Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาสถิติเพื่องานวิจัย

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาสถิติเพื่องานวิจัย

Published by me.arunee, 2020-05-27 00:48:28

Description: ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับหลักการคำนวณค่าสถิติพื้นฐาน กระบวนการรวบรวมข้อมูล การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล จัดเตรียมข้อมูล บันทึกและแก้ไขข้อมูล การใช้คำสั่งโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติประมวลผลข้อมูลให้ได้ค่าสถิติพื้นฐาน จัดทำรายงานข้อมูลทางสถิติและแผนภูมิ

Search

Read the Text Version

20 แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 1 หนว่ ยที่ 1 ชอ่ื วชิ า โปรแกรมสำเรจ็ รูปทางสถิติ รหสั วชิ า 2204–2109 เวลาเรยี นรวม 54 คาบ ช่ือหน่วย ความรเู้ บือ้ งตน้ เก่ยี วกบั สถิติ สอนครั้งท่ี 1/18 ช่อื เรือ่ ง ความรเู้ บอ้ื งต้นเก่ียวกับสถิติ จำนวน 3 คาบ หวั ข้อเรอื่ ง 1.2 ประเภทของสถิตศิ าสตร์ 1.4 มาตรการวัด 1.1 ความหมายของสถิติ 1.3 ขอ้ มูลและขา่ วสาร 1.5 ระเบยี บวธิ ที างสถติ ิ สมรรถนะย่อย แสดงความร้เู บือ้ งตน้ เกย่ี วกบั สถิติพ้ืนฐาน จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม ดา้ นความรู้/ทักษะการคิด 1. บอกความหมายของสถิตไิ ด้ 2. อธิบายและบอกประเภทของสถติ ศิ าสตร์ได้ 3. บอกความหมายและองคป์ ระกอบของขอ้ มูลได้ 4. อธิบายลักษณะการแบง่ ขอ้ มลู และแหลง่ ทม่ี าของขอ้ มลู ได้ 5. อธิบายลกั ษณะและบอกความแตกต่างของมาตรการวดั ได้ 6. อธิบายระเบียบวธิ ที างสถติ ไิ ด้ ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง/คา่ นิยม แสดงออกดา้ นความสนใจใฝ่รู้ การตรงต่อเวลา ความซ่อื สัตย์ สจุ ริต ความมีน้ำใจและแบง่ บัน ความร่วมมอื /ยอมรบั ความคดิ เหน็ ส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระ 1.1 ความหมายของสถติ ิ โดยทั่วไปแล้ว คำว่า สถิติมีความหมายได้ 2 นัย คือ สถิติท่ีเป็นตัวเลขและสถิติที่เป็นศาสตร์ใน ความหมายท่ีแตกตา่ งกนั มดี ังน้ี 1. สถติ ิท่ีเปน็ ตวั เลข หมายถึง สถติ ิที่ได้มาจากการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธกี ารใด ๆ จากข้อมูล จำนวนมาก เช่น สถิติของผู้ป่วยโรคเอดส์ของประเทศไทยในรอบ 10 ปี สถิติการเพ่ิมจำนวนรถยนต์ในเขต กรงุ เทพมหานคร ปี 2552 สถติ ิการสง่ ออกของขา้ วไทยในปี 2551

21 2. สถิติที่เป็นศาสตร์ หมายถึง วิชาที่ว่าด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การ นำเสนอข้อมูลชุดใดชุดหนึ่ง และความรู้เก่ียวกับการอนุมานคุณลักษณะของประชากรเป้าหมายจากข้อมูล บางส่วนทส่ี ่มุ มา 1.2 ประเภทของสถิตศิ าสตร์ สถิติศาสตร์สามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภท คือ สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) และสถติ ิเชงิ อนุมาน (Inference Statistics) 1.3 ขอ้ มูลและข่าวสาร 1.3.1 ความหมายและองค์ประกอบของข้อมลู 1.3.2 การแบ่งลกั ษณะของขอ้ มูล 1.3.3 แหล่งข้อมลู 1.4 มาตรการวัด ระดับของขอ้ มลู ได้ 4 ระดับ ตามวธิ กี ารวัดค่าตอ่ ไปนี้ 1.4.1 มาตรานามบัญญัติ (Norminal Scale) เป็นระดับของข้อมูลท่ีได้จากการวัดแบบง่าย ทีส่ ุด คือ เปน็ การแบง่ แยกประชากรที่จะศกึ ษาออกเป็นกลุ่มหรอื เป็นพวก โดยแต่ละกล่มุ และแตล่ ะพวกมคี วาม เท่าเทยี มกนั เชน่ แบง่ ประชากร โดยใชเ้ พศเป็นตวั แบ่ง คือ ชายและหญงิ 1.4.2 มาตราเรียงอันดบั (Ordinal Scale) เป็นระดับของข้อมูลที่กำหนดรายละเอียดของการ วัดเพิ่มข้ึนจากระดับนามบัญญัติ กล่าวคือ นอกจากจะแบ่งแยกข้อมูลออกเป็นกลุ่มแล้ว ยังสามารถหาระดับ ความแตกต่างระหว่างกลุ่มได้ด้วย ซ่ึงระบบการวัดแบบน้ีใช้หลักของความมากกว่า ความน้อยกว่า เช่น การ แบ่งประชากรโดยใช้ความคิดเห็น ซ่ึงอาจมีระดับต่าง ๆ เช่น เห็นด้วยอย่างย่ิง เห็นด้วย ไม่มีความเห็นไม่ เห็นด้วย ไมเ่ ห็นด้วยอยา่ งยิง่ การแบง่ สนิ คา้ โดยใชค้ ณุ ภาพของสนิ ค้า คือ ดี พอใช้ ต้องปรับปรุง 1.4.3 มาตราอนั ตรภาค (Interval Scale) เป็นระดับของขอ้ มลู ท่ีมคี ุณสมบัตทิ ี่เพิ่มเติมจากการ วดั ระดับเรียงอนั ดับ กล่าวคือ สามารถกำหนดปรมิ าณของความแตกตา่ งระหว่างอนั ดับได้ เพราะการวดั แบบน้ี หน่วยของการวดั มลี ักษณะคงทซี่ ่ึงเป็นมาตรฐานในการกำหนดค่าเป็นตัวเลข เช่น ระดับอุณหภูมิ สามารถบอก ได้ว่าอุณหภูมิ 30 องศา ร้อนกว่าอุณหภูมิ 20 องศา อยู่ 10 องศา แต่การวัดระดับน้ีจุดเริ่มต้นถือว่าไมเ่ ป็น ธรรมชาติ กลา่ วคอื ไมม่ ศี นู ยส์ มั บรู ณ์ (Absolute Zero) 1.4.4 มาตราอัตราส่วน (Ratio Scale) เป็นระดับของข้อมูลที่ถือว่ามีความสมบูรณ์ท่ีสุด และ เป็นการวัดระดบั สูงสดุ มีจุดเริ่มตน้ เปน็ ธรรมชาติ คอื มศี นู ยแ์ ท้ ท่ีหมายความถึงการไม่มีค่า เช่น นำ้ หนัก ส่วนสูง อายุ ฯลฯ ข้อมูลบางชนิดไม่สามารถวัดได้ถึงระดับน้ี เช่น ข้อมูลทางด้านพฤติกรรม ทัศนคติ ข้อมูลในระดับนี้ สามารถนำไปคำนวณทางคณติ ศาสตรไ์ ด้

22 1.5 ระเบียบวิธีทางสถิติ เป็นการศึกษาถึงขั้นตอนวิธีการดำเนินการทางสถิติ ซึ่งประกอบด้วย ข้ันตอนตา่ ง ๆ ดงั น้ี 1.5.1 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล (Collection of Data) 1.5.2 การนำเสนอข้อมลู (Presentation of Data) 1.5.3 การวิเคราะหข์ ้อมูล (Analysis of Data) 1.5.4 การแปลความหมายของขอ้ มูล (Interpretation of Data) กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ที่ 1/18, คาบที่ 1–3/54) 1. ครูช้ีแจงรายละเอียดเก่ียวกับจุดประสงค์ สมรรถนะและคำอธิบายรายวิชา การวัดผลและ ประเมนิ ผลการเรียน คณุ ลกั ษณะนิสัยทีต่ ้องการให้เกดิ ขน้ึ และขอ้ ตกลงในการเรียน 2. นักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนหน่วยท่ี 1 3. ครใู ห้หนงั สอื เรยี น 4. ครูนำเข้าสูบ่ ทเรียน และครูแจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียน 5. ครูสอนเนือ้ หาสาระ 6. นกั เรียนทำแบบฝกึ หดั 7. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัด ขณะนักเรียนทำแบบฝึกหัด ครูจะสังเกตการทำงานกลุ่ม และรว่ มอภิปรายสรุปบทเรยี น 8. นกั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี นหนว่ ยท่ี 1 ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้ 1. ส่ือการเรียนรู้ หนังสือเรียน หน่วยที่ 1, PowerPoint ประกอบการสอน และแบบทดสอบก่อน เรียน และหลงั เรยี น 2. แหลง่ การเรียนรู้ หนังสอื วารสารเกยี่ วกบั สถิติเบ้อื งตน้

23 การวดั และการประเมินผล การวัดผล การประเมนิ ผล (ใช้เครอ่ื งมอื ) (นำผลเทียบกบั เกณฑ์และแปลความหมาย) 1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น (Pre–test) หน่วยที่ 1 (ไวเ้ ปรยี บเทียบกบั คะแนนสอบหลังเรียน) 2. แบบสงั เกตการทำงานกล่มุ และนำเสนอผลงานกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 60% 3. แบบฝกึ หัดหนว่ ยที่ 1 เกณฑผ์ ่าน 50% 4. แบบทดสอบหลังเรียน (Post–test) หนว่ ยที่ 1 เกณฑ์ผา่ น 50% 5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ตามสภาพจริง เกณฑผ์ ่าน 60% งานทมี่ อบหมาย งานท่ีมอบหมายนอกเหนอื เวลาเรยี น ใหท้ ำแบบฝึกหดั ใหเ้ รียบร้อย ถูกต้อง สมบรู ณ์ ผลงาน/ช้ินงาน/ความสำเร็จของผู้เรียน 1. ผลการทำและนำเสนอแบบฝกึ หัดหนว่ ยที่ 1 2. คะแนนแบบทดสอบหลังเรียน (Post–test) หน่วยที่ 1 เอกสารอ้างอิง ฉัตรศิริ ปยิ ะพิมลสิทธิ์. (2544). มาตราการวัด. [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ได้จาก : http://www.watpon.com/ Elearning/stat2.htm. (วนั ทคี่ ้นข้อมลู : 12 มีนาคม 2557) สำนักงานสถติ ิแหง่ ชาติ. (ม.ป.ป.). ประเภทของข้อมูลสถติ .ิ [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://service.nso.go.th/nso/nsopublish/know/estat1_3.html. (สบื ค้น : 15 ม.ี ค. 2557). B.L. Agarwal. (2006). Basic Statistics. 4th ed. New Delhi : New Age International.

24 บนั ทึกหลงั การสอน 1. ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... 2. ผลการเรยี นของนกั เรยี น/ผลการสอนของครู/ปญั หาทีพ่ บ .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแก้ปญั หา .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... ลงชือ่ ............................................... ลงชื่อ............................................... (...............................................) (.............................................) ตัวแทนนกั เรียน ครูผสู้ อน

25 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 หน่วยที่ 2 ชอื่ วชิ า โปรแกรมสำเร็จรปู ทางสถติ ิ รหสั วชิ า 2204–2109 เวลาเรยี นรวม 54 คาบ ชือ่ หนว่ ย การแจกแจงความถี่ สอนครัง้ ท่ี 2/18 ชอื่ เรอ่ื ง การแจกแจงความถ่ี จำนวน 3 คาบ หัวขอ้ เร่อื ง 2.2 การสร้างตารางแจกแจงความถ่ี 2.4 การสร้างตารางแจกแจงความถีส่ ัมพทั ธ์ 2.1 ความหมายของการแจกแจงความถ่ี 2.6 การแสดงการแจกแจงความถ่โี ดยใช้กราฟ 2.3 การสรา้ งตารางแจกแจงความถีส่ ะสม 2.5 การสร้างตารางแจกแจงความถ่สี ะสมสัมพทั ธ์ 2.7 กราฟของการแจกแจงความถี่ สมรรถนะยอ่ ย แสดงความรู้เกยี่ วกับการแจกแจงความถ่ี จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม ด้านความรู้/ทักษะการคิด 1. อธิบายความหมายของการแจกแจงความถีไ่ ด้ 2. สรา้ งตารางแจกแจงความถีไ่ ด้ 3. สรา้ งฮสิ โตแกรมทแ่ี สดงการแจกแจงความถไี่ ด้ 4. สรา้ งรูปหลายเหลย่ี มแห่งความถีท่ ี่แสดงการแจกแจงความถีไ่ ด้ 5. สรา้ งเสน้ โค้งที่แสดงการแจกแจงความถไ่ี ด้ 6. สรา้ งตารางแจกแจงความถี่สะสมได้ 7. สรา้ งโคง้ ความถีส่ ะสมได้ 8. อธิบายลักษณะของกราฟของการแจกแจงความถี่แบบตา่ ง ๆ ได้ ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บูรณาการปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง แสดงออกดา้ นการตรงต่อเวลา ความสนใจใฝร่ ู้ ไม่หยดน่ิงทีจ่ ะแกป้ ญั หา ความซ่ือสตั ย์ ความรว่ มมอื เน้ือหาสาระ 2.1 ความหมายของการแจกแจงความถ่ี การแจกแจงความถี่ คือ การนำข้อมูลที่รวบรวมได้มาจัดใหม่ให้เป็นระเบียบ เป็นหมวดหมู่ เรียง จากค่ามากไปหาค่าน้อย หรือจากค่าน้อยไปหาค่ามาก วิธีน้ีมีประโยชน์ในกรณีท่ีข้อมูลที่รวบรวมได้มีจำนวน ไม่มากนกั ในกรณที มี่ ขี อ้ มูลจำนวนมากวิธีท่เี หมาะสมกวา่ วิธีจดั เรยี งลำดบั คอื วธิ ีแจกแจงความถี่

26 2.2 การสรา้ งตารางแจกแจงความถ่ี 2.2.1 การแจกแจงความถแ่ี บบไมจ่ ดั เป็นกลุม่ (Ungrouped Data) 2.2.2 การแจกแจงความถแี่ บบจัดเป็นกล่มุ (Grouped Data) 2.3 การสรา้ งตารางแจกแจงความถส่ี ะสม ความถ่ีสะสม (Cumulative Frequency) ของค่าท่ีเป็นไปได้ค่าใดหรือของอันตรภาคชั้นใด คือ ผลรวมของความถี่ของค่าน้ัน หรือของอันตรภาคชั้นน้ันกับความถี่ของอันตรภาคชั้นที่มีช่วงคะแนนต่ำกว่า ทัง้ หมดหรือสงู กว่าทง้ั หมดอย่างใดอย่างหนึ่ง 2.4 การสรา้ งตารางแจกแจงความถีส่ มั พทั ธ์ ความถ่ีสัมพัทธ์ (Relative Frequency) ของค่าที่เป็นไปได้ค่าใดหรืออันตรภาคช้ันใด คือ อัตราส่วนระหว่างความถี่ของค่านั้นหรืออันตรภาคช้ันนั้นกับผลรวมของความถ่ีทั้งหมด หรือการนำเอา ค่าความถีใ่ นแต่ละชน้ั หารด้วยจำนวนข้อมลทั้งหมด ความถ่ีสัมพทั ธอ์ าจแสดงในรปู ของเศษส่วน หรอื ทศนยิ ม หรือร้อยละก็ได้ ดังตวั อยา่ ง อันตรภาคชั้น ความถี่ (f) ความถี่สัมพัทธ์ 40 – 47 2 2/40 = 0.05 48 – 55 1 1/40 = 0.025 56 – 63 3 3/40 = 0.075 64 – 71 6 6/40 = 0.15 72 – 79 12 12/40 = 0.30 80 – 87 11 11/40 = 0.275 88 – 95 4 4/40 = 0.1 96 – 103 1 1/40 = 0.025 N = 40 รวม = 1.00 2.5 การสรา้ งตารางแจกแจงความถส่ี ะสมสมั พทั ธ์ ความถี่สะสมสัมพัทธ์ (Relative Cumulative Frequency) ของค่าที่เป็นไปได้ค่าใด ๆ หรือ อนั ตรภาคช้ันใด คอื อัตราส่วนระหว่างความถ่สี ะสมของคา่ นั้น หรอื ของอันตรภาคช้ันนั้น กบั ผลรวมของความถ่ี ทั้งหมด ดงั ตัวอย่าง

27 อนั ตรภาคชน้ั ความถ่ี (f) ความถ่สี ะสม ความถีส่ ะสมสมั พัทธ์ 40 – 47 2 2 2/40 = 0.05 48 – 55 1 3 3/40 = 0.075 56 – 63 3 6 6/40 = 0.15 64 – 71 6 12 12/40 = 0.30 72 – 79 12 24 24/40 = 0.60 80 – 87 11 35 35/40 = 0.875 88 – 95 4 39 39/40 = 0.975 96 – 103 1 40 40/40 = 1.00 2.6 การแสดงการแจกแจงความถโ่ี ดยใชก้ ราฟ x (คะแนน) 2.6.1 ฮสิ โตแกรม (Histogram) 2.6.2 รูปหลายเหลีย่ มความถี่ (Frequency Polygon) 2.6.3 เสน้ โค้งความถี่ (Frequency Curve) ดงั ตวั อย่าง f (ความถ่)ี 12 11 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 0 39.5 47.5 55.5 63.5 71.5 79.5 87.5 95.5 103.5 เส้นโค้งความถี่จะเปน็ เส้นทม่ี ีสีแดง 2.6.4 โค้งความถ่สี ะสม (Ogive Curve or Cumulative Curve)

28 2.7 กราฟของการแจกแจงความถี่ 2.7.1 โค้งรปู ระฆังหรือโคง้ ปกติ (Normal Curves) 2.7.2 โคง้ เบ้ (Skewed Curve 2.7.3 โค้งรูปตัวยู (U–Shaped Curve) 2.7.4 โคง้ รูปตวั เจ (J–Shape Curve) 2.7.5 โคง้ สองยอด (Bimodal Curve) 2.7.6 โค้งหลายตอน (Multi–modal Curve) กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ท่ี 2/18, คาบท่ี 4-6/54) 1. ครูขานชอ่ื นกั เรยี น ตรวจความพร้อมก่อนเรียน 2. ครทู บทวนเนอื้ หาการสอน 3. นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนหน่วยที่ 2 4. แบง่ กล่มุ นกั เรียนเปน็ กล่มุ ๆ ละ 4-5 คน 5. ครนู ำเขา้ ส่บู ทเรยี น และครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรยี น 6. ครสู อนเนอ้ื หาสาระ 7. นักเรยี นทำแบบฝึกหัดเปน็ กลมุ่ ขณะนกั เรียนทำแบบฝกึ หดั ครจู ะสังเกตการทำงานกลุม่ 8. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั เฉลยแบบฝกึ หดั และร่วมอภปิ รายสรุปบทเรียน 9. นักเรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี นหนว่ ยท่ี 2 สอ่ื และแหลง่ การเรียนรู้ 1. ส่ือการเรียนรู้ หนังสือเรียน หน่วยที่ 2, PowerPoint ประกอบการสอน และแบบทดสอบก่อน เรียน และหลงั เรียน 2. แหลง่ การเรียนรู้ หนงั สือ วารสารเกยี่ วกบั วารสารเกี่ยวกับสถิติเบ้ืองตน้ , อนิ เทอร์เน็ต www.google.com การวัดผล การประเมินผล (ใชเ้ ครื่องมือ) (นำผลเทยี บกบั เกณฑ์และแปลความหมาย) 1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น (Pre–test) หน่วยที่ 2 (ไว้เปรียบเทยี บกับคะแนนสอบหลงั เรียน) 2. แบบสังเกตการทำงานกลุ่มและนำเสนอผลงานกลมุ่ เกณฑ์ผ่าน 60% 3. แบบฝึกหัดหนว่ ยท่ี 2 เกณฑผ์ า่ น 50% 4. แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post–test) หน่วยที่ 2 เกณฑผ์ า่ น 50% 5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจริง เกณฑ์ผ่าน 60%

29 งานท่มี อบหมาย งานทมี่ อบหมายนอกเหนอื เวลาเรยี น ให้ทำแบบฝึกหัดใหเ้ รียบรอ้ ย ถกู ต้อง สมบูรณ์ ผลงาน/ช้ินงาน/ความสำเรจ็ ของผเู้ รยี น 1. ผลการทำและนำเสนอแบบฝึกหัดหน่วยท่ี 2 2. คะแนนแบบทดสอบหลังเรยี น (Post–test) หนว่ ยที่ 2 เอกสารอา้ งอิง ฉตั รศริ ิ ปิยะพมิ ลสิทธิ์. (2544). มาตราการวดั . [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://www.watpon.com/ Elearning/stat2.htm. (วันที่คน้ ขอ้ มูล : 12 มนี าคม 2557) สำนกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ. (ม.ป.ป.). ประเภทของข้อมูลสถติ .ิ [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : http://service.nso.go.th/nso/nsopublish/know/estat1_3.html. (สืบค้น : 15 มี.ค. 2557). B.L. Agarwal. (2006). Basic Statistics. 4th ed. New Delhi : New Age International. บันทกึ หลังการสอน 1. ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 2. ผลการเรยี นของนกั เรียน/ผลการสอนของคร/ู ปญั หาที่พบ ........................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ 3. แนวทางการแกป้ ญั หา ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ลงชื่อ............................................... ลงชอื่ ............................................... (...............................................) (............................................. ตัวแทนนกั เรยี น ครูผู้สอน

30 แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 3 หน่วยท่ี 3 ช่อื วิชา โปรแกรมสำเรจ็ รปู ทางสถิติ รหัสวิชา 2204–2109 เวลาเรียนรวม 54 คาบ ชอื่ หนว่ ย การวัดแนวโนม้ เข้าสูส่ ่วนกลาง สอนครัง้ ท่ี 3/18 ชอ่ื เรื่อง การวดั แนวโน้มเข้าสสู่ ว่ นกลาง จำนวน 3 คาบ หวั ข้อเรอ่ื ง 3.1 ความหมายของการวัดแนวโน้มเข้าสูส่ ว่ นกลาง 3.2 ประเภทของการวดั แนวโนม้ เข้าสสู่ ่วนกลาง 3.3 การวดั แนวโนม้ เขา้ สูส่ ่วนกลางกบั ขอ้ มลู ลกั ษณะตา่ ง ๆ สมรรถนะยอ่ ย 1. แสดงความรูเ้ ก่ยี วกับการวัดแนวโนม้ เขา้ สู่ส่วนกลาง จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม ดา้ นความรู้/ทักษะการคิด 1. อธิบายความหมายของการวัดแนวโนม้ เข้าสู่สว่ นกลางได้ 2. บอกประเภทของการวัดแนวโนม้ เข้าสสู่ ว่ นกลางได้ 3. คำนวณค่าเฉลยี่ เลขคณิตได้ 4. คำนวณค่ามธั ยฐานได้ 5. คำนวณคา่ ฐานนิยมได้ 6. บอกได้ว่าข้อมูลแตล่ ะลักษณะเหมาะใชก้ บั วธิ ใี ดในการวดั แนวโน้มเข้าสสู ว่ นกลาง ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง/คา่ นิยม แสดงออกดา้ นการตรงต่อเวลา ความสนใจใฝร่ ู้ ไม่หยดน่ิงที่จะแก้ปญั หา ความซื่อสตั ย์ ความรว่ มมอื เน้อื หาสาระ 3.1 ความหมายของการวัดแนวโนม้ เขา้ สู่สว่ นกลาง การวดั แนวโน้มเข้าสูส่ ่วนกลาง หมายถึง การคำนวณเพื่อหาค่าสถิติเพียงค่าเดียวที่อยู่ตอนกลาง ของโค้งการแจกแจงของตวั แปร ซึง่ จะใชเ้ ป็นตวั แทนของข้อมลู ทั้งชุด ค่าทีห่ าได้นจี้ ะทำให้ทราบถงึ ลกั ษณะของ ข้อมูลทัง้ หมดท่ีเกบ็ รวบรวมมาได้ ค่าท่ีหาได้นี้จะเปน็ คา่ กลาง ๆ อาจเรียกวา่ คา่ กลาง ค่ากลางของข้อมูลมีหลายชนิด เช่น ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (Arithmetic Mean) ค่าเฉล่ียเรขาคณิต (Geometric Mean) ค่าเฉล่ียฮาร์มอนิก (Harmonic Mean) ค่ากึ่งกลางพิสัย (Mid–range) มัธยฐาน (Median) และฐานนิยม (Mode) ค่ากลางแต่ละชนดิ ต่างก็มีข้อดี ขอ้ เสีย และมีความเหมาะสมในการนำไปใช้ ไม่เหมือนกัน แต่คา่ กลางของข้อมูลท่ีนิยมใช้มีอยู่ 3 ชนิด คือ ค่าเฉล่ียเลขคณิต (Arithmetic Mean) มธั ยฐาน (Median) และฐานนยิ ม (Mode)

31 3.2 ประเภทของการวดั แนวโน้มเขา้ สสู่ ่วนกลาง 3.2.1 คา่ เฉล่ยี เลขคณิต (Arithemetic Mean) ค่าเฉล่ียเลขคณิตเหมาะที่จะนำมาใช้เป็นค่ากลางของข้อมูล เมื่อข้อมูลนั้น ๆ ไม่มีค่าใดค่าหน่ึง หรือหลาย ๆ ค่า ซึ่งสูงหรือต่ำกว่าค่าอื่น ๆ มาก เช่น คะแนนสอบวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับประกาศนียบัตร วิชาชพี ชั้นสูง (ปวส.) ของนักเรียน 10 คน เป็นดังน้ี 70, 72, 68, 3, 71, 74, 70, 67, 73, 5 ซึ่งค่า 3 และ 5 ถือ ว่าเป็นค่าท่ีต่ำกวา่ ผดิ ปกติ การหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตจากข้อมูลที่มีค่าสูงหรือต่ำผิดปกติ คา่ เฉล่ียเลขคณิตในกรณี เช่นนี้ จึงไม่เป็นคา่ กลางของข้อมลู ชดุ นน้ั (อาจใชค้ า่ กลางอ่ืน เช่น มธั ยฐานแทน) 3.2.2 มธั ยฐาน (Median) มัธยฐาน คือ ค่าท่ีมีตำแหน่งอยู่ก่ึงกลางของข้อมูลท้ังหมด โดยเรียงลำดับข้อมูลจากค่าน้อย ที่สุดไปหาค่ามากท่ีสุด หรือจากค่ามากท่ีสุดไปหาค่าน้อยท่ีสุด น่ันคือ มัธยฐานเป็น ค่าท่ีแสดงให้ทราบว่ามี จำนวนข้อมูลที่มากกว่าและน้อยกว่ามัธยฐานอยู่เท่า ๆ กัน นั่นคือ มัธยฐานเป็นค่าที่แบ่งข้อมูลที่เรียงลำดับแล้ว ออกเป็น 2 ส่วน โดยมีข้อมูลจำนวนท่ีมากกว่าและน้อยกว่ามัธยฐานร้อยละ 50 ค่ามัธยฐานอาจเป็นค่าใดค่า หนงึ่ ของข้อมูล ซงึ่ เปน็ คา่ จากการสงั เกตหรืออาจเป็นค่าท่ีคำนวณขึ้นมาใหมท่ ีไ่ ม่ตรงกบั ค่าของขอ้ มูลในชดุ น้นั ๆ 3.2.3 ฐานนยิ ม (Mode) ฐานนิยม คอื ค่าของข้อมลู ท่ีมคี วามถสี่ ูงสุด ใชเ้ ปน็ ค่ากลางของขอ้ มูลอกี ชนดิ หนงึ่ นอกเหนอื จาก ค่าเฉลยี่ เลขคณิต และมัธยฐานท่ีได้กล่าวมาแล้ว ส่วนมากฐานนิยมจะใช้กับข้อมูลเชิงคณุ ภาพมากกวา่ ข้อมูลเชิง ปริมาณ 3.3 การวัดแนวโนม้ เข้าสู่สว่ นกลางกับขอ้ มลู ลักษณะตา่ ง ๆ การวัดแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลาง โดยวิธีการหาค่าเฉล่ียเลขคณิต ค่ามัธยฐาน และฐานนิยม จะ เหมาะสมกับข้อมูลในลกั ษณะต่าง ๆ กันดังน้ี 1. ขอ้ มูลในมาตรานามบัญญตั ิ เหมาะจะใชว้ ธิ หี าค่าฐานนยิ มเท่านั้น 2. ขอ้ มูลในมาตราเรียงอนั ดบั เหมาะจะใชว้ ธิ หี าคา่ มัธยฐาน หรือฐานนยิ มกไ็ ด้ 3. ขอ้ มูลในมาตราอันตรภาค เหมาะจะใชว้ ิธีค่าเฉลยี่ เลขคณติ ค่ามธั ยฐานหรือค่าฐานนิยมกไ็ ด้ 4. ข้อมูลในมาตราอตั ราส่วน เหมาะจะใชว้ ิธีคา่ เฉลยี่ เลขคณิต คา่ มัธยฐานหรือค่าฐานนิยมก็ได้ กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ท่ี 3/18, คาบท่ี 7-9/54) 1. ครขู านชอื่ นักเรียน ตรวจความพรอ้ มก่อนเรยี น 2. ครทู บทวนเนือ้ หาการสอน 3. นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหนว่ ยที่ 3 4. แบง่ กลุ่มนักเรียนเปน็ กลุม่ ๆ ละ 4-5 คน 5. ครนู ำเข้าสบู่ ทเรียน และครูแจง้ จดุ ประสงค์การเรียน 6. ครูสอนเนื้อหาสาระ

32 7. นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดเป็นกลุ่ม ขณะนกั เรียนทำแบบฝกึ หดั ครูจะสังเกตการทำงานกลมุ่ 8. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยแบบฝกึ หดั และร่วมอภิปรายสรุปบทเรยี น 9. นกั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียนหน่วยที่ 3 สื่อและแหลง่ การเรียนรู้ 1. สื่อการเรียนรู้ หนังสือเรียน หน่วยท่ี 3, PowerPoint ประกอบการสอน และแบบทดสอบก่อน เรยี น และหลงั เรียน 2. แหลง่ การเรยี นรู้ หนงั สือ วารสารเกีย่ วกบั การวัดแนวโนม้ เข้าสู่สว่ นกลาง, อนิ เทอรเ์ น็ต www.google.com การวัดผล การประเมินผล (ใช้เคร่ืองมือ) (นำผลเทยี บกับเกณฑ์และแปลความหมาย) 1. แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre–test) หนว่ ยท่ี 3 (ไว้เปรยี บเทียบกับคะแนนสอบหลงั เรยี น) 2. แบบสังเกตการทำงานกลุ่มและนำเสนอผลงานกลุ่ม เกณฑ์ผา่ น 60% 3. แบบฝกึ หัดหนว่ ยท่ี 3 เกณฑผ์ ่าน 50% 4. แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post–test) หน่วยที่ 3 เกณฑผ์ า่ น 50% 5. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจริง เกณฑ์ผา่ น 60% งานทม่ี อบหมาย งานทม่ี อบหมายนอกเหนือเวลาเรียน ให้ทำแบบฝึกหดั ใหเ้ รยี บร้อย ถูกตอ้ ง สมบรู ณ์ ผลงาน/ช้ินงาน/ความสำเร็จของผเู้ รยี น 1. ผลการทำและนำเสนอแบบฝกึ หัดหน่วยที่ 3 2. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post–test) หนว่ ยท่ี 3 เอกสารอา้ งองิ ฉตั รศริ ิ ปิยะพมิ ลสิทธ์ิ. (2544). มาตราการวัด. [ออนไลน]์ . เข้าถึงไดจ้ าก : http://www.watpon.com/ Elearning/stat2.htm. (วนั ที่คน้ ข้อมูล : 12 มีนาคม 2557) สำนกั งานสถิตแิ ห่งชาต.ิ (ม.ป.ป.). ประเภทของข้อมลู สถติ .ิ [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก : http://service.nso.go.th/nso/nsopublish/know/estat1_3.html. (สืบคน้ : 15 มี.ค. 2557). B.L. Agarwal. (2006). Basic Statistics. 4th ed. New Delhi : New Age International.

33 บนั ทึกหลังการสอน 1. ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ 2. ผลการเรียนของนักเรยี น/ผลการสอนของคร/ู ปัญหาท่ีพบ .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแก้ปญั หา .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... ลงชือ่ ............................................... ลงชื่อ............................................... (...............................................) (.............................................) ตวั แทนนักเรยี น ครผู ู้สอน แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 4 หน่วยท่ี 4 ช่อื วิชา โปรแกรมสำเรจ็ รูปทางสถิติ รหสั วิชา 2204–2109 เวลาเรียนรวม 54 คาบ ช่ือหนว่ ย เปอรเ์ ซ็นไทล์ เดไซล์ และควอไทล์ สอนครัง้ ท่ี 4/18 ชือ่ เรอ่ื ง เปอรเ์ ซน็ ไทล์ เดไซล์ และควอไทล์ จำนวน 3 คาบ หัวขอ้ เรือ่ ง

34 4.1 เปอร์เซน็ ไทล์ 4.2 เดไซล์ 4.3 ควอไทล์ สมรรถนะย่อย 1. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั เปอรเ์ ซน็ ไทล์ เดไซล์ และควอไทล์ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ดา้ นความรู้/ทกั ษะการคิด 1. อธิบายความหมายและวธิ กี ารคำนวณหาคา่ เปอรเ์ ซ็นไทล์ได้ 2. อธิบายความหมายและวธิ ีการคำนวณหาคา่ เดไซลไ์ ด้ 3. อธิบายความหมายและวิธีการคำนวณหาค่าควอไทล์ได้ ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง แสดงออกด้านการตรงตอ่ เวลา ความสนใจใฝร่ ู้ ไม่หยดนง่ิ ทจ่ี ะแก้ปัญหา ความซ่ือสตั ย์ ความร่วมมือ เนื้อหาสาระ 4.1 เปอร์เซ็นไทล์ เปอร์เซ็นไทล์ (Percentile) หมายถึง ตำแหน่งที่แสดงให้ทราบว่ามีจำนวนร้อยละเท่าไรของ จำนวนคะแนนที่มคี ่าต่ำกว่าคะแนนทต่ี ำแหน่งนน้ั เชน่ นกั ศกึ ษาคนหนึ่งสอบวชิ าภาษาไทยได้ 54 คะแนนและ คะแนน 54 น้ี อยู่ตำแหน่งเปอร์เซ็นไทล์ที่ 60 หมายความว่า ร้อยละ 60 ของนักศึกษากลุ่มน้ันได้คะแนนวิชา ภาษาไทยตำกว่า 54 คะแนน 4.1.1 การคำนวณหาคา่ คะแนนทต่ี ำแหนง่ เปอร์เซ็นไทล์ท่กี ำหนดให้ 4.1.2 การคำนวณหาตำแหน่งของเปอรเ์ ซน็ ไทล์ของคะแนนทีก่ ำหนดให้ 4.2 เดไซล์ เดไซล์ (Decile) หมายถึง ตำแหน่งที่แสดงให้ทราบว่ามีจำนวนข้อมูลเท่าไรใน 10 ส่วนของ จำนวนขอ้ มูลท้งั หมดที่มีค่าตำ่ กวา่ ข้อมูลที่ตำแหนง่ น้ัน เชน่ นักศึกษาคนหน่ึงสอบวชิ าสังคมศึกษาได้คะแนน 55 คะแนน และคะแนน 55 น้ี อยู่ในตำแหน่งเดไซล์ท่ี 7 (D7) หมายความว่า 7 ใน 10 ของนักศึกษากลุ่มนั้นได้ คะแนนวิชาสงั คมศกึ ษาต่ำกว่า 55 คะแนนและ 3 ใน 10 ของนักศกึ ษากลุ่มนั้นได้คะแนนวิชาสงั คมศึกษาสูงกว่า 55 คะแนน 4.3 ควอไทล์ ควอไทล์ (Quartile) หมายถึง ตำแหน่งที่แสดงให้ทราบว่ามีจำนวนข้อมูลเท่าไรใน 4 ส่วนของ จำนวนข้อมูลท้ังหมดที่มีค่าต่ำกว่าข้อมูลท่ีตำแหน่งน้ัน เช่น นักศึกษาคนหนึ่งสอบวิชาสถิติได้คะแนน 72 คะแนนและคะแนน 72 คะแนนนี้อยู่ในตำแหน่งควอไทล์ที่ 3 ( Q3 ) หมายความวา่ 3 ใน 4 ของนักศึกษากลุ่ม

35 นั้นได้คะแนนวิชาสถิติต่ำกว่า 72 คะแนนและ 1 ใน 4 ของนักศึกษากลุ่มน้ันได้คะแนนวิชาสถิติสูงกว่า 72 คะแนน กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ที่ 4/18, คาบที่ 10-12/54) 1. ครทู บทวนเนอื้ หาการสอน 2. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหนว่ ยที่ 4 3. แบ่งกลมุ่ นักเรียนเป็นกลุ่มๆ ละ 4-5 คน 4. ครูนำเขา้ สู่บทเรยี น ครแู จ้งจุดประสงค์การเรยี นและสอนเน้ือหาสาระ 5. นักเรียนทำแบบฝึกหัดเปน็ กล่มุ ขณะนกั เรียนทำแบบฝกึ หัดครูจะสงั เกตการทำงานกลมุ่ 6. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยแบบฝึกหดั และร่วมอภิปรายสรุปบทเรียน 7. นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยที่ 4 สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้ 1. สื่อการเรียนรู้ หนังสือเรียน หน่วยที่ 4, PowerPoint ประกอบการสอน และแบบทดสอบก่อน เรยี น และหลงั เรยี น 2. แหลง่ การเรียนรู้ หนังสือ วารสารเกีย่ วกับเปอรเ์ ซ็นไทล์ เดไซล์ และควอไทล์, อินเทอรเ์ น็ต www.google.com การวดั ผลและประเมินผล การวดั ผล การประเมินผล (ใช้เครื่องมือ) (นำผลเทยี บกบั เกณฑแ์ ละแปลความหมาย) 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre–test) หนว่ ยที่ 4 (ไวเ้ ปรียบเทียบกับคะแนนสอบหลงั เรียน) 2. แบบสงั เกตการทำงานกลมุ่ และนำเสนอผลงานกลุ่ม เกณฑ์ผา่ น 60% 3. แบบฝึกหัดหนว่ ยที่ 4 เกณฑผ์ า่ น 50% 4. แบบทดสอบหลังเรียน (Post–test) หนว่ ยท่ี 4 เกณฑ์ผ่าน 50% 5. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ตามสภาพจริง เกณฑผ์ า่ น 60% งานทม่ี อบหมาย งานที่มอบหมายนอกเหนอื เวลาเรยี น ให้ทำแบบฝึกหดั ใหเ้ รียบร้อย ถูกต้อง สมบรู ณ์ ผลงาน/ชิน้ งาน/ความสำเรจ็ ของผูเ้ รยี น 1. ผลการทำและนำเสนอแบบฝกึ หัดหนว่ ยท่ี 4

36 2. คะแนนแบบทดสอบหลังเรียน (Post–test) หนว่ ยที่ 4 เอกสารอา้ งองิ ฉัตรศิริ ปิยะพมิ ลสิทธ์ิ. (2544). มาตราการวัด. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.watpon.com/ Elearning/stat2.htm. (วนั ทคี่ น้ ขอ้ มลู : 12 มนี าคม 2557) สำนกั งานสถิตแิ หง่ ชาติ. (ม.ป.ป.). ประเภทของข้อมูลสถิต.ิ [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : http://service.nso.go.th/nso/nsopublish/know/estat1_3.html. (สบื ค้น: 15 ม.ี ค. 2557). B.L. Agarwal. (2006). Basic Statistics. 4th ed. New Delhi : New Age International. บนั ทึกหลังการสอน 1. ผลการใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... 2. ผลการเรียนของนักเรยี น/ผลการสอนของคร/ู ปญั หาทพี่ บ .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแก้ปญั หา .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... ลงชอื่ ............................................... ลงชือ่ ............................................... (...............................................) (.............................................) ตวั แทนนกั เรียน ครูผสู้ อน แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 5 หนว่ ยท่ี 5 ชอื่ วิชา โปรแกรมสำเร็จรปู ทางสถติ ิ รหสั วิชา 2204–2109 เวลาเรียนรวม 54 คาบ ชื่อหนว่ ย การวดั การกระจายของข้อมูลและค่ามาตรฐาน สอนครั้งท่ี 5/18 ช่อื เรอื่ ง การวัดการกระจายของข้อมลู และคา่ มาตรฐาน จำนวน 3 คาบ

37 หัวข้อเรื่อง 5.1 การวดั การกระจายของขอ้ มลู 5.2 วธิ กี ารวัดการกระจายของข้อมลู 5.3 ค่ามาตรฐาน สมรรถนะย่อย 1. แสดงความรู้เกย่ี วกับการวดั การกระจายของข้อมลู และค่ามาตรฐาน จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม ดา้ นความรู้/ทกั ษะการคิด 1. อธิบายลักษณะการกระจายของขอ้ มลู ได้ 2. วดั การกระจายของข้อมูลโดยคำนวณค่าพสิ ัยได้ 3. วัดการกระจายของขอ้ มูลโดยคำนวณคา่ เบ่ียงเบนมาตรฐานได้ 4. คำนวณค่าความแปรปรวนได้ 5. บอกความหมายของค่ามาตรฐานได้ 6. คำนวณคา่ มาตรฐานได้ ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง/คา่ นยิ ม ความมวี นิ ัย ความมมี นุษยสัมพนั ธ์ ความรับผิดชอบและความเชื่อมั่นในตนเอง เน้อื หาสาระ 5.1 การวัดการกระจายของข้อมูล (Measures of Dispersion) จากความหมายการคำนวณและ การใช้ค่ากลางชนิดต่าง ๆ ถ้าพิจารณาให้ละเอียด จะเห็นว่าการทราบแต่เพียงค่ากลางของข้อมูลไม่เพียง พอท่ีจะอธบิ ายการแจกแจงของข้อมูลชุดน้ัน คา่ กลางแต่ละชนิดมิไดบ้ อกให้ทราบว่า คา่ จากการสังเกตท้ังหลาย ในข้อมูลชดุ นั้นต่างจากคา่ กลางมากน้อยเพียงใด และคา่ สว่ นใหญ่อยู่รวมกลุ่มกันหรือกระจายออกไป สมมติว่า คะแนนสอบวิชาหน่ึงของนักเรียน 2 ห้อง ซ่ึงใช้ข้อสอบชุดเดียวกันมีค่าเฉล่ียเลขคณิตเท่ากัน คือ 67 แต่ห้อง แรกมีคะแนนสูงสุด 72 และคะแนนต่ำสุด 62 ส่วนห้องหลังมีคะแนนสูงสุด 97 และคะแนนต่ำสุด 25 จะ เห็นว่า คะแนนสูงสดุ กบั คะแนนต่ำสดุ ของหอ้ งแรกต่างกันเพยี ง 10 คะแนน แต่ห้องหลงั คะแนนต่างกนั ถึง 72 คะแนน แสดงว่าห้องหลังนี้มีการกระจายของคะแนนสูงกว่าห้องแรก ซ่ึงอาจกล่าวได้ว่านักเรียนห้องแรกส่วน ใหญ่สอบได้คะแนนใกล้เคียงกัน แต่นักเรียนห้องหลังสอบได้คะแนนต่างกัน เพื่อให้เห็นลักษณะของข้อมูลที่ ชัดเจนขน้ึ จงึ จำเป็นตอ้ งทราบทั้งค่ากลางและค่าซึ่งแสดงการกระจายของขอ้ มูลด้วย 5.2 วธิ ีการวัดการกระจายของขอ้ มูล วิธีท่ีใช้วัดการกระจายของข้อมูลมีอยู่ด้วยกันหลายวิธี แต่วิธีท่ีนิยมใช้กันมีอยู่ 2 วิธี คือ พิสัย (Rage) และ สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)

38 5.2.1 พิสัย (Range) ถ้า X1, X2, X3, …, Xn เปน็ ค่าของขอ้ มูลชุดหน่งึ พิสยั ของขอ้ มูลชุดนเ้ี ทา่ กับ พสิ ยั = Xmax – Xmin หรือ พิสัย = ค่าสงู สดุ – ค่าต่ำสุด 5.2.2 สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) 5.3 คา่ มาตรฐาน ค่ามาตรฐาน หมายถึง การเปรียบเทียบค่าของข้อมูลต้ังแต่สองค่าขึ้นไปที่มาจากข้อมูลคนละชุด ว่ามคี วามแตกต่างกันหรือไมเ่ พียงไร อาจมีมาตราวดั ท่ีแตกต่างกนั หรอื มีหน่วยต่างกัน กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาหท์ ี่ 5/18, คาบท่ี 13-15/54) 1. ครูทบทวนเน้ือหาการสอน 2. นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 5 3. แบง่ กลมุ่ นกั เรยี นเป็นกลุ่มๆ ละ 4-5 คน 4. ครนู ำเขา้ สบู่ ทเรยี น ครูแจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นและสอนเนื้อหาสาระ 5. นักเรียนทำแบบฝกึ หัดเป็นกลุม่ ขณะนกั เรียนทำแบบฝกึ หัดครูจะสงั เกตการทำงานกลุม่ 6. ครูและนักเรยี นร่วมกนั เฉลยแบบฝึกหัด และร่วมอภิปรายสรุปบทเรียน 7. นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 5 สอื่ และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. สื่อการเรียนรู้ หนังสือเรียน หน่วยที่ 5, ใบปฏิบัติงาน, PowerPoint ประกอบการสอน และ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น และหลังเรียน 2. แหล่งการเรยี นรู้ หนังสอื วารสารเก่ียวกับ การวดั การกระจายของขอ้ มลู และค่ามาตรฐาน, อินเทอร์เน็ต www.google.com การวดั ผลและประเมนิ ผล การประเมนิ ผล (นำผลเทียบกบั เกณฑแ์ ละแปลความหมาย) การวัดผล (ไวเ้ ปรียบเทยี บกบั คะแนนสอบหลังเรยี น) (ใช้เครอื่ งมอื ) เกณฑ์ผา่ น 60% 1. แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre–test) หน่วยที่ 5 เกณฑผ์ า่ น 50% 2. แบบสังเกตการทำงานกลมุ่ และนำเสนอผลงานกลุม่ เกณฑ์ผ่าน 50% 3. แบบฝึกหัดหน่วยที่ 5 4. แบบทดสอบหลงั เรียน (Post–test) หน่วยที่ 5

39 5. แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจริง เกณฑผ์ า่ น 60% งานท่มี อบหมาย งานที่มอบหมายนอกเหนือเวลาเรยี น ให้ทำแบบฝึกหดั ใหเ้ รียบรอ้ ย ถูกต้อง สมบรู ณ์ ผลงาน/ชน้ิ งาน/ความสำเร็จของผ้เู รยี น 1. ผลการทำและนำเสนอแบบฝึกหัดหน่วยที่ 5 2. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรียน (Post–test) หน่วยท่ี 5 เอกสารอา้ งอิง นพดล ทองพนั ช่ัง. การวิเคราะห์และแปลความหมายข้อมลู . [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก : http://www.ayhosp.go.th/ay-hosp/images/HA/R2R-HA/3r2r-analysis-and-interpretation.pdf. (วนั ท่คี น้ ขอ้ มลู : 14 มนี าคม 2557). ยรุ ยี ์ วรวิชัยยนั ต.์ (2551). สถิติทั่วไป : General Statistics. กรุงเทพฯ: ทริปเพิล้ เอด็ ดเู คช่ัน. B.L. Agarwal. (2006). Basic Statistics. 4th ed. New Delhi: New Age International. บันทกึ หลงั การสอน 1. ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... 2. ผลการเรียนของนกั เรียน/ผลการสอนของคร/ู ปญั หาท่พี บ .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ 3. แนวทางการแก้ปัญหา

40 .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ............................................... ลงชื่อ............................................... (...............................................) (.............................................) ตัวแทนนกั เรยี น ครผู ูส้ อน แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 6 หน่วยที่ 6 ชือ่ วิชา โปรแกรมสำเรจ็ รปู ทางสถิติ รหสั วิชา 2204–2109 เวลาเรยี นรวม 54 คาบ ชอื่ หนว่ ย การประมวลผลขอ้ มูล สอนครั้งท่ี 6/18 ชอ่ื เรือ่ ง การประมวลผลข้อมลู จำนวน 3 คาบ หัวข้อเรอ่ื ง 6.2 ขั้นตอนการประมวลผลขอ้ มูล 6.4 การตรวจสอบความถูกตอ้ งของขอ้ มลู 6.1 ความหมายของการประมวลผลข้อมลู 6.3 กระบวนการรวบรวมข้อมลู

41 6.5 การจัดเตรียมข้อมูล สมรรถนะย่อย 1. แสดงความรู้เกยี่ วกับการประมวลผลข้อมลู จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ดา้ นความรู้/ทกั ษะการคิด 1. บอกความหมายของการประมวลผลขอ้ มูลได้ 2. อธิบายขน้ั ตอนการประมวลผลข้อมูลได้ 3. อธบิ ายการเก็บรวบรวมขอ้ มลู และวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลได้ 4. อธบิ ายการตรวจสอบความถกู ต้องของข้อมลู ได้ 5. อธิบายการจัดเตรยี มขอ้ มูลได้ ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง/ค่านิยม ความมีวนิ ัย ความมีมนุษยสมั พนั ธ์ ความรบั ผดิ ชอบและความเชือ่ มน่ั ในตนเอง เน้ือหาสาระ 6.1 ความหมายของการประมวลผลขอ้ มลู การประมวลผลข้อมูล หมายถึง การจัดกระทำกับข้อมูลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีความหมายและมี รูปแบบที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของผลสรุป ผลลัพธ์ท่ีได้จากการประมวลผล เรียกวา่ ขอ้ สนเทศ (Information) การประมวลขอ้ มูลเปน็ การกระทำกับข้อมลู อยา่ งมรี ะบบ สามารถจัดลำดบั เป็นขน้ั ตอนได้ดังน้ี ขั้นท่ี 1 การเตรยี มข้อมูลนำเข้า ขนั้ ท่ี 2 การประมวลผล ขน้ั ที่ 3 การแสดงผลลัพธ์ 6.2 ขนั้ ตอนการประมวลผลข้อมลู การประมวลผลข้อมูล (Data Processing) เป็นข้ันตอนที่จะนำข้อมูลซึ่งเตรียมไว้แล้วมาทำการ ประมวล เพอื่ ให้ได้ผลลัพธ์ที่อยู่ในรูปของขอ้ สนเทศ ซ่ึงการประมวลผลอาจเปน็ การจัดกระทำข้อมูลโดยวิธใี ดวิธี หนึ่งหรอื หลายวธิ ีดงั ต่อไปน้ี 6.2.1 การเรียงลำดับข้อมูล อาจมีการเรียงลำดับข้อมูลจากมากไปหาน้อยหรือน้อยไปหามาก หรือถ้าข้อมลู ทเี่ ป็นข้อความ เชน่ ชอื่ อาจเรยี งตามตวั อักษร 6.2.2 การดึงขอ้ มลู เปน็ การคน้ หาข้อมลู ตามตอ้ งการ เชน่ ค้นหาข้อมูลตามเงอ่ื นไขทก่ี ำหนด 6.2.3 การรวบรวมข้อมูล เป็นการรวบรวมข้อมูลหลายชุดเข้าด้วยกันหรือรวมเฉพาะข้อมูลที่มี รายการเหมอื นกนั

42 6.2.4 การคำนวณและเปรียบเทียบ อาจเป็นการคำนวณแบบธรรมดา คือ บวก ลบ คูณ หาร ยก กำลงั หรอื คำนวณค่าทางสถิติ เช่น คา่ เฉล่ีย ฐานนยิ ม สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน ฯลฯ 6.2.5 แสดงผลลพั ธ์ (Output Data) เป็นข้ันตอนสุดท้าย หลงั จากไดข้ ้อสนเทศจากการประมวล ผล ผู้วิจัยอาจนำข้อสนเทศมาเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เช่น อาจนำเสนอในรูปบทความ ตาราง กราฟ แผนภมู ิ ฯลฯ ขอ้ สนเทศทไ่ี ดจ้ ากการประมวลผลอาจนำไปใช้เปน็ ข้อมูลในงานประมวลผลในเร่ืองอืน่ ๆ อกี 6.3 กระบวนการรวบรวมขอ้ มลู การนำข้อมูลมาวิเคราะห์นั้น อาจเป็นไปได้ทั้งข้อมูลปฐมภูมิ ข้อมูล ทุติยภูมิ ข้อมูลเชิงคุณภาพ หรือข้อมูลเชิงปรมิ าณ ในกรณีทตี่ ้องการข้อมลู ประเภทปฐมภูมิ ผ้ใู ช้งานจะต้องทำการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ขึ้นมา ซงึ่ แนวทางเก็บรวบรวมข้อมลู สามารถแบง่ ออกไดด้ ังน้ี 6.3.1 การเกบ็ รวบรวมข้อมูลจากงานทะเบียนหรือการบันทกึ 6.3.2 การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสำรวจ 6.3.3 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู จากการทดลอง 6.4 การตรวจสอบความถกู ต้องของขอ้ มูล หลังจากการรวบรวมข้อมูลจากแหลง่ ปฐมภูมิแล้ว ขน้ั ตอนต่อไป คือ การตรวจสอบข้อมลู เพ่ือหา ความผิดปกติของข้อมูลบางตัวก่อนทำการวิเคราะห์ข้อมูล กระบวนการน้ีอาจต้องอาศัยบุคคลและเครื่องมือ อิเลก็ ทรอนกิ สเ์ ข้าด้วยกันเพื่อลดความผดิ พลาด ซงึ่ ข้อควรปฏบิ ตั ิในการตรวจสอบข้อมลู สามารถทำได้ดังนี้ 6.4.1 Field Edit 6.4.2 Central Office Edit 6.5 การจัดเตรยี มขอ้ มลู 6.5.1 ประเภทของไฟล์ข้อมูล 6.5.2 ประเภทของโปรแกรมทใี่ ชส้ ร้างไฟล์ขอ้ มลู 6.5.3 การเลือกใชโ้ ปรแกรมสร้างไฟล์ข้อมลู กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ที่ 6/18, คาบท่ี 16-18/54) 1. ครทู บทวนเนอ้ื หาการสอน 2. นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี นหนว่ ยที่ 6 3. แบง่ กลมุ่ นักเรียนเป็นกลุ่มๆ ละ 4-5 คน 4. ครูนำเขา้ สบู่ ทเรยี น ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรียนและสอนเนอื้ หาสาระ 5. นักเรียนทำแบบฝึกหดั เปน็ กลมุ่ ขณะนักเรยี นทำแบบฝกึ หดั ครจู ะสังเกตการทำงานกลุ่ม 6. ครแู ละนักเรียนร่วมกันเฉลยแบบฝึกหดั และรว่ มอภิปรายสรุปบทเรยี น 7. นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยที่ 6

43 สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้ 1. สื่อการเรียนรู้ หนังสือเรียน หน่วยที่ 6, PowerPoint ประกอบการสอน และแบบทดสอบก่อน เรียน และหลังเรยี น 2. แหล่งการเรียนรู้ หนงั สอื วารสารเกย่ี วกบั การประมวลผลข้อมลู , อนิ เทอร์เน็ต www.google.com การวดั ผลและประเมินผล การวัดผล การประเมินผล (ใช้เคร่ืองมอื ) (นำผลเทยี บกบั เกณฑแ์ ละแปลความหมาย) 1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น (Pre–test) หนว่ ยท่ี 6 (ไว้เปรยี บเทียบกบั คะแนนสอบหลงั เรยี น) 2. แบบสงั เกตการทำงานกลมุ่ และนำเสนอผลงานกลุ่ม เกณฑผ์ า่ น 60% 3. แบบฝึกหัดหนว่ ยที่ 5 เกณฑผ์ ่าน 50% 4. แบบทดสอบหลังเรียน (Post–test) หนว่ ยท่ี 6 เกณฑผ์ ่าน 50% 5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจริง เกณฑ์ผ่าน 60% งานท่มี อบหมาย งานทมี่ อบหมายนอกเหนอื เวลาเรียน ใหท้ ำแบบฝึกหดั ให้เรียบรอ้ ย ถูกตอ้ ง สมบรู ณ์ ผลงาน/ช้ินงาน/ความสำเรจ็ ของผู้เรยี น 1. ผลการทำและนำเสนอแบบฝกึ หัดหน่วยท่ี 6 2. คะแนนแบบทดสอบหลังเรียน (Post–test) หนว่ ยที่ 6 เอกสารอ้างองิ นพดล ทองพันชั่ง. การวเิ คราะหแ์ ละแปลความหมายขอ้ มลู . [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก : http://www.ayhosp.go.th/ay-hosp/images/HA/R2R-HA/3r2r-analysis-and-interpretation.pdf. (วันท่ีคน้ ขอ้ มูล: 14 มนี าคม 2557). ยุรีย์ วรวิชยั ยนั ต์. (2551). สถิตทิ ัว่ ไป : General Statistics. กรุงเทพฯ: ทรปิ เพิล้ เอ็ดดูเคชั่น.

44 B.L. Agarwal. (2006). Basic Statistics. 4th ed. New Delhi: New Age International. บันทกึ หลังการสอน 1. ผลการใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... 2. ผลการเรยี นของนกั เรียน/ผลการสอนของครู/ปญั หาที่พบ .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ 3. แนวทางการแก้ปญั หา .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ลงชื่อ............................................... ลงช่อื ............................................... (...............................................) (.............................................) ตัวแทนนักเรียน ครผู สู้ อน

45 แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 7 หน่วยที่ 7 ชอ่ื วชิ า โปรแกรมสำเร็จรปู ทางสถติ ิ รหัสวชิ า 2204–2109 เวลาเรยี นรวม 54 คาบ ชื่อหนว่ ย แนะนำโปรแกรมสำเร็จรูปท่ีใช้ในงานทางดา้ นสถติ ิ สอนครง้ั ที่ 7/18 ชือ่ เรื่อง แนะนำโปรแกรมสำเร็จรูปทใ่ี ช้ในงานทางด้านสถติ ิ จำนวน 3 คาบ หวั ขอ้ เรื่อง 7.1 โปรแกรมสำเร็จรปู ทางดา้ นสถิติ 7.2 ความรู้เบ้ืองตน้ เก่ียวกบั โปรแกรม SPSS for Windows 7.3 ความสามารถของโปรแกรม SPSS for Windows สมรรถนะยอ่ ย 1. ใชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รูปทางสถิตใิ นการจัดทำรายงานข้อมลู ทางสถิติ

46 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ด้านความรู้/ทกั ษะการคิด 1. บอกลักษณะโดยสังเขปของโปรแกรมสำเร็จรปู ที่ใช้วเิ คราะห์ข้อมลู ทางสถิตไิ ด้ 2. อธบิ ายความรเู้ บอ้ื งตน้ เกี่ยวกบั โปรแกรม SPSS for Windows ได้ 3. บอกความสามารถของโปรแกรม SPSS for Windows ได้ ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บรู ณาการปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ความมวี ินัย ความรักสามัคคคี วามคดิ ริเริ่มสรา้ งสรรค์และความพงึ พอใจในผลงานทท่ี ำ เนอื้ หาสาระ 7.1 โปรแกรมสำเรจ็ รูปทางดา้ นสถติ ิ 7.1.1 โปรแกรม SPSS (Statistical Packages for Social Science) 7.1.2 โปรแกรม SP (Statistical Package) 7.1.3 โปรแกรม ISP (Interactive Statistical Program) 7.1.4 โปรแกรม Microsoft Excel 7.2 ความรู้เบอ้ื งต้นเกีย่ วกบั โปรแกรม SPSS for Windows 7.3 ความสามารถของโปรแกรม SPSS for Windows 7.3.1 ความสามารถในการวเิ คราะห์ข้อมูล ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล เป็นความสามารถท่ีจะทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย วิธกี ารทางสถิติดังตอ่ ไปนี้ 1. การคำนวณค่าสถิติเบ้ืองต้น 2. การแจกแจงความถ่ี 3. การเปรียบเทยี บคา่ เฉล่ีย 4. การหาความสัมพนั ธ์ระหว่างตวั แปร 5. การวเิ คราะห์การถดถอย 6. การทดสอบแบบนอนพาราเมตรกิ (Nonparametric Test) 7. การวเิ คราะห์ขอ้ มลู สำหรบั คำตอบแบบหลาย 7.3.2 ความสามารถในการนำเสนอด้วยกราฟ โปรแกรม SPSS for Windows สามารถนำเสนอข้อมูลในรูปของกราฟหรือตารางแบบ ตา่ ง ๆ เช่น กราฟแท่ง (Bar, Histogram) กราฟเส้น (Line) กราฟวงกลม (Pie) และกราฟชนดิ อน่ื ๆ 7.3.3 ความสามารถในการทำงานดา้ นอ่นื ๆ 1. การเปล่ียนรูปแบบข้อมูล (Data Transformation) โดยการเปล่ียนคำใหม่ จัดค่า ใหม่ หรอื สรา้ งตวั แปรใหมด่ ้วยฟงั ก์ชันพิเศษต่าง ๆ ทางคณิตศาสตร์ท่ีมใี นโปรแกรม SPSS

47 2. การจัดกลมุ่ ตัวแปร (Define Set of Variable) โดยการเลือกตวั แปรหรือจัดกลมุ่ ตัว แปรไวเ้ ป็นชดุ ต่าง ๆ เพ่ือนำมาวเิ คราะห์เป็นชุด ๆ ในภายหลัง 3. การเลอื กข้อมูล (Select Case) โดยการกำหนดเง่ือนไขตา่ ง ๆ หรือการเลือกข้อมูล แบบสุม่ ตัวอย่าง 4. การสร้างข้อมูลแบบอนุกรมเวลา (Create Time Series) โดยการสร้างข้อมูลท่ี เกิดขน้ึ ตามเวลา เช่น วัน เดอื น ไตรมาส ฯลฯ สำหรบั การวเิ คราะหแ์ บบอนกุ รมเวลา 5. การดำเนินการกับข้อมูลในลักษณะอ่ืน ๆ โดยการเรียงลำดับข้อมูล การให้น้ำหนัก หรอื ความสำคญั แก่ชดขอ้ มลู การสลบั ทขี่ ้อมูลระหว่างแถวและคอลัมน์ 6. การจัดการกับข้อมลู โดยการรวมแฟม้ ข้อมลู ตง้ั แต่ 2 แฟม้ เช่น รวมตัวแปร รวมชุด ขอ้ มลู ฯลฯ 7.3.4 ความสามารถในการเช่ือมโยงขอ้ มูลกับโปรแกรมอ่ืน ๆ การทำงานของโปรแกรม SPSS for Windows version 12 เป็นการทำงานภายใต้ ระบบ ปฏิบตั กิ าร Windows ดังนน้ั สามารถใช้ความสามารถขัน้ พื้นฐาน เช่น การเลือกบริเวณเพ่ือ copy, cut, paste ฯลฯ แลว้ นำขอ้ มูลน้ันไปใช้กบั โปรแกรมอน่ื ๆ เชน่ Excel, Microsoft Word, Mathcad หรือนำขอ้ มูล จาก Excel, Microsoft Word, Mathcad มาใช้กับ SPSS for Windows ตัวอย่างเช่น ข้อมูลในรูปแบบของ คอลัมน์ (Column) สามารถนำมาเป็นข้อมูลในรูปแบบของตัวแปร SPSS for Windows ได้ หรือข้อมูลท่ี วิเคราะห์ได้จาก SPSS for Windows สามารถ copy รูปแบบตารางไปเป็นตารางของ Microsoft Word ได้ ทันที กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ท่ี 7/18, คาบที่ 19-21/54) 1. ครูทบทวนเนอ้ื หาการสอน 2. นกั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี นหนว่ ยท่ี 7 3. แบง่ กลุม่ นกั เรียนเปน็ กลุ่มๆ ละ 4-5 คน 4. ครูนำเข้าสบู่ ทเรยี น ครแู จ้งจดุ ประสงค์การเรยี นและสอนเน้ือหาสาระ 5. นักเรียนทำแบบฝกึ หัดเปน็ กลมุ่ ขณะนักเรยี นทำแบบฝกึ หดั ครูจะสังเกตการทำงานกลุ่ม 6. ครูและนกั เรียนรว่ มกันเฉลยแบบฝกึ หัด และร่วมอภปิ รายสรุปบทเรยี น 7. นักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี นหน่วยที่ 7 ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. ส่ือการเรียนรู้ หนังสือเรียน หน่วยท่ี 7, PowerPoint ประกอบการสอน และแบบทดสอบก่อน เรียน และหลงั เรียน

48 2. แหลง่ การเรียนรู้ หนังสอื วารสารเกย่ี วกับ โปรแกรม SPSS for Windows, อินเทอรเ์ นต็ www.google.com การวัดผลและประเมินผล การวดั ผล การประเมินผล (ใชเ้ ครื่องมอื ) (นำผลเทยี บกบั เกณฑ์และแปลความหมาย) 1. แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre–test) หน่วยที่ 7 (ไวเ้ ปรยี บเทียบกบั คะแนนสอบหลงั เรยี น) 2. แบบสังเกตการทำงานกลุ่มและนำเสนอผลงานกลุ่ม เกณฑ์ผ่าน 60% 3. แบบฝกึ หัดหน่วยท่ี 7 เกณฑ์ผา่ น 50% 4. แบบทดสอบหลังเรยี น (Post–test) หน่วยที่ 7 เกณฑผ์ า่ น 50% 5. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ตามสภาพจริง เกณฑ์ผ่าน 60% งานท่มี อบหมาย งานทีม่ อบหมายนอกเหนอื เวลาเรยี น ให้ทำแบบฝึกหัดใหเ้ รยี บรอ้ ย ถูกต้อง สมบรู ณ์ ผลงาน/ชิน้ งาน/ความสำเร็จของผเู้ รยี น 1. ผลการทำและนำเสนอแบบฝึกหัดหน่วยที่ 7 2. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post–test) หน่วยที่ 7 เอกสารอา้ งองิ กลั ยา วานิชย์บัญชา. (2555). การใช้ SPSS FOR WINDOWS ในการวเิ คราะหข์ อ้ มลู . กรุงเทพฯ : สำนกั พมิ พ์แหง่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ทพิ ยสุดา จนั ทรแจมหลา. (ม.ป.ป.). การวเิ คราะหขอมลู ดวย โปรแกรม SPSS. [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.tatc.ac.th/files/11030920201653590_11031213132547.pdf. (วนั ท่คี ้นขอ้ มลู : 15 มนี าคม 2557). บนั ทกึ หลังการสอน 1. ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................

49 ........................................................................................................................................................... 2. ผลการเรียนของนกั เรียน/ผลการสอนของครู/ปัญหาท่พี บ .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ 3. แนวทางการแก้ปญั หา .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ลงช่ือ............................................... ลงชื่อ............................................... (...............................................) (.............................................) ตวั แทนนกั เรยี น ครผู สู้ อน แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 8 หน่วยท่ี 8 ชือ่ วิชา โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ รหัสวชิ า 2204–2109 เวลาเรยี นรวม 54 คาบ ช่ือหนว่ ย การวเิ คราะห์ข้อมลู ทางดา้ นสถิติด้วยโปรแกรม สอนครง้ั ที่ 8-13/18 SPSS for Windows ชือ่ เร่ือง การวเิ คราะหข์ ้อมูลทางดา้ นสถิตดิ ว้ ยโปรแกรม SPSS for Windows จำนวน 18 คาบ หวั ข้อเรอ่ื ง 8.1 การเข้าสูก่ ารทำงานของโปรแกรม SPSS for Windows 8.2 วนิ โดวข์ องการทำงานแบบต่าง ๆ ของ SPSS for Window 8.3 เมนขู องโปรแกรม SPSS Data Editor 8.4 ไอคอนบนเมนบู ารก์ บั การทำงานของ SPSS for Windows 8.5 การสร้างแฟม้ ข้อมูล 8.6 การบันทึกข้อมลู 8.7 การเปดิ แฟม้ ขอ้ มลู เดมิ ท่ีเคยบนั ทึกไวก้ ลบั มาใช้งาน สมรรถนะย่อย

50 ใช้โปรแกรมสำเร็จรปู ทางสถิติในการจัดทำรายงานข้อมลู ทางสถติ ิ จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม ดา้ นความรู้/ทักษะการคิด 1. เขา้ สโู่ ปรแกรม SPSS for Windows ได้ 2. อธบิ ายวินโดว์ของการทำงานแบบตา่ ง ๆ ของ SPSS for Window ได้ 3. บอกการทำงานเมนูของโปรแกรม SPSS Data Editor ได้ 4. บอกไอคอนบนเมนูบาร์กับการทำงานของ SPSS for Windows ได้ 5. สร้างแฟม้ ข้อมลู ได้ 6. บันทึกขอ้ มูลได้ 7. บอกวิธีการเปิดแฟม้ ข้อมลู เดมิ ท่ีเคยบันทกึ ไว้กลับมาใช้งานได้ ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ความมวี นิ ัย ความรักสามคั คีความคิดรเิ ริม่ สรา้ งสรรคแ์ ละความพงึ พอใจในผลงานที่ทำ เนื้อหาสาระ 8.1 การเขา้ สูก่ ารทำงานของโปรแกรม SPSS for Windows 8.2 วนิ โดวข์ องการทำงานแบบตา่ ง ๆ ของ SPSS for Window 8.3 เมนขู องโปรแกรม SPSS Data Editor 8.4 ไอคอนบนเมนบู ารก์ บั การทำงานของ SPSS for Windows 8.5 การสร้างแฟม้ ขอ้ มูล 8.6 การบันทกึ ขอ้ มลู 8.7 การเปดิ แฟม้ ขอ้ มลู เดมิ ที่เคยบันทกึ ไว้กลับมาใช้งาน กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ที่ 8/18, คาบที่ 22-24/54) 1. ครทู บทวนเน้ือหาการสอน 2. นกั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี นหนว่ ยที่ 8 3. แบ่งกลมุ่ นักเรียนเปน็ กลุม่ ๆ ละ 4-5 คน 4. ครูนำเขา้ สู่บทเรยี น ครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนและสอนเนอื้ หาสาระ 5. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั เปน็ กล่มุ ขณะนักเรียนทำแบบฝึกหดั ครจู ะสังเกตการทำงานกลุ่ม 6. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันเฉลยแบบฝกึ หดั และรว่ มอภปิ รายสรปุ บทเรียน 7. นกั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี นหนว่ ยที่ 8

51 8. ครมู อบหมายงานตามใบงานที่ 1 กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ท่ี 9-13/18, คาบที่ 25-39/54) 1. ครตู รวจผลการปฏบิ ัติตามใบงาน 2. นกั เรยี นนำเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรยี น เรยี งตามกลุ่มทจี่ ดั ไว้ 3. ครูประเมินผลงานและสรุปผล สือ่ และแหลง่ การเรียนรู้ 1. สื่อการเรียนรู้ หนงั สือเรยี น หน่วยท่ี 8, ใบงาน, PowerPoint ประกอบการสอน และแบบทดสอบ กอ่ นเรยี น และหลงั เรียน 2. แหลง่ การเรียนรู้ หนงั สือ วารสารเกย่ี วกับโปรแกรม SPSS for Windows, อินเทอรเ์ น็ต www.google.com การวัดผลและประเมินผล การวดั ผล การประเมนิ ผล (ใช้เครอ่ื งมอื ) (นำผลเทยี บกบั เกณฑ์และแปลความหมาย) 1. แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre–test) หนว่ ยท่ี 8 (ไว้เปรียบเทียบกับคะแนนสอบหลงั เรียน) 2. แบบสงั เกตการทำงานกล่มุ และนำเสนอผลงานกล่มุ เกณฑผ์ ่าน 60% 3. แบบฝึกหัดหนว่ ยท่ี 8 เกณฑผ์ ่าน 50% 4. ใบงานที่ 1 เกณฑ์ผา่ น 60% 5. แบบทดสอบหลังเรยี น (Post–test) หนว่ ยที่ 8 เกณฑ์ผ่าน 50% 6. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ตามสภาพจริง เกณฑ์ผา่ น 60% งานท่มี อบหมาย งานทม่ี อบหมายตามใบงานที่ 1 ผลงาน/ชนิ้ งาน/ความสำเร็จของผ้เู รยี น 1. ผลการทำและนำเสนอแบบฝกึ หัดหน่วยที่ 8 2. คะแนนแบบทดสอบหลังเรียน (Post–test) หน่วยท่ี 8 3. ผลการปฏิบัตติ ามใบงานท่ี 1

52 เอกสารอา้ งอิง กลั ยา วานชิ ย์บญั ชา. (2555). การใช้ SPSS FOR WINDOWS ในการวเิ คราะห์ขอ้ มลู . กรุงเทพฯ : สำนักพมิ พแ์ ห่งจุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . เฉิดฉนั ทร์ ราชบุรณะ. (ม.ป.ป.). วิธวี ิเคราะห์แบบสอบถาม หรือแบบประเมิน ด้วยโปรแกรม SPSS. [ออนไลน]์ . เข้าถึงไดจ้ าก : stang.sc.mahidol.ac.th/text/pdf/spss.ppt. (วันที่คน้ ข้อมลู : 15 มนี าคม 2557) ทิพยสดุ า จนั ทรแจมหลา. (ม.ป.ป.). การวเิ คราะหขอมูลดวย โปรแกรม SPSS. [ออนไลน]์ . เข้าถึงไดจ้ าก : http://www.tatc.ac.th/files/11030920201653590_11031213132547.pdf. (วนั ท่ีค้นข้อมลู : 15 มนี าคม 2557). นพดล ทองพนั ช่ัง. การวิเคราะห์และแปลความหมายข้อมูล. [ออนไลน]์ . เข้าถึงได้จาก : http://www.ayhosp.go.th/ay-hosp/images/HA/R2R-HA/3r2r-analysis-and-interpretation.pdf. (วนั ท่ีคน้ ขอ้ มลู : 14 มนี าคม 2557). บนั ทกึ หลังการสอน 1. ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... 2. ผลการเรียนของนักเรียน/ผลการสอนของครู/ปญั หาทพี่ บ .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ 3. แนวทางการแก้ปญั หา

53 .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ลงช่อื ............................................... ลงช่อื ............................................... (...............................................) (.............................................) ตัวแทนนกั เรยี น ครูผู้สอน แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 9 หนว่ ยท่ี 9 ชื่อวชิ า โปรแกรมสำเรจ็ รูปทางสถิติ รหัสวชิ า 2204–2109 เวลาเรยี นรวม 54 คาบ ช่อื หนว่ ย การวเิ คราะห์และแปลผลสถติ ิเชงิ พรรณนาเบ้ืองตน้ สอนครัง้ ท่ี 14-17/18 ชือ่ เร่อื ง การวิเคราะห์และแปลผลสถิติเชงิ พรรณนาเบอื้ งต้น จำนวน 12 คาบ หวั ขอ้ เร่อื ง 9.1 การคำนวณค่าสถิติเบอ้ื งต้นดว้ ยคำสงั่ Analyze/Descriptive Statistics/Frequencies 9.2 การคำนวณค่าสถิติเบื้องต้นดว้ ยคำส่งั Analyze/Descriptive Statistics/Descriptive 9.3 การสรา้ งกราฟและการเลอื กรูปแบบของกราฟ 9.4 การแปลผลสถิติเชงิ พรรณนาเบื้องต้น สมรรถนะย่อย ใช้โปรแกรมสำเรจ็ รปู ทางสถิติในการจดั ทำรายงานข้อมูลทางสถติ ิและแผนภมู ิ จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม ดา้ นความรู้/ทกั ษะการคิด 1. คำนวณหาค่าสถติ ิเบ้ืองตน้ ด้วยคำสง่ั Analyze/Descriptive Statistics/Frequencies ได้ 2. คำนวณหาค่าสถิติเบื้องต้นด้วยคำส่งั Analyze/Descriptive Statistics/Descriptive ได้ 3. สรา้ งกราฟและเลือกกราฟที่เหมาะสมได้

54 4. แปลผลสถติ เิ ชิงพรรณนาเบอ้ื งตน้ ได้ ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บรู ณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความมีวินัย ความรกั สามัคคีความคิดริเรม่ิ สร้างสรรคแ์ ละความพงึ พอใจในผลงานทที่ ำ เนื้อหาสาระ 9.1 การคำนวณค่าสถิตเิ บ้ืองตน้ ด้วยคำสั่ง Analyze/Descriptive Statistics/Frequencies 9.2 การคำนวณค่าสถิติเบือ้ งตน้ ด้วยคำสัง่ Analyze/Descriptive Statistics/Descriptive 9.3 การสรา้ งกราฟและการเลือกรูปแบบของกราฟ 9.4 การแปลผลสถิตเิ ชิงพรรณนาเบอ้ื งต้น กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาหท์ ่ี 14/18, คาบท่ี 40–42/54) 1. ครทู บทวนเน้ือหาการสอน 2. นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี นหน่วยที่ 9 3. แบง่ กลุ่มนักเรยี นเป็นกล่มุ ๆ ละ 4-5 คน 4. ครนู ำเข้าสู่บทเรียน ครแู จง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนและสอนเน้อื หาสาระ 5. นกั เรยี นทำแบบฝึกหัดเป็นกลุ่ม ขณะนกั เรียนทำแบบฝกึ หดั ครูจะสังเกตการทำงานกลมุ่ 6. ครูและนกั เรียนร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัด และรว่ มอภิปรายสรุปบทเรียน 7. นักเรยี นปฏิบตั ติ ามใบงานที่ 2 8. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนหนว่ ยที่ 9 กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ท่ี 15-17/18, คาบที่ 43-51/54) 1. ครตู รวจผลการปฏบิ ตั ติ ามใบงาน 2. นักเรยี นนำเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรียน เรยี งตามกลุ่มท่ีจดั ไว้ 3. ครปู ระเมินผลงานและสรปุ ผล ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้ 1. สอ่ื การเรียนรู้ หนงั สอื เรยี น หน่วยท่ี 9, ใบงาน, PowerPoint ประกอบการสอน และแบบทดสอบ กอ่ นเรยี น และหลงั เรียน 2. แหลง่ การเรียนรู้ หนงั สือ วารสารเกย่ี วโปรแกรมสำเรจ็ รปู ทางสถติ ิ, การวิเคราะหแ์ ละแปลผล, อินเทอรเ์ น็ต www.google.com การวัดผลและประเมินผล การวดั ผล การประเมินผล (ใช้เครือ่ งมือ) (นำผลเทียบกับเกณฑแ์ ละแปลความหมาย)

55 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre–test) หนว่ ยที่ 9 (ไวเ้ ปรยี บเทียบกับคะแนนสอบหลงั เรยี น) 2. แบบสงั เกตการทำงานกลุ่มและนำเสนอผลงานกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 60% 3. แบบฝึกหัดหน่วยที่ 9 เกณฑผ์ ่าน 50% 4. ใบงานท่ี 2 เกณฑผ์ า่ น 60% 5. แบบทดสอบหลงั เรียน (Post–test) หน่วยท่ี 9 เกณฑ์ผ่าน 50% 6. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ตามสภาพจริง เกณฑผ์ ่าน 60% งานที่มอบหมาย 1. งานที่มอบหมายตามใบงานท่ี 2 2. ใหท้ ำแบบฝกึ หัดให้เรียบรอ้ ย ถูกตอ้ ง สมบูรณ์และเตรียมตัว ทบทวนเน้ือหาเพ่อื สอบปลายภาค ผลงาน/ช้ินงาน/ความสำเรจ็ ของผ้เู รียน 1. ผลการทำและนำเสนอแบบฝึกหัดหน่วยท่ี 9 2. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post–test) หน่วยที่ 9 3. ผลการปฏิบัตติ ามใบงานที่ 2 เอกสารอ้างอิง กลั ยา วานิชย์บัญชา. (2555). การใช้ SPSS FOR WINDOWS ในการวเิ คราะห์ขอ้ มูล. กรุงเทพฯ: สำนักพมิ พแ์ หง่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั . นพดล ทองพันช่ัง. การวเิ คราะห์และแปลความหมายขอ้ มลู . [ออนไลน]์ . เข้าถึงได้จาก: http://www.ayhosp.go.th/ay-hosp/images/HA/R2R-HA/3r2r-analysis-and-interpretation.pdf. (วนั ทีค่ ้นข้อมูล: 14 มนี าคม 2557). บันทกึ หลงั การสอน 1. ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... 2. ผลการเรียนของนกั เรยี น/ผลการสอนของครู/ปัญหาท่พี บ .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแก้ปัญหา

56 .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................... ลงชอื่ ............................................... ลงชอื่ ............................................... (...............................................) (.............................................) ตวั แทนนักเรยี น ครูผ้สู อน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook