92 คาอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสื่อสาร ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 หลกั สตู รโรงเรยี นวดั พชื นมิ ติ (คาสวสั ดิร์ าษฎร์บารงุ ) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
93 คาอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม รหัสวชิ า อ 14201 ชือ่ รายวชิ า ภาษาองั กฤษเพือ่ การสือ่ สาร กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลา 40 ชัว่ โมง ศกึ ษาประโยคคาสัง่ คาขอร้อง คาแนะนาเร่อื งราว บทสนทนา นิทาน สามารถถ่ายโอนเป็นภาพหรือ สัญลักษณ์ อ่านออกเสยี งคา กลุ่มคา ประโยค ข้อความ บทอา่ นได้ถูกต้องตามหลักการออกเสียง และใช้ถ้อยคา นา้ เสยี งได้เหมาะสม ใช้ภาษาอังกฤษในการสอื่ สารระหวา่ งบคุ คล ใชค้ าสั่ง คาขอรอ้ ง และให้คาแนะนาแสดงความ ต้องการ แสดงความร้สู กึ แสดงความช่วยเหลอื ตอบรับและปฏิเสธ ในสถานการณ์งา่ ย ๆ พูดและเขียนเพื่อขอและ ใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครวั และเรื่องใกล้ตัวซึ่งอยูใ่ นท้องถ่นิ ของตน โดยใชก้ ระบวนการเรียนร้เู พอื่ การสื่อสาร ฝึกการใช้ภาษาเพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจวัฒนธรรมของ เจ้าของภาษา เพ่อื ให้ผู้เรียนมีทกั ษะในการแสวงหาความรู้ เห็นประโยชน์ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและนาไปใช้ใน ชีวติ ประจาวันได้อยา่ งเหมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. ปฏบิ ัตติ ามคาสง่ั คาขอรอ้ ง และคาแนะนาง่าย ๆ ตามทีฟ่ งั และอา่ นไดถ้ กู ตอ้ ง ๒. เขา้ ใจเรือ่ งราว บทสนทนา นทิ าน สามารถถ่ายโอนเป็นภาพหรอื สญั ลักษณไ์ ด้ ๓. พูด/อา่ นออกเสียงคา วลี ประโยค ข้อความส้นั ๆ บทสนทนาไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การออกเสียง ๔. ใชภ้ าษาองั กฤษในการสื่อสารระหว่างบคุ คล ให้คาแนะนา แสดงความรู้สึก ตอบรับและปฏิเสธในสถานการณ์ ง่าย ๆ ขอและใหข้ ้อมูลเกย่ี วกบั ตนเองและเรือ่ งใกลต้ วั ๕. ใช้ภาษาอังกฤษได้ตามมารยาททางสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา รวมทัง้ หมด 5 ผลการเรยี นรู้ หลกั สูตรโรงเรียนวัดพืชนิมติ (คาสวัสด์ิราษฎรบ์ ารุง) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
94 โครงสรา้ งรายวิชา รหสั วิชา อ 14201 ชื่อรายวิชา ภาษาองั กฤษเพ่อื การสื่อสาร กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 4 เวลา 40 ช่วั โมง ลาดับที่ ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ เวลา น้าหนกั (ข้อท)่ี (ชวั่ โมง) ๑๐ ๑ I can do it ขอ้ ๑ ๖ ๑๐ ๒ My body ขอ้ ๒ ขอ้ ๓ ๖ ๑5 ๓ Weather and seasons ขอ้ ๔ ขอ้ ๕ ๖ 15 สอบกลางปี ขอ้ ๑ ๑๐ ข้อ ๒ ๒ ๔ Clothes ข้อ ๓ ๖ ๑๐ ข้อ ๔ ๕ Daily activities ข้อ ๕ ๖ ข้อ ๑ ขอ้ ๒ ขอ้ ๓ ขอ้ ๔ ขอ้ ๕ ข้อ ๑ ข้อ ๒ ข้อ ๓ ขอ้ ๔ ขอ้ ๕ ข้อ ๑ ขอ้ ๒ ข้อ ๓ ข้อ ๔ ข้อ ๕ หลักสูตรโรงเรียนวัดพืชนิมิต (คาสวสั ดร์ิ าษฎรบ์ ารงุ ) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
ลาดับที่ ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ เวลา 95 (ขอ้ ที่) (ช่วั โมง) นา้ หนัก ๖ Visiting the farm ข้อ ๑ ๖ ๑5 ขอ้ ๒ ขอ้ ๓ ๒ 15 ข้อ ๔ ๗๐ ขอ้ ๕ ๔๐ 30 ๑๐๐ สอบปลายปี รวมระหว่างเรยี น รวมคะแนนสอบ รวม หลกั สตู รโรงเรยี นวัดพชื นมิ ิต (คาสวัสดร์ิ าษฎรบ์ ารุง) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
96 คาอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสื่อสาร ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 หลกั สตู รโรงเรยี นวดั พชื นมิ ติ (คาสวสั ดิร์ าษฎร์บารงุ ) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
97 คาอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เติม รหสั วิชา อ 15201 ชอ่ื รายวิชา ภาษาอังกฤษเพื่อการสือ่ สาร กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 5 เวลา 40 ชั่วโมง ศึกษาประโยคคาสัง่ คาขอรอ้ ง คาแนะนา เข้าใจความหมายของคา กลุม่ คา และประโยค รปู ประโยคและ โครงสร้างประโยค โดยสามารถตอบคาถามจากการฟังหรืออ่านข้อความ บทสนทนา เร่อื งส้ัน เรื่องเล่า นิทาน บท กลอนสั้น ๆ อ่านออกเสียงคา กลมุ่ คา ประโยค ข้อความ บทอ่านได้ถูกต้องตามหลักการออกเสียง และการใช้ ถ้อยคา น้าเสยี ง การพูดและเขยี นโตต้ อบในการสอ่ื สารระหว่างบคุ คล ใชค้ าสั่ง คาขอรอ้ ง และให้คาแนะนา แสดง ความตอ้ งการ แสดงความรสู้ กึ ขอความช่วยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธ ในสถานการณ์ง่าย ๆ พูดและเขียนเพ่ือขอ และใหข้ ้อมลู เก่ียวกบั ตนเอง เพ่อื น ครอบครวั และเร่ืองใกลต้ ัวซึ่งอยูใ่ นทอ้ งถิน่ ของตน โดยใช้กระบวนการเรยี นรู้ เพ่ือการสือ่ สาร ฝึกการใช้ภาษาเพอ่ื ใหม้ ีความรู้ เขา้ ใจวัฒนธรรมของเจ้าของ ภาษา มีทกั ษะทางภาษา เพื่อใหผ้ เู้ รียนมีทักษะในการแสวงหาความรู้ เห็นประโยชนใ์ นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ และนาไปใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั ได้อย่างเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. ปฏบิ ัติตามคาสัง่ คาขอรอ้ ง และคาแนะนางา่ ย ๆ ตามทฟ่ี ังและอา่ นไดถ้ กู ต้อง ๒. พูด/อ่านออกเสียงคา วลี ประโยค ข้อความส้ัน ๆ บทสนทนา บทอ่าน ไดถ้ ูกตอ้ งตามหลักการอ่านออกเสียง ๓. ใช้ประโยคภาษาอังกฤษในการสอื่ สารระหวา่ งบุคคล และแลกเปลีย่ นข้อมลู ตา่ ง ๆ ได้ถกู ต้อง ๔. ตอบคาถามจากการฟงั หรืออา่ นข้อความ บทสนทนา เร่อื งส้นั เรอ่ื งเลา่ นทิ าน บทกลอนสั้น ๆ ได้ถูกต้อง ๕. ใช้ภาษาองั กฤษได้ตามมารยาททางสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา รวมท้ังหมด ๕ ผลการเรียนรู้ หลกั สูตรโรงเรยี นวัดพืชนิมติ (คาสวัสดริ์ าษฎรบ์ ารงุ ) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
98 โครงสรา้ งรายวิชา รหสั วิชา อ 15201 ชื่อรายวิชา ภาษาองั กฤษเพือ่ การส่ือสาร กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 5 เวลา 40 ช่วั โมง หนว่ ยที่ ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ เวลา นา้ หนัก (ขอ้ ท)่ี (ช่วั โมง) ๑ Our favorite dishes ขอ้ ๑ 6 10 ขอ้ ๒ ขอ้ ๓ ขอ้ ๔ ขอ้ ๕ ๒ It’s more interesting ขอ้ ๑ 6 10 ขอ้ ๒ ขอ้ ๓ ข้อ ๔ ข้อ ๕ ๓ Safety first ข้อ ๑ 7 15 ข้อ ๒ ข้อ ๓ ข้อ ๔ ข้อ ๕ สอบกลางปี 1 15 ๖ Having fun with activities ข้อ ๑ 6๗ ขอ้ ๒ ขอ้ ๓ ขอ้ ๔ ขอ้ ๕ ๘ How healthy are you? ขอ้ ๑ 6๘ ขอ้ ๒ ข้อ ๓ ขอ้ ๔ ข้อ ๕ ๙ Important days ขอ้ ๑ 7๘ ขอ้ ๒ ขอ้ ๓ หลกั สูตรโรงเรยี นวัดพชื นมิ ติ (คาสวสั ดร์ิ าษฎร์บารงุ ) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
หน่วยที่ ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ เวลา 99 (ขอ้ ท)ี่ (ชั่วโมง) นา้ หนกั สอบปลายปี รวมระหว่างเรียน ข้อ ๔ รวมสอบปลายปี ข้อ ๕ รวม 1 15 ๗๐ 30 ๔๐ ๑๐๐ หลกั สตู รโรงเรยี นวดั พชื นิมิต (คาสวสั ด์ริ าษฎรบ์ ารุง) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
100 คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติม ภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 หลกั สตู รโรงเรียนวัดพืชนมิ ติ (คาสวัสด์ริ าษฎรบ์ ารงุ ) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
101 คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติม รหสั วชิ า อ16201 ชอ่ื รายวิชา ภาษาองั กฤษเพ่ือการส่อื สาร กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 เวลา 40 ชวั่ โมง ศึกษาประโยคคาสั่ง คาขอร้อง รูปประโยคและโครงสร้างประโยค คา กลมุ่ คา และประโยค วิเคราะหแ์ ละสรปุ เรือ่ งราว บทอา่ น บทสนทนา เร่อื งส้นั เรื่องเลา่ นิทาน บทกลอนสน้ั ๆ สานวนทีใ่ ชใ้ นเทศกาล การพดู และการเขยี น โตต้ อบในการส่ือสารระหวา่ งบุคคล ใชค้ าส่ัง คาขอร้อง และให้คาแนะนา แสดงความต้องการ แสดงความรู้สึก ขอความ ชว่ ยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธ ในสถานการณต์ า่ ง ๆ ขอและให้ขอ้ มูลเกย่ี วกับตนเอง เพ่ือน ครอบครวั และเรอื่ งใกล้ตวั ซง่ึ อยูใ่ นท้องถนิ่ ของตน โดยใชก้ ระบวนการเรียนรเู้ พือ่ การส่ือสาร ฝกึ การใชภ้ าษาเพอ่ื ให้มคี วามรู้ เข้าใจวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา มที ักษะทางภาษา เพอื่ ใหผ้ ูเ้ รยี นมที ักษะในการแสวงหาความรู้ เหน็ ประโยชนใ์ นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ และนาไปใช้ใน ชวี ิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. วเิ คราะห์เรอื่ งและสรุปความเรื่องทฟี่ งั และอา่ นได้ ๒. ใช้ประโยคคาสั่ง คาขอร้อง การขออนญุ าต ประโยคบอกเล่า ประโยคคาถาม ประโยคปฏิเสธ ตามโครงสร้าง ประโยคได้ ๓. ใช้ภาษาอังกฤษในการขอและใหข้ ้อมูลเก่ยี วกบั ตนเอง เพือ่ น ครอบครวั และเรอ่ื งใกล้ตวั ซึง่ อยูใ่ นทอ้ งถน่ิ ของตนได้ ๔. ใชภ้ าษาองั กฤษในการพูดและเขียนโตต้ อบและสื่อสารตามสถานการณต์ ่าง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ใช้ภาษาไดต้ ามมารยาททางสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรยี นรู้ หลกั สตู รโรงเรยี นวัดพชื นิมติ (คาสวสั ด์ิราษฎร์บารงุ ) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
102 โครงสร้างรายวิชา รหสั วชิ า อ16201 ชือ่ รายวชิ า ภาษาองั กฤษเพ่อื การสือ่ สาร กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เวลา 40 ช่วั โมง หน่วยท่ี ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ เวลา น้าหนกั (ข้อท)่ี ๗ ๑ What do you want to be? (ชวั่ โมง) ขอ้ ๑ ๔ ขอ้ ๒ ๒ What can you see? ขอ้ ๓ ๔๗ ข้อ ๔ ๓ It was great. ข้อ ๕ ๕๘ ข้อ ๑ ๔ What did you do on ข้อ ๒ ๕๘ your holidays? ข้อ ๓ ข้อ ๔ ๒ ๑๐ สอบกลางปี ข้อ ๕ ๖ ๑๐ ๕ Out and About! ขอ้ ๑ ขอ้ ๒ ๖ That’s entertainment ขอ้ ๓ ๖ ๑๐ ขอ้ ๔ ขอ้ ๕ ขอ้ ๑ ขอ้ ๒ ข้อ ๓ ข้อ ๔ ข้อ ๕ ข้อ ๑ ข้อ ๒ ข้อ ๓ ขอ้ ๔ ขอ้ ๕ ข้อ ๑ ข้อ ๒ หลักสตู รโรงเรยี นวัดพืชนมิ ติ (คาสวสั ดิร์ าษฎรบ์ ารุง) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
หนว่ ยที่ ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ เวลา 103 ๗ (ข้อที)่ (ชวั่ โมง) น้าหนัก On Vacation. ขอ้ ๓ ๖ ๑๐ รวมระหว่างเรยี น ข้อ ๔ สอบปลายปี ขอ้ ๕ รวม ขอ้ ๑ ขอ้ ๒ ขอ้ ๓ ขอ้ ๔ ข้อ ๕ ๗๐ ๓๐ ๔๐ ๑๐๐ หลกั สตู รโรงเรยี นวดั พืชนมิ ิต (คาสวัสด์ริ าษฎรบ์ ารงุ ) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
104 เกณฑ์การจบการศึกษา การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ การวดั และประเมินผลการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี นตอ้ งอยู่บนหลกั การพนื้ ฐานสองประการ คือ การประเมินเพ่ือ พัฒนาผู้เรยี นและเพอ่ื ตดั สินผลการเรียน ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้ประสบผลสาเร็จนั้น ผ้เู รยี นจะตอ้ งไดร้ ับการพัฒนาและประเมนิ ตามตวั ชีว้ ดั เพอื่ ให้บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ สะท้อนสมรรถนะ สาคญั และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ของผ้เู รียนซึ่งเป็นเปา้ หมายหลักในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ในทุก ระดับไม่ว่าจะเป็นระดับช้ันเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นท่ีการศึกษา และระดับชาติ การวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้ เปน็ กระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรยี นโดยใช้ผลการประเมินเป็นข้อมูลและสารสนเทศท่ี แสดงพัฒนาการ ความก้าวหนา้ และความสาเรจ็ ทางการเรียนของผู้เรยี น ตลอดจนขอ้ มูลที่เป็นประโยชน์ต่อการ ส่งเสริมใหผ้ ู้เรียนเกิด การพัฒนาและเรยี นร้อู ย่างเตม็ ตามศกั ยภาพ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ แบ่งออกเปน็ ๔ ระดบั ได้แก่ ระดบั ชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับ เขตพนื้ ที่การศึกษา และระดับชาติ มีรายละเอียด ดงั น้ี ๑. การประเมนิ ระดับช้ันเรยี น เปน็ การวดั และประเมนิ ผลที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ผู้สอน ดาเนนิ การเปน็ ปกติและสม่าเสมอ ในการจดั การเรยี นการสอน ใชเ้ ทคนิคการประเมินอย่างหลากหลาย เช่น การ ซักถาม การสังเกต การตรวจการบ้าน การประเมินโครงงาน การประเมนิ ชิ้นงาน/ ภาระงาน แฟ้มสะสมงาน การ ใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผ้สู อนเป็นผปู้ ระเมินเองหรือเปิดโอกาสให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพ่ือนประเ มินเพ่ือน ผปู้ กครองร่วมประเมนิ ในกรณีท่ีไมผ่ ่านตัวชี้วัดใหม้ ีการสอนซอ่ มเสริม การประเมินระดับชน้ั เรียนเปน็ การตรวจสอบว่า ผู้เรยี นมพี ัฒนาการความก้าวหน้าในการเรียนรู้ อัน เป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด มีสิ่งที่จะต้องได้รั บการพัฒนา ปรับปรุงและสง่ เสรมิ ในด้านใด นอกจากนีย้ ังเปน็ ข้อมลู ให้ผ้สู อนใชป้ รบั ปรงุ การเรียนการสอนของตนด้วย ทั้งน้ีโดย สอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้ีวัด ๒. การประเมนิ ระดับสถานศกึ ษา เป็นการประเมนิ ทีส่ ถานศึกษาดาเนินการเพอื่ ตัดสินผล การเรียนของ ผเู้ รยี นเป็นรายปี/รายภาค ผลการประเมนิ การอา่ น คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ และ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น นอกจากนี้เพอ่ื ให้ไดข้ ้อมลู เก่ียวกับการจัดการศึกษา ของสถานศึกษา ว่าส่งผลต่อการ เรียนรู้ของผูเ้ รยี นตามเป้าหมายหรอื ไม่ ผู้เรียนมจี ุดพฒั นาในดา้ นใด รวมท้งั สามารถนาผลการเรียนของผู้เรียนใน สถานศึกษาเปรียบเทียบกบั เกณฑ์ระดับชาติ ผลการประเมินระดับสถานศึกษาจะเป็นข้อมูลและสารสนเทศเพ่ือ การปรบั ปรงุ นโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนเพื่อการจัดทาแผนพัฒนา คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาและการรายงานผลการจัด การศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษา สานักงานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษา สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น พน้ื ฐาน ผู้ปกครองและชมุ ชน ๓. การประเมนิ ระดบั เขตพืน้ ที่การศกึ ษา เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ตามมาตรฐานการเรยี นรตู้ ามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพ้ืนฐานในการพัฒนา คุณภาพการศึกษาของเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดาเนินการโดยประเมินคุณภาพ หลกั สูตรโรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คาสวสั ดริ์ าษฎรบ์ ารงุ ) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
105 ผลสมั ฤทธข์ิ องผู้เรยี นดว้ ยขอ้ สอบมาตรฐานทจี่ ัดทาและดาเนินการโดยเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษา หรือดว้ ยความร่วมมือกับ หน่วยงานต้นสงั กัด ในการดาเนินการจดั สอบ นอกจากนย้ี งั ไดจ้ ากการตรวจสอบทบทวนข้อมูลจากการประเมิน ระดับสถานศกึ ษาในเขตพื้นท่กี ารศกึ ษา ๔. การประเมินระดับชาติ เป็นการประเมนิ คณุ ภาพผู้เรียนในระดบั ชาติตามมาตรฐานการเรียนรตู้ าม หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน สถานศกึ ษาตอ้ งจัดใหผ้ ้เู รยี นทุกคนทเ่ี รยี น ในชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓ ชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๖ เขา้ รบั การประเมนิ ผลจากการประเมินใชเ้ ปน็ ข้อมลู ในการเทยี บเคียงคุณภาพการศึกษาใน ระดับตา่ ง ๆ เพอ่ื นาไปใชใ้ นการวางแผนยกระดบั คุณภาพการจดั การศกึ ษา ตลอดจนเป็นข้อมลู สนบั สนนุ การ ตัดสินใจในระดบั นโยบายของประเทศ ข้อมูลการประเมินในระดับต่างๆ ข้างตน้ เป็นประโยชนต์ ่อสถานศึกษาในการตรวจสอบทบทวนพัฒนา คุณภาพผูเ้ รยี น ถือเป็นภาระความรับผดิ ชอบของสถานศึกษาที่จะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุงแก้ไข ส่งเสริมสนับสนุนเพอื่ ให้ผ้เู รยี นไดพ้ ัฒนาเต็มตามศกั ยภาพบนพืน้ ฐานความแตกต่างระหว่างบุคคลท่ีจาแนกตาม สภาพปัญหาและความต้องการ ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนท่ัวไป กลุ่มผู้เรียนท่ีมีความสามารถพิเศษ กลุ่มผู้เรียนที่มี ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นตา่ กลุม่ ผเู้ รียนที่มปี ัญหาดา้ นวินยั และพฤติกรรม กลุม่ ผเู้ รยี นทป่ี ฏเิ สธโรงเรยี น กลุ่มผู้เรียน ทมี่ ีปญั หาทางเศรษฐกจิ และสงั คม กลุ่มพกิ ารทางรา่ งกายและสติปัญญา เป็นต้น ข้อมูลจากการประเมินจึงเป็น หวั ใจของสถานศึกษาในการดาเนินการช่วยเหลอื ผู้เรียนได้ทันท่วงที ปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาและ ประสบความสาเรจ็ ในการเรยี น สถานศกึ ษาในฐานะผรู้ ับผดิ ชอบจัดการศึกษา จะต้องจัดทาระเบียบว่าด้วยการวัดและประเมินผลการ เรียนของสถานศกึ ษาให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติท่ีเป็นข้อกาหนดของหลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน เพอ่ื ใหบ้ คุ ลากรท่ีเกยี่ วขอ้ งทกุ ฝา่ ยถือปฏบิ ัตริ ่วมกนั เกณฑก์ ารวดั และประเมินผลการเรยี น ๑. การตดั สนิ การให้ระดบั และการรายงานผลการเรียน ๑.๑ การตัดสินผลการเรยี น ในการตัดสินผลการเรยี นของกลุ่มสาระการเรยี นรู้ การอา่ น คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะ อนั พึงประสงค์ และกิจกรรมพฒั นาผ้เู รียนนน้ั ผสู้ อนต้องคานึงถงึ การพฒั นาผ้เู รียนแต่ละคนเป็นหลัก และต้องเก็บ ขอ้ มูลของผูเ้ รยี นทกุ ดา้ นอย่างสม่าเสมอและต่อเนือ่ งในแต่ละภาคเรยี น รวมทั้งสอนซอ่ มเสรมิ ผ้เู รยี นให้พัฒนาจนเต็ม ตามศกั ยภาพ ระดบั ประถมศกึ ษา (๑) ผ้เู รียนต้องมีเวลาเรียนไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นท้งั หมด (๒) ผเู้ รียนต้องไดร้ บั การประเมินทกุ ตวั ชี้วัด และผา่ นตามเกณฑท์ ่ีสถานศกึ ษากาหนด (๓) ผู้เรยี นตอ้ งได้รบั การตัดสินผลการเรยี นทกุ รายวิชา (๔) ผู้เรียนต้องไดร้ บั การประเมิน และมผี ลการประเมนิ ผ่านตามเกณฑ์ท่สี ถานศึกษากาหนด ใน การอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขยี น คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ และกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน หลักสูตรโรงเรียนวัดพืชนิมติ (คาสวัสด์ิราษฎรบ์ ารุง) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
106 การพจิ ารณาเล่ือนชน้ั ถา้ ผู้เรียนมขี ้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย และสถานศึกษาพิจารณาเห็นว่า สามารถพฒั นาและสอนซอ่ มเสรมิ ได้ ใหอ้ ยู่ในดุลพินจิ ของสถานศึกษาที่จะผอ่ นผนั ใหเ้ ลื่อนชั้นได้ แต่หากผู้เรียนไม่ ผา่ นรายวิชาจานวนมาก และมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชั้นที่สูงข้ึน สถานศึกษาอาจต้ัง คณะกรรมการพจิ ารณาใหเ้ รียนซา้ ช้นั ได้ ทั้งนี้ให้คานึงถึงวฒุ ภิ าวะและความร้คู วามสามารถของผเู้ รยี นเป็นสาคัญ ๑.๒ การให้ระดับผลการเรยี น ระดับประถมศึกษา ในการตดั สนิ เพือ่ ให้ระดับผลการเรยี นรายวิชา สถานศึกษาสามารถให้ระดับผลการ เรียนหรอื ระดับคุณภาพการปฏบิ ัตขิ องผู้เรียน เป็นระบบตวั เลข ระบบตวั อักษร ระบบรอ้ ยละ และระบบท่ีใชค้ า สาคัญสะท้อนมาตรฐาน (1) การให้ระดบั ผลการเรียน โรงเรียนกาหนดให้การตัดสนิ เพื่อใหร้ ะดบั ผลการเรยี นรายวชิ าของกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ให้ใช้ตัวเลขแสดงระดบั ผลการเรียนเป็น ๘ ระดบั ดงั นี้ ระดับผลการเรียน ช่วงคะแนนเปน็ รอ้ ยละ ระบบทใ่ี ช้คาสาคญั สะทอ้ นมาตรฐาน 5 ระดบั 4 ระดบั 2 ระดบั ๔ ๘๐ - ๑๐๐ ดเี ยย่ี ม ดีเย่ียม ๓.๕ ๗๕ - ๗๙ ดี ดี ๓ ๗๐ - ๗๔ ๒.๕ ๖๕ - ๖๙ พอใช้ ผ่าน ๒ ๖๐ - ๖๔ ๑.๕ ๕๕ - ๕๙ ผา่ น ผ่าน ๑ ๕๐ - ๕๔ ๐ ๐ - ๔๙ ไม่ผ่าน ไม่ผ่าน ไมผ่ า่ น การประเมินการอ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์น้ัน ให้ระดับผล การ ประเมินเปน็ ดีเยีย่ ม ดี และผา่ น (2) การสรุปผลการประเมินการอา่ น คดิ วเิ คราะห์และเขียน เพ่ือการเลื่อนระดบั ชัน้ และจบการศึกษา กาหนดเกณฑก์ ารตัดสนิ เปน็ ๔ ระดบั และความหมายของแตล่ ะระดับดังนี้ หลกั สตู รโรงเรียนวดั พืชนิมติ (คาสวัสดริ์ าษฎรบ์ ารุง) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
107 ดีเยยี่ ม หมายถึง มีผลงานทแี่ สดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวเิ คราะห์และเขียนที่มีคุณภาพดี เลศิ อยู่เสมอ ดี หมายถึง มีผลงานทแ่ี สดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะห์และเขียนทม่ี ีคณุ ภาพ เปน็ ที่ยอมรับ ผ่าน หมายถึง มผี ลงานทีแ่ สดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะห์และเขยี นทม่ี ีคุณภาพ เป็นท่ียอมรบั แต่ยงั มีขอ้ บกพร่องบางประการ ไม่มีผลงานท่แี สดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะห์และเขยี น หรอื ถ้ามี ไม่ผ่าน หมายถึง ผลงาน ผลงานน้นั ยังมขี ้อบกพรอ่ งทีต่ ้องไดร้ บั การปรบั ปรงุ แก้ไขหลาย ประการ (3) การสรุปผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์รวมทุกคุณลักษณะ เพอื่ การเลอื่ นระดับชนั้ และจบ การศึกษา กาหนดเกณฑก์ ารตัดสนิ เปน็ ๔ ระดับและความหมายของแตล่ ะระดบั ดังนี้ ดีเยย่ี ม หมายถงึ นักเรียนปฏิบัติตนตามคณุ ลักษณะจนเป็นนิสัยและนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั เพ่ือ ประโยชน์สุขของตนเองและสงั คม โดยพิจารณาจากผลการประเมินระดับดเี ยยี่ ม จานวน ๕ - ๘ คณุ ลักษณะและไม่มีคณุ ลักษณะใดได้ผลการประเมินตา่ กวา่ ระดับดี ดี หมายถึง นกั เรยี นมคี ุณลักษณะในการปฏบิ ัตติ ามกฎเกณฑ์ เพอื่ ให้เปน็ การยอมรับของสังคม โดยพจิ ารณาจาก (๑) ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดเี ย่ียม จานวน ๑-๔ คุณลกั ษณะและไมม่ คี ุณลักษณะใด ได้ผลการประเมนิ ตา่ กว่าระดับดี หรอื (๒) ได้ผลการประเมินระดบั ดีเย่ียม จานวน ๔ คณุ ลักษณะและไมม่ ีคณุ ลักษณะใด ไดผ้ ลการประเมินตา่ กว่าระดบั ผ่าน หรอื (๓) ได้ผลการประเมินระดบั ดี จานวน ๕-๘ คณุ ลักษณะและไมม่ ีคุณลกั ษณะใด ได้ผลการประเมนิ ต่ากว่าระดับผ่าน ผ่าน หมายถึง นกั เรียนรับร้แู ละปฏบิ ัติตามกฎเกณฑแ์ ละเงื่อนไขที่โรงเรียนกาหนดโดยพิจารณาจาก (๑) ได้ผลการประเมินระดบั ผ่าน จานวน ๕-๘ คุณลกั ษณะและไม่มีคุณลักษณะใด ไดผ้ ลการประเมนิ ต่ากว่าระดับผา่ น หรือ (๒) ได้ผลการประเมินระดับดี จานวน ๔ คุณลกั ษณะและไม่มีคุณลักษณะใดไดผ้ ลการ ประเมินต่ากว่าระดบั ผา่ น ไม่ผา่ น หมายถงึ นกั เรียนรับรแู้ ละปฏบิ ตั ไิ ดไ้ มค่ รบตามกฎเกณฑ์และเงอื่ นไขที่โรงเรยี นกาหนด โดย พิจารณาจากมผี ลการประเมนิ ระดบั ไมผ่ ่าน ตัง้ แต่ ๑ คณุ ลักษณะ หลักสตู รโรงเรียนวัดพชื นิมิต (คาสวัสดิ์ราษฎร์บารงุ ) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
108 (4) การประเมินกิจกรรมพฒั นาผู้เรียนจะตอ้ งพจิ ารณาทงั้ เวลาการเขา้ รว่ มกจิ กรรมอยา่ งนอ้ ยร้อยละ ๘๐ การปฏิบตั ิกิจกรรมและผลงานของนักเรียนต้องผา่ นรอ้ ยละ ๗๐ และใหผ้ ลการประเมินเปน็ ผา่ นและไมผ่ า่ น โดยให้ใชต้ วั อักษรแสดงผลการประเมินดังน้ี “ผ” หมายถงึ นกั เรียนมีเวลาการเขา้ ร่วมกจิ กรรม การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมและมผี ลงานผา่ นเกณฑ์ “มผ” หมายถงึ นกั เรียนมเี วลาการเขา้ รว่ มกิจกรรม การปฏิบัติกจิ กรรมและมีผลงานไมผ่ ่าน เกณฑ์ ในกรณที นี่ กั เรียนได้ผลการเรียน “มผ” ให้ครผู ูส้ อนจัดซ่อมเสรมิ ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในสว่ นทีน่ ักเรยี น ไมไ่ ดเ้ ข้าร่วม หรอื ไม่ได้ทาจนครบถว้ น แล้วจึงเปล่ยี นผลการเรียนจากไม่ผ่านเปน็ ผา่ น ท้งั น้ตี อ้ งดาเนินการให้ เสรจ็ สน้ิ ภายในปกี ารศึกษานน้ั การสอนซอ่ มเสริม เป็นส่วนหนงึ่ ของกระบวนการจดั การเรียนรู้และเป็นการใหโ้ อกาสแกน่ กั เรยี นได้มี เวลาเรยี นร้สู ่ิงตา่ งๆ เพ่ิมขึ้น จนสามารถบรรลตุ ามมาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้ีวัดท่กี าหนดไว้ การสอนซอ่ มเสริม เป็นเปน็ การสอนเพ่ือแกไ้ ขขอ้ บกพร่อง กรณีที่นกั เรยี นมีความรู้ ทักษะกระบวนการ หรอื เจตคต/ิ คุณลักษณะ ไม่ เปน็ ไปตามเกณฑท์ ีโ่ รงเรียนกาหนด การดาเนนิ การสอนซอ่ มเสรมิ นัน้ ใหค้ รผู ู้สอนจัดสอนซ่อมเสริมใหแ้ ก่นกั เรียนเป็นกรณพี ิเศษนอกเหนือไปจากการ สอนปกติ เพอื่ พัฒนาให้นกั เรียนสามารถบรรลมุ าตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้ีวัด เป็นการให้โอกาสแก่นกั เรยี นได้ เรียนรแู้ ละพฒั นา โดยจัดกิจกรรมการเรยี นรูท้ หี่ ลากหลายและตอบสนองความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล ๑.๓ การรายงานผลการเรยี น การรายงานผลการเรยี นเปน็ การสอ่ื สารใหผ้ ูป้ กครองและผู้เรยี นทราบความก้าวหน้าในการเรยี นรู้ของ ผู้เรยี น ซึ่งสถานศึกษาต้องสรปุ ผลการประเมินและจดั ทาเอกสารรายงานให้ผู้ปกครองทราบเป็นระยะๆ หรืออย่าง นอ้ ยภาคเรยี นละ ๑ ครงั้ การรายงานผลการเรยี นสามารถรายงานเป็นระดับคณุ ภาพการปฏิบัตขิ องผู้เรยี นทส่ี ะท้อนมาตรฐาน การเรยี นรกู้ ลุ่มสาระการเรยี นรู้ ๒. เกณฑก์ ารจบการศึกษา 2.1 การเลือ่ นชัน้ เม่อื ส้ินปีการศึกษา นกั เรียนจะไดร้ บั การเล่อื นช้นั ตอ้ งมีคณุ สมบัตติ ามเกณฑ์ ดังต่อไปน้ี (๑) นักเรยี นมีเวลาเรียนตลอดปีการศึกษาไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นทัง้ หมด (๒) นักเรยี นมีผลการประเมินผา่ นทกุ รายวิชาพ้ืนฐานและเพมิ่ เตมิ (๓) นักเรียนต้องได้รบั การประเมินการอ่าน คิดวเิ คราะห์และเขียน การประเมินคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ การประเมินกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน โดยต้องมีผลการประเมนิ ในระดับผา่ น ทัง้ นี้ ถ้านกั เรียนมีข้อบกพรอ่ งเพยี งเล็กน้อยและพิจารณาเห็นว่าสามารถพัฒนาและสอนซ่อม เสริมได้ ควรผ่อนผนั ให้เล่ือนช้ันได้ หลักสตู รโรงเรียนวดั พชื นิมิต (คาสวัสด์ริ าษฎรบ์ ารงุ ) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
109 สาหรบั ในกรณที ่พี บว่ามนี กั เรียนกล่มุ พเิ ศษประเภทตา่ งๆ ทีม่ ีปัญหาในการเรียนรู้ ให้ครูผู้สอน/ ครูประจาชัน้ แจง้ ผอู้ านวยการโรงเรียนเพ่อื ดาเนนิ งานรว่ มกับสานักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษา/ศูนย์การศึกษาพิเศษ จงั หวดั /ศนู ยก์ ารศึกษาพเิ ศษเขตการศึกษา/หน่วยงานตน้ สังกัด โรงเรียนเฉพาะความพกิ าร หาแนวทางการแก้ไข และพฒั นา ๒.2 เกณฑก์ ารจบระดับประถมศกึ ษา ๑. ผเู้ รียนเรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน จานวน ๘๔๐ ชั่วโมง และรายวิชาเพมิ่ เติมจานวน ๔๐ ชั่วโมง และมผี ลการประเมินรายวิชาพ้ืนฐานผ่านทกุ รายวิชา ๒. ผู้เรียนตอ้ งมผี ลการประเมินการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขียน ระดบั “ผ่าน” ขึน้ ไป ๓. ผเู้ รยี นมผี ลการประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั “ผา่ น” ขน้ึ ไป ๔. ผูเ้ รยี นตอ้ งเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและได้รับการตัดสินผลการเรียน “ผ่าน” ทุก กจิ กรรม 5. ผ้เู รยี นตอ้ งมีผลการประเมินรายวิชาพื้นฐาน ระดบั ๑ ขน้ึ ไปทกุ รายวชิ าพ้ืนฐาน จึงจะถือ วา่ ผา่ นรายวิชาพ้ืนฐาน สาหรบั การจบการศึกษาสาหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น การศึกษาเฉพาะทาง การศึกษาสาหรับผู้มี ความสามารถพิเศษ การศึกษาทางเลอื ก การศึกษาสาหรบั ผู้ดอ้ ยโอกาส การศึกษาตามอธั ยาศัย ให้คณะกรรมการ ของสถานศึกษา เขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษา และผทู้ ีเ่ กย่ี วข้อง ดาเนนิ การวดั และประเมินผล การเรียนรู้ตามหลักเกณฑ์ใน แนวปฏิบตั กิ ารวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรขู้ องหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานสาหรับกลุ่มเป้าหมาย เฉพาะ การเทยี บโอนผลการเรียน สถานศกึ ษาสามารถเทยี บโอนผลการเรยี นของผ้เู รยี นในกรณีต่างๆได้แก่ การยา้ ยสถานศึกษา กา รเปลี่ยน รูปแบบการศกึ ษา การย้ายหลกั สตู ร การออกกลางคันและขอกลับเขา้ รับการศกึ ษาต่อ การศึกษาจากต่างประเทศ และขอเขา้ ศึกษาต่อในประเทศ นอกจากน้ี ยงั สามารถเทียบโอนความรู้ ทกั ษะ ประสบการณ์จากแหล่งการเรียนรู้ อ่ืนๆ เชน่ สถานประกอบการ สถาบนั ศาสนา สถาบันการฝกึ อบรมอาชีพ การจัดการศกึ ษาโดยครอบครัว การเทียบโอนผลการเรียนควรดาเนินการในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนแรก หรือต้นภาคเรียนแรก ที่ สถานศึกษารบั ผู้ขอเทียบโอนเปน็ ผู้เรียน ทั้งนี้ ผู้เรียนที่ได้รับการเทียบโอนผลการเรียนต้องศึกษาต่อเน่ืองใน สถานศึกษาที่รับเทียบโอนอยา่ งน้อย ๑ ภาคเรียน โดยสถานศึกษาที่รับผู้เรียนจากการเทียบโอนควรกาหนด รายวชิ า/จานวนหน่วยกิตทจ่ี ะรบั เทยี บโอนตามความเหมาะสม การพจิ ารณาการเทยี บโอน สามารถดาเนินการได้ ดงั นี้ ๑. พจิ ารณาจากหลกั ฐานการศึกษา และเอกสารอ่นื ๆ ที่ใหข้ ้อมลู แสดงความรู้ ความสามารถของผู้เรยี น ๒. พจิ ารณาจากความรู้ ความสามารถของผ้เู รียนโดยการทดสอบดว้ ยวิธีการตา่ งๆ ทงั้ ภาคความรู้และ ภาคปฏบิ ัติ ๓. พิจารณาจากความสามารถและการปฏบิ ัตใิ นสภาพจริง หลกั สูตรโรงเรยี นวัดพืชนิมิต (คาสวัสด์ริ าษฎรบ์ ารงุ ) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
110 การเทียบโอนผลการเรียนให้เปน็ ไปตาม ประกาศ หรอื แนวปฏิบตั ิ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร เอกสารหลักฐานการศกึ ษา เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา เป็นเอกสารสาคญั ทบี่ ันทึกผลการเรียน ข้อมูลและสารสนเทศที่เก่ียวข้องกับ พฒั นาการของผเู้ รยี นในดา้ นตา่ ง ๆ แบ่งออกเปน็ ๒ ประเภท ดังน้ี ๑. เอกสารหลักฐานการศึกษาทก่ี ระทรวงศึกษาธิการกาหนด ๑.๑ ระเบยี นแสดงผลการเรียน เปน็ เอกสารแสดงผลการเรยี นและรบั รองผลการเรียนของผู้เรียน ตามรายวิชา ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของ สถานศึกษา และผลการประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น สถานศึกษาจะต้องบันทึกขอ้ มูลและออกเอกสารน้ีให้ผู้เรียน เป็นรายบคุ คล เมือ่ ผเู้ รียนจบการศกึ ษาระดับประถมศกึ ษา (ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖) ๑.๓ แบบรายงานผสู้ าเร็จการศกึ ษา เป็นเอกสารอนุมัติการจบหลักสูตรโดยบันทึกรายช่ือและ ขอ้ มูลของผูจ้ บการศกึ ษาระดบั ประถมศกึ ษา (ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๖) ๒. เอกสารหลักฐานการศกึ ษาท่ีสถานศกึ ษากาหนด เป็นเอกสารทสี่ ถานศึกษาจดั ทาข้นึ เพอ่ื บันทึกพัฒนาการ ผลการเรยี นรู้ และขอ้ มูลสาคัญ เกี่ยวกับผู้เรียน เช่น แบบรายงานประจาตวั นกั เรียน แบบบนั ทกึ ผลการเรียนประจารายวิชา ระเบียนสะสม ใบรบั รองผลการเรียน และ เอกสารอน่ื ๆ ตามวัตถปุ ระสงค์ของการนาเอกสารไปใช้ การจดั การเรียนรู้ การจดั การเรยี นรู้เปน็ กระบวนการสาคัญในการนาหลกั สตู รสกู่ ารปฏิบัติ หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ัน พน้ื ฐาน เป็นหลกั สูตรทม่ี มี าตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสาคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน เป็น เป้าหมายสาหรบั พัฒนาเดก็ และเยาวชน ในการพัฒนาผู้เรยี นใหม้ ีคุณสมบตั ิตามเป้าหมายหลกั สูตร ผู้สอนพยายามคัดสรร กระบวนการเรียนรู้ จดั การเรียนรู้โดยช่วยให้ผู้เรยี นเรยี นร้ผู า่ นสาระท่ีกาหนดไวใ้ นหลกั สูตร ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ รวมทั้งปลูกฝัง เสริมสรา้ งคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ พัฒนาทักษะตา่ งๆ อนั เป็นสมรรถนะสาคัญใหผ้ เู้ รยี นบรรลุตามเป้าหมาย ๑. หลกั การจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้เพอ่ื ให้ผ้เู รียนมคี วามรคู้ วามสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสาคัญ และ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามทก่ี าหนดไว้ในหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน โดยยึดหลักว่า ผู้เรียนมี ความสาคัญท่ีสุด เช่ือว่าทุกคนมีความสามารถเรียน รู้และพัฒนาตนเองได้ ยึดประโยชน์ท่ีเกิดกับผู้เรียน กระบวนการจดั การเรยี นรู้ตอ้ งสง่ เสริมให้ผ้เู รยี น สามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ คานึงถึงความ แตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาการทางสมองเนน้ ใหค้ วามสาคญั ท้ังความรู้ และคณุ ธรรม ๒. กระบวนการเรียนรู้ การจัดการเรยี นรู้ทเี่ นน้ ผ้เู รยี นเปน็ สาคัญ ผู้เรียนจะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย เป็น เครื่องมือท่ีจ ะนาพาตนเอ งไปสู่เป้าหมายของหลักสูตร กระบวน การเรียนรู้ท่ีจาเป็นสาหรับผู้เรียน อา ทิ หลักสตู รโรงเรียนวัดพชื นิมิต (คาสวสั ด์ริ าษฎรบ์ ารงุ ) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
111 กระบวนการเรียนรูแ้ บบบูรณาการ กระบวนการสรา้ งความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการทางสังคม กระบวนการ เผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง กระบวนการปฏิบัติ ลงมือทาจริง กระบวนการจัดการ กระบวนการวจิ ัย กระบวนการเรียนรู้การเรยี นรูข้ องตนเอง กระบวนการพฒั นาลกั ษณะนสิ ัย กระบวนการเหล่านีเ้ ปน็ แนวทางในการจัดการเรียนรู้ท่ีผู้เรียนควรได้รับการฝึกฝน พัฒนา เพราะจะ สามารถชว่ ยให้ผเู้ รียนเกิดการเรียนรไู้ ดด้ ี บรรลเุ ปา้ หมายของหลักสตู ร ดังนั้น ผสู้ อน จงึ จาเปน็ ต้องศึกษาทาความ เข้าใจในกระบวนการเรียนรูต้ ่าง ๆ เพอ่ื ให้สามารถเลอื กใช้ในการจัดกระบวนการเรยี นร้ไู ดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ๓. การออกแบบการจดั การเรยี นรู้ ผ้สู อนต้องศึกษาหลักสตู รสถานศึกษาใหเ้ ข้าใจถงึ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวัด สมรรถนะสาคัญของ ผเู้ รียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสาระการเรียนรู้ท่ีเหมาะสมกับผู้เรียน แล้วจึงพิจารณาออกแบบการ จัดการเรยี นรูโ้ ดยเลือกใช้วธิ สี อนและเทคนคิ การสอน สือ่ /แหล่งเรยี นรู้ การวัดและประเมินผล เพ่ือให้ผู้เรียนได้ พัฒนาเต็มตามศักยภาพและบรรลุตามเปา้ หมายทีก่ าหนด ๔. บทบาทของผสู้ อนและผู้เรียน การจดั การเรียนรู้เพ่ือใหผ้ ้เู รียนมีคณุ ภาพตามเปา้ หมายของหลักสูตร ท้ังผู้สอนและผู้เรียนควรมีบทบาท ดงั นี้ . ๔.๑ บทบาทของผสู้ อน ๑) ศึกษาวเิ คราะห์ผู้เรยี นเปน็ รายบคุ คล แล้วนาขอ้ มูลมาใช้ในการวางแผนการจัดการเรียนรู้ ที่ ท้าทความสามารถของผู้เรียน ๒) กาหนดเปา้ หมายทต่ี ้องการให้เกดิ ขน้ึ กบั ผู้เรียน ดา้ นความรู้และทักษะกระบวนการ ท่ีเป็น ความคิดรวบยอด หลกั การ และความสัมพนั ธ์ รวมท้งั คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๓) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ท่ีตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลและ พัฒนาการทางสมอง เพ่อื นาผูเ้ รียนไปสู่เป้าหมาย ๔) จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรยี นรู้ และดแู ลช่วยเหลือผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ ๕) จัดเตรียมและเลือกใช้สื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรม นาภูมิปัญญาท้องถ่ิน เทคโนโลยีที่ เหมาะสมมาประยกุ ตใ์ ช้ในการจัดการเรยี นการสอน ๖) ประเมนิ ความก้าวหนา้ ของผู้เรยี นด้วยวธิ ีการทหี่ ลากหลาย เหมาะสมกบั ธรรมชาตขิ องวชิ า และระดับพฒั นาการของผู้เรียน ๗) วิเคราะห์ผลการประเมนิ มาใช้ในการซอ่ มเสริมและพฒั นาผู้เรียน รวมท้ังปรับปรุงการจัดการ เรียนการสอนของตนเอง ๔.๒ บทบาทของผ้เู รยี น ๑) กาหนดเปา้ หมาย วางแผน และรับผดิ ชอบการเรยี นรูข้ องตนเอง หลกั สตู รโรงเรยี นวัดพชื นิมิต (คาสวสั ดริ์ าษฎร์บารุง) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
112 ๒) เสาะแสวงหาความรู้ เข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อความรู้ ตั้งคาถาม คิดหา คาตอบหรือหาแนวทางแกป้ ญั หาด้วยวธิ ีการต่างๆ ๓) ลงมือปฏบิ ตั จิ ริง สรุปสงิ่ ท่ีไดเ้ รียนรู้ด้วยตนเอง และนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ๔) มปี ฏิสมั พันธ์ ทางาน ทากิจกรรมรว่ มกับกล่มุ และครู ๕) ประเมินและพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของตนเองอย่างตอ่ เนื่อง สือ่ การเรียนรู้ ส่อื การเรยี นรู้เป็นเครือ่ งมอื ส่งเสรมิ สนบั สนุนการจดั การกระบวนการเรียนรู้ ให้ผเู้ รยี นเขา้ ถงึ ความรู้ ทักษะ กระบวนการ และคุณลักษณะตามมาตรฐานของหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่ือการเรียนรู้มีหลากหลาย ประเภท ทัง้ สอ่ื ธรรมชาติ ส่อื สิง่ พมิ พ์ สอ่ื เทคโนโลยี และเครอื ข่าย การเรยี นรู้ต่างๆ ท่ีมีในท้อ งถ่ิน การเลือกใช้สื่อ ควรเลอื กให้มีความเหมาะสมกับระดับพัฒนาการ และลีลาการเรยี นร้ทู ี่หลากหลายของผู้เรยี น การจัดหาสอ่ื การเรยี นรู้ ผู้เรียนและผู้สอนสามารถจัดทาและพัฒนาขึ้นเอง หรือปรับปรุงเลือกใช้อย่างมี คณุ ภาพจากสอ่ื ต่างๆ ทม่ี ีอยรู่ อบตวั เพื่อนามาใชป้ ระกอบในกา รจัดการเรียนรู้ท่ีสามารถส่งเสริมและส่ือสารให้ ผูเ้ รยี นเกิดการเรยี นรู้ โดยสถานศกึ ษาควรจัดใหม้ อี ย่างพอเพยี ง เพ่อื พัฒนาให้ผู้เรียน เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง สถานศกึ ษา เขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษา หน่วยงานที่เกยี่ วข้องและผมู้ ีหนา้ ท่ีจดั การศึกษาข้นั พน้ื ฐาน ควรดาเนินการดงั นี้ ๑. จัดให้มีแหล่งกา รเรียนรู้ ศูนย์สื่อกา รเรียนรู้ ร ะบบสาร สน เทศการ เรียน รู้ และเครือข่า ย การเรยี นรู้ท่มี ปี ระสทิ ธภิ าพทัง้ ในสถานศกึ ษาและในชุมชน เพ่อื การศึกษาค้นควา้ และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การเรียนรู้ ระหว่างสถานศกึ ษา ทอ้ งถ่ิน ชุมชน สงั คมโลก ๒. จัดทาและจัดหาสอื่ การเรียนรสู้ าหรบั การศึกษาค้นควา้ ของผู้เรียน เสรมิ ความรู้ให้ผู้สอน รวมทั้งจัดหา สิง่ ทมี่ อี ยใู่ นท้องถิ่นมาประยกุ ตใ์ ช้เปน็ สอ่ื การเรียนรู้ ๓. เลือกและใช้สื่อการเรยี นรู้ทม่ี ีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล้อง กับวิธีการ เรียนรู้ ธรรมชาติของสาระการเรยี นรู้ และความแตกต่างระหว่างบคุ คลของผ้เู รียน ๔. ประเมนิ คณุ ภาพของส่ือการเรียนรู้ท่ีเลอื กใช้อย่างเป็นระบบ ๕. ศกึ ษาคน้ ควา้ วิจยั เพ่ือพัฒนาสอื่ การเรยี นรใู้ หส้ อดคล้องกับกระบวนการเรียนรูข้ องผู้เรียน ๖. จัดให้มีกา รกา กับ ติดตา ม ปร ะเมิน คุณภา พและประสิทธิภาพเกี่ยวกับส่ือและกา ร ใช้ส่ือ การเรยี นร้เู ป็นระยะๆ และสม่าเสมอ ในการจัดทา การเลอื กใช้ และการประเมนิ คณุ ภาพสอ่ื การเรียนรูท้ ีใ่ ช้ในสถานศกึ ษา ควรคานึงถึงหลักการ สาคัญของส่อื การเรยี นรู้ เชน่ ความสอดคลอ้ งกบั หลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู้ การออกแบบ กิจกรรมการ เรียนรู้ การจัดประสบการณใ์ ห้ผ้เู รยี น เนอ้ื หามีความถูกตอ้ งและทันสมยั ไม่กระทบความม่ันคงของชาติ ไม่ขัดต่อ ศีลธรรม มีการใช้ภาษาท่ีถกู ต้อง รูปแบบการนาเสนอทีเ่ ขา้ ใจง่าย และนา่ สนใจ การบริหารจัดการหลักสูตร ในระบบการศกึ ษาที่มีการกระจายอานาจใหท้ อ้ งถิน่ และสถานศึกษามีบทบาทในการพัฒนาหลักสูตรน้ัน หน่วยงานต่างๆ ทเ่ี กีย่ วข้องในแต่ละระดับ ตัง้ แตร่ ะดับชาติ ระดับทอ้ งถิน่ จนถึงระดับสถานศึกษา มีบทบาทหน้าที่ และความรบั ผดิ ชอบในการพัฒนา สนบั สนุน สง่ เสริม การใชแ้ ละพัฒนาหลักสูตรให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ หลกั สตู รโรงเรยี นวดั พชื นมิ ิต (คาสวัสดร์ิ าษฎรบ์ ารุง) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
113 เพือ่ ให้การดาเนนิ การจัดทาหลักสูตรสถานศึกษาและการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษามปี ระสิทธิภาพสูงสุด อนั จะส่งผลใหก้ ารพฒั นาคุณภาพผู้เรียนบรรลุตามมาตรฐานการเรยี นรทู้ ี่กาหนดไว้ในระดับชาติ ระดับท้องถ่นิ ไดแ้ ก่ สานักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษา หน่วยงานตน้ สงั กัดอ่นื ๆ เป็นหน่วยงานท่ีมีบทบาทใน การขบั เคลื่อนคณุ ภาพการจัดการศกึ ษา เป็นตวั กลางท่ีจะเชื่อมโยงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานท่ี กาหนดในระดบั ชาตใิ ห้สอดคลอ้ งกับสภาพและความต้องการของท้องถิ่น เพื่อนาไปสู่การจัดทาหลักสูตรของ สถานศกึ ษา สง่ เสรมิ การใชแ้ ละพัฒนาหลกั สูตรในระดับสถานศกึ ษา ให้ประสบความสาเร็จ โดยมีภารกิจสาคัญ คือ กาหนดเป้าหมายและจดุ เนน้ การพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน ในระดบั ท้องถ่ินโดยพจิ ารณาให้สอดคล้องกับสิ่งที่เป็น ความต้องการในระดบั ชาติ พัฒนาสาระ การเรียนรทู้ อ้ งถ่ิน ประเมนิ คุณภาพการศึกษาในระดับท้องถ่ิน รวมทั้ง เพ่ิมพนู คณุ ภาพการใช้หลักสูตรด้วยการวิจัยและพัฒนา การพัฒนาบุคลากร สนับสนุน ส่งเสริม ติดตามผล ประเมนิ ผล วเิ คราะห์ และรายงานผลคณุ ภาพของผู้เรียน สถานศกึ ษามีหน้าท่สี าคัญในการพัฒนาหลกั สตู รสถานศึกษา การวางแผนและดาเนนิ การใชห้ ลกั สตู ร การ เพ่มิ พูนคณุ ภาพการใชห้ ลกั สตู รด้วยการวิจัยและพัฒนา การปรบั ปรุงและพฒั นาหลกั สตู รจัดทาระเบียบการวัดและ ประเมินผล ในการพฒั นาหลกั สูตรสถานศกึ ษาต้องพิจารณาให้สอดคล้อง กับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน พน้ื ฐาน และรายละเอียดท่ีเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษา หรอื หนว่ ยงาน สังกัดอืน่ ๆ ในระดบั ทอ้ งถ่นิ ได้จัดทาเพิ่มเติม รวมทั้ง สถานศึกษาสามารถเพิม่ เติมในส่วนท่ีเก่ยี วกับสภาพปัญหาในชุมชนและสงั คม ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น และความต้องการ ของผ้เู รียน โดยทกุ ภาคสว่ นเข้ามามสี ว่ นรว่ มในการพฒั นาหลกั สูตรสถานศกึ ษา หลกั สตู รโรงเรยี นวัดพืชนมิ ิต (คาสวสั ดิร์ าษฎรบ์ ารงุ ) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
114 อภิธานศัพท์ การเดาความหมายจากบริบท ( context clue) การเดาความหมายของคาศัพท์หรอื ข้อความทไ่ี มท่ ราบความหมายโดยไม่ต้องเปิดพจนานุกรม เป็นการ เดาความหมายน้นั โดยอาศัยการชีแ้ นะจากคาศพั ท์หรือขอ้ ความท่ีแวดลอ้ มคาศัพท์หรือข้อความที่อ่านเพ่ือช่วยใน การทาความเขา้ ใจหรือตคี วามหมายของคาศัพท์หรอื ขอ้ ความทไ่ี มเ่ ข้าใจความหมาย การถ่ายโอนขอ้ มูล การแปลงขอ้ มลู ทผี่ ้สู ง่ สารตอ้ งการจะสอื่ สารใหผ้ รู้ ับสารเขา้ ใจความหมายในรปู แบบทต่ี ้องการ เช่น การ ถ่ายโอนข้อมูลท่ีเป็นคา ประโยค หรือขอ้ ความไปเปน็ ขอ้ มลู ทเี่ ปน็ กราฟ สัญลกั ษณ์ รูปภาพ แผนผัง แผนภูมิ ตาราง ฯลฯ หรอื การถา่ ยโอนขอ้ มูลที่เป็นกราฟ สญั ลักษณ์ รูปภาพ แผนผงั แผนภมู ิ ตาราง ฯลฯ ไปเป็น ขอ้ มลู ที่เป็นคา ประโยค หรอื ข้อความ ทักษะการสือ่ สาร ทักษะการฟงั การพูด การอา่ น และการเขยี น ซึ่งเป็นเครื่องมอื ในการรับสารและส่งสารดว้ ยภาษานั้นๆ ไดอ้ ย่างสือ่ ความหมาย คลอ่ งแคลว่ ถกู ตอ้ ง เข้าถงึ สารไดอ้ ย่างชดั เจน บทกลอน (nursery rhyme) บทร้อยกรองสาหรบั เดก็ ท่มี ีคาคลอ้ งจองและมคี วามไพเราะ เพ่ือชว่ ยให้จดจาได้งา่ ย บทละครสน้ั (skit) งานเขยี นหรอื บทละครสั้นที่มีการแสดงออกด้วยทา่ ทางและคาพูด ทาใหเ้ กดิ ความสนกุ สนาน อาจเปน็ เรื่องท่มี าจากนทิ าน นิยาย ชวี ติ ของคน สัตว์ สงิ่ ของ หรือตดั ตอนมาจากงานเขยี น ภาษาทา่ ทาง การสอื่ สารโดยการแสดงทา่ ทางแทนคาพูดหรือการแสดงทา่ ทางประกอบคาพูด เพื่อใหค้ วามหมายมี ความชัดเจนยง่ิ ขนึ้ การแสดงทา่ ทางตา่ งๆ อาจแสดงไดห้ ลายลักษณะ เชน่ การแสดงออกทางสหี น้า การสบตา การเคล่อื นไหวศรี ษะ มือ การยกมอื การพยกั หนา้ การเลิกคิ้ว เปน็ ตน้ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา หลกั สูตรโรงเรยี นวัดพืชนมิ ติ (คาสวัสด์ริ าษฎรบ์ ารงุ ) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
115 วิถีการดาเนนิ ชวี ิตของคนในสงั คมทใี่ ชภ้ าษานน้ั นับตง้ั แตว่ ธิ ีการกินอยู่ การแต่งกาย การทางาน การ พักผ่อน การแสดงอารมณ์ การส่ือความ ค่านยิ ม ความคดิ ความเชื่อ ทัศนคติ ขนบธรรมเนียม ประเพณี เทศกาล งานฉลอง และมารยาท เป็นต้น สอื่ ที่ไมใ่ ชค่ วามเรยี ง (non – text information) สง่ิ ทใ่ี ช้สอ่ื สารแทนคา วลี ประโยค และขอ้ ความ เช่น กราฟ สญั ลักษณ์ รูปภาพ ส่ิงของ แผนผัง แผนภูมิ ตาราง เปน็ ตน้ หลกั สูตรโรงเรียนวดั พืชนิมิต (คาสวัสดิ์ราษฎรบ์ ารงุ ) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
116 หลักสูตรโรงเรียนวดั พชื นิมิต (คาสวสั ดิ์ราษฎรบ์ ารุง) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125