Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงาน 10 หน้า

รายงาน 10 หน้า

Published by ประไพภรณ์ เมฆขลา, 2021-06-27 03:27:50

Description: รายงาน 10 หน้า

Search

Read the Text Version

แบบเสนอเพ่ือพจิ ารณาคัดเลือกครูดีเดน่ ประจำปงี บประมาณ ๒๕๖๔ ระดับเครือขา่ ยโรงเรยี นท่ี ๒๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย นางสาวจิตราภรณ์ ดว้ งจุมพล ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ โรงเรยี นบ้านบางกะปิ สำนกั งานเขตบางกะปิ กรงุ เทพมหานคร

๒ รายงานการประเมนิ ครูภาษาไทยผจู้ ดั การเรยี นการสอนดเี ดน่ ------------------------------------------ ตอนท่ี 1 คุณสมบัตทิ ัว่ ไป ชือ่ – สกลุ นางสาวจติ ราภรณ์ ดว้ งจุมพล กลมุ่ เขตที่ ๒๓ ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะครชู ำนาญการ อายุ ๔๙ ปี วุฒกิ ารศึกษา ระดับปรญิ ญาตรี ครุศาสตรบัณฑติ (ค.บ.) สาขา ภาษาไทย ระดับปริญญาโท ครุศาสตรมหาบณั ฑิต (ค.ม.) สาขา การสอนภาษาไทย ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชำนาญการ ตำแหนง่ เลขท่ี ขบป.บป. ๑๘๗ (ป) สถานศกึ ษา โรงเรียนบา้ นบางกะปิ สังกดั สำนกั งานเขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร การรับราชการ  เร่มิ รบั ราชการในตำแหน่ง ครู รับเงินเดือนอันดับ คศ.1 เมือ่ วนั ท่ี ๒๒ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ รับราชการในตำแหนง่ และสถานศึกษา เมื่อวนั ที่ ๒๒ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๙  ได้รับการแตง่ ตั้งใหด้ ำรงตำแหนง่ ปัจจบุ นั เมอ่ื วนั ท่ี ๑ เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ ไดร้ ับแตง่ ตงั้ เปน็ วิทยฐานะปจั จบุ นั เมือ่ วนั ท่ี ๑ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖  การปฏิบัตหิ นา้ ท่หี ลักเกีย่ วกบั การจัดการเรยี นการสอน ปีการศกึ ษา ๒๕๖๐ สอนกล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ สอนกลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ สอนกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ สอนกลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ระดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๖  ไม่เคยมีเรื่องการดำเนนิ การทางวนิ ัย ตอนท่ี ๒ คณุ สมบตั ิเฉพาะ ๒.๑ การออกแบบการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน (ทกั ษะเพือ่ ความสำเรจ็ ของคร)ู ๒.๑.๑ การนำนโยบายสกู่ ารจัดการเรยี นรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และจัดการเรียนการสอน สาระการเรียนรูท้ อ้ งถิ่นตามกรอบท่ีกรุงเทพมหานครกำหนด มหี ลกั ในการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนดังนี้ ข้าพเจ้าทำการวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ จุดมุ่งหมายของหลักสูตรในการพัฒนาผู้เรียน ซึ่งเมื่อผู้เรียนจบการศึกษาขั้นพื้นฐานต้องมีคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ มีความรู้ มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรร มและ ภูมิปัญญาไทย ศึกษามาตรฐานการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ตัวชี้วัดซึ่งเปา้ หมายสำคัญต่อการพฒั นาผู้เรียนและ เป็นตัวชี้บอกว่าผู้เรียนควรรู้อะไร ศึกษาสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนเพื่อให้ผู้เรียนมีความสามารถในการ สื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้ทักษะชีวิต และการใช้เทคโนโลยี ศึกษาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่มุ่ง ให้ผู้เรียนสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ศึกษาการจัดการเรียนรู้ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการนำผู้เรียน ไปสู่บุคคลที่มีคุณภาพ และมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัดทีก่ ำหนด ซึ่งการจัดการเรียนรู้ย่อมต้องมีแผนการสอน เปน็ เคร่ืองมือสำคญั ในการจัดทำแผนการเรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ถ้าจะให้ผู้เรียน ได้เรียนรู้อย่างเข้าใจแล้ว ครูต้องจัด กิจกรรมให้ผู้เรียนได้รับความรู้โดยการให้ผู้เรียนศึกษาหาความรู้จากกิจกรรมที่ครูจัดให้ ไม่ใช่บอกความรู้ หรือ

๓ ครูบอกความเขา้ ใจของครูให้กับผู้เรยี น จากนั้นครูจัดกจิ กรรมให้ผู้เรยี นสรุปความรูท้ ่ีไดร้ บั เป็นองค์ความรูอ้ ย่าง เข้าใจเป็นภาษาของตนเอง เพื่อให้เป็นองค์ความรู้ที่ฝังอยู่ในตัวของผู้เรียน และสุดท้ายต้องจัดกิจกรรมให้ ผู้เรียนได้นำองค์ความรู้ไปใช้ในสถานการณ์ใหม่ ที่เป็นสถานการณ์ที่เป็นสภาพจริง สอดคล้องกับการดำรงชีวติ เป็นแกนนำความรู้ ความเข้าใจ ที่ได้รับไปใช้ในชีวิตประจำวัน การจัดการเรียนรู้เรื่องหนึ่งๆ ที่เป็นการจัดการ เรียนรู้ที่มีความหมายสำหรับผู้เรียนและเป็นการจัดการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนเรียนรู้เร่ืองที่เรียนอย่างเข้าใจ ได้องค์ ความร้หู รอื เกดิ ความเข้าใจทีฝ่ งั อยู่ในตวั ของผู้เรยี น ท่เี รียกว่า “ความเข้าใจทคี่ งทน” ข้าพเจ้าจัดการเรียนรู้แบบอิงมาตรฐานโดยมีการออกแบบการจัดการเรียนรู้อิงมาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด เป็นเป้าหมายของการจัดการเรียนรู้ นำไปจัดทำหนว่ ยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน เป็นหน่วยการเรียนรู้ทีม่ ี มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด เป็นเป้าหมายการเรียนรู้ของหน่วยนั้นๆในการออกแบบการจัดการเรียนรู้อิง มาตรฐาน ซง่ึ มขี น้ั ตอนการดำเนินการดังนี้ ๑. จัดทำโครงสร้างรายวชิ า (วเิ คราะหต์ ัวชว้ี ัดในคำอธบิ ายรายวิชา จัดกลุ่มตัวชีว้ ัด จดั ทำเปน็ หนว่ ยการเรยี นรู้ ตงั้ ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ กำหนดสาระสำคัญ กำหนดเวลาที่ใชส้ อน) ๒. กำหนดเปา้ หมายการจดั การเรียนรู้ ๓. กำหนดหลกั ฐานที่เปน็ ผลการเรยี นรู้ตามเป้าหมายท่ีได้กำหนดไวโ้ ดยออกแบบการ ประเมินผลการเรยี นรู้ และกำหนดช้ินงาน/ภาระงาน ๔. ออกแบบการจดั การเรียนรู้ให้ผ้เู รียนมคี วามรูค้ วามสามารถตามทีเ่ ป้าหมายมาตรฐาน การเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ัดกำหนด (ภาคผนวกท่ี ๑ หลกั สตู รสถานศกึ ษา) ๒.๑.๒ การจัดทำแผนการเรียนรู้ ข้าพเจ้าจะจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยให้ ผ้เู รยี นมบี ทบาทสำคัญในการเปน็ ผู้เรียนรู้ จัดกิจกรรมใหผ้ ู้เรียนไดส้ ร้างความรู้ ไดม้ ีปฏิสัมพันธก์ ับบุคคลอน่ื ส่ือ และสิ่งแวดล้อมต่างๆเป็นเครือ่ งมือในการเรียนรู้ และผู้เรียนมีโอกาสนำความรูไ้ ปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์อืน่ โดยครูผู้สอนจะมีบทบาทดังนี้ บทบาทในฐานะผู้จัดการ ซึ่งกำหนดเป้าหมายในการจัดการว่า “ให้ผู้เรียนได้ พัฒนาเต็มตามศักยภาพของตนเอง” เนื้อหารสาระต้องสอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน ท้องถิ่น มี กิจกรรมเนอื้ หาสาระท่เี นน้ คุณธรรม โดยบรู ณาการระหวา่ งความรู้ ทักษะ และคุณธรรมจรยิ ธรรมเข้าด้วยกนั ครู ตอ้ งนำข้อมลู ของผู้เรียนมาวิเคราะห์ และจดั การอย่างเหมาะสมเพื่อวางแผนการจัดการเรยี นรู้ (จัดแหล่งเรียนรู้ จัดกิจกรรม กำหนดวัตถปุ ระสงค์ ประเมินพฤตกิ รรม กำหนดวธิ ีการสอน และประเมินผล) ๒.๑.๒.๑ การเตรยี มการจดั การเรียนรูด้ งั น้ี - วิเคราะห์ข้อมูลของผู้เรียน เพื่อจัดกลุ่มผู้เรียนตามความสามารถ และเพ่ือ กำหนดเรื่องหรอื เนอื้ หาสาระในการเรยี นรู้ - วิเคราะห์หลักสูตรเพื่อเชื่อมโยงกับผลการวิเคราะห์ข้อมูล โดยเฉพาะการ กำหนดเร่ืองหรือเนอ้ื หารสาระในการเรยี นรู้ ตลอดจนวตั ถุประสงค์สำคญั ท่จี ะนำไปสกู่ ารพฒั นาผเู้ รียน - เตรยี มแหลง่ เรยี นรู้ เอกสาร สอื่ ประกอบการเรียนรู้ หอ้ งเรยี น - วางแผนการสอนต้องเขียนให้ครอบคลุมองค์ประกอบดังนี้ (กำหนดเรื่อง กำหนดวัตถปุ ระสงค์ให้ชัดเจน กำหนดเนือ้ หา กำหนดกิจกรรมเนน้ ที่ผู้เรยี นได้คดิ และลงมอื ปฏิบตั ิ กำหนดวิธี การประเมนิ ทสี่ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์ กำหนดส่ือวัสดุอปุ กรณ์ และเครอื่ งมอื ในการประเมิน ๒.๑.๒.๒ การจดั การเรยี นรู้เนน้ ใหผ้ เู้ รียนมสี ่วนรว่ มในการดำเนินกจิ กรรมตา่ งๆ ดงั น้ี - วางแผนการเรียนรู้ - เรียนโดยการแลกเปลี่ยนความรู้ - เรียนโดยใช้กระบวนการกลุ่ม - เรียนจากแหล่ง เรยี นรู้ทห่ี ลากหลายท้ังในห้องเรียนและนอกห้องเรยี น

๔ ๒.๑.๒.๓ ผลการจัดการเรียนรขู้ องผ้เู รยี น สง่ิ ทผ่ี ู้เรียนจะไดร้ บั มดี งั นี้ - มผี ลงานการเรยี นรูท้ ี่หลากหลาย แม้เรยี นจากแผนการเรียนรเู้ ดียวกัน - มผี ลงานเชงิ สรา้ งสรรค์- สรุปความรู้ ได้ด้วยตนเอง - มีผลงานที่ภาคภูมิใจ - มีความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่ม – ตัดสินใจลงความเห็นเลือกปฏิบัติได้ อย่างเหมาะสม - มคี วามมน่ั ใจและกล้าแสดงออก ๒.๑.๒.๔ การประเมินผล ครจู ะตอ้ งคำนงึ ถึงส่ิงตอ่ ไปนี้ - สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์ ประเมินตามสภาพจรงิ - ผูเ้ รียนมสี ่วนรว่ มในการประเมิน - วธิ ีการและเคร่ืองมือ สอดคลอ้ งกัน - นำผลการประเมนิ ไปพัฒนาผู้เรยี นอยา่ งตอ่ เน่อื ง (ภาคผนวกที่ ๒ แผนการจัดการเรยี นรู้) ๒.๑.๓ การตรวจสอบแผนการจดั การเรียนรู้ การตรวจสอบแผนการจัดการเรียนรู้จะมีการตรวจสอบตามลำดับขั้นตอนดังนี้ เม่ือ ครูผู้สอนเขียนแผนเสร็จก็ส่งให้หัวหน้าวิชาการของสายชั้นตรวจสอบความถูกต้องเบื้องต้นและส่งต่อหัวหน้า สายชั้นตรวจสอบความถูกต้อง ให้รองผูอ้ ำนวยการทีร่ ับผิดชอบสายชัน้ ตรวจสอบแผนการสอนอีกครั้งโดย แต่ละครั้งจะมีการประเมินความเห็นลงไปถึงข้อดีและสิ่งที่ต้องปรับปรุงของแผนการสอน และส่งกลับมายัง ครูผู้สอนเพื่อดำเนนิ การแกไ้ ขปรับปรุงตามข้อเสนอแนะก่อนนำไปสอนในชั้นเรียนต่อไป โดยแผนการจัดการ เรยี นรู้ เปน็ เอกสารทจี่ ัดทำข้นึ เพอ่ื วางแผนการสอนในวชิ านั้นๆ จะตอ้ งมอี งคป์ ระกอบทค่ี วรมดี ังน้ี ๑. จุดประสงค์การเรียนร้/ู ตัวช้ีวัด ๒. เนื้อหา/สาระการเรียนรู้ ๓. กิจกรรมการเรียนการสอน/กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ๔. สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้ ๕. การวดั และประเมนิ ผล ๖. การบนั ทกึ ผลหลงั สอน คุณภาพของแผนการจดั การเรยี นรทู้ ต่ี อ้ งมีการตรวจสอบและประเมนิ กอ่ นนำไปใช้ ๑. เนอ้ื หา/สาระการเรยี นรู้ สอดคล้องกับจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๒. กจิ กรรมการเรยี นการสอนมคี วามหลากหลายเหมาะสมสอดคล้องกบั ความสามารถของ ผูเ้ รียน เน้นกระบวนการคิดการลงมือทำปฏิบัติจริง และสร้างองคค์ วามรู้ด้วยตนเอง กิจกรรมท่ีกำหนดจะต้อง นำไปสู่การบรรลตุ ามจุดประสงค์การเรียนรทู้ ก่ี ำหนด ๓. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้ สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์และกจิ กรรมการเรียนการสอนท่ี หลากหลาย เหมาะสมกบั วัยความสามารถของผู้เรยี น ๔. การวัดผล/ประเมินผล และเครอ่ื งมือ สอดคล้องกับจุดประสงคแ์ ละกิจกรรมการเรยี น การสอนกำหนดภาระงาน/ชิ้นงาน วิธีการและเกณฑก์ ารวัดผลประเมนิ ผล ท่ีชัดเจนครอบคลุมด้านความรู้ ทักษะและเจตคติ (ภาคผนวกท่ี ๓ การตรวจสอบแผนการจดั การเรยี นรู้) ๒.๒ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๒.๒.๑ ความรู้และทกั ษะในเรอ่ื งที่สอน ข้าพเจา้ เน้นการจดั การเรียนรู้ดว้ ยวิธีการท่ีหลากหลาย โดยขา้ พเจ้าศกึ ษาทฤษฎีความรู้ตา่ งๆ กับองค์ประกอบทางจิตวิทยาที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ ประกอบด้วย ๑.วุฒิภาวะของผู้เรียนซึ่งส่งผลให้จัด กิจกรรมได้เหมาะสมกับวัย ๒. ความพร้อม เป็นภาวะของบุคคลที่มีวุฒิภาวะทางกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา ประสบการณ์เดิม และความสนใจที่จะเรียนรู้สิ่งใดสิ่งหนึ่ง ความพร้อมในการเรียนรู้กิจกรรมแต่ละ

๕ อย่างมีต่างกัน ๓. การฝึกฝน เป็นการกระทำซ้ำๆในพฤติกรรมนั้นๆ เพื่อฝึกทักษะให้เกิดความชำนาญ ๔. การส่งเสริมแรง เป็นการเพิ่มหลังจากให้บุคคลทำพฤติกรรมนั้นๆซ้ำอีก เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเชื่อมโยง ระหว่างสิ่งเร้าและปฏิกิริยาตอบสนองมากขึ้น ๕.การถ่ายโยงการเรียนรู้ การเรียนรู้ครั้งก่อนๆส่งผลต่อการ เรยี นรู้ในปจั จบุ นั โดยคำนึงถงึ ๑. การสร้างบรรยากาศที่เออื้ ตอ่ การเรยี นรู้ ๒. กระตุน้ ใหผ้ ู้เรยี นรว่ มกจิ กรรมอยา่ งสนกุ สนาน ๓. จัดกิจกรรมให้ดำเนินไปตามแผนและต้องคอยสังเกต บันทึกพฤติกรรมที่ปรากฏ ของผูเ้ รียนแตล่ ะคน หรอื แต่ละกลุ่มเพอ่ื สามารถปรบั เปลย่ี นกจิ กรรมให้มคี วามเหมาะสม ๔. ใหก้ ารเสริมแรงหรือข้อมูลยอ้ นกลบั ใหข้ ้อสงั เกต ๕.การประเมินผลการเรียนเป็นการเก็บรวบรวมผลงานและประเมินผลงานของ ผูเ้ รียน ประเมินผลการเรียนรตู้ ามทีก่ ำหนดไว้ ๒.๒.๒ การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนข้าพเจ้าได้นำทฤษฎีการเรียนรู้และหลักการ แนวคิดทางเทคโนโลยีการศึกษามาใช้ร่วมกันอย่างผสมผสานเพ่ือก่อให้เกิดคุณภาพของการสอน เช่น การ รวบรวมการจัดเก็บข้อมูลของผู้เรียน การประมวลผลการเรียน การพิมพ์ การสร้างงาน การสื่อสารกับผู้เรยี น และผู้ปกครองรวมทัง้ เพ่ือนครู จงึ ทำใหก้ ารจัดการเรียนการสอนมีประสทิ ธภิ าพมากขึ้นผู้เรยี นสามารถค้นคว้า หาความรู้จากแหล่งความรู้ที่หลากหลายมากขึ้น โดยการนำเทคโนโลยีเครื่องมือสื่อสาร เครือข่าย คอมพิวเตอร์มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน จัดการบูรณาการ ประเมินผล และสร้างข้อมูล เช่น การใช้ แผนภาพ บทเรียนสำเร็จรูป จัดทำผลการเรียนการสอน งานด้านเอกสาร ตารางสอน การเก็บรวบรวม คะแนน การวดั ประเมนิ ผลการเรยี น (ภาคผนวกที่ ๔ ตวั อยา่ งการใช้ส่อื เทคโนโลยสี ารสนเทศ) ดังน้ี ๑. การสอนโดยใชส้ ่ือ power point ชว่ ยสอนใหน้ ักเรียนเกิดการเรียนรู้ ๒. สอนโดยให้ผู้เรยี นรจู้ ักการสืบค้นขอ้ มูลใหมๆ่ จากอนิ เทอร์เนต็ ๓. จดั ระบบขอ้ มลู สารสนเทศในการจัดระบบเผยแพร่ความรใู้ ห้ถงึ ผูป้ กครองทาง ไลน์ในกล่มุ ห้องเรยี นเพื่อให้ผ้ปู กครองสามารถนำความร้ไู ปใชส้ อนนักเรยี นเพิ่มเติมจากทค่ี รูสอน ๔. การเตรียมการกอ่ นการสอนโดยสืบค้นข้อมลู ตา่ งๆนำมาใชป้ ระกอบในการจดั กจิ กรรมการสอนเช่นแนวทางการจดั กิจกรรมอย่างไรใหน้ ักเรียนเรียนอยา่ งมคี วามสขุ จดั ระบบข้อมูล สารสนเทศเพอื่ การบริหารจดั การเรยี นรู้ ๕. ใชค้ อมพวิ เตอรใ์ นการสร้างสอ่ื และนวัตกรรมการศกึ ษา ๖. จดั ระบบขอ้ มูลสารสนเทศแหล่งเรียนรภู้ ายในโรงเรยี นและในชมุ ชน ๒.๒.๓ การสร้างสรรคอ์ งค์ความรู้ การสรา้ งสรรคอ์ งค์ความรขู้ ้าพเจา้ ได้ตระหนกั และแบง่ ออกเปน็ ๒ แบบดว้ ยกันดังน้ี ๑. องคค์ วามรขู้ องครูผูส้ อน ๒. องคค์ วามรูข้ องผู้เรยี นเมอื่ ผา่ นการจัดการเรียนรู้ ๑. องค์ความรขู้ องครูผสู้ อน คือ การศึกษาหาความรทู้ งั้ ทฤษฎกี ารสอน วธิ สี อน จิตวิทยาการ สอน การสร้างส่ือต่างๆ รวมท้งั ประสบการณ์ด้านการสอนในสาระวิชาน้ันๆนำมาหลอมรวมกนั

๖ ประสบการณใ์ หม่/ความร้ใู หม่ + ประสบการณเ์ ดิม/ความร้เู ดิม = องค์ความรใู้ หม่ เพื่อสร้างเป็นแนวการจัดการเรียนการสอนที่สามารถพัฒนา และแก้ปัญหาให้กับผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผล เช่น การจัดการเรียนการสอนหลักภาษาไทยการอ่านการเขียนคำใหถ้ ูกต้องจะมีขั้นตอนการ สอนดงั น้ี ๕.ฝกึ การพูด ๑.ฝึกการอ่าน ๒. ฝกึ การเขยี น (บอกอธบิ ายลักษณะของคำ) (อา่ นคำ) (เขยี นคำ/ประโยค) กระบวนการสอนหลกั ภาษาไทย เพอื่ พัฒนาการอ่านการเขียน ๔. ฝึกทกั ษะการดู ๓. ฝึกฟงั คำ (เปรียบเทยี บความต่างของคำ) (เขียนตามคำบอก) จากการเรียนการสอนในปัจจบุ ันเมื่อมีเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วม ข้าพเจ้าจึงสรา้ งนวตั กรรมแบบฝึก พัฒนาการอ่านการเขยี นคำข้ึน เปน็ การสแกนคิวอารโ์ คด้ เพอ่ื ฝกึ อา่ นดว้ ยเทคนคิ ๔ ขั้นตอน คอื อา่ นตามครู อ่านพร้อมกนั อา่ นเอง เขยี นตามคำบอก ซ่งึ เปน็ นวัตกรรมทีใ่ ช้การสอนท่มี ุ่งหวงั การอา่ นใหส้ ัมฤทธผิ์ ลทีส่ งู ขึน้ แผนภมู ิแสดงกระบวนการจดั การเรียนการสอนเพือ่ พัฒนาการอ่านการเขยี น การจัดการเรียนการสอนอ่านคิดวิเคราะห์เรอ่ื งโดยใช้เทคนิค การสอนตอบคำถาม ๕ W ๑ H ดังนี้ ๑. What (อะไร) กระบวนการสอนอ่านคิด ๔. Why (ทำไม) วเิ คราะห์ใชเ้ ทคนิค ๕ W ๑ H ๕. When(เมื่อไร) ๒. Who (ใคร) ๖. How (อย่างไร) ๓. Where (ที่ไหน) ๒. องค์ความรู้ของนักเรยี นเมื่อได้รบั การจดั การเรียนรู้ องค์ความรู้ของผู้เรียนคอื การเรยี นแล้วเกิดความคิดรวบยอดโดยผา่ นกระบวนการเรียนรู้ การเกดิ ความรู้ทค่ี งทน โดยการจัดกระบวนการสอนจะเน้นการสอนที่เร่มิ จากเร่ืองง่ายไปหาเรื่องท่ียากขนึ้ และ พิจารณาถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล มุ่งให้ผู้เรียนเกิดความรู้และทักษะในสิ่งที่ครูจัดการเรียนการสอนผ่าน การเรียนรโู้ ดยการเรยี นปนเล่น ฝึกทกั ษะซ้ำๆ ผู้เรียนทำกิจกรรมโดยการฝึก เน้นทักษะการอ่านออกการเขียนได้ และฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์จากเรื่องที่อ่านได้ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ (ภาคผนวกท่ี ๕ ตวั อย่างผลงานนักเรยี น)

๗ ๒.๒.๔ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขา้ พเจา้ ใช้กระบวนการสอนท่เี น้นผู้เรยี นเปน็ สำคญั และปรากฏผลตรงตวั บ่งช้ีการเรียนดงั น้ี ๑. การจดั เน้ือหารสาระและกจิ กรรมใหส้ อดคล้องกับความสนใจและความถนดั ของผเู้ รยี นซ่ึง ต้องคำนงึ ถงึ ความแตกตา่ งระหว่างบคุ คล เชน่ การเลือกหนังสอื นิทานในการอา่ น เกมในการสอน การจดั กลุม่ การ เรียนอย่างอิสระทำใหผ้ ู้เรยี นเรยี นรอู้ ย่างมีความสขุ ๒. ฝกึ ทกั ษะกระบวนการคิด ข้าพเจ้าจัดกจิ กรรมการเรยี นรโู้ ดยใชส้ ื่อเพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นมีบทบาท มากกวา่ ครู เช่น ดอกไมม้ าตราตวั สะกด ป้งิ ยา่ งสรา้ งประโยค สอ่ื การสอนนทิ านสร้างสรรค์ การสอนคดิ วิเคราะห์ โดยใช้ ๕ W๑ H เกมคลำไขค่ ำควบ เปน็ ต้น ส่งผลให้นักเรยี น รู้จักการจัดการ ฝกึ การเปน็ ผู้นำผตู้ ามที่ดี การทำงาน รว่ มกบั ผู้อ่ืน และความสามารถในการแก้ปญั หา ๓. จัดกจิ กรรมใหผ้ ู้เรียนไดเ้ รยี นรจู้ ากประสบการณ์จรงิ ฝึกการปฏิบตั ิใหท้ ำได้ คิดเปน็ ทำเปน็ รกั การอ่านและเกดิ การใฝร่ ู้อย่างตอ่ เนื่อง กลา้ พดู กลา้ แสดงความคดิ เหน็ บอกได้วา่ มีเหตุการณ์อะไรเกิดขน้ึ กบั ใคร ท่ไี หน อย่างไร ผู้เรียนนำขอ้ คดิ ใดไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ทงั้ ในโรงเรียน และทบ่ี ้าน ๔. จดั กิจกรรมการเรียนรโู้ ดยผสมผสานสาระความรตู้ ่างๆ อย่างได้สดั สว่ นสมดุลกันรวมทัง้ ปลกู ฝงั คณุ ธรรม คา่ นยิ มท่ีดงี าม และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ไว้ในทุกวิชา ขา้ พเจา้ จดั กิจกรรมการเรยี นร้โู ดย ผสมผสานสาระความรู้ ทงั้ การอา่ นการเขียน การฟงั การดแู ละการพดู หลกั การใชภ้ าษา วรรณคดีและวรรณกรรม เช่น การแสดงบทบาทสมมตุ จิ ะได้ทกั ษะท่หี ลากหลาย (ภาคผนวกที่ ๖ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้แบบต่าง ๆ) ๒.๒.๕ การจดั บรรยากาศในการเรยี นรู้ ข้าพเจ้าจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อการเรียนและอำนวยความสะดวก เพื่อให้ผู้เรียนเกิด การเรียนรู้และมีความรอบรู้ จัดบรรยากาศภายในห้องเรียนและนอกห้องเรียนให้มีบรรยากาศน่าเรียนรู้ มีมุม ต่างๆเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนเช่น มุมรักการอ่านในและนอกห้องเรียน มุมแสดงผลงาน เพื่อให้ผู้เรียน เกดิ ความภมู ใิ จและมพี ฒั นาการมากขน้ึ (ภาคผนวกท่ี ๗ บรรยากาศในการเรยี นร)ู้ ๒.๓ การบนั ทึกหลงั การจดั การเรยี นการสอน หลังการจัดการเรียนรู้เสร็จในแต่ละครั้งข้าพเจ้าต้องทำบันทึกผลหลังสอน โดยการเขียน บันทึกผลหลังสอน เพื่อเป็นการสรุปผลจากการจัดกิจกรรม การเรียนการสอน เพื่อระบุความสำเร็จ ปัญหา อุปสรรค และขอ้ ค้นพบทีเ่ กดิ ขึน้ หลังการเรยี นการสอน โดยจะเขยี นผลเปน็ ๓ สว่ น ดังน้ี ๑. ผลการสอน เขยี นบอกรายละเอียดของผลการสอนที่เกิดขึ้นให้สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์ท่ี กำหนดไว้ โดยบอกจำนวนผเู้ รยี นท่ีมพี ฤติกรรมความรู้ ทักษะ กระบวนการบอกในเชงิ ปรมิ าณและคณุ ภาพ ตามเกณฑท์ ีก่ ำหนด ๒. ปัญหาอปุ สรรค เขียนบอกรายละเอียดของปัญหาอปุ สรรคที่พบระหว่างการเรียนการสอน หรือปัญหาทีท่ ำใหก้ ารเรียนการสอนไม่ประสบผลสำเร็จและข้อค้นพบตา่ งๆท่ีเกิดขน้ึ ระหวา่ งการเรียนการสอน ๓. แนวทางแก้ไข จะเขยี นบอกรายละเอยี ดของแนวทางแกไ้ ขทนี่ ำมาใชเ้ มอ่ื มีปญั หาและบอกถึง วิธกี ารเครอ่ื งมอื ทเี่ ลือกใช้ในการแก้ปญั หา อาจนำไปสกู่ ารวจิ ยั เพอ่ื แก้ปญั หาและพัฒนาตอ่ ไป (ภาคผนวกท่ี ๘ การบันทึกหลงั แผนการสอน)

๘ ๒.๔ ผลงานท่ีเกิดจากการจดั การเรยี นรู้ ๒.๔.๑ ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น ขา้ พเจ้าขอรายงานผลท่เี กดิ กับผู้เรียนด้านผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนของผูเ้ รียนชั้นประถมศึกษา ปที ่ี ๖ จำนวน ๔ หอ้ งทีข่ า้ พเจ้าสอนไดแ้ ก่ ๖/๑ , ๖/๒ , ๖/๑๐ และ ๖/๑๑ ดงั น้ี ผลการประเมนิ ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒–๒๕๖๓ ปี จำนวน ระดบั ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน จำนวนทไี่ ด้ ร้อยละท่ีได้ การศึกษา นกั เรียน กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ระดบั ๓ ระดับ ๓ ทั้งหมด ๔ ๓.๕ ๓ ๒.๕ ๒ ๑.๕ ๑ ๐ ขึน้ ไป ขน้ึ ไป ๒๕๖๒ ๑๕๒ ๑๐๔ ๑๕ ๑๒ ๗ ๗ ๓ ๔ - ๑๓๑ ๘๖.๑๘ ๒๕๖๓ ๑๕๑ ๑๐๓ ๑๒ ๑๔ ๗ ๘ ๕ ๒ - ๑๒๙ ๘๕.๔๓ รวม ๘๕.๘๐ สรุปได้ว่า ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย อยู่ในระดับดีขึ้นไป (เกรด ๓ – ๔) ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ – ๒๕๖๓ คิดเป็นรอ้ ยละ ๘๕.๘๐ ซ่งึ ผา่ นเกณฑต์ ามท่ีสถานศึกษากำหนด ๒.๔.๒ ผลงานท่นี ักเรยี นได้รบั รางวลั (ภาคผนวกที่ ๙ ผลงานทน่ี ักเรียนไดร้ บั รางวลั ) ได้รับรางวลั ระดับประเทศ ๑. ได้รับรางวัลชมเชย กิจกรรมประกวดคัดไทย งานส่งเสริมการเผยแพร่ธรรมะผ่านการคัดไทย ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ - ๖ เด็กหญิงณัฏฐธดิ า ชชู าติ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ ๒. ไดร้ ับรางวัลชมเชยในการสอบแข่งขนั เพชรยอดมงกฎุ ภาษาไทย ระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔ -๖ เดก็ หญงิ ฤทัยกานต์ จันทร์สุข ปกี ารศึกษา ๒๕๖๑ ไดร้ ับรางวัล ระดับกรุงเทพมหานคร ๑. ไดร้ ับรางวัลรองชนะเลิศอนั ดับ ๑ การแขง่ ขนั ตอบคำถามสารานกุ รมไทย สำหรบั เยาวชนฯ ครั้ง ที่ ๒๓ ระดบั จงั หวัด พ้นื ทก่ี รุงเทพมหานคร ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๐ ด.ญ. กฤตมขุ คูณทอง ด.ญ.นภัสสร คำใจ ด.ญ.กิรตี สขุ พัฒน์ ๒. ไดร้ ับรางวัลรองชนะเลศิ อนั ดับ ๓ การแข่งขนั ตอบคำถามสารานกุ รมไทย สำหรับเยาวชนฯ ครั้ง ท่ี ๒๔ ระดับจังหวดั พน้ื ทก่ี รุงเทพมหานคร ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๑ ด.ช.ธนกฤต แซ่ฮ่อ ด.ช.การนั ยภาส ประทมุ รุ่ง ด.ช.ฤทธศ์ิ กั ดิ์ มาตะรักษ์ ๓. ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๓ การแข่งขันตอบคำถามสารานุกรมไทย สำหรับเยาวชนฯ คร้ัง ท่ี ๒๕ ระดับจงั หวัด พน้ื ทก่ี รงุ เทพมหานคร ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ ด.ช.ถาปัตย์ แสงจนั ทร์ ด.ช.ศุภเวช อรุณจรัส ด.ช.พณวัฒน์ ดำรงคช์ พี ๔. ไดร้ ับรางวลั เหรียญทองแดงกจิ กรรมคัดลายมือส่ือภาษา ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ งาน ศลิ ปหตั ถกรรมนักเรียน คร้งั ที่ ๖๙ ระดับ สปพ.กทม. ประจำปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ ๕. ได้รับรางวัลชมเชยแข่งขันคัดลายมือ(ป.๔-ป.๖)ประเภทเดี่ยว งานนิทรรศการวิชาการปาริชาต นทิ รรศน์ ๔๑ปี มธั ยมวดั บึงทองหลาง ปีการศึกษา ๒๕๖๒ ด.ญ. ทพิ วลั ย์ บุญพา

๙ ๒.๔.๒ ผลงานครู (ภาคผนวกท่ี ๑๒ เกียรตบิ ตั ร) ๑. ได้รับเกียรติบัตรครูผู้ส่งเสริม สนับสนุนนักเรียนประกวดแข่งขันการตอบคำถามสารานุกรมสำหรับ เยาวชน ปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ ๒. ได้รับเกียรติบัตรครูผู้ฝึกสอนนักเรียน ได้รับรางวัลชมเชยอันดับ๑ ระดับประถมปลาย กิจกรรมการ ประกวดคดั ไทย งานสง่ เสริมการเผยแผ่ธรรมะผ่านการคัดไทย ๓. ไดร้ ับเกยี รติบตั ร ไดเ้ ข้าร่วมการแขง่ ขนั ภาษาไทยเพชรยอดมงกฎุ ภาษาไทย ๔. ได้รบั เกยี รตบิ ตั ร ครผู ู้ฝกึ สอนการแขง่ ขันคัดลายมอื (ป.๔-ป.๖)ประเภทเดย่ี ว งานนิทรรศการวิชาการ ปาริชาตนทิ รรศน์ ๔๑ปี มธั ยมวดั บงึ ทองหลาง ๕. ไดร้ บั เกียรติบตั ร ไดเ้ ขา้ รว่ มแขง่ ขนั ตอบคำถามสารานุกรมไทยสำหรบั เยาวชนฯ ๖. ได้รับเกียรติบัตร ครูผู้ส่งเสริมและสนับสนุนนักเรียนในการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ัน พื้นฐาน(O-NET) ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖ ๒.๕ การเป็นแบบอยา่ ง ๒.๕.๑ การเอาใจใส่ และช่วยเหลือผู้อื่น ข้าพเจ้านั้นได้ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างทีด่ ี ซึ่งสอดคล้องกบั จรรยาบรรณแห่งวชิ าชีพ มคี วามรักและเมตตาศิษย์ โดยเอาใจใสช่ ่วยเหลือ ส่งเสรมิ ใหก้ ำลงั ใจในการศึกษาเล่า เรียนแก่ศิษย์โดยเสมอหน้า อบรม สั่งสอน ฝึกฝน สร้างเสริมความรู้ ทักษะและนิสัยที่ถูกต้องดีงามให้เกิดแก่ ศิษย์อย่างเต็มความสามารถด้วยความบริสุทธิ์ใจ ประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ ทั้งทางกาย วาจา และจิตใจ ไม่กระทำตนเป็นปรปกั ษ์ตอ่ ความเจริญทางสติปญั ญา อารมณ์ และสงั คมของศษิ ย์ ไม่แสวงหา ประโยชน์อันเป็นอามิสสินจ้างจากศิษย์ในการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และไม่ใช้ให้ศิษย์กระทำการใดๆ อันเป็น การหาประโยชน์ให้แก่ตนโดยมิชอบ ทำให้นักเรียนแม้จะเลื่อนชั้นขึ้นไปในระดับที่สูงขึ้นก็ยังระลึกและนึกถึง นำดอกไม้มามอบให้ในวันครู แวะเวียนมาเยี่ยมสม่ำเสมอ ถึงแม้นักเรียนที่สอนเลื่อนชั้นไปเรียนในระดับสูงข้ึน ไปนกั เรียนยงั ระลกึ นึกถงึ ส่ิงทค่ี รสู อน ซงึ่ กเ็ กดิ จากการสอนศษิ ย์ ที่เกิดจากความรกั และเมตตาศิษย์ ความเอาใจ ใสช่ ว่ ยเหลือ สง่ เสรมิ ให้กำลงั ใจ เหมือนแมค่ นท่ีสองของเขา (ภาคผนวกที่ ๑๑ แสดงความรกั เคารพตอ่ กัน) ๒.๕.๒ ความรับผิดชอบ ข้าพเจ้ามีความรักและศรัทธาในวิชาชีพครู และเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กร วิชาชีพครู โดยปฏิบัติตนเป็นผู้มีความรับผิดชอบในวิชาชีพ ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอย่าง เคร่งครัด ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนเองให้สำเร็จลุล่วงอย่างดีที่สุด ความเข้าใจในงานหน้าที่ ทั้งที่เป็นงาน ประจำและงานที่ได้รับมอบหมายตามนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัด มีความสามารถวางแผนการทำงานได้ อย่างมีขั้นตอน และทำงานเป็นระบบตามแผนจนประสบผลสำเร็จและมีประสิทธิภาพ มีความละเอียดรอบ ครอบ และป้องกันความบกพร่องเสื่อมเสียในการปฏิบัติงานที่ตนรับผิดชอบ แสวงหาความรู้ และพยายามใน การปฏิบัติหน้าที่ และติดตามผลงานของตนอยู่เสมอ ยอมรับผลของการปฏิบัติงานและสามารถปรับปรุง แก้ไข และพัฒนางานให้ดีขึ้นในทุก ๆ เรื่อง มีความรับผิดชอบต่องานในหน้าที่ ไม่เคยละเลย ทอดทิ้ง หรือ หลีกเลี่ยงต่อหน้าที่การงานที่ตนรับผิดชอบของตนเองไปให้ผู้อื่น ส่งผลให้สถานศึกษาได้รับการยอมรับจาก คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพน้ื ฐาน คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง ซึ่งเป็นตวั แทนผู้ปกครอง ซึ่งประธาน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง กล่าวในวันประชุม ที่สอดคล้อง กันตอนหนึ่งว่า “โรงเรียนบ้านบางกะปิได้รับการยอมรับว่าเป็นโรงเรียนกรุงเทพมหานครที่มีคุณภาพ ทั้งนี้ เพราะผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ ครูที่มีความรักและศรัทธาในวิชาชีพครู มีความรักในงานที่ทำ” (ภาคผนวกที่ ๑๒ ความรบั ผิดชอบในหน้าที่)

๑๐ ๒.๕.๓ การประพฤติตนเป็นแบบอย่าง ข้าพเจ้า ได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียน กฎของ กรุงเทพมหานคร แต่งกายสุภาพเหมาะสมกับกาลเทศะ ใช้วาจาสุภาพ มีความประพฤติเรียบร้อย มีความ เมตตากรุณา ยอมรับฟังและยอมรับความสามารถของผู้อื่น เต็มใจให้ความช่วยเหลือให้คำปรึกษา และให้ กำลังใจผู้อื่นอย่างเหมาะสม โดยช่วยเหลือเกื้อกูลครูและชุมชนในทางสร้างสรรค์ การช่วยเหลือเกื้อกูลครู ได้ ให้คำแนะนำในด้านวิชาการ มีความเห็นอกเห็นใจผู้ร่วมงาน นักเรียน ผู้ปกครองและชมุ ชน รับฟังความทุกข์ ของผอู้ นื่ และให้ความ ชว่ ยเหลอื บรรเทาทกุ ขอ์ ย่างเตม็ ความสามารถ จะช่วยเหลือผ้อู นื่ ทกุ เมอื่ และจะไม่ทำ ให้ผู้อื่นผิดหวัง ให้โอกาสนักเรียนและเพื่อนร่วมงานในการปรับปรุงแก้ไขด้วยตนเอง ให้ความช่วยเหลือเพื่อน ร่วมงานแบบกัลยาณมิตร มีการเคารพกันในแบบพี่น้อง รุ่นพี่รุ่นน้อง ให้เกียรติซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ผู้ ขอรบั การประเมิน ชว่ ยเหลอื เก้อื กลู ชุมชนอย่างสร้างสรรค์ โดยจดั กจิ กรรมตลาดนัดนกั อ่าน นำนักเรียนแกนนำ การอ่านและคณะครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยโรงเรียนบ้านบางกะปิ จัดกิจกรรมเชิญชวนนักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนให้มีนิสัยรักการอ่าน บริเวณตลาดนัดสวนพฤกษชาติเคหะชุมชนคลองจั่น เป็น ต้น (ภาคผนวก ๑๓ กิจกรรมตลาดนดั นกั อา่ น ) ๓. ผลงาน (ภาคผนวก ๑๔ แบบฝึกเพอ่ื พฒั นาการอา่ น) การจัดทำผลงานของครู ไม่ว่าจะเป็นแผนการสอน การสร้างสื่อนวัตกรรม การทำเอกสารในการสอน ข้าพเจ้าจะศึกษา ค้นคว้าจากปัญหาที่พบ ซึ่งจากการพบปัญหาด้านการอ่านเขียนสะกดคำ ข้าพเจ้าจึงได้ศึกษา งานวจิ ัย และตำรา ในเรื่องการอ่านการเขียนสะกดคำ วิเคราะหผ์ ูเ้ รียน โดยผา่ นกระบวนการสอนดังนี้ ๑. ศึกษาหลักสตู ร เน้ือหา การอา่ นการเขียนสะกดคำ ๒. หลกั การ ทฤษฏี หลกั จติ วทิ ยา เอกสารงานวจิ ยั ที่เกย่ี วกบั การสร้างแบบฝกึ ทักษะ ๓. ศึกษาค้นคว้าจากแหล่งความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับการอ่าน การเขียน จากหนังสือ เว็บไซต์ต่างๆ กำหนด เนอ้ื ในแตล่ ะตอน ๔. วิเคราะห์สาระแกนกลาง ตัวช้ีวดั กำหนดจุดประสงค์การเรยี นรู้ จัดทำแบบฝกึ จากง่ายไปยาก ขา้ พเจ้าได้จัดทำแนวทางกจิ กรรมการอา่ นในแต่ละเลม่ เพ่ือพฒั นานกั เรียนโรงเรยี นบา้ นบางกะปทิ ี่ อ่านไม่คล่องตามระดับความสามารถ และปัญหาของนักเรียนแต่ละคน ตรวจสอบความถูกต้อง และให้ ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ นำมาปรับปรุง ทดลองกับนักเรียนที่อ่านไม่คล่อง และนำมาปรับปรุงแก้ไข และ ผสานเทคนคิ การสอน มาใชเ้ พอื่ แกป้ ัญหาและพฒั นาการอ่านใหส้ ูงขึ้น ข้าพเจ้าจึงไดส้ ร้างนวัตกรรม แบบฝึกเพือ่ พัฒนาการอ่านข้ึน โดยมีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพื่อแก้ปัญหา การอ่านไม่คล่องไม่ถูกต้องของนักเรียนโรงเรียนบ้านบางกะปิ ๒) เพื่อแก้ปัญหาการเขียนสะกดคำไม่ถูกต้อง ของนักเรียนโรงเรียนบ้านบางกะปิ ซึ่งสรุปผลได้ดังนี้ คือ แบบฝึกพัฒนาการอ่านมีประสิทธิภาพในการ แก้ปัญหาการอ่านของนักเรียนได้คิดเป็นร้อยละ ๙๘ ซึ่งจากผลงานชิ้นนี้ทำให้ข้าพเจ้ามีความภาคภูมิใจ และ จะนำประสบการณ์ต่าง ๆ มาพัฒนาผลงานชิ้นต่อๆ ไปให้มีประสิทธิภาพและแก้ปัญหาหรือพัฒนาผู้เรียนให้ดี ยิ่งขน้ึ ต่อไป ขอรับรองวา่ ขอ้ มูลทัง้ หมดถกู ต้องและเป็นความจรงิ (ลงชือ่ )....................................................... ผู้ขอรบั การประเมนิ (นางสาวจิตราภรณ์ ด้วงจุมพล) ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะครชู ำนาญการ วนั ที่ ๒๘ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๔

๑๑ ภาคผนวก

๑๒ ภาคผนวกท่ี ๑ หลกั สตู รสถานศึกษา ภาคผนวกท่ี ๒ แผนการจดั การเรียนรู้ ภาคผนวกที่ ๓ บนั ทกึ หลังแผน

๑๓ ภาคผนวกที่ ๔ ตวั อย่างสอ่ื เทคโนโลยี ภาคผนวกที่ ๕ ผลงานนักเรยี น ภาคผนวกท่ี ๖ กิจกรรมการเรียนรู้

๑๔ ภาคผนวกที่ ๗ บรรยากาศการเรียนรู้ ภาคผนวกท่ี ๘ บันทึกหลังสอน ภาคผนวกที่ ๙ ผลงานนักเรยี น ระดบั ประเทศ ภาคผนวกที่ ๙ ผลงานนกั เรยี น ระดับกรุงเทพมหานคร

๑๕ ภาคผนวกท่ี ๑๐ เกยี รติบตั รครู ภาคผนวกท่ี ๑๑ ศิษย์เก่ามาแสดงความ รักและเคารพ ภาคผนวกที่ ๑๒ ความรับผดิ ชอบในหนา้ ท่ี

๑๖ ภาคผนวกท่ี ๑๓ กิจกรรมตลาดนัดนักอา่ น ภาคผนวกที่ ๑๔ แบบฝึกเหอ่ื พฒั นาการอา่ น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook