Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชาการผลิตปุ๋ยชวภาพเพื่อจำหน่าย ม.ปลาย 11

วิชาการผลิตปุ๋ยชวภาพเพื่อจำหน่าย ม.ปลาย 11

Published by nanny256, 2023-07-04 02:29:51

Description: วิชาการผลิตปุ๋ยชวภาพเพื่อจำหน่าย ม.ปลาย 11

Search

Read the Text Version

การผลติ ปุ๋ยชวี ภาพเพ่อื จำหนา่ ย - 1 -

หนงั สือเรยี น กศน.หลกั สูตรรายวชิ าเลอื ก สาระการประกอบอาชพี วชิ าการผลิตปุ๋ยชีวภาพเพอ่ื จำหนา่ ย รหสั อช๓๓๘๔๒ หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดับ มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอสงู เม่น สำนักงานการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจงั หวดั แพร่ สำนกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ การผลิตปุ๋ยชีวภาพเพ่ือจำหน่าย - 2 -

หนงั สือเรยี น กศน.หลักสตู รรายวชิ าเลอื ก สาระการประกอบอาชพี วชิ าการผลิตปุย๋ ชวี ภาพเพอ่ื จำหนา่ ย รหัส อช๓๓๘๔๒ หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอสงู เม่น สำนักงานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจงั หวดั แพร่ สำนักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ การผลิตปยุ๋ ชีวภาพเพื่อจำหน่าย - 3 -

คำนำ กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 เม่ือวันท่ี 18 กันยายน 2551 ซึ่งได้กำหนดสาระวิชาบังคับและวชิ าเลือก โดยสถานศึกษา มี ส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรในส่วนของวิชาเลือกที่มีเน้ือหาทันสมัย ทันเหตุการณ์ และสอดคล้องกับสภาพ ปญั หาของผเู้ รยี น ชมุ ชน และสังคม กศน.อำเภอสูงเม่น มีบทบาทหน้าท่ีในการพัฒนาหลักสูตร สื่อ และจัดกระบวนการเรียนการสอนท่ี ตอบสนองนโยบายข้างต้น จำได้กำหนดให้มีโครงการส่งเสริมคุณภาพการจัดการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาหลักสูตร และส่ือประกอบการเรียน รายวิชาเลือก สาระการประกอบอาชีพ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เร่ืองการผลิตปุ๋ยชีวภาพเพ่ือจำหน่าย สื่อเล่มน้ีใช้สำหรับศึกษาเรื่องราวต่างๆ ของการผลิตปุ๋ยชีวภาพเพื่อจำหน่าย อันจะเป็นประโยชน์ต่อ สถานศึกษา ครู กศน. ผู้เรียน และผู้เกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ การศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ต่อไป หลักสูตร และเอกสารดังกล่าว สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ได้ด้วยความร่วมมือของคณะทำงานทุก ทา่ นท่ีได้ให้ขอ้ คดิ เห็นอนั สำคญั และเป็นประโยชน์อยา่ งย่ิง กศน.อำเภอสงู เมน่ จงึ ขอขอบคุณไว้ ณ ทน่ี ้ี กศน.อำเภอสงู เม่น มีนาคม 2564 การผลิตปุ๋ยชวี ภาพเพอื่ จำหน่าย - 4 -

สารบญั หน้า คำนำ สารบัญ คำแนะนำการใชห้ นงั สือเรยี น โครงสรา้ งรายวชิ าการผลติ ปยุ๋ ชวี ภาพเพ่ือจำหนา่ ย แบบทดสอบกอ่ นเรียน บทที่ 1 ความรูพ้ ืน้ ฐานการผลติ ปุ๋ยชวี ภาพ เรือ่ งท่ี 1 ความหมาย ความเปน็ มา และประโยชนข์ องปุย๋ ชวี ภาพ เรื่องท่ี 2 ประเภทของปุย๋ ชีวภาพ บทที่ 2 ตลาดปุ๋ยชีวภาพ เรอ่ื งท่ี 1แนวโนม้ ความตอ้ งการของตลาดปยุ๋ ชวี ภาพ เรือ่ งที่ 2 การวเิ คราะหต์ ลาดปยุ๋ ชวี ภาพ บทที่ 3 ข้นั ตอนการผลิตปยุ๋ ชีวภาพ เรือ่ งที่ 1 การผลติ ปุ๋ยชวี ภาพสตู รบำรุงใบ เรื่องท่ี 2 การผลิตปยุ๋ ชีวภาพสตู รบำรุงลำตน้ เร่ืองท่ี 3 การผลติ ปุ๋ยชีวภาพสตู รบำรุงดอกแบบทดสอบหลงั เรยี น บทท่ี 4 ขน้ั ตอนการผลิตปยุ๋ อนิ ทรยี อ์ ดั เม็ด เรอ่ื งท่ี 1 การเตรยี มวสั ดแุ ละอุปกรณ์ เรื่องที่ 2 วธิ กี ารทำและวิธีการอดั เมด็ ปุย๋ บทที่ 5 การออกแบบบรรจุภณั ฑ์ปยุ๋ ชีวภาพ เร่อื งท่ี 1 มาตรฐานผลติ ภณั ฑ์ป๋ยุ ชวี ภาพและการบรรจภุ ณั ฑ์ เรอ่ื งท่ี 2 การออกแบบบรรจภุ ัณฑ์และการออกแบบตราสัญลกั ษณ์ (โลโก)้ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน - หลงั เรยี น แนวเฉลยกจิ กรรมทา้ ยบท บรรณานกุ รม ภาคผนวก (ถ้าม)ี คณะผูจ้ ัดทำ การผลติ ปุ๋ยชวี ภาพเพ่ือจำหนา่ ย - 5 -

คำแนะนำการใชห้ นงั สอื เรยี น หนังสือเล่มน้ีเป็นหนังสือท่ีใชป้ ระกอบการเรียน สาระการประกอบอาชีพ รายวิชาการผลิตปุ๋ยชีวภาพ เพื่อจำหน่าย จัดทำขึ้นเพ่ือใช้สำหรับผู้เรียนที่เป็นนักศึกษาการศึกษานอกระบบ ซึ่งใช้จัดการเรียนรู้ในระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย ในการศึกษาหนังสือประกอบการเรียน สาระการประกอบอาชีพ รายวิชาการผลิตปุ๋ย ชวี ภาพเพื่อจำหนา่ ย ผู้เรยี นควรปฏบิ ตั ิ ดงั นี้ 1. ศกึ ษาโครงสรา้ งรายวิชาให้เขา้ ใจหัวขอ้ สาระสำคญั ผลการเรยี นรูท้ ่คี าดหวงั และขอบข่ายเนอ้ื หา 2. ศึกษารายละเอียดเน้ือหาของแต่ละบทอย่างละเอียด และทำกิจกรรมตามท่ีกำหนดไว้ในท้าย บทเรียน ซ่ึงผู้เรียนสามารถตรวจคำตอบทีถ่ ูกตอ้ งได้จากเฉลยที่มีอยู่ในท้ายเล่ม หากผู้เรียนตอบคำถามกิจกรรม ท้ายบทผดิ ผ้เู รยี นควรกลับไปทบทวนเน้อื หาใหมใ่ หเ้ ขา้ ใจ และแก้ไขใหถ้ กู ต้อง กอ่ นท่ีจะศึกษาเรื่องต่อไป 3. ควรทำกิจกรรมท้ายบทเรียนให้ครบทุกกิจกรรม เพื่อเป็นการสรุปความรู้ ความเข้าใจของเนื้อหาใน เรื่องท่เี รยี นอีกครง้ั 4. หนงั สอื ประกอบการเรียนเลม่ นี้ มี 5 บท ไดแ้ ก่ บทท่ี 1 ความรู้พ้นื ฐานการผลติ ปุ๋ยชีวภาพ บทที่ 2 ตลาดปยุ๋ ชีวภาพ บทที่ 3 ขนั้ ตอนการผลติ ปยุ๋ ชีวภาพ บทที่ 4 ขนั้ ตอนการผลิตปยุ๋ อนิ ทรียอ์ ดั เม็ด บทที่ 5 การออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์ปุย๋ ชีวภาพ การผลิตปุย๋ ชีวภาพเพ่ือจำหน่าย - 6 -

โครงสรา้ งรายวชิ า วิชาการผลติ ป๋ยุ ชวี ภาพเพื่อจำหนา่ ย รหัสวชิ า อช๓๓๘๔๒ สาระการประกอบอาชีพ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย สาระสำคญั (หมายถงึ บทสรปุ ของเน้ือหาท่ีต้องการใหผ้ ้เู รียนจดจำได้ เพื่อนำไปใช้ภายหลังจบการเรียนรู้ สาระสำคัญคล้ายการยอ่ ความ แกน่ ของเรื่องหลักวชิ า เคล็ดวชิ าหรือความคิด หลักการเขียนสาระสำคญั จะตอ้ ง ศึกษาถึงแก่นหรอื ประเด็นของเร่อื งในภาพรวม พยายามเขียนใหค้ รอบคลมุ ทงั้ 3 ค. [คอื , ควร, คุณค่า] สัมพนั ธ์ กับผลการเรียนร้ใู ชภ้ าษาที่ “ส้ัน-งา่ ย-ใจความเดียว”) ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั 1. มคี วามรแู้ ละเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความรพู้ ้ืนฐานการผลิตปุ๋ยชวี ภาพได้ 2. มีความรแู้ ละเข้าใจเก่ียวกบั ตลาดปุ๋ยชีวภาพได้ 3. สามารถอธบิ ายขั้นตอนการผลิตปุย๋ ชีวภาพได้ 4. สามารถอธบิ ายข้นั ตอนการผลติ ปุย๋ อนิ ทรยี ์อัดเม็ดได้ 5. มคี วามรคู้ วามเข้าใจการควบคมุ คณุ ภาพการผลิต และสามารถออกแบบบรรจุภัณฑ์ปยุ๋ ชีวภาพได้ ขอบขา่ ยเนื้อหา บทท่ี 1 ความรูพ้ นื้ ฐานการผลติ ปุย๋ ชีวภาพ เรอื่ งท่ี 1 ความหมาย ความเป็นมา และประโยชน์ของปุ๋ยชวี ภาพ 1) ความหมายของปุย๋ ชวี ภาพ 2) ความเปน็ มาของปุ๋ยชวี ภาพ 3) ประโยชน์ของปยุ๋ ชวี ภาพ เร่อื งที่ ๒ ประเภทของปยุ๋ ชีวภาพ 1) ปยุ๋ ชวี ภาพจากปยุ๋ คอก 2) ปยุ๋ ชวี ภาพจากพืช 3) ป๋ยุ หมักจากเศษอาหารและขยะ บทท่ี 2 ตลาดปุ๋ยชวี ภาพ เร่อื งท่ี 1 แนวโนม้ ความตอ้ งการของตลาดปุย๋ ชวี ภาพ เร่อื งที่ 2 การวเิ คราะหต์ ลาดป๋ยุ ชวี ภาพ การผลติ ป๋ยุ ชีวภาพเพือ่ จำหน่าย - 7 -

บทท่ี 3 ขัน้ ตอนการผลิตปยุ๋ ชวี ภาพ เรอื่ งที่ 1 การผลิตปยุ๋ ชวี ภาพสูตรบำรงุ ใบ เร่อื งที่ 2 การผลิตปุย๋ ชวี ภาพสูตรบำรงุ ลำต้น เรอ่ื งที่ 3 การผลติ ปยุ๋ ชวี ภาพสตู รบำรุงดอก เร่ืองท่ี 4 ผลติ ปยุ๋ ชวี ภาพสูตรบำรุงใบ บำรุงลำตน้ และบำรุงดอกได้ บทที่ 4 ข้ันตอนการผลิตปยุ๋ อนิ ทรยี อ์ ัดเมด็ เรือ่ งที่ 1 การเตรียมวสั ดุและอปุ กรณ์ เรอ่ื งท่ี 2 วธิ กี ารทำและวธิ กี ารอัดเม็ดปุย๋ บทที่ 5 การออกแบบบรรจุภัณฑป์ ุ๋ยชวี ภาพ เรื่องท่ี 1 มาตรฐานผลติ ภณั ฑป์ ุ๋ยชวี ภาพและการบรรจภุ ณั ฑ์ เร่ืองที่ 2 การออกแบบบรรจุภัณฑแ์ ละการออกแบบตราสัญลักษณ์ (โลโก)้ การผลิตปุ๋ยชีวภาพเพอ่ื จำหนา่ ย - 8 -

แบบทดสอบกอ่ นเรียน 1. Sir Albert Howard ถอื วา่ เป็นผ้รู เิ ร่ิม และมีการศกึ ษาเกยี่ วกับปุย๋ หมกั ไว้เปน็ ผูแ้ รกๆ โดยกำหนดแนว ทางการทำปุ๋ยหมักไว้วา่ ปุ๋ยหมกั ทีด่ ตี อ้ งใช้เศษพชื กบั มลู สัตว์ในอัตราส่วนเทา่ ใด ก. 1:1 ข. 2:1 ค. 3:1 ง. 4:1 2.ประเภทของปุ๋ยชวี ภาพแบง่ ออกเป็น กป่ี ระเภท ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท 3.ปยุ๋ หมกั ค้างปี ใชเ้ ศษพืชหมักอย่างเดียวนำมาหมักทงิ้ ไว้สามารถนำมาใช้เปน็ ปุ๋ยหมักโดยไมต่ ้องดแู ลรักษา ตอ้ งใช้ระยะเวลาในการหมักนานเทา่ ใด ก. 3 เดือน ข. 6 เดือน ค. 9 เดือน ง. 12 เดือน 4. ปุย๋ หมักธรรมดาใชม้ ลู สตั ว์ ใช้เศษพืชและมูลสตั ว์ในอตั รา เทา่ ใด ก. 100:10 ข. 100:20 ค. 100:30 ง. 100:40 5. ปยุ๋ หมกั ธรรมดาใชม้ ูลสัตว์ ถ้าใช้ฟางขา้ วจะใช้เวลาในการหมกั ประมาณ ก่เี ดือน ก. ประมาณ 1 เดอื น ข. ประมาณ 2-3 เดอื น ค. ประมาณ 4-5 เดือน ง. ประมาณ 6-8 เดอื น 6. ปุ๋ยหมกั ต่อเชือ้ เป็นการนำปุ๋ยหมกั ธรรมดาใช้จลุ ินทรียเ์ รง่ จำนวน 100 กโิ ลกรมั นำไปต่อเชื้อการทำป๋ยุ หมัก ปุ๋ยหมักได้อีก 1000 กิโลกรัม (1 ตัน) การตอ่ เช้อื นส้ี ามารถทำการต่อได้ กีค่ ร้ัง ก. 1 ครั้ง ข. 2 ครั้ง ค. 3 ครั้ง ง. 4 ครั้ง การผลติ ปุ๋ยชวี ภาพเพ่อื จำหน่าย - 9 -

7. ลักษณะของปุ๋ยหมกั ทีเ่ สรจ็ สมบูรณแ์ ล้วความรอ้ นในกองปุ๋ย หลงั จากกองปุย๋ หมักประมาณ 2-3 วัน อุณหภูมภิ ายในกองป๋ยุ จะสูง ประมาณ ก่ีองศาเซลเซียส ก. 10-20 องศาเซลเซียส ข. 30-40 องศาเซลเซียส ค. 50-60 องศาเซลเซยี ส ง. 70-80 องศาเซลเซยี ส 8. การใช้ป๋ยุ หมัก เราสามารถใสล่ งไปในดินให้มากเทา่ ทตี่ อ้ งการได้ แตก่ ็ไมค่ วรใส่มากเกินอัตราปลี ะเท่าใด 20 ตนั ต่อไร่ เพราะอาจกอ่ ใหเ้ กดิ ผลเสียต่อดนิ ได ก. 10 ตนั ตอ่ ไร่ ข. 20 ตนั ต่อไร่ ค. 30 ตนั ตอ่ ไร่ ง. 40 ตันตอ่ ไร่ 9. กองปยุ๋ หมกั ความร้อนระอุ ซ่ึงจะเปน็ ผลทำใหเ้ ชอ้ื จลุ นิ ทรยี ์ตายไดไ้ ม่เกนิ ก่อี งศาเซลเซียส ก. 50 องศาเซลเซียส ข. 60 องศาเซลเซียส ค. 70 องศาเซลเซียส ง. 80 องศาเซลเซยี ส 10. การระบายอากาศในกองปุ๋ยหมกั ไม่ดีทำใหเ้ กิดกรดอินทรยี บ์ างอยา่ งเปน็ เหตใุ ห้มกี ลิ่นเหม็นอับ เกดิ จาก สาเหตอุ ะไร ก. ไม่มีการรดน้ำกองปุ๋ยหมัก ข. รดนำ้ กองปุ๋ยหมกั ชมุ่ จนเกนิ ไป ค. กองปุ๋ยหมกั มขี นาดกองเลก็ เกินไป ง. กองปุ๋ยหมกั ใหม้ ีขนาดกองใหญ่จนเกินไป การผลิตปยุ๋ ชวี ภาพเพอื่ จำหนา่ ย - 10 -

คำอธบิ ายรายวชิ า อช33842 การผลติ ปยุ๋ ชวี ภาพเพือ่ จำหน่าย สาระการประกอบอาชพี ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 5 หนว่ ยกิต (จำนวน 200 ช่ัวโมง) มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดับ มาตรฐานที่ 3. 2 มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะในการขยายอาชีพเพ่ือสร้างความมั่นคงบนพื้น ฐานความรู้ในกระบวนการผลิต กระบวนการตลาดที่ใช้นวัตกรรม เทคโนโลยีที่เหมาะสม มีความหลากหลาย ทางชวี ภาพพฒั นาต่อยอดและประยกุ ต์ใชภ้ มู ปิ ญั ญา มาตรฐานที่ 3. 3มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถจัดทำแผนงาน และโครงการธุรกิจ เพ่ือขยาย อาชีพเข้าสู่ตลาดการแข่งขัน ตามศักยภาพ 5 ด้าน ได้แก่ ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพ้ืนท่ี ศักยภาพของพ้ืนท่ีตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพภูมิประเทศและทำเลท่ีตั้งของแต่ละพ้ืนท่ี ศักยภาพของ ศลิ ปะ วฒั นธรรม ประเพณีและวถิ ชี วี ติ ของแต่ละพ้ืนที่ ศักยภาพของทรพั ยากรมนุษย์ในแต่ละพืน้ ที่ และแนวคิก ปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพยี ง เพอ่ื สู่ความมัน่ คง ศึกษาและฝึกทักษะเกี่ยวกบั เร่อื งตอ่ ไปน้ี ความรู้พื้นฐานการผลิตปุ๋ยชีวภาพเพ่ือจำหน่าย ตลาดปุ๋ยชีวภาพ การผลิตปุ๋ยชีวภาพ 3 สูตร การผลิต ปยุ๋ อนิ ทรยี อ์ ดั เม็ด บรรจภุ ัณฑป์ ยุ๋ 1. ความรพู้ นื้ ฐานการผลิตปยุ๋ ชวี ภาพเพ่อื จำหน่าย 1.1 ความรู้พื้นฐานการผลติ ปยุ๋ ชีวภาพเพอื่ จำหนา่ ย 1. 2 ประเภทของปุ๋ยชีวภาพ - ปยุ๋ ชีวภาพจากปยุ๋ คอก - ป๋ยุ ชีวภาพจากพืช - ปุ๋ยหมกั จากเศษอาหารและขยะ 2. ตลาดปุ๋ยชีวภาพ 2.1 แนวโนม้ ความต้องการของตลาดปยุ๋ 2. 2 การวเิ คราะหต์ ลาดปุ๋ยชีวภาพ 2.3 เทคนคิ การขายป๋ยุ 3. การผลติ ปุ๋ยชีวภาพ 3 สูตร 3.1 ความหมายของปุย๋ ชวี ภาพ 3. 2 การผลติ ปยุ๋ ชีวภาพสูตรบำรงุ ใบ 3. 3 การผลติ ป๋ยุ ชวี ภาพสตู รบำรงุ ลำต้น 3.4 การผลติ ปยุ๋ ชีวภาพสตู รบำรงุ ดอก 4.การผลติ ปุย๋ อนิ ทรีย์อดั เมด็ 4.1 การเตรยี มวัสดแุ ละอปุ กรณ์ 4.2 วิธีการทำและวิธกี ารอัดเมด็ ปุ๋ย การผลิตปุ๋ยชวี ภาพเพอ่ื จำหนา่ ย - 11 -

5.บรรจภุ ัณฑ์ปุ๋ย 5.1 มาตรฐานผลิตภณั ฑ์ปยุ๋ ชวี ภาพและการบรรจภุ ณั ฑ์ 5.2 การออกแบบบรรจภุ ณั ฑแ์ ละการออกแบบตราสญั ลักษณ(์ โลโก)้ การจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ 1. ศกึ ษาเรียนรู้จากเอกสาร และอินเตอรเ์ นต็ 2. การลงมือปฏบิ ัติตามขั้นตอน 3. ศกึ ษาดงู านจากแหลง่ เรียนรู้ ภมู ิปัญญา การวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมนิ ความรู้ ความเขา้ ใจ 2. ทดสอบ การสังเกต การปฏิบตั ิ 3. ผลงาน ชิ้นงาน 4. การนำเสนอโครงงาน การผลติ ปุย๋ ชีวภาพเพ่อื จำหน่าย - 12 -

รายละเอียดคำอธบิ ายรายวิชา อช 33842 การผลิตปยุ๋ ชีวภาพเพอ่ื จำหนา่ ย สาระการประกอบอาชพี ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย จำนวน 5 หนว่ ยกิต (จำนวน 200 ชวั่ โมง) มาตรฐานการเรียนร้รู ะดบั มาตรฐานท่ี 3.2 มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะในการขยายอาชีพเพ่ือสร้างความม่ันคงบนพื้น ฐานความรู้ในกระบวนการผลิต กระบวนการตลาดที่ใช้นวัตกรรม เทคโนโลยีที่เหมาะสม มีความหลากหลาย ทางชวี ภาพพฒั นาตอ่ ยอดและประยกุ ตใ์ ช้ภูมิปญั ญา มาตรฐานที่ 3.3 มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถจัดทำแผนงาน และโครงการธุรกิจ เพ่ือขยาย อาชีพเข้าสู่ตลาดการแข่งขัน ตามศักยภาพ 5 ด้าน ได้แก่ ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพ้ืนท่ี ศักยภาพของพ้ืนที่ตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพภูมิประเทศและทำเลท่ีต้ังของแต่ละพื้นท่ี ศักยภาพของ ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณแี ละวิถีชีวิตของแต่ละพื้นที่ ศกั ยภาพของทรพั ยากรมนษุ ย์ในแตล่ ะพ้ืนท่ี และแนวคกิ ปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพียง เพอ่ื ส่คู วามม่นั คง ที่ หัวเรื่อง ตวั ชี้วัด เน้อื หา จำนวน ชั่วโมง 1 ความรพู้ ้นื ฐานการผลิตปุย๋ อธบิ ายความรู้พ้ืนฐานการผลติ ชวี ภาพเพือ่ จำหน่าย ปุ๋ยประเภทของปุย๋ ชีวภาพ 1. ความรู้พืน้ ฐานการผลติ ปุ๋ยเพ่อื 20 เพ่อื จำหนา่ ย จำหนา่ ย 2. ประเภทของป๋ยุ ชวี ภาพ - ปุ๋ยชีวภาพจากปุ๋ยคอก - ปุ๋ยชีวภาพจากพชื - ปุย๋ หมักจากเศษอาหารและขยะ 2 ตลาดปุย๋ ชวี ภาพ อธิบายแนวโน้มความต้องการ 1.แนวโนม้ ความตอ้ งการของตลาดปุ๋ย 20 ของตลาด และวิเคราะห์ตลาด ชีวภาพ ป๋ยุ ชีวภาพ 2. การวิเคราะหต์ ลาดปยุ๋ ชีวภาพ 3 การผลติ ป๋ยุ ชีวภาพ 3 สตู ร 1.อธบิ ายความหมายของปยุ๋ 1. ความหมายของปยุ๋ ชวี ภาพ 60 ชวี ภาพ การผลติ ปุย๋ ชีวภาพ 2. การผลิตป๋ยุ ชวี ภาพสูตรบำรุงใบ สูตรบำรงุ ใบ ลำตน้ ดอก 3. การผลติ ปุ๋ยชวี ภาพสตู รบำรงุ 2.สามารถผลิตปยุ๋ ชีวภาพ ท้งั 3 ลำตน้ สูตร ตามขนั้ ตอนทถี่ กู ตอ้ งได้ 4. การผลิตปุย๋ ชีวภาพสูตรบำรงุ ดอก 4 การผลติ ป๋ยุ อนิ ทรียอ์ ัดเม็ด 1.อธิบายความหมายของปุย๋ 1.ความหมายของปุย๋ อินทรีย์อดั เมด็ 60 อนิ ทรีย์อดั เมด็ 2.การผลติ ปยุ๋ อนิ ทรยี ์อัดเม็ด การผลติ ปุย๋ ชีวภาพเพ่อื จำหนา่ ย - 13 -

ที่ หวั เรือ่ ง ตัวชว้ี ัด เนอ้ื หา จำนวน 5 บรรจภุ ัณฑ์ปยุ๋ ชีวภาพ ชั่วโมง 2.สามารถผลิตปยุ๋ อนิ ทรีย์ อัดเมด็ ตามขนั้ ตอนทถี่ กู ตอ้ ง 1.อธบิ ายการออกแบบบรรจุ 1. มาตรฐานผลติ ภณั ฑ์ปุย๋ ชีวภาพ 40 ภัณฑ์ปุ๋ยชวี ภาพและปยุ๋ อนิ ทรยี ์ และการบรรจภุ ณั ฑ์ อัดเมด็ /การออกแบบตรา 2. การออกแบบบรรจุภัณฑ์และ สญั ลกั ษณ์(โลโก้) บรรจภุ ณั ฑ/์ การออกแบบตราสญั ลักษณ์ มาตรฐานผลิตภณั ฑ์ปุ๋ยชีวภาพ (โลโก้) 2.สามารถออกแบบตรา สญั ลักษณ์บรรจุภัณฑ์ปยุ๋ ชวี ภาพ และป๋ยุ อัดเม็ดได้ การผลิตปยุ๋ ชวี ภาพเพอ่ื จำหน่าย - 14 -

บทท่ี 1 ความร้พู ื้นฐานการผลิตปุย๋ ชวี ภาพ สาระสำคญั ปยุ๋ ชีวภาพเป็นป๋ยุ ที่มีจุลนิ ทรยี เ์ ปน็ (มชี วี ิต) ซึ่งสามารถเปล่ียนธาตอุ าหารในดินให้พืชดูดไปใช้ประโยชน์ ไดร้ วดเรว็ การทำปุ๋ยชวี ภาพ ใชว้ ตั ถดุ ิบท่เี ป็นเศษพชื และมลู สัตว์ สำหรับการทำปุย๋ ชีวภาพ ในประเทศไทย ทกุ วนั นกี้ ระแสและความต่นื ตัวในเรือ่ งของสขุ ภาพ ซง่ึ มีความสำคัญอย่างย่งิ ทุกประเทศในโลกรวมท้งั ประเทศ ไทยจึงหันมาใช้กรรมวิธแี บบเกษตรอนิ ทรยี ห์ รือเกษตรธรรมชาตกิ นั อยา่ งกว้างขวางและแพร่หลาย เนื่องจาก ใช้สารเคมีมานานๆนับสบิ ๆปี ทำให้จุลนิ ทรียท์ ชี่ ว่ ยย่อยสลายอนิ ทรยี วัตถุ ทีอ่ ยใู่ นดนิ และบนดนิ ตายไปหมด เราตอ้ งชว่ ยกนั คืนจลุ นิ ทรียก์ ลบั บ้าน ซงึ่ จะทำใหด้ ินท่ีเปน็ รากฐานของชวี ติ กลับเปน็ “ดินมีชวี ิต” อกี ครั้ง เพื่อ ผลิตพืชผลปลอดภยั เล้ยี งมนุษยชาตติ อ่ ไปเพราะปยุ๋ ชวี ภาพชว่ ยเพม่ิ ธาตุอาหาร ปรบั สภาพความเป็นกรด-ดา่ ง ในดนิ ทำให้ดนิ ชมุ่ ช้นื และรว่ นซยุ จึงเหมาะสมทจี่ ะใชเ้ พาะปลกู ป๋ยุ ชวี ภาพแบ่งได้ 3 ประเภท ไดแ้ ก่ ปุ๋ยชีวภาพ จากปุย๋ มูลสตั ว์ ปยุ๋ ชีวภาพจากพชื ปุ๋ยหมักจากเศษอาหารและขยะ ผลการเรยี นรทู้ ่คี าดหวงั 1. อธิบายความหมาย ความเป็นมา และประโยชนข์ องปุย๋ ชวี ภาพได้ 2. บอกประเภทของปุ๋ยชีวภาพได้ ขอบขา่ ยเน้ือหา เร่อื งที่ 1 ความหมาย ความเป็นมา และประโยชนข์ องป๋ยุ ชีวภาพ 1.1 ความหมายของปุย๋ ชีวภาพ 1.2 ความเปน็ มาของปยุ๋ ชีวภาพ 1.3 ประโยชน์ของปยุ๋ ชวี ภาพ เรอ่ื งที่ 2 ประเภทของปุ๋ยชีวภาพ 2.1 ปยุ๋ ชวี ภาพจากปุ๋ยมูลสัตว์ 2.2 ปุ๋ยชีวภาพจากพชื 2.3 ปยุ๋ หมักจากเศษอาหารและขยะ การผลิตปุ๋ยชวี ภาพเพือ่ จำหนา่ ย - 15 -

เรื่องท่ี 1 ความหมาย ความเป็นมา และประโยชน์ของปยุ๋ ชวี ภาพ 1. ความหมายของปุย๋ ชีวภาพ ปุ๋ยชีวภาพ คือ ปุ๋ยที่ประกอบด้วยจุลินทรีย์ท่ียังมีชีวิตอยู่และมีคุณสมบัติพิเศษ สามารถสังเคราะห์ สารประกอบธาตุอาหารพืชได้เอง หรือสามารถเปล่ียนธาตอุ าหารพืชที่มีอยู่ในรูปที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อพืชให้มา อยู่ในรูปท่ีพืชสามารถดูดไปใช้ประโยชน์ได้ การใชเ้ กษตรอินทรีย์ หรือเกษตรชีวภาพ หรือเกษตรธรรมชาติใน เมืองไทย ขณะนี้มีอยู่หลายรูปแบบ หลายวิธี อาทิ การใช้ผักมาหมักกับกากน้ำตาล ได้น้ำสกัดชีวภาพ บางคน ใช้สารเร่ง ซ่ึงมีต้ังแต่ พด. 1 ถึง พด. 9 ของกรมพัฒนาท่ีดินบางคนใช้ปุ๋ยสำเร็จรูปอัลจินัว ของ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บางคนใช้แค่มูลสัตว์เท่านั้น เป็นต้น ซึ่งแต่ละวิธีใช้เวลา ต้นทุน และ กรรมวิธีแตกตา่ งกนั ไป 2. ความเปน็ มาของปุย๋ ชีวภาพ เกษตรไทยในรอบ 2-3 ปที ี่ผา่ นมา เรื่องราวของ ปยุ๋ นำ้ ชีวภาพ หรือ นำ้ สกดั ชวี ภาพ กระแสความนยิ ม ของประชาชนไดย้ ืนยาวและตอ่ เน่ืองมานบั ตงั้ แตไ่ ดม้ ชี าวตา่ งประเทศทา่ นหนึง่ ได้มาจดุ ประกายเรือ่ งนขี้ ้ึนใน บ้านเมืองของเรา และตอ่ มาด้วยภูมิปญั ญาของชาวบา้ นและความสามารถของคนไทยในการคิดคน้ ดัดแปลง พัฒนา ก็ทำใหใ้ นปัจจุบนั กลา่ วไดว้ ่า มีผู้คิดค้นวิธีการทำปุ๋ยนำ้ ชีวภาพ หรอื นำ้ สกดั ชวี ภาพขน้ึ มาทำในขณะน้ีไม่ ตำ่ กว่า 100 สูตร แตเ่ กษตรกรเองหลงั จากได้รับรู้ รับทราบเกี่ยวกับเร่ืองราวของน้ำสกดั ชวี ภาพนี้ไมว่ ่าจะเปน็ จากการเขา้ รบั การอบรม จากการอ่านเอกสารทางหน้าหนงั สือพิมพ์ วารสารตา่ ง ๆ หรือฟังจากรายการวทิ ยุ หรือดโู ทรทัศน์ และได้ทดลองทำและใชก้ ับพืชผลของตนเอง ก็ไดพ้ บความมหัศจรรย์ของเจ้านำ้ สกัดชีวภาพตวั นี้ ว่าสามารถดลบันดาลให้พืชผลของตนเองเจรญิ เตบิ โตงอกงามข้นึ อย่างรวดเร็วในระยะเวลามิชา้ มินาน ศัตรูพชื ที่ เคยเขา้ มารบกวนพชื ผลต่าง ๆหลังจากปลกู ไมว่ ่าจะเป็นโรค แมลง ค่อย ๆ ลดน้อยถอยลงไปเปน็ ลำดบั หลังจากทไ่ี ดใ้ ชน้ ำ้ สกดั ชีวภาพน้ีแล้วเรอื่ งนค้ี งต้องยกเครดติ ให้ ผอ.พึงพิศ ดลุ ยพชั ร์ อดีตผู้อำนวยการกอง พัฒนาการบรหิ ารงานเกษตร กรมส่งเสรมิ การเกษตรและทมี งาน ซ่ึงเปน็ ผมู้ องเห็นการณ์ไกลและเป็นผู้บุกเบกิ เรอ่ื งนี้มาแต่แรก โดยความร่วมมอื กับชมรมเกษตรธรรมชาติแห่งประเทศไทยทม่ี ี รองศาสตราจารย์ ดร.อรรถ บญุ นิธี (นามสกุลบุญนิธนี ะไมใ่ ช่บญุ นธิ ิเป็นคำตอบท่ีถกู ต้อง) อดตี อาจารย์จากมหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตรเ์ ปน็ ท่ี ปรึกษาและ อาจารยอ์ นศุ ษิ ฐ์ ธำรงค์รตั นศลิ ป์ ประธานชมรมฯคนปจั จุบนั และทีมงานเปน็ ผู้คิดคน้ ทดลองและ เผยแพรไ่ ปสูป่ ระชาชนทัว่ ไป โดยจดั การอบรมข้ึนตามสถานทตี่ ่าง ๆไม่ต่ำกวา่ 10 ร่นุ มีผู้เขา้ รบั การอบรมไม่ต่ำ กว่า 1,000 คน แม้จะไดร้ ับกระแสการต่อตา้ นจากนกั วิชาการบางกล่มุ ในระยะแรกก็ตาม นายชนวน รตั นวรา หะ อดตี ผูต้ รวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มหี วั ใจเต็มร้อยกบั แนวทางการพฒั นาเกษตรธรรมชาติ เกษตรอนิ ทรยี ์ เกษตรปลอดภัยจากสารพษิ ฯลฯ แตบ่ ญุ ญาวาสนาไมถ่ ึงท่ีจะเป็นผทู้ ่ีมีอำนาจในการกำหนด นโยบายหรอื สั่งการเพ่ือให้การทำงานด้านนี้เห็นเป็นรูปธรรม อาจารยภ์ รณ์ ภมู พิ ันนา จากสำนกั สนั ตอิ โศก อดตี รองผวู้ า่ การกรงุ เทพมหานคร สมยั พลตรี จำลอง ศรเี มือง เป็นผู้ว่าการฯ เจา้ ของสูตรน้ำหวานหมกั ถดั มาก็คง หนไี มพ่ น้ พ่สี ำรวล ดอกไม้หอม หรืออาจารย์สำรวล จากกองปอ้ งกนั และกำจัดศตั รูพชื กรมสง่ เสรมิ การเกษตร เจา้ ตำรบั ปุ๋ยนำ้ หมกั จากหอยเชอรี่ น้ำหมักชวี ภาพหรือน้ำสกดั ชีวภาพ ปัจจบุ ันไดม้ ีการเรยี กชอื่ น้ำหมักชวี ภาพ ทแ่ี ตกต่างกนั ออกไป เช่น น้ำสกัดชีวภาพ ป๋ยุ น้ำจุลินทรีย์ เป็นต้น และผ้คู ดิ คน้ วิธกี ารทำน้ำหมกั ชวี ภาพข้นึ มา ขณะนีไ้ ม่ต่ำกว่า 100 สูตร โดยเกษตรกรเองได้ทดลองทำ และเรยี นรนู้ ำไปใชก้ บั พชื ผลของตนเอง กไ็ ด้พบความ มหัศจรรย์ของเจา้ นำ้ หมักชีวภาพตวั นี้ ว่าสามารถดลบันดาลใหพ้ ชื ผลของตนเองเจริญเติบโตงอกงามขึน้ อย่าง การผลิตปุ๋ยชวี ภาพเพอื่ จำหน่าย - 16 -

รวดเร็ว ในระยเวลามชิ ้ามินาน ศตั รพู ชื ที่เคยเข้ามารบกวนพืชผลตา่ ง ๆ หลังจากปลกู ไมว่ ่าจะเปน็ โรคแมลงค่อย ๆ ลดน้อยถอยลงไปเป็นลำดับ หลงั จากทไ่ี ด้ใช้นำ้ หมักชีวภาพน้ีแล้ว จึงแสดงใหเ้ ห็นวา่ น้ำหมกั ชวี ภาพมี ความสำคญั และความจำเป็นตอ่ การทำเกษตรอินทรียอ์ ย่างแทจ้ ริง ประโยชนข์ องน้ำหมกั ชีวภาพ เร่งการ เจรญิ เติบโตของพชื เร่งการออกดอกของพืช เพมิ่ คณุ ภาพของผลผลิตให้ดขี ึ้น เป็นสารไลแ่ มลงศัตรพู ืชง เปน็ สาร เสริมสุขภาพในคนและสตั ว์ บำบัดกลิ่นเหมน็ ในปศุสัตว์ ฉดี พ่นก่อนไถกลบตอซังทำใหต้ อซงั น่มิ บำบัดนำ้ เสยี ใน การประมงเป็นสารเรง่ และเปน็ ธาตุอาหารเสรมิ ในปยุ๋ หมกั 3. ประโยชน์ของปุ๋ยชีวภาพ (น้ำหมักชวี ภาพ) ด้านการเกษตร 1. ชว่ ยปรับสภาพความเปน็ กรด – ดา่ ง ในดินและน้ำ 2. ช่วยปรับสภาพโครงสรา้ งของดนิ ให้ร่วนซยุ อมุ้ นำ้ และอากาศไดด้ ีย่ิงขึ้น 3. ชว่ ยย่อยสลายอินทรยี ์วตั ถใุ นดนิ ให้เปน็ ธาตอุ าหารแกพ่ ืช พชื สามารถดดู ซึมไปใช้ได้เลย โดยไมต่ ้องใช้ พลงั งานมากเหมอื นการใชป้ ๋ยุ วิทยาศาสตร์ 4. ช่วยเรง่ การเจรญิ เตบิ โตของพชื ให้สมบูรณ์ แข็งแรงตามธรรมชาติ ต้านทานโรคและแมลง 5. ช่วยสร้างฮอรโ์ มนพืช ทำใหผ้ ลผลติ สูง และคุณภาพของผลผลติ ดีข้นึ 6. ชว่ ยใหผ้ ลผลติ คงทน เกบ็ รักษาไวไ้ ดน้ าน ด้านปศุสัตว์ 1. ชว่ ยกำจดั กลนิ่ เหม็นจากฟารม์ สัตว์ ไก่ สกุ ร ได้ภายใน 24 ชม. 2. ช่วยกำจัดน้ำเสียจากฟาร์มไดภ้ ายใน 1 – 2 สัปดาห์ 3. ช่วยป้องกันโรคอหิวาห์และโรคระบาดตา่ งๆ ในสตั วแ์ ทนยาปฏิชวี นะ และอน่ื ๆได้ 4. ชว่ ยกำจดั แมลงวนั ดว้ ยการตดั วงจรชีวิตของหนอนแมลงวัน ไม่ให้เขา้ ดักแด้เกิดเปน็ ตัวแมลงวัน 5. ชว่ ยเสริมสุขภาพสตั ว์เลีย้ ง ทำใหส้ ัตวแ์ ขง็ แรง มีความตา้ นทานโรค ใหผ้ ลผลิตสงู และอัตราการรอดสงู ดา้ นการประมง 1. ชว่ ยควบคุมคุณภาพน้ำในบ่อเลย้ี งสตั ว์นำ้ ได้ 2. ชว่ ยแก้ปัญหาโรคพยาธใิ นน้ำ ซึง่ เปน็ อนั ตรายต่อสัตว์น้ำ 3. ช่วยรักษาโรคแผลต่างๆในปลา กบ จระเข้ ฯลฯ ได้ 4. ช่วยลดปริมาณข้ีเลนในบอ่ ช่วยใหเ้ ลนไม่เน่าเหม็น สามารถนำไปผสมเปน็ ปุย๋ หมกั ใชก้ บั พชื ต่างๆ ได้ดี ด้านสง่ิ แวดล้อม 1. ชว่ ยบำบัดนำ้ เสยี จากการเกษตร ปศุสตั ว์ การประมง โรงงานอตุ สาหกรรม ชมุ ชน และสถาน- ประกอบการท่ัวไป 2. ช่วยกำจดั กล่ินเหมน็ จากกองขยะ การเลยี้ งสตั ว์ โรงงานอุตสาหกรรม และชมุ ชนต่างๆ 3. ปรับสภาพของเสีย เชน่ เศษอาหารจากครัวเรือนใหเ้ ป็นประโยชนต์ อ่ การเลี้ยงสตั ว์ และการเพาะ- ปลกู พืช 4. กำจดั ขยะดว้ ยการย่อยสลายใหม้ จี ำนวนลดนอ้ ยลง สามารถนำไปใชป้ ระโยชน์ได้ 5. ช่วยปรบั สภาพอากาศท่ีเสยี ให้สดชืน่ และมสี ภาพดขี ้ึน การผลติ ปยุ๋ ชวี ภาพเพือ่ จำหนา่ ย - 17 -

เรอ่ื งท่ี 2 ประเภทของปยุ๋ ชวี ภาพ (นำ้ หมักชวี ภาพ) ป๋ยุ ชีวภาพ คือ ปุ๋ยทปี่ ระกอบด้วยจุลนิ ทรยี ท์ ยี่ งั มีชีวติ อยแู่ ละมคี ุณสมบตั ิพเิ ศษสามารถสังเคราะห์ สารประกอบธาตอุ าหารพชื ไดเ้ อง หรอื สามารถ เปลยี่ นธาตอุ าหารพืชทอ่ี ย่ใู นรปู ท่ไี มเ่ ปน็ ประโยชน์ต่อพชื ใหม้ า อยู่ในรูปท่พี ืชสามารถดดู ไปใช้ประโยชน์ได้ ปุ๋ยชีวภาพแบ่งออกได้ 2 ประเภทคอื 1. กลุ่มจลุ นิ ทรียท์ ่ีสามารถสงั เคราะหส์ ารประกอบธาตุอาหารพืช ไนโตรเจนไดเ้ อง ได้แก่ • ไรโซเบี่ยม ทอ่ี ยูใ่ นปมรากพชื ตระกูลถวั่ • แฟรงเคยี ทอี่ ยใู่ นปมรากสนทะเล • สาหรา่ ยสเี ขียวแกมน้ำเงิน ทอ่ี ยใู่ นโพรงใบของแหนแดง และจุลนิ ทรยี ท์ อ่ี าศยั ในดินอย่างอิสระ 2. กลุม่ จุลนิ ทรีย์ที่ช่วยทำใหธ้ าตุอาหารพชื ในดินละลายออกมาเป็นประโยชน์ต่อพืชมากขึ้น เชน่ ไมคอรไ์ รซา ท่ชี ่วยใหฟ้ อสฟอรสั ทีถ่ ูกตรึงอยูใ่ นดนิ ละลายออกมาอยู่ในรปู ท่พี ืชดดู ไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ ปยุ๋ อนิ ทรียเ์ ป็นป๋ยุ ที่ได้จากอนิ ทรยี ์สารซ่งึ ผลติ ขนึ้ โดยแยกประเภทวตั ถดุ ิบทีน่ ำมาผลติ ดังน้ี -ป๋ยุ คอก แหลง่ วัตถดุ บิ สำคัญคือ มูลสตั ว์ ปยุ๋ คอก ทส่ี ำคญั ได้แก่ มูลหมู มูลเป็ด มูลไก่ ฯลฯ ปยุ๋ คอกนยิ มใชก้ นั อย่างแพรห่ ลาย ในสวนผกั และสวนผลไม้ ปยุ๋ คอกโดยทว่ั ไปแลว้ ถา้ คิดราคาต่อหน่วยธาตุอาหารพืชจะมรี าคา แพงกว่าปยุ๋ เคมี แต่ปยุ๋ คอกชว่ ยปรับปรงุ ดินให้โปร่งและร่วนซยุ ทำให้การเตรยี มดนิ งา่ ย การตั้งตัวของต้นกล้า เร็วทำให้มีโอกาสรอดไดม้ ากขน้ึ -ปุย๋ หมัก แบง่ ออกเปน็ 3 ชนิดคอื ปยุ๋ หมักในไรน่ าท่ีได้จากการหมักเศษวสั ดุเหลือใชท้ างการเกษตรในไร่นา เชน่ ฟางขา้ ว ใบไม้ เปน็ ต้น ป๋ยุ หมักเทศบาลได้จากการนำขยะประเภทเศษพืช เศษอาหารเขา้ โรงหมกั จนกลายเปน็ ปยุ๋ และปยุ๋ หมกั อตุ สาหกรรมซึง่ ได้จากการหมักวัสดุเหลอื ใช้จากโรงงานอตุ สาหกรรมแปรรูปทางการเกษตร และโรงงานผลิตสุรา -ปุ๋ยพชื สด เปน็ ปุ๋ยอนิ ทรยี ท์ ี่ไดจ้ ากการปลูกพชื บำรุงดนิ ไดแ้ ก่ พืชตระกูลถ่ัวต่างๆ แลว้ ทำการไถกลบในช่วงพืช เจริญเตบิ โตมากที่สุด ซึง่ เป็นช่วงทกี่ ำลังออกดอก พชื เหลา่ นี้กไ็ ดแ้ ก่ ถว่ั พุ่ม ถ่ัวเขยี ว ถวั่ ลาย ถั่วขอ ถ่ัวแปบ โสน เป็นตน้ -ปุ๋ยชวี ภาพหรือปุ๋ยนำ้ ชีวภาพ เป็นปุย๋ หรอื วัสดทุ ีม่ เี ชอื้ จลุ นิ ทรีย์ รวมถงึ หวั เช้ือจลุ ินทรีย์ ทำให้พชื ไดร้ ับธาตุ อาหารทีต่ ้องการ ชว่ ยปรับปรุงดินทางชวี ภาพ ทางกายภาพ และทางชวี เคมี ชนิดของเชอื้ จุลินทรีย์ หมายถงึ กลุ่มหรือสกุลของจลุ นิ ทรียเ์ ปน็ ภาษาทางวิทยาศาสตรข์ องจุลนิ ทรีย์เช่น ไรโซเบียม เป็นต้น สว่ นหัวเชื้อจุลินทรีย์ หมายถงึ จุลินทรยี ์ท่มี จี ำนวนเซลล์ตอ่ หนว่ ยสงู ที่ถูกเพาะเลยี้ งโดยกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์ สำหรบั ผลติ ปยุ๋ ชวี ภาพ ปจั จบุ นั ปยุ๋ ชวี ภาพมหี ลายชนิดสามารถแบ่งแยกไดต้ ามชนดิ ของเชือ้ จุลนิ ทรียห์ รือตามประเภทของธาตุ อาหารท่ีพืชสามารถนำไปใช้เป็นประโยชน์ได้ โดยเฉพาะธาตุอาหารหลัก ไดแ้ ก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และ โปตัสเซยี ม ปุ๋ยชีวภาพมี 3 ประเภท ได้แก่ ปุ๋ยชีวภาพจากปุ๋ยมูลสัตว์ ปุ๋ยชีวภาพจากพืช ปุ๋ยชีวภาพจากเศษอาหาร และขยะ การผลิตป๋ยุ ชวี ภาพเพื่อจำหนา่ ย - 18 -

1. ปยุ๋ ชีวภาพจากปุ๋ยมูลสัตว์ มีคำโบราณกล่าวไว้ว่า “ พืชเอาใบให้ใส่ปุ๋ยขี้วัว พืชเอาผลให้ใส่ปุ๋ยข้ีไก่ พืชเอาหัวในดินให้ใส่ปุ๋ยขี้หมู ถึงจะดี” ปุ๋ยมูลสัตว์จัดเป็นปุ๋ยที่อยู่ในประเภทปุ๋ยอินทรีย์ โดยผลิตจากมูลสัตว์เล้ียงซึ่งเป็นผลพลอยได้จาก การเล้ียงสัตว์อย่างหลากหลาย ปุ๋ยมูลสัตว์ที่ประเทศไทยนิยมใช้กัน เช่น มูลโค มูลกระบือ มูลสุกร มูลม้า และมูลของสัตว์ปีก เป็นต้น มูลสัตว์เป็นปุ๋ยธรรมชาติที่มีธาตุอาหารหลัก N P K โดยตรงมากกว่า วัตถุดิบธรรมชาติชนิดอื่น มูลสัตว์แต่ละชนิดมีความเข้มข้นของธาตุอาหารหลักแตกต่างกัน ดังน้ัน การพิจารณาการเลอื กใช้ปุ๋ยมลู สัตว์ จงึ ตอ้ งอาศัยปจั จัยหลกั อยู่ 2 ประการคือ 1) ชนิดของพชื ทีต่ ้องการปลกู และ 2) สภาพดินท่ีใช้ปลูก ถ้าสภาพดินขาดธาตุอาหารหลักตัวใด ก็เลือกใช้มูลสัตว์ที่มีปริมาณธาตุอาหาร หลักตัวนั้นสูงมาใช้ ส่วนพืชชนิดท่ีจะนำมาเพาะปลูกหากต้องการธาตุอาหารหลักตัวใดตัวหน่ึงในปริมาณ มาก แตธ่ าตอุ าหารหลกั ทีม่ ีอย่ใู นดินไม่เพยี งพอ เน่อื งจากการเพาะปลกู ซ้ำ ๆ ในเปน็ เวลานาน อาจทำให้สภาพ ดินเสื่อม ซ่ึงหมายถึง ธาตุอาหารบางตัวที่พืชต้องการในปริมาณสูงหมดไปจากดินท่ีจะใช้เพาะปลูก ก็ต้อง พิจารณาเลอื กมลู สตั วม์ าใช้ให้เหมาะสม เม่ือพิจารณาถึงความต้องการของพืช และพิจารณาถึงสภาพของดินแล้ว จึงมาพิจารณาเลือกใช้ ปุ๋ยมูลสัตว์ ซึ่งสามารถใช้มูลสัตว์หลายชนิดรวมกันเพ่ือให้ธาตุอาหารที่สมบูรณ์แบบท่ีสุด โดยศึกษาจากตาราง เปรยี บเทยี บตารางเปรยี บเทียบธาตุอาหารในป๋ยุ มูลสตั ว์ ดงั ต่อไปน้ี มลู สตั ว์ ไนโตรเจน ( N ) ฟอสฟอรัส ( P ) โพแทสเซียม ( K ) มลู วัว 1.10 0.40 1.60 มูลควาย 0.97 0.60 1.66 มูลไก่ 2.42 6.29 2.11 มูลเปด็ 1.02 1.84 0.52 มูลสกุ ร 1.30 2.40 1.00 มลู คา้ งคาว 1.54 14.28 0.60 ท่ีมา : จากขอ้ มูลกรมวชิ าการเกษตร ข้อดีของปุ๋ยชีวภาพจากปุ๋ยมูลสัตว์ นอกจากจะให้ธาตุอาหารหลักของพืชแล้ว ยังช่วยปรับปรุงสภาพ ดินไปในตัวด้วยธาตุอาหารเสริมต่าง ๆ ได้แก่ แมกนีเซียม กำมะถัน แมงกานีสสังกะสี ทองแดง โบ ร่อน และโมลนิ เดน ข้อควรระวงั ในการใช้ป๋ยุ ชวี ภาพจากปุ๋ยมลู สัตว์ การใชป้ ุย๋ มูลสตั วส์ ดอาจทำอันตรายต่อลำต้นของพชื ได้ วิธที ีด่ ที ่สี ุดสำหรบั การใชป้ ยุ๋ มูลสัตวค์ ือ นำไป หมักตามสตู รชวี ภาพเสียกอ่ นนำไปใช้ เพราะความสดหรอื ความแหง้ พอดีของป๋ยุ มูลสตั วไ์ ม่ใชป่ ระเดน็ สำคัญ แต่ประเด็นสำคัญของปุ๋ยมลู สตั ว์ คือ ธาตอุ าหารหลักในปยุ๋ มลู สัตวย์ อ่ ยสลายหรือยงั ถา้ นำปยุ๋ มลู สตั วไ์ ปผ่าน กระบวนการหมกั เพื่อให้จลุ ินทรีย์ทำหน้าทยี่ ่อยสลายธาตอุ าหารต่าง ๆ ที่มอี ยใู่ นมลู สตั วเ์ สียก่อน เมอื่ นำไปใส่ ให้ต้นพชื แล้ว พืชจะสามารถดูดอาหารเหล่าน้นั ไปใช้ประโยชน์ได้ทันที แต่ถา้ ใชป้ ยุ๋ มลู สตั วโ์ ดยตรงซ่ึงยังไมผ่ า่ น กรรมวธิ ีการหมกั จุลนิ ทรยี ์จะย่อยสลายไดธ้ าตุอาหารทีพ่ ืชตอ้ งการช้า และความร้อนท่ีเกดิ ขึ้นระหวา่ ง การย่อยสลายจะเผารากพชื จนสุก ทำให้พชื เนา่ ตายไป การผลติ ปยุ๋ ชวี ภาพเพอื่ จำหนา่ ย - 19 -

2. ปุ๋ยชีวภาพจากพืช ปยุ๋ ชีวภาพจากพชื แบ่งเปน็ 2 ชนดิ คือ ปุย๋ พืชสดและปยุ๋ หมักจากฟางข้าว 2.1 ปุ๋ยพืชสด หมายถึง ปยุ๋ อนิ ทรยี ์ทไ่ี ด้จากการไถกลบพืชลงดนิ ในขณะท่พี ชื นัน้ ยงั เจริญเตบิ โต และยัง สดอยู่ ก่อนจะปลูกพืชหลักตามมา ซ่ึงจะไถกลบพืชในระยะเร่ิมออกดอก พืชที่นิยมใช้เป็นปุ๋ยพืชสดมักใช้ พืชตระกูลถ่ัว เพราะพืชเหล่านี้สามารถในการตรึงไนโตรเจนจากอากาศได้ จึงช่วยเพ่ิมธาตุไนโตรเจนแก่ พชื หลักได้ ป๋ยุ พชื สดจำแนกตามการใชป้ ระโยชน์ ได้ 3 ประเภท คอื 1) ปุ๋ยพืชสดเพื่อการปรับปรุงบำรุงดิน เป็นปุ๋ยพืชสดเพ่ือการปรับปรุงดินโดยตรง โดยเม่ือไถกลบ ลงดินแลว้ จะย่อยสลายเป็นอนิ ทรยี วตั ถไุ ดเ้ รว็ เชน่ ปอเทอื ง โสนชนิดต่าง ๆ ถั่วพร้า และถ่วั มะแฮะ เป็นต้น 2) ปุ๋ยพืชสดจากพืชเศรษฐกิจ เกิดจากการไถกลบเศษซากพืชท่ีเหลือหลังการเก็บเก่ียวผลผลิต ไปจำหน่ายแล้ว ให้เป็นปุ๋ยในดิน พืชสดท่ีมักนิยมปลูก เช่น ถ่ัวเหลือง ถั่วลิสง ถ่ัวเขียว ถ่ัวแปบ และถ่ัวแระ เปน็ ตน้ 3) ปุ๋ยพืชสดเพ่ือการคลุมดิน ปุ๋ยพืชสดชนิดนี้มักมีลักษณะเป็นเถาเล้ือยพันกันแน่นหนา ปกคลุม หน้าดินไว้ไม่ให้ฝนตกกระทบถึงหน้าดิน ซึ่งเป็นการป้องกันการชะล้างหน้าดินได้อย่างดี และยังช่วยปราบ วัชพืชตลอดจนสามารถป้องกันน้ำหน้าดินระเหยออกไปทำให้หน้าดินชุ่มช้ืน ปุ๋ยพืชชนิดน้ีนิยมใช้ในสวนผลไม้ ต่าง ๆ สวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมัน เป็นต้น พืชที่นิยม เช่น ไมยราบไร้หนาม ถั่วฮามาต้า และถ่ัวลาย เป็นต้น 2.2 ปุ๋ยหมกั จากฟางข้าว หลงั จากฤดูทำนาแลว้ ส่ิงท่ีเหน็ ตามท้องนานั้นกค็ ือ ฟางขา้ วทีเ่ หลอื ทงิ้ ซ่ึงสามารถนำมาใช้ประโยชน์ไดอ้ ย่างมากมาย โดยนำมาทำปยุ๋ หมกั เพ่อื ให้ปลูกเหด็ ฟาง หรอื คลุมดนิ ให้คงความชมุ่ ชน้ื ไว้เพื่อปลกู พืช ฯลฯ ตอซงั ข้าวก็ไถกลบเปน็ ปุ๋ยพืชสดไดอ้ ีกทางหนง่ึ แต่สว่ นมากจะถกู ไฟไหม้ หมด เนอื่ งจากไฟลามทงุ่ หรอื เกษตรกรเผาฟางในท่ีนาของตนเอง ผลเสียทีต่ ามมาจากการเผาฟางคือ ทำให้ หน้าดิน เสอ่ื มของ โครงสร้างดินเปลยี่ นไป เนื้อดนิ จบั ตัวกันแน่น แข็ง สญู เสยี อินทรยี ว์ ตั ถใุ นดนิ จลุ ินทรีย์ ไสเ้ ดือน และแมลงท่มี ปี ระโยชน์ตาย อีกทง้ั ยงั ทำให้สูญเสียปุ๋ยพชื สดอยา่ งดีทจี่ ะเกิดจากการย่อยสลายของ ฟางข้าวและตอซัง ซึ่งจะเป็นปุ๋ยอย่างดีให้แก่พืชในฤดูกาลต่อไป ทั้งยังทำให้เกิดมลพิษและสร้างภาวะ โลกร้อนอกี ด้วย 3. ปยุ๋ หมกั ชวี ภาพจากเศษอาหารและขยะ จากรายงานการสรุปสถานการณ์มลพิษของประเทศไทย โดยกรมควบคุมมลพิษพบว่า ในปี พ.ศ. 2561 มีปริมาณขยะมูลฝอยมากถึง 27.93 ล้านตันต่อปี หรือประมาณ 76,529 ตันต่อวัน เพิ่มข้ึนจากปี พ.ศ. 2560 ประมาณ 2.05% นับว่าเป็นปริมาณมากทีเดียว ย่ิงไปกว่าน้ันสถานการณ์การจัดการขยะก็ยังไม่ค่อยดี ถึงแม้อัตราการนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์จะเพ่ิมขึ้นจากเดิม 14.69% (ประมาณ 9.76 ล้านตันของปริมาณ ขยะท้ังหมด) ก็ตาม แต่อัตราการนำขยะไปกำจัดอย่างถูกต้องกลับลดลงจากเดิมถึง 7.19% (ประมาณ 10.85 ล้านตันของปริมาณขยะทั้งหมด) นอกจากนี้ อัตราการนำขยะไปกำจัดอย่างไม่ถูกต้องยังเพ่ิมข้ึนจากเดิมราว 2.09% (ประมาณ 7.32 ลา้ นตันของปริมาณขยะทัง้ หมด) การผลติ ปุ๋ยชวี ภาพเพื่อจำหน่าย - 20 -

กรมควบคุมมลพิษ ยังระบุข้อมูลสำคัญเพิ่มเติมว่า ปริมาณขยะอินทรีย์หรือขยะย่อยสลายได้ เป็นประเภทขยะมากท่ีสุด มีอัตราส่วนถึง 64% หากกำจัดผิดวิธีหรือกำจัดได้ไม่หมดจะสร้างปัญหาตามมา เช่น น้ำชะขยะปนเปื้อนดิน ส่งกลิ่นเหม็นเน่า ทำลายทัศนียภาพ และก่อให้เกิดความรำคาญใจได้ ฉะนั้น หากสามารถลดปริมาณขยะประเภทน้ีลงได้ จะช่วยลดปริมาณขยะมูลฝอยรวมตามลงไปด้วย และวิธีหน่ึง ท่ีจะกำจดั ขยะประเภทน้ี กค็ ือการนำไปทำเปน็ ปุ๋ยหมกั สำหรับบำรุงดินและปลูกต้นไม้ ปุ๋ยหมักชีวภาพจากเศษอาหาร เศษอาหารที่จะนำไปทำปุ๋ยหมักชีวภาพหากมีเฉพาะท่ีเป็นพืชจะไม่มี ปัญหาใดใด เพราะเวลาเน่าจะมีกลิ่นเหม็นไม่รุนแรงสามารถนำไปคลุกกับปุ๋ยมูลสัตว์ในรางทำปุ๋ยหมักได้ทันที ถ้ามีเนื้อสัตว์ปนอยู่ด้วยจะมีกล่ินเหม็นรุนแรง สำหรับบางครัวเรือนท่ีมีเศษอาหารปริมาณน้อยและต้องการทำ ปยุ๋ หมกั จำเปน็ ตอ้ งทำรางหมักหรอื หลุมหมัก ถ้าหมักในถงั จะมีข้อจำกดั ที่เตม็ เรว็ การผลติ ป๋ยุ ชวี ภาพเพอื่ จำหนา่ ย - 21 -

กจิ กรรมทา้ ยบทท่ี 1 1. บอกความหมายและประโยชนข์ องป๋ยุ ชีวภาพมาพอสังเขป …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… การผลิตปยุ๋ ชวี ภาพเพื่อจำหน่าย - 22 -

2. ปยุ๋ พืชสดจำแนกตามการใชป้ ระโยชน์ ไดอ้ ยา่ งไร (เลอื กชนิดของป๋ยุ ชีวภาพเพียง 1 ประเภท) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… การผลติ ปุ๋ยชีวภาพเพ่อื จำหน่าย - 23 -

บทที่ 2 ตลาดปุ๋ยชวี ภาพ สาระสาคัญ ตลาดปุ๋ยชวี ภาพมแี นวโนม้ ความตอ้ งการของตลเาตดิบโตอยา่ งรวดเร็วตามการเตบิ โตของความ ต้องการบริโภคสินค้าเกษตรทา่ มกลางกระแสการหนั มาบริโภคสนิ คา้ เกษตรทีม่ ีการผลติ องิ ธรรมชาติ หรอื สนิ คา้ อาหารทป่ี ลอดจากสารเคมเี พิม่ มากขึน้ ในปจั จบุ ัน ผลการเรียนร้ทู ่ีคาดหวงั 1. บอกความตอ้ งการใช้ป๋ยุ ชวี ภาพได้ 2. วิเคราะหต์ ลาดปุ๋ยชีวภาพได้ ขอบข่ายเนอื้ หา เรอื่ งที่ 1 แนวโนม้ ความต้องการของตลาดปุ๋ยชวี ภาพ เรอื่ งท่ี 2 การวเิ คราะหต์ ลาดปุย๋ ชวี ภาพ การผลิตป๋ยุ ชวี ภาพเพ่อื จำหน่าย - 24 -

เรอ่ื งที่ 1 แนวโนม้ ความตอ้ งการของตลาดปุย๋ ชีวภาพ แนวโน้มความต้องการปุ๋ยอินทรีย์เพื่อใช้ในการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์เติบโตอย่างรวดเร็วตามการ เติบโตของความต้องการบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์ ท่ามกลางกระแสการหันมาบริโภคสินค้าเกษตรที่มีการ ผลิตอิงธรรมชาติ หรือสินค้าอาหารท่ีปลอดจากสารเคมีเพ่ิมมากข้ึนในปัจจุบัน สำหรับในประเทศไทยความ ต้องการปุ๋ยอินทรีย์ยังมีมากกว่าปริมาณที่ผลิตได้ ส่งผลให้ในปัจจุบันไทยต้องมีการนำเข้าปุ๋ยอินทรีย์ ท้ังท่ี ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมซึ่งน่าจะมีปริมาณวัตถุดิบท่ีใช้ในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์เพียงพอ ดังน้ัน แนวนโยบายทสี่ ่งเสริมให้เกษตรกรหนั มาผลติ ปยุ๋ อนิ ทรีย์ใชเ้ องในระดบั ไร่นา และสง่ เสรมิ ภาคเอกชนในการผลิต ปุ๋ยอินทรีย์ในเชิงพาณิชย์ นอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้มีการนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาใช้ให้เกิด ประโยชนอ์ ยา่ งคุ้มคา่ แลว้ ยังสามารถชว่ ยลดปริมาณนำเข้าปยุ๋ อินทรีย์ ลดการใชป้ ๋ยุ เคมใี นการผลิตสินค้าเกษตร และเป็นการส่งเสริมนโยบายการขยายการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทยอีกด้วย ในอนาคตไทยน่าจะ สามารถกา้ วขึน้ ไปเป็นประเทศผ้นู ำในการส่งออกปุ๋ยอินทรยี ์และสินคา้ เกษตรอินทรียใ์ นภมู ิภาคน้ไี ดอ้ กี ด้วย ในปัจจุบนั กระแสการบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์และสินค้าเกษตรท่ีมีการผลิตเปน็ มิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ความต้องการปุ๋ยอินทรีย์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามความต้องการปุ๋ยอินทรีย์ในประเทศไทยยังมี แนวโน้มเติบโตได้อีกมากถ้าท้ังรัฐบาลและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันขจัดปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการ ขยายตวั ของความต้องการปุย๋ อนิ ทรยี ์ ดังนี้ 1.ปริมาณการใช้ปยุ๋ อินทรยี ์อยใู่ นปริมาณต่ำ เนอื่ งจากปุย๋ อินทรยี ์มธี าตอุ าหารค่อนขา้ งต่ำ เมอ่ื เปรยี บกบั ปุ๋ยเคมใี นปริมาณทเี่ ทา่ กนั การใชป้ ุย๋ อินทรยี ์เพื่อใหธ้ าตอุ าหารเพียงพอและสมดุลสำหรบั พชื หรือ เพอื่ ทดแทนปยุ๋ เคมีจึงต้องใช้ในปรมิ าณมาก ทำใหเ้ กษตรกรมีต้นทุนมากกว่าการใช้ป๋ยุ เคมี ซึ่งการแก้ไขปญั หา ดังกลา่ วรฐั บาลได้ดำเนนิ การอบรมและเผยแพร่ความรู้เพ่ือใหเ้ กษตรกรสามารถผลติ ปยุ๋ อนิ ทรีย์ข้ึนใชเ้ องจาก วัสดุในไร่นา รวมทั้งเลอื กชนิดของปยุ๋ อินทรีย์ที่จะใช้ใหเ้ หมาะสมกบั พชื และดนิ ในแตล่ ะพื้นที่ นอกจากน้รี ัฐบาล ควรสนบั สนุนให้ภาคเอกชนเข้ามามบี ทบาทในด้านการผลิตปยุ๋ อินทรยี ์เป็นการคา้ และจำหน่ายในประเทศใน ราคาทเ่ี ปน็ ธรรม ท้งั นเ้ี พอ่ื ให้เกษตรกรสามารถใช้ปยุ๋ อนิ ทรยี ใ์ นการปรับปรุงบำรุงดินได้มากยง่ิ ข้ึน อีกท้ังเปน็ การ ช่วยในดา้ นสิง่ แวดล้อมในการนำเอาวัสดุท่ีเหลอื ใช้มาทำให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจไดอ้ ีกทางหนง่ึ รวมทั้งมี การตดิ ตามรายงานราคาจำหน่ายปยุ๋ อินทรียแ์ ตล่ ะประเภททัง้ นเี้ พอื่ ให้เกษตรกรใช้เป็นราคาอ้างองิ และยงั เป็น การควบคุมราคาจำหน่ายปยุ๋ อนิ ทรีย์อกี ด้วย 2.การควบคมุ มาตรฐานของปุย๋ อนิ ทรยี ์ ผผู้ ลติ ปุย๋ อนิ ทรีย์วางจำหน่ายในทอ้ งตลาดมากมายใน ปัจจบุ ัน มีท้งั แบบเมด็ ผงและน้ำ ซง่ึ พบวา่ สว่ นหนงึ่ เปน็ ปุ๋ยอนิ ทรีย์ซ่ึงมีคณุ ภาพตำ่ ท้ังปริมาณอนิ ทรยี วัตถุ ปรมิ าณธาตุอาหารหลัก เหตผุ ลท่ที ำใหม้ กี ารผลิตและจำหน่ายปุ๋ยอนิ ทรยี ใ์ นท้องตลาดมาก เพราะการขายปุ๋ย อนิ ทรียจ์ ะมีกำไรตอ่ หนว่ ยสูงกว่าการขายปุย๋ เคมี โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงในสภาวะท่นี ำ้ มันมีราคาแพง เกษตรกรที่ ซื้อปยุ๋ อนิ ทรีย์เหล่านีห้ รอื ปุ๋ยทโ่ี ฆษณาว่าเป็นปยุ๋ ธรรมชาติต่างๆ จะไม่ทราบถงึ ความคุ้มคา่ ของราคากบั หน่วย ธาตอุ าหารพืชในป๋ยุ อินทรยี ์ หรอื แมก้ ระทง่ั ประโยชนท์ ่จี ะไดจ้ ากปยุ๋ อนิ ทรยี ท์ ีซ่ อ้ื มาใช้ ปุ๋ยอนิ ทรียเ์ หลา่ น้ีจะมี ราคาใกลเ้ คียงหรือต่ำกวา่ ปยุ๋ เคมเี ลก็ นอ้ ย แตจ่ ะมีคณุ สมบตั ิในเรอื่ งปริมาณธาตุอาหารต่ำกวา่ หรือนอ้ ยกวา่ ปยุ๋ เคมมี าก แมว้ า่ จำนวนชนิดของธาตุอาหารจะมีมากกวา่ ในปยุ๋ เคมี ดงั น้ี เพอื่ เป็นการกำหนดเกณฑม์ าตรฐาน ของป๋ยุ อินทรีย์ กรมวิชาการเกษตรจึงออกประกาศกรมวชิ าการเกษตร เรือ่ ง “ ประกาศมาตรฐานปุ๋ยอินทรยี ์ กรมวชิ าการเกษตร พ.ศ. 2548” ประกาศฉบบั น้ีมวี ัตถุประสงค์ 2 เรอื่ งคอื เพื่อควบคุมมาตรฐานปุ๋ยอินทรยี ์ และเพอื่ ไม่ใหพ้ อ่ คา้ ปุ๋ยอนิ ทรียเ์ อารดั เอาเปรียบเกษตรกร การผลิตปยุ๋ ชวี ภาพเพือ่ จำหนา่ ย - 25 -

เรือ่ งที่ 2 การวเิ คราะหต์ ลาดปยุ๋ ชีวภาพ ไม่วา่ จะมกี ารรณรงค์อยา่ งไรใหเ้ กษตรกรหันมาใสใ่ จสขุ ภาพตวั เองและผูบ้ ริโภคด้วยการหันไปใชป้ ุ๋ย อนิ ทรยี ์แทนปยุ๋ เคมใี นการทำการเกษตรก็ตาม แต่แนวคดิ น้ีกไ็ มส่ ามารถจะปรับเปล่ยี นให้เกษตรกรหนั มาใช้ปยุ๋ อินทรียไ์ ด้เท่าท่คี วร สง่ ผลให้อุตสาหกรรมปยุ๋ เคมมี มี ลู ค่าสงู ถงึ ปีละกวา่ 3 แสนล้านบาท และผคู้ รอบครองสว่ น แบง่ การตลาดกวา่ 90% ก็ยงั คงเป็นของยกั ษ์ใหญ่ไม่กีร่ าย ดว้ ยตลาดปยุ๋ เคมมี มี ลู ค่าสงู ถงึ ปลี ะกว่า 3 แสนลา้ นบาท ซึ่งขอ้ มูลจากทมี วิจัยกรงุ ศรฯี เคยคาดการณ์ไว้ วา่ ความต้องการใช้ป๋ยุ เคมีตั้งแตป่ ี 2561-2563 มีแนวโน้มเตบิ โตตอ่ เนือ่ งโดยคาดวา่ จะขยายตัวอยใู่ นช่วง 5-7% จงึ ทำให้บรรดานักธุรกจิ รนุ่ ใหม่อยากจะกระโดดเขา้ สตู่ ลาดปยุ๋ เคมที ่ียังคงมีอนาคตสดใส แต่ก็ไม่ประสบ ความสำเรจ็ เพราะปยุ๋ ท่ผี ลติ และจำหนา่ ยจะตอ้ งได้รับการข้ึนทะเบยี นถกู ต้องกบั กรมวชิ าการเกษตร ตาม พระราชบัญญัตปิ ุ๋ย พ.ศ. 2518 และพระราชบญั ญตั ิปยุ๋ ฉบบั ที่ 2 พ.ศ. 2550 อาจารยเ์ ชาวว์ ัช หนูทอง มหาบัณฑิตวิศวกรรมศาสตร์ (วิศวกรรมโยธา) มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนอื ผู้กอ่ ต้งั ศนู ย์กสกิ รรมไร้สารพิษถ่นิ ละโวธ้ านี ซึง่ เปน็ ผเู้ ชยี่ วชาญดา้ นเกษตรอนิ ทรียแ์ ละเศรษฐกจิ พอเพียง บอกว่า เร่ือง ของปุ๋ยเคมีมันเป็นตำนานมานานและเป็นทรี่ ู้กนั ในวงการเกษตรวา่ บรษิ ทั ยักษใ์ หญ่ 5 รายได้ยดึ คมุ ตลาด ปุ๋ยเคมีทีม่ ีมลู คา่ สูงถึง 3 แสนล้านบาทไปแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มเจยี ไต๋ และกลมุ่ ไทยเบฟฯ ได้ส่วนแบ่งไปมากทส่ี ุด ดังนนั้ ใครท่ีคิดจะเขา้ สธู่ รุ กิจนจ้ี งึ เปน็ เรอ่ื งทีย่ ากมาก และทวี่ า่ ยากนนั้ มอี งค์ประกอบชัดเจนตั้งแต่เรือ่ งของทนุ ต้องหนาเหตุผลทีต่ ้องมที ุนหนาหรอื สายปา่ นยาว เพราะการท่ีปยุ๋ แบรนดใ์ หมท่ เ่ี ป็นของรายใหมเ่ ลยนนั้ จะเข้าไป แทรกตลาดที่ถกู ยดึ ครองไวเ้ ปน็ เรือ่ งท่ยี ากมาก ยกตวั อยา่ งชดั ๆ การเอาปยุ๋ เขา้ ส่หู น่วยราชการที่จะใช้วิธกี าร ประมูล หรอื ไปให้ ธ.ก.ส.หรอื สหกรณ์ต่างๆ ตอ้ งรูไ้ ว้ว่า หนว่ ยงานตา่ งๆ น้นั มเี สน้ สายหรือผลประโยชนก์ ันอยู่ แลว้ อาจจะเปน็ กระสอบละ 5 บาท 10 บาท หากรายใหม่คิดจะเขา้ ไปแทรกก็ตอ้ งมีการอัดผลประโยชน์ให้หนัก กวา่ เดมิ “เช่น ตรามงกุฎ ของเครอื ไทยเบฟฯ ที่เพงิ่ จะเข้าสตู่ ลาดป๋ยุ ไดง้ า่ ย เพราะเคา้ มีเงนิ ทุน ไม่รู้ กแี่ สน ลา้ น เค้าสามารถดัมปร์ าคา ขาดทนุ กย็ ังได้ เพอื่ จะได้ลกู คา้ กอ่ น ตอนแรก เค้าขายขาดทนุ สองพนั สาม พนั ล้านก็ไม่เปน็ ไร เพราะตอ้ งการสรา้ งชือ่ เสยี งให้เปน็ ท่ีรจู้ ักกอ่ น แต่รายใหมท่ ี่คิดจะเข้ามาสามารถทำได้ อยา่ งไทยเบฟฯ หรือไม”่ ตรงนจี้ งึ เป็นเร่ืองของทุน และการตลาดดว้ ยวา่ รายใหมๆ่ จะสามารถเจาะตลาดหรอื หาลกู คา้ ไดห้ รือไม่ ทัง้ นี้วงการปยุ๋ เคมีจะเริม่ ต้งั แต่ผ้นู ำเขา้ แม่ปยุ๋ ผผู้ ลิตปยุ๋ ผสม ตัวแทนยปี่ ว๊ั รา้ นคา้ ตวั แทนใน พ้ืนท่ีต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านีต้ ้องใช้เงนิ กอ้ นใหญ่ สง่ั สินคา้ เตม็ ลำเรอื เปน็ หมืน่ เปน็ แสนตัน กต็ อ้ งใชเ้ งินเป็นพันล้าน ดังน้ันผ้นู ำเขา้ แม่ปยุ๋ จึงต้องเปน็ รายใหญ่ ทนุ หนาเทา่ นน้ั ท่จี ะทำได้ เมื่อนำเขา้ แม่ปุ๋ยมาแล้ว มาผลติ เป็นปุ๋ยเคมี ผสม สูตรตา่ งๆ ภายใตแ้ บรนดต์ ่างๆ ซึง่ ยกั ษใ์ หญ่แต่ละรายจะมหี ลายแบรนด์ หลายสูตร ท่จี ะใชใ้ นการเจาะ ตลาด และเพอื่ ใหเ้ ขา้ ถงึ เกษตรกรผ้ใู ช้จรงิ ๆ จงึ ตอ้ งมรี ายย่อยถงึ ระดับอำเภอ และตอ่ ไปถงึ หมู่บา้ น แตล่ ะรายก็ จะมีกำไรเป็นทอดๆ กันไป แต่ในความเป็นจริงกวา่ จะผลิตออกมาขายได้น้นั ยงั ตอ้ งมีขั้นตอนของการขึ้น ทะเบยี นกับกรมวิชาการเกษตร ตามพระราชบัญญตั ิปุ๋ย พ.ศ. 2518 และพระราชบญั ญัตปิ ๋ยุ ฉบบั ท่ี 2 พ.ศ. 2550 ซง่ึ หากผปู้ ระกอบการรายใหม่ทำถกู ต้องตามที่กฎหมายกำหนดไว้ กไ็ ม่ใช่เร่ืองยากท่ีจะขึน้ ทะเบียน เพราะเรื่องปุ๋ยเคมีน้ันมโี ทษหนักหากไมไ่ ดต้ ามมาตรฐาน อาจารย์เชาว์วัช บอกวา่ ในความเปน็ จรงิ และรู้กนั ในวงการปุย๋ เคมียงั มีเรอ่ื งของสายสัมพนั ธ์ท่ี ผู้ประกอบการและเจา้ หนา้ ทรี่ ัฐมีสว่ นร้เู ห็นกนั และเปน็ เหตุผลสำคญั ทร่ี ายใหมเ่ ขา้ สู่ตลาดยากเช่นกัน การผลติ ป๋ยุ ชวี ภาพเพื่อจำหน่าย - 26 -

“ถ้าเจ้าหนา้ ทีไ่ ปตรวจแบรนด์น้พี บว่าไม่ได้มาตรฐานมคี วามผิดหนกั แต่จรงิ ๆ ร้กู ันอยู่ภายในว่าถา้ แบรนดน์ ี้เสนอมาต้องตรวจใหผ้ ่านนะ เพราะรู้วา่ เปน็ ของรายใหญ่ พดู งา่ ยๆ เขามคี นของเขาอยขู่ า้ งในแลว้ แตถ่ ้าเปน็ รายใหม่ ก็จะเจอแจก็ พอต ซ่ึงมโี ทษรุนแรงหากไม่ไดม้ าตรฐาน เพราะเรอ่ื งปุ๋ยเปน็ ปัจจยั พน้ื ฐาน ของเกษตกร ถ้าหากไมไ่ ด้คณุ ภาพก็จะทำใหเ้ กษตรกรได้รับความเดอื ดร้อนเสยี หายได้” อยา่ งไรก็ดี การจะ ดำเนินธุรกิจผลติ และขายปยุ๋ ท้งั เคมีและอินทรยี ์ได้นัน้ ต้องมีใบอนุญาตขาย ใบอนญุ าตผลติ มีโรงงาน ซง่ึ ทุก ข้ันตอนกวา่ จะผ่านตอ้ งใชร้ ะยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี ถงึ จะเริม่ ขายได้ อกี ทงั้ ตอ้ งมเี ครือ่ งหมายการคา้ และแบ รนด์สนิ คา้ กต็ ้องให้กระทรวงพาณิชยร์ ับรองจึงจะออกสตู่ ลาดได้ ด้านแหล่งขา่ วจากวงการคา้ ปุย๋ เคมี บอกวา่ ทกุ วนั นีแ้ บรนด์ตา่ งๆ ท่ีเป็นของยกั ษ์ใหญซ่ งึ่ แตล่ ะรายจะมี หลายแบรนดแ์ ละหลายสตู ร NPK ชนดิ ตา่ งๆ ซึง่ ก็เป็นทีร่ กู้ นั อยู่ว่าปุ๋ยในถงุ ไม่ได้เป็นไปตามทเี่ ขยี นไว้หน้าถุง เมอ่ื เจา้ หน้าที่ไปตรวจกลับไมม่ กี ารจบั กุมใดๆ แต่จะไลต่ รวจและจับกุมแบรนด์ท่ไี มใ่ ชข่ องยักษ์ใหญ่ ซ่ึงเร่ืองน้ีสรา้ ง ความปัน่ ปว่ นในวงการคา้ ปุ๋ยเคมเี ชน่ กนั ขณะที่ อาจารย์เชาว์วัช บอกว่า เรอ่ื งของเคมีจะมี 2 ส่วนคอื สารเคมี กับปยุ๋ เคมี ซ่งึ สารเคมีจะมี 2 กลมุ่ คือสารกำจัดแมลงและกำจัดวัชพืช ซ่งึ เป็นอนั ตรายแน่นอนทกี่ ำลัง ตอ่ ต้านกันอยู่ขณะน้คี อื สารพาราควอต มีผลต่อร่างกายทำใหเ้ จบ็ ป่วยและเปน็ มะเร็ง สว่ นป๋ยุ เคมยี ังอนุโลมได้ เพราะไมถ่ ึงกบั อนั ตรายมากนกั เพราะเปน็ ธาตุอาหารพชื แต่ถ้าใส่มากดนิ เสยี ความเป็นพิษจะมีไม่เยอะ“จรงิ ๆ ถ้าเป็นเกษตรปลอดสารพิษ 80-90% ยังใช้ปยุ๋ เคมผี สมอินทรียบ์ า้ ง เพราะยังตอ้ งการธาตอุ าหาร อนิ ทรีย์ วตั ถุ ชว่ ยโครงสรา้ งดนิ โปรง่ โลง่ ซุย ถ้าเราใสแ่ คป่ ๋ยุ เคมอี ยา่ งเดียว มนั กจ็ ะทำให้ไม่ได้ผล ดินก็จะแขง็ ไป เรอื่ ยๆ แตถ่ า้ ใส่ผสมผสานกนั ไป ทัง้ เคมี และอินทรยี ์ ก็จะใหผ้ ลดที ี่สดุ เหมอื นทน่ี กั วชิ าการพูดกนั ” แต่ สว่ นตวั อาจารย์เชาวว์ ัช มจี ุดยนื ทเ่ี กษตรอนิ ทรีย์ ก็จะไมใ่ ชป้ ยุ๋ เคมี ซ่ึงการเปิดตลาดอนิ ทรีย์แม้จะไดร้ าคาดี แต่ ผลผลติ จะน้อยลง สว่ นความปลอดภัยจะสูงตามไปด้วย กข็ ้นึ อยกู่ บั ว่าเกษตรกรจะเลอื กแนวทางใด ซึ่งทกุ วันนี้ ปุ๋ยอนิ ทรยี ส์ ามารถไดส้ ่วนแบ่งตลาดป๋ยุ เคมีมาได้เพียง 10% ทเี่ หลอื อีก 90%ปุย๋ เคมยี งั คงยึดครองไปท้ังหมด หากจะเปรียบเทยี บระหวา่ งปุ๋ยเคมแี ละปยุ๋ อนิ ทรียแ์ ล้วเกษตรกรยงั เห็นวา่ ป๋ยุ เคมตี อบสนองทนั ใจ จึงยงั อยาก ใชอ้ ยู่ และหากใครตอ้ งการจะเข้าสู่ธุรกจิ ผลติ ปยุ๋ อนิ ทรยี ใ์ นเวลาน้ีถอื วา่ จะต้องเหน่ือยพอสมควร เพราะ 2-3 ปที ี่ ผา่ นมาตลาดเริ่มซบเซาลงมาก แตต่ ้นทนุ ในการผลิตปุย๋ อินทรียไ์ ม่สูงเท่าและมีจดุ ขาย มภี าพลักษณ์ดีกวา่ ปยุ๋ เคมี “ปุ๋ยเคมใี หผ้ ลผลติ ทนั ใจ แตท่ ำใหด้ นิ เสีย ทำใหด้ นิ เป็นกรด สว่ นปยุ๋ อนิ ทรียเ์ หน็ ผลชา้ หนอ่ ยแตด่ ินจะดีขนึ้ แต่ถา้ จะมองถึงความถกู ความแพงทีเ่ กษตรกรจะได้ พบว่าจรงิ ๆ แล้วปุ๋ยอนิ ทรยี ์ถูกกว่าในแงข่ องราคาต่อ ตัน แต่ถา้ วเิ คราะหถ์ ึงราคาตอ่ ธาตอุ าหาร ปุ๋ยอินทรยี ์แพงกว่า” อาจารย์เชาว์วัช บอกอกี ว่า ทศิ ทางใหมข่ องเกษตรกรรมประเทศไทย จะเคล่ือนย้ายไปใชป้ ุ๋ยชีวภาพ ซ่งึ จะมีความต่างกบั ปุ๋ยอนิ ทรีย์ และเปน็ การตอ่ ยอดจากปุ๋ยอินทรียท์ ่ีเนน้ ธาตุอาหาร เนน้ อนิ ทรีย วัตถุ แต่ปุย๋ ชีวภาพจะเน้นเรือ่ งสง่ิ มีชีวิต การเพิ่มธาตุอาหารในดนิ โดยการสร้างไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซยี ม ซึ่ง จะเปน็ ถงุ เล็กๆ และอาจจะมกี ารปรบั ไปสู่การเป็นแคปซลู แบบนาโน ซึง่ จะให้ผลตอบแทนทดี่ ีกวา่ “ปยุ๋ ชวี ภาพ จะมีตัวทสี่ รา้ งไนโตรเจน อะโซโตรแบคเตอร์ หรอื ตวั ไมคอรไ์ รซา ตวั ทีส่ ลายฟอสฟอรัสในดิน ซึ่งตอนน้ี เร่มิ มีบทบาทและทำการตลาดไดเ้ ยอะ ทำง่าย แตต่ อ้ งมีการลงทนุ ห้องปฏบิ ัตกิ าร หอ้ งแลบ็ มีนักจลุ ชวี ะ เขา้ มาเกยี่ วขอ้ ง สร้างอาคารสถานท่ี ไม่เกนิ 10 ลา้ นบาท และยงั มตี น้ ทุนการขนสง่ ทนี่ ้อยกว่าป๋ยุ เคมแี ละ อนิ ทรียม์ าก” สำหรับปยุ๋ ชวี ภาพน้นั ปัจจบุ ันกรมวิชาการเกษตรได้จดั ทำโมเดลต้นแบบไว้เรยี บรอ้ ยแล้ว และ บริษัทปยุ๋ เคมรี ายใหญ่ยังไม่ไดเ้ ข้ามาลงทุนดา้ นนี้ หากใครสนใจสามารถไปติดต่อได้ทีก่ รมวชิ าการเกษตร ซึ่งเชื่อ วา่ ปุ๋ยชีวภาพ จะเข้ามาแย่งส่วนแบง่ ทางการตลาดของปยุ๋ เคมีไดอ้ กี ประมาณ 10% เมอื่ รวมกับปุ๋ยอนิ ทรีย์ กจ็ ะ ทำให้ปุ๋ยเคมคี รองตลาดเพียง 80% เท่านน้ั การผลิตปุย๋ ชีวภาพเพอื่ จำหน่าย - 27 -

กิจกรรมท้ายบทที่ 2 คำชี้แจง : ใหผ้ เู้ รยี นโยงเสน้ เชือ่ มความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งกลุ่ม A และกลุ่ม B กลมุ่ A กลุ่ม B 1.ประกาศมาตรฐานปุ๋ยอนิ ทรยี ์กรมวชิ าการเกษตร พ.ศ. 2548 ก.มูลสตั ว์ 2. จดทะเบียนโรงงานผลิตปยุ๋ อินทรยี ์เชิงพาณิชย์ ข. ฟางข้าว 3. ปุ๋ยคอก ค. ชนิดของเช้ือจลุ ินทรีย์ 4. ปุ๋ยหมักอตุ สาหกรรม ง. ไนโตรเจน 5. การปลูกพชื บำรุงดนิ จ. ควบคมุ มาตรฐานปุ๋ยอนิ ทรยี ์ 6. ป๋ยุ หมักเทศบาล ฉ. กระทรวงอตุ สาหกรรม 7. ป๋ยุ หมักในไร่นา ช. โรงงานผลิตสุรา 8. ไรโซเบยี ม ซ. ปุย๋ พืชสด 9. ธาตุอาหารหลกั ฌ. ปรับปรุงดินทางชีวภาพ 10. ปยุ๋ ชวี ภาพ ญ. ขยะประเภทเศษพชื เศษอาหารเขา้ โรงหมัก ฎ. บริโภคสินค้าเกษตร การผลิตปุ๋ยชีวภาพเพอ่ื จำหน่าย - 28 -

บทท่ี 3 ขัน้ ตอนการผลิตปุย๋ ชวี ภาพ สาระสำคัญ ป๋ยุ ชีวภาพ คือ สารธรรมชาตทิ ไ่ี ด้จากกระบวนการหมักบ่ม วตั ถดุ บิ จากธรรมชาตติ า่ ง ๆ ท้งั พืช และสตั วจ์ นสลายตัวสมบรู ณ์เปน็ ฮวิ มัส วิตามิน ฮอร์โมน และสารธรรมชาตติ ่าง ๆ (ดินปา่ ) ซง่ึ เปน็ ทั้งอาหาร ของดิน (สิง่ มชี ีวติ ในดิน) ตวั เร่งการทำงาน (catalize) ของสง่ิ มชี วี ติ เลก็ ๆ ทีอ่ าศัยอยใู่ นดิน และอาศัยอยู่ปลาย รากของพืช (แบคทีเรีย แอคติโนมัยซิส และเชอื้ รา ฯลฯ) ที่สามารถสร้างธาตุอาหารกวา่ 93 ชนดิ ใหแ้ ก่ พชื ภายใตห้ ลกั การกสิกรรมธรรมชาตทิ วี่ ่า “เล้ียงดนิ เพอื่ ให้ ดนิ เลี้ยงพืช” ผลการเรียนร้ทู ่ีคาดหวงั 1. อธบิ ายขนั้ ตอนการผลติ ปยุ๋ ชวี ภาพสูตรบำรงุ ใบได้ 2. อธิบายขัน้ ตอนการผลติ ปุ๋ยชวี ภาพสตู รบำรงุ ลำตน้ ได้ 3. อธิบายขนั้ ตอนการผลิตปุ๋ยชวี ภาพสตู รบำรงุ ดอกได้ 4. ผลิตป๋ยุ ชีวภาพสตู รบำรงุ ใบ บำรงุ ลำตน้ และบำรงุ ดอกได้ ขอบขา่ ยเนอ้ื หา เร่อื งที่ 1 การผลิตป๋ยุ ชีวภาพสูตรบำรุงใบ เรอื่ งท่ี 2การผลติ ป๋ยุ ชวี ภาพสตู รบำรุงลำตน้ เรอื่ งท่ี 3 การผลิตปุ๋ยชีวภาพสตู รบำรงุ ดอก การผลติ ปุ๋ยชีวภาพเพ่ือจำหน่าย - 29 -

เรื่องที่ 1 การผลติ ปยุ๋ ชวี ภาพสูตรบำรงุ ใบ 1. น้ำหมกั สมนุ ไพร สว่ นผสม : หางไหล บอระเพด็ หนอนตายยาก ตะไครห้ อม เปลอื กสะเดาหรือใบแก่ สาบเสอื ยาสบู (ก้าน หรือ ใบสด ใช้อย่างใดอย่างหน่ึงกไ็ ด)้ วธิ ที ำ : นำส่วนผสมมาสบั ให้ละเอยี ดใสใ่ นโองหรือถงั ใส่นำ้ ให้ทว่ มฝามือ (30 - 50 ลติ ร) จากน้ันใส่เหล้าขาว 1 ขวด ตามดว้ ยหัวน้ำสม้ 150 ซี.ซี. (ถ้าไม่มีใสผ่ ลมะกรูด หรือมะนาวผา่ ซีก 2 ลกู ) หากมีกล่นิ เหม็นใหใ้ ส่ กากนำ้ ตาล หมกั ไว้ 7 วัน สามารถนำไปใช้ได้ การใช้ประโยชน์ : ขบั ไลห่ นอนใย หนอนกระทู้ เพล้ยี อ่อน และป้องกนั กำจดั โรคเน่า โรคใบไหม้ในผกั บางชนิด 2. ปุ๋ยหมกั ชวี ภาพสูตรเร่งรดั (3 วนั ) สว่ นผสม : 1.มูล (วัว, เปด็ , หมู) 1 ป๊ีบ 2.ขีเ้ ถา้ แกลบ 1 ปบ๊ี 3.รำละเอียด 1 ก.ก. 4.นำ้ หมกั ชวี ภาพ 50 -100 ซ.ี ซี. ตอ่ น้ำ 20 ลิตร วิธที ำ นำส่วนผสม มาคลุกเคลา้ แล้วนำนำ้ หมัก มารดให้ได้ ความช้นื 50% สังเกตไดจ้ ากกำมอื แล้วแบออก ปุ๋ยจะคอ่ ยๆ แตกตัวออก ถ้าใช้ถงุ พลาสตกิ คลุมหรอื ใช้กระสอบปุย๋ หมกั จะสามารถนำปุ๋ยไปใชไ้ ดเ้ ร็วขน้ึ ปยุ๋ ท่จี ะ นำไปใชต้ อ้ งหมดความร้อนกอ่ น การใช้ประโยชน์ : แก้ปัญหาดนิ เสือ่ มสภาพในแปลงผักโดยใสป่ ุ๋ยหมกั ชวี ภาพ 1 ตนั ตอ่ ไร่ (40 กระสอบ) หรอื ใช้ นำ้ หมกั ชวี ภาพ ฉดี พน่ ทางใบ อัตรา 30-40 ซี.ซี. ตอ่ นำ้ 20 ลติ ร ทุกๆ 5 วัน หรือใชท้ างดิน อัตรา 100 ซ.ี ซี. ต่อ นำ้ 20 ลติ ร ปลอ่ ยตามท้องร่อง สตู รนส้ี ามารถบำรงุ ราก, บำรุงใบ, ดอก, ผลไม้ไดด้ ,ี เพิม่ แคลเซียมให้ผลไม้ และสามารถ ทำใหผ้ ลไม้ ออกนอกฤดกู าลได้ ไร้สารเคมตี กคา้ ง และยงั สามารถใชไ้ ด้กบั พืชผกั ผลไมท้ ุกชนดิ สูตรจุลินทรีย์หนอ่ กลว้ ย ใชฉ้ ีดพน่ เร่งการแตกใบ ส่วนผสม 1. หนอ่ กลว้ ย 3 กิโลกรมั 2. กากน้ำตาล 1 กโิ ลกรัม วธิ กี ารทำ สบั หน่อกล้วยให้ละเอยี ด ใสล่ งในถังหมกั พร้อมกากน้ำตาล ปิดฝาถงั หมัก ทำการคนคลกุ เคลา้ ทกุ ๆวนั หมักไว้ 7 วัน นำมาฉดี พน่ เพ่อื เรง่ การแตกใบ อตั รา 2 ชอ้ นโต๊ะ + น้ำเปล่า 20 ลติ ร การผลติ ปยุ๋ ชีวภาพเพ่อื จำหน่าย - 30 -

ฮอรโ์ มนผกั ใบสำหรบั เร่งโต สิ่งที่ตอ้ งเตรยี ม ▪ ถั่วเหลอื ง 1 กโิ ลกรมั ▪ สับปะรด 2 กโิ ลกรัม ▪ น้ำตาล 3 กิโลกรมั ▪ ยาคลู ท์ 2 ขวด ▪ น้ำมะพร้าวอ่อน 4 ลกู ▪ น้ำเปล่า 10 ลิตร ▪ จุลินทรยี ห์ นอ่ กลว้ ย 1 กิโลกรมั วิธีทำ 1. นำถัว่ เหลอื งมาแช่นำ้ 1 คืน 2. หัน่ สับปะรดทัง้ เปลือก จากนน้ั นำใสเ่ ครอ่ื งปั่นพรอ้ มถัว่ เหลอื ง เสร็จแล้วเทใสถ่ งั พร้อมใส่สว่ นผสมท่ี เหลือท้งั หมด 3. ปิดฝาถัง วางไวใ้ นท่ีรม่ โดยชว่ ง 7 วนั แรก ใหเ้ ปดิ ฝาคนวันละคร้ัง 4. พอครบ 1 เดอื น นำสิ่งที่หมกั ไว้ออกมาปน่ั ใหเ้ ขา้ กนั 5. ใช้ผ้าขาวบางกรองนำ้ แลว้ เกบ็ ใสข่ วดไว้ใช้ ส่วนกากท่เี หลอื ก็สามารถนำไปทำปุ๋ยหมกั ตอ่ ได้ วธิ ใี ช้ ▪ ใหผ้ สมฮอรโ์ มนผักใบ 2 ช้อนโตะ๊ ตอ่ นำ้ 5 ลิตร รดพชื ผักอาทติ ยล์ ะ 2 ครั้ง การผลติ ปุ๋ยชีวภาพเพ่อื จำหนา่ ย - 31 -

เรอ่ื งท่ี 2 การผลิตปุ๋ยชีวภาพสตู รบำรงุ ลำต้น น้ำสกดั ชีวภาพ เปน็ สารละลายสีนำ้ ตาลข้นท่ีได้จากการย่อยสลายของเซลลพ์ ชื หรือเซลล์สตั ว์โดยผา่ น กระบวนการหมกั ของจลุ นิ ทรยี ท์ ี่ต้องการออกซิเจน และไมต่ อ้ งการออกซิเจน ดว้ ยการเตมิ กากน้ำตาลหรือ น้ำตาลทราย ใหเ้ ป็นแหล่งพลงั งานของจุลินทรีย์ทีท่ ำหน้าทยี่ อ่ ยสลาย ซ่ึงมจี ลุ ินทรีย์ในกลุม่ แบคทีเรีย กลุม่ เชอ้ื รา และกลมุ่ ยสี ต์ ในนำ้ สกดั ชวี ภาพทีผ่ ่านกระบวนการย่อยสลายสมบรู ณแ์ ล้ว จึงประกอบดว้ ย จลุ ินทรียห์ ลาย ชนดิ และสารประกอบจากเซลล์สัตว์ ได้แก่ คารโ์ บไฮเดรต โปรตนี กรดอะมโิ น ธาตุอาหาร เอน็ ไซม์ และ ฮอรโ์ มนพชื ในปรมิ าณท่แี ตกต่างกนั ข้นึ อยู่กบั วัตถุดบิ ทีน่ ำมาใชท้ ำนำ้ สกดั ชวี ภาพ สตู รตา่ ง ๆ เปน็ ภูมิปญั ญาท้องถน่ิ ท่นี ำวตั ถดุ บิ ซึ่งมีและหาง่ายในท้องถน่ิ มาใชป้ ระโยชน์ ได้แก่ พืชผกั สด เชน่ ผักบุ้ง กวางตุ้ง คะน้า ผกั กาดขาว และตำลึง ฯลฯ ผลไมส้ ุก เช่น กล้วยน้ำวา้ มะละกอ และฟกั ทอง ฯลฯ ผลไมด้ บิ เชน่ กลว้ ยน้ำวา้ ดบิ มะละกอดบิ ฯลฯ สมนุ ไพรกลน่ิ ฉนุ หรือมีรสเผ็ด เช่น สาบเสอื ขงิ แก่ ตะไครห้ อม พรกิ ไทย กระเพรา เหงา้ กระชาย ดีปลี พริกลกู ล้าโพง ใบสะเดาแก่ ใบและผลเทียนทอง ฯลฯ สมนุ ไพรรสขมหรือรสฝาด เชน่ เปลอื กตน้ แค เปลอื กต้นขอ่ ย เปลือกตน้ หว้า เปลอื กมังคดุ เปลือกเงาะ เปลอื ก ทบั ทิม ใบขาไก่ ใบยคู าลปิ ตสั กระเทยี ม กานพลู ชะพลู กล้วยดิบ ลกู ตะโกดิบ ลูกมะพลับดิบและลกู หมาก บอระเพด็ ฯลฯ วธิ ีการทำน้ำหมัก นำ้ สกดั ชวี ภาพปลาสด หรอื หอยเชอร่ี (สตู รบำรุงตน้ ) สว่ นผสมนำ้ หมกั น้ำสกดั ชวี ภาพปลาสด หรอื หอยเชอร่ี (สตู รบำรุงต้น) -ปลาสด หรือหอยเชอร่ี 1 กโิ ลกรมั -กากนำ้ ตาล 1 กโิ ลกรัม การผลิตปยุ๋ ชีวภาพเพือ่ จำหน่าย - 32 -

วิธีทำน้ำสกัด ชวี ภาพปลาสด หรอื หอยเชอร่ี (สตู รบำรงุ ต้น) 1. ใหน้ ำวัตถุดบิ มาสับ บด โขลก หรือหน่ั เป็นชิ้นเลก็ ๆ 2. บรรจุลงภาชนะ 3. เตมิ กากน้ำตาล คนหรอื คลุกเคลา้ ให้เข้ากัน ปดิ ฝาภาชนะ หมกั ไว้อยา่ งน้อย 1 เดือน ระหว่างหมัก ให้หมนั่ คนสว่ นผสมทกุ วนั น้ำสกัดชวี ภาพท่ดี ีจะมกี ลิน่ หอม หากมกี ลนิ่ เหมน็ หรอื บูดเน่า ให้เตมิ กากนำ้ ตาลหรือนำ้ ตาลทราย แดง แล้วคนให้เขา้ กนั ทิง้ ไว้ 3-7 วนั กล่ินเหม็นหรือบดู เน่าจะหายไป การนำน้ำหมกั นำ้ สกดั ชวี ภาพปลาสด หรอื หอยเชอร่ี (สูตรบำรุงตน้ ) ใช้กับพชื ผกั และไมผ้ ล บำรุงตน้ กอ่ นออกดอกฉีดพน่ ทางใบ หรือดลลงดนิ รอบบริเวณโคนตน้ อัตรา 30-50 ซซี ีตอ่ น้ำ 20 ลติ ร ทกุ 5-7 วัน ถา้ โพสนีม้ ปี ระโยชน์ โปรแชร์ต่อ ไปยังกล่มุ เกษตรต่างๆ เพื่อเปน็ ประโยชนต์ อ่ สาธารณะแก่ผูพ้ บเห็น การทานำ้ หมกั ชีวภาพจากปลา วสั ดอุ ปุ กรณ์ 1. เศษปลา ขป้ี ลา หัวปลา 30 กิโลกรมั 2. กากนำ้ ตาล 10 ลิตร 3. น้ำหมกั ชวี ภาพ 1 ลิตร 4. นำ้ เปล่า 15 ลิตร 5. ถงั พลาสติกทบึ แสง ขนาด 100 ลติ ร 1 ใบ วธิ ที า นําเศษปลามาใส่ในถงั ตามตวั ยกากนำ้ ตาลคนใหเ้ ข้ากัน ปดิ ฝาทง้ิ ไวป้ ระมาณ 2-3 วนั เปดิ ฝาคนอีก คร้ัง จนกวา่ จะไมม่ ีกล่นิ เหม็น (ประมาณ 45 วัน) จากนั้นให้หมักทงิ้ ไวป้ ระมาณ 3 เดือน สามารถนําไปใช้ได้ ใช้ กับไมผ้ ลในอัตรา 1 ลิตรตอ่ น้ำ 50 ลิตร รดโคนตน้ ทุกๆ 15 วัน จะช่วยให้ลาํ ตน้ แขง็ แรง สตู รท่ี 1 สูตรเรง่ การเจรญิ เตมิ โตของลำต้น ส่วนผสม 1 สว่ น 1. กากน้ำตาล 1 สว่ น 2. หน่อกลว้ ย 1 สว่ น 3. หนอ่ ไม้ 1 ส่วน 4. ยอดผกั บุง้ การผลิตปุย๋ ชีวภาพเพื่อจำหนา่ ย - 33 -

เทคนคิ วิธี ขน้ั ตอนการหมกั • สว่ นผสมที่ 2 - 4 ใหเ้ ก็บในตอนเชา้ กอ่ นพระอาทิตยข์ ้ึน • หา้ มล้างนำ้ • การขดุ หน่อกล้วย ใหม้ โี คนติดมาด้วย (ตดั สว่ นใบทิ้ง) • ใหห้ ั่นสว่ นผสมตามขวาง ช้ินละประมาณ 1 นว้ิ • นำสว่ นผสมทหี่ ั่นแลว้ ใส่ลงในภาชนะทีม่ ีฝาปดิ (ไมเ่ ป็นโลหะ) • ราดด้วยกากนำ้ ตาลให้ทั่ว • ปิดฝาทีง้ ไว้ประมาณ 1 เดอื น เตมิ น้ำ 1 สว่ น คนให้ท่ัว • ทิ้งไวป้ ระมาณ 1 เดอื นนำมากรองด้วยผา้ ขาวบาง แยกกากไปทำปุย๋ หมัก สว่ นทเ่ี ปน็ น้ำนำมาใช้ได้ วิธีการใช้ ใชน้ ้ำหมกั ในอตั รา 20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพน่ ข้าวอายุตัง้ แต่ 2 เดอื นข้ึนไป ทกุ 7 - 15 วัน ในช่วง เช้าหรือเยน็ จะช่วยการเจริญเติมโตของตน้ ขา้ วทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี การผลิตปุ๋ยชีวภาพเพ่อื จำหน่าย - 34 -

เร่อื งที่ 3 การผลิตปยุ๋ ชวี ภาพสูตรบำรงุ ดอก คำวา่ \"ฮอรโ์ มนไข\"่ ในวนั นไี้ ม่มีผ้คู นในแวดวงการเกษตรคนใดไมร่ ้จู ักสูตรทใี่ ช้ในการผลติ ตลอดจนวิธีการนำไปใช้ประโยชนท์ างการเกษตร ซ่งึ วนั นรี้ กั บา้ นเกดิ จะเจาะลึกเร่อื งไข่ๆ และฮอร์โมนไข่ให้ได้ ทราบกันว่ามีดอี ย่างไร ทำไมเอาไปบำรุงพืชอะไรก็งอกงาม ใหส้ ตั วก์ ินกแ็ ข็งแรง ซงึ่ เหมารวมไปถึงการนำมาใช้ บำรงุ สขุ ภาพในคนเราได้อีกดว้ ยเพราะในไข่นนั้ มีคณุ ประโยชนท์ ีไ่ มธ่ รรมดา ประโยชน์ของไข่ : ภายใต้เปลอื กอันบอบบางของไขไ่ ก่ 1 ฟองน้ันอดุ มไปดว้ ย ส่ิงทมี่ ปี ระโยชน์มาก หลาย โดยเฉพาะโปรตนี สมบูรณ(์ Complete Protein) อดุ มไปด้วยกรดอะมโิ นจำพวกซัลเฟอร์ ท่จี ำเปน็ ต่อการ สร้างเซลล์ร่างกาย ไม่ว่าจะเปน็ เลบ็ ผวิ หนัง ผม และยังมวี ิตามนิ เอ, ด,ี อ,ี เค,กำมะถัน,โซเดยี ม,โพแทสเซียม, แคลเซียม,แมกนเี ซียม และ เหลก็ ล้วนดีต่อการเจริญของเซลลพ์ ืชและสัตว์ ซึง่ โปรตีนทมี่ อี ยู่ในไข่นัน้ มคี ณุ ภาพดี เทียบเคียงกบั โปรตนี ในเน้อื สัตว์เลยล่ะ ฮอร์โมนไข่มีดีอยา่ งไร : เมื่อเรานำไขไ่ กห่ รือไข่เปด็ มาใชป้ ระโยชน์ทางการเกษตร หรอื แมแ้ ตเ่ พือ่ ประโยชน์ดา้ นการบำรุงร่างกายคนและสตั ว์ จำตอ้ งผ่านกระบวนการหมกั เพื่อใหเ้ กดิ การปลดปลอ่ ยหรือย่อย สลายโปรตีนให้เปน็ กรดโปรตนี อนั เป็นหนว่ ยเลก็ ที่สุด ใหร้ า่ งกายคนสัตว์หรือพชื ดูดซมึ ไปใชป้ ระโยชน์ไดท้ นั ที โดยสารที่ได้จากการทำ \"ฮอรโ์ มนไข\"่ น้ันคอื \"กรดฟลุ วิก\" มสี ว่ นชว่ ยในการดูดซึมสารอาหารของคนและสตั ว์ สามารถสรา้ งความสมดุลยแ์ ขง็ แรงให้แก่ร่างกายในระดบั เซลล์ ชว่ ยชูกำลัง ทำใหไ้ ม่เหนอ่ื ยงา่ ย ขจัดอนุมลู อสิ ระ ตา้ นออกซิเดชนั่ คงความหนุ่มสาว ลดความเสยี่ งต่อการเกิดโรคมะเรง็ แก้ขอ้ อักเสบ เพม่ิ การเผาผลาญโปรตนี สู่ การสงั เคราะห์ DNA และ RNA และเพิ่มการยอ่ ยอาหารได้ด้วย ด้านประโยชนท์ ่จี ะเกิดขึน้ กบั พืชก็คลา้ ยกันกับ สตั ว์ คอื ทำใหเ้ ซลล์พืชแขง็ แรง ต้านทานโรคไดด้ ี เพ่ิมขนาดผลผลิต เปน็ ต้น การผลติ ปยุ๋ ชีวภาพเพ่ือจำหน่าย - 35 -

การทำ \"ฮอร์โมนไข่ เรง่ ดอก เรง่ ผล\" สตู ร 1 วัสดอุ ปุ กรณ์ในการทำ \"ฮอรโ์ มนไข่ เร่งดอก เรง่ ผล\" 1. ถงั พลาสติกทม่ี ฝี าปิด 1 ใบ 2. ไข่ไก่ 10 ฟอง 3. น้ำตาลทรายแดง ครงึ่ กิโลกรมั 4. นมเปรย้ี มโยเกริ ต์ 700 ม.ล ข้ันตอนและวิธีการนำฮอร์โมนไปใช้กบั พืชผักผลไม้หรอื ดอกไม้ 1. หวั เชอ้ื ฮอรโ์ มนไข่ท่หี มกั ได้ทคี่ รบ 1 เดอื นแลว้ ใหต้ ักหัวเช้อื ฮอรโ์ มนประมาณ 2-3 ชอ้ นโตะ๊ ผสม น้ำเปล่า 1 ลติ ร 2. ฉีดพ่นยอดของดอกไม้หรือพชื ผักผลไมใ้ นช่วงเวลาทีพ่ ชื ใกล้ออกดอก 3. ชว่ งเวลาในการฉีดฮอร์โมนคือช่วงเวลาทมี่ ี แดดอ่อนๆ ช่วงเช้าๆ หรอื เวลาเยน็ ท่ีแดดไม่จัดมาก 4. ระยะเวลาในการฉดี พ่นฮอร์โมน คือวนั เวน้ วัน 5. หากต้องการป้องกนั ศตั รูพชื และปัองกันดอกผลรว่ ง ใหผ้ สมนำ้ ส้มควันไมแ้ ละผงชรู ส เพมิ่ เขา้ ไปเวลาฉดี อย่างละ 1 6. ชอ้ นชาในนำ้ เปล่า 1 ลิตร + หัวเช้อื ฮอร์โมนไข่ 2-3 โต๊ะ สตู ร 2 สูตรเรง่ ดอกผล สว่ นผสม 1. กากนำ้ ตาล 1 สว่ น 2. ผลกลว้ ยนำ้ ว้าสกุ 1 ส่วน 3. ฟกั ทอง 1 ส่วน 4. มะละกอสุก 1 สว่ น เทคนิควธิ ี ขน้ั ตอนการหมัก • ส่วนผสมท่ี 2 - 4 ตอ้ งสกุ /แก่จัด ไม่เน่าไมเ่ สยี • ห้ามล้างนำ้ • ใหห้ น่ั ส่วนผสมตามขวาง (ท้ังเปลอื ก) ช้ินละประมาณ 1 นว้ิ • นำส่วนผสมทห่ี ัน่ แล้วใส่ลงในภาชนะท่มี ฝี าปดิ (ไม่เปน็ โลหะ) • ราดด้วยกากนำ้ ตาลใหท้ ่ัว • ปิดฝาที้งไว้ประมาณ 1 เดอื น เติมนำ้ 1 สว่ น คนให้ท่วั • ทง้ิ ไวป้ ระมาณ 1 เดอื นนำมากรองดว้ ยผ้าขาวบาง แยกกากไปทำป๋ยุ หมัก สว่ นที่เปน็ นำ้ นำมาใชไ้ ด้ การผลติ ปุ๋ยชวี ภาพเพ่ือจำหน่าย - 36 -

วิธกี ารใช้ ใชน้ ำ้ หมักในอตั รา 20 ซีซี ต่อนำ้ 20 ลติ ร ฉีดพน่ ขา้ ว 2 ชว่ ง คอื ช่วงกอ่ นข้าวออกรวง และออกรวง (กอ่ นงวย) ทุก 7 - 15 วัน ในช่วงเชา้ หรอื เยน็ จะชว่ ยบำรงุ รวงขา้ วและเพิม่ ผลผลิต ทดแทนการใชป้ ุ๋ยเคมีได้ เป็นสตู รนำ้ หมกั 2 สตู ร ทคี่ ณุ สมหมายแนะนำวา่ ใช้ได้ผล ลดต้นทนุ การผลิตข้าวได้ไรล่ ะหลายรอ้ ย บาท และยังบอกอกี ว่าหากเกษตรกรสามารถลดต้นทุนใหต้ ำ่ ลงได้ ก็คือจะมีกำไรเพ่ิมขึน้ เอง โดยไมต่ ้องกงั วลวา่ ราคาขา้ วจะเป็นอย่างไร แตก่ ย็ งั มีอกี หลายสูตรท่ไี ด้ใชใ้ นแปลงนา โอกาสตอ่ ไปคอ่ ยนำมาเผยแพร่ ผมกท็ ำสตู ร ที่ 2 ครบั กะวา่ จะใชก้ ับลำไยทก่ี ำลงั ออกดอกและตดิ ผลอยใู่ นขณะน้ี (จะใช้ผสมน้ำราดใต้ทรงพมุ่ ) บทสรปุ : ดว้ ยคณุ ประโยชน์ของไข่ทเ่ี ม่อื นำมาผ่านกระบวนการหมกั แลว้ จะทำใหไ้ ขธ่ รรมดานน้ั เปล่ียนไปเป็นปยุ๋ บำรุงพชื หรือยาชกู ำลงั สัตว์ ทม่ี ีประโยชน์มากทางการเกษตร มคี วามโดดเด่นในเรอ่ื งของการ เพิม่ ขนาด กระตุ้นดอก เพมิ่ รสหวานและทำให้พชื และสตั วน์ น้ั แข็งแรงข้ึนในระดบั เซลล์ ฮอร์โมนไขจ่ ึงมี คุณสมบัตเิ ทยี บเทา่ กับฮอร์โมนชนิดหนึ่ง การผลติ ปยุ๋ ชีวภาพเพอ่ื จำหนา่ ย - 37 -

กจิ กรรมทา้ ยบทท่ี 3 ให้ผ้เู รียนเขยี นเคร่อื งหมายถกู หนา้ ขอ้ ความท่ีมีความเหน็ วา่ ถูกตอ้ ง และเขียนเคร่ืองหมายผิด หนา้ ข้อความทเ่ี ห็นว่าผดิ ................ 1. หางไหล บอระเพ็ด หนอนตายยาก ส่วนผสมน้ำหมักสมนุ ไพร ................ 2. น้ำหมกั สมนุ ไพร บำรงุ ราก บำรุงดอก ................ 3. ฮอร์โมนไข่ เร่งดอก เรง่ ผล ............... 4. ปุ๋ยหมกั ชีวภาพสูตรเร่งรดั บำรุงราก บำรุงใบ บำรงุ ดอก ผลไมไ้ ด้ดี ............... 5.ช่วงเวลาในการฉีดฮอร์โมน คือชว่ งเวลาทีแ่ ดดร้อนจัด ............... 6. น้ำสกดั ชีวภาพ เป็นสารละลายสีเขียวท่ีไดจ้ ากการยอ่ ยสลายของเซลลพ์ ชื หรอื เซลลส์ ตั ว์ ............... 7. เปลอื กตน้ แค เปลือกต้นข่อย เป็นสมนุ ไพรรสขมหรอื รสฝาด ............... 8. “กรดฟลุ วกิ ” คอื สารท่ไี ดจ้ ากการทำฮอร์โมนไข่ ............... 9. กรดอะมิโนจำพวกซัลเฟอร์ มอี ยใู่ นไข่ขาว ............... 10.ฮอร์โมนไข่ มปี ระโยชน์ดา้ นการบำรงุ รา่ งกายคนและสัตว์ การผลติ ปุ๋ยชวี ภาพเพอ่ื จำหน่าย - 38 -

2.บอกขนั้ ตอนการทำปุ๋ยชวี ภาพมาพอสงั เขป (เลอื กชนดิ ของปุ๋ยชีวภาพเพยี ง 1 ประเภท) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… การผลิตปุ๋ยชีวภาพเพ่ือจำหนา่ ย - 39 -

บทท่ี 4 ขน้ั ตอนการผลติ ปุ๋ยอนิ ทรียอ์ ดั เม็ด สาระสำคัญ การพัฒนาเทคโนโลยีเชิงอุตสาหกรรม ต้องอาศยั การพจิ ารณาเลือกใช้เทคโนโลยที ี่มคี วามเหมาะสม การเตรยี มวัสดแุ ละอุปกรณแ์ ละขั้นตอนวธิ ีการทำปุย๋ อินทรีย์อดั เมด็ ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวงั 1. อธบิ ายการเตรียมอุปกรณ์การผลติ ปุ๋ยอินทรยี อ์ ัดเม็ดได้ 2. อธิบายขน้ั ตอนการเตรยี มวัสดกุ ารผลิตปยุ๋ อินทรีย์อดั เม็ดได้ 3. อธิบายขน้ั ตอนวธิ ีการผลติ ปุย๋ อนิ ทรยี อ์ ดั เมด็ ได้ ขอบขา่ ยเนอ้ื หา เรอื่ งท่ี 1 การเตรียมวสั ดแุ ละอปุ กรณ์ เรอื่ งท่ี 2 วธิ ีการทำและวธิ กี ารอดั เม็ดปุ๋ย การผลติ ปยุ๋ ชวี ภาพเพื่อจำหน่าย - 40 -

เรอื่ งที่ 1 การเตรียมวสั ดแุ ละอุปกรณ์ การพัฒนาเทคโนโลยีเชงิ อตุ สาหกรรม ตอ้ งอาศยั การพิจารณาเลือกใช้เทคโนโลยที ี่มีความ เหมาะสมซึง่ เปน็ อกี ปัจจัยหนง่ึ ที่สำคญั การพัฒนา โดยใชว้ ัสดุเหลอื ทิ้งภายในชมุ ชน เช่น กา้ นยาสูบ มลู สัตว์ และ ก้อนเหด็ เปน็ ต้น การผลติ ปุ๋ยหมกั ไวใ้ ช้เองสามารถลดคา่ ใช้จ่ายในการใสป่ ุ๋ยเคมี นำไปสู่กระบวนการผลิต และการใช้ประโยชน์ ตอ่ ไป อปุ กรณเ์ ทคโนโลยที ่ีใช้ในกระบวนการผลติ ปุย๋ 1.เครอ่ื งสบั ย่อยเศษพชื 2. เครือ่ งทใี่ ชใ้ นการบดวตั ถดุ ิบ การผลิตปุย๋ ชีวภาพเพ่ือจำหนา่ ย - 41 -

3. เครอ่ื งผสมปุ๋ยแนวตัง้ 4.เครอ่ื งรอ่ นเม็ดปยุ๋ แนวต้ัง 5. เคร่ืองบดแลอัดเม็ดปุ๋ย 2 ใน 1 การผลติ ปุ๋ยชวี ภาพเพ่อื จำหนา่ ย - 42 -

6.จานปน้ั เมด็ ปยุ๋ 7.เครอ่ื งพ่นจลุ ินทรยี ์ 8. สายพานลำเลยี ง การผลติ ป๋ยุ ชีวภาพเพือ่ จำหนา่ ย - 43 -

การบดวัตถุดิบ ปยุ๋ ที่จะทำการผลติ เปน็ เม็ดต้องมีอนภุ าคทเ่ี ล็ก หากมอี นุภาคท่ีใหญเ่ ม่ือใช้งานการย่อย สลายก็ช้าไปด้วย และจะมีปญั หาในขนั้ ตอนการผลติ เป็นเม็ด ซง่ึ การบดย่งิ บดให้เป็นลักษณะเหมือนผงแปง้ ได้ก็ จะให้ผลดี ในการผลิตปยุ๋ อินทรยี เ์ มด็ จะใช้เครื่องจกั รทำการแปรรปู ใหป้ ุ๋ยอินทรยี ท์ ี่ผ่านการหมกั ซ่ึงอยใู่ น ลกั ษณะผงเปลยี่ นเป็นเมด็ ซงึ่ ปัจจยั ทส่ี ่งผลใหเ้ กิดการรวมตวั เปน็ เม็ดคือตัวประสาน (binder) ซง่ึ อาจเป็นน้ำ หรือวสั ดุต่างๆท่มี ีลกั ษณะเหนยี วขน้ หรือมสี ภาพท่แี ปรเปลยี่ นเป็นกาวเชอ่ื มได้ คณุ สมบัตขิ องเคร่อื งผลิตปยุ๋ อนิ ทรียอ์ ดั เมด็ จะชว่ ยลดระยะเวลาในการผลติ โดยปกตหิ ลังจากการ ผสมสว่ นผสมตา่ งๆ เขา้ ดว้ ยกันแล้ว ตอ้ งนำปยุ๋ ไปตากแดดใหแ้ หง้ ซ่งึ ต้องใช้ระยะเวลา 2-3 วัน และแรงงานคน 8-10 คน ดว้ ยความสามารถของเครอ่ื งผลติ ปุย๋ อินทรีย์อดั เม็ด จะช่วยลดระยะเวลาในการผลิตลง เหลอื เพียงแค่ 30 นาที และแรงงานคนเหลอื เพยี ง 2 คน โดยวิธีการอบ เพราะไดอ้ อกแบบมาเปน็ พิเศษทีไ่ มเ่ หมือนกบั ใน ท้องตลาด ทแ่ี ยกการทำงานของเคร่อื งออกจากกัน ช่วยใหเ้ กษตรกรลดระยะเวลา คา่ ใช้จา่ ยและลดขนั้ ตอน วิธกี ารทำปยุ๋ อินทรยี ์อดั เม็ดไดร้ วดเร็วมากย่ิงข้นึ และสามารถนำไปใช้งานไดจ้ ริง การผลิตปุ๋ยชีวภาพเพอ่ื จำหน่าย - 44 -

เรื่องท่ี 2 วธิ ีการทำและวิธีการอัดเมด็ ปยุ๋ 1.การทำปุ๋ยหมักอัดเมด็  วสั ดุทำปยุ๋ หมกั 1. อนิ ทรยี วตั ถุ 85 เปอร์เซ็นต์ 2. แกลบดำ 1 เปอรเ์ ซน็ ต์ 3. แกลบเผา 1 เปอร์เซ็นต์ 4. รำละเอียด 1 เปอร์เซ็นต์ 5. นำ้ หมักชวี ภาพ 1 เปอร์เซ็นต์ 6. กากน้ำตาล 1 เปอร์เซ็นต์ 7. เพอรไ์ ลต์ 10 เปอรเ์ ซน็ ต์ ขัน้ ตอน/วธิ ที ำ 1. นำแกลบดำ แกลบเผา อนิ ทรยี วตั ถแุ ละรำละเอียด ผสมคลุกเคล้าใหเ้ ขา้ กนั 2. ใช้กากนำ้ ตาลผสมกบั น้ำโรยทีก่ องปยุ๋ หมกั 3. ใชน้ ้ำหมกั ชวี ภาพฉีดพน่ บนกองป๋ยุ ใหท้ ั่วกอง 4. นำปุ๋ยหมักที่ได้มาบดใหล้ ะเอียดผสมกับเพอรไ์ ลต์ เทใส่ เครอ่ื งอดั เมด็ 5. ใชน้ ำ้ หมักชวี ภาพผสมน้ำฉีดพ่น ขณะเคร่อื งทำงาน 6. ระหว่างปัน้ ดนิ สาดแกลบดำและรำละเอยี ดเพ่อื ให้ ปยุ๋ กอ่ ตัวเปน็ เมด็ มากขึ้น 7. นำไปตากในท่ีรม่ จนแหง้ ดีแล้ว จงึ บรรจกุ ระสอบ เก็บไวห้ รอื นำไปใชไ้ ด้เลย ขอ้ ควรระวงั ควรนำปุ๋ยออกมาตากแดดใหแ้ หง้ ก่อนเก็บใส่ กระสอบ การใช้ประโยชน์ 1. ช่วยปรบั ปรุงโครงสรา้ งของดนิ ให้ดีขน้ึ เช่น ทำให้ดินร่วนซยุ รากขยายออกไปหาอาหารได้สะดวก อุม้ นำ้ ได้ดี 2. ชว่ ยปรบั สมดุลทางเคมีคา่ ความเป็นกรด–เป็นด่างของดินให้ดขี ้ึน ทำให้พืชดูดใชธ้ าตุอาหารได้ดขี ึ้น 3. เมือ่ ใหร้ ่วมกบั ปุย๋ เคมีจะส่งเสรมิ ใหพ้ ชื ใช้ ปุย๋ เคมมี ีประสิทธิภาพมากขนึ้ (ช่วยใหป้ ระหยัด ค่าปยุ๋ เคมี) วัสดทุ ำปุ๋ยหมกั 1. เศษวสั ดุเหลอื ใช้ทางการเกษตรท่เี ล็กหรือละเอียดพอประมาณ 3 สว่ น 2. แกลบเผาแกลบดำ 1 สว่ น 3. ปุ๋ยคอกมูลสตั ว์ 1 สว่ น 4. น้ำหมักชีวภาพ 1 ลติ ร ผสมนำ้ รดกองปยุ๋ / 1 ตนั 5. หนิ บด หรือ หินฟอสเฟต (โดโลไมท)์ 1 กโิ ลกรมั / วสั ดุ 1 ตนั การผลติ ปยุ๋ ชีวภาพเพ่อื จำหนา่ ย - 45 -

วิธกี ารทำ 1. นำแกลบเผาแกลบดำมลู สัตว์ และ รวมถงึ วสั ดุอ่ืนๆวางเป็นชนั้ ตามอตั ราสว่ น 2. ผสมคลกุ เคลา้ วสั ดแุ ต่ละชนดิ ให้เข้ากันรดน้ำให้ชมุ่ พอประมาณ 3. กองวสั ดุใหเ้ ป็นสเ่ี หลีย่ มอาจมที ่อพีวีซเี ก่าหรอื ลำไม้ไผท่ ที่ ะลวงข้อออกแทงลงในกองวัสดเุ ปน็ ช่วงๆเพื่อให้ อากาศกบั จุลนิ ทรยี ์ในการยอ่ ยสะลายวสั ดไุ ด้เร็วข้ึน 4. กองทิง้ ไว้ประมาณ 15-30 วนั สามารถนำมาใชไ้ ด้ (ข้ึนอยูก่ บั ขนาดความชน้ื วัสดทุ ่ที ำ) วิธีการอดั เม็ดปุ๋ย 1. นำปุ๋ยหมกั ใสเ่ ครอ่ื งบดใหล้ ะเอียดเพ่ือคัดขนาดตามทส่ี ะดวกในการปน้ั เมด็ 1 ส่วน 2. นำดินเหนยี วเข้าเคร่ืองบดละเอียดขดั ขนาดเพื่อชว่ ยจับเมด็ ตามทตี่ อ้ งการ 0.5 ส่วน 3. นำปยุ๋ คอกมูลสตั วเ์ ข้าเคร่อื งบดให้ละเอียดขัดขนาด 1 สว่ น 4. นำวสั ดกุ องรวมกนั เป็นชั้นตามอัตราส่วนโรยหนิ บดหรือหินฟอสเฟต 1 กก.ต่อ 1 ตัน 5. นำวัสดุเข้าเคร่ืองผสมปุย๋ คลุกเคลา้ ให้เข้ากัน 6. ใช้น้ำหมกั ชีวภาพผสมนำ้ อัตราสว่ น 20-50 ซซี ี / นำ้ 20 ลิตร ฉดี พ่นขณะเครอ่ื งทำงาน 7. นำปุ๋ยที่เปน็ เม็ดแล้วไปตากในทร่ี ม่ จนแห้งดี จึงบรรจกุ ระสอบเก็บไวห้ รอื นำไปใช้ไดเ้ ลย 2.การทำปุย๋ อนิ ทรียอ์ ัดเมด็ การปลกู พืชชนิดตา่ งๆ ตอ้ งควบคู่กับการรดนำ้ และใส่ปยุ๋ เพื่อการเจริญเติบโต ปยุ๋ เป็นสิ่งจำเปน็ สำหรับใชเ้ ป็น ธาตอุ าหารแก่พชื ถา้ พืชไดป้ ุ๋ยน้อยหรือขาดปุ๋ย กไ็ ม่เจรญิ เติบโตงอกงามอยา่ งเต็มท่ี ทั้งยงั ใหผ้ ลผลติ นอ้ ยหรือไม่ ไดเ้ ลย การทำปยุ๋ อนิ ทรยี ์หรอื เรยี กอกี อยา่ งหนงึ่ ว่าปุ๋ยชีวภาพ คอื ปุย๋ ที่เกิดจากการนำมูลสัตว์ ไดแ้ ก่ มลู ววั มูลไก่ ซึ่งมูลเหลา่ นจี้ ะมจี ลุ นิ ทรียท์ มี่ ปี ระโยชนต์ อ่ ดิน และพืช เป็นการเพิ่มจลุ นิ ทรียว์ ตั ถใุ นดิน และรักษาความอุดม สมบรู ณ์ในดินอย่เู สมอ การทำป๋ยุ อินทรีย์แล้วนำมาอดั เปน็ เมด็ เป็นวธิ ีท่สี ามารถทำไดง้ า่ ย ตน้ ทนุ ไมส่ งู สามารถ นำไปใช้ไดง้ า่ ย ช่วยลดการฟ้งุ กระจายเป็นฝนุ่ ของปุย๋ สว่ นผสมของปยุ๋ อินทรยี อ์ ดั เม็ด > มูลววั > มูลไก่ > แกลบดิน > รำละเอยี ด > น้ำจลุ นิ ทรีย์ > กากนำ้ ตาลโมลาส > นำ้ การผลิตปุย๋ ชวี ภาพเพ่อื จำหนา่ ย - 46 -

วธิ กี ารทำปุ๋ยอดั เมด็ เตรยี มพนื้ ท่ีเรยี บอยู่ในท่รี ม่ แลว้ นำมลู ไก่ตากแห้ง มูลววั ตากแห้ง แกลบดิน ซง่ึ เปน็ สารอาหาร ทำใหไ้ ดซ้ ิ ลิกา้ และดนิ รว่ นซุย นำมาคลกุ เคล้าใหเ้ ข้ากนั แล้วนำน้ำจลุ ินทรยี ์ กับกากน้ำตาลโมลาสมาผสมนำ้ ให้เข้ากนั แลว้ นำมาราดบนกองปยุ๋ ที่ผสมเอาไว้ เพ่อื เปน็ หัวเชื้อให้มูลต่างๆ ย่อยง่าย และช่วยดับกลน่ิ มลู ทำใหไ้ มม่ ีกลนิ่ เหม็น อยา่ ใสม่ ากเพราะจะทำให้ปุ๋ยแฉะ คลุกเคลา้ ใหเ้ ขา้ กนั ตรวจสอบความช้ืนใหป้ ระมาณ 50 % วิธีตรวจสอบง่ายๆ คอื ใช้มอื กำปุ๋ยท่คี ลกุ ผสม ได้ทแ่ี ลว้ กำแลว้ น้ำ ต้องไม่ไหลออกจากองุ้ มือ เมอ่ื แบมอื ออกป๋ยุ จะเปน็ กอ้ นเลก็ น้อย เทรำละเอียดลงบนกองป๋ยุ ทำการผสมใหเ้ ขา้ กันแลว้ เกลย่ี ใหก้ องปยุ๋ สูง 1 เมตร คลมุ ดว้ ยกระสอบปา่ นแลว้ หมักทิ้งไว้ 7 วนั การหมกั ปุย๋ ทำให้เกิดอุณหภูมิสูง ตอ้ งกลบั ปยุ๋ วันละ 2 ครงั้ เพอื่ ลดอุณหภูมโิ ดยการใช้ ปรอทเปน็ ตวั วัด ทำการวดั ทกี่ องปุ๋ย โดยไม่ให้อณุ หภมู ิเกนิ 70 องศา ถา้ หากอุณหภูมิเกิน 70 องศา จะทำให้ จลุ นิ ทรียใ์ นปยุ๋ ตาย แลว้ ปยุ๋ กจ็ ะใช้ไมไ่ ด้ ทำการกลบั ปุย๋ ตลอด 7 วัน ความรอ้ นจะคอ่ ยๆ ลดลง แล้วจึงนำไปใช้ ได้ ใช้เครื่องบดอาหารกุ้งหรืออาหารปลา ทำการใส่ปยุ๋ ผสมกับดินลงในกะบะ ตวั เครือ่ งจะหมุนไปเร่ือยๆ แล้วทำการขยำปยุ๋ ให้รว่ น ใสล่ งเครื่องบด หมั่นเตมิ น้ำบอ่ ยๆ เพ่ือไม่ให้ ดนิ มคี วามเหนียวมาก ปยุ๋ อัดเม็ดจะนมิ่ เกนิ ไปไมเ่ ปน็ ก้อน ใชค้ ราด เกล่ียกองปุ๋ยใหแ้ ตกออกเปน็ เมด็ เลก็ ๆ แลว้ ทำการตักใส่ผา้ รอง นำไปตากแดดแล้วบรรจุใส่ถงุ การจัดจำหนา่ ย : นำปยุ๋ อดั เม็ดบรรจุถุงขายหรอื ส่งตามร้านขายเครื่องมือทำการเกษตร หรือรา้ นจำหน่ายพันธ์ุ ไม้ตา่ งๆ เปน็ อาชพี ท่ใี ช้การลงทุนต่ำ ผลิตง่าย คุ้มค่าแก่การลงทนุ เป็นอย่างมาก เทคนิค : ขัน้ ตอนสำคัญของการทำปุย๋ อนิ ทรีย์อดั เม็ด อยู่ที่การใสน่ ้ำเชอ้ื จุลินทรียผ์ สมกบั น้ำตาลโมลาสนั้น จะตอ้ งใส่ในปริมาณทพ่ี อดอี ย่าใหแ้ ฉะ และหม่ันปรบั อณุ หภมู ขิ องปุ๋ย โดยการพลิกป๋ยุ วันละ 2 ครง้ั วดั อุณหภมู ิ อย่าใหเ้ กิน 70 องศา เพราะจะทำใหเ้ ชือ้ จุลินทรียท์ ี่มอี ย่ตู ายปุ๋ยใชไ้ มไ่ ด้ การผลิตป๋ยุ ชีวภาพเพ่อื จำหน่าย - 47 -

กจิ กรรมท้ายบทที่ 4 ให้ผเู้ รยี นเขียนเคร่ืองหมายถกู หน้าข้อความท่มี ีความเห็นวา่ ถกู ต้อง และเขียนเคร่ืองหมายผิด หน้าขอ้ ความทเี่ หน็ วา่ ผิด ................ 1. คณุ สมบัตขิ องเครือ่ งผลิตปุ๋ยอินทรียอ์ ดั เมด็ จะช่วยลดระยะเวลาในการผลิต ................ 2. ผลิตปุ๋ยอนิ ทรยี ์อดั เมด็ ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งตากใหแ้ ห้ง ................ 3. ป๋ยุ ทอี่ อกมาจากจานปน้ั เมด็ จะมีลกั ษณะเปน็ แทง่ ............... 4. การผลติ ป๋ยุ ปนั้ เมด็ จะใช้เคร่ืองจกั รทีเ่ รียกว่าจานปั้นเม็ด ............... 5. การนำวสั ดอุ ินทรีย์เข้าสูก่ ระบวนการผลิตปุ๋ยป้ันเมด็ จะต้องผ่าน การหมกั และบดวตั ถดุ ิบ ............... 6. โดยปกติวัตถุดิบต่างๆ ก่อนหมักจะมคี ่า C/N แตกตา่ งกนั ไป ............... 7. ปจั จัยทส่ี ่งผลใหป้ ุ๋ยเกิดการรวมตัวเปน็ เม็ดคอื ตัวประสาน (binder) ............... 8. การบดวตั ถดุ ิบ ปุ๋ยที่จะทำการผลิตต้องมอี นภุ าคทใี่ หญ่เทา่ น้ัน ............... 9. การหมักปยุ๋ ทำให้เกดิ อณุ หภมู ิสูง ต้องกลบั ปยุ๋ วนั ละ 2 ครง้ั เพ่ือลดอณุ หภูมิ ............... 10. กองปุ๋ยมีอณุ หภมู เิ กิน 70 องศา จะทำให้จลุ นิ ทรยี ์ในปยุ๋ ตาย การผลติ ป๋ยุ ชวี ภาพเพอ่ื จำหนา่ ย - 48 -

บทที่ 5 การออกแบบบรรจุภณั ฑป์ ุ๋ยชีวภาพ สาระสำคัญ การออกแบบบรรจภุ ัณฑป์ ุ๋ยชีวภาพและปยุ๋ อนิ ทรยี ์อัดเม็ด การออกแบบตราสัญลกั ษณ์ (ตราสัญลักษณ)์ บรรจภุ ัณฑ์ ตราสัญลักษณ์ (Logo) คือเครอื่ งหมายหรือสญั ลักษณ์ เปน็ ผลของการออกแบบกราฟกิ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง กับสญั ลกั ษณ์ (Symbolism) เปน็ ภาพสัญลกั ษณ์หรอื เครอ่ื งหมายตา่ ง ๆ ท่ีช่วยสรา้ งเอกลกั ษณ์ แกส่ นิ ค้าและ บรษิ ัทของตน โดยวตั ถปุ ระสงค์หลักคอื เพอื่ ใหม้ ีเอกลกั ษณแ์ บบเฉพาะของตนเอง สอดคล้องกับผลติ ภณั ฑ์ และ เพ่อื ใหผ้ ูพ้ บเห็นจดจำงา่ ย เกิดความนา่ เช่อื ถอื หรือตราตรงึ ผู้บริโภคตลอดไป ผลการเรยี นร้ทู ่คี าดหวงั 1. บอกมาตรฐานผลิตภัณฑ์ปยุ๋ ชีวภาพได้ 2. อธบิ ายขนั้ ตอนการออกแบบบรรจภุ ัณฑ์ป๋ยุ ชีวภาพและป๋ยุ อินทรยี อ์ ดั เม็ดได้ 3. อธบิ ายข้นั ตอนการออกแบบตราสัญลกั ษณ์ผลิตภณั ฑไ์ ด้ 4. ออกแบบบรรจุภณั ฑแ์ ละตราสัญลักษณ์ผลติ ภณั ฑไ์ ด้ ขอบขา่ ยเน้ือหา เร่อื งท่ี 1 มาตรฐานผลิตภัณฑ์ปุ๋ยชวี ภาพและการบรรจภุ ณั ฑ์ เรอื่ งที่ 2 การออกแบบบรรจภุ ัณฑ์และตราสญั ลกั ษณ์ การผลิตปยุ๋ ชวี ภาพเพื่อจำหน่าย - 49 -

เรื่องท่ี 1 มาตรฐานผลิตภณั ฑป์ ยุ๋ ชวี ภาพและการบรรจุภณั ฑ์ 1. มาตรฐานผลิตภัณฑป์ ุย๋ ชวี ภาพ มาตรฐาน ปุ๋ยอนิ ทรยี ์ของกรมวิชาการเกษตร พ.ศ. 2551 กำหนดว่า ป๋ยุ อนิ ทรีย์ทีผ่ ลติ ได้และจะ จำหน่ายต้องมอี ินทรียว์ ัตถมุ ากกว่าร้อยละ 20 มคี ่าการนำไฟฟา้ นอ้ ยกว่า 10 เดซิซีเมนสต์ ่อเมตร มคี า่ ไนโตรเจน ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 1 มีคา่ ฟอสฟอรสั (P2O5) ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 0.5 มคี ่าโพแทสเซียม (K2O) ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อย ละ 0.5 พระราชบญั ญัตปิ ุย๋ 2518 ไดใ้ หค้ ำจำกดั ความของปยุ๋ อนิ ทรยี ์ ไว้วา่ ปุ๋ยอินทรีย์ หมายถงึ ปุย๋ ทไ่ี ด้จาก อินทรยี ์วตั ถุ ซ่ึงผลิตดว้ ยกรรมวธิ ที ำให้เปน็ ชนิ้ สบั บด หมกั ร่อน หรือวธิ ีการอน่ื ๆแตไ่ มใ่ ช่ปยุ๋ เคมแี ละป๋ยุ ชีวภาพ ได้แก่ ปุ๋ยคอก ปยุ๋ หมัก และปุย๋ พืชสด 1. ปยุ๋ พชื สด คือ ปุ๋ยอนิ ทรียท์ ่ีได้จากการไถกลบพชื สดๆทโ่ี ตไดข้ นาดเหมาะสมลงไปในดินเพื่อให้ ถกู ย่อยสลาย ธาตอุ าหารจากพืชจะถกู ปลดปล่อยให้พชื นำไปใช้ประโยชนไ์ ด้ พชื ที่นิยมปลูกเพ่ือเป็นปุ๋ยพชื สดไดแ้ ก่ พชื ตระกูล ถั่ว เชน่ ถั่วพร้า ถ่ัวพุม่ ถ่ัวเขยี ว ถ่วั มะแฮะ ปอเทอื ง โสนอฟั ริกา 2. ปุ๋ยคอก คอื ป๋ยุ ทไ่ี ด้จากมลู สตั ว์ ท้งั ท่เี ป็นอุจจาระและปสั สาวะ เป็นปุ๋ยที่มีธาตอุ าหารสูง สามาถนำไปใช้กบั พืชได้ทัง้ แบบสด และแบบที่ผา่ นการหมกั แล้ว แต่การใช้ปยุ๋ คอกแบบสดต้องพิจารณาถึงชนดิ ของดินและพชื ท่ี จะปลูกดว้ ย มิฉะนนั้ จะทำใหพ้ ืชเหลืองและตายได้ เนือ่ งจากไนโตรเจนถกู นำไปใชใ้ นการย่อยสลายมลู สตั ว์ จึง ควรหมกั มูลสตั วส์ กั ระยะหนึ่งกอ่ นนำไปใช้ ธาตอุ าหารพชื ในมูลสตั วช์ นิดต่างๆแสดงดังตาราง ดงั น้ี ปริมาณธาตุอาหาร (%) ชนดิ มูลสัตว์ ไนโตรเจน ฟอสฟอรสั โปแตสเซยี ม มลู โค 1.92 0.56 1.40 มูลกระบอื 1.23 0.55 0.69 มูลไก่ 3.77 1.89 1.76 มูลเป็ด 2.15 1.13 1.15 มลู มา้ 2.33 0.83 1.31 มูลหมู 2.80 1.36 1.18 มูลค้างคาว 1.05 14.82 1.84 มลู ไก่ มลู เปด็ มีธาตุอาหารค่อนข้างสงู เป็นท่นี ยิ มนำมาใชเ้ ป็นป๋ยุ คอก แต่ไม่ควรนำไปใชส้ ด ควรนำไปหมักให้ เป็นปุ๋ยที่สมบูรณก์ ่อน มลู หมู มีธาตอุ าหารค่อนขา้ งสูง มลู หมูแหง้ ที่ผา่ นการหมกั แล้วเป็นทีน่ ิยมของชาวสวนผักมาก แตค่ วรนำไปหมัก รวมกบั แกลบ ข้เี ลื่อย หรือฟางขา้ ว มูล โค มลู กระบอื มีธาตุอาหารค่อนขา้ งตำ่ กวา่ มลู สัตว์อน่ื ๆ เพราะเปน็ สตั วก์ ินหญา้ ควรนำไปหมกั รวมกบั แกลบ ขเ้ี ล่ือย ผักตบชวา ฟางข้าว เศษผัก มลู ค้างคาว เป็นมลู สตั ว์ทีม่ ธี าตุอาหารสูง โดยเฉพาะ ฟอสฟอรัส กำลังเป็นที่นยิ มในการนำไปเปน็ ส่วนผสมของ ปุย๋ อินทรยี ค์ ณุ ภาพสูง 3. ปุ๋ยหมกั คอื ปุย๋ อนิ ทรีย์ที่ได้จากการนำเอาชิน้ สว่ นของพชื มาหมักโดยนำวสั ดุมากองบนพน้ื ดินหรอื ในหลุม จนชิ้นส่วนของพชื ถกู ย่อยสลายโดยจุลนิ ทรยี ไ์ ปเป็นอินทรียวตั ถหรอื ฮิวมัสท่ีมี ความคงทนไมม่ กี ล่นเหมน็ มสี ี นำ้ ตาลดำ และอตั ราของคาร์บอนต่อไนโตรเจน (C/N ratio ต่ำ) การผลติ ปยุ๋ ชีวภาพเพอ่ื จำหนา่ ย - 50 -


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook