Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือประโยชน์ทับซ้อน

คู่มือประโยชน์ทับซ้อน

Published by Sanmayta Onanong, 2021-02-23 08:30:21

Description: คู่มือประโยชน์ทับซ้อน

Search

Read the Text Version

ค่มู ือการป้ องกนั ผลประโยชนท์ บั ซอ้ น ประจำปี พ.ศ 2564 งานกฎหมาย ฝ่ ายนโยบายและแผน สานักงานปลดั องค์การบริหารส่วนตาบลคลองนา้ ไหล

คำนำ ปัญหำผลประโยชน์ทับซ้อน ถือเป็นกำรคอร์รัปชััน่ ประเภทหน่ึง ซึ่งเป็นกำรแสวงหำ ผลประโยชน์สัวนบุคคลโดยกำรัละเมิดกฎหมำยและจริยธรรม เม่ือผลประโยชน์สัวนตนเข้ำมำเกย่ั วข้อง สงผลให้มกำรใช้อำนำจไปแทรกแซงกำรใช้ัดุลพินจิ ในกระบวนกำรตัดสินใจ และทำให้ละทิ้งคัุณธรรมในกำร ปฏัิบตั หิ นำ้ั ท่ ขำดควำมเป็นอัิสระ ควำมเป็นกลำงัและควำมเป็นธรรม สงผลกระทบตอประโยชน์ทป่ ระชำชน จะได้รับทำให้ผลประโยชน์หลักั ขององค์กร หนวยงำนัโดยเฉพำะผลประโยชน์ของประชำชนในชัุมชนต้อง เสยหำยกำรแก้ไขปัญหำดังกลำวได้แก กำรใช้มำตรกำรทำงักฎหมำย โดยกำรกำหนดหลักกำรไวใั้ น รฐั ธรรมนูญ และมำตรกำรไว้ัในพระรำชบญั ญัตติ ำงัๆั ดังนั้นัคณะผู้บริหำร พนักงำนสัวนตำบลัและเจ้ำหน้ำท่ผู้ปฏิับัติรำชกำรัองค์กำรบริหำรสัวน ตำบลคลองนำ้ ไหลัจึงตอ้ งมควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ เกย่ วกับกำรป้องกนัั ผลประโยชน์ทบั ซ้อน เพื่ัอใหร้ ู้เทำทนั และ ไมตกเป็นเครอ่ื งมอื ให้บุคคลอ่นื แสวงหำผลประโยชน์ องค์กำรบริหำรสวั นตำบลคลองน้ำไหล จัดทำ“คูมือั กำรป้องกนัั ผลประโยชน์ทับซ้อน” เลัมน้ ข้ึนัเพอั่ื ประโยชน์แกคณะผู้บริหำร พนกั งำนสัวนตำบลัตลอดจนเจ้ำหน้ำท่ผู้ปฏิบั ัตริ ำชกำรในสังกัดองค์กำร บริหำรสวนตำบลคลองนำ้ ไหล ตอไป ัััั งำนกฎหมำยัฝ่ำยนโยบำยและแผนั สำนักงำนปลัด องค์กำรบริหำรสวนตำบลคลองน้ำไหล พ.ศ.ั2564

สำรบญั เรอ่ื ง หนำ้ เก่ยวกับองคก์ ำรบรหิ ำรสวนตำบลคลองนำ้ ไหล ั1 บททั่ 1ัควำมหมำยของผลประโยชนท์ บั ซอ้ น -ัควำมหมำยของผลประโยชน์ทบั ซ้อน ั3 -ันิยำมศัพท์และแนวคิดสำคัญ ั4 บททั่ 2ัแนวทำงกำรปฏบิ ตั งิ ำนเพือ่ ป้องกนั ผลประโยชนท์ บั ซ้อน ั5 -ักำรป้องกนั ผลประโยชนท์ ับซ้อนในเชงิ นโยบำย ั6 -ักำรป้องกนั ผลประโยชนท์ บั ซ้อนกบั งำนตรวจสอบภำยใน ั7 -ักำรปอ้ งกันผลประโยชนท์ บั ซอ้ นกบั งำนจดั ซื้อจัดจำ้ ง ั9 -ักำรป้องกนั ผลประโยชนท์ บั ซ้อนกับงำนกำรเงิน 10 -ักำรปอ้ งกันผลประโยชน์ทบั ซอ้ นกับกำรบริหำรทรัพยำกรบคุ คล 11 -ัหลักสำคญั ของกำรจดั กำรผลประโยชนท์ ับซ้อน 12 -ัหลกั กำรั4ัประกำรสำหรับกำรจัดกำรผลประโยชน์ทับซ้อน 13 -ัแนวทำงจัดกำรผลประโยชน์ทับซ้อน 14 -ักำรเปิดเผยผลประโยชนส์ ำธำรณะ 16 บททั่ 3ักฎหมำยทเ่ กย่ วขอ้ ง -ัรัฐธรรมนญู แหงรำชอำณำจักรไทยัพ.ศ.ั2550ัหมวดั12 17 ักำรตรวจสอบกำรใช้อำนำจรัฐัสวนท่ั2ักำรกระทำท่เปน็ กำรขัดแหงผลประโยชน์ -ัรัฐธรรมนูญแหงรำชอำณำจักรไทยัพ.ศ.ั2550ัหมวดั13ั 18 กำรตรวจสอบกำรใช้อำนำจรัฐัจริยธรรมของผูด้ ำรงตำแหนงทำงกำรเมืองและเจ้ำหน้ำท่ของรฐั -ัพระรำชบัญญัตปิ ระกอบรัฐธรรมนญู วำดว้ ยกำรป้องกนั และปรำบปรำมกำรทจุ รติ ั 19 พ.ศ.ั2542ัแกไ้ ขเพ่มิ เติมั(ฉบบั ท่ั2)ัพ.ศ.ั2554ัหมวดั9ัมำตรำั100ั–ั103ั บทท่ั4ัตัวอยำงกำรขดั กนั ระหวำงผลประโยชนท์ ับซ้อน -ัตัวอยำงรูปแบบพฤตกิ รรมควำมขัดแยง้ ระหวำงผลประโยชนส์ วนตวั และ 20 ผลประโยชนส์ วนรวม -ักำรให้ั–ักำรรับของขวัญและผลประโยชน์ 26

1 เกย่ วกบั องคก์ ำรบรหิ ำรสวนตำบลคลองนำ้ ไหล ประวตั หิ นวยงำน องค์กำรบรหิ ำรสวนตำบลคลองน้ำไหลัจัดตั้งขึน้ เม่ือวนั ท่ั2ัมนำคมั2538ัเป็นองค์กำรบริหำรสวนตำบล ขนำดเล็กัเดิมใชอ้ ำคำรของสภำตำบลเปน็ ทท่ ำกำรปัจจบุ นั ัอยูท่ทำกำรแหงใหมั(กอสร้ำงบริเวณเดมิ )ัโดยทำบุญ อำคำรแหงใหมวนั ท่ั11ัพฤษภำคมั2549ัปัจจบุ นั เป็นองค์กำรบรหิ ำรสวนตำบลขนำดใหญั ท่ตงั้ องค์กำรบรหิ ำรสวนตำบลคลองนำ้ ไหลัตง้ั อยูัณับำ้ นคลองน้ำไหลเหนอื พัฒนำั699ัหมูท่ั21ััตำบลคลองัััั นำ้ ไหลัอำเภอคลองลำนัจังหวัดกำแพงเพชรัมพื้นท่รับผดิ ชอบัท้งั หมดั393ัตำรำงกโิ ลเมตรัหรือั245,625 ไร อำณำเขตตดิ ตอ ต.สักงำนัอ.คลองลำนัจ.กำแพงเพชร ทศิ เหนอื ัตดิ ตอกับั ต.คลองลำนพัฒนำัอ.คลองลำนัจ.กำแพงเพชร ทศิ ใต้ัััั ัตดิ ตอกับั ต.ัวงั ทองัต.ัอำงทองัอ.ัเมืองัจ.กำแพงเพชร ทศิ ตะวันออก ัติดตอกับ ต.ัโมโกรัอ.ัอมุ้ ผำงัจ.ตำกั ทศิ ตะวนั ตก ัตดิ ตอกบั จำนวนประชำกรั จำนวนประชำกรท้ังหมดั19,298 คนัแยกเป็นั -ัชำยัจำนวนั9,582 คนั -ัหญิงัจำนวนั9,716 คนั ัั -ัจำนวนครงั เรอื ท้ังหมดัั7,455 ครัวเรือน ควำมหนำเฉล่ยั49.10คน/ตำรำงกโิ ลเมตร เขตกำรปกครองัััั28ัหมบู ำ้ นั วสิ ยั ทัศน/์ พนั ธกิจัััเป็นองค์กรนำด้ำนคุณภำพชวติ ทด่ ัประชำชนมรำยได้พอเพยง ยุทธศำสตร์ ยทุ ธศำสตร์กำรพฒั นำดำ้ นทั่ 1ักำรจดั วำงผงั เมอื งและพัฒนำดำ้ นโครงสรำ้ งพน้ื ฐำน แนวทำงกำรพฒั นำ -ัสำรวจัตรวจสอบักอสร้ำงัปรับปรงุ ับำรุงรกั ษำและซอมแซมถนนัสะพำนัทำงเท้ำัและเกำะ กลำงถนนัรวมทัง้ ระบำยนำ้ -ัสำรวจัตรวจสอบักอสรำ้ งัปรับปรุงับำรงุ รักษำสำธำรณูปโภคัสำธำรณปู กำร -ัพัฒนำปรับปรุงสถำนขนสงและกำรจรำจร -ัพฒั นำแหลงน้ำขนำดใหญระบบชลประทำน -ักำรวำงแผนและสนบั สนนุ กำรจัดทำผงั เมือง ยุทธศำสตรก์ ำรพฒั นำดำ้ นทั่ 2ักำรสงเสรมิ กำรศกึ ษำัศลิ ปวฒั นธรรมัและภูมปิ ญั ญำทอ้ งถนิ่ แนวทำงกำรพฒั นำ -ัสงเสริมและพัฒนำกำรศึกษำทกุ เพศทุกวัยัและบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำ -ัสบื สำนัอนรุ ักษ์ัสนับสนุนกิจกรรมดำ้ นศิลปวัฒนธรรมัประเพณวฒั นธรรมและภมู ิปัญญำ ทอ้ งถ่ิน

2 ยทุ ธศำสตรก์ ำรพฒั นำดำ้ นทั่ 3ักำรสงเสรมิ เศรษฐกจิ พอเพยงและพฒั นำเกษตรปลอดสำรพษิ แนวทำงกำรพฒั นำ -ักำรสงเสรมิ หลกั ปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพยง -ัพัฒนำเกษตรปลอดสำรพิษ ยุทธศำสตร์กำรพฒั นำดำ้ นทั่ 4ักำรสงเสริมสขุ ภำพอนำมยั คณุ ภำพชวติ ของประชำชนและสงั คมท่เขม้ แขง็ แนวทำงกำรพฒั นำ -ัสนับสนุนกจิ กรรมดำ้ นสขุ ภำพอนำมยั และกำรออกกำลังกำย -ัพัฒนำควำมร้เู พื่อสรำ้ งรำยได้และสรำ้ งกำรรวมกลุมเพื่อกำรพัฒนำคุณภำพชวติ ของประชำชน -ัพัฒนำทักษะกำรเรยนร้สู งเสริมกำรมสวนรวมของประชำชน ยุทธศำสตรก์ ำรพฒั นำดำ้ นทั่ 5ักำรพฒั นำด้ำนสง่ิ แวดลอ้ มและทรพั ยำกรธรรมชำติ แนวทำงกำรพฒั นำ -ักำรควบคุมัดูแลรกั ษำป่ำไม้และบริหำรจดั กำรขยะ -ัวำงแผนัจดั กำรควบคุมมลพษิ ทำงอำกำษและทำงน้ำ -ับำบัดฟนื้ ฟูัอนุรักษณ์ทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม ยุทธศำสตร์กำรพฒั นำดำ้ นทั่ 6ักำรยกระดบั คณุ ภำพแหลงทองเทย่ วและสงเสรมิ กำรทองเทย่ ว แนวทำงกำรพฒั นำ -ักำรพัฒนำปรบั ปรุงแหลงทองเทย่ ว -ัพฒั นำบคุ ลกำรด้ำนกำรทองเท่ยว -ัสงเสริมกำรทองเทย่ ว ยทุ ธศำสตร์กำรพฒั นำดำ้ นทั่ 7ักำรพฒั นำบรหิ ำรจดั กำรองคก์ รปกครองสวนท้องถน่ิ ใหม้ ประสทิ ธภิ ำพและ ธรรมภบิ ำล แนวทำงกำรพฒั นำ -ัพฒั นำคุณภำพระบบบริหำรจดั กำรองค์กรปกครองสวนท้องถ่นิ -ัสงเสริมประสิทธภิ ำพกำรปฏบิ ตั งิ ำนของบุคลำกรทอ้ งถิ่น -ัปลกู ฝงั จติ สำนึกดำ้ นธรรมภิบำลั คำขวญั คลองนำ้ ไหลต้นแบบตำบลนำอยัู เชิดชเู ผำพันธุ์ หลอมรมวฒั นธรรมหลำกหลำย ปำงควำยสำยธำรเลย้ งชวติ ผลผลติ ชุมชนต้นแบบพลงั งำนย่งั ยนื โครงสรำ้ งขององคก์ ร นำยกัอบต.ั ประธำนสภำฯัััรองประธำนสภำฯัเลขำนุกำรสภำฯัและสมำชิกสภำัอบต. รองันำยกัอบต.ั เลขำนุกำรนำยก สำนักงำนปลดั กองคลงั โครงสรำ้ งสวนรำชกำร กองคลงั ััั กองชำงั

3 บทท่ 1 ควำมหมำยของผลประโยชนท์ บั ซอ้ น ควำมหมำยของผลประโยชนท์ บั ซ้อน คำวำัConflict of Interests มกำรใช้คำในภำษำไทยไว้หลำยคำัเชนั”ผลประโยชน์ทับซ้อน“ผลประโยชน์ ขัดกันผลประโยชน์ั“ขัดแย้งหรือกำรขัดกันแหงผลประโยชน์”ัถ้อยคำเหลำน้ถือเป็นรูปแบบหน่ึงของกำรแสวงหำ ประโยชน์โดยมิชอบอันเป็นกำรกระทำท่ขัดตอหลักคุณธรรมัจริยธรรมัและหลักกำรบริหำรกิจกำรบ้ำนเมืองท่ดั (Good Governance) กำรขัดกันแหงผลประโยชน์ัหมำยถึงัสภำวกำรณ์ัสถำนกำรณ์ัหรือข้อเท็จจริงท่บุคคลซึ่งมอำ นำจหน้ำท่ััััั ท่จะต้องใช้ดุลยพินิจัปฏิบัติหน้ำท่ัหรือกระทำกำรอยำงใดอยำงหนึ่งตำมอำนำจหน้ำท่เพ่ือสวนรวมัเพื่อหนวยงำนั หรือเพอื่ องค์กรัแตตนเองมผลประโยชน์สวนตนเก่ยวข้องอยูในเร่ืองนัน้ ัๆ โดยสรุปัผลประโยชน์ทับซ้อนัหมำยถึงัควำมทับซ้อนระหวำงผลประโยชน์สวนตนัและผลประโยชน์ สวนรวมัท่มผลตอกำรปฏบิ ัตหิ น้ำท่ของเจ้ำหน้ำทข่ องรัฐักลำวคอื ัเปน็ สถำนกำรณท์ ่เจ้ำหน้ำท่ของรัฐัมผลประโยชน์ สวนตนอยูและได้ใช้อิทธิพลตำมอำนำจหน้ำท่และควำมรับผิดชอบเพื่อให้เกิดประโยชน์สวนตัวโดยกอให้เกิดผลเสย ตอผ ล ปร ะโ ย ช น์ ส ว น ร ว มัมห ล ำกห ล ำย รู ปแบบั ไมจ ำ กัดอยู ใน รู ปของตัว เงิน ั ห รื อทรั พย์ สิ น เทำน้ั น แตร ว มถึง ผลประโยชน์อนื่ ๆัท่ไมใชในรปู ตัวเงินหรือทรพั ย์สินัโดยมลกั ษณะั๗ัประกำรัดังน้ 1..ัหำประโยชน์ใัห้ตนเองัคือักำรใช้อำนำจหน้ำทเ่ พื่อตนเองัเชนัข้ำรำชกำรใช้อำนำจหน้ำทท่ ำให้บริษัทั ตวั เองได้งำนรับเหมำจำกรัฐัหรือฝำกลูกหลำนเขำ้ ทำงำนัเป็นต้น 2.ัรบั ผลประโยชน์ัคือักำรรับสินบนหรือรับของขวัญัเชนัเป็นเจ้ำพนักงำนสรรพำกรแล้วรับเงนิ ัจำกผู้มำ เสยภำษหรือเป็นเจ้ำหนำ้ ท่จดั ซื้อแล้วรับไม้กอล์ฟเป็นของกำนลั จำกรำ้ นคำ้ ัเป็นต้น 3.ัใช้อทิ ธิพลัเปน็ กำรเรยกผลตอบแทนในกำรใช้อิทธิพลในตำแหนงหน้ำท่เพ่ือสงผลทเ่ ป็นคณุ แกฝำ่ ยใดฝ่ำย หน่ึงอยำงไมเป็นธรรม ๔.ัใช้ทรัพย์สินของทำงรำชกำรเพ่ือประโยชน์สวนตนัเชนักำรใช้รถยนต์หรือคอมพิวเตอร์ของรำชกำร ทำงำนสวนตวั ัเป็นต้น 5.ัใช้ข้อมูัลลับของทำงรำชกำรัเชนัรู้วำรำชกำรจะตัดถนนัจึงรบไปซ้ือ่ท่ดินในบริเวณดังกลำวดักหน้ำไว้ กอนัเป็นต้น 6.ัรับงำนนอกัได้แกักำรเปิดบริษัททำธุรกิจซ้อนกับหนวยงำนท่ตนเองทำงำนอยูเชนัเป็นนักบัญชแตรับ งำนสวนตัวจนไมมเวลำทำงำนกำรบญั ชในหน้ำท่ใ่ ห้กับหนวยวบหนวยงำนัเป็นต้น 7. ทำงำนหลังออกจำกตำแหนงัคือักำรไปทำงำนให้กับผู้อื่นหลังออกจำกท่ทำงำนเดิมัโดยใช้ควำมรู้หรือ อิทธิพลจำกท่เดิมมำชิงงำนัหรือเอำประโยชน์โดยไมเป็นธรรมัเชนัเอำควำมรู้ในนโยบำยและแผนของธนำคำรแหง ประเทศไทยไปชวยธนำคำรเอกชนอ่นื ัๆัหลงั จำกเกษยณัเป็นตน้ องคป์ ระกอบของผลประโยชน์ทับซอ้ น 1.ัตอ้ งมกำรขัดกนั ระหวำงผลประโยชนส์ วนตนกบั ผลประโยชน์สวนรวม 2.ัประโยชนส์ วนตนนั้นัหมำยควำมรวมถงึ ัประโยชน์ของบุคคลอน่ื ัท่ถือวำเป็นประโยชนส์ วนตนด้วย 3.ัต้องเป็นกรณท่บคุ คลนนั้ ัๆัมอัำนำจหนำ้ ทท่ เ่ ก่ยวขอ้ งกับผลประโยชน์ของสวนรวมอยู 4.ัประโยชนส์ วนตนนนั้ ัอำจจะเป็นประโยชน์ในเชงิ ทรพั ย์สนิ ัหรอื ประโยชน์อื่นใดกไ็ ด้ 5.ับุคคลนน้ั ัๆัจะเปน็ บุคลำกรในภำครัฐัหรือภำคเอกชนก็ได้ 6.ักำรขัดกันของผลประโยชน์สวนตนและผลประโยชน์สวนรวมัมิได้หมำยควำมวำมกำรทุจริต คอร์รัปชั่น เสมอไป

4 7.ััผลประโยชน์ทับซอ้ นหรือกำรขัดกันแหงผลประโยชน์ัโดยหลักกำรพน้ื ฐำนเปน็ เรือ่ งศลธรรม คุณธรรมั จรยิ ธรรมั 8.ัควำมผิดเก่ยวกบั เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนหรือกำรขัดกันแหงผลประโยชน์อำจเปน็ ได้ท้ังกำร กระทำท่ เปน็ ควำมผดิ ในตัวเองั)Mala in se) หรือเปน็ ควำมผิดเพรำะกฎหมำยหำ้ มั)Mala prohibita) ก็ได้ นยิ ำมศพั ทแ์ ละแนวคดิ สำคญั (private interest) ผลประโยชนั์ คือัสง่ิ ใดัๆัทม่ ผลตอบุคคลผลประโยชน์“ักลุมัไมวำในทำงบวกหรือลบ/ ไมได้ั”สวนตน ครอบคลุมเพยงผลประโยชน์ด้ำนกำรงำนหรือธุรกิจของเจ้ำหน้ำท่ัแตรวมถึงคนท่ติดตอสัมพันธ์ด้วยั เชนัเพ่ือนัญำติ คูแขงัศัตรูัเม่ือใดเจ้ำหน้ำท่ประสงค์จะให้คนเหลำน้ได้หรือเสยประโยชน์ัเม่ือนั้นก็ถือวำมเรื่อง ผลประโยชน์ สวนตนมำเก่ยวขอ้ ง ผลประโยชนส์ วนตนัมั๒ัประเภทัคอื ัทเ่ ก่ยวกับเงนิ ั)pecuniary) และท่ไมเกย่ วกบั เงิน (non- pecuniary) 1. ผลประโยชนส์ วนตนทเ่ กย่ วกบั เงินัไมไดเ้ กย่ วกบั กำรได้มำซ่ึงเงนิ ทองเทำน้นั ัแตยังเก่ยวกับกำร เพิ่มพนู ประโยชน์หรอื ปกป้องกำรสูญเสยของสิ่งท่มอยูแลว้ ัเชนัท่ดินัหุ้นัตำแหนงในบริษทั ท่รับงำนจำกหนวยงำน รวมถงึ กำรได้มำซึ่งผลประโยชน์อ่ืนัๆัทไ่ มไดอ้ ยูในรปู ตัวเงนิ ัเชนัสมั ปทำนัสวนลดัของขวญั ัหรอื ของทแ่ สดงน้ำใจ ไมตร อน่ื ัๆ 2. ผลประโยชนท์ ่ไมเกย่ วกบั เงินัเกดิ จำกควำมสัมพนั ธร์ ะหวำงบคุ คลัครอบครัวัหรอื กจิ กรรมทำง สังคม วัฒนธรรมอน่ื ัๆัเชนัสถำบนั กำรศึกษำัสมำคมัลทั ธิัแนวคดิ ัมกั อยใู นรูปควำมลำเอยงเลือกท่รักมักท่ชัง/อคต/ิ และ มขอ้ สงั เกตวำแม้แตควำมเช่ือควำมคิดเหน็ สวนตัวก็จัดอยใู นประเภทน/้ั หนำ้ ทส่ ำธำรณะ หนำ้ ทส่ ำธำรณะั)public duty) ของผ้ทู ่ทำงำนใหภ้ ำครัฐัคอื ักำรให้ควำมสำคัญอนั ดับตน้ แก ประโยชน์ สำธำรณะั(public interest) คนเหลำน้ไมจำกดั เฉพำะเจ้ำหน้ำทข่ องรฐั ัทัง้ ระดบั ทอ้ งถ่ินและระดับประเทศ เทำน้ันั แตยังรวมถงึ คนอนื่ ัๆัท่ทำงำนใหภ้ ำครัฐัเชนัทป่ รกึ ษำัอำสำสมัคร ผลประโยชนส์ ำธำรณะ ผลประโยชนส์ ำธำรณะัคอื ัประโยชน์ของชมุ ชนโดยรวมัไมใชผลรวมของผลประโยชน์ของปจั เจก บคุ คล และไมใชผลประโยชน์ของกลุมคนักำรระบผุ ลประโยชนส์ ำธำรณะไมใชเรอื่ งงำยัแตในเบื้องตน้ ขำ้ รำชกำรทุกคน สำมำรถให้ควำมสำคัญอันดบั ตน้ แกสง่ิ นั้ โดย - ทำงำนตำมหน้ำท่อยำงเตม็ ทแ่ ละมประสิทธภิ ำพ - ทำงำนตำมหนำ้ ท่ตำมกรอบและมำตรฐำนทำงจริยธรรม - ระบผุ ลประโยชนท์ บั ซอ้ นท่ตนเองมหรืออำจจะมและจดั กำรอยำงมประสิทธภิ ำพ - ให้ควำมสำคญอันดบั ต้นแกผลประโยชนส์ ำธำรณะมควำมคำดหวังวำเจำ้ หนำ้ ทต่ ้องจำกดั ขอบเขต ทป่ ระโยชนส์ วนตนจะมำมผลตอควำมเป็นกลำงในกำรทำหนำ้ ท่ - หลกเลย่ งกำรตดั สินใจหรือกำรทำหนำ้ ท่ท่มผลประโยชนท์ บั ซอ้ น - หลกเล่ยงกำรกระทำกจิ กรรมสวนตนท/อั ำจทำใหค้ นเหน็ วำได้ประโยชน์จำกข้อมลู ภำยใน - หลกเลย่ งกำรใช้ตำแหนงหน้ำท่หรอื ทรัพยำกรของหนวยงำนเพื่อประโยชนส์ วนตน - ป้องกันข้อครหำวำไดร้ บั ผลประโยชน์ท่ไมสมควรจำกกำรใช้อำนำจหน้ำท่ - ไมใชป้ ระโยชน์จำกตำแหนงหรอื ขอ้ มูลภำยในท่ได้ขณะอยูในตำแหนงขณะท่ไปหำตำแหนงงำน ใหม

5 ผลประโยชนท์ บั ซอ้ นัมั3ัประเภทัคอื 1. ผลประโยชน์ทับซ้อนท่เกิดข้ึนจริงั(actual) มควำมทับซ้อนระหวำงผลประโยชน์สวนตนและสำธำรณะ เกิดขนึ้ ผลประโยชนท์ ับซอ้ นทเ่ ห็นั(perceived & apparent) เป็นผลประโยชนท์ ับซอ้ นทค่ นเห็นวำมัแตจรงิ ัๆัอำจ ไมมก็ได้ ถ้ำจัดกำรผลประโยชน์ทับซ้อนประเภทน้อยำงขำดประสิทธิภำพัก็อำจนำมำซึ่งผลเสยไมน้อยกวำกำรั จัดกำร ผลประโยชน์ทับซ้อนท่เกิดขึ้นจริงัข้อน้แสดงวำเจ้ำหน้ำท่ไมเพยงแตจะต้องประพฤติตนอยำงมจริยธรรมั เทำน้นั ัแตตอ้ งทำใหค้ นอ่นื ัๆัรับรู้และเหน็ ดว้ ยวำไมไดร้ ับประโยชน์เชนนัน้ จริง 2. ผลประโยชน์ทับซ้อนท่เป็นไปได้ั(potential) ผลประโยชน์สวนตนท่มในปัจจุบันอำจจะทับซ้อนกับ ผลประโยชน์สำธำรณะได้ในอนำคต 3ัผลประโยชน์ทับซ้อนท่เห็นัperceived + apparent) เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนัท่คนเห็นวำมัแตจริงัๆั อำจไมมก็ได้ หนำ้ ทซ่ บั ซ้อนั(Conflict of duty) หรือผลประโยชนเ์ บยดซ้อนกนั ั(competing interests) มั๒ัประเภท 1.ัเกิดจำกกำรท่เจ้ำหน้ำท่มบทบำทหน้ำท่มำกกวำหน่ึงัเชนัเป็นเจ้ำหน้ำท่ในหนวยงำนัและเป็น คณะกรรมกำรด้ำนระเบยบวินัยประจำหนวยงำนด้วยัปัญหำจะเกิดเม่ือไมสำมำรถแยกแยะบทบำทหน้ำท่ัท้ังสอง ออกจำกกันได้อำจทำให้ทำงำนไมมประสิทธิภำพหรือแม้กระท่ังเกิดควำมผิดพลำดหรือผิดกฎหมำยปกติัหนวยงำน มักมกลไกป้องกันปัญหำน้โดยแยกแยะบทบำทหน้ำท่ตำงัๆัให้ชัดเจนัแตก็ยังมปัญหำได้โดยเฉพำะอยำงย่ิงใน หนวยงำนทม่ กำลงั คนน้อยหรอื มเจำ้ หน้ำท่บำงคนเทำนัน้ ท่สำมำรถทำงำนบำงอยำงท่คนอ่นื ัๆัทำไมได้ คนสวนใหญไมคอยหวงปญั หำนก้ นั เพรำะดูเหมือนไมมเร่ืองผลประโยชนส์ วนตนมำเก่ยวข้อง 2. เกดิ จำกกำรทเ่ จ้ำหนำ้ ท่มบทบำทหนำ้ ท่มำกกวำหน่ึงบทบำทัและกำรทำบทบำทัหนำ้ ทใ่ นหนวยงำนหน่ึง นั้นทำให้ได้ข้อมูลภำยในบำงอยำงท่อำจนำมำใช้เป็นประโยชน์แกกำรทำบทบำทหน้ำท่ให้แกอกหนวยงำนหน่ึงได้ั ผลเสยัคือัถำ้ นำข้อมูลมำใช้ก็อำจเกิดกำรประพฤติมิชอบหรือควำมลำเอยงอคตติ อคนบำงกลุมัควรถือวำหน้ำท่ทับ/ ซ้อนเป็นปัญหำผลประโยชน์ทับซ้อนด้วยัเพรำะวำมหลักกำรจัดกำรแบบเดยวกันันั่นคือักำรตัดสินใจท ำหน้ำท่ต้อง เป็นกลำงและกลไกกำรจดั กำรผลประโยชนท์ ับซ้อนกส็ ำมำรถนำมำจดั กำรกบั หน้ำทท่ บั ซ้อนได้ บท่ทั2ัแนวทำงกำรปฏบิ ตั งิ ำนเพื่อปอ้ งกนั ผลประโยชน์ทบั ซ้อน แนวทำงกำรปฏิบัติงำนเพ่ื่อป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนอยำงมประสิทธิภำพัเพื่อให้เจ้ำหน้ำท่ของรัฐไม ละเลยประโยชน์สำธำรณะและให้ควำมสำคัญกับประโยชน์สวนตนัหรือของคนบำงกลุมแทนัซึ่งจะมผลตอกำร ปฏิบตั งิ ำนและอำจนำไปสูกำรประพฤตมิ ชิ อบในท่สุดัเนื่องจำกเจำ้ หน้ำทข่ องรัฐก็มชวิตสวนตนัมบำงครง้ั ท่ ผลประโยชน์สวนตนจะมำขัดแยง้ กบั กำรทำหนำ้ ท่ัแตสงิ่ สำคญั ัคอื ัต้องเปิดเผยผลประโยชน์ทับซ้อนท่มำอยำง โปรงใสัและยดึ ถอื ประโยชน์สวนรวมเปน็ เรื่องหลัก องค์กำรบริหำรสวนตำบลคลองน้ำไหลัจึงดำเนินกำรเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนให้เกิดโปรงใสัเพื่อไมให้เข้ำ มำมอิทธิพลในกำรทำงำนัหรือกำรตัดสินใจในกำรปฏิบัติหน้ำทจ่ ะนำไปสกู ำรใช้อำนำจหน้ำท่ในทำงมิชอบักำรทุจริต คอร์รัปช่ันหรือฉ้อรำษฎร์บังหลวงัมิฉะนั้นจะบั่นทอนควำมเช่ือมั่นของประชำชนตอกำรปฏิบัติหน้ำท่ของหนวยงำนั ดังน้ันองค์กำรบริหำรสวนตำบลคลองน้ำไหลัจึงมแนวทำงกำรบริหำรเพ่ือป้องกันเร่ืองผลประโยชน์ทับซ้อนั ในดำ้ นตำงๆัดงั น้ - กำรป้องกนั ผลประโยชนท์ ับซอ้ นในเชงิ นโยบำย - กำรป้องกันนผลประโยชนท์ ับซ้อนกับงำนตรวจสอบภำยใน - กำรปอ้ งกนั ผลประโยชน์ทบั ซ้อนกับงำนจดั ซื้อจดั จำ้ ง - กำรปอ้ งกนั ผลประโยชน์ทบั ซ้อนกับงำนกำรเงิน - กำรป้องกนั ผลประโยชน์ทับซ้อนกบั กำรบรหิ ำรทรัพยำกรบุคค

6 กำรป้องกนั ผลประโยชนท์ บั ซอ้ นในเชงิ นโยบำย องค์กำรบริหำรสวนตำบลคลองน้ำไหลั มภำรกิจสำคัญในกำรสงเสริมธรรมำภิบำลให้เกิดขึ้นในภำครัฐั โดย ผลักดันกำรปฏิบัติ รำชกำรของหนวยงำนภำครัฐให้มระดับธรรมำภิบำลเทยบเทำมำตรฐำนสำกลัจึงมุงเน้นและ สงเสริมให้หนวยงำน ภำครัฐมควำมรู้ควำมเข้ำใจเก่ยวกับกำรกำกับดูแลองค์กรภำครัฐตำมหลักธรรมำภบิ ำลของกำร บริหำรกิจกำรบ้ำนเมืองท่ดั(Good Governance) และนำไปปฏิบัติอย่ำงเป็นรูปธรรมสูมำตรฐำนสำกลดังนั้นัจำก กำรท่องค์กำรบริหำรสวนตำบลคลองน้ำไหลัไดย้ ดึ มน่ั ควำมสำคญั กับหลกั ธรรมภบิ ำลของกำรบริหำรกจิ กำรบ้ำนเมือง ทด่ ัจงึ นำหลักกำรบริหำรกิจกำรบ้ำนเมืองท่ดเป็นหลักสำคัญในกำรกำหนดนโยบำยัทำใหม้ นโยบำยท่ชัดเจนเก่ยวกับ ควำมโปรงใสัเพอ่ื เปน็ กรอบในกำรสงเสริม กำรดำเนนิ งำนัและกำรปอ้ งกันและปรำบปรำมกำรทจุ ริตัโดยหลกั ธรรมำั ภบิ ำลของกำรบริหำรกิจกำรบ้ำนเมอื งท่ด ประกอบดว้ ยั๑๐ัองคป์ ระกอบัดงั น้ 1.ัหลักประสิทธิผลั(Effectiveness)ัผลกำรปฏิบัติรำชกำรท่บรรลุวัตถุประสงค์และเป้ำหมำยของแผนกำร ปฏิบัติรำชกำรตำมท่ได้รับงบประมำณมำดำเนินกำรัรวมถึงสำมำรถเทยบเคยงกับสวนรำชกำรหรือหนวยงำน ท่ม ภำรกจิ คลำ้ ยคลึงกนั และมผลกำรปฏิบัติงำนในระดับชั้นนำของประเทศเพื่อให้เกดิ ประโยชนส์ ุขตอประชำชนัโดยกำร ปฏิบัติรำชกำรจะต้องมทิศทำงยุทธศำสตร์ัและเป้ำประสงค์ท่ชัดเจนัมกระบวนกำรปฏิบัติงำนและระบบงำนท่เป็น มำตรฐำนัรวมถงึ มกำรติดตำมประเมนิ ผลและพัฒนำปรบั ปรงุ อย่ำงตอเนื่องและเปน็ ระบบ 2.ัหลักประสิทธิภำพั(Efficiency)ักำรบริหำรรำชกำรตำมแนวทำงกำรกำกับดูแลท่ดท่มกำรออกแบบ กระบวนกำรปฏิบัติงำนโดยกำรใช้เทคนิคและเครื่องมือกำรบริหำรจัดกำรท่เหมำะสมให้องค์กรสำมำรถใช้ทรัพยำกร ทั้งด้ำนต้นทุนัแรงงำนและระยะเวลำให้เกิดประโยชน์สงู สุดตอกำรพัฒนำขดควำมสำมำรถในกำรปฏิบัติรำชกำรตำม ภำรกจิ ัเพื่อตอบสนองควำมต้องกำรของประชำชนและผู้มสวนได้สวนเสยทุกกลุม 3.ัหลักกำรตอบสนองั(Responsiveness)ักำรให้บริกำรทส่ ำมำรถดำเนนิ กำรได้ภำยในระยะเวลำทก่ ำหนดั และสร้ำงควำมเช่ือม่ันัควำมไว้วำงใจัรวมถึงตอบสนองตำมควำมคำดหวัง/ควำมต้องกำรของประชำชนผู้รับบริกำรั และผมู้ สวนได้สวนเสยท่มควำมหลำกหลำยและมควำมแตกตำง 4 . ั หลั กภ ำระรับผิ ดช อบั ( Accountability)ั กำรแส ดงคว ำมรับผิ ด ใ นก ำรปฏิ บัติห น้ำ ท่แล ะผ ล ง ำ น ต อ เป้ำหมำยท่ักำหนดไว้ัโดยควำมรับผิดชอบนั้นควรอยูในระดับท่สนองตอควำมคำดหวังของสำธำรณะัรวมทั้งกำร แสดงถึงควำมสำนึกในกำรรับผดิ ชอบตอปัญหำสำธำรณะ 5.ัหลักควำมโปรงใสั(Transparency)ักระบวนกำรเปิดเผยอยำงตรงไปตรงมำัช้แจงได้เม่ือมข้อสงสัยและ สำมำรถเข้ำถงึ ขอ้ มลู ขำวสำรอนั ไมต้องห้ำมตำมกฎหมำยได้อยำ่ งเสรัโดยประชำชนสำมำรถรทู้ กุ ขัน้ ตอนในกำรดำเนิน กจิ กรรมหรือกระบวนกำรตำงๆัและสำมำรถตรวจสอบได้ 6.ัหลักกำรมสวนรวมั(Participation)ักระบวนกำรทข่ ้ำรำชกำรัประชำชนและผ้มู สวนไดส้ วนเสยทุกกลุมม โอกำสได้เขรวมในกำรรับรู้ัเรยนรู้ัทำควำมเข้ำใจัรวมแสดงทัศนะัรวมเสนอปัญหำประเด็นท่สำคัญท่เก่ยวข้องัรวม คิดแนวทำงัรวมกำรแก้ไขปญั หำัรวมในกระบวนกำรตดั สนิ ใจัและรวมกระบวนกำรพฒั นำในฐำนะ หุน้ สวนกำรพัฒนำ 7.ัหลักกำรกระจำยอำนำจั(Decntralization)ักำรถำยโอนอำนำจกำรตัดสินใจัทรัพยำกรัและภำรกิจั จำกสวนรำชกำรสวนกลำงให้แกหนวยกำรปกครองอื่นััรำชกำรบริหำรสวนท้องถิ่นัและภำคประชำชนัดำเนินกำร แทนัโดยมอิสระตำมสมควรัรวมถึงกำรมอบอำนำจและควำมรับผิดชอบในกำรตัดสินใจและกำรดำเนินกำรให้แก บุคลำกรัโดยมุงเน้นกำรสร้ำงควำมพึงพอใจในกำรให้บริกำรตอผู้รับบริกำรและผู้มสวนได้สวนเสยักำรปรับปรุง กระบวนกำรัและเพิ่มผลติ ภำพัเพ่อื ผลกำรดำเนินงำนท่ดของสวนรำชกำร 8.ัหลักนิติธรรมั(Rule of Law) กำรใช้อำนำจของกฎหมำยักฎระเบยบัข้อบังคับในกำรบริหำรรำชกำร ด้วยควำมเป็นธรรมัไมเลือกปฏบิ ตั ิัและคำนึงถงึ สิทธเิ สรภำพของผมู้ สวนได้สวนเสย 9.ัหลักควำมเสมอภำคั(Equity)ักำรได้รับกำรปฏบิ ัตแิ ละได้รับบริกำรอยำงเทำเทยมกนั โดยไมม กำรแบงแยกดำ้ นัชำยัหญิงัถิน่ กำเนดิ /เชอื้ ชำติัภำษำัเพศัอำยัุ ควำมพิกำรัสภำพทำงกำยหรอื สุขภสพัสถำนะของ บคุ คลัฐำนะทำงเศรษฐกิจและสงั คมัควำมเชือ่ ทำงศำสนำักำรศึกษำักำรฝึกอบรมัและอืน่ ัๆ

7 10.ัหลักมุงเนน้ ฉันทำมตัิ (Consensus Oriented)ักำรหำข้อตกลงทั่วไปภำยในกลุมผู้มสวนได้สวน เสยท่เก่ยวข้องัซ่ึงเป็นข้อตกลงท่เกิดจำกกำรใช้กระบวนกำรเพื่อหำข้อคิดเห็นจำกกลุมบุคคลท่ได้รับประโยชน์และ เสยประโยชนั์ โดยเฉพำะกลุมท่ได้รับผลกระทบโดยตรงซึ่งต้องไมมข้อคัดค้ำนท่ยุติไมได้ในประเด็นทส่ ำคัญัโดยฉนั ทำ มติไมจำเปน็ ต้องหมำยควำมวำเป็นควำมเห็นพ้องโดยเอกฉันท์ กำรป้องกนั ผลประโยชนท์ บั ซอ้ นกับงำนตรวจสอบภำยใน กำรมผลประโยชนท์ บั ซ้อนัถือเปน็ กำรทจุ ริตคอร์รัปชั่นประเภทหนง่ึ ัเพรำะเป็นกำรแสวงหำประโยชน์ สวน บคุ คลโดยกำรละเมดิ ตอกฎหมำยัหรือจรยิ ธรรมัดว้ ยกำรใช้อำนำจในตำแหนงหน้ำทไ่ ปแทรกแซงักำรใชด้ ุลยพินิจ ใน กระบวนกำรตัดสินใจของเจำ้ หนำ้ ทข่ องรัฐัจนทำให้เกดิ กำรละท้งิ คุณธรรมในกำรปฏบิ ตั ิหนำ้ ทั่ สำธำรณะัขำดควำม เป็นอิสระ ควำมเปน็ กลำงัและควำมเปน็ ธรรมัจนสงผลกระทบตอประโยชน์สำธำรณะของสวนรวมัและทำให้ผล ประโยชน์หลกั ขององค์กรัหนวยงำนัสถำบนั และสงั คมต้องสูญเสยไปัโดยผลประโยชนส์ ญู เสยไปอำจอยใู นรปู ของ ผลประโยชน์ทำง กำรเงนิ ัคณุ ภำพกำรใหบ้ ริกำรัควำมเปน็ ธรรมในสงั คมัรวมถึงคุณคำอ่ืนๆัตลอดจนโอกำสใน อนำคตตั้งแตระดบั องคก์ รจนถงึ ระดับสงั คมัตัวอยำงเชนักำรทเ่ จำ้ หนำ้ ท่ของรฐั เรยกรบั เงนิ หรือผลประโยชนอ์ ่ืนใด จำกผปู้ ระกอบกำรเพื่อแลกเปล่ยนกับกำรจดั กำรประมลู ทรัพยส์ ินของรัฐเพื่อประโยชนข์ องัเจ้ำหน้ำท่ของรฐั ัและ พวกพ้องัฯลฯัเปน็ ต้น หนวยงำนภำครัฐตอ้ งจัดกำรผลประโยชนท์ บั ซ้อนอยำงโปรงใสัและพร้อมรบั ผิดชอบมฉิ ะนนั้ ัจะบ่นั ทอน ควำมเชอ่ื ม่นั ของประชำชนตอกำรปฏบิ ัติหนำ้ ทข่ องหนวยงำนัปจั จบุ ันขอบเขตของผลประโยชนท์ บั ซอ้ นัขยำย มำกกวำเดิมัเนื่องจำกมกำรรวมมือระหวำงภำครัฐและเอกชนัรวมถึงระหวำงหนวยงำนภำครัฐัทำใหม้ ควำมสัมพันธ์ ซับซ้อนมำกขน้ึ ัองค์กำรบรหิ ำรสวนตำบลคลองนำ้ ไหลจงึ ตระหนักและให้ควำมสำคัญในผลประโยชน์ทับซอ้ นจะ เกิดขน้ึ ในกำรทำงำนโดยพัฒนำวฒั นธรรมองค์กรทส่ งเสริมกำรระบุและเปิดเผยผลประโยชนท์ ับซ้อนัและขจดั ควำม เข้ำใจผิดทว่ ำผลประโยชนท์ ับซอ้ นเป็นเร่ืองผิดในตวั มันเองัมฉิ ะนัน้ คนกจ็ ะพยำยำมปกปิดัจนทำใหเ้ กิดควำมเสยหำย แกหนวยงำนของรัฐและสวนรวมเมื่อเกิดผลประโยชนท์ ับซอ้ นเป็นปจั จยั ทเ่ ข้ำมำมอิทธพิ ลในกำรทำงำนัหรือกำร ตัดสนิ ใจในกำรปฏิบตั หิ น้ำท่ของเจำ้ หน้ำท่ของรัฐนำไปสกู ำรใช้อำนำจหน้ำทใ่ นทำงมิชอบ กลมุ ตรวจสอบภำยในขององค์กำรบรหิ ำรสวนตำบลคลองน้ำไหลักใ็ หค้ วำมสำคญั กับเร่ืองของผลประโยชน์ ทบั ซ้อนดว้ ยเชนกันัซง่ึ จะเห็นไดจ้ ำกกฎบัตรกำรตรวจสอบภำยในทจ่ ัดทำข้ึนัเพ่อื ให้กำรติดตำมัและกำรประเมนิ กำร ปฏิบัตงิ ำนของหนวยงำนในสังกดั ัโดยเฉพำะด้ำนควำมถูกตอ้ งเชอ่ื ถือไดข้ องข้อมูลทำงกำรเงนิ ัตลอดจนกำรปฏิบตั ิ ตำมกฎหมำยัและระเบยบทเ่ กย่ วข้องเปน็ ไปตำมมำตรฐำนัเป็นธรรมัและผลประโยชนท์ ับซ้อนไว้ัดงั น้ 1.ักรอบควำมประพฤตัิ 1.1ัตำมประกำศองค์กำรบริหำรสวนตำบลคลองนำ้ ไหลัเรอ่ื งมำตรกำรสรำ้ งควำมโปรงใสในกำรบริหำรงำน บคุ คล 1.2ัตำมประกำศองคก์ ำรบริหำรสวนตำบลคลองน้ำไหลัเรื่องัแผนกำรเสรมิ สรำ้ งวนิ ัยคุณธรรมัจริยธรรม 1.3ัตำมประกำศองคก์ ำรบริหำรสวนตำบลคลองน้ำไหลัเรือ่ งันโยบำยบริหำรควำมเสย่ ง 1.4ัตำมประกำศองคก์ ำรบริหำรสวนตำบลคลองนำ้ ไหลัเรือ่ งัมำตรกำรสงเสรมิ วำมโปรงใสในกำรจดั ซ้ือจดั จ้ำง 1.5ัตำมประกำศองคก์ ำรบริหำรสวนตำบลคลองนำ้ ไหลัเรือ่ งัมำตรกำรป้องกันกำรรบั สนิ บน 1.6ัตำมประกำศองคก์ ำรบริหำรสวนตำบลคลองนำ้ ไหลัเรือ่ งัมำตรกำรสร้ำงจติ สำนกึ ควำมตระหนักแก บุคลำกรท้ังผ้บู ริหำรท้องถิน่ ัสมำชอกสภำท้องถ่ินัและข้ำรำชกำรขององคก์ รปกครองสวนท้องถ่ิน 1.7ัตำมประกำศองคก์ ำรบริหำรสวนตำบลคลองนำ้ ไหลัเร่ืองัมำตรกำรป้องกนั กำรขัดกันระหวำง ผลประโยชน์สวนตนและผลประโยชน์สวนรวม 1.8ัตำมประกำศองคก์ ำรบริหำรสวนตำบลคลองนำ้ ไหลัเรอ่ื งัมำตรกำรสงเสริมกำรปฏิบตั ติ ำมประมวล จริยธรรมขององค์กรปกครองสวนทอ้ งถิน่

8 1.9ัตำมประกำศองค์กำรบริหำรสวนตำบลคลองน้ำไหลัเรอื่ งัมำตรกำรจัดกำรเร่ืองร้องเรยนกำรทจุ ริต 1.10ัตำมประกำศองค์กำรบริหำรสวนตำบลคลองน้ำไหลัเรือ่ งัมำตรกำรตรวจสอบกำรใช้ดลุ พนิ ิจ 1.11ัตำมประกำศองค์กำรบริหำรสวนตำบลคลองน้ำไหลัเรือ่ งัเจตนำรมณ์กำรป้องกนั กำรทุจรติ 1.12ัตำมนโยบำยด้ำนกำรกำกบั ดแู ลกิจกำรทด่ ๒.ัหลกั ปฏบิ ัตขิ องผูต้ รวจสอบภำยในัมดงั น้ ๒.๑ัควำมซือ่ สัตย์ ๑.ัผู้ตรวจสอบภำยในต้องปฏิบัติหน้ำท่ของตนด้วยควำมซ่ือสัตย์ัขยันหม่ันเพยรัและมควำม รบั ผิดชอบ 2.ัผู้ตรวจสอบภำยในต้องปฏิบตั ิตำมกฎหมำยัระเบยบัข้อบังคับัและเปิดเผยข้อมูลตำมวิชำชพ ท่ กำหนด 3.ัผู้ตรวจสอบภำยในต้องไมเข้ำเก่ยวข้องในกำรกระทำใดัๆัท่ขัดตอกฎหมำยัหรือไมเข้ำไปมสวน รวมในกำรกระทำทอ่ ำจนำควำมเส่ือมเสยมำสูวิชำชพกำรตรวจสอบภำยในั ๒.๒ัควำมเทย่ งธรรม ๑)ัผู้ตรวจสอบภำยในตอ้ งไมมสวนเกย่ วขอ้ งหรือสร้ำงควำมสัมพันธ์ใดัๆัท่จะนำไปสคู วำมขัดแย้ง กบั ผลประโยชน์ของทำงรำชกำรัรวมทัง้ กระทำกำรใดัๆัท่จะทำให้เกดิ อคติลำเอยงัจนเปน็ เหตใุ ห้ไมสำมำรถ ปฏิบตั ิงำนตำมหนำ้ ท่ควำมรบั ผดิ ชอบได้อยำงเทย่ งธรรม ๒)ัผูต้ รวจสอบภำยในไมพงึ รับสิ่งของใดัๆัท่จะทำให้เกดิ หรอื กอให้เกิดควำมไมเทย่ งธรรมในกำรใช้ วจิ ำรณญำณเยย่ งผปู้ ระกอบวชิ ำชพพึงปฏบิ ตั ิ ๓)ัผู้ตรวจสอบภำยในตอ้ งเปิดเผยหรอื รำยงำนข้อเทจ็ จริงอันเปน็ สำระสำคญั ทง้ั หมดท่ตรวจพบัซง่ึ หำกละเว้นไมเปดิ เผยหรอื ไมรำยงำนขอ้ เทจ็ จริงดังกลำวแลว้ ัอำจจะทำใหร้ ำยงำนบดิ เบือนไปจำกข้อเท็จจรงิ ัหรอื เป็น กำรปดิ บงั กำรกระทำผิดกฎหมำย ๒.๓ักำรปกปิดควำมลบั ๑)ัผู้ตรวจสอบภำยในตอ้ งมควำมรอบคอบในกำรใช้และรักษำข้อมูลตำงัๆัท่ได้รับจำกกำร ปฏิบัตงิ ำน ๒)ัผู้ตรวจสอบภำยในตอ้ งไมนำข้อมูลตำงัๆัทไ่ ด้รับจำกกำรปฏบิ ตั งิ ำนไปใชแ้ สวงหำผลประโยชน์ เพอ่ื ตนเองัและจะไมกระทำกำรใดัๆัทข่ ัดตอกฎหมำยัและประโยชน์ของทำงรำชกำร ๒.๔ัควำมสำมำรถในหนำ้ ท่ ๑)ัผู้ตรวจสอบภำยในตอ้ งปฏิบัตหิ น้ำท่เฉพำะในสวนท่ตนมควำมรู้ัควำมสำมำรถัทักษะัและ ประสบกำรณท์ ่จำเปน็ สำหรบั กำรปฏบิ ตั งิ ำนเทำนั้น ๒)ัผู้ตรวจสอบภำยในจะต้องปฏิบัติหน้ำท่โดยยึดหลักมำตรฐำนกำรตรวจสอบภำยในของสวน รำชกำร ๓)ัผตู้ รวจสอบภำยในตอ้ งพัฒนำศกั ยภำพของตนเองัรวมท้ังพฒั นำประสทิ ธิผลและคณุ ภำพของ กำรใหบ้ รกิ ำรอยำงสมำ่ เสมอและตอเนื่อง ผู้ตรวจสอบภำยในมควำมรบั ผดิ ชอบในกำรปฏิบัตงิ ำนัโดยใหร้ ำยงำนผลกำรตรวจสอบัและกำรให้ข้อมลู เชิง วเิ ครำะห์ัประเมนิ ผลัข้อเสนอแนะัคำปรึกษำัตำมแนวทำงทม่ ำตรฐำนกำรตรวจสอบภำยในกำหนดไวท้ ั้งทำงกำรเงินั กำรบญั ชัและกำรปฏิบัติงำนันอกจำกน้กลุมตรวจสอบภำยในยงั เหน็ ควำมสำคัญของกำรป้องกันผลประโยชน์ทับ ซ้อนัโดยกำรวำงแผนกำรตรวจสอบประจำปีงบประมำณัท่นอกเหนือจำกกำรวำงแผนตรวจสอบเร่อื งเงนิ /บัญชแล้วั ยงั ให้ควำมสำคัญในกำรวำงแผนกำรตรวจสอบเรือ่ งอืน่ ท่มโอกำสเกย่ วข้องกบั ผลประโยชน์ทับซอ้ นอกด้วยั ตวั อยำงเชน

9 ๑.ักำรสอบทำนระบบกำรควบคมุ ภำยในประจำปีโดยท่ทุกสำนกั /กอง/กลุมัเปน็ ผู้ประเมินควำมเสย่ ง ภำยในงำนของตนเองตำมแบบฟอรม์ ท่กำหนด ๒.ักำรตรวจสอบกำรจดั ซ้อื จัดจ้ำงด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ัโดยกำหนดประเดน็ กำรตรวจสอบ ตงั้ แตกำรเตรยมกำรดำเนินกำรักำรจดั ทำรำยงำนขอซอ้ื ขอจ้ำงักำรเผยแพรเอกสำรประกำศเชญิ ชวนักำรรบั ซอง ขอ้ เสนอักำรเสนอรำคำักำรพิจำรณำกำรเสนอรำคำัเป็นตน้ ๓.ักำรตรวจสอบบุคลำกรในฝ่ำยพัสดุเก่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อนักำหนดประเด็นกำรตรวจสอบเก่ยวกับ เจ้ำหนำ้ ท่พัสดุไมมผลประโยชน์ทับซ้อนกบั คสู ัญญำัขององคก์ ำรบริหำรสวนตำบลคลองน้ำไหล.สำหรับกำรตรวจสอบ บุคลำกรในฝ่ำยพัสดุกลุมตรวจสอบภำยในจะสงแบบฟอร์มกำรกรอกข้อมูลสวนบุคคลให้กับเจ้ำหน้ำท่ผู้เก่ยวข้องกับ งำนพัสดุทุกทำนจำกน้ันก็จะนำข้อมูลสวนบุคคลท่ได้รับจำกเจ้ำหน้ำท่พัสดุมำตรวจสอบกับรำยงำนสรุปผลกำรจดั ซือ้ จัดจ้ำงขององค์กำรบริหำรสวนตำบลคลองน้ำไหลัในชวงท่ผำนมำัโดยกำรตรวจสอบวำเจ้ำหน้ำท่พัสดุขององค์กำร บริหำรสวนตำบลคลองน้ำไหลัรำยใดมชื่อัท่อยูันำมสกุลัหรือเบอร์โทรศัพท์ัเดยวกันกับบริษัทัหรือผู้เป็นหุ้นสวนั หรือผถู้ ือหนุ้ ัทเ่ ปน็ คูค้ำกบั องค์กำรบรหิ ำรสวนตำบลคลองน้ำไหลัซงึ่ กลมุ ตรวจสอบภำยในจะเข้ำไปตรวจสอบรำยช่ือ ผู้ถือหุ้นัผู้เป็นหุ้นสวนของบริษัทหรือคูค้ำในเว็บไชต์ของกระทรวงพำณิชย์ัจำกนั้นก็จะสรุปผลกำรตรวจสอบและ รำยงำนผลกำรตรวจสอบ กำรบริหำรจัดกำรเรื่องผลประโยชน์ทบั ซอ้ นไมควรดำเนินกำรเพยงฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งัแตควรให้ทกุ ฝำ่ ย บริหำรจดั กำรรวมกันัเพรำะกำรเกดิ ผลประโยชน์ทับซ้อนไมไดเ้ กดิ ขน้ึ ทง่ ำนใดงำนหนึ่งัแตสำมำรถเกิดขนึ้ ไดใ้ นทกุ กระบวนงำนของฝำ่ ยกลมุ /กองตำ่ งัๆัเชนังำนพสั ดุังำนจดั ซอื้ ังำนบุคคลังำนบัญชังำนกำรเงินังำนดำ้ นเทคโนโลย สำรสนเทศ กำรปอ้ งกนั ผลประโยชนท์ บั ซอ้ นกบั งำนจดั ซือ้ จดั จำ้ ง กำรดำเนนิ กำรจัดซอ้ื จดั จำ้ งขององคก์ ำรบริหำรสวนตำบลคลองนำ้ ไหลัมควำมโปรงใสัสำมำรถตรวจสอบได้ั ปรำศจำกกำรมผลประโยชนท์ ับซอ้ นระหวำงเจ้ำหน้ำท่ของหนวยงำนกับหนวยงำนภำยนอกัซ่งึ เจำ้ หน้ำท่พัสดุองคก์ ำร บรหิ ำรสวนตำบลคลองน้ำไหลัไดป้ ฏบิ ตั ิตำมระเบยบักฎหมำยัหนงั สือสัง่ กำรัท่เก่ยวข้องั กำรจัดซ้อื จัดจ้ำงภำครฐั ในอดตท่ผำนมำจะพบวำมขำวกำรทุจริตด้วยวิธกำรตำงๆัซึ่งรวมไปถึงกำรม ผลประโยชน์ทบั ซอ้ นทเ่ กิดขนึ้ ในภำครัฐัเชนัมกำรจัดซือ้ จดั จำ้ งในรำคำท่แพงเกินจริงหรือไมสมเหตุสมผลัหรือมกำร จำยเงินใหเ้ จำ้ หนำ้ ท่ของรัฐเพ่ือให้ได้เปน็ คสู ัญญำกับหนวยงำนของรัฐัเพ่ือควำมสะดวกในกำรสงมอบงำนและกำรเบิก จำยเงินสงผลใหร้ ัฐสญู เสยเงินเปน็ จำนวนมหำศำลัซ่ึงจำกกรณดงั กลำวขำ้ งต้นจึงมมติัครมั๑๒ัเม่ือวันท่ั.กมุ ภำพันธ์ั ๒๕๕๖กำหนดใหห้ นวยงำนรำชกำรัรฐั วสิ ำหกิจัหนวยงำนอน่ื ของรฐั ัรวมถึงองค์กรปกครองสวนท้องถ่ินัมกำร เปิดเผยรำคำกลำงัโดยมวตั ถุประสงค์เพอื่ ใหป้ ระชำชนได้รับรขู้ ้อมูลรำคำกลำงและสำมำรถตรวจสอบได้ กำรดำเนนิ กำรจัดซอื้ จดั จ้ำงขององค์กำรบรหิ ำรสวนตำบลคลองน้ำไหลัเปน็ ไปตำมระเบยบกระทรวงกำรคลัง วำด้วยกำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐัพั.ศ.2560ัพระรำชบัญญัติกำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำร พัสดุภำครัฐัพ.ศ.ั2560ัหนังสือสั่งกำรัตำงัๆัรวมถึงกฎหมำยอื่นท่เก่ยวข้องัเชนักฎหมำยัปปชั.วำด้วยเรื่องกำร เปิดเผยรำคำกลำงของทำงรำชกำรัตำมัพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญวำด้วยกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริตั พั๒๕๔๒ั.ศ.มำตรำ๑๐๓ั๑ัวรรคั๗/ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวำด้วยกำรป้องกัน และปรำบปรำมกำรทจุ ริตัฉบบั ทั่ 2554 ๑ั.กำรเปดิ เผยรำคำกลำงงำนกอสร้ำงัถือปฏิบตั ติ ำมหนงั สือกระทรวงกำรคลงั ัดวนทส่ ดุ ัท่ักคั ๐๔๒๑ว๙๐/๓.ัลงวนั ท่ั๒๒ัสงิ หำคมพ.ศ.ั2555 ๒ั.กำรเปิดเผยรำคำกลำงเกย่ วกบั กำรจดั ซ้ือจัดจำ้ งประเภทอืน่ ทไ่ มใชงำนกอสรำ้ ง 2.1ัครุภัณฑ์ัใชร้ ำคำมำตรฐำนทส่ ำนักงบประมำณกำหนดัหำกไมมรำคำมำตรฐำนท่ สำนักบประมำณกำหนดัให้ใชร้ ำคำท่เคยซ้ือครั้งหลงั สุดภำยในระยะเวลำั๒ัปีงบประมำณัหรือใหใ้ ช้รำคำตลำดัโดย สบื รำคำจำกท้องตลำดัรวมท้ังเว็บไซตต์ ำงัๆัเปน็ รำคำอ้ำงองิ

10 ๒ั๒.ระบบเทคโนโลยสำรสนเทศ ั ๒ั๑.๒.ฮำรด์ แวร์ัและซอฟต์แวรั์ ใช้รำคำมำตฐำนตำมท่กระทรวงเทคโนโลย สำรสนเทศและกำรส่อื สำรักำหนดหรอื ใหใ้ ชร้ ำคำตลำดโดยสืบรำคำจำกท้องตลำดัรวมทง้ั เวบ็ ไซต์ตำงัๆัเปน็ รำคำ อำ้ งองิ ๒.๒.๒ักำรพัฒนำซอฟต์แวร์ประเภทโปรแกรมประยุกต์ัใช้รำคำมำตรฐำนตำมท่ กระทรวงเทคโนโลยสำรสนเทศและกำรสื่อสำรักำหนดหรือให้ใช้รำคำตลำดโดยสืบรำคำจำกท้องตลำดัรวมท้ัง เว็บไซต์ตำงัๆัเป็นรำคำอ้ำงอิง ๒.๒.๓ัสำหรับรำยกำรอ่ืนัๆัท่กระทรวงเทคโนโลยสำรสนเทศและกำรส่ือสำร ไมไดก้ ำหนดรำคำมำตรฐำนัให้ใชร้ ำคำตลำดโดยสบื รำคำจำกทอ้ งตลำดัรวมทงั้ เว็บไซต์ตำงัๆัเป็นรำคำอำ้ งองิ ๒.๓ักำรจำ้ งทป่ รึกษำัใหเ้ ปน็ ไปตำมหลักเกณฑใ์ นกำรคดิ อัตรำคำตอบแทนท่ปรกึ ษำตำมท่ สำนักงำนบริหำรหน้สำธำรณะกำหนดัหำกไมมหลักเกณฑ์ในกำรคิดอัตรำคำตอบแทนท่ปรึกษำตำมท่สำนักงำน บรหิ ำรหนส้ ำธำรณะกำหนดให้พจิ ำรณำจำกวฒุ กิ ำรศกึ ษำและประสบกำรณข์ องท่ปรึกษำเปน็ สำคญั ๒.๔ักำรจ้ำงงำนวิจัยหรือเงินสนับสนุนใหท้ ุนวิจัยกำรกำหนดอัตรำจ้ำงใหพ้ ิจำรณำจำกวฒุ ิ กำรศึกษำและประสบกำรณข์ องท่ปรกึ ษำเป็นสำคญั ๒.๕ักำรจ้ำงออกแบบและควบคุมงำนัให้ใช้อัตรำตำมท่ระเบยบสำนักนำยกรัฐมนตรวำ ด้วยกำรพสั ดุัพ.ศ.ั๒๕๓๕ัและทแ่ ก้ไขเพิ่มเตมิ ัหรือระเบยบอ่ืนของหนวยงำนน้ันกำหนดเปน็ รำคำอำ้ งอิง ๓.ัในกำรเปิดเผยรำคำกลำงของทำงรำชกำรัสำหรับกำรจัดซ้ือจัดจ้ำงท่มวงเงินเกินั๑๐๐,๐๐๐ั บำทัใหห้ นวยงำนของรฐั ประกำศรำคำกลำงและรำยละเอยดกำรคำนวณรำคำกลำงไว้ในเว็บไซต์ของหนวยงำนและ กรมบญั ชกลำง ๔.ักำรเปดิ เผยรำคำกลำงของทำงรำชกำรในระบบัe-GP ให้ปฏิบตั ิตำมหนังสือกรมบัญชกลำงัดวน ทส่ ดุ ัทั่ กคั๐๔๒๑.๔/ว๑๗๙ัลงวนั ท่ั๑๔ัพฤษภำคมั๒๕๕๖ กำรปอ้ งกนั ผลประโยชนท์ บั ซอ้ นกบั งำนกำรเงนิ ระบบกำรควบคุมภำยในัเปน็ เคร่อื งมอื ดำ้ นกำรจดั กำรประเภทหนง่ึ ทถ่ ูกนำมำชวยในกำรบรหิ ำรงำนัและ เป็นกลไกพ้ืนฐำนสำคัญของกระบวนกำรกำกับดูแลกำรดำเนินกิจกรรมตำงๆัในหนวยงำนัเพ่ือให้กำรดำเนินงำน เป็นไปอยำงมประสิทธิภำพั และบรรลุวัตถุประสงค์ั เน่ืองจำกระบบกำรควบคุมภำยใน เป็นเครื่องมือท่ชวยในกำ ร ปอ้ งกนั และรกั ษำทรพั ย์สินของหนวยงำนัชวยใหก้ ำรใช้ทรพั ยำกรของหนวยงำนเปน็ ไปอยำงมประสิทธภิ ำพัและชวย ให้กำรปฏิบัติงำนในข้ันตอนตำงๆัเป็นไปอยำงถูกต้องัเหมำะสมัโดยเฉพำะอยำงยิ่งในสถำนกำรณ์ท่เต็มไปด้วยกำร แขงขันในปัจจุบันัหำกหนวยงำนตำงัๆััไมมกำรจัดกำรท่ดัหรือไมมกำรกำกับดูแลท่ดั(Good Governance) ไมม ระบบกำรควบคมุ ภำยในท่เหมำะสมัโอกำสเสย่ งท่อำจเกดิ ควำมผิดพลำดในกำรดำเนนิ งำนของหนวยงำนัหรอื นำไปสู กำรทุจรติ ัหรอื กำรมผลประโยชนท์ ับซ้อน ฉะนน้ั ักำรมระบบกำรควบคุมภำยในทเ่ หมำะสมจะชวยลดโอกำสกำรเกดิ ผลประโยชนท์ บั ซอ้ นใน หนวยงำนท่เกิดจำกตวั ผู้ปฏบิ ตั งิ ำนัหรือย่งิ ไปกวำนน้ั คือกำรทจุ รติ ัเพรำะงำนดำ้ นกำรเงินเปน็ งำนทม่ ควำมเสย่ งสูง กวำงำนในดำ้ นอื่นัเนอื่ งจำกเป็นเรื่องกำรรับ-จำยเงนิ อยูตลอดเวลำ องค์กำรบริหำรสวนตำบลคลองน้ำไหลัมระบบกำรควบคุมภำยในเกย่ วกับเร่ืองกำรเงินัดังน้ ด้ำนกำรรบั เงนิ ๑.ัมกำรแบงแยกหนำ้ ท่ควำมรับผิดชอบในกำรรับเงินและกำรบนั ทึกบัญชใหช้ ดั เจนัซง่ึ จะสำมำรถทำ ให้ เกิดกำรตรวจสอบระหวำงกันได้อยตู ลอดเวลำ ๒.ักำหนดใหม้ ผ้รู ับผิดชอบกำกับดูแลกำรเก็บรักษำเงินใหเ้ ปน็ ไปตำมระเบยบและข้อบังคบั ท่กำหนด

11 ๓.ัใหม้ กำรควบคุมกำรใช้ใบเสรจ็ รับเงนิ ใหเ้ ป็นตำมระเบยบท่กำหนด ๔.ัให้มกำรออกใบเสร็จรับเงินทุกครั้งเม่ือมกำรรับเงิน ๕.ักำหนดใหม้ กำรตรวจยอดเงนิ กับหลักฐำนกำรรบั เงนิ ทุกสิ้นวัน ๖.ัจัดทำรำยงำนทำงกำรเงนิ ทกุ สิ้นวนั และสอบทำนโดยผ้มู อำนำจ ๗.ัจัดให้มตู้นิรภัยหรือสถำนท่สำหรบั เก็บรักษำเงนิ ท่ปลอดภัย ๘.ันำเงนิ คงเหลือประจำวนั ฝำกธนำคำรทุกสนิ้ วัน ด้ำนกำรจำยเงนิ ๑.ัมกำรแบงแยกหน้ำทร่ ะหวำงเจ้ำหน้ำทผ่ รู้ ับเงินและผูจ้ ำยเงนิ ๒.ัจดั ให้มผรู้ บั ผดิ ชอบกำกับดูแลกำรปฏบิ ตั ิงำนด้ำนกำรจำยเงินให้เป็นไปตำมระเบยบและข้อบังคบั ท่ กำหนด ๓.ัจดั ทำทะเบยนคุมกำรจำยเงนิ และสอบทำนกำรปฏบิ ัติงำนของเจำ้ หนำ้ ท่ตำมลำดับชน้ั ๔.ัมกำรฝึกอบรมให้ควำมรูแ้ ละจดั ทำคูมือกำรปฏิบตั ิงำนด้ำนกำรจำยเงนิ ๕.ัให้มกำรอนมุ ตั ิทุกครงั้ ทม่ กำรเบกิ จำยเงนิ ๖.ัจัดให้มกำรตรวจสอบเปน็ ประจำอยำงสมำ่ เสมอ กำรปอ้ งกนั ผลประโยชนท์ บั ซอ้ นกบั กำรบรหิ ำรทรพั ยำกรบคุ คล กำรบรหิ ำรทรัพยำกรบคุ คลขององค์กำรบรหิ ำรสวนตำบลคลองน้ำไหลัได้ดำเนนิ กำรตำมหลักเกณฑแ์ ละ วิธกำรท่องค์กำรบรหิ ำรสวนตำบลคลองน้ำไหลักำหนดัโดยยดึ หลกั คุณธรรมัและเปน็ ไปตำมมำตรฐำนคุณธรรม เพอ่ื ใหก้ ำรดำเนนิ กำรในกำรบรหิ ำรทรัพยำกรบุคคลเปน็ ไปตำมหลกั คุณธรรมัมควำมโปรงใสัและไมมผลประโยชน์ ทบั ซ้อนอยำงแท้จริง แนวทำงในกำรบรหิ ำรทรพั ยำกรบคุ คลัดงั น้ ๑.ักำรแตงตั้งคณะกรรมกำรัเลขำนุกำรัและเจ้ำหน้ำท่ในกำรดำเนินงำนใดัๆัท่เก่ยวข้องกับกำรบริหำร ทรัพยำกรบุคคลัต้องเป็นไปตำมหลักเกณฑ์ท่ัองค์กำรบริหำรสวนตำบลคลองน้ำไหลักำหนดัและต้องไมมควำม เกย่ วข้องกบั ผ้เู ข้ำรบั กำรคัดเลือกัไมเป็นผมู้ สวนไดส้ วนเสยัไมมปจั จัยผลประโยชน์สวนตัวเข้ำมำเก่ยวข้องัเชนัควำม เป็นพวกพอ้ งัญำตพิ น่ อ้ งัและกำรแสวงหำผลประโยชนเ์ พือ่ ให้กำรดำเนินกำรเป็นไปอยำงโปรงใสัและเปน็ ธรรม ๒.ักำหนดหลักเกณฑ์ในกำรพจิ ำรณำดำเนินกำรสรรหำักลนั่ กรองัคัดเลือกัแตงตัง้ ใหด้ ำรงตำแหนงโยกย้ำยั กำรพิจำรณำควำมดควำมชอบักำรเลื่อนตำแหนงัและกำรเล่ือนขั้นเงินเดือนัท่ชัดเจนัโปรงใสัเป็นธรรมสำมำรถ อธิบำยและตรวจสอบได้คำนึงถึงประโยชน์ของทำงรำชกำรัโดยไมมกำรเรยกรับสินบนัและเป็นไปตำมหลักเกณฑ์ และวิธกำรท่ัองค์กำรบริหำรสวนตำบลคลองน้ำไหลักำหนดัรวมถึงกฎัระเบยบัข้อบังคับท่เก่ยวข้องัเป็นไปตำม ระบบคุณธรรม ๓.ัดำเนินกำรตำมข้นั ตอนท่ได้กำหนดไว้ในประกำศอยำงเครงครดั ัและต้องไมมกำรยกเว้นหลกั เกณฑ์ ใดัๆัทเ่ ก่ยวข้องกับกำรพิจำรณำกำรสรรหำักล่ันกรองัคัดเลือกัแตงตั้งให้ดำรงตำแหนงัโยกยำ้ ยักำรพจิ ำรณำควำม ดควำมชอบักำรเล่ือนตำแหนงัและกำรเล่ือนขนั้ เงินเดือนัซ่งึ กำหนดไว้แล้วัเพื่อให้ประโยชนแ์ กผู้หนง่ึ ผใู้ ดโดยเฉพำะ กรณควำมจำเปน็ ัตอ้ งอธิบำยเหตผุ ลและประกำศแจ้งใหข้ ้ำรำชกำรทรบโดยท่ัวถึงกนั ัและต้องแจง้ ลวงหน้ำ กอนกำรดำเนนิ กำร ๔.ัมกำรประกำศเผยแพรหลักเกณฑ์และแนวทำงกำรดำเนินกำรให้บคุ ลำกรได้ทรำบอยงงทัว่ ถึงัโดย กำรแจง้ เวยนทำงงเอกสำรรและอนิ ทรำเน็ตใหท้ ุกกอง/กลุมทรำบัและต้องมกำรปรับปรงุ แกไ้ ขข้อมูลใหเ้ ป็นปจั จบุ ันอ ยเู สมอัรวมทง้ั เจำ้ หนำ้ ท่ตอ้ งดำเนนิ กำรตำมองคก์ ำรบริหำรสวนตำบลคองนำ้ ไหลักำหนด

12 ๕.ัมกำรจดั ทำฐำนข้อมูลบคุ คลทถ่ ูกต้องัเปน็ ปัจจบุ ันัท่สำมำรถใช้เปน็ ข้อมลู ประกอบกำรตดั สินใจของ กำรบรหิ ำรงำนบคุ คลัเพ่ือนำไปใช้ในกำรพจิ ำรณำควำมดควำมชอบหรือเลื่อนระดบั ได้ ๖.ักำรโยกยำ้ ยคำนึงถึงเหตผุ ลและควำมจำเป็นเพื่อประโยชนข์ องทำงรำชกำรและกำรพฒั นำข้ำรำชกำรเป็น หลักัและจะต้องไมกระทำโดยมอคติหรือเจตนำกลั่นแกล้งข้ำรำชกำรผู้ถูกย้ำยให้ได้รับควำมเสยหำยัในกำรย้ำยไป ดำรงตำแหนงใดให้พิจำรณำถึงคุณสมบัติเฉพำะสำหรับตำแหนงนั้นตำมท่ัองค์กำรบริหำรสวนตำบลคลองน้ำไหลั กำหนดไว้ในมำตรฐำ น กำห นดต ำแห นง และคุณสมบัติั โดยผู้มอำ นำจสั่งย้ำยพิจำ รณำถึงคว ำ มรู้ั ประสบกำ ร ณ์ั ควำมสำมำรถัควำมรับผิดชอบควำมประพฤติและคุณลักษณะอ่ืนๆั ของข้ำรำชกำรท่จะย้ำยให้เหมำ ะสมกับควำม จำเป็นในกำรปฏิบัติงำนในตำแหนงท่จะย้ำยไปแตงตั้งัและให้พิจำรณำแตงต้ังบุคคลให้เหมำะสมกับหน้ำท่ควำม รับผิดชอบและลกั ษณะงำนของตำแหนง ๗.ัมกำรจัดเกบ็ หลักฐำนหรอื รำยงำนเกย่ วกบั ดำ้ นกำรบริหำรงำนบคุ คลไว้เพื่อกำรตรวจสอบ ๘.ักำรดูแลประวัติัฐำนข้อมลู ของบุคลำกรในหนวยงำนให้เป็นควำมลบั ๙.ัมแนวทำงในกำรดำเนนิ กำรเรือ่ งร้องทุกขั์ กรณกำรได้รบั กำรปฏบิ ัติท่ไมเป็นธรรมัโดยเปดิ ให้ม ชองทำงในกำรดำเนนิ กำรรอ้ งทกุ ขั์ และในกรณทม่ กำรร้องทกุ ขจ์ ำกกำรปฏิบัติทไ่ มเปน็ ธรรมัต้องเรงรดั สอบสวนและ พจิ ำรณำอยำเรงดวนด้วยควำมเป็นธรรมัปรำศจำกอคติและดำเนินกำรตำมหลักเกณฑท์ ่องคั์กรปกครองสวนท้องถนิ่ ั กำหนด หลกั คณุ ธรรมในกำรบรหิ ำรทรัพยำกรบุคคลัดงั น้ ๑ัตอ้ งคำนงึ ถงึ ควำมร้คู วำมสำมำรถของบุคคลัควำมเสมอภำคัควำมเปน็ ธรรมัและประโยชน์ของ ทำงรำชกำร ๒ัต้องคำนงึ ถึงผลสัมฤทธแิ์ ละประสทิ ธิภำพขององค์กรและลักษณะของงำนัโดยไมเลอื กปฏบิ ตั อิ ยำง ไมเป็นธรรม ๓ัไมนำควำมคดิ เห็นทำงกำรเมืองหรือสงั กดั พรรคกำรเมืองัรวมทงั้ ควำมเปน็ พวกพ้องัญำตพิ ่นอ้ งมำ ประกอบกำรพิจำรณำควำมดควำมชอบักำรโยกยำ้ ยัและกำรเล่ือนตำแหนง ๔ัดำเนินกำรทำงวนิ ยั ัตอ้ งเป็นไปด้วยควำมยุตธิ รรมและโดยปรำศจำกอคติั หลกั สำคญั ของกำรจดั กำรผลประโยชนท์ บั ซอ้ นัมดังน้ 1.ัชุมชนคำดหวังใหเ้ จำ้ หนำ้ ท่ปฏิบัตงิ ำนอยำงเปน็ ธรรมัโดยใหผ้ ลประโยชนส์ ำธำรณะมควำมสำคญั อนั ดบั ตน้ 2.ัควำมซอ่ื ตรงตอหน้ำทข่ องเจำ้ หน้ำทท่ ย่ งั เปน็ รำกฐำนของหลกั นิตธิ รรมั(ประชำชนทกุ คนเสมอ ภำคภำยใต้กฎหมำยัและตอ้ งได้รบั กำรปฏิบัติท่เปน็ ธรรม) 3.ัถ้ำไมจัดกำรผลประโยชน์ทบั ซ้อนอยำงมประสทิ ธภิ ำพัเจ้ำหนำ้ ทก่ ็จะละเลยประโยชนส์ ำธำรณะ และให้ควำมสำคญั กับประโยชนส์ วนตนหรือของคนบำงกลุมแทนัซ่งึ จะมผลตอกำรปฏบิ ัตงิ ำนและอำจนำไปสูกำร ประพฤตมิ ิชอบในท่สดุ 4. ผลประโยชนท์ ับซ้อนไมได้ผดิ ในตวั มนั เองัเนื่องจำกเจ้ำหนำ้ ทก่ ม็ ชวติ สวนตนมบำงคร้ังท่ ผลประโยชน์สวนตนจะมำขดั แย้งกบั กำรทำหนำ้ ทั่ แตประเดน็ ัคอื ัต้องเปดิ เผยผลประโยชนท์ บั ซอ้ นท่ม 5. หนวยงำนภำครฐั ตอ้ งจดั กำรผลประโยชนท์ ับซ้อนอยำงโปรงใสัและพร้อมรบั ผดิ ชอบมิฉะนัน้ จะ บั่นทอนควำมเช่อื มั่นของประชำชนตอกำรปฏิบตั หิ น้ำท่ของหนวยงำน 6. ปัจจบุ นั ขอบเขตของผลประโยชน์ทบั ซ้อนขยำยมำกกวำเดิมัเนอื่ งจำกมกำรรวมมอื ระหวำง ภำครฐั และเอกชนัรวมถึงระหวำงหนวยงำนภำครฐั ัทำให้มัควำมสัมพนั ธ์ซับซอ้ น/ซ้อนทบั มำกขึ้น 7. หนวยงำนควรตระหนักวำผลประโยชนท์ ับซ้อนจะเกดิ ขึ้นในกำรทำงำนัและต้องพฒั นำวฒั นธรรม องค์กรท่สงเสรมิ กำรระบุและเปดิ เผยผลประโยชน์ทับซ้อนัหนวยงำนตอ้ งขจัดควำมัเขำ้ ใจผดิ ทว่ ำผลประโยชนท์ ับ ซอ้ น

13 เป็นเรื่องผิดในตัวมนั เองัมิฉะนัน้ คนกจ็ ะพยำยำมปกปดิ ัจนทำใหเ้ กดิ ควำมเสยหำยแกหนวยงำนของรัฐและสวนรวม เม่ือเกิดผลประโยชนท์ ับซ้อนเป็นปจั จยั ท่เขำ้ มำมอิทธพิ ลในกำรทำงำนัหรือกำรตัดสินใจในกำรปฏิบตั หิ น้ำทข่ อง ขำ้ รำชกำร/เจ้ำหน้ำท่ของรฐั ันำไปสกู ำรใช้อำนำจหนำ้ ท่ในทำงมิชอบัหรือแม้แตกำรทุจรติ คอร์รัปชั่นัหรอื ฉ้อรำษฎร์ บงั หลวง หลกั กำรั๔ัประกำรสำหรบั กำรปอ้ งกนั ผลประโยชน์ทบั ซอ้ น -ัปกปอ้ งผลประโยชน์สำธำรณะักำรทำเพื่อผลประโยชน์ของสำธำรณะเปน็ หน้ำทห่ ลักท่ตอ้ ง ตดั สนิ ใจัและ ใหค้ ำแนะนำภำยในกรอบกฎหมำยและนโยบำยัจะต้องทำงำนในขอบเขตหน้ำท่ัพิจำรณำควำมถูกผดิ ไป ตำมเนือ้ ผ้ำั ไมให้ผลประโยชนส์ วนตนมำแทรกแซงัรวมถงึ ควำมเห็นหรือทศั นคติสวนบคุ คลัปฏบิ ตั ติ อแตละบุคคล อยำงเป็น กลำงัไมมอคตลิ ำเอยงดว้ ยเรื่องศำสนำัอำชพัจุดยืนทำงกำรเมืองัเผำพันธัุ์ วงศต์ ระกลู ัฯลฯัท้ังน้ัเจ้ำหน้ำท่ ไมเพยง ปฏิบตั ติ ำมกฎหมำยเทำนัน้ ัแตตอ้ งมจริยธรรมดว้ ย -ัสนับสนนุ ควำมโปรงใสและควำมพร้อมรับผิดั:ักำรปอ้ งกันผลประโยชนท์ บั ซ้อนต้องอำศยั กระบวนกำรั แสวงหำัเปิดเผยและจัดกำรท่โปรงใสัน่นั คือัเปิดโอกำสให้ตรวจสอบัและมควำมพร้อมรับผดิ ัมวธิ กำร ตำงัๆัเชนัจดทะเบยนผลประโยชน์ัโยกย้ำยเจ้ำหน้ำท่จำกตำแหนงทเ่ กย่ วขอ้ งกับผลประโยชน์ทับซ้อนักำรเปดิ เผย ผลประโยชน์สวนตนหรอื ควำมสัมพนั ธ์ท่อำจมผลตอกำรปฏบิ ัตหิ น้ำทถ่ อื เปน็ ขนั้ ตอนแรกของกำรจดั กำรัผลประโยชน์ ทบั ซอ้ นักำรใช้กระบวนกำรอยำงเปดิ เผยทวั่ หน้ำัจะทำให้เจำ้ หน้ำทร่ วมมือและสร้ำงควำมเช่อื มัน่ แกประชำชน ผู้รบั บริกำรและผูม้ สวนไดเ้ สย -ัสงเสรมิ ควำมรับผิดชอบสวนบุคคลและปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอยำงักำรแกป้ ญั หำหรือจดั กำร ผลประโยชนท์ ับ ซ้อนจะสะท้อนถึงควำมยดึ หลักคณุ ธรรมและควำมเปน็ มอื อำชพของเจำ้ หน้ำท่และองค์กรักำรจดั กำร ต้องอำศัย ข้อมูลนำเข้ำจำกทุกระดับในองค์กรัฝำ่ ยบริหำรต้องรับผิดชอบเรอื่ งกำรสรำ้ งระบบและนโยบำยัและ เจำ้ หน้ำท่ก็ม ควำมรบั ผิดชอบทต่ ้องระบผุ ลประโยชน์ทบั ซ้อนท่ตนมัเจำ้ หนำ้ ทต่ อ้ งจัดกำรกับเรื่องสวนตน เพ่อื หลกเล่ยง ผลประโยชน์ทบั ซอ้ นมำกทส่ ดุ เทำทจ่ ะทำได้ัและหัวหน้ำหนวยงำนก็ตอ้ งเป็นแบบอยำงดว้ ย -ัสร้ำงวัฒนธรรมองคก์ รัหัวหนำ้ หนวยงำนต้องสร้ำงสภำพแวดล้อมเชิงนโยบำยท่ชวยสนบั สนนุ กำรตดั สนิ ใจ ในเวลำทม่ ประเดน็ ผลประโยชน์ทับซ้อนเกิดขึ้นัและกำรสรำ้ งวัฒนธรรมแหงควำมซ่ือตรงตอหนำ้ ท่ซึง่ ตอ้ งอำศัย วธิ กำรดังน้ั 1 ให้ขอ้ แนะนำและกำรฝึกอบรมเจ้ำหนำ้ ทเ่ พอ่ื สงเสริมควำมเขำ้ ใจเกย่ วกบั กฎเกณฑแ์ ละกำรปฏบิ ตั ิ รวมถึง กำรใชก้ ฎเกณฑ์ท่มในสภำพแวดลอ้ มกำรทำงำน 2. สงเสรมิ ใหม้ กำรส่อื สำรอยำงเปดิ เผยและมกำรเสวนำแลกเปลย่ นเพ่ือใหเ้ จ้ำหนำ้ ท่สบำยใจในกำร เปดิ เผย และหำรอื เกย่ วกบั ผลประโยชน์ทบั ซอ้ นในทท่ ำงำน 3. ป้องกนั ไมให้ข้อมลู เกย่ วกับผลประโยชน์ทบั ซอ้ นท่เจ้ำหน้ำท่เปดิ เผยเพื่อมิใหม้ ผูน้ ำไปใช้ในทำงทผ่ ิด 4. ให้เจำ้ หนำ้ ท่มสวนรวมในกำรพฒั นำและปรบั ปรุงนโยบำยและกระบวนกำรจัดกำรผลประโยชน์ 5.ัทบั ซอ้ นัเพื่อใหร้ ู้สึกเป็นเจ้ำของและปฏิบัตติ ำมัในเวลำเดยวกนั กต็ ้องสรำ้ งระบบโดยกำรพฒั นำในเร่ือง ตอไปน้ 6.ัมำตรฐำนในกำรสงเสริมควำมซื่อตรงตอหน้ำทโ่ ดยรวมไว้ในขอ้ กำหนดทำงจรยิ ธรรม - กระบวนกำรระบุ ควำมเสย่ งและจดั กำรผลประโยชนท์ ับซอ้ น 7. กลไกควำมพรอ้ มรบั ผิดทั้งภำยในและภำยนอก 8.ัวธิ กำรจดั กำรั(รวมถงึ กำรลงโทษ)ัท่ทำใหเ้ จำ้ หนำ้ ท่ถือวำเป็นควำมรบั ผิดชอบของตนเองท่จะต้อง ทำ ตำมกฎระเบยบและมำตรฐำน

14 แนวทำงกำรจัดกำรผลประโยชนท์ ับซ้อน 1.ัวำงกรอบกำรทำงำนัเปน็ วธิ กำรกวำ้ งัๆัไมจำกดั อยูกับรำยละเอยดขอ้ กฎหมำยท่เกย่ วขอ้ งัสำมำรถนำไป พฒั นำเป็นรปู แบบกำรจัดกำรตำมบริบทของหนวยงำนัและกฎหมำยได้ัมั๖ัขน้ั ตอนัสำหรบั กำรพัฒนำและกำร ปฏบิ ตั ิตำมนโยบำยกำรจัดกำรผลประโยชน์ทับซ้อน 1.1ัระบุวำมผลประโยชนท์ ับซ้อนแบบใดบำ้ งท่มกั เกดิ ขน้ึ ในหนวยงำน ัั 1.2ัพัฒนำนโยบำยท่เหมำะสมัรวมถึงกลยทุ ธ์กำรจัดกำรและแก้ไขปัญหำ 1.3ัใหก้ ำรศึกษำแกเจ้ำหนำ้ ทแ่ ละผบู้ รหิ ำรระดับตำงัๆัรวมถึงเผยแพรนโยบำยกำรปอ้ งกนั ผลประโยชน์ทับซอ้ นใหท้ ่ัวถึงในหนวยงำน 1.4ัดำเนนิ กำรเป็นแบบอยำง 1.5ัสือ่ สำรใหผ้ ูม้ สวนได้เสยัผรู้ บั บริกำรัผสู้ นับสนนุ ัและชุมชนทรำบถงึ ควำมมงุ มน่ั ในกำรัจัดกำร เพ่ือป้องกันผลประโยชนท์ บั ซ้อน 1.6ัับงั คับใชน้ โยบำยและทบทวนนโยบำยสม่ำเสมอ รำยละเอยดในกำรปฏบิ ัติตำมแนวทำงจัดกำรผลประโยชนท์ ับซ้อนแตละขน้ั ตอน ๑)ักำรระบุผลประโยชนท์ ับซ้อน ัข้ันตอนแรกคือักำรระบุวำในกำรทำงำนของหนวยงำนัมจดุ ใดบำ้ งท่เส่ยงตอกำรเกิดผลประโยชน์ ทับซอ้ นัและผลประโยชน์ทับซ้อนท่จะเกดิ ข้นึ ได้นัน้ มประเภทใดบ้ำง - เป้ำหมำยสำคัญคือสำนกั งำนัต้องรวู้ ำอะไรคือผลประโยชน์ทับซอ้ นท่เป็นไปได้ เพือ่ ป้องกนั ไมให้เกดิ ผลประโยชน์ทบั ซอ้ นท่เกิดข้นึ จริงและทเ่ หน็ - กำรมสวนรวมของเจ้ำหน้ำท่มสวนสำคัญเพรำะจะทำให้ระบจุ ดุ เสย่ งได้ครอบคลมุ และ ทำใหเ้ จำ้ หนำ้ ท่รู้สกึ เป็นัเจ้ำของและรวมมือกับนโยบำย - กำรระบผุ ลประโยชนท์ บั ซอ้ นนต้ อ้ งพจิ ำรณำนิยำมและข้อกำหนดทำงกฎหมำยท่ เก่ยวข้องประกอบดว้ ย - ตวั อยำงของผลประโยชนส์ วนตนัเชนัผลประโยชน์ทำงกำรเงิน/เศรษฐกจิ ั(เชนหน้) ธรุ กจิ สวนตวั /ครอบครวั ัควำมสมั พนั ธ์สวนตวั ั(ครอบครวั ัชมุ ชนัชำตพิ ันธุ์ัศำสนำัฯลฯ)ัควำมสมั พันธ์กับองคก์ รอ่ืน (เอน็ จโอัสหภำพกำรค้ำัพรรคกำรเมืองัฯลฯ)ักำรทัำงำนเสรมิ ัควำมเป็นอร/ิ กำรแขงขันกบั คนอ่นื /กลุมอื่น - ตวั อยำงของจดุ เส่ยงัเชนักำรปฏสิ มั พันธ์กับภำคเอกชนักำรทัำสญั ญำจัดซ้ือจดั จำ้ ง กำรตรวจตรำเพ่ือควบคุมคุณภำพมำตรฐำนของกำรทัำงำนักำรออกใบอนญุ ำตักำรให้บรกิ ำรท่อุปสงค์มำกกวำ อุปทำนักำรกระจำยงบประมำณักำรปรบั กำรลงโทษักำรใหเ้ งนิ /สิ่งของสนับสนนุ ชวยเหลือผ้เู ดือดร้อนักำรตดั สนิ ข้อพิพำทัฯลฯัทั้งนั้ รวมถงึ งำนทส่ ำธำรณะหรือสือ่ มวลชนใหค้ วำมสนใจเปน็ พเิ ศษ ๒)ัพฒั นำกลยุทธแ์ ละตอบสนองอยำงเหมำะสม ัองคป์ ระกอบประกำรหนง่ึ ในกำรจดั กำรผลประโยชน์ทับซ้อนกค็ ือัควำมตระหนักของผู้บริหำรและ เจ้ำหนำ้ ทเ่ ก่ยวกบั วธิ กำรจดั กำรผลประโยชน์ทับซ้อนัรวมถึงควำมรับผดิ ชอบของแตละคนัดังนนั้ ักฎเกณฑ์ เกย่ วกับกำรจดั กำรต้องแยกใหช้ ดั ระหวำงควำมรบั ผิดชอบของสัำนักงำนัและควำมรบั ผดิ ชอบของสมำชิกใน องค์กรและยงั ตอ้ งทำใหผ้ บู้ ริหำรและเจำ้ หนำ้ ท่สำมำรถรู้ได้วำ - เมือ่ ใดมผลประโยชน์ทบั ซ้อนเกิดขนึ้ ัและในแบบใดั(แบบเกดิ ขนึ้ จรงิ ัแบบทเ่ หน็ ัหรอื แบบ เปน็ ไปได้ั) - เปิดเผยผลประโยชนท์ ับซอ้ นและบันทึกกลยุทธ์ตำงัๆัท่ใช้เพ่ือกำรจดั กำร - ติดตำมประสทิ ธภิ ำพของกลยุทธ์ท่ใช้ ๓)ักำรใหค้ วำมรู้แกข้ำรำชกำร/เจ้ำหน้ำทแ่ ละผู้บริหำรระดับสงู เพอ่ื ให้กำรจดั กำรผลประโยชนท์ บั ซอ้ นม ประสทิ ธิภำพัต้องมกำรใหค้ วำมรู้อยำงตอเน่ืองต้งั แตข้ำรำชกำรัเจ้ำหน้ำท่ของรัฐัเอกชนทม่ ำทำสญั ญำั อำสำสมคั รัผบู้ ริหำรระดับสูงัและคณะกรรมกำรตำงัๆักำรใหค้ วำมร้จู ะเริ่มตง้ั แตกำรปฐมนิเทศัและมอยำง

15 ตอเน่ืองในระหวำงทำงำนัเจำ้ หนำ้ ทท่ กุ คนควรสำมำรถเขำ้ ถึงนโยบำยัและข้อมูลท่จะชวยใหพ้ วกเขำสำมำรถระบุ และเปิดเผยผลประโยชนท์ บั ซ้อนัสวนตวั ผบู้ ริหำรเองก็ต้องรูว้ ิธจดั กำรผลประโยชน์ทับซอ้ น -ัขนั้ ตอนแรกของกำรให้ควำมรู้ัคอื ัสร้ำงควำมเข้ำใจวำอะไรคือผลประโยชน์ทบั ซ้อนั ผลประโยชนท์ บั ซ้อนใดเกิดขึ้นบอยในองค์กรัอะไรคือจุดเส่ยงทร่ ะบใุ นนโยบำยัรวมถึงควำมแตกตำงของควำม รบั ผดิ ชอบัในกำรปฏบิ ตั ติ ำมนโยบำยของผมู้ ตำแหนงหน้ำท่ตำงกันัควรใหเ้ อกสำรบรรยำยพร้อมตัวอยำงทช่ ัดเจน สำหรับักำรระบุและจัดกำรผลประโยชน์ทับซ้อนัโดยเน้นตรงทเ่ ป็นจุดเสย่ งมำกัๆัเชนักำรตดิ ตอักำรรวมทำงำน กับภำคเอกชนักำรแลกเปลย่ นบคุ ลำกรกับภำคเอกชนักำรแปรรปู ักำรลดขนั้ ตอนและกระจำยอัำนำจั ควำมสมั พันธ์กับเอน็ จโอัและกจิ กรรมทำงกำรเมืองัเปน็ ต้น -ันอกจำกกำรให้ควำมรแู้ ล้วัควำมตืน่ ตวั และเอำใจใสของผู้บรหิ ำรัรวมถึงกลยทุ ธ์กำรจัดกำรท่ม ประสทิ ธิภำพจะมสวนอยำงสำคัญในกำรชวยให้เจ้ำหนำ้ ท่ปฏิบตั ิตำมักำรสร้ำงควำมตน่ื ตัวและควำมเอำใจใสัจะ ชวยในกำรแสวงหำจุดเส่ยงและพัฒนำวิธกำรป้องกันปญั หำทจ่ ะเกิดข้ึนตอไป ๔)ักำรดำเนินกำรเป็นแบบอยำง กำรจดั กำรผลประโยชน์ทับซ้อนทม่ ประสทิ ธิภำพัจำเป็นต้องอำศยั ควำมทุมเทของผู้ท่อยูใน ตำแหนงระดับ บรหิ ำรซ่งึ ตอ้ งแสดงภำวะผูน้ ำัสนับสนนุ นโยบำยและกระบวนกำรอยำงแขง็ ขนั ัสนบั สนุนใหเ้ จำ้ หนำ้ ท่ เปดิ เผย ผลประโยชนท์ บั ซ้อนัและให้ควำมชวยเหลอื แก้ไขัผู้บริหำรมควำมสำคญั เน่ืองจำกเจ้ำหนำ้ ทม่ กั จะคำนึงถึงสงิ่ ท่ ผบู้ ริหำรใหค้ วำมสนใจโดยผบู้ รหิ ำรตอ้ ง (๑)ัพจิ ำรณำวำมข้อมูลเพยงพอทจ่ ะช้วำหนวยงำนมปญั หำผลประโยชนท์ บั ซ้อนหรือไม (๒)ัช่ังนำ้ หนักประโยชนข์ ององคก์ รัประโยชน์สวนบคุ คลัและประโยชน์สำธำรณะัและ พิจำรณำ วำัอะไรคอื วิธท่ดท่สดุ ในกำรจัดกำรหรอื แกไ้ ขผลประโยชนท์ ับซอ้ นัและ (๓)ัพิจำรณำปัจจัยอ่ืนัๆัรวมถงึ ระดบั และลักษณะของตำแหนงหน้ำทข่ องเจำ้ หนำ้ ท่ท่ เก่ยวขอ้ ง รวมถงึ ลกั ษณะของผลประโยชนท์ ับซอ้ น ๕)ักำรส่ือสำรกับผู้มสวนได้ัเสย ประเด็นสำคัญคือัภำพลักษณ์ของสำนักงำนในกำรรับรขู้ องผมู้ สวนได้เสยั เนือ่ งจำกไมวำจะ สำมำรถจดั กำรกบั ผลประโยชน์ทบั ซ้อนได้ดเพยงใดัถำ้ ผ้มู สวนไดเ้ สยรับรู้เป็นตรงกนั ขำ้ มัผลเสย ท่เกิดขึ้นก็เลวร้ำยไม แพ้กัน กำรทำงำนกับหนวยงำนภำยนอกไมวำเป็นสวนรำชกำรัหนวยงำนของรัฐรูปแบบอ่ืนั เอ็นจโอหรือ ภำคธุรกิจัประชำชนัสำนักงำนต้องระบุจุดเสย่ งของผลประโยชน์ทับซอ้ นกอนัและพัฒนำวิธป้องกันั ไมวำเป็นเรื่อง ข้อมูลภำยในัหรือโอกำสกำรใช้อำนำจหน้ำท่ัเพ่ือผลประโยชน์และต้องแจ้งแกหนวยงำนภำยนอก ให้ทรำบนโยบำย กำรจัดกำรผลประโยชน์ทับซ้อนและผลท่ตำมมำัหำกไมปฏิบัติตำมนโยบำยัเชนัยกเลิกสัญญำั หรือดำเนินกำรตำม กฎหมำยับำงหนวยงำนภำครัฐจะอำศัยจริยธรรมธุรกิจเพ่ือสื่อสำรเก่ยวกับหน้ำท่และควำม พร้อมรับผิดท่ผู้ทำธุรกิจม กับหุ้นสวนและผู้ทำสัญญำด้วย นอกจำกน้ัควรสื่อสำรแบบสองทำงกับหนวยงำน ภำยนอกัอำจใช้วธิ ตำงัๆัเชนัให้มสวนรวมในกำร ระบจุ ดุ เสย่ งัและรวมกันพฒั นำกลไกปอ้ งกนั แก้ไขปัญหำัขอรับ ฟงั ควำมเหน็ ตอรำงนโยบำยกำรจัดกำรผลประโยชน์ ทบั ซ้อนัรวมทบทวนและปรับปรุงกลไกกำรแสวงหำและแก้ไข ผลประโยชน์ทบั ซอ้ นัวิธเหลำนจ้ ะทำให้ได้นโยบำยท่ สอดคล้องกับควำมคำดหวังสำธำรณะัและได้รับควำมรวมมือ จำกผู้มสวนได้เสยัท้ังน้ในกำรรวมกันจัดกำร ผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้มสวนได้เสยน้ัหนวยงำนภำครัฐต้องทำให้ กำรตัดสินใจทุกข้นั ตอนโปรงใสและตรวจสอบได้ ๖)ักำรบังคับใช้และทบทวนนโยบำย ระบบกำรป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนต้องได้รับกำรทบทวน ประสิทธภิ ำพอยำงสมำ่ เสมอโดย สอบถำมข้อมลู จำกผู้ใชร้ ะบบัและผมู้ สวนไดเ้ สยอื่นัๆัเพื่อให้ระบบใช้ได้จรงิ ัและ ตอบสนองตอสภำพกำรทำงำน รวมถึงสภำพสังคมัเศรษฐกิจท่เปล่ยนแปลงัอกทั้งยังสร้ำงควำมรู้สึกเป็นเจ้ำของ และควำมรวมมือันอกจำกน้ัยังอำจ เรยนรู้จำกหนวยงำน/องค์กรอื่นัๆักำรแสวงหำกำรเรยนรู้เชนน้ยังเป็นกำร สื่อสำรวำสำนักงำนมควำมมุงมั่นในกำร จัดกำรผลประโยชน์ทับซ้อนอกด้วยักำรทบทวนควรครอบคลุมจุดเส่ยงั มำตรกำรัและผลกำรทบทวนหรือมกำร เปลย่ นแปลงต้องสื่อสำรให้แกเจ้ำหนำ้ ทผ่ ู้ปฏิบัติให้เข้ำใจัและปรับเปล่ยน กำรทำงำนใหส้ อดคลอ้ งกันัโดยอำจพัฒนำ ระบบสนบั สนุนเพือ่ ชวยพฒั นำทกั ษะและกำรใหค้ ำปรกึ ษำแกเจ้ำหน้ำทั่

16 กำรเปิดเผยผลประโยชนส์ ำธำรณะ กำรเปดิ เผยและรำยงำนข้อสงสยั เกย่ วกับกำรประพฤติมชิ อบและกำรบริหำรท่บกพรอง/อคติของ ภำครฐั เป็น รำกฐำนของควำมถกู ตอ้ งเปน็ ธรรมั(integrity) และกำรยึดม่ันัยนื หยดั ทำในส่ิงทถ่ กู ตอ้ ง -ัผเู้ ปดิ เผยผลประโยชน์ ั ผ้เู ปิดเผยเป็นผูท้ ร่ ำยงำนขอ้ มลู ทเ่ ปน็ จริงเกย่ วกบั พฤติกรรมทม่ ชิ อบท่ร้ำยแรงของเจำ้ หน้ำท่ภำครัฐ ท่กระทำ โดยมใิ ชเพอ่ื ผลประโยชนส์ ำธำรณะ ััหลำยหนวยงำนขำดกำรสนับสนุนผู้เปิดเผยกำรกระทำผิดของเจ้ำหน้ำท่ัโดยแทนท่จะยกยองชมเชย เจ้ำหน้ำท่ท่เปิดเผยกำรประพฤติมิชอบั คดโกงัทุจริตัหรือพฤติกรรมอำชญ ำกรรมกลับวิพำกษ์วิจำรณ์ทำงลบั ทำ ให้ สูญเสยควำมก้ำวหน้ำในอำชพและแมแ้ ตสญู เสยงำน ััหลักของกำรปกป้องคุ้มครองพยำนัใช้หลักแหงควำมรับผิดชอบและกำรแสดงออกซ่ึงควำมพร้อม รับผิด ให้แกสำธำรณชนักำรเปิดเผยท่เหมำะสมัคือัเม่ือเกิดกำรทำผิดท่ร้ำยแรงัหรือเป็นปัญหำควำมเส่ยงสำธำรณะ กำร รำยงำนกำรกระทำผิดภำยในหนวยงำนหรือภำยนอกหนวยงำนตอสำธำรณชนเป็นทำงเลือกท่ดท่สุดัโดยเฉพำะเม่ือ ชองทำงภำยในและกระบวนกำรบริหำรภำยในใช้กำรไมไดั้ หรอื ขำดประสิทธิภำพ กฎหมำยระเบยบและนโยบำย ัััรำกฐำนของกำรเปิดเผยกำรกระทำผิดมำจำกกรอบกฎหมำยัมำตรฐำนทำงจรยิ ธรรมรวมทง้ั นโยบำย ของหนวยงำนัในมำตรฐำนทำงจริยธรรมจะกำหนดพฤติกรรมทเ่ ปน็ มำตรฐำนและขอ้ แนะนำพฤตกิ รรมท่ยอมรับให้ ปฏบิ ตั ิัและไมยอมรับใหป้ ฏบิ ัติัรวมทงั้ ต้องมกำรรำยงำนกำรกระทำท่เบย่ งเบนจำกมำตรฐำนด้วยกำรเปดิ เผยกำร กระทำผดิ เพื่อป้องกนั กำรละเมดิ หลักคุณธรรมัต้องมกลไกกำรรำยงำนและกำรตรวจสอบท่เปน็ อิสระักำรเปดิ เผยกำร กระทำผิดภำยใต้กฎหมำยตำงัๆัน้ันต้องอธิบำยได้ด้วยวำจะมกำรดำเนินกำรอยำงไรัและหนวยงำนต้องแนใจวำกำร เปดิ เผยจะตอ้ งไดร้ บั กำรคมุ้ ครองพยำนอยำงเต็มท่ เป้ำหมำยเพอ่ื กำรบรหิ ำรจัดกำรทด่ ั(Best- practice target) - หนวยงำนควรสร้ำงกลไกในกำรสนับสนุนและปกปอ้ งคมุ้ ครองผู้เปิดเผยขอ้ มลู ัมนโยบำยและ กระบวนกำรัเพ่ือลดกฎเกณฑ์ท่มำกเกินไปัและสงเสริมให้คนกล้ำเปิดเผยัและรำยงำนข้อสงสัยเกย่ วกับกำรบริหำรท่ ไมเปน็ ธรรมัหรือักำรคดโกงและกำรทจุ ริต - จัดกลไกสนับสนุนั(robust support) เพื่อลดกำรรำยงำนและกำรรับรทู้ ่ผดิ พลำดัให้คำปรกึ ษำ กำรเปิดเผยพฤติกรรมกำรกระทำผดิ ทเ่ หมำะสมัและปกปอ้ งกำรตอต้ำนท่จะมตอผ้เู ปิดเผย - โครงสร้ำงกำรรำยงำนัหรอื เปิดเผยผลประโยชน์สำธำรณะัควรเหมำะสมกบั โครงสร้ำงัธรรมชำติ และัขนำดของหนวยงำน - นโยบำยัโครงสร้ำงและกระบวนกำรเปดิ เผยข้อมลู สำธำรณะัตอ้ งได้รับทรำบโดยทว่ั กนั - มหลักสูตรกำรฝึกอบรมเพ่ือให้แนใจวำกำรเปิดเผยข้อมูลสำธำรณะจะได้รับกำรปฏิบัติอยำงเหมำะสมกับ ผู้บริหำรัผู้บงั คับบัญชำัขำ้ รำชกำรท่วั ไปัเพอื่ ใหป้ ฏบิ ัตหิ นำ้ ท่เปน็ ไปอยำงมประสิทธิภำพ

17 บททั่ 3ักฎหมำยทเ่ กย่ วข้องกับเรื่องผลประโยชนท์ ับซ้อน กฎหมำยทเ่ กย่ วข้องกบั เร่ืองผลประโยชนท์ บั ซ้อน รฐั ธรรมนูญั แหงรำชอำณำจกั รไทย พ.ศ.ั๒๕๕๐ั หมวดั๑๒ักำรตรวจสอบกำรใชอ้ ำนำจรฐั สวนทั่ ๒ กำรกระทำทเ่ ปน็ กำรขดั กันแหงผลประโยชน์ มำตรำั๒๖๕ัสมำชิกสภำผ้แู ทนรำษฎรและสมำชิกวฒุ ิสภำตอ้ ง (๑)ัไมดำรงตำแหนงหรือหน้ำท่ใดในหนวยรำชกำรัหนวยงำนของรัฐัหรือรัฐวิสำหกิจหรือตำแหนง สมำชิก สภำทอ้ งถนิ่ ัผู้บริหำรท้องถน่ิ ัหรือข้ำรำชกำรสวนท้องถนิ่ (๒)ัไมรับหรือแทรกแซงหรือก้ำวกำยกำรเข้ำรับสัมปทำนจำกรัฐัหนวยรำชกำรัหนวยงำนของรัฐัหรือ รัฐวิสำหกิจัหรือเข้ำเป็นคูสัญญำกับรัฐัหนวยรำชกำรัหนวยงำนของรัฐัหรือรัฐวิสำหกิจอันมลกั ษณะเป็นกำรผูกขำด ตัดตอนัหรือเป็นหุ้นสวนหรือผู้ถือหุ้นในห้ำงหุ้นสวนหรอื บริษัทท่รับสัมปทำนหรือเข้ำเปน็ คูสัญญำในลักษณะดังกลำว ท้งั นั้ ไมวำโดยทำงตรงหรอื ทำงอ้อม (๓)ัไมรับเงินหรือประโยชน์ใดัๆัจำกหนวยรำชกำรัหนวยงำนของรัฐัหรือรัฐวิสำ หกิจเป็นพิเศษ นอกเหนือไปจำกท่หนวยรำชกำรัหนวยงำนของรัฐัหรือรัฐวิสำหกิจัปฏิบัติตอบุคคลอ่ืนัๆัในธุรกิจกำรงำนตำมปกติ (๔)ัไมกระทำกำรอันเป็นกำรต้องห้ำมตำมมำตรำั๔๘ บทบัญญัติมำตรำน้มิให้ใช้บังคับในกรณท่ สมำชกิ สภำผู้แทนรำษฎรหรอื สมำชิกวฒุ สิ ภำรบั เบย้ หวดั บำเหนจ็ ับำนำญัเงนิ ปีพระบรมวงศำนุวงศ์ัหรือเงนิ อน่ื ใดใน ลักษณะเดยวกันัและมิให้ใช้บังคับในกรณท่ สมำชิกสภำผู้แทนรำษฎรหรือสมำชิกวุฒิสภำรับหรือดำรงตำแหนง กรรมำธิกำรของรัฐสภำัสภำผ้แู ทนรำษฎรัหรือ วฒุ ิสภำัหรือกรรมกำรท่ไดร้ บั แตงตัง้ ในกำรบรหิ ำรรำชกำรแผนดนิ ใหน้ ำควำมในั(๒)ั(๓)ัและั(๔)ัมำใช้บงั คบั กบั คสู มรสและบุตรของสมำชิกสภำผแู้ ทนรำษฎรหรือ สมำชกิ วุฒิสภำและบคุ คลอ่ืนซงึ่ มใิ ชคสู มรสและบุตรของสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎรหรือสมำชิกวุฒิสภำนั้นัทด่ ำเนนิ กำร ในลักษณะผู้ถูกใชั้ ผรู้ วมดำเนินกำรัหรอื ผู้ได้รับมอบหมำยจำกสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎรหรือสมำชิกวุฒสิ ภำให้กระทำ กำรตำมมำตรำน้ดว้ ย มำตรำั๒๖๖ัสมำชกิ สภำผ้แู ทนรำษฎรและสมำชกิ วุฒิสภำต้องไมใช้สถำนะหรือตำแหนงกำรเป็น สมำชิกสภำผู้แทนรำษฎรหรอื สมำชิกวุฒิสภำเข้ำไปก้ำวกำยหรอื แทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเองัของผอู้ ืน่ ัหรือของ พรรคกำรเมอื งัไมวำโดยทำงตรงหรือทำงอ้อมัในเรื่องดังตอไปน้ (๑)ักำรปฏิบตั ริ ำชกำรหรือกำรดำเนินงำนในหน้ำท่ประจำของขำ้ รำชกำรัพนกั งำนัหรอื ลูกจำ้ งของ หนวยรำชกำรัหนวยงำนของรัฐัรัฐวสิ ำหกจิ ักจิ กำรท่รฐั ถอื ห้นุ ใหญัหรือรำชกำรสวนท้องถิ่น (๒)ักำรบรรจุัแตงตง้ั ัโยกย้ำยัโอนัเลอ่ื นตำแหนงัและเลือ่ นเงินเดือนของขำ้ รำชกำรซึ่งมตำแหนง หรือเงินเดือนปร ะจำ แล ะ มิใช ข้ำร ำช ก ำร กำ รเมื อ งั พนักงำ นั หรือลูกจ้ำงของ หนว ยร ำช ก ำรห นว ยง ำ น ข อ ง รั ฐั รฐั วสิ ำหกิจกจิ กำรท่รัฐถือหุ้นใหญัหรอื รำชกำรสวนท้องถน่ิ ัหรือ (๓)ักำรใหข้ ้ำรำชกำรซงึ่ มตำแหนงหรอื เงินเดือนประจำและมใิ ชข้ำรำชกำรกำรเมืองัพนักงำนัหรอื ลูกจำ้ ง ของหนวยรำชกำร หนวยงำนของรัฐัรัฐวสิ ำหกจิ ักจิ กำรทร่ ัฐถือหุ้นใหญัหรือรำชกำรสวนทอ้ งถิน่ ัพน้ จำกตำแหนง มำตรำั๒๖๗ัใหน้ ำบทบญั ญตั ิมำตรำั๒๖๕ัมำใชบ้ ังคับกับนำยกรฐั มนตรและรฐั มนตรด้วยัเว้นแต เปน็ กำร ดำรงตำแหนงหรือดำเนินกำรตำมบทบัญญัติแหงกฎหมำยัและจะดำรงตำแหนงใดในห้ำงหนุ้ สวนับรษิ ทั ัหรอื องค์กำรท่ดำเนินธรุ กจิ โดยมงุ หำผลกำไรหรอื รำยไดม้ ำแบงปันกันัหรือเปน็ ลกู จ้ำงของบุคคลใดก็มไิ ด้ด้วย มำตรำั๒๖๘ันำยกรฐั มนตรและรฐั มนตรจะกระทำกำรใดท่บัญญตั ไิ ว้ในมำตรำั๒๖๖ัมิได้เวน้ แตเปน็ กำร กระทำตำมอำนำจหนำ้ ท่ในกำรบริหำรรำชกำรตำมนโยบำยทไ่ ด้แถลงตอรฐั สภำหรือตำมทก่ ฎหมำยบญั ญัติ ๒๖๙ันำยกรัฐมนตรและรฐั มนตรตอ้ งไมเปน็ หุ้นสวนหรือผู้ถอื หนุ้ ในห้ำงหุ้นสวนหรอื บริษัท หรือไมคงไว้ซงึ่ ควำมเปน็ หนุ้ สวนหรอื ผู้ถอื ห้นุ ในห้ำงหุ้นสวนหรอื บริษทั ตอไปัทงั้ นั้ ตำมจำนวนท่กฎหมำยบญั ญตั ัิ ใน กรณท่

18 นำยกรฐั มนตรหรอื รฐั มนตรผใู้ ดประสงคจ์ ะไดร้ บั ประโยชนจ์ ำกกรณดงั กลำวตอไปัใหน้ ำยกรัฐมนตรหรอื รฐั มนตรผู้ นน้ั แจง้ ให้ประธำนกรรมกำรป้องกนั และปรำบปรำมกำรทจุ ริตแหงชำติทรำบภำยในสำมสิบวันนับแตวันท่ ได้รบั แตงต้ังั และให้นำยกรฐั มนตรหรือรฐั มนตรผนู้ น้ั โอนหนุ้ ในหำ้ งหนุ้ สวนหรอื บรษิ ทั ดงั กลำวใหน้ ติ ิบุคคลซงึ่ จัดกำร ทรัพย์สินเพื่อ ประโยชน์ของผู้อ่นื ัทง้ั นั้ ตำมท่กฎหมำยบญั ญัติ นำยกรฐั มนตรและรัฐมนตรจะกระทำกำรใดอันมลักษณะเปน็ กำรเขำ้ ไปบริหำรหรือจดั กำรใดัๆ เก่ยวกับหุ้นหรือกจิ กำรของหำ้ งห้นุ สวนหรอื บรษิ ทั ตำมวรรคหนึ่งัมไิ ด้ บทบัญญตั ิมำตรำน้ ใหน้ ำมำใช้บงั คบั กบั คสู มรสและบุตรท่ยังไมบรรลนุ ิติภำวะของนำยกรัฐมนตรและ รฐั มนตรด้วยและใหน้ ำบทบัญญัติ มำตรำั๒๕๙ัวรรคสำมัมำใช้บงั คบั โดยอนุโลม รฐั ธรรมนูญแหงรำชอำณำจกั รไทยัพ.ศ.๒๕๕๐ หมวดั๑๓ักำรตรวจสอบกำรใชััอ้ ำนำจรัฐ หมวดั๑๓ จรยิ ธรรมของผดู้ ำรงตำแหนงทำงกำรเมอื งและเจำ้ หนำ้ ท่ของรฐั มำตรำั๒๗๙ัมำตรฐำนทำงจรยิ ธรรมของผดู้ ำรงตำแหนงทำงกำรเมืองัข้ำรำชกำรัหรอื เจ้ำหน้ำท่ของ รัฐแต ละประเภทัให้เป็นไปตำมประมวลจรยิ ธรรมท่กำหนดขนึ้ มำตรฐำนทำงจรยิ ธรรมตำมวรรคหน่งึ ัจะต้องมกลไกและ ระบบในกำรดำเนินงำนเพอ่ื ใหก้ ำรบงั คบั ใช้ เปน็ ไปอยำงมประสิทธภิ ำพัรวมทง้ั ักำหนดขน้ั ตอนกำรลงโทษตำมควำม ร้ำยแรงแหงกำรกระทำ กำรฝ่ำฝืนหรอื ไมปฏิบัติตำมมำตรฐำนทำงจริยธรรมตำมวรรคหนึ่งัให้ถอื วำเป็นกำรกระทำผดิ ทำง วินยั ัในกรณทผ่ ดู้ ำรงตำแหนงทำงกำรเมืองฝ่ำฝนื หรือไมปฏิบตั ิตำมัใหผ้ ู้ตรวจกำรแผนดินรำยงำนตอรฐั สภำ คณะรฐั มนตรัหรือสภำทอ้ งถิ่นทเ่ กย่ วข้องัแล้วแตกรณและหำกเป็นกำรกระทำผิดรำ้ ยแรงให้สงเรือ่ งให้คณะกรรมกำร ปอ้ งกนั และปรำบปรำมกำรทุจริตแหงชำติพิจำรณำดำเนินกำรัโดยใหถ้ ือเปน็ เหตทุ จ่ ะถกู ถอดถอนจำกตำแหนงตำม มำตรำั๒๗๐ กำรพิจำรณำัสรรหำักลน่ั กรองัหรือแตงตั้งบุคคลใดัเขำ้ สูตำแหนงท่มสวนเกย่ วขอ้ งในกำรใชอ้ ำนำจ รัฐั รวมทั้งกำรโยกย้ำยักำรเลอ่ื นตำแหนงักำรเล่อื นเงินเดือนัและกำรลงโทษบคุ คลน้ันจะต้องเป็นไปตำมระบบ คุณธรรม และคำนึงถึงพฤติกรรมทำงจรยิ ธรรมของบุคคลดงั กลำวด้วย มำตรำั๒๘๐ัเพ่อื ประโยชนใ์ นกำดำเนินกำรตำมหมวดนั้ ให้ผ้ตู รวจกำรแผนดนิ มอำนำจหน้ำท่ เสนอแนะหรือ ให้คำแนะนำในกำรจัดทำหรือปรบั ปรุงประมวลจรยิ ธรรมตำมมำตรำั๒๗๙ัวรรคหนงึ่ ัและสงเสรมิ ใหผ้ ู้ดำรงตำแหนง ทำงกำรเมอื งัข้ำรำชกำรัและเจ้ำหนำ้ ท่ของรฐั ัมจิตสำนกึ ในด้ำนจริยธรรมัรวมทั้งมหน้ำทร่ ำยงำนกำร กระทำท่มกำร ฝ่ำฝนื ประมวลจริยธรรมเพอื่ ใหผ้ ูท้ ร่ บั ผิดชอบในกำรบังคับกำรใหเ้ ป็นไปตำมประมวลจรยิ ธรรมดำเนนิ กำร บังคบั ให้ เปน็ ไปตำมประมวลจริยธรรมตำมมำตรำั๒๗๙ัวรรคสำม ในกรณท่กำรฝำ่ ฝนื หรือไมปฏิบัติตำมมำตรฐำนทำง จริยธรรมมลกั ษณะรำ้ ยแรงหรอื มเหตุอนั ควรเชื่อ ได้วำกำรดำเนนิ กำรของผู้รบั ผิดชอบจะไมเป็นไปดว้ ยควำมเปน็ ธรรมั ผตู้ รวจกำรแผนดนิ จะไตสวนและเปดิ เผยผลกำร ไตสวนตอสำธำรณะก็ได้ั พระรำชบญั ญตั ิ ประกอบรฐั ธรรมนญู วำดว้ ยกำรปอ้ งกนั และปรำบปรำมกำรทจุ รติ ัพ.ศ.ั๒๕๔๒ ภมู พิ ลอดลุ ยเดชัป.ร. ใหัไวั้ ณัวนั ทั่ ๘ัพฤศจกิ ำยนัพ.ศัั๒๕๔๒ หมวดั๙ กำรขดั กนั ระหวำงประโยชนส์ วนบุคคลและประโยชนส์ วนรวม มำตรำั๑๐๐ัหำ้ มมิให้เจ้ำหนำ้ ท่ของรัฐผู้ใดดำเนินกิจกำรดังตอไปน้ (๑)ัเป็นคูสัญญำหรือมสวนได้เสยในสัญญำท่ทำกับหนวยงำนของรัฐท่เจ้ำหน้ำท่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติ หน้ำท่ ในฐำนะท่เป็นเจำ้ หนำ้ ท่ของรฐั ซ่ึงมอำนำจกำกับัดูแลัควบคุมัตรวจสอบัหรอื ดำเนนิ คด (๒)ัเป็นหุ้นสวนหรือผู้ถือหุ้นในห้ำงหุน้ สวนหรือบริษัทท่เข้ำเป็นคูสัญญำกับหนวยงำนของรัฐท่ เจ้ำหน้ำท่ ของรฐั ผนู้ ั้นปฏิบัตหิ นำ้ ทใ่ นฐำนะทเ่ ปน็ เจ้ำหน้ำท่ของรัฐซึ่งมอำนำจกำกบั ัดแู ลัควบคมุ ัตรวจสอบัหรือ ดำเนนิ คด (๓)ัรับสัมปทำนหรือคงถือไว้ซ่ึงสัมปทำนจำกรัฐัหนวยรำชกำรัหนวยงำนของรัฐัรัฐวิสำหกิจัหรือ รำชกำรสวนท้องถ่ินั หรือเข้ำเป็นคูสัญญำกับรัฐั หนวยรำชกำรัหนวยงำนของรัฐัรัฐวิสำหกิจัหรือรำชกำ รสวน ท้องถ่ิน อันมลักษณะเป็นกำรผูกขำดตัดตอนัท้ังน้ไมวำโดยทำงตรงหรือทำงอ้อมัหรือเป็นหุ้นสวนหรือผู้ถือหุ้นใน หำ้ งหนุ้ สวน หรอื บริษัททร่ บั สัมปทำนหรอื เข้ำเป็นคูสัญญำในลักษณะดังกลำว

19 (๔)ัเข้ำไปมสวนได้เสยในฐำนะเป็นกรรมกำรัท่ปรึกษำัตัวแทนัพนักงำนหรือลูกจ้ำงในธุรกิจของ เอกชน ซ่ึงอยูภำยใต้กำรกำกับัดูแลัควบคุมัหรือตรวจสอบของหนวยงำนของรัฐท่เจ้ำหน้ำท่ของรัฐผู้นั้นสังกัดอยูหรือ ปฏิบัติหน้ำท่ในฐำนะเป็นเจ้ำหน้ำท่ของรัฐัซึ่งโดยสภำพของผลประโยชน์ของธุรกิจของเอกชนนั้นอำจขัดหรือแย้ง ตอ ประโยชน์สวนรวมัหรือประโยชน์ทำงรำชกำรัหรือกระทบตอควำมมอิสระในกำรปฏิบัติหน้ำท่ของเจ้ำหน้ำท่ ของรัฐผู้ นัน้ เจ้ำหนำ้ ท่ของรฐั ตำแหนงใดท่ต้องห้ำมมิให้ดำเนินกิจกำรตำมวรรคหนึ่งให้เป็นไปตำมท่คณะกรรมกำร ป.ป.ช.ักำหนดโดยประกำศในรำชกิจจำนเุ บกษำ ใหน้ ำบทบัญญตั ใิ นวรรคหนง่ึ มำใช้บงั คับกบั คูสมรสของเจ้ำหน้ำท่ ของรัฐตำมวรรคสองัโดยให้ถือวำ กำรดำเนินกิจกำรของคูสมรสดังกลำวัเป็นกำรดำเนินกิจกำรของเจ้ำหน้ำท่ของ รัฐ มำตรำ 101 ให้นำบทบัญญัติมำตรำ 100 มำใชบ้ั ังคับกบัั กำรดำเนินกิจกำรของผู้ซึ่งพั้นจำกกำรเป็นั เจ้ำหนัำ้ ท่ ของรัฐมำแล้วยังไมถึงัสองปี โดยอนุโลมเว้นแตกำรเป็นผัู้ถือหุ้นไมเกัินร้อยละห้ำของจำนวนหุ้นทั้งหมดท่ั จำหนัำยได้ในบริษัท มหำชนจำกัด ซึ่งไมัใชบริษั ัทท่เป็นคูสัญญำกับหนวยงำนของรัฐตำมมำตรำั 100 (2) ท่ได้รับั อนญุ ำตตำมกฎหมำยวำั ด้วย หลักทรพั ยแ์ ละตลำดหลกัั ทรพั ย์ มำตรำั 102 บทบญั ญตั ิมำตรำั 100 มิให้นำมำใช้บั ังคบั กับั กำรดำเนินกจิ กำรของเจำ้ หน้ัำทข่ องรัฐซง่ึ หนวยงำนท่มอำนำจกำกับั ดูแล ควบคุม หรืัอตรวจสอบกำรดำเนินงำนของบริษัทจำกัดั หรือบริษัทมหำชนจำกดั ั มอบหมำยให้ปฏบิั ตั ิ หน้ำทใ่ นบรษิ ัทจำกััด หรือบริษัทมหำชนจำกัดทห่ นวยงำนของรัฐถือหุ้นหรือเขำ้ั รวมทนุ มำตรำ 103 ห้ำมมใิ ห้เจำั้ หนำ้ ท่ของรัฐผูใ้ ดรับทรพั ยส์ ินหรอื ประโยชนอ์ น่ื ใดจำกบุคคลนอกเหนือจำก ทรัพย์สันิ หรือประโยชน์อันควรได้ตำมกฎหมำย หรือกฎข้อบังคับทัอ่ อกโดยอำศยัั อำนำจตำมบทบัญญัติแหงั กฎหมำยเวั้นแตกำรรับทรัพย์สันิ หรือั ประโยชน์อ่ืนใดโดยธรรมจรรยำตำมหลักั เกณฑแ์ั ละจำนวนท่คณะกรรมกำรั ป.ป.ช. กำหนดบทบัญญัติในวรรคหนึง่ ให้ใชั้บงั คับกัับกำรรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดของผู้ท่พนั้ จำกกำรเป็นั เจ้ำหนำ้ั ทข่ องรัฐมำแลว้ ยงั ไมถัึงสองปีดว้ ยโดยอนุโลม บทลงโทษ มำตรำ 122 เจ้ำหน้ัำท่ของรัฐผู้ใดฝำั ฝืนบทบัญญัติมำตรำ 100 มำตรำั101 หรือมำตรำ 103 ต้องั ระวำงโทษจำคุกไมเกิันสำมปีหรือปรับไมัเกินหกหม่ืนบำทหรือท้ังจำท้ังปรับกรณควำมผิดตำมมำตรำั 100 วรรคั สำมหำกเจำ้ หนัำ้ ทข่ องรัฐผู้ใดพิสจู นไ์ ด้วำตนมไิ ด้ร้เู ห็นยนิ ยอมด้วยในกำรทค่ สูั มรสของตนดำเนินกำรตำมมำตรำ 100 วรรคหนง่ึัใหถ้ อื วำั ผู้นั้นั ไมัมควำมผิด ๒. ประกำศคณะกรรมกำรป้ัองกัันและปรำบปรำมกำรทุัจริตั แหังชำติเัรื่ัองหลัักเกณฑ์ักำรรัับทรััพย์ัสันิ ั หรืัอประโยชน์ัอั่ืนใดโดยธรรมจรรยำของเจ้ัำหน้ัำทั่ของรัฐั ัพ.ศ. 2543 อำศัยอำนำจตำมควำมในมำตรำัั103 แหงพระรำชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวัำด้วยกำรป้องกันั และั ปรำบปรำมกำรทุจรติ พ.ศ. 2542 คณะกรรมกำรป้องกัันและปรำบปรำมกำรทุจริตแหงชำติัจงึ กำหนดหลัักเกณฑ์ั และจำนวน ทรพั ย์สนิั หรืัอประโยชนอ์ นื่ ใดท่ัเจำ้ หนำ้ั ทข่ องรัฐจะรับจำกบคุ คลได้โดยธรรมจรรยำไวด้ งั น้ ข้อ 1 ประกำศน้เรยกวำั “ประกำศคณะกรรมกำรป้องกันั และปรำบปรำมกำรทุจรติ แหงชำตเิ ร่อื งั หลัักเกณฑ์ กำรรบั ทรัพยส์ ินหรือประโยชน์อ่ืนใดโดยธรรมจรรยำของเจ้ำหนำ้ั ท่ของรัฐ พ.ศ. 2543 ขอ้ 2 ประกำศน้ใหใ้ ชบ้ งั คบั ตง้ั แตวนั ถัดจำกวนั ประกำศในรำชกจิ จำนเุ บกษำเป็นตน้ ไป

20 บททั่ 4 ตวั อยำงเร่อื งกำรขดั กันระหวำง ผลประโยชนส์ วนตัวและผลประโยชนส์ วนรวม ตวั อยำงเรื่องกำรขัดกนั ระหวำงผลประโยชนส์ วนตัวและผลประโยชนส์ วนรวมัดงั น้ - กำรหำประโยชน์ให้ตนเอง - กำรรับผลประโยชนั์ จำกกำรทด่ ำรงตำแหนงหน้ำท่ - กำรใชท้ รพั ย์สนิ ของรำชกำรเพือ่ ประโยชนส์ วนตน - กำรใช้ขอ้ มูลลับของทำงรำชกำรเพ่ือแสวงหำประโยชนแ์ กตนเองและพวกพ้อง - กำรรับงำนนอกแลว้ สงผลตอควำมเสยหำยของหนวยงำนท่รับผดิ ชอบ - กำรทำงำนหลงั จำกออกจำกตำแหนงและเอ้ือประโยชนต์ อบรษิ ัท - กำรใหข้ องขวญั ัของกำนัลเพื่อหวงั ควำมกำ้ วหน้ำ - กำรชวยญำตมิ ติ รใหไ้ ด้งำนอยำงไมเป็นธรรมในหนวยงำนท่ตนมอำนำจ - กำรซอื้ ขำยตำแหนงักำรจำยผลประโยชนั์ ท้ังทเ่ ป็นตวั เงนิ และประโยชน์รูปแบบอน่ื ัเพื่อให้ไดม้ ำซึง่ กำร เลื่อนระดับัตำแหนงหรอื ควำมดควำมชอบพิเศษ - กำรนำขอ้ มลู ลับ/ข้อมูลภำยในมำใชห้ ำประโยชน์ักำรนำขอ้ มูลลับ/ข้อมูลภำยในมำใช้หำประโยชนใ์ หแ้ ก ตนเองหรอื พวกพอ้ ง - หัวหน้ำหนวยงำนซ่ึงครอบครวั ประกอบธรุ กจิ รับเหมำกอสรำ้ งแตงต้งั ให้ญำติ/คนสนิท/คนท่มควำมสัมพนั ธ์ ฉนั ญำตขิ ึ้นเป็นผู้อำนวยกำรกองพัสดุ - กำรรบั ผลประโยชน์ัหรอื กำรเรยกรอ้ งสิ่งตอบแทนักำรรับผลประโยชน์หรอื กำรเรยกร้องส่ิงตอบแทนจำก กำร ปฏบิ ตั ิงำนในหน้ำท่ควำมรบั ผดิ ชอบ - กำรรบั ผลประโยชน์หรอื กำรเรยกรอ้ งส่งิ ตอบแทนจำกกำรปฏบิ ตั ิงำนในหน้ำทค่ วำมรับผิดชอบ - กำรรบั งำนนอกหรือกำรทำธุรกิจท่ัเบยดบังเวลำรำชกำร/งำนโดยรวมของหนวยงำน –ักำรทำงำนหลงั เกษยณใหั้ กับหนวยงำนทม่ ผลประโยชน์ัขัดกับหนวยงำนตน้ สังกัดเดิม - กำรนำรถรำชกำรไปใชั้ ในกิจธรุ ะสวนตวั และในหลำยกรณมกำรเบิกคำน้ำมันด้วย -ักำรนำบุคลำกรของหนวยงำนไปใชเ้ พื่อกำรสวนตวั - กำรกำหนดมำตรฐำนั(Specification) ในสนิ ค้ำทจ่ ะจดั ซ้ือจัดจำ้ งใหบ้ ริษัทของตนหรือของพวกพอ้ ง - กลุมวิชำชพท่เกย่ วกบั กำรตรวจสอบประเมินรำคำและกำรจัดซื้อจัดจ้ำงไดเ้ ปรยบหรอื ชนะในกำรประมูล - กำรใหข้ อ้ มูลกำรจดั ซื้อจัดจำ้ งแกพรรคพวก/ญำตเิ พือ่ แสวงหำผลประโยชนั์ ในกำรประมูลหรือกำรจ้ำงเหมำ รวมถึงกำรปกปิดข้อมลู ัเชนักำรปดิ ประกำศหรือเผยแพรข้อมลู ขำวสำรลำชำ้ หรือพ้นกำหนดกำรย่ืนใบเสนอรำคำ เป็นตน้ - กำรรับงำนจำกภำยนอกจนกระทบตอกำรปฏบิ ัตหิ น้ำทป่ ระจำ - กำรใชส้ ทิ ธิในกำรเบิกจำยยำใหแ้ กญำตแิ ลว้ นำยำไปใช้ท่คลนิ กิ สวนตวั - กำรรบั ประโยชนจ์ ำกระบบกำรลอ็ กบัตรคิวใหแ้ กเจ้ำหน้ำท่หรอื ญำตเิ จ้ำหน้ำทใ่ นหนวยงำน -ักำรนำวสั ดคุ รุภณั ฑข์ องสำนักงำนมำใชส้ วนตัวัเชนัปำกกำักระดำษัฯลฯ -ักำรใช้โทรศพั ท์ของสำนักงำนติดตอธรุ กจิ สวนตวั -ักำรนำรถรำชกำรไปใช้ในงำนสวนตวั -ักำรนำข้อมลู ในสำนักงำนไปใชเ้ พื่อประโยชนส์ วนตวั ัเชนัรู้วำจะมกำรตดั ถนนเส้นใดกไ็ ปซ้ือทด่ นิ ใน ละแวกนน้ั โดยใสชือ่ ภรรยำหรือคนในครอบครวั -ักำรใช้ตำแหนงหนำ้ ท่หรือสำยสัมพันธ์ัในกำรฝำกลูกหลำนัญำตพิ ่น้องเขำ้ ทำงำนในหนวยงำนของตน -ักำรรับสนิ บนัสงผลใหม้ กำรตดั สนิ ใจทเ่ อ้ือประโยชน์

21 -ักำรรบั งำนนอกโดยเบยดบงั เวลำรำชกำร -ักำรลัดคิวให้กับผู้ใชบ้ ริกำรท่คนุ้ เคย -ักำรนำบุคคลของหนวยงำนมำใช้งำนเพ่ือโประโยชนส์ วนตน -ักำรสงเสริมหรือสนบั สนนุ ัให้ผ้รู วมงำนแสวงหำประโยชนส์ วนตน -ักำรเจรจำทเ่ อ้ือผลประโยชนข์ องกลมุ และพวกพ้อง -ักำรเพิกเฉยตอกำรรักษำผลประโยชน์ของสวนรวม -ักำรใชอ้ ำนำจหนำ้ ทเ่ พื่อให้บรษิ ทั ของตนหรอื พรรคพวกได้รบั งำนจำกหนวยงำน -ักำรเรยกร้องผลตอบแทนจำกกำรใช้อทิ ธพิ ลในตำแหนงหนำ้ ท่ัเพ่ือสงผลท่เปน็ คุณแกฝ่ำยใดฝ่ำยหนง่ึ โดย ไมเปน็ ธรรม -ักำรซือ้ ขำยตำแหนง -ักำรทำงำนหลังเกษยณให้กับหนวยงำนท่มผลประโยชนข์ ัดกนั กับหนวยงำนเดิมัเชนัเคยเปน็ ผู้บรหิ ำร ภำครัฐแลว้ ไปทำงำนเอกชนัใช้อำนำจบำรมเออื้ ประโยชน์กับบรษิ ทั ทท่ ำอยูัหรือหลงั จำกเกษยณแลว้ ไปทำงำนให้ บรษิ ทั ทต่ นเองเคยกำกับดูแล -ักำรใชค้ วำมรู้ัข้อมูลัอทิ ธิพลจำกทท่ ำงำนเดิมมำหำผลประโยชน์ใหก้ บั ตนเองหรือพวกพอ้ งในท่ ทำงำน -ักำรเกณฑ์คนไปตอ้ นรับนำย -ักำรรบั สนิ บนัหรือกำรรับของขวัญัท้ังท่เปน็ ประโยชน์ในรปู ของเงินัและผลประโยชน์ในรูปอ่ืนัๆ โดยตวั ยำงของสภำวะกำรณ่ส์ ถำนกำรณ่ห์ รือพฤตกิ รรมควำมขัดแยง้ กนั ระหวำงผลประโยชนส์ วนตัว และผลประโยชน์สวนรวมทแ่ สดงให้ัเหน็ เปน็ รูปธรรมชัดเจนัเชน - ตัวอยำงั๑.ันำยัก.ัเป็นหัวหน้ำหนวยงำนัมอำนำจหน้ำท่ในกำรพิจำรณำเร่ืองกำรจัดซื้อจัดจ้ำงซ่ึง รวมทั้ง กำรประกวดรำคำกอสร้ำงอำคำรของหนวยงำนัในขณะเดยวกันับริษัทของนำยัก.ัได้เข้ำมำประมูลกำร กอสรำ้ ง อำคำรของหนวยงำนน้นั - ตัวอยำงั๒.ันำยัก.ัมธุรกิจสวนตัวเก่ยวกับเร่ืองพลังงำนัตอมำได้รับแตงต้ังให้ดำรงตำแหนง รัฐมนตรวำกำร กระทรวงพลงั งำนัทำหน้ำท่กำหนดโยบำยพลังงำนของประเทศ -ัตัวอยำงั๓.ันำยัก.ักรรมกำรธนำคำรผู้มอำนำจอนุมัติสินเช่ือัและบริษัทของนำยัก.ัได้มำขอสินเช่ือจำก ธนำคำรันำยัก.ัในฐำนะกรรมกำรธนำคำรัมอำนำจหน้ำท่ในกำรพิจำรณำสินเชอื่ ดังกลำว - ตัวอยำงั๔.ับริษัทัA เป็นบริษัทจดทะเบยนในตลำดหลักทรัพย์ัซื้อท่ดินจำกนำยัก.ัโดยนำยัก.ัเป็นท้ัง เจ้ำของท่ดินท่ขำยและเป็นัCEO ของบริษัทัA จำกตัวอยำงดังกลำวัคือัสถำนกำรณ์ัสภำวกำรณ์ักำรกระทำท่ม ลกั ษณะเปน็ กำรขดั กนั แหงผลประโยชน์ ซ่งึ มควำมเห็นเป็นกำรทั่วไปวำไมดัไมเหมำะัไมควรทำัและควรหลกเล่ยง กำรให้กำรรบั ของขวัญและผลประโยชน์ ควำมหมำยของขวัญและประโยชนอ์ นื่ ใด - ของขวัญและประโยชน์อน่ื ใดัหมำยถงึ ัสิง่ ใดัๆัหรือบรกิ ำรใดัๆั(เงนิ ัทรพั ยส์ ินส่ิงของับรกิ ำร หรืออ่นื ัๆัท่มมูลคำ)ัทข่ ำ้ รำชกำรและเจ้ำหน้ำทข่ องรัฐให้ัและหรอื ได้รับท่นอกเหนือจำกเงินเดือนัรำยไดั้ และ ผลประโยชนจ์ ำกกำรจำ้ งงำนในรำชกำรปกติ - ของขวัญและผลประโยชน์อื่นใดัสำมำรถตคำตรำคำเปน็ เงนิ ัหรืออำจไมสำมำรถตคำตรำคำได้ - ของขวัญท่สำมำรถคดิ รำคำได้ั(Tangible gifts) หมำยรวมถึงัสินคำ้ บริโภคัควำมบนั เทิง กำรตอ้ นรับัใหท้ พ่ กั ักำรเดนิ ทำงัอุปกรณ์เครื่องใช้ัเชนัตัวอยำงสินคำ้ ับตั รของขวญั ัเคร่อื งใช้สวนตวั ับัตรกำนัล บัตรลดรำคำสนิ ค้ำหรือบริกำรัและเงนิ ัเป็นต้น

22 - ของขวัญและประโยชนอ์ ื่นใดท่คดิ เปน็ รำคำไมได้ั(Intangible gifts and benefits) หมำยถงึ ส่ิงใดัๆัหรือบริกำรใดัๆัท่ไมสำมำรถคดิ เป็นรำคำทจ่ ะซอ้ื ขำยได้ัอำทเิ ชนักำรใหบ้ ริกำรสวนตัวักำรปฏิบตั ิดว้ ย ควำมชอบสวนตนักำรเข้ำถงึ ประโยชน์ัหรอื กำรสัญญำวำจะใหห้ รอื กำรสญั ญำวำจะไดร้ บั ประโยชน์ัมำกกวำคนอื่นัๆ องค์กำรบริหำรสวนตำบลคลองน้ำไหลัเป็นหนวยงำนท่มบทบำทในกำรยกระดับควำมโปรงใสในกำรัััั บริหำรรำชกำรแผนดินเพื่อให้เกิดควำมเชื่อม่ันของประชำชนและภำคธุรกิจัรวมถึงภำพลักษณ์ของประเทศในระดับ สำกลัดังน้ันัองค์กำรบริหำรสวนตำบลคลองน้ำไหลั จึงตระหนักถึงควำมสำคัญั และยึดม่ันในกำรดำเนินกำรด้วย ควำมโปรงใสัเป็นธรรมัมควำมรับผิดชอบและอยูภำยใต้กฎหมำยัระเบยบข้อบังคับและมำตรฐำนท่เก่ยวข้องัเพ่ือ หลกเล่ยงกำรดำเนินกำรท่อำจสงผลตอกำรกระทำท่ไมเหมำะสมัเกิดผลประโยชน์ทับซ้อนัรวมทั้งกำรให้สินบนัััั ตำงัๆัประกอบกับข้ำรำชกำรัและลูกจ้ำงในองค์กำรบริหำรสวนตำบลคลองน้ำไหลมควำมสัมพันธ์และเก่ยวข้องกับ บคุ คลในหลำยภำคสวนัซ่ึงอำจมควำมเข้ำใจคลำดเคล่ือนและมควำมเส่ยงตอกำรให้หรือรับของขวัญหรือประโยชน์อ่ืน ใดเกินกวำขอบเขตท่กฎหมำยกำหนดัอกทั้งเกิดควำมเส่ยงตอกำรเป็นชองทำงให้เกิดกำรประพฤติมิชอบอ่ืนัๆัในวง รำชกำรัและเป็นกรณท่อยูในขำยของกำรกระทำท่มลักษณะเป็นกำรฝำ่ ฝืนประมวลจริยธรรมข้ำรำชกำรัอันสงผลตอ ควำมเชื่อมั่นศรัทธำของประชำชนและหนวยงำนท่เก่ยวข้องัตลอดจนอำจเกิดกรณเรื่องร้องเรยนเก่ยวกับกำรปฏิบัติ ตำมประมวลจริยธรรมขึ้นได้ัประกอบกับองค์กำรบริหำรสวนตำบลคลองน้ำไหลัได้เล็งเห็นถึงควำมสำคัญของกำร ปฏิบัติตำมนโยบำยกำรให้และรับของขวัญัและผลประโยชน์ของข้ำรำชกำรและเจ้ำหน้ำท่ภำครัฐัในประมวล จริยธรรมข้ำรำชกำรัข้อบังคับัวำด้วยจรรยำข้ำรำชกำรของสวนรำชกำรตำมประกำศคณะกรรมกำรป้องกันและ ปรำบปรำมกำรทุจริตแหงชำติัเรื่องหลักเกณฑ์กำรรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ัอ่ืนใดโดยธรรมจรรยำของเจ้ำหน้ำท่ ของรัฐัพ.ศ.ั๒๕๔๓ัดังนั้นัเพื่อเป็นกำรสงเสริมและนำไปสูกำรปฏิบัติได้อยำงถูกต้องเหมำะสมในกำรรับักำรให้ ของขวัญัทรัพย์สินัหรือผลประโยชน์อื่นใดัท่สำมำรถกระทำได้ตำมประเพณและศลธรรมจรรยำัหรือเป็นกำรรักษำ สัมพันธภำพัรวมท้ังไมมผลตอกำรตัดสินใจในกำรปฏิบัติหน้ำท่ัท่อำจทำให้องค์กำรบริหำรสวนตำบลคลองน้ำไหลั เสยผลประโยชน์ แนวทำงกำรใหั้ กำรรบั ของขวญั ัทรพั ยส์ นิ ัหรือประโยชนอ์ น่ื ใดัดงั น้ ๑.ับุคลำกรสำมำรถรับของขวัญัทรพั ยส์ นิ ัหรือผลประโยชน์อ่นื ใดัรวมถึงกำรรบั เล้ยงจำกบุคคลอน่ื ได้ใน โอกำสตำงๆัตำมธรรมเนยมัประเพณัหรือวัฒนธรรมัหรือให้กันตำมมำรยำทท่ปฏิบัติในสังคมัโดยกำรรบั น้ันจะต้อง ไมสงผลตอกำรตัดสนิ ใจในกำรปฏิบตั ิหน้ำท่ัรับด้วยควำมโปรงใสัเปิดเผยได้และสิ่งของหรอื ของขวัญหรอื ประโยชนท์ ่ ไดร้ บั ต้องมมูลคำไมเกินั๓,๐๐๐ับำท ๒.ัของขวญั ท่ไดร้ บั ตอ้ งไมเป็นเงนิ สดัหรือเทยบเทำ่ เงนิ สดัเชนัล็อตเตอร่ัห้นุ ัพันธบตั ร ๓.ักำรห้ำมรับของขวญั ัทรพั ย์สนิ ัหรอื ผลประโยชน์อ่นื ใดัทม่ มลู คำเกินกวำั๓,๐๐๐ับำทัเมอ่ื อยูใน สถำนกำรณ์ทไ่ มอำจปฏเิ สธกำรรับของขวญั ัหรอื ผลประโยชน์ดงั กลำวได้ในขณะน้ันัผู้รบั อำจรับของขวัญหรือ ผลประโยชน์ไวก้ อนัโดยจะต้องแจง้ ผู้บงั คับบัญชำทนั ทัและจัดทำแบบรำยงำนกำรรับของขวัญสงให้ผู้บังคับบญั ชำ รับทรำบัทัง้ นั้ หำกผบู้ ังคับบัญชำเห็นวำไมมเหตุท่จะอนุญำตให้ผูน้ ัน้ เกบ็ ทรัพยส์ ินดงั กลำวไวใ้ ห้สงมอบทรัพยส์ นิ ให้ สวนกลำง ๔.ับุคลำกรและครอบครัวจะไมเรยกร้องในกำรรบั ของขวัญัทรพั ยส์ นิ ัหรือผลประโยชนอ์ ื่นใดจำก คสู ญั ญำัหรือผมู้ สวนเกย่ วข้องกบั ในกำรจดั ซ้ือจัดจำ้ งัไมวำจะเปน็ กำรเรยกรอ้ งัหรือรับเพอื่ ตนเองหรือผู้อนื่ ัอันอำจม ผลกระทบตอกำรตัดสินใจในกำรปฏบิ ัตหิ น้ำท่ด้วยควำมลำเอยงัลำบำกใจัหรอื สอไปในทำงจูงใจให้ปฏิบตั ิ/ละเวน้ ปฏิบัติหนำ้ ท่ในทำงมชิ อบัหรือกระทำผิดกฎหมำย ๕.ัของขวญั ัทรัพยส์ นิ ัหรือผลประโยชนอ์ ื่นใดท่รบั หรือให้ตอ้ งไมใชสิ่งผิดกฎหมำย ๖.ัพึงงดเว้นกำรให้ของขวัญแกผูบ้ งั คบั บัญชำหรือบุคคลในครอบครัวของผบู้ ังคับบัญชำหรือรับของขวญั จำกผูใ้ ต้บังคบั บัญชำัโดยไมควรใชข้ องขวญั หรือผลประโยชน์มำแสวงหำควำมชอบัผลประโยชนใ์ ห้กบั หนวยงำนของ ตนหรือตนเองัเวน้ แตเป็นกำรให้ตำมจำรตประเพณัเชนัวันเกดิ ัวันปีใหมัทง้ั นต้ ้องไมเป็นเงนิ สดัและมมลู คำไมสูง เกนิ สมควร

23 ๗.ักำรแสดงควำมยินดักำรแสดงควำมปรำรถนำดักำรแสดงกำรต้อนรบั ัหรือกำรแสดงควำมเสยใจใน โอกำสตำงๆัตำมประเพณนยิ มัควรใช้บัตรอวยพรัสมดุ อวยพรับตั รแสดงควำมยนิ ดแทนกำรใหข้ องขวัญ ๘.ับุคลำกรต้องไมยินยอมหรือรเู้ ห็นเปน็ ใจให้บุคคลในครอบครัวรับของขวัญัทรพั ย์สนิ ัหรือ ผลประโยชน์




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook