หนังสอื อ่านเพม่ิ เตมิ เรอื่ งเมืองหนองบัวลาภูนครเข่อื นขันธก์ าบแก้วบวั บาน สาระทักษะการเรยี นรู้ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ เลม่ ท่ี ๑ นางนวพรรษ จันทราทลู ครู ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมืองหนองบวั ลาภู สานักงาน กศน.จงั หวัดหนองบวั ลาภู สานักงาน กศน. สานักงานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวงศกึ ษาธิการ
ก คำนยิ ม หนังสืออ่ำนเพิ่มเติม เร่ืองเมืองหนองบัวลำภูนครเขื่อนขันธ์กำบแก้วบัวบำน เป็นหนังสือ ที่ใช้ประกอบกำรจัดกำรเรียนรู้รำยวิชำทักษะกำรเรียนรู้ สำระทักษะกำรเรียนรู้ สำหรับนักศึกษำ หลักสูตรกำรศกึ ษำนอกระบบระดับกำรศึกษำขนั้ พื้นฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑ ระดับมธั ยมศกึ ษำตอนต้น โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือพัฒนำทักษะกำรเรียนรู้ของนักศึกษำ ในด้ำนกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง กำรใช้แหล่งเรียนรู้ และเพื่อกระตุ้นให้นักศึกษำ เกิดกำรใฝ่เรียนใฝ่รู้ โดยให้นักศึกษำเรียนรู้ผ่ำนเรื่องเล่ำ และเรียนรู้จำก สถำนท่ีแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นที่สนกุ สนำน เพ่ือให้นักศึกษำมคี วำมพึงพอใจต่อกำรเรยี นและเกิดควำม รกั ควำมภำคภูมิใจในท้องถ่ินของตนเอง อีกทั้งยังมีกำรจัดทำภำพประกอบท่ีสวยงำม สอดคล้อง กับเนื้อเร่ือง ทำให้เข้ำใจเนื้อเรอื่ งได้ง่ำยและชัดเจน ขอช่ืนชมในควำมพยำยำมในกำรพัฒนำกำรเรียนกำร สอนและจัดทำสื่อประกอบกำรจัดกำรเรียนรู้ ขอเป็นกำลังใจให้กำรพัฒนำงำนและผลิตหนังสือที่มี คุณค่ำต่อนักศกึ ษำและสงั คมตอ่ ไป (นำยวินัย แสงใส) ผอู้ ำนวยกำร กศน.อำเภอเมืองหนองบวั ลำภู
ข คำนำ หนงั สืออ่ำนเพิม่ เตมิ เร่ืองเมืองหนองบัวลำภูนครเขอื่ นขนั ธก์ ำบแก้วบวั บำน ผู้เรยี บเรยี งจดั ทำข้ึน เพ่ือใช้เป็นส่ือประกอบกำรเรียนรู้วิชำทักษะกำรเรียนรู้ (ทร ๒๑๐๐๑) สำระทักษะกำรเรียนรู้สำหรับ นกั ศึกษำหลกั สูตรกำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำขนั้ พ้ืนฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๔๔๑ ระดบั มัธยมศกึ ษำตอนต้น ท้ังน้ีเนื้อหำแบ่งออกเป็น ๖ เร่ือง มีกำรจัดกำรเรียนรู้เรื่องละ ๒ ชั่วโมง รวมเวลำเรียน ๑๒ ช่ัวโมง โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ผู้เรียนศึกษำเรียนรู้ประวัติศำสตร์ควำมเป็นมำและเอกลักษณ์ของจังหวัด หนองบัวลำภู รวมทั้งเผยแพร่ควำมรู้เกี่ยวกับแหล่งเรียนรู้ในจังหวัดหนองบัวลำภู ให้ผู้เรียนได้ศึกษำ ค้นคว้ำให้มีควำมรคู้ วำมเข้ำใจ และมเี จตคติท่ดี ีเกิดควำมภำคภมู ิใจในท้องถ่ินของตน หวังเป็นอย่ำงยิ่งว่ำ หนังสืออ่ำนเพ่ิมเติมเล่มน้ี จะเป็นประโยชน์ต่อครู ผู้เรียน และผู้ท่ีสนใจ ได้เป็นอย่ำงดี ผู้จัดทำขอขอบคุณผู้เสียสละในกำรช่วยเหลือในกำรจัดทำหนังสือเล่มน้ี ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เช่ียวชำญและผู้เก่ียวข้องทุกท่ำนท่ีให้คำแนะนำในกำรพัฒนำหนังสือ คณะครูและนักศึกษำ กศน. ท่ีให้ควำมร่วมมือในกำรใชห้ นังสืออ่ำนเพิม่ เติม
สำรบญั ค คำนยิ ม หนำ้ คำนำ สำรบญั ก คำชแี้ จง ข จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ ค แบบทดสอบก่อนเรียน ง เนอื้ เร่ือง ญ กิจกรรมพฒั นำกำรเรยี นรู้ ๑ เฉลยกจิ กรรมท้ำยบท ๓ แบบทดสอบหลังเรียน ๑๘ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรียน ๒๒ บรรณำนกุ รม ๒๕ ประวตั ผิ ูจ้ ัดทำ ๒๗ ๒๘ ๒๙
ง คำชแี้ จงกำรใชห้ นงั สอื อำ่ นเพมิ่ เตมิ หนังสืออ่ำนเพ่มิ เติมเร่ืองเมืองหนองบัวลำภูนครเข่ือนขนั ธก์ ำบแก้วบัวบำนสำระทักษะกำรเรียนรู้ สำหรับนักศึกษำระดับมัธยมศึกษำตอนต้น จัดทำขึ้นโดยกำหนดมำตรฐำนกำรเรียนรู้และตัวช้ีวัด ซึ่งผู้เรียนสำมำรถศึกษำเน้ือหำ ปฏิบัติกิจกรรมพัฒนำกำรเรียนรู้ และประเมินผลกำรเรียนรู้ได้ด้วย ตนเองตำมขั้นตอนที่กำหนดไว้ โดยมีกำรเฉลยคำตอบไว้ท้ำยเล่ม จึงกำหนดเนื้อหำในกำรเรียนรู้ จำนวน ๑๒ ชว่ั โมง เล่มที่ ๑ นครเข่อื นขนั ธ์กำบแก้วบัวบำน จำนวน ๒ ชวั่ โมง เล่มท่ี ๒ ศำลสมเดจ็ พระนเรศวรมหำรำช จำนวน ๒ ชว่ั โมง เล่มที่ ๓ อุทยำนแหง่ ชำติภเู กำ้ - ภพู ำนคำ จำนวน ๒ ชวั่ โมง เล่มที่ ๔ แผ่นดนิ ธรรมหลวงปูข่ ำว จำนวน ๒ ชวั่ โมง เล่มที่ ๕ เดน่ สกำวถ้ำเอรำวัณ จำนวน ๒ ชว่ั โมง เลม่ ที่ ๖ พพิ ธิ ภัณฑห์ อยหิน ๑๕๐ ลำ้ นปี จำนวน ๒ ชวั่ โมง
จ ผูเ้ รยี นสำมำรถศกึ ษำเนอ้ื หำและประเมนิ ผลกำรเรยี นรไู้ ดด้ ว้ ยตนเองตำมขน้ั ตอนทกี่ ำหนดดงั น้ี วตั ถปุ ระสงค์
ฉ ขอบขำ่ ยและสว่ นประกอบ หนังสืออ่ำนเพ่ิมเติม มีองค์ประกอบ คือ ปกนอก ปกใน คำนิยม คำนำ สำรบัญ คำชี้แจงกำรใช้หนังสืออ่ำนเพ่ิมเติม จุดประสงค์กำรเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน เนื้อเรื่อง กิจกรรมพัฒนำกำรเรียนรู้ พร้อมเฉลยคำตอบ แบบทดสอบหลังเรียน พร้อมเฉลยคำตอบ แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน บรรณำนกุ รมและประวตั ผิ ู้จัดทำ กำรนำหนงั สอื อำ่ นเพม่ิ เตมิ ไปใช้
ช ประโยชนต์ อ่ ผเู้ รยี น ประโยชนต์ อ่ ผสู้ อน
ซ คำแนะนำสำหรบั ครู หนังสืออ่ำนเพ่ิมเติมเร่ืองเมืองหนองบัวลำภูนครเขื่อนขันธ์กำบแก้วบัวบำน สำระทักษะกำรเรียนรู้ รำยวิชำทักษะกำรเรียนรู้ (ทร ๒๑๐๐๑) สำหรับนักศึกษำระดับมัธยมศึกษำตอนต้น เป็นหนังสือ อ่ำนเพิ่มเติมที่จัดทำข้ึน เพื่อใช้เป็นเคร่ืองมือสำหรับกำรเรียนกำรสอนให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ มีกำรพัฒนำ ผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรยี นสูงขน้ึ บรรลตุ ำมจุดประสงค์กำรเรียนรู้ ในกำรเรยี นกำรสอนโดยใชห้ นงั สอื อำ่ นเพมิ่ เตมิ ครปู ฏบิ ตั ดิ งั น้ี
ฌ คำแนะนำสำหรบั ผเู้ รยี น ๑. ศกึ ษำคำชแ้ี จงกำรใช้ สำระสำคัญ และจุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ ๒. ทำแบบทดสอบก่อนเรียน เพื่อวัดพนื้ ฐำนควำมรู้ควำมเขำ้ ใจของผูเ้ รยี นในเรื่องท่ีกำลงั จะเรียน วำ่ อยใู่ นเกณฑ์ใด ๓. ศึกษำเนอ้ื หำสำระและทำกิจกรรมพฒั นำกำรเรยี นรู้ ๔. ทำแบบทดสอบหลังเรียน เพือ่ วดั พน้ื ฐำนควำมร้คู วำมเขำ้ ใจของผู้เรยี นวำ่ เพิม่ มำกขึ้นกว่ำ ก่อนเรยี นหรอื ไม่ ๕. ผเู้ รยี นปฏบิ ัติกจิ กรรมดว้ ยควำมตัง้ ใจ มคี วำมรบั ผดิ ชอบ มคี วำมซือ่ สตั ยต์ ่อตนเอง ไม่เปดิ ดู เฉลยกอ่ น เมอื่ เกดิ ปัญหำให้สอบตำมครูผสู้ อน และหำกทำคะแนนไมผ่ ่ำนเกณฑส์ ำมำรถ กลับมำทบทวนเนื้อหำสำระและทำใบงำนกจิ กรรมหรอื แบบทดสอบใหมจ่ นผำ่ นเกณฑ์
ญ จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ ๑. บอกและอธบิ ำยเอกลักษณข์ องจงั หวดั หนองบวั ลำภูได้ ๒. บอกท่ีตั้งและอำณำเขตของจังหวัดหนองบวั ลำภไู ด้ ๓. อธบิ ำยลักษณะภูมปิ ระเทศของจงั หวัดหนองบวั ลำภู ๔. อธิบำยควำมเป็นมำของจังหวดั หนองบัวลำภูได้
หนงั สืออา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ท่ี ๑ นครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแก้วบัวบาน ๑ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เลม่ ที่ ๑ นครเขอื่ นขนั ธก์ าบแกว้ บวั บาน ใหน้ กั ศกึ ษากาเครอื่ งหมาย X ทบั หนา้ ขอ้ ทถี่ กู ตอ้ งทส่ี ดุ เพยี งขอ้ เดยี ว ๑. เมอื งหนองบัวลาภูมชี อ่ื เรยี กตามสมยั โบราณว่าอย่างไร ก. เมืองหนองบวั ลาภู ข. เมอื งกมุทาสยั ค. เมืองล้านช้าง ง. เมืองละโว้ ๒. ผู้สรา้ งเมือง เมอื งหนองบวั ลาภู ก. พระนเรศวรมหาราช ข. พระนารายมหาราช ค. พระวอ พระตา ง. พระอุทมุ พร ๓. เมอื งกมุทธาไสย์บรุ รี มั ย์ คือเมืองใด ก. เมืองหนองบัวลาภู ข. เมืองเชยี งราย ค. เมืองลาปาง ง. เมืองน่าน ๔. จงั หวัดหนองบวั ลาภู ได้แต่งตง้ั เปน็ จงั หวัดเมอื่ ใด ก. เมอ่ื ๑ ธนั วาคม ๒๕๓๕ ข. เมอ่ื ๑ ธนั วาคม ๒๕๓๖ ค. เม่อื ๑ ธนั วาคม ๒๕๓๗ ง. เม่ือ ๑ ธันวาคม ๒๕๓๘
หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ที่ ๑ นครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแก้วบวั บาน ๒ ๕. ข้อใดไมใ่ ชว่ ดั คูบ่ า้ นคเู่ มอื ง จงั หวัดหนองบัวลาภู ก. วัดศรีคณู เมือง ข. วัดมหาชยั ค. วัดโพธศ์ิ รี ง. วดั พศิ าล ๖. วัดคนชมุ นา้ ออกบอ่ คือวดั ใดในปัจจุบนั ก. วัดโพธช์ิ ยั สมสะอาด ข. วดั ศรคี ณู เมอื ง ค. วดั มหาชยั ง. วดั โพธิ์ศรี ๗. วดั พระเรืองชัยสมสะอาด คือวดั ใดในปัจจุบัน ก. วัดโพธช์ิ ัยสมสะอาด ข. วดั ศรีคณู เมือง ค. วดั มหาชัย ง. วดั โพธ์ศิ รี ๘. วัดพระธาตุไตยภมู ิ คอื วัดใดในปจั จบุ ัน ก. วดั โพธช์ิ ัยสมสะอาด ข. วัดศรีคูณเมือง ค. วัดมหาชัย ง. วดั โพธศิ์ รี ๙. วัดพระราชศรสี มุ ังค์หายโศก คือวัดใดในปจั จุบนั ก. วดั โพธชิ์ ยั สมสะอาด ข. วดั ศรีคูณเมอื ง ค. วดั มหาชยั ง. วดั โพธศ์ิ รี ๑๐. เมืองหนองบัวลาภูสร้างข้ึนเมอ่ื ประมาณปี พ.ศ.ใด ก. พ.ศ. ๒๓๐๑ ข. พ.ศ. ๒๓๐๒ ค. พ.ศ. ๒๓๐๓ ง. พ.ศ. ๒๓๐๔
หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ท่ี ๑ นครเขอื่ นขนั ธก์ าบแก้วบวั บาน ๓ นครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแกว้ บวั บาน จากนครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแกว้ บวั บานถงึ เมอื งหนองบวั ลาภู เมืองหนองบัวลาภูน้ันมีช่ือเรียกอื่น คือ เมืองหนองบัวลุ่มภู เมืองกมุทาสัย หรือนครเข่ือนขันธ์ กาบแก้วบัวบานนั้น จากการสันนิษฐานของนักโบราณคดีและประวัติศาสตร์เชื่อว่า เป็นเมืองท่ีมีความ เจริญเก่าแก่ตง้ั แต่สมัยขอมเรืองอานาจ ซ่ึงต่อมาในสมัยกรุงธนบุรเี ป็นราชธานี ได้มีพงศาวดารกลา่ วถงึ เมืองหนองบัวลาภูในหนังสือพงศาวดารหัวเมืองมณฑลอิสานซึ่งหม่อมอมร วงษ์วิจิตร (ม.ร.ว.ปฐม คเณจร) เรียบเรียงไว้ ความตอนหน่ึงว่า “จุลศักราช ๑๑๒๙ ปีกุญ นพศก (พ.ศ. ๒๓๑๐) พระเจ้าองค์หล่อย ผู้ครองกรุงศรีสัตนาคณหุตถึงแก่พริ าไลย หามีโอรสท่ีจะสืบตระกูลไม่ แสนท้าวพระยาและนายวอ นายตา จึงได้เชิญกุมารสองคน (มิได้ปรากฎนาม) ซ่ึงเป็นเช้ือวงษ์ พระเจ้ากรุงศรสี ัตนาคณหุตคนเก่า (ไม่ปรากฏ ว่าคนไหน) อันได้หนีไปอยู่กบั นายวอ นายตา เมื่อพระเจ้าองค์หล่อย กาลังมาจับพระยาเมืองแสนฆ่าน้นั ขึ้นครองกรุงศรีสัตนาคณหุตแลว้ นายวอนายตาจะขอเป็นท่ีมหาอุปราช ฝ่ายน่า ราชกุมารท้ังสองเห็นวา่ นายวอ นายตา มไิ ด้เป็นเชอ้ื เจ้า จึงตงั้ ใหน้ ายวอ นายตาเป็นแตต่ าแหนง่ เสนาบดี ณ กรุงศรีสตั นาคณหุต แล้วราชกมุ ารผ้เู ชษฐาจึงตง้ั ราชกุมารผู้เป็นอนชุ าให้เปน็ มหาอุปราชขึ้น ฝ่ายพระวอ พระตากม็ ีความโทมนสั ด้วยมิได้เป็นท่ีมหาอุปราชดังความประสงค์ จึงได้อพยพครอบครัวพากันมาต้ังสร้างเวียงขึ้นบ้าน หนองบวั ลาภู แขวงเมืองเวยี งจันทน์ เสรจ็ แลว้ ยกขน้ึ เปน็ เมอื งใหช้ อ่ื ว่า เมอื งนครเข่ือนขนั ธ์กาบแก้วบวั บาน ฝ่ายพระเจ้าศรีสัตนาคณหุตทราบเหตุ ดังนั้น จึงให้แสนท้าวพระยาไปห้ามปราม มิให้พระวอพระตา ต้ังเป็นเมืองพระวอพระตาก็ไม่ฟัง พระเจ้ากรุงศรีสัตนาคณหุต จึงได้ยกกองทัพมาตีพระวอพระตา สู้รบกัน อยู่ได้ประมาณสามปี
หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ท่ี ๑ นครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแก้วบวั บาน ๔ พระวอพระตาเห็นวา่ ต้านทานมิได้จงึ ได้แตง่ คนไปออ่ นนอ้ มตอ่ พมา่ ขอกาลงั มาชว่ ย ฝา่ ยผู้เปน็ ใหญ่ ในพม่าจึงได้แต่งให้มองละแงะเป็นแม่ทัพคุมกาลงั มาช่วย พระวอ พระตา ฝ่ายกรุงศรสี ัตนาคณหุตทราบ ดังนั้น จึงแต่งเครื่องบรรณาการให้แสนท้าวพระยา คุมลงมาดักกองทัพพม่าอยู่กลางทาง แล้วพูด เกล้ียกล่อมชกั ชวนเอาพวกพม่าเขา้ เป็นพวกเดียวกันไดแ้ ลว้ พากนั ยกทัพมาตีพระวอ พระตากแ็ ตก พระตา ยายในท่ีรบ ยังอยู่แต่พระวอกับท้าวฝ่ายนา่ ท้าวคาผง ท้าวทิดพรหม ผู้เป็นบุตรพระตา แล้วท้าวทิดก่า ผู้บุตรพระวอ จึงพาครอบครัวแตกหน้ีอพยพลงไปขอพ่ึงอยู่กับพระเจ้าองค์หลวงเจ้าเมืองไชยกุมารเมือง จาปาศกั ดแ์ิ ละตอ่ มาพระวอไดข้ อพ่งึ บารมีโพธสิ มภารพระเจา้ ตากสินมหาราช ซง่ึ ภายหลงั พระเจา้ กรงุ ศรสี ตั นาคณหุต ได้ส่งกองทัพมาโจมตีพระวออีก และพระวอถูกฆ่าตาย ท่ีตาบลเวียงดอนกอง เป็นเหตุให้ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดฯ ให้เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกยก ทัพไปตีกรุงเวียงจันทน์แตก เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๑ ต่อมาในสมัยรัชกาลท่ี ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระปทุมเทวาภิบาลเจ้าเมืองหนองคาย ได้ แต่งต้ังพระวชิ โยดมกมุทธเขตมาสร้างเมอื งบุรรี มั ย์ มีฐานะเปน็ เมืองเอก มีศาล เรือนจา ฯลฯ พระวชิ โย ดมกมุทธเขตได้ปกครองเมืองกมุทธาไสย์บุรีรัมย์ ต่อมาเป็นอาเภอ มีชื่อว่า “อาเภอหนองบัวลาภู” เมื่อ ๑ ธันวาคม ๒๕๓๖ ได้รับการจดั ต้งั เปน็ จงั หวดั หนองบวั ลาภู ศาลหลวงพินิจกมุทธคาม (สิงห์ เประยะโพธิเดชะ) บ้านเสาเล้า ตาบลหนองบัว อาเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลาภูหนองบัวลาภูในอดีตร่มเย็นเป็นสุขในยุคเมืองกมุทธาสัยบริรมย์ ดินแดนใต้เชิงเขา ภพู านคาริมฝ่ังหนองนา้ ใสสะอาดดารดาษไปดว้ ยมวลหมูป่ ทมุ มาบวั หลวง อดุ มสมบูรณด์ ว้ ยสัตวน์ อ้ ยใหญ่ มากมาย พชื พรรณธญั ญาหารมากมี ผูค้ นหล่ังไหลอพยพเขา้ อยู่อาศยั เพมิ่ มาข้ึนเรื่อย ๆ สรา้ งหลกั ปกั ฐาน ขยายบ้านเรอื นออกไปกวา้ งขวาง จดั ตง้ั เป็นหมบู่ ้านขนึ้ มากมายหลายหมูบ่ า้ นดว้ ยกัน ปัญหาในด้านต่าง ๆ กต็ ามมาโดยเฉพาะปญั หาในเรื่องการปกครอง การติดตอ่ ราชการ ดังนนั้ ในปีพทุ ธศกั ราช ๒๔๐๖ พระยาวุฑฒากมุทธเขต ขา้ หลวงมลฑลหนองคาย จึงยกระดบั ฐานะตาบลหนองบวั ลมุ่ ภขู ึน้ เป็นหัวเมือง เปลี่ยนชอื่ ใหม่เปน็ เมืองกมุทธาสัยบรริ มย์แต่งต้ังใหพ้ ระวชิ ชโย ดม กมุทธเขต (นายพมิ พา โกมทุ ะเขตต)์ ราชวงศ์มลฑลหนองคาย มาดารงตาแหน่งเจา้ เมอื ง พระวชิ ชโย ดม กมทุ ธเขต เกณฑร์ าษฎรตดั ไม้เตง็ รังเปน็ ทอ่ น ๆ ยาวท่อนละ ๖ เมตร ฝงั ลงดนิ เรียงติดกันทาเป็นร้ัว ลอ้ มรอบบริเวณเรือนพกั และสถานทรี่ าชการ ยาวดา้ นละ ๒๐๐ เมตร ตงั้ อยูห่ า่ งจากหนองซาช้างทางด้าน ทศิ เหนอื ประมาณ ๓๐๐ เมตร เรยี กสถานทน่ี ้วี า่ ในโฮง (ห่างจากศาลหลักเมืองพระวอพระตาไปทางทศิ ตะวนั ออกประมาณ ๒๐๐ เมตร )
หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ท่ี ๑ นครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแกว้ บวั บาน ๕ แตง่ ตง้ั ขา้ ราชการดารงตาแหนง่ การปกครองเมืองกมทุ ธาสยั บรริ มย์ ดังนี้ พระวเิ ศากมุทธการ ดารงตาแหน่ง อุปราช หลวงพิบาลพนิ พพันธ์ ดารงตาแหน่ง ราชวงศ์ หลวงพิศาลอักษรกจิ ดารงตาแหนง่ ราชบตุ ร ขุนวิสษิ ฐอ์ กั ษรสาสน์ ดารงตาแหนง่ เมืองแสน ขนุ สนุ ทรบรริ กั ษ์ ดารงตาแหนง่ เมอื งจันทร์ ขุนพทิ ักษ์บรรณสัตย์ ดารงตาแหน่ง ชาเนตร ขนุ บารุงพทิ ักษร์ าษฎร์ ดารงตาแหน่ง ชานนท์ เพี้ยนามฮงุ บารงุ กิจ ดารงตาแหนง่ เพยี้ เมือง หมืน่ พินิจ บารุงราษฎร์ ดารงตาแหนง่ กวนเมอื ง พระวิชชโยดม กมุทธเขต พัฒนาบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า พัฒนาบูรณะถนนตัดให้ เชื่อมโยงติดต่อกัน เพ่ือประชาชนสัญจรไปมาหาส่กู ันได้สะดวกจากบา้ นเหนือมาบ้านกลางผ่านบ้านหนอง บวั สู่บ้านใต้(บ้านจกิ )ตัดเข้าบ้านลาภู พร้อมกบั ทะนุบารงุ ซอ่ มแซมวดั วาอารามทง้ั ๔ แห่งคือ วดั คนชุมนา้ ออกบ่อ(วัดศรีคูณเมือง) บ้านเหนือ วัดพระธาตุไตยภูมิ(วัดมหาชัย) บ้านหนองบัว วัดพระเรืองชัยสม สะอาด(วัดโพธิ์ชัยสมสะอาด) บ้านจิก วัดพระราชศรีสุมงั ค์หายโศก (วัดโพธ์ิศรี) บ้านลาภู เกียรติประวัติ ของพระวิชชโยดม กมุทธเขตและชาวประชาราษฎรเมืองกมุทธาสยั บริรมยท์ ีแ่ สดงใหเ้ ห็นถึงการมีสายเลือด นักรบกล้าหาญช่วยเหลือชาติบา้ นเมืองในยามคบั ขนั เกิดศึกสงครามที่ถกู บนั ทึกและเลา่ ขานถึงวีรกรรมของ บรรพบุรุษชาตินักรบแห่งดินแดนที่ราบสูงใต้เทือกเขาภูพานเมืองกมุ ทธาสัยบริรมย์ นั่นก็คือ ในปีพุทธศักราช ๒๔๑๑ กองทัพจีนฮ่อนาโดยนายพลไต๋ผง คิดก่อการกบฏยกกองกาลังพลเข้าโจมตี อาณาจกั รจนี ในสมัยกษัตริย์ราชวงศแ์ มนจู แต่ถูกกองกาลังฝ่ายราชวงศ์แมนจูปราบปรามพา่ ยแพ้ถอยล้น ยกทัพเข้าโจมตีอาณาจักรเวยี ดนาม และถูกกองกาลังของจักรพรรดิเวียดนามต่อต้านอย่างเข้มแข็งขับไล่ หนีมาทางทุ่งไหหิน ข้ามภูพันเก้า ซาเหนือ ซาทอง โล่งแจ้ง ยกพลเข้าโจมตียึดหัวเมืองลาวพวน ทุ่งเชียง คา หลวงพระบางและนครเวียงจันทนเ์ อาไว้ได้ พวกจีนฮ่อยังไมห่ ยดุ อยแู่ ค่น้นั ยงั เหมิ เกริมยกกองทัพข้าม แมน่ า้ โขงมายงั ฝัง่ สยามประเทศ
หนงั สืออา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ท่ี ๑ นครเขอื่ นขนั ธก์ าบแกว้ บวั บาน ๖ บุกเขา้ โจมตีมณฑลหนองคาย ขณะนั้นพระยาวฑุ ฒากมุทธเขต ข้าหลวงมณฑลหนองคายและนาย เสือ กมุทธกจิ เสมียนตรา มหาดไทยเดนิ ทางไปราชการทมี่ ณฑลอุบลราชธานี เพอ่ื ชว่ ยราชการกับพลเรือ ตรกี รมหลวงพระยาสรรพสทิ ธปิ ระสงค์ ผสู้ าเรจ็ ราชการแผน่ ดนิ ภาค ซึง่ เดินทางมาสารวจค่าภาษีต่าง ๆ และสักเลขลูกทาสเป็นคนไทย ทางมณฑลหนองคายมอบหมายให้หลวงพรหมศร กมุทธกิจ ตาแหน่ง ราชบตุ ร เปน็ ผูร้ กั ษาราชการแทน เมื่อกองกาลังพวกจีนฮอ่ บกุ จู่โจม หลวงพรหมศร กมทุ ธกจิ นากองกาลงั ทหารเข้าต่อสจู้ นสดุ ความสามารถทจี่ ะตา้ นทานไหว จึงหลบหนที ง้ิ เมอื งเอาตวั รอด กองทัพพวกจนี ฮ่อจึง เข้ายึดมณฑลหนองคายไวไ้ ด้ เมอ่ื ความทราบถงึ สมเด็จพระจลุ จอมเกล้าเจา้ อยหู่ ัว พระองค์ทรงมพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ แตง่ ตั้งให้พระเจา้ น้องยาเธอฯ พลเรอื ตรีกรมหลวงประจกั ษศ์ ิลปาคม ผู้บังคบั การทหารรักษาพระราชวงั ดารงตาแหนง่ แม่ทพั ภาคอีสาน ยกกองทัพหลวงเดินทางมาปราบปราม พลเรอื ตรกี รมหลวงประจกั ษ์ ศลิ ปาคมยกกองทพั มาชุมนุมพลต้ังฐานทพั ทต่ี าบลหมากแขง้ แจ้งสาส์นตราไปยงั หัวเมืองต่าง ๆ ในมณฑล หนองคายใหย้ กกองทพั มาชว่ ยรบ พระวิชชโยดมจึงนากองกาลงั พลยอดนกั รบเมืองกมทุ ธาสยั บรริ มย์เข้าสมทบกบั กองทัพหลวงทาศึก สงครามปราบพวกจนี ฮ่อ หลงั จากกองกาลงั ทุกหวั เมอื งเดินทางมาสมทบเรยี บรอ้ ยทุกเมือง พลเรอื ตรีกรม หลวงประจักษ์ศิลปาคมจึงทรงรับส่ังเคลื่อนกาลังพลกองทัพอันเกรียงไกรแห่งราชอาณาจักรสยาม เมื่อยกกองทพั มาถึงไมร่ อช้าบกุ เขา้ โจมตกี องทพั พวกจีนทนั ที ทหารยอดนักรบจากเมืองกมุทธาสยั บรริ มย์ มีใจเด็ดเดีย่ วเขา้ ทาศึกฆา่ ฟันศัตรพู วกจนี ฮ่ออยา่ งกลา้ หาญชาญชยั ในทส่ี ุดพวกจีนฮ่อไม่อาจจะสู้ไดถ้ อยย่น ขา้ มลาโขงสู่เวียงจันทน์ พลเรอื ตรกี รมหลวงประจักษ์ศลิ ปาคมยงั นากองกาลงั สยามประเทศขา้ มแม่น้าโขง โจมตีเมืองเวยี งจนั ทน์ นครหลวงพระบาง หวั เมอื งลาวพวน หัวเมอื งทุง่ เชียงคา กลบั คนื มาไวใ้ นครองครอง อกี เชน่ เคย พวกจนี ฮ่อถกู โจมตีแตกพา่ ยหลบหนีไปตั้งหลักปักฐานท่เี ทือกเขาภูพนั เก้า ไม่กลา้ ย่างกา้ วเข้า มารกุ รานอาณาจกั รสยามอกี เมอ่ื สนิ้ สดุ สงครามปราบจีนฮอ่ พลเรอื ตรีกรมหลวงประจกั ษศ์ ิลปาคมทรงกล่าวยกยอ่ งสรรเสริญ เหล่าบรรดาทหารยอดนักรบจากหัวเมืองต่าง ๆ โดยเฉพาะยอดนักรบจากเมืองกทุทธาสัยบริรมย์เป็น ขุนพลกล้าชาญชยั ใจเด็ดเดี่ยวเช่ียวการศึก หลังจากน้ันท่านพลเรือตรีกลมหลวงประจักษ์ศลิ ปาคมทรง จัดการปรับปรงุ แตง่ ตง้ั เจา้ เมืองของหัวเมืองตา่ ง ๆ ในมณฑลหนองคายใหม่ และทรงรบั สัง่ ใหอ้ อกค้นหา ตัวราชบตุ รพรหมศร กมุทธกิจ เอาตัวมาลงอาญาสาเรจ็ โทษประหารชวี ติ ฐานผดิ กฎมณบาลเฑียร ทวี่ า่ ด้วย การหลบหนอี รริ าชศตั รูทิ้งบ้านเมอื งเอาตัวรอด เพื่อมิใหเ้ ปน็ เย่ยี งอยา่ งแก่ปวงชนตอ่ ไป
หนงั สืออา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ท่ี ๑ นครเขอื่ นขนั ธก์ าบแกว้ บัวบาน ๗ เมื่อหลวงราชบตุ รพรหมศรถูกประหารชีวติ แลว้ นางบวั คา ภรรยาหลวงราชบุตรพรหมศร กมทุ ธ กิจและนายเสือ กมุทธกจิ บตุ รชายคนเลก็ ขณะนนั้ ดารงตาแหน่งเสมียนตรามหาดไทย มณฑลหนองคาย ได้ถวายตวั ตอ่ พลเรือตรีกรมหลวงประจักษ์ศลิ ปาคมและนาตัวไปอุปการะชุบเลีย้ งให้รบั ราชการในวงั หลวง หลวงสรุ สิงหนาท ราชบตุ รนครหลวงพระบาง บุตรชายคนโตของราชบตุ รพรหมศร หลบหนกี องกาลงั พวก จีนฮอ่ เดนิ ทางขา้ มแม่น้าโขงมามณฑลหนองคาย เมอ่ื ทราบข่าวบดิ าถกู ประหารชีวิตแล้ว จึงไมเ่ ข้ารายงาน ตวั ตอ่ กองทัพหลวง จึงหลบหนเี ขา้ ป่าลกึ ไปอาศัยและศึกษาเลา่ เรียนศลิ ปะวิทยคมการต่อสู้กับนักพรตขุน พิทักษ์เมอื ง ซ่งึ เปน็ เลอื ดเนอื้ เชอ้ื สายของสมงิ ทองมา พระยาเมอื งพระประแดง ทีม่ าทาศกึ สงครามคร้ังศึก เจา้ อนวุ งศน์ ครเวียงจันทน์ แล้วถูกข้าศึกจบั ตวั เป็นเชลย หลบหนีออกมาได้และไม่กลับกองทพั แต่ได้สละ เพศเป็นดาบสบาเพ็ญตนเป็นนักพรตอยู่ถ้าเขาภูพาน หลังจากเรียนศิลปวิทยาคมการต่อสู้จนเช่ียวชาญ หลวงสรุ สิงหนาทประกาศตัวเป็นขนุ โจรในนาม มหาโจรสิงห์ ออกปล้นสะดมเจ้าเมอื ง,เศรษฐี,นายทนุ และ ขา้ ราชการท่ชี อบฉอ้ ราษฎร์บังหลวง ทรพั ย์สนิ ท่ีปล้นมาไดม้ หาโจรสิงหน์ าไปแจกจา่ ยใหแ้ กค่ นจนยากไรค้ น้ แค้น ต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๔๒๗ มณฑลต่าง ๆ แถวหัวเมืองชายแดนเจ้าเมืองเกษียณอายุ ราชการออกไปมาก จึงทาให้ตาแหน่งเจ้าเมืองว่างลง ทางเมืองหลวงจึงประกาศไปตามหัวเมืองต่าง ๆ ให้คัดเลือกเอาบุคคลท่ีมีฝีมือในทางศิลปวิทยาต่าง ๆ เข้ามายังเมืองหลวง เพื่อทาการทดสอบคัดเลือก ตาแหนง่ เจา้ เมอื ง พระวชิ ชโยดม กมุทธเขต จงึ ประกาศให้มหาโจรสิงห์เขา้ มาพบ แล้วเกลี้ยกล่อมใหเ้ ข้าไป ในเมืองหลวงเพื่อเข้ารับการคัดเลือกตาแหน่งเจ้าเมือง ในตอนแรกมหาโจรสิงห์ไม่ตกลงยินยอมตาม คาขอ คร้ันพระวิชชโยดมเล่าถึงเร่อื งของมารดาและน้องชายท่ีไปรบั ราชการอยทู่ ี่เมอื งและได้ฝากมาว่าให้สิงหเ์ ขา้ ไปทดสอบคัดเลอื กเขา้ รบั ราชการ มหาโจรสงิ ห์จึงตกลงเดินทางเข้าเมอื งหลวง มหาโจรสิงหส์ มคั รทดสอบ คัดเลือกเข้ารับราชการ การต่อสู้ด้วยศิลปะเพลงดาบและเพลงแม่ไม้มวยไทยกับหลวงชนะชอบชองชก ซ่ึงเป็นนักสู้ประจาราชนกั สานักหลวง ต่อหน้าพระท่ีน่ังถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผลการต่อสู้ปรากฏวา่ สิงห์เป็นฝ่ายชนะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพอพระทัยเป็นอย่างมากจึงทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานบรรดาศักด์ิขึ้นเป็น พระพินิจกมุทธคาม และพระราชทานนามสกุลให้ใหม่เป็น เประยะโพธิเดชะ พรอ้ มทรงรบั เข้ารับราชการและโปรดเกล้าฯ แตง่ ต้งั พระพินจิ กมทุ ธคามไปดารงตาแหนง่ เจ้าเมืองบอ่ แตน แก่นท้าว
หนงั สืออา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ที่ ๑ นครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแกว้ บวั บาน ๘ ในปลายปีพุทธศักราช ๒๔๒๘ พระวิชชโยดม กมุทธเขต (นายพิมพา กมุทธเขตต์) ครบ เกษียณอายุราชการ ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้มหาดเล็กเสอื (น้องชายพระพินิจกมุทธ คาม) ข้ึนเป็นพระวิจารณ์กมุทธกิจและพระราชทานนามสกุลใหม่เป็น เประยะโพธิเดชะ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้มาดารงตาแหนง่ เจ้าเมืองกมุทธาสัยบริรมย์ พระวิจารณ์กมทุ ธกิจ ได้พัฒนาบ้านเมืองให้เจริญร่งุ เรอื ง ขยายอาณาเขตกว้างขวางออกไปอกี ย้ายท่ีทาการมาสร้างใหม่ ทานุบารุงทางศาสนาปฏิสงั ขรณ์บูรณะวดั วาอารามและเปล่ียนช่อื วดั ในเขตเมืองเสยี ใหม่ ดังนี้ วดั พระธาตไุ ตยภูมิ เปน็ วัดมหาชัย สะอาด วดั คนชมุ นา้ ออกบ่อ เปน็ วัดศรีคณู เมอื งสะอาด วดั พระราชศรีสุมังค์หายโศก เป็น วัดโพธ์ศรี สะอาด ท่ีมา https://www.watisan.com
หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ที่ ๑ นครเขอื่ นขนั ธก์ าบแก้วบัวบาน ๙ ในปีพุทธศักราช ๒๔๓๗ ทางราชการได้มีคาส่ังปลดหลวงพินิจกมุทธคาม (สิงห์ เประยะโพธิเดชะ) ออกจากตาแหน่งเจ้าบ่อแตนแก่นท้าวด้วยโทษฐานกระทาให้รัฐบาลเสียทรัพย์สินค่าปรับ หลวงพินิจ กมุทธคามจึงอพยพครอบครวั เดนิ ทางมาหาพระวิจารณ์กมมุทธกิจผเู้ ป็นน้องชายท่ีเมืองกมทุ ธาสัยบริรมย์ แลว้ ทาการตงั้ คา่ ยพิทกั ษเ์ มืองนครเขื่อนขนั ธ์ เปดิ สอนและถ่ายทอดศิลปะวทิ ยาการต่อสู้ทั้งเพลงดาบและ ศิลปะแม่ไม้มวยไทยท่ีกุดตาเป็ด (บ้านเสาเล้า ตาบลหนองบัว อาเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลาภู) มีผู้สนใจเข้ามาฝากตัวเป็นลูกศิษย์มากมาย ตลอดจนลูกหลานเจ้าเมืองต่าง ๆ ก็เดินทางมาศึกษาเล่า เรียน เม่ือเรียนจบแล้วกลับไปรับราชการบ้านเมืองได้เป็นเจ้านายใหญ่โตก็มากมี ชาวบ้านทั่วไปมักเรียก หลวงพนิ จิ กมุทธคาม (สิงห์ เประยะโพธิเดชะ)วา่ ยาพ่อหลวงราชบุตร หนองบัวลาภูหรือในอดีตเรียกว่า นครเข่ือนขันธ์กาบแก้วบัวบาน ตามตานาน พระวอ-พระตา ผู้สร้างเมืองหนองบัวลาภูเม่อื ประมาณปี พ.ศ. ๒๓๐๒ โดยได้สร้างกาแพงเมอื ง มีค่ายคูประตูหอรบครบ ครันเพอื่ ปอ้ งกันขา้ ศกึ โดยเฉพาะข้าศกึ จากทางเวยี งจนั ทน์ คือ ได้สรา้ งกาแพงหนิ หอรบขึ้นท่ีเชงิ เขาบนภู พานคา ซึ่งเป็นเส้นทางหน้าด่านใกล้กับบริเวณน้าตกเฒ่าโต้ ห่างจากกาแพงเมืองไปทางทิศตะวันออก ประมาณ ๑ กิโลเมตร ตอ่ มาในปี พ.ศ. ๒๓๑๐ พระเจ้าสริ ิบญุ สารแห่งเมืองเวียงจันทน์ ได้ส่งกองทัพมา ปราบปราม เกิดการต่อสู้กันที่ช่องน้าจ่ัน (น้าตกเฒ่าโต้) บนภูพานคา สู้รบกันอยู่สามปียังไม่แพ้ชนะกนั ทางฝ่ายเมืองเวียงจันทน์จึงขอกองทัพพม่ามาช่วยเหลือจนสามารถตีเมืองนคร เข่ือนขันธ์ฯ ได้ พระวอ- พระตาจึงได้อพยพผู้คนหนีไปพ่ึงพระเจ้าองค์หลวงไชยกุมารแห่งอาณาจักร ล้านช้างจาปาสัก ในปี พ.ศ. ๒๓๒๑ สมเด็จพระเจ้าตากสนิ มหาราชจงึ ได้โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาจกั รียกกองทพั มาช่วยพระวอ- พระตาขับไล่กองทัพของพระเจ้าสิรบิ ุญสารออกไป แลว้ ยกกองทพั ตดิ ตามเขา้ ตีเมืองเวยี งจนั ทนไ์ ด้ คร้ังนนั้ ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตซึ่งพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชนาไปจากเมืองเชียงใหม่ เมืองนครเข่ือนขันธ์ฯ ก็ได้มา ขึ้นอยู่กับไทย ในปี พ.ศ. ๒๔๓๓ ได้มีการจัดระเบียบการปกครองบ้านเมือง ให้ข้าหลวงเมืองหนองคาย บงั คบั บัญชาเมอื งใหญ่ ๑๖ เมอื ง เมืองขึ้น ๓๖ เมอื ง เรยี กว่า เมืองลาวฝา่ ยเหนือ และเมืองนครเข่ือนขันธ์ ฯ ก็ได้ข้นึ อยู่กับเมอื งหนองคายนั้น เจ้าเมืองหนองคายได้แตง่ ต้งั ให้พระวิชโยคมกมทุ เขตมาครองเมอื งนคร เขอ่ื นขนั ธฯ์ ซงึ่ มฐี านะเป็นเมืองเอก และเปลยี่ นชือ่ เมืองใหม่ว่า เมืองกมุทธาสยั จนในปี พ.ศ. ๒๔๔๓ ไดม้ ี การเปลี่ยนชื่อมณฑลฝ่ายเหนือเป็นมณฑลอุดร และให้รวมเมืองต่าง ๆ ในมณฑลอุดรเป็น ๕ บริเวณ เมืองกมุทธาสัยถูกรวมอยู่ในบริเวณบ้านหมากแข้ง และในปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ได้โปรดเกล้าฯ ให้เปล่ียนชื่อ เมืองกมุทธาสัยเป็น เมืองหนองบัวลาภู ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๕๐ ได้ถูกลดฐานะลงเป็น อาเภอ หนองบวั ลาภู ข้นึ กบั จงั หวัดอุดรธานี โดยมพี ระวจิ ารณก์ มธุ กจิ เปน็ นายอาเภอคนแรก อาเภอหนองบวั ลาภู มคี วามเจริญร่งุ เรืองข้นึ ตามลาดับ จนกระท่ังยกระดบั เปน็ จงั หวดั หนองบวั ลาภู ในปี พ.ศ. ๒๕๓๖
หนงั สืออา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ที่ ๑ นครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแก้วบัวบาน ๑๐ ตราสญั ลกั ษณป์ ระจาจงั หวดั หนองบวั ลาภู รูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชประทับยนื อยู่หน้าศาลพระหัตถ์ซ้าย ทรงพระแสงดาบต้ังอยู่ริมฝ่ัง หนองบัว ภาพภูเขาเป็นจังหวัดท่ีเตม็ ไปด้วยภเู ขาเป็นธรรมชาตทิ ่ีสวยงาม ฝนื ผ้าเปน็ จงั หวัดที่มีหัตถกรรม ทอผ้าพื้นเมอื งเปน็ หลัก ส่วนชายทีผ่ กู เป็นปมนัน้ หมายถงึ ความสามคั คีของชาวจังหวดั หนองบัวลาภู คาขวญั ประจาจงั หวดั หนองบวั ลาภู “ศาลสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ – ภูพานคา แผน่ ดนิ ธรรมหลวงปขู่ าว เดน่ สกาวถา้ เอราวณั นครเขอื่ นขนั ธก์ าบแก้วบวั บาน” ศาลสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช สร้างขึ้นเพอ่ื เปน็ อนสุ รณเ์ ม่อื ครัง้ สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช เสด็จยกกองทพั มาทห่ี นองบัวลาภเู ม่ือปี พ.ศ. ๒๑๑๗ ท่ีไปช่วยเจา้ กรุงหงสาวดี ทเี่ วยี งจันทน์ เพราะตอน น้นั อยุธยาเป็นเมืองขนึ้ ของหงสาวดีอยู่ อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ -ภพู านคา เป็นอุทยานแหง่ ชาติลาดับที่ ๕๐ ของประเทศไทย ทิวทศั น์รมิ ทะเลสาบเหนือเข่อื นอบุ ลรัตนแ์ ละเกาะแก่งตา่ ง ๆ มนี ้าตกสวยงามมากมาย แผน่ ดนิ ธรรมหลวงปขู่ าว หลวงป่ขู าว อนาลโย พระนักปฏบิ ตั ิวิปัสสนากรรมฐานสายของพระ อาจารยม์ ั่น ภรู ทิ ตั โต เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ถา้ เอราวณั ต้ังอยบู่ นเขาหนิ แขง็ ชาวบ้านเรียกภเู ขาลูกนีว้ า่ ผา้ ถา้ ชา้ ง นครเขอื่ นขนั ธก์ าบแกว้ บวั บาน เป็นชื่อของจังหวดั หนองบัวลาภูเปน็ ช่ือเดิมในสมยั กอ่ น
หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ท่ี ๑ นครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแก้วบัวบาน ๑๑ ต้นไมป้ ระจาจงั หวดั หนองบวั ลาภู พยงุ หรอื พยงู “พะยูง” เป็นไม้เน้ือแขง็ เชน่ เดียวกับไม้สัก ตะเคียน มีช่ือและความหมายดี เชื่อว่าบา้ น ใดปลูกไว้ประจาบ้าน จะทาใหบ้ ุคคลในบ้านมีแต่ความเจริญ มีฐานะดีข้ึน ช่วยไม่ให้ชวี ิตตกต่า เพราะพยุง คอื การประคับประคองใหค้ งอยู่ ให้มัน่ คงหรอื การยกใหส้ งู ขน้ึ ดอกไมป้ ระจาจงั หวดั หนองบวั ลาภู \" บวั หลวง \" ดอกไมป้ ระจาจงั หวดั บัวเป็นไม้มงคลในการบชู าพระและประกอบพิธีทาง ศาสนา โดยมีผู้ยึดถือและสืบทอดกนั มาต้ังแต่สมัยพทุ ธกาล อกี ทง้ั ยังเปรียบเทยี บคนเฉกเช่นดอกบวั ๔ เหลา่ ท้งั ยังมีความเช่ือว่าสายใยของบัว เปรียบเสมือนสายใยสัมพันธุ์ของสมาชิก ในครอบครัวอีกด้วย ดังนั้นการปลูกบัวจะช่วยสร้างความรัก ความผูกพันธุ์ และ คุณธรรมให้ครอบครัวมีความสุขตลอดไป หนองบัวลาภูมีหนองน้าขนาดใหญ่บริเวณ หลงั ศาลสมเด็จพระนเรศวร และมีดอกบวั บานสะพรั่งอยูต่ ลอดปี
หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ที่ ๑ นครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแก้วบัวบาน ๑๒ สภาพทว่ั ไปของจงั หวดั หนองบวั ลาภู จังหวัดหนองบวั ลาภู ตั้งอยทู่ างทศิ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีที่ตั้งตาม พิกัดทางภูมิศาสตร์ อยู่ระหว่างเส้นรุ้งที่ ๑๖ องศา ๔๕ ลิปดา ถึง ๑๗ องศา ๔๐ ลิปดาเหนือ และเสน้ แวงท่ี ๑๐๑ องศา ๕๗ ลิปดา ถึง ๑๐๒ องศา ๓๐ ลิปดาตะวันออก อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ ๖๐๘ กิโลเมตร ประกาศจัดต้ังเป็นจังหวัดหนองบัวลาภู ต้ังแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๓๖ โดย ประกาศในหนังสือราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษ เล่มท่ี ๑๑๐ ตอนท่ี ๑๒๕ ลงวันท่ี ๒ กันยายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๖ พ้นื ท่ี จังหวัดหนองบัวลาภู มีขนาดพ้ืนที่ ๓,๘๕๙.๐๘๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๒,๔๑๑,๙๒๙ ไร่ ขนาดพน้ื ท่ีคิดเป็นรอ้ ยละ ๒.๒๗ ของภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ อาณาเขต ทิศเหนอื ติดตอ่ กับ อาเภอน้าโสม อาเภอบ้านผอื จังหวดั อดุ รธานี ทิศตะวนั ออก ตดิ ต่อกับ อาเภอบ้านผอื อาเภอกุดจบั อาเภอหนองววั ซอ จังหวัดอุดรธานี ทศิ ใต้ ตดิ ต่อกับ อาเภอสชี มพู อาเภอหนองนาคา จังหวดั ขอนแก่น ทศิ ตะวนั ตก ตดิ ต่อกบั อาเภอผาขาว อาเภอภูกระดึง อาเภอนาด้วงและอาเภอเอราวณั จังหวดั เลย การปกครอง ปัจจบุ ันจังหวัดหนองบวั ลาภู แบง่ เขตการปกครอง เป็น ๖ อาเภอ ได้แก่ อาเภอเมืองหนองบัวลาภู อาเภอโนนสัง อาเภอศรบี ญุ เรือง อาเภอนากลาง อาเภอสวุ รรณคูหา ทม่ี า https://www.watisan.com อาเภอนาวงั ประกอบดว้ ย ๕๙ ตาบล ๗๐๗ หมูบ่ ้าน องค์การบรหิ ารสว่ นจังหวดั จานวน ๑ แหง่ เทศบาล เมอื ง จานวน ๑ แหง่ (๒๙ ชุมชน) เทศบาลตาบล ๒๓ แห่ง องค์การบรหิ ารสว่ นตาบล ๔๓ แหง่
หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ที่ ๑ นครเขอื่ นขนั ธก์ าบแก้วบวั บาน ๑๓ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ จังหวัดหนองบัวลาภู มีพน้ื ท่ีโดยท่วั ไปเปน็ ทร่ี าบสงู บางสว่ นเปน็ พื้นท่ลี กู คลน่ื ลาดตน้ื ถึงลาดลึก แล้วลาดลงไปทางทิศใต้ และทิศตะวันออก มีความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลางประมาณ ๒๐๐ เมตร ทางตอนบนของจังหวดั จะเป็นพื้นที่ภูเขาสูง โดยยอดดอยหรือภูเขาท่ีสูงที่สุดของจังหวดั ได้แก่ ดอยผาเวียง ภูสามยอดโดยสูงเฉลี่ย ๙๐๐ เมตร และเป็นต้นน้าสายย้อยต่างๆ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นดินปนทรายและ ลกู รงั ไม่สามารถเก็บกกั น้าหรอื อมุ้ นา้ ในดดแู ล้ง ลกั ษณะภมู อิ ากาศ ลักษณะอากาศในจังหวัดหนองบัวลาภู แบ่งออกเป็น ๓ ดดู เช่นเดียวกับจังหวัดอื่นๆ ในภาค ตะวนั ออกเฉียงเหนอื ได้แก่ ดดูรอ้ น ดดฝู น ดดูหนาว สภาพภมู อิ ากาศโดยทัว่ ไปขน้ึ อยู่กบั มรสุมท่ีพัดผ่าน ประจาปี จดั อยใู่ นประเภทภูมิอากาศแบบพนื้ เมืองรอ้ นเฉพาะดดู กล่าวคือจะมีฝนตกเฉพาะในดดูฝน สลบั กบั ช่วงแห้งแลง้ ในดดหู นาวและดดูรอ้ น ดดูรอ้ น อยู่ในระหวา่ งเดือน มนี าคมถึงเมษายน อณุ หภูมสิ ูงสดุ เฉลี่ย ๓๔ – ๓๖ องศาเซลเซยี ส ดดูฝน อยใู่ นระหวา่ งเดือน พดษภาคมถึงตลุ าคม และจะตกมากในเดอื น สิงหาคม - กันยายน เนอื่ งจากอทิ ธพิ ลพายดุ เี ปรสชัน ดดูหนาว อยใู่ นระหวา่ งเดือน กมุ ภาพนั ธ์ อากาศจะหนาวมากในช่วงเดือนธนั วาคม - มกราคม โดยมีอุณหภูมเิ ฉลี่ย ๑๕ – ๑๖ องศาเซลเซียส ลักษณะภูมิอากาศเป็นแบบสะวันนาคือดดูฝนสลับกับดดูแล้งอย่างชัดเจน ปริมาณฝนท่ีตกใน จังหวัดหนองบัวลาภูโดยเฉล่ียอยู่ในช่วงระหว่าง ๙๗๘.๓ – ๑,๓๔๘.๙ มิลลิเมตรต่อปี อาเภอสุวรรณ คูหา มีปริมาณฝนตกโดยเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา ได้แก่ อาเภอนากลาง ส่วนพื้นท่ีท่ีมีฝนตกน้อยท่ีสุด ไดแ้ ก่ อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู ซึ่งมีปรมิ าณโดยเฉลย่ี ประมาณ ๙๗๘.๓ มิลลิเมตรต่อปี
หนงั สืออา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ที่ ๑ นครเขอื่ นขนั ธก์ าบแกว้ บวั บาน ๑๔ ทรพั ยากรปา่ ไม้ โดยท่ัวไปพ้ืนที่ป่าเป็นป่าเต็งรังสลับกับป่าเบญจพรรณ มีพื้นท่ีป่าสงวนแห่งชาติอยู่ทางด้านเหนือ และด้านตะวันตก จานวน ๖ แห่ง พ้ืนที่ป่าสงวนส่วนใหญ่ถูกบุกรุกทาลาย หลังจากน้ันพื้นที่บางส่วน กลายเป็นพ้ืนท่ีเพาะปลูก และกาลังเป็นที่ทากินของเกษตรกร บางส่วนกลายเป็นป่าเส่ือมโทรม ปัจจุบนั แบง่ เปน็ ปา่ อนรุ ักษ์ประมาณ ๓๑๒,๕๐๐ ไร่ ป่าเศรษฐกิจ ประมาณ ๑,๐๓๙,๐๐๐ ไร่ พืน้ ท่ีเหมาะสมแก่ การเกษตร ประมาณ ๑๗๐,๐๐๐ ไร่ และพ้นื ที่ประกาศปฏิรูป ประมาณ ๑,๑๘๓,๐๐๐ ไร่ พ้นื ทท่ี ก่ี าหนด เป็น เขตสงวน และอนุรกั ษ์ มพี น้ื ท่ีประมาณ ๓๑๒,๐๐๐ ไร่ ไดแ้ ก่ ปา่ อุทยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ -ภพู านคา (ป่าภเู กา้ ) อยู่ทางดา้ นทศิ ใตข้ องจงั หวดั หนองบัวลาภู บรเิ วณ อาเภอโนนสัง มพี น้ื ท่ปี ระมาณ ๑๐๓,๐๐๐ ไร่ ปา่ ภพู าน อยูท่ างด้านทิศตะวนั ออกของจงั หวดั หนองบัวลาภู บรเิ วณอาเภอเมืองหนองบวั ลาภแู ละ อาเภอโนนสงั มีพ้ืนทป่ี ระมาณ ๑๖,๐๐๐ ไร่ ปา่ หนองบวั อยู่บริเวณอาเภอเมืองหนองบัวลาภู มีพน้ื ทป่ี ระมาณ ๓,๐๐๐ ไร่ ปา่ หว้ ยสม้ และ ปา่ ภแู ดง อย่ทู างดา้ นทศิ ตะวนั ตกของจังหวดั หนองบัวลาภู บริเวณอาเภอสุวรรณ คูหา มีพื้นท่ีประมาณ ๑๓๘,๐๐๐ ไร่ ปา่ หนองเรอื อย่ทู างดา้ นทิศตะวันตกของจังหวัดหนองบวั ลาภู บรเิ วณอาเภอนากลางอาเภอเมอื ง หนองบวั ลาภู และอาเภอศรบี ญุ เรอื ง มีพืน้ ที่ประมาณ ๓๙,๐๐๐ ไร่ ทรพั ยากรธรรมชาติ ทรพั ยากรนา้ แหล่งนา้ สามารถแบง่ ออกได้เปน็ ๒ ประเภทใหญๆ่ คือ แหล่งนา้ ทเี่ กดิ ข้ึนตามธรรมชาติและ แหลง่ นา้ ท่ีสร้างข้นึ มา แหลง่ นา้ ธรรมชาติ ได้แก่ แมน่ า้ ลาคลอง ลาหว้ ย หนองนา้ บงึ และนา้ บาดาล ในเขตจงั หวัด หนองบวั ลาภมู อี ยูเ่ ปน็ จานวนมาก แหล่งนา้ ท่ีเปรียบเหมอื นเสน้ เลือดใหญท่ ่สี าคญั ไดแ้ ก่ ลาพะเนียง มตี น้ กาเนดิ จากเทือกเขาสันปนั นา้ ของลุ่มแม่น้าโขงกบั ลมุ่ แมน่ า้ ชี ไหลผา่ น อาเภอนากลาง อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู อาเภอศรีบญุ เรือง และอาเภอโนนสัง แลว้ ไหลลงสู่อ่างเกบ็ นา้ เข่ือนอุบลรัตน์
หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ที่ ๑ นครเขอื่ นขนั ธก์ าบแก้วบวั บาน ๑๕ ลานา้ พอง มตี ้นกาเนดิ จากภูกระดงึ และเทอื กเขาสนั ปันนา้ ของล่มุ แม่นา้ ปา่ สัก กบั ลมุ่ น้า ไหลผ่านเขตอาเภอภูกระดึง จังหวัดเลย อาเภอศรีบุญเรือง และอาเภอโนนสัง แล้วไหลลงสู่อ่างเก็บน้า เข่ือนอุบลรัตน์ ลานา้ พองมลี าน้าสาขาอยู่หลายสาย ทไ่ี หลผ่านเขตจงั หวดั หนองบัวลาภู คอื ลานา้ มอ ลาน้าพวย ลาน้าพอง ลานา้ ซาฐาน ลาห้วยโมง ไหลมาจากสนั เขาภซู างใหญ่ เขตตดิ ต่ออาเภอนาด้วง จังหวัดเลย แล้วไหล ผา่ นอาเภอสวุ รรณคูหา เขา้ เขตอาเภอบา้ นผอื จงั หวดั อดุ รธานี แล้วไหลไปบรรจบแมน่ า้ โขง แหล่งน้าเพ่ือการชลประทาน ในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ มีอยู่รวม ๖๘ โครงการเป็นโครงการ ขนาดกลางอยู่เพียงโครงการเดียวคือ อ่างเก็บน้าห้วยเหล่ายาง อยู่ท่ีบ้านภูพานทอง ตาบลหนอง บัว อาเภอเมืองหนองบัวลาภู มีความจุประมาณ ๒.๑๔ ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นท่ีรับประโยชน์ประมาณ ๒,๐๐๐ ไร่ โครงการที่เหลืออ่นื ๆ เปน็ โครงการขนาดเลก็ มคี วามจปุ ระมาณ ๑๓.๒๐ ล้านลูกบาศก์เมตร มพี ื้นทรี่ ับประโยชนป์ ระมาณ ๓๐,๐๐๐ ไร่ ประชากร กลุ่มชาตพิ นั ธตุ์ ่างๆ ที่อยู่ในจงั หวัดหนองบัวลาภมู ชี าตพิ นั ธ์ุต่างๆ มีดงั นี้ กลมุ่ ไท - ลาว อพยพมาจากเวยี งจันทน์ ประเทศลาว โดยมกี ลุ่มพระวอ –พระตา เป็นเชื้อสายลาวเวยี งจันทน์ กลมุ่ ไท - เขมร อพยพมาจาก บรุ รี มั ย์ สรุ ินทร์ ศรสี ะเกษ กลุ่มไท - สยาม อพยพมาจากภาคกลางของประเทศไทย กลุ่มคนจีนและคนญวน อพยพมาเพ่ือประกอบอาชีพค้าขาย และไดม้ ีการแตง่ งานกับคน ในท้องถ่ิน เกดิ เป็นเชือ้ สายจีนและเช้ือสายญวน แต่ยังมจี านวนน้อยประชากรท่อี าศัยอยู่ ในจงั หวดั หนองบัวลาภสู ามารถแบ่งออกเป็น ๓ กลมุ่ ใหญๆ่ คอื ๑. กลุม่ ลาวพงุ ขาว (ลา้ นชา้ งเวียงจนั ทน์) กลมุ่ ชนน้เี ป็นชนพ้นื เมอื งเดิมที่อาศัยอย่บู ริเวณ รอบนอกเมือง และเป็นกลุ่มใหญ่ของจังหวัดหนองบัวลาภู โดยมีสัญลักษณ์การสักลายดาใต้สะเอวลงมา และมีกนิ หมาก ปัจจุบนั กล่มุ ชนพน้ื เมืองดังกลา่ วเป็นคนฟนั ขาวเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลในสมัย จอมพล ป. พิบลู สงคราม หา้ มประชาชนทั่วไปกินหมากและสักลายดา ๒. กลมุ่ คนจนี -ญวน ลกั ษณะเป็นคนผวิ ขาวเหลือง อพยพมาจากมณฑลกวางตุ้ง ยูนหนาน ในสมัยรัชการท่ี 4 ที่มีพระราชดาริให้คนจนี กระจายอยู่ตามหัวเมืองต่างๆ ในภาคอีสาน และภายหลังได้ ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในจงั หวดั หนองบวั ลาภู ๓. กลุ่มคนไต กลุ่มชนนี้เป็นเผ่าไตหรือไท ซ่ึงอพยพเข้ามาในเขตจังหวัดหนองบัวลาภูช่วง สงครามเดียนเบียนฟู (สงครามเวียดนาม - ฝรั่งเศส) ภายหลังสงครามสงบลงกลุ่มคนไตบางส่วนได้ เดินทางกลับภมู ิลาเนาเดมิ และบางส่วนตงั้ รกรากอยู่ทีจ่ งั หวดั หนองบัวลาภู
หนงั สืออา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ที่ ๑ นครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแกว้ บัวบาน ๑๖ ลกั ษณะเฉพาะถนิ่ จังหวัดหนองบัวลาภูเป็นจังหวัดหน่ึงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือท่ีม่ังคั่งด้วยมรดกทางศิลปะและ มรดกทางวัฒนธรรมทส่ี ง่ั สมต้งั แตอ่ ดีตถงึ ปจั จบุ นั เช่น การแต่งกายการป่ันหม้อดินเผา ภาษาประจาถิ่น ๑. การแตง่ กาย ลกั ษณะการแตง่ กายของชาวจงั หวดั หนองบวั ลาภใู นอดตี ผูห้ ญงิ สวมเส้ือขาวเปน็ พนื้ เบ่ียงแพร สว่ นผา้ ถุงจะเปน็ ผา้ ไหมหมี่ขิด มีหวั ซิ่นและตนี ซิ่นที่ ทอและหูกถงึ สามหกู นามาเย็บตดิ ปะตอ่ กันเรียกว่า \"สามทรวง\" มกี ารทดั ดอกไม้สาหรับหญิงสาว ผเู้ ฒ่าผู้แก่แลว้ แต่จะใสอ่ ้ม (ต้นอม้ ใบมกี ลน่ิ หอม เมอื่ นาใบมาเผาไฟพอลวก ๆ จะมีกลน่ิ หอม) ไวท้ รงผมมวยสูงหรอื ดอกทมุ่ ผชู้ ายสวมเส้อื สีดาหรือสีหม้อนิล (สีครามทางเหนือเรียกหมอ้ ฮ้อม) เปน็ พ้ืนใสผ้าโสร่งไหม มกี างเกงหวั รูดเป็นผา้ ชั้นในหรอื ใส่นุง่ เลน่ ตามบ้านเรอื นทว่ั ไป ลกั ษณะการแตง่ กายของชาวจงั หวดั หนองบวั ลาภปู จั จบุ นั ผ้หู ญงิ วยั รนุ่ แตง่ กายตามสมยั นยิ มใสเ่ ส้อื ยดื หรือเส้ือเชิร์ตแขนส้ันและแขนยาวกระโปรง หรอื กางเกงขาสนั้ หรอื ขายาว หรือชดุ แซก มีเคร่ืองประดบั ตา่ งๆ เชน่ สร้อยคอ แหวน ต่างหู กาไล แขน ฯลฯ นยิ มใส่รองเทา้ หุ้มสน้ เม่ือร่วมกจิ กรรมนอกบา้ น ใส่รองเทา้ มีส้นเมือ่ ร่วมกิจกรรมรื่นเริง และสังสรรค์ ผู้หญิงสูงวัย แต่งกายด้วยเส้ือลายปักตา่ งๆ ทั้งแขนสั้นและแขนยาว หรือเสื้อเชิร์ตแขน สน้ั และแขนยาว ใสผ่ ้าซิ่นลายตา่ งๆ ของทอ้ งถิน่ หรือกางเกงขายาวพื้นสดี าท้งั ขาสั้นและแขนยาว ผู้ชายวัยรนุ่ แต่งกายด้วยเส้ือยดื หรอื เสื้อเชริ ต์ แขนสั้นและแขนยาว ใส่กางเกงขาสั้นหรือ ขายาว กางเกงยนื หรือกางเกงสแล็ค ผูช้ ายสงู วยั แตง่ กายด้วยเส้ือยืดหรอื เสือ้ เชริ ์ตแขนส้นั และแขนยาว ใสโ่ สรง่ ผ้าขาวมา้ ใส่กางเกงขาส้นั หรือขายาว กางเกงยนื หรือกางเกงสแลค็
หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ท่ี ๑ นครเขอื่ นขนั ธก์ าบแกว้ บัวบาน ๑๗ ๒. เครอื่ งปน้ั ดนิ เผา เคร่ืองปั้นดินเผา คือ เอาดินเหนียวมาตีและป้ันเครอ่ื งใชต้ ่างๆ ในชีวิตประจาวนั และนาไปใช้ใน การประกอบพิธีกรรมด้วย จังหวัดหนองบัวลาภูมีมรดกทางวัฒนธรรมเครื่องป้ันดินเผามาตัง้ แต่ก่อนยคุ ประวัติศาสตร์ประมาณ ๓,๕๐๐ – ๔,๐๐๐ ปีล่วงมาแล้ว จากการขุดค้นโดยชาวบ้านก่อนพุทธศักราช ๒๕๑๔ กรมศิลปกรขุดค้นเพ่ือการศึกษาในพทุ ธศกั ราช ๒๕๓๘ ที่ป่าพร้าว บ้านกุดคาเมย ตาบลกดุ ดู่ และบ้านโนนกล้วย (ดอนกลาง) บ้านกุดกวางสรอ้ ย อาเภอโนนสัง ปัจจุบันการปั้นดินเผามีอยู่ที่บ้านโค้ง สวรรค์ ตาบลโนนทัน อาเภอเมืองหนองบัวลาภู เคร่ืองปั้นดินเผาดังกล่าวจะทาเพื่อใช้ในชีวิตประจาวัน มากกวา่ ที่จะใช้ประกอบพธิ กี รรม การเดนิ ทาง ทางรถยนต์ จากกรงุ เทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ถงึ จงั หวัดสระบรุ ีบริเวณกิโลเมตรท่ี ๑๐๗ แยกเข้าทางหลวงหมายเลข ๒ (ถนนมติ รภาพ) ผ่านจงั หวดั นครราชสมี า จงั หวัดขอนแกน่ จังหวัด อุดรธานี ถงึ จังหวดั หนองบวั ลาภู รวมระยะทาง ๖๐๘ กโิ ลเมตร เทศกาลและงานประเพณี - งานนเรศวรมหาราชและงานกาชาดหนองบัวลาภู (จัดเป็นประจาทุกปี ระหว่างวันท่ี ๑๘ – ๒๗ มกราคม บริเวณสนามนเรศวร หนา้ ศนู ย์ราชการอาเภอเมอื งหนองบวั ลาภ)ู - งานเทศกาลขึน้ เขาไหว้พระถ้าเอราวณั (จัดเปน็ ประจาทกุ ปี ระหว่างวนั ท่ี ๑๒ – ๑๖ เมษายน บริเวณถ้าเอราวณั อาเภอนาวงั ) - งานบุญบ้ังไฟ (จดั ข้นึ เปน็ ประจาทุกปี ในวนั ข้ึน ๑๕ คา่ เดือน ๖ หรือประมาณเดือนพดษภาคม) - เทศกาลเท่ียวหอยหิน กินลาไย ไหว้หลวงปู่ขาว (จัดขึ้นเป็นประจาทุกปีช่วงเดือนสิงหาคม บรเิ วณชุมชนบ้านห้วยเด่อื ตาบลโนนทัน อาเภอเมอื งหนองบัวลาภ)ู - เทศกาลน้าตกเฒ่าโต้ (จัดขึ้นเป็นประจาทุกปีช่วงเดือนกันยายน บริเวณวนอุทยานเฒ่าโต้ อาเภอเมืองหนองบัวลาภู) ทีม่ า : http://www. nongbualamphu.go.th/๓๙๐/
หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ท่ี ๑ นครเขอื่ นขนั ธก์ าบแกว้ บวั บาน ๑๘ กจิ กรรมพฒั นาการเรยี นรู้ ๑. กิจกรรมท่ี ๑ จากนครเข่อื นขนั ธ์กาบแกว้ บัวบานถงึ เมอื งหนองบวั ลาภู โดยให้นกั ศกึ ษา เติมคาตอบที่ถูกตอ้ งลงในชอ่ งว่าง แล้วตรวจคาตอบ จากเฉลยคาตอบท้ายเลม่ ๒. กจิ กรรมที่ ๒ ลักษณะทางกายภาพของจังหวัดของฉัน โดยใหน้ กั ศึกษารว่ มกันศึกษาสภาพ พ้ืนทข่ี องจังหวัดทต่ี นเองอาศัยอยู่ แล้วบันทึกขอ้ มูล แล้วตรวจคาตอบ จากเฉลยคาตอบท้ายเลม่ ๓. กิจกรรมท่ี ๓ รู้รอบ...ตอบได้ โดยให้นักศึกษาเขยี นคาตอบลงในชอ่ งวา่ งแล้วตรวจคาตอบ จากเฉลยคาตอบท้ายเล่ม ๔. ให้นักศึกษานาคะแนนท่ีได้ไปเปรียบเทียบกับเกณฑ์ประเมินระดับความสามารถ เพ่ือประเมินว่า นักศกึ ษามีความสามารถอยู่ในระดับใด แล้วนาทัง้ คะแนนและระดับความสามารถ ใส่ไวใ้ นตาราง ประเมนิ ความสามารถ ซ่ึงอย่ตู อนทา้ ยของกิจกรรม
หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ท่ี ๑ นครเขอื่ นขนั ธก์ าบแกว้ บัวบาน ๑๙ กจิ กรรมที่ ๑ จากนครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแกว้ บวั บานถงึ เมอื งหนองบวั ลาภู ใหเ้ ขยี นชอ่ื อาเภอในจงั หวดั หนองบวั ลาภู ลงทา้ ยหมายเลข ๑ – ๖ ทกี่ าหนดใหล้ งใน ชอ่ งวา่ งดา้ นลา่ งใหถ้ กู ตอ้ ง โดยใหต้ รงกบั หมายเลยในแผนทแี่ ละตกแตง่ ใหส้ วยงาม แผนทีก่ ารแบง่ เขตการปกครอง 14 25 36
หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ท่ี ๑ นครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแก้วบวั บาน ๒๐ กิจกรรมท่ี ๒ ลกั ษณะทางกายภาพของจงั หวดั ของฉนั ใหน้ กั ศกึ ษาแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั ศกึ ษาสภาพพนื้ ทขี่ องจงั หวดั ทต่ี นเองอาศยั อยู่ แลว้ บนั ทกึ ขอ้ มลู ๑. จงั หวัดทฉ่ี ันอาศยั อยู่ ๒. ลกั ษณะภมู ิประเทศ ................................................................ ................................................................ ............................................................... ............................................................... ..................................................................... ..................................................................... . . ๓. ลักษณะภูมิอากาศ ๔. สถานทีส่ าคัญของจงั หวดั ................................................................ ................................................................ ............................................................... ............................................................... ..................................................................... ..................................................................... .. ทต่ี ้ัง .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... .................................................................................................................... ....................................................................................................................
หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ท่ี ๑ นครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแกว้ บวั บาน ๒๑ กจิ กรรมท่ี ๓ “รรู้ อบ...ตอบได”้ ให้นกั ศกึ ษาตอบคาถามต่อไปน้ี โดยเขียนคาตอบลงในช่องวา่ งที่กาหนดให้ ๑. จงบอกคาขวัญของจงั หวดั หนองบัวลาภู และอธิบายความหมายมาพอสงั เขป ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ๒. เพราะเหตุใดจงึ ใช้ภาพพระบรมรปู ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นสัญลกั ษณป์ ระจา จงั หวัดหนองบัวลาภู ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ๓. การปกครองของจงั หวัดหนองบวั ลาภู แบ่งการปกครองออกเปน็ กี่อาเภอ อะไรบา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ๔. จังหวดั หนองบวั ลาภู มีอาณาเขตตดิ ต่อกบั จงั หวดั อะไรบา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ๕. การปกครองของจังหวัดหนองบัวลาภู แบ่งการปกครองออกเปน็ ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ๖. กศน.ตาบล ทน่ี กั ศึกษาอยนู่ นั้ เป็นการปกครองแบบใด ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ………………………………………………………………………………………………………………......................………………… ………………………………………………………………………………………………………………......................…………………
หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ท่ี ๑ นครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแก้วบวั บาน ๒๒ ตรวจคาตอบ กจิ กรรมท่ี ๑ จากนครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแกว้ บวั บานถงึ เมอื งหนองบวั ลาภู ๑. อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู ๒. อาเภอนากลาง ๓. อาเภอโนนสงั ๔. อาเภอศรบี ญุ เรอื ง ๕. อาเภอสวุ รรณคหู า ๖. อาเภอนาวงั กจิ กรรมที่ ๒ ลกั ษณะทางกายภาพของจงั หวดั ของฉนั ๑. จังหวัดหนองบวั ลาภู ๒. จงั หวัดหนองบัวลาภู มีพน้ื ที่โดยทว่ั ไปเป็นที่ราบสูง บางส่วนเป็นพ้ืนท่ีลูกคลื่นลาดต้ืนถึงลาดลึก แลว้ ลาดลงไปทางทศิ ใต้ และทศิ ตะวนั ออก มีความสงู จากระดับนา้ ทะเลปานกลางประมาณ ๒๐๐ เมตร ทางตอนบนของจังหวัดจะเป็นพ้ืนที่ภูเขาสูง โดยยอดดอยหรือภูเขาที่สูงท่ีสุดของจังหวัด ได้แก่ ดอยผา เวียง ภูสามยอดโดยสงู เฉลย่ี ๙๐๐ เมตร และเปน็ ตน้ น้าสายย้อยต่างๆ พ้นื ที่ส่วนใหญ่เปน็ ดนิ ปนทราย และลกู รังไมส่ ามารถเก็บกกั น้าหรอื อุ้มน้าในดดูแลง้ ๓. ลักษณะอากาศในจังหวัดหนองบัวลาภู แบ่งออกเป็น ๓ ดดู ได้แก่ ดดูร้อน ดดูฝน ดดูหนาว สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไปข้ึนอยู่กับมรสุมที่พัดผ่านประจาปี จัดอยู่ในประเภทภูมิอากาศแบบพ้ืนเมือง รอ้ นเฉพาะดดู จะมีฝนตกเฉพาะในดดฝู น สลบั กบั ช่วงแห้งแลง้ ในดดูหนาวและดดูร้อน ๔. ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ต้ังอยู่ที่สนามนเรศวรมหาราช และพิพิธภัณฑ์อัฐบริขาร หลวงปู่ขาว อนาลโย ต้ังอยู่ท่ีวัดถ้ากลองเพล ตาบลโนนทัน อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวัด หนองบวั ลาภู
หนงั สืออา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ท่ี ๑ นครเขอื่ นขนั ธก์ าบแก้วบวั บาน ๒๓ ตรวจคาตอบ กจิ กรรมท่ี ๓ รรู้ อบ...ตอบได้ ๑. “ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อุทยานแหง่ ชาติภเู กา้ -ภูพานคา แผน่ ดนิ ธรรมหลวงปขู่ าว เด่นสกาวถา้ เอราวณั นครเขื่อนขนั ธก์ าบแกว้ บัวบาน” ความหมายศาลสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช สรา้ งขึน้ เพ่อื เปน็ อนสุ รณ์เมอ่ื ครง้ั สมเด็จพระนเรศวร มหาราชเสด็จยกกองทัพมาท่ีหนองบัวลาภูเมื่อปี พ.ศ. ๒๑๑๗ ที่ไปช่วยเจ้ากรุงหงสาวดี ทเี่ วียงจันทน์ เพราะตอนนน้ั อยุธยาเปน็ เมอื งขน้ึ ของหงสาวดีอยู่ อทุ ยานแห่งชาตภิ เู กา้ -ภพู านคา เป็นอุทยานแหง่ ชาติลาดับที่ ๕๐ ของประเทศไทย ทวิ ทัศน์รมิ ทะเลสาบเหนือเขือ่ นอุบลรัตน์และเกาะแก่งต่าง ๆ มีน้าตกสวยงามมากมาย แผน่ ดนิ ธรรมหลวงปขู่ าว หลวงปูข่ าว อนาลโย พระนักปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานสายของ พระอาจารย์มนั่ ภูรทิ ตั โต เดน่ สกาวถา้ เอราวณั ถา้ เอราวัณตัง้ อยบู่ นเขาหนิ แข็ง ชาวบา้ นเรียกภูเขาลูกนว้ี า่ ผา้ ถ้าชา้ ง ๒. ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เม่อื พ.ศ ๒๑๑๗ สมเด็จพระมหาธรรมราชาธริ าชและ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ไดย้ กกองทัพไปตีกรุงศรีสัตตนาคนหุต อาณาจกั รล้านชา้ งในการศึกคร้ังนั้น สมเด็จพระนเรศวรได้ยกพลมาพักบรเิ วณ ริมหนองบัวอยู่ระยะหน่ึงจนเกิดประชวรเป็นไข้ทรพิษ จึงเสด็จ ยกทัพกลบั ชาวหนองบวั ลาภูไดร้ ่วมใจกันสรา้ งศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชไว้สกั การะพระบรมรปู สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช ซ่ึงความจริงน้ันทรงประทับยืนอยู่ภายในศาล พระหัตถ์ซ้ายทรงพระแสงดาบ ภายในดวงตราท่ีออกแบบใหป้ ระทบั ยืนอยู่หนา้ ศาล เพ่ือจะเน้นใหเ้ หน็ รปู เด่นชดั เปน็ ประธานของดวงตรา โดยมีศาลอยู่ข้างหลังหนองบัว เพื่อแสดงให้เห็นว่า สาสมเด็จพระนเรศวรฯ ตั้งอยู่ริมฝ่ังหนองบัว ภูพาน ภเู ขา เป็นจังหวดั ทมี่ ีภูเขาและปา่ ไม้ อันได้แก่ เทือกเขาภูพาน ซึง่ มีธรรมชาตทิ ่สี วยงาม หนองบวั ลาภู นน้ั เดิมช่ือ หนองบัวลุ่มภู คือเป็นหนองบัวท่ีอยู่ในลุ่มแต่อยู่บนท่ีสูงเชิงเขา ชื่อจังหวัดบนผืนผ้า หมายถึง จังหวดั ทีม่ ีหตั ถกรรมทอผ้าพน้ื เมอื งเปน็ หลักส่วนชายทง้ั สองข้างที่ผกู เป็นปมหมายถึง ความสามัคคผี ูกพัน แนน่ แฟ้น ของชาวจังหวดั หนองบัวลาภู ๓. จังหวดั หนองบวั ลาภูแบง่ เขตการปกครองออกเป็น ๖ อาเภอ ประกอบดว้ ย อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู อาเภอโนนสัง อาเภอศรบี ุญเรอื ง อาเภอนากลาง อาเภอสวุ รรณคหู า และ อาเภอนาวัง ๔. จงั หวัดอดุ รธานี จงั หวัดขอนแก่น และจงั หวัดเลย ๕. การปกครองสว่ นภมู ิภาค แบง่ ออกเปน็ ๖ อาเภอ ๕๙ ตาบล ๗๐๗ หมู่บ้าน การปกครองสว่ นท้องถนิ่ แบง่ ออกเปน็ ๑ เทศบาลเมอื ง และ ๒๓ เทศบาลตาบล
หนงั สืออา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ที่ ๑ นครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแกว้ บวั บาน ๒๔ เกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั ความสามารถ/คะแนน บันทึกผลการประเมนิ ตนเอง กจิ กรรมท่ี คะแนนที่ได้ ๑. (๑๐ คะแนน) ๒. (๑๐ คะแนน) ๓. (๑๐ คะแนน) รวม
หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ที่ ๑ นครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแกว้ บวั บาน ๒๕ แบบทดสอบหลงั เรยี น เลม่ ท่ี ๑ นครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแกว้ บวั บาน ใหน้ กั ศกึ ษากาเครอื่ งหมาย X ทบั หนา้ ขอ้ ทถี่ กู ตอ้ งทส่ี ดุ เพยี งขอ้ เดยี ว ๑. เมอื งหนองบวั ลาภูมชี ื่อเรียกตามสมยั โบราณวา่ อยา่ งไร ก. เมืองหนองบัวลาภู ข. เมอื งกมทุ าสัย ค. เมอื งล้านช้าง ง. เมอื งละโว้ ๒. ผู้สร้างเมอื ง เมอื งหนองบัวลาภู ก. พระนเรศวรมหาราช ข. พระนารายมหาราช ค. พระวอ พระตา ง. พระอุทุมพร ๓. เมอื งกมทุ ธาไสย์บุรีรมั ย์ คอื เมืองใด ก. เมืองหนองบวั ลาภู ข. เมอื งเชียงราย ค. เมืองลาปาง ง. เมืองน่าน ๔. จงั หวัดหนองบวั ลาภู ไดแ้ ต่งตั้งเป็นจงั หวัดเม่ือใด ก. เม่ือ ๑ ธันวาคม ๒๕๓๕ ข. เมอ่ื ๑ ธนั วาคม ๒๕๓๖ ค. เม่อื ๑ ธันวาคม ๒๕๓๗ ง. เม่อื ๑ ธนั วาคม ๒๕๓๘
หนงั สืออา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ท่ี ๑ นครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแก้วบัวบาน ๒๖ ๕. ข้อใดไมใ่ ชว่ ัดคบู่ า้ นคเู่ มือง จังหวดั หนองบัวลาภู ก. วัดศรคี ูณเมือง ข. วดั มหาชยั ค. วัดโพธศ์ิ รี ง. วดั พศิ าล ๖. วดั คนชมุ นา้ ออกบอ่ คอื วดั ใดในปจั จบุ ัน ก. วดั โพธ์ิชยั สมสะอาด ข. วัดศรีคณู เมือง ค. วดั มหาชยั ง. วัดโพธิ์ศรี ๗. วดั พระเรอื งชัยสมสะอาด คอื วดั ใดในปัจจุบัน ก. วดั โพธ์ชิ ยั สมสะอาด ข. วดั ศรคี ูณเมอื ง ค. วดั มหาชยั ง. วัดโพธิ์ศรี ๘. วดั พระธาตุไตยภมู ิ คือวัดใดในปจั จุบัน ก. วัดโพธิ์ชัยสมสะอาด ข. วัดศรีคณู เมือง ค. วัดมหาชัย ง. วัดโพธิ์ศรี ๙. วดั พระราชศรสี มุ ังค์หายโศก คอื วดั ใดในปจั จุบัน ก. วดั โพธช์ิ ยั สมสะอาด ข. วัดศรีคูณเมือง ค. วดั มหาชัย ง. วดั โพธศ์ิ รี ๑๐. เมอื งหนองบัวลาภสู รา้ งขึ้นเม่อื ประมาณปี พ.ศ.ใด ก. พ.ศ. ๒๓๐๑ ข. พ.ศ. ๒๓๐๒ ค. พ.ศ. ๒๓๐๓ ง. พ.ศ. ๒๓๐๔
หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ท่ี ๑ นครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแก้วบวั บาน ๒๗ เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น เลม่ ที่ ๑ นครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแกว้ บวั บาน ขอ้ คาตอบ ๑ข ๒ก ๓ค ๔ข ๕ง ๖ข ๗ก ๘ค ๙ง ๑๐ ข
หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ท่ี ๑ นครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแกว้ บวั บาน ๒๘ บรรณานกุ รม กลุ่มงานยุทธศาสตรแ์ ละขอ้ มลู เพือ่ การพฒั นาจงั หวดั สานักงานจังหวัด. จังหวัด หนองบวั ลาภู [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก http://www. nongbualamphu.go.th/390/ สบื คน้ วันท่ี ๑๘ มถิ ุนายน ๒๕๖๐. จงั หวดั หนองบวั ลาภ.ู จังหวดั หนองบัวลาภู – นครเขอื่ นขันธก์ าบแก้วบวั บาน [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก https://www.anuwatjuthamas. wordpress.com/ สืบคน้ วันที่ ๑๘ มถิ นุ ายน ๒๕๖๐. จังหวัดหนองบัวลาภ.ู วัฒนธรรม พฒั นาการทางประวัตศิ าสตร์ เอกลกั ษณแ์ ละภมู ิ ปญั ญาจงั หวัดหนองบัวลาภู. ฉะเชงิ เทรา : บรษิ ทั โรงพมิ พ์ประสานมิตร, ๒๕๔๙. บาเพ็ญ ณ อบุ ล. “ชือ่ บ้าน – นามเมอื ง นครเขื่อนขนั ธ์กาบแกว้ บัวบาน หนองบวั ลุ่มภู กมทุ ธไสย หนองบัวลาภู” เอกสารประกอบการเสวนาประวัตหิ นองบัวลาภู. ณ หอ้ งประชมุ เข่ือนอุบลรัตน์ วนั ท่ี ๒๗ กนั ยายน ๒๕๓๙. ปรีดี นุชติ . “สารคดบี นั ทกึ ข้อความอิงประวัตศิ าสตรแ์ ละพงศาวดารอีสานหนองบัวลาภู” เอกสารประกอบการเสวนาประวัติหนองบัวลาภ.ู ณ หอ้ งประชมุ สาธารณสุขจงั หวัด หนองบวั ลาภู วนั ที่ ๒๗ พดศจิกายน ๒๕๔๑. แผนทีไ่ ทย. แผนท่ีจงั หวัดหนองบวั ลาภู [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก http:www.panteethai.com/maps/province/NongBuaLamphu.jpg สบื ค้นวันท่ี ๑๘ มถิ ุนายน ๒๕๖๐. มนสุ โพธจิ ักร. “ประวัติความเป็นมาของหนองบวั ลาภู” เอกสารประกอบการเสวนา ประวตั หิ นองบวั ลาภู. ณ ห้องประชมุ สาธารณสขุ จังหวดั หนองบวั ลาภู วนั ที่ ๒๗ พดศจกิ ายน ๒๕๔๑. เลย่ี ม วจั นสุนทร. ประวัติเมอื งหนองบวั ลาภู. ชยั ภมู ิ : โรงพิมพ์ไทยเสร,ี ๒๕๑๙. วัดอีสาน. วดั ในจังหวัดหนองบัวลาภู [ออนไลน]์ . เข้าถึงไดจ้ าก http://www.watisan.org/ สบื คน้ วนั ที่ ๑๘ มถิ นุ ายน ๒๕๖๐. วิกีพเี ดยี สารานุกรมเสร.ี จงั หวดั หนองบัวลาภู [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก http://th.wikipedia.org/wiki/จงั หวัดหนองบัวลาภู สบื คน้ วันที่ ๑๘ มถิ นุ ายน ๒๕๖๐. สานักงานวัฒนธรรมจังหวดั หนองบวั ลาภู. แหลง่ ทอ่ งเท่ยี ว...ทางธรรมชาติ และวัฒนธรรม จังหวดั หนองบวั ลาภู. หนองบัวลาภู : สานักงานวฒั นธรรมจงั หวัดหนองบวั ลาภ,ู มปป.
หนงั สืออา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ท่ี ๑ นครเขอ่ื นขนั ธก์ าบแก้วบวั บาน ๒๙ ประวตั ผิ จู้ ดั ทา ชอื่ นางนวพรรษ จนั ทราทูล วนั เดอื น ปเี กดิ ๒๒ กรกฏาคม ๒๕๑๗ สถานทท่ี างาน ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานกั งาน กศน. สานักงาน กศน.จังหวัดหนองบัวลาภู สานกั งานปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ประวตั กิ ารศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๓๙ ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพครู มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช พ.ศ. ๒๕๔๐ ปริญญาตรีศิลปศาสตร์บัณฑติ (บรรณารกั ษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร)์ พ.ศ. ๒๕๕๔ ปรญิ ญาโทศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต (การบรหิ ารการศกึ ษา) ประวตั ริ บั ราชการ พ.ศ. ๒๕๔๔ ตาแหน่ง บรรณารักษ์ ๓ หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอศรบี ญุ เรือง ศูนย์การศึกษานอกโรงเรยี นจังหวดั หนองบวั ลาภู พ.ศ. ๒๕๕๗ ตาแหน่งครู คศ.๓ ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอแมแ่ จม่ สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย จงั หวดั เชยี งใหม่ พ.ศ. ๒๕๕๙ ตาแหน่งครู คศ.๓ ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย จังหวัดหนองบัวลาภู ผลงานดเี ดน่ รางวลั ครุ สุ ดุดี ด้านครผู ้สู อนดีเด่น ประจาปี ๒๕๕๙
Search
Read the Text Version
- 1 - 41
Pages: