บทที่ 4 ผลการทดลองและอภิปรายผลการทดลอง 4.1 ผลการทดลอง 4.1.1 ข้อมูลที่ได้จากการสารวจข้อมูลโรงงานผลิตข้าวแต๋นของผู้ประกอบการข้าวแต๋นในจังหวัด ลาปาง นำ้ มนั ทีใ่ ช้ในกำรทอดข้ำวแต๋น : นำ้ มนั ปำล์ม ปริมำณน้ำมันท่ใี ช้ในกำรทอด : 18 ลิตรต่อข้ำวแต๋น 60 กิโลกรมั (ประมำณ 3 ลิตรตอ่ กิโลกรมั ) อุณหภูมิที่ใช้ในกำรทอด : 190˚C (โดยท่ัวไปใช้อุณหภูมิประมำณ 150–200˚C ขึนอยู่กับ ควำมชนื ขำ้ วแต๋น) 4.1.2 การทดสอบการดดู ซบั สารโพลารข์ องเปลอื กสบั ปะรด ผลกำรทดลองจำกกำรใชน้ ้ำมันปำล์มปริมำณ 2 ลิตร ตอ่ ข้ำวแตน๋ ดิบน้ำหนักรวม 3,250 กรัม (50 กรัม/ครัง) พบวำ่ ชุดทดสอบสำรโพลำร์ ให้ผลเปน็ สีเหลือง (polar > 25%) เม่ือทอดซ้ำครังท่ี 61 เป็นต้นไป จึงน้ำน้ำมันท่ีตรวจพบสำรโพลำร์ มำกรองผ่ำนเปลือกสับปะรดท่ีใช้เป็นวัสดุดูดซับที่ อุณหภูมิห้อง และตรวจสอบหำปริมำณกรดไขมันอิสระ ดังแสดงผลกำรวิเครำะห์ตำมตำรำงท่ี 4.1 และ ภำพที่ 4.1-4.2 ตารางที่ 4.1 การศกึ ษาการกรองนามันผา่ นเปลอื กสบั ปะรดที่อณุ หภมู หิ อ้ ง ปริมาตรนามนั ที่ สมบตั ิทางเคมี เหลือหลังจาก การกรองผ่าน ชนิดของ จานวนการ กรดไขมนั อสิ ระ สารโพลาร์ (TPM) เปลือกสับปะรด วสั ดุ กรองผา่ น ปรมิ าณ การลดลง ปรมิ าณ การลดลง (ml/10ml) (mg/g) (%) (g/100g) (%) นามนั ท่ีไมผ่ า่ นการกรอง 32.9093±1.29 - 73.9084 - ผ่านวัสดุ เปลอื ก 1 ครงั 30.294±1.59 7.9470 71.2979 3.5321 9.6 สบั ปะรด 5 ครัง 25.8000±1.58 21.6003 63.942 13.4848 8.6
จำกตำรำงที่ 4.1 ในกำรกรองน้ำมันผ่ำนเปลือกสับปะรดท่ีอุณหภูมิห้อง จ้ำนวน 1 ครัง พบว่ำ เวลำที่ใช้ในกำรกรองน้ำมันผ่ำนเปลือกสับปะรดใช้เวลำในกำรกรอง 10-15 นำที และจ้ำนวน 5 ครัง ใช้เวลำในกำรกรอง 1 ช่ัวโมง โดยน้ำมันที่ไม่ผ่ำนกำรกรองผ่ำนวัสดุมีปริมำณกรดไขมันอิสระ 32.9093±1.29 (mg/g) และมีปริมำณสำรโพลำร์ 73.9084 (g/100g) เมื่อท้ำกำรกรองน้ำมันผ่ำนเปลือก- สับปะรด 1 ครัง พบว่ำ ปริมำณสำรโพลำร์และกรดไขมันอิสระท่ีกรองผ่ำนเปลือกสับปะรด 71.2979 (g/100g) และ 30.2940 (mg/g) ตำมล้ำดับ และกรองผ่ำนเปลือกสับปะรด 5 ครัง พบว่ำ ปริมำณสำร โพลำร์และกรดไขมันอิสระท่ีกรองผ่ำนเปลือกสับปะรด 63.9420 (g/100g) และ 25.8000 (mg/g) ตำมลำ้ ดับ การศกึ ษาการกรองนามันผ่านเปลอื กสบั ปะรด จานวน 1 ครงั ท่อี ณุ หภมู ิห้อง การลดลง (%) 9.0000 กรดไขมนั อิสระ 8.0000 สำรโพลำร์ (TPM) 7.0000 6.0000 5.0000 4.0000 3.0000 2.0000 1.0000 0.0000 กรดไขมันอิสระ สำรโพลำร์ (TPM) เปลือกสบั ปะรด ภาพท่ี 4.1 กำรศึกษำกำรกรองนำ้ มันผำ่ นเปลอื กสับปะรด จ้ำนวน 1 ครัง ทีอ่ ณุ หภมู หิ ้อง จำกภำพท่ี 4.1 แสดงผลเป็นเปอร์เซ็นต์กำรกรองน้ำมันผ่ำนเปลือกสับปะรด จ้ำนวน 1 ครัง ที่อุณหภูมิห้อง พบวำ่ เปอร์เซ็นต์กำรลดสำรโพลำร์และกรดไขมันอสิ ระท่ีกรองผ่ำนเปลือกสับปะรด 3.5% และ 7.9% ตำมลำ้ ดบั
การศกึ ษาการกรองนามันผ่านเปลอื กสบั ปะรด จานวน 5 ครัง ทีอ่ ุณหภมู หิ ้อง การลดลง (%) 25.0000 กรดไขมันอิสระ 20.0000 สำรโพลำร์ (TPM) 15.0000 10.0000 5.0000 0.0000 กรดไขมนั อสิ ระ สำรโพลำร์ (TPM) เปลอื กสบั ปะรด ภาพท่ี 4.2 กำรศึกษำกำรกรองนำ้ มันผ่ำนเปลอื กสบั ปะรด จ้ำนวน 5 ครงั ทอ่ี ณุ หภูมหิ ้อง จำกภำพที่ 4.2 แสดงผลเป็นเปอร์เซ็นต์กำรกรองน้ำมันผ่ำนเปลือกสับปะรด จ้ำนวน 5 ครัง ที่อุณหภูมิห้อง พบว่ำ เปอร์เซ็นต์กำรลดสำรโพลำร์และกรดไขมันอิสระท่ีกรองผ่ำนเปลือกสับปะรด 13.5% และ 21.6% ตำมลำ้ ดบั 4.1.3 การทดสอบประสทิ ธภิ าพการกรองของเปลอื กสบั ปะรด กำรศกึ ษำอณุ หภมู ิในกำรกรองน้ำมันผำ่ นเปลือกสับปะรดหลังกำรทอดที่อณุ หภมู ิ 176oC, 120oC และ 100oC เพื่อหำประสิทธิภำพของวัสดุในกำรดูดซับสำรโพลำร์ และกรดไขมันอิสระ แสดงผลกำร วิเครำะห์ตำมตำรำงท่ี 4.2 และภำพท่ี 4.3
ตารางที่ 4.2 การศกึ ษาอณุ หภมู ใิ นการกรองนามนั ผ่านเปลอื กสบั ปะรดท่ีอณุ หภูมหิ ลงั การทอด สมบตั ิทำงเคมี ปริมำตรน้ำมนั ทีเ่ หลอื ชนดิ ของ อณุ หภมู ิกำร กรดไขมันอิสระ สารโพลาร์ (TPM) หลังจำกกำรกรอง วสั ดุ กรองผ่ำน ปริมาณ (mg/g) การลดลง ปรมิ าณ การลดลง ผำ่ นเปลอื กสบั ปะรด วสั ดุ (°C) (ml/15ml) (%) (g/100g) (%) นามันทไี่ มผ่ ่านการกรอง 41.8454 ± 1.28 - 62.0520 - ผ่านวสั ดุ เปลือก 176 °C 24.6695 ± 0.02 41.0460 55.6060 10.3881 12 สับปะรด 120 °C 24.6702 ± 0.01 41.0444 53.9296 13.0897 12.5 100 °C 24.6649 ± 0.01 41.0570 43.8250 29.3738 11 จำกตำรำงที่ 4.2 กำรศึกษำอุณหภูมิในกำรกรองน้ำมันผ่ำนเปลือกสับปะรดท่ีอุณหภูมิหลัง กำรทอด พบว่ำ ใชเ้ วลำในกำรกรองน้ำมันผ่ำนเปลือกสับปะรดใชเ้ วลำในกำรกรอง 3-5 นำที โดยน้ำมันที่ ไม่ผ่ำนกำรกรองผ่ำนวัสดุมีปริมำณกรดไขมันอสิ ระ 41.8454 ± 1.28 (mg/g) และมีปริมำณสำรโพลำร์ 62.0520 (g/100g) เมื่อท้ำกำรกรองน้ำมันผ่ำนเปลือกสับปะรดหลังกำรทอดท่ีอณุ หภูมิ 176oC, 120oC และ 100oC พบวำ่ กำรกรองน้ำมันผ่ำนเปลือกสับปะรด มีปริมำณกรดไขมันอิสระ 24.6695 (mg/g) และ มีปริมำณสำรโพลำร์ 55.6060 (g/100g) ตำมลำ้ ดับ ท่ีอุณหภูมิ 120oC เปลือกสับปะรด มีปริมำณกรดไขมันอิสระ 24.6702 (mg/g) และมีปริมำณ สำรโพลำร์ 53.9296 (g/100g) ตำมล้ำดบั ที่อุณหภูมิ 100°C เปลือกสับปะรด มีปริมำณกรดไขมันอิสระ 24.6649 (mg/g) และมีปริมำณ สำรโพลำร์ 43.8250 (g/100g) ตำมลำ้ ดับ
การศึกษาอุณหภูมิในการกรองนามันผ่านเปลือกสบั ปะรด ท่อี ณุ หภูมิหลังการทอด การลดลง (%) 45.0000 กรดไขมนั อสิ ระ 40.0000 สำรโพลำร์ (TPM) 35.0000 30.0000 25.0000 20.0000 15.0000 10.0000 5.0000 0.0000 176 °C 120 °C 100 °C อุณหภมู หิ ลงั การทอด ภาพที่ 4.3 กำรศึกษำอุณหภูมิในกำรกรองน้ำมันผำ่ นเปลอื กสบั ปะรด ทอ่ี ณุ หภูมหิ ลงั กำรทอด จำกภำพท่ี 4.3 กำรศึกษำประสิทธิภำพของเปลือกสับปะรดกรองน้ำมันผ่ำนที่อุณหภูมิ 176oC, 120oC และ 100oC หลังกำรทอด วิเครำะห์ผลเป็นเปอร์เซ็นต์กำรลดลงของกรดไขมันอิสระ และสำร โพลำร์ มีคำ่ เท่ำกบั 41.0% และ 10.4%, 41.0% และ 13.1%, 41.1% และ 29.4% ตำมลำ้ ดบั 4.1.4 การทดสอบประสทิ ธิภาพของเปลอื กสบั ปะรดทผ่ี ่านการกรองนามนั หลังการทอด กำรศึกษำประสทิ ธิภำพของเปลือกสบั ปะรด ในกำรนำ้ กลบั มำใชใ้ หมเ่ พื่อเป็นวสั ดดุ ูดซับท่ีผ่ำนกำร กรองน้ำมันหลังกำรทอดท่ีอณุ หภูมิ 176 oC, 120 oC และ 100oC โดยท้ำกำรเลือกเฉพำะอุณหภูมิท่ี เหมำะสม และมีแนวโน้มค่ำสำรโพลำร์ลดลง ซึ่งได้แก่ เปลือกสับปะรดท่ีอุณหภูมิ 100oC โดยน้ำน้ำมันท่ี ผ่ำนกำรทอดครังที่ 70 กรองผ่ำนวัสดุดูดซับที่เหมำะสมซ้ำ และน้ำไปหำเปอร์เซ็นต์กำรลดลงสำรโพลำร์ เพอ่ื หำจ้ำนวนซ้ำของวัสดุดูดซบั แสดงผลกำรวเิ ครำะห์ ดังตำรำงที่ 4.4 และภำพท่ี 4.5
ตารางท่ี 4.4 การศกึ ษาประสิทธิภาพของเปลือกสบั ปะรดในการกรองนามนั ทอดซาท่อี ณุ หภูมิ 100 oC ชนิดของวสั ดุ จานวนการกรอง สารโพลาร์ (TPM) ปรมิ าตรนามันที่เหลอื ผ่านวสั ดุ(ครัง) สารโพลาร์ (g/100g) การลดลง (%) หลงั จากการกรองผา่ น เปลอื กสับปะรด (ml/15ml) นามนั ทีไ่ มผ่ า่ นการโหลดผ่านวสั ดุ 58.9714 เปลอื ก 1 47.3433 27.0558 11.5 สับปะรด 2 53.7982 17.1104 14.5 3 62.1501 4.2423 14.5 จำกตำรำงท่ี 4.4 กำรศึกษำประสิทธิภำพของเปลือกสับปะรดในกำรกรองน้ำมันทอดซ้ำการลดลงของสารโพลา ์ร (%) ท่ีอุณหภูมิ 100oC พบว่ำใช้เวลำในกำรกรอง 3-10 นำที โดยน้ำมันท่ีไม่ผ่ำนกำรกรองผ่ำนวัสดุมีค่ำสำร โพลำร์ 58.9714 g/100g เม่ือน้ำน้ำมันที่ผ่ำนกำรทอดซ้ำที่อุณหภมู ิ100°C มำกรองผ่ำนเปลือกสับปะรด 3 ครัง ครังท่ี 1 มีค่ำสำรโพลำร์ 47.3433 g/100g ครังที่ 2 มีค่ำสำรโพลำร์ 53.7982 g/100g และครังที่ 3 มคี ่ำสำรโพลำร์ 62.1501 g/100g ตำมล้ำดับ การศกึ ษาการกรองนามนั ผ่านเปลอื กสบั ปะรดท่อี ณุ หภูมิ 100 oC 30.0000 25.0000 20.0000 15.0000 10.0000 5.0000 0.0000 123 จานวนการกรองผา่ นวสั ดุ (ครงั ) ภาพที่ 4.5 กำรศกึ ษำประสิทธภิ ำพของเปลอื กสับปะรดในกำรกรองน้ำมนั ทอดซ้ำท่อี ุณหภมู ิ 100 oC
จำกภำพที่ 4.5 กำรศึกษำประสิทธิภำพของเปลือกสับปะรดในกำรกรองน้ำมันทอดซ้ำ ท่ีอณุ หภมู ิ 100 oC โดยผ่ำนกำรกรอง 3 ครัง คิดเป็นเปอร์เซ็นตก์ ำรลดสำรโพลำร์เป็น 27.1%, 17.1% และ 4.2% ตำมล้ำดบั 4.1.5 การทดสอบการดดู ซบั ของเปลอื กสับปะรดในบรรจุภัณฑ์ กำรศึกษำประสิทธิภำพในกำรดูดซับของเลือกสับปะรดในบรรจุภัณฑ์ โดยกำรเทียบน้ำหนักของ วัสดทุ ่เี พิม่ ขึน และระยะเวลำต่ำงๆ แสดงผลกำรวิเครำะห์ดังตำรำงท่ี 4.5 ตารางท่ี 4.5 การศึกษาประสทิ ธิการดดู ซบั ของเปลือกสับปะรดในบรรจุภณั ฑ์ เวลาทศี่ กึ ษา ผลการดูดซบั ในบรรจภุ ณั ฑ์ หมายเหตุ (วนั ) เปลอื กสับปะรด (g) 1 0.0007 4 0.0066 8 0.0113 12 0.0098 จำกตำรำงท่ี 4.5 กำรศึกษำประสิทธิภำพกำรดูดซับของเปลือกสับปะรดในบรรจุภัณฑ์ พบว่ำ เปลือกสับปะรด ท่ีระยะเวลำ 1, 4, 8 และ 12 วัน มีน้ำหนัก 0.0007 g, 0.0066 g, 0.0113 g และ 0.0098 g ตำมลำ้ ดบั 4.2 อภปิ รายผลการทดลอง 4.2.1 การกรองนามันทอดซาผา่ นเปลอื กสับปะรดท่อี ณุ หภูมหิ ้อง จำกกำรกรองน้ำมันผ่ำนเปลือกสับปะรดที่อุณหภูมิห้อง เมื่อท้ำกำรกรองน้ำมันผ่ำนเปลือก- สับปะรดเพียง 1 ครัง และ 5 ครัง พบว่ำ ในกรองน้ำมันผ่ำนเปลือกสับปะรด 5 ครัง สำมำรถลดปริมำณ กรดไขมันอิสระและปริมำณสำรโพลำร์ได้ดีกว่ำกำรกรองน้ำมันผ่ำนเปลือกสับปะรดเพียง 1 ครัง เนื่องจำกเปลือกสับปะรดมีองค์ประกอบของใยอำหำร (Fiber) (Romelle., 2016) และมีลักษณะพืนผิวที่ เป็นรูพรุน จึงสำมำรถเกิดกำรดูดซับน้ำมันได้ (Foo&Hameed., 2012) อีกทังใยอำหำร (Fiber) ประกอบด้วยสำรประกอบท่ีมีโครงสร้ำงเป็นคำร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนท่ีไม่ใช่แป้ง (non-starch
polysaccharides) ได้แก่ เฮมิเซลลูโลส (hemicellulose)และส่วนประกอบท่ีไม่ใชค่ ำร์โบไฮเดรต ได้แก่ ลิกนิน (lignin) (Baghurst et al., 1996; Eastwood, 1997; Spiller, 2001) ซ่ึงสำรกลุ่มนีมีตำ้ แหน่งท่ีมี ขัวสงู จำกหลกั กำรกำรดดู ซับ เปนกระบวนกำรทส่ี ำรถูกดดู ซับเคลอ่ื นที่จำกเฟสหน่ึงไปยังขอบเขตของเฟส อ่ืนๆ ซ่ึงมีสำเหตุจำกปฏิกิริยำระหวำงสำมโมเลกุลที่แตกตำงกัน ไดแก สำรดูดซับ สำรถูกดูดซับ และ สำรละลำยโดยจะมีแรงกำรขับเคลื่อนหลังกำรดูดซับเปนแรงดึงดูดระหวำงสำรดูดซับ และสำรถูกดูดซับ ไดแก Electrical attraction, Van der Waal forces, Covalent bonds, Hydrogen bonds (LaGrega, 2001) โดยในกำรดดู ซับสำรโพลำร์และกรดไขมันนีจะเกิดแรงดึงดูดแบบ Hydrogen bonds และ Dipole-diploe เน่ืองจำกเป็นแรงดึงดูดของสำรมีขัว ท้ำให้เปลือกสับปะรดสำมำรถท่ีจะดูดซับ สำรโพลำร์ได้ แต่ในกำรกรองน้ำมันผ่ำนเปลือกสับปะรดเพียง 1 ครัง จะมีปริมำตรน้ำมันที่เหลือหลังจำก กำรกรองผ่ำนเปลือกสับปะรดมำกกว่ำกำรกรองน้ำมันผ่ำนเปลือกสับปะรด 5 ครัง เนื่องจำกกำรกรอง น้ำมนั ผำ่ นเปลอื กสับปะรดยง่ิ มจี ้ำนวนในกำรกรองมำกขนึ ยิ่งท้ำใหเ้ กดิ ควำมหนืดของน้ำมนั เพิ่มขึน 4.2.2 การศกึ ษาอุณหภมู ิในการกรองนามนั ผ่านเปลอื กสบั ปะรดที่อณุ หภูมิหลงั การทอด จำกกำรทดลองกำรกรองน้ำมันผ่ำนเปลือกสับปะรดหลังกำรทอดท่ีอณุ หภูมิ 176oC, 120oC และ 100oC พบว่ำ เปลือกสับปะรดสำมำรถลดปริมำณสำรโพลำร์ และกรดไขมันอิสระได้ดีที่สุดท่ีอุณหภูมิ 100oC และสำมำรถลดปริมำณสำรโพลำร์ได้ดีท่ีสุดที่อุณหภูมิ 100oC เหมำะส้ำหรับเลือกไปใช้ใน กำรกรองน้ำมันทอดซ้ำ แต่กำรกรองน้ำมันผ่ำนเปลือกสับปะรดหลังกำรทอดที่อุณหภูมิ 120oC จะมี ปริมำตรน้ำมันที่เหลือหลังจำกกำรกรองผ่ำนเปลือกสับปะรดมำกกวำ่ กำรกรองน้ำมันผ่ำนเปลือกสับปะรด หลงั กำรทอดท่อี ุณหภูมิ 176oC และ 100oC ทงั นอี ุณหภูมิมผี ลต่อกำรดูดซับ ท้ำใหค้ ุณสมบัติของวสั ดเุ ปล่ยี นแปลง ซึง่ เป็นผลใหค้ วำมสำมำรถ ในกำรดูดซับของวัสดุเปลี่ยนแปลงไปด้วย โดยกำรเพิ่มขึนของอุณหภูมิท้ำใหกำรแพรผำนของสำรที่ถูก ดูดซับลงไปยังรูพรุนของตัวดูดซับเร็วขึน แตจะสงผลให้แรงยึดเหนี่ยวระหวำงโมเลกุลของสำรที่ถูกดูดซับ กับพืนทผ่ี ิวของตัวดดู ซับลดลง
4.2.3 การศึกษาประสทิ ธภิ าพของเปลอื กสบั ปะรดในการกรองซา กำรศึกษำประสิทธิภำพของเปลือกสับปะรด ในกำรน้ำกลับมำใช้ใหม่เพ่ือเป็นวัสดุดูดซับที่ผ่ำน กำรกรองน้ำมันหลังกำรทอดที่อุณหภูมิ 176 oC, 120 oC และ 100oC จะเห็นได้วำ่ ประสิทธิภำพของ เปลือกสับปะรดในกำรกรองน้ำมันทอดซ้ำ เมื่อน้ำน้ำมันที่ผ่ำนกำรทอดซ้ำมำท้ำให้เย็นลงท่ีอุณหภูมิ 100 oC แล้วมำกรองผ่ำนเปลือกสับปะรด 3 ครัง มีแนวโน้มท่ีไม่สำมำรถลดปริมำณสำรโพลำร์ลงได้ อำจเปน็ เพรำะเมื่อผ่ำนกำรกรองหลำยครงั ทำ้ ให้พนื ทหี่ รอื ช่องในกำรดูดซบั มีนอ้ ย จงึ เป็นผลให้ใช้ได้เปลือก สัปปะรดไดน้ ้อยครัง ดว้ ยเหตนุ กี ำรใชเ้ ปลือกสบั ปะรดควรใช้กรองผำ่ นเพยี งครังเดียว ดงั นนั หำกจะเลือกกำรกรองทีอ่ ุณหภูมิ 100 oC ควรกรองนำ้ มนั ผ่ำนเปลือกสับปะรดเพียง 1 ครัง เน่ืองจำกมีแนวโน้นที่สำมำรถลดสำรโพลำร์ไดด้ ี ซึ่งจำกสมมติฐำนท่ีอุณหภมู ิมีผลตอ่ กำรดูดซับแล้วคำดว่ำ อุณหภูมิอำจจะมีผลต่อธรรมชำติของตัวดูดซับ พืนที่ผิวซึ่งเปนสมบัติอยำงหนึ่งที่มีผลตอควำมสำมำรถ ของตวั ดูดซับ โดยในกำรดดู ซับเม่ือพืนท่ีผิวของตัวดูดซับเพิ่มขึนควำมสำมำรถในกำรดูดซับจะเพ่ิมมำกขึน อยำงไรก็ตำมพืนที่ผิวของตวั ดดู ซบั เพียงอยำงเดียวไมเพียงพอท่ีจะบงบอกไดถึงควำมสำมำรถในกำรดดู ซับ โครงสร้ำงของรูพรุนก็มีสวนชวยให้พืนท่ีผิวมีควำมสำมำรถในกำรดูดซับเพ่ิมขึน ถำตัวดูดซับไมมีรูพรุน พืนที่ผิวจะเพิ่มขึน เมื่อขนำดของตัวดูดซับมีขนำดลดลงซ่ึงท้ำใหควำมสำมำรถในกำรดูดซับเพ่ิมขึน แตถำตัวดูดซับมีรูพรุนมำกๆ พืนท่ีผิวที่ใชในกำรดูดซับอยูในรูพรุนจะดลง ขนำดของตัวดูดซับจะไมมีผล ตอควำมสำมำรถในกำรดดู ซบั 4.2.4 การทดสอบการดูดซบั ของเปลอื กสับปะรดในบรรจุภณั ฑ์ กำรศึกษำควำมสำมำรถในกำรดดู ซับของเปลือกสับปะรดในบรรจุภณั ฑ์ เปลือกสับปะรดสำมำรถ ดูดซับควำมชืน สำรโพลำร์ และน้ำมันได้ เนื่องจำกมีองค์ประกอบของใยอำหำร (Fiber) (Romelle., 2016) และมีลักษณะพืนผิวที่มีลักษณะเป็นรูพรุน จึงสำมำรถเกิดกำรดูดซับได้ (Foo&Hameed., 2012) อีกทังใยอำหำร (Fiber) ประกอบด้วยสำรประกอบที่มีโครงสร้ำงเป็นคำร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ไม่ใช่แป้ง (non-starch polysaccharides) ได้แก่ เฮมิเซลลูโลส (hemicellulose) และส่วนประกอบท่ีไม่ใช่ คำร์โบไฮเดรต ไดแ้ ก่ ลิกนิน (lignin) (Baghurst et al., 1996; Eastwood, 1997; Spiller, 2001) ซง่ึ สำรกลุม่ นีมีตำ้ แหนง่ ท่ีมขี ัวสูง จำกหลกั กำรกำรดดู ซบั เปนกระบวนกำรท่สี ำรถูกดูดซับเคล่ือนท่ีจำกเฟส หนึ่งไปยังขอบเขตของเฟสอ่นื ๆ ซ่ึงมีสำเหตุจำกปฏิกิริยำระหวำงสำมโมเลกุลที่แตกตำงกัน ไดแก สำรดูด- ซับ สำรถูกดูดซับ และสำรละลำยโดยจะมีแรงกำรขับเคล่ือนหลังกำรดูดซับ เปนแรงดึงดูดระหวำงสำร ดูดซับ และสำรถูกดูดซับ ไดแก Electrical attraction, Van der Waal forces, Covalent bonds, Hydrogen bonds (LaGrega, 2001) โดยในกำรดดู ซับสำรโพลำร์และกรดไขมันนีจะเกิดแรงดึงดูดแบบ Hydrogen bonds และ Dipole-diploe เนื่องจำกเป็นแรงดงึ ดูดของสำรมีขัว ท้ำให้สำมำรถดูดซับ ควำมชืน สำรโพลำร์ได้ดี
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: