๗
๘ แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ 1 หลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพ พทุ ธศักราช 2562 สอนคร้ังที่ 1 รหัสวิชา 20404-2116 ชอื่ วิชา การนำเสนองานอาหาร ท-ป-น 3-2-3 ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ ความรู้เบ้ืองตน้ เกี่ยวกบั การนำเสนอข้อมูล ทฤษฏี 3 ชม. ปฏิบตั ิ 2 ชม. 1. สาระสำคัญ ในปจั จบุ นั นก้ี ารนำเสนอเขา้ มามบี ทบาทสำคญั ในองค์กรทางธรุ กจิ ทางการเมอื ง ทางการศกึ ษา หรือแม้แต่ หน่วยงานของรัฐทุกแหง่ ก็ต้องอาศัยวิธกี ารนำเสนอเพื่อส่ือสารข้อมูล เสนอความเหน็ เสนอขออนุมัติ หรอื เสนอขอ้ สรุปผลการดำเนินงานตา่ งๆ ผู้มีหน้าทีเ่ กี่ยวกบั การประชาสมั พนั ธ์ การแนะนำเพ่ือการเย่ียมชม การฝึกอบรม การ ประชุม หรอื ผู้ท่ีเป็นหวั หน้างานทุกระดับจะต้องร้จู กั วธิ ีการนำเสนอ เพื่อนำไปใชใ้ ห้เหมาะสมกบั งานตา่ งๆ และเพ่ือ ผลสำเร็จของการพัฒนางานของตน หรือขององคก์ รและหน่วยงานต่างๆ กล่าวโดยสรุป การนำเสนอมคี วามสำคัญ ต่อการปฏิบตั งิ านทุกประเภท เพราะชว่ ยในการตัดสินใจในการดำเนนิ งาน ใช้ในการพฒั นางาน ตลอดจนเผยแพร่ ความก้าวหน้าของงานตอ่ ผู้บงั คับบญั ชา และบุคคลผู้ทีส่ นใจ 2. สมรรถนะประจำหน่วย แสดงความรู้เบื้องต้นเก่ียวกบั การนำเสนอขอ้ มูล 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายความหมายของการนำเสนอข้อมูล 2. บอกความสำคญั ของการนำเสนอ 3. บอกจดุ ม่งุ หมายในการนำเสนอ 4. ประเภทของการนำเสนอ 5. อธบิ ายลกั ษณะของขอ้ มูลทีน่ ำเสนอ 6. ยกตวั อย่างโปรแกรมที่ใช้ในการนำเสนอ 7. หลกั การออกแบบงานทจ่ี ะนำเสนอ 8. เทคนิคการเลือกใช้สี สำหรบั การออกแบบ Presentation 9. ความหมายของสี 4. สาระการเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมายของการนำเสนอข้อมูลได้ 2. บอกความสำคัญของการนำเสนอได้ 3. บอกจุดมุ่งหมายในการนำเสนอได้ 4. ประเภทของการนำเสนอได้ 5. อธบิ ายลกั ษณะของขอ้ มลู ทีน่ ำเสนอได้ 6. ยกตัวอยา่ งโปรแกรมที่ใชใ้ นการนำเสนอได้ 7. หลักการออกแบบงานที่จะนำเสนอได้ 8. เทคนคิ การเลอื กใช้สี สำหรบั การออกแบบ Presentation 9. ความหมายของสีได้
๙ 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันสนใจปญั หา (Motivation) 5.1 ผสู้ อนตรวจสอบรายช่ือ ช้แี จงจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ภาพรวมของเน้ือหา กจิ กรรมการเรียนการสอน การวัดและการประเมนิ ผลที่จะตอ้ งดาเนนิ การ ขั้นให้เนอื้ หา (Information) 5.2 ผู้เรียนแบ่งกลมุ่ ๆ ละ 4 คน จบั ฉลากเพ่ือศึกษาและสรปุ ความรู้ ตามหัวข้อเร่ืองต่อไปน้ี 1. อธบิ ายความหมายของการนำเสนอข้อมูล 2. บอกความสำคัญของการนำเสนอ 3. บอกจุดมุ่งหมายในการนำเสนอ 4. ประเภทของการนำเสนอ 5. อธิบายลักษณะของข้อมูลทน่ี ำเสนอ 6. ยกตัวอย่างโปรแกรมที่ใชใ้ นการนำเสนอ 7. หลกั การออกแบบงานทีจ่ ะนำเสนอ 8. เทคนคิ การเลือกใช้สี สำหรับการออกแบบ Presentation 9. ความหมายของสี 5.3 ผู้เรยี นนำเสนอข้อมูล ขน้ั พยายาม (Application) 5.4 นักเรยี นปรบั ปรุงเนอ้ื หาทส่ี รปุ 5.5 ผ้สู อนตงั้ คำถาม ใหผ้ ู้เรยี นช่วยกันหาคำตอบด้วยตนเอง 5.6 ผ้เู รียนทำแบบฝึกหัด ขั้นสำเรจ็ ผล (Progress) 5.6 ผ้สู อนและผเู้ รียนรว่ มกันสรปุ เนอ้ื หา พรอ้ มเสนอแนะเพิม่ เติม เพ่ือใหผ้ ้เู รียนสามารถศึกษาด้วยตนเองได้ ง่ายขึ้น 6. ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้ http://powerpiont2010.blogspot.com/p/blog-page.html https://km.phuket.psu.ac.th/archives/1241 https://www.shutterstock.com/th/blog/complete-guide-color-in-design/ 7. หลักฐานการเรียนรู้ 7.1 หลักฐานความรู้ https://sites.google.com/pbpvc.ac.th/sunisa632/หนาแรก 7.2 หลกั ฐานการปฏิบตั งิ าน https://sites.google.com/pbpvc.ac.th/sunisa632/หนาแรก
๑๐ 8. การวัดและประเมนิ ผล 8.1 วิธีการ 1. ผลงาน 2. ทดสอบ 8.2 เครอื่ งมอื 1. Google Site 2. แบบทดสอบ 8.3 เกณฑ์ ทำแบบฝกึ หดั /แบบทดสอบ ได้ถูกต้องไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 60
๑๑ 9. บนั ทึกผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 9.1 ขอ้ สรุปหลงั การจัดการเรียนรู้ .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... 9.2 ปญั หาท่ีพบ .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... 9.3 แนวทางแกป้ ัญหา .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... .......................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................
๑๒ ใบความรทู้ ่ี .......1......... หน่วยท่.ี ......1....... สอนคร้งั ท่.ี .....1.... หลักสตู ร ปนะกาศนยี บัตรวิชาชพี (ปวช.) เวลา.....5.........ชม. รหัสวิชา 20404-2116 ชือ่ วชิ า การนำเสนองานอาหาร ท-ป-น 3-2-3 ช่ือเร่ือง ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับการนำเสนอข้อมลู 1. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1.1 จดุ ประสงคท์ ่วั ไป อธบิ ายความรเู้ บ้ืองตน้ เก่ียวกับการนำเสนอขอ้ มูล 1.2 จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. อธิบายความหมายของการนำเสนอข้อมูลได้ 2. บอกความสำคัญของการนำเสนอได้ 3. บอกจุดมุ่งหมายในการนำเสนอได้ 4. ประเภทของการนำเสนอได้ 5. อธบิ ายลักษณะของข้อมูลท่นี ำเสนอได้ 6. ยกตวั อยา่ งโปรแกรมที่ใช้ในการนำเสนอได้ 7. หลกั การออกแบบงานที่จะนำเสนอได้ 8. เทคนิคการเลอื กใชส้ ี สำหรับการออกแบบ Presentation ได้ 9. ความหมายของสีได้ 2. สมรรถนะ แสดงความรู้เบื้องต้นเกยี่ วกบั การนำเสนอขอ้ มลู 3. เนอื้ หาสาระ (อาจมรี ปู ภาพประกอบ)
๑๓ ความร้เู บอ้ื งต้นเกย่ี วกบั งานนำเสนอข้อมลู 1.1 ความหมายของการนำเสนอข้อมลู การนำเสนอขอ้ มลู หมายถึง การส่ือสารเพ่ือเสนอข้อมูล ความรู้ ความคิดเหน็ หรือ ความ ต้องการไปสผู่ ูร้ ับสาร โดยใช้เทคนิคหรือวิธีการต่าง ๆ อันจะทำใหบ้ รรลุผลสำเรจ็ ตามจุดมงุ่ หมายของ การนำเสนอ 1.2 ความสำคัญของการนำเสนอ ในปัจจุบนั นี้การนำเสนอเขา้ มามีบทบาทสำคญั ในองค์กรทางธุรกจิ ทางการเมอื ง ทางการศึกษา หรอื แมแ้ ตห่ น่วยงานของรัฐทุกแห่ง กต็ ้องอาศยั วิธกี ารนำเสนอเพ่ือสอ่ื สารข้อมลู เสนอความเหน็ เสนอ ขออนุมตั ิ หรือเสนอข้อสรปุ ผลการดำเนนิ งานต่างๆ ผูม้ ีหน้าท่ีเก่ยี วกบั การประชาสมั พนั ธ์ การแนะนำ เพอื่ การเยีย่ มชม การฝกึ อบรม การประชมุ หรือผูท้ เ่ี ปน็ หัวหน้างานทุกระดบั จะตอ้ งรู้จักวิธกี าร นำเสนอ เพื่อนำไปใช้ใหเ้ หมาะสมกบั งานตา่ งๆ และเพ่ือผลสำเร็จของการพฒั นางานของตน หรอื ของ องค์กรและหน่วยงานต่างๆ กลา่ วโดยสรุป การนำเสนอมคี วามสำคัญ ต่อการปฏบิ ตั ิงานทุกประเภท เพราะชว่ ยในการตดั สินใจในการดำเนนิ งาน ใชใ้ นการพัฒนางาน ตลอดจนเผยแพรค่ วามก้าวหนา้ ของ งานตอ่ ผู้บังคบั บัญชา และบุคคลผทู้ ่สี นใจ 1.3 จุดม่งุ หมายในการนำเสนอ 1. เพือ่ ใหผ้ ูร้ ับสารรับทราบความคดิ เห็นหรอื ความต้องการ เชน่ ในการประชมุ คณะกรรมการ ตา่ ง ๆ ประธานในท่ีประชมุ จะตอ้ งช้ีแจงวาระการประชมุ ใหท้ ่ีประชุมรับทราบ ทมี่ กั เรียกกันวา่ เรื่องที่ ประธานจะแจ้งให้ทราบ 2. เพอื่ ใหผ้ ้รู ับสารพจิ ารณาเรื่องใดเร่ืองหน่งึ เช่น ในการประชมุ คณะกรรมการแต่ละคร้ัง คณะกรรมการฝา่ ยตา่ ง ๆ จะต้องชีแ้ จงข้อมูลหรือแสดงความคิดเห็นใหท้ ่ีประชมุ รบั ไดท้ ราบ เพอื่ ประกอบการพจิ ารณาวินจิ ฉัยหรอื ลงมตทิ ีป่ ระชุม 3. เพื่อให้ผู้รับสารได้รบั ความรจู้ ากขอ้ มูลทน่ี ำเสนอ เช่น ในการฝกึ อบรมหรือการสมั มนา วิทยากรหรอื ผ้เู ชีย่ วชาญจะต้องนำเสนอข้อมลู ทีเ่ ปน็ ข้อความรู้ และข้อเท็จจรงิ ตา่ ง ๆ ให้แก่ผู้เขา้ ฝึกอบรม หรือใช้ ในการบรรยายสรปุ ผลการดำเนนิ งานต่าง ๆ เพอ่ื ให้ผูม้ าเยยี่ มชมกจิ การ หรือ ผู้บังคับบัญชาที่เดนิ ทางมาตรวจเยยี่ มได้รบั ทราบ 4. เพอื่ ใหผ้ รู้ บั สารเกิดความเข้าใจทถ่ี ูกต้อง เช่น การช้ีแจงระเบียบหรือวธิ กี ารปฏิบตั ิตา่ ง ๆ ใหแ้ กผ่ ้เู ก่ียวข้องเขา้ ใจ โดยเฉพาะเมอ่ื มีการออกระเบยี บใหมห่ รอื เปลย่ี นแนวทางในการปฏิบตั ิ ก็ จำเปน็ ตอ้ งชแ้ี จงเพ่ือใหเ้ กิดความเขา้ ใจที่ตรงกันและปฏบิ ตั ิได้อย่างถูก ต้อง
๑๔ 1.4 ประเภทของการนำเสนอ 1. การนำเสนอเฉพาะกลมุ่ เป็นการนำเสนอขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ต่อผทู้ ี่มหี นา้ ท่ีเก่ยี วข้องหรอื ผู้ท่ีได้รบั เชิญใหเ้ ขา้ รว่ มรบั ทราบข้อมลู ในการนำเสนอ 2. การนำเสนอทวั่ ไปในทีส่ าธารณะ เปน็ การนำเสนอข้อมลู ตา่ ง ๆ ท่เี ปดิ โอกาสให้บคุ คลทั่วไป เขา้ รว่ มฟังการนำเสนอได้ มีการเปดิ โอกาสให้ผู้ฟงั ได้ซักถามเพิม่ เตมิ หรือแสดงความคดิ เหน็ ไดอ้ ีกด้วย 1.5 ลกั ษณะของข้อมูลท่นี ำเสนอ ในการนำเสนอแต่ละครง้ั น้นั สามารถนำข้อมูลท่ีมีลักษณะแตกตา่ งกนั มาร่วม นำเสนอด้วยกนั ได้ ขึ้นอยู่กบั จุดประสงค์ของผู้นำเสนอ ข้อมลู ที่จะนำเสนอแบง่ ออกตามลกั ษณะของข้อมูล ได้แก่ 1. ข้อเท็จจริง หมายถึงข้อความที่เกย่ี วข้องกับเหตกุ ารณ์ เร่ืองราวทเ่ี ปน็ มาหรือเป็นอย่ตู าม ความจริง หรือสามารถตรวจสอบให้เปน็ ทป่ี ระจกั ษไ์ ด้วา่ เป็นความจริง อาจเป็นความรทู้ ่ีได้จากการ ทดสอบหรือทดลองทางวิทยาศาสตรก์ ็ได้ สามารถนำมาใชเ้ ปน็ หลกั ฐาน ขอ้ อ้างอิงสำหรับกล่าวอ้างถึง ในการพสิ จู น์ส่งิ ใดสงิ่ หนึ่งได้ 2. ข้อคิดเห็น เป็นความเหน็ อันเกดิ จากประเดน็ หรือเรื่องราวทช่ี วนใหค้ ดิ อาจเปน็ ความรู้สึก ความเชอ่ื ถือหรือแนวคดิ ทผ่ี ้นู ำเสนอมีต่อสง่ิ ใดสิง่ หน่ึง ความเห็นของแตล่ ะคนอาจแตกต่างกนั ได้ท้ังนี้ ขน้ึ อยู่กับพน้ื ฐานและประสบการณ์ ของแต่ละบุคคล ขอ้ คิดเหน็ ต่างจากข้อเทจ็ จรงิ คือ ข้อเท็จจรงิ เปน็ เรอื่ งจริงทยี่ อมรบั กันโดยท่ัวไป แตข่ ้อคิดเห็นอาจมีทง้ั ผเู้ หน็ ด้วยและไม่เห็นด้วยกไ็ ด้ ทั้งนี้ขนึ้ อยูก่ ับผู้ฟัง เป็นผู้ตดั สนิ ใจว่าขอ้ คิดเหน็ นั้น ๆ นา่ รับฟงั หรือไม่ สมเหตสุ มผลเพียงใด ข้อคิดเห็นมีลกั ษณะต่าง ๆ กนั ขอ้ คิดเห็นเชิงเหตุผล เปน็ ข้อคดิ เห็นท่อี ้างถงึ เหตผุ ล อ้างถึงข้อเปรยี บเทียบท่ี เชอ่ื ถือได้ และ ความมีเหตุผลตอ่ กนั โดยช้ใี หผ้ ู้รับฟงั เหน็ ว่า ควรทำอยา่ งนั้นเพราะเหตุเชน่ น้ี แตถ่ า้ ไม่ทำอยา่ งท่ีกล่าว ก็จะมีผลตามมาอย่างไรบา้ ง โดยทั้งหมดนีเ้ ป็นเหตผุ ลของผู้แสดง ความคิดเหน็ เท่านั้น 1.5 โปรแกรมทใ่ี ช้ในการนำเสนอ ในปจั จุบันโปรแกรมที่ใชใ้ นการนำเสนอ มีใหเ้ ลอื กใชง้ านกนั หลายโปรแกรม ส่วนชอ่ งทาง การนำเสนอผลงานมี 2 ชอ่ งทาง คือ แบบออฟไลน์ (offline) โดยรวมใช้ โปรแกรม PowerPoint นำเสนองานหรือโปรแกรมสร้างสื่อ CAI เป็นต้น และช่องทางแบบออนไลน์ (online) คอื ใชเ้ วบ็ ไซต์ในการนำเสนองานดังตวั อยา่ งโปรแกรมต่อไปนี้
๑๕ Microsoft PowerPoint (ไมโครซอฟต์เพาเวอรพ์ อยต)์ เป็นสดุ ยอด โปรแกรมนำเสนอข้อมลู (พรเี ซนเตชนั่ ) ท่มี ีผู้ใช้มากเพราะใชง้ านไดง้ ่ายทส่ี ดุ Macromedia เป็นโปรแกรมลกั ษณะ multimedia ทใ่ี ช้สร้าง บทเรียน CAI เพอ่ื ช่วยในการเรียนการสอน Swish 2.0 หรอื Swish 3D เป็นโปรแกรม Multimediaท่ใี ช้สร้างไฟล์ .swf หรอื Flash ในการนำเสนอผลงาน SPECIAL Effect เกีย่ วกับภาพ และตวั หนงั สือ Adobe Acrobat เป็นโปรแกรมทร่ี องรับการใชง้ านเอกสารท่เี ปน็ ไฟล์ PDF เพอื่ ใชง้ านทางดา้ นเวบ็ ไซต์ Facebook เฟสบุ๊ค คือ บริการหนง่ึ บนอนิ เทอรเ์ น็ต สามารถเขยี น บทความ แชทคุยกันแบบสดๆ เลน่ เกมส์และกจิ กรรมอนื่ ๆ เปน็ ทีน่ ยิ มกนั อย่างมาก Twitter.com ทวิตเตอรเ์ ป็นเว็บไซตใ์ หบ้ ริการบล็อก (Blog) เก่ียวกับ บทความ Wordpress.com เป็นโปรแกรมสำหรับทำบลอ็ ก เปน็ ท่นี ิยมของบลอ็ ก เกอร์ท่วั โลก รวมทง้ั คนไทย Blogger.com & Blogspot.com Blog มาจากคำว่า Webblog: ''Webblog'' หมายถึงเวบ็ ไซต์ท่ีเจ้าของเว็บสามารถบันทกึ บทความ รูปภาพ วดี โี อ ของตนเอง ลงบนเวบ็ ไซตไ์ ด้ทันที Hi5.com (ไฮไฟว)์ เปน็ เว็บไซต์ Social Network สามารถสรา้ งประวตั ิ ส่วนตวั แลว้ แสดงบนโลกออนไลน์ Slide.com เป็นเว็บไซตท์ ่ฝี ากรูปเพ่ือทีจ่ ะนำมาทำภาพสไลด์โชวห์ น้าเว็บ แบบง่ายๆ Canva เปน็ แพลตฟอร์มการออกแบบกราฟิกท่ีใช้สร้างกราฟิกโซเชยี ล มีเดยี งานนำเสนอโปสเตอรเ์ อกสารและเนื้อหาภาพอน่ื ๆ Google Sites เป็นเครือ่ งมือสรา้ งวิกิพีเดยี และหนา้ เว็บ
๑๖ 1.6 หลักการออกแบบงานที่จะนำเสนอ หลักการสร้างสื่อนำเสนอท่ีดีทีประเดน็ ท่ีต้องให้ความสำคัญ ไดแ้ ก่ 1. ความเรียบงา่ ย: จัดทำสไลดใ์ ห้ดเู รียบงา่ ยท่ีสุดเทา่ ทีท่ ำได้ เช่น ใช้สอี อ่ นเป็นพน้ื หลัง เพื่อ เวลาอ่านจะไมร่ บกวนสายตา 2. มีความคงตวั : เปน็ สิง่ สำคัญทสี่ ุดในการนำเสนอสไลด์ซ่ึงเปน็ เน้ือหาในเร่ืองเดียวกนั คือ ต้อง มคี วามคงตัวในการออกแบบสไลด์ 3. ใช้ความสมดลุ : การออกแบบสว่ นประกอบของสไลด์ให้มลี กั ษณะสมดลุ มีแบบแผน หรอื สมดลุ ไมม่ ีแบบแผนก็ได้ 4. มีแนวคดิ เดียวในสไลด์แต่ละแผ่น: ขอ้ ความและสภาพท่ีบรรจุในสไลดแ์ ผน่ หนงึ่ ๆ ต้องเปน็ เนื้อหาแตล่ ะแนวคิดเท่านน้ั 5. สร้างความกลมกลนื : ใช้แบบอักษรและภาพกราฟกิ ให้เหมาะสมกบั ลักษณะของเนอ้ื หาใช้ แบบอักษรอ่านง่าย แลใ้ ชส้ ที ดี่ ูแลว้ สบายตา 6. แบบอักษร: ไมใ่ ชอ้ ักษรมากกว่า 2 แบบในสไลดเ์ ร่ืองหน่ึง โดยใชแ้ บบหนงึ่ เป็นหัวขอ้ และ อีกแบบหน่ึงเปน็ เน้ือหา 7. เน้ือหา และจดุ นำข้อความ: ขอ้ ความในสไลด์ควรเปน็ เฉพาะหวั ขอ้ หรือเน้ือหาสำคัญ เท่านนั้ และควรนำเสนอเปน็ แต่ละย่อหน้า โดยอาจมจี ุดนำข้อความอยขู่ ้างหน้าเพื่อแสดงใหท้ ราบถงึ เน้ือหาแต่ละประเดน็ 8. เลอื กใชก้ ราฟิกอย่างระมัดระวัง: การใชก้ ราฟิกอยา่ งเหมาะสมจะสามารถเพมิ่ การเรยี นรู้ได้ อยา่ งมปี ระสิทธผิ ล 9. ความคมชัดของภาพ : เนอื่ งจากความคมชัดของจอมอนเิ ตอร์มีเพยี ง 72-96 DPI เทา่ น้ัน ภาพกราฟกิ ท่ีนำเสอประกอบในเนอื้ หาจึงไมจ่ ำเปน็ ต้องใชภ้ าพท่ีมีความคมชดั สูงมาก ควรใช้ภาพใน รูปแบบ JPG ทมี่ ีความคมชดั ปานกลาง และขนาดไมใ่ หญ่นัก ประมาณ 20-50 KB ควรทำการลด ขนาดภาพกอ่ นเพ่ือไม่ให้เปลอื งเนือ้ ที่ในการเก็บบันทึก 1.7 เทคนคิ การเลอื กใช้สี สำหรบั การออกแบบ Presentation การสรา้ งงานออกแบบ Presentation ให้เจ๋งนั้น เราตอ้ งเพ่ิงหลกั การใชเ้ พื่อทำให้ผชู้ มสนใจ Presentation ของเรา และถ้ายังไมแ่ น่ใจวา่ งานออกแบบ Presentation จะเปน็ ไปในทิศทางไหน วันนี้เรามีเทคนคิ เล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเลือกใช้สใี นการออกแบบ Presentation
๑๗ 1.7.1 เลือกใชส้ ตี ามทฤษฎีสี แบบแรกคือการใชส้ ที แี่ ตกต่างกนั อยา่ งเช่น แมส่ ี (เหลือง แดง นำ้ เงนิ ) เปน็ ตน้ วธิ กี าร นีท้ ำให้ร้สู กึ วา่ สีท้ังสามมีความสดท่ีเท่ากัน แบบทส่ี องคอื การเลือกใชส้ คี ตู่ รงข้าม เชน่ สนี ้ำเงิน สนี ำ้ เงินอ่อน กับสเี หลือง สีเหลือง ออ่ น เปน็ ตน้ แบบทส่ี ามคือการเลอื กใช้สีทเ่ี รยี งเป็นโทนเดียวกนั เช่น การเลอื กใชส้ ีเขียว และเขียวอ่อน 1.7.2 สร้างความแตกต่างของสี การใชต้ วั หนังสอื ในงานออกแบบ Presentation การเลอื กใช้สีท่ีถกู ต้องถือเป็นสงิ่ ทีส่ ำคัญมาก ในการเลอื กใหเ้ ข้ากบั Background ถ้าสีตวั หนังสือเปน็ สีอ่อน ควรเลือก Background เป็นสเี ขม้ และถ้า Background เป็นสีออ่ นกค็ วรเลือกให้ตัวหนังสือเปน็ สีเขม้ เพื่อสร้างความแตกต่างของสีให้ ผูช้ มสามารถอ่านขอ้ ความไดง้ ่ายขน้ึ ใชเ้ พยี ง 3-4 สี
๑๘ การเลือกใช้สีเพยี ง 3-4 สีกเ็ พียงพอแล้วจะทำใหผ้ ู้ชมสนใจทีจ่ ะอ่านและมองสไลด์ท่ีออกแบบ มา เพราะการเลือกใชส้ ีทเ่ี ยอะมากจะทำใหผ้ ู้ชมรู้สกึ สับสนในส่งิ ท่ตี ้องการจะสอ่ื สาร ใช้ทฤษฎี 60-30-10 ถ้าเลอื กใชส้ ใี นงานแค่ 3 สี ในทฤษฎี 60-30-10 โดยการแบ่งการออกแบบสไลดเ์ ป็นหนว่ ย เปอรเ์ ซน็ ต์ 60% แรกคือการใชส้ ีพ้ืนของสไลด์ และ 30% ต่อมาสำหรบั สีท่ี 2 ที่ใช้ในสไลด์ และ 10% สุดท้ายคือการนำสีไปใช้ในการเน้นหรือไฮไลท์ส่วนทส่ี ำคัญของสไลด์ วธิ ีน้ีจะชว่ ยให้ Balance สใี ห้เขา้ กันและเป็นไปในทศิ ทางเดียวกัน การเลอื กใช้สีทเี่ หมาะสมและเข้ากบั สิ่งทีน่ ำเสนอถือเป็นเรื่องเลก็ ๆ ที่สำคญั เพราะจะทำให้ ผู้ชมมองวา่ มคี วามตั้งใจและใสใ่ จในการออกแบบงาน Presentation 1.8 ความหมายของสี จติ วทิ ยาสเี นน้ ท่ีสญั ลักษณ์สี ความหมาย และวิธกี ารที่สแี ละชดุ คา่ ผสมของพวกมนั สง่ ผล กระทบต่ออารมณ์ความรูส้ ึกของมนุษย์ หลกั การของจิตวทิ ยาสีสามารถประยุกตใ์ ชก้ บั อุตสาหกรรม และการแสวงหามากมายเพ่ือชว่ ยให้นกั การตลาดสามารถสรา้ งแบรนด์ท่ีมปี ระสทิ ธิภาพ 1.8.1 สโี ทนอบอุ่น สีท่อี บอ่นุ อาทิเช่น สแี ดง สม้ และเหลอื งจะช่วยกระตนุ้ ความร้สู ึกทส่ี ดช่นื และ กระปรี้กระเปรา่ สีเหลา่ น้ีเป็นชดุ ของความรู้สกึ ทางอารมณ์ แต่สามารถครอบงำได้อยา่ งงา่ ยดายเมือ่ ใช้ เปน็ สที โ่ี ดดเด่นในองค์ประกอบ โทนสแี ละเฉดสีท่ีอบอุ่นถือเป็นเพอื่ นท่ดี ที ่สี ดุ ของ เพราะมันช่วยในการ ทำให้สีดอู ่อนลงโดยไม่ทำใหผ้ ลในเชิงบวกลดลง ใชเ้ ฉดสีที่อบอุน่ ดว้ ยการโรยสใี ห้เป็นสเี ด่นใน องค์ประกอบการสร้างแบรนด์หรือจบั คู่กับโทนเยน็ เพื่อความสมดุลแบบฮาร์มอนิก 1) สีแดง ความโดดเด่นและความสดใสทำให้สีแดงมีการตอบสนองทางอารมณ์ท่ี รุนแรงในผูช้ ม มนั สามารถเพ่มิ ความอยากอาหาร ความต่นื เต้น และความวติ กกังวล รา้ นอาหารมักจะ นำสแี ดงไปใช้ในองค์ประกอบของแบรนด์เพื่อใช้ประโยชนจ์ ากความกระหายที่เพ่ิมมากข้ึน นอกจากนี้ แบรนดย์ งั ใชส้ แี ดงเพือ่ ใหค้ วามรูส้ ึกทน่ี า่ ตน่ื เตน้ และน่าผจญภัย
๑๙ ในขณะที่สีแดงเป็นสีที่เข้มและมีประสิทธิภาพ จงใช้เท่าที่จำเป็นเสมอ โดยเฉพาะเมอ่ื จบั คูก่ ับเฉดสที สี่ ดใสอนื่ ๆ เน่ืองจากความรุนแรงมากเกินไปอาจทำให้การออกแบบและ กระตุ้นอารมณ์ผิดพลาดได้ แม้กระทั่งการปลุกระดมความก้าวร้าว สีแดงที่อิ่มตัวจะถูกใช้ใน องค์ประกอบของตราสินค้าที่มีความละเอียดอ่อน เมื่อใช้สีแดงเป็นสีที่โดดเด่น สามารถทำให้มันดู นุม่ นวลขึ้นด้วยการใชเ้ ฉดสีท่ีออ่ นลง 2) สีส้ม สีส้มประกอบด้วยความเข้มขันสีแดงและความร่าเริงของสีเหลือง ความ สน่ั สะเทอื นของมันมักแสดงถึงความม่ันใจ ความสบายง่ายๆ และการเริ่มตน้ ใหม่ จงคำนึงถึงสีท่ีจะจับคู่ กบั สสี ้ม สีส้มบรสิ ุทธทิ์ ี่จบั คู่กับสีดำมีการเชื่อมโยงถึงฮาโลวนี ลองใช้โทนสนี ้ำเงินเพ่ือเตมิ เต็มส่วนท่ีตัดกัน หรือตดิ กบั เฉดสีทีอ่ บอนุ่ เหมอื นกันโดยผสมผสานสเี หลืองหรอื สแี ดง เชน่ เดยี วกับรูปเกรฟฟรุ๊ตน้ี ในขณะที่โทนสีส้มมักให้ความรู้สึกเป็นมิตร แบรนด์ต่างๆอาจต้องการใช้สีน้ี เล็กน้อย ลดความส่นั สะเทือนด้วยการใชโ้ ทนสแี ละเฉดสสี ้ม หรอื เลอื กใช้รุ่นที่อ่อนลงอยา่ ง พีช ดินเผา หรือแอปรคิ อทเพ่ือเพมิ่ ความสง่างาม
๒๐ 3) สีเหลือง เฉดสีแสงแดดนี้ทำให้เกิดความอบอุ่น ความสดชื่น และความ เงียบสงบในรปู แบบที่บริสุทธ์ิ สีที่สะดุดตาของสีเหลืองยังเปน็ สีที่คนสังเกตเหน็ ได้ทันที ซึ่งโดยปกติจะ ใช้ในการอ้างอิงถึงความระมัดระวัง ป้ายถนน และเสื้อกั๊กรักษาความปลอดภัย แบรนด์นิยมใช้ ประโยชน์จากความสามารถในการมองเห็นสีเหลืองเพื่อดึงดูดลูกค้าไปยังร้านค้าของตน ดังนั้นมันจึง ทางเลือกที่เป็นท่ีนิยมสำหรับร้านค้าปลีกตา่ ง ๆ ควรพิจารณาการใช้โทนสีเหลืองเป็นสว่ นหนึ่งในตรา สินค้าแทนการใช้สีนี้เป็นสีหลัก เนื่องจากสีเหลืองมากเกินไปอาจครอบงำผู้ชมและถูกมองว่าเป็นกล ยทุ ธท์ ี่ทำใหร้ าคาไม่แพงเพื่อเพิ่มยอดขาย อาจเปน็ เรื่องยากทจ่ี ะจบั คสู่ ีเหลืองกับสีอื่น ๆ รวมถึงคู่สี สี ตรงกันข้ามเยื้อง หรือสีตรงกันข้ามข้างเคียงทั้งสองด้านเพื่อให้ได้จานสีที่ประสบความสำเร็จ พื้นผิวสี เทาดา้ นล่างนี้สามารถใชโ้ ทนสีเหลอื งเพอ่ื ใหส้ ามารถดไู ด้งา่ ยขึ้น 1.8.2 สีโทนเย็น ในอีกทางหนึ่ง สเปกตรัมเฉดสีเย็นมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดความสงบและความ นา่ เช่อื ถือ สนี ้ำเงิน สมี ่วง และแมแ้ ต่สีชมพูมีแนวโน้มทจ่ี ะมีความหลากหลายมากข้ึน พวกมันสามารถ รวมเขา้ กับองค์ประกอบการสรา้ งแบรนด์และกลายเปน็ สีท่โี ดดเดน่ หรือมีเอกลักษณ์ได้ เพิ่มความโดด เด่นให้กับองค์ประกอบของภาพด้วยการทดลองใช้เฉดสีเย็น หรือประยุกต์ใช้โทนสีอบอุ่นเพื่อสร้าง เอกลกั ษณใ์ หก้ บั ค่สู ที เ่ี ป็นโทนเยน็ 1) สีเขียว สีที่หลากหลายนี้มักเกี่ยวข้องกับป่าเขียวขจี การเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์ และความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งช่วยปลูกฝังความรู้สึกของการเจริญเติบโต ความปลอดภัย และการนำ กลับมาใชใ้ หม่ สีเขยี วเปน็ สธี รรมดาทใี่ ชใ้ นการสรา้ งตราสินค้าและองค์ประกอบของโลโก้ สสี นั นี้เต็มไป ด้วยความหมายท่ีสำหรับแบรนด์ที่มีความยั่งยืนและเปน็ มิตรกบั สิง่ แวดล้อม สถาบันการเงนิ หรือร้าน ขายของชำ สีเขียวเป็นสีที่ง่ายในการมองเห็น ทำให้เหมาะที่สุดในการเป็นสีที่โดดเด่น สำหรับจานสี นบั ว่าเปน็ เร่ืองง่ายเม่อื จบั คสู่ ีเขียวกบั โทนสโี มโนโครม สีข้างเคยี ง หรอื คสู่ ี การผสมแบบโมโนโครมและ
๒๑ ข้างเคียงที่เห็นในน้ำค้างหยดด้านล่างหรือแสงเหนือได้สร้างจานสีที่เงียบสงบและเป็นธรรมชาติ รูปแบบเสริม อาทิเช่น สีแดงเข้มและสีเขียวตัดกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจับคู่กันในองค์ประกอบ (อย่างไรกต็ ามจงระมดั ระวังอยา่ นำไปใชใ้ นเทศกาลวนั หยุด!) 2) สีน้ำเงิน ตั้งแต่ท้องฟ้าสีฟ้าอ่อนสดใสไปจนถึงสีมหาสมุทรได้แสดงให้เห็นถึง ความสมั พนั ธ์ทด่ี ีโดยรวม สที เ่ี ป็นท่ีนิยมนีเ้ ปน็ สญั ลักษณ์ของความสงบ ความนา่ เช่ือถอื และความภักดี ต่อธรรมชาติอันเงียบสงบ อย่างไรก็ตามก็ยังมีความหมายเชิงลบบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับสีนี้ซึ่งเป็นที่ รู้จกั สำหรับความเศร้าและเป็นสญั ลักษณ์ของภาวะซึมเศรา้ สีน้ำเงินเป็นที่ชื่นชอบอย่างกว้างขวาง ซึ่งหมายความว่าหลายยี่ห้อใช้สีฟ้าใน แคมเปญหรือโลโก้ของตน ดังนั้นจะโดดเด่นในทะเลสีฟ้าอันกว้างใหญ่ได้อย่างไร? การใช้ชุดสีที่ไม่ซ้ำ กันเปน็ วธิ ที แ่ี นใ่ จวา่ จะสามารถดึงดดู ความสนใจได้ การจับคู่สีน้ำเงินกับสที ีอ่ ุ่นข้ึน อาทิเช่น สีส้มหรือสีเหลืองเป็นจดุ เริ่มต้นที่ดี สร้าง จานสีของโดยใช้ชุดสที ง้ั สามหรือคู่สีทคี่ ล้ายคลึงกัน หรอื หากเลือกใช้องค์ประกอบแบบทึบ ให้รวมโทน สีฟ้าและเฉดสที ่มี ีสสี นั อบอุ่นตามทเี่ ห็นในพน้ื ผิวหินอ่อนดา้ นล่าง
๒๒ 2) สมี ่วง สที ุติยภมู ิน้ีเช่ือมต่อกบั ความม่ันคงตามท่ีเหน็ ในสนี ้ำเงนิ ผสมกับสแี ดง สีม่วง มคี วามหมายทางประวตั ิศาสตร์ทส่ี ำคญั มันเปน็ ทางเลอื กท่ีเป็นทนี่ ยิ มในหมจู่ กั รพรรดิและกษัตรยิ ์ รวมถึงช่วยสร้างกลิ่นอายของพระบรมวงศานุวงศแ์ ละความพิเศษ เม่ือเวลาเปล่ียนไปความหมายของ สกี ็เปล่ียน ปจั จุบันสมี ่วงเปน็ สญั ลักษณ์ของสนั ตภิ าพและความหรหู รา รังสีอัลตราไวโอเลตซึ่งเปน็ สีสนั ยอดเยีย่ มแห่งปขี องปี 2018 ของแพนโทน ซ่งึ เป็นแงม่ ุมท่ีมองโลกในแง่ดีและลึกลบั ในสมี ่วงทพ่ี บ โดยทั่วไป เสน่ห์ที่เงยี บสงบและหรหู ราของสีม่วงทำงานได้ดกี ับแบรนดท์ ี่นำเสนอผลติ ภัณฑร์ ะดบั ไฮ เอนด์หรือมอบสภาพแวดล้อมท่เี งียบสงบ อยา่ งเชน่ สตดู ิโอโยคะ การใช้สีม่วงอย่างเดียวสามารถครอบงำการออกแบบได้ แทนที่จะพยายามรวม เฉดสีตามที่เห็นในภาพแฟชั่นด้านล่าง เมื่อคู่กับสีม่วงกับคู่สีเสริมของมัน สีเหลืองสำหรับความคมชัด ตวั หนา หรือผสมผสานชุดสีตรงกันข้ามเย้ืองเพื่อความคมชัดที่ละเอยี ดมากข้ึน 3) สชี มพู เม่ือนึกถึงเฉดสีชมพู เรามกั นึกถึงความเป็นผหู้ ญิง ความโรแมนติค ความ สนิทสนม และไลฟส์ ไตล์ แต่เชน่ เดียวกับสอี ื่นๆ สีชมพมู ีความหมายทางวัฒ นธรรมทแ่ี ตกตา่ งกันใน ต่างประเทศ ในญ่ปี ุน่ สีชมพถู ูกมองว่าเป็นผชู้ ายมากข้ึนและในเกาหลเี ป็นสัญลักษณแ์ ห่งความไวว้ างใจ การทำความเข้าใจว่าสตี ่างๆของวฒั นธรรมถอื วา่ มีความสำคญั อยา่ งยง่ิ ในขอบเขตความคิดสรา้ งสรรค์ ในซกี โลกตะวนั ตก มกั มีการใช้สชี มพูในการสรา้ งแบรนดผ์ ลิตภณั ฑ์และเคร่อื งสำอางของผู้หญงิ เนอื่ งจากมีความสัมพันธ์ทั่วไปของสชี มพูกบั สิ่งของ “แนวผหู้ ญงิ ” โดยเมอื่ เร็วๆน้ีสีชมพไู ด้กลายเป็นสี ที่มแี นวโนม้ ในดีไซนม์ ากข้ึน อาจเห็นการทำซำ้ ของ Millennial Pink ทีม่ ีชือ่ เสยี งในการถ่ายภาพและ การออกแบบ แม้ว่าพวกมันจะไม่เกีย่ วข้องกับรายการของผู้หญิงกต็ าม นน่ั เปน็ เพราะสีชมพกู ำลัง พัฒนาไปพร้อมกบั แนวความคดิ ท่ีเปน็ ทีน่ ิยมของการแสดงตวั ตน
๒๓ สีชมพมู ักเป็นสีทีส่ ลบั ซบั ซอ้ นในองค์ประกอบ แต่เมื่อคิดวา่ สชี มพูเปน็ สเี รียบง่ายของสีแดง สามารถใช้ล้อสีเพอื่ ประโยชน์ของไดอ้ ย่างง่ายดาย สชี มพผู สมผสานไดด้ ีกบั เฉดสีเขียว รวมถึงสี ข้างเคียงและสโี มโนโครม 4. แบบฝึกหัด/แบบทดสอบ 1. ความสมดุลในความรู้สึก มีความหมายว่าอย่างไร ก. เหมอื นกัน เป็นความแตกต่างกันท้งั ในดา้ นรูปแบบ สี หรือพน้ื ผิว ข. เปน็ ลกั ษณะของรูป 3 มติ ิ ค. เป็นการจัดวางโครงร่างทง้ั หมดทจี่ ะกำหนดตำแหนง่ ขนาดของภาพประกอบ ง. ทำให้ความร้สู กึ ที่มน่ั คง เป็นทางการ 2. ความสมดลุ มีกี่ลักษณะ ก. 1 ลักษณะ ข. 2 ลกั ษณะ ค. 3 ลกั ษณะ ง. 4 ลักษณะ 3. เมือ่ นำสแี ดงมาผสมกบั สขี าวจะเกดิ เปน็ สีอะไร ก. สีบานเย็น ข. สนี ำ้ เงิน ค. สแี ดงอมส้ม ง. สีชมพู 4. วรรณะสรี ้อนประด้วยสีไรบา้ ง ก. สเี ขียว สีม่วง สนี ้ำเงิน ข. สีเหลอื ง สแี ดง สแี สด ค. สเี ทา สชี มพู สีเหลือง ง. สีฟ้า สีแดง สดี ำ
๒๔ 5. วรรณะสเี ย็นประกอบด้วยสตี ่อไปนี้ ยกเวน้ ข้อใด ก. สีเขยี ว ข. สีมว่ ง ค. สสี ม้ ง. สีน้ำเงนิ 6. สีท่ีเก็บกด ชา่ งฝนั เปลา่ เปลีย่ ว คอื สอี ะไร ก. สีแดง ข. สีนำ้ เงนิ ค. สเี หลือง ง. สีเขียว 7. วรรณะสีร้อน มีลกั ษณะอยา่ งไร ก. ความสงบ ข. สุขุมเยือกเยน็ ค. รอ้ นแรง ฉดู ฉาด ง. เยอื กเย็นจนถงึ ความเศร้า 8. วรรณะของสมี ีกปี่ ระเภท ก. 2 วรรณะ ข. 3 วรรณะ ค. 4 วรรณะ ง. 5 วรรณะ 9. การออกแบบกราฟิกหมายถึงอะไร ก. เป็นลกั ษณะของการออกแบบพ้ืนผิว 2 มิติ เพื่อเปน็ ส่ือกลางสำหรับถา่ ยทอดข้อความ ความรูส้ ึกนกึ คิด และอารมณ์ ข. วิธกี ารออกแบบและวิธแี ก้ปญั หาการออกแบบ โดยการนำเอารปู ภาพประกอบ ภาพถา่ ย สญั ลักษณ์ รปู แบบ ขนาดตัวอักษร ค. เพื่อใหเ้ กดิ การนำเสนอข้อมลู อย่างชัดเจน ง. วิธีการทางศลิ ปะและวธิ กี ารทางการออกแบบร่วมกนั สรา้ งรูปแบบสื่อ 10. สีม่วง แสดงถึงอารมณ์ใด ก. อุ่นสหี นึ่ง ในขณะทสี่ ีเงนิ ถูกจัดให้เป็นสีเยน็ ข. ความรสู้ กึ ทางกามอารมณ์ ความปรารถนา ค. เปน็ สที ี่เก็บกด ชา่ งฝัน เปลา่ เปล่ยี ว ง. แสดงถึงความใครค่ รวญ การทำสมาธิ ความลกึ ลับ
๒๕ 5. เอกสารอ้างอิง (ขึ้นหน้าใหม่) http://powerpiont2010.blogspot.com/p/blog-page.html https://km.phuket.psu.ac.th/archives/1241 https://www.shutterstock.com/th/blog/complete-guide-color-in-design/ 6. ภาคผนวก (เฉลยแบบฝึกหัด เฉลยแบบทดสอบ ฯ) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คขกกง งคขงค ใบงาน ที่ ................ หน่วยท่ี.............. หลกั สตู ร................................................................. สอนคร้ังท่.ี ......... รหัสวชิ า..........................ช่อื วิชา เวลา.................. ............................................ ชม. ช่อื งาน................................................................................... 1. จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 1. อธิบายความหมายของการนำเสนอข้อมูลได้ 2. บอกความสำคญั ของการนำเสนอได้ 3. บอกจุดมุ่งหมายในการนำเสนอได้ 4. ประเภทของการนำเสนอได้ 5. อธิบายลักษณะของข้อมูลทน่ี ำเสนอได้ 6. ยกตวั อย่างโปรแกรมท่ีใชใ้ นการนำเสนอได้ 7. หลกั การออกแบบงานท่จี ะนำเสนอได้ 8. เทคนคิ การเลอื กใชส้ ี สำหรับการออกแบบ Presentation ได้ 9. ความหมายของสีได้ 2. สมรรถนะ แสดงความรู้เบ้ืองตน้ เก่ยี วกับการนำเสนอขอ้ มูล
๒๖ 3. เครือ่ งมอื วัสดุ และอุปกรณ์ 3.1 คอมพิวเตอร์ จำนวน 1 เคร่อื ง/คน 3.2 โปรเจค็ เตอร์ จำนวน 1 เครือ่ ง/ห้อง 3.3 กระดาษ จำนวน 1 แผ่น/คน 3.3 สไี ม้ จำนวน 1 กล่อง/กล่มุ 4. คำแนะนำ - 5. ขอ้ ควรระวงั - 6. ลำดบั ขั้น(การทดลอง/การปฏิบัติงาน) 6.1 แบง่ กล่มุ ๆ ละ 4 คน 6.2 จับฉลากเลอื กหัวข้อ 6.3 ค้นหาข้อมลู 6.4 สรปุ ขอ้ มลู 6.5 นำเสนอข้อมูล 7. คำถาม 1. อธิบายความหมายของการนำเสนอข้อมูล 2. บอกความสำคัญของการนำเสนอ 3. บอกจดุ มุ่งหมายในการนำเสนอ 4. ประเภทของการนำเสนอ 5. อธิบายลักษณะของข้อมลู ท่ีนำเสนอ 6. ยกตัวอย่างโปรแกรมท่ีใช้ในการนำเสนอ 7. หลกั การออกแบบงานทีจ่ ะนำเสนอ 8. เทคนิคการเลือกใชส้ ี สำหรบั การออกแบบ Presentation 9. ความหมายของสี
๒๗ 8. สรปุ และวจิ ารณ์ผล ให้นักเรยี นสรปุ และวิจารณ์เน้อื หาตอ่ ไปนเี้ ป็นรายกลุ่ม 1. อธบิ ายความหมายของการนำเสนอข้อมูล 2. บอกความสำคญั ของการนำเสนอ 3. บอกจดุ มงุ่ หมายในการนำเสนอ 4. ประเภทของการนำเสนอ 5. อธิบายลักษณะของข้อมูลที่นำเสนอ 6. ยกตวั อย่างโปรแกรมที่ใชใ้ นการนำเสนอ 7. หลกั การออกแบบงานทจ่ี ะนำเสนอ 8. เทคนิคการเลอื กใช้สี สำหรับการออกแบบ Presentation 9. ความหมายของสี 9. การประเมินผล 1. การนำเสนอ 2. การตอบคำถาม 10. เอกสารอ้างอิง /เอกสารค้นคว้าเพ่มิ เติม http://powerpiont2010.blogspot.com/p/blog-page.html https://km.phuket.psu.ac.th/archives/1241 https://www.shutterstock.com/th/blog/complete-guide-color-in-design/
๒๘
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: