Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ดิจิทัลเข้าใจ

ดิจิทัลเข้าใจ

Published by 420st0000050, 2020-09-12 11:09:49

Description: ดิจิทัลเข้าใจ

Search

Read the Text Version

สรปุ ผลการจดั กิจกรรม โครงการสร้างเครือขา่ ยดจิ ิทัลชุมชนหลักสูตรการเข้าใจดจิ ิทัล ณ กศน.ตาบลบ้านเซิด หม่ทู ่ี 1 ตาบลบา้ นเซิด อาเภอพนัสนิคม จังหวดั ชลบุรี กศน.ตาบลบา้ นเซดิ ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอพนสั นิคม สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จังหวัดชลบุรี

คานา กศน.ตำบลบ้ำนเซิด สงั กัด ศูนยก์ ำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัยอำเภอพนัสนิคม ได้จัดทำ โครงกำรสร้ำงเครือขำ่ ยดิจิทัลชมุ ชนหลักสูตรกำรเข้ำใจดิจิทัล โดยมีวตั ถุประสงค์เพ่ือให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเพ่ือให้ผู้เข้าร่วม กิจกรรมมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องดิจิทัล และสามารถนาความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการดาเนินชีวิตประจาวันได้ ซึ่งมีกำร สรุปผลกำรจัดกิจกรรมโครงกำรดังกล่ำวเพ่ือต้องกำรทรำบว่ำกำรดำเนินโครงกำรบรรลุตำมวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ หรือไม่ บรรลุในระดับใดและได้จัดทำเอกสำรสรุปผลกำรจัดกิจกรรมโครงกำรสร้ำงเครือข่ำยดิจิทัลชุมชนหลักสูตรกำร เข้ำใจดิจิทลั เสนอต่อผ้บู ริหำร ผูเ้ ก่ียวขอ้ งเพ่ือนำข้อมลู ไปใช้ในกำรปรบั ปรุงและพัฒนำกำรดำเนินโครงกำรใหด้ ยี ิง่ ขน้ึ คณะผู้จัดทำ ขอขอบคณุ ผ้อู ำนวยกำรศูนย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัยอำเภอพนัสนคิ ม ที่ให้คำแนะนำ คำปรึกษำ ในกำรจัดทำสรุปผลกำรจัดกิจกรรมโครงกำรสร้ำงเครือข่ำยดิจิทัลชุมชนหลักสูตรกำรเข้ำใจ ดิจิทลั ในคร้ังน้ี หวังเป็นอย่ำงย่ิงว่ำเอกสำรสรุปผลกำรจัดกิจกรรมโครงกำรสร้ำงเครือข่ำยดิจิทัลชุมชนหลักสูตรกำรเข้ำใจ ดิจิทัล ฉบับน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ปฏิบัติงำนโครงกำรและหน่วยงำนที่เกี่ยวข้องในกำรนำไปใช้ในกำรจัดกิจกรรม กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั ตอ่ ไป สุนทรี เพชรประเสรฐิ ครู กศน.ตำบล มถิ ุนำยน 2563

สารบญั หนำ้ ก หัวเร่ือง ข คำนำ ค สำรบัญ สำรบญั ตำรำง 1 บทที่ 1 บทนำ 1 1 หลกั กำรและเหตผุ ล 1 วตั ถุประสงค์ 2 เป้ำหมำยกำรดำเนินงำน ผลลัพธ์ 3 ตวั ช้ีวดั ผลสำเรจ็ ของโครงกำร 22 บทที่ 2 เอกสำรกำรศึกษำและงำนวจิ ยั ที่เกย่ี วข้อง 25 เอกสำร/งำนท่เี กย่ี วข้อง 30 บทท่ี 3 วิธีดำเนนิ งำน บทท่ี 4 ผลกำรวเิ ครำะห์ขอ้ มลู บทที่ 5 อภิปรำยผลและข้อเสนอแนะ บรรณำนุกรม ภำคผนวก คณะผู้จดั ทำ

สารบญั ตาราง หน้า ตารางท่ี 25 25 1. ผู้เขำ้ รว่ มโครงกำรท่ตี อบแบบสอบถำมไดน้ ำมำจำแนกตำมเพศ 26 2. ผู้เขำ้ รว่ มโครงกำรท่ตี อบแบบสอบถำมไดน้ ำมำจำแนกตำมอำยุ 26 3. ผ้เู ข้ำรว่ มโครงกำรทีต่ อบแบบสอบถำมไดน้ ำมำจำแนกตำมอำชพี 26 4. ผเู้ ขำ้ รว่ มโครงกำรที่ตอบแบบสอบถำมไดน้ ำมำจำแนกตำมระดบั กำรศึกษำ 27 5. แสดงค่ำรอ้ ยละเฉลย่ี ควำมสำเรจ็ ของตัวชว้ี ดั ผลผลิต ประชำชนท่วั ไป 27 6. ค่ำเฉลย่ี และสว่ นเบี่ยงเบนมำตรฐำนควำมพึงพอใจฯ โครงกำร ในภำพรวม 28 7. คำ่ เฉล่ยี และสว่ นเบีย่ งเบนมำตรฐำนควำมพงึ พอใจฯ โครงกำร ดำ้ นบริหำรจดั กำร 28 8. คำ่ เฉลยี่ และส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำนควำมพึงพอใจฯ โครงกำร ด้ำนกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ 9. คำ่ เฉลย่ี และสว่ นเบ่ยี งเบนมำตรฐำนควำมพึงพอใจฯ โครงกำร ด้ำนประโยชน์ท่ีไดร้ บั

1 บทท่ี 1 บทนา หลกั การและเหตผุ ล ควำมก้ำวหน้ำของเทคโนโลยีกำรส่ือสำรในปัจจุบัน เป็นองค์ประกอบสำคัญท่ีมีผลต่อ กำรเปล่ียนแปลงวิถี ชวี ิตมนุษย์และสังคมในหลำกหลำยมิติ โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งกำรกำเนดิ ขึ้นของเทคโนโลยีดิจทิ ัลได้พลกิ โฉมววิ ัฒนำกำรของ กำรบรหิ ำรและพัฒนำประเทศต่ำง ๆ ท่ัวโลกอย่ำงส้ินเชิง ซ่ึงนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจทิ ัลได้ถูกนำมำใช้เป็นกลไกสำคัญใน กำรขับเคล่ือนกำรเติบโตของระบบเศรษฐกิจ กำรเพ่ิมขีดควำมสำมำรถในกำรแข่งขัน ตลอดจนกำรพัฒนำสังคมใน หลำกหลำยมิติ อย่ำงไรก็ตำมในกำรพัฒนำของเทคโนโลยีดิจิทัลก็ได้สร้ำงผลกระทบเชิงลบให้กับมนุษย์และสังคม เช่น กำรกอ่ อำชญำกรรมคอมพิวเตอร์ และกำรเผยแพรข่ อ้ มูลข่ำวสำรซึ่งเปน็ กำรบิดเบอื นข้อเทจ็ จรงิ ในโลกออนไลน์ เพ่ือให้กำรดำเนินงำนสอดคล้องกับทิศทำงกำรพัฒนำประเทศ ลดควำมเหล่ือมล้ำ สร้ำงโอกำสและ ยกระดับคุณภำพกำรศึกษำ กำรใช้ส่ือเทคโนโลยีทำงกำรศึกษำและเทคโนโลยีกำรส่ือสำรที่ทันสมัยและเหมำะสม เป็นเครื่องมือในกำรสร้ำงโอกำสและกระจำยโอกำสทำงกำรศึกษำ ตลอดจนส่งเสริมให้มีกำรสร้ำงองค์ควำมรู้ท่ี หลำกหลำย มีควำมถูกต้องและสอดคล้องกับควำมจำเป็นและควำมต้องกำรของกลุ่มเป้ำหมำยกำรศกึ ษำนอกระบบและ กำรศึกษำตำมอัธยำศัย ซึ่งในพ้ืนท่ีตำบลบ้ำนเซิด อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ประชำชนยังขำดควำมรู้ ควำม เข้ำใจ เรื่องเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อเป็นกำรสร้ำงกำรรับรู้ ควำมเข้ำใจตลอดจนพัฒนำคุณภำพชีวิตประชำชนให้ทันต่อกำร เปลี่ยนแปลงโดยกำรนำเทคโนโลยดี ิจทิ ัลสมยั ใหม่มำใช้ในกำรดำเนินชวี ิตประจำวัน จำกเหตุผลดังกล่ำว กศน.ตำบลบ้ำนเซิด สงั กัด ศูนย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยอำเภอ พนสั นคิ ม จงึ ไดจ้ ดั ทำโครงกำรสร้ำงเครอื ขำ่ ยดจิ ิทลั ชุมชนหลกั สูตรกำรเขำ้ ใจดจิ ิทลั ข้นึ วตั ถุประสงค์ 1.เพ่ือใหผ้ ู้เข้ำร่วมกจิ กรรมมีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจเร่ืองดจิ ิทัล 2.เพ่ือให้ผู้เข้ำรว่ มกจิ กรรม สำมำรถนำควำมรู้ท่ีได้รับไปใชใ้ นกำรดำเนินชวี ติ ประจำวันได้ เปา้ หมาย (Outputs) เปา้ หมายเชิงปรมิ าณ - ประชำชนตำบลบ้ำนเซดิ จำนวน 15 คน เปา้ หมายเชิงคุณภาพ 1.เพือ่ ใหผ้ เู้ ขำ้ รว่ มกจิ กรรมมีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจเร่ืองดจิ ทิ ัล 2.เพ่ือให้ผเู้ ข้ำร่วมกิจกรรม สำมำรถนำควำมรู้ท่ีไดร้ ับไปใชใ้ นกำรดำเนนิ ชีวติ ประจำวนั ได้

ผลลพั ธ์ 2 - ผ้เู ข้ำร่วมกิจกรรม มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจเรื่องดจิ ิทลั และนำควำมรู้ที่ไดร้ บั มำปรบั ใช้ในชีวติ ประจำวัน ดัชนชี วี้ ัดผลสาเร็จของโครงการ ตัวชี้วดั ผลผลิต - ร้อยละ 80 ของผ้เู ขำ้ ร่วมกิจกรรม มคี วำมรู้ ควำมเขำ้ ใจเรอ่ื งดิจทิ ัล ตัวชีว้ ดั ผลลัพธ์ - ร้อยละ 80 ของผรู้ ว่ มกจิ กรรม นำควำมรู้ที่ไดร้ บั มำปรับใชใ้ นชีวิตประจำวัน

3 บทท่ี 2 เอกสารการศกึ ษาและงานวิจยั ทเี่ กย่ี วข้อง ในกำรจัดทำสรปุ ผลโครงกำรสร้ำงเครือข่ำยดจิ ิทลั ชมุ ชนหลักสูตรกำรเขำ้ ใจดจิ ิทัล คร้ังน้ี คณะผจู้ ดั ทำโครงกำรได้ ทำกำรค้นควำ้ เนือ้ หำเอกสำรกำรศกึ ษำและงำนวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วข้อง ดังน้ี เอกสาร/งานวิจยั ที่เกยี่ วข้อง อินเตอร์เน็ต อินเตอร์เน็ตเป็นเครือข่ำยคอมพิวเตอร์ท่ีมกี ำรเจริญเติบโตรวดเรว็ ทีส่ ดุ และปัจจบุ ันเปน็ เครือข่ำยทใ่ี หญ่ท่สี ดุ ใน โลก เว็บไซต์ ซึง่ เป็นสว่ นสำคัญของอนิ เตอรเ์ น็ตสำมำรถนำเสนอข้อมูลในรูปสอื่ ประสม (multimedia) จำนวนเวบ็ ไซต์มี อตั รำกำรเพิม่ ท่รี วดเรว็ จำกแนวโนม้ ควำมก้ำวหน้ำของอินเตอรเ์ นต็ จะเห็นไดว้ ่ำ กำรใช้อินเตอร์เนต็ จะเปน็ สว่ นประกอบ ที่สำคัญอย่ำงหนึ่งในกำรดำเนินชีวติ ประจำวัน กำรทำธรุ กิจตำ่ งๆ จะมีกำรนำอนิ เตอร์เน็ตเขำ้ มำประยกุ ต์ใช้ ไม่ว่ำจะเป็น กำรใหข้ ้อมูลขำ่ วสำร หรือกำรทำธรุ กิจและบริกำร 1. ความเป็นมาของอนิ เตอร์เนต็ อินเทอรเ์ นต็ ( Internet ) เปน็ เครือข่ำย คอมพิวเตอร์ขนำดใหญ่ทเ่ี ชือ่ มโยงเครอื ขำ่ ยคอมพิวเตอร์ ทว่ั โลกเขำ้ ด้วยกัน เรียกอกี อย่ำงหนึง่ วำ่ ไซเบอร์สเปซ (Cyberspace) อินเทอร์เน็ต ทำให้กำรเคล่ือนย้ำยและส่งผ่ำน ข่ำวสำรขอ้ มูลจำกทหี่ น่ึงไปอีกที่หนง่ึ กระทำได้โดยงำ่ ย โดย ไมจ่ ำกัดเรือ่ งระยะทำงและเวลำ สำมำรถส่งข้อมูลได้ หลำกหลำยรปู แบบ เช่น สง่ เป็นแบบข้อควำม ภำพนิ่ง ภำพเคลือ่ นไหว เสยี ง โดยอำศัยเครอื ข่ำยโทรคมนำคมเป็น ตวั เชอ่ื มต่อเครอื ข่ำย ความเปน็ มาของอนิ เตอรเ์ น็ต อินเทอร์เน็ต (Internet) เป็นเครือข่ำยคอมพิวเตอร์ซึ่งเร่ิมก่อตั้งโดยกระทรวงกลำโหมสหรัฐอเมริกำ อินเทอรเ์ น็ตในยุคแรกๆ ประมำณปี พ.ศ. 2512 เป็นเพียงกำรนำคอมพิวเตอร์จำนวนไม่กเ่ี คร่ืองมำเช่ือมตอ่ กนั โดยสำยส่ง สญั ญำณเพ่ือแลกเปลี่ยนขอ้ มูลระหว่ำงเครื่องคอมพิวเตอร์ ภำรกิจหลักเพ่ือใช้ในงำนวิจัยทำงทหำร โดยใชช้ ่ือว่ำ \"อำร์ปำ\" (ARPA : Advanced Research Project Agency) รูปแบบเครือข่ำยอำร์พำเน็ตไม่ได้ต่อเชื่อมโฮสต์ ( Host ) คอมพวิ เตอร์เข้ำถงึ กันโดยตรง หำกแต่ใช้คอมพิวเตอร์ เรียกว่ำ IMP ( Interface Message Processors ) ต่อเช่อื มถึงกัน ทำงสำยโทรศพั ทเ์ พ่อื ทำหน้ำทด่ี ้ำนส่อื สำรโดยเฉพำะ ซึ่งแตล่ ะ IMP สำมำรถเชือ่ มไดห้ ลำยโฮสต์

4 กำเนดิ อำรพ์ ำเนต็ วันที่ 2 กันยำยน พ.ศ. 2512 ได้มกี ำรทดลองเช่อื มโยง IMP ระหว่ำงมหำวทิ ยำลัย 4 แห่งโดย มโี ฮสต์ต่ำงชนดิ กนั ทีใ่ ชใ้ นระบบปฏิบตั ิกำรต่ำงกัน คือ 1. มหำวทิ ยำลยั แคลิฟอร์เนยี แหง่ ลอส แอนเจลสิ ใชเ้ ครอ่ื ง SDS Sigma 7 ภำยใต้ระบบปฏิบตั ิ กำร SEX ( Sigma EXecutive ) 2. สถำบันวจิ ัยสแตนฟอร์ด ใชเ้ คร่อื ง SDS 940และระบบปฏิบัตกิ ำร Genie 3. มหำวทิ ยำลัยแคลิฟอร์เนีย แห่ง ซำนตำ บำร์บำรำ มเี คร่ือง IBM 360/75ทำงำนภำยใต้ระบบปฏบิ ตั ิกำร OS/MVT 4. มหำวิทยำลัยยทู ำห์ ทซี่ อลตเ์ ลคซติ ้ี ใช้เครื่อง DEC PDP-10ภำยใตร้ ะบบปฏิบัติกำร Tenex ปี 2515 หลงั จำกทเี่ ครือขำ่ ยทดลองอำร์พำ ประสบควำมสำเร็จ ก็ได้มกี ำรปรบั ปรงุ หน่วยงำนจำก อารป์ า มำ เป็น ดารพ์ า DARPA (Defense Advanced Research Projects Agency) ตอนหลังเปลยี่ นเป็น Defence Communication Agency ปจั จบุ นั คือ Defense Informations Systems Agency ในปี 2526 อำร์ปำเน็ตไดแ้ บง่ เป็น 2 เครือขำ่ ย ด้ำนงำนวจิ ยั ใชช้ อ่ื ว่ำ อารป์ าเนต็ เหมอื นเดมิ สว่ นเครือข่ำยของ กองทพั ใช้ช่อื มลิ เนต็ (MILNET: Military Network) ซง่ึ มีกำรเชื่อมตอ่ โดยใชโ้ ปรโตคอล TCP/IP (Transmission Control Protocol/ Internet Protocol) เปน็ ครั้งแรก ในปี 2528 มลู นิธวิ ทิ ยำศำสตรแ์ ห่งชำติอเมริกำ (NSF) ได้ใหเ้ งินทนุ ในกำรสรำ้ งศูนย์ซูเปอร์คอมพวิ เตอร์ 6 แหง่ และใชช้ อื่ วำ่ NSFNET และในปี 2533 อำรป์ ำเนตไมส่ ำมำรถทจี่ ะรองรับภำระที่เปน็ เครือขำ่ ยหลัก (Backbone) ของระบบได้ อำร์ ปำเนต็ จึงไดย้ ุตลิ งและเปลย่ี นไปใช้ NSFNET และเครอื ข่ำยอื่นๆ แทน มำจนเป็นเครือข่ำยขนำดใหญ่ จนกระทัง่ ถึงทุกวันนี้ โดยเรยี กเครือขำ่ ยว่ำ อนิ เทอร์เน็ต (Internet) โดยเครือข่ำย ส่วนใหญจ่ ะอยใู่ นอเมริกำ และปจั จบุ ันน้ีมีเครอื ข่ำยยอ่ ย มำกมำยทวั่ โลก ▪ อนิ เตอร์เนต็ ในไทย อิน เท อร์เน็ ต ใน ป ระเท ศ ไท ยเร่ิม ข้ึน เม่ื อปี พ .ศ . 2530 โด ยกำรเชื่อม ต่ อมิ นิ คอ มพิ วเตอ ร์ขอ ง มหำวิทยำลัยสงขลำนครินทร์ และสถำบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ไปยังมหำวิทยำลัยเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย แต่ในคร้ังน้ันยงั เปน็ กำรเช่อื มต่อโดยผำ่ นสำยโทรศัพท์ ซง่ึ สำมำรถส่งขอ้ มูลได้ช้ำและไมเ่ ป็นกำรถำวร จนกระท่ังในปี พ.ศ. 2535 ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชำติ (NECTEC) ได้ทำกำร เช่ือมต่อคอมพิวเตอร์กับมหำวิทยำลัย 6 แห่ง ได้แก่ จุฬำลงกรณ์มหำวิทยำลัย, สถำบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT), ม ห ำ วิ ท ย ำ ลั ย ส ง ข ล ำ น ค ริ น ท ร์ , ศู น ย์ เท ค โ น โ ล ยี อิ เล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ แ ล ะ ค อ ม พิ ว เต อ ร์ แ ห่ ง ช ำ ติ (NECTEC),มหำวิทยำลัยธรรมศำสตร์ และมหำวทิ ยำลยั เกษตรศำสตร์ เข้ำด้วยกันเรียกว่ำ \"เครือข่ายไทยสาร\" โดยสำนัก วิทยบริกำร จุฬำลงกรณ์มหำวิทยำลัยได้เช่ำวงจร ส่ือสำรควำมเร็ว 9600 บิตต่อวินำที จำกกำรสื่อสำรแห่งประเทศไทย เพื่อเชือ่ มเข้ำสู่อินเทอรเ์ นต็ ท่ี \"บริษัท ยยู ูเน็ตเทคโนโลยี ประเทศสหรฐั อเมริกำ\"

5 ต่อมำในปีพ.ศ. 2537 ควำมต้องกำรในกำรใช้อินเทอร์เน็ตจำกภำคเอกชนมีมำกขึ้น กำรส่ือสำรแห่งประเทศไทย (กสท.) จึงได้รว่ มมือกับบรษิ ทั เอกชน เปดิ บรกิ ำรอินเทอร์เนต็ ใหแ้ ก่บคุ ล ผู้สนใจทั่วไปไดส้ มัครเป็นสมำชิก ตั้งขนึ้ ในรูปแบบ ของบรษิ ัทผู้ให้บริกำรอนิ เทอร์เน็ตเชิงพำณิชย์ เรยี กว่ำ \"ผใู้ ห้บรกิ ำรอินเทอร์เน็ต\" หรือ ISP (Internet Service Provider) ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตจะถูกส่งผ่ำนเครือข่ำยคอมพิวเตอร์ และระบบกำรส่ือสำรซ่ึงในแต่ละพื้นที่ หรือแต่ละประเทศซึ่ง จะตอ้ งรบั ผดิ ชอบกนั เอง เพื่อเชอ่ื มต่อกับระบบใหญ่ของโลกให้ได้ ดังนั้นจึงเป็นหน้ำทีข่ องผใู้ ห้บรกิ ำรอินเทอรเ์ น็ต (ISP) ซ่ึง ได้แก่ องค์กรที่ทำหน้ำท่ีใหบ้ ริกำรเชื่อมต่อสำยสญั ญำณจำกแหลง่ ต่ำงๆ ของผู้ใช้บริกำร เช่น จำกท่ีบำ้ น สำนกั งำน สถำน บริกำร และแหลง่ อ่ืนๆ เพอ่ื เช่ือมตอ่ กับระบบใหญ่ออกไปนอกประเทศได้ 2. โดเมนเนม เครื่องคอมพิวเตอรท์ ่ีใชอ้ ินเตอร์เนต็ จะติดต่อกันโดยใช้มำตรฐำนกำรสือ่ สำร หรอื โปรโตคอล (Transmission Control Protocol / Internet Protocol : TCP/IP) เช่นเดียวกับกำรส่งจดหมำยทำงไปรษณีย์ เมื่อจะ ส่งข้อมูลผ่ำนระบบเครือข่ำยอินเตอร์เน็ต เคร่ืองคอมพิวเตอร์จะต้องมีหมำยเลขประจำตัว เรียกว่ำ IP Address ซ่ึง ประกอบด้วยชุดตัวเลข 4 ชุด ขนำด 8 บิตเท่ำกันทุกชุดรวมกันเป็นหมำยเลข IP ขนำด 32 บิต ในกำรอ้ำงอิงถึง หมำยเลข IP นิยมแปลงเลขฐำนสองท้ัง 4 ชุด นั้นเป็นเลขฐำนสิบเขียนเรียงกันโดยมีจุดค่ันเลขแต่ละชุด เพื่อควำม สะดวกในกำรจำและป้อนเข้ำสคู่ อมพวิ เตอร์ เชน่ 203.155.98.33 เน่ืองจำกหมำยเลข IP นน้ั จดจำยำก ดงั นน้ั จึงไดม้ ีกำรกำหนดชือ่ เพ่ือใช้แทนหมำยเลข IP เรยี กวำ่ ระบบชื่อ โดเมน (Domain name system : DNS) เชน่ กำรแทนหมำยเลข IP 203.155.98.33 ดว้ ย bc.siam.ac.th ชื่อโดเมน (Domain Name) หมำยถึง ช่ือท่ีถูกเรียกแทนกำรเรียกเป็นหมำยเลขอินเทอร์เน็ต (IP Address) เน่ืองจำกกำรจดจำหมำยเลข IP ถึง 16 หลัก ทำให้ยุ่งยำก และไม่สำมำรถจำได้เวลำท่องเทีย่ วไปในระบบอินเทอร์เน็ต จึง นำชื่อที่เปน็ ตัวอักษรมำใชแ้ ทน ซงึ่ มักจะเปน็ ชอื่ ทสี่ ือ่ ควำมหมำยถงึ หน่วยงำน หรอื เจำ้ ของเวบ็ ไซตน์ น้ั ๆ เช่นเวบ็ ไซต์ของเนคเทค มีหมำยเลข IP คอื 202.44.204.33 ซง่ึ ยำกต่อกำรจดจำ (ในกรณีที่ต้องจำหลำยเว็บไซต์) ดังนนั้ จงึ มีกำรกำหนดชอ่ื เรยี กใหม่ เปน็ www.nectec.or.th ซึง่ ก็คือ \"ช่ือโดเมน\" นน่ั เอง ชอ่ื โดเมน เป็นชอ่ื ท่ีใช้ในกำรตดิ ต่อสอ่ื สำรระหวำ่ งบคุ คลต่อบคุ คล แต่กำรติดต่อระหวำ่ งคอมพิวเตอร์ในเครือข่ำย ยังใช้ IP Address ดังน้นั ระบบจึงมกี ำรติดตั้งโปรแกรม และเครื่องท่ีทำหน้ำที่เป็นตัว Lookup หรอื ดัชนี ในกำรเปิดดู บญั ชีหมำยเลข จำกชือ่ ท่ีเป็นตัวอักษร หรอื เรียกวำ่ Domain Name โดยทเี่ ครือ่ งคอมพิวเตอร์ ทที่ ำหนำ้ ท่ีนี้เรยี กวำ่ Domain Name Server หรือ Domain Server ชื่อโดเมน เปน็ ส่ิงที่มนุษย์สร้ำง และถือว่ำเปน็ ทรัพย์สนิ ทำงปัญญำ โดยแตล่ ะประเทศจะมหี น่วยงำนรับผดิ ชอบ กำรจดทะเบยี นช่อื โดเมน เชน่ ประเทศไทย รบั ผดิ ชอบโดย \"ศนู ยส์ ำรสนเทศเครือข่ำยประเทศไทย - THNIC : Thailand Network Information Center

6 IP Address 203.155.98.33 bc.siamu.ac.th ช่ือโดเมน ช่ือโดเมนยอ่ ย ในระบบชื่อโดเมน หน่วยงำน InterNIC จะเปน็ ผ้กู ำหนดมำตรฐำนโครงสรำ้ งชือ่ โดเมนระดับบนสุด (ส่วนขวำสดุ ของชื่อ) ซ่งึ ระบถุ ึงประเภทขององค์กรหรือช่ือประเทศของเครอื ข่ำยแบง่ ออกได้เป็น 2 ประเภทคือ 1. รูปแบบโดเมนขน้ั สูงสดุ แบบสากล (General Internet DNS Top Level Domains: gTLDs) เป็น รปู แบบมำตรฐำนทีใ่ ช้กนั ในอเมรกิ ำ เช่น .com, .net, .gov ชอ่ื โดเมน ประเภทองค์กร ตัวอยำ่ ง com กลมุ่ ธุรกิจกำรคำ้ amazon.com edu สถำบันกำรศึกษำ okstate.edu org กลุ่มองคก์ รทีไ่ มห่ วงั ผลกำไร reporter.org gov กลมุ่ องคก์ รของรฐั nasa.gov mil กลุ่มองคก์ รทำงทหำร army.mil net กลุ่มองค์กรกำรบริหำรเครือข่ำย networksolution.net 2. รูปแบบโดเมนข้ันสงู สดุ แต่ละประเทศ (Country Code Top Level Domains: ccTLDs) เป็นรูปแบบที่ใช้ บ่งบอกถงึ ประเทศเจำ้ ของโดเมน หรอื ท่ตี ง้ั ของโดเมน มักจะใชก้ บั ประเทศอ่นื ๆ ยกเวน้ อเมริกำ เชน่ .th หมำยถงึ โดเมนที่ ดูแลโดยประเทศไทย หรือ .jp หมำยถงึ โดเมนของประเทศญี่ปุ่น

7 ชือ่ โดเมน ประเทศ ตวั อย่ำง ca แคนำดำ yellowpages.ca uk อังกฤษ icdl.open.ac.uk au ออสเตรเลยี geko.com.au my มำเลเซยี upm.edu.my สำหรบั ชอ่ื โดเมนระดบั บนสดุ ของประเทศไทยคือ th และมีโดเมนยอ่ ยแทนประเภทขององค์กรทแี่ พร่หลำยอยู่ 4 ประเภทดงั น้ี ชื่อโดเมน ประเภทองค์กร ตวั อยำ่ ง ac สถำบนั กำรศึกษำ www.siamu.ac.th co กลุ่มธุรกจิ กำรค้ำ www.thairath.co.th go กลุม่ องคก์ รของรฐั www.boi.go.th or กลุ่มองค์กรทไ่ี ม่หวงั ผลกำไร www.nectec.or.th 3. การเชอื่ มต่ออนิ เตอรเ์ น็ต กำรเชื่อมต่อเขำ้ สูเ่ ครือขำ่ ยอนิ เทอร์เน็ตน้ันสำมำรถทำไดห้ ลำยแบบ ซง่ึ แตล่ ะแบบจะตอ้ งใช้อปุ กรณท์ ่ีแตกต่ำง กนั ไป ดังนี้ • การเชือ่ มต่อแบบบคุ คล กำรเชือ่ มต่ออนิ เทอรเ์ นต็ รำยบคุ คล คอื กำรเชอื่ มต่ออนิ เทอร์เน็ตจำกทบี่ ้ำน (Home user) ซง่ึ ยงั ต้องอำศัยคู่ สำยโทรศพั ทใ์ นกำรเข้ำสเู่ ครือขำ่ ยอินเทอร์เนต็ ผใู้ ช้ตอ้ งสมัครเป็นสมำชกิ กับผ้ใู ห้บรกิ ำรอนิ เทอรเ์ นต็ ก่อน จำกน้ันจะได้ เบอร์โทรศัพท์ของผู้ให้บริกำรอินเทอร์เนต็ รหัสผู้ใช้ (User name) และรหสั ผ่ำน (Password) ผู้ใชจ้ ะเขำ้ สู่ระบบ อนิ เทอรเ์ นต็ ได้โดยใชโ้ มเด็มที่เช่ือมต่อกบั คอมพวิ เตอร์ ของผูใ้ ชห้ มนุ ไปยังหมำยเลขโทรศัพท์ของผู้ใหบ้ ริกำรอนิ เทอร์เน็ต จำกนน้ั จงึ สำมำรถใช้ งำนอนิ เทอร์เนต็ ได้ ดังรูป

องคป์ ระกอบของการใช้อินเทอร์เน็ตรายบุคคล 8 1. โทรศัพท์ 2. เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ 3. โมเดม็ (Modem) 4. ผใู้ ห้บริกำรอนิ เทอรเ์ น็ต ซ่ึงจะให้เบอร์โทรศพั ท์ รหัสผใู้ ชแ้ ละรหสั ผ่ำน • การเช่อื มต่อแบบองคก์ ร กำรเชื่อมต่ออินเทอรเ์ นต็ แบบองค์กรน้ีจะพบได้ทั่วไปตำมหน่วยงำนต่ำงๆ ทั้งภำครัฐและเอกชน หนว่ ยงำนต่ำงๆ เหลำ่ นจ้ี ะมเี ครือข่ำยทอ้ งถ่ิน (Local Area Network : LAN) เปน็ ของตัวเอง ซงึ่ เครอื ข่ำย LAN น้เี ชือ่ มตอ่ อินเทอรเ์ น็ต ตลอดเวลำ ผ่ำนสำยเช่ำ (Leased line) ดงั นน้ั บุคลำกรในหน่วยงำนจงึ สำมำรถใช้อนิ เทอร์เนต็ ได้ตลอดเวลำ กำรใช้ อินเทอรเ์ นต็ ผ่ำนระบบ LAN ไมม่ ีกำรสรำ้ งกำรเช่ือมต่อ (Connection) เหมือนผู้ใชร้ ำยบุคคลที่ยงั ต้องอำศยั คู่ สำยโทรศพั ทใ์ นกำรเข้ำสูเ่ ครอื ข่ำยอนิ เทอร์เน็ต 1. คอมพิวเตอร์แมข่ า่ ย (Server) ควรเป็นคอมพิวเตอรท์ ี่มีควำมเรว็ สัญญำณนำฬกิ ำของหน่วยประมวลผลต้ังแต่ 500 MHz มีหนว่ ยควำมจำหลกั RAM ต้งั แต่ 512 MB ข้ึนไป จำนวนเครอ่ื งข้ึนอยู่กบั ควำมตอ้ งกำรและปรมิ ำณ กำรใช้งำนขององค์กร 2. ดิจติ อลโมเดม็ (NTU) และอุปกรณ์ชเี้ ส้นทาง (Router) คืออุปกรณ์ซงึ่ ทำ หนำ้ ที่แปลงสญั ญำณดจิ ิตอลและกำหนดเส้นทำงในกำรเชอื่ มตอ่ ด้วยหมำยเลข IP Address ไปยังเครือขำ่ ยอื่นๆ 3. คสู่ ายเช่า (Lease line) เป็นคู่สำยสัญญำณเช่ำสำหรับกำรเช่ือมต่อแบบ ตลอดเวลำ ไมต่ ้องมีกำรหมนุ หมำยเลขโทรศัพทใ์ นกำรเชอ่ื มต่อ 4. สิทธิการใชง้ านเชื่อมตอ่ (Air time) จำกผู้ใหบ้ ริกำรเอกชน ISP หรอื ขององคก์ ร/หนว่ ยงำนต่ำงๆ เช่น SchoolNet 1509 ซึ่งจะกำหนดหมำยเลข IP Address ของกลมุ่ เคร่ืองในเครือขำ่ ยจำนวนหน่งึ มำใหส้ ำหรบั ใชก้ บั อปุ กรณช์ ี้เส้นทำงและเคร่อื งแม่ขำ่ ย

9 4. อนิ เตอรเ์ น็ตความเร็วสูง 1. บรกิ ารอนิ เทอร์เนต็ ผา่ น ISDN (Integrated Service Digital Network) เป็นกำรเชื่อมต่อสำยโทรศัพท์ ระบบใหม่ท่รี บั สง่ สัญญำณเป็นดิจทิ ัลทงั้ หมด อปุ กรณ์และชุมสำยโทรศพั ท์จะเป็นอุปกรณท์ ี่สนบั สนนุ ระบบของ ISDN โดยเฉพำะ 2. บริการอินเทอรเ์ น็ตผ่านเคเบลิ โมเด็ม (Cable Modem) เป็นกำรเชื่อมต่ออินเทอร์เนต็ ดว้ ยควำมเร็วสูงโดยไม่ ใช้สำยโทรศพั ท์ แต่อำศัยเครือขำ่ ยของผ้ใู ห้บริกำรเคเบิลทีวี ควำมเร็วของกำรใช้เคเบลิ โมเด็มในกำรเชอื่ มตอ่ อนิ เทอร์เน็ตจะทำใหค้ วำมเร็ว สงู ถงึ 2/10 Mbps น้ัน คือ ควำมเรว็ ในกำรอัพโหลด ที่ 2 Mbps และควำมเรว็ ใน กำร ดำวนโ์ หลด ท่ี 10 Mbps แตป่ ัจจุบนั ยังเปดิ ใหบ้ ริกำรอยูท่ ี่ 64/256 3. บริการอนิ เทอร์เนต็ ผา่ นระบบโทรศัพท์ ADSL (Asymmetric Digital Subscriber Loop) ADSL เป็น กำรเชือ่ มต่ออินเทอร์เน็ตผ่ำนสำยโทรศพั ท์แบบเดิม แต่ใช้กำรส่งดว้ ยควำมถี่สงู กวำ่ ระบบโทรศัพทแ์ บบเดมิ ชมุ สำยโทรศพั ท์ท่ีให้บริกำรหมำยเลข ADSL จะมีกำรตดิ ตัง้ อปุ กรณ์ คอื DSL Access Module เพ่อื ทำกำรแยก สญั ญำณควำมถีส่ งู นอ้ี อกจำกระบบโทรศัพทเ์ ดมิ และลดั เข้ำเช่ือมต่อกบั อนิ เทอรเ์ นต็ โดยตรง สว่ นผใู้ ชบ้ ริกำร อนิ เทอรเ์ น็ตจะต้องมี ADSL Modem ท่ีเชือ่ มตอ่ กับคอมพิวเตอร์ ควำมเรว็ ในกำรเช่ือมต่ออนิ เทอร์เน็ตผำ่ น ADSL จะมีควำมเร็วท่ี 64/128 Kbps (อัพโหลด ท่ี 64 Kbps และ ดำวนโ์ หลด ที่ 128 Kbps) และที่ 128/256 Kbps (อัพโหลด ที่ 128 Kbps และ ดำวนโ์ หลด ที่ 256 Kbps) ท้งั น้ีขึ้นอยกู่ บั กำรเลือกใช้บริกำร องคป์ ระกอบของกำรเชือ่ มตอ่ อนิ เทอรเ์ น็ตด้วยADSL 1. ADSL modem ทำหนำ้ ทีใ่ นกำรแปลงสัญญำณ 2. Splitter ทำหนำ้ ท่ีแยกสัญญำณควำมถส่ี ูงของ ADSL จำกสัญญำณโทรศัพท์แบบธรรมดำ 3. ผใู้ ห้บรกิ ำรอนิ เทอรเ์ นต็ ผ่ำน ADSL ประกอบดว้ ย Asia Net, Loxinfo, KSC, CS Internet, Anet, Samart, JI-Net 5. บรกิ ารตา่ งๆ บนอินเตอรเ์ น็ต เป็นบรกิ ำรทชี่ ว่ ยใหผ้ ูใ้ ชส้ ำมำรถตดิ ต่อรบั ส่งข้อมูลแลกเปล่ยี นกนั ไดใ้ นรูปแบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ซ่งึ จะมีควำม รวดเร็วกวำ่ กำรติดต่อดว้ ยวธิ กี ำรแบบธรรมดำและมีค่ำใช้จ่ำยคอ่ นข้ำงถูกกวำ่ มำก อินเตอร์เน็ต เปรยี บเสมือนสงั คมขนำดใหญ่ที่มผี ูเ้ ข้ำมำใชร้ ่วมกนั มำกมำย ในระบบจงึ มกี ำรจัดเตรยี มบรกิ ำรต่ำงๆ ไวใ้ ห้ เพอ่ื ให้ผใู้ ชเ้ ข้ำมำใชง้ ำนต่ำงๆ ทตี่ ้องกำรได้อย่ำงสะดวกและรวดเร็ว บริกำรทีม่ ีอยูใ่ นอินเตอร์เนต็ จะแบ่งออกเปน็ ประเภท ตำ่ ง ๆ ดงั น้ี 5.1 บริการจดหมายอิเล็คทรอนคิ ส์ (Electronic Mail หรือ E-mail) เน่ืองจำกในระบบเครือข่ำยอินเตอรเ์ น็ตนั้นคอมพวิ เตอร์ ทงั้ หลำยได้ถูกเชอื่ มตอ่ เขำ้ ดว้ ยกัน ทำให้กำรสง่ ข้อมูลระหว่ำง

10 คอมพิวเตอร์ดว้ ยกนั สำมำรถทจี่ ะกระทำไดโ้ ดยไมข่ ้ึนอยู่กบั ระยะทำงวำ่ จะใกลห้ รือไกลเพียงใด ดังนน้ั บริกำร จดหมำย อิเลก็ ทรอนกิ สจ์ ึงเปน็ บริกำรท่ีไดร้ ับควำมนิยมแพร่หลำยเป็นอยำ่ งมำก เน่อื งจำกผใู้ ช้งำนสำมำรถรบั ส่งข้อควำมเพ่ือตดิ ตอ่ แลกเปล่ียนขอ้ มลู ข่ำวสำร กบั บคุ คลอ่ืนๆ ท่ีใช้บรกิ ำรนบี้ นเครือข่ำยอินเตอรเ์ นต็ ได้ไมว่ ำ่ ผนู้ นั้ จะอยหู่ ่ำงไกลเพยี งใดและมี ควำมสะดวกรวดเร็วกวำ่ กำรใช้บริกำรระบบไปรษณีย์ตำมปกติ นอกจำกนน้ั ยงั สำมำรถส่งขอ้ มลู ในรปู แบบอื่นๆ นอกเหนือจำกตัวอกั ษร เช่น ภำพนิง่ ภำพเคล่ือนไหว เสยี ง แนบไปพร้อมกับจดหมำยได้อีกด้วย ในกำรส่งอเี มล์กต็ ้องมีกำรจ่ำหน้ำถึงผู้รบั เชน่ เดียวกับกำรส่งจดหมำยธรรมดำทัว่ ไป ผสู้ ง่ และผรู้ บั จะต้องมีทีอ่ ยูซ่ ึ่ง เรยี กวำ่ อีเมลแ์ อดเดรส (E-mail Address) สำหรบั รปู แบบของอเี มล์ แอดเดรสจะประกอบดว้ ย 2 สว่ นคือ ชือ่ ผูใ้ ช้ และ ช่อื เครื่องบรกิ ำร และใช้เครอ่ื งหมำย @ (ออกเสียงวำ่ \"แอ็ท\") คัน่ ระหว่ำงทัง้ สองส่วนน้ี ตวั อย่ำงเชน่ [email protected] ซึ่งมชี อ่ื ผใู้ ช้ คือ pranee และชอื่ เครอื่ งบรกิ ำร คือ nectec.or.th 5.2 บริการโอนยา้ ยขอ้ มูล (FTP) FTP ย่อมำจำกคำวำ่ File Transfer Protocol ซงึ่ เปน็ กำรถ่ำยโอนแฟ้มข้อมลู จำกคอมพวิ เตอร์ เคร่ืองหน่งึ ไปยัง เครอื่ งคอมพิวเตอร์อีกเคร่ืองหน่ึงซ่ึงอำจจะอยู่ใกล้หรอื ไกลกันก็ตำม เช่น ถ่ำย โอนแฟ้มขอ้ มูลจำกเครื่องพีซีไปยังเคร่ืองแม่ ขำ่ ย ถ่ำยโอนแฟม้ ข้อมูลจำกเครอ่ื งแม่ข่ำยมำยงั เครื่องพซี ี หรอื ถ่ำยโอนแฟม้ ข้อมูลระหว่ำงเครอื่ งแม่ข่ำยด้วยกนั เอง โดย ปกตผิ ู้ใช้สำมำรถถ่ำยโอนแฟ้ม ขอ้ มลู ได้จะต้องไดร้ บั อนุญำตจำกผูด้ ูแลเคร่ืองแม่ข่ำยนัน้ ซ่ึงจะต้องทรำบช่ือบัญชีและ รหัสผำ่ นสำหรบั กำรเขำ้ ใช้บริกำรน้ี แต่ก็มีหลำยหน่วยงำนทเ่ี ปดิ ใหผ้ ูใ้ ชท้ ว่ั ไปสำมำรถถำ่ ยโอนแฟ้มไดโ้ ดย ใชช้ ่อื บญั ชี anonymous หรอื guest โดยใชอ้ เี มล์แอดเดรสเป็นรหัสผำ่ นหรือบำงแห่งกไ็ ม่ต้องระบุรหัสผำ่ นกไ็ ด้ กำรถ่ำยโอนแฟ้มข้อมูลมีกำรทำงำน 2 ลกั ษณะ คือ - get เปน็ กำรถ่ำยโอนแฟ้มข้อมูลจำกเครอื่ งปลำยทำงมำยงั เครื่องต้นทำง (Download) - put เป็นกำรถ่ำยโอนแฟ้มข้อมลู จำกเครื่องตน้ ทำงไปยังเครอ่ื งปลำยทำง (Upload) รปู แสดงหลกั กำรทำงำนของกำรถำ่ ยโอน 5.3 บริการเขา้ ใช้ระบบคอมพวิ เตอร์ระยะไกล (Remote Login, Telnet) บริกำรนี้อนญุ ำตให้ผใู้ ช้สำมำรถเข้ำไปทำงำนตำ่ งๆ ท่ีอยใู่ นคอมพวิ เตอรเ์ ครื่องอืน่ ๆ ทเี่ ช่ือมต่ออยใู่ น เครอื ข่ำยอินเตอรเ์ น็ตไมว่ ่ำเคร่อื งน้ันจะอยูใ่ กล้หรือไกลก็ตำม ซึ่งผู้ใชไ้ ม่จำเปน็ ตอ้ งเดินทำง เข้ำมำยังสถำนทีต่ ง้ั เพ่ือใช้ เครอื่ งคอมพิวเตอร์เคร่ืองดังกล่ำว ทำใหป้ ระหยดั เวลำและคำ่ ใชจ้ ำ่ ยเปน็ อยำ่ งมำก ในกำรเขำ้ ใชร้ ะบบคอมพวิ เตอร์ ระยะไกลนผ้ี ู้ใช้

11 สำมำรถส่งั ใหค้ อมพิวเตอร์ท่ีอยู่ระยะไกล ดงั กลำ่ วกำรทำงำนต่ำงๆ ตำมท่ีตอ้ งกำรไดโ้ ดยป้อนคำสง่ั ผ่ำน ทำงเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ที่ผูใ้ ช้งำนคนนั้นกำลังนั่งใช้งำนอยู่ ผลลพั ธ์ในกำรทำงำนเหลำ่ น้ันก็จะถูกสง่ กลับมำแสดงทจี่ อภำพ เครอ่ื ง คอมพวิ เตอรน์ ้ันดว้ ยเช่นกัน ในกำรใชบ้ รกิ ำรน้ี ผใู้ ช้งำนจะต้องได้รับกำรอนญุ ำตจำกผูด้ ูแลเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ท่ีต้องกำรเขำ้ ไปใชง้ ำน กอ่ น ซ่งึ ผู้ใชผ้ ูน้ ัน้ จะต้องทรำบช่อื บญั ชพี ร้อมทัง้ รหัสผ่ำนสำหรับกำรเข้ำใช้เคร่ือง คอมพิวเตอรน์ ้ันๆ ดว้ ย โปรแกรมทนี่ ิยม ในกำรใช้บริกำรน้ี ไดแ้ ก่ โปรแกรม telnet สำหรับโปรแกรมบนระบบปฏบิ ัตกิ ำรวินโดว์มีอยูม่ ำกมำย เชน่ โปรแกรม QvtNet, โปรแกรม HyperTerminal เปน็ ต้น เมอ่ื เรม่ิ ตน้ ใชโ้ ปรแกรมดงั กล่ำวข้ำงต้น ผู้ใชจ้ ะต้องระบชุ ือ่ เคร่ืองคอมพิวเตอรห์ รือหมำยเลขไอพีของ เครอ่ื งทต่ี อ้ งกำรจะติดต่อเพื่อใชง้ ำน จำกนนั้ โปรแกรมจะจำลองจอภำพของคอมพวิ เตอร์ ทีร่ ะบเุ พื่อให้ผู้ใช้กรอกช่ือบญั ชี และรหสั ผำ่ น หำกสำมำรถระบไุ ดถ้ ูกต้องกจ็ ะอนุญำตให้ผใู้ ชเ้ ข้ำทำงำนต่ำงๆ ในคอมพวิ เตอร์เครื่องนนั้ ได้ หลักกำรทำงำนของบริกำรนี้ จะมีลักษณะที่เรียกว่ำ ระบบลูกข่ำย/แม่ข่ำย (Client/Server) คือ เคร่ือง คอมพิวเตอร์หนึ่งที่เป็นผู้ให้บริกำรด้ำนต่ำงๆ จะเรียกว่ำ เคร่ืองผู้ให้บริกำรหรือเครื่อง แม่ข่ำย (Server) และเคร่ือง คอมพิวเตอร์เครื่องอ่ืนๆ ท่ีติดต่อกับเครื่องแม่ข่ำยเพ่ือทำกำรร้องขอใช้บริกำรต่ำงๆ เรียกว่ำ เครื่องผู้ใช้บริกำรหรือเคร่ือง ลูกข่ำย (Client) โดยเครื่องแม่ข่ำยเครื่องหนึ่ง สำมำรถรองรับกำรให้บริกำรแก่เคร่ืองลูกข่ำยได้จำนวนหลำยเคร่ือง ซึ่งใน กำรเข้ำใชร้ ะบบระยะไกลน้ี เครื่องคอมพิวเตอร์ท่อี ยู่ระยะไกลที่ผ้ขู อใช้เขำ้ ไปใช้งำนน้ันจะทำหน้ำทเี่ ป็นเคร่อื งแม่ข่ำย ส่วน เคร่ืองคอมพวิ เตอรท์ ี่ผู้ใชก้ ำลังใช้งำนนัน้ จะทำหน้ำท่ีเปน็ เคร่ืองลกู ขำ่ ย โดยเครื่องแม่ข่ำยจะสำมำรถรองรับกำร ติดตอ่ จำก เคร่ืองลูกข่ำยได้หลำกหลำยประเภทไม่จำกัดว่ำจะต้องเป็นเครื่องชนิด เดียวกันหรือมีระบบปฏิบัติกำรเหมือนกัน เพรำะ กำรทำงำนในระบบนี้จะไม่ข้ึนกับฮำร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ ผู้ใช้จึงสำมำรถใช้งำนโปรแกรมประเภทนี้จำกเครื่อง คอมพิวเตอร์ได้หลำกหลำยชนิด เช่น พีชี แมคอินทอช หรือเคร่ืองในระบบยูนิกส์ค่ำยต่ำงๆ เพ่ือติดต่อไปยังเคร่ืองที่เป็น เซิรฟ์ เวอร์ในระบบต่ำง ๆ ซึง่ อำจเปน็ เคร่ืองพซี ีทัว่ ไปจนกระทั่งถึงเครอื่ งในระดบั เมนเฟรมเลยกไ็ ด้ 5.4 บรกิ ารแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคดิ เหน็ (Usenet News) Usenet News เป็นอกี บรกิ ำรหนงึ่ ในอินเตอรเ์ น็ต ซง่ึ มลี ักษณะเป็นกลุ่มสนทนำเพ่ือแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ข่ำวสำรบน เครือข่ำยอนิ เตอร์เน็ต ซง่ึ คล้ำยคลึงกับกำรเปิดเวทีสำธำรณะใหผ้ ้คู นท่วั โลก มำแสดงควำมคิดเห็นร่วมกัน โดยผ้ใู ช้สำมำรถ สมัคร (Subscribe) เขำ้ เป็นสมำชกิ กลมุ่ หัวข้อใดกไ็ ด้ท่ีตนเองสนใจโดยไม่ต้องเสียค่ำใช้จำ่ ยแตอ่ ย่ำงใด ซึง่ เม่ือเป็นสมำชิก แลว้ ก็จะสำมำรถเรียก ดขู ้อมูลขำ่ วสำรตำ่ งๆ ทอี่ ยภู่ ำยในกลมุ่ หัวขอ้ นน้ั ได้ และยงั สำมำรถขอควำมคิดเหน็ หรือรว่ มแสดง ควำม

12 คดิ เห็น สอบถำมข้อปัญหำ หรือตอบข้อปัญหำของผอู้ ื่นทถี่ ำมมำในกล่มุ หัวข้อน้นั ๆ ได้ สำหรบั Usenet News ไดม้ ีกำร จัดแบ่งเป็นกลุม่ หวั ข้อตำ่ งๆ พร้อมทั้งยังมีกลุ่มหัวข้อย่อยไว้มำกมำยนับพันๆ กลุ่ม เชน่ กลุ่มกำรเมือง กลุ่มเทคนิคด้ำน คอมพิวเตอร์ กลมุ่ ดนตรี กลมุ่ ศิลปะ กล่มุ กีฬำ เป็นต้น กลุ่มหัวขอ้ ใน Usenet News เหลำ่ นจี้ ะเรียกวำ่ Newsgroup และ ประเดน็ ข้อมูลข่ำวสำรในแต่ละกลมุ่ หัวข้อจะเรียกวำ่ Article หำกประสงค์ทจ่ี ะ ไม่ต้องกำรอำ่ นข่ำวสำรในกลมุ่ หัวขอ้ น้ัน อกี กส็ ำมำรถยกเลกิ กำรเปน็ สมำชกิ (Unsubscribe) ของกลุ่มหวั ข้อน้นั ได้ รูปแบบของ Article ของคลำ้ ยคลงึ กบั โครงสรำ้ งของอเี มล์ ซ่ึงประกอบดว้ ย 3 ส่วน คือ สว่ นหวั เปน็ ส่วนทีบ่ อกข้อมูลทำงเทคนิคที่เกีย่ วกับ Article นนั้ เช่น หวั ข้อเรอ่ื งอะไร ใครเป็นผูส้ ่ง สง่ มำจำกที่ ไหน ลงวนั ท่เี ทำ่ ไหร่ เปน็ ตน้ ซงึ่ ส่วนหวั นีจ้ ะมีรำยละเอยี ดได้ไมเ่ กนิ 20 บรรทดั สว่ นเนื้อควำม เป็นเน้ือหำของ Article นัน้ สว่ นทำ้ ย เป็นส่วนทีบ่ อกรำยละเอียดของผู้สง่ เช่น ชอ่ื นำมสกลุ อเี มลแ์ อดเดรส และขอ้ ควำมลงท้ำย ซ่งึ มีควำม ยำวประมำณ 2-3 บรรทดั ซ่ึงส่วนท้ำยนอ้ี ำจจะมีหรอื ไมก่ ็ได้ เนื่องมำจำกกำรท่ีมีกลุม่ หัวข้อตำ่ งๆ ใน Usenet News เปน็ จำนวนมำก จึงจัดเป็นประเภทไดโ้ ดยใช้ชอ่ื ย่อนำหนำ้ ของ กล่มุ หวั ขอ้ หลกั ประเภทต่ำงๆ ดงั ตวั อยำ่ งในตำรำงต่อไปนี้ กล่มุ หวั ข้อตำ่ งๆ จะมีช่ือคล้ำยกับระบบโดเมน กลำ่ วคอื จะประกอบไปดว้ ยสว่ นประกอบหลักคอื ชอื่ กลมุ่ หวั ข้อ หลัก ชื่อกลมุ่ หวั ข้อย่อยและอำจมปี ระเภทของกลุ่มหัวข้อย่อยในลำดับต่อไป แต่ สำหรบั ในระบบของ Usenet News น้นั ชอ่ื กลมุ่ หวั ขอ้ หลักจะอยูท่ ำงซ้ำยมือ สว่ นช่ือของกล่มุ หวั ข้อย่อยรองๆ ลงไปจะอย่ทู ำงขวำมอื ตำมลำดบั โดยคน่ั ดว้ ย เครอ่ื งหมำยจดุ ช่อื ของกลุ่มหัวข้อ อำจจะมคี วำมยำวไม่แน่นอน ตัวอย่ำงเช่น comp.ai.neural-nets คือ กลุ่มหวั ขอ้ หลัก ดำ้ นคอมพิวเตอร์ (computer) และมคี วำมสนใจทำงสำขำด้ำนปญั ญำประดษิ ฐ์ (AI : Artificail Intelligence) และสนใจ ในเร่อื งของนิวรอลเน็ตเวิร์ก (neural-netswork) หรอื sci.polymers คอื กลุ่มหัวข้อหลักด้ำนวทิ ยำศำสตร์ (science) ท่ี มคี วำมสนใจเกีย่ วกบั เรอ่ื งโพลเิ มอร์ (polymers) เปน็ ตน้

13 5.5 การสนทนาออนไลน์ นอกจำกกำรตดิ ตอ่ ระหวำ่ งผูใ้ ช้เครือข่ำยอินเตอร์ดว้ ยกันโดยผำ่ นทำงบริกำรจดหมำยอเิ ลก็ ทรอนกิ สแ์ ลว้ บน เครอื ข่ำยอนิ เตอรเ์ นต็ ยังมบี ริกำรที่ผใู้ ชส้ ำมำรถส่ือสำรกบั ผู้ใช้อินเตอรเ์ นต็ คนอนื่ ๆ ได้ในขณะเวลำเดยี วกนั ท่ีกำลงั ใชง้ ำน อินเตอร์เน็ตอยู่พร้อมๆ กันได้ ซ่งึ จะมีลักษณะของกำรสนทนำโต้ตอบกันอย่ำงทันทที นั ใด โดยอำจจะเปน็ กำรติดต่อกนั โดยตรงระหว่ำงบุคคลสองคน หรอื ตดิ ต่อ กัน เป็นกล่มุ กลุม่ ละหลำยคนก็ได้ ซ่ึงลกั ษณะของกำรคยุ โต้ตอบ กันทำได้โดยกำรพมิ พ์ขอ้ ควำมโต้ตอบกัน หรือ กำรใช้ เสยี งเพ่อื สนทนำกนั ตำมปกติ โปรแกรมทใี่ ช้ สำหรบั กำรสนทนำในปัจจบุ ันมี พฒั นำใหม้ ีรปู แบบที่ นำ่ สนใจ โดยสำมำรถนำเอำภำพกรำฟิกหรือตวั กำร์ตูน มำเปน็ ตวั แทนผู้สนทนำได้ นอกจำกนย้ี งั สำมำรถพดู ตอบโต้ โดยใชเ้ สยี งโดยผำ่ นไมโครโฟนของ คอมพวิ เตอร์ได้ หรือ สำมำรถเหน็ ภำพเคล่อื นไหวของคสู่ นทนำกไ็ ดห้ ำก คอมพวิ เตอร์ได้ทำกำรติดต้ังกล้องวดิ โี อไว้ ดว้ ย กำรใช้ บรกิ ำรในลักษณะนท้ี ำใหผ้ ใู้ ช้สำมำรถตดิ ต่อกับผู้อน่ื ที่กำลังเขำ้ ใชง้ ำนอนิ เตอรเ์ น็ตไดท้ ่ัวโลก สำหรับโปรแกรมสนทนำออนไลน์ในรปู แบบกรำฟิกที่ไดร้ บั ควำมนยิ มก็มีอยู่หลำยโปรแกรม เช่น Internet Phone, ICQ, MSN Messenger Service, Microsoft NetMeeting, skype เป็นต้น ซงึ่ โปรแกรมเหล่ำน้ผี ใู้ ช้สำมำรถ พูดคยุ กันได้โดยกำรสง่ ข้อควำม เสยี ง หรือภำพของคสู่ นทนำได้ และยัง สำมำรถใช้ในกำรรบั ส่งแฟ้มข้อมลู ระหว่ำงกนั ได้ อีกด้วย 5.6 บริการเวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web) เวิลดไ์ วด์เว็บ (World Wide Web) เปน็ บรกิ ำรทถ่ี อื วำ่ ได้รับควำมนยิ มมำกท่ีสุดของอินเตอร์เน็ตในปจั จบุ ัน ซึ่งอำจจะเรยี กย่อๆ สำหรับบริกำรไดห้ ลำยแบบ เช่น WWW, W3 หรือ Web โดยต่อไปน้จี ะกล่ำวเรยี กสนั้ ๆ วำ่ \"เว็บ (Web)\" เนื่องจำกเว็บเปน็ บริกำรท่ใี หผ้ ูใ้ ช้สำมำรถเขำ้ ไปค้นหำ ขอ้ มลู ต่ำงๆ ในอินเตอรเ์ นต็ ได้งำ่ ยและสะดวก ด้วยลกั ษณะ ของกำรแสดงผลในรปู แบบของ Hypertext ซ่งึ เป็นวิธกี ำรทจ่ี ะ เชอื่ มโยงขอ้ มูลจำกเอกสำรหน่งึ ไปอีกข้อมูลของอกี เอกสำร หน่ึง ทำใหก้ ำรค้นหำครอบคลุมข้อมูลท่ีต้องกำรมำกย่งิ ขน้ึ และด้วยคุณสมบตั ิเช่นน้จี งึ ทำใหเ้ ว็บเป็นบรกิ ำร ท่นี ยิ มใชใ้ น กำรคน้ หำข้อมลู และหน่วยงำนตำ่ งๆ จงึ นยิ มเผยแพร่ข้อมูล ขำ่ วสำรและบรกิ ำรต่ำงๆ ของตนเองผำ่ นทำงเว็บกันเป็นจำนวนมำกมำย

14 เว็บใช้สถำปัตยกรรมเครือข่ำยในรปู แบบของ Client/Server กล่ำวคือ ผ้ขู อใช้บริกำรจะใช้โปรแกรมทีเ่ รยี กว่ำ \"เว็บ บรำวเซอร์ (Web Browser)\" หรอื เรียกส้ันๆ วำ่ Browser - ทาการระบุ แหล่งที่อยู่ของข้อมูล (URL : Uniform Resource Locator) เว็บบรำวเซอร์จะทำหน้ำท่ีใน สถำนะของ Client ร้องขอข้อมูลที่ต้องกำรไปยงั เครอื่ ง Server ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่ของข้อมูลนั้น สำหรับเครื่อง Server ที่ ให้บริกำรข้อมูลเว็บจะเรยี กวำ่ \"เว็บเซริ ์ฟเวอร์ (Web Server)\" หรือ \"เว็บไซต์ (Web Site)\" เม่อื เว็บเซริ ฟ์ เวอรไ์ ด้รบั คำรอ้ ง ก็จะส่งข้อมูลที่ต้องกำรกลับไปให้เว็บ บรำวเซอร์เพื่อนำไปแสดงผลให้แก่ผู้ใช้ทำงจอภำพ ในกำรติดต่อระหว่ำงเว็บ บรำวเซอร์และเว็บเซิร์ฟเวอรจ์ ะใช้โปรโตคอล HTTP (Hyper Text Transfer Protocol) และข้อมูลจะจัดเก็บ ในรูปแบบ มำตรฐำน HTML (Hyper Text Markup Language) โปรแกรมท่ีทำหน้ำท่ีเป็นเว็บบรำวเซอร์ที่นิยม ได้แก่ Internet Explorer (IE), Netscape Communicator, Mosaic, Hot Java เปน็ ต้น ในแต่ละเว็บไซตจ์ ะมวี ิธกี ำรทีจ่ ะระบุทีอ่ ยู่ของข้อมลู ท่ีไม่ซ้ำกบั เวบ็ ไซตอ์ นื่ ๆ เรียกว่ำ Uniform Resource Locator หรือ URL ซ่ึงจะประกอบด้วยสองส่วน คือ 1. โปรโตคอลหรือลักษณะของแหลง่ ข้อมูลทต่ี ้องใช้เพ่ือดึงข้อมลู นัน้ เชน่ ถ้ำเป็นแหล่งข้อมลู ที่เกบ็ รวบรวม แฟ้มขอ้ มลู ต่ำง ๆ ท่ใี ห้บริกำร FTP ในส่วนนก้ี จ็ ะใช้คำวำ่ ftp หรอื ถ้ำแหล่งข้อมลู เปน็ แบบ HTML ส่วนนี้ก็จะใชค้ ำว่ำ http 2. แหลง่ ท่ีอยขู่ องข้อมลู นัน้ โดยจะระบชุ ่ือเครอ่ื งโดยใช้ระบบไอพีแอดเดรสหรือระบบชอ่ื โดเมนกไ็ ด้ตำมด้วยชื่อ ไดเรกทอรแี ละชอื่ แฟ้มขอ้ มลู ของขอ้ มูลน้ันตัวอย่ำง URL http://www.intel.com/index.html http://www.msn.com 6. โทษของการใช้งานอนิ เตอร์เนต็ ทุกสรรพสงิ่ ในโลกย่อมมีท้งั ดำ้ นทีเ่ ป็นคณุ ประโยชนแ์ ละด้ำนที่เป็นโทษ เปรียบเหมือนเหรยี ญท่ีมี 2 ด้ำนเสมอ ขน้ึ อย่กู ับวำ่ เรำจะเลือกใช้อย่ำงไรให้เกิดผลดีตอ่ เรำ ขอยกตัวอยำ่ งโทษที่อำจจะเกิดขึ้นได้จำกกำรใช้งำนอนิ เทอรเ์ นต็ ดังน้ี 1. โรคติดอินเทอร์เน็ต (Webaholic) หำกกำรเล่นอินเทอร์เน็ตทำให้คุณเสียงำนหรือแม้แต่ทำลำยสุขภำพ นักจิตวิทยำช่ือ Kimberly S. Young ได้ศึกษำพฤติกรรม ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอย่ำงมำกเป็นจำนวน 496 คน โดย เปรียบเทียบกับบรรทัดฐำนซึ่งใช้ในกำรจัดว่ำ ผู้ใดเป็นผู้ที่ติดกำรพนัน กำรติดกำรพนันประเภทท่ีถอนตัวไม่ขึ้น มีลักษณะ คล้ำยคลึงกับกำรติดอินเทอร์เนต็ เพรำะทง้ั สองอย่ำงเก่ียวขอ้ งกับกำรล้มเหลวในกำรควบคมุ ควำมตอ้ งกำรของตนเอง โดย ไม่มีสว่ นเกยี่ วขอ้ งกบั สำรเคมีใดๆ (อย่ำงสรุ ำ หรือยำเสพติด) 2. เรื่องอนาจารผิดศีลธรรม(Pornography/Indecent Content) เร่ืองของข้อมลู ตำ่ งๆ ที่มีเนือ้ หำไปในทำงขัดตอ่ ศีลธรรม ลำมกอนำจำร หรอื รวมถงึ ภำพโปเ๊ ปลือยต่ำงๆ นั้นเป็น เรอ่ื งทม่ี ีมำนำนพอสมควรแล้วบนโลกอนิ เทอร์เนต็ แตไ่ ม่โจง่ แจง้ เนอื่ งจำกสมยั ก่อนเป็นยุคที่ WWW ยังไม่พัฒนำมำกนัก ทำให้ไมม่ ีภำพออกมำ แต่ในปัจจบุ นั ภำพเหลำ่ นเ้ี ป็นทโี่ จ่งแจ้งบนอนิ เทอรเ์ นต็ และส่ิงเหล่ำนสี้ ำมำรถเข้ำส่เู ด็ก และเยำวชน ไดง้ ่ำย โดยผูป้ กครองไม่สำมำรถท่จี ะให้ควำมดูแลไดเ้ ตม็ ที่ เพรำะวำ่ อนิ เทอรเ์ นต็ นนั้ เปน็ โลกท่ไี ร้พรมแดนและเปิดกว้ำงทำ ให้สอื่ เหลำ่ นส้ี ำมำรถเผยแพร่ไปไดร้ วดเรว็ จนเรำ ไม่สำมำรถจับกมุ หรือเอำผิดผทู้ ่ีทำสง่ิ เหล่ำนข้ี ึน้ มำได้

15 3. ไวรัส ม้าโทรจนั หนอนอินเทอร์เน็ต และระเบิดเวลา ไวรัส : เปน็ โปรแกรมอสิ ระ ซึ่งจะสืบพนั ธุ์โดยกำรจำลองตัวเองใหม้ ำกขึน้ เรอื่ ยๆ เพอ่ื ที่จะทำลำยข้อมูล หรอื อำจ ทำให้เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ทำงำนชำ้ ลงโดยกำรแอบใชส้ อยหน่วยควำมจำหรอื พื้นทว่ี ำ่ งบนดิสกโ์ ดยพลกำร มา้ โทรจัน : มำ้ โทรจันเป็นตำนำนนกั รบท่ีซ่อนตวั อยใู่ นมำ้ ไม้ แลว้ แอบเขำ้ ไปในเมอื งจนกระทั่งยดึ เมืองไดส้ ำเรจ็ โปรแกรมน้กี ท็ ำงำนคลำ้ ยๆ กัน คือโปรแกรมนจ้ี ะทำหน้ำท่ไี มพ่ ึงประสงค์ มันจะซ่อนตวั อยใู่ นโปรแกรมท่ีไม่ไดร้ ับอนุญำต มนั มกั จะทำในสิ่งท่เี รำไม่ต้องกำร และสงิ่ ท่ีมนั ทำนน้ั ไม่มีควำมจำเป็นต่อเรำด้วย เช่น กำรแอบส่งรหสั ผำ่ นตำ่ งๆ ภำยใน เครอ่ื งของเรำไปใหผ้ ู้เขียนโปรแกรม หนอนอนิ เทอร์เน็ต : ถกู สร้ำงขึน้ โดย Robert Morris, Jr. จนดังกระฉ่อนไปทั่วโลก มันคอื โปรแกรมทีจ่ ะ สบื พนั ธ์ุโดยกำรจำลองตวั เองมำกขนึ้ เรื่อยๆ จำกระบบหน่ึง ครอบครองทรัพยำกรและทำใหร้ ะบบชำ้ ลง ระเบดิ เวลา : คือรหสั ซึง่ จะทำหน้ำทเ่ี ปน็ ตัวกระตุ้นรูปแบบเฉพำะของกำรโจมตีน้นั ๆ ทำงำนเม่ือสภำพกำรโจมตี นั้นๆ มำถึง ยกตัวอย่ำงเชน่ ระเบิดเวลำจะทำลำยไฟล์ทงั้ หมดในวันที่ 31 กรกฎำคม 2542 นอกจำกน้ี ยงั มเี ร่ืองหลอกหลวงต่ำงๆ อกี มำกมำยท่ีกลำยเปน็ ข่ำวใหเ้ รำไดร้ ับทรำบอยเู่ สมอ กำรพยำยำมใน กำรเจำะทำลำยระบบเพื่อลว้ งควำมลับหรือข้อมลู ต่ำงๆ ดังน้ัน กำรใชง้ ำนเครือขำ่ ยอนิ เทอร์เนต็ จึงตอ้ งมคี วำมระมัดระวงั ในกำรใชง้ ำน มีวจิ ำรณญำณในกำรรับข้อมลู ขำ่ วสำร กล่นั กรองจำกหลำยๆ แหล่งเพื่อไมใ่ ห้ตกเปน็ เหย่ือจำกเหล่ำมิจฉำชพี ไฮเทคเหล่ำน้ี การเชอ่ื มต่ออนิ เตอร์เนต็ กบั โทรศพั ท์มือถอื

16 ยกตัวอย่างเป็น โทรศัพท์ รุ่น ซัมซงุ วธิ ีกำรต้ังคำ่ กำรตั้งคำ่ อินเทอร์เนต็ Samsung สำหรบั กำรเปิดใชง้ ำนมอื ถอื คร้งั แรก - เขำ้ ไปที่ เมนูกำรตั้งคำ่ (Settings) - เลือก เครอื ขำ่ ยเพม่ิ เตมิ (more networks) - กดไปที่ เครือข่ำยมอื ถอื (Mobile networks)

- เลือก ผใู้ หบ้ รกิ ำรเครือขำ่ ย (Network operators) 17 - เลือกเครือข่ำยท่ีใช้แลว้ กดปุ่มยอ้ นกลบั วธิ ีการเชื่อมต่ออินเตอรเ์ น็ตทาไดห้ ลายวธิ ีดงั น้ี วธิ ีท่ี1 - เข้ำไปท่ี เมนูกำรตัง้ คำ่ (Settings)

- เลือก เครอื ขำ่ ยเพ่มิ เตมิ (More networks) 18 - กดไปท่ี เครือข่ำยมอื ถือ (Mobile networks)

- จำกน้นั เลือกข้อมูลมอื ถือ (Mobile data) 19 วธิ ที ี่2 - เข้ำไปที่ เมนูกำรตั้งค่ำ (Settings)

- กดไปที่ กำรใชข้ ้อมลู (Data usage) 20 - จำกนัน้ เลือกข้อมลู มอื ถอื เพ่ือเปิดกำรใช้งำน

วธิ ีที่3 21 - ใชส้ องนว้ิ ลำกแถบแสดงกำรแจ้งเตอื นลงมำ (Notification Bar) - จำกน้ันเลอื กข้อมูลมือถอื (Mobile data) เพอ่ื เปิดกำรใช้งำน

22 บทท่ี 3 วิธดี าเนนิ งาน กำรดำเนนิ โครงกำรสร้ำงเครือข่ำยดิจทิ ลั ชุมชนหลกั สตู รกำรเข้ำใจดจิ ทิ ลั ได้ดำเนินกำรตำมขน้ั ตอนต่ำงๆ ดงั น้ี 1. ข้ันเตรยี มการ  การศึกษาเอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับโครงการสร้างเครอื ข่ายดิจทิ ัลชุมชนหลักสตู รการเข้าใจดจิ ิทัล ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงกำรได้ศึกษำค้นคว้ำเอกสำรที่เกย่ี วข้องเพื่อเป็นข้อมลู และแนวทำงในกำรดำเนินกำรโครงกำร สร้ำงเครอื ข่ำยดจิ ิทัลชมุ ชนหลกั สูตรกำรเขำ้ ใจดจิ ิทัล ดงั น้ี 1. ศึกษำเอกสำร / ค่มู ือ ข้อมูลจำกหนังสอื เก่ียวกับกำรเข้ำใจดิจิทลั เพื่อเปน็ แนวทำงเก่ยี วกับกำรจัดโครงกำร สร้ำงเครอื ข่ำยดจิ ิทัลชุมชนหลักสูตรกำรเขำ้ ใจดจิ ิทลั 2. ศึกษำข้ันตอนกำรดำเนินโครงกำรสรำ้ งเครือขำ่ ยดจิ ิทัลชมุ ชนหลักสตู รกำรเข้ำใจดจิ ิทัล เพ่ือเป็นแนวทำงในกำร จดั เตรียมงำน วัสดอุ ุปกรณ์ และบคุ ลำกรใหเ้ หมำะสม  การสารวจความต้องการของประชาชนในพื้นท่ี (ตามนโยบายของรัฐบาล) ครู กศน.ตำบล สำรวจควำมต้องกำรของกลุ่มเปำ้ หมำยเพื่อทรำบควำมต้องกำรทแ่ี ทจ้ ริงของประชำชน ในตำบล และมีข้อมูลในกำรจัดกจิ กรรมที่ตรงกบั ควำมต้องกำรของชมุ ชน  การประสานงานผนู้ าชมุ ชน / ประชาชน /วิทยากร ครู กศน.ตำบล ได้ประสำนงำนกับหัวหน้ำ/ผูน้ ำชุมชนและประชำชนในตำบลเพ่ือร่วมกนั ปรึกษำหำรือใน กลมุ่ เก่ียวกับกำรดำเนนิ กำรจัดโครงกำรให้ตรงกับควำมตอ้ งกำรของชุมชน  การประชาสมั พนั ธโ์ ครงการฯ ครู กศน.ตำบล ได้ดำเนนิ กำรประชำสมั พนั ธก์ ำรจดั โครงกำรสร้ำงเครอื ข่ำยดจิ ิทลั ชุมชนหลักสูตรกำร เขำ้ ใจดิจทิ ัล เพ่ือให้ประชำชนทรำบข้อมลู กำรจัดกิจกรรมดังกล่ำวผ่ำนผู้นำชุมชน  ประชุมเตรยี มการ / วางแผน 1) ประชุมปรกึ ษำหำรือผู้ท่เี กี่ยวข้อง 2) เขยี นโครงกำร วำงแผนมอบหมำยงำนใหฝ้ ่ำยต่ำงๆ เตรียมดำเนินกำร 3) มอบหมำยหน้ำท่ี แต่งต้ังคณะทำงำน  การรับสมคั รผู้เข้าร่วมโครงการฯ ครู กศน.ตำบล ได้รับสมัครผู้เข้ำรว่ มโครงกำรสร้ำงเครอื ข่ำยดิจทิ ลั ชุมชนหลักสูตรกำรเข้ำใจดิจทิ ลั โดย ใหป้ ระชำชนทัว่ ไปที่อำศยั อยู่ในพนื้ ที่ตำบลบำ้ นเซิด เข้ำรว่ ม เป้ำหมำยจำนวน 15 คน  การกาหนดสถานที่และระยะเวลาดาเนนิ การ ครู กศน.ตำบล ได้กำหนดสถำนทใ่ี นกำรจดั อบรมคือ กศน.ตำบลบ้ำนเซดิ หมทู่ ี่ 1 ตำบลบ้ำนเซดิ อำเภอพนสั นิคม จงั หวัดชลบรุ ี จำนวน 2 วัน เวลำ 08.30-16.30 น.

23 2. ขน้ั ดาเนินงาน  กลมุ่ เปา้ หมาย กลมุ่ เปำ้ หมำยของโครงกำรสร้ำงเครือขำ่ ยดิจิทลั ชมุ ชนหลักสูตรกำรเขำ้ ใจดจิ ิทัล -ประชำชนตำบลบำ้ นเซิด จำนวน 15 คน  สถานที่ดาเนนิ งาน ครู กศน.ตำบลบำ้ นเซิด จดั กิจกรรมโครงกำรสร้ำงเครอื ข่ำยดิจิทัลชุมชนหลักสูตรกำรเข้ำใจดจิ ทิ ลั โดยจัดกิจกรรมอบรมให้ควำมรู้ เวลำ 08.30-16.30 น. ณ กศน.ตำบลบ้ำนเซดิ หมู่ท่ี 1 ตำบลบำ้ นเซดิ อำเภอ พนัสนิคม จงั หวัดชลบรุ ี  การขออนุมัติแผนการจัดกจิ กรรมการศกึ ษาเพ่อื พัฒนาทกั ษะชีวติ กศน.ตำบลบ้ำนเซดิ ไดด้ ำเนินกำรขออนมุ ัติแผนกำรจัดกจิ กรรม โครงกำรสร้ำงเครือข่ำยดิจทิ ลั ชมุ ชน หลักสูตรกำรเข้ำใจดิจทิ ลั ตอ่ สำนักงำน กศน.จงั หวัดชลบรุ ี เพือ่ ให้ตน้ สงั กัดอนุมัติแผนกำรจดั กจิ กรรมโครงกำรสร้ำง เครือข่ำยดิจิทัลชุมชนหลักสตู รกำรเขำ้ ใจดิจิทลั  การจัดทาเครอื่ งมือการวัดความพึงพอใจของผ้รู ว่ มกิจกรรม เคร่อื งมือที่ใชใ้ นกำรติดตำมประเมนิ ผลโครงกำร ได้แก่ แบบประเมนิ ควำมพงึ พอใจ  ขนั้ ดาเนนิ การ / ปฏิบตั ิ 1. เสนอโครงกำรเพอ่ื ขอควำมเห็นชอบ/อนมุ ตั ิจำกตน้ สงั กัด 2. วำงแผนกำรจัดกจิ กรรมในโครงกำรสรำ้ งเครือข่ำยดจิ ิทลั ชุมชนหลักสูตรกำรเข้ำใจดจิ ิทัล โดยกำหนดตำรำงกิจกรรมท่ีกำหนดกำร 3. มอบหมำยงำนใหแ้ ก่ผรู้ ับผิดชอบฝ่ำยต่ำงๆ 4. แต่งตง้ั คณะกรมกำรดำเนนิ งำน 5. ประชำสมั พนั ธ์โครงกำรสร้ำงเครอื ข่ำยดิจิทลั ชุมชนหลกั สูตรกำรเข้ำใจดิจิทลั 6. จัดกิจกรรมโครงกำรสร้ำงเครือขำ่ ยดจิ ิทลั ชมุ ชนหลกั สูตรกำรเขำ้ ใจดจิ ิทลั ตำมตำรำงกิจกรรมท่ี กำหนดกำร 7. ติดตำมและประเมนิ ผลโครงกำรสร้ำงเครือข่ำยดิจิทัลชุมชนหลกั สูตรกำรเขำ้ ใจดจิ ิทลั 3. การประเมนิ ผล  วเิ คราะห์ข้อมูล 1. บนั ทกึ ผลกำรสังเกตจำกผู้เขำ้ รว่ มกจิ กรรม 2. วเิ ครำะหผ์ ลจำกกำรประเมินในแบบประเมินควำมพงึ พอใจ 3. รำยงำนผลกำรปฏบิ ตั ิงำนรวบรวมสรปุ ผลกำรปฏบิ ัติงำนของโครงกำรนำเสนอต่อผ้บู ริหำรนำปัญหำ ขอ้ บกพร่องไปแก้ไขครั้งตอ่ ไป

24  คา่ สถิตทิ ใ่ี ช้ กำรวิเครำะห์ข้อมูล ใช้ค่ำสถิติร้อยละในกำรประมวลผลข้อมูลส่วนตัวและตัวช้ีวัดควำมสำเร็จของ โครงกำรตำมแบบสอบถำมคิดเป็นรำยข้อ โดยแปลควำมหมำยค่ำสถติ ริ ้อยละออกมำได้ดังน้ี ค่ำสถติ ริ อ้ ยละ 90 ขึ้นไป ดมี ำก ค่ำสถติ ริ ้อยละ 75 – 89.99 ดี ค่ำสถิติร้อยละ 60 – 74.99 พอใช้ ค่ำสถติ ริ ้อยละ 50 – 59.99 ปรบั ปรงุ ค่ำสถิตริ ้อยละ 0 – 49.99 ปรับปรุงเรง่ ดว่ น ส่วนกำรวิเครำะห์ข้อมูลจำกแบบสอบถำมควำมคิดเห็นรำยข้อซึ่งมีลักษณะเป็นค่ำน้ำหนักคะแนน และ นำมำเปรียบเทียบ ไดร้ ะดบั คณุ ภำพตำมเกณฑ์กำรประเมนิ ดงั นี้ เกณฑก์ ำรประเมนิ (X) คำ่ น้ำหนักคะแนน 4.50 – 5.00 ระดบั คุณภำพ คอื ดมี ำก ค่ำน้ำหนักคะแนน 3.75 – 4.49 ระดับคุณภำพ คือ ดี ค่ำน้ำหนักคะแนน 3.00 – 3.74 ระดับคณุ ภำพ คอื พอใช้ คำ่ น้ำหนักคะแนน 2.50 – 2.99 ระดับคณุ ภำพ คือ ตอ้ งปรบั ปรุง ค่ำนำ้ หนักคะแนน 0.00 – 2.49 ระดับคุณภำพ คือ ตอ้ งปรบั ปรุงเรง่ ดว่ น

บทท่ี 4 25 ผลการดาเนินงานและการวิเคราะห์ขอ้ มลู ตอนท่ี 1 รายงานผลการจัดกิจกรรมโครงการสรา้ งเครอื ข่ายดจิ ิทัลชมุ ชนหลกั สูตรการเขา้ ใจดจิ ิทัล กำรจดั กจิ กรรมโครงกำรสรำ้ งเครือข่ำยดิจทิ ลั ชุมชนหลกั สูตรกำรเข้ำใจดิจิทลั สรุปรำยงำนผลกำรจดั กิจกรรมได้ ดงั นี้ ในกำรจัดกจิ กรรมอบรมให้ควำมรตู้ ำมโครงกำรสรำ้ งเครือข่ำยดิจิทัลชุมชนหลักสูตรกำรเข้ำใจดจิ ิทลั เป็น กำรอบรมใหค้ วำมรู้ โดยมี นำงสำวสนุ ทรี เพชรประเสรฐิ เปน็ วทิ ยำกรในกำรบรรยำยให้ควำมรู้ เร่อื ง กำรพฒั นำ เศรษฐกิจดิจทิ ัลหลกั สูตรกำรเข้ำใจดจิ ทิ ลั ประชำชนควรรู้หลังจำกเสรจ็ ส้นิ กจิ กรรมดังกล่ำวแล้ว ผู้เขำ้ ร่วมกจิ กรรม มี ควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจกำรเขำ้ ใจดิจทิ ลั และนำควำมรู้ทีไ่ ดร้ บั มำปรับใช้ในชวี ติ ประจำวนั ตอนที่ 2 รายงานผลความพึงพอใจของโครงการสร้างเครอื ข่ายดิจิทัลชุมชนหลักสูตรการเข้าใจดิจิทลั กำรจัดกจิ กรรมโครงกำรสรำ้ งเครือข่ำยดิจิทลั ชุมชนหลักสูตรกำรเขำ้ ใจดจิ ิทลั ซึง่ สรุปรำยงำนผลจำก แบบสอบถำมควำมคดิ เห็น ข้อมลู ที่ไดส้ ำมำรถวเิ ครำะห์และแสดงค่ำสถติ ิ ดงั นี้ ตารางที่ 1 ผเู้ ขำ้ ร่วมโครงกำรท่ตี อบแบบสอบถำมได้นำมำจำแนกตำมเพศ รายละเอียด เพศ หญงิ ชำย 14 82.35 จำนวน (คน) 3 รอ้ ยละ 17.65 จำกตำรำงที่ 1 พบวำ่ ผู้ตอบแบบสอบถำมทเี่ ขำ้ ร่วมกิจกรรมโครงกำรสรำ้ งเครอื ข่ำยดิจทิ ัลชุมชนหลกั สูตรกำร เข้ำใจดิจทิ ลั เป็นเพศหญงิ จำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 82.35 และเพศชำย จำนวน 3 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 17.65 ตารางที่ 2 ผู้เขำ้ ร่วมโครงกำรทต่ี อบแบบสอบถำมได้นำมำจำแนกตำมอำยุ รำยละเอียด อำยุ (ปี) อำยุ 15-29 30 - 39 40 - 49 50-59 60 ข้นึ ไป 8 - จำนวน (คน) 9 - - - 47.05 รอ้ ยละ 52.95 - - จำกตำรำงที่ 2 พบว่ำผู้ตอบแบบสอบถำมทเ่ี ข้ำรว่ มกิจกรรมโครงกำรสรำ้ งเครอื ข่ำยดิจทิ ัลชุมชนหลกั สูตรกำร เขำ้ ใจดิจิทัล มีอำยุ 15-29 ปี จำนวน 9 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 52.95 และมีอำยุ 50-59 ปี จำนวน 8 คน คดิ เป็น 47.05

ตารางที่ 3 ผู้เขำ้ ร่วมโครงกำรท่ตี อบแบบสอบถำมได้นำมำจำแนกตำมอำชพี 26 รายละเอยี ด เกษตรกรรม รับจำ้ ง อาชพี คำ้ ขำย อ่ืนๆ รบั รำชกำร/รฐั วิสำหกจิ 4 3 17.65 จำนวน (คน) - 10 - 23.52 รอ้ ยละ - 58.83 - จำกตำรำงที่ 3 พบว่ำผูต้ อบแบบสอบถำมท่ีเขำ้ รว่ มกิจกรรมโครงกำรสรำ้ งเครือข่ำยดจิ ิทัลชุมชนหลักสตู รกำร เข้ำใจดิจิทัล มีอำชีพรับจ้ำง จำนวน 10 คน คดิ เป็นร้อยละ 58.83 มอี ำชีพคำ้ ขำย จำนวน 4 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 23.52 และอำชีพอืน่ ๆ จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 17.65 ตารางที่ 4 ผ้เู ขำ้ ร่วมโครงกำรที่ตอบแบบสอบถำมได้นำมำจำแนกตำมระดบั กำรศึกษำ รายละเอียด ระดับการศกึ ษา กำรศกึ ษำ ประถม ม.ต้น ม.ปลำย/ปวช. ปวส./ป.ตรีขนึ้ ไป - จำนวน (คน) 7 7 3 - รอ้ ยละ 41.18 41.18 17.65 จำกตำรำงท่ี 4 พบวำ่ ผตู้ อบแบบสอบถำมทเี่ ข้ำรว่ มกิจกรรมโครงกำรสร้ำงเครือข่ำยดจิ ทิ ัลชมุ ชนหลักสูตรกำร เขำ้ ใจดจิ ทิ ลั มรี ะดบั ประถม จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 41.18 ระดบั มธั ยมศกึ ษำตอนตน้ จำนวน 7 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 41.18 และมรี ะดับ ม.ปลำย จำนวน 3 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 17.65 ตารางท่ี 5 แสดงคำ่ รอ้ ยละเฉลยี่ ควำมสำเรจ็ ของตัวชว้ี ัด ผลผลติ ประชำชนทว่ั ไป เขำ้ รว่ มโครงกำรจำนวน 17 คน เป้าหมาย(คน) ผลสาเร็จของโครงการ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 15 ผเู้ ข้าร่วมโครงการ(คน) 100 17 จำกตำรำงท่ี 5 พบว่ำผลสำเรจ็ ของตัวช้ีวัดผลผลติ กิจกรรมโครงกำรสร้ำงเครอื ข่ำยดจิ ิทลั ชุมชนหลักสูตรกำรเข้ำใจ ดจิ ทิ ลั มผี ้เู ขำ้ รว่ มโครงกำร จำนวน 17 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 100 ซึ่งบรรลุเป้ำหมำยด้ำนตัวช้วี ัด ผลผลิต

27 ตารางที่ 6 คำ่ เฉลีย่ และสว่ นเบี่ยงเบนมำตรฐำนควำมพงึ พอใจของผู้เขำ้ รว่ มกิจกรรมที่มีควำมพงึ พอใจต่อโครงกำรสรำ้ ง เครือข่ำยดจิ ิทัลชมุ ชนหลักสูตรกำรเข้ำใจดจิ ิทลั ในภาพรวม รำยกำร ค่ำเฉลี่ย สว่ นเบ่ียงเบนมำตรฐำน ระดบั ควำมพึงพอใจ ดำ้ นบรหิ ำรจัดกำร () () ด้ำนกำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 4.37 0.63 ดี ดำ้ นประโยชนท์ ่ีได้รับ 4.34 0.58 ดี รวมทุกดำ้ น 4.57 0.50 ดีมำก 4.43 0.57 ดี จำกตำรำงท่ี 6 พบวำ่ ผู้ตอบแบบสอบถำมทม่ี ีควำมพึงพอใจต่อโครงกำรสร้ำงเครือข่ำยดจิ ิทลั ชุมชนหลักสูตร กำรเข้ำใจดจิ ิทัล ในภำพรวมอยใู่ นระดบั ดมี ำก (=4.50) เม่ือพิจำรณำเปน็ รำยด้ำน พบวำ่ ดำ้ นประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับ อยใู่ น ระดับดมี ำก มคี ่ำเฉล่ีย (= 4.57) รองลงมำคือ ด้ำนกำรบรหิ ำรจดั กำร อยูใ่ นระดับดี มคี ำ่ เฉลีย่ (= 4.37) และดำ้ นกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ มอี ยู่ในระดบั ดี มีค่ำเฉล่ีย (= 4.34) ตำมลำดบั โดยมสี ่วนเบย่ี งเบนมำตรฐำน () อยรู่ ะหว่ำง 0.50 - 0.63 แสดงว่ำ ผูเ้ ขำ้ ร่วมกจิ กรรมมีควำมพึงพอใจสอดคล้องกนั ตารางท่ี 7 ค่ำเฉล่ียและส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำนควำมพึงพอใจของผู้เข้ำร่วมกิจกรรมที่มีควำมพึงพอใจต่อโครงกำรสร้ำง เครือขำ่ ยดจิ ิทลั ชมุ ชนหลกั สูตรกำรเขำ้ ใจดิจิทลั ด้านบริหารจดั การ รำยกำร ค่ำเฉล่ีย ส่วนเบ่ยี งเบน ระดับ ควำมพงึ พอใจ 1. อำคำรสถำนท่ี () มำตรฐำน () 2. สง่ิ อำนวยควำมสะดวก 4.40 0.49 ดี 3. กำหนดกำรและระยะเวลำในกำรดำเนนิ โครงกำร 4.47 0.62 ดี 4. เอกสำรกำรอบรม 4.20 0.65 ดี 5. วทิ ยำกรผู้ให้กำรอบรม 4.33 0.70 ดี 4.47 0.62 ดี รวม 4.37 0.63 ดี จำกตำรำงที่ 7 พบว่ำ ผู้ตอบแบบสอบถำมทม่ี ีควำมพงึ พอใจตอ่ โครงกำรสรำ้ งเครอื ข่ำยดจิ ิทลั ชมุ ชนหลักสูตร กำรเข้ำใจดิจิทัล ด้ำนบริหำรจัดกำร ในภำพรวมอยู่ในระดับดี มีค่ำเฉลี่ย (= 4.37) เมื่อพิจำรณำเป็นรำยข้อ พบว่ำ สิ่ง อำนวยควำมสะดวก มีคำ่ เฉลยี่ (= 4.47) วิทยำกรผู้ให้กำรอบรม มีค่ำเฉลย่ี (= 4.47)รองลงมำ คอื อำคำรสถำนท่ี มี ค่ำเฉล่ีย (= 4.40) เอกสำรกำรอบรม มีค่ำเฉล่ีย (= 4.33) และกำหนดกำรและระยะเวลำในกำรดำเนินโครงกำร มี คำ่ เฉลี่ย

28 (= 4.20) ตำมลำดับ โดยมีส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำน () อยู่ระหว่ำง 0.49 - 0.70 แสดงว่ำ ผู้ตอบแบบสอบถำมมีควำม คิดเหน็ ไปในทศิ ทำงเดียวกัน ตารางที่ 8 คำ่ เฉล่ยี และสว่ นเบยี่ งเบนมำตรฐำนควำมพงึ พอใจของผ้เู ข้ำรว่ มกจิ กรรมที่มีควำมพึงพอใจต่อโครงกำรสร้ำง เครอื ข่ำยดิจิทลั ชุมชนหลกั สูตรกำรเข้ำใจดิจิทัล ด้านการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ รำยกำร ค่ำเฉล่ยี ส่วนเบี่ยงเบน ระดับ () มำตรฐำน () ควำมพึงพอใจ 6. กำรจัดกจิ กรรมโครงกำรสรำ้ งเครอื ขำ่ ยดจิ ิทัลชมุ ชน 4.33 หลักสตู รกำรเข้ำใจดจิ ทิ ัล 0.60 ดี 7. กำรใหค้ วำมรูเ้ ร่ืองกำรเขำ้ ใจดิจิทัล 8. กำรตอบข้อซักถำมของวทิ ยำกร 4.40 0.61 ดี 9. กำรแลกเปล่ยี นเรียนรขู้ องผเู้ ขำ้ รับกำรอบรม 4.40 0.49 ดี 10. กำรสรุปองค์ควำมรรู้ ว่ มกัน 4.27 0.68 ดี 11. กำรวัดผล ประเมนิ ผล กำรฝกึ อบรม 4.33 0.60 ดี 4.33 0.47 ดี รวม 4.34 0.58 ดี จำกตำรำงท่ี 8 พบว่ำ ผู้ตอบแบบสอบถำมมีควำมพึงพอใจต่อโครงกำรสร้ำงเครือข่ำยดิจิทัลชุมชนหลักสูตร กำรเข้ำใจดิจิทัล ด้ำนกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ในภำพรวมอยู่ในระดับดี มีค่ำเฉลี่ย (= 4.34) เมื่อพิจำรณำเป็นรำย ข้อ พบว่ำ กำรให้ควำมรู้เรื่องกำรเข้ำใจดิจิทัล มีค่ำเฉลี่ย (= 4.40) กำรตอบข้อซักถำมของวิทยำกร มีค่ำเฉล่ีย (= 4.40) รองลงมำคือ กำรจัดกิจกรรมโครงกำรสร้ำงเครือข่ำยดิจิทัลชุมชนหลักสูตรกำรเข้ำใจดิจิทัล มีค่ำเฉล่ีย (= 4.33) กำรสรุปองค์ควำมรู้ร่วมกัน มีค่ำเฉล่ีย (= 4.33 ) กำรวัดผล ประเมินผล กำรฝึกอบรม มีค่ำเฉลี่ย (=4.33) และกำร แลกเปลี่ยนเรียนรู้ของผู้เข้ำรับกำรอบรม มีค่ำเฉลี่ย ( = 4.27) ตำมลำดับ โดยมีส่วนเบ่ียงเบนมำตรฐำน () อยู่ ระหวำ่ ง 0.47 - 0.68 แสดงวำ่ ผตู้ อบแบบสอบถำมมคี วำมคิดเหน็ สอดคลอ้ งกัน ตารางท่ี 9 คำ่ เฉล่ยี และส่วนเบ่ยี งเบนมำตรฐำนควำมพงึ พอใจของผเู้ ข้ำร่วมกจิ กรรมที่มีควำมพึงพอใจต่อโครงกำรสร้ำง เครอื ข่ำยดจิ ิทลั ชมุ ชนหลักสูตรกำรเขำ้ ใจดิจิทลั ด้านประโยชน์ทไี่ ดร้ บั รำยกำร ค่ำเฉลี่ย ส่วนเบย่ี งเบน ระดบั ควำม () มำตรฐำน () พึงพอใจ 12. ได้เรยี นร้แู ละฝึกตนเอง เกย่ี วกบั กำรเขำ้ ใจดจิ ิทลั 4.53 13. นำควำมรู้ทไ่ี ด้รับมำปรบั ใชใ้ นชีวิตประจำวัน 0.50 ดีมำก 4.60 รวม 4.57 0.49 ดมี ำก 0.50 ดีมำก

29 จำกตำรำงท่ี 9 พบวำ่ ผู้ตอบแบบสอบถำมมีควำมพึงพอใจต่อโครงกำรสร้ำงเครือข่ำยดิจทิ ัลชมุ ชนหลักสูตรกำร เข้ำใจดิจิทัล ด้ำนประโยชน์ท่ีได้รับ ในภำพรวมอยู่ในระดับดีมำก มีคำ่ เฉลีย่ (= 4.57) เมื่อพิจำรณำเป็นรำยข้อ พบว่ำ ได้สร้ำงเครือข่ำยชุมชนกำรเข้ำใจดิจิทัล มีค่ำเฉลี่ย (= 4.60) รองลงมำ คือ ได้เรียนรู้และฝึกตนเอง เกี่ยวกับกำร เขำ้ ใจดิจิทลั มีค่ำเฉลี่ย (= 4.53) โดยมีส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำน () อยู่ระหว่ำง 0.49 - 0.50 แสดงว่ำผู้ตอบแบบสอบถำมมีควำม คิดเห็นไปในทศิ ทำงเดียวกนั สรุปในภาพรวมของกิจกรรมคดิ เปน็ ร้อยละ 88.60 มคี า่ น้าหนกั คะแนน 4.43 ถือว่าผู้รบั บรกิ าร มคี วามพึงพอใจทางด้านต่างๆ อยใู่ นระดับดี โดยเรยี งลาดับดงั นี้  อนั ดบั แรก ดำ้ นดำ้ นประโยชนท์ ีไ่ ดร้ บั คิดเป็นร้อยละ 91.40 มีคำ่ น้ำหนักคะแนน 4.57 อยู่ในระดับ คุณภำพ ดีมำก  อนั ดบั สอง ด้ำนบริหำรจดั กำร คิดเป็นร้อยละ 87.40 มคี ่ำนำ้ หนกั คะแนน 4.37 อยใู่ นระดบั คณุ ภำพดี  อนั ดบั สาม ด้ำนกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ คดิ เปน็ ร้อยละ 86.80 มีค่ำน้ำหนกั คะแนน 4.34 อยใู่ นระดับ คุณภำพดี

บทที่ 5 30 อภปิ รายและข้อเสนอแนะ ผลกำรจดั กจิ กรรมโครงกำรสรำ้ งเครือข่ำยดิจิทัลชุมชนหลักสูตรกำรเขำ้ ใจดิจิทลั ไดผ้ ลสรปุ ดงั น้ี วัตถุประสงค์ 1. เพ่อื ใหผ้ ู้เข้ำรว่ มกจิ กรรมมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจเรอื่ งดจิ ิทัล 2. เพ่อื ใหผ้ ู้เข้ำรว่ มกิจกรรม สำมำรถนำควำมรูท้ ไ่ี ด้รบั ไปใชใ้ นกำรดำเนนิ ชีวิตประจำวนั ได้ เป้าหมาย (Outputs) เปา้ หมายเชิงปรมิ าณ - ประชำชนตำบลบ้ำนเซดิ จำนวน 17 คน เป้าหมายเชิงคุณภาพ - ประชำชนตำบลบำ้ นเซดิ มีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจเร่อื งดิจิทัลและนำควำมรู้ท่ีได้รบั มำปรับใชใ้ น ชวี ิตประจำวนั เครอื่ งมือทีใ่ ชใ้ นการเกบ็ รวบรวมข้อมูล เครอื่ งมอื ท่ีใชใ้ นกำรเก็บรวบรวมข้อมูลในครัง้ น้ี คือ แบบประเมินควำมพงึ พอใจ การเก็บรวบรวมข้อมูล ในกำรเกบ็ รวบรวมข้อมูล ไดม้ อบหมำยให้ ครู กศน.ตำบลบ้ำนเซดิ ท่รี บั ผดิ ชอบกิจกรรมแจกแบบสอบถำมควำม พงึ พอใจให้กบั ผูร้ ว่ มกิจกรรม โดยให้ผู้เข้ำรว่ มกจิ กรรมประเมนิ ผลกำรจดั กิจกรรมต่ำงๆ ตำมโครงกำรสร้ำงเครอื ขำ่ ยดิจิทลั ชุมชนหลักสตู รกำรเขำ้ ใจดิจิทัล สรปุ ผลการดาเนินงาน กศน.ตำบลบำ้ นเซดิ ไดด้ ำเนินกำรจดั กิจกรรมตำม โครงกำรสรำ้ งเครือข่ำยดิจทิ ัลชุมชนหลักสตู รกำรเข้ำใจดิจิทลั โดยดำเนินกำรเสรจ็ ส้นิ ลงแล้วและสรุปรำยงำนผลกำรดำเนินงำนไดด้ ังน้ี 1. ผรู้ ่วมกจิ กรรมจำนวน 17 คน มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจกฎหมำยที่เกย่ี วข้องในชีวิตประจำวนั และนำควำมรู้ท่ี ได้รับมำปรับใช้ในชวี ิตประจำวนั 2. ผ้รู ว่ มกจิ กรรมร้อยละ 91.40 นำควำมรู้ทไ่ี ดร้ บั มำปรบั ใช้ในชวี ิตประจำวนั 3. จำกกำรดำเนนิ กิจกรรมตำมโครงกำรดงั กลำ่ ว สรุปโดยภำพรวมพบวำ่ ผเู้ ข้ำร่วมกจิ กรรมส่วนใหญ่มีควำมพึง พอใจตอ่ โครงกำร อยู่ในระดบั “ดี” และบรรลคุ วำมสำเรจ็ ตำมเปำ้ หมำยตัวชวี้ ดั ผลลพั ธท์ ่ีตงั้ ไว้ โดยมีคำ่ เฉลีย่ ร้อยละ ภำพรวมของกจิ กรรม 88.60 และค่ำกำรบรรลุเป้ำหมำยคำ่ เฉลยี่ 4.43 ข้อเสนอแนะ - อยำกให้มีกำรจดั กจิ กรรมอีก จะไดน้ ำควำมรู้ไปใช้ในกำรดำเนนิ ชวี ติ ตอ่ ไป

บรรณานุกรม ทมี่ ำ กรมกำรศกึ ษำนอกโรงเรยี น (2546) บญุ ชม ศรีสะอำด และ บญุ ส่ง นิลแกว้ (2535 หน้ำ 22-25) กระทรวงศึกษำธกิ ำร . (2543). http://www.itday.in.th/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%97 %E0%B9%82%E0%B8%9F%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8% B0%E0%B9%84%E0%B8%A3- %E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A5/ พงศ์เพชร อนิ ทรเ์ พชร. (ม.ป.ป.). “โทรศพั ท์มือถือ” ภัยใกล้ตัวทไี่ ม่ควรมองข้ำม http://www.stou.ac.th/study/sumrit/7-53(500)/page1-7-53(500).html ฤทธิชัย เจรญิ ผอ่ ง.(ม.ป.ป.). พฒั นำกำรโทรศัพท์มือถือก่อนจะเป็นสมำรท์ โฟน http://y34.wikidot.com/it-report01-050 http://www.digithun.com/smartphone-change-ur-life/

ภาคผนวก

รายงานผลการจดั กิจกรรม โครงกำรสรำ้ งเครือขำ่ ยดิจิทลั ชมุ ชนหลักสูตรกำรเขำ้ ใจดิจิทัล ระหว่ำงวนั ท่ี 27-28 มิถนุ ำยน 2563 ณ กศน.ตาบลบา้ นเซิด ตาบลบา้ นเซิด อาเภอพนัสนิคม จงั หวดั ชลบุรี วิทยำกรให้ควำมรู้โดย นำงสำวสนุ ทรี เพชรประเสริฐ ครู กศน.ตำบลบ้ำนเซิด วนั ท่ี 27 มิถุนายน 2563 เรอ่ื ง กำรเข้ำใจส่อื ดิจิทลั ฯลฯ วนั ท่ี 28 มิถนุ ายน 2563 เร่ืองเทคโนโลยดี ิจิทัล ฯลฯ

แบบสอบถามความพงึ พอใจ โครงการสร้างเครือข่ายดิจทิ ลั ชุมชนหลักสตู รการเข้าใจดจิ ทิ ัล กศน.ตาบลบา้ นเซดิ อาเภอพนัสนคิ ม จงั หวัดชลบุรี คาช้ีแจง 1. แบบสอบถำมฉบบั น้มี ีวตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื ใชใ้ นกำรสอบถำมควำมพงึ พอใจต่อโครงกำรสรำ้ งเครอื ข่ำยดจิ ทิ ัลชุมชนหลักสตู รกำรเขำ้ ใจ ดจิ ิทัล 2. แบบสอบถำมมี 3 ตอนดังนี้ ตอนท่ี 1 ถำมขอ้ มลู เกีย่ วกบั ผตู้ อบแบบสอบถำมจำนวน 4 ข้อ ให้ทำเครือ่ งหมำย ✓ ลงในชอ่ งใหต้ รงกับสภำพจริง ตอนที่ 2 ควำมพึงพอใจต่อโครงกำรสรำ้ งเครือขำ่ ยดจิ ทิ ลั ชุมชนหลักสูตรกำรเขำ้ ใจดิจิทลั จำนวน 13 ขอ้ ซึง่ มรี ะดับควำม พึงพอใจ 5 ระดับ ดังน้ี 5 มำกทสี่ ุด หมำยถงึ มคี วำมพึงพอใจมำกท่ีสดุ 4 มำก หมำยถงึ มคี วำมพงึ พอใจมำก 3 ปำนกลำงหมำยถงึ มคี วำมพงึ พอใจปำนกลำง 2 น้อย หมำยถึง มีควำมพึงพอใจน้อย 1 น้อยท่ีสุด หมำยถึง มคี วำมพึงพอใจนอ้ ยท่สี ดุ ตอนที่ 3 ข้อคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะตอ่ โครงกำรสร้ำงเครอื ข่ำยดจิ ทิ ัลชุมชนหลกั สตู รกำรเขำ้ ใจดจิ ิทัล ตอนที่ 1 ข้อมลู ทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม หญิง 40 ปี – 49 ปี เพศ 30 ปี – 39 ปี ชำย 60 ปขี นึ้ ไป อายุ 15 ปี – 29 ปี 50 ปี – 59 ปี การศกึ ษา ต่ำกว่ำ ป.4 ป.4 ประถม ม.ตน้ ม.ปลำย ประกอบอาชีพ อนุปริญญำ ปริญญำตรี สูงกว่ำปรญิ ญำตรี รบั จำ้ ง คำ้ ขำย เกษตรกร ลกู จำ้ ง/ขำ้ รำชกำรหน่วยงำนภำครัฐหรือเอกชน อ่นื ๆ ………………………………….

ตอนที่ 2 ความพึงพอใจเกย่ี วกับโครงการสร้างเครือขา่ ยดิจทิ ัลชุมชนหลักสตู รการเขา้ ใจดิจิทัล ขอ้ ท่ี รายการ ระดบั ความคิดเหน็ 1 5 432 ด้านบริหารจดั การ 1. อำคำรและสถำนท่ี 2. สง่ิ อำนวยควำมสะดวก 3. กำหนดกำรและระยะเวลำในกำรดำเนนิ โครงกำร 4. เอกสำรกำรอบรม 5. วิทยำกรผู้ให้กำรอบรม ดา้ นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 6. กำรจัดกิจกรรมโครงกำรสร้ำงเครือข่ำยดิจทิ ัลชุมชนหลกั สูตร กำรเขำ้ ใจดจิ ิทัล 7. กำรใหค้ วำมรู้เร่ืองกำรเข้ำใจดิจิทลั 8. กำรตอบขอ้ ซกั ถำมของวิทยำกร 9. กำรแลกเปล่ียนเรยี นรขู้ องผู้เข้ำรบั กำรอบรม 10. กำรสรุปองค์ควำมรรู้ ว่ มกนั 11. กำรวัดผล ประเมนิ ผล กำรฝกึ อบรม ด้านประโยชน์ท่ีได้รับ 12 ได้เรียนรแู้ ละฝึกตนเอง เกี่ยวกบั กำรเขำ้ ใจดจิ ิทลั 13 นำควำมร้ทู ่ีได้รับมำปรับใชใ้ นชีวิตประจำวนั ตอนที่ 3 ขอ้ คิดเห็นและข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็น .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ ........................................................................................................................................................................ ขอบขอบคณุ ท่ใี หค้ วำมร่วมมอื กศน. อำเภอพนสั นิคม จงั หวดั ชลบรุ ี

คณะผจู้ ดั ทา ท่ีปรกึ ษา หมน่ื สำ ผอู้ ำนวยกำร กศน.อำเภอพนัสนคิ ม กำรงำนดี ครู 1. นำงณชั ธกญั ศรีเทพ บรรณำรกั ษป์ ฏบิ ตั ิกำร 2. นำงสำวมทุ ิกำ 3. นำงปลมื้ จติ ร เพชรประเสริฐ ครู กศน.ตำบลบ้ำนเซิด คณะทางาน เพชรประเสรฐิ ครู กศน.ตำบลบำ้ นเซิด - นำงสำวสนุ ทรี บรรณาธิการ - นำงสำวสุนทรี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook