั ไตรมติ รจงึ น่าจะสร้างขนึ ้ ในราวๆ กลางพทุ ธศตวรรษท่ี ๒๐ การท่ีพระสโุ ขทยั ไตรมติ รมาประดิษฐานยงั กรุงเทพมหานครนนั้ คงเกิดขนึ ้ ในรัชกาลพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้ าจฬุ า โลกมหาราช ซงึ่ ได้โปรดเกล้าฯ ให้อญั เชิญพระพทุ ธรูปจากหวั เมืองเหนือมาไว้ยงั กรุงเทพมหานครเป็นจานวนมาก และได้ โปรดเกล้าฯให้นาไปประดิษฐานยงั วดั ตา่ งๆ ท่ีสร้างขนึ ้ ใหม่ พระสโุ ขทยั ไตรมติ รคงได้รับการอญั เชิญมาในคราวเดียวกนั นี ้ และนามาประดิษฐานยงั วดั โชตินาราม ท่ีสร้างขนึ ้ ในรัชกาลท่ี ๓ ดงั กลา่ วแล้วข้างต้น สว่ นการพอกปนู ห้มุ ทบั องค์พระ พทุ ธ รูปนนั้ นา่ จะเป็นการป้ องกนั อนั ตราย ในภาวะสงครามคราวใดคราวหนง่ึ ๕. พระพทุ ธรูปลีลาสมยั สโุ ขทยั ประดษิ ฐานทพี่ ระระเบยี งวดั เบญจมบพิตร ดสุ ิตวนาราม กรุงเทพมหานคร มีอายรุ าวกลางพทุ ธศตวรรษที่ ๒๐ พระพทุ ธรูปลลี าถือเป็นประตมิ ากรรมที่งามที่สดุ แบบหนงึ่ ในศิลปกรรมไทย และเป็นรูปแบบท่เี ชื่อวา่ ชา่ งไทยได้ประดิษฐ์ ขนึ ้ เอง เพราะพระพทุ ธรูปลลี าลอยตวั ไมป่ รากฏ ในศิลปะของชนชาตอิ ื่นๆ ความเป็ นมาของพระพทุ ธรูปลลี านัน้ น่าจะมา
จากพระพทุ ธรูปปางเสดจ็ ลงจากสวรรค์ชนั้ ดาวดงึ ส์ ภายหลงั การเสดจ็ ขนึ ้ ไปเทศนาโปรดพระพทุ ธมารดา โดยเป็ นตอนท่ี พระพทุ ธเจ้ากาลงั ทรงพระดาเนินลงมาตามบนั ได พระพทุ ธรุปล้านนาท่ีสาคญั ได้แก่ พระเจ้าเก้าตือ้ และ พระเจ้าแข้งคม ๑. พระเจ้าเก้าตือ้ ประดิษฐานในวหิ ารพระเจ้าเก้าตือ้ วดั บปุ ผาราม (วดั สวนดอก) จงั หวดั เชียงใหม่ ซง่ึ พระเมืองแก้ว (กษัตริย์ล้านนา พ.ศ. ๒๐๓๘ - ๒๐๖๘) โปรดให้สร้างขนึ ้ ใน พ.ศ. ๒๐๔๗ แล้วเสร็จใน พ.ศ. ๒๐๕๓ จดั เป็นพระพทุ ธรูปสมั ฤทธิ์ล้านนาที่อยใู่ น สภาพสมบรู ณ์ที่ใหญ่ที่สดุ หน้าตกั กว้าง ๒.๙๐ เมตร สงู ๓.๘๙ เมตร เป็ นพระพทุ ธรูปในกลมุ่ ที่มีอทิ ธิพลพระพทุ ธรูปหมวด ใหญ่ในศิลปะสโุ ขทยั คือ ประทบั นงั่ ขดั สมาธิราบบนฐานหน้ากระดานเกลีย้ ง พระพกั ตร์รูปไข่ พระรัศมีเป็นเปลว แตส่ งั ฆาฏิ เป็นแผน่ ใหญ่ยาวลงมาจรดพระนาภี ซง่ึ เป็นลกั ษณะอิทธิพลของศลิ ปะอยธุ ยาแล้ว ๒. พระเจ้าแข้งคม ประดิษฐานท่วี ดั ศรีเกิด จงั หวดั เชียงใหม่ เป็นพระพทุ ธรูปขนาดใหญ่มากองค์หนงึ่ ของล้านนา (หน้าตกั กว้าง ๒.๓๒ เมตร สงู ๓.๖๕ เมตร) ตามประวตั ิกลา่ ววา่ สร้างขนึ ้ เมื่อ พ.ศ. ๒๐๒๐ โดยพระเจ้าติโลกราชโปรดให้หลอ่ ขนึ ้
ลกั ษณะของพระพทุ ธรูปแข้งคม มีความแตกต่างจากแบบแผนของศลิ ปะล้านนา ที่มีมาแตเ่ ดมิ อยา่ งเหน็ ได้ชดั คือ พระชงฆ์ เป็นสนั (แข้งคม) พระพกั ตร์ส่เี หลย่ี ม พระเนตรโปน พระโอษฐ์หนา ขอบพระโอษฐ์ซ้อนกนั ๒ เส้น มีไรพระศก ขมวดพระ เกศาเป็นเมด็ เลก็ พระรัศมีเป็นเปลวสงู สงั ฆาฏิเป็นแผน่ ขนาดใหญ่ยาวลงมาจรดพระนาภี ปลายเป็นริว้ พบั ซ้อนกนั พระ หตั ถ์ขวาวางอยกู่ งึ่ กลางพระชงฆ์ นิว้ พระหตั ถ์ยาวไมเ่ สมอกนั ลกั ษณะดงั กลา่ วนีส้ ามารถ เปรียบเทียบได้กบั พระพทุ ธรูป แบบอทู่ องรุ่นที่ ๒ ท่ีมีอทิ ธิพลของศิลปะเขมรแบบบายน พระพทุ ธรูปแบบอทู่ อง (ศลิ ปะกอ่ นอยธุ ยา) ที่สาคญั ได้แก่ พระพทุ ธไตรรัตนนายก ประดษิ ฐานท่ีพระวหิ ารหลวง วดั พนญั เชิง จงั หวดั พระนครศรีอยธุ า เรียกวา่ “พระ โต” “หลวงพอ่ โต” หรือ “หลวงพอ่ พนญั เชิง” ชาวจีนเรียกวา่ “ซาปอกง” ตามพระราชพงศาวดารกรุงเกา่ ฉบบั หลวง ประเสริฐอกั ษรนิติ์ กลา่ ววา่ พระพทุ ธรูปองค์นีส้ ร้างขนึ ้ เม่ือ พ.ศ. ๑๘๖๘ กอ่ นการสถาปนากรุงศรีอยธุ ยาเป็ นราชธานี ๒๖ ปี เป็นพระพทุ ธรูปกอ่ อิฐถือปนู ลงรักปิ ดทอง สงู ประมาณ ๑๙ เมตร ลกั ษณะพระพทุ ธรูปจดั เป็นแบบอทู่ องรุ่นที่ ๒ มีลกั ษณะ พระพกั ตร์สเ่ี หล่ียมเคร่งขรึม ขมวดพระเกศาเลก็ พระรัศมีเป็ นเปลว พระพทุ ธรูปสมยั อยธุ ยาทีส่ าคญั คือ ๑. พระมงคลบพติ ร
ประดษิ ฐานทีว่ ิหาร วดั มงคลบพิตร จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา ไม่ปรากฏหลกั ฐานวา่ สร้างขนึ ้ เม่ือใด แต่จากพทุ ธลกั ษณะ และการค้นพบพระพทุ ธรูปขนาดเลก็ แบบเชียงแสนสงิ ห์หนง่ึ (ขดั สมาธิเพชร) บรรจไุ ว้ในพระอรุ ะ แสดงให้เหน็ ถงึ การรับ อทิ ธิพลของศิลปะสโุ ขทยั และศิลปะล้านนา แล้ว จงึ เช่ือวา่ พระมงคลบพิตรน่าจะสร้างขนึ ้ ในสมยั อยธุ ยาตอนต้น ประมาณ พทุ ธศตวรรษ ที่ ๒๐ เป็นพระพทุ ธรูปก่ออิฐถือปนู สงู ๑๒.๔๕ เมตร ๒. พระพทุ ธรูปทรงเครื่องใหญ่ ประดิษฐานในพระอโุ บสถวดั หน้าพระเมรุ จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา พระพทุ ธรูปทรงเครื่องใหญ่นีไ้ ด้รับความนิยมอย่างมาก ในสมยั อยธุ ยาตอนปลาย สนั นิษฐานวา่ สร้างขนึ ้ ในความหมาย ของปางทรมานพญามหาชมพู กษัตริย์ที่ถือพระองค์วา่ เป็นจกั รพรรดผิ ้ยู ่ิงใหญ่ในจกั รวาล พระพทุ ธองค์จงึ เนรมิตพระองค์ ให้อยใู่ นเครื่องทรงอยา่ งจกั รพรรดิที่ย่งิ ใหญ่กวา่ พญามหาชมพู และทรงเทศนาโปรด จนกษัตริย์พระองค์นี ้ยอมผนวช และ สาเร็จเป็นพระอรหนั ต์ ลกั ษณะพระพทุ ธรูปแสดงให้เหน็ ถงึ งานช่างในสมยั อยธุ ยาตอนปลาย เป็นพระพทุ ธรูปกอ่ อิฐถือปนู ฉาบด้วยปนู ปัน้ ลงรัก ปิ ดทอง ได้รับการบรู ณะครัง้ ใหญ่ในรัชกาลที่ ๓ แหง่ กรุงรัตนโกสนิ ทร์ และพระราชทานนามวา่ พระพทุ ธนิมิตรวิชิตมารโพลี ศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ พระพทุ ธรูปสมยั รัตนโกสนิ ทร์
๑. พระพทุ ธยอดฟ้ าจฬุ าโลก และพระพทุ ธเลศิ หล้านภาลยั ประดิษฐานอยู่ ในพระอโุ บสถวดั พระศรีรัตนศาสดาราม กรุง เทพมหานคร พระพทุ ธรูปทงั้ ๒ องค์นี ้พระบาท สมเดจ็ พระนง่ั เกล้าเจ้าอยหู่ วั ทรงสร้างขนึ ้ ตามพระราชประเพณีนิยมที่เชื่อวา่ มีมาแล้ว ตงั้ แตส่ มยั อยธุ ยา คือ การสร้างรูปบรู พมหากษัตริยาธิราชเจ้า พระองค์จงึ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระพทุ ธรูปทรงเครื่องใหญ่ อยา่ งพระมหาจกั รพรรดริ าชขนึ ้ ๒ องค์ เป็นพระพทุ ธรูปสาริดห้มุ ด้วยทองคา องค์หนง่ึ จารึกพระนามวา่ “พระพทุ ธยอดฟ้ า จฬุ าโลก” ถวายสมเดจ็ พระบรมอยั กา เพื่อใช้แทนพระนามเดิมวา่ “แผน่ ดินต้น” อีกพระองค์หนงึ่ จารึกพระนามว่า “พระ พทุ ธเลศิ หล้าสลุ าลยั ” พระบรมชนกนาถ เพื่อใช้แทนพระนามท่เี รียกมาแตเ่ ดิมคือ “แผน่ ดนิ กลาง” ตอ่ มาในรัชกาลที่ ๔ ได้ ทรงเปลี่ยนเป็น “พระพทุ ธเลศิ หล้านภาลยั ” ด้วยเหตนุ ี ้พระนามของพระพทุ ธรูปทงั้ ๒ องค์ จงึ กลายเป็นพระนามของ รัชกาลท่ี ๑ และรัชกาลที่ ๒ ด้วยเหตผุ ลทไี่ มป่ ระสงค์ให้เรียกพระนามรัชกาลท่ี ๓ วา่ “แผน่ ดนิ ปลาย” พทุ ธลกั ษณะของพระพทุ ธรูปทงั้ ๒ องค์ เหมือนกนั คือ เป็นพระพทุ ธรูปยืน แสดงปางประทานอภยั ทงั้ ๒ พระหตั ถ์ (ห้าม สมทุ ร) ทรงเคร่ืองใหญ่อยา่ งพระมหาจกั รพรรดิราชซงึ่ มีมาแล้วตงั้ แตส่ มยั อยธุ ยาตอนปลาย แตไ่ ด้เพิม่ เครื่องทรงให้มากขนึ ้ กวา่ เดิม เชน่ กรรเจียกจร กระหนกเหนือพระองั สา และเพมิ่ ชนั้ ของชายไหวชายแครง ลกั ษณะสาคญั คือ พระพกั ตร์แบบหนุ่ ที่เป็นลกั ษณะเฉพาะของพระพทุ ธรูป ในรัชกาลที่ ๓
๒. พระพทุ ธไตรรัตนนายก ประดิษฐานอยทู่ ่ีพระวหิ ารหลวง วดั กลั ยาณมิตร กรุงเทพมหานคร เดิมเรียกวา่ “พระโต” หรือ “หลวงพอ่ โต” ชาวจีน เรียกวา่ “ซาปอกง” หรือ “ซาปอฮดุ กง” พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอยหู่ วั ถวายพระนามว่า “พระพทุ ธไตรรัตน นายก” เป็นพระพทุ ธรูปที่สร้างขนึ ้ ในรัชกาลที่ ๓ แหง่ กรุงรัตนโกสนิ ทร์ โดยเจ้าพระยานกิ รบดินทร์ (โต กลั ยาณมติ ร) ได้ อทุ ศิ ท่ีดนิ สร้างวดั กลั ยาณมิตร พระบาทสมเดจ็ พระนง่ั เกล้าเจ้าอยหู่ วั พระราชทานเงินชว่ ยสร้างพระวิหารหลวง และ พระพทุ ธรูปประธาน พร้อมทงั้ เสดจ็ พระราชดาเนินทรงกอ่ พระฤกษ์ พระโตสร้างแล้วเสร็จใน พ.ศ. ๒๓๘๐ การสร้างพระโตซง่ึ ถือเป็นพระพทุ ธรูปที่ใหญ่ท่ีสดุ ในกรุงเทพมหานคร มีที่มาจากพระราชประสงค์สาคญั ของรัชกาลที่ ๓ ซงึ่ ต้องการให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง เหมือนเมื่อครัง้ กรุงศรีอยธุ ยา ดงั นนั้ การสร้างพระโตองค์นีจ้ งึ น่าจะมีแรงบนั ดาลใจมา จากพระโต ท่ีวดั พนญั เชิง จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา ลกั ษณะของพระโตเป็นพระพทุ ธรูปประทบั นงั่ ปางมารวชิ ยั พระ พกั ตร์แบบหนุ่ อนั เป็นลกั ษณะเฉพาะของประติมากรรมในรัชกาลที่ ๓ ๓. พระศรีศากยะทศพลญาณประธานพทุ ธมณฑลสทุ รรศน์ ประดิษฐานบริเวณพทุ ธมณฑล จงั หวดั นครปฐม เป็นพระพทุ ธรูปลีลาขนาดใหญ่ หลอ่ ด้วยทองสาริดหนกั ๑๗,๕๔๓ กิโล กรัม โดยแบง่ หลอ่ เป็นชิน้ ตา่ งๆ ขององค์พระ รวม ๑๓๗ ชิน้ แล้วจงึ นาไปประกอบกบั โครงเหลก็ บนฐานพระพทุ ธรูป เพ่ือ เชื่อมรอยตอ่ และปรับแตง่ ให้เป็นเนือ้ เดียวกนั เป็นพระพทุ ธรูปสงู ๑๕.๘๗๕ เมตร ถือเป็ นพระพทุ ธรูปลีลา หลอ่ ด้วยทอง สาริดท่ีมีลกั ษณะงดงาม และมีขนาดใหญ่ท่ีสดุ ในสมยั รัตนโกสนิ ทร์ ประดิษฐานอยกู่ ลางแจ้ง เพ่ือเป็นพระประธานของ พทุ ธมณฑล พระพทุ ธรูปองค์นีอ้ อกแบบโดยศาสตราจารย์ศิลป พรี ะศรี ประติมากร ชาวอติ าลี ที่เข้ามารับราชการใน ประเทศไทย และนายสาโรจ จารักษ์ จากกรมศิลปากร เป็นผ้คู วบคมุ การปัน้ และขยายแบบ ได้หลอ่ ขนึ ้ แล้วเสร็จ และนาขนึ ้ ประดษิ ฐานใน พ.ศ. ๒๕๒๕ พทุ ธลกั ษณะของพระพทุ ธรูปองค์นี ้ได้แรงบนั ดาลใจมาจากพระพทุ ธรูปลลี าสมยั สโุ ขทยั โดยมีสว่ นท่ีเพิ่มเตมิ เข้าไป และ ถือเป็นงานประตมิ ากรรมร่วมสมยั คือ การครองจีวรท่ีมีริว้ แบบเหมือนจริง พระพทุ ธรูปคบู่ ้านคเู่ มืองของไทย
พระพทุ ธรูปสาคญั ทจ่ี ดั เป็นพระพทุ ธรูปคบู่ ้านคเู่ มือง ท่ีควรกลา่ วถงึ มี ๒ องค์ คือ พระพทุ ธมหามณีรัตนปฏมิ ากร (พระแก้วมรกต) ปัจจบุ นั ประดษิ ฐานใน พระอโุ บสถวดั พระศรีรัตนศาสดาราม ใน พระบรมมหาราชวงั ประวตั ิความเป็ นมาของพระแก้วมรกตปรากฏในตานานของชาวล้านนา กลา่ ววา่ พระแก้วมรกตสร้างขนึ ้ ในอินเดีย และได้ อญั เชิญมายงั เมืองนครศรีธรรมราช ละโว้ อยธุ ยา ชยั นาท สโุ ขทยั กาแพงเพชร จนกระทง่ั มาถงึ ล้านนาตามลาดบั หลกั ฐาน ที่พบ และสามารถสืบค้นได้คือ ประวตั พิ ระแก้วมรกตจากพงศาวดาร ซง่ึ กลา่ วว่า ได้ค้นพบ พระแก้วมรกต ใน พ.ศ ๑๙๗๙ ตรงกบั สมยั ของพระเจ้าสามฝั่งแกน ผ้ปู กครองล้านนา โดยพบในเจดีย์แหง่ หนง่ึ ในจงั หวดั เชียงราย ซง่ึ ถกู ฟ้ าผา่ พงั ทลายลง มา หลงั จากท่ีได้พบพระแก้วมรกตแล้ว ได้มีการอญั เชิญเพอื่ จะนามาประดิษฐานยงั เมืองเชียงใหม่ แตก่ เ็ กิดปาฏหิ าริย์ จงึ ได้นา พระแก้วมรกตมาประดษิ ฐานท่วี ดั พระแก้ว ดอนเต้า เมืองลาปาง จนมาถงึ รัชกาลพระเจ้า ตโิ ลกราช ครัน้ เม่ือสร้างวดั เจดีย์ หลวงเสร็จแล้ว จงึ โปรดให้อญั เชิญพระแก้วมรกตจาก เมืองลาปาง มาประดษิ ฐานในจระนาซ้มุ ด้านทศิ ตะวนั ออกของเจดีย์ หลวง เมืองเชียงใหม่ ต่อมาพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช พระอปุ ราช แหง่ อาณาจกั รล้านช้าง มาปกครองล้านนา เป็นเวลา ๒ ปี เม่ือพระราชบดิ าสนิ ้ พระชนม์ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชจงึ เสดจ็ กลบั ไปครอง อาณาจกั รล้านช้าง พร้อมกบั อญั เชิญพระแก้ว มรกตไปยงั เมืองหลวงพระบาง และในภายหลงั ได้ย้ายมาประดษิ ฐานยงั วดั พระแก้ว ในเมืองเวยี งจนั ทน์ เป็นเวลานานกวา่ ๒๐๐ ปี จนถึงสมยั สมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช แหง่ กรุงธนบรุ ี สมเดจ็ เจ้าพระยามหากษัตริย์ศกึ ได้อญั เชิญพระแก้ว มรกตจากเมืองเวียงจนั ทน์ มายงั กรุงธนบรุ ี ตอ่ มาเม่ือย้ายราชธานีมายงั กรุงเทพมหานคร พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้ า จฬุ าโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้อญั เชิญพระแก้วมรกตมาประดษิ ฐานในพระอโุ บสถวดั พระศรีรัตนศาสดาราม ซง่ึ เป็นวดั สาคญั ในเขตพระบรมมหาราชวงั พระแก้วมรกตเป็นพระพทุ ธรูปปางสมาธิ ประทบั นง่ั ขดั สมาธิราบเหนือฐานหน้ากระดาน เกลีย้ ง ตามความจริงแล้ว เนือ้ วสั ดนุ นั้ ไมใ่ ชม่ รกต แตเ่ ป็นหินสีเขียว (หยก) ได้มีข้อสนั นิษฐานเก่ียวกบั การกาหนดอายพุ ระแก้วมรกตอยู่ ๒ ข้อ คือ ข้อแรก เช่ือวา่ สร้างขนึ ้ ในอินเดีย และได้อญั เชิญมายงั เมืองตา่ งๆ ตามท่ีปรากฏในตานาน กบั อีกข้อหนง่ึ เช่ือวา่ สร้างขนึ ้ ในล้านนา
ซงึ่ ความเป็นไปได้น่าจะสร้างขนึ ้ ในล้านนามากกว่า เพราะการพบครัง้ แรก รวมทงั้ ประวตั คิ วามเป็ นมา ล้วนแตเ่ กิดขนึ ้ ใน ล้านนาทงั้ สนิ ้ แตก่ ็ยงั มีข้อสงสยั ในขณะนนั้ วา่ รูปแบบของพระแก้วมรกตไมเ่ หมือนกบั พระพทุ ธรูปกลมุ่ ใดๆ ในล้านนา อยา่ งไรก็ตาม ได้พบหลกั ฐานสนบั สนนุ วา่ พระแก้วมรกตน่าจะสร้างขนึ ้ ในล้านนา และเป็นฝี มือช่างในแหลง่ ท่ีพบคือ แถบ เมืองเชียงราย พะเยา กลา่ วคือ ได้พบพระพทุ ธรูปหนิ ทรายในสกลุ ช่างพะเยากลมุ่ หนง่ึ มีลกั ษณะเชน่ เดียวกบั พระแก้ว มรกต ทงั้ รูปแบบและวิธีการสร้าง รายละเอียดเกี่ยวกบั อายสุ มยั และรูปแบบของพระแก้วมรกตนนั้ เนื่องจากพระแก้วมรกตมีรูปแบบใกล้เคียงกบั พระพทุ ธรูป แบบล้านนาระยะแรก แตก่ ม็ ีอทิ ธิพลของศิลปะสโุ ขทยั ผสมแล้ว จงึ เชื่อวา่ พระแก้วมรกตเป็นพระพทุ ธรูปศลิ ปะล้านนา ระยะแรก ท่ีรับอิทธิพลของศลิ ปะสโุ ขทยั ในสมยั พระเจ้ากือนา ท่ีได้อาราธนาพระสมุ นเถระจากสโุ ขทยั ขนึ ้ ไปเผยแผ่ พระพทุ ธศาสนาในล้านนา ใน พ.ศ. ๑๙๑๓ ดงั นนั้ ปี ที่สร้าง พระแก้วมรกตจึงนา่ จะอยใู่ นระหวา่ ง พ.ศ. ๑๙๑๓ - ๑๙๗๙ ประกอบกบั ในตานานที่กลา่ วถงึ พระแก้วมรกต ระบวุ า่ ได้มาปรากฏในล้านนาใน สมยั ของท้าวมหาพรหม ซงึ่ เป็ นพระ อนชุ าของ พระเจ้ากือนา โดยพระองค์ได้เป็นผ้อู ญั เชิญพระแก้วมรกตจากเมืองกาแพงเพชร มาประดิษฐานยงั เมือง เชียงราย จงึ นบั เป็นหลกั ฐานท่ีสมั พนั ธ์กบั การแผ่อิทธิพลของสโุ ขทยั ในล้านนา ในช่วงระยะเวลานี ้พระแก้วมรกตซง่ึ เป็น พระพทุ ธรูปสาคญั นา่ จะเป็นแรงบนั ดาลใจ ในการสร้างพระพทุ ธรูปล้านนาระยะตอ่ ๆ มา โดยเฉพาะในกลมุ่ พระพทุ ธรูป หินทรายสกลุ ชา่ งพะเยาดงั กลา่ ว ดงั นนั้ ระยะเวลาในการสร้างงานนา่ จะมีความใกล้เคียงกนั ด้วยคือ อยใู่ นราวๆ ต้น - กลางพทุ ธศตวรรษที่ ๒๐ พระพทุ ธสหิ ิงค์ ประดิษฐานในวิหารลายคา วดั พระสงิ ห์ จ.เชียงใหม่ ดรู ายละเอียดเพ่ิมเติม พระพทุ ธสหิ งิ ค์ มีอยรู่ วม ๓ องค์ ที่มีชื่ออยา่ งเดียวกนั องค์แรกประดษิ ฐานในพระที่นง่ั พทุ ไธสวรรย์ พิพธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาติพระนคร สว่ น องค์ท่ี ๒ ประดิษฐานในวหิ ารลายคา วดั พระสงิ ห์ จงั หวดั เชียงใหม่ และองค์ท่ี ๓ ประดิษฐานใน หอพระพทุ ธสหิ งิ ค์ จงั หวดั นครศรีธรรมราช
พระพทุ ธสหิ งิ ค์มีปรากฏอยใู่ นตานานของชาวล้านนา กลา่ ววา่ สร้างขนึ ้ ในลงั กา และได้อญั เชิญมายงั นครศรีธรรมราช ละโว้ สโุ ขทยั อยธุ ยา ชยั นาท กาแพงเพชร กอ่ นที่จะนามายงั ล้านนา โดยท้าวมหาพรหม เจ้าเมืองเชียงราย เป็นผ้ไู ป อญั เชิญมาจากเมืองกาแพงเพชร เมื่อราวๆ ต้นพทุ ธศตวรรษท่ี ๒๐ จากรูปแบบของพระพทุ ธสหิ ิงค์ทงั้ ๓ องค์ท่ีพบ มีลกั ษณะเฉพาะของแตล่ ะสกลุ ช่าง แตกต่างกนั และเป็นรูปแบบท่เี กิดขนึ ้ ในแตล่ ะ ท้องถิ่น ดงั นนั้ ที่กลา่ ววา่ ได้อญั เชิญพระพทุ ธสิหิงค์มาจากลงั กานนั้ จงึ เป็นเพียงตานาน เม่ือแตล่ ะท้องถิ่นรับมา จงึ ได้มาสร้างพระพทุ ธรูปตามรูปแบบของตนเองขนึ ้ - พระพทุ ธสหิ งิ ค์ ประดิษฐานใน พระท่ีนงั่ พทุ ไธสวรรย์ พพิ ิธภณั ฑสถาน แหง่ ชาตพิ ระนคร กรุงเทพมหานคร เป็น พระพทุ ธรูปสมยั สโุ ขทยั หรือศิลปะล้านนาทีไ่ ด้รับอทิ ธิพลมาจากศิลปะสโุ ขทยั อายรุ าวๆ พทุ ธศตวรรษที่ ๒๐ - ๒๑ เป็น พระพทุ ธรูปปางสมาธิ ขดั สมาธิราบ พระพกั ตร์รูปไข่ พระรัศมีเป็ นเปลว ชายสงั ฆาฏิยาวมาจรดพระนาภี - พระพทุ ธสหิ งิ ค์ ประดิษฐานในวิหารลายคา วดั พระสงิ ห์ จงั หวดั เชียงใหม่ เป็นพระพทุ ธรูปศลิ ปะล้านนาแบบท่ีเรียกวา่ “เชียงแสน สงิ ห์หนง่ึ ” อายรุ าวๆ ต้นพทุ ธศตวรรษท่ี ๒๐ เป็นพระพทุ ธรูปปางมารวชิ ยั ประทบั นงั่ ขดั สมาธิเพชร พระเศียร เดมิ ถกู ตดั ไปแล้ว ปัจจบุ นั เป็นเศียรท่ีหลอ่ ขนึ ้ ใหม่ พระวรกายอวบอ้วน ชายสงั ฆาฏิสนั้ เหนือพระถนั - พระพทุ ธสหิ ิงค์ ประดษิ ฐานในหอพระพทุ ธสหิ ิงค์ จงั หวดั นครศรีธรรมราช เป็นพระพทุ ธรูปปางมารวิชยั ประทบั นงั่ ขดั สมาธิเพชร ชายสงั ฆาฏิสนั้ เหนือพระถนั พระวรกายอวบอ้วนอยา่ งมาก นิยมเรียกวา่ แบบ “ขนมต้ม” จดั เป็นสกลุ ชา่ ง นครศรีธรรมราช มีอายรุ าวๆ พทุ ธศตวรรษที่ ๒๒
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: