มโนทัศน์ของคน Concepts of Human http://gogoamerica.com/wp-content/uploads/2014/03/make-friends.jpg อ.ศุทธิจิต ภูมิวฒั นะ Suttichit Phumivadhana
คนมีความตอ้ งการพนื้ ฐาน ( Basic Needs of Person ) ความต้องการพืน้ ฐานของคน เปน็ ความต้องการทีท่ กุ คน มีเหมอื นกัน (แต่ไมเ่ ทา่ กนั ) และเปน็ สง่ิ จาเปน็ ในการดาเนนิ ชีวิต ถา้ ขาดหรือได้รับไมเ่ พยี งพออาจเกิดผลกระทบต่อบุคคลได้ Suttichit Phumivadhana
http://centralhealthysupply.com/briefcase/news/x5ddI6YMon122335.jpg http://cdn.mamaexpert.com/files/content/00017/7ed5f/conversions/big.jpg http://drama-addict.com/wp- Suttichit Phumivadhana content/uploads/2013/12/image321.png https://f.ptcdn.info/826/006/000/1372778285-1-o.jpg
คนมคี วามต้องการพื้นฐาน ( Basic Needs of Person ) แบง่ เปน็ 2 ประเภทได้แก่ ความตอ้ งการด้านรา่ งกาย ความต้องการด้านจิตสงั คม Suttichit Phumivadhana
ความตอ้ งการด้านรา่ งกาย ความตอ้ งการท่ชี ว่ ยให้คนมชี วี ติ รอด เชน่ อากาศ ปจั จยั 4 น้า อาหาร ทีอ่ ยูอ่ าศัย และยารกั ษาโรค การออกกาลังกาย และการพกั ผอ่ น (บคุ คลมคี วามตอ้ งการพนื้ ฐาน) Suttichit Phumivadhana
ความตอ้ งการดา้ นจิตสงั คม ต้องการอะไรจากคนรอบขา้ ง ? ความต้องการด้านความรกั ความอบอุ่น ความมั่นคงปลอดภัย ความรูส้ ึกเปน็ เจา้ ของ การยอมรับของสังคม ความตอ้ งการมีชือ่ เสยี ง การเห็นตนเองมีคณุ ค่าและศกั ดศิ์ รี มนุษย์จะมีชีวติ อยา่ งไมส่ มบูรณ์ถ้าความตอ้ งการทางดา้ นจิตใจ ไม่ได้รบั การตอบสนอง (ศริ ิรัตน์, 2547) (บุคคลมีความต้องการพื้นฐาน) Suttichit Phumivadhana
คนมคี วามต้องการพ้ืนฐาน ข้นึ กบั ด้านการพัฒนาตลอดชวี ิต ดา้ นพัฒนาการตามวยั แบ่งเป็น รา่ งกาย สตปิ ัญญา อารมณ์ สังคม คุณธรรม พฒั นาการในแต่ละด้านจะมีความต่อเนื่องกันเป็นลาดบั ขน้ั ซ่ึงแตล่ ะขนั้ จะมลี กั ษณะเฉพาะ และ มีทฤษฎีทีใ่ ช้อธบิ ายพฒั นาการของคนในด้านต่างๆ (บุคคลมคี วามต้องการพ้นื ฐาน) Suttichit Phumivadhana
คนมคี วามตอ้ งการพน้ื ฐาน มาสโลว์ ( Maslow, 1970 ) มนุษย์มคี วามตอ้ งการในดา้ นการพฒั นาตลอดชีวติ และความตอ้ งการนั้นจะเป็นแรงจูงใจใหม้ นษุ ย์ แสดงพฤตกิ รรมตา่ งๆ Suttichit Phumivadhana
ทฤษฎีความต้องการพนื้ ฐานของมนุษย์ของมาสโลว์ หรือเรียก ทฤษฎีลาดับขัน้ ความต้องการ เป็นทฤษฎีของอับราฮัม มาสโลว์ นักจิตวทิ ยาชาวอเมริกนั กรอบแนวคดิ หลัก 3 ประการทส่ี าคัญ ประกอบด้วย •บคุ คลมีความต้องการซง่ึ เปน็ แรงจูงใจให้เกดิ พฤตกิ รรมต่างๆ •ความต้องการของบคุ คลเปน็ ไปตามลาดบั จากความต้องการพืน้ ฐาน ไปสคู่ วามตอ้ งการ ท่ีมีความซบั ซ้อนขึน้ •เม่อื ความต้องการพน้ื ฐานไดร้ บั การตอบสนองอย่างเพยี งพอแล้ว กจ็ ะเกิดความต้องการ ในลาดบั ข้ันตอ่ ไป https://www.youtube.com/watch?v=tpZ6d7dhQiY Suttichit Phumivadhana
บคุ คลมีความต้องการพน้ื ฐาน มาสโลว์ ( Maslow, 1970 ) มาสโลว์ ( Maslow, 1970 ) ความตอ้ งการด้านความสาเรจ็ สมหวงั ในชีวติ ความต้องการด้านความภาคภมู ใิ จ ความตอ้ งการด้านความรักและการมีส่วนร่วม ความต้องการด้านความม่ันคงและปลอดภัย ความตอ้ งการดา้ นรา่ งกาย Suttichit Phumivadhana
มาสโลว์ ( Maslow, 1970 ) ความตอ้ งการเจรญิ กา้ วหนา้ และพัฒนาตนเอง (Growth Needs) รจู ้ ักตนอยา่ งแทจ้ รงิ หรอื ความสมปรารถนาแหง่ ตน สนุ ทรยี ะ ความรคู ้ วามเขา้ ใจ ความตอ้ งการเตมิ เต็มสว่ นทข่ี าด (Deficiency Needs) ความภาคภมู ใิ จ (นับถอื ในตนเอง , การยกยอ่ งนับถอื จากผอู ้ นื่ ) ความรักและความเป็ นเจา้ ของ หรอื ความตอ้ งการทางสงั คม ความมน่ั คงและความปลอดภัย ปัจจยั พน้ื ฐานทางกายทจ่ี าเป็ นของมนุษย์ http://msaprilshowers.com/wp-content/uploads/2013/07/Image-of- Maslows-Hierarchy-of-Needs-Triangle.jpg Suttichit Phumivadhana
มาสโลว์ ( Maslow, 1970 ) ความตอ้ งการเจรญิ กา้ วหนา้ ความต้องการอยู่เหนอื สามัญสานกึ และพฒั นาตนเอง (Growth Needs) ความต้องการตน้ พบอัตลักษณ์แหง่ ตน (รูจ้ ักตนเองตามสภาพทแ่ี ท้จรงิ และพฒั นาศักยภาพของตน) ความตอ้ งการความงดงาม ความตอ้ งการความรู้ (ความเข้าใจ) ความตอ้ งการการยอมรบั (รูส้ ึกว่าตนเองมีคา่ ) ความต้องการทางด้านความสัมพันธ์ (ความรักและเป็นส่วนหน่งึ ของหมคู่ ณะ) ความต้องการด้านความปลอดภยั ความตอ้ งการเตมิ เต็มสว่ นทขี่ าด https://www.simplypsychology.org/maslow.html ความตอ้ งการดา้ นร่างกาย (Deficiency Needs) Suttichit Phumivadhana
คนมีพัฒนาการ ต้ังแต่เกิดจนตาย ตลอดชวี ติ •ดา้ นพัฒนาการดา้ นเพศของฟรอยด์ (Freud) •ดา้ นพฒั นาการด้านจิตสงั คมของอิรคิ สนั (บุคคลมคี วามตอ้ งการพืน้ ฐาน) Suttichit Phumivadhana
ดา้ นพัฒนาการดา้ นเพศของฟรอยด์ Psychosexual developmental stage ฟรอยด์ เชอ่ื ว่า ความตอ้ งการทางรา่ งกายเปน็ ความตอ้ งการตามธรรมชาติ ของคน ความต้องการนเี้ ป็นพลงั ชีวติ ทาใหค้ นแสวงหาความสุข ความพอใจจากสว่ นตา่ งๆ ของรา่ งกาย ท่ีแตกตา่ งไปตามวัย พฒั นาไปเป็นข้นั ตอนตามลาดบั เริ่มตน้ จากแรกเกิดจนสิ้นสดุ วัยรนุ่ (บคุ คลมคี วามตอ้ งการพ้ืนฐาน) Suttichit Phumivadhana
ด้านพฒั นาการดา้ นจติ สงั คมของอริ คิ สัน Psychosocial stage (Erikson) แบ่งข้นั ตอนการพฒั นาทางจิตสังคมป็น 8 ด้าน (แบ่งตามชว่ งอาย)ุ 1. การไว้วางใจและการไม่ไวว้ างใจ (แรกเกิด-1 ปี) 2. ความเป็นตวั ของตวั เอง และความละอายสงสัยไม่แน่ใจ (1-3 ป)ี 3. ความคดิ ริเรม่ิ และความรูส้ กึ ผดิ (3-6 ปี) 4. ความอุตสาหะขยันหมั่นเพยี ร และการมปี มด้อย (6-12 ปี) (บุคคลมีความตอ้ งการพืน้ ฐาน) Suttichit Phumivadhana
ดา้ นพฒั นาการด้านจติ สังคมของอริ คิ สัน Psychosocial stage (Erikson) แบ่งขั้นตอนการพฒั นาทางจิตสงั คมปน็ 8 ดา้ น (แบง่ ตามช่วงอาย)ุ 5. การสรา้ งเอกลักษณ์ประจาตวั และความสบั สนในเอกลกั ษณข์ องตน (12-20 ป)ี 6. ความใกล้ชิดสนิทสนม และการแยกตวั (20-40 ปี) 7. การสง่ เสรมิ เลย้ี งดผู ู้อ่ืนและการพะวงเฉพาะตน (40-65 ปี) 8. ความมน่ั คงสมบูรณ์ในชีวิต และความสน้ิ หวัง (65 ปขี น้ึ ไป) https://www.youtube.com/watch?v=vjOmlK0JFSM (บคุ คลมคี วามต้องการพื้นฐาน) Suttichit Phumivadhana
บคุ คลเป็นผู้ไดร้ บั การพยาบาล ( Recipient of Nursing Action ) หมายถึง ผูต้ ้องการการดูแล หรอื ผู้ใชบ้ ริการพยาบาล อาจเป็นบคุ คลทเี่ ปน็ ปัจเจกบุคคล ครอบครวั ชมุ ชน และกล่มุ ทางสังคม เช่นกล่มุ ผปู้ ว่ ยมะเร็ง กลมุ่ ผูส้ ูงอายุ เป็นต้น (Leahy, 1998 อา้ งใน ศิริรัตน์, 2547) ทัง้ ภาวะสขุ ภาพดแี ละเจ็บปว่ ย Suttichit Phumivadhana
บคุ คลเป็นผไู้ ดร้ บั การพยาบาล http://th.theasianparent.com/wp- http://www.manager.co.th/asp- content/uploads/2014/06/cord- bin/Image.aspx?ID=2236040 blood-newborn.jpg http://www.fth0.com/uppic/62100853/news/62100853_0_20130823-115135.jpg Suttichit Phumivadhana
ครอบครัว สถาบนั ทางสงั คมข้ันปฐมภูมิ เป็นหน่วยท่ีสมาชกิ ในครอบครวั มีความใกล้ชดิ กัน พ่ึงพาอาศยั กัน หากเกิดปัญหากับบุคคลใดบุคคลหนึ่งใน ครอบครัวกอ็ าจทาให้สง่ ผลกระทบตอ่ สมาชกิ ในครอบครวั ได้ ซึ่งสมาชิกใครอบครัวตอ้ งชว่ ยกนั แกไ้ ข เช่น มีลกู ตดิ ยา ครอบครวั เดยี่ ว / ครอบครวั ขยาย / ครอบครัวหลายครอบครวั ทอ่ี ยรู่ ว่ มกัน (บคุ คลเป็นผู้ได้รบั การดแู ลจากพยาบาล) Suttichit Phumivadhana
ชุมชน หนว่ ยทางสงั คมทมี่ ีอทิ ธพิ ลรองลงมาจากครอบครวั หากบุคคลในชมุ ชนมีสุขภาพทดี่ ี มีสง่ิ แวดล้อมที่เหมาะสม ย่อม ส่งผลใหช้ มุ ชนสามารถพฒั นาได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ ชุมชนชนบท / ชุมชนเมอื ง แบง่ ตามพืน้ ท่ี / แบง่ ตามความสนใจร่วมกัน (บุคคลเปน็ ผไู้ ดร้ ับการดูแลจากพยาบาล) Suttichit Phumivadhana
ทฤษฎกี ารดแู ลตนเองของโอเรม โอเรม : เมอ่ื บุคคลมปี ัญหาสุขภาพไมส่ ามารถทาหน้าที่ไดต้ ามปกติ เรยี กว่า มคี วามพร่องในการดแู ลตนเอง พยาบาลจะต้องเข้าไปประเมินและแกป้ ญั หาตามแนวทาง การดแู ลตนเอง 3 ประการคอื การดูแลตนเองทั่วไป การดูแลตนเองตามพัฒนาการ และการดูแลตนเองตามการเบ่ยี งเบน ของสุขภาพ เพอื่ ใหบ้ คุ คลสามารถดแู ลตนเอง เพอื่ ให้มีสุขภาพดไี ด้ (วจิ ิตรา และคณะ, 2552) (บคุ คลเปน็ ผไู้ ด้รับการดูแลจากพยาบาล) Suttichit Phumivadhana
ทฤษฎกี ารพยาบาลของนิวแมน นิวแมน อธิบายลักษณะของบุคคล : มแี นวคิดเก่ียวกับคนโดยใชค้ าวา่ “ผู้รบั บริการ หรอื ระบบผ้รู บั บริการ” โดยให้ความสาคัญเชงิ ความรว่ มมอื ระหวา่ ง ผู้รบั บรกิ ารและพยาบาล (ศรีพรรณ, 2551) กลา่ วคอื พยาบาล สามารถชว่ ยผรู้ ับบรกิ ารแกไ้ ขหรือป้องกนั การสูญเสยี พลังงานใน ระบบเพื่อให้เกดิ ภาวะสมดุล (บุคคลเปน็ ผู้ไดร้ ับการดูแลจากพยาบาล) Suttichit Phumivadhana
ทฤษฎกี ารปรับตวั ของรอย รอย มคี วามเชอื่ ว่าบคุ คล : รอยมคี วามเชื่อว่าบุคคลจะมีการปรบั ตัวไดด้ หี รอื ไม่ ข้นึ อยกู่ ับ ความรนุ แรงของสิ่งท่มี ากระทบ และความสามารถของบุคคลในการปรบั ตวั ซึ่งพยาบาลจะมีบทบาทในการสง่ เสรมิ การปรับตวั ทั้งในสถานการณ์ ปกติและ เจ็บป่วย โดยสง่ เสรมิ การมีปฏสิ ัมพนั ธข์ องบคุ คลและสิง่ แวดล้อม (บุคคลเป็นผ้ไู ดร้ บั การดแู ลจากพยาบาล) Suttichit Phumivadhana
ทฤษฎีการบรรลุเปา้ หมายของคิง คงิ : คิงเนน้ ธรรมชาติของการมปี ฏสิ มั พันธ์ระหวา่ งพยาบาลและ ผใู้ ช้บรกิ าร ว่าต่างฝา่ ยตา่ งมกี ารรับรู้และแลกเปลี่ยนการรบั รู้ ซึง่ กันและกัน มีการตั้งเปา้ หมายร่วมกัน เม่อื ผ้ใู ชบ้ ริการมกี ารสอ่ื สารเกยี่ วกบั ปญั หาที่ต้อง เผชิญอยู่ พยาบาลควรมีบทบาทส่งเสรมิ ให้ผใู้ ช้บริการตัดสินใจ ตงั้ เป้าหมาย ในการเผชญิ ปญั หานน้ั ร่วมกบั พยาบาล (บคุ คลเป็นผไู้ ดร้ บั การดูแลจากพยาบาล) Suttichit Phumivadhana
Suttichit Phumivadhana
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: