บนั ทกึ ข้อความ สว่ นราชการ โรงเรยี นบา้ นเกาะเทโพ อาเภอเมอื งอุทัยธานีจังหวัดอทุ ยั ธานี ท่ี / ๒๕๖๑ วนั ท่ี ๑๔ สงิ หาคม ๒๕๖๑ เร่ือง รายงานผลการอบรมหลักสตู ร การเรยี นการสอนวทิ ยาการคานวณ Computing Science ในโรงเรยี น สาหรบั ครูประถมศึกษา ตามโครงการพฒั นาครูรปู แบบครบวงจร เรียน ผอู้ านวยการโรงเรียนบ้านเกาะเทโพ ตามทโี่ รงเรยี นบ้านเกาะเทโพ ไดอ้ นุมตั ิใหน้ ายวีระชยั รตั นโสภา ตาแหน่งครูผ้ชู ่วยโรงเรยี นบา้ นเกาะเทโพ เข้ารับการอบรมหลักสูตร การเรียนการสอนวิทยาการคานวณ Computing Science ในโรงเรียนสาหรับครู ประถมศึกษา ตามโครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร วันที่ ๒๗-๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ณ สานักบริการ คอมพวิ เตอร์ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ นัน้ บัดนี้ กิจกรรมดังกล่าวได้ดาเนินการเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และบรรลุวัตถุประสงค์ทุกประการ จึง ขอรายงานผลการอบรมหลักสูตร การเรียนการสอนวิทยาการคานวณ Computing Science ในโรงเรียนสาหรับ ครปู ระถมศกึ ษา ตามโครงการพัฒนาครูรปู แบบครบวงจร ดังเอกสารทีแ่ นบมาพรอ้ มน้ี จึงเรยี นมาเพอื่ โปรดพิจารณา ( นายวรี ะชยั รัตนโสภา ) ครูผู้ช่วยโรงเรยี นบา้ นเกาะเทโพ ความคิดเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………............................................ ( นายอัษฎ เอกปิยะกุล ) ผู้อานวยการโรงเรียนบา้ นเกาะเทโพ ............./................/.................
รายงานผลการอบรมหลกั สูตร การเรยี นการสอนวทิ ยาการคานวณ Computing Science ในโรงเรยี นสาหรับครูประถมศึกษา ตามโครงการพฒั นาครรู ูปแบบครบวงจร ณ สานักบรกิ ารคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ........................................................................................................................................................... ตามที่โรงเรยี นบ้านเกาะเทโพ ได้อนุมัติให้นายวรี ะชัย รัตนโสภา ตาแหน่งครูผู้ช่วยโรงเรียนบา้ นเกาะเทโพ เข้ารับการอบรมหลักสูตร การเรียนการสอนวิทยาการคานวณ Computing Science ในโรงเรียนสาหรับครู ประถมศึกษา ตามโครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร ในวันที่ 27-30 กรกฎาคม 2561 ณ สานักบริการ คอมพวิ เตอร์ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ น้นั บัดนีก้ จิ กรรมดังกลา่ วไดด้ าเนนิ การเสร็จส้นิ เปน็ ทเ่ี รยี บรอ้ ยแล้ว จงึ ขอรายงานผลการอบรม ดงั น้ี วัตถปุ ระสงค์ของการอบรม 1. เพอ่ื ทาความเขา้ ใจในรายวชิ าวทิ ยาการคานวณ 2. เพอ่ื เป็นแนวทางการจัดการเรียนการสอน ในรายวชิ าวิทยาการคานวณ เนือ้ หาและหวั ข้อการประชุม แนวคดิ เก่ยี วกับหลักสูตรวิทยาการคานวณ ปีการศึกษา 2561 การศึกษาขั้นพ้ืนฐานหลักสูตรใหม่ เริ่มใช้หลักสูตร วิทยาการคานวณ Computing มา แทนท่ี เทคโนโลยสี ารสนเทศ ในชน้ั ป.1 ป.4 ม.1 ม.4 โดยย้ายไปยังกลุ่มวิทยาศาสตร์ ในตวั สาระ 4.2 นบั เปน็ การ เปล่ียนแปลงทีส่ าคัญ และโอกาสท่ีดี ท่ีโรงเรยี นจะจัดการเรียนการสอน ในเร่อื งท่ีเป็นความสนใจของนกั เรียน และ เปน็ ความท้าทายที่นกั เรียนอยากเรยี นรู้ในเรื่องเหล่าน้ี เพราะนักเรยี นมีทุนทางด้านดิจทิ ัลอยู่แลว้ เพราะเทคโนโลยี อยู่รอบ ๆ ตัวเขา เกี่ยวพันกับชีวิต ข้อเด่นของวิชานี้ คือ รูปแบบของการจัดการศึกษาสามารถทาอยู่ในรูปแบบ กิจกรรม ให้เหมาะกับนักเรียน และสามารถ บูรณาการกับวิชาอื่น ๆ ได้ ทาไมจึงใช้ชื่อ Computing หรือ วิทยาการคานวณ แทน เทคโนโลยสี ารสนเทศ หากดจู ากวกิ ิพีเดยี (Wikipedia.org) ซึ่งใหร้ ายละเอยี ดไวพ้ อควร ซง่ึ ขอสรปุ มาสัน้ ๆ คอมพวิ ตงิ้ คือ การกระทากจิ กรรมต่าง ๆ เพือ่ ให้ได้ผลลัพธ์ทดี่ ี โดยใชป้ ระโยชนจ์ าก การวางลาดบั ขน้ั ตอน แบบคณิตศาสตร์ ท่ีรู้จักกันดีในเร่ือง อัลกอริทึม ตัวอย่างเช่น การทากิจกรรม ที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ คานวณ ประมวลผล จัดการข้อมูล การเข้าถึง ใช้ ข้อมูลข่าวสาร การใช้คอมพิวเตอร์สร้างระบบอัจฉริยะ การ ประยุกต์ในงานด้านต่าง ๆ เช่น การใช้สื่อ ข้อมูล สารสนเทศ เพ่ือประโยชน์ ต่าง ๆ รวมถึงเพื่อการบันเทิงด้วย นอกจากนี้ ยังเก่ียวโยงกับการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เพ่ือกิจกรรมการแก้ปัญหา เพ่ือให้ได้ผลลัพธ์ท่ีดีขึ้น ใช้ใน การส่ือสาร อานวยความสะดวก ระบบช่วยการทางานด้านต่าง ๆ ท่ีมีผลในปัจจุบันและอนาคต ความรู้เกี่ยวกับ วิทยาการคานวณจึงกว้าง รวมถึง วิชาท่ีเกี่ยวกับ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมซอฟต์แวร์ วิทยาการ คอมพิวเตอร์ ระบบสารสนเทศ และ เทคโนโลยีสารสนเทศ วิทยาการคานวณในหลักสูตร ว.4.2 ประกอบด้วย สามโดเมนความรู้ คือ กระบวนการคิด แก้ปัญหา อัลกอรทิ ึม และเนื้อหาเกย่ี วกับ วทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ Computer science , พื้นฐานการประยุกตใ์ ช้คอมพวิ เตอร์
ความรู้ทางด้าน Digital technology (ICT) และ พื้นฐานการใช้คอมพิวเตอร์ กับการจัดการข้อมูล ข่าวสาร การ ส่ือสาร การใช้สื่อ การรู้เท่าทันส่ือ และข่าวสาร (Media and Information literacy) ซึ่งท้ังสามเร่ือง เป็นเรื่อง พืน้ ฐานที่เชอื่ มโยงกบั ชวี ติ ท่ีทกุ คนจะต้องใช้อยูแ่ ลว้ ในส่วนของ Computer science เป็นเร่ืองพ้ืนฐานกระบวนการคิด ตั้งแต่การคิดเชิงนามธรรม (Abstraction) การคิดวิเคราะห์ (Analytical) การวางลาดับข้ันตอนการคิด การแก้ปัญหา กระบวนการคิด แกป้ ัญหา ที่เรยี กว่า อัลกอริทึม เร่อื งเหล่าน้ี เปน็ พนื้ ฐานของชวี ติ ตั้งแต่เกิด การทาอะไร ก็ จะมีขน้ั ตอนการทา การ เลือกการตัดสินใจ เมื่อไรจะทาอะไร อะไรทาพร้อมกันได้ ประสิทธิภาพของการทาอาหารเป็นอย่างไร เขียนลาดับ ข้ันตอนได้อย่างไร วัตถุประสงค์ ต้องการให้นักเรียน มองการแก้ปัญหาในชีวิตอย่างเป็นระบบ รู้จักลาดับขั้นตอน การตัดสนิ ใจ การใชเ้ หตแุ ละผลที่ตามมา หลายประเทศใช้หลักสูตร Computing ในการศึกษาพ้ืนฐานมาก่อนหน้าเรา อังกฤษใช้มาต้ังแต่ปี 2014 ซึ่งเป็นวิชาสาหรับนักเรียนทั้งระดับประถม และมัธยม สาหรับสิงคโปร์ กาหนดไว้ใน O level (Ordinary Level) และมีการทดสอบนักเรียนในระดบั นี้กอ่ นการสอบเข้ามหาวิทยาลัยดว้ ย หลักสูตรวชิ าวทิ ยาการคานวณประกอบด้วย 3 สว่ น 1. Computer Science วิทยาการคอมพิวเตอร์ เป็นการสอนให้เด็กคิดอย่างเป็นขั้นตอน โดยเอาการ เขยี นโปรแกรมมาเปน็ เครื่องมอื ท่ีใชฝ้ กึ ใหเ้ ด็กคิดอย่างเป็นระบบข้ันตอนตามหลกั การ Computational Thinking 2. ICT เทคโนโลยีสารสนเทศ ไม่ได้มุ่งเน้นให้เด็กเป็นผู้ใช้เทคโนโลยีแบบในอดีต แต่สอนให้เด็กเป็นผู้ที่ สามารถรวบรวมข้อมลู จัดระเบียบขอ้ มลู ประมวลผลขอ้ มูล ซ่งึ นาไปสกู่ ารตัดสินใจบนพนื้ ฐานของขอ้ มลู ได้ 3. Digital Literacy การรูเ้ ท่าทันดิจติ อล รู้เท่าทนั โลกออนไลน์ รูส้ ิทธิของตนเอง ไมล่ ะเมิดสทิ ธขิ องผ้อู ่ืน ในส่วนของ Computer Science ท่ีสอนการเขียนโปรแกรม, อัลกอริทึม, และ Computational Thinking ซึ่งเป็นส่วนท่ีหลายฝ่ายกังวลว่าเหมาะสมกับเด็ก ป.1 ไหม การสอนจะมีความยากง่ายแตกต่างกันในแต่ ละช้ันปี เช่นของ ป. 1 จะเรียนเขียนโปรแกรมบนกระดานคล้ายๆ บอร์ดเกมสนุกๆ ให้เด็ก ๆ สนุกกับการใช้คาส่ัง ให้ตัวละครเดินซ้ายเดินขวา ส่วน ป.4 กระดานก็จะเร่ิมมีความซับซ้อนขึ้น และเริ่มเขียนโปรแกรมในคอมฯ ใน รปู แบบ block programming ซงึ่ เปน็ การเขยี นโปรแกรมโดยการลากบล๊อกคาส่ังบนจอ ไมต่ ้องพิมพ์คาส่ังเอง พอ ระดับชั้น ม.1 เด็กก็จะเริ่มเขียนโปรแกรมด้วยภาษาโปรแกรมท่ีใช้กันท่ัวไปเช่น Python และในช้ัน ม.4 เด็กจะได้ ใช้องค์ความรู้ที่เรียนมามาบูรณาการกับองค์ความรู้ของวชิ าอ่ืนมาทาโครงงาน ใช้ความรู้ของ Computer Science มาเพ่ิมความสนุกในการทาโครงงานวชิ าอื่น ๆ ได้ เช่น สร้างเกม, โครงการเก็บข้อมูลความสูงของต้นไม้ในโรงเรยี น แลว้ วเิ คราะหว์ า่ ความสงู ของตน้ ไมม้ ผี ลตอ่ อุณหภูมิในโรงเรยี นหรือไม่ เปน็ ต้น Computational Thinking Computational Thinking หรอื การคดิ เชิงคานวณ ซ่งึ เป็นพ้ืนฐานของเทคโนโลยีตา่ ง ๆ ของคอมพวิ เตอร์ และเป็นทักษะการคิดอย่างเป็นเหตุผล เป็นระบบข้ันตอน เพราะเราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเทคโนโลยีอะไรจะมี ส่วนสาคัญในอนาคต แต่การมีพื้นฐานด้านการคิดเชงิ คานวณจะทาให้เด็ก ๆ สามารถปรับตัวและเรียนรู้เทคโนโลยี ใหม่ๆ ในอนาคตได้ และสามารถนาไปใช้ได้ในทุกอาชีพ โดยการคิดเชิงคานวณนก้ี ็เป็นหลักสาคัญหลักหนงึ่ ของวิชา วิทยาการคานวณของไทย Computational Thinking จะสอนให้เด็กเรียงลาดบั การแกป้ ัญหา แบง่ ปญั หาใหญเ่ ป็น
ปัญหาย่อย และมีหลักต่าง ๆที่เด็กสามารถนามาใช้แก้ปัญหาได้ โดยไม่ได้มีเป้าหมายให้เด็กต้องคิดแบบ คอมพวิ เตอร์ตลอดเวลา ไมไ่ ด้สอนให้ทุกคนเป็นโปรแกรมเมอร์ ไม่ตอ้ งใช้คอมพวิ เตอรแ์ ก้ปัญหาทุกเร่ือง แต่สอนให้ รู้ว่าคอมพิวเตอร์ทาอะไรได้บ้างจะได้สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในสาขาวิชาชีพของตน และไม่ตกเป็นเหยื่อของ เทคโนโลยี รปู แบบกจิ กรรม Unplug “สร้างโปรแกรมบนกระดาษ” เป็นกิจกรรมทส่ี ามารถเล่นไดง้ า่ ยๆ เพื่อทาให้รู้สึกวา่ การเขยี นโปรแกรมเป็น เร่ืองสนุก มีเพียงแค่กระดาษกับปากกาก็สามารถเล่นได้ โดยไม่ต้องมีพื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมมาก่อน เกมน้ี จะช่วยให้เด็กเริ่มต้นทาความเข้าใจว่าการเขียนโปรแกรมน้ัน มีคอนเซ็ปท์อย่างไร และเป็นการเข้าใจการคิดแบบ โปรแกรมเมอร์ เป็นเกมท่ีมีประโยชน์และสนุกมาก จะเลียนแบบการเขียนโปรแกรมคาสั่งให้คอมพิวเตอร์ทางาน โดยไม่มีคอมพิวเตอร์จริง ๆ โดยให้เด็ก ๆ ลองเขียนภาพไปบนกระดาษ ตามโปรแกรมคาสั่งที่คนเล่นเกมด้วยกัน บอกให้ทา เหมือนเวลาโปรแกรมเมอร์เขียนโปรแกรมคาส่ังให้คอมพิวเตอร์ทางาน แต่ทดลองเล่นแบบ “อันปลั๊ก” (unplugged) หรือการเขยี นโปรแกรมทเ่ี ขียนไปบนกระดาษ ไมไ่ ดท้ าบนคอมพิวเตอรจ์ ริง ๆ กิจกรรมน้ียังช่วยให้เด็ก ๆ เข้าใจถึงความยากในการแปลงปัญหาให้กลายเป็นโปรแกรมคาส่ังหรือ สญั ลกั ษณ์ เรยี นร้วู ่าความคิดต่าง ๆ ในการแก้ปัญหานัน้ แมด้ เู หมอื นจะชัดเจนอยูใ่ นสมอง แต่พอส่ังให้คอมพิวเตอร์ ทางาน ก็อาจจะมีเร่ืองผิดพลาดเกิดข้ึนได้ นอกจากนั้นเด็ก ๆ ยังจะได้ฝึกการใช้คาสัง่ เพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นลาดับ ขั้นตอน การหาจุดบกพร่องของโปรแกรมคาสั่ง และการเลือกฟังก์ช่ันสั่งงานต่าง ๆ ให้เกิดการวนซ้า เพ่ือให้ได้ ผลลพั ธต์ ามทตี่ อ้ งการ
Code.org code.org เป็นเว็บไซต์ไม่แสวงผลกาไรสัญชาติอเมริกัน เป็นองค์กรระดับโลกที่มีเป้าหมายชัดเจนเพื่อ สนบั สนุนการศึกษาด้าน Computer Science (วทิ ยาการคอมพวิ เตอร์) เป็นการใหโ้ อกาสนักเรียนทุกคนทัว่ โลกได้ เรียน โดยเฉพาะเด็กขาดโอกาสในหลายๆ โรงเรียน และโครงการขององค์กรที่หลายๆ คนน้ันน่าจะคุ้นชื่อมากทีส่ ดุ ก็คือ “Hour of Code” (หนงึ่ ชวั่ โมงกบั การเขียนโปรแกรม) ซึ่งเป็นโครงการทจี่ ะช่วยฝึกให้ทุกคนได้ฝกึ เรยี นเขียน โปรแกรมแบบง่ายๆ ไมว่ า่ จะเปน็ เด็กนกั เรยี น นักศกึ ษา ผปู้ กครอง และบคุ คลท่วั ไป เน่ืองจากผู้ก่อต้ัง code.org เชื่อว่าการเรียนรู้ด้านคอมพิวเตอร์น้ันมีความสาคัญอย่างย่ิงกับเด็ก ๆ และ ควรจะให้เด็กได้ศึกษาเช่นเดียวกับวิชาพ้ืนฐานอย่างคณิตศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์ จึงได้พยายามหาวิธีที่จะทาให้ เด็ก ๆ หรอื ผ้ใู หญ)่ มาสนใจการเขียนโปรแกรมผา่ นทาง code.org Micro:bit บอร์ด micro:bit เป็นบอร์ดไมโครคอนโทรเลอร์สาหรับการศึกษาจากโครงการของ BBC (British Broadcasting Company) หรือบริษัทแพร่ภาพกระจายเสียงของอังกฤษ ท่ีร่วมมือกับ Partner หลาย บริษัทผลิตบอร์ดคอมพิวเตอร์เพื่อสนับสนุนการศึกษาเรียนรู้ในยคุ ดิจิตอลแจกจา่ ยใหแ้ ก่เด็กในประเทศอังกฤษ ต่อ จากในอดีตท่ีทาง BBC เคยทาบอร์ด BBC Micro ออกมาแล้วเมื่อปี 1980 เพื่อให้เกิดการเร่ิมต้นเรียนรู้ใช้งาน คอมพิวเตอร์ของเดก็ ๆ บอร์ด micro:bit ถูกออกแบบให้เขียนโค้ตและคอมไพล์ผ่านทางเว็บบราวน์เซอร์ สามารถใช้งานร่วมกับ ระบบอื่น ๆ ได้หลายระบบ เช่น คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ท (ใช้ได้ทั้ง android, iOS) อีกท้ังยังมี เซ็นเซอร์พื้นฐานสาหรับการเรยี นรู้ อาทิเช่น เซ็นเซอร์วัดแสง เซ็นเซอร์วัดความเรง่ เซ็นเซอร์เข็มทิศ รวมทั้งปุ่มกด และ LED แสดงผล ติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้ว ทาให้ตัวบอร์ดเรียกใช้เซ็นเซอร์แต่ละอย่างโดยง่าย ไม่จาเป็นต้องหา เซ็นเซอร์มาตอ่ เพ่มิ เติม จึงเหมาะแกก่ ารเรยี นรสู้ าหรบั เดก็ หรือผ้ทู ี่สนใจ
บอร์ด micro:bit นั้น มีส่วนประกอบด้วยกันหลาย ๆ อย่าง โครงการได้ผู้สนับสนุนมากมาย โดย รายละเอยี ดผ้สู นบั สนุนดังนี้ Microsoft สนบั สนนุ ด้านซอฟแวรเ์ ขยี นโปรแกรม โดยเป็นผจู้ ัดทาออนไลน์ IDE ขึน้ มาให้ Lancaster University ออกแบบ และพัฒนาบอร์ด Farnell element14 ผลิตบอร์ด Nordic Semiconductor สนับสนุนชิปไมโครคอนโทรลเลอร์ Nordic nRF51822 32-bit ARM Cortex- M0 NXP Semiconductors สนับสนนุ ชปิ เซน็ เซอร์ และชปิ อัพโหลดโปรแกรมผา่ น USB Samsung จัดทาแอพพลิเคชน่ั บนแอนดรอย ScienceScope จดั ทาแอพพลเิ คช่ันบน IOS Kitronik จัดส่งสนิ ค้าให้กบั ครูสอนพิเศษทวั่ ประเทศ ประโยชน์ทไี่ ดร้ ับ 1. มคี วามรู้ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั รายวชิ าวิทยาการคานวณมากยิง่ ขนึ้ 2. เป็นแนวทางการจัดการเรยี นการสอน “วิทยาการคานวณ”
ภาคผนวก
เอกสารประกอบการอบรม
ประมวลภาพ
ประมวลภาพ
ประมวลภาพ
ประมวลภาพ
ประมวลภาพ
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: