Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 5_เล่ม เอราวัณ.-merged

5_เล่ม เอราวัณ.-merged

Description: 5_เล่ม เอราวัณ.-merged

Search

Read the Text Version

หนังสอื อ่านเพม่ิ เตมิ เรอื่ งเมืองหนองบัวลาภูนครเขือ่ นขนั ธ์กาบแกว้ บัวบาน สาระทักษะการเรยี นรู้ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เลม่ ที่ ๕ นางนวพรรษ จันทราทูล ครู ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานักงาน กศน.จงั หวดั หนองบัวลาภู สานักงาน กศน. สานกั งานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวงศกึ ษาธิการ

ก คำนยิ ม หนังสืออ่ำนเพ่ิมเติม เรื่องเมืองหนองบัวลำภูนครเขื่อนขันธ์กำบแก้วบัวบำน เป็นหนังสือ ที่ใช้ประกอบกำรจัดกำรเรียนรู้รำยวิชำทักษะกำรเรียนรู้ สำระทักษะกำรเรียนรู้ สำหรับนักศึกษำ หลักสูตรกำรศึกษำนอกระบบระดบั กำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑ ระดับมัธยมศึกษำตอนตน้ โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือพัฒนำทักษะกำรเรียนรู้ของนักศึกษำ ในด้ำนกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง กำรใช้แหล่งเรียนรู้ และเพ่ือกระตุ้นให้นักศึกษำ เกิดกำรใฝ่เรียนใฝ่รู้ โดยให้นักศึกษำเรียนรู้ผ่ำนเรื่องเล่ำ และเรียนรู้จำก สถำนที่แหล่งเรียนรู้ในท้องถ่ิน และเพื่อให้นักศึกษำมีควำมพึงพอใจต่อกำรเรียนและเกิดควำมรัก ควำมภำคภูมิใจในท้องถ่ินของตนเอง อีกท้ังยังมีกำรจัดทำภำพประกอบท่ีสวยงำม สอดคล้องกับเนื้อ เรอื่ ง ทำให้เขำ้ ใจเนือ้ เรอื่ งได้ง่ำยและชดั เจน ขอชื่นชมในควำมพยำยำมในกำรพฒั นำกำรเรียนกำรสอนและ จัดทำสื่อประกอบกำรจัดกำรเรียนรู้ ขอเป็นกำลังใจให้กำรพัฒนำงำนและผลิตหนังสือที่มีคุณค่ำ ต่อนักศึกษำและสังคมตอ่ ไป (นำยวินยั แสงใส) ผู้อำนวยกำร กศน.อำเภอเมอื งหนองบวั ลำภู

ข คำนำ หนงั สอื อ่ำนเพม่ิ เติมเร่ืองเมอื งหนองบัวลำภนู ครเข่อื นขนั ธก์ ำบแกว้ บัวบำน ผ้เู รยี บเรียงจดั ทำข้ึน เพ่ือใช้เป็นส่ือประกอบกำรเรียนรู้วิชำทักษะกำรเรียนรู้ (ทร ๒๑๐๐๑) สำระทักษะกำรเรียนรู้ สำหรับ นักศึกษำหลักสูตรกำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑ ระดับมัธยมศึกษำ ตอนต้น ทั้งนี้เนื้อหำแบ่งออกเป็น ๖ เล่ม มีกำรจัดกำรเรียนรู้เล่มละ ๒ ชั่วโมง รวมเวลำเรียน ๑๒ ช่ัวโมง โดยมวี ตั ถุประสงคเ์ พอ่ื ใหผ้ ู้เรียนศึกษำเรียนรู้ประวตั ศิ ำสตร์ควำมเปน็ มำและเอกลักษณ์ของจังหวัด หนองบัวลำภู รวมท้ังเผยแพร่ควำมรู้เกี่ยวกับแหล่งเรียนรู้ในจังหวัดหนองบัวลำภู ให้ผู้เรียนได้ศึกษำ ค้นคว้ำให้มีควำมรคู้ วำมเข้ำใจ และมเี จตคติท่ดี ีเกิดควำมภำคภมู ิใจในท้องถิ่นของตน หวังเป็นอย่ำงย่ิงว่ำ หนังสืออ่ำนเพ่ิมเติมเล่มน้ี จะเป็นประโยชน์ต่อครู ผู้เรียน และผู้ท่ีสนใจ ได้เป็นอย่ำงดี ผู้จัดทำขอขอบคุณผู้เสียสละในกำรช่วยเหลือในกำรจัดทำหนังสือเล่มน้ี ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เช่ียวชำญและผู้เกี่ยวข้องทุกท่ำนท่ีให้คำแนะนำในกำรพัฒนำหนังสือ คณะครูและนักศึกษำ กศน. ทใี่ หค้ วำมรว่ มมอื ในกำรใชห้ นงั สืออำ่ นเพมิ่ เติม

สำรบัญ ค คำนิยม หนำ้ คำนำ สำรบญั ก คำชีแ้ จง ข จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ ค แบบทดสอบก่อนเรยี น ง เน้อื เรื่อง ญ กจิ กรรมพฒั นำกำรเรยี นรู้ ๑ เฉลยกิจกรรมท้ำยบท ๓ แบบทดสอบหลังเรียน ๙ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรยี น ๑๒ บรรณำนกุ รม ๑๕ ประวตั ิผู้จดั ทำ ๑๗ ๑๘ ๑๙

