แหล่งเรียนรูอ้ อนไลน์ กศน.ตำบลลำภู ศูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยอำเภอเมอื งหนองบวั ลำภู สำนักงำนสง่ เสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัย จงั หวัดหนองบวั ลำภู
สถำนท่ีทอ่ งเทย่ี ว วัดศรีคูณเมือง เดิมชื่อ “วัดคนชุมนำ้ ออกบ่อ” เป็นวัดเก่ำแก่ที่สร้ำงด้วยศิลปะสมัยขอมและละว้ำ ปรำกฏหลักฐำนทำงประวัติศำสตร์เป็นใบเสมำหินภูเขำ มีพระอุโบสถอันเก่ำแก่และยังมี พระพุทธรูปในสถูป คือ “หลวงพ่อพระไชยเชษฐำ” เป็นพระพุทธรูปศิลปะล้ำนช้ำง ประดิษฐำนในพระธำตุ มีศิลปะคล้ำยกับพระธำตุศรีสองรัก จังหวัดเลย สันนิษฐำนว่ำพระ ไชยเชษฐำธิรำชทรงสร้ำงไว้ในช่วงเวลำเดียวกันกับวัดถ้ำสุวรรณคูหำ ปัจจุบันทำงวัดศรี คูณเมืองได้สร้ำงศำลำครอบพระธำตุไว้อีกชันหนึ่ง นอกจำกนีภำยในวัดยังมีบ่อน้ำก่อด้วยอิฐขนำดเดียวกับกำ้ แพงเมืองนครเข่ือนขันธ์ กำบแก้วบัวบำน ขนำดเส้นผ่ำนศูนย์กลำง 2 เมตร ลึกประมำณ 50 เมตร มีน้ำใสสะอำด ตลอดปี สันนิษฐำนว่ำสร้ำงในสมัยพระเจ้ำไชยเชษฐำธิรำช เม่ือ พ.ศ.2106 ถือว่ำเป็นบ่อน้ำ คู่บ้ำนคู่เมือง เวลำมีพระรำชพิธีและพิธีสำ้ คัญจะน้ำนำ้ จำกบ่อแห่งนีไปใช้ อำทิ พระรำชพิธี ถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยำ และพิธีเสกนำ้ พระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์
สถำนทท่ี ่องเท่ยี ว วัดมหำชัย พระบำงเป็นพระพุทธรูปปำงห้ำมสมุทร มี 2 องค์คู่กันมีลักษณะเหมือนกันทัง 2 องค์ สร้ำงโดยสำมี-ภรรยำคู่หน่ึง เมื่อประมำณปี 1366 ส่วนวัดมหำชัย เป็นวัดเก่ำแก่ท่ีอยู่ คู่บ้ำนคู่เมืองหนองบัวล้ำภูมำนำน สร้ำงเมื่อประมำณ ปี พ.ศ. 2026 มีชื่อเดิมหลำยช่ือ เช่น วัดมหำธำตุ ไตรภูมิ ในสมัยจ้ำปำนครกำบแก้วบัวบำน ในสมัยพระเจ้ำปำงค้ำ มีวัดอยู่ 4 วัด ไดแ้ ก่ วดั มหำธำตไุ ตรภูมิ (วัดมหำชัย) วัดคนชุมน้ำออกบ่อ (วัดศรีคูณเมือง) วัดพระเรืองขัย สมสะอำด (วัดโพธิ์ชัยสมสะอำด) วัดศรีสุมังค์หำยโศก (วัดโพธ์ิศรี) สมัยนันเจ้ำเมืองได้ไป นมสั กำรนิมนต์ ญำทำ่ นแสง (พระอำจำรย์ แสง ธมมธีโร เจ้ำอำวำสรูปแรก) มำจ้ำพรรษำท่ี วัดมหำชัย ญำท่ำนแสงเป็นพระคณะธรรมยุตรูปเดียว จำกมณฑลเมืองอุดร ประมำณปี 2440 ญำท่ำนแสง ได้ท้ำกำรพัฒนำวัดมหำชัย สร้ำงหอไตรกลำงน้ำตำมหลักภูมิปัญญำใน สมัยนันเพื่อป้องกันปลวก หอไตรท่ีสร้ำงในปี 2450 ก็ยังคงอยู่ในวัดมหำชัยดังท่ีเห็นอยู่ทุก วนั นี และเปน็ สว่ นหนง่ึ ของค้ำขวัญประจำ้ จงั หวดั หนองบวั ลำ้ ภดู ้วย นอกจำกนนั ในวัดยังมีพระ ธำตุบรรจุอัฐิเจ้ำเมืองหนองบัวล้ำภู 3 องค์ด้วยกัน ชำวบ้ำนเรียกพระธำตุนีว่ำ พระธำตุไตร ภูมิ ปจั จุบนั ได้ช้ำรุดหกั พังลงจนแทบไมเ่ หลอื แล้ว กลบั มำเล่ำถึงพระบำง 2 องค์ ที่มำประดิษฐำนอยู่ท่ีวัดมหำชัยได้อย่ำงไร ตำมประวัติเล่ำ ว่ำ พระบำง เป็นพระพุทธรูปปำงห้ำมสมุทร สร้ำงด้วยทองสีเหลืองดอกบวบ มีอักษรจีน ปรำกฏท่ีฐำน บอกชอ่ื ผสู้ ร้ำงและวัดเดือนปีท่ีสร้ำง อ่ำนได้ใจควำมว่ำ \"สังกำดได้ร้อยแปดสิบ หำ้ ตวั ปีกำเมด เดือนย่ี แรม 15 ค้่ำ วันหก พอ่ อวน สำมีผัวเมียผู้มีศรัทธำสร้ำงไว้ในศำสนำ\"
จำกส้ำนวนภำษำจำรึกเป็นภำษำไทยล้ำนนำ เพรำะใช้หลักกำรนับปี ศก ตำมแบบอย่ำงจีน และใช้จุลศักรำชอย่ำงไทย เม่ือค้ำนวณเปรียบเทียบแล้ว ปรำกฏว่ำพระบำงสร้ำงเม่ือปี พ.ศ. 1366 ตรงกบั วนั ศุกร์ แรม 15 ค้ำ่ เดอื นย่ี ปมี ะแม คณะลูกหลำยเชือสำยพระวอ-พระตำ เป็น ผู้อัญเชิญพระบำงมำประดิษฐำนไว้ท่ีหนองบัวล้ำภูเพื่อแสดงควำมกตัญญูกตเวทิตำคุณต่อ พระวอ-พระตำ ผู้เป็นบรรพบุรุษ ที่เคยสร้ำงเมืองหนองบัวล้ำภู โดยมำถวำยในครำวฉลอง อโุ บสถวัดประมำณ ปี 2440 พระบำงทงั สององค์จงึ อย่คู วู่ ัดมหำชัย และเป็นพระคู่บ้ำนคู่เมือง หนองบวั ลำ้ ภู มำตรำบเทำ่ ทกุ วนั นี อุโบสถวดั มหำชัย วดั มหำชัยตังอยรู่ มิ หนองบวั ในตัวเมอื งหนองบัวลำ้ ภู เปน็ วดั สำ้ คัญ คู่บ้ำนคู่เมอื งมำตังแตส่ มยั กำรตังเมอื งตำมประวัตทิ ีก่ ลำ่ วมำ ในวัดค่อนข้ำงกวำ้ งขวำง มที ่ี วำ่ งพอควรปกคลุมดว้ ยตน้ ไมใ้ หญ่ ตดิ ก้ำแพงวดั ดำ้ นหนำ้ น่ำจะเปน็ พนื ทท่ี ่ปี ระวตั เิ ลำ่ ถงึ พระ ธำตไุ ตรภภูมิแต่ตอนนแี ทบมองไม่เหน็ อะไรเลย เลยมำเร่มิ ต้นทโี่ บสถ์ แลว้ ก็มวี หิ ำรหลงั เลก็ ๆ อยูด่ ้ำนข้ำงโบสถ์ เป็นวหิ ำรทตี่ งั รูปเหมอื น ญำทำ่ นแสง หรอื พระอำจำรย์ แสง ธมมธีโร เจ้ำ อำวำสรปู แรก ที่ไดพ้ ฒั นำวดั มหำชัยมำตังแต่ พ.ศ.2440
หอไตร 100 ปี เปน็ หอไตรไมส้ ร้ำงอยกู่ ลำงน้ำ ส้ำหรับเกบ็ ตำ้ รำใบลำน พระไตรปฎิ ก ตำ่ งๆ ตำมภูมปิ ญั ญำในกำรเก็บรกั ษำหอไตรไมแ้ ละใบลำน ไมใ่ หป้ ลวกท้ำลำย สรำ้ งขนึ เมอ่ื พ.ศ. 2450 มีอำยกุ ว่ำ 100 ปี หอพระบำง สรำ้ งขึนเพอ่ื เปน็ ที่ประดิษฐำนพระบำง พระพุทธรปู สำ้ คัญคู่บำ้ นคู่เมือง หนองบวั ลำ้ ภู โดยกำรสรำ้ งของกรมศิลปำกรทอ่ี อกแบบใหเ้ ปน็ สถำปตั ยกรรมล้ำนชำ้ ง โดยยึด จำกจำรกึ ใต้ฐำนพระบำงซึง่ เป็นภำษำลำ้ นนำ
พระบำง พระพุทธรปู ปำงหำ้ มสมทุ ร สร้ำงขนึ พรอ้ มกันดว้ ยลักษณะทเี่ หมอื นกันทงั 2 องค์ โดยสำม-ี ภรรยำ ท่ศี รัทธำถวำยไวใ้ นพระพทุ ธศำสนำ เมื่อ พ.ศ. 2366 แล้วก็ได้ กลำยเปน็ พระพทุ ธรปู ประจ้ำค่บู ้ำนคู่เมืองหนองบัวล้ำภู มำจนทกุ วนั นี 13 เมษำยน ของทกุ ปี จะมกี ำรแหพ่ ระบำงตำมประเพณี ท่สี ืบทอดตอ่ กนั มำชำ้ นำน เพอื่ ใหช้ ำวบำ้ นได้สรงนำ้ พระบำง และยังเปน็ กำรขอฝนตำมควำมเชอื่ โบรำณอีกดว้ ย
สถำนทีท่ อ่ งเท่ยี ว วดั โพธ์ิศรีหรือวัดหำยโศก พระรำชศรีสุมงั คห์ ำยโศก(หลวงพอ่ ศรวี ชิ ัย หรือ พระเจ้ำใหญ่) วดั โพธ์ิศรี อำ้ เภอเมอื ง จงั หวัดหนองบัวลำ้ ภู พระรำชศรีสมุ งั ค์หำยโศก เปน็ พระพุทธรปู คูบ่ ำ้ นคเู่ มอื งจังหวัด หนองบวั ลำ้ ภู พทุ ธลักษณะปำงมำรวชิ ยั ขัดสมำธิ รำบ วัสดุปูนป้ันทำสี ทอง ขนำดหนำ้ ตกั กวำ้ ง ๑๘๐ เซนตเิ มตร สงู ๑๙๐ เซนตเิ มตร ศิลปะล้ำนช้ำง ประดษิ ฐำน อยใู่ นพระอโุ บสถวัด โพธิ์ หรือวดั หำยโศก บำ้ นลำ้ ภู ต้ำบลลำ้ ภู อ้ำเภอเมอื ง จังหวดั หนองบวั ลำ้ ภู สรำ้ งเมือ่ พ.ศ. ๒๑๐๖ เป็นพระพทุ ธรปู ศักดิ์สิทธท์ิ ีเ่ จำ้ เมอื งและชำวเมืองหนองบัวลำ้ ภูเคำรพนบั ถอื มำกจำกคำ้ บอกเลำ่ ของผู้เฒำ่ ทเี่ ลำ่ สบื ตอ่ กันมำกล่ำวไวว้ ำ่ หลวงพอ่ ศรวี ชิ ัย(ทช่ี ำวบ้ำนเรยี กกันว่ำพระเจำ้ ใหญ)่ เป็นพระพทุ ธรูปศกั ดิ์สทิ ธ์ิ สำมำรถแสดงปำฏิหำริยช์ ่วยเหลอื ชำวบ้ำนทป่ี ระสบกับ ควำมเดอื ดร้อน มีทุกขม์ ีโศก หรือที่มำขอบนบำน(บ๋ำ) จนหำยทกุ ข์หำยโศกตำมทขี่ อบนไว้ อยำ่ งน่ำอัศจรรย์จำกควำมศักด์ิสทิ ธิ์นีจึงเป็น ที่เลอ่ื งลอื ของชำวบ้ำน แมแ้ ตอ่ ยู่ตำมบำ้ นตำ่ ง เมอื งก็พำกันมำนมสั กำรกรำบไหว้ขอพรกนั อยู่เปน็ ประจ้ำ วดั โพธหิ์ รือวัดหำยโศก สรำ้ งขนึ เมื่อประมำณ พทุ ธศกั รำช ๒๓๑๐ ตังแต่สมัยกรงุ ศรี อยธุ ยำเปน็ รำชธำนี เมอ่ื ครังเจ้ำนครเวียงจนั ทร์ ได้ยกไพร่พลขำ้ มแมน่ ้ำโขงมำตงั ถนิ่ ฐำน บริเวณตอนใตข้ องแมน่ ำ้ โขงติดกบั ท่ีรำบสงู ภูพำนประมำณกอ่ น พทุ ธศกั รำช ๒๓๑๐ และ ได้ สร้ำงพระรำชศรีสมุ งั คห์ ำยโศก หรอื หลวงพ่อศรวี ิชยั ไว้ใหพ้ ทุ ธศำสนกิ ชนไดก้ รำบไหว้ นอกจำกนยี งั เปน็ พระประธำนในพิธีถอื น้ำ พระพิพฒั น์สตั ยำ และประกอบพธิ ที ำ้ บุญ แกบ้ น กอ่ นี่จะลงมอื ท้ำไร่นำตำมฤดูกำล
สถำนทีท่ อ่ งเทีย่ ว หอสองนำง “สองนำง” หรอื หอสองนำงท่เี หน็ กนั อยูร่ มิ หนองบวั ในทกุ วนั นี ซึง่ ถอื วำ่ เป็นสถำนทอี่ ีก แห่งหน่ึงท่ีเกิดขนึ มำพรอ้ มกับเมอื งหนองบวั ลำ้ ภู ตังแตอ่ ดตี จนถงึ ปัจจบุ นั โดยท่ีไม่มีผใู้ ดจะ ลบลำ้ งหรอื ทำ้ อยำ่ งหนึ่งอยำ่ งใดได้ ชำวเมืองหนองบัวล้ำภู ถอื ว่ำเป็นสว่ นหนงึ่ คกู่ บั ศำลพระ วอพระตำ เรอื่ งประวตั ิ ควำมเปน็ มำของหอสองนำงวำ่ เปน็ มำอย่ำงไรนนั ผู้เขียนจะเรยี นให้ ทรำบ ในรปู เรอ่ื งเล่ำในตอนทีส่ ำมของประวัติหนองบวั ลำ้ ภู วำ่ สองนำงนมี ปี ระวัติ ควำม เป็นมำอย่ำงไร เกดิ ขึนไดอ้ ยำ่ งไรและท้ำไมจงึ มีหออยู่ริมหนองบวั โดยยอ่ ดงั นี เดมิ นนั เมื่อ ประมำณปี พ.ศ. 2390 หรือหลงั จำกนนั ไมน่ ำนนกั ณ ทสี่ วนหมอ่ น สวนกลว้ ยบริเวณล้ำหว้ ย เชีย่ ง ซง่ึ เปน็ สวนของพอ่ ตู้ “หลวงเมอื งแมต่ มู้ ัน่ ” ชำวบ้ำนกลำงคมุ้ ตะวนั ออกของ ก้ำแพงเมอื ง เกำ่ สวนแห่งนีอยหู่ ำ่ งจำกศำลหลกั เมืองพระวอพระตำปัจจบุ นั ซ่งึ ทำงด้ำนหลังศำลไปทำงทศิ ตะวันตกประมำณ 2-3 เส้น ชำวบ้ำนทงั หลำยเรยี กสวนแหง่ นวี ำ่ สวนท่ำกระแสของพ่อตหู้ ลวง เมืองและแมต่ ู้มนั่ สองผัวเมียมลี ูกสำวอยหู่ นงึ่ คนชอ่ื ว่ำแกว้ แตง่ งำนกนั ไปเกบ็ ใบหมอ่ นและ ถำงหญำ้ ในสวนท่ำกระแสตำมปกตทิ เี่ คยทำ้ กนั มำเปน็ ประจำ้ หลังจำกที่นำงแก้วเก็บใบหมอ่ น เสร็จแล้ว จงึ ไปอำบน้ำทท่ี ำ่ กระแสในหว้ ยเชียง และในกำรอำบนำ้ ในครำวนนั คิดว่ำสมควรแลว้ จงึ ขึนจำกน้ำ แตท่ นั ใดนนั เหตกุ ำรณป์ ระหลำดกเ็ กิดขนึ กับนำงแกว้ เหตุกำรณ์นีเกดิ ขึนเหนอื ควำมคำดหมำยโดยทม่ี งี ใู หญ่มำรัดขำทังสองขำ้ งของนำงแกว้ ไว้ จะก้ำวขำหรอื ขยับเยือนไป
ทำงใดก็ไม่ได้ เมือ่ เจอเหตกุ ำรณ์เชน่ นี นำงแก้วจงึ รสู้ ึกกลัวและตกใจเป็นอนั มำก และพยำยำม ชว่ ยเหลอื ตัวเอง ทกุ วถิ ีทำง แต่ก็ท้ำอะไรไม่ไดเ้ ลย นำงจงึ ร้องเรยี กสำมที ่ีก้ำลังถำงหญำ้ อยู่ ท้ำยสวน แต่รอ้ งเรียกเทำ่ ใดสำมกี ไ็ มข่ ำนรับเสยี เพรำะอยู่ไกลมำก หรอื เพรำะสำเหตใุ ด ก็ไม่ ทรำบ ในขณะนนั นำงจันดำผูเ้ ป็นเพอ่ื นและมสี วนอยู่ใกล้กนั เมื่อไดย้ นิ เสยี งรอ้ งจึงจำ้ ไดว้ ่ำเปน็ เสยี งของนำงแกว้ และจบั ใจควำมวำ่ เปน็ เสยี งท่ไี มป่ กติ นำงจนั ดำจงึ รีบเดนิ ตำมเสียงไป เมอื่ ไปถึงลำ้ หว้ ยเชยี งกเ็ หน็ นำงแก้วอยู่ในลำ้ น้ำ จึงถำมวำ่ เกดิ อะไรขนึ ทำ้ ไมไมย่ อมขนึ จำกนำ้ เสยี ที นำงแกว้ ตอบเพือ่ นไปว่ำ ขนึ ไม่ได้ เพรำะมีงใู หญร่ ัดขำทงั สองข้ำงเอำไว้ นำงจันดำเม่ือทรำบ ควำมจำกเพ่ือนจงึ รบี ลงไปช่วยเพอ่ื นทันที แตท่ ้ำอยำ่ งไรกไ็ มส่ ำมำรถชว่ ยเพอ่ื นได้ และบอกวำ่ จะรีบไปตำมสำมี มำใหเ้ พอ่ื น เมอ่ื สำมรี ้เู รือ่ งทเ่ี กดิ ขึนกบั ภรรยำของตนจงึ ตกใจมำกก็รบี มำท่ี เกิดเหตทุ ันที แตอ่ ย่ำงไรกไ็ ม่สำมำรถช่วยภรรยำขนึ มำจำกน้ำได้ เมอ่ื เปน็ เช่นนันก็ยิ่งเพ่มิ ควำม วติ กให้แก่สำมีเป็นอันมำก เพรำะไม่ทรำบวำ่ จะทำ้ อยำ่ งไรได้ เพรำะไม่เคยเห็นเหตุกำรณ์เช่นนี มำกอ่ น แตแ่ ลว้ เมอื่ จนปญั ญำเข้ำจรงิ ๆ โดยสญั ชำติญำณกเ็ กิดขนึ ด้วยกำรนกึ ถงึ สิง่ ศักดิ์สทิ ธ์ทิ งั หลำย ซง่ึ ในที่นนั่ ก็เปน็ ทีน่ ำของอำฮกั หลักเมอื งเจำ้ พระตำ เจำ้ พระวอ ท่ีถือเปน็ หลักบำ้ นหลักเมอื งของชำวหนองบัวล้ำภู จึงออ้ นวอนขอควำม ชว่ ยเหลือตอ่ ท่ำน ขอใหภ้ รรยำ ขึนจำกน้ำและเดนิ ทำงกลบั บำ้ นได้ ถ้ำหำกผิดพลำดอย่ำงไรกย็ ินดีจะปฏิบตั ติ ำมทกุ อย่ำง เมอ่ื กลำ่ วขอควำมชว่ ยเหลอื จำกสง่ิ ศักดส์ิ ิทธ์ิจบลงทนั ใดนนั งใู หญ่ทรี่ ดั ขำนำงแกว้ อย่กู ็ คลำยออก และขึนจำกน้ำไดท้ นั ที สร้ำงควำมประหลำดใจให้แก่สำมีและนำงจนั ดำผูเ้ ปน็ เพอ่ื นเป็นอยำ่ ง มำก เม่ือทกุ คนได้สติจงึ พำกนั กลบั เรอื นทนั ที และไดเ้ ลำ่ เรอื่ งรำวทงั หมดใหพ้ ่อแม่และญำตพิ ่ี นอ้ งและเพอ่ื นบ้ำนฟงั โดยตลอด สรำ้ งควำมแปลกใจใหแ้ ก่ผูฟ้ งั ทกุ คนเปน็ อยำ่ งมำก และทกุ คน รวมทังนำงแกว้ กไ็ มท่ รำบสำเหตุมำจำกอะไรและจะท้ำอยำ่ งไร ในทส่ี ดุ ทกุ คนกล็ งควำมเหน็ ว่ำ ควรรอฟงั ไป กอ่ นวำ่ จะมีเหตกุ ำรณ์อะไรเกิดขนึ อีกแล้วจงึ หำทำงแกไ้ ข ตอ่ มำไมน่ ำนนำงแกว้ ก็ เจ็บป่วยดว้ ยอำกำรประหลำด โดยมีอำกำรหวำดกลัวอยูท่ กุ เวลำท้ำทำ่ เหมือนงูใหญม่ ำรดั อยู่ ทุกขณะ เมื่อเป็นเชน่ นันพอ่ แมส่ ำมีและญำตพิ ่ีนอ้ งกล็ งควำมเห็นว่ำน่ำจะมำจำก เหตกุ ำรณ์ ท่ี เกดิ ขนึ ครังนนั แล้วจึงตกลงกนั วำ่ จะต้องให้ยำยค้ำดีท้ำพิธี “สดู่ ”ู ว่ำเกิดมำจำก สำเหตุใด (ทว่ี ำ่ “พิธีสูด่ ู” นเี ปน็ พิธหี น่ึงของพำงนำงเทยี ม หรอื พวกทเี่ ปน็ ตัวแทน ของพระวอ พระตำ ดังทก่ี ล่ำวมำแลว้ ในตอน 2 ของเร่ืองหลกั เมอื ง ขอได้ท้ำควำมเข้ำใจตำมนีเพรำะเป็นกรรมวธิ ี ของทอ้ งถิ่นท่ีพำกนั ทำ้ ขึนเอง ตำมคำ้ บอกกลำ่ ว ของพระวอพระตำดงั กล่ำวมำแล้วนนั เพรำะ สมัยนันมคี วำมเชอื่ ถอื ในเรื่องนีมำจนกลำยเป็พธิ กี รรมของพวก นำงเทยี มมำจนทกุ วนั น)ี เมอื่ ยำยคำ้ ดไี ด้ท้ำพธิ ีสดู่ แู ล้ว ยำยค้ำดไี ดบ้ อกว่ำเรอื่ งทงั หมดเกิดจำก “สองนำง” ท่เี ปน็ หลำนพระ วอพระตำ ทีอ่ ยูร่ มิ หนองบัวทม่ี ำเฝ้ำรกั ษำฆอ้ งเมอื ง “มงิ่ เมือง” ของพระวอพระตำ ซ่ึงเปน็ ฆ้อง ขนำดใหญม่ ำกไม่สำมำรถจะเอำไปได้ เมื่อครำวพำ่ ยศึกทำงเวยี งจนั ทน์ ทำ่ นจงึ ให้คนเอำไปฝัง ไว้ในหนองบัว เพอ่ื ทจ่ี ะไม่ให้ทำงเวยี งจนั ทนเ์ อำคืนไป แลว้ มอบใหห้ ลำนฝำแฝดของท่ำนมำ รักษำฆอ้ งไว้ในโลกแหง่ นำมธรรม ซึง่ ฝำแฝดผพู้ ี่ชื่อ “คำ้ ส”ี คนน้องชือ่ “คำ้ ใส” และกำรท่มี ำ ท้ำกับนำงแกว้ นนั กเ็ พอื่ อยำกไดเ้ พอื่ นและอยำกให้เปน็ ตวั แทนในเมอ่ื มี ผทู้ ำ้ ผิดคดิ รำ้ ยตอ่ ฆอ้ ง มิ่งเมอื งนนั และอยำกมที ี่อยเู่ ปน็ ถำวรพรอ้ มทังเครอ่ื งใช้บำงอยำ่ ง ถำ้ หำกไมท่ ำ้ อย่ำงนกี ค็ งไม่
รู้จักจึงได้มำท้ำอกี โดยกำรท้ำครังแรกอยทู่ ่สี วนทำ่ กระแสในวนั นนั ส่วนสิ่งของท่สี องนำง ตอ้ งกำรมดี ังนี คือ • ให้ท้ำหอใหห้ อหนง่ึ ที่ริมหนองบวั บริเวณตน้ ขำม และให้เป็นหอ ถำวรตลอดไป ใน สมัยนันชำวบำ้ นเรยี กกนั ว่ำ “โพนกกขำมหอสองนำง” • มะพร้ำวท่ีทำ้ เหมอื นกบั รปู ไข่ 2 ลกู (ตำมทอ้ งถิน่ เรยี กว่ำ “บกั พร้ำวสอ้ ม”) พรอ้ ม กล้วยหอม 2 หวี • เรือเงนิ เรือคำ้ อย่ำงละ 1 ลำ้ เทียนเงนิ เทยี นค้ำอยำ่ งละ 1 คู่ คนใช้ชำยหญิงอย่ำงละ 1 คน ก้ำไลแขนผู้หญงิ คนละ 1 คู่ พร้อมทังดอกไม้ของหอมอนื่ ๆ อกี เม่ือทกุ คนได้ยนิ ตำมท่ี ยำยค้ำดเี ล่ำให้ฟงั แลว้ กล็ งควำมเห็นว่ำยนิ ดีปฏิบตั ติ ำมทกุ อยำ่ งขอแต่ให้คนป่วยหำยเปน็ ปกติ เท่ำนนั ยำยคำ้ ดจี ึงไดท้ ำ้ พธิ สี ่ดู ูอีกครงั เพอื่ ควำมแน่ใจหลงั จำกเสร็จพธิ ีครงั ทสี่ องแล้ว ยำยค้ำ ดกี ็บอกทกุ คนในทน่ี ันวำ่ สองนำงพอใจทุกอย่ำงแลว้ บอกว่ำแตน่ ีเป็นตน้ ไปนำงแกว้ จะหำยเป็น ปกติ จำกนันมำนำงแกว้ ก็หำยเปน็ ปกติ ซึง่ สร้ำงควำมประหลำดใจแก่ทุกคนมำก ถอื ไดว้ ำ่ พิธกี รรมนนั เปน็ พธิ ีกรรมหนง่ึ ของท้องถน่ิ ท่ีใชก้ นั มำจนทกุ วนั นตี อ่ มำเม่ือ ถงึ วันเวลำฤกษง์ ำม ยำมดี สำมญี ำตพิ นี่ อ้ งของนำงแกว้ กพ็ ำกันไปยกหอขนึ ในสถำนที่ท่ยี ำยค้ำดีบอก พรอ้ ม ส่งิ ของต่ำง ๆ ทงั หมด เอำไปไวท้ ีห่ อตำมทน่ี ำงต้องกำรทกุ อย่ำง นับตังแต่วนั นันเปน็ ตน้ มำกม็ ี หอสองนำงเคยี งขำ้ งหนองบัวจนถงึ ทุกวันนี อนึ่งเครือ่ งประกอบในกำรแกบ้ นนนั เรอื เงนิ เรือ ค้ำ ท้ำด้วยกำบกลว้ ยแลว้ ทำด้วยสเี งนิ สที อง คนใช้ชำยหญงิ นนั ท้ำด้วยกำบกล้วยเช่นกัน โดยสมมตุ ใิ หเ้ ป็นผ้ชู ำยเทำ่ นัน ก้ำไลแขนผหู้ ญงิ ทำ้ ดว้ ยก้ำนเขำขำว (ตน้ หมำกเขำขำว) ท่ีมอี ยู่ ตำมพืนทีท่ วั่ ไปของเมืองหนองบวั ในสมยั นนั สำ้ หรับเทียนเงนิ เทียนทองนนั ท้ำด้วยขผี งึ ธรรมดำ แลว้ เอำสเี งนิ สีทองมำทำเท่ำนัน ใช้เปน็ สิง่ ของแกบ้ นของสองนำงตำมท่นี ำงทังสองต้องกำร สว่ นเรอ่ื งท่ีเกย่ี วกบั ฆอ้ งใหญ่นนั จะเปน็ หรอื ไมอ่ ยำ่ งไรและผ้ใู ดเปน็ ผ้เู หน็ ฆอ้ งนนั เหน็ อยำ่ งไรท่ี ไหนตำมประวตั คิ วำมเปน็ มำของฆอ้ งนนั คอื ฆอ้ งของพระวอพระตำเอำมำจำกเวยี งจันทน์ เมื่อ ครำวอพยพครอบครัวนนั ซึง่ เปน็ ฆอ้ งใหญใ่ ช้เปน็ สญั ญำณต่ำงกรณี เช่น ในเวลำท่อี พยพนัน กใ็ ช้ฆ้องนตี ีเป็นสญั ญำณก่อนอย่ำงนเี ปน็ ตน้ ฉะนนั จงึ ไดช้ ือ่ วำ่ “ฆอ้ งมง่ิ เมือง” คือเอำฤกษเ์ อำ ยำม ตีเอำบำ้ นเอำเมอื ง ตเี อำพรรค เอำพวกจรงิ ๆ ตำมประวัตกิ ม็ คี วำมเปน็ มำดังนี ซง่ี ใน เร่อื งกำรเหน็ ฆอ้ งที่อยู่ในหนองบวั นนั ตำมควำมเปน็ จริงแลว้ กำรทเี่ ห็นไม่ได้เห็นดว้ ยตำ แต่กำร เหน็ นีเหน็ ด้วยกำรสัมผัสด้วยมือทกุ คน ควำมรู้สกึ ของผ้ทู ีเ่ ห็นด้วยกำรไดจ้ บั ฆ้องใหญน่ ัน ทกุ คนยนื ยนั เป็นเสยี ง
สถำนที่ท่องเทีย่ ว ศำลหลกั เมืองพระวอ พระตำ ศำลหลักเมอื งเปน็ ศำลพระวอและพระตำ ผสู้ ร้ำงเมอื งหนองบวั ล้ำภู ตำม ประวัติศำสตรก์ ลำ่ วว่ำ พระวอและพระตำ เปน็ พน่ี อ้ งรว่ มบิดำ มำรดำเดียวกนั และพระตำได้ ถกู กองทพั พม่ำและกองทัพเวยี งจันทร์ ฆำ่ ตำยในสนำมรบท่ีเมอื งหนองบวั ลมุ่ ภูแห่งนี ศำลหลกั เมืองไดท้ ำ้ กำรกอ่ สร้ำงขนึ เพือ่ เปน็ อนุสรณ์และรำ้ ลึกถงึ คณุ งำมควำมดขี องพระวอ พระตำ ผมู้ ำสร้ำงบ้ำนแปงเมืองหนองบวั ลุ่มภู มีลักษณะของศำลเปน็ ศำลำจัตุรมุขทรงไทย มี ขนำดและสัดส่วนสวยงำมมำก รปู แบบกำรก่อสรำ้ งเปน็ แบบภำคกลำง จงึ มีควำมวิจติ รเป็น พิเศษ ในบรเิ วณมีต้นมะขำมขนำดใหญ่ ตงั อยนู่ อกก้ำแพงเมอื งทำงด้ำนทศิ ตะวนั ตก หน้ำศำล จะมถี นนตรงไปยงั โฮง เจำ้ เมืองหนองบวั ล้ำภู (จวนเจำ้ เมอื งเดิม) ซ่ึงอยหู่ ำ่ งจำกศำลหลกั เมือง ไปประมำณ ๕๐ เมตร จะมเี นินดนิ และตน้ มะขำมขนำดเดียวกนั กบั ที่ศำลหลกั เมืองเปน็ ท่ี สังเกต เนอื ทีป่ ระมำณ ๒ ไร่ ปัจจุบนั ไม่มีสง่ิ ปลกู สร้ำงใดๆ ชำวเมอื งเลำ่ ว่ำ เจำ้ ท่ีแขง็ จงึ ไม่มี ใครกลำ้ ปลูกบำ้ นเรอื นทีอ่ ยอู่ ำศยั
ส้ำหรับผู้ใดท่ีได้ย่ำงกรำยเข้ำมำในอำณำเขตของจังหวัดหนองบัวล้ำแล้วนัน ก็ควรไป ยังศำลหลักเมืองประจ้ำจังหวัดหนองบัวล้ำภูแห่งนีเพ่ือไปกรำบไหว้สักกำระบูชำเพื่อควำมสิริ มงคลและโชคลำภตลอดกำรเดนิ ทำงในจังหวัดหนองบัวล้ำภู โดยศำลหลกั เมืองพระวอ พระตำ นสี ร้ำงขึนเพื่อให้ชำวหนองบัวล้ำภูได้เคำรพสักกำระพระผู้สร้ำงเมือง ซึ่งหมำยถึง พระวอ และ พระตำ อนั เปน็ กำรแสดงออกถงึ ควำมกตญั ญูกตเวทิตำ ศำลหลกั เมอื งได้ประกอบพิธีวำงศิลำ ฤกษ์เมื่อวันท่ี 21 พฤศจิกำยน 2518 สร้ำงเสร็จและประกอบพิธีเปิดเม่ือวันท่ี 28 กุมภำพันธ์ 2519 ตำมประวัติศำสตร์กล่ำวว่ำ พระวอและพระตำ เป็นพ่ีน้องร่วมบิดำ มำรดำเดียวกัน และพระตำได้ถูกกองทัพพม่ำและกองทัพเวียงจันทร์ ฆ่ำตำยในสนำมรบที่เมืองหนองบัวลุ่มภู แห่งนี ศำลหลักเมืองได้ท้ำกำรก่อสร้ำงขึน เพ่ือเป็นอนุสรณ์และร้ำลึกถึงคุณงำมควำมดีของ พระวอพระตำ ผู้มำสร้ำงบำ้ นแปงเมอื งหนองบวั ลุ่มภู มลี ักษณะของศำลเป็นศำลำจัตุรมุขทรง ไทย มีขนำดและสัดส่วนสวยงำมมำก รูปแบบกำรก่อสร้ำงเป็นแบบภำคกลำง จึงมีควำม วจิ ิตรเปน็ พเิ ศษ ในบริเวณมตี น้ มะขำมขนำดใหญ่ ตงั อยู่นอกก้ำแพงเมืองทำงด้ำนทิศตะวันตก หน้ำศำลจะมีถนนตรงไปยังโฮง เจ้ำเมืองหนองบัวล้ำภู (จวนเจ้ำเมืองเดิม) ซ่ึงอยู่ห่ำงจำก ศำลหลักเมืองไปประมำณ 50 เมตร จะมีเนินดินและต้นมะขำมขนำดเดียวกัน กับท่ี ศำลหลกั เมอื งเปน็ ท่ีสงั เกต เนือทป่ี ระมำณ 2 ไร่ ปัจจุบันไมม่ สี ่ิงปลกู สรำ้ งใดๆ ชำวเมืองเล่ำว่ำ เจำ้ ทแี่ ขง็ จงึ ไม่มใี ครกลำ้ ปลกู บ้ำนเรือนท่อี ยอู่ ำศยั
แหลง่ เรียนรู้ออนไลน์ กศน.ตำบลลำภู
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: