Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สังคมชุมชน

สังคมชุมชน

Published by 420st0000050, 2020-09-14 00:02:23

Description: สังคมชุมชน

Search

Read the Text Version

สรปุ ผลการจดั กจิ กรรมการศกึ ษาเพอื่ พัฒนาสงั คมและชุมชน โครงการอบรมให้ความรกู้ ารป้องกนั ตนเองใหป้ ลอดภยั จากเช้ือโควิด-19 ในวันท่ี 7 กรกฎาคม 2563 ณ อาคารเอนกประสงค์โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพตาบลบ้านสวนผกั หม่ทู ่ี 6 ตาบลบา้ นช้าง อาเภอพนัสนคิ ม จงั หวดั ชลบรุ ี กศน.ตาบลบา้ นเซิด ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอพนสั นิคม สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจงั หวัดชลบุรี

สรปุ ผลการจัดกจิ กรรม ก โครงการอบรมใหค้ วามร้กู ารปอ้ งกันตนเองให้ปลอดภยั จากเชื้อโควิด-19 คำนำ กศน.ตำบลบ้ำนเซดิ สังกัด ศูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัยอำเภอพนสั นิคม ได้ จัดทำโครงกำรอบรมโครงกำรอบรมให้ควำมรู้กำรป้องกนั ตนเองให้ปลอดภัยจำกเชื้อโควิด-19 โดยมวี ัตถปุ ระสงค์ เพือ่ ให้ผูเ้ ข้ำรว่ มกิจกรรมมีควำมรคู้ วำมเข้ำใจในกำรปอ้ งกนั ตนเองโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19)และ สำมำรถนำควำมรู้ทีไ่ ด้รบั ไปใช้ในกำรดำเนนิ ชีวิตประจำวนั ได้ ซง่ึ มกี ำรสรปุ ผลกำรจัดกจิ กรรมโครงกำรดังกลำ่ ว เพ่ือต้องกำรทรำบวำ่ กำรดำเนินโครงกำรบรรลุตำมวัตถปุ ระสงค์ท่กี ำหนดไว้หรอื ไม่ บรรลใุ นระดับใดและไดจ้ ัดทำ เอกสำรสรปุ ผลกำรจดั กิจกรรมกำรศึกษำเพ่ือพัฒนำพฒั นำสงั คมและชมุ ชนเสนอตอ่ ผู้บริหำร ผเู้ ก่ยี วขอ้ งเพ่ือนำ ขอ้ มูลไปใช้ในกำรปรับปรุงและพัฒนำกำรดำเนนิ โครงกำรใหด้ ียิง่ ข้นึ คณะผจู้ ัดทำ ขอขอบคณุ ผู้อำนวยกำรศูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั อำเภอ พนสั นคิ ม ที่ใหค้ ำแนะนำ คำปรึกษำ ในกำรจัดทำสรุปผลกำรจัดกิจกรรมกำรศึกษำเพ่ือพัฒนำสังคมและชมุ ชนใน ครัง้ น้ี หวังเป็นอย่ำงย่งิ ว่ำเอกสำรสรุปผลกำรจดั กิจกรรมกำรศึกษำเพือ่ พัฒนำสงั คมและชุมชนฉบับนี้ จะ เปน็ ประโยชน์ตอ่ ผปู้ ฏบิ ตั ิงำนโครงกำรและหน่วยงำนทเ่ี กย่ี วข้องในกำรนำไปใชใ้ นกำรจดั กิจกรรมกำรศึกษำนอก ระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั ต่อไป สุนทรี เพชรประเสรฐิ ครู กศน.ตำบล กรกฎำคม 2563 กศน.ตาบลบา้ นเซิด สงั กัด กศน.อาเภอพนัสนิคม

สรปุ ผลการจดั กจิ กรรม ข โครงการอบรมให้ความรู้การป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 สำรบัญ หัวเรื่อง หน้ำ คำนำ ก สำรบญั ข สำรบญั ตำรำง ค บทที่ 1 บทนำ 1 1 - หลกั กำรและเหตผุ ล 1 - วตั ถปุ ระสงค์ 1 - เป้ำหมำยกำรดำเนินงำน 1 - ผลลพั ธ์ 2 - ตวั ชว้ี ัดผลสำเรจ็ ของโครงกำร 3 บทท่ี 2 เอกสำรกำรศึกษำและงำนวจิ ัยทีเ่ กี่ยวขอ้ ง 3 - กรอบกำรจัดกจิ กรรมกำรศึกษำเพ่ือพัฒนำสังคมและชมุ ชน 3 - เอกสำร/งำนท่เี ก่ยี วข้อง 14 บทที่ 3 วิธีดำเนนิ งำน 17 บทท่ี 4 ผลกำรวิเครำะห์ข้อมูล 22 บทท่ี 5 อภิปรำยผลและขอ้ เสนอแนะ บรรณำนุกรม ภำคผนวก - แผนกำรจดั กิจกรรมกำรศกึ ษำเพื่อพัฒนำสังคมและชมุ ชน - โครงกำรอบรมใหค้ วำมรกู้ ำรปอ้ งกนั ตนเองให้ปลอดภัยจำกเช้ือโควิด-19 - หนังสอื ขออนเุ ครำะหว์ ิทยำกร - หนงั สือขอควำมอนเุ ครำะหส์ ถำนที่ - แบบประเมนิ ผรู้ ับบรกิ ำร - ภำพประกอบกำรจัดกจิ กรรม คณะผู้จดั ทำ กศน.ตาบลบ้านเซดิ สงั กัด กศน.อาเภอพนัสนิคม

สรปุ ผลการจัดกิจกรรม ค โครงการอบรมให้ความรกู้ ารปอ้ งกันตนเองใหป้ ลอดภยั จากเชือ้ โควดิ -19 สำรบญั ตำรำง ตำรำงที่ รำยละเอยี ด หน้ำ 1 ผู้เข้ำร่วมโครงกำรท่ีตอบแบบสอบถำมได้นำมำจำแนกตำมเพศ 16 2 ผเู้ ขำ้ ร่วมโครงกำรท่ีตอบแบบสอบถำมไดน้ ำมำจำแนกตำมอำยุ 16 3 ผเู้ ข้ำรว่ มโครงกำรที่ตอบแบบสอบถำมได้นำมำจำแนกตำมอำชีพ 17 4 ผู้เขำ้ ร่วมโครงกำรที่ตอบแบบสอบถำมได้นำมำจำแนกตำมระดบั กำรศกึ ษำ 17 5 แสดงคำ่ ร้อยละเฉล่ยี ควำมสำเร็จของตวั ชวี้ ัด ผลผลติ ประชำชนทั่วไป 17 6 ค่ำเฉล่ยี และส่วนเบ่ยี งเบนมำตรฐำนควำมพึงพอใจฯ โครงกำร ในภำพรวม 18 7 คำ่ เฉล่ียและสว่ นเบย่ี งเบนมำตรฐำนควำมพงึ พอใจฯ โครงกำร ด้ำนบริหำรจดั กำร 18 8 ค่ำเฉลย่ี และสว่ นเบี่ยงเบนมำตรฐำนควำมพึงพอใจฯ โครงกำร 19 ดำ้ นกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ 9 ค่ำเฉลยี่ และสว่ นเบ่ียงเบนมำตรฐำนควำมพึงพอใจฯ โครงกำร 19 ด้ำนประโยชนท์ ไ่ี ด้รับ กศน.ตาบลบ้านเซิด สงั กัด กศน.อาเภอพนสั นคิ ม

สรปุ ผลการจัดกิจกรรม 1 โครงการอบรมให้ความรู้การป้องกันตนเองให้ปลอดภยั จากเชอ้ื โควิด-19 บทที่ 1 บทนำ หลักกำรและเหตุผล จากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทงั้ ประเทศไทยและทัว่ โลก พบการแพร่ระบาดไปในหลายประเทศ ส่งผลให้มีผู้เสยี ชีวิตจานวนมาก องค์การอนามัยโลกไดป้ ระกาศเปน็ เช้ือไวรัสท่ี มีความอนั ตรายต่อชวี ิตสงู และเปน็ ท่ีรจู้ กั กนั ในชือ่ ท่ีไมเ่ ปน็ ทางการในชว่ งเร่ิมตน้ ของการระบาดของโรคจากไวรสั น้ีวา่ \"โคโรนาไวรัสอ่ฮู ่ัน\" หรอื \"ไวรสั ปอดอักเสบอู่ฮ่ัน\" เป็นไวรัสตดิ ตอ่ ที่ทาใหเ้ กดิ การติดเชื้อทางเดนิ หายใจ ซ่ึงเป็นสาเหตุ ของการระบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในปี พ.ศ. 2562–2563 มกี ารประกาศกระทรวง สาธารณสขุ ของไทยใหโ้ รคไวรัสโคโรนา หรอื COVID-19 เปน็ โรคร้ายแรง ทาใหเ้ กิดการต่ืนตระหนกของประชาชนไทย สง่ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สงั คม อย่างรุนแรง สถานการณ์การระบาดกาลังแพร่กระจายยงั ไมส่ ามารถควบคุมได้ สาเหตุการเสียชวี ติ ส่วนใหญข่ องไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เกิดจากการมีไข้สูง จาม ไอ การอักเสบของปอดและ เยอ้ื หุ้มปอดอย่างรุนแรง อีกท้ังสานักงาน กศน. มนี โยบายให้ กศน.อาเภอ รณรงค์ เผยแพร่ใหค้ วามรู้ ป้องกันการ ติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) จดั ทาหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือ เปน็ การช่วยเหลือประชาชนในภาวะ ท่ีหน้ากากอนามยั ขาดแคลน ให้กับประชาชนในพื้นท่ี ประกอบกับประชาชนในพ้ืนทีต่ าบลบา้ นชา้ ง ตาบลบา้ นเซดิ และตาบลหวั ถนน ยังไมม่ ีความรู้ ขาดการตรยี มตวั ป้องกัน การแพรร่ ะบาดของเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพ่ือเปน็ การแกไ้ ขปัญหาดงั กล่าวที่จะทาให้ประชาชนในพืน้ ท่ีตระหนกั ป้องกนั การติดเชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID- 19) และนาความรทู้ ี่ไดร้ บั มาปรับใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้ จากเหตุผลดังกล่าว กศน.ตาบลบา้ นชา้ ง สังกัด ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอ พนัสนิคม จึงได้จัดทาโครงการอบรมให้ความรู้การป้องกันตนเองใหป้ ลอดภยั จากเชือ้ โควิด-19 ขน้ึ วัตถปุ ระสงค์ 1. เพือ่ ใหผ้ ู้เขา้ ร่วมกิจกรรมมคี วามรคู้ วามเข้าใจในการป้องกันตนเองโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)ได้ 2. เพ่อื ให้ผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมสามารถนาความรทู้ ีไ่ ด้รับไปใช้ในการดาเนนิ ชีวิตประจาวันได้ เป้ำหมำย (Outputs) เป้ำหมำยเชิงปรมิ ำณ ประชาชน 2 ตาบล ๆ ละ 13 คน ได้แก่ ตาบลบ้านช้าง และตาบลบา้ นเซิด รวมทัง้ สิน้ 26 คน เป้ำหมำยเชิงคณุ ภำพ 1. ผู้เข้าร่วมกจิ กรรมมีความรู้ความเข้าใจในการป้องกนั ตนเองโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) 2. ผ้เู ขา้ ร่วมกิจกรรมสามารถนาความรทู้ ่ีได้รบั ไปใชใ้ นการดาเนินชวี ติ ประจาวันได้ กศน.ตาบลบ้านเซิด สงั กดั กศน.อาเภอพนัสนคิ ม

สรปุ ผลการจดั กิจกรรม 2 โครงการอบรมใหค้ วามรกู้ ารป้องกนั ตนเองให้ปลอดภัยจากเชื้อโควดิ -19 ผลลัพธ์ ผูเ้ ข้าร่วมกจิ กรรมมีความรู้ความเข้าใจในการป้องกนั ตนเองโรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)และ สามารถนาความรู้ท่ไี ดร้ ับไปใช้ในการดาเนินชีวติ ประจาวันได้ ดชั นชี ว้ี ดั ผลสำเรจ็ ของโครงกำร ตัวชี้วัดผลผลติ (Outputs) - ประชาชนตาบลบ้านช้าง เข้าร่วมโครงการไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 80 ตวั ชว้ี ัดผลลพั ธ์ (Outcomes) รอ้ ยและ 80 ของผูเ้ ขา้ รว่ มกิจกรรมมีความรคู้ วามเขา้ ใจในการปอ้ งกนั โรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ร้อยและ 80 ของผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถนาความรูท้ ี่ไดร้ ับไปใช้ในการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั ได้ กศน.ตาบลบา้ นเซิด สงั กดั กศน.อาเภอพนสั นิคม

สรปุ ผลการจัดกิจกรรม 3 โครงการอบรมให้ความร้กู ารป้องกันตนเองใหป้ ลอดภยั จากเชอ้ื โควิด-19 บทที่ 2 เอกสำรกำรศึกษำและงำนวจิ ัยทเ่ี กย่ี วข้อง ในการจัดทาสรุปผลโครงการอบรมให้ความรกู้ ารป้องกันตนเองให้ปลอดภยั จากเชื้อโควิด-19 คร้งั น้ี คณะผู้จดั ทาโครงการไดท้ าการคน้ ควา้ เนื้อหาเอกสารการศึกษาและงานวิจยั ที่เก่ยี วขอ้ ง ดงั นี้ 1. กรอบการจดั กิจกรรมการศึกษาเพือ่ พัฒนาสังคมและชุมชน 2. เอกสาร/งานวจิ ยั ท่ีเก่ยี วข้อง 1. กรอบกำรจัดกิจกรรมกำรศึกษำเพอ่ื พฒั นำสังคมและชุมชน ภำรกจิ ต่อเนื่อง 1. ดา้ นการจดั การศึกษาและการเรียนรู้ 1.3 การศกึ ษาต่อเนือ่ ง 3) จดั การศึกษาเพ่ือพฒั นาสังคมและชมุ ชน โดยใช้หลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้ แบบบรู ณาการในรปู แบบของการฝกึ อบรม การประชมุ สัมมนา การจดั เวทแี ลกเปลี่ยนเรียนรู้ การจัดกจิ กรรม จติ อาสา การสรา้ งชมุ ชนนักปฏิบตั ิ และรปู แบบอนื่ ๆ ทเี่ หมาะสมกบั กลุ่มเป้าหมาย และบริบทของชุมชน แตล่ ะพืน้ ที่ เคารพความคดิ ของผู้อนื่ ยอมรับความแตกต่างและหลากหลายทางความคดิ และอดุ มการณ์ รวมทงั้ สงั คมพหุ วัฒนธรรม โดยจัดกระบวนการให้บคุ คลรวมกลุ่มเพื่อแลกเปล่ียนเรียนรรู้ ่วมกัน สรา้ งกระบวนการจติ สาธารณะ การสร้างจิตสานกึ ความเป็นประชาธปิ ไตย การเคารพในสิทธิ และรับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ที่ความเปน็ พลเมืองดี การส่งเสรมิ คุณธรรม จริยธรรม การบาเพญ็ ประโยชน์ในชุมชน การบรหิ ารจดั การนา้ การรับมือกบั สาธารณภัย การอนุรักษ์พลังงานทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม ช่วยเหลอื ซ่ึงกนั และกนั ในการพัฒนาสังคม และชมุ ชนอย่าง ยั่งยนื 2. เอกสำร/งำนวจิ ัยทีเ่ กยี่ วขอ้ ง ควำมร้ทู ัว่ ไปเก่ยี วกบั COVID-19 โรคโควดิ -19 คือ โรคทีม่ สี าเหตุจากเช้อื ไวรสั โคโรนาสายพันธใ์ุ หม่ซึ่งพบเป็น ครง้ั แรกในเมืองอู่ฮ่ัน ประเทศจนี มีชื่อวา่ โรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019 หรอื โควดิ - 19 (COVID-19) ซ่ึงความหมาย “CO” มาจากคาวา่ Corona, “VI” มาจาก Virus, และ “D” มาจากDisease โดยกอ่ นหน้าน้ี เรียกโรคดังกล่าวว่า “โรคไวรสั โคโรนำ สำยพนั ธ์ุใหม่ 2019” หรือ“2019-nCoV” ต่อมาองคก์ ารอนามยั โลกประกาศช่อื ทเี่ ปน็ ทางการสาหรบั ใชเ้ รยี กโรค ทางเดนิ หายใจท่ีเกดิ จากไวรสั โคโรนาสายพันธ์ใุ หม่วา่ “โควดิ -ไนนท์ นี ” (Covid-19) เม่ือ 11 กุมภาพันธ์ 2563 โรคโควิด-19 จดั อยใู่ นตระกูลของเช้ือไวรสั โคโรนาซึ่งประกอบดว้ ยเชื้อไวรสั โคโรนาหลายชนิดท่กี อ่ โรคในคน ไดต้ งั้ แต่โรคหวดั ธรรมดา เช่น Coronavirus OC43 HKU1 และ 229E เปน็ ชนดิ ก่อโรคหวดั (Common cold) แต่ อาจก่อโรคทางเดินหายใจสว่ นล่างรุนแรงได้ในกลมุ่ ผู้ปว่ ยเด็กเลก็ หรอื ผูส้ ูงอายุ สว่ นไวรสั Coronavirus NL63 เปน็ เชือ้ ท่กี ่อโรคหลอดลมฝอยอักเสบ(Bronchiolitis) ในเดก็ จนถงึ ไวรัสทีส่ ามารถก่อโรคทางเดินหายใจรนุ แรง เชน่ เชือ้ ไวรัส โคโรนาท่กี อ่ โรคทางเดินหายใจตะวนั ออกกลาง (Middle East Respiratory Syndrome: MERS-CoV)หรอื เชือ้ ไวรสั กศน.ตาบลบ้านเซิด สังกดั กศน.อาเภอพนัสนิคม

สรปุ ผลการจัดกจิ กรรม 4 โครงการอบรมใหค้ วามรู้การปอ้ งกนั ตนเองใหป้ ลอดภัยจากเช้อื โควิด-19 โคโรนาทก่ี ่อโรคทางเดนิ หายใจเฉยี บพลนั รนุ แรง (Severe Acute Respiratory Syndrome: SARS) ผทู้ ่ีติดเชอ้ื ไวรัส โควิด-19 ประมาณร้อยละ 80 ไมม่ ีอาการและอาการแสดงใด ๆ สาหรบั ผทู้ ต่ี ิดเช้อื จะแสดงอาการเรมิ่ แรก คอื มีไข้ ปวดเม่ือย ครน่ั เน้ือครนั่ ตัว ไอแห้งๆ บางคร้งั มีเสมหะถา้ อาการรนุ แรง จะมไี ข้สูงขน้ึ การหายใจจะมีอาการเหน่อื ยหอบ หรือหายใจลาบากเน่ืองจากปอดอักเสบ ผลกระทบท่ีเกดิ ขน้ึ จำกโรคโควิด-19 1) ผลกระทบต่อสุขภำพ ปัญหาจากการติดเชื้อไวรสั นี้ ทาใหเ้ กดิ ผปู้ ว่ ยจานวนมาก ขอ้ มูลล่าสดุ จากองค์การ อนามยั โลก (WHO) ณ วนั ที่ 13 เมษายน 2563 พบว่ามีจานวนผปู้ ว่ ยท้ังสนิ้ ประมาณ 1,699,595 คน และจานวน ผู้เสียชีวติ 106,138 คน 2) ผลกระทบตอ่ เศรษฐกิจ เนื่องจากการแพรก่ ระจายสามารถผ่านจากคนสู่คน มกี ารติดเชอื้ เกดิ ขน้ึ ใน ระยะเวลาท่ีรวดเร็วมาก ทาใหห้ ลาย ๆ ประเทศ ต้องใช้มาตรการทีเ่ ข้มขน้ เช่น การกักตัวผู้ทีต่ ิดเช้ือไวรสั นห้ี รอื สงสัยวา่ อาจมโี อกาสติดเชื้อ เปน็ ระยะเวลา 14 วัน การหา้ มเดนิ ทางออกจากพื้นท่ี การปดิ สถานท่ีทม่ี คี นจานวนมากมารว่ ม กิจกรรม เช่นสวนสาธารณะ หา้ งสรรพสนิ ค้า ร้านอาหาร ทาบรษิ ทั ห้างร้าน และพ่อค้าแม่คา้ จานวนมากไมส่ ามารถทา ธุรกิจได้ ส่งผลกระทบวงกว้างตอ่ เศรษฐกิจของประเทศนัน้ ๆ และต่อเศรษฐกิจโลก 3) ผลกระทบต่อสถำนประกอบกิจกำร เม่ือพิจารณาในระดับสถานประกอบกิจการพบว่าผลกระทบท่ีอาจ เกดิ ขน้ึ เช่น ผลิตภาพการผลิตทล่ี ดลงเนอ่ื งจากจานวนลกู จ้างท่ลี ดลง หรอื เน่ืองจากต้องเปล่ยี นวธิ กี ารทางานเป็น Work from Home และการลดกาลงั การผลิตเนื่องมาจากยอดการสัง่ ซื้อทีล่ ดลงเป็นจานวนมาก รวมถงึ การจดั งบประมาณเพ่ือการจัดสถานที่ทางาน สถานท่ีพักผอ่ น โรงอาหารให้เออื้ ต่อการป้องกนั การแพร่กระจายและการ สัมผัสกบั เชือ้ ไวรัส ฯลฯ เสน้ ทำงท่ีเช้อื ไวรสั โควิด-19 เข้ำสรู่ ำ่ งกำย ถึงแม้วา่ ในขณะที่จดั ทาค่มู ือการจัดการ COVID-19 สาหรบั สถานประกอบกจิ การ มีขา่ วจากบางหนว่ ยงาน ของต่างประเทศว่าการติดเชือ้ COVID-19 นี้ อาจติดตอ่ ได้ในลกั ษณะ Airborne คือไวรัสนีแ้ พร่กระจายในอากาศ และคนหายใจเขา้ สู่รา่ งกายได้ก็ตาม แต่ในขณะน้ีองค์การอนามยั โลก (WHO) และศูนยค์ วบคุมโรคแห่งสหรฐั อเมริกา (CDC) ยงั คงยืนยันวา่ การได้รับเชอื้ ดังกลา่ วเข้าสรู่ ่างกายนัน้ ยังไมเ่ กิดขึ้นในเส้นทางการเป็น Airborne คือการหายใจ ไวรสั ในอากาศเข้าสู่รา่ งกาย ยกเว้นกรณีของบุคลากรทางการแพทย์ท่ีใชอ้ ปุ กรณท์ าใหเ้ กิดละอองเทา่ นนั้ 1 เส้นทำงจำกกำรสมั ผัสโดยตรงกบั ฝอยละออง (Droplet) ของผตู้ ิดเช้ือ (Direct Droplet Transmission) เสน้ ทางน้ี เกิดขึ้นจากการที่ตัวเราไปอย่ใู กล้ชิด (ในระยะน้อยกว่า 2 เมตร) กบั ผปู้ ่วย หรือผทู้ ม่ี เี ช้อื โควดิ -19 เม่อื คนเหลา่ นี้ไอ จาม ออกมา กจ็ ะมฝี อยละอองประมาณ 3,000 หยดตอ่ การไอหรอื จาม 1 ครงั้ กท็ าให้เราที่อยูใ่ กล้ ได้รบั ฝอยละอองเข้าส่รู า่ งกายทางจมกู เช่นน้ีเรียกเป็นการสัมผสั หรือได้รบั โดยตรง จนทาให้เกดิ การสัมผัสเช้อื ขน้ึ นอกจากนี้ฝอยละอองดังกลา่ ว ก็อาจไปตดิ กบั มือ ผิวหนา้ แขน หรอื ติดกับพื้นโต๊ เก้าอี้ ฯลฯ ทาใหห้ าก มือเราไปสมั ผสั ตามท่ีกล่าว แล้วมาเชด็ หนา้ เช็ดตา เชด็ ปาก ก็จะมีโอกาสท่ีรา่ งกายจะได้รบั เชอื้ นเ้ี ขา้ ส่รู า่ งกายได้ เรียก การได้รับแบบน้ีวา่ การได้รบั โดยออ้ ม กศน.ตาบลบ้านเซดิ สังกดั กศน.อาเภอพนัสนิคม

สรปุ ผลการจัดกิจกรรม 5 โครงการอบรมให้ความรกู้ ารปอ้ งกันตนเองให้ปลอดภยั จากเช้ือโควดิ -19 2. เสน้ ทำงกำรสัมผัสเช้ือแบบทำงอ้อม (Indirect Transmission) เสน้ ทางนเ้ี กดิ ขึน้ จากการสมั ผัสกบั ฝอยละอองสารคดั หลั่งจากผ้ทู ี่ตดิ เชือ้ ไวรสั โควิด-19 ท่ีเกาะอยู่ตามวัสดุที่ เป็นจดุ สัมผสั บอ่ ย ๆ โดยเฉพาะสถานทสี่ าธารณะ รถโดยสารสาธารณะ เชน่ ประตู ลกู บดิ โตะ๊ เกา้ อี้ ราวบันได ลฟิ ท์ พ้ืน เสื้อผา้ และรา่ งกาย เชน่ การสมั ผัสมือ หยอกลอ้ สัมผัสตวั ซ่งึ กันและกนั กำรประเมินสขุ ภำพตนเอง สาหรับผทู้ ่ีสงสยั ว่าตนเองตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือไม่ สามารถประเมนิ สุขภาพตนเอง โดยการตอบแบบ คัดกรองตนเอง เพื่อประเมนิ ระดับความเส่ยี งของการติดเชอ้ื โรคไวรสั โคโรนา 2019 หรือไม่ โดยการตอบ ใช่ หรอื ไม่ใช่ ในคาถามต่อไปน้ี ในชว่ ง 14 วนั ก่อนหนา้ ท่านมปี ระวัตเิ สยี่ งต่อการตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรอื ไม่ ดังน้ี 1. ท่านเดินทางหรืออยู่อาศัยในพ้นื ท่ีท่ีมีรายงานการระบาดตอ่ เนือ่ งของโควดิ -19 ใน 14 วันที่ผ่านมา (พนื้ ที่ท่ี มีรายงานการระบาดต่อเน่ืองของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 ได้แก่ สาธารณรฐั ประชาชนจีน ฮ่องกง มาเก๊า เกาหลี ใต้ อติ าลี อหิ ร่าน ฝร่ังเศส สเปน สหรฐั อเมรกิ า สวิตเซอร์แลนด์ นอรเ์ วย์ ญี่ปุ่น เดนมารก์ เนเธอร์แลนด์ สวีเดน อังกฤษ เยอรมนี ออสเตรยี เบลเยยี ม มาเลเซีย แคนาดา โปรตุเกส บราซิล เช็กเกีย อสิ ราเอล ออสเตรเลยี เกาะไอร์ แลนด ์ ปากสี ถาน ตรกุ ี ชลิ ี ลักเซมเบร์ิก เอกวาดอร ์ กรซี ฟินแลนด ์ ฯลฯ และจงั หวัดต่าง ๆ ทร่ี ัฐบาลประกาศ) ✤ (ใช่/ไม่ใช่) 2. ทา่ นเป็นผู้ทีป่ ระกอบอาชีพทีส่ มั ผสั ใกล้ชิดกับนักทอ่ งเทย่ี วต่างชาติสัมผสั ใกล้ชิด หมายถึง ได้สนทนากันใน ระยะน้อยกวา่ 1 เมตร และนานมากกวา่ 5 นาที หรือถูกไอ/จามใส่ โดยไมม่ ีการป้องกันเชน่ ใสห่ นา้ กากอนามยั ✤ (ใช่/ไม่ใช่) 3. มีประวัตใิ กล้ชดิ หรอื สมั ผัสกบั ผูป้ ่วยเข้าขา่ ยหรือยนื ยันโรค ✤ (ใช่/ไมใ่ ช่) 4. มผี ทู้ ี่อยู่อาศัยร่วมบา้ นเดนิ ทางกลบั มาจากพน้ื ท่ีที่มรี ายงานการระบาดของโรค (พน้ื ท่ีระบาดระบุไว้ ด้านบน) ✤ (ใช่/ไมใ่ ช่) 5. เป็นบุคลากรทางการแพทย์หรอื สาธารณสขุ ทส่ี ัมผัสกับผ้ปู ว่ ยเข้าเกณฑส์ อบสวน ✤ (ใช่/ไมใ่ ช่) 6. มไี ขส้ ูง 37.5 องศา ขึ้นไป หรือรู้สึกวา่ มไี ข้ หรือไม่ ✤ (ใช่/ไมใ่ ช่) 7. ท่านมีอาการดังต่อไปนห้ี รือไม่ (เลอื กได้มากกว่า 1 ขอ้ ) ✤ ไอ ✤ มนี า้ มกู ✤ เจ็บคอ ✤ หายใจลาบาก หอบเหน่ือย ✤ (ใช่/ไมใ่ ช่) กศน.ตาบลบา้ นเซดิ สังกัด กศน.อาเภอพนัสนคิ ม

สรปุ ผลการจัดกิจกรรม 6 โครงการอบรมให้ความรู้การปอ้ งกันตนเองให้ปลอดภัยจากเชอ้ื โควดิ -19 8. ในสถานท่ที ่านที่ไปประจา คนทีส่ นิทใกล้ชดิ กับท่าน มีอาการ ไข้ ไอ นา้ มูก เสมหะ มากกว่า 5 คน พรอ้ มๆ กัน ในช่วงเวลาภายใน 1 สัปดาห์หรือไม่ ✤ (ใช่/ไม่ใช่)กร หากมคี าตอบว่า “ใช่” ก็หมายถึงวา่ มีความเสย่ี งท่ีต้องปรึกษากับผรู้ บั ผดิ ชอบด้านสุขภาพในสถานประกอบ กจิ การต่อไป กำรสือ่ สำรควำมเสี่ยง 1. Social Distancing คาวา่ Social Distancing หมายถึง การเวน้ ระยะหา่ งจากคนอ่ืนๆ รวมไปถงึ คนในครอบครวั และลดกิจกรรม ทางสงั คมในพ้ืนท่สี าธารณะที่มีผูค้ นจานวนมาก เพอื่ ลดการแพรก่ ระจายของโรคติดต่อต่างๆ โดยเฉพาะโรคในระบบ ทางเดินหายใจ โดยแยกตวั เองอยภู่ ายในบ้านหรือที่พักในระยะเวลาหนึง่ เพ่ือลดความเส่ียงในการแพร่เชื้อให้ผู้อ่ืน นอกจากน้ี ในช่วงทีม่ กี ารระบาดของโรคใด ๆ กค็ วรท้ิงระยะหา่ งทางสงั คมในการอยรู่ ว่ มกนั ในพน้ื ท่ีทม่ี ผี ู้คนหนาแน่น เชน่ โรงเรียน ขนส่งสาธารณะ บรษิ ัทขนาดใหญ่ งานอเี วนต์ หรือพน้ื ท่ใี ด ๆ ก็ตามทม่ี ีผคู้ นมาอย่รู วมกันเปน็ จานวน มาก เพราะจัดเปน็ สภาพแวดล้อมท่เี อื้อต่อการระบาดของโรคตดิ ต่อได้ 2. แนวทางปอ้ งกนั การตดิ เช้อื ไวรัสโคโรนา 2019สายพันธุ์ใหม่ ดว้ ยหลักการ Social Distancing ◆ หลกี เล่ยี งการใกลช้ ดิ กบั ผปู้ ่วยทม่ี ีอาการไอ จาม น้ามูกไหล เหน่ือยหอบ เจ็บคอ ◆ เวน้ ระยะหา่ งระหว่างบคุ คล ทป่ี ลอดภัยคือ 6 ฟุต หรือ 2 เมตร (อย่างนอ้ ยท่ีสดุ 1 เมตร) เพราะ เปน็ ระยะปลอดภัยทีฝ่ อยละอองน้าลายไมก่ ระเด็นถึงคสู่ นทนา ถ้าหลกี เล่ยี งไมไ่ ด้ ต้องคยุ กันแบบใกล้ ๆ กต็ อ้ งใช้ หนา้ กากอนามยั ◆ ลา้ งมอื ใหส้ มา่ เสมอด้วยสบู่ โดยใชเ้ วลาฟอกสบู่นานไม่ต่ากวา่ 20 วินาที หรือใช้แอลกอฮอล์ เจลลา้ งมือ ทมี่ ปี ริมาณความเขม้ ขน้ ของแอลกอฮอล์ไม่ต่ากวา่ 70% (ไมผ่ สมน้า) ◆ งดจบั ตา จมูก ปาก และข้าวของเครื่องใช้สว่ นตัวต่าง ๆ เช่น โทรศัพทม์ ือถือ กระเป๋า ฯลฯ ขณะ ที่ไม่ได้ลา้ งมือ ◆ กรณที ่ีตอ้ งใชก้ ระดาษชาระหรอื ทชิ ชขู่ ณะไอหรือจาม รวมถงึ การทิ้งหน้ากากอนามยั ใหม้ ว้ นพบั แล้วใสใ่ นถุงขยะที่ปิดสนิท เพื่อป้องการเชือ้ โรคแพร่กระจาย หลังจากนนั้ ลา้ งมอื ให้สะอาดทันที ◆ หลีกเลย่ี งสถานท่ีชมุ ชน เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ สนามกีฬา รวมไปถึงเล่ยี งกจิ กรรมทม่ี คี น แออัด เช่น งานอีเวนต์ ประชุม สมั มนา หรอื งานคอนเสริ ์ต เป็นต้น ◆ ลดการประชมุ กนั ในห้องท่ีมีเกา้ อ้ีจานวนมากเรียงติดกนั ถ้าต้องประชุมควรเว้นระยะห่างตาม ที่กาหนดคืออยา่ งน้อย 1 เมตร หรือแนะนาให้ใช้การประชมุ ทางไกลผ่านอินเตอรเ์ นต็ หรือชอ่ งทางออนไลน์ อน่ื ๆ เพ่ือลดความเส่ียง ◆ สวมหนา้ กากอนามัยทุกคร้ังเมือ่ อยใู่ นทส่ี าธารณะ หากจาเปน็ ตอ้ งอยใู่ นพนื้ ทสี่ าธารณะ (ซึง่ ไม่ ควรอยา่ งยง่ิ ) จะต้องป้องกันตัวเองอยา่ งรัดกุมมากที่สุดสวมหนา้ กากให้คลมุ ปิดจมูก ปาก คาง และให้ขยบั ให้ พอดีกับใบหน้า ◆ ระมดั ระวังการสมั ผสั พืน้ ผิวที่ไมส่ ะอาดและอาจมเี ชือ้ โรคเกาะอยู่ รวมถึงสงิ่ ทม่ี ีคนจบั บอ่ ยคร้ัง กศน.ตาบลบา้ นเซิด สังกัด กศน.อาเภอพนัสนิคม

สรปุ ผลการจดั กจิ กรรม 7 โครงการอบรมใหค้ วามรู้การปอ้ งกนั ตนเองใหป้ ลอดภัยจากเชอื้ โควิด-19 เช่น ท่จี บั บน BTS, MRT, Airport Link ท่เี ปดิ -ปดิ ประตูในรถ กลอนประตตู า่ ง ๆ กอ๊ กน้า ราวบันได ฯลฯ ◆ หลกี เลีย่ งการน่งั รับประทานอาหารในรา้ นที่มีคนจานวนมาก แนะนาใหส้ ง่ั กลบั บ้าน ถ้าตอ้ งรบั ประทานทรี่ ้าน ควรเว้นทีน่ ัง่ ให้หา่ งจากบุคคลอ่ืน หรือทาอาหารรับประทานเองที่บ้าน เปน็ อีกชอ่ งทางหน่ึงในการ ดูแลตวั เองและป้องกนั เชอื้ จากบุคคลภายนอกครอบครัว กำรจัดสถำนท่ีรบั ประทำนอำหำรเพื่อกำรปอ้ งกันสัมผัสเช้ือ สุขวทิ ยำของผู้ประกอบอำหำร กำรอบรมให้ควำมรแู้ กผ่ ู้ประกอบอำหำร ◆ การใส่ - ถอด หนา้ กากและการล้างมือท่ีถกู ต้อง ◆ การทาความสะอาด จัดเตรียมวตั ถดุ บิ ภาชนะ และอุปกรณต์ า่ งๆที่เก่ยี วข้อง ปฏบิ ัติตามมาตรฐานที่ กระทรวงสาธารณสุขกาหนด ✤ กฏกระทรวง สุขลกั ษณะของสถานที่จาหนา่ ยอาหาร พ.ศ.2561 ✤ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข หลกั เกณฑ์การอบรมผปู้ ระกอบกิจการและผ้สู ัมผสั อาหาร พ.ศ.2561 ✤ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข_อณุ หภมู ใิ นการเก็บรกั ษาอาหารสด พ.ศ.2561 กำรกำกับดแู ลผสู้ ัมผัสอำหำร ผู้สมั ผัสอาหาร ได้แก่ บุคคลท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั อาหารตั้งแต่กระบวนการเตรยี ม ประกอบ ปรุง จาหนา่ ย และ เสริ ฟ์ อาหาร รวมถึงการลา้ งและเกบ็ ภาชนะอปุ กรณ์ ◆ ก่อนทจี่ ะมีการปรงุ อาหาร ควรตรวจสอบผู้สัมผสั อาหาร หากพบผสู้ ัมผสั อาหาร มอี าการเจ็บป่วย เช่น มี ไข้ ไอ จาม มีน้ามกู หรอื เหนอื่ ยหอบให้หยุดงานและพบแพทย์ทันที ◆ ในขณะปฎบิ ตั ิงานผสู้ มั ผัสอาหารตอ้ งสวมหมวกคลมุ ผม ผา้ กันเป้ือน หนา้ กากผ้า และถุงมือและมกี าร ปฏิบัติตนตามหลักสขุ าภบิ าล ◆ ไม่สมั ผัสอาหารสดประเภทเนื้อสตั ว์ เครอื่ งในสัตวโ์ ดยตรง และล้างมือหลังการสมั ผัสเนอื้ สัตว์ หรอื ผลติ ภัณฑ์จากสตั ว์ทกุ คร้ังแยกภาชนะ อุปกรณป์ รงุ ประกอบอาหาร เช่น เขยี ง มดี ระหวา่ งอาหาร สกุ และอาหารดบิ สาหรบั อาหารประเภทเนื้อสตั ว์ ควรปรุงใหส้ กุ ด้วยความรอ้ นไมน่ ้อยกว่า 60 องศา เซลเซียส อย่างนอ้ ย 30 นาที ◆ สาหรับอาหารปรงุ สาเรจ็ ใหม้ กี ารปกปิดอาหาร และอุน่ อาหารทุกๆ 2 ช่วั โมง ใชอ้ ุปกรณ์ สาหรับหยบิ จับ หรือตักอาหาร เช่น ช้อน ท่ีคีบ ฯลฯ ระมัดระวังไมใ่ ห้สว่ นของดา้ มจบั ตก หล่นหรือ สมั ผัสกบั อาหาร เพราะอาจเกิด การปนเป้อื นของเช้ือโรคได้ ◆ ผู้ปรงุ ทีม่ ีสว่ นประกอบของเนอ้ื สัตว์และท่เี สริ ์ฟอาหาร ใหส้ วมผา้ กันเป้อื น ถงุ มอื หน้ากากตลอดเวลา เพื่อ ป้องกนั ตนเองและไอ จาม ปนเปอ้ื นอาหาร ◆ ล้างมอื บ่อย ๆ ด้วยนา้ และ สบู่ ต้งั แต่เรม่ิ เขา้ ทางาน ก่อนการเตรียมอาหาร ระหวา่ งและหลังปรุง อาหาร เสรจ็ หลงั จบั เงิน ขยะหรอื เศษอาหาร หลงั สูบบหุ ร่ี หลังทาความสะอาด และหลังเข้าส้วม กศน.ตาบลบ้านเซิด สงั กดั กศน.อาเภอพนัสนคิ ม

สรปุ ผลการจดั กิจกรรม 8 โครงการอบรมให้ความรู้การปอ้ งกันตนเองให้ปลอดภัยจากเชอื้ โควิด-19 ◆ ทาความสะอาดจุดเส่ียง เชน่ ห้องครวั อปุ กรณ์ปรุงประกอบอาหาร โต๊ะ เกา้ อี้ ด้วยน้ายาทาความสะอาด ทว่ั ไป รวมถึงล้างภาชนะอุปกรณ์หรอื สงิ่ ของเครื่องใช้ใหส้ ะอาดเป็นประจาทุกวัน กำรควบคุมเก่ียวกับสุขลักษณะอำคำรและอปุ กรณ์เคร่อื งใชท้ ี่มีอยู่ในสถำนท่ีรับประทำนอำหำร กำรทำควำมสะอำดห้องพักรับประทำนอำหำร ◆ ห้องพกั รบั ประทานอาหารควรทาความสะอาดอาคารและบริเวณโดยรอบอยา่ งสมา่ เสมอ เช่น พ้นื ผนงั ประตู เป็นตน้ ◆ ดูแลสถานทป่ี รงุ ประกอบอาหารบริเวณพ้นื โตะ๊ ที่นั่งบรเิ วณท่รี บั ประทานอาหารให้สะอาด โดยทาความ สะอาดด้วยน้าผงซักฟอกหรือน้ายาทาความสะอาด ฆ่าเชือ้ ดว้ ยโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (น้ายาฟอกขาว) เขม้ ข้น 1000 สว่ นในลา้ นสว่ น โดยใชโ้ ซเดยี มไฮโปคลอไรท์ 6% ในอัตราส่วน 1 ช้อนโตะ๊ ตอ่ น้า 1 ลติ ร) ตามจดุ หรอื บรเิ วณทม่ี ีการใช้ รว่ มกนั เช่น โต๊ะ เกา้ อี้ทใี่ ชร้ บั ประทานอาหาร ทกุ คร้งั เมื่อมีการเปลีย่ นผู้มาใชบ้ รกิ าร ◆ ล้างภาชนะอุปกรณ์ให้สะอาดตามหลกั สุขาภบิ าลอาหารดว้ ยนา้ ยาลา้ งจานให้สะอาดโดยแช่ ภาชนะในนา้ ร้อน 80 องศาเปน็ เวลา 30 วินาที หรอื แชโ่ ซเดียมไฮโปคลอไรท์ (น้ายาฟอกขาว) เข้มขน้ 100 สว่ นในล้านสว่ น (ใช้ โซเดยี มไฮโปคลอไรท์ 6% ในอัตราสว่ นครึง่ ช้อนชาต่อนา้ 1 ลติ ร) 1 นาที แลว้ ลา้ งน้าให้สะอาด อบหรือผ่ึงให้แหง้ ก่อน ใชใ้ สอ่ าหาร หา้ มใชผ้ า้ เช็ค ◆ ทาความสะอาดหอ้ งน้า ห้องสว้ ม โดยเน้นบริเวณจดุ เสีย่ ง เชน่ ทีจ่ ับสายฉีดชาระ ท่รี องนง่ั โถส้วม ทก่ี ดโถ สว้ ม โถปัสสาวะ ที่เปิดก๊อกอา่ งลางมอื และกลอนประตูหรือลกู บดิ เปน็ ต้น รวมทงั้ ทาความสะอาดก๊อกน้าที่ใชภ้ ายใน สถานทีป่ รุงประกอบอาหาร โดยใช้น้ายาทาความสะอาดและล้างด้วยน้าใหส้ ะอาด ◆ ห้องพักรับประทานอาหารต้องมรี ะบบระบายอากาศและควรมีการถา่ ยเทอากาศในอาคารท่ีเหมาะสม และ ทาความสะอาดระบบระบายอากาศและถ่ายเทอากาศอยา่ งสม่าเสมอ ◆ กรณีทีม่ เี ครื่องอบทาความสะอาดภาชนะ และเครื่องอบชอ้ นฆ่าเช้ือ UV หมนั่ ตรวจสอบบารุงรักษาเป็น ประจาสม่าเสมอ กำรจดั สถำนทน่ี ง่ั สำหรับกำรรบั ประทำนอำหำร การใชม้ าตรการ Social distancing ในการจัดสถานทนี่ ่งั รับประทานอาหาร เพื่อเปน็ การลดความแออดั โดย มีหลักในการจัดดังน้ี กำรจัดสถำนที่ท่เี นน้ มำตรกำร Social distancing มาตรการ Social Distancing ตามข้อมลู จากศูนยป์ ้องกนั และควบคุมโรคของสหรฐั ฯ หรือ CDC คาว่า Social Distancing หมายถึง การหลกี เลี่ยงสถานที่ทม่ี ีคนอยหู่ นาแนน่ การหลีกเลยี่ งกิจกรรมที่มคี นจานวนมากมา รวมตวั กัน และการรักษาระยะห่างจากผู้อน่ื ประมาณ 2 เมตร นอกจากนน้ั เรายังตอ้ งหลีกเล่ยี งการสมั ผัสทางกายภาพ เพราะอาจเป็นการนาเชอื้ มาส่ตู ัวเอง หรอื อาจเป็นการแพร่เช้อื ไปสู่ผ้อู ื่น ควรจัดโตะ๊ และเก้าอี้ ให้เวน้ ระยะห่างระหวา่ ง บุคคล 1- 2 เมตร เพราะเปน็ ระยะปลอดภยั ที่ฝอยละอองนา้ ลายไมก่ ระเด็นถึงกนั และถา้ มือเราสมั ผสั ละออง เชอื้ โรค ที่อยตู่ ามโตะ๊ สิ่งของ แลว้ เผลอมาจบั หน้าก็เป็นสาเหตุทาให้ตดิ เช้อื โควิด-19 ได้ ◆ ควรทาสญั ลกั ษณแ์ สดงระยะห่างตา่ งๆ เพื่อใหส้ ามารถปฏิบตั ไิ ด้โดยงา่ ย ◆ สื่อสารใหพ้ นักงานเข้าใจสัญลกั ษณ์และให้เกดิ ความตระหนกั ในการควบคมุ ระยะหา่ ง ◆ ตรวจสอบการใช้งานตามข้อกาหนด เพอ่ื ใหม้ นั่ ใจวา่ พนกั งานมคี วามเข้าใจและปฏิบัติได้ กศน.ตาบลบ้านเซดิ สงั กดั กศน.อาเภอพนัสนิคม

สรปุ ผลการจัดกิจกรรม 9 โครงการอบรมให้ความรู้การปอ้ งกันตนเองใหป้ ลอดภัยจากเช้อื โควิด-19 คำแนะนำกำรแยกสังเกตอำกำรท่บี ้ำน (Home Quarantine) ผทู้ สี่ ัมผัสกบั ผูป้ ว่ ยติดเชอ้ื ไวรัสโควิด-19 ควรแยกเพื่อสงั เกตอาการทบ่ี า้ นเปน็ ระยะเวลา 14 วนั (ระยะฟกั ตัว ของเช้ือโรค) เพ่ือป้องกันการแพรก่ ระจายของเชื้อโรค โดยแบ่งเป็นกรณีอยู่บา้ นคนเดียว กรณีอยู่ในบา้ นร่วมกบั ครอบครัว/พักรว่ มกับผ้อู ่นื และกรณีอย่ใู นอาคารชุด (หอพัก คอนโดมเิ นยี ม อพาร์ตเมนท์) ควรปฏิบัติตามคาแนะนา ดงั น้ี ◆ กำรเตรยี มควำมพร้อมด้ำนสถำนท่พี กั และอุปกรณ์เครอ่ื งใช้ ✤ มีการแยกหอ้ งนอนและห้องนา้ ของผ้ทู ่ีเดนิ ทางกลับมาจากพ้ืนที่เสย่ี งออกจากสมาชกิ อ่ืน ทั้งน้ีหอ้ งพักควรมี ลักษณะโปร่ง มอี ากาศถ่ายเทดี มีแสงแดดเขา้ ถึงได้ ✤ มีการแยกของใช้สว่ นตวั (เส้ือผา้ ผ้าหม่ ผา้ เช็ดตวั จาน ชาม ช้อน แก้วนา้ ) รวมทง้ั ให้แยกทาความสะอาด ✤ มีอปุ กรณ์ป้องกันการติดเชื้อสาหรบั ผทู้ ่ีเดนิ ทางกลับมาจากพนื้ ท่ีเสี่ยง เชน่ หนา้ กากอนามัย สบู่ เจล แอลกอฮอล์ ✤ มีอุปกรณ์สาหรบั ทาความสะอาด เชน่ ไม้ถูพ้นื ผ้าสาหรบั เชด็ ทาความสะอาด ถุงมือ น้ายาทาความสะอาด สารฟอกขาว ถงุ ขยะ ◆ การปฏบิ ตั ติ วั ของของผู้ท่เี ดนิ ทางมาจากพน้ื ทเ่ี สีย่ ง ระหว่างการแยกสังเกตอาการ ณ ท่ีพักอาศยั เพื่อ ปอ้ งกนั การแพรเ่ ช้ือไปส่ผู อู้ ่นื ก. กรณีอยูบ่ ้ำนคนเดียว 1. วดั อณุ หภูมกิ ายทุกวนั หากพบว่ามไี ข้ อุณหภมู ิ > 37.5 องศาเซลเซยี ส ร่วมกับอาการทางเดินหายใจ เช่น ไอ นา้ มูก เจ็บคอ หอบเหนื่อย ใหไ้ ปพบแพทย์ โดยแจง้ เจา้ พนกั งานควบคุมโรคตดิ ต่อ หรอื แจง้ 1669 เพ่ือประสาน การรบั ตัว ท้ังนีต้ ้องไมใ่ ช้รถสาธารณะในการเดนิ ทาง หรือเดินทางดว้ ยรถยนต์สว่ นตวั หรอื รถรบั จ้างที่ไม่เปิด เครื่องปรบั อากาศ โดยสวมหน้ากากอนามยั ตลอดเวลา 2. ดแู ลสขุ อนามยั สว่ นบุคคล ดว้ ยการล้างมอื บอ่ ย ๆ ด้วยน้าและสบอู่ ยา่ งน้อย 20 วินาที กรณไี ม่มีน้าและสบู่ ใหล้ ูบมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทมี่ ีความเข้มขน้ อย่างน้อย 70% ปิดปากจมูกดว้ ยกระดาษทิชชทู กุ ครงั้ ท่ีไอจาม โดยปดิ ถงึ คาง แลว้ ทงิ้ ทชิ ชูลงในถุงพลาสติกและปดิ ปากถุงใหส้ นิทก่อนทิง้ หรอื ใชแ้ ขนเสือ้ ปดิ ปากจมกู เมื่อไอหรอื จาม และทา ความสะอาดมือดว้ ย เจลแอลกอฮอล์ หรอื ลา้ งมือด้วยน้าและสบู่ทันที 3. แยกรบั ประทานอาหาร หากมีผู้จดั อาหาร หรือสง่ั อาหารจากแหลง่ อื่น ให้กาหนดจดุ รับอาหารเพ่ือป้องกัน การสัมผสั ใกลช้ ิด 4. กรณจี าเปน็ ต้องพบปะผู้อนื่ ให้ใชห้ น้ากากอนามัย และรักษาระยะหา่ งไม่น้อยกว่า 1-2 เมตรหรอื 1-2 ชว่ ง แขน หรอื ใชเ้ วลาพบปะผูอ้ ่ืนใหส้ ้นั ทีส่ ุด 5. ใหแ้ ยกขยะ เป็น 2 ประเภท แลว้ ใสล่ งถงั เพ่ือให้มีการนาไปกาจัดต่อไป ✤ ขยะท่วั ไป เชน่ ถุงพลาสติก ภาชนะใส่อาหารแบบใช้ครั้งเดียว ขวด เป็นต้น ใหเ้ กบ็ รวบรวม เปน็ ขยะทว่ั ไป ✤ ขยะทป่ี นเป้ือนน้ามูก น้าลาย สารคัดหลงั่ เช่น หน้ากากอนามยั กระดาษทชิ ชู เป็นตน้ ในแต่ละวันให้เก็บรวบรวมและทาลายเชอื้ โดยใส่ถุงขยะ 2 ชน้ั และทาลายเชอ้ื โดยราดด้วยน้ายาฟอกขาว แลว้ มัดปาก ถุงให้แน่น นาไปท้ิงรวมกับขยะทัว่ ไป ภายหลังจัดการขยะให้ล้างมือดว้ ยน้า และสบหู่ รือเจลแอลกอฮอล์ทันที กศน.ตาบลบ้านเซิด สงั กดั กศน.อาเภอพนสั นคิ ม

สรปุ ผลการจัดกิจกรรม 10 โครงการอบรมใหค้ วามรู้การปอ้ งกันตนเองให้ปลอดภัยจากเชอื้ โควดิ -19 6. ทาความสะอาด โถส้วม อา่ งล้างมือ หลังใชง้ าน 7. งดกจิ กรรมนอกบ้าน หยดุ งาน หยดุ เรียน งดไปในทชี่ ุมชน งดใช้ขนส่งสาธารณะ ข. กรณตี ้องอย่บู ้ำนรว่ มกบั ครอบครวั /พักรว่ มกบั ผู้อนื่ ข้อปฏบิ ตั ิตัวสาหรบั ผทู้ เ่ี ดินทางมาจากพ้นื ที่เส่ียง 1. วดั อณุ หภมู ิกายทุกวนั หากพบว่ามไี ข้ อุณหภมู ิ > 37.5 องศาเซลเซยี ส ร่วมกับอาการทางเดนิ หายใจเชน่ ไอ น้ามูก เจ็บคอ หอบเหน่ือย ใหไ้ ปพบแพทย์ โดยแจ้งเจา้ พนกั งานควบคุมโรคตดิ ต่อหรอื แจ้ง 1669 เพอื่ ประสานการ รบั ตวั ท้งั น้ีตอ้ งไม่ใช้รถสาธารณะในการเดนิ ทาง หรือเดินทางด้วยรถยนตส์ ่วนตัว หรือรถรบั จา้ งท่ไี ม่เปดิ เคร่อื งปรับอากาศ โดยสวมหนา้ กากอนามยั ตลอดเวลา 2. ดแู ลสขุ อนามยั ส่วนบคุ คล ด้วยการล้างมอื บอ่ ยๆ ด้วยนา้ และสบูอ่ ยา่ งน้อย 20 วนิ าที กรณีไม่มนี ���ำ���้และสบู่ ใหล้ ูบมือดว้ ยเจลแอลกอฮอลท์ ม่ี ีความเขม้ ข้นอยา่ งน้อย 70% ปิดปากจมูกด้วยกระดาษทิชชูทุกครง้ั ท่ีไอจาม โดยปดิ ถึง คาง แลว้ ทิง้ ทชิ ชลู งในถุงพลาสตกิ และปิดปากถุงใหส้ นิทก่อนทิง้ หรือใช้แขนเสือ้ ปดิ ปากจมูกเมื่อไอหรือจาม และทา ความสะอาดมือดว้ ย เจลแอลกอฮอล์ หรอื ลา้ งมือด้วยนา้ และสบู่ทันที 3. หลกี เลีย่ งการอยใู่ กลช้ ดิ บคุ คลอน่ื ในท่ีพกั อาศยั โดยเฉพาะผ้สู งู อายุผปู้ ่วยโรคเรือ้ รังตา่ ง ๆ และควรอยหู่ ่าง จากคนอน่ื ๆ ไมน่ ้อยกวา่ 1-2 เมตร หรอื 1-2 ชว่ งแขน หรอื ใชเ้ วลาพบปะผอู้ น่ื ให้สั้นทส่ี ดุ 4. ให้แยกหอ้ งนอน ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกบั ผ้อู นื่ (เสื้อผ้า ผ้าเช็ดหน้า ผา้ หม่ ผ้าเช็ดตวั จาน ชามช้อน แกว้ น้า หลอดดูดน้า โทรศัพท์) รวมทงั้ ใหแ้ ยกทาความสะอาด 5. จดั ให้มีน้าด่ืมแยกเฉพาะ แยกการรับประทานอาหาร ไม่รบั ประทานอาหารร่วมกับคนในครอบครวั ให้ตัก แบง่ อาหารมารับประทานตา่ งหาก และเก็บล้างภาชนะดว้ ยน้ายาลา้ งจาน ผึง่ ให้แห้งและตากแดด 6. ให้แยกขยะ เป็น 2 ประเภท แลว้ ใสล่ งถงั เพื่อให้มีการนาไปกาจัดต่อไป ✤ ขยะทว่ั ไป (เชน่ ถงุ พลาสติก ภาชนะใสอ่ าหารแบบใช้คร้ังเดยี ว ขวด เปน็ ตน้ ) ให้เก็บรวบรวม เปน็ ขยะทว่ั ไป ✤ ขยะทีป่ นเปื้อนน้ามูก นา้ ลาย สารคดั หล่ัง เชน่ หน้ากากอนามยั กระดาษทิชชู เป็นต้น ในแต่ ละวนั ใหเ้ กบ็ รวบรวมและทาลายเชือ้ โดยใสถ่ ุงขยะ 2 ชัน้ และทาลายเชอ้ื โดยราดดว้ ย นา้ ยาฟอกขาว แลว้ มดั ปากถุง ใหแ้ น่น นาไปท้ิงรวมกับขยะท่ัวไป ภายหลงั จดั การขยะ ให้ล้างมอื ด้วยนา้ และสบหู่ รอื เจลแอลกอฮอล์ทันที 7. ให้แยกการใชห้ ้องสว้ มกบั คนในครอบครวั หากแยกไม่ได้ ควรใชห้ ้องส้วมเป็นคนสดุ ท้าย และให้ทาความ สะอาดทันทหี ลังใช้ส้วม ทัง้ นี้ ใหป้ ดิ ฝาทุกครงั้ ก่อนกดชักโครกเพื่อปอ้ งกนั การแพร่กระจายของเช้ือโรค 8. กรณจี าเป็นตอ้ งพบปะผู้อื่น ให้ใชห้ น้ากากอนามยั หน้ากากอนามยั ที่ใช้แล้วใหท้ ง้ิ ลงในถังขยะทม่ี ีฝาปิด มิดชดิ และทาความสะอาดมือดว้ ยเจลแอลกอฮอล์ หรอื น้าและสบู่ทนั ที 9. งดกิจกรรมนอกบา้ น หยุดงาน หยุดเรยี น งดไปในท่ชี ุมชน งดใชข้ นส่งสาธารณะ__ ค. กำรปฏบิ ตั ติ ัวของคนในครอบครวั 1. ให้ทกุ คนในบ้านดูแลสขุ อนามยั สว่ นบคุ คล ดว้ ยการลา้ งมือบอ่ ย ๆ ดว้ ยนา้ และสบอู่ ยา่ งน้อย 20 วนิ าที กรณีไมม่ ีนา้ และสบู่ ใหล้ บู มือดว้ ยเจลแอลกอฮอลท์ ี่มีความเข้มข้นอย่างน้อย 70% หลีกเลี่ยงจดุ เสย่ี ง และดแู ลสุขภาพ ตนเอง กศน.ตาบลบ้านเซดิ สังกัด กศน.อาเภอพนัสนิคม

สรปุ ผลการจดั กจิ กรรม 11 โครงการอบรมให้ความรกู้ ารปอ้ งกนั ตนเองให้ปลอดภัยจากเชื้อโควดิ -19 2. ไมใ่ ชข้ องใช้ส่วนตวั ร่วมกัน (เช่น ผ้าเช็ดหนา้ ผ้าเช็ดตวั แกว้ นา้ หลอดดูดนา้ ) ไมด่ ม่ื น้าและไมร่ บั ประทาน อาหารสารบั เดยี วกบั ผู้ทเ่ี ดนิ ทางมาจากพน้ื ที่เสีย่ ง และแยกทาความสะอาด 3. เก็บรวบรวมขยะมลู ฝอยทงั้ หมดใส่ถุง ปดิ ปากถงุ ให้มิดชดิ แลว้ ใสล่ งถงั เพือ่ ให้ อปท. เก็บขนนาไปกาจดั ต่อไป 4. กรณีใชส้ ้วมร่วมกนั ใหร้ ะมัดระวังจุดเสย่ี งสาคัญทีม่ กี ารสมั ผสั ร่วมกนั เช่น บริเวณโถส้วมอ่างล้างมือ ก๊อก น้า ลกู บิดประตู และลา้ งมือด้วยนา้ และสบู่ทุกครัง้ 5. บุคคลในครอบครัวหลีกเลี่ยงการอยู่ใกลช้ ดิ กับผทู้ ี่กลับมาจากพ้ืนท่รี ะบาด โดยเฉพาะผูส้ งู อายผุ ปู้ ่วยโรค เร้อื รังต่างๆ ควรอยหู่ ่างกนั ไม่นอ้ ยกว่า 1-2 เมตรหรือ 1-2 ช่วงแขนหรือใช้เวลาพบปะผอู้ ่ืนใหส้ ้นั ทีส่ ดุ หากจาเปน็ ให้ ใชห้ นา้ กาก 6. เฝา้ ระวงั อาการเจ็บปว่ ยของผสู้ ัมผสั ใกล้ชดิ หรอื สมาชิกในบา้ น เปน็ เวลา 14 วัน หลงั สมั ผสั กบั ผปู้ ่วย 7. คนในครอบครวั สามารถไปทางาน เรยี นหนงั สอื ไดต้ ามปกติ แต่ทง้ั น้ีอาจต้องให้ข้อมลู กับสถานทท่ี างาน สถานศึกษา ตามเงื่อนไขทส่ี ถานทเี่ หล่านัน้ กาหนด ง. กรณีอำศยั ในอำคำรชุด (หอพกั คอนโดมิเนยี ม อพำรต์ เมนท์) มีคาแนะนาการปฏบิ ตั ิตัวของผูท้ ี่เดนิ ทางมาจากพืน้ ท่เี สย่ี ง ดงั นี้ 1. วัดอุณหภูมิกายทุกวัน หากพบวา่ มไี ข้ อุณหภูมิ > 37.5 องศาเซลเซียส ร่วมกับอาการทางเดนิ หายใจเช่น ไอ น้ามูก เจ็บคอ หอบเหนื่อยใหไ้ ปให้ไปพบแพทย์ โดยแจง้ เจา้ พนกั งานควบคมุ โรคติดตอ่ หรอื แจ้ง 1669 เพื่อ ประสานการรับตัว ทง้ั นี้ ต้องไมใ่ ช้รถสาธารณะในการเดนิ ทาง หรอื เดินทางดว้ ยรถยนต์ส่วนตวั หรือรถรบั จา้ งท่ไี ม่เปิด เครอ่ื งปรับอากาศ โดยสวมหน้ากากอนามยั ตลอดเวลา 2. ดูแลสุขอนามยั ส่วนบคุ คล ด้วยการลา้ งมือบอ่ ย ๆ ด้วยน้าและสบ่อู ยา่ งน้อย 20 วินาที กรณีไมม่ ีนา้ และสบู่ ให้ลูบมือดว้ ยเจลแอลกอฮอลค์ วามเขม้ ขน้ อย่างนอ้ ย 70% ปดิ ปากจมูกด้วยกระดาษทิชชูทกุ ครั้งทีไ่ อจาม โดยปิดถึง คาง แล้วทง้ิ ทชิ ชูลงในถุงพลาสติกและปดิ ปากถุงใหส้ นทิ ก่อนทิง้ หรอื ใชแ้ ขนเส้ือปิดปากจมกู เมื่อไอหรอื จาม และ ทา ความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หรอื ล้างมือด้วยน้าและสบูท่ ันที 3. หากมีผจู้ ัดอาหาร หรอื ส่งั อาหารจากแหล่งอ่ืน ใหก้ าหนดจุดรบั อาหารเพ่ือป้องกันการสัมผัสใกล้ชิด เช่น แจ้งผู้ดูแลอาคารชุดเปน็ กรณีพเิ ศษเพ่ือมาส่งที่จดุ รับอาหาร 4. ให้แยกขยะ เป็น 2 ประเภท แล้วใส่ลงถังเพื่อให้มีการนาไปกาจัดต่อไป ขยะท่ัวไป (เช่น ถุงพลาสตกิ ภาชนะใสอ่ าหารแบบใชค้ ร้งั เดียว ขวด เปน็ ตน้ ) ใหเ้ ก็บรวบรวมเป็นขยะทั่วไป ✤ ขยะที่ปนเป้ือนนา้ มูก น้าลาย สารคดั หล่ัง เช่น หนา้ กากอนามยั กระดาษทชิ ชู เป็นต้น ในแต่ ละวนั ให้เก็บรวบรวมและทาลายเช้อื โดยใสถ่ ุงขยะ 2 ชน้ั และทาลายเชอ้ื โดยราดดว้ ยน้ายาฟอกขาว แล้วมดั ปากถงุ ใหแ้ น่น นาไปท้ิงรวมกับขยะท่ัวไป ภายหลังจัดการขยะใหล้ ้างมอื ดว้ ยนา้ และสบ่หู รอื เจลแอลกอฮอลท์ ันที 5. ทาความสะอาดโถสว้ ม อ่างล้างมือ หลังใช้งาน 6. หลกี เลี่ยงการใชพ้ น้ื ท่ีส่วนกลางร่วมกบั ผู้อนื่ เช่น ล้อบบ้ี ลิฟท์ กรณีที่หลีกเลี่ยงไมไ่ ดใ้ ห้ใชห้ น้ากากอนามัย และรกั ษาระยะห่างไมน่ ้อยกว่า 1-2 เมตร หรือใช้เวลาให้ส้นั ทสี่ ดุ หรอื เลยี่ งเวลาท่มี ีผูใ้ ช้หนาแน่น รวมทัง้ งดใชบ้ รกิ าร สันทนาการรว่ ม เชน่ สระว่ายน้าหอ้ งออกกาลังกาย 7. งดกจิ กรรมนอกบ้าน หยดุ งาน หยุดเรียน งดไปในท่ีชมุ ชน งดใชข้ นส่งสาธารณะ กศน.ตาบลบ้านเซดิ สงั กัด กศน.อาเภอพนัสนิคม

สรปุ ผลการจัดกจิ กรรม 12 โครงการอบรมให้ความร้กู ารป้องกนั ตนเองใหป้ ลอดภยั จากเชื้อโควิด-19 หำกเพ่ิงกลับจำกประเทศเส่ยี งไวรสั “โควิด-19” ระบำด ควรปฏบิ ัตติ วั อย่ำงไร ? 1. ระหว่างเดนิ ทางจากสนามบนิ กลับถงึ บ้าน ควรสวมหนา้ กากอนามยั ตลอดเวลา 2. การติดเชือ้ โควิด-19 จะมีระยะฟกั ตวั (เราได้รับเชอ้ื มาแลว้ แต่ยังไม่แสดงอาการ) ยาวนานถงึ 14 วนั (ล่าสุดอาจยาวได้มากถงึ 27 วัน) ดังนนั้ หลงั กลบั จากไทยจึงควรกักตวั เองอยูแ่ ตใ่ นบา้ น ไม่ออกไปใชช้ ีวติ ข้างนอก (แม้ว่าจะไมม่ ีอาการไข้หวดั หรอื อาการผิดปกติใด ๆ เลยก็ตาม) ให้แนใ่ จว่าไม่มีอาการคลา้ ยไข้หวัดใด ๆ เกิดขน้ึ จงึ ค่อย กลบั มาทางาน หรือใชช้ วี ติ ปกติ 3. ระหวา่ งทพ่ี กั อย่ทู ่ีบ้าน ควรหลีกเลี่ยงการชมุ นมุ สังสรรค์กับคนหมู่มาก ทง้ั เครือญาติ หรือกลุ่มเพ่ือน 4. อยู่คนเดียวปลอดภยั ทส่ี ดุ แยกหอ้ งนอน ห้องน้าสว่ นตัวไปเลยคนเดียว อยู่หา่ งจากคนอืน่ อย่างนอ้ ย 1-2 เมตร 5. ถ้าจาเป็นต้องอยู่ร่วมกับสมาชิกในครอบครัว ควรระมัดระวังการใชช้ ีวิตรว่ มกนั ให้ปราศจากความเสีย่ งที่ เชอื้ ไวรสั จะติดต่อถึงได้มากท่ีสดุ เช่น - ไมใ่ ชช้ อ้ น สอ้ ม แก้วน้า และอุปกรณ์ในการกนิ อาหารรว่ มกนั - ใช้ชอ้ นกลางเมอื่ ต้องน่ังรว่ มโตะ๊ อาหาร. - ล้างมอื บ่อย ๆ ด้วยสบู่ หรือเจลล้างมอื ที่มีแอลกอฮอล์เขม้ ขน้ ไม่ต่ากว่า 70% คร้ังละไม่ตา่ กว่า 20 วินาที - สวมหน้ากากอนามยั ทกุ ครงั้ ที่อย่รู ่วมกับคนในบา้ น - เขา้ ใชห้ ้องน้าคนสดุ ท้าย และทาความสะอาดให้เรียบร้อยดว้ ยนา้ กับสบู่ ใช้นา้ ยาฆา่ เชอื้ กับอา่ งน้า ก๊อกน้า ชกั โครก ลกู บดิ ประตู เป็นต้น - ซกั ผ้าแยกตา่ งหาก ไมซ่ กั รวมกับคนอน่ื - แยกของใช้สว่ นตัวทุกอยา่ ง เช่น ผ้าเชด็ ตัว ผ้าเช็ดมอื ผ้าเชด็ หน้า ฯลฯ 6. อยหู่ ่างจากคนทมี่ ีโรคประจาตัว เช่น เบาหวาน โรคเรอ้ื รงั ต่าง ๆ รวมถงึ เด็กเล็ก และผสู้ งู อายุ 7. วางโทรศพั ทไ์ วข้ า้ งตวั เสมอ หากมีเหตุฉกุ เฉินจะได้โทรเรยี กคนอน่ื หรือเรยี กรถพยาบาลได้ 8. วดั ไข้ทุกวัน หากเกนิ 37.5 องศาเซลเซียส มีอาการเจ็บคอ ไอ น้ามูกไหล และหายใจลาบาก ควรพบ แพทย์ 9. หากมีอาการแลว้ ต้องไปตรวจรา่ งกายทโี่ รงพยาบาล ควรขับรถยนตส์ ว่ นตัว ขนึ้ รถแท็กซ่ี หรอื เรยี ก รถพยาบาลมารบั แลว้ แจ้งให้คนขบั รถทราบดว้ ย ไม่ควรเดนิ ทางด้วยรถหรอื พาหนะสาธารณะ 10. เมอื่ พบแพทย์ ระหว่างสอบถามประวตั ติ า่ ง ๆ ควรตอบตามความเป็นจริง หา้ มโกหกเด็ดขาด ว่าเดนิ ทาง ไปทีไ่ หนมา กี่วนั ทาอะไรท่ีไหนบ้าง มีอาการเปน็ อย่างไร ฯลฯ เพอ่ื การวนิ ิจฉัยอยา่ งแม่นยา และถกู ตอ้ งที่สุด คำถำมไขควำมจรงิ เกี่ยวกบั ไวรสั โคโรนำ 1) ร้ไู ด้อยา่ งไรว่าสัมผัสกับเชื้อไวรสั โคโรนา เพราะดไู ม่ออกว่าใครกาลงั ป่วย? ประเทศไทยมีจานวนผู้ป่วยติดเช้ือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในจานวนไม่มาก ทาให้โอกาสท่ี จะสัมผัสผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้เป็นเร่ืองค่อนข้างยาก เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศปลายทาง รวมถึงมี กศน.ตาบลบ้านเซดิ สงั กัด กศน.อาเภอพนสั นคิ ม

สรปุ ผลการจดั กิจกรรม 13 โครงการอบรมให้ความรกู้ ารปอ้ งกนั ตนเองให้ปลอดภัยจากเช้ือโควดิ -19 ระบบคัดกรองผู้ป่วยต้ังแต่การเดินทางเข้าประเทศ อาการของผู้ติดเชื้อสามารถมีได้หลายระดับความรุนแรง ต้ังแต่อาการหวัดธรรมดาจนถึงปอดอักเสบติดเช้ือและเสียชีวิตได้ ในปัจจุบันมีการคัดแยกผู้ป่วยที่มีเกณฑ์เข้า ข่ายสงสัย คือมีประวัติเดินทางไปในพื้นที่เส่ียงหรือสัมผัสผู้ติดเชื้อและมีอาการเพ่ือเข้าห้องแยกความดันลบ หรือ Negative Pressure Room โดยมีแพทย์ซ่ึงสวมชุดป้องกันเป็นผู้ทาการตรวจ 2) อาการปว่ ยแบบใดทบ่ี ่งบอกชดั เจนว่าเปน็ โคโรนา? โดยปกติแพทย์แยกเคสที่เข้าข่ายสงสัย ซ่ึงประกอบไปด้วย 2 ข้อคือ มีประวัติการเดินทางไปยังเมือง อู่ฮั่น (และเมืองอื่น ๆ ท่ีกรมควบคุมโรคกาหนด) ภายใน 14 วัน หรือมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยติดเช้ือไวรัสโค โรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 และมีอาการโดยจะมีไข้หรือไม่มีไข้ก็ได้ หรืออาการหวัด น้ามูก ไอ จาม หอบ เหนื่อย โดยเม่ือมาถึงโรงพยาบาลจะถูกแยกไปตรวจเพ่ือดูว่ามีการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือไม่ ถ้าไม่มีประวัติท้ังสองอย่างน้ีจะไม่ถือว่าเป็นผู้ป่วยท่ีสงสัยและจะไม่ถูกแยกไปตรวจ 3) ใส่หน้ากากอนามัยชว่ ยป้องกันไวรสั โคโรนาได้ 100% หรอื ไม?่ ไวรัสโคโรนาเป็นกลุ่มเชื้อหวัดสายพันธ์ุใหม่ท่ียากจะคาดเดาอาการท่ีปรากฏจึงส่งผลให้มีอัตราการ เสียชีวิตเพิ่มขึ้น แต่การติดต่อนั้นเหมือนกับไข้หวัด คือ ติดต่อผ่านละอองที่ออกกับลมหายใจ หรือสัมผัสสาร คัดหลั่ง สาหรับหน้ากากอนามัยแนะนาให้ผู้ป่วยใส่ วัตถุประสงค์ในการใช้หน้ากากอนามัยในผู้ป่วยคือ ป้องกันเช้ือโรคออกจากตัวผู้ป่วย หากผู้ป่วยไอหรือจามจะติดอยู่ในหน้ากาก ช่วยป้องกันการแพร่กระจาย ของโรค สาหรับการใช้หน้ากากอนามัยในบุคคลปกติป้องกันได้เพียงส่วนหน่ึงควรใช้ร่วมกันกับวิธีอ่ืน ๆ ด้วย ส่ิงสาคัญท่ีสุดคือ การสร้างจิตสานึกให้คนป่วยใส่หน้ากาก 4) ไวรสั โคโรนารักษาหายได้จรงิ หรอื ไม่? การติดเช้ือโคโรนาไวรัสสามารถหายได้เอง ยาท่ีใช้ในตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน การรักษาเป็น การรักษาแบบประคับประคองตามอาการ โดยอาการที่มีแตกต่างกัน บางคนรุนแรงไม่มากลักษณะเหมือน ไข้หวัดท่ัวไป บางคนรุนแรงมากทาให้เกิดปอดอักเสบได้ ต้องสังเกตอาการใกล้ชิดร่วมกับการรักษาด้วยการ ประคับประคองอาการจนกว่าจะพ้นอาการช่วงนั้น ยาที่มีใช้ในตอนน้ียังไม่มียาตัวใดท่ีมีหลักฐานชัดเจนว่า รักษาไวรัสโคโรนาได้โดยตรง ยังอยู่ในช่วงทดลองการรักษา โดยเป็นยาที่ใช้รักษาไวรัสอื่น ๆ เช่น เอดส์ ไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น 5) ฉดี วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญส่ ามารถป้องกนั ไวรสั โคโรนาไดห้ รอื ไม่? การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ไม่สามารถป้องกันไวรัสโคโรนาได้ วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัด ใหญ่ทาเพื่อวัตถุประสงค์ในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ โดยแนะนาให้ฉีดอ้างอิงตามแนวทางการให้วัคซีน ของราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย 6) ผทู้ ี่เคยฉดี วัคซนี ป้องกนั โรคปอดอกั เสบมาก่อน หากตดิ เชื้อไวรสั โคโรนาจะส่งผลให้เกิดโรคปอดอักเสบได้ หรอื ไม่ และเฉพาะผู้สูงอายหุ รือไม่ที่จาเปน็ ต้องฉีด? วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบคือวัคซีนป้องกันการติดเช้ือแบคทีเรียกลุ่ม Pneumococcus ซึ่งไม่ใช่ เช้ือไวรัส จึงไม่สามารถป้องกันเช้ือไวรัสโคโรนาได้ โดยทั่วไปแพทย์แนะนาให้ผู้สูงอายุหรือผู้ท่ีมีภูมิต้านทาน ต่าฉีดเพื่อป้องกันโรคปอดอักเสบ แต่คนทั่วไปไม่จาเป็นต้องฉีด 7) วิธีการรกั ษาไวรสั โคโรนาเหมือนกบั วธิ กี ารรักษาโรคไข้หวดั หรือไม่? กศน.ตาบลบ้านเซดิ สังกัด กศน.อาเภอพนัสนคิ ม

สรปุ ผลการจัดกจิ กรรม 14 โครงการอบรมใหค้ วามรกู้ ารป้องกนั ตนเองใหป้ ลอดภัยจากเชอื้ โควิด-19 แม้ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ 2019 จะเป็นเช้ือในกลุ่มไข้หวัด แต่ไม่ใช่ไข้หวัดธรรมดาเน่ืองจากเป็น สายพันธ์ุใหม่ และสามารถทาให้เกิดอาการท่ีมากกว่าไข้หวัด เช่น ปอดอักเสบ ฯลฯ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ท่ีมีโรคประจาตัว อาจมีอาการรุนแรงหรือร้ายแรงถึงข้ันเสียชีวิตได้ ซ่ึงต่างจากไข้หวัด ธรรมดา จึงต้องมีการคัดแยกตรวจไวรัสโคโรนาเพื่อไม่ให้สัมผัสกับผู้อ่ืน ป้องกันการติดเช้ือเพิ่ม และทาการ รักษาแบบประคับประคองตามอาการ 8) วิธกี ารป้องกนั ไวรสั โคโรนาทถ่ี กู ต้องทาอย่างไร? ล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์ให้สะอาด หลีกเล่ียงการสัมผัสบริเวณใบหน้าเพราะอาจติดเช้ือเข้าไป ในระบบทางเดินหายใจได้ และหลีกเล่ียงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย 9) การทง้ิ หน้ากากอนามยั ทถ่ี ูกต้องควรทาอย่างไร? การท้ิงหน้ากากอนามัยที่ถูกวิธีทาได้โดยหลังจากถอดหน้ากากอนามัยแล้วให้ม้วนหน้ากากอนามัย โดยม้วนด้านในเข้า จากน้ันจึงท้ิงลงในถังขยะติดเชื้อ 10) การใช้เจลล้างมือมปี ระสิทธภิ าพเทยี บเท่ากบั การลา้ งมือด้วยสบู่หรอื ไม่? มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากัน โดยแอลกอฮอล์ที่แนะนาคือมีปริมาณแอลกอฮอล์ต้ังแต่ 60 - 70% ข้ึน ไป โดยสามารถสังเกตปริมาณแอลกอฮอล์ได้จากฉลากข้างผลิตภัณฑ์ กศน.ตาบลบา้ นเซิด สังกดั กศน.อาเภอพนัสนคิ ม

สรปุ ผลการจดั กจิ กรรม 15 โครงการอบรมให้ความรกู้ ารป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากเช้อื โควิด-19 บทที่ 3 วิธีดำเนนิ งำน การดาเนินโครงการอบรมให้ความรูก้ ารป้องกนั ตนเองใหป้ ลอดภยั จากเชอื้ โควิด-19 ได้ดาเนนิ การตามข้นั ตอน ตา่ งๆ ดงั น้ี 1. ขัน้ เตรยี มกำร  กำรศึกษำเอกสำรท่เี ก่ยี วขอ้ งกับโครงกำรอบรมให้ควำมรู้กำรปอ้ งกันตนเองใหป้ ลอดภยั จำกเชอ้ื โควดิ -19 ผรู้ บั ผิดชอบโครงการได้ศกึ ษาคน้ คว้าเอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ งเพื่อเป็นข้อมลู และแนวทางในการดาเนินการโครงการ อบรมให้ความรู้การป้องกนั ตนเองใหป้ ลอดภยั จากเชื้อโควิด-19 ดงั น้ี 1. ศกึ ษาเอกสาร / คู่มือ ข้อมูลจากหนงั สอื เกี่ยวกบั การป้องกนั โรคติดต่อเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพ่ือเปน็ แนวทางเกย่ี วกบั การจัดโครงการอบรมใหค้ วามรกู้ ารป้องกันตนเองใหป้ ลอดภยั จากเชอื้ โควดิ -19 2. ศกึ ษาขนั้ ตอนการดาเนนิ โครงการอบรมใหค้ วามรู้การป้องกันตนเองใหป้ ลอดภยั จากเชื้อโควดิ -19 เพ่ือเป็น แนวทางในการจัดเตรยี มงาน วสั ดอุ ปุ กรณ์ และบุคลากรให้เหมาะสม  กำรสำรวจควำมต้องกำรของประชำชนในพืน้ ท่ี (ตำมนโยบำยของรัฐบำล) กล่มุ ภารกจิ การจัดการศึกษานอกระบบ มอบหมายให้ ครู กศน.ตาบล สารวจความตอ้ งการของ กลุ่มเป้าหมายเพ่ือทราบความตอ้ งการทแ่ี ท้จรงิ ของประชาชนในตาบล และมีข้อมลู ในการจัดกจิ กรรมท่ีตรงกบั ความ ตอ้ งการของชุมชน  กำรประสำนงำนผ้นู ำชุมชน / ประชำชน /วิทยำกร 1. ครู กศน.ตาบล ได้ประสานงานกับหวั หน้า/ผนู้ าชุมชนและประชาชนในตาบลเพอื่ ร่วมกัน ปรึกษาหารือในกลุ่มเกี่ยวกบั การดาเนินการจดั โครงการใหต้ รงกบั ความต้องการของชมุ ชน 2. ครู กศน.ตาบล ไดป้ ระสานงานกบั หนว่ ยงานทเ่ี ก่ียวข้องเพ่อื จดั หาวทิ ยากร  กำรประชำสมั พันธโ์ ครงกำรฯ ครู กศน.ตาบล ไดด้ าเนินการประชาสมั พนั ธก์ ารจัดโครงการอบรมให้ความรกู้ ารป้องกันตนเองให้ ปลอดภัยจากเชอื้ โควิด-19 เพือ่ ใหป้ ระชาชนทราบข้อมูลการจดั กจิ กรรมดังกล่าวผ่านผนู้ าชุมชน  ประชมุ เตรียมกำร / วำงแผน 1) ประชมุ ปรึกษาหารือผู้ทเี่ ก่ียวข้อง 2) เขียนโครงการ วางแผนมอบหมายงานใหฝ้ ่ายต่างๆ เตรยี มดาเนินการ 3) มอบหมายหนา้ ท่ี แต่งตั้งคณะทางาน  กำรรับสมคั รผูเ้ ขำ้ รว่ มโครงกำรฯ ครู กศน.ตาบล ไดร้ ับสมัครผู้เข้ารว่ มโครงการอบรมให้ความรูก้ ารปอ้ งกนั ตนเองให้ปลอดภยั จากเช้ือ โควิด-19 โดยใหป้ ระชาชนท่ัวไปที่อาศยั อยู่ในพนื้ ท่ี 2 ตาบล ๆ ละ 13 คน ไดแ้ ก่ ตาบลบ้านช้าง และตาบลบ้านเซิด รวมทงั้ สน้ิ 26 คน กศน.ตาบลบา้ นเซดิ สงั กัด กศน.อาเภอพนัสนิคม

สรปุ ผลการจดั กจิ กรรม 16 โครงการอบรมให้ความรู้การป้องกันตนเองใหป้ ลอดภยั จากเชือ้ โควิด-19  กำรกำหนดสถำนที่และระยะเวลำดำเนนิ กำร ครู กศน.ตาบล ได้กาหนดสถานทีใ่ นการจดั อบรมคอื อาคารเอนกประสงค์โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพบา้ นสวนผกั ม.6 ต.บา้ นช้าง อ.พนสั นคิ ม จ.ชลบุรี ในวนั ท่ี 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 จานวน 1 วนั เวลา 08.00-16.00 น. 2. ขนั้ ดำเนนิ งำน  กลุ่มเป้ำหมำย กลมุ่ เปา้ หมายของโครงการอบรมใหค้ วามรู้การป้องกนั ตนเองใหป้ ลอดภยั จากเชอ้ื โควิด-19 -ประชาชน 2 ตาบล ๆ ละ 14 คน ไดแ้ ก่ ตาบลบ้านช้าง และตาบลบ้านเซิด รวมทั้งสิน้ 28 คน  สถำนท่ีดำเนนิ งำน ครู กศน.ตาบลบ้านชา้ งและครู กศน.ตาบลบา้ นเซดิ จดั กจิ กรรมโครงการอบรมให้ความรู้การป้องกนั ตนเองให้ปลอดภยั จากเชือ้ โควดิ -19 โดยจดั กจิ กรรมอบรมให้ความรู้ ในวนั ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เวลา 08.00- 16.00 น. ณ อาคารเอนกประสงค์โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพบา้ นสวนผกั ม.6 ต.บ้านช้าง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี  กำรขออนมุ ัติแผนกำรจัดกิจกรรมกำรศึกษำเพอ่ื พัฒนำสงั คมและชุมชน กศน.ตาบลบา้ นช้าง ไดด้ าเนินการขออนมุ ัติแผนการจดั กจิ กรรมการศึกษาเพือ่ พฒั นาสงั คมและ ชมุ ชน โครงการอบรมให้ความรกู้ ารป้องกันตนเองให้ปลอดภยั จากเชือ้ โควิด-19 ตอ่ สานักงาน กศน.จงั หวัดชลบุรี เพ่อื ให้ต้นสงั กดั อนุมัติแผนการจัดกจิ กรรมการศึกษาเพือ่ พัฒนาสังคมและชมุ ชน  กำรจัดทำเครอื่ งมอื กำรวัดควำมพงึ พอใจของผรู้ ว่ มกิจกรรม เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการติดตามประเมนิ ผลโครงการ ไดแ้ ก่ แบบประเมินความพึงพอใจ  ขัน้ ดำเนินกำร / ปฏบิ ัติ 1. เสนอโครงการเพื่อขอความเห็นชอบ/อนุมตั ิจากตน้ สงั กดั 2. วางแผนการจดั กจิ กรรมในโครงการอบรมใหค้ วามรู้การปอ้ งกนั ตนเองให้ปลอดภัยจากเช้ือ โควดิ -19 โดยกาหนดตารางกิจกรรมที่กาหนดการ 3. มอบหมายงานให้แก่ผรู้ ับผิดชอบฝ่ายต่างๆ 4. แต่งตงั้ คณะกรมการดาเนินงาน 5. ประชาสมั พันธ์โครงการอบรมให้ความรกู้ ารป้องกนั ตนเองใหป้ ลอดภัยจากเชื้อโควดิ -19 6. จัดกจิ กรรมโครงการอบรมให้ความรกู้ ารป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากเชือ้ โควิด-19 ตามตาราง กจิ กรรมที่กาหนดการ 7. ติดตามและประเมนิ ผลโครงการอบรมให้ความรู้การป้องกันตนเองใหป้ ลอดภยั จากเชอื้ โควิด-19 กศน.ตาบลบา้ นเซิด สังกัด กศน.อาเภอพนัสนิคม

สรปุ ผลการจัดกจิ กรรม 17 โครงการอบรมให้ความรู้การปอ้ งกันตนเองใหป้ ลอดภยั จากเช้ือโควิด-19 3. กำรประเมินผล  วเิ ครำะหข์ ้อมลู 1. บนั ทกึ ผลการสังเกตจากผเู้ ขา้ ร่วมกจิ กรรม 2. วเิ คราะห์ผลจากการประเมินในแบบประเมนิ ความพึงพอใจ 3. รายงานผลการปฏบิ ตั งิ าน รวบรวมสรุปผลการปฏิบตั ิงานของโครงการนาเสนอต่อผบู้ ริหาร นาปัญหา ขอ้ บกพร่องไปแก้ไขครัง้ ต่อไป  คำ่ สถติ ิทใ่ี ช้ การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าสถิติร้อยละในการประมวลผลข้อมูลส่วนตัวและตัวชี้วัดความสาเร็จของ โครงการตามแบบสอบถามคดิ เปน็ รายขอ้ โดยแปลความหมายคา่ สถติ ริ อ้ ยละออกมาไดด้ งั น้ี ค่าสถติ ิร้อยละ 90 ข้ึนไป ดีมาก ค่าสถติ ริ ้อยละ 75 – 89.99 ดี ค่าสถิติร้อยละ 60 – 74.99 พอใช้ ค่าสถิตริ ้อยละ 50 – 59.99 ปรับปรุง คา่ สถติ ิร้อยละ 0 – 49.99 ปรบั ปรุงเร่งดว่ น ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นรายข้อซึ่ งมีลักษณะเป็นค่าน้าหนักคะแนน และนามาเปรยี บเทียบ ได้ระดับคณุ ภาพตามเกณฑ์การประเมนิ ดังน้ี เกณฑก์ ารประเมนิ (X) ค่านา้ หนักคะแนน 4.50 – 5.00 ระดับคณุ ภาพ คือ ดมี าก คา่ นา้ หนกั คะแนน 3.75 – 4.49 ระดบั คุณภาพ คอื ดี คา่ นา้ หนักคะแนน 3.00 – 3.74 ระดับคุณภาพ คือ พอใช้ คา่ น้าหนกั คะแนน 2.50 – 2.99 ระดบั คณุ ภาพ คือ ตอ้ งปรับปรุง ค่าน้าหนกั คะแนน 0.00 – 2.49 ระดบั คุณภาพ คือ ตอ้ งปรับปรงุ เร่งดว่ น กศน.ตาบลบ้านเซดิ สงั กดั กศน.อาเภอพนสั นิคม

สรปุ ผลการจัดกจิ กรรม 18 โครงการอบรมให้ความรกู้ ารป้องกนั ตนเองใหป้ ลอดภยั จากเชอ้ื โควิด-19 บทที่ 4 ผลกำรดำเนินงำนและกำรวิเครำะหข์ ้อมลู ตอนที่ 1 รำยงำนผลกำรจดั กิจกรรมโครงกำรอบรมให้ควำมรู้กำรป้องกนั ตนเองให้ปลอดภยั จำกเช้อื โควิด-19 การจดั กจิ กรรมโครงการอบรมให้ความรกู้ ารป้องกันตนเองใหป้ ลอดภัยจากเชือ้ โควิด-19 สรุปรายงานผล การจดั กิจกรรมได้ดังนี้ ในการจดั กิจกรรมอบรมให้ความรตู้ ามโครงการอบรมใหค้ วามรู้การปอ้ งกนั ตนเองใหป้ ลอดภยั จากเชอื้ โควิด-19 เปน็ การอบรมใหค้ วามรู้ โดยมี นางชตุ ิกาญจน์ ฉิมพลีกุล เจ้าพนกั งานสาธาณสขุ ชานาญงาน สาธารณสุข อาเภอพนัสนคิ ม เป็นวทิ ยากรในการบรรยายให้ความรู้ เรื่อง ความรู้ทั่วไป เส้นทางทีเ่ ช้ือไวรัสโควดิ -19 เข้าส่รู ่างกาย การประเมินสุขภาพตนเอง การจัดสถานทีท่ างานเพื่อการป้องกันการรับสัมผสั เชื้อไวรสั โคโรนา COVID-19 การจัด สถานทร่ี ับประทานอาหารเพ่ือการป้องกนั สัมผัสเช้อื และแหล่งข้อมูลและช่วยเหลอื ดา้ นสขุ ภาพกรณีมีปญั หาเก่ยี วกับ COVID-19 ตอนท่ี 2 รำยงำนผลควำมพึงพอใจของโครงกำรอบรมให้ควำมรู้กำรปอ้ งกนั ตนเองให้ปลอดภยั จำกเชื้อโควิด-19 การจดั กจิ กรรมโครงการอบรมใหค้ วามรู้การปอ้ งกันตนเองใหป้ ลอดภยั จากเชื้อโควดิ -19 ซง่ึ สรปุ รายงานผล จากแบบสอบถามความคดิ เห็น ข้อมูลที่ไดส้ ามารถวิเคราะห์และแสดงค่าสถิติ ดังน้ี ตำรำงท่ี 1 ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการที่ตอบแบบสอบถามไดน้ ามาจาแนกตามเพศ รอ้ ยละ เพศ จานวน 7.14 ชาย 2 92.86 หญิง 26 100.00 รวม 28 จากตารางท่ี 1 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามที่เข้าร่วมกิจกรรมการศึกษาเพื่อพฒั นาสงั คมและชุมชน โครงการอบรมใหค้ วามรู้การปอ้ งกนั ตนเองให้ปลอดภยั จากเชอ้ื โควิด-19 จานวน 28 คน ส่วนใหญ่ เป็นเพศหญิง จานวน 26 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 92.86 และเพศชาย จานวน 2 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 7.14 ตำรำงที่ 2 ผู้เข้ารว่ มโครงการท่ตี อบแบบสอบถามไดน้ ามาจาแนกตามอายุ อายุ จานวน ร้อยละ - 15 – 25 ปี - 7.14 26 - 39 ปี 2 - 40 – 49 ปี - 46.43 46.43 50 – 59 ปี 13 100.00 60 ปีขึน้ ไป 13 กศน.ตาบลบ้านเซดิ สังกัด กศน.อาเภอพนสั นิคม รวม 28

สรปุ ผลการจดั กิจกรรม 19 โครงการอบรมให้ความรู้การป้องกันตนเองใหป้ ลอดภัยจากเชื้อโควดิ -19 จากตารางท่ี 2 พบว่าผูต้ อบแบบสอบถามทีเ่ ขา้ ร่วมกิจกรรมการศึกษาเพื่อพฒั นาสงั คมและชุมชน โครงการอบรมใหค้ วามรู้การป้องกนั ตนเองให้ปลอดภัยจากเชอ้ื โควดิ -19 จานวน 28 คน สว่ นใหญ่มีอายุระหวา่ ง 50 - 59 ปี จานวน 13 คน คิดเปน็ ร้อยละ 46.43 และอายุ 60 ปีข้ึนไป จานวน 13 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 46.43 และ สุดท้ายคืออายุระหว่าง 26-39 ปี จานวน 2 คน คิดเปน็ ร้อยละ 7.14 ตำรำงที่ 3 ผู้เข้ารว่ มโครงการทีต่ อบแบบสอบถามไดน้ ามาจาแนกตามอาชพี ประกอบอาชีพ จานวน ร้อยละ 67.86 รบั จา้ ง 19 14.29 10.71 ค้าขาย 4 3.57 3.57 เกษตรกร 3 100.00 ลกู จา้ ง/ข้าราชการหนว่ ยงานภาครัฐหรือเอกชน 1 อนื่ ๆ 1 รวม 26 จากตารางท่ี 3 พบว่าผตู้ อบแบบสอบถามที่เข้ารว่ มกจิ กรรมการศึกษาเพ่ือพฒั นาสงั คมและชมุ ชน โครงการอบรมใหค้ วามรู้การปอ้ งกันตนเองให้ปลอดภยั จากเช้ือโควิด-19 จานวน 28 คน ส่วนใหญป่ ระกอบอาชพี รบั จ้าง จานวน 19 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 67.86 รองลงมาคอื อาชพี ค้าขาย จานวน 4 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 14.29 อาชีพเกษตรกร จานวน 3 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 10.71 และสุดท้ายประกอบอาชีพลูกจ้าง/ข้าราชการหน่วยงาน ภาครฐั หรือเอกชน จานวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 3.57 และอาชพี อื่น ๆ จานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 3.57 ตำรำงที่ 4 ผู้เขา้ รว่ มโครงการทต่ี อบแบบสอบถามไดน้ ามาจาแนกตามระดับการศึกษา ระดบั การศึกษา จานวน รอ้ ยละ - ตา่ กว่า ป.4 - 39.29 ป.4 11 17.86 3.57 ประถมศกึ ษา 5 25.00 7.14 มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ 1 7.14 มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 7 100.00 อนุปรญิ ญา 2 ปรญิ ญาตรี 2 สูงกว่าปริญญาตรี - รวม 26 จากตารางที่ 4 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามทีเ่ ข้ารว่ มกจิ กรรมการศึกษาเพื่อพฒั นาสังคมและชมุ ชน กศน.ตาบลบา้ นเซดิ สังกดั กศน.อาเภอพนัสนิคม

สรปุ ผลการจัดกิจกรรม 20 โครงการอบรมให้ความรกู้ ารปอ้ งกันตนเองใหป้ ลอดภัยจากเชอ้ื โควดิ -19 โครงการอบรมใหค้ วามรู้การป้องกนั ตนเองให้ปลอดภัยจากเชอื้ โควิด-19 จานวน 28 คน ส่วนใหญ่มีการศึกษาระดับ ประถมศึกษาปที ่ี 4 จานวน 11 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 39.29 รองลงมาคอื ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย จานวน 7 คน คิดเปน็ ร้อยละ 25.00 ระดับประถมศึกษา จานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 17.86 ระดับอนปุ รญิ ญา จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 7.14 ระดับปรญิ ญาตรี จานวน 2 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 7.14 สุดทา้ ยคือระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ จานวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 3.57 ตำรำงท่ี 5 แสดงคา่ ร้อยละเฉลี่ยความสาเรจ็ ของตัวชวี้ ัด ผลผลติ ประชาชนทัว่ ไปเข้ารว่ มโครงการจานวน 28 คน ผลสาเรจ็ ของโครงการ จานวน รอ้ ยละ เป้าหมายโครงการ 26 100.00 ผู้เขา้ ร่วมโครงการ 28 100.00 จากตารางท่ี 5 พบว่าผลสาเรจ็ ของตวั ช้วี ดั ผลผลิตกิจกรรมการศึกษาเพอ่ื พัฒนาสังคมและชมุ ชน โครงการอบรมใหค้ วามรู้การป้องกนั ตนเองให้ปลอดภัยจากเชอ้ื โควดิ -19 มผี ู้เข้าร่วมโครงการ จานวน 28 คน คิดเปน็ ร้อยละ 100 ซึ่งบรรลุเป้าหมายดา้ นตัวชวี้ ัด ผลผลติ ตำรำงที่ 6 ค่าเฉลี่ยและส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ีมีความพึงพอใจต่อโครงการ อบรมให้ความรกู้ ารป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากเช้ือโควิด-19 ในภำพรวม รายการ คา่ เฉลย่ี สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน ระดบั ความพึงพอใจ ดา้ นการบรหิ ารจดั การ () () ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการจัด 4.77 0.42 ดมี าก กิจกรรมการเรียนรู้/การอบรม 4.79 0.41 ดมี าก ดา้ นประโยชนท์ ่ีได้รบั รวมทุกด้าน 4.91 0.29 ดมี าก 4.82 0.37 ดีมาก จากตารางที่ 6 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามทมี่ ีความพึงพอใจต่อโครงการอบรมใหค้ วามรู้การปอ้ งกนั ตนเอง ใหป้ ลอดภยั จากเชอ้ื โควิด-19 ในภาพรวม จานวน 28 คน อยใู่ นระดบั ดีมาก (=4.82) เม่ือพจิ ารณาเป็นรายด้าน พบวา่ ด้านประโยชนท์ ีไ่ ด้รบั อยใู่ นระดบั มากที่สดุ มีค่าเฉล่ีย (= 4.91) รองลงมาคือ ความพึงพอใจด้านกระบวน การจัดกจิ กรรมการเรยี นร/ู้ การอบรม มอี ยใู่ นระดบั ดีมาก มีค่าเฉล่ีย (= 4.79) และสุดท้ายดา้ นการบริหารจดั การ อยใู่ นระดับดีมาก มคี า่ เฉลี่ย (= 4.77) ตามลาดับ โดยมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน () อยู่ระหวา่ ง 0.29 - 0.42 แสดงวา่ ผูเ้ ข้ารว่ มกิจกรรมมีความพงึ พอใจสอดคล้องกัน กศน.ตาบลบ้านเซิด สังกัด กศน.อาเภอพนัสนคิ ม

สรปุ ผลการจดั กิจกรรม 21 โครงการอบรมใหค้ วามรู้การปอ้ งกันตนเองใหป้ ลอดภยั จากเชือ้ โควิด-19 ตำรำงที่ 7 ค่าเฉล่ียและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่มีความพึงพอใจต่อโครงการ อบรมให้ความรู้การป้องกนั ตนเองให้ปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 ดำ้ นกำรบริหำรจดั กำร รายการ คา่ เฉลย่ี สว่ นเบี่ยงเบน ระดบั ความพงึ พอใจ 1. อาคารสถานท่ี () มาตรฐาน () 2. สิง่ อานวยความสะดวก 4.76 0.44 ดมี าก 3. กาหนดการและระยะเวลาในการดาเนินโครงการ 4.84 0.37 ดมี าก 4. เอกสารการอบรม 4.84 0.37 ดมี าก 5. วทิ ยากรผู้ใหก้ ารอบรม 4.72 0.46 ดมี าก 4.72 0.46 ดมี าก รวม 4.77 0.42 ดมี าก จากตารางที่ 7 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามทีม่ ีความพึงพอใจตอ่ โครงการอบรมให้ความรู้การป้องกัน ตนเองให้ปลอดภัยจากเช้อื โควิด-19 ดา้ นการบรหิ ารจัดการ ในภาพรวมอยใู่ นระดับดีมาก มีคา่ เฉลยี่ (= 4.77) เมื่อ พิจารณาเป็นรายขอ้ พบวา่ สง่ิ อานวยความสะดวก และกาหนดการและระยะเวลาในการดาเนินโครงการ มีคา่ เฉลีย่ (= 4.74) รองลงมา คอื อาคารสถานท่ี มคี ่าเฉลยี่ (= 4.76) และสดุ ทา้ ยเอกสารการอบรม และวทิ ยากรผูใ้ ห้ การอบรม มีค่าเฉลี่ย (= 4.72) ตามลาดับ โดยมีสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน () อยูร่ ะหว่าง 0.37 - 0.46 แสดงว่า ผตู้ อบแบบสอบถามมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดยี วกนั ตำรำงท่ี 8 ค่าเฉลย่ี และสว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐานความพงึ พอใจของผู้เข้ารว่ มกิจกรรมท่ีมีความพึงพอใจต่อโครงการ อบรมให้ความรู้การป้องกันตนเองใหป้ ลอดภยั จากเช้ือโควิด-19 ด้ำนกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้/กำรอบรม รายการ คา่ เฉล่ีย ส่วนเบยี่ งเบน ระดบั () มาตรฐาน () ความพึงพอใจ 6. การจัดกิจกรรมโครงการอบรมใหค้ วามรู้การป้องกนั 4.76 ตนเองให้ปลอดภัยจากเช้ือโควิด-19 0.44 ดีมาก 7. การให้ความรเู้ ร่ืองการป้องกนั โรคติดต่อเช้ือไวรสั โค 4.72 โรนา 2019 (COVID-19) 0.46 ดมี าก 8. การตอบข้อซักถามของวิทยากร 4.76 9. การแลกเปล่ียนเรยี นร้ขู องผเู้ ข้ารบั การอบรม 4.72 0.44 ดมี าก 10. การสรุปองค์ความรรู้ ว่ มกัน 4.96 0.46 ดีมาก 11. การวัดผล ประเมนิ ผล การฝึกอบรม 4.76 0.20 ดมี าก 4.79 0.44 ดมี าก รวม 0.41 ดีมาก กศน.ตาบลบ้านเซิด สังกัด กศน.อาเภอพนสั นคิ ม

สรปุ ผลการจดั กจิ กรรม 22 โครงการอบรมใหค้ วามรู้การปอ้ งกันตนเองให้ปลอดภัยจากเชอื้ โควดิ -19 จากตารางที่ 8 พบว่า ผตู้ อบแบบสอบถามมีความพงึ พอใจต่อโครงการอบรมให้ความรกู้ ารปอ้ งกันตนเอง ใหป้ ลอดภัยจากเชือ้ โควิด-19 ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้/การอบรม ในภาพรวมอยู่ในระดบั ดีมาก มีค่าเฉลย่ี (= 4.79) เมื่อพจิ ารณาเปน็ รายขอ้ พบว่า การสรุปองค์ความร้รู ว่ มกนั มคี า่ เฉล่ยี (= 4.96) รองลงมาคือ การจัด กจิ กรรมโครงการอบรมใหค้ วามร้กู ารป้องกนั ตนเองให้ปลอดภัยจากเชือ้ โควิด-19 การตอบข้อซกั ถามของวิทยากร และการวัดผล ประเมนิ ผล การฝึกอบรม มคี ่าเฉล่ีย (= 4.76 ) และสดุ ท้ายการให้ความรเู้ รื่องการป้องกันโรคติดต่อ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของผู้เข้ารับการอบรม มีคา่ เฉลยี่ (= 4.72) ตามลาดับ โดยมีส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน () อยรู่ ะหวา่ ง 0.20 - 0.46 แสดงวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็น สอดคล้องกนั ตำรำงที่ 9 คา่ เฉลีย่ และสว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐานความพงึ พอใจของผเู้ ขา้ ร่วมกจิ กรรมท่มี ีความพงึ พอใจต่อโครงการ อบรมให้ความร้กู ารป้องกนั ตนเองใหป้ ลอดภัยจากเช้อื โควิด-19 ด้ำนประโยชน์ทีไ่ ดร้ บั รายการ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบีย่ งเบน ระดับความ () มาตรฐาน () พึงพอใจ 12. การเรียนรู้และฝึกตนเองเกยี่ วกับการป้องกัน 4.96 โรคติดตอ่ เช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) 0.20 ดีมาก 13. การนาความรู้ที่ได้รบั มาปรบั ใช้ในชวี ิตประจาวนั 4.84 0.37 ดีมาก รวม 4.91 0.29 ดีมาก จากตารางที่ 9 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมคี วามพงึ พอใจตอ่ โครงการอบรมให้ความรกู้ ารปอ้ งกันตนเองให้ ปลอดภัยจากเช้ือโควิด-19 ด้านประโยชน์ที่ได้รับ ในภาพรวมอย่ใู นระดับดีมาก มีค่าเฉล่ีย (= 4.91) เมื่อพิจารณา เป็นรายข้อ พบว่า การเรียนรู้และฝึกตนเองเกี่ยวกับการป้องกันโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มี ค่าเฉลี่ย (= 4.96) และการนาความรู้ท่ีได้รับมาปรับใช้ในชีวิตประจาวัน มีค่าเฉลี่ย (= 4.84) โดยมีส่วน เบย่ี งเบนมาตรฐาน () อยรู่ ะหวา่ ง 0.20 - 0.37 แสดงว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเหน็ ไปในทศิ ทางเดียวกัน สรปุ ในภำพรวมของกจิ กรรมคดิ เป็นรอ้ ยละ 96.40 มีค่ำน้ำหนกั คะแนน 4.82 ถือว่ำผู้รับบริกำร มคี วำมพงึ พอใจทำงด้ำนต่ำงๆ อย่ใู นระดับดมี ำก โดยเรียงลำดบั ดังนี้  อนั ดบั แรก ดา้ นดา้ นประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั คิดเปน็ ร้อยละ 98.20 มีค่าน้าหนักคะแนน 4.91 อยู่ในระดบั คณุ ภาพดีมาก  อันดบั สอง ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ คดิ เปน็ ร้อยละ 95.80 มคี ่านา้ หนักคะแนน 4.79 อยู่ใน ระดบั คุณภาพดี  อนั ดับสำม ด้านบริหารจัดการ คดิ เป็นร้อยละ 95.40 มคี า่ นา้ หนกั คะแนน 4.77 อยูใ่ นระดับคุณภาพดี กศน.ตาบลบ้านเซดิ สงั กัด กศน.อาเภอพนัสนคิ ม

สรปุ ผลการจัดกิจกรรม 23 โครงการอบรมให้ความรู้การปอ้ งกนั ตนเองให้ปลอดภยั จากเชื้อโควิด-19 บทที่ 5 อภิปรำยและข้อเสนอแนะ ผลการจัดกจิ กรรมโครงการอบรมให้ความรู้การป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากเชือ้ โควิด-19 ได้ผลสรุปดงั นี้ วตั ถุประสงค์ 1. เพ่อื ให้ผ้เู ขา้ รว่ มกจิ กรรมมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในการป้องกันตนเองโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)ได้ 2. เพ่ือใหผ้ ้เู ขา้ ร่วมกจิ กรรมสามารถนาความรูท้ ีไ่ ดร้ บั ไปใช้ในการดาเนินชวี ติ ประจาวันได้ เป้ำหมำย (Outputs) เป้ำหมำยเชิงปริมำณ ประชาชน 2 ตาบล ๆ ละ 14 คน ไดแ้ ก่ ตาบลบา้ นช้าง และตาบลบา้ นเซิด รวมทั้งสน้ิ 28 คน เปำ้ หมำยเชิงคณุ ภำพ ผเู้ ข้าร่วมกจิ กรรมมคี วามรู้ความเขา้ ใจในการป้องกันตนเองโรคตดิ เช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)และสามารถนาความรทู้ ไี่ ดร้ บั ไปใช้ในการดาเนินชีวิตประจาวันได้ เคร่ืองมอื ที่ใช้ในกำรเกบ็ รวบรวมข้อมูล เคร่อื งมือที่ใช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูลในครัง้ น้ี คือ แบบประเมินความพึงพอใจ กำรเกบ็ รวบรวมข้อมูล ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูล ไดม้ อบหมายให้ ครู กศน.ตาบลบ้านช้าง ทีร่ ับผิดชอบกจิ กรรมแจกแบบสอบถาม ความพึงพอใจให้กับผรู้ ว่ มกิจกรรม โดยใหผ้ ู้เข้ารว่ มกจิ กรรมประเมนิ ผลการจดั กจิ กรรมต่างๆ ตามโครงการอบรมให้ ความรูก้ ารป้องกนั ตนเองใหป้ ลอดภยั จากเชือ้ โควดิ -19 สรปุ ผลกำรดำเนนิ งำน กศน.ตาบลบา้ นช้างและ กศน.ตาบลบ้านเซิด ไดด้ าเนนิ การจัดกิจกรรมตาม โครงการอบรมใหค้ วามรู้การ ปอ้ งกนั ตนเองใหป้ ลอดภัยจากเชือ้ โควิด-19 โดยดาเนินการเสรจ็ ส้ินลงแลว้ และสรปุ รายงานผลการดาเนนิ งานไดด้ ังน้ี 1. ผู้รว่ มกจิ กรรมจานวน 28 คน ความรู้ ความเขา้ ใจในการปอ้ งกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สามารถปฏบิ ตั ติ นตามมาตรการคัดกรอง วัดไข้ สวมหนา้ กากอนามยั และรักษาระยะห่างระหว่างกัน 1-2 เมตร ตลอดจนสามารถนาความร้ทู ี่ไดร้ บั มาปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจาวันภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้ 2. ผรู้ ว่ มกิจกรรมรอ้ ยละ 96.40 นาความรู้ที่ได้รบั มาปรับใช้ในชวี ิตประจาวัน 3. จากการดาเนินกิจกรรมตามโครงการดงั กลา่ ว สรุปโดยภาพรวมพบวา่ ผู้เขา้ รว่ มกจิ กรรมส่วนใหญม่ ีความ พึงพอใจต่อโครงการ อยใู่ นระดบั “ดมี ำก ” และบรรลุความสาเรจ็ ตามเป้าหมายตัวช้วี ัดผลลพั ธ์ที่ต้งั ไว้ โดยมีคา่ เฉล่ยี รอ้ ยละภาพรวมของกจิ กรรม 96.40 และค่าการบรรลุเปา้ หมายคา่ เฉลยี่ 4.82 กศน.ตาบลบ้านเซดิ สงั กัด กศน.อาเภอพนัสนคิ ม

สรปุ ผลการจดั กิจกรรม 24 โครงการอบรมใหค้ วามรู้การปอ้ งกนั ตนเองให้ปลอดภัยจากเชอ้ื โควดิ -19 ขอ้ เสนอแนะ - อยากให้มีการจัดกจิ กรรมน้ีอีก เพราะสามารถนาความรู้ไปใช้ในการดาเนินชีวิตประจาวนั ไดอ้ ย่างทนั ต่อ สถานการณ์ในปัจจบุ ัน - ในการจัดกจิ กรรมคร้งั ต่อไป ควรคานงึ ถงึ ประโยชนท์ ีก่ ลมุ่ เปา้ หมายจะได้รับและสามารถนาไปใช้ได้ กศน.ตาบลบ้านเซดิ สงั กดั กศน.อาเภอพนัสนิคม

สรปุ ผลการจัดกิจกรรม 25 โครงการอบรมให้ความรู้การป้องกนั ตนเองให้ปลอดภัยจากเชือ้ โควิด-19 บรรณำนุกรม ทีม่ า กรมการศกึ ษานอกโรงเรียน (2546) บุญชม ศรีสะอาด และ บุญส่ง นิลแกว้ (2535 หนา้ 22-25) กระทรวงศกึ ษาธกิ าร . (2543). https://home.kapook.com/view44224.html กศน.ตาบลบ้านเซดิ สงั กดั กศน.อาเภอพนสั นคิ ม

สรปุ ผลการจดั กิจกรรม โครงการอบรมใหค้ วามรู้การปอ้ งกนั ตนเองใหป้ ลอดภัยจากเชอ้ื โควิด-19 ภาคผนวก กศน.ตาบลบ้านเซดิ สังกัด กศน.อาเภอพนสั นคิ ม

สรปุ ผลการจัดกจิ กรรม โครงการอบรมให้ความรู้การปอ้ งกันตนเองใหป้ ลอดภัยจากเชอ้ื โควดิ -19 คณะผู้จดั ทา ท่ีปรกึ ษา หมื่นสา ผูอ้ านวยการ กศน.อาเภอพนัสนคิ ม 1. นางณชั ธกัญ การงานดี ครู 2. นางสาวมทุ กิ า เพชรประเสริฐ ครู กศน.ตาบลบ้านเซิด คณะทางาน นางสาวสุนทรี เพชรประเสริฐ ครู กศน.ตาบลบา้ นเซิด บรรณาธกิ าร นางสาวสนุ ทรี กศน.ตาบลบ้านเซดิ สงั กัด กศน.อาเภอพนัสนิคม

สรปุ ผลการจัดกิจกรรม โครงการอบรมให้ความรูก้ ารปอ้ งกนั ตนเองให้ปลอดภัยจากเชอื้ โควดิ -19 ภาพประกอบการจดั กิจกรรม โครงการอบรมให้ความรู้การป้องกนั ตนเองใหป้ ลอดภัยจากเชือ้ โควดิ -19 วนั ที่ 7 กรกฎาคม 2563 ณ อาคารเอนกประสงคโ์ รงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพบ้านสวนผัก ม.6 อ.พนสั นคิ ม จ.ชลบรุ ี วทิ ยากรคือนางชตุ กิ าญจน์ ฉมิ พลีกลุ เจา้ พนักงานสาธาณสขุ ชานาญงาน สาธารณสุขอาเภอพนสั นิคม ผเู้ ข้ารว่ มกิจกรรมจานวน 28 คน กศน.ตาบลบ้านเซดิ สังกัด กศน.อาเภอพนสั นคิ ม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook