ส32101 สังคมศึกษา 3

30 5 Pre-Test 25 10 ขอ 20 10 15

หเรมิ่มตดวั เจวบั เลวลาา! 1. เคร่ืองมือทางภูมิศาสตรชนิดใดสําคัญท่ีสุด 30 5 สาํ หรับนักเดินเรือ 25 1. เขม็ ทศิ 2. แผนที่ทะเล 3. แผนทก่ี ารเดินเรือ 4. รูปถา ยทางอากาศ 20 10 15

หเรมิ่มตดวั เจวบั เลวลาา! 2. นักเรียนคิดวาเคร่ืองมือทางภูมิศาสตรใด 30 5 ทีเ่ กยี่ วขอ งกับชวี ิตประจําวนั ของเรามากทส่ี ุด 25 1. อินเทอรเนต็ 2. รูปถา ยทางอากาศ 3. ภาพถายดาวเทยี ม 4. แผนทแ่ี สดงเสนทางหลาง 20 10 15

หเรมิ่มตดัวเจวบั เลวลาา! 3. ขอใดเปนเคร่ืองมือทางภูมิศาสตรที่ใหขอมูล 30 5 สารสนเทศทต่ี องนาํ มาวเิ คราะหแ ละแปลความ 25 1. แผนที่เลม 2. เข็มทิศและแอลตมิ ิเคอร 3. เครือ่ งวดั น้าํ ฝนและลูกโลก 4. รปู ถายทางอากาศ 20 10 15

หเรม่ิมตดัวเจวบั เลวลาา! 4. ผูใชแผนที่ควรมีความรูพ้ืนฐานในขอใด 30 5 มากทส่ี ุด จึงจะสามารถอา นแผนท่ไี ดถูกตอง 25 1. ประเภทของแผนที่ 2. ภมู ิประเทศในแผนที่ 3. ความหมายของแผนท่ี 4. องคประกอบของแผนที่ 20 10 15

หเรมิ่มตดวั เจวบั เลวลาา! 5. “การกําหนดตําแหนงที่ต้ังของจุดหนึ่งจุดใด 30 5 บนพ้ืนผิวโลก เพ่ือใหทราบวาจุดๆ นั้นต้ังอยูท่ีใด 25 ตอ งอาศยั เสนละติจดู และลองจจิ ดู ” ความหมายน้ี คือความหมายของสงิ่ ใด 1. พิกัดทางภูมิศาสตร 2. ระบบรบั รูร ะยะไกล 3. ระบบติดตามระยะไกล 4. ระบบสารสนเทศทางภูมศิ าสตร 20 10 15

หเรมม่ิ ตดัวเจวบั เลวลาา! 6. “เวลามาตรฐานทองถิ่น” มีความหมาย 30 5 ตรงกบั ขอ ใด 25 1. เวลาของพื้นที่ที่ไดร บั แสงอาทิตย 2. เวลาทก่ี ําหนดขึน้ เองในแตล ะพ้ืนที่ 3. เวลามาตรฐานกรนี ิช 4. เวลามาตรฐานตามเขตเวลา แตละพืน้ ท่ี 20 10 15

หเรม่มิ ตดวั เจวบั เลวลาา! 7. หากครูปอมปตองการขึ้นเคร่ืองบินเดินทาง 30 5 จากประเทศไทยไปประเทศอังกฤษ ครูปอมปตอง 25 ปรบั เวลาในนาฬกิ าขอ มอื อยา งไร 1. ปรับเวลาเพม่ิ ขน้ึ 4 ชว่ั โมง 2. ปรับเวลาลดลง 4 ชว่ั โมง 3. ปรบั เวลาเพมิ่ ข้นึ 7 ช่ัวโมง 4. ปรบั เวลาลดลง 7 ชวั่ โมง 20 10 15

หเรม่มิ ตดวั เจวบั เลวลาา! 8. ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร (GIS) เปนการ 30 5 รวบรวม จดั เกบ็ และวิเคราะหขอ มูลทางภูมิศาสตร 25 โดยใชห ลกั การของเคร่อื งมือชนิดใด 1. ยานขนสงอวกาศ 2. ดาวเทยี มส่ือสาร 3. ระบบคอมพิวเตอร 4. สถานีรับสญั ญาณภาคพื้นดิน 20 10 15

หเรม่ิมตดวั เจวับเลวลาา! 9. ขอใดตอไปน้ีกลาวไมถูกตองเก่ียวกับประโยชน 30 5 ของ GPS 25 1. การใชอา งองิ ในการนับเวลา 2. การสํารวจรังวัดและการทําแผนท่ี 3. การใชคลนื่ แสงในการทําลายสารพิษ 4. การตดิ ตามการเคล่ือนท่ีของคนและ วัตถุ 20 10 15

หเรมิม่ ตดวั เจวับเลวลาา! 10. ปจจุบันเราใชประโยชนจากโปรแกรม 30 5 Google maps ในดา นใดมากที่สดุ 25 1. บอกเสนทางลมพายุ 20 10 2. บอกทิศทางการเดินทาง 15 3. บอกเสน ทางเส่ยี งอทุ กภัย 4. บอกสภาพลมฟาอากศประจาํ วัน เดก็ ๆจะทาํ ได ไหมนะ





แผนท่เี ปน เครอื่ งมือสําคัญในการอธบิ ายขอมลู และปรากฎการณต า ง ๆ ท่เี กิดขนึ้ บนพน้ื โลก การศึกษาถึงความหมาย องคป ระกอบ การอาน และ แปลความหมายของแผนท่ี ทําใหมีความรู นําไปประยกุ ตใ ชในชวี ิตประจําวนั ได 1.1 ประเภทของแผนท่ี • แผนที่อา งองิ (General reference map) • แผนทีเ่ ฉพาะเรอ่ื ง (Thematic map) 1.2 องคประกอบของแผนที่ • ชอ่ื แผนที่ (Title) ขอบระวาง (Margin) • มาตราสว น (Scale) สัญลกั ษณ (Symbol) • ทศิ (Direction) เสน โครงแผนท่ี (Map projection) • ระบบพกิ ัดภูมิศาสตร (Geographip coordinate system)

ชอื่ แผนที่ มาตราสว น บอกพ้ืนที่และขอ มูลทแี่ สดง อตั ราสวนระยะทางในแผนที่ กบั ระยะทางจรงิ บนพื้นผวิ โลก ในแผนท่ีนัน้ ๆ ทิศ สญั ลักษณ บอกทิศทางของแผนที่ แทนสง่ิ ท่ีปรากฏบนผิวโลก กาํ หนดใหเ ปนทศิ เหนือเสมอ ตามตาํ แหนง ที่ตงั้ ตา ง ๆ ระบบพิกัดภมู ศิ าสตร จดุ ทตี ัดกันของคาละตจิ ูด ขอบระวาง และคาลองจจิ ดู ขอบเขตของพ้นื ทแ่ี สดงแผนท่ี และมตี วั เลขบอกคา พกิ ดั ภูมศิ าสตร คาํ อธบิ ายสญั ลกั ษณ อธิบายความสูงต่าํ ดวยสี เสน โครงแผนท่ี แทนสญั ลกั ษณภ มู ิประเทศ เสน เมรเิ ดียนและเสนขนาดละติจูด ถายทอดลกั ษณะทรงกลมของโลก



To be continued…