ง คำช้แี จงกำรใชห้ นงั สอื อำ่ นเพม่ิ เตมิ หนังสืออ่ำนเพ่ิมเติมเร่ืองเมอื งหนองบัวลำภูนครเข่ือนขันธ์กำบแก้วบัวบำน สำระทักษะกำรเรียนรู้ วิชำทักษะกำรเรียนรู้ (ทร ๒๑๐๐๑) สำหรับนักศึกษำระดับมัธยมศึกษำตอนต้น หลักสูตรกำรศึกษำ นอกระบบระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑ จัดทำขึ้นโดยกำหนดจุดประสงค์ กำร เรียนรู้ ซ่ึงผู้เรียนสำมำรถศึกษำเนื้อหำ ปฏิบัติกิจกรรมพัฒนำกำรเรียนรู้ และประเมินผลกำรเรียนรู้ได้ ด้วยตนเองตำมข้ันตอนที่กำหนดไว้ โดยมีกำรเฉลยคำตอบไว้ท้ำยเล่ม ท้ังน้ีเน้ือหำในกำรเรียนรู้ แบง่ ออกเปน็ ๖ เล่ม มีกำรจดั กำรเรียนรู้เล่มละ ๒ ช่วั โมง รวมเวลำเรียนจำนวน ๑๒ ช่ัวโมง เลม่ ท่ี ๑ นครเขื่อนขนั ธก์ ำบแกว้ บวั บำน จำนวน ๒ ชว่ั โมง เลม่ ท่ี ๒ ศำลสมเด็จพระนเรศวรมหำรำช จำนวน ๒ ชว่ั โมง เลม่ ท่ี ๓ อทุ ยำนแห่งชำตภิ เู กำ้ - ภพู ำนคำ จำนวน ๒ ชว่ั โมง เลม่ ที่ ๔ แผน่ ดินธรรมหลวงปู่ขำว จำนวน ๒ ชั่วโมง เลม่ ที่ ๕ เดน่ สกำวถำ้ เอรำวัณ จำนวน ๒ ช่ัวโมง เลม่ ที่ ๖ พิพธิ ภณั ฑห์ อยหนิ ๑๕๐ ลำ้ นปี จำนวน ๒ ชว่ั โมง

จ ผเู้ รยี นสำมำรถศกึ ษำเนอ้ื หำและประเมนิ ผลกำรเรยี นรไู้ ด้ดว้ ยตนเองตำมขน้ั ตอนทกี่ ำหนดดงั น้ี วตั ถปุ ระสงค์

ฉ ขอบข่ำยและสว่ นประกอบ หนังสืออ่ำนเพ่ิมเติม มีองค์ประกอบ คือ ปกนอก ปกใน คำนิยม คำนำ สำรบัญ คำชี้แจงกำรใช้หนังสืออ่ำนเพิ่มเติม จุดประสงค์กำรเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน เนื้อเรื่อง กิจกรรมพัฒนำกำรเรียนรู้ พร้อมเฉลยคำตอบ แบบทดสอบหลังเรียน พร้อมเฉลยคำตอบ แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน บรรณำนกุ รมและประวตั ผิ ู้จัดทำ กำรนำหนงั สอื อำ่ นเพม่ิ เตมิ ไปใช้

ช ประโยชนต์ อ่ ผเู้ รยี น ประโยชนต์ อ่ ผสู้ อน

ซ คำแนะนำสำหรบั ครู หนังสืออ่ำนเพ่ิมเติมเรื่องเมืองหนองบัวลำภูนครเข่ือนขันธ์กำบแก้วบัวบำน สำระทักษะกำรเรียนรู้ รำยวิชำทักษะกำรเรียนรู้ (ทร ๒๑๐๐๑) สำหรับนักศึกษำระดับมัธยมศึกษำตอนต้น เป็นหนังสือ อ่ำนเพิ่มเติมท่ีจัดทำข้ึน เพ่ือใช้เป็นเครื่องมือสำหรับกำรเรียนกำรสอนให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ มีกำรพัฒนำ ผลสัมฤทธ์ทิ ำงกำรเรยี นสูงขน้ึ บรรลุตำมจุดประสงค์กำรเรียนรู้ ในกำรเรยี นกำรสอนโดยใชห้ นงั สอื อำ่ นเพมิ่ เตมิ ครปู ฏบิ ตั ดิ งั นี้

ฌ คำแนะนำสำหรบั ผเู้ รยี น ๑. ศกึ ษำคำชแ้ี จงกำรใช้ สำระสำคัญ และจุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ ๒. ทำแบบทดสอบก่อนเรียน เพื่อวัดพนื้ ฐำนควำมรู้ควำมเขำ้ ใจของผูเ้ รยี นในเรื่องท่ีกำลงั จะเรียน วำ่ อย่ใู นเกณฑใ์ ด ๓. ศึกษำเนอ้ื หำสำระและทำกิจกรรมพฒั นำกำรเรียนรู้ ๔. ทำแบบทดสอบหลังเรียน เพือ่ วดั พน้ื ฐำนควำมร้คู วำมเขำ้ ใจของผู้เรียนวำ่ เพิม่ มำกขึ้นกว่ำ กอ่ นเรียนหรือไม่ ๕. ผเู้ รยี นปฏบิ ัติกิจกรรมดว้ ยควำมตัง้ ใจ มคี วำมรบั ผดิ ชอบ มคี วำมซือ่ สัตยต์ ่อตนเอง ไม่เปดิ ดู เฉลยก่อน เมอื่ เกิดปัญหำให้สอบตำมครูผสู้ อน และหำกทำคะแนนไมผ่ ่ำนเกณฑส์ ำมำรถ กลบั มำทบทวนเนื้อหำสำระและทำใบงำนกจิ กรรมหรอื แบบทดสอบใหมจ่ นผำ่ นเกณฑ์

ญ จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ ๑. บอกประวตั ิควำมเปน็ มำของถ้ำเอรำวณั ไดอ้ ยำ่ งถูกต้อง ๒. บอกท่ตี ้งั และลักษณะทั่วไปของถำ้ เอรำวัณได้ ๓. ปฏิบตั ิตนในกำรดูแลรักษำทรพั ยำกรธรรมชำตแิ ละส่งิ แวดล้อมในทอ้ งถน่ิ ได้ ๔. บอกประโยชน์ของกำรดูแลรกั ษำทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดลอ้ มแลว้ นำไปปฏบิ ตั ิ ในชีวติ ประจำวันไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม

หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ที่ ๕ เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ๑ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เลม่ ที่ ๕ เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ใหน้ กั ศกึ ษากาเคร่อื งหมาย X ทบั หนา้ ขอ้ ทถ่ี กู ตอ้ งทส่ี ดุ เพยี งขอ้ เดยี ว ๑. ถ้าเอราวณั ตงั อยใู่ นพืนที่ต้าบลใด ก. ต้าบลวังทอง ข. ต้าบลหนองบัว ค. ตา้ บลอทุ ัยสวรรค์ ง. ต้าบลหนองสวรรค์ ๒. ชาวบา้ นเรียกบรเิ วณภเู ขาหนิ แขง็ วา่ อะไร ก. ภเู ขาผาถ้าม้า ข. ภูเขาผาถ้าไก่ ค. ภเู ขาผาถา้ ชา้ ง ง. ภูเขาผาถา้ แมว ๓. ต้านานนยิ ายพนื บ้านของถา้ เอราวณั คือเร่ืองใด ก. เรอื่ ง“นางผมหอม” ข. เรอื่ ง“เมาคลีลูกหมาป่า” ค. เร่อื ง“ผาแดงนางไอ่” ง. เร่ือง“กลอ่ งขา้ วน้อยฆา่ แม”่ ๔. ถ้าเอราวัณกนั เขตแดนระหวา่ ง ๒ คอื จงั หวัดใด ก. เลย – เพชรบรู ณ์ ข. เลย – ขอนแก่น ค. เลย – อทุ ัยธานี ง. เลย – หนองบวั ล้าภู

หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ท่ี ๕ เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ๒ ๕. บนั ไดสวรรคถ์ ้าเอราวัณมกี ี่ขัน ก. ๖๑๐ ข. ๖๑๑ ค. ๖๑๒ ง. ๖๑๓ ๖. ถา้ เอราวัณ ตงั อยใู่ นพนื ท่อี า้ เภอใด ก. อา้ เภอนาวัง ข. อา้ เภอนากลาง ค. อา้ เภอศรีบุญเรือง ง. อา้ เภอเมอื งหนองบัวลา้ ภู ๗. ใครเชญิ ชวนผมู้ จี ิตศรทั ธาบรจิ าคทรัพย์สรา้ งวัดถ้าชา้ ง หรอื วดั ถา้ เอราวณั ก. พระครปู ลดั ฝน่ั ข. ผู้ว่าราชการจังหวัด ค. นายอา้ เภอนาวังคนที่ ๒ ง. พระครูปลัดฝน่ั ปาเรสโก ๘. ถา้ เอราวณั ตงั อยทู่ างหลวงหมายเลขใด ก. ทางหลวงหมายเลข ๑๑๐ ข. ทางหลวงหมายเลข ๒๑๐ ค. ทางหลวงหมายเลข ๓๑๐ ง. ทางหลวงหมายเลข ๔๑๐ ๙. ศาลาพกั ชมววิ มีทงั หมดก่แี หง่ ก. ๖ แหง่ ข. ๕ แหง่ ค. ๔ แหง่ ง. ๓ แห่ง ๑๐. ความเชือ่ วา่ ถ้าหากใช้หินมาก่อเปน็ รปู เจดยี ์ ๙ ชนั แล้วจะน้าสิง่ ใดมาให้ ก. จะน้าความสงบสขุ มาให้ ข. จะนา้ ความโชครา้ ยมาให้ ค. จะทา้ ใหเ้ จอหวยมาให้ ง. จะนา้ ความโชคดมี าให้

หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ท่ี ๕ เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ๓ เด่นสกาวถา้ เอราวณั ถ้าเอราวัณ เป็นแหล่งท่องเท่ียวธรรมชาติท่ีโดดเด่นของหนองบัวล้าภู เป็นจุดดึงดูดความสนใจ ของนักท่องเที่ยวตามเส้นทางหนองบัวล้าภู – เลย หรือเส้นทางหลวงหมายเลข ๒๑๐ เช่นกัน แต่เลย จากตัวเมืองผ่านอ้าเภอนากลางไปจนถึงอ้าเภอนาวัง จนอีก ๒ กิโลเมตร จะเข้าเขตอา้ เภอวังสะพุง ของจังหวัดเลยมีทางแยกเข้าถ้าเอราวัณ แหล่งท่องเท่ียวท่ีชาวหนองบัวล้าภูภาคภูมิใจแห่งหน่ึงจนต้อง น้ามาเปน็ คา้ ขวัญจังหวดั วา่ “เด่นสกาวถา้ เอราวัณ” ถ้าเอราวัณตามประวัติความเป็นมาของถ้าอันเป็นมรดกทางธรรมชาติแห่งนีไม่มีหลักฐานว่าผู้ ใด เป็นผู้ค้นพบครังแรกเม่ือใด แต่มีเรื่องเล่าว่า ประมาณปี พ.ศ.๒๑๐๖ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชเจ้า ทรงยก กองทัพออกต่อต้านกองทัพพระเจ้าหงสาวดีของพม่าทรงเสียทีข้าศึกแตกพ่ายย่อยยับพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช จึงรวบรวมเอาแม่ทัพนายกองไพร่พลราษฎรออกเดนิ ทาง หลบหนีไปทางด้านทิศตะวันตก เพ่ือหาสถานท่ี ปลอดภัยหลบซ่อนข้าศึก จนมาถึงบริเวณเทือกเขาผาวัง ซ่ึงมีเขาลูกหน่ึง (ปัจจุบันคือถา้ เอราวัณ) จึงมอบให้เจ้าชายนาเรือ และเจ้าชายวรวงศ์ผู้เป็นพระอนุชา แบ่งก้าลังไพร่พลราษฎรครึ่งหนึ่งประจ้าอยู่ ที่ถ้าเอราวัณเพื่อซ่องสุมก้าลังฝึกทหารและสะสมเสบียงอาหารเก็บไว้ในการท้าศึกสงครามกู้แผ่นดินต่อไป จากนันก็ไม่มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับถ้าเอราวัณอีก จนต่อมา “พระครูปลัดฝ่ันปาเรสโก” ได้ธุดงค์มาพักปฏิบัติ ธรรมอยู่ที่เชิงเขา ท่านเห็นเป็นที่เหมาะสมต่อการท้าความเพียรบ้าเพ็ญภาวนา จึงได้เชิญชวนผู้มีจิต ศรัทธาสร้างวัดขึนเมื่อวันท่ี ๑๐ ธันวาคม ๒๕๑๒ โดยใช้ช่ือว่า “วัดถ้าช้าง” หรือวัดผาถ้าช้างตามชื่อ ภูเขาถ้าชา้ งท่ีชาวบา้ นเรียกกัน

หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ท่ี ๕ เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ๔ เพราะชาวบ้านมองเห็นว่าลักษณะของถ้านีดูไกล ๆ เหมือนช้างหมอบอยู่โดยเฉพาะส่วนที่เป็นปาก ถ้าคล้ายกับหน้าผากของช้าง ต่อมามีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคทรัพย์สร้างรูปป้ันช้างเอราวัณ พาหนะของ พระอินทร์ เอาไว้ตรงเชิงบันไดขึนถา้ จึงเรียกชื่อวัดใหม่ว่า “วัดถา้ เอราวัณ” และเรียกช่ือของถ้าว่า “ถ้าเอราวัณ”เพื่อให้สอดคล้องกันตังแต่นันมา วัดถ้าเอราวัณ ตังอยู่บ้านผาอินทร์แปลง ต้าบลวังทอง อ้าเภอนาวัง จังหวัดหนองบัวล้าภู เป็นวัดสังกัดธรรมยุตินิกาย ภายในวัดนอกจากจะเป็นวัดท่ีมีความ สงบร่มร่ืนแล้ว ยังมีถ้าเอราวัณแหล่งท่องเท่ียวทางธรรมชาติที่สวยงาม และขึนชื่อของจังหวัด หนองบัวล้าภู เดิมการเที่ยวก็ค่อนข้างทุลักทุเล เพราะต้องป่ายปีนมุดตรงโน้นตรงนีอยู่เป็นประจ้า ทังยังต้องมีไฟฉายหรอื ตะเกยี งเจ้าพายุสอ่ งสวา่ งนา้ ทางเข้าถ้าที่มดื สนทิ แต่ปจั จุบันการเขา้ ถ้าไดร้ ับความ สะดวกสบายจากการที่มีผู้บริจาคทรัพย์ให้วัดถ้าเอราวัณ สร้างบันไดปูนซีเมนต์วนไปตามทางชันของเขา อย่างมีศิลปะจ้านวนถึง ๖๑๑ ขัน พอก้าลังรู้สึกว่าหัวใจเต้นเป็นจังหวะจะถึงปากถ้าพอดี พักเหน่ือย สักครู่ด้วยการไปไหว้พระพุทธรูปองค์ใหญ่ท่ีมีนามว่า “พระพุทธชัยศรีมหามุนีตรีโลกนาถ” ซึ่งมีพุทธ ลักษณะได้สัดส่วนงดงาม สร้างในปี พ.ศ.๒๕๑๙ สมเด็จพระมหาวีรวงค์วัดพระศรีมหาธาตุเป็นผู้ถวาย พระนาม หากหันหน้าไปทางเดียวกับพระพุทธรูป จะมองเห็นหมู่บ้านผาอินทร์แปลงอยู่เบืองล่างไกล ออกไปคือ ผาหมูบ ผาผีถอน และผานาง ซ่ึงผานาง ชาวบ้านก็เรียกตามภูเขาที่มีหนิ สีขาวอยู่ตรงหน้า ผาเหมือนผู้หญิง แถมยงั เก่ียวเนอื่ งกบั ถา้ เอราวณั และนทิ านพืนบา้ นเรื่องนางผมหอมด้วย ความงดงามภายในถา้ เอราวัณสวยงามน่าทึ่งสมกับที่ชาวเมืองนีเขาภูมิใจทีเดียวโดยเฉพาะถ้า ทใี่ หญโ่ ตมโหฬารอย่างกับท้องพระโรงใหญ่ มีหนิ งอกหนิ ย้อยรปู ร่างสวยงามแปลกตาแลว้ แตจ่ ินตนาการ ของผู้เห็น บริเวณส่วนกลางถ้าท่ีสูงและลึกมากสามารถชมความงามของหินงอกหินย้อยได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะทางด้านหลังถ้ายังมีช่องทะลุเพดานกว้างประมาณ ๓ เมตรเศษ ได้มีการท้าบันไดไม้ห่าง ๆ ให้เดินขึนไปชมวิวทิวทัศนเ์ บอื งลา่ งอีกมมุ หน่งึ

หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ที่ ๕ เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ๕ ท่ีตังและลักษณะท่ัวไปของถ้าเอราวัณ ตังอยู่บนภูเขาหินแข็ง ชาวบ้านเรียกภูเขานวี ่า ผาถ้าชา้ ง เพราะเมื่อมองจากท่ีไกลแล้วเห็นภเู ขาลูกนี มลี ักษณะเหมอื นกบั ช้างหมอบและเมือ่ มองจากบริเวณทางเข้า ก่อนจะถึงวัด จะเห็นหนา้ ผามลี ักษณะเหมือนกับหน้าผากของชา้ งเหตุที่เรียกกันอย่างนัน เพราะชาวบ้าน แถบนีมักเรียกช่ือภูเขาลูกต่าง ๆ ท่ีพบเห็นตามลักษณะเช่นภูเขามีหินสีขาวอยู่หน้าผาเหมือนกับผู้หญิง ก็เรียกว่า “ผานาง” หรือภูเขาที่มีช่องมีโพรงถูกเจาะจนทะลุก็เรียกว่า “ผาเจาะ” ภูเขาท่ีมีต้นยาเกิดอยู่ ตามผามากก็เรียกว่า “ผายา” อย่างนีเป็นต้น ส่วนบนของผาถ้าช้างเป็นหินแข็งแหลมคมขรุขระเป็น ก้อนเลก็ ก้อนนอ้ ย ทงั มถี า้ กระจายอย่ทู ัว่ ไป แตไ่ ม่ใหญโ่ ตสวยงามอย่างถ้าเอราวณั ซง่ึ โดยมากเปน็ ท่อี ยู่ อาศัยของฝงู ค้างคาว ภเู ขาผาถา้ ช้าง ท่ตี ังของถา้ เอราวัณ เป็นภูเขาทไี่ ม่สูงมากนักทอดตัวยาวสลับซับซอ้ น กันเขตแดน ของสองจังหวัดเอาไว้คือ อยู่รอยต่อของอ้าเภอวังสะพุง จังหวัดเลย กับอ้าเภอนาวัง จังหวัด หนองบัวล้าภู แต่ก่อนขึนกับอ้าเภอนากลาง จังหวัดอุดรธานี เคยมีกรณีพิพาทในเขตแดนการปกครอง ของสองจังหวัดกันมานานพอสมควร โดยทางจังหวัดเลยอ้างว่า ถ้าเอราวัณ ภูเขาผาถ้าช้าง ควรจะเปน็ ของจังหวัดเลย ทางจังหวัดอุดรธานมี หี ลักฐานที่มั่นคงน่าเช่ือถือมากกว่า จึงเป็นฝ่ายได้ครอบครองเป็น เจ้าของพืนท่ีนี จึงได้ก้าหนดให้ภเู ขาผาถ้าช้าง ถ้าเอราวัณอยู่ในเขตปกครองของผาอินทร์แปลง ต้าบลวังทอง อ้าเภอนาวัง จังหวดั หนองบวั ล้าภู ในปัจจุบนั

หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ที่ ๕ เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ๖ หลกั ฐานทางโบราณคดสี มยั ประวตั ศิ าสตร์ ถ้าเอราวัณพบหลักฐานท่ีแสดงให้เห็นว่ามีการใช้พืนที่ในสมัยรัตนโกสินทร์ คือ พระพุทธชัยศรีมหามุนีตรี โลกนาถและพระพทุ ธรปู ตา่ งๆ นอกจากนีถ้าเอราวัณยังเก่ียวขอ้ งกบั นทิ านพืนบ้านเรอ่ื งนางผมหอมด้วย ๑. ช้างเอราวัณ อยู่บริเวณเชิงบันไดก่อนขึน ไปถ้าเอราวัณ ที่ฐานเขียนไว้ว่า “เริ่ม สรา้ ง ๒๑ พ.ค. ๒๕๑๖”และ“สร้างเสร็จ ๓๑ ม.ค. ๒๕๑๗” โดยผู้มีจิตศรัทธาได้ รว่ มกนั บรจิ าคทรัพย์สรา้ งขึนมา ๒. พระพทุ ธชัยศรมี หามุนีศรีโลกนาถ พระพทุ ธรูปขนาดใหญอ่ ยบู่ ริเวณปากทางเข้าถา้ ปางมารวชิ ยั ชายสงั คาฏิสนั ประทบั บนฐานบัวคว่้า บัวหงาย ดา้ นหน้ามีเชิงเทยี นและพระพทุ ธรปู ขนาด เล็ก ๑๒ องค์ ท้าปางสมาธิ เชิงเทียนสลักว่า “ศรสี ขุ ประเสรฐิ การชา่ ง อดุ รธานี ถวาย ๒๔ ก.ค. ๒๘” ความสูงจากฐานถึงเศียร ๑๔.๑๒ เมตร ความกว้างจากฐานทังสองด้าน ๑๐.๒๘ เมตร และขนาดหน้าตักกวา้ ง ๗.๔ เมตร สร้างเม่ือปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ๓.) พระพุทธรูปบริเวณโถงด้านหน้า บริเวณท่ีเรียกว่า “พระพุทธรูปในถ้า” เป็นพระพุทธรูปไม้ และส้าริดขนาดเล็กหลายองค์ เป็นศิลปะล้านช้าง ประดิษฐานอยู่บนฐานบัวคว่้าบัวหงายสร้างจาก ปูนซีเมนต์ทับบนหินงอก ความสูงจากพืนถึงฐาน ๓.๕๗ เมตร พระพุทธรูปท่ีอยู่องค์กลาง เป็นองค์ ใหญ่สุด สร้างจากส้ารดิ ท้าปางสมาธิ ขัดสมาธิราบ ที่ฐานเขียนวา่ “พระจันโทปมาจารย์ ๑๓ เม.ย. ๒๕๑๓”

หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ท่ี ๕ เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ๗ สภาพธรณีวทิ ยาภายในถา้ ป ร ะ เ ภ ท ข อ ง ถ้ า เ อ ร า วั ณ เ ป็ น ถ้ า กึ่ ง แ ห้ ง เนื่องจากบางส่วนยังมีการเกิดของหินงอก และหิน ย้อยอยู่ และบางส่วนแห้งแล้ว ตังอยู่ท่ีต้าบลวังทอง อ้าเภอเอราวัณ จังหวัดหนองบัวล้าภู มีลักษณะภูมิ ประเทศแบบหนิ ปนู (Karst topography) มลี ักษณะ ทางธรณีวิทยา ประกอบด้วยหินแข็งยุคเพอร์เมียน (Permian: P1) หินท่ีพบในพืนที่ประกอบด้วยหินปูน (Limestone) หินปูนโดโลไมต์เนือสีเทาจาง (Dolometic Limestone) หินปูนท่ีมีเชิร์ตแทรกตามแนว รอยแตก (Limestone and Chert Nodule) หินยคุ นีอยู่ในชว่ งอายุประมาณ ๒๕๐ – ๓๐๐ ลา้ นปี พบซากดกึ ดา้ บรรพข์ องส่งิ มีชวี ิตท่อี าศัยอยูใ่ นทะเลจา้ นวนมากพวกพลบั พลงึ ทะเล (Crinoids) ปากทางเขา้ ถ้าสูงจากระดับนา้ ทะเลปานกลาง ๓๔๑ เมตร และปากปล่องแสงอีกฝ่ัง (จุดชมวิว) สูงจากระดับน้าทะเล ปานกลาง ๔๔๘ เมตร แนวโถงถ้ามีความยาวรวม ๓๖๘.๔ เมตร ประกอบด้วย โซนถ้ามีแสงส่องถึง และถ้ามืด เป็นโถงท่ีมีแนวต่อกัน มีทิศทางการวางตัวอยู่ในแนวเหนือ-ใต้ แร่ทุติยภูมิท่ีพบเป็นแร่แคล ไซต์ (calcite) ได้แก่ หินย้อย เสาหิน และตะกอนภายในถ้า ได้แก่ เศษหินถล่มจากหินน้าไหล และ หินปูน พบหลกั ฐานท่แี สดงถึงววิ ฒั นาการของถา้ จ้านวนมาก เช่น ระดับพนื ถ้าเกา่ หนิ ถล่มขนาดเลก็ และ ใหญ่จา้ นวนมาก พบแนวหลุมยุบเป็นแนวยาว ๓๑.๑ เมตร ลึกเฉลี่ย ๒.๕ เมตร

หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ท่ี ๕ เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ๘ ถา้ เอราวัณนีมีนิทานพืนบ้านเร่ือง “นางผมหอม” เล่าโดยสรุปได้ว่า นางผมหอมเป็นหญิง ท่ีสวยงามมากมีผมที่ยาวหอม นางผมหอมนีมบี ิดาเป็นพญาช้างใหญ่ นางผมหอมเมื่อถึงเวลาเลือกคนู่ นั นางได้เอาเส้นผมของนางใส่ผอบลอยน้า แล้วตังสัตย์อธิษฐานว่า ชายใดเป็นเนือคู่ขอให้เก็บผอบนีได้ และ “ขุนไทย” เจ้าชายเมืองเบญจางค์เก็บผอบได้และตามหานางผมหอมจนพบ และได้แต่งงานกับ นางผมหอมและพานางผมหอมกลับเมืองเบญจางคค์ รองคู่ อยทู่ เี่ มอื งเบญจางค์จนสินอายุ

หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ท่ี ๕ เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ๙ กจิ กรรมพฒั นาการเรยี นรู้ ใหน้ กั ศึกษาตอบคา้ ถามตอ่ ไปนี โดยเขยี นคา้ ตอบลงในชอ่ งวา่ งท่ีกา้ หนดให้ ๑. กจิ กรรมที่ ๑ “ร้รู อบ...ตอบได้” ให้นักศกึ ษาเขยี นคา้ ตอบลงในช่องวา่ งที่ก้าหนดให้ แลว้ ตรวจคา้ ตอบ จากเฉลยคา้ ตอบทา้ ยเล่ม ๒. กิจกรรมท่ี ๒ “แผนผังความคิด” ให้นักศึกษาสรุปเหตุการณ์หรืออันตรายท่ีอาจเกิดขึน เมอ่ื ตดิ อยใู่ นถ้า แล้วตรวจค้าตอบ จากเฉลยคา้ ตอบทา้ ยเลม่ ๓. ใหน้ ักศกึ ษาน้าคะแนนท่ไี ด้ไปเปรียบเทียบกับเกณฑป์ ระเมนิ ระดับความสามารถ เพอื่ ประเมินว่า นักศึกษามีความสามารถอยู่ในระดับใด แล้วน้าทังคะแนนและระดับความสามารถ ใส่ไว้ใน ตารางประเมนิ ความสามารถ ซ่งึ อยตู่ อนท้ายของกจิ กรรม

หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ที่ ๕ เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ๑๐ กจิ กรรมท่ี ๑ “รรู้ อบ...ตอบได”้ ใหน้ กั ศกึ ษาตอบค้าถามต่อไปนี โดยเขยี นคา้ ตอบลงในช่องว่างท่ีกา้ หนดให้ ๑. ประวตั ิความเปน็ มาของถา้ เอราวณั ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ๒. ทตี่ ังและลักษณะท่ัวไปของถา้ เอราวณั ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ๓. หลักฐานทางโบราณคดีสมัยประวตั ิศาสตรท์ ่ีพบทถ่ี า้ เอราวัณ ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ๔. ลักษณะทางธรณวี ิทยาภายในถา้ เอราวัณ ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ๕. บอกขันตอนและขอ้ ควรปฏิบัติส้าหรับการเตรียมตวั กอ่ นเที่ยวถา้ ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ………………………………………………………………………………………………………………......................…………………

หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ที่ ๕ เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ๑๑ กจิ กรรมท่ี ๒ “แผนผงั ความคดิ ” ให้นักศึกษาสรปุ เหตกุ ารณห์ รืออนั ตรายทอี่ าจเกดิ ขึนเมือ่ ติดอยใู่ นถ้าลงในแผงผังความคิด ( Mind Mapping ) อนั ตราย ทพี่ บไดใ้ นถา้

หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ที่ ๕ เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ๑๒ ตรวจคา้ ตอบ กจิ กรรมที่ ๑ “รรู้ อบ...ตอบได”้ ๑. ไม่มีหลักฐานว่าผู้ใดเป็นผู้ค้นพบครังแรกเมื่อใด แต่มีเร่ืองเล่าว่า ประมาณปี พ.ศ.๒๑๐๖ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชเจ้า ทรงเสียทีข้าศึกจึงรวบรวมเอาแม่ทัพนายกองไพร่พลราษฎรออกเดินทาง หลบหนีไปทางด้านทิศตะวันตก เพื่อหาสถานท่ีปลอดภัยหลบซ่อนข้าศึก จนมาถึงบริเวณเทือกเขาผาวัง ซึ่งมีเขาลูกหน่ึง (ปัจจุบันคือถ้าเอราวัณ) จึงแบ่งไพร่พลราษฎรคร่ึงหน่ึงประจ้าอยู่ท่ีถ้าเอราวัณ เพ่ือซ่อง สุมก้าลังฝึกทหารและสะสมเสบียง ต่อมาได้มี “พระครูปลัดฝน่ั ปาเรสโก” ไดธ้ ุดงค์มาพกั ปฏบิ ตั ิธรรมอยู่ ท่ีเชิงเขา ท่านเห็นเป็นที่เหมาะสมต่อการท้าความเพียรบ้าเพ็ญภาวนา จึงได้เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาสร้าง วดั ขึนเม่ือวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๑๒ โดยใช้ช่อื วา่ “วัดถา้ ชา้ ง” ๒. ถ้าเอราวัณ ตังอยู่บนภูเขาหินแข็ง ชาวบ้านเรียกภูเขานีว่า ผาถ้าช้าง เพราะเมื่อมองจากที่ ไกลแล้วเห็นภูเขาลูกนี มีลักษณะเหมือนกับช้างหมอบและเม่ือมองจากบริเวณทางเข้าก่อนจะถึงวัด จะเห็นหน้าผามีลักษณะเหมือนกับหน้าผากของช้าง ส่วนบนของผาถ้าช้างเป็นหินแข็งแหลมคมขรุขระเป็น ก้อนเล็กก้อนนอ้ ย ทังมีถา้ กระจายอยทู่ ัว่ ไป แตไ่ ม่ใหญโ่ ตสวยงามอยา่ งถา้ เอราวัณ ซึง่ โดยมากเป็นทีอ่ ยู่ อาศยั ของฝงู ค้างคาว ๓. ถา้ เอราวัณพบหลกั ฐานที่แสดงใหเ้ หน็ วา่ มกี ารใช้พนื ท่ใี นสมยั รตั นโกสนิ ทร์ คือ พระพทุ ธชัยศรี มหามุนีตรโี ลกนาถและพระพุทธรูปตา่ งๆ ๔. ลักษณะทางธรณีวิทยา ประกอบด้วยหินแข็งยุคเพอร์เมียน (Permian: P๑) หินปูน (Limestone) หินปูนโดโลไมต์เนือสีเทาจาง (Dolometic Limestone) หินปูนท่ีมีเชิร์ตแทรกตามแนว รอยแตก (Limestone and Chert Nodule) หนิ ยุคนอี ยใู่ นช่วงอายปุ ระมาณ ๒๕๐ – ๓๐๐ ล้านปี

หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ท่ี ๕ เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ๑๓ ตรวจคา้ ตอบ กจิ กรรมที่ ๒ “แผนผงั ความคดิ ” ๑. ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สงู กว่าปกติ ๒. อณุ หภูมิของรา่ งกายลดตา้่ กว่าปกติ ๓. น้าท่วมอย่างฉบั พลัน ๔. การหลงทางภายในถ้า ๕. อุปกรณม์ ปี ัญหา ชา้ รุด ไม่เพยี งพอ ๖. อนั ตรายจากอุบตั เิ หตุ

หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ที่ ๕ เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ๑๔ เกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั ความสามารถ/คะแนน ๓๙ – ๔๕ ดมี าก ๓๑ – ๓๘ ดี ๒๕ – ๓๐ พอใช้ ๐ – ๒๔ ตอ้ งปรบั ปรงุ บนั ทกึ ผลการประเมนิ ตนเอง กิจกรรมที่ คะแนนท่ีได้ ๑. (๑๐ คะแนน) ๒. (๑๐ คะแนน) รวม

หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ที่ ๕ เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ๑๕ แบบทดสอบหลงั เรยี น เลม่ ที่ ๕ เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ใหน้ กั ศึกษากาเครอื่ งหมาย X ทบั หนา้ ขอ้ ที่ถกู ตอ้ งทสี่ ดุ เพยี งขอ้ เดยี ว ๑. ถ้าเอราวณั ตังอยใู่ นพืนทตี่ ้าบลใด ก. ตา้ บลวงั ทอง ข. ตา้ บลหนองบวั ค. ตา้ บลอุทยั สวรรค์ ง. ตา้ บลหนองสวรรค์ ๒. ชาวบ้านเรยี กบรเิ วณภเู ขาหนิ แข็งว่าอะไร ก. ภูเขาผาถา้ ม้า ข. ภเู ขาผาถ้าไก่ ค. ภูเขาผาถา้ ช้าง ง. ภูเขาผาถ้าแมว ๓. ตา้ นานนิยายพนื บ้านของถา้ เอราวณั คือเร่อื งใด ก. เรอื่ ง“นางผมหอม” ข. เรอื่ ง“เมาคลีลูกหมาป่า” ค. เรอ่ื ง“ผาแดงนางไอ่” ง. เร่อื ง“กล่องข้าวนอ้ ยฆ่าแม”่ ๔. ถ้าเอราวัณกันเขตแดนระหว่าง ๒ คือจังหวัดใด ก. เลย – เพชรบูรณ์ ข. เลย – ขอนแก่น ค. เลย – อุทัยธานี ง. เลย – หนองบวั ลา้ ภู

หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ท่ี ๕ เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ๑๖ ๕. บนั ไดสวรรค์ถา้ เอราวัณมีก่ขี นั ก. ๖๑๐ ข. ๖๑๑ ค. ๖๑๒ ง. ๖๑๓ ๖. ถ้าเอราวัณ ตงั อยใู่ นพืนทีอ่ ้าเภอใด ก. อ้าเภอนาวงั ข. อา้ เภอนากลาง ค. อา้ เภอศรีบุญเรือง ง. อา้ เภอเมืองหนองบวั ล้าภู ๗. ใครเชิญชวนผ้มู จี ิตศรัทธาบริจาคทรัพยส์ รา้ งวัดถ้าช้าง หรือวัดถา้ เอราวัณ ก. พระครปู ลัดฝั่น ข. ผูว้ า่ ราชการจังหวัด ค. นายอ้าเภอนาวัง ง. พระครูปลัดฝัน่ ปาเรสโก ๘. ถา้ เอราวัณ ตังอยทู่ างหลวงหมายเลขใด ก. ทางหลวงหมายเลข ๑๑๐ ข. ทางหลวงหมายเลข ๒๑๐ ค. ทางหลวงหมายเลข ๓๑๐ ง. ทางหลวงหมายเลข ๔๑๐ ๙. ศาลาพักชมวิวมที งั หมดก่ีแห่ง ก. ๖ แห่ง ข. ๕ แห่ง ค. ๔ แห่ง ง. ๓ แห่ง ๑๐. ความเชื่อว่าถ้าหากใชห้ นิ มาก่อเปน็ รปู เจดีย์ ๙ ชนั แล้วจะนา้ สิ่งใดมาให้ ก. จะนา้ ความสงบสุขมาให้ ข. จะนา้ ความโชคร้ายมาให้ ค. จะทา้ ใหเ้ จอหวยมาให้ ง. จะน้าความโชคดีมาให้

หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ท่ี ๕ เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ๑๗ เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรียน เลม่ ท่ี ๕ เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ขอ้ คา้ ตอบ ๑ก ๒ค ๓ก ๔ง ๕ข ๖ก ๗ง ๘ข ๙ง ๑๐ ง

หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ท่ี ๕ เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ๑๘ บรรณานุกรม การทอ่ งเที่ยวแหง่ ประเทศไทย. สถานทที่ ่องเท่ียว ถ้าเอราวณั [ออนไลน์]. https://thai.tourismthailand.org/สถานท่ีท่องเท่ยี ว/ถา้ เอราวณั --๓๔๓๐ กลุ่มงานยุทธศาสตรแ์ ละขอ้ มลู เพอ่ื การพฒั นาจงั หวดั ส้านกั งานจังหวดั . จังหวดั หนองบวั ล้าภู-นาวัง [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก http://www. nongbualamphu.go.th/๓๙๐/ สบื ค้นวันท่ี ๑๘ มถิ ุนายน ๒๕๖๐. จงั หวัดหนองบัวล้าภู. วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัตศิ าสตร์ เอกลกั ษณแ์ ละภูมปิ ญั ญา จังหวดั หนองบวั ลา้ ภู. ฉะเชงิ เทรา : บรษิ ัท โรงพิมพ์ประสานมิตร, ๒๕๔๙. วิกีพเี ดียสารานุกรมเสรี. จงั หวัดหนองบวั ล้าภู [ออนไลน]์ . เข้าถึงไดจ้ าก http://th.wikipedia.org/wiki/จังหวดั หนองบัวล้าภู สบื คน้ วนั ที่ ๑๘ มถิ ุนายน ๒๕๖๐. สา้ นักงานวฒั นธรรมจังหวัดหนองบวั ลา้ ภ.ู แหลง่ ท่องเที่ยว...ทางธรรมชาติ และวฒั นธรรม จังหวดั หนองบัวล้าภู. หนองบวั ล้าภู : ส้านกั งานวฒั นธรรมจงั หวัดหนองบัวล้าภ,ู มปป. สา้ นกั งานนโยบายและแผนทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. ถา้ เอราวัณ-หนองบัวลา้ ภู [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก www.onep.go.th/thailandnaturalsites/ resourcedetail.php?geo_code=NBP๑...๕

หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ท่ี ๕ เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ๑๙ ประวตั ผิ จู้ ดั ทา้ ชอ่ื นางนวพรรษ จันทราทูล วนั เดอื น ปเี กดิ ๒๒ กรกฏาคม ๒๕๑๗ สถานท่ที า้ งาน ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อา้ เภอเมืองหนองบัวล้าภู ส้านักงาน กศน. ส้านกั งาน กศน.จังหวดั หนองบัวลา้ ภู ส้านักงานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธิการ ประวตั ิการศึกษา พ.ศ. ๒๕๓๙ ประกาศนยี บตั รวิชาชพี ครู มหาวิทยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. ๒๕๔๐ ปริญญาตรีศิลปศาสตร์บัณฑิต (บรรณารกั ษศาสตร์และสารนเิ ทศศาสตร)์ พ.ศ. ๒๕๕๔ ปรญิ ญาโทศกึ ษาศาสตร์มหาบัณฑิต (การบริหารการศกึ ษา) ประวตั ริ บั ราชการ พ.ศ. ๒๕๔๔ ต้าแหนง่ บรรณารักษ์ ๓ หอ้ งสมดุ ประชาชนอ้าเภอศรีบญุ เรือง ศูนย์การศึกษานอกโรงเรยี นจงั หวัดหนองบวั ล้าภู พ.ศ. ๒๕๕๗ ตา้ แหน่งครู คศ.๓ ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอา้ เภอแม่แจ่ม ส้านกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย จงั หวดั เชยี งใหม่ พ.ศ. ๒๕๕๙ ต้าแหนง่ ครู คศ.๓ ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อ้าเภอเมอื งหนองบัวลา้ ภู สา้ นักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย จังหวดั หนองบัวลา้ ภู ผลงานดเี ดน่ รางวลั ครุ ุสดดุ ี ดา้ นครูผ้สู อนดเี ด่น ประจา้ ปี ๒๕๕๙


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook