อุทยานแห่งชาตนิ ้าตกแมส่ ุรนิ ทร์
ขอ้ มูลทวั่ ไป อุทยานแห่งชาตนิ ้าตกแมส่ ุรนิ ทร์ ตง้ั อยูใ่ นทอ้ งทอ่ี าเภอขุนยวมและอาเภอเมอื ง จงั หวดั แม่ฮ่องสอน สภาพพน้ื ทเ่ีป็นป่าเขา เรยี งรายสลบั ซบั ซ้อน มภี ูเขาหนิ และหนา้ ผานอ้ ยใหญ่สูงชนั ในลกั ษณะทแ่ี ตกต่างกนั และคลา้ ยกนั ทสี่ วย งามหลายแห่ง เป็นแหลง่ ต้นน้าลาธารทอี่ ุดมสมบูรณ์ ตลอดจนมเีอกลกั ษณ์ทาง ธรรมชาตทิ ส่ี วยงาม เช่น น้าตกแมส่ ุรนิ ทร์ ซงึ่ เป็นน้าตกขนาดใหญ่เคยี งคู่กบั ทุ่งบวั ตอง รวมทง้ั ลาน้า ปาย ซง่ึ มหี าดทรายสวยงาม อุทยานแห่งชาตมิ เีนอ้ื ทป่ี ระมาณ 247,875 ไร่ หรอื 396.60 ตาราง กโิ ลเมตร
กรมป่าไมไ้ ด้รบั หนงั สอื จงั หวดั แม่ฮ่องสอนที่ มส 09/71 ลงวนั ท่ี 3 มกราคม 2523 แจง้ ว่า จงั หวดั ได้รบั หนงั สอื อาเภอขุนยวมที่ มส 0953/3338 ลงวนั ท่ี 11 ธนั วาคม 2522 ขอใหจ้ ดั ตง้ั อุทยานแห่งชาตนิ ้าตกแม่สุรนิ ทร์ เพอื่ อนุรกั ษ์บรเิวณน้าตกแมส่ ุรนิ ทร์ซงึ่ เป็นน้าตกทส่ี วยงามไวเ้ ป็นสถานที่ พกั ผอ่ นหย่อนใจ ตามทนี่ ายสกุล อนนั ตกุล กาเนดิ เจา้ พนกั งานป่าไม้ 3 เสนอโครงการจดั ตง้ั อุทยานแห่งชาตนิ ้าตกแมส่ ุรนิ ทร์ ประกอบกบั ดร. เถลงิ ธารงนาวา สวสั ดิ์ ปลดั กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้บนิ ตรวจป่าพบว่าบรเิวณป่าของอาเภอขุนยวม และอาเภอเมอื ง จงั หวดั แมฮ่ ่องสอน มลี กั ษณะเด่นตามธรรมชาติ และมนี ้าตกสวยงามหลายแห่ง จงึ ใหก้ องอุทยานแหง่ ชาตดิ าเนนิ การสารวจ
กองอุทยานแห่งชาตไิด้มหี นงั สอื ที่ กส 0708/1140 ลงวนั ท่ี 15 กุมภาพนั ธ์ 2523 เสนอกรม ป่าไม้ ใหเ้ จา้ หนา้ ทส่ี านกั งานป่าไมเ้ ขตแม่สะเรยี งทาการสารวจ ซง่ึ สานกั งานป่าไมเ้ ขตแมส่ ะเรยี งได้มคี าสง่ั ท่ี 180/2523 ลงวนั ท่ี 4 มถิ ุนายน พ.ศ. 2523 ให้ นายอุดม ธมั ทะมาลา เจา้ พนกั งานป่าไม้ 4 ทาการสารวจ พบว่า ป่าน้าตกแม่สุรนิ ทร์เป็นภูเขาสลบั ซบั ซ้อน สภาพป่าอุดมสมบูรณ์ เป็นป่าต้นน้าลา ธารของลาน้าหลายสาย โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ บรเิวณดอยปุยมลี กั ษณะเป็นยอดเขาสูง มรี ูปร่างคลา้ ยฝาชี ขา้ งบนยอดแบนเป็นทรี่ าบ อากาศหนาวจดั ทงั้ มนี ้าตกสวยงาม 2 แหง่ คอื น้าตกแม่สุรนิ ทร์ และ น้าตกผาบ่อง เหมาะสมจดั ตงั้ เป็นอุทยานแห่งชาติ ตามรายงานผลการสารวจหนงั สอื สานกั งานป่าไม้ เขตแมส่ ะเรยี ง ที่ กส 0709(มร)/2360 ลงวนั ที่ 19 สงิ หาคม 2523
กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ได้นาเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาตซิ ง่ึ มมี ตใินการ ประชุมครงั้ ที่ 3/2523 เมอื่ วนั ท่ี 21 ตุลาคม 2523 เหน็ ชอบให้กาหนดบรเิวณทดี่ นิ ป่าแมน่ ้าปายฝั่งซ้ายและป่าแมส่ ุรนิ ทร์ในทอ้ ง ทต่ี าบลปางหมู ตาบลผาบอ่ ง ตาบลห้วยโป่ง อาเภอเมอื งแม่ฮ่องสอน และตาบลขุนยวม ตาบลแมย่ วมนอ้ ย อาเภอขุนยวม จงั หวดั แมฮ่ ่องสอน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซงึ่ ประกาศไวใ้ นราชกจิ จานุเบกษา เลม่ 98 ตอนที่ 180 ลงวนั ที่ 29 ตุลาคม 2524 เป็นอุทยานแห่งชาตลิ าดบั ที่ 37 ของประเทศ
ลกั ษณะภูมปิ ระเทศ สภาพภูมปิ ระเทศของอุทยานแห่งชาตนิ ้าตก แม่สุรนิ ทร์เป็นเทอื กเขาและภูเขาสูงสลบั ซบั ซ้อน ทอดตวั ยาวตามแนวทศิ เหนอื จดทศิ ใต้ ทศิ ตะวนั ออกจะเป็นภูเขาสูงชนั ลาดไปทางทศิ ตะวนั ตก มภี ูเขาหนิ และหนา้ ผาสูงชนั ในลกั ษณะทแี่ ตกต่างกนั และ คลา้ ยกนั มคี วามสูงต่าจากระดบั น้าทะเลอยู่ในช่วง 300-1,752 เมตร ยอดเขาทสี่ ูงทสี่ ุด คอื ดอยปุย รองลงมาคอื ดอยต้นหว้ ยผาคอ สูง 1,601 ดอยหว้ ยมสี ะมาด สูง 1,465 เมตร ดอยหว้ ยไมค้ อง สูง 1,474 เมตร ดอยบา้ น ไมโครเวฟ สูง 1,474 เมตร ดอยปลายหว้ ยแม่จา๋ ยา สูง 1,407 เมตร ดอยผาคอ สูง 1,352 เมตร ดอยบา้ น หว้ ยฮะ สูง 1,359 เมตร และดอยต้นหว้ ยตองจงิ สูง 1,310 เมตรจากระดบั น้าทะเล และเป็นต้นกาเนดิ ของลาธาร ต่างๆ หลายสาย ลาน้าส่วนใหญ่จะไหลจากทศิ ตะวนั ออกสู่ทศิ ตะวนั ตก ลาธารและลาน้าทสี่ าคญั ได้แก่ ลาน้าปาย ลาน้า แมส่ ะมาด หว้ ยปงกุน น้าแม่สะกดึ หว้ ยม่อนตะแลง น้าแมฮ่ ่องสอน หว้ ยโป่ง น้าแม่สุรนิ ทร์ หว้ ยนาอ่อน หว้ ยเฮ้ยี หว้ ยอู คอนอ้ ย และหว้ ยอูคอหลวง ซงึ่ ลาธารเหลา่ นไ้ีหลลงสู่ แม่น้าปายและแม่น้ายวม
ลกั ษณะภูมอิ ากาศ อุทยาน แห่งชาตนิ ้าตกแมส่ ุรนิ ทร์ตงั้ อยูใ่ นหุบเขาทม่ี หี มอกปกคลุม ตลอดทงั้ ปี มอี ากาศเยน็ สบายตลอดปี โดยเฉพาะฤดูหนาวบนยอด เขาอากาศเยน็ มาก ฤดูฝน ชว่ งเดอื นพฤษภาคมถงึ เดอื นตุลาคม จะ มฝี นตกชุกมาก ทาใหก้ ารเดนิ ทางไมส่ ะดวก ปรมิ าณน้าฝนเฉลย่ี รวม ตลอดปี 1,282 มลิ ลเิมตร ฤดูหนาว ชว่ งเดอื นพฤศจกิ ายนถงึ เดอื นกุมภาพนั ธ์ อากาศจะหนาวเยน็ มาก อุณหภูมเิฉลยี่ ต่าสุดในเดอื น มกราคม 14 องศาเซลเซยี ส และฤดูร้อน ช่วงเดอื นมนี าคมถงึ เมษายน จะมอี ากาศร้อนอบอ้าว อุณหภูมเิฉลย่ี สูงสุดในเดอื นเมษายน 38 องศาเซลเซยี ส อุณหภูมเิฉลย่ี ตลอดปี 25 องศาเซลเซยี ส ฤดู หนาวและฤดูร้อนเป็นชว่ งทเี่หมาะแก่การเดนิ ทางท่องเทย่ี วมากทส่ี ุด
พชื พรรณและสตั วป์่ า อุทยานแห่งชาตนิ ้าตกแมส่ ุรนิ ทร์มสี ภาพป่าทแ่ี ตกต่างกนั ไปหลายชนดิ ประกอบด้วย ป่ าดิบเขา พบขน้ึ เป็นแถบยาวไปตามแนวสนั เขา หรอื ขน้ึ ปกคลุมอยู่เป็นหย่อมๆ ในระดบั ความสูงจากน้าทะเล 800 เมตร ขน้ึ ไป ชนดิ ของไมท้ ส่ี าคญั ได้แก่ ก่อแป้น ก่อใบเหลอื่ ม ก่อเดอื ย มะก่อ ทะโล้ มะมุ่นดง ไก๋แดง กลว้ ยฤาษี เหมอื ดคนตวั ผู้ ไคร้มด ฯลฯ พชื พน้ื ล่างได้แก่ โชนใหญ่ กูดดอย ตองกง สาบหมา ยาแก้ เอน็ อ้าดอย หนาดเขา บวั ตอง เป็นต้น สตั ว์ ป่าทอ่ี าศยั อยู่ในป่าประเภทนไ้ีด้แก่ เสอื ดาว ชะนมี อื ขาว ค่างแว่นถน่ิ เหนอื เมน่ ใหญ่ บา่ ง กระรอกดนิ แก้มแดง อ้นใหญ่ นก หกเลก็ ปากแดง นกคดั คูมรกต นกพญาปากกว้างหางยาว นกพญาไฟแมส่ ะเรยี ง กง้ิ ก่าเขาเลก็ จง้ิ เหลนเรยี วทอ้ งเหลอื ง งูลายสาบคอแดง งูแม่ตะง่าว กระท่าง องึ่ กรายหนงั ปุ่ม กบชะงอ่ นหนิ เมอื งเหนอื ปาดตนี เหลอื ง ปาดแคระ ผเีสอ้ื หางตง่ิ เฮเลน ผเีสอ้ื หางมงั กรขาว และผเีสอ้ื เหลอื งหนามธรรมดา
ป่ าเบญจพรรณ พบขน้ึ ปกคลุมในพน้ื ทท่ี ม่ี คี วามลาดชนั ไม่สูงมากนกั ตามหุบเขาของร่องหว้ ย ต่างๆ เช่น บรเิวณหุบ เขาของร่องหว้ ยแม่สะกดึ หว้ ยโป่งกาน หว้ ยไมซ้ างหนามหว้ ยแม่จา๋ หว้ ยน้าแมส่ ุรนิ ทร์ เป็นต้น ในระดบั ความสูงจากน้าทะเล 350-600 เมตร ชนดิ ของไมแ้ ละพชื พน้ื ลา่ งทสี่ าคญั ได้แก่ เสลา สมอพเิภก ยมหอม มะแฟน ตะแบกเปลอื กบาง มะเกลอื กระโดนสร้อย ชงิ ชนั เปลา้ หลวง หมเีหมน็ เพกา ไผซ่ างนวล ไผบ่ งดา ไผป่ ่า ว่านมหาเมฆ ขมน้ิ แดง กระทอื บอนเต่า หนามคนทา สะแกเครอื หนอนตายหยาก ฯลฯ สตั ว์ป่าทพ่ี บได้แก่ ค้างคาวหนา้ ยกั ษ์สามหลบื พบเป็นจานวน มากทถ่ี ้าหว้ ยสลอย ค้างคาวมงกุฎเลก็ กวางป่า อเีหน็ ขา้ งลาย อ้นกลาง หนูผหี างหมู ไก่ป่า นกกระทาป่าไผ่ นกตที อง นกแซงแซวหางปลา นกหวั ขวานเขยี วตะโพกแดง นกปรอดหวั สเีขม่า ตุ๊กแกบา้ น กง้ิ ก่าบนิ ปีกสสี ม้ จง้ิ เหลนหลากหลาย งูเห่า งูเขยี วหวั จง้ิ จก องึ่ กรายลายเลอะ กบหลงั ตาพบั กบกา กบอ่อง ผเีสอ้ื เชงิ ลายมหาเทพ ผเีสอ้ื หนอนคูณหนวดดา และผเีสอ้ื หวั แหลมกระบอง เป็นต้น
ป่ าเต็งรัง เป็นสงั คมพชื ทม่ี พี น้ื ทปี่ กคลุมมากทสี่ ุดในอุทยานแห่งชาติ สามารถพบได้ตงั้ แต่ระดบั ความสูงของน้าทะเล ประมาณ 350-1,400 เมตร ชนดิ ไมแ้ ละพชื พน้ื ลา่ งทพ่ี บได้แก่ พลวง เตง็ เหยี ง รงั สนสองใบ รกั ใหญ่ รกฟ้ า สา้ น ใหญ่ ตบั เต่าต้น แคทราย ครามป่า เป้งดอย หญา้ หนวดฤาษี หญา้ กาย หญา้ แขมนอ้ ย หญา้ ดอกคา ฯลฯ สตั วป่าที่ อาศยั อยู่ในป่าประเภทนไ้ีด้แก่ เหยย่ี วนกเขาหงอน นกเค้าแคระ นกจาบคาหวั สสี ม้ นกหวั ขวานสนี่ ว้ิ หลงั ทอง นกเด้าดนิ สวน นกกาแวน กระเลน็ ขนปลายหูสนั้ กระจอ้ น กระแตธรรมดา ค้างคาวขอบหูขาวกลาง แย้ กง้ิ ก่าแกว้ จง้ิ เหลนภูเขา เกลด็ เรยี บ ผเีสอ้ื จรกาหนอนยโี่ถ ผเีสอ้ื จา่ พมา่ และผเีสอ้ื เณรธรรมดา เป็นต้น
ป่ าสนเขา จะอยู่ในบรเิวณสนั เขาสูง ชนดิ ไมท้ พี่ บ เช่น สนสองใบและสนสามใบ นอกจากน้ี ยงั สามารถพบกลว้ ยไมอ้ กี หลายชนดิ ทสี่ วยงาม ได้แก่ รองเท้านารี เอ้อื งแซะ ฟ้ ามุย่ พวงมาลยั หางกระรอก ชา้ งกระ เอ้อื งคา เป็นต้น ในบรเิวณแม่น้าและลาหว้ ยต่างๆ เป็นถน่ิ ทอ่ี ยูอ่ าศยั ของปลาไหลหูดา ทพ่ี บค่อนขา้ งมากใน แมน่ ้าปาย ปลาหลด ปลากระทงิ ปลาซวิ ใบไผ่ ปลาหวั ตะกว่ั ปลากา้ ง ปลาพลวง นกเป็ดผี เลก็ นกยางโทนนอ้ ย และนกยางเขยี ว
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: