Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือประชาชนป้องกันโรคที่มากับน้ำท่วม

คู่มือประชาชนป้องกันโรคที่มากับน้ำท่วม

Description: สุขภาพ

Search

Read the Text Version

ค่มู ือประชาชน สาํ หรบั ปอ้ งกนั โรคท่มี ากบั น้ําท่วม ค่มู อื ประชาชน สาํ หรับปอ้ งกนั โรคท่มี ากบั น้ําทว่ ม

ค่มู อื ประชาชน สาํ หรบั ปอ้ งกนั โรคที่มากบั น้ําท่วม คู่มือประชาชน สําหรบั ปอ้ งกันโรคที่มากบั น้ําท่วม คํานํา ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา โลกประสบกับภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว คล่ืนสึนามิ พายุฝน นํ้าท่วมหลายครั้ง และมีแนวโน้มรุนแรงมากข้ึน รวมถึงประเทศไทยก็ประสบกับภัยธรรมชาติหลายคร้ัง โดยเฉพาะปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มท่ีมีแนวโน้มเพ่ิมมากขึ้น ท้ังด้านความรุนแรง พืน้ ท่ีและประชาชนทไ่ี ด้รบั ผลกระทบ นอกจากอันตรายท่ีเกิดจากอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มโดยตรงแล้ว ผลกระทบที่ตามมาคือ สภาวะความเป็นอยู่ของประชาชนผู้ประสบภัยเปลี่ยนแปลงไป เช่น ต้องอาศัยอยู่ในส่ิงแวดล้อมที่มีนํ้าท่วมขังนาน ๆ อาหารและนํ้าดื่มน้ําใช้ท่ีสะอาดขาดแคลน การขบั ถ่ายและการกําจดั ขยะไมถ่ ูกสุขลกั ษณะ รวมถงึ สัตว์เลย้ี งหรือสตั วพ์ าหะนาํ โรคตา่ ง ๆ มาอยู่ใกลม้ นษุ ย์ หรือชุมชนมากขึ้น เหล่าน้ีล้วนก่อให้เกิดความเส่ียงท่ีจะเกิดโรคติดต่อท่ีอาจจะเกิดการระบาดเป็นวงกว้าง ซํ้าเติมผู้ประสบภยั หน่วยงานต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องทั้งภาครัฐ ท้องถิ่น เอกชน และชุมชนจึงมีหน้าท่ีในการแก้ไข ปญั หาและบรรเทาทกุ ข์ของประชาชน อยา่ งไรกต็ าม กาํ ลังสําคญั หรือผูท้ ป่ี ระสบภัยเองมีส่วนสําคัญย่ิง ที่จะช่วยลดผลกระทบท่ีเกิดขึ้นได้ ถ้ามีความรู้หรือได้รับคําแนะนําในการปฏิบัติดูแล ตนเองเบื้องต้น ทเ่ี หมาะสมอนั จะเปน็ การปอ้ งกันและบรรเทาโรคภยั ต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนได้ หนังสือคู่มือนี้จึงหวังเป็นอย่างย่ิงท่ีจะสนับสนุนให้ประชาชนได้ทราบถึงโรคภัยที่อาจ มากับภาวะอุทกภัย เพ่ือประชาชนจะได้สามารถป้องกัน ดูแลตนเองเบ้ืองต้นได้ อันจะเป็นการ บรรเทาปัญหาไดอ้ ีกทางหน่งึ (นายพรเทพ ศิรวิ นารังสรรค)์ รองปลดั กระทรวงสาธารณสขุ รกั ษาราชการแทนอธบิ ดกี รมควบคุมโรค ตุลาคม 2554

คู่มอื ประชาชน สาํ หรบั ป้องกนั โรคทีม่ ากบั นํ้าท่วม คู่มือประชาชน สําหรบั ปอ้ งกนั โรคที่มากบั นํา้ ท่วม สารบัญ สารบัญ (ตอ่ ) 1. การเตรียมพรอ้ มก่อนนํ้าท่วม หนา้ 11. โรคติดต่อทพี่ บบอ่ ยในชว่ งน้าํ ท่วม และหลงั นํา้ ลด หน้า 2. นาํ้ ด่ืม นํา้ ใช้สะอาด ` โรคผวิ หนงั 3. อาหารสุก สะอาด ปลอดภัย 1 ` โรคตาแดง 22 4. มือสะอาด รา่ งกายสะอาด ปอ้ งกนั โรคได้ 2 ` โรคระบบทางเดินหายใจ 22 5. ขับถ่ายในส้วม หยดุ การแพร่โรคระบาด 3 * ไขห้ วดั 23 6. การจัดการขยะ 5 * ไขห้ วดั ใหญ่ 25 7. การป้องกันอุบัตเิ หตุ และการดูแลบาดแผล 6 * โรคปอดบวม 25 8. การปอ้ งกันการจมน้าํ 7 ` โรคหดั 26 9. การปฏบิ ตั ิตวั เมอ่ื ถูกสตั ว์ แมลงมพี ิษกัด 8 ` โรคมือ เทา้ ปาก 27 13 ` โรคอจุ จาระร่วง 29 ` งู 15 ` โรคฉ่หี นู 31 ` แมลง สัตวอ์ ืน่ ๆ 15 ` โรคไขเ้ ลอื ดออก 33 ` ปลงิ 17 ` โรคมาลาเรยี 35 10. การดแู ลสตั ว์เพอื่ ป้องกนั โรคตดิ ตอ่ ระหวา่ งสัตว์และคน 18 37 20 12. การปฏิบัติตวั หลังนํ้าลด 39 40

คู่มือประชาชน สําหรับปอ้ งกนั โรคท่มี ากับนํ้าท่วม คูม่ อื ประชาชน สาํ หรบั ปอ้ งกนั โรคท่มี ากับนา้ํ ท่วม 1. การเตรยี มพรอ้ มกอ่ นน้าํ ท่วม 2. น้าํ ดื่ม นํ้าใชส้ ะอาด การเตรียมพร้อมเป็นส่ิงสําคัญย่ิง ไม่ควรประมาทว่าจะไม่เกิดนํ้าท่วม การทาํ นา้ํ ดม่ื น้ําใช้ให้สะอาด โดยเฉพาะในพ้ืนท่ีท่มี ีประวัตินํ้าทว่ มมากอ่ น หรือพ้นื ท่เี ส่ียง ควรเตรยี มพรอ้ ม ดังน้ี 1. ต้มให้เดือดนาน5นาที เพ่ือทําลายเชื้อโรคในน้ําและช่วยทําลายความกระด้างของนํ้าได้ 1. ตดิ ตามข่าวและสถานการณน์ ้ําท่วมอย่างสม่าํ เสมอ น้ําที่นาํ มาต้มควรเปน็ นาํ้ ที่ใสสะอาดผ่านการกรองหรอื ทาํ ใหต้ กตะกอนแล้ว 2. เตรียมนํ้าสะอาด อาหาร อาหารกระป๋อง ยาท่ีจําเป็นต่างๆ เช่น ยาลดไข้ 2. ใช้สารส้มกวนในนํ้า สังเกตตะกอนในนํ้าเร่ิมจับตัว นําสารส้มออกใช้มือเปล่า ยาหยอดตา ยาใส่แผล ผงนํ้าตาลเกลือแร่ ยาประจําตัวสําหรับผู้ที่มีโรค กวนนํ้าตอ่ อกี 1-2 นาที ตั้งทง้ิ ไวจ้ นตกตะกอน ใช้สายยางจุ่มไปที่ก้นภาชนะบริเวณที่ ประจําตัว อุปกรณ์ท่ีจําเป็น เช่น อุปกรณ์การส่ือสารพร้อมแบตเตอรี่สํารอง เกิดตะกอน ดูดตะกอนออกจนหมด เหลือแต่น้ําใส เติมคลอรีนตามปริมาณและ อุปกรณ์ชูชีพ ไฟฉายพร้อมถ่านไฟฉาย เทียนไข ไม้ขีดไฟ ถุงขยะ หรือ วธิ กี ารทีก่ ําหนดก่อนการนาํ ไปใช้ ถุงพลาสตกิ ให้เพยี งพอ ให้สามารถช่วยตนเองได้ 5 - 7 วัน 3. ศึกษาแผนปฏิบัติในกรณีฉุกเฉินของชุมชน สัญญาณต่างๆ การติดต่อ 3. การใช้คลอรนี เพ่ือฆ่าเช้ือโรคในนาํ้ สามารถทําได้โดย การเตือนภยั เสน้ ทางการอพยพ และสถานที่ตั้งท่ีพักฉุกเฉินหรือศูนย์อพยพ - คลอรีนชนิดผง ผสมผงปูนคลอรีน 60% ในอัตราส่วนคลอรีน ½ ช้อนชา 4. เตรียมช่องทางติดต่อกับหน่วยงานในท้องถิ่น ชุมชน สําหรับความต้องการ ช่วยเหลือกรณพี ิเศษ เชน่ เดก็ เลก็ หญิงตงั้ ครรภ์ ผปู้ ่วยโรคเรือ้ รงั ผู้พกิ าร ในน้ํา 1 แก้ว คนให้เข้ากันทิ้งไว้ให้ตกตะกอน รินเฉพาะส่วนท่ีเป็นน้ําใสผสมในน้ํา 5. หากมีสัตว์เลี้ยง ให้เตรียมสิ่งของจําเป็นสําหรับการดูแลสัตว์ เช่น สะอาด 10 ปบี๊ ต้ังทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทกี อ่ นนาํ ไปใช้ อาหาร พื้นท่ีสําหรบั สตั ว์ รวมท้ังการป้องกันโรคท่อี าจเกิดจากสตั ว์สคู่ น - คลอรีนชนดิ เมด็ มีหลายขนาด เช่น ขนาด 2.5 กรมั 3 กรมั หรือ 5 กรมั ต่อเม็ด ใหผ้ สมนํ้าในสดั ส่วนตามฉลากท่รี ะบุไว้ข้างกระปอ๋ ง - คลอรีนชนดิ น้าํ ใชห้ ยดลงในน้าํ 1-2 หยดต่อน้าํ 1 ลติ ร 4. ปิดฝาภาชนะใสน่ ํา้ ใหม้ ดิ ชดิ และจดั ใหม้ ภี าชนะท่สี ะอาดสําหรบั ตักนา้ํ ในกรณีใช้นํ้าด่ืมบรรจุขวด จะต้องดูตรา เครื่องหมาย อย. (ก่อนดื่ม ให้สังเกตความ สะอาดของน้ําภายในขวด ว่ามีส่ิงปลอมปนหรือไม่) ควรทําลายขวด ภาชนะบรรจุ โดยทบุ บบี ให้เล็กลง กอ่ นนําไปทง้ิ ในถงุ ดํา เพือ่ งา่ ยและสะดวกตอ่ การนําไปกําจัด 12

คู่มอื ประชาชน สาํ หรบั ปอ้ งกันโรคที่มากบั นํา้ ท่วม คมู่ อื ประชาชน สาํ หรับป้องกันโรคทมี่ ากบั นํา้ ท่วม 3. อาหารสุก สะอาด ปลอดภัย เม่อื มอี าการท้องรว่ ง ใหป้ ฏบิ ตั ิตวั ต่อไปน้ี การใส่ใจอาหารท่ีรับประทาน ตั้งแต่วัตถุดิบ เครื่องปรุง ภาชนะท่ีใช้ในการ - กินอาหารอ่อนย่อยง่าย และดื่มของเหลวมากกว่าปกติ ประกอบอาหาร ภาชนะใส่อาหาร ต้องสะอาด ถูกสุขลักษณะ เก็บรักษาอาหารให้มิดชิด เช่น น้ําแกงจดื นํ้าข้าวใสเ่ กลือ เป็นตน้ ปลอดภัยจากแมลงวันและสัตว์นําโรคเป็นส่ิงสําคัญ ให้หลีกเลี่ยงอาหารท่ีเน่าเสียได้ง่าย เพ่อื ป้องกนั การเกิดโรคระบบทางเดินอาหาร ต้องมพี ฤติกรรมอนามัยทถ่ี ูกต้อง คือ กินร้อน - ด่ืมสารละลายน้ําตาลเกลือแร่ โอ อาร์ เอส ผสมตาม ใช้ชอ้ นกลาง ลา้ งมือใหส้ ะอาดกอ่ นกินอาหารและหลงั ขบั ถา่ ย สัดส่วนท่ีระบุข้างซอง หรือเตรียมสารละลายเกลือแร่เอง โดยผสม ในสถานการณ์น้ําท่วม หากได้รับอาหาร น้ําตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ กับเกลือป่น กล่องหรืออาหารบรรจุถุงพร้อมบริโภค ควรกิน ครึ่งช้อนชา ละลายในน้ําต้มสุกท่ีเย็นแล้ว ภายใน 2-4 ช่ัวโมง ไม่ควรเก็บอาหารไว้นานๆ 1 ขวดกลมหรือ750 ซีซี ให้ผู้ป่วยด่ืม ข้ามม้ืออาหาร สังเกตลักษณะสภาพ สี กล่ินของ บ่อยๆ หากดมื่ ไม่หมดใน 1 วนั ใหเ้ ททิง้ อาหารว่า บูด เสีย หรือไม่ หากอาหารมีลักษณะ ผิดปกติ ห้ามชิมหรือกิน ให้ท้ิงในถุงดํา และนําไป - เดก็ ที่กนิ นม ให้กนิ นมไดต้ ามปกตเิ พื่อป้องกัน กําจัดต่อไป หากต้องนําอาหารค้างม้ือมากิน การขาดน้าํ เกลอื แร่ และขาดสารอาหาร ควรอุ่นให้สกุ อย่างทวั่ ถึงก่อน - รีบพามาพบแพทย์ทันที หากอาการไมด่ ขี ้นึ อาหารจากการบริจาค เช่น อาหารแห้ง บะหมี่ก่ึงสําเร็จรูป และ หรือเมือ่ ถา่ ยเป็นน้าํ จํานวนมาก อาเจยี นบอ่ ย กนิ อาหารหรอื เคร่ืองกระป๋อง ก่อนจะบริโภค ควรตรวจวันหมดอายุ หรือดูสภาพ สี กล่ิน ดมื่ น้ําไม่ไดห้ รอื ได้แต่นอ้ ยมาก มไี ข้ ออ่ นเพลยี มาก ถ่ายอจุ จาระเป็นมกู เลือด และภาชนะบรรจุ หากหมดอายหุ รอื มลี กั ษณะผิดปกติ ให้ท้งิ ทนั ที โดยเฉพาะเด็กเลก็ ผู้สงู อายุ ผปู้ ว่ ยโรคเรื้อรงั ควรแจ้งแพทย์หรอื เจา้ หนา้ ท่ีสาธารณสขุ ทันที 34

คมู่ ือประชาชน สําหรบั ปอ้ งกนั โรคทม่ี ากบั นํา้ ท่วม คมู่ ือประชาชน สําหรับปอ้ งกนั โรคทีม่ ากับนํา้ ทว่ ม 4. มือสะอาด ร่างกายสะอาด ป้องกันโรคได้ 5. ขบั ถ่ายในสว้ ม หยดุ การแพร่โรคระบาด มือ เปน็ อวยั วะสําคัญทีใ่ ช้สัมผัสกับรา่ งกายของตนเอง และสิง่ แวดลอ้ มท่ัวๆ ไป นาํ้ ทว่ มเขา้ ส้วมไม่ได้ แตต่ อ้ งถ่ายอย่างไมแ่ พรเ่ ช้ือโรค ควรถ่ายในห้องส้วมท่ียังใช้การได้ กรณีไม่สามารถใช้ห้องส้วมได้ ควรขับถ่ายลงในถุงดํา ถ้ามือสกปรกก็จะเป็นแหล่งแพร่เช้ือโรคได้ โดยมืออาจเปรอะเป้ือนสิ่งสกปรก เช่น ขยะมูลฝอย ใส่ปูนขาวหรือน้ํายาฆ่าเชื้อโรคลงในถุงใส่อุจจาระแล้วมัดปากถุงให้แน่น กรณีไม่มีปูนขาวหรือ อาหารดิบ ฯลฯ ผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจมีโอกาสท่ีจะใช้มือสัมผัสนํ้ามูก นํ้าลายของ น้ํายาฆ่าเช้ือโรค หลังถา่ ยเสร็จให้มดั ปากถุงใหแ้ นน่ แลว้ รวบรวมสง่ ไปกาํ จัดอย่างถกู วธิ ี ตัวเอง และเชื้อจะไปปนเปื้อนกับสิ่งของรอบๆ ตัว ทําให้คนอ่ืนๆ ท่ีใช้มือหยิบจับส่ิงของ กรณีท่ไี มม่ ีสว้ ม อาจทําส้วมช่ัวคราวอย่างง่ายใช้ยามฉุกเฉนิ ดงั น้ี เหล่านน้ั ได้รับเชือ้ โรคแลว้ นาํ เข้าสูร่ ่างกายเมอื่ ใชม้ ือมาจบั ต้องเยื่อบจุ มกู ตา และปาก ดังนั้น จึงต้องดูแลรักษาให้ “มือสะอาดและมี สขุ ภาพด”ี ตัดเล็บมือใหส้ น้ั อยู่เสมอ กรณมี แี ผลทีม่ อื และ นิ้วมือต้องรักษาให้หายหรือใส่ยา ปิดพลาสเตอร์ไว้ และล้างมือให้สะอาดด้วยนํ้าและสบู่ หรือใช้แอลกอฮอล์เจล ทําความสะอาดมอื ทุกครัง้ • หลงั ไอ จาม หรอื ส่งั นาํ้ มกู • กอ่ นและหลงั จากสัมผสั ผู้ปว่ ย • ก่อนรับประทานอาหาร • กอ่ นและหลังการเตรยี มและปอ้ นอาหารใหเ้ ดก็ • หลงั การขบั ถา่ ย สมั ผัสสตั ว์หรือขยะตา่ งๆ วธิ ที ง่ี ่าย สะดวก และประหยดั ที่สดุ คอื การล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ําสะอาด โดย ถูซอกน้ิวมือ ฝ่ามือ หลังมือ และรอบข้อมือให้ท่ัวถึง แล้วเช็ดมือให้แห้งด้วยผ้าสะอาด หรอื หากปฏบิ ัติไม่ได้ ให้ใชแ้ อลกอฮอลเ์ จลทาํ ความสะอาดมืออย่างน้อย 30 วนิ าทีแทน 56

ค่มู อื ประชาชน สําหรบั ปอ้ งกนั โรคท่ีมากับนํา้ ท่วม คู่มือประชาชน สาํ หรับปอ้ งกนั โรคท่ีมากับนา้ํ ทว่ ม 6. การจดั การขยะ 7. การปอ้ งกันอุบตั เิ หตุ และการดูแลบาดแผล ขยะมูลฝอย ท่ีเกิดจากการประกอบอาหาร การใช้ชีวิตประจําวัน และสิ่งของ อุบัติเหตุ ที่อาจเกิดข้ึนได้ในช่วงนํ้าท่วม เช่น ไฟดูด พลัดตกน้ํา จมนํ้า รวมถึง ที่เสียหายจากนํ้าท่วม หากไม่มีการรวบรวมนําไปกําจัดอย่างถูกต้อง อาจทําให้เกิดการ บาดแผลจากของมีคม เศษแก้วบาด แผลถลอก แผลถูกตํา แผลฟกช้ําต่างๆ เป็นต้น แพร่ระบาดของเช้ือโรคได้ ซึ่งส่วนใหญ่มักทําให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ซงึ่ อาจตดิ เชือ้ โรคแทรกซอ้ น และเป็นสาเหตทุ ําใหเ้ สียชวี ิตได้ เชน่ โรคทอ้ งร่วง หรือเปน็ แหล่งให้เกดิ สัตวพ์ าหะนําโรคต่างๆ เช่น แมลงวนั เปน็ ต้น การป้องกนั ดังนั้น ในการจัดการขยะ ให้ใช้ถุงดําหรือถุงพลาสติกใส่ขยะ มัดปากถุงขยะก่อน แลว้ รวบรวมใหห้ น่วยงานท่เี กีย่ วข้องนาํ ไปกําจดั อย่างถกู หลักสขุ าภบิ าลต่อไป • ตัดไฟฟ้าในบ้านโดยสับคัทเอาต์ของบ้านเพื่อตัดไฟ ป้องกันไฟฟ้าร่ัว ไฟฟ้าดดู ถังขยะควรทําด้วยวัสดุแข็งแรง ทนทาน ไม่รั่วซึม มีความจุไม่เกิน 20 ลิตร มีฝาปดิ มิดชิด และควรใช้ถงุ พลาสติกรองดา้ นในถังขยะ • ถอดปลกั๊ อุปกรณไ์ ฟฟา้ ในบา้ น • เก็บกวาดขยะ วัตถุที่แหลมคม ตะปู ในบริเวณพื้นบ้านและทางเดิน อย่างสมํา่ เสมอ • ระมดั ระวัง และดูแลเด็กอยา่ งใกลช้ ิด อย่าใหเ้ ล่นนํ้า เพราะอาจพลัดตก จมนาํ้ ได้ • สวมใส่รองเท้าขณะเดนิ ในน้ํา เพ่ือปอ้ งกันอบุ ัตเิ หตุจากของมคี ม 78

ค่มู ือประชาชน สําหรับป้องกนั โรคท่มี ากบั น้ําท่วม คู่มือประชาชน สาํ หรับป้องกนั โรคทีม่ ากับน้าํ ท่วม ใส่รองเท้าบู๊ท ช่วยปอ้ งกันอุบัติเหตุและโรคได้ เมื่อเกิดน้ําท่วม อาจเกิดอุบัติเหตุจากการเดินไปชนหรือเหยียบของมีคมต่างๆ ทําให้เกิด บาดแผล และก่อใหเ้ กิดโรคตามมา เชน่ แผลติดเชอ้ื นาํ้ กดั เทา้ เป็นต้น ดงั น้ัน ถา้ จําเป็นต้องเดินย่ํานํ้า ควรใสร่ องเท้าบู๊ทกันนํ้า ไมค่ วรใส่รองเทา้ ที่อบทงั้ วัน และไมใ่ ส่รองเท้าท่ีเปียกช้ืน หากนํ้าล้นเข้าไปใน รองเท้าบทู๊ ให้ถอดแลว้ เทนาํ้ ในรองเท้าออกเป็นคราวๆ ไม่ควรแช่น้ําอยู่ตลอดเวลา หลังการเดินยํ่าน้ํา ทกุ ครั้ง ต้องล้างเท้าให้สะอาด ฟอกสบู่ให้ทั่ว และใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้ง โดยเฉพาะตามซอกนิ้วเท้า หากมีบาดแผล ใหใ้ ชแ้ อลกอฮอล์เชด็ รอบบาดแผล แล้วใสย่ าฆ่าเช้อื เช่น เบตาดนี เป็นตน้ หากหารองเทา้ บทู๊ ไมไ่ ด้ ใหใ้ ช้ถงุ พลาสตกิ ดํามาประยกุ ต์ใช้ทํารองเท้ากันน้ําชว่ั คราว ดังน้ี 9 10

ค่มู ือประชาชน สําหรับป้องกันโรคทีม่ ากบั นํา้ ท่วม ค่มู อื ประชาชน สาํ หรบั ป้องกนั โรคท่มี ากับนํ้าทว่ ม การดูแลบาดแผล การทาํ ความสะอาดบาดแผล บาดแผลท่ีดูแลไม่ดี อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนข้ึน เช่น แผลติดเช้ือจากแบคทีเรีย • ลา้ งบาดแผลดว้ ยน้ําสะอาด ซบั ใหแ้ หง้ ดว้ ยผา้ สะอาด เกิดหนอง เป็นแผลเร้ือรัง เกิดการเน่าของเน้ือเย่ือ จนบางคร้ังอาจทําให้ต้องตัดอวัยวะ • ใชส้ ําลีสะอาดชุบน้าํ ยาแอลกอฮอลเ์ ช็ดรอบๆ แผล ไมต่ ้องเชด็ ลงบนแผล ส่วนนั้นทง้ิ ไป หรือเสยี ชีวติ ได้ • ใสย่ าฆ่าเช้ือโรค เชน่ เบตาดีน ลงบนแผล เพอ่ื ไมใ่ ห้เกิดการตดิ เชอื้ • ปดิ แผลดว้ ยพลาสเตอร์ หรือผา้ พนั แผล ไม่ใชส้ าํ ลปี ิดแผล การปฏบิ ตั เิ ม่อื เกิดบาดแผล เพราะเม่อื แผลแหง้ แลว้ จะติดกบั สาํ ลี ทาํ ใหด้ งึ ออกยาก เกดิ ความเจบ็ ปวด และทําใหเ้ ลอื ดออกไหลไดอ้ กี แผลข่วน แผลถลอก หรอื แผลแยกของผวิ หนังท่ีไม่ลึก จะมีเลือดออกเล็กน้อย • ทาํ ความสะอาดแผลเปน็ ประจาํ ทุกวนั และหยดุ เองได้ แผลพวกนไ้ี ม่ค่อยมอี ันตราย ให้ทาํ ความสะอาดบาดแผล โดยใส่ยาฆ่าเชอ้ื • หลีกเลยี่ งไมใ่ หแ้ ผลสกปรก หรือเปยี กนาํ้ เชน่ เบตาดนี และปิดปากแผล แผลก็จะหายเอง • สงั เกตอาการอักเสบของบาดแผล เชน่ บวม แดง ร้อน สผี วิ ของบาดแผล เปลี่ยนไป มีหนอง ควรรีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าท่สี าธารณสขุ แผลฉีกขาด เป็นแผลที่เกิดจากแรงกระแทก หากเป็นวัสดุที่ไม่มีคม แผลมักฉีก เพ่อื รักษาตอ่ ไป ขาดขอบกระรุ่งกระร่ิง แผลชนิดน้ีเนื้อเยื่อถูกทําลายและมีโอกาสติดเช้ือมาก ควรทํา ความสะอาดบาดแผลให้สะอาด ถ้าบาดแผลลึกมากควรนําส่งโรงพยาบาล เพราะผู้ป่วย อาจได้รบั อันตรายจากการตดิ เช้ือโรคได้ 11 12

คมู่ ือประชาชน สาํ หรับปอ้ งกนั โรคทมี่ ากบั น้ําท่วม คมู่ อื ประชาชน สําหรบั ป้องกนั โรคทม่ี ากับนํ้าท่วม 8. การปอ้ งกันการจมนํ้า การทําชูชีพอย่างง่าย การป้องกนั การจมนาํ้ ชว่ งเกดิ นํา้ ท่วม อุปกรณ์ชชู พี สามารถทาํ เองไดจ้ ากวสั ดุท่มี ี หรอื หาได้ 1. ไม่ควรลงไปเลน่ นํ้า บรเิ วณท่ีมีนํา้ ท่วมขงั น้ําเช่ียว โดยใชข้ วดพลาสตกิ หรอื แกลลอนพรอ้ มฝาปดิ ขนาดพอเหมาะ หรือแมแ้ ตใ่ นกะละมงั เพราะนอกจากจะเส่ียงตอ่ การเจบ็ ปว่ ย สาํ หรบั การรับนาํ้ หนกั ตัว จํานวน 2 ใบ และใชเ้ ชอื กท่ีมคี วามยาว อ่นื ๆ แล้ว ยงั เส่ียงตอ่ การจมนํ้าเสยี ชีวติ อีกดว้ ย พอดกี ับการใช้งาน ผกู แกลลอนไว้ดว้ ยกนั ตรวจสอบกอ่ นนาํ ไปใชว้ า่ แกลลอนไมแ่ ตก หรือรัว่ สามารถรบั นํ้าหนกั ผู้ใช้ได้ เชอื กท่ผี กู ตอ้ งมี 2. ผู้ปกครองควรดูแลเดก็ อยา่ งใกล้ชิด ขนาดพอดี ไม่สนั้ หรือยาวเกนิ ไป เพราะจะทําใหไ้ ม่สะดวกเมื่อใชช้ ูชพี 3. ประชาชนควรสํารวจและเฝ้าระวังพ้ืนท่ีบริเวณบ้าน รอบบ้าน และชุมชน ทีเ่ สีย่ งต่อการพลัดตกและจมน้าํ ทาํ ชชู พี จากขวดนาํ้ ดืม่ เปลา่ และถุงปยุ๋ สามารถรองรับคนนํ้าหนกั 70 กิโลกรมั ดงั นี้ 4. ประชาชนท่ีอยูใ่ นภาวะนา้ํ ท่วม ไมค่ วรดม่ื ของมึนเมา 5. ประชาชนผู้ประกอบอาชีพทางนา้ํ เชน่ หาปลา งมหอย ฯลฯ ควรเตรยี ม 1. มดั ขวดน้าํ ดม่ื เปลา่ ทีป่ ิดฝาแลว้ 4 ใบ ใหเ้ รยี งกนั ด้วยเชือก ทําจํานวน 2 ชดุ ความพรอ้ มของสุขภาพรา่ งกายใหเ้ หมาะสม ไมค่ วรออกประกอบอาชีพตามลาํ พงั 2. ใสข่ วดนํ้าทม่ี ดั เรียงลงในถงุ ปุ๋ย แลว้ เยบ็ ปิดถงุ ทํา 2 ชดุ 6. หากจาํ เป็นต้องเดินทาง/ทาํ กิจกรรมทางนาํ้ ควรเตรยี มอุปกรณช์ ูชพี ให้พรอ้ ม 3. ใชก้ รรไกรตดั ถงุ ป๋ยุ ทีเ่ ยบ็ แลว้ ด้านทีไ่ ม่มขี วดน้าํ เปล่า ให้เป็นวงคอเส้อื เช่น เสอ้ื ชชู ีพ ห่วงยาง แกลลอนเปล่า ขวดนา้ํ พลาสติกเปล่า ลูกมะพร้าว เพอื่ ช่วยในการ 4. เยบ็ ถุงป๋ยุ ทงั้ 2 ใบทางดา้ นคอเส้อื เขา้ ดว้ ยกันเป็นเส้ือชชู ีพ เจาะหูรอ้ ยเชอื ก ลอยตัว ด้านขา้ งลาํ ตัวทง้ั ดา้ นบนและดา้ นลา่ ง มัดใหแ้ น่น นําไปทอลองใช้เพอื่ ตรวจสอบการใช้งาน 7. ประชาชนที่มีโรคประจําตัว ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ขณะเกิดเหตุ เช่น โรคลมชัก เครียด ความดนั โลหติ ต่ํา ไม่ควรอยู่ตามลําพัง 13 14

คู่มือประชาชน สาํ หรบั ปอ้ งกันโรคท่ีมากบั นาํ้ ท่วม คมู่ อื ประชาชน สําหรบั ปอ้ งกันโรคที่มากับน้าํ ท่วม 9. การปฏิบัติตัวเมอ่ื ถกู สตั ว์ แมลงมีพษิ กดั • ไม่ควรทําการขันชะเนาะ อาจทําให้เน้ือเย่ือบริเวณนั้น ๆ ขาดเลือดไปเลี้ยง เกิดเป็นเนอื้ ตาย งูกัด เป็นภาวะฉุกเฉินท่ีอาจพบได้กรณีน้ําท่วม • นาํ ส่งสถานพยาบาลทใ่ี กลท้ ่สี ดุ เร็วท่ีสดุ ผู้ถูกงกู ดั ควรดแู ลรักษาตนเองเบอื้ งต้น ดังน้ี • ระหว่างการนําส่ง ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจ ให้ทําการช่วยหายใจ เช่น การช่วย หายใจแบบปากต่อปาก จะช่วยชีวิตผู้ป่วยได้นานพอที่จะไปรับการรักษาท่ีสถานพยาบาลได้ • ต้ังสติให้ดี อย่าตกใจเกินเหตุ เน่ืองจากผู้ถูกงูกัด เพราะงูพิษบางอย่าง เช่น งูเห่า งูจงอาง งูสามเหล่ียม และงูทับสมิงคลา มีพิษทําให้ บางรายท่ีถูกงูพิษกัดอาจไม่ได้รับพิษ เพราะบางคร้ังงูพิษกัด ร่างกายเป็นอมั พาตท้งั ตัว ผถู้ กู งูกัดจะเสยี ชีวติ จากการหยุดหายใจ แต่ไม่ปล่อยพิษออกมา หรืองูพิษตัวนั้นได้กัดสัตว์อ่ืนมาก่อนและไม่มีน้ําพิษเหลือ ในกรณีท่ีได้รับ พิษงู ผู้ถูกงูกัดจะไม่เสียชีวิตหรือมีอาการอันตรายร้ายแรงทันที ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาที สิ่งทค่ี วรรู้ จึงจะเริ่มมีอาการรุนแรง ควรแจ้งให้แพทย์ทราบลักษณะงูที่กัด และกัดบริเวณใด เม่ือไร ถ้านําซากงู • ล้างแผลด้วยนํ้าสะอาด (ถ้ามี) ห้ามทําส่ิงต่อไปนี้ คือ กรีดแผล ดูดแผล ไปดว้ ยก็จะดีมาก แต่ไม่จําเป็นต้องเสียเวลาตามหา และไล่ตีงูเพ่ือนําไปด้วย เพราะจะทํา ใช้ไฟ/ไฟฟ้าจ้ีที่แผล โปะนํ้าแข็ง สมุนไพรพอกแผล ดื่มสุรา กินยาแก้ปวดท่ีมี ให้เสียเวลาในการรักษาโดยไม่จําเป็น ถ้าผู้ป่วยมีโรคประจําตัว เคยมีประวัติแพ้ยาหรือ ส่วนผสมของแอสไพริน การกระทําเหล่าน้ีไม่ช่วยรักษาผู้ถูกงูกัด แต่จะมีผลเสีย เช่น สารใด ๆ ตอ้ งแจ้งให้แพทย์ทราบด้วย เพ่ิมการตดิ เช้อื เนือ้ ตาย และทส่ี าํ คญั ทําใหเ้ สยี เวลาที่จะนาํ สง่ ผถู้ ูกงูกดั ไปสถานพยาบาล ผู้ถูกงูกัดไม่จําเป็นต้องได้รับเซรุ่มแก้พิษงูทุกราย แพทย์จะให้เซรุ่มแก้พิษงู • เคล่ือนไหวร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณท่ีถูกงูกัดให้น้อยท่ีสุด เฉพาะในรายท่ีมขี อ้ บง่ ชท้ี างการแพทย์เทา่ นั้น การเคล่ือนไหวร่างกายมาก ๆ อาจจะทําให้มีการดูดซึมพิษงูจากบริเวณที่ถูกกัดเข้าสู่ ระบบไหลเวียนเลือดมากข้ึน และถ้าทําได้ให้ใช้ไม้ดามบริเวณท่ีถูกงูกัดและใช้ผ้าพันยืด หรือ ผ้าสะอาดพันทับให้แน่นพอประมาณ คล้ายการปฐมพยาบาลผู้ป่วยกระดูกหัก หรือ ข้อมือ ขอ้ เทา้ ซ้น 15 16

คู่มอื ประชาชน สาํ หรับป้องกันโรคทมี่ ากับนํ้าท่วม คมู่ อื ประชาชน สาํ หรบั ปอ้ งกนั โรคทมี่ ากบั นาํ้ ทว่ ม แมลง สัตวอ์ ่ืนๆ ปลิง • ผ้ึง ต่อ แตน กัดต่อย ให้ใช้หลอดเล็กๆ ปลิง เป็นสัตว์ท่ีกัดและดูดเลือดคนและสัตว์เป็น แข็งๆ หรือปลายด้ามปากกาลูกลื่นที่ถอดไส้ อาหาร โดยปล่อยสาร ที่กระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัว และ ออกแล้ว ครอบจุดที่ถูกกัดต่อยและกดให้ สารต้านทานการแข็งตัวของเลือด ทําให้คนท่ีถูกกัดเลือดไหล เหล็กในโผล่ข้ึนมา แล้วจึงใช้วิธีคีบดึงออก ไม่หยุดและเสียเลือดเรื่อยๆ หากปลิงไชเข้าไปในลําไส้ใหญ่ อย่าใช้วิธีบีบหรือเค้น เพราะจะทําให้ และทะลุลําไส้ จะทําให้ช่องท้องอักเสบ หากปลิงเข้าไปใน เนื้อเย่ือบริเวณที่ถูกกัดต่อยบวมได้ ทาแผล กระเพาะปัสสาวะจะทําให้เกิดเป็นก้อนน่ิวในภายหลัง ดว้ ยแอมโมเนยี หรือครมี ไตรแอมซโิ นโลน แต่พบไดน้ อ้ ย • ตะขาบ แมงป่ องกั ด อาการที่พบจากการถูกปลิงกัดคือ มีเลือดไหลออกมาจากทวาร รู หรือโพรง ให้ทาแผลด้วยแอมโมเนีย หลังการแช่นํ้า เช่น เลือดกําเดาออก ไอหรืออาเจียนเป็นเลือด มีเลือดออกทางทวาร หรอื ครีมไตรแอมซิโนโลน หรือช่องคลอด ทําให้เสียเลือดมาก ถ้าหากปลิงอยู่ในโพรงจมูกอาจทําให้ปวดศีรษะ เป็นเวลานาน ถา้ อยูใ่ นกลอ่ งเสยี งจะทําให้ไอเปน็ เลอื ด หายใจไมอ่ อก • ถ้ามีอาการปวดมาก มี อ า ก า ร แ พ้ เ ช่ น ห นั ง ต า บ ว ม การดแู ลตนเองเบ้ืองตน้ หายใจไม่สะดวก ควรรบี ไปพบแพทย์ 1. ควรเดินทางโดยเรือหรืออุปกรณ์อ่ืนท่ีลอยนํ้าได้ ถ้าจําเป็นต้องเดินลุยน้ํา 17 โดยเฉพาะจุดท่ีมีนํ้าท่วมสูงระดับเอวขึ้นไป ขอให้แต่งตัวให้มิดชิด ควรใส่กางเกงใน สวมกางเกงขายาวและสวมถุงพลาสติกหุ้มเท้าและหุ้มปลายขากางเกงท้ัง 2 ข้าง แล้วรัด ด้วยเชอื กหรอื ยางเพื่อป้องกนั ไม่ใหป้ ลิงเขา้ ไปในกางเกงได้ 18

คมู่ อื ประชาชน สาํ หรบั ป้องกันโรคทม่ี ากับนํา้ ท่วม คมู่ อื ประชาชน สาํ หรับป้องกนั โรคท่ีมากบั นํ้าทว่ ม 2. หลกี เลย่ี งการเลน่ นํา้ หรอื แช่นํา้ นานๆ โดยเฉพาะในบรเิ วณทน่ี า้ํ ทว่ มขัง 10. การดแู ลสตั วเ์ พ่ือป้องกนั โรคตดิ ตอ่ ระหวา่ งสัตว์และคน 3. ระมัดระวังบุตรหลานหรือเด็กเล็กที่เล่นนํ้าในบริเวณนํ้าท่วมขัง เพราะเส่ียง ตอ่ การท่ีปลิงจะเกาะและชอนไชเขา้ ไปในทวาร รู ชอ่ ง และโพรงตา่ งๆ ของรา่ งกายได้ ระยะก่อนนา้ํ ท่วม ควรปฏิบตั ิ ดังนี้ 4. กรณถี กู ปลงิ กดั หรอื ดูดเลือด 1. จัดเตรยี มอาหารสัตวแ์ ละนาํ้ สะอาดไวใ้ หพ้ รอ้ มใช้ยามฉุกเฉนิ • หากเห็นตัวปลิงเกาะอยู่บนร่างกายไม่ควรดึงออกทันที เพราะจะทําให้เนื้อ 2. งดการนําสัตว์ใหม่เข้ามาในพื้นท่ี หากจําเป็นต้องทราบประวัติ และแยกสัตว์ใหม่ ฉีกขาดเป็นแผลใหญ่ และเลือดหยุดยากข้ึน ควรใช้น้ําเกลือเข้มข้น (ใช้นํ้าผสมเกลือแกง) นํ้าส้มสายชูแท้ หรือแอลกอฮอล์ 70% หยดบริเวณรอบๆปากของปลิง หรืออาจใช้ไม้ขีด ออกจากสตั ว์ทมี่ ีอยู่เดมิ เพ่ือลดความเสย่ี งในการนําเชอ้ื โรคเขา้ พน้ื ท่ี หรอื บุหรีท่ ่ีตดิ ไฟจตี้ วั ปลิง จะทําให้ปลงิ หลุดออกได้ 3. ให้ยาถ่ายพยาธิและกําจัดเห็บ หมัด ไร (ถ้าเป็นไปได้ควรมีการตรวจสุขภาพ • ทําความสะอาดบาดแผลด้วยยาฆ่าเชื้อเบตาดีนหยดลงบนสําลีหรือไม้พัน สัตว์ดว้ ย) สาํ ลที สี่ ะอาด เช็ดเป็นวงรปู ก้นหอยจากส่วนในแผลออกสู่ส่วนรอบนอกของแผล 4. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคท่ีอาจติดต่อถึงคนได้ เช่น วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า • กรณีไม่มียาทําความสะอาดบาดแผล อาจใช้วิธีการพ้ืนบ้าน เช่น ใช้ใบ เป็นต้น สาบเสือลา้ งให้สะอาดนํามาขยีป้ ิดปากแผล ใช้ยาเส้นพอกปดิ ปากแผล เป็นตน้ 5. อพยพย้ายสัตว์ไปยังพื้นท่ีปลอดภัย กรณีไม่สามารถเคล่ือนย้ายสัตว์ได้ • หากเลือดยังไม่หยุดไหล ให้ใช้ยาซ่ึงมีฤทธิ์ช่วยในการหดตัวของเนื้อเย่ือ ยกพื้นท่ีเล้ียงสัตว์ให้สูงข้ึนและพ่นทําลายเช้ืออย่างถูกต้อง และหม่ันสังเกต และหลอดเลอื ด เช่น คาลามาย โลชนั ทาบริเวณปากแผล ดูอาการของสัตวว์ า่ มอี าการป่วยหรือไม่ 6. กรณีพบสัตว์ป่วยให้แยกสัตว์ออกจากฝูง และรีบแจ้งปศุสัตว์ในพ้ืนท่ี หรือ 5. หากสงสัยว่า ปลิงชอนไชเขา้ ไปในรา่ งกาย เช่น มเี ลือดออกตามช่องหรือโพรง Call Center กรมปศสุ ัตวห์ มายเลข 08 5660 9906 ต่างๆ ไมห่ ยุด ใหร้ ีบนาํ ส่งโรงพยาบาล แพทย์จะไดช้ ่วยเหลือคบี ปลิงออกได้ทนั 19 20

คมู่ อื ประชาชน สําหรับป้องกนั โรคทมี่ ากบั นา้ํ ท่วม คูม่ อื ประชาชน สาํ หรับป้องกันโรคที่มากับนาํ้ ทว่ ม ระยะน้ําทว่ มและหลังนํา้ ลด ควรปฏบิ ัติดังนี้ 11. โรคตดิ ต่อที่พบบ่อยในชว่ งนา้ํ ท่วมและหลังน้าํ ลด 1. เพม่ิ ความระมัดระวงั การถกู สตั ว์กดั หรอื ข่วน โรคผวิ หนงั 2. ลา้ งมือด้วยสบแู่ ละน้าํ ทุกคร้งั หลงั สัมผสั สัตว์ 3. ทําความสะอาดคอกสัตว์หรือเพิงพัก อุปกรณ์ท่ีใช้กับสัตว์เล้ียง โรคผิวหนังท่ีพบบ่อย ได้แก่ โรคน้ํากัดเท้า โรคผิวหนังจากเชื้อรา แผลพุพองเป็นหนอง เป็นต้น ซ่ึงเกิดจากการย่ําน้ําหรือแช่นํ้าท่ีมีเชื้อโรค ด้วยผงซักฟอกตามด้วยนํ้ายาฆ่าเชื้อเป็นประจํา พร้อมทั้งสวมถุงมือหรือ หรือความอับชื้นจากเส้อื ผ้าเคร่ืองแต่งกายทไ่ี ม่สะอาด ไม่แหง้ เปน็ เวลานาน ถุงพลาสติกกันน้ําทุกครั้ง โดยต้องปฏิบัติตามคําแนะนําของฉลากอย่าง ระมดั ระวัง อาการ 4. ท้งั คนและสตั ว์ ควรลดการสมั ผัสกับสตั ว์ภายนอกบ้าน • ในระยะแรกอาจมีอาการเท้าเปือ่ ย และเป็นหนอง 5. เศษอาหารและอุจจาระของคนและของสัตว์เลี้ยง ต้องเก็บทิ้งให้เป็นท่ี • ต่อมาเรม่ิ มีอาการคนั ตามซอกนวิ้ เท้า และผวิ หนังลอกออกเปน็ ขุย มผี นื่ อย่าปล่อยท้ิงให้เป็นแหล่งของแมลงวัน หนูหรือสัตว์อื่นๆ ซึ่งอาจนําเช้ือโรค • ระยะหลงั ๆ ผิวหนงั ทีเ่ ท้าเกดิ พพุ อง นิ้วเท้าหนาและแตก อาจเกิดโรคแทรกซอ้ น เขา้ มาส่คู นและสัตวเ์ ลยี้ งได้ 6. หากมีสัตว์ใหญ่ตายหรือสัตว์ตายจํานวนมาก ให้แจ้งเจ้าหน้าท่ีปศุสัตว์พ้ืนท่ี เช่น ผิวหนังอกั เสบได้ มาดําเนนิ การ หรอื Call Center กรมปศุสตั วห์ มายเลข 08 5660 9906 7. ไม่ควรนําสัตว์ท่ีตายโดยไม่ทราบสาเหตุมารับประทานเพราะอาจทําให้เช้ือ การดูแลตนเองเบือ้ งตน้ แพรก่ ระจายและเจบ็ ปว่ ยได้ • ควรหลกี เล่ยี งการย่ํานาํ้ โดยไม่จําเป็น 8. หากเป็นไปได้ควรแยกพ้ืนที่เลี้ยงสัตว์จากพ้ืนท่ีอยู่อาศัย หรือทําท่ีก้ันแยก • ถ้าจําเปน็ ต้องย่าํ นา้ํ ควรใส่รองเทา้ บทู๊ กนั น้าํ และเมอ่ื กลบั เขา้ บา้ น ควรลา้ ง ชนิดสัตวไ์ มใ่ ห้ประปนกนั 9. ภายหลังน้ําท่วมจะมซี ากสัตวต์ าย ปรากฏในทต่ี า่ งๆ ซึง่ จะตอ้ งจัดการเก็บ เทา้ ให้สะอาดด้วยสบแู่ ละนาํ้ สะอาด แลว้ เช็ดเท้าใหแ้ ห้ง ฝงั โดยเรว็ • สวมใสถ่ ุงเท้า รองเท้า และเสื้อผา้ ทีส่ ะอาดไม่เปียกชืน้ 10. สัตว์ท่ีมีชีวิตอยู่ซ่ึงอดอาหารมาเป็นเวลานานควรรีบให้อาหารและนํา • หลังย่ําน้ําใช้น้าํ สะอาดใสถ่ ัง เกลอื แกง 1 - 2 ชอ้ นชา แชเ่ ท้า 10 นาที เช็ดให้แหง้ กลบั คนื ให้เจา้ ของ และหากมอี าการเทา้ เปื่อย คนั ใหท้ ายารกั ษาตามอาการ • หากมีบาดแผล ควรใชแ้ อลกอฮอล์เชด็ แผล แลว้ ทาด้วยยาฆ่าเช้ือ เชน่ เบตาดีน 21 22

คู่มือประชาชน สาํ หรับป้องกนั โรคท่มี ากับน้ําท่วม คมู่ ือประชาชน สําหรับปอ้ งกันโรคที่มากับน้ําทว่ ม โรคตาแดง การดูแลตนเองเบ้ืองตน้ เป็นโรคท่ีติดต่อได้ง่ายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก เป็นโรคที่ไม่มี • เม่ือมีฝุน่ ละออง หรือน้ําสกปรกเขา้ ตา ควรรีบล้างตาด้วยนํ้าสะอาดทนั ที อันตรายรุนแรง เพราะส่วนใหญ่เกิดจากเช้ือไวรัส แต่ถ้าไม่ได้รับการรักษาต้ังแต่เริ่มเป็น • เมื่อมีอาการของโรค ควรพบแพทย์เพื่อรับยาหยอดตา หรือยาป้ายตาป้องกัน อาจตดิ เช้อื แบคทีเรียแทรกซ้อนได้ ภาวะแทรกซ้อน โดยใช้ติดต่อกันประมาณ 7 วัน หากมีไข้ให้รับประทาน การตดิ ต่อ ยาลดไข้แก้ปวดตามอาการ • จากการสมั ผสั ใกล้ชิดกบั ผ้ปู ่วย ไดแ้ ก่ การสมั ผัสโดยตรงกับนาํ้ ตา ขต้ี า • หม่นั ลา้ งมือใหส้ ะอาดดว้ ยสบู่บ่อยๆ • ไม่ควรขยต้ี า อย่าให้แมลงตอมตา และไม่ควรใช้สายตามากนกั นํา้ มูกของผู้ปว่ ย • ผปู้ ่วยควรนอนแยกจากคนอน่ื ๆ และไมใ่ ช้ส่ิงของตา่ งๆ รว่ มกนั และไมค่ วรไป • จากการใชส้ ิง่ ของเคร่ืองใชร้ ่วมกับผปู้ ว่ ย เชน่ ผา้ เช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ฯลฯ ในทม่ี คี นมาก เพือ่ ไม่ให้โรคแพร่ระบาด • ถา้ มีอาการปวดตารุนแรง ตาพรา่ มวั หรืออาการไม่ทุเลาภายใน 1 สปั ดาห์ หรอื จากแมลงวนั แมลงหวท่ี ม่ี าตอมตา ตอ้ งรีบพบแพทยอ์ ีกคร้งั อาการ • หลังได้รับเช้ือประมาณ 1-2 วัน จะเริ่มมี อาการระคายเคืองตา ปวดตา น้ําตาไหล กลัวแสง มขี ี้ตามาก หลงั ตาบวม เยื่อบุตาขาว อักเสบแดง โดยอาจเริ่มที่ตาข้างหนึ่งก่อน แลว้ จงึ ลามไปตาอีกขา้ ง • ผู้ป่วยมักหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้าไม่ดูแลรักษาให้ถูกวิธี อาจเกิดอาการแทรกซ้อน เชน่ กระจกตาดาํ อักเสบ ทาํ ให้ปวดตา ตามวั 23 24

คูม่ ือประชาชน สาํ หรบั ปอ้ งกนั โรคที่มากบั นํา้ ท่วม ค่มู ือประชาชน สําหรบั ป้องกันโรคท่ีมากบั นา้ํ ทว่ ม โรคระบบทางเดินหายใจ ไข้หวดั ใหญ่ ไข้หวัด เป็นโรคติดต่อจากเช้ื อไวรัส ทําให้เกิดโร คได้ในคนทุกเพศทุกวั ย เช้ือจะแพร่กระจายอยู่ในลมหายใจ เสมหะ น้ําลาย นํ้ามกู และส่ิงของเคร่ืองใช้ของผู้ป่วย เป็นโรคที่ติดต่อไม่อันตราย เกิดจากเชื้อไวรัส ก่อโรคในบุคคลทุกเพศทุกวัย พบได้ จงึ มโี อกาสติดตอ่ กนั ได้งา่ ย บ่อยในช่วงท่ีมีอากาศเปล่ียนแปลง สามารถติดต่อได้จากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย โดยเชอ้ื โรคแพรก่ ระจายมาจากน้ํามูก น้าํ ลาย เสมหะ หรือส่ิงของเครื่องใช้ของผู้ปว่ ย อาการ • มักมไี ข้สูง ปวดศรี ษะ อาการ • ปวดเม่ือยตามตัวมาก • มกั มอี าการครนั่ เน้ือครั่นตัว มีไขเ้ ลก็ นอ้ ย • มนี ํ้ามกู ไหล คดั จมกู ไอ จาม เจ็บคอ เบอื่ อาหาร และอ่อนเพลีย • คดั จมกู มนี าํ้ มกู ใสๆ ไอ จาม • ปวดศีรษะ ปวดเม่อื ยตามร่างกาย ออ่ นเพลีย และเบอื่ อาหาร การดแู ลตนเองเบอ้ื งตน้ • มกั หายได้เองภายใน 1 สัปดาห์ • ผู้ป่วยควรใช้ผ้าปิดปากและจมูกเวลาไอ จาม หรือควรสวมหน้ากากอนามัย เพอ่ื ปอ้ งกันการแพรก่ ระจายของเชอ้ื โรคสบู่ ุคคลอ่ืน • ใช้ผ้าเช็ดหน้า หรือกระดาษนุ่มสะอาด เช็ดนํ้ามูก และไม่ควรส่ังนํ้ามูกแรงๆ เพราะอาจทําใหเ้ กิดหอู ักเสบได้ • กินอาหารที่ออ่ นย่อยง่าย กนิ ผกั และผลไม้ ด่ืมนาํ้ อนุ่ จํานวนมากขึน้ • อาบนํา้ หรือเชด็ ตวั ดว้ ยนํ้าอุ่น แล้วเชด็ ตัวใหแ้ หง้ ทันที • เมื่อไข้สูง หรือเป็นไข้นานเกิน 7 วัน เจ็บคอ ไอมาก เจ็บหน้าอก หรือมี อาการผิดปกตอิ ่นื ๆ ควรไปพบหรอื ปรกึ ษาแพทย์ 25 26

คมู่ อื ประชาชน สาํ หรับป้องกนั โรคที่มากับนํ้าท่วม คมู่ ือประชาชน สาํ หรบั ป้องกันโรคทม่ี ากบั นํา้ ทว่ ม โรคปอดบวม การดแู ลตนเองเบอ้ื งตน้ เกิดจากเชื้อได้หลายชนิด เช่น แบคทีเรีย ไวรัส หรือสําลักส่ิงแปลกปลอมเข้าไป • ตอ้ งรบี พบแพทย์ และรบั การรกั ษาในโรงพยาบาล ในปอด ทําให้มีการอักเสบของปอด ผู้ประสบภัยน้ําท่วม หากมีการสําลักนํ้า หรือส่ิง • ผู้ป่วยควรใช้ผ้าปิดปากและจมูกเวลาไอ จาม หรือใส่หน้ากากอนามัย สกปรกต่างๆ เขา้ ไปในปอด กม็ โี อกาสเป็นโรคปอดบวมได้ เพอื่ ปอ้ งกนั การแพรเ่ ช้อื ส่บู ุคคลอน่ื การตดิ ตอ่ • หากมีไข้ ใหก้ นิ ยาลดไข้ และใชผ้ ้าชบุ นาํ้ เชด็ ตวั เพอ่ื ลดไข้ ตดิ ต่อโดยการหายใจเอาเช้ือโรคในอากาศเขา้ ไป หรอื จากการคลกุ คลีกับผปู้ ว่ ยเม่อื • กินอาหารท่ีออ่ นย่อยงา่ ย กนิ ผักและผลไม้ ดื่มน้ําอุ่นจาํ นวนมากขน้ึ ไอ จาม หรือหายใจรดกัน หรอื ในผทู้ มี่ ีภมู ติ ้านทานตาํ่ อ่อนแอ พกิ าร มกั พบเกิดจากการ • ใสเ่ สื้อผ้าทส่ี ะอาด ไมเ่ ปียกช้ืน และรักษาร่างกายให้อบอุ่นอย่เู สมอ สําลักเอาเช้ือแบคทเี รยี ทมี่ อี ยปู่ กตใิ นจมกู และลาํ คอเข้าไปในปอด อาการ • มไี ขส้ งู ไอมาก หายใจหอบและเรว็ • ถ้าเป็นมากจะหายใจหอบเหน่ือยจนเห็นชายโครงบุ๋ม เล็บมือ เล็บเท้า รมิ ฝปี ากซดี หรือเขียวคล้ํา กระสับกระสา่ ย หรือซมึ • เมื่อมอี าการสงสัยวา่ เป็นโรคปอดบวม ตอ้ งรบี ไปพบแพทยท์ นั ที โรคแทรกซ้อนท่ีอาจเกิดไดห้ ากไม่ได้รบั การรักษาท่ีเหมาะสม เช่น น้ําในช่อง เยอ่ื หุ้มปอด หนองในชอ่ งเยอ่ื หุ้มปอด ปอดแตกและมลี มรวั่ ในช่องปอด หรอื เยอื่ หมุ้ หวั ใจอักเสบ ในผปู้ ว่ ยมีโรคหวั ใจอยู่กอ่ นอาจหวั ใจวายได้ 27 28

ค่มู ือประชาชน สําหรบั ปอ้ งกนั โรคที่มากับนา้ํ ท่วม คูม่ อื ประชาชน สาํ หรับปอ้ งกันโรคท่ีมากบั นา้ํ ท่วม โรคหัด การดแู ลรกั ษา • ให้การรักษาตามอาการ ถ้าไข้สูงมากควรให้ยาลดไข้เป็นคร้ังคราว ร่วมกับ เป็นโรคไข้ออกผื่นท่ีพบบ่อยในเด็กเล็ก เกิดจากเชื้อไวรัส มักพบในช่วงฤดูฝน เป็นโรคที่สําคัญเนอ่ื งจากอาจมีโรคแทรกซอ้ นทาํ ให้เสยี ชวี ิตได้ การเช็ดตัว ไม่จําเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะ ยกเว้นกรณีที่มีโรคแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ หอู กั เสบ เป็นต้น การตดิ ตอ่ • แยกผปู้ ว่ ยทีส่ งสยั เปน็ หดั • ตดิ ต่อกันได้ง่ายมาก โดยการไอ จาม หรือพดู กันในระยะใกลช้ ิด • ใหร้ ับประทานอาหารอ่อนที่มคี ุณค่าทางอาหารครบถ้วน • ระยะติดตอ่ 2-4 วนั กอ่ นเกิดผนื่ และหลังเกดิ ผนื่ แลว้ 2-5 วนั • ถ้ามีผื่นออกแล้วยังมีไข้สูง หรือมีไข้ลดลงสลับกับไข้สูง ไอมาก หรือหอบ • เช้ือกระจายอยู่ในละอองเสมหะ น้ํามูก นํ้าลายของผู้ป่วย และเข้าสู่ร่างกาย ตอ้ งรบี พาไปพบแพทย์ทันที ทางการหายใจ การดูแลตนเองเบ้อื งตน้ • หลกี เล่ยี งการสัมผสั ใกล้ชดิ ผ้ปู ว่ ย อาการ • รักษาสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด รับประทานอาหารท่ีมีคุณค่าทางอาหาร • หลังได้รับเชื้อประมาณ 8-12 วัน จะเริ่มมีอาการไข้ นํ้ามูกไหล ไอ ตาแดง และออกกําลังกายเปน็ ประจาํ เพื่อให้มภี ูมิต้านทานโรค ตาแฉะ ตรวจพบจุดขาวๆ เลก็ ๆ ขอบแดง ในกระพุ้งแก้ม • เด็กทารกมีภูมิต้านทานเชื้อโรคน้อย ควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยเฉพาะ • ในชว่ ง 1-2 วนั แรกไขจ้ ะสูงข้ึน และจะสงู เต็มท่ใี นวันที่ 4 เม่อื ในชว่ ง 1 ถงึ 2 สปั ดาห์แรกหลังคลอด นํ้านมแมจ่ ะอดุ มไปดว้ ยภูมิต้านทาน มีผ่นื ขึ้น ต่อโรคต่าง ๆ • ผื่นมีลักษณะนูนแดง ติดกันเป็นปื้นๆ โดยจะข้ึนท่ีใบหน้า • วธิ ปี ้องกนั ท่ีดที ่ีสดุ คือ ฉีดวคั ซนี ปอ้ งกนั โรคหดั บรเิ วณชดิ ขอบผม แล้วแพร่กระจายไปตามลําตัว แขนและขา 30 • ต่อมาไข้จะเริ่มลดลง ผื่นจะมีสีเข้มข้ึนแล้วค่อยๆ จางหายไปในเวลา ประมาณ 2 สัปดาห์ ในเด็กที่มีภาวะโภชนาการไม่ดี หรือในเด็กเล็ก อาจมีโรคแทรกซ้อน เช่น หูชั้นกลางอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบหรือสมองอักเสบ และอาจ เสยี ชีวติ ได้ง่ายกว่าเดก็ ปกติท่มี ีสขุ ภาพแข็งแรง 29

คูม่ อื ประชาชน สาํ หรบั ปอ้ งกนั โรคที่มากับนํา้ ท่วม คู่มือประชาชน สําหรบั ป้องกันโรคที่มากบั น้ําท่วม โรคมอื เทา้ ปาก การดแู ลตนเองเบอ้ื งตน้ • โรคนี้ไม่มียารักษาโดยเฉพาะ แพทย์จะให้ยารักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ เกิดจากเชื้อไวรัสลําไส้หรือเอนเทอโรไวรัส หลายชนิด พบได้บ่อยในเด็กทารก และเด็กเล็กอายุต่ํากว่า 5 ปี ในโรงเรียนอนุบาล สถานรับเล้ียงเด็ก ยาทาแกป้ วด ในรายมีแผลทลี่ ิน้ หรือกระพงุ้ แกม้ ศูนย์เด็กเล็ก สถานที่เล่นของเด็กในห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะ • ผู้ปกครองหรือผู้เล้ียงดูเด็ก ควรเช็ดตัวเด็กเพ่ือลดไข้เป็นระยะ และให้ผู้ป่วย ในท่ีอยู่รวมกันอย่างแออัดจะมีโอกาสท่ีเกิดการระบาดได้ง่าย โรคเกิดประปรายตลอดปี แต่จะเพ่ิมมากข้ึนในฤดูฝน รับประทานอาหารอ่อนๆ รสไม่จัด ด่ืมนํ้าและนํ้าผลไม้ และนอนพักผ่อนมากๆ ซ่ึงอากาศเยน็ และชืน้ ถา้ เป็นเดก็ ออ่ น อาจต้องป้อนนมให้แทนการดดู จากขวด • ตามปกติ โรคมักไม่รุนแรงและไม่มีอาการแทรกซ้อน แต่เช้ือไวรัสบางชนิด การตดิ ต่อ เช่น เอนเทอโรไวรัส 71 อาจทําให้มีอาการรุนแรงได้ จึงควรดูแลเด็กอย่าง การติดต่อส่วนใหญ่เกิดจากได้รับเช้ือไวรัสเข้าสู่ปากโดยตรง โรคแพร่ติดต่อง่าย ใกล้ชิด หากพบมีไข้สูง ซึม ไม่ยอมกินอาหารหรือด่ืมนํ้า อาเจียนบ่อย หอบ ในช่วงสัปดาห์แรกของการป่วย โดยเช้ือไวรัสติดมากับมือหรือของเล่นที่เปื้อนน้ําลาย น้ํามูก แขนขาอ่อนแรง ชัก ต้องรีบพาไปโรงพยาบาลทันที เพราะอาจเกิดภาวะ นาํ้ จากตมุ่ พองและแผล หรอื อุจจาระของผู้ป่วย และเกิดจากการไอจามรดกัน โดยหายใจเอา สมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือนํ้าท่วมปอด ซ่ึงจะรุนแรงถึงขั้น เชื้อท่ีแพร่กระจายจากละอองฝอยของผู้ป่วย สําหรับการติดเชื้อจากอุจจาระ จะเกิดได้ใน เสียชีวติ ได้ ระยะที่เด็กมอี าการทเุ ลาจนกระท่ังหายปว่ ยแล้วประมาณ 1 เดอื น แตจ่ ะเกดิ ขน้ึ ไดน้ อ้ ยกวา่ 32 อาการของโรค หลังจากได้รับเช้ือ 3-6 วัน ผู้ติดเช้ือจะเริ่มแสดงอาการป่วย เริ่มด้วยมีไข้ต่ําๆ อ่อนเพลีย ต่อมาอีก 1 – 2 วัน มีอาการเจ็บปาก กลืนนํ้าลายไม่ได้และไม่ยอมกินอาหาร เนื่องจากมีตุ่มแดงท่ีล้ิน เหงือก และกระพุ้งแก้ม จะพบตุ่มหรือผ่ืนนูนสีแดงเล็ก (มักไม่คัน) ที่ฝ่ามือ นิ้วมือ ฝ่าเท้า และอาจพบท่ีก้นด้วย ตุ่มน้ีจะกลายเป็นตุ่มพองใส บริเวณรอบ ๆ อักเสบและแดง ต่อมาตุ่มจะแตกออกเปน็ แผลหลมุ ตื้นๆ อาการจะทุเลาและหายเป็นปกติ ภายใน 7-10 วัน 31

คมู่ อื ประชาชน สาํ หรบั ปอ้ งกันโรคทมี่ ากับนาํ้ ท่วม คมู่ อื ประชาชน สําหรับป้องกันโรคที่มากบั นาํ้ ท่วม โรคอุจจาระร่วง • ให้ผู้ป่วยดื่มน้ําหรืออาหารเหลวมากๆ ให้ด่ืมสารละลายนํ้าตาลเกลือแร่ (โอ อาร์ เอส) ผสมนํ้าตามสัดส่วนที่ระบุข้างซอง หรือเตรียมสารละลายเกลือแร่เอง การตดิ ตอ่ โดยผสมนํา้ ตาลทราย 2 ชอ้ นโต๊ะ กับเกลือป่นคร่ึงช้อนชา ละลายในนํ้าต้มสุกท่ี เช้ือโรคจะเข้าสู่ร่างกายโดยการกินอาหารหรือดื่มนํ้าที่ปนเปื้อนเช้ือโรคเข้าไป เย็นแล้ว 1 ขวดกลม หรือ 750 ซีซี ให้ผู้ป่วยดื่มบ่อยๆ ทดแทนน้ําและเกลือแร่ เช่น อาหารที่ปรุงสุกๆ ดิบๆ อาหารที่มีแมลงวันตอม อาหารท่ีท้ิงค้างคืนโดยไม่ได้แช่เย็น ทส่ี ญู เสยี ไปจากการขับถา่ ย หากดืม่ ไม่หมดใน 1 วัน ใหเ้ ททิ้ง และไมไ่ ด้อุ่นใหส้ กุ อย่างทั่วถึงกอ่ นนําไปกิน • ล้างมือให้สะอาดด้วยนํ้าสะอาดและสบู่ทุกครั้ง ก่อนเตรียมและปรุงอาหาร อาการ กอ่ นกนิ อาหาร หลงั การขบั ถา่ ย และหลงั จบั สงิ่ ของสกปรก ผู้ปว่ ยมอี าการถ่ายอจุ จาระเหลวอย่างน้อย 3 ครั้ง หรือถ่ายเป็นน้ําอย่างน้อย 1 คร้ัง หรือถ่ายมีมูกเลือดหรือมูกปนเลือด อาจมีอาเจียนร่วมด้วย หากมีอาการรุนแรงโดยถ่าย • ด่ืมนํ้าท่ีสะอาด เลือกกินอาหารท่ีสะอาด ปรุงสุกใหม่ๆ หรืออุ่นให้ร้อน เปน็ น้ําคล้ายนาํ้ ซาวขา้ ว คราวละมากๆ และเกบ็ อาหารในภาชนะทมี่ ดิ ชดิ การดแู ลตนเองเบอื้ งตน้ • กาํ จดั สิง่ ปฏกิ ูล ขยะมูลฝอย เพื่อไมใ่ ห้เปน็ แหลง่ เพาะพนั ธุ์ของแมลงวนั • หากผู้ป่วยเป็นเด็กที่ด่ืมนมแม่ ให้ดื่มนมต่อได้ตามปกติ พร้อมป้อน • อาหารและภาชนะท่ใี ชค้ วรทาํ ความสะอาดและเกบ็ ไวใ้ นที่แมลง สัตว์นําโรค สารละลายน้าํ ตาลเกลือแร่บอ่ ยๆ เขา้ ไมถ่ งึ • หากผู้ป่วยเป็นเด็กท่ีดื่มนมผงชง ให้ผสมนมจางลงคร่ึงหน่ึงของที่เคยด่ืม • หากมีอาการมากข้ึน เช่น อาเจียนมาก ไข้สูง ชักหรือซึมมาก ควรไปพบ และใหด้ มื่ สารละลายน้าํ ตาลเกลือแรส่ ลับกันไป แพทย์โดยเร็ว • ไม่ควรกินยาเพื่อให้หยุดถ่าย เพราะจะทําให้เชื้อโรคค้างอยู่ในร่างกาย ซ่ึงจะ เป็นอนั ตรายมากข้ึน 33 34

คมู่ อื ประชาชน สําหรบั ปอ้ งกันโรคที่มากบั นํ้าท่วม คู่มือประชาชน สาํ หรับป้องกันโรคทมี่ ากับน้าํ ทว่ ม โรคฉห่ี นู หากมีอาการท่ีกล่าวมาหลังจากไปแช่น้ํา ย่ําโคลนมา 2-26 วัน (เฉลี่ย 10 วัน) ควรนึกถึงโรคนี้ ไม่ควรหายามากินเอง ต้องรีบไปพบแพทย์ท่ีโรงพยาบาล หรือหน่วย โรคฉีห่ นู หรือโรคเลปโตสไปโรสสิ เป็นโรคตดิ ต่อจากสัตวม์ าสู่คน โดยเชื้อจะออกมา แพทยท์ ่อี อกมาให้บรกิ ารในพ้นื ที่ กบั ฉีข่ องสัตว์ เช่น หนู หมู วัว ควาย แพะ แกะ และสุนัข แล้วปนเป้ือนในแม่นํ้า ลําคลอง พ้ืนท่ที ่มี ีนํ้าขังหรอื พื้นทช่ี ืน้ แฉะ ผทู้ ่เี สี่ยงต่อการเป็นโรคฉ่ีหนู ได้แก่ ผู้ที่ลุยน้ําหรือแช่น้ํานานๆ ถ้าไม่รีบรักษา บางรายอาจมีจุดเลือดออกตามผิวหนัง ไอมีเลือดปน หรือตัวเหลือง ผทู้ เ่ี ดินลุยน้าํ ทว่ ม คนงานบ่อปลา ชาวสวน ชาวนา คนงานขุดลอกท่อระบายน้ํา ตาเหลือง ปัสสาวะน้อย ซึม สับสน เนื่องจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ อาจมีกล้ามเน้ือหัวใจ อกั เสบและเสียชีวิตได้ การตดิ ตอ่ เชื้อโรคฉี่หนูในสิ่งแวดล้อมจะเข้าสู่ร่างกายได้โดยการไชเข้าทางบาดแผลหรือ การดูแลตนเองเบอ้ื งตน้ เข้าทางเยื่อบุอ่อนๆ เช่น ง่ามมือ ง่ามเท้า เยื่อบุตา ขณะท่ีแช่น้ํา รับประทานอาหารหรือ € หลกี เลย่ี งการแชน่ า้ํ ยา่ํ โคลนนานๆ ด่มื นํา้ ท่ีปนเป้อื นเชอ้ื โรคฉี่หนู € เมือ่ ขนึ้ จากน้าํ แล้ว ต้องรบี อาบนํา้ ชําระร่างกายให้สะอาด ซบั ใหแ้ หง้ โดยเรว็ ที่สุด € ควรสวมรองเท้าหรือรองเทา้ บูท๊ ทีเ่ หมาะสม สามารถปอ้ งกนั น้ําได้หากต้องลยุ นํ้า อาการ ย่าํ โคลน เดินบนทช่ี ื้นแฉะ โดยเฉพาะถ้ามบี าดแผลควรระมัดระวังเปน็ พิเศษ มักเร่ิมมีอาการหลังได้รับเช้ือ 2 – 10 วัน € กินอาหารท่ีสะอาด และเกบ็ อาหารในภาชนะทมี่ ิดชิด โดยเร่ิมมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเน้ือ € เกบ็ กวาดขยะใส่ถงุ พลาสติก มดั ปากถุงใหแ้ นน่ ไมใ่ หเ้ ปน็ แหล่งอาหารของหนู โดยเฉพาะน่องและโคนขา ต่อมาอาจมีเยื่อบุตาแดง € ดูแลทพี่ ักให้สะอาดไม่ให้เป็นท่ีอาศยั ของหนู เจ็บคอ เบ่อื อาหาร ท้องเดนิ 35 36

คูม่ อื ประชาชน สาํ หรับปอ้ งกันโรคที่มากับนาํ้ ท่วม คู่มอื ประชาชน สําหรบั ป้องกันโรคท่มี ากับน้ําท่วม โรคไขเ้ ลอื ดออก การดแู ลตนเองเบ้ืองตน้ • ควรรบี พาผู้ปว่ ยไปพบแพทย์ทันที เป็นโรคติดต่อที่มียุงลายเป็นพาหะ ยุงลายอาศัย • ใช้ผา้ ชุบน้าํ เช็ดตัวลดไข้ อยู่ในบ้านและบริเวณรอบๆบ้าน มักกัดคนในเวลากลางวัน • ใชย้ าลดไขพ้ าราเซตามอล หา้ มใชย้ าแอสไพรนิ เพราะจะทําให้เลือดออกงา่ ยขน้ึ พบผู้ปว่ ยโรคไขเ้ ลอื ดออกไดท้ ุกวยั และทกุ ภาคของประเทศไทย • ใหด้ ่ืมนํ้าผลไม้ หรอื นาํ้ ตาลเกลอื แร่บอ่ ยๆ • ระวังอย่าให้ยงุ กัดในเวลากลางวนั โดยการนอนในมงุ้ หรอื ทายากนั ยุง อาการ • กาํ จดั แหลง่ เพาะพนั ธุล์ กู นํา้ ยงุ ลายทุกสปั ดาห์ โดยปิดฝาภาชนะเก็บน้าํ ให้สนทิ • ไข้สงู ลอย (ไขส้ ูงตลอดทัง้ วัน) ประมาณ 2-7 วนั • ปวดศีรษะ ปวดเม่ือยตามตวั ส่วนใหญม่ อี าการหน้าแดง อาจมจี ดุ แดงเลก็ ๆ ทําลายเศษวสั ดุ เศษภาชนะ หรือคว่ําไว้ เกบ็ ยางรถยนต์เก่าอย่าให้มีนํ้าขงั ตามลาํ ตวั แขน ขา • มกั มอี าการคลน่ื ไส้ อาเจียน ปวดท้อง และเบ่อื อาหาร • ต่อมาไข้จะเริ่มลง ในระยะน้ีต้องระวังเป็นพิเศษเพราะอาจเกิดอาการ รุนแรง โดยผู้ป่วยจะกระสับกระส่าย มือเท้าเย็น หรือมีเลือดออกผิดปกติ เช่น ถ่ายดํา หรือไอปนเลือด อาจมีภาวะช็อค และเสยี ชีวติ ได้ 37 38

คู่มอื ประชาชน สาํ หรบั ปอ้ งกนั โรคท่มี ากับนา้ํ ท่วม ค่มู ือประชาชน สาํ หรบั ป้องกันโรคท่มี ากับนาํ้ ท่วม โรคมาลาเรยี 12. การปฏิบตั ิตัวหลงั นํ้าลด เปน็ โรคติดตอ่ ท่มี ียงุ กน้ ปล่องเปน็ พาหะ ยงุ ก้นปล่องอาศยั อยู่ในป่าเขาบรเิ วณท่ีมี การดแู ลบ้านเรอื นส่ิงของ เคร่อื งใช้ และอาหาร หลงั นํ้าลด แหลง่ นา้ํ จดื ธรรมชาติ มักกัดคนในเวลากลางคนื ภายหลังน้ําลด ก่อนท่ีจะกลับมาดําเนินชีวิตตามปกติ ทุกครอบครัวคงต้องทํา อาการ ความสะอาดเสื้อผ้า เครื่องใช้ ปัด กวาด เช็ด ถู ภายในบ้านและบริเวณบ้านให้สะอาด • หลังได้รับเชื้อ 7-10 วัน จะมี จากนั้น ตรวจสอบดูความเรียบร้อยของอุปกรณ์ เคร่ืองใช้ต่างๆ ทั้งต่อการอุปโภคและบริโภค อาการไข้ ปวดศีรษะ บางราย ให้แนใ่ จว่าปลอดภยั ก่อนทจ่ี ะนาํ กลับมาใช้ เพ่อื ป้องกันอนั ตรายท่ีอาจเกดิ ขนึ้ หลังนํา้ ท่วม เช่น อาจมีอาการคล้ายไขห้ วดั • ในระยะแรกอาจมีไข้สูงตลอดได้ บางรายมีอาการหนาวส่ัน หรือเป็นไข้ ` ตรวจเชค็ ปลก๊ั ไฟ สายไฟ เคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ภายในบา้ นใหม้ ัน่ ใจกอ่ นว่าสามารถ จับสั่น ซ่ึงเป็นลักษณะเฉพาะของโรคน้ี ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจ ใชง้ านได้ปกตเิ หมอื นเดิมหรือไม่ และปลอดภยั ตอ่ คนในบา้ นเพยี งใด เสยี ชีวิตได้ ` อยา่ ดื่มน้าํ หรือกินอาหารท่ีเคยเก็บไวใ้ นระหวา่ งนํ้าท่วม ควรตม้ และปรุง การดแู ลตนเองเบ้ืองตน้ ใหส้ ะอาดก่อนทกุ คร้ัง • ควรนอนในมุ้ง ทายากันยงุ • สวมใส่เสือ้ ผา้ ปกคลุมร่างกายให้มดิ ชิด เพ่อื ปอ้ งกันไม่ให้ยงุ กดั เมอื่ เขา้ ป่า ` รกั ษาสภาพแวดลอ้ มบา้ นใหส้ ะอาด ไม่เป็นแหลง่ เพาะพนั ธ์สตั วน์ ําโรคตา่ งๆ • ถา้ พบวา่ มีอาการเจ็บปว่ ยดงั กลา่ ว ควรรีบไปพบแพทยท์ ันที ` อยา่ เข้าไปในเขตท่ีแจง้ วา่ เปน็ อาณาบรเิ วณอนั ตรายหลงั น้ําท่วม เพราะอาจเป็นอนั ตรายได้ ` หากมีปญั หาทไ่ี ม่สามารถดําเนินการแกไ้ ขได้ ควรแจง้ และขอความชว่ ยเหลือ จากเจ้าหน้าทขี่ องรฐั เช่น กาํ นัน ผใู้ หญบ่ า้ น อาสาสมัคร หรือเจา้ หน้าท่ีอาํ เภอ เปน็ ต้น 39 40

คมู่ ือประชาชน สําหรบั ปอ้ งกนั โรคท่มี ากับนาํ้ ท่วม คมู่ ือประชาชน สาํ หรับป้องกันโรคทีม่ ากบั นํ้าท่วม การปรับสภาพชวี ิตสสู่ ภาพปกติ การระมัดระวังโรคระบาดหลงั นํ้าท่วม การป้องกนั และกาํ จัดยุงลาย นํ้าท่วมไม่เพียงสร้างความเสียหายทางด้านทรัพย์สิน และร่างกายเท่าน้ัน สภาพจิตใจก็เป็นส่ิงท่ีต้องเร่งฟื้นฟูหลังการเกิดน้ําท่วม เพราะความหดหู่ ท้อแท้ สิ้นหวัง เน่ืองจากลูกน้ํายุงลายอาศัยอยู่ตามภาชนะเก็บนํ้า ตลอดจนยาง และหมดกําลังใจย่อมเกิดขึ้นได้เสมอในระหว่างนํ้าท่วม การได้ระบายความรู้สึกนึกคิด รถยนตเ์ กา่ และเศษวัสดตุ ่างๆที่มีน้ําขังจึงควรปิดภาชนะเก็บน้ําทุกชนิดให้มิดชิดอยู่เสมอคว่ําโอ่งนํ้า ด้วยการพูดคุย ปรับทุกข์กันในหมู่สมาชิกในบ้านและครอบครัว เพื่อนบ้าน จึงเป็นสิ่ง และภาชนะท่ีไม่ใช้งานหรือเก็บไว้ในที่ร่มและฝนไม่สาด หม่ันเก็บทําลายเศษวัสดุและ ยางรถยนต์เก่า สําคัญและควรกระทําเป็นอย่างยิ่ง ควรปรับชีวิตให้ดําเนินไปตามสภาพปกติเหมือนเดิม หากต้องการเก็บไว้ใช้ประโยชน์ ต้องเก็บไว้ใต้ชายคาหรือหาส่ิงปกคลุมเพ่ือป้องกันนํ้าขัง สําหรับบ่อ เท่าท่ีจะทําได้และเป็นไปได้ด้วย ซเี มนตใ์ นห้องน้ําและห้องส้วมให้ใส่ทรายกําจัดลูกนํ้า (ขนาดและวิธีใช้ตามที่ระบุไว้บนฉลาก)หรือใส่ ปลาหางนกยูงไว้ (เฉพาะตัวผู้)จํานวน2-10ตัวขึ้นอยู่กับขนาดของบ่อหรือหมั่นใช้สวิงช้อนเอาลูกน้ํา ท้งิ ไปกไ็ ด้ ยุงลายออกกัดดูดเลอื ดในเวลากลางวนั ตง้ั แต่เช้าตรู่จนถงึ เย็น และถา้ ในหอ้ งมแี สงไฟสวา่ ง เพียงพอ ยงุ ลายอาจกัดดดู เลอื ดถงึ พลบคํ่า การปอ้ งกนั ตนเองไม่ใหถ้ กู ยงุ ลายกัด ทาํ ได้ ดงั นี้ € นอนในมุ้ง (แม้จะเป็นเวลากลางวัน) หรือห้องท่ีมีมุ้งลวด หม่ันตรวจสอบว่า มงุ้ ลวดคงอยู่ในสภาพดี ไม่ชํารดุ ฉกี ขาด € หลีกเลยี่ งการอยใู่ นบรเิ วณท่ีเป็นมุมมดื อบั ลม € ไมส่ วมเส้ือผ้ารัดรูป เพราะปากยุงสามารถเจาะผ่านเน้ือผ้าได้ การสวมเสื้อผ้า หลวมๆ แขนยาว ขายาว จะช่วยลดโอกาสท่ีปากยุงจะมาสัมผัสผิวหนัง นอกจากน้ี ควร หลกี เลี่ยงการสวมใสเ่ ส้อื ผา้ สเี ขม้ เพราะสเี ขม้ จะดึงดดู ยงุ มากกว่าสีอ่อน € ทายากนั ยงุ ในกรณีท่ีมีความจําเป็น อ่านวิธีใช้และคําเตือนบนฉลาก และต้อง ปฏบิ ัตติ ามอย่างเคร่งครดั ยาทากันยงุ บางชนิดห้ามใชก้ ับเดก็ อายนุ อ้ ยกว่า 4 ปี € อาบน้ําและรักษาร่างกายให้สะอาด ผู้ที่มีกลิ่นตัวแรงหรือมีอุณหภูมิของ ร่างกายสงู กว่าผอู้ ่ืน จะดึงดดู ยงุ ให้มากัดมากกว่า 41 42

คู่มือประชาชน สําหรบั ป้องกันโรคทม่ี ากบั นาํ้ ท่วม คมู่ อื ประชาชน สําหรับปอ้ งกันโรคที่มากบั น้าํ ท่วม การป้องกันและกาํ จดั ยงุ ก้นปลอ่ ง การป้องกันและกําจดั แมลงวนั เน่ืองจากลูกนํ้ายุงก้นปล่องอาศัยอยู่ตามแหล่งนํ้าในธรรมชาติ การกําจัดลูกนํ้า การป้องกันไม่ให้มีแมลงวันมารบกวน ต้องกําจัดแหล่งอาหารของมันซ่ึงได้แก่ ยุงก้นปล่องจึงกระทําได้ยาก การป้องกันการติดเช้ือโรคมาลาเรีย อาจทําได้โดยการไม่ ขยะมูลฝอยและมูลสัตว์ ท้ิงขยะในภาชนะท่ีมีฝาปิด ระวังอย่าให้มีเศษอาหารตก เดินทางเข้าไปในบริเวณที่มีมาลาเรียเป็นโรคประจําถ่ิน หากหลีกเล่ียงไม่ได้หรือ หรอื ของเหลวจากอาหารหยดเรย่ี ราดบนพนื้ จําเปน็ ต้องอาศยั อยใู่ นพ้ืนทป่ี ่าเขา ต้องป้องกนั ตนเองไมใ่ ห้ถกู ยงุ กน้ ปลอ่ งกัด ดงั นี้ หากพบขยะ เศษอาหารต่างๆ ต้องเก็บไปทิ้ง หรือใช้น้ําฉีดทําความสะอาดทันที เพ่ือกําจัด “ นอนในมุ้งหรือมุ้งชุบสารเคมี หรือในห้องท่ีมีมุ้งลวด หมั่นตรวจสอบสภาพ กล่ินที่จะดึงดูดให้แมลงวันมาตอมและวางไข่ ของม้งุ และมงุ้ ลวด ตรวจสอบถุงขยะก่อนนํามาใช้ ว่าไม่มีรอยชํารุด ฉีกขาด และมดั ปากถุงใหแ้ น่นกอ่ นนําไปกาํ จดั อยา่ งถูกหลกั สขุ าภบิ าลตอ่ ไป “ ไมส่ วมเสอ้ื ผ้ารดั รปู เพราะปากยุงสามารถเจาะผ่านเนื้อผ้าได้ การสวมเส้ือผ้า หลวมๆ แขนยาว ขายาว จะช่วยลดโอกาสที่ปากยุงจะมาสัมผัสผิวหนัง นอกจากน้ี ในกรณีท่ีมีแมลงวันมารบกวนและต้องการกําจัด ถ้ามีจํานวนน้อยก็ใช้สวิงโฉบ ควรหลกี เลี่ยงการสวมใส่เสอื้ ผา้ สเี ขม้ เพราะสเี ขม้ จะดึงดดู ยงุ มากกว่าสอี อ่ น หรือตีด้วยไม้ตีแมลงวัน อาจใช้กาวดักแมลงวันหรือกับดักแมลงวันท่ีมีจําหน่ายใน ท้องตลาด ถ้ามีแมลงวันจํานวนมาก อาจต้องฉีดพ่นด้วย “ ทายากันยุงในกรณีท่มี คี วามจําเปน็ อ่านวิธีใช้และคําเตือนบนฉลาก และต้อง สารเคมี ซึ่งควรให้ผู้เช่ียวชาญดําเนินการ เน่ืองจากแมลงวัน ปฏิบัตติ ามอยา่ งเคร่งครดั ยาทากนั ยุงบางชนดิ ..ห้ามใชก้ ับเด็กอายุนอ้ ยกวา่ 4 ปี จะดื้อสารเคมีได้รวดเร็ว นอกจากน้ี จะต้องค้นหาแหล่ง เพาะพันธุ์ของตัวอ่อน และดําเนินการกําจัดควบคู่กันไปด้วย “ ตัดหรือเล็มพุ่มไม้ก่ิงไม้ท่ีอยู่รอบๆบ้าน เพื่อลดแหล่งเกาะพักของยุง จึงจะได้ผล และช่วยใหล้ มพดั ผ่านสะดวก 43 44

ค่มู อื ประชาชน สาํ หรับปอ้ งกนั โรคทม่ี ากับน้าํ ท่วม คมู่ อื ประชาชน สาํ หรบั ปอ้ งกันโรคทมี่ ากับนํา้ ทว่ ม การปอ้ งกันโรคฉ่ีหนู แหล่งอ้างอิงขอ้ มลู เม่ือระดับน้ําลดลง และดําเนินการสํารวจ ปรับปรุงสภาพสิ่งแวดล้อมท่ีอยู่อาศัย คู่มอื คําแนะนาํ การปอ้ งกนั โรคท่มี ากบั นํา้ ท่วม ควรปฏิบตั ดิ ังนี้ : กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสขุ , 2553. € เก็บกวาดขยะใสถ่ งุ พลาสติก มดั ปากถงุ ใหแ้ น่น ไม่ให้เป็นแหลง่ อาหารของ คมู่ อื ประชาชน การสุขาภบิ าลสิ่งแวดลอ้ มสาํ หรบั กรณฉี กุ เฉนิ และพิบัติภัย หนแู ละสัตวอ์ ื่นๆ : สํานักอนามัยสง่ิ แวดล้อม กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ , 2552. € สวมถุงมือยางในการเกบ็ กวาดบ้านเรอื น ถนนและสงิ่ สาธารณะประโยชน์ คมู่ อื : การดแู ลและปอ้ งกันโรคและภัยสขุ ภาพจากภาวะน้าํ ท่วม € สวมรองเท้าหรอื รองเทา้ บู๊ทท่เี หมาะสม หากต้องลุยนา้ํ ยํ่าโคลน : กองสุขศกึ ษา กรมสนับสนนุ บรกิ ารสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสขุ , 2554. หรอื เดนิ บนทีช่ ื้นแฉะ สามารถป้องกนั นํ้าและเชอ้ื โรคได้ นาํ้ ทว่ ม ภยั ธรรมชาติใกลต้ ัว € เมื่อเสร็จภารกิจตอ้ งรบี อาบนาํ้ ชําระรา่ งกายให้สะอาด ซบั ให้แหง้ โดยเรว็ ท่ีสุด : ศูนย์เตรยี มความพร้อมปอ้ งกนั ภยั พิบัติแหง่ เอเชีย. € รบั ประทานอาหารทีส่ ะอาด และเก็บอาหารในภาชนะท่ีมิดชิด € ดูแลท่ีพกั ให้สะอาดไม่ให้เปน็ ที่อาศยั ของหนู การดแู ลรักษาตนเองเบือ้ งต้นเมอ่ื ถูกงกู ัด € หากมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมอื่ ยกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะนอ่ งและโคนขา : ผศ.นพ.สชุ ัย สเุ ทพารกั ษ์ ที่ปรึกษาคลินิกพิษจากสัตว์ สถานเสาวภา สภากาชาดไทย ไมค่ วรซ้อื ยามารับประทานเอง ควรรบี ไปพบแพทยท์ ่ีโรงพยาบาล หรือหนว่ ยแพทย์ทอ่ี อกมาใหบ้ ริการในพื้นที่ 45 46

คู่มอื ประชาชน สําหรบั ปอ้ งกนั โรคที่มากบั น้ําท่วม คู่มือประชาชน สาํ หรบั ปอ้ งกนั โรคทีม่ ากบั นํ้าทว่ ม สถานที่ติดต่อ ทีป่ รกึ ษา นายแพทย์พรเทพ ศริ วิ นารงั สรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทยส์ วุ รรณชยั วฒั นาย่ิงเจรญิ ชัย รองอธิบดกี รมควบคมุ โรค นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ผอู้ าํ นวยการสาํ นกั โรคติดต่อทวั่ ไป นายแพทย์พรชนก รัตนดลิ ก ณ ภเู กต็ สํานักโรคตดิ ต่อท่วั ไป สัตวแพทย์หญงิ อภิรมย์ พวงหตั ถ์ สาํ นกั โรคตดิ ตอ่ ทว่ั ไป • แจ้งขอความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉินได้ที่ หน่วยกู้ชีพฉุกเฉินนเรนทร คณะจัดทํา สาํ นักโรคติดต่อทั่วไป หมายเลข 1669 (ตลอด 24 ชั่วโมง) กลุม่ พฒั นาภาคีเครอื ขา่ ยและการสอื่ สารสาธารณะ นางสาววัชรี สารีบุตร กล่มุ พัฒนาภาคีเครือข่ายและการส่อื สารสาธารณะ • ขอคําแนะนําเพิ่มเตมิ หรือแจง้ การระบาดของโรคไดท้ ี่ นางสาวอาจารี องิ คะวณิช กลุ่มพัฒนาภาคเี ครือขา่ ยและการส่ือสารสาธารณะ - ศูนย์ปฏบิ ัตกิ าร กรมควบคมุ โรค โทร. 0 2590 3333, 1422 นางจงกล พวงนาค กลมุ่ พฒั นาภาคเี ครือข่ายและการสอ่ื สารสาธารณะ - สาํ นักงานปอ้ งกันควบคุมโรค ท่ี 1-12 นางป่นิ นภ นรเศรษฐพนั ธ์ุ กลมุ่ พัฒนาภาคีเครือขา่ ยและการสอ่ื สารสาธารณะ - สํานักงานสาธารณสขุ จงั หวัด นางอญั ชลี สทิ ธชิ ัยรตั น์ กลมุ่ ยุทธศาสตร์และพฒั นาองค์กร - สาํ นกั งานสาธารณสุขอําเภอ ในพนื้ ที่ ดร.สีวิกา แสงธาราทิพย์ กลมุ่ พัฒนาวชิ าการที่ 1 - หนว่ ยแพทยช์ ว่ ยเหลือในพืน้ ที่ นางสาวสุรัสวดี กลนิ่ ชน้ั กลุ่มพฒั นาวชิ าการท่ี 3 นางรตั นา ธีระวฒั น์ บรรณาธกิ าร นางสาววชั รี สารบี ุตร สาํ นักโรคตดิ ตอ่ ทั่วไป ผ้ชู ่วยบรรณาธิการ นางจงกล พวงนาค สํานักโรคตดิ ตอ่ ทวั่ ไป ออกแบบ นางจงกล พวงนาค สํานกั โรคติดตอ่ ทวั่ ไป พมิ พค์ ร้ังท่ี 1 สํานักโรคตดิ ต่อท่ัวไป กรมควบคุมโรค ตุลาคม 2554 จํานวน 50,000 เล่ม สาํ นกั งานกิจการโรงพิมพ์องคก์ ารสงเคราะห์ทหารผา่ นศกึ 47 48