พระพทุ ธศาสนา หลกั ธรรมสำคญั เพื่อกำรอยรู่ ่วมกนั อย่ำงสนั ติสขุ ของศำสนำต่ำงๆ 55
ช่วยกนั ตอบคำถำม หลกั ธรรมของศำสนำท่ีตนนับถอื และศำสนำอ่ืนๆ ท่ีนักเรียนร้จู กั มีอะไรบำ้ ง ๏ พระพทุ ธศำสนำ เช่น อริยสจั ๔ โอวำท ๓ อิทธิบำท ๔ พละ ๕ ๏ คริสตศ์ ำสนำ เช่น บญั ญตั ิ ๑๐ หลกั ควำมรกั ๏ ศำสนำอิสลำม เช่น หลกั ปฏิบตั ิ ๕ หลกั ศรทั ธำ ๖ นักเรียนเคยปฏิบตั ิตำมหลกั ธรรมทำงศำสนำหรือไม่ และได้รบั ผลเป็นอย่ำงไร ๏ เคย ได้รบั ผลหลำยประกำร เช่น มีควำมสบำยใจ ได้รบั กำรยกยอ่ ง อยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่ืนอย่ำงมีควำมสขุ 56
๕. หลักธรรมสำคญั เพอื่ กำรอยูร่ ่วมกัน อยำ่ งสันตสิ ุขของศำสนำตำ่ ง ๆ ศำสนำเป็นส่ิงจำเป็นสำหรบั กำรอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คม 57 หลกั ธรรมของทกุ ศำสนำม่งุ สอนให้ ศำสนิกชนของตนเป็นคนดี โดยละเว้นกำรทำควำมชวั่ ทำ แต่ควำมดี
๕.๑ หลักธรรมของพระพทุ ธศำสนำ เบญจศีล เบญจธรรม >>> ข้อห้ำมไม่ให้ปฏิบตั ิ >>> หลกั ปฏิบตั ิท่ีดีงำม ขอ้ ๑ เว้นจำกกำรฆ่ำสตั ว์ ข้อ ๑ เมตตำกรณุ ำ ขอ้ ๒ เว้นจำกกำรถือเอำสิ่ง ข้อ ๒ สมั มำอำชีวะ ข้อ ๓ กำมสงั วร ของที่เจ้ำของไม่ได้ให้ ข้อ ๔ สจั จะ ข้อ ๓ เว้นจำกกำรประพฤติ ข้อ ๕ สติสมั ปชญั ญะ ผิดในกำม ข้อ ๔ เว้นจำกกำรพดู เทจ็ ข้อ ๕ เวน้ จำกกำรดื่มสรุ ำ และน้ำเมำ 58
เรื่องน่ำร้:ู อำนิสงสข์ องกำรถือหรือรกั ษำศีล ๕ ๑. ไมป่ ระสบควำมเดือดรอ้ นในภำยหน้ำ ๒. ประสบควำมสำเรจ็ ในกำรทำมำหำกิน ๓. มีช่ือเสียงแพรห่ ลำยไปในหมคู่ นดี ๔. องอำจ ไมเ่ ก้อเขิน เม่อื เข้ำไปในหม่คู นดี ๕. มีสติก่อนตำย จำกไปอย่ำงสงบ ไมท่ รุ นทุรำย ๖. ไปส่สู คุ ติ ไม่ตกนรก ๗. ผบู้ ำเพญ็ ศีลโดยบริบรู ณ์ ย่อมสิ้นกิเลส 59
๕.๑ หลักธรรมของพระพทุ ธศำสนำ ๒. อธิปไตย ๓ หมำยถงึ ควำมเป็นใหญ่ มี ๓ ประกำร ๑. อตั ตำธิปไตย: ๒. โลกำธิปไตย: ๓. ธรรมำธิปไตย: กำรถอื “ตน” เป็นใหญ่ กำรถือ “โลก” เป็นใหญ่ กำรถอื “ธรรม” เป็นใหญ่ เช่น จะบริจำคเงินหรือ จะทำควำมดีอะไรขึน้ อยู่ ทำดีเพรำะเหน็ แก่ควำมดี ส่ิงของ กต็ ้องกำรให้ กบั คนอ่ืน เช่น จะบวช หรอื ควำมถกู ต้อง เช่น ประกำศช่ือเสียง ตนเอง บริจำคส่ิงของไม่ต้องกำร ลกู หลำนต้องจดั งำน ประกำศ ทำเพือ่ อยำกให้ ต้องได้ประโยชน์ ใหญ่โตเพือ่ ไม่ให้คนอื่น ถงึ จะทำ ตำหนิ ไมม่ ีเงินกไ็ ปยมื เขำ คนอ่ืนมีควำมสขุ มำ 60
๕.๑ หลักธรรมของพระพทุ ธศำสนำ ในบรรดำอธิปไตยทงั้ ๓ ประกำรนี้ ธรรมำธิปไตยถอื เป็นหลกั คำสอนที่พระพทุ ธเจ้ำทรงเน้นมำก ดงั พระนิพนธข์ องสมเดจ็ พระมหำสมณเจ้ำ กรมพระยำวชิรญำณวโรรส ตอนหน่ึงว่ำ “อนึง่ เนือ่ งด้วยการถือชาติ คนทงั้ หลายย่อมมีปกติเหน็ แก่ตวั จะทาการอย่างใดอย่างหนึง่ แม้เป็นประโยชน์แก่ผอู้ ืน่ ตวั ต้องได้ประโยชน์ด้วยจึงจะทา อธั ยาศยั น้ีติดมาในสนั ดาน แม้แต่คนถือพระพทุ ธศาสนาทาบญุ ให้ทานยงั ปรารถนาจะได้สมบตั ิอย่างนัน้ อย่างน้ี สมเดจ็ พระบรมศาสดาทรงชกั นาให้ละความเหน็ แก่ตวั และให้ตงั้ ใจทา ม่งุ ความสมควร เป็นใหญ่ ทรงติการทาด้วยอตั ตาธิปไตย ยกตนเป็นใหญ่ และโลกาธิปไตย เพ่งโลกเป็นใหญ่ และทรงสรรเสริญธรรมาธิปไตย ม่งุ ธรรมเป็นใหญ่” 61
๕.๑ หลักธรรมของพระพทุ ธศำสนำ ๓. มิจฉำวณิชชำ ๕ หมำยถึง กำรค้ำท่ีไม่ชอบธรรม ๕ ประกำร คือ ๑. กำรค้ำอำวธุ (สตั ถวณิชชำ) ๒. กำรค้ำมนุษยแ์ ละค้ำประเวณี (สตั ตวณิชชำ) ๓. กำรค้ำสตั วส์ ำหรบั ฆ่ำเป็นอำหำร (มงั สวณิชชำ) ๔. กำรค้ำของมึนเมำและสิ่งเสพติดอ่ืนๆ (มชั ชวณิชชำ) ๕. กำรค้ำยำพิษ (วิสวณิชชำ) กำรค้ำเหล่ำนี้ไมค่ วรทำ เพรำะมีแต่ผลเสียหรอื โทษ 62
๕.๑ หลักธรรมของพระพทุ ธศำสนำ ๔. อริยวฑั ฒิ ๕ ๕. โภคอำทิยะ ๕ >>> หลกั ปฏิบตั ิที่นำไปสู่ >>> แนวทำงกำรใช้โภคทรพั ย/์ ทรพั ยส์ ิน/เงินทอง/ของใช้ ควำมเจริญงอกงำม ๑. เลีย้ งตนเองและครอบครวั ๑. งอกงำมด้วยศรทั ธำ ให้มีควำมสุข ๒. งอกงำมด้วยศีล ๓. งอกงำมด้วยสตุ ะ ๒. บำรงุ มิตรสหำยให้มีควำมสขุ ๓. เป็นหลกั ประกนั ยำมจำเป็น คือ หมนั่ ศึกษำหำควำมรู้ ๔. ใช้ทำ “พลี” สละทรพั ยเ์ พอ่ื : ๔. งอกงำมด้วยจำคะ สงเครำะหญ์ ำติ, ต้อนรบั คนไปมำหำส่,ู คือ รจู้ กั เสียสละ บำรงุ รำชกำร (เสียภำษี), เทวดำ, ทำบญุ ให้บุพกำรีชนที่ล่วงลบั ไปแล้ว ๕. งอกงำมด้วยปัญญำ ๕. อปุ ถมั ภบ์ ำรงุ สมณพรำหมณ์ 63
๕.๑ หลักธรรมของพระพทุ ธศำสนำ ๖. สำรำณียธรรม ๖ ● ธรรมที่ก่อให้เกิดควำมรกั และควำมเคำรพ ๖ ประกำร ๑. เมตตำกำยกรรม : กำรกระทำทำงกำยด้วยเมตตำ ๒. เมตตำวจีกรรม : กำรกระทำทำงวำจำด้วยเมตตำ ๓. เมตตำมโนกรรม : กำรกระทำทำงใจด้วยเมตตำ ๔. สำธำรณโภคี : กำรแบง่ ปันลำภท่ีได้มำโดยชอบธรรม ๕. สีลสำมญั ญตำ : กำรเป็นผมู้ ีศีลเสมอกนั ๖. ทิฏฐิสำมญั ญตำ : กำรมีควำมคิดเหน็ หรอื ทศั นคติตรงกนั ช่วยป้องกนั กำรทะเลำะวิวำท กำรแก่งแยง่ และช่วยสร้ำงสรรค์ ควำมสำมคั คีให้เกิดขนึ้ ในสงั คมไทย 64
๕.๒ หลกั ธรรมของครสิ ตศ์ าสนา ๑. บญั ญตั ิ ๑๐ ประกำร คมั ภีรไ์ บเบิล ๑) อยำ่ มีพระเจ้ำอื่นใด ๖) อย่ำฆ่ำคน นอกเหนือจำกเรำ ๗) อย่ำล่วงประเวณีผวั เมียเขำ ๘) อย่ำลกั ทรพั ย์ ๒) อยำ่ นับถือรปู เคำรพ ๙) อย่ำเป็นพยำนเทจ็ ใส่รำ้ ย ๓) อยำ่ ออกนำมพระเจ้ำ เพื่อนบำ้ น อยำ่ งไมส่ มควร ๑๐) อย่ำโลภในส่ิงใดๆ ซึ่งเป็น ๔) จงนึกถึงวนั “สะบำโต” ๕) จงให้เกียรติบิดำมำรดำ ของเพื่อนบ้ำน 65
๕.๒ หลกั ธรรมของครสิ ตศ์ าสนา ๒. ควำมรกั ● มีคณุ ลกั ษณะของกำรให้ กำรสรำ้ งสรรค์ กำรอทุ ิศตวั ควำมซื่อสตั ย์ ควำมจงรกั ภกั ดี ฯลฯ ● เป็นควำมรกั ของพระเจ้ำที่มีต่อมนุษย์ ควำม รกั ของมนุษยท์ ี่มีต่อพระเจ้ำ และควำมรกั ของ มนุษยต์ ่อเพื่อนมนุษยด์ ้วยกนั ความรกั ในพระเจ้า และรกั ในเพือ่ นมนุษย์ เป็นเครือ่ งวดั จริยธรรมของชาวคริสต์ 66
๕.๓ หลกั ธรรมของศาสนาอสิ ลาม คณุ สมบตั ิของผมู้ ีจริยธรรม ตำมหลกั คำสอน ๑. หลกั จริยธรรม ของศำสนำอิสลำม ● จงเลือกสรรเฉพำะสิ่งที่ดีอนั เป็นที่ยอมรบั ของ สงั คม ● จงทำตนให้เป็นผดู้ ำรงอยใู่ นศีลธรรม ● พฒั นำตนเองไปส่กู ำรมีบคุ ลิกภำพท่ีดี ● เป็นคนท่ีรจู้ กั หน้ำที่ ห่วงใย มีเมตตำ มีควำมรกั ซื่อสตั ยต์ ่อผอู้ ื่น ● ร้จู กั ปกป้องสิทธิของตน ไม่ละเมิดสิทธิของผอู้ ่ืน ● เป็นผมู้ ีควำมเสียสละ ไม่เหน็ แก่ตวั ● หมนั ่ ใฝ่ หำควำมรู้ 67
๕.๓ หลกั ธรรมของศาสนาอสิ ลาม ๒. หลกั ปฏิบตั ิ >>> หลกั ปฏิบตั ิ ๕ ประกำร กำรละหมำด ๑. กำรปฏิญำณตน ๒. กำรนมำซ (ละหมำด) ๓. กำรถอื ศีลอด ๔. กำรจ่ำยซะกำต คือ กำรบริจำคทำนทกุ ปี ๕. กำรบำเพญ็ ฮจั ญ์ ณ อลั กะอบ์ ะฮ์ นครเมกกะ อย่ำงน้อย ๑ ครงั้ ในชีวิต 68
๕.๓ หลกั ธรรมของศาสนาอสิ ลาม คาปฏญิ าณตนของศาสนาอสิ ลาม “ข้าขอปฏิญาณว่า ไม่มีพระเป็ นเจ้าอื่นใด นอกจากอัลลอฮ์ และขอปฏญิ าณว่า แท้จริงมุฮัมมัด เป็ นเราะซูลของอัลลอฮ์” 69
เร่ืองน่ำรู้: กำรทำนมำซ/ละหมำด อลั ลอฮก์ าหนดให้มสุ ลิมทาการละหมาดวนั ละ ๕ เวลา คือ ๑. ฟ้ำสำงจนก่อนดวงอำทิตยข์ นึ้ ๒. ดวงอำทิตยค์ ล้อยจนเงำทอด ยำวไปเท่ำตวั ๓. ตงั้ แต่เงำของสิ่งหนึ่งทอดยำวไป เท่ำตวั จนดวงอำทิตยต์ ก ๔. เวลำพลบคำ่ ๕. พลบคำ่ ถึงก่อนฟ้ำสำง 70
แลกเปลี่ยนควำมคิดเหน็ ๑. ข้อห้ำม “ลกั ทรพั ย”์ ในบญั ญตั ิ ๑๐ ประกำร เหมอื นหรอื ต่ำงกบั เบญจศีล ขอ้ ๒ ของพระพทุ ธศำสนำหรือไม่ ● เหมอื นกนั ๒. ขอ้ ห้ำม “ผิดประเวณี” ในบญั ญตั ิ ๑๐ ประกำร เหมอื นหรือต่ำงกบั เบญจศีลขอ้ ๓ ของพระพทุ ธศำสนำหรือไม่ ● เหมือนกนั ๓. หลกั “ควำมรกั ” คืออะไร ในทำงคริสตศ์ ำสนำสอนเรอ่ื งควำมรกั ไวอ้ ยำ่ งไร ● กำรให้ กำรสร้ำงสรรค์ กำรอทุ ิศตวั ควำมซื่อสตั ย์ ควำมจงรกั ภกั ดี ควำมรจู้ กั ใกล้ชิด ควำมสนิท สนม และควำมรบั ผิดชอบต่อกนั เป็นควำมรกั ของพระเจ้ำท่ีมี ต่อมนุษย์ ควำมรกั ของมนุษยท์ ่ีมี ต่อพระเจ้ำ และควำมรกั ของมนุษยต์ ่อเพ่ือนมนุษยด์ ้วยกนั 71
แลกเปลี่ยนควำมคิดเหน็ ๔. ถ้ำโลกนี้ไม่มีควำมรกั จะเกิดปัญหำอะไรขึน้ ● กำรทะเลำะวิวำท ควำมเกลียดชงั ควำมเหน็ แก่ตวั ๕. “กำรละหมำด” คืออะไร และต้องทำเวลำใด ● คือ กำรขอพรและสรรเสริญคณุ พระเป็นเจ้ำวนั ละ ๕ เวล/ครงั้ ได้แก่ ๑) ฟ้ำสำงจนก่อนดวงอำทิตยข์ ึน้ ๒) ดวงอำทิตยค์ ล้อยจนเงำทอดยำวไปเท่ำตวั ๓) ตงั้ แต่เงำของส่ิงหน่ึงทอดยำวไปเท่ำตวั จนดวงอำทิตยต์ ก ๔) เวลำพลบคำ่ และ ๕) พลบคำ่ ถึงก่อนฟ้ำสำง ๖. “กำรถือศีลอด” มีจดุ ม่งุ หมำยเพื่ออะไร ● เพื่อให้ผปู้ ฏิบตั ิสำรวมตนจำกควำมชวั ่ ฝึ กควำมอดทนอดกลนั้ มีจิตใจสงบ ๗. “กำรบำเพญ็ ฮจั ญ”์ ของผทู้ ี่นับถือศำสนำอิสลำม มีวตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ืออะไร ● เดินทำงไปประกอบศำสนกิจ ณ อลั กะอบ์ ะฮ์ ที่นครเมกกะอยำ่ งน้อย ๑ ครงั้ ในชีวิต 72
๖. คณุ ค่ำและควำมสำคญั ของค่ำนิยม และจริยธรรมในศำสนำ ค่ำนิยมและจริยธรรมมีควำมสำคญั ต่อกำรดำเนินชีวิต ของมนุษยท์ ุกคน เพรำะเป็นเครอื่ งยึดเหน่ียวจิตใจ ของมนุษย์ และเป็นมำตรฐำนด้ำนพฤติกรรมให้มนุษย์ 73
๖.๑ ควำมหมำยของค่ำนิยมและจริยธรม “ค่ำนิ ยม” ● สิ่งที่บคุ คลพอใจ เหน็ ว่ำมีคณุ ค่ำ และยอมรบั ไว้เป็นควำม เช่ือของตนเอง ● แบง่ เป็น “ค่ำนิ ยมส่วนบคุ คล” และ “ค่ำนิ ยมของสงั คม” 74
๖.๑ ควำมหมำยของค่ำนิยมและจริยธรม “จริยธรรม” ● กำรกระทำในส่ิงที่ถกู ต้องและอย่ใู นกรอบศีลธรรม ● แบง่ เป็น “จริยธรรมภำยนอก” และ “จริยธรรมภำยใน” ควำมกตญั ญู ควำมมีวินัย 75
๖.๒ ลกั ษณะของคา่ นิยมและจรยิ ธรรม ค่ำนิ ยม จริยธรรม ๑. บคุ คลยอมรบั โดยสมคั รใจ ๑. ต้องเป็นเชิงสมั พนั ธ์ ๒. บคุ คลมีโอกำสเลือก เปรียบเทียบ ขึน้ กบั ๓. พิจำรณำแล้วว่ำดี ถกู ต้อง เง่ือนไข เหมำะสม จึงเลือก ๒. เป็นแบบอตั วิสยั ๔. บคุ คลนัน้ ภมู ิใจที่ได้เลือก ๓. ตงั้ อยบู่ นพืน้ ฐำนธรรมชำติ ๕. บคุ คลพรอ้ มจะสนับสนุน ๔. เป็นแบบหยดุ นิ่งตำยตวั ค่ำนิ ยมนัน้ ไมม่ ีกำรเปล่ียนแปลง ๖. บคุ คลยึดถือปฏิบตั ิจริง ๗. บคุ คลปฏิบตั ิซำ้ อย่บู ่อยๆ 76
๖.๓ ปัจจัยทม่ี ผี ลตอ่ ค่ำนิยมและจริยธรรม “ปัจจยั ” ท่ีมีผลค่ำนิยม และจริยธรรม 1. ครอบครวั 2. สถำนศึกษำ 3. สถำบนั ศำสนำ 4. กฎหมำย 5. สื่อมวลชน 77
๖.๔ ควำมสำคัญของค่ำนิยมและจริยธรรม ๑. เป็นบรรทดั ฐำนทำงพฤติกรรมของมนุษย์ ๒. เป็นแบบแผนในกำรตดั สินใจแก้ไขข้อขดั แย้งต่ำง ๆ ๓. เป็นแรงจงู ใจให้บคุ คล กำรกินอำหำรเพ่ือ กำรออกกำลงั กำย สขุ ภำพ 78
บอกหลกั ธรรมของพระพทุ ธศำสนำ มิ จ ฉ ำ ว ณิ ช ช ำ ๕ อ ริ ย วั ฑ ฒิ ๕ ๑. กำรค้ำขำยท่ีผิด ๒. หลกั ปฏิบตั ิที่ เ บศีลญธรจรมธ ร ร ม โ นภำไปคส่คู อวำำมทเจิ รยิญ ๕ ๔. แนวทำงกำรใช้ะ ๓. ให้ปฏิบตั ิในส่ิงที่ดี เ บโภคญทรจพั ยศ์ ี ล อ ธิ ปงำมไ ต ย ๓ ๖. ไม่ปฏิบตั ิในส่ิงท่ี ๕. ควำมถอื ตน โลก และ ธรรมเปส็นใำหญร่ ำ ณี ย ธ ร ร เมป็น๖บำป ๗. ธรรมท่ีเป็นเหตใุ ห้เกิดควำมรกั และเคำรพระหว่ำงกนั 79
บทสรุป ● หลกั ธรรมของทกุ ศำสนำม่งุ สอนให้ศำสนิกชนของตนเป็นคนดี หำกคน ปฏิบตั ิตนตำมหลกั ธรรมของศำสนำที่ตนนับถือแล้ว กจ็ ะช่วยให้อยู่ ร่วมกนั ในสงั คมได้อย่ำงสนั ติสขุ ● ตวั อย่ำงหลกั ธรรม เบญจศีล–เบญจธรรม อธิปไตย ๓ พระพทุ ธศำ มิจฉำวณิชชำ ๕ อริยวฑั ฒิ ๕ สนำ โภคอำทิยะ ๕ สำรำณียธรรม ๖ 80
บทสรุป บญั ญตั ิ ๑๐ ประกำร ● ตวั อย่ำงหลกั ธรรม ควำมรกั คริสต์ ศำสนำ ศำสนำ อิสลำม หลกั จริยธรรม หลกั ปฏิบตั ิ 81
บทสรุป ● ค่ำนิยมและจริยธรรมเป็นตวั กำหนดควำมประพฤติของคน และกำร ประพฤติของคนเป็นตวั กำรทำให้สงั คมเปล่ียนไป จึงอำจจะกล่ำวได้ ว่ำ ค่ำนิยมและจริยธรรมมีส่วนทำให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงทำงสงั คม ในขณะเดียวกนั กำรเปล่ียนแปลงทำงสงั คมกม็ ีส่วนทำให้ค่ำนิยม และจริยธรรมใหม่ ๆ เกิดขึน้ ได้เหมือนกนั ● สงั คมท่ีมีค่ำนิยมและจริยธรรมท่ีถกู ต้อง จะมีควำมเจริญก้ำวหน้ำ ส่วนสงั คมที่มีค่ำนิยมและจริยธรรมท่ีไม่เหมำะสม กจ็ ะเสื่อมลง ขำดควำมมนั่ คงภำยในชำติ จึงจำเป็นอย่ำงย่ิงท่ีสงั คมจะต้องสร้ำง ค่ำนิ ยมและจริยธรรมท่ีเหมำะสม 82
แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๑ ความรู้ทวั่ ไปเกย่ี วกบั ศาสนา 83
เลอื กคำตอบทถี่ ูกต้องทสี่ ุดเพยี งคำตอบเดยี ว ๑. ข้อใดคือความหมายของศาสนาทถ่ี ูกต้อง ก ความเชื่อ ข โองการของพระเจา้ ค คาสอนของศาสดา ง แนวทางการปฏิบตั ิใหถ้ ึงความพน้ ทุกข์ อธิบาย: ค ถูกตอ้ ง เพราะความเชื่อถือของมนุษยอ์ นั มีหลกั เป็นความหมายของ ศาสนา ที่เป็นการ แสดงกาเนิดและความสิ้นสุดของโลกเป็นตน้ อนั เป็นไปในฝ่ ายปรมตั ถป์ ระการหน่ึง แสดงธรรม ธรรมเก่ียวกบั บุญบาปอนั เป็นไปในฝ่ ายศีลธรรมประการหน่ึง 84
เลอื กคำตอบทถี่ ูกต้องทส่ี ุดเพยี งคำตอบเดยี ว ๒. ความกลวั ของมนุษย์ทเ่ี ป็ นมูลเหตุให้เกดิ ศาสนา คือความกลวั ในเร่ืองอะไร ก โรคภยั ไขเ้ จบ็ ข ภยั ธรรมชาติ ค ความอดอยาก ง การเกิดสงคราม อธิบาย: ข ถูกตอ้ ง เพราะความกลวั ของมนุษยเ์ ป็นผลสืบเน่ืองมาจากความไมร่ ู้จริง กล่าวคือเมื่อไมร่ ู้ขอ้ เทจ็ จริงในปรากฏการณ์ ทางธรรมชาติตา่ ง ๆ เช่น ฟ้าร้อง ฟ้าผา่ น้าท่วม และภยั พบิ ตั ิเพราะแผน่ ดินไหว กค็ ิดวา่ เป็น การกระทาของเทพเจา้ เจา้ ประจาธรรมชาติเหล่าน้นั ท่ีบนั ดาลใหเ้ ป็นไป มนุษยจ์ ึงคิดหาที่พ่งึ ทางใจนบั ถือวตั ถุบางอยา่ งวา่ เป็นส่ิง ศกั ด์ิสิทธ์ิ เช่น นบั ถือตน้ ไมใ้ หญ่ นบั ถือภูเขา นบั ถือดวงจนั ทร์ นบั ถือดวงอาทิตย์ แลว้ ทาการบูชาบวงสรวงออ้ นวอนขอพรจาก เทพเจา้ ประจาสิ่งเหล่าน้นั ในที่สุดกเ็ กิดพิธีกรรม เกิดคาสอนและกลายเป็นมลู เหตุใหเ้ กิดลทั ธิและศาสนาข้ึน 85
เลอื กคำตอบทถี่ กู ต้องทส่ี ุดเพยี งคำตอบเดยี ว ๓. ศาสนาทุกศาสนามอี ะไรทคี่ ล้ายคลงึ กนั ก หลกั ปฏิบตั ิ ข หลกั คาสอน ค หลกั การเผยแผ่ ง จุดมุ่งหมายของชีวติ อธิบาย: ง ถูกตอ้ ง เพราะทุกศาสนามุ่งสอนใหศ้ าสนิกชนของตนเขา้ ถึงความสุขอยา่ ง แทจ้ ริง อนั เป็นจุดมุ่งหมายของชีวิตที่มนุษยพ์ งึ แสวงหาไดจ้ ากการนาหลกั คาสงั่ สอนที่ ศาสดาไดส้ งั่ สอนไว้ 86
เลอื กคำตอบทถี่ ูกตอ้ งทสี่ ุดเพยี งคำตอบเดยี ว ๔. คากล่าวทีเ่ กยี่ วกบั ศาสนาข้อใดไม่ถูกต้อง ก ศาสนาเช่ือเร่ืองโลกหนา้ ข ศาสนามีนกั บวชเพอื่ สืบทอดศาสนา ค ศาสนามีคมั ภีร์เป็นที่รวบรวมคาสัง่ สอน ง ศาสนามีหลกั คาสอนเร่ืองส่ิงท่ีตามองไม่เห็น อธิบาย: ก ถูกตอ้ ง เพราะหากพจิ ารณาถึงองคป์ ระกอบของศาสนา คากล่าวขอ้ น้ีไม่ใชjองคป์ ระกอบ ของศาสนา ส่วนคากล่าวขอ้ อื่น ไดแ้ ก่ นกั บวช คมั ภีร์ และหลกั คาสอน เป็นองคป์ ระกอบของศาสนา ดงั น้นั คากล่าวขอ้ น้ีจึงไม่ถูกตอ้ ง 87
เลอื กคำตอบทถ่ี ูกตอ้ งทส่ี ุดเพยี งข้อเดยี ว ๕. องค์ประกอบท่ีสาคญั ประการหน่ึงท่ีทุกศาสนา จะขาดไม่ได้คืออะไร ก ศาสดา ข นกั บวช ค รูปเคารพ ง คมั ภีร์ศาสนา อธิบาย: ง ถูกตอ้ ง เพราะองคป์ ระกอบอื่น ไดแ้ ก่ ศาสดา สาวกหรือนกั บวช ศาสนสถาน พธิ ีกรรมและศาสนิกชน บางศาสนาอาจไมม่ ี เช่น ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ไม่มีศาสดาผกู้ ่อต้งั ศาสนาอสิ ลามไม่มีสาวกหรือนกั บวชมีเพียงผทู้ าหนา้ ท่ีทางศาสนา แตค่ มั ภีร์ทางศาสนาที่ บนั ทึกคาสั่งสอนของศาสดาแต่ละศาสนาตอ้ งมี เพราะจะได้ เป็นหลกั ฐานสาคญั สาหรับศาสนิกชนในยคุ ตอ่ ไปไดศ้ ึกษาเรียนรู้ และเพ่อื ใหศ้ าสนาน้นั ๆ คงอยตู่ อ่ ไป 88
เลอื กคำตอบทถ่ี ูกต้องทส่ี ุดเพยี งข้อเดยี ว ๖. หลกั คาสอนข้อใดของพระพทุ ธศาสนาทคี่ ล้ายคลงึ กบั คริสต์ศาสนา ก อิทธิบาท ๔ ข อบายมุข ๔ ค สงั คหวตั ถุ ๔ ง เบญจศีล–เบญจธรรม อธิบาย: ง ถูกตอ้ ง เพราะเบญจศีล-เบญจธรรมของพระพทุ ธศาสนา คลา้ ยคลึงกบั บญั ญตั ิ ๑๐ ประการ ของคริสศาสนาถึง ๔ ขอ้ ไดแ้ ก่อยา่ ฆ่าคน อยา่ ล่วงประเวณีผวั เมียเขา อยา่ ลกั ทรัพย์ และอยา่ เป็นพยาน เทจ็ ใส่ร้ายเพือ่ นบา้ น 89
เลอื กคำตอบทถี่ กู ต้องทสี่ ุดเพยี งข้อเดยี ว ๗. หลกั ธรรมเร่ืองการเสียสละหรือการแบ่งปันสิ่งต่างๆให้แก่ ผู้อ่ืน สอดคล้องกบั หลกั ปฏิบัตขิ ้อใดของศาสนาอสิ ลาม ก การนมาซ ข การปฏิญาณตน ค การจ่ายซะกาต ง การบาเพญ็ ฮจั ญ์ อธิบาย: ค ถูกตอ้ ง เพราะการจา่ ยซะกาต คอื การบรจิ าคทานเป็นประจา ทกุ ปี อนั เป็นขอ้ บงั คบั ใหม้ สุ ลมิ บรจิ าคใหแ้ กค่ นทม่ี สี ทิ ธริ บั ซะกา ตตามทบ่ี ญั ญตั ไิ ว้ 90
เลอื กคำตอบทถ่ี ูกตอ้ งทส่ี ุดเพยี งข้อเดยี ว ๘. ข้อใดแสดงว่าศาสนาทาให้คนมจี ริยธรรม ก นิดทาบุญตกั บาตรตอนเชา้ ข สมชายสวดมนตไ์ หวพ้ ระก่อนนอน ค ขวญั มีความกตญั ญูกตเวทีตอ่ ผมู้ ีพระคุณ ง ป้อมเคร่งครัดตอ่ ขนบธรรมเนียมประเพณี อธิบาย: ค ถูกตอ้ ง เพราะความกตญั ญกู ตเวทเี ป็นจรยิ ธรรมภายในท่ี บคุ คลแสดงใหเ้ หน็ ถงึ การกระทาในสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ งและอยู่ในกรอบของ ศลี ธรรม สว่ นการทาบุญตกั บาตร การสวดมนตไ์ หวพ้ ระ และการ 91
เลอื กคำตอบทถ่ี ูกต้องทส่ี ุดเพยี งข้อเดยี ว ๙. สิ่งทบี่ ุคคลพอใจเพราะเห็นว่ามีคุณค่าแล้วยอมรับไว้ เป็ นความเช่ือของตน คือความหมายของข้อใด ก คา่ นิยม ข คตินิยม ค จริยธรรม ง วฒั นธรรม อธิบาย: ก ถูกตอ้ ง เพราะคา่ นิยม หมายถงึ สง่ิ ทบ่ี ุคคลพอใจหรอื เหน็ วา่ เป็นสง่ิ ทม่ี คี ณุ คา่ แลว้ ยอมรบั ไวเ้ ป็นความเชอ่ื หรอื ความรสู้ กึ นกึ คดิ ของตนเอง 92
เลอื กคำตอบทถ่ี กู ตอ้ งทสี่ ุดเพยี งข้อเดยี ว ๑๐. สถาบันแห่งแรกทส่ี อนให้มนุษย์ได้เรียนรู้ค่านิยมและ จริยธรรมเพื่อการอยู่ร่วมกบั บุคคลอื่นในสังคมคือ สถาบันใด ก สถาบนั ศาสนา ข สถาบนั การศึกษา ค สถาบนั ครอบครัว ง สถาบนั การเมืองการปกครอง อธิบาย: ค ถูกตอ้ ง เพราะสถาบนั ครอบครัวเป็นสถาบนั ท่ีสอนใหม้ นุษยไ์ ด้ เรียนรู้ถึงการอยรู่ ่วมกบั บุคคลอ่ืนในสังคม ถา้ พอ่ แม่มีคา่ นิยมท่ีดีลูก ๆ ซ่ึงเป็น สมาชิกของครอบครัวกจ็ ะยดึ ถือและปฏิบตั ิตนตามแนวทางของพอ่ แม่ 93
คำถำมเตรียมบทเรยี นต่อไป ๑. นักเรียนคดิ ว่า พระพทุ ธศาสนามีความสาคญั ต่อตนเอง และสังคม อย่างไรบ้าง ๒. นักเรียนรู้หรือไม่ว่า คาว่า “ศรัทธา” ในพระพทุ ธศาสนา กบั ท่คี น ทั่วไปเข้าใจกนั มีความหมายเหมือนกนั หรือ ต่างกนั อย่างไร ให้นักเรียนไปอ่านเนื้อหา ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ พระพุทธ 94
Search
Read the Text Version
- 1 - 40
Pages: