1. การขนสง่ คอนกรตี จากท่ผี สมไปยงั สถานท่กี ่อสร้างจะต้องกระทาใหเ้ สร็จภายในระยะเวลาไมเ่ กนิ ก. 30 นาที ค. 90 นาที ข. 60 นาที ง. 100 นาที 2. มวลรวมหยาบ และมวลรวมละเอยี ดแยกกนั โดยใช้อะไรเปน็ เกณฑ์ ก. ตะแกรง #2 ค. ตะแกรง #4 ข. ตะแกรง #3 ง. ตะแกรง #5 3. หนว่ ยนาหนกั ของคอนกรตี เสริมเหล็กมีค่าเท่าใด ก. 2200 กก/ซม.2 ค. 3000 กก/ซม.2 ข. 2400 กก/ซม.2 ง. 3200 กก/ซม.2 4.สว่ นผสมของโครงสรา้ งควรมสี ัดสว่ นของปนู ซิเมนต์ ทราย หนิ เทา่ ใด ก. 1:3:5 ค. 1:2:4 ข. 1:2:3.5 ง. 1:3:4 5.ปนู ซเิ มนต์ 1 ถุง 50 ก.ก. มีปรมิ าตรเทา่ ใด ก. 0.028 ลบ.ม. ค. 0.019 ลบ.ม. ข. 0.038 ลบ.ม. ง. 1.057 ลบ.ม. 6. เสาตอม่อ หมายถึง ข้อใด ค. เสาทีอ่ ยู่ตรงกลาง ก. เสาเอก ง. เสาที่ใชเ้ ป็นฐานราก ข. เสาเขม็ 7.การผสมคอนกรตี 1/2/4 ใชป้ ูนซิเมนตก์ ีก่ โิ ลกรัม ก. 300 กก. ค. 350 กก. ข. 320 กก. ง. 360 กก. 8.การผสมคอนกรีต 1 : 3 : 5 ใชป้ ูนซีเมนตก์ กี่ ิโลกรัม ก. 240 กก. ข. 250 กก. ค. 260 กก. ง. 270 กก. 9.กรรมวธิ ีการบม่ คอนกรีตมีกี่วธิ ี ก. 2 วธิ ี ค. 4 วธิ ี ข. 3 วิธี ง. 5 วธิ ี
10.การบ่มคอนกรตี เสา คาน พนื ควรบ่มอย่างน้อยก่วี นั ก. 3 วัน ค. 7 วัน ข. 5 วนั ง. 14 วัน 11.เหล็กเส้นผสม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 มม. ยาวก่ีเมตร ก. 8 เมตร ค. 10 เมตร ข. 9 เมตร ง. 11 เมตร 12. การวดั ระดบั ขนาดของเข็มมักจะวัด ก. ตรงกลางเข็ม ข. วดั ท่ีปลายเขม็ ค. วดั ทีโ่ คนเขม็ ง. วัดทไ่ี หนกไ็ ด้ 13. ซเี มนต์ปอร์ตแลนดไ์ ดช้ ื่อมาจากข้อใด ก. ช่อื ผู้ผลิตคนแรก ข. ช่ือโรงงานผลติ ค. ชอื่ เกาะทม่ี หี ินสีเหมือนซเี มนต์ ง. ชื่อยีห้อของซีเมนต์ 14.ขอ้ ใดไม่ใชค้ ณุ สมบัติของคอนกรตี ท่ีดคี ือข้อใด ก. ย่ีห้อดงั ราคาแพง ข. เกบ็ ไว้ใช้ไดน้ าน ค. คณุ ภาพและอัตราส่วนนาตอ่ ปนู ซีเมนต์ ง. ความนิยม 15.ข้อใดไม่ใช้ปัจจัยทท่ี าให้คอนกรีตมีคุณภาพดี ก. การกาหนดอัตราสว่ นผสม ข. การลาเลียงคอนกรตี สดไปเทแบบ ค. การทาใหค้ อนกรีตอัดแนน่ ง. การท่ีงานคอนกรีตเสรจ็ ทันเวลา 16.ปนู ซีเมนตป์ อร์ตแลนเกดิ จากการเผาสว่ นผสมของอะไร ก. หนิ ปนู ผสมกับดินดาน ข. หนิ ปนู ผสมดนิ เหนยี ว ค. หินแกรนิตผสมกับปนู ขาว ง. ทรายผสมกับปูนขาว 17. “W/C Ratio” มคี วามหมายตรงกับขอ้ ใด ก. อัตราสว่ นหนิ ต่อทราย ข. อัตราส่วนนาต่อทราย ค. อัตราสว่ นนาต่อปูน ง. การผสมปูนซีเมนตท์ าคอนกรตี เสรมิ เหลก็ 19. ปูนซีเมนต์เขา้ มาในประเทศตรงกับรชั สมยั ใด
ก. รชั กาลที่ 1 ข. รชั กาลท่ี 4 ค. รชั กาลที่ 5 ง. รัชกาลที่ 6 20. โรงงานทผ่ี ลิตปนู ซเี มนตแ์ หง่ แรกของไทยคือข้อใด ก. บริษทั ปนู ซีเมนต์นครหลวง จากัด ค. บรษิ ทั ปนู ซีเมนต์ ที พี ไอ ข. บรษิ ัทปูนซีเมนต์ไทย จากัด ง. บริษัทปนู ซเี มนต์ตราเสือ จากดั 21.คอนกรีตประกอบด้วยส่วนประกอบก่ีส่วน ก. 1 ส่วน ข. 2 ส่วน ค. 3 ส่วน ง. 4 สว่ น 22.ข้อใดคือสว่ นประกอบของคอนกรีต ก. ปูนซเี มนต์ นา ข. วสั ดุประสาน วสั ดุผสม ค. ปูนซเี มนต์ นา วัสดุประสาน ง. ปูนซีเมนต์ นา วสั ดปุ ระสาน วัสดุผสม 23.คอนกรีตถูกคน้ พบในยุคใด ก. ยคุ หนิ ข. ยคุ โบราณ ค. ยุคดึกดาบรรพ์ ง. ยุคกลาง 24.คอนกรตี ถูกคน้ พบในบริเวณใด ก. แมน่ าไนล์ ข. แมน่ าอเมซอน ค. แมน่ าดานปู ง. แม่นาโขง 25.ซเี มนต์เพสตผ์ สมกบั ทรายเรยี กว่าอะไร ก. มอลตา้ ข. ซีเมนตเ์ พสต์ ค. คอนกรตี ง. ซีเมนต์ 26.คอนกรตี คอื ส่วนผสมของอะไร ก. ซเี มนตเ์ พสตผ์ สมกับนา ข. ซเี มนตเ์ พลต์ผสมกับทราย ค. มอลต้าผสมกับหินกราด ง. มอลต้าผสมกับทราย 27.ไฮเดรชัน่ เกดิ จากการทาปฏิกริ ยิ าในข้อใด ก. นากบั ปนู ซเี มนต์ ข. ปนู กบั หิน ค. นากบั คอนกรีต ง. ทรายกับนา 28.ขอ้ ใดไมใ่ ช้ปัจจัยที่ทาใหค้ อนกรีตมคี ุณภาพดี ก. การกาหนดอัตราสว่ นผสม ช. การลาเลียงคอนกรตี สดไปเทแบบ ค. การทาใหค้ อนกรตี อัดแนน่ ง. การทง่ี านคอนกรีตเสรจ็ ทันเวลา
29. แหล่งทีม่ าของทรายผสมคอนกรีตโดยสว่ นใหญค่ ือขอ้ ใด ก. ท้องทะเล-มหาสมุทร ค. ตามแมน่ า ข. บนบกหรือบ่อทราย ง. ทะเลทราย 30.ปนู ซเิ มนต์ 1 ถุง 50 ก.ก. มีปรมิ าตรเทา่ ใด ค. 0.019 ลบ.ม. ก. 0.028 ลบ.ม. ง. 1.057 ลบ.ม. ข. 0.038 ลบ.ม. 31.ปูนซิเมนต์ปอร์ตแลนต์มีก่ีประเภท ค. 4 ประเภท ก. 2 ประเภท ง. 5 ประเภท ข. 3 ประเภท 32.การต่อเหล็กเสรมิ มีกีว่ ิธี ค. 4 วธิ ี ก. 2 วธิ ี ง. 5 วิธี ข. 3 วิธี 33.เหล็กเสน้ ผสม ขนาดเสน้ ผ่าศนู ยก์ ลาง 5 มม. ยาวก่ีเมตร ก. 8 เมตร ค. 10 เมตร ข. 9 เมตร ง. 11 เมตร 34.เสาตอม่อ หมายถึง ข้อใด ค. เสาท่อี ยู่ตรงกลาง ก. เสาเอก ง. เสาท่ีใชเ้ ป็นฐานราก ข. เสาเข็ม 35.กรรมวิธกี ารผลิตปูนซเิ มนตม์ ีก่วี ิธี ค. 4 วธิ ี ก. 2 วธิ ี ง. 5 วธิ ี ข. 3 วิธี 36. ข้อใดคือความหมายของงานปูน ก. งานทตี่ อ้ งใชศ้ ิลปะ ทักษะและกระบวนการทางาน ข. งานช่างทใี่ ชฝ้ ีมอื และความคิดสรา้ งสรรค์ ค. งานที่ต้องอาศยั ทกั ษะ แรงกาย ความอดทน ความประณีต ง. งานที่ต้องอาศยั ความรู้ ความสามารถในการซ่อมแซมและบารุงรักษา 37. ขอ้ ใดคือลักษณะการปฏบิ ัติงานชา่ งปูน
ก. ตอ้ งใชจ้ ินตนาการมาแสดงออกในรปู แบบของเส้น สัญลกั ษณ์ ข. ตอ้ งทางานดว้ ยใจรกั มีความคิดสรา้ งสรรค์ ขยนั อดทน ค. มศี ิลปะในการสรา้ ง ปรับปรงุ ชนิ งานใหเ้ สรจ็ ภายในระยะเวลา ง. ตอ้ งทาด้วยความระมดั ระวัง ต้องมีทักษะ ต้องทางานโดยอาศัยหลกั วชิ าท่ีถกู ต้อง 38. งานปนู จาแนกลกั ษณะงานของช่างปูนออกได้กี่ลักษณะ ก. 2 ลักษณะ ค. 4 ลักษณะ ข. 3 ลกั ษณะ ง. 5 ลักษณะ 39. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ ลักษณะงานชา่ งปูนงานก่อ ก. กอ่ เขามอขึนอ่าง ค. บรู ณปฏิสังขรณ์ เคร่อื งหนิ เครื่องอฐิ ก่อท่ชี ารุด ข. กอ่ พระสถปู เจดยี ์ ง. พระพุทธรูป 40. ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถกู ต้องเกี่ยวกับงานชา่ งปนู ก. แสดงถึงความกา้ วหน้าของสถาปตั ยกรรมแขนงตา่ งๆ ข. ทรายละเอยี ด เหมาะสาหรับงานโครงสรา้ ง ฐานเสา คาน ค. หนิ เปน็ วัสดุทใ่ี ห้ความแข็งแรง ง. ทาปฏิกริ ิยากบั ปนู เกิดความร้อน ทาให้ผงปูนกลายเป็นวุ้น ยึดเกาะกันแน่น
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: