ศิษย์ปัจจุบันดีเด่นอีบุ๊ค

๒ คานา เอกสารเล่มนี้จัดทาข้ึนเพ่ือประกอบการประเมินคัดเลือก สาขา นักศึกษา กศน. ประเภท ศิษย์ปัจจุบัน กศน. ดีเด่น ประจาปี 2563 เพ่ือนาเสนอผลงาน ของนายกุ่ม ศรีอ๊อด ซึ่งเป็นศิษย์ปัจจุบันของ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก เอกสารเล่มน้ี ประกอบด้วยส่วนสาคัญดังต่อไปน้ี ตอนท่ี 1 ข้อมลู ทวั่ ไป ตอนท่ี 2 ขอ้ มลู การประเมิน มี 5 ดา้ น ดา้ นที่ 1 การพัฒนาตนเอง ด้านที่ 2 การมีคณุ ธรรมและจรยิ ธรรม ด้านที่ ๓ การเป็นพลเมืองท่ดี ี ด้านที่ ๔ การมีส่วนรว่ มในกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอัธยาศยั ดา้ นท่ี ๕ จติ อาสาทาความดีเพ่อื สงั คมและชุมชน ตอนท่ี 3 ผลงานท่ีสร้างชื่อเสียงและไดร้ ับการยอมรับจากสังคม หวังว่าเอกสารเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ให้แก่คณะกรรมการประเมินและผู้อ่านได้เป็นอย่างดี เพ่ือเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพในการบริหารและการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศยั กศน.อาเภอชาติตระการ พฤศจิกายน 25๖3

สารบญั ๓ เรอื่ ง หน้า คานา ก ข สารบญั 1 3 ตอนท่ี 1 ข้อมูลทว่ั ไป 4 10 ตอนที่ 2 ข้อมูลการประเมิน มี 5 ดา้ น 14 ดา้ นที่ 1 การพฒั นาตนเอง 19 ด้านท่ี 2 การมีคุณธรรมและจริยธรรม ดา้ นที่ ๓ การเปน็ พลเมอื งทด่ี ี 26 ด้านท่ี ๔ การมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษา 31 ตามอธั ยาศยั ด้านท่ี ๕ จติ อาสาทาความดีเพ่ือสงั คมและชมุ ชน 36 37 ตอนท่ี 3 ผลงานท่ปี ระสบความสาเรจ็ E-BOOK เอกสารประกอบการประเมิน คณะผจู้ ัดทา

๔ ตอนที่ ๑ ขอ้ มูลทั่วไป

๕ ตอนท่ี ๑ ขอ้ มลู ท่วั ไป ๑. ชือ่ นายกมุ่ นามสกลุ ศรีอ๊อด อายุ 60 ปี ระดับการศึกษา มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ๒. ทีอ่ ยู่ปจั จุบัน เลขท่ี 3/1 หมู่ท่ี 6 ตาบล/แขวง ชาตติ ระการ อาเภอ/เขต ชาตติ ระการ จังหวดั พิษณุโลก โทรศพั ท์..............-........... โทรสาร..........-.......... โทรศพั ท์มือถอื 085-2714904 E-mail……………………………-…………………………………… 3. อาชพี เกษตรกร ตาแหน่ง ผ้ชู ่วยผู้ใหญบ่ ้านฝุายรักษาความสงบ หมูท่ ่ี 6 ตาบลชาตติ ระการ สถานทีท่ างาน 3/1 หมู่ที่ 6 ตาบล/แขวง ชาติตระการ อาเภอ ชาตติ ระการ จงั หวดั พิษณุโลก โทรศัพท.์ .............-........... โทรสาร..........-.......... โทรศัพท์มือถือ 085-2714904 E-mail……………………………-…………………………………… 4. ปัจจุบันกาลังศึกษา หลักสูตร/สาขา การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ขน้ึ ทะเบยี นนกั ศกึ ษา กศน. ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 ผลการเรียนปัจจุบัน 2.47 ชื่อสถานศึกษา ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยอาเภอชาติตระการ จังหวัด พิษณุโลก 5. ประวัตผิ ลงาน ทีใ่ ห้การสนับสนุนกจิ กรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั (โดยระบุหน่วยงาน หรือองค์กรที่เขา้ ร่วมกจิ กรรม) 5.๑ โครงการเสรมิ สรา้ งคุณธรรมจรยิ ธรรมสาหรบั ผู้เรียน “ธรรมะวถิ ีพุทธ” ของ กศน.อาเภอ ชาติตระการ 5.๒ โครงการ “ปลูกฝังคณุ ธรรม จริยธรรม สร้างวนิ ัย จติ สาธารณะ” ของ กศน.อาเภอ ชาตติ ระการ 5.3 โครงการเสรมิ สรา้ งความร้วู ินัยลูกเสือตามระบอบประชาธปิ ไตยห่างไกลยาเสพตดิ ของ กศน.อาเภอชาติตระการ 5.4 โครงการศึกษาแหล่งเรยี นรู้ประวตั ิศาสตรช์ าตไิ ทย และบุญคณุ พระมหากษัตรยิ ์ไทย ของ กศน.อาเภอชาตติ ระการ 5.5 โครงการจัดการแข่งขนั กีฬา กศน.ชาตติ ระการสัมพนั ธ์ ครง้ั ที่ 5 ของ กศน.อาเภอ ชาติตระการ 5.6 โครงการสง่ เสริมความรู้ การรักษาทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม ของ กศน.อาเภอ ชาติตระการ 6. สถานศึกษา/หน่วยงานท่ีเสนอขอเข้ารับการประเมิน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัยอาเภอชาติตระการ สังกัด สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศัยจังหวดั พิษณุโลก 7. ผลงานหรือรางวัลที่ไดร้ ับการยกยอ่ ง -

๖ ตอนที่ ๒ ขอ้ มูลการประเมนิ

๗ ตอนที่ 2 ขอ้ มลู การประเมนิ องคป์ ระกอบ ๑. การพัฒนาตนเอง (คนเก่ง) ๑. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นดี ข้าพเจ้าได้รับความรู้ ประสบการณ์ จากกระบวนการจัดการเรียนการสอนของครู กศน.ประจาตาบล ด้วยรูปแบบวิธีการต่างๆ ทั้งกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้จากการสื่อการสอน เอกสารแบบเรียน การทาแบบทดสอบ ใบงานความรู้ การสาธิต การฝึกปฏิบัติ การบรรยายอธิบายเพ่ิมเติมในชั้นเรียน การทา รายงาน การทาโครงงาน และการเข้าร่วมโครงการสอนเสริมเติมความรู้สู้สอบปลายภาคเรียนในรายวิชาที่มี ความยาก รวมท้ังการเรียนผ่านการจัดกระบวนการเรียนการสอนผ่านออนไลน์ของ สานักงาน กศน.จังห วัด พษิ ณโุ ลก รวมกับ กศน.อาเภอชาติตระการ จากการเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนดังกล่าว สามารถทาให้ ข้าพเจ้ามีการเปล่ียนแปลงประสบการณ์เรียนรู้ทางด้านพุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย ของตนเองและ แลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกับผู้อ่ืนได้ โดยมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนท่ีดีข้ึน ผลการเรียนเฉล่ียในภาคเรียนท่ี 1/2563 อยู่ท่ี 2.47 ขา้ พเจา้ เขา้ รบั การศกึ ษาท่ีศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอ ชาตติ ระการ ต้ังแตร่ ะดับประถมศกึ ษา ปจั จุบนั กาลงั ศกึ ษาในระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย วฒุ กิ ารศึกษาระดับประถมศึกษา และระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ ประกาศนยี บตั รสาเร็จการศกึ ษาตามหลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น

๘ ระดบั ผลการเรยี นเฉลยี่ ภาคเรยี นที่ 1/2562 ภาคเรียนที่ 2/2562 และภาคเรียนท่ี 1/2563 คอื 2.47 เขา้ รว่ มโครงการสอนเสรมิ เติมความรู้ กระบวนการเรยี นการสอนผ่านออนไลน์ 2. มีความสามารถพิเศษ ข้าพเจ้ามีความสามารถพิเศษในด้านการใช้ภาษา การอ่านโคลงกลอน การใช้ภาษาพูดท่ีสละสลวย งดงาม มีการใชภ้ าษาที่สรา้ งสรรค์มีจินตนาการเพื่อการใช้ในการส่ือสาร เนื่องจากข้าพเจ้าเป็นหมอขวัญประจา หมู่บ้านในการพิธีกรรมทางศาสนา การดาเนินชีวิตตามความเช่ือที่มีมาแต่โบราณในการหาท่ีพึ่งพาทางจิตใจ ข้าพเจ้าได้อาศัยความสามารถในการใช้คาพูดในการทาหมอขวัญในการทาขวัญนาค เพ่ือสอนกุลบุตรที่จะ อปุ สมบทให้รู้สึกซาบซ้ึงถึงพระคุณของพ่อแม่ และให้เห็นว่าการบวชนั้นเป็นการตอบสนองพระคุณพ่อแม่อย่าง หนึ่ง และการทาขวัญในงานแตง่ งาน ทาขวญั คู่บา่ วสาวใหอ้ ยู่ด้วยกัน รกั กันนานๆ ไม่บาดหมางใจกัน ถ้ามีบุตรก็ ให้เล้ียงง่าย โตเรว็ เป็นเด็กดี รวมถงึ การเป็นหมอขวญั ในการประกอบอาชีพการทานาตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการ ทานาจนกระทั่งนาข้างเข้ายุ้งฉาง เพราะความเชื่อนี้เป็นที่มาแห่งการทาขวัญเพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็น การสรา้ งความสัมพันธ์ท่ีดรี ะหวา่ งคนในชุมชนอกี ทางหนง่ึ

๙ การทาขวัญในงานบวช การทาขวัญในงานแต่งงาน 3. แสวงหาความรู้จากสื่อตา่ ง ๆ ข้าพเจา้ ได้พัฒนาตนเองดว้ ยความเพยี รพยายามในการเรียนรู้ และเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ แสวงหา ความรู้ จากแหล่งเรยี นรู้ท้งั ภายใน กศน.ตาบล กศน.อาเภอ หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอชาติตระการ ในชุมชน ของขา้ พเจ้าเอง และผ่านส่ือออนไลน์ต่างๆ อย่างสม่าเสมอด้วย ในการแสวงหาความรู้ของข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้า จะเลอื กสื่อที่เหมาะสมกับเรื่องทตี่ อ้ งการคน้ คว้า และมีจดบันทึกความรู้ วิเคราะห์เนื้อหาท่ีได้รับ นามาสรุปเป็น องคค์ วามรู้ของตนเอง และได้แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ มีการถ่ายทอด เผยแพร่ และนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาได้ ข้าพเจา้ ไดพ้ ัฒนาตนเองในด้านของการติดต่อส่ือสารที่รวดเร็ว ทันสมัย มีการนาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ใน การประกอบอาชีพ และการทางานในตาแหนง่ ผู้ชว่ ยผใู้ หญบ่ า้ น ผ่านทางสือ่ เทคโนโลยี การใช้สมาร์ทโฟน และ แอปพลิเคชนั เชน่ Line Facebook การตดิ ต่อส่อื สารท่ีทันสมัย ผ่าน Line Facebook

๑๐ การแสวงหาความรู้นอกสถานที่ ณ อทุ ยานแห่งชาติน้าตกชาติตระการ การแสวงหาความรูน้ อกสถานท่ี ณ อุทยานประวตั ิศาสตรส์ โุ ขทัย การแสวงหาความรู้ใน กศน.ตาบลชาตติ ระการ

๑๑ การแสวงหาความรู้ใน กศน.ตาบลชาติตระการ 4. นาความรู้ไปใช้ เพอื่ ประโยชนข์ องตนเอง ข้าพเจ้าให้ความสาคัญกับการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ โดยมีกรอบการพัฒนาตนเอง และการวิเคราะห์ เปูาหมายกับสิ่งท่ีตนเองเป็นอยู่ และหาคาตอบในการพัฒนาเพ่ิมข้ึน มีการวางแผนการพัฒนาอย่างมีรูปแบบ และใกล้เคียงส่ิงที่เป็นจริง การทาในสิ่งที่ต้องการหรือหวังไว้ จะต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง การพัฒนา ตนเองก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งของความสาเร็จ การพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพและรู้จักตั้งระดับของความ คาดหวังที่ทาให้ตนเองมีความสมหวังกับส่ิงท่ีทาได้อย่างพอดี ไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป รวมท้ังมีแนว ทางการทางานรูปแบบใหม่ๆ โดยไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง ข้าพเจ้านาความรู้ท่ีได้รับจากการเรียน กศน. และ การศกึ ษาค้นคว้าเพิม่ เติม ทั้งจากส่ือสิง่ พิมพ์ ส่ือออนไลน์ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้รู้ มาปรับใช้ทั้งในเร่ือง การเรยี น และการดาเนนิ ชีวติ ในแบบฉบบั การดาเนินชวี ติ ของตนเอง นาความรทู้ ี่ได้รบั จากการศึกษาเล่าเรยี นไปปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั จนได้รบั ความไว้วางใจ ให้รบั ตาแหน่ง ผู้ช่วยผ้ใู หญบ่ ้าน

๑๒ เข้ารับอบรมหลกั สตู รต่างๆ และนามาปรบั ใช้ในการดาเนนิ ชีวติ ๕. นาความรู้ไปขยายผลใหผ้ อู้ ื่น ข้าพเจ้าโชคดีที่ได้รับโอกาสจากทางชุมชนให้เป็นมัคนายก ในการเป็นผู้นาทาพิธีทาบุญในวัด เนื่องใน วันสาคัญต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งทาให้ข้าพเจ้าได้นาความรู้ท่ีได้จากการพัฒนา ตนเองในรูปแบบตา่ งๆ มาขยายผลต่อให้ผู้อ่ืนได้ เพราะการทีเ่ ราพัฒนาตัวเองจนประสบความสาเร็จได้น้ัน ไม่ได้ ใหผ้ ลลพั ธแ์ กเ่ ราอยา่ งเดยี ว มนั อาจจะกลายเปน็ แรงบนั ดาลใจให้กับคนรอบขา้ งตวั เองอีกด้วย เน่ืองจากข้าพเจ้า เป็นผู้เรียน กศน.ท่ีมีอายุมากที่สุด คือ 60 ปี ซึ่งตอนนี้กาลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดย ข้าพเจ้าได้เริ่มเรียน กศน.อาเภอชาติตระการ ต้ังแต่ระดับประถมศึกษา และได้ศึกษาต่อที่ กศน.อาเภอ ชาติตระการต่อจนถึงปัจจบุ ัน การพัฒนาตนองในการศกึ ษาหาความร้อู ายุไม่สาคญั ทส่ี าคัญคือความต้ังใจ สนใจ ในการพฒั นาตนเอง ข้าพเจ้าได้พิสจู น์ให้เหน็ แลว้ วา่ คนเราสามารถเรียนรู้ไดต้ ลอดชีวิตอยา่ งไม่มีที่ส้ินสุด ทาเลย แม้จะเปน็ เรอ่ื งเล็กน้อยแต่มนั กย็ ังดีกวา่ ไม่ได้ทาอะไรเลย เปน็ ผู้นาทาพิธีทางศาสนาในวันสาคัญตา่ งๆ เป็นตวั แทนนกั ศึกษากล่าวความรูส้ ึกในการ ร่วมกจิ กรรมของ กศน.อาเภอชาตติ ระการ

๑๓ ศกึ ษาต่อในระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย องคป์ ระกอบที่ 2 การมีคณุ ธรรมและจริยธรรม (คนดี) ๑. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมอย่างสม่าเสมอ ข้าพเจ้าได้พัฒนาตนเองด้วยการปฏิบัติตนเป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม ปฏิบัติแต่ในทางที่ถูกที่ควรให้ เป็นปกติวิสัย มีความระลึกได้ว่าอะไรไม่ควร และความรู้สึกตัวว่ากาลังทาอะไรอยู่ โดยยึดหลักคาสอนของ พระพุทธศาสนาเป็น \"หลักแหง่ ความประพฤต\"ิ เมื่อมีเวลาว่างข้าพเจ้ามักจะเข้าวัด เพื่อศึกษาหลักธรรมคาสอน ของพระพทุ ธศาสนา และชว่ ยเหลือกจิ กรรมตา่ งๆ ของทางวัดอยู่เสมอ รักษาความสัตย์ ความจริงใจต่อตัวเองท่ี จะประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งท่ีเป็นประโยชน์และเป็นธรรม การรู้จักละวางความช่ัว ความทุจริต และรู้จักสละ ประโยชน์ส่วนน้อยของตนเพ่ือประโยชน์ส่วนรวม มีคุณธรรม จริยธรรม ความดีงาม รู้ผิดชอบช่ัวดี มีความ ภาคภมู ิใจในความเปน็ ไทย และยึดถือปฏิบตั ิอยู่ในวิถีชีวิตของข้าพเจา้ อยา่ งสมา่ เสมอ ศกึ ษาหลักธรรมคาสอนของพระพุทธศาสนา และชว่ ยเหลือกิจกรรมต่างๆ ของทางวัด

๑๔ เขา้ รบั การฝึกอบรม โครงการเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรมจริยธรรมสาหรับผู้เรยี น “ธรรมะวถิ พี ุทธ” และโครงการ “ปลูกฝงั คุณธรรม จริยธรรม สร้างวินยั จิตสาธารณะ” ๒. ปฏิบัติตนเป็นผู้มีคุณธรรมเป็นแบบอย่างทด่ี ีของครอบครวั ขา้ พเจา้ ในฐานะท่เี ป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกในครอบครัว บทบาทหน้าที่ความเป็นพ่อ และการเป็นผู้นา ครอบครัว ทาให้ข้าพเจ้าจะเน้นย้ากับสมาชิกทุกคนในครอบครัวเสมอว่า เมื่อเราอยู่ร่วมกันใน ครอบครัว สมาชิกทกุ คนต่างก็มีบทบาทและหน้าท่ีท่ีจะต้องปฏิบัติ หน้าท่ีของพ่อที่มีต่อลูกในการหารายได้มา เลี้ยงครอบครวั การอบรมสัง่ สอนใหล้ กู เปน็ คนดีของสังคม การให้การศึกษาต่อลูก ความรักต่อลูก ครองตนเป็น แบบอยา่ งท่ีดตี อ่ ลูก เปน็ ต้น การเปน็ แบบอย่างที่ดีให้ลูกไดเ้ รียนรู้ และปฏิบัติตนในฐานะที่เป็นลูก หลาน ที่ดีต่อ ปุู ย่า ตา ยาย ในการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระหน้าท่ีของปูุ ย่า ตา ยาย การเคารพเชื่อฟัง และการดูแลผู้สูงอายุ ในบ้าน การปลูกฝัง “ความคิด” อันเป็นรากฐานของการพูด การกระทา นิสัย และบุคลิกลักษณะความกตัญญู กตเวที ความซื่อสตั ย์ ความเสียสละ และความรบั ผิดชอบต่อสมาชิกทกุ คนในครอบครวั ไดร้ บั เลอื กให้เปน็ ครัวเรือนปลอดยาเสพติด ได้เขา้ รบั การอบรมโครงการเสรมิ สรา้ งความร้วู ินัยลกู เสือตามระบอบ ประชาธปิ ไตย หา่ งไกลยาเสพตดิ และร่วมเดินรณรงคก์ ารคอร์รปั ชนั่

๑๕ ๓. ปฏิบตั ติ นเป็นผ้มู ีคณุ ธรรมเป็นแบบอย่างทดี่ ขี องชุมชนและสงั คม ขา้ พเจ้าปฏบิ ัตติ นในฐานะสมาชิกของชุมชนและสังคม โดยใช้กระบวนการ “ระเบิดจากข้างใน ดังพระ ราชดารัสของพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมพิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลท่ี 9) ทรงมุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาคน “ต้องสร้างความเข้มแข็งให้คนในชุมชนท่ีเราเข้าไปพัฒนาให้มีสภาพพร้อมที่จะ รับการพัฒนาเสียก่อน แล้วจึงค่อยออกมาสู่สังคมภายนอก มิใช่การนาเอาความเจริญหรือบุคคลจากสังคม ภายนอกเข้าไปหาชุมชนท่ียังไม่ทันได้มีโอกาสเตรียมตัว หรือต้ังตัว อย่าให้โดยที่ผู้รับยังไม่พร้อมท่ีจะใช้ ประโยชนอ์ ยา่ งเตม็ ท”ี่ เพื่อนาไปสู่สังคมคุณธรรมที่เกื้อกูล และแบ่งปันซ่ึงกันและกัน คุณธรรมความดี พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา การปฏิบัติตนในฐานะสมาชิกที่ดีของชุมชน ข้าพเจ้าปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของชุมชน การเข้าร่วมกิจกรรมของชุมชน เพ่ือช่วยรักษาและเผยแพร่วัฒนธรรมประเพณีของชุมชนไว้ เช่น ประเพณี การทาบุญเม่ือถึงวันสาคัญทางศาสนา ประเพณีวันสงกรานต์ ประเพณีวันลอยกระทง เป็นต้น รวมถึงการ บาเพ็ญประโยชน์ต่อชุมชน มีจิตสานึกในการรักษาส่ิงแวดล้อม และการมีจิตสาธารณะเห็นแก่ประโยชน์ของ ส่วนรวมและรกั ษาสาธารณสมบตั ขิ องชุมชนและสังคม เข้าร่วมกิจกรรมวนั สาคญั ทางศาสนา และมสี ว่ นร่วมในการปรบั ปรงุ บรู ณะวัด ทาความสะอาดบริเวณภายใน-ภายนอกวดั และเข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนา

๑๖ 4. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้มีคุณธรรม และจรยิ ธรรมตอ่ การประกอบอาชพี ข้าพเจ้าได้นาธรรมคาสอนในพระพุทธศาสนามาใช้เป็นองค์ความรู้ในการประยุกต์ ปรับใช้ในการ ประกอบอาชพี โดยใช้คณุ ธรรมและจรยิ ธรรมในการประกอบอาชีพ สิ่งท่ีควรประพฤติปฏิบัติเพ่ือให้เกิดคุณงาม ความดี ยึดม่ันในคุณธรรม เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานให้ราบร่ืน มีความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย ความเสียสละยอมเสียส่ิงที่เป็นของตนเองเพ่ือให้เกิดประโยชน์แก่ผู้อ่ืน หรือสังคม ความสามัคคี ความพร้อม เพรียงของหมูค่ ณะ ซึ่งในการปฏิบัติงานใดๆ จะสาเร็จลุล่วงได้ดีน้ัน จะต้องเกิดความสามัคคี และความซ่ือสัตย์ สจุ ริต การประพฤตปิ ฏบิ ัตอิ ย่างตรงไปตรงมา ท้ังทางกายทางวาจา และทางใจ ไม่คดโกงเอาเปรียบผู้อื่นในการ ประกอบอาชีพ รวมถึงการรักและศรัทธาในอาชีพของตัวข้าพเจ้าเอง ในการเป็นเกษตรกร ซึ่งเป็นกระดูกสัน หลงั ของชาติ ปฏิบัตติ นเป็นผู้มคี ณุ ธรรม และจรยิ ธรรมตอ่ การประกอบอาชีพ

๑๗ องคป์ ระกอบที่ ๓. การเป็นพลเมืองที่ดี (มคี วามสขุ ) ๑. เปน็ บคุ คลท่ีมีความจงรกั ภกั ดีตอ่ สถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ ข้าพเจ้าแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซ่ึงเป็นศูนย์รวมของ ประเทศชาติ ข้าพเจ้าเป็นคนไทยคนหนึ่งท่ีมีความซื่อสัตย์ต่อชาติ รักและหวงแหน ปูองกันไม่ให้ผู้ใดมาทาลาย ปกปอู งชอ่ื เสียงไม่ให้ใครมาดูแคลน และประพฤตติ นให้ถกู ตอ้ งตามกฎหมาย และขนบธรรมเนียม ประเพณีของ ชาติบา้ นเมอื ง ประเทศไทยให้เสรีภาพในการนับถือศาสนาและสามารถประกอบพิธีกรรมตามศาสนาได้ หน้าที่ ที่เราทุกคนต้องรักษาไว้ซึ่งศาสนา โดยการบารุงรักษาและเสริมสร้างศรัทธาเพื่อให้ศาสนาคงอยู่เป็นหลักยึด เหน่ียวในด้านคุณธรรม เป็นท่ีพ่ึงทางกายและทางจิตใจ ทาให้มนุษย์ดารงชีพร่วมกันในสังคมอย่างมีสันติสุข ข้าพเจ้าประพฤติตอ่ ผอู้ น่ื ดว้ ยความสจุ ริตท้ัง กาย วาจา และใจ และองค์พระมหากษัตริย์ ทรงเป็นศูนย์รวมของ ชาวไทยทั้งประเทศ ทรงบาบัดทุกข์และบารุงสุข ให้แก่ราษฎรด้วยความเสียสละ ข้าพเจ้าเทิดทูนพระองค์ไว้ สูงสุด ดว้ ยความจงรกั ภกั ดี ปฏิบัตติ นเป็นบคุ คลทมี่ ีความจงรกั ภักดตี ่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์

๑๘ ๒. ประพฤตติ นให้เปน็ ไปตามระเบยี บ กฎเกณฑ์ กฎหมาย และขอ้ บังคับตา่ ง ๆ ของสงั คม ข้าพเจ้าตระหนักถึงความสาคัญของการประพฤติตนให้เป็นไปตามระเบียบ กฎเกณฑ์ กฎหมาย และ ข้อบังคับตา่ ง ๆ ของสงั คม เพอื่ ปูองกันผลกระทบท่ีอาจเกิดข้ึนต่อการดาเนินชีวิต และชุมชนสังคมที่ข้าพเจ้าอยู่ อาศัย ทุกคนมีบทบาทต่อสังคม และปฏิบัติตามหน้าท่ีท่ีสังคมยอมรับ มีความสาคัญเป็นอันมาก เพราะทาให้ การจดั ระเบียบสงั คมดีขึ้น เปน็ การควบคุมสังคมให้เป็นระเบียบ ถ้าคนไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ ตามบทบาทของตน ในสังคมให้สมกับสถานภาพท่ีได้รับ ก็จะทาให้สังคมเสียระเบียบ ทาให้เกิดปัญหาและความยุ่งยากให้แก่สังคม เพอ่ื ให้สงั คมมรี ะเบียบและดารงอยูไ่ ด้ ขา้ พเจ้าซ่ึงถือว่าเป็นสมาชิกคนหนึ่งของสังคมท่ียึดถือแนวทางการปฏิบัติ ตามระเบียบ กฎเกณฑ์ กฎหมาย และข้อบังคับต่าง ๆ ท่ีเป็นบรรทัดฐานของสังคม เม่ือสร้างบรรทัดฐานทาง สังคมข้ึนมาจาเป็นต้องส่งเสริม สนับสนุนให้สมาชิกของสังคมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ข้าพเจ้าได้ศึกษา ระเบียบ กฎเกณฑ์ กฎหมาย และข้อบังคับต่าง ๆ ของสังคมท่ีเก่ียวข้องกับการดาเนินชีวิตประจาวัน ซึ่งเป็น หน้าท่ีของชาวไทยทกุ คนทีจ่ ะต้องศึกษาและทาความเข้าใจเร่ืองกฎหมายเพื่อไม่ให้เสียเปรียบหรือได้รับโทษโดย รเู้ ทา่ ไม่ถึงการณ์ เขา้ รบั การอบรมโครงการเสริมสร้างความรู้ วินัยลูกเสอื ตามระบอบประชาธปิ ไตย ห่างไกลยาเสพติด

๑๙ ๓. รว่ มกจิ กรรมจิตอาสา ข้าพเจ้าได้ตระหนักถึงความสาคัญของการเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา ไม่ว่าจะเป็นของหมู่บ้าน ของ กศน.ตาบลชาติตระการ กศน.อาเภอชาติตระการ และหน่วยงานต่างๆ ท่ีจัดกิจกรรม ข้าพเจ้าเข้าร่วม กิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และทุกครั้งท่ีมีโอกาส มุ่งประโยชน์ต่อส่วนรวม การทางานทุกอย่างเป็นไปด้วยความ สมัครใจ ไม่มุ่งหวังผลตอบแทนในรูปของอามิส สินจ้าง หรือรางวัล ตลอดจนการอุทิศกาย กาลังใจ และเวลา ให้แก่ส่วนรวม \"ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์” เป็นผู้ที่เอ้ือเฟื้อ เสียสละ เวลา แรงกาย แรงใจ เพ่ือช่วยเหลือผู้อื่น หรอื สังคมใหเ้ กดิ ประโยชน์และความสุขมากขึ้น เช่น การทาฝายชะลอน้าของหมู่บ้าน การปลูกต้นไม้เพื่อเป็น การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การทาความสะอาดวัด การทาความสะอาดโรงเรียน รวมไปถึง สาธารณประโยชน์ ในการทากิจกรรม หรือสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน และมีความสุขท่ี ได้ช่วยเหลือผู้อ่ืน เป็นจิตท่ีไม่น่ิงดูดาย เมื่อพบเห็นปัญหา หรือความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นกับผู้คน เป็นจิตท่ีมี ความสุขเมือ่ ได้ทาความดี เขา้ รว่ มกจิ กรรมจิตอาสา “ปลูกต้นไม้” ในชมุ ชน และ กศน.ตาบลชาติตระการ เข้าร่วมกจิ กรรมจติ อาสาเราทาดดี ว้ ยหวั ใจในชมุ ชน เชน่ การทาความสะอาดบรเิ วณโรงเรียน การทาความสะอาดวัด

๒๐ เข้าร่วมกจิ กรรมจิตอาสาเราทาดีดว้ ยหวั ใจในชมุ ชน เช่น การทาความสะอาดบริเวณโรงเรียน การทาความสะอาดวัด การสรา้ งฝายชะลอนา้ ของหมู่บ้าน ๔. เป็นแบบอยา่ งท่ดี ใี ห้แก่ชมุ ชนและสงั คม ข้าพเจ้าปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างท่ีดีให้แก่ชุมชนและสังคม ในบทบาทหน้าที่ที่ข้าพเจ้าได้รับผิดชอบ หรือที่ได้รับมอบหมาย เร่ิมต้นจาการวางตัว การแต่งกาย บุคลิกภาพ การใช้กริยาวาจาที่สุภาพ เป็นผู้มี คุณธรรมจริยธรรมที่ดีตามวัฒนธรรมไทย มีความเป็นธรรมยึดม่ันในความดีความถูกต้อง และมีมารยาททาง สังคมประพฤติตนเป็นคนดีมีน้าใจเมตตากรุณา เอ้ือเฟ้ือเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น และเป็นกัลยาณมิตรต่อทุกคน มีความ อุตสาหะ ขยนั อดทน มุ่งมั่น และรบั ผิดชอบงานเตม็ ความรู้ ความสามารถ ต้ังใจทางานให้เสร็จทันเวลา พร้อม ท้ังประพฤติ ปฏิบัติตนอย่างเรียบง่าย และประหยัดโดยใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า รวมถึงการรณรงค์และปลูก จิตสานึกในการช่วยกันประหยัดน้า ประหยัดไฟฟูา อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สาธารณะ สมบัตขิ องชุมชน รว่ มเดนิ รณรงค์ โครงการไทยนยิ ม ย่งั ยนื

๒๑ แต่งกายสุภาพ ถกู กาลเทศะ เปน็ ผสู้ บื สาน อนรุ ักษ์ ขนมธรรมเนยี ม ประเพณอี นั ดีงามไว้ เปน็ แบบอยา่ งที่ดใี นการดาเนินชวี ิต

๒๒ 5. เปน็ ผนู้ าในการทากิจกรรมและจติ อาสาประชาธิปไตย ข้าพเจ้าเป็นทั้งผู้นาและผู้ตามในการทากิจกรรมและจิตอาสาประชาธิปไตย ด้วยความตระหนักถึง ความสาคญั ของหลกั ศีลธรรมและคณุ ธรรมของศาสนา มีหลักการทางประชาธิปไตยในการดารงชีวิต ปฏิบัติตน ตามกฎหมายดารงตนเป็นประโยชน์ตอ่ สังคม โดยมกี ารช่วยเหลือเกื้อกลู กนั อนั จะก่อให้เกดิ การพัฒนาสังคมและ ประเทศชาติ ให้เปน็ สังคมและประเทศประชาธิปไตยอย่างแท้จริงหลักการทางประชาธิปไตย ทั้งในบทบาทของ การเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ด้านการรักษาความม่ันคงของหมู่บ้าน ในบทบาทของผู้นาครอบครัวท่ีมีส่วนช่วย สนับสนุนให้ทุกคนในครอบครัวได้ร่วมกิจกรรมและจิตอาสาประชาธิปไตย ด้วยการเป็นพลเมืองดีท่ีเคารพ กฎหมาย เคารพสทิ ธเิ สรีภาพของผูอ้ น่ื มีความกระตอื รือรน้ ท่จี ะเขา้ มามีสว่ นรว่ มในการแก้ปัญหาของชุมชนและ สังคม มคี ุณธรรมและจริยธรรมเป็นหลกั ในการดาเนนิ ชีวติ อย่างผาสขุ องคป์ ระกอบที่ ๔. การมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย ๑. เป็นผนู้ าในการจดั ต้งั กลุ่มการจัดกิจกรรม กศน. ในฐานะทข่ี า้ พเจ้าเปน็ นักศึกษาคนหนึ่ง ของ กศน.อาเภอชาติตระการ ข้าพเจ้ามีโอกาสได้รับเลือกเป็น ประธานนักศึกษา กศน.ตาบลชาติตระการ ทาให้ข้าพเจ้าได้มีโอกาสจัดตั้งกลุ่มการจัดกิจกรรม กศน.ตาบล ใน การพัฒนา กศน.ตาบลชาติตระการ โดยร่วมคิดวางแผนการจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนของนักศึกษา กศน.ตาบลชาติตระการ ให้ทุกคนใน กศน.ตาบลชาติตระการ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อวางแผนการจัด กิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนของตาบล เลือกกิจกรรมที่มีความสาคัญเรียงจากมากไปหาน้อย และการเก็บ หลักฐานร่องรอยเพื่อเป็นหลักฐานในการเข้าร่วมกิจกรรมของ กศน.ตาบลชาติตระการ ในบทบาทหน้าที่ตาม บทบาทของผู้นา ในการแบ่งงานกระจายงานให้สมาชิกทุกกลุ่มตามความรู้ ความสามารถสาหรับสมาชิกแต่ ละคน การคัดเลือกให้เป็นผู้นา ต้องพร้อมที่จะทาหน้าท่ีให้เหมาะสมกับงานที่ได้รับมอบหมายโดยการให้การ สนับสนนุ นาทมี ใหป้ ระสบผลสาเรจ็ ทไี่ ดต้ ามเปูาหมายทกี่ าหนดไว้ รวมถึงการเข้ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ของ กศน.อาเภอชาติตระการทกุ ครั้งที่มีโอกาส

๒๓ เป็นประธานโครงการปรบั ภมู ิทศั นแ์ ละพฒั นาจติ ใจของนักศกึ ษา กศน.ตาบลชาติตระการ ประจาภาคเรยี นท่ี 1/63 เป็นประธานกจิ กรรมจิตอาสาในชมุ ชนตาบลชาตติ ระการ ประจาภาคเรียนที่ 2/62

๒๔ 2. เขา้ ร่วมในการจัดกิจกรรม กศน.อย่างสมา่ เสมอ ข้าพเจ้าให้ความสาคัญในการเข้าร่วมกิจกรรมของ กศน.อย่างสม่าเสมอ เพราะนอกจากจะเป็นการ พฒั นาความรู้ และทักษะต่างๆ ของตนเองแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมสัมพันธภาพ ระหว่างนักศึกษา กศน.อาเภอ ชาติตระการ ในการแลกเปลี่ยนทักษะความรู้ และประสบการณ์ร่วมกัน มุ่งเน้นถึงการเสนอความคิด แง่มุม มมุ มองใหมๆ่ กจิ กรรมที่หลากหลาย ระหว่าง กศน.ตาบล กับ กศน.ตาบล กิจกรรมสัมพันธ์ สร้างเครือข่ายของ กศน.เภอชาติตระการ มีความสัมพันธ์ท่ีดีต่อกัน เกิดความคุ้นเคยกัน เน่ืองจากข้าพเจ้าเป็นนักศึกษาที่มีอายุ เยอะที่สุดในอาเภอ ยุคสมัยท่ีมีการเปล่ียนแปลงไป การเรียนรู้สิ่งต่างๆ จากคนรุ่นหนึ่งสู่คนอีกรุ่นหน่ึง (คนรุ่น เก่า และคนรุ่นใหม่) เลือก ปรับใช้ ประยุกต์ เพ่ือให้สามารถนาไปปฏิบัติได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพและเป็น ระบบ ไม่ว่าเป็นกจิ กรรมการสอนเสริมเติมความรู้สู้สอบปลายภาคเรียน กิจกรรมการศึกษาต่อเนื่องของ กศน. ตาบลชาติตระการ และกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัยของ กศน.ตาบล และ กศน.อาเภอ ร่วมถึงห้องสมุด ประชาชนอาเภอชาติตระการอยา่ งสม่าเสมอ โครงการปฏิบตั ิการปรบั พื้นฐานความรู้ปฐมนเิ ทศนักศึกษา โครงการจดั การแข่งขันกีฬา กศน.ชาตติ ระการสัมพันธ์ คร้ังที่ 5

๒๕ โครงการส่งเสรมิ ความรู้ การรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม 3. มีสว่ นร่วมในกิจกรรมทท่ี าประโยชนต์ อ่ การพัฒนาสถานศึกษา ข้าพเจ้าได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมท่ีทาประโยชน์ต่อการพัฒนา กศน.ตาบลชาติตระการ ในการปรับปรุง พัฒนาจุดเช็คอิน ปรับปรุงบริเวณโดยรอบอาคารสถานท่ีของ กศน.ตาบล และ กศน.อาเภอชาติตระการ เน่ืองจากข้าพเจ้าเชื่อม่ัน และศรัทธาการจัดการศึกษาของ กศน.อาเภอชาติตระการ การมีส่วนร่วมในฐานะ นักศึกษาคนหน่ึงของ กศน.อาเภอชาติตระการ ข้าพเจ้าเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของ กศน.ตาบล และ กศน. อาเภออย่างต่อเนื่องสม่าเสมอ รักษาภาพลักษณ์ท่ีดีของ กศน. รวมถึงการพัฒนาศักยภาพของตน เสริมสร้าง ทักษะชีวิต การสร้างสัมพันธภาพที่ดี ช่วยคิด ช่วยทา ช่วยแก้ปัญหา ช่วยพัฒนา ส่งเสริมศักยภาพของ กศน. อาเภออย่างเต็มที่ ตลอดจนการเข้าร่วมกิจกรรมท่ีมุ่งปลูกฝังความมีระเบียบวินัย รับผิดชอบ รู้สิทธิและหน้าท่ี ของตนเองในการอยู่ร่วมกนั ตามระบอบประชาธปิ ไตยท่มี ีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมุข เป็นผู้จัดตง้ั กลมุ่ และผู้เขา้ ร่วมกจิ กรรมปรับภูมิทัศน์ กศน.ตาบลชาติตระการ

๒๖ เข้ารับการอบรมโครงการเสริมสร้างความรู้วนิ ัยลูกเสือตามระบอบประชาธปิ ไตย หา่ งไกลยาเสพติด ๔. เป็นผูจ้ ัดกจิ กรรม กศน.ดว้ ยตนเอง การได้รับเกียรติให้เป็นประธานนักศึกษา กศน.ตาบลชาติตระการ เป็นการเปิดโอกาสให้ข้าพเจ้า สามารถเป็นผู้จัดกิจกรรม กศน.ด้วยตนเอง ท้ังในรูปแบบโครงการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนร่วมกันของนักศึกษา กศน.ตาบลชาติตระการ และการเป็นส่วนหน่ึงของการจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในภาพรวมของ กศน. อาเภอชาตติ ระการ ไม่วา่ จะเปน็ โครงการศึกษาแหลง่ เรียนร้ปู ระวตั ศิ าสตรช์ าตไิ ทย และบุญคุณพระมหากษัตริย์ ไทย โครงการ “ปลกู ฝังคุณธรรม จรยิ ธรรม สร้างวนิ ัย จติ สาธารณะ” เป็นต้น การเป็นผู้จัดกิจกรรม กศน.ด้วย ตนเองน้ัน ข้าพเจ้าเน้นการพัฒนาตนเอง พัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยใช้กระบวนการคิดเป็น ในการคิด วิเคราะห์ และแสวงหาความรู้ เพื่อให้สามารถจัดกิจกรรมที่เหมาะสมกับตนเอง ผู้อ่ืนตามกระบวนการเรียนรู้ แบบมสี ่วนรว่ ม และเกิดประโยชน์สูงสดุ ต่อการเรียนรู้อยา่ งตอ่ เนือ่ งและมีประสทิ ธิภาพ ได้รบั แต่งตั้งให้เป็นประธานนักศึกษา ของ กศน.ตาบลชาตติ ระการ

๒๗ โครงการศึกษาแหล่งเรยี นร้ปู ระวัติศาสตร์ชาติไทย และบุญคณุ พระมหากษัตรยิ ์ไทย โครงการ “ปลกู ฝงั คุณธรรม จรยิ ธรรม สรา้ งวินยั จิตสาธารณะ” 5. มสี ่วนรว่ มสนบั สนนุ ทรพั ยากรในการจัดกจิ กรรม กศน. กิจกรรม กศน.ตาบลชาตติ ระการ มีความหลากหลาย ทาให้ขา้ พเจา้ มีโอกาสได้มีส่วนร่วมสนับสนุนการ จดั กจิ กรรมตา่ งๆ ของ กศน. ไม่วา่ จะเปน็ ในรปู แบบ การแสดงความคิดเห็นในการวางแผนการจัดกิจกรรม การ สนับสนุนแรงงาน โดยข้าพเจ้าได้ร่วมปรังปรุง พัฒนา กศน.ตาบล เช่น การทาความสะอาดบริเวณโดยรอบ กศน.ตาบล การทาจุดเช็คอินของ กศน.ตาบล เป็นต้น และการเข้าร่วมกิจกรรมการศึกษาต่อเนื่องของ กศน. ตาบล ในโครงการพัฒนาทักษะชีวิต (กิจกรรมผู้สูงอายุ) นอกจากข้าพเจ้าจะเข้าร่วมกิจกรรมในฐานะผู้เข้าร่วม กิจกรรมแล้ว ข้าพเจ้ายังช่วยดูแลผู้เข้าร่วมกิจกรรมคนอื่นในฐานะนักศึกษา กศน.ตาบลชาติตระการด้วย และ เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน (การศึกษาตามอัธยาศัย) ของ กศน.ตาบลอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่มีโอกาส นอกจากน้ี ข้าพเจ้ายังได้ร่วมบริจาคทุนทรัพย์เพื่อทาบุญร่วมกัน และการเข้าร่วมกิจกรรมกับทาง กศน.อาเภอ ชาตติ ระการในการจดั กิจรรมตา่ งๆ ไมว่ า่ จะเปน็ กจิ กรรมอาเภอเคลื่อนท่ี โครงการจิตอาสา เปน็ ต้น

๒๘ การแสดงความคิดเหน็ ในการวางแผนการจดั กิจกรรม ปรงั ปรงุ พัฒนา กศน.ตาบล เช่น การทาความสะอาดบรเิ วณโดยรอบ กศน.ตาบล การทาจดุ เชค็ อนิ ของ กศน.ตาบล เขา้ รว่ มโครงการพัฒนาทักษะชีวติ (กจิ กรรมผ้สู ูงอายุ)

๒๙ องคป์ ระกอบท่ี ๕. จติ อาสาทาความดีเพอื่ สงั คมและชมุ ชน ๑. มีส่วนร่วมในการวางแผนพัฒนาสงั คมและชมุ ชน จติ อาสาทาความดีเพอ่ื สงั คมและชุมชน ข้าพเจ้าได้มีส่วนร่วมในการวางแผนพัฒนาสังคมและชุมชนใน ฐานะทีเ่ ปน็ ผูน้ า และในฐานะท่เี ป็นคนในชมุ ชนคนหนง่ึ กิจกรรมทุกกิจกรรมและทุกข้ันตอนจะต้องเกิดจากการ คิด ตัดสินใจ วางแผน และดาเนินการโดยคนในชุมชน ที่ร่วมคิด ร่วมทา ร่วมตัดสิน ร่วมรับผิดชอบ และร่วม แก้ไขปัญหาให้กับชุมชน ทุกคนในชุมชนมีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดสินใจที่จะดาเนินการใดๆ เพื่อชุมชน ร่วมถึง ข้าพเจ้าด้วย การแบ่งงานตามความสามารถ และความรับผิดชอบของแต่ละคน การทางานเพื่อสังคมและ ชุมชน โดยไมห่ วังผลประโยชน์ตอบแทน ทาด้วยใจ ให้ชุมชนมีความเป็นปึกแผ่น ซ่ึงจะเป็นรากฐานที่จะนาไปสู่ จดุ หมายปลายทางของการมีชวี ิตท่ดี ี มีสว่ นรว่ ม ในการร่วมคิด ร่วมทา ร่วมตดั สิน รว่ มรับผดิ ชอบ และร่วมแก้ไขปญั หาให้กบั ชุมชน

๓๐ ๒. มสี ว่ นรว่ มในการจัดกจิ กรรมการพัฒนาสังคมและชมุ ชน การมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการพัฒนาสังคมและชุมชนของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้ร่วมกิจกรรมของ ชุมชนในทุกข้ันตอน ตั้งแต่การร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ร่วมวางแผนการจัดกิจกรรม จนถึงขั้นการปฏิบัติ การมี ส่วนรว่ มมหี ลายระดบั และหลายวธิ ี บางวิธีสามารถทาได้ง่ายๆ แต่บางวิธีก็ต้องใช้เวลาขึ้นอยู่กับความต้องการมี ส่วนร่วมของแต่ละคน ค่าใช้จ่ายและความจาเป็นในการกิจกรรมการพัฒนาสังคมและชุมชนก็มีส่วนสาคัญ ขา้ พเจ้าไดม้ สี ่วนร่วมทงั้ ในรูปแบบของแรงงาน วัสดุส่ิงของ และประสบการณ์ เพื่อให้บรรลุเปูาหมายได้ อย่างมี ประสทิ ธิภาพ มีส่วนร่วมในการคดิ ตดั สินใจ วางแผน และลงมือปฏบิ ัติในการปรับปรุงบรู ณะวดั ในหมูบ่ ้าน ๓. แนะนาใหผ้ ู้อ่ืนมาร่วมกจิ กรรมช่วยเหลอื สงั คมและชุมชน กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์เป็นกิจกรรมจิตอาสาทาความดีเพ่ือสังคมและชุมชนอย่าง หนึ่ง ที่สามารถพัฒนาตนเอง เพ่ือแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมในลักษณะจิตอาสา การปลูกฝังและสร้าง จิตสานึกในการบาเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว กศน.อาเภอ และชุมชนสังคมท่ีอยู่อาศัย เป็นสังคม อุดมไปดว้ ยความรักความสขุ มีความมนั่ คง และพฒั นาก้าวหน้าตอ่ ไปได้ เพราะทุกคนร่วมสร้างสังคมน้ีขึ้นมา ไม่ จากดั วา่ เป็นวัยไหนหรอื อยู่ในหน้าทก่ี ารงานใด เราตา่ งมีความมุ่งม่ันต้ังใจ ขา้ พเจ้าได้มีการแนะนากิจกรรมอาสา ทเี่ หมาะกบั ความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะ เตรยี มความพรอ้ ม ความสนใจ ความสามารถ และแบบแผนการใช้ชีวิต/ เวลาว่าง รวมถึงการแลกเปล่ียนเรียนรู้สะท้อนแบ่งปันประสบการณ์หลังกิจกรรม เพ่ือสร้างความมั่นคงย่ังยืน ให้กบั ชุมชนจิตอาสาและสังคมไทย

๓๑ แนะนา ชักชวน เพือ่ นบ้านให้มาชว่ ยกนั พฒั นาหมบู่ า้ นให้น่าอยู่ โดยชักชวนให้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ทช่ี ุมชนจดั ขึ้น หรือทางหน่วยงานราชการจดั ให้ภายในชมุ ชนของตน 4. เปน็ ผนู้ าในการจดั กิจกรรมเพื่อพฒั นาสงั คมและชมุ ชน ข้าพเจ้าถือว่ามีความโชคดีเป็นอย่างมากท่ีได้รับความไว้วางใจในการทาหน้าที่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ด้าน การรกั ษาความมนั่ คง ทาให้ขา้ พเจ้ามีโอกาสได้รับมอบหมายในการเป็นผู้นาในการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาสังคม และชุมชน ซึ่งอาจจะไม่ได้เป็นผู้นาโดยตรง แต่ได้รับมอบหมายให้ทาหน้าที่ในส่วนที่เก่ียวข้องกับงานที่ได้รับ มอบหมาย และเมอ่ื เสรจ็ สิ้นจากงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายแล้ว ขา้ พเจ้ายังช่วยเหลืองานต่างๆ ท่ีเก่ียวข้องในการจัด กจิ กรรมต่างๆ ในฐานะทเี่ ปน็ สมาชกิ คนหนึง่ ของชมุ ชน การมจี ติ อาสาในการพัฒนาสังคมและชุมชนนั้น ไม่ว่าจะ ทาหนา้ ท่ใี ด ก็สามารถช่วยเหลือกิจกรรมเพ่ือพัฒนาสังคมและชุมชนได้ เพราะทุกคนล้วนแต่มีความสาคัญหมด ไม่มใี ครทจี่ ะทาทุกอยา่ งได้ด้วยตวั เองคนเดียว การเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมเพ่ือพัฒนาสังคม และชุมชนเป็นการเพิ่มช่องทางในการแลกเปล่ียนเรียนรู้ ประสบการณ์ และความประทับใจ จากการทางาน ร่วมกัน เพ่ือประโยชนข์ องสังคมและชุมชน

๓๒ 5. มีผลการจดั กจิ กรรมทก่ี อ่ ให้เกดิ ประโยชน์ตอ่ สงั คมและชมุ ชน การปลูกฝังความรับผดิ ชอบต่อตนเองและสังคม เปน็ การสรา้ งคุณธรรมจรยิ ธรรมซ่ึงเปน็ เร่ืองทีเ่ กิดจาก ภายใน \"จติ สาธารณะ\" เปน็ สิง่ หนงึ่ ท่มี ีความสาคัญในการปลูกจิตสานึกให้คนรจู้ ักเสียสละ รว่ มแรง ร่วมใจ มี ความร่วมมอื ในการทาประโยชน์เพอื่ สว่ นรวม ขา้ พเจ้าเริ่มจากตวั ของข้าพเจ้าเองก่อน และปลกู ฝงั จิตสานกึ จิต อาสาใหก้ บั คนในครอบครวั และขยายผลตอ่ ให้คนในชมุ ชน โดยการพูดคยุ ประชาสัมพันธ์การจดั กิจกรรมทเี่ ป็น ประโยชนต์ ่อสังคมอยู่เสมออย่างตอ่ เน่ือง ผา่ นวทิ ยุกระจายเสยี งของหมู่บา้ น และผ่านการทาหน้าทม่ี ัคนายก ชว่ ยลดปญั หาท่ีเกดิ ขน้ึ ในสังคม ช่วยกันพฒั นาคุณภาพชีวติ เพอ่ื เป็นหลักการในการดาเนินชวี ิต ชว่ ยแก้ปัญหา และสร้างสรรคใ์ ห้เกดิ ประโยชนส์ ขุ แกส่ งั คม

๓๓ การจัดกจิ กรรมท่กี ่อให้เกดิ ประโยชน์ตอ่ สังคมและชมุ ชน เชน่ กจิ กรรมจิตอาสาปลูกต้นไม้ การปลูกปุาในชุมชน การปล่อยปลาในบ่อเลี้ยงปลาของชมุ ชน การเป็นมัคนายก นาทาพธิ ีทางศาสนา การเขา้ ร่วมประชมุ หารอื การพฒั นาหมบู่ า้ น เปน็ ตน้

๓๔ ตอนท่ี 3 ผลงานที่สรา้ งช่ือเสยี งและได้รับการยอมรับจากสงั คม

๓๕ ตอนที่ 3 ผลงานท่สี รา้ งช่ือเสียงและได้รับการยอมรบั จากสังคม ช่ือผลงาน................การเปน็ หมอทาขวัญ.................... องค์ประกอบท่ี 1. ผลงานทสี่ ร้างชือ่ เสียงมีประโยชน์ ต่อองค์กร/ชมุ ชน 1. มผี ลการปฏบิ ตั งิ านทมี่ ปี ระโยชนต์ อ่ สมาชกิ /องค์กร/ชุมชน ความเช่ือและพิธีทาขวัญเป็นกระบวนการที่แสดงความผูกพันและความสัมพันธ์ในระบบเครือญาติ ระหว่างบุคคลกบั ครอบครัว และบุคคลกับชุมชน ข้าพเจ้าเองได้รับการยอมรับจากคนในชุมชนให้เป็นมัคนายก และหมอทาขวัญในงานพิธีต่างๆ การทาขวัญให้เกิดสิริมงคลและเป็นกาลังใจ มักมีพิธีทาขวัญในแต่ละช่วงวัย ของชีวิต และช่วงท่ีชีวิตมีความเปล่ียนแปลงได้แก่ การทาขวัญเด็กการทาขวัญเดือน การทาขวัญนาค การทา ขวญั บ่าวสาว ถงึ แมย้ คุ สมยั จะเปล่ียนไป แต่การทาขวัญในพิธีกรรมต่างๆ กับคนในชุมชนยังคงอยู่ด้วยความเช่ือ และความศรัทธา การทาพิธีอาจจะผิดแผกแตกต่างกันไปบ้างในแต่ละท้องถิ่น แต่หลักใหญ่ๆ ยังคงเหมือนกัน ซึ่งพิธีสู่ขวัญน้ีจะทากันได้ในทุกโอกาส ทั้งในมูลเหตุแห่งความดีและไม่ดี พิธีสู่ขวัญจึงเป็นได้ทั้งการแสดงความ ชนื่ ชมยินดี และเป็นการปลอบใจให้เจา้ ของขวญั ตามความเชอ่ื และนี้คือประโยชน์และคุณค่าที่หมอทาขวัญอยู่ คู่กบั สมาชิก/องคก์ ร/ชมุ ชน ไดร้ บั การยอมรบั จากคนในชมุ ชนใหเ้ ป็นมคั นายก และหมอทาขวญั ในงานพธิ ตี า่ ง ๆ

๓๖ 2. มีความพึงพอใจของสมาชิกในองค์กร/ชมุ ชน การทาขวัญในพิธีต่างๆ อาจแตกต่างจากสมัยก่อนตามยุคสมัยที่เปล่ียนไป แต่ท่ียังคงอยู่คือ ความเชื่อ ข้ันตอนแต่ละพ้ืนที่ก็อาจจะแตกต่างกัน แต่ในส่วนของเค้าโครงเนื้อหาเรื่องราวจะคล้ายๆ กัน ถ้าเป็นหมอทา ขวัญนาค คือ เพื่อแนะนา อบรม สั่งสอนนาคได้ล่วงรู้พระคุณของบิดา มารดาผู้ที่ให้กาเนิดและเลี้ยงดูมา ชาวพุทธท้ังหลายต่างก็มีความเช่ือในเร่ืองของการอุปสมบทมายาวนานว่า ชายที่มีอายุครบ 20 ปี บริบูรณ์ จะต้องบวชเรียนเป็นภิกษุสงฆ์เพ่ือสืบต่อพระศาสนาและทดแทนคุณพ่อแม่ แต่วัฒนธรรมหลายๆ อย่างรวมท้ัง พิธีกรรมได้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา และประเพณีสู่ขวัญ เป็นการอวยพรคู่บ่าว เป็นต้น ความพึง พอใจจากการเป็นหมอทาขวัญในชุมชน สามารถวัดได้จากการรับเชิญไปเป็นหมอทาขวัญในพิธีต่างๆ ของ หม่บู า้ น พิธกี รรมการทาขวัญจะคงอยูห่ รอื สูญหายไปก็ขนึ้ อยู่ที่ความพึงพอใจของชมุ ชน 3. มหี นว่ ยงาน/องค์กร/ชมุ ชนนาไปใช้ การประกอบพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับพิธีสู่ขวัญน้ีจะทากันได้ในทุกโอกาส ทั้งในมูลเหตุแห่งความดีและ ไม่ดี พิธีสู่ขวัญจึงเป็นได้ทั้งการแสดงความช่ืนชมยินดี และเป็นการปลอบใจให้เจ้าของขวัญ ตามความเชื่อ สามารถนาไปใช้ในงานพิธีไดท้ กุ หนว่ ยงาน ทกุ ชุมชน

๓๗ องคป์ ระกอบที่ 2. การยอมรับของสังคมและชุมชน 1. ไดร้ ับเชิญเป็นวิทยากรเผยแพรค่ วามรู้และประสบการณ์ ข้าพเจ้าใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์จากการทาขวัญ เผยแพรภ่ ูมปิ ัญญาดงั กลา่ วให้กบั เด็กและเยาวชนท่มี ีความสนใจ เป็นวิทยากรให้ความรใู้ น กศน.ตาบลชาติตระการทเ่ี กี่ยวกับความเชอ่ื พิธีกรรม ทางศาสนา และทาขวัญในประเพณตี า่ ง และเปน็ ปราชญ์ชาวบ้านเรอ่ื งการเป็นหมอทาขวัญในชุมชน หมอทา ขวัญเป็นภูมิปัญญาอยา่ งหนึง่ ที่ควรอนรุ กั ษ์ และสง่ เสริม สนับสนุนให้อยู่คสู่ ังคมตลอดไป 2. มีการเผยแพร่ความรทู้ างสอ่ื สารมวลชน การเผยแพร่ความรู้เกยี่ วกบั การทาขวญั นนั้ เป็นในลกั ษณะการพูดคุย ส่อื สารเฉพาะกลุ่มนักศึกษา กศน.อาเภอชาติตระการ และชาวบา้ นท่ีสนใจ และทาง Facebook ของเจ้าภาพท่ีเชิญไปเป็นหมอทาขวัญ และ Facebook ของผทู้ ่มี าร่วมงาน แตย่ ังไม่มกี ารเผยแพร่ทางส่อื มวลชน

๓๘ 3. ไดร้ ับรางวลั จากหนว่ ยงานหรอื องคก์ รตา่ ง ๆ การรับรางวลั หน่วยงานหรือองค์กรตา่ ง ๆ ยังไม่มี มีแต่การขึน้ ทาเนยี บเปน็ ปราชญ์ชาวบ้านเรอ่ื งการ เปน็ หมอทาขวัญ ทั้งของ กศน.ตาบลชาติตระการ กศน.อาเภอชาตติ ระการ และภมู ปิ ญั ญาของชมุ ชน 4. มบี ุคคล หน่วยงาน/องค์กรอนื่ มาศึกษาดูงาน ยังไมม่ ีการศึกษาดูงานจากหน่วยงานอ่นื แตไ่ ดร้ ับการเชญิ เป็นผูท้ าหน้าท่หี มอขวัญในพิธีกรรมต่างๆ ของหนว่ ยงานต่างๆ ๕. ไดร้ ับการยกย่องระดับประเทศหรือระดับนานาชาติ ยังไม่มีการรับรางวลั ระดบั ประเทศ แตไ่ ด้รับการยกย่องในระดับชุมชน เป็นผ้รู ู้ ปราชญ์ของชุมชน

๓๙ E-BOOK แบบประเมินคดั เลือก สาขานกั ศึกษา กศน. ประเภทศิษย์ปจั จุบัน กศน.ดีเด่น ประจาปี 2563 E-BOOK แบบประเมนิ คัดเลอื ก สาขานกั ศึกษา กศน. ประเภทศิษย์ปจั จบุ ัน กศน.ดีเด่น ประจาปี 2563

๔๐ คณะผจู้ ดั ทา ทีป่ รกึ ษา กันตง ผอ.กศน.อาเภอชาตติ ระการ ภาศรี ครู วิทยฐานะครูชานาญการ 1. นางพรสวรรค์ 2. นายรุ้งภูธร ผ้ใู ห้ขอ้ มูล ศรอี ๊อด นักศกึ ษา ภาศรี ครู วิทยฐานะครชู านาญการ 1. นายกมุ่ ล้วนมงคล ครผู ชู้ ว่ ย 2. นายร้งุ ภูธร วนั ชน่ื ครอู าสาสมัครการศึกษานอกโรงเรยี น 3. นางสาวชมพูนุช ยศปัญญา ครอู าสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน 4. วา่ ท่ี พ.ต.บญุ สง่ บญุ ประกอบ ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน 5. นางสาวภาณมุ าศ แต่งเนตร ครู กศน.ตาบลบ้านดง 6. นางสาวประยูร พระคาสอน ครู กศน.ตาบลชาติตระการ 7. นางสาวสุภาพร มัน่ หยวก ครู กศน.ตาบลสวนเมี่ยง 8. นางสาวนภิ าพร พว่ งปน่ิ ครู กศน.ตาบลปาุ แดง 9. นางสาวกัญญณชั แสงสีบาง ครู กศน.ตาบลทา่ สะแก 10. นายอษั ฎาพร ฟองจางวาง ครู กศน.ตาบลบอ่ ภาค 11. นางสาวเปียทพิ ย์ 12. นางสาวสธุ าสินี 13. นางสาวพรพนา โคกนอ้ ย ครู ศรช.ตาบลปุาแดง 14. นางสาวนา้ ออ้ ย แฟงวชั รกลุ บรรณารกั ษ์อตั ราจา้ ง 15. นายทองคณู มว่ งทิม พนักงานบริการ ผเู้ รยี บเรียง แสงสบี าง ครู กศน.ตาบลท่าสะแก บญุ ประกอบ ครูอาสาสมคั รการศึกษานอกโรงเรยี น 1. นางสาวเปยี ทิพย์ 2. นางสาวประยูร ผจู้ ัดทาภาพประกอบ / ออกแบบปก 1. นางสาวชมพูนชุ ล้วนมงคล ครผู ชู้ ว่ ย 2. นางสาวเปียทพิ ย์ แสงสีบาง ครู กศน.ตาบลทา่ สะแก

๔๑