บทท่ี 1 ชี วิ ต สั ม พั น ธ์
เรื่องที่ 1 การถ่ายทอดลักษณะของส่ิงมีชีวิต เรื่องที่ 2 ชีวิตที่รอดมาได้ เรื่องท่ี 3 ชีวิตเเละส่ิงแวดล้อม
1.ลักษณะภายนอกของสิ่งมีชีวิตที่ปรากฏคล้ายคลึงกับพ่อแม่ ในโลกของเรามีสิ่งมีชีวิตมากมายหลายชนิด ส่ิงมีชีวิตชนิดเดียวกันจะ มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ส่วนสิ่งมีชีวิตต่างชนิดกันจะมีรูปร่างลักษณะ แตกต่างกัน เราจะพบส่ิงมีชีวิตชนิดต่างๆ ส่ิงมีชีวิตท่ีเกิดจากส่ิง มีชีวิต ชนิดเดียวกัน จะมีลัษณะอย่างคล้ายคลึงกัน ซ่ึงจะปรากฏให้เห็น
2.ลักษณะภายนอกของสิ่งมีชีวิตท่ีปรากฏคล้ายคลึงกับพ่อแม่ ในโลกของเรามีส่ิงมีชีวิตมากมายหลายชนิด ส่ิงมีชีวิตชนิดเดียวกันจะ มี ลักษณะคล้ายคลึงกัน ส่วนส่ิงมีชีวิตต่างชนิดกันจะมีรูปร่างลักษณะแต กต่างกัน เราจะพบสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ส่ิงมีชีวิตที่เกิดจากสิ่งมีชีวิตชนิด เดียวกัน จะมีลัษณะ อย่างคล้ายคลึงกัน ซ่ึงจะปรากฏให้เห็น 2.1.ลักษณะท่ีถ่ายทอดทางพันธุกรรม การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สามารถสรุปออกมาได้ 3 ลักษณะ คือ 1.ลักษณะเด่น ลักษณะที่ปรากฏในทุกรุ่นของส่ิงมีชีวิต 2.ลักษณะด้อย ลักษณะท่ีปรากฏให้เห็นในบางรุ่นเท่าน้ัน เพราะถูกลักษณะเด่น ข่มเอาไว้ 3.ลักษณะที่แปรฝัน ลักษณะท่ีแตกต่างจากลักษณะของส่ิงมีชีวิตรุ่นที่ผ่านมาและ สามารถถ่ายทอดไปยังรุ่นต่อๆ ไปได้ ดังนั้น ส่ิงมีชีวิตท่ีกลายพันธ์ุไป เกิดจากลักษณะที่แปรผันไปจากสายพันธ์ุเดิม
ลกั ษณะ การถ่ายทอดทาง พนั ธุกรรม
3 . ก า ร นา ค ว า ม รู้ เ กี่ ย ว กั บ ก า ร ถ่ า ย ท อ ด ลั ก ษ ณ ะ ท า ง พั น ธุ ก ร ร ม ไ ป ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ ก า ร ศึ ก ษ า เ กี่ ย ว กั บ ก า ร ถ่ า ย ท อ ด ลั ก ษ ณ ะ พั น ธุ ก ร ร ม ข อ ง สิ่ ง มี ชี วิ ต ทา ใ ห้ ม นุ ษ ย์ ส า ม า ร ถ นา ค ว า ม รู้ ไ ป ใ ช้ พั ฒ น า ส า ย พั น ธ์ุ พื ช แ ล ะ สั ต ว์ เ พื่ อ ใ ห้ ไ ด้ ผ ล ผ ลิ ต ที่ มี คุ ณ ภ า พ แ ล ะ ต ร ง ต า ม ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ข อ ง ต ล า ด
1.สิ่งมีชีวิตที่เคยมีอยู่และสูญพันธ์ุไปแล้ว ในโลกนี้มีสิ่งมีชีวิตเกิดข้ึนมากมาย สิ่งมีชีวิตบางชนิดเรายังสามา รถ พบเห็นได้ในปัจจุบัน แต่ส่ิงมีชีวิตบางชนิดเราก็ไม่สามารถพบเห็นได้ อีก เนื่องจากสูญพันธ์ุไปแล้ว แต่เราทราบจากหลักฐานต่างๆ ว่าส่ิงมีชีวิ ตนั้น เคยมีปรากฏอยู่บนโลก จะเห็นได้ว่า สัตว์บางชนิดยังมีชีวิตและสามารถ พบเห็นได้ในปัจจุบัน แต่สัตว์บางชนิดเราไม่พบเห็นได้ในปัจจุบัน หรือ สูญพันธ์ุไปแล้ว ซึ่งสาเหตุสาคัญทีทาให้สิ่งมีชีวิตสูญพันธ์ุหรือใกล้สูญ พันธ์ุมีดังน้ี ภัยธรรมชาติ โครงสร้างทางร่างกาย ระยะเวลาต้ังท้องแ ละ จานวนลูก ลักษณะที่อยู่อาศัย การกระทาของมนุษย์
สาเหตุสาคัญท่ีทาให้สิ่งมีชีวิตสูญพันธ์ุ ดังนี้ 1.ภัยธรรมชาติ เช่น · ภูเขาไฟปะทุ · แผ่นดินไหว · ความแห้งแล้ง · ไฟป่า · น้าท่วม · โรคระบาด ผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต ภัยธรรมชาติท่ีเกิดขึ้นนี้ ทาให้สภาพแวดล้อม เปล่ียนแปลงไปอย่างกะทันหัน และทาให้สิ่งมีชีวิตที่ปรับตัวไม่ทัน อาจ สูญพันธุ์ไป
2.โครงสร้างทางร่างกาย เช่น · รูปร่างใหญ่โต · มีเขาแตกกิ่งก้านมาก ผลกระทบต่อส่ิงมีชีวิต โครงสร้างทางร่างกายของสัตว์บางชนิดที ผลทาให้สัตว์ชนิดน้ันสูญพันธุ์ได้ เช่น สมันมีลักษณะเขาแตกเป็นก่ิง ก้าน มาก ต้องอาศัยอยู่ในป่าโปร่ง จึงถูกล่าได้ง่าย 3.ยะเวลาต้ังท้องและจานวนลูก เช่น · ตั้งท้องเป็นเวลานาน · มีจานวนลูกน้อย ผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต สัตว์ท่ีมีระยะเวลาในการต้ังท้องนาน และ ออกลูกได้ครั้งละ 1 ตัว จะมีโอกาสสูญพันธุ์ไปได้ง่ายกว่าสัตว์ท่ีสามารถ ขยายพันธ์ุได้คร้ังละมากๆ
4.ลักษณะที่อยู่อาศัย เช่น · ป่าโปร่ง · ที่ราบ ผลกระทบต่อส่ิงมีชีวิต ลักษณะที่อยูอาศัยท่ีถูกพบเห็นได้ง่าย จะ ทาให้สัตว์ทีโอกาสถูกล่าและสูญพันธุ์ได้ง่าย 5.การกระทาของมนุษย์ เช่น · ล่าเพ่ือความสนุกสนาน · ล่าเพื่อทาการค้า · ทาลายแหล่งท่ีอยู่อาศัย ผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต การล่าสัตว์ในฤดูผสมพันธุ์ การทาลายป่า ซ่ึงเป็นท่ีอยู่อาศัยของสัตว์ต่างๆ มีผลทาให้สัตว์ป่าบางชนิดสูญพันธ์ุไป
2.การปรับตัวของสิ่งมีชีวิต ถึงแม้ว่าสิ่งมีชีวิตบางชนิดที่สูญพันธ์ุไป แต่ก็ยังมีสิ่งมีชีวิตที่สามารถ รอดมาได้จนถึงปัจจุบัน เน่ืองจากการปรับตัวให้มีลักษณะที่เหมาะสมกั บ สภาพแวดล้อมท่ีอาศัยอยู่ เช่น การปรับเปล่ียนโครงสร้างของร่างกาย การพรางตาศัตรู เป็นต้น การปรับตัวแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ดังน้ี 2.1.การปรับตัวชั่วคราว เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปร่างลักษณะภายนอกของส่ิงมีชีวิตใน ช่วงเวลาสั้นๆ และสามารถเปลี่ยนกลับมาเป็นลักษณะเดิมได้ เช่น หมีขั้ ว โ ล ก จ ะ จา ศี ล ฤ ดู ห น า ว เ พื่ อ รั ก ษ า ค ว า ม อ บ อุ่ น ใ น ร่ า ง ก า ย ก า ร ป รั บ ตั ว ช่ั ว ค ร า ว
2.2.การปรับตัวถาวร เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปร่างลักษณะท่ีเกิดจากการถ่ายทอด ลักษณะทางพันธุกรรม เพ่ือให้มีลักษณะเหมาะสมกับแหล่งท่ีอยู่ อาศัย การปรับตัวถาวรของสิ่งมีชีวิต มีดังนี้ 2.2.1. การปรับตัวทางด้านรูปร่าง เช่น ตั๊กแตนใบไม้ มีลักษณะ คล้ายใบไม้ เพื่อพรางตัวจากศัตรู 2.2.2. การปรับตัวทางด้านโครงสร้าง เช่น สุนัขในเขตอากาศ ร้อนมีขนสั้นเกรียน ไม่มีไขมันใต้ผิวหนัง ก า ร ป รั บ ตั ว ถ า ว ร
1 . ค ว า ม สั ม พั น ธ์ ร ะ ห ว่ า ง สิ่ ง มี ชี วิ ต กั บ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม ส่ิ ง ต่ า ง ๆ ท่ี อ ยู่ ร อ บ ตั ว เ ร า เ ช่ า ดิ น หิ น ท ร า ย แ ห ล่ ง นา้ ภู เ ข า ต้ น ไ ม้ สั ต ว์ ต่ า ง ๆ เ รี ย ก ว่ า ส่ิ ง แ ว ด ล้ อ ม ซ่ึ ง มี ทั้ ง สิ่ ง มี ชี วิ ต แ ล ะ ส่ิ ง ที่ ไ ม่ มี ชี วิ ต ส่ิ ง แ ว ด ล้ อ ม เ ห ล่ า นี้ ล้ ว น มี ค ว า ม สั ม พั น ธ์ กั บ ส่ิ ง มี ชี วิ ต ใ น ด้ า น ต่ า ง ๆ ส า ม า ร ถ ส รุ ป ไ ด้ ดั ง น้ี
แหล่งที่อยู่อาศยั -บริเวณป่าไม้ เปน็ แหลง่ ท่ีอยู่อาศยั ของพชื เเละสตั ว์ -บริเวณแหลง่ น้า เป็นแหลง่ ทอ่ี ยู่อาศัยของพืช น้าและสตั วน์ า้
แหล่งอาหาร -แหลง่ อาหารของสง่ิ มีชีวติ จะมีอยทู่ ั่วไปตาม ธรรมชาติ เช่น ต้นไม้ ท่งุ หญ้า แหลง่ น้า เปน็ ต้น ส่วนพืชจะได้รบั อาหารจากธาตุอาหาร ตา่ งๆ ที่อยู่ในดนิ
แหล่งสืบพันธแุ์ ละเลยี้ งดลู ูกอ่อน -ส่งิ มชี วี ติ อาศัยสง่ิ แวดล้อมในการสบื พนั ธุ์และ เลี้ยงดลู กู อ่อน เช่น เต่าทะเลจะข้ึนมาวางไข่ บนชายหาด นกทารงั อยบู่ นตน้ ไม้ กบวางไขใ่ นนา้ เปน็ ตน้
แหล่งหลบภัย สงิ่ แวดล้อมเปน็ แหลง่ หลบภัยทด่ี ขี องส่งิ มีชวี ติ เช่นปะการงั ปา่ ชายเลน พชื น้า -เป็นแหลง่ หลบภัยของสตั วน์ า้ ดนิ -เป็นแหลง่ หลบภยั ของสัตว์ท่อี าศัยในดินปา่ ไม้ เป็นแหล่งหลบภยั ของสตั ว์ปา่
2 . ค ว า ม สั ม พั น ธ์ ร ะ ห ว่ า ง สิ่ ง มี ชี วิ ต กั บ สิ่ ง มี ชี วิ ต ส่ิ ง มี ชี วิ ต ต่ า ง ๆ น อ ก จ า ก จ ะ มี ค ว า ม สั ม พั น ธ์ กั บ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม แ ล้ ว ยั ง มี ค ว า ม สั ม พั น ธ์ กั บ สิ่ ง มี ชี วิ ต ด้ ว ย กั น เ อ ง ค ว า ม สั ม พั น ธ์ ข อ ง ส่ิ ง มี ชี วิ ต กั บ สิ่ ง มี ชี วิ ต มี ค ว า ม สั ม พั น ธ์ ใ น ลั ก ษ ณ ะ ต่ า ง ๆ ดั ง น้ี
ภาวะล่าเหยอื่ เป็นความสมั พันธข์ องส่ิงมีชวี ิตฝ่ายหนง่ึ ได้ ประโยชน์จากการจบั ส่งิ มีชีวิตอกี ฝา่ ยหนง่ึ กนิ เปน็ อาหาร เรียกฝ่ายทีถ่ กู กนิ วา่ เหยอ่ื และ เรยี กฝ่ายทีก่ นิ ว่า ผลู้ า่ เช่น หนเู ป็นเหงอื่ งู กวางเปน็ เหย่อื เสอื หนอนเปน็ เหยือ่ นก เปน็ ต้น
ภาวะพง่ึ พากัน เป็นความสัมพันธ์ของสงิ่ มีชีวติ ทีอ่ าศยั อยู่ ร่วมกันและได้รับประโยชนร์ ว่ มกัน โดยไม่ สามารถแยกจากกนั ได้ เชน่ รากบั สาหร่ายที่ อยู่รว่ มกนั เรยี กวา่ ไลเคน
ภาวะการไดป้ ระโยชนร์ ว่ มกัน เปน็ ความสมั พันธข์ องสงิ่ มชี วี ติ ท่ีตา่ งฝา่ ย ตา่ งได้ประโยชนซ์ ง่ึ กันและกนั เชน่ ผึ้งกบั ดอกไม้โดยผึ้งจะดูดน้าหวานจากดอกไม้ และ ดอกไม้อาศัยผ้ึงช่วยผสมเกสร
ภาวะองิ อาศัย เป็นความสัมพันธข์ องส่ิงมีชวี ติ ท่ีฝ่ายหน่งึ ได้รับประโยชน์ แตอ่ ีกฝา่ ยหน่งึ ไมไ่ ดเ้ สยี ประโยชน์ เช่น กล้วยไมห้ รือพลดู า่ งกับต้นไม้ ใหญ่ โดยกล้วยไม้หรอื พลดู ่างจะยดึ เกาะกับ ตน้ ไมเ้ พ่ือรับแสงแดด เปน็ ต้น
ภาวะปรสิต เป็นความสัมพันธข์ องสิง่ มีชีวติ ท่ฝี า่ ยหนึง่ ได้รบั ประโยชน์ แต่อกี ฝา่ ยหนง่ึ เสียประโยชน์ เชน่ เหบ็ อาศยั บนตวั สนุ ัข เพ่ือดูดเลือดจาก สนุ ขั เป็นอาหาร เปน็ ต้น
ขอบคุณ!
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: