Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 1. มารู้จักวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้

1. มารู้จักวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้

Published by nanzery1729, 2023-06-10 07:42:10

Description: 1. มารู้จักวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้

Keywords: วิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้

Search

Read the Text Version

ทาไมๆๆๆๆๆ ตอ้ งรู้จกั และตอ้ งเรียน วจิ ยั เพื่อ พฒั นาการ เรียนรู้

พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ .ศ. 2542 หมวด4 แนวการจัดการศกึ ษา มาตรา 24(5) สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ใหค้ รูผสู้ อนสามารถจดั บรรยากาศ สภาพแวดลอ้ ม สอ่ื การเรยี นรู้ และมี ความรอบรู้ รวมทงั้ สามารถใช้การวจิ ัยเป็ นส่วนหนึ่งของ กระบวนการเรียนรู้ ทงั้ นีผ้ สู้ อนและ ผเู้ รยี นอาจเรยี นรูไ้ ปพรอ้ มกนั จากการเรยี น การสอนและแหลง่ วทิ ยาการประเภทตา่ งๆ มาตรา 30 …ส่งเสริมใหผ้ ู้สอนสามารถวจิ ยั เพอ่ื พฒั นาการเรียนรู้ที่ เหมาะสมกับผู้เรียนในแต่ละระดับ การศกึ ษา

หลกั สูตรการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พ .ศ. 2544 ไดก้ ลา่ วถึงการวจิ ยั ในกระบวนการจดั การศกึ ษา ของผเู้ ก่ียวขอ้ ง ดงั เช่น ศกึ ษา คน้ ควา้ วจิ ยั เพ่อื พฒั นาสื่อการเรยี นรูใ้ หส้ อดคลอ้ งกบั กระบวนการเรยี นรูข้ องผเู้ รยี น…ใหผ้ สู้ อนนากระบวนการวจิ ยั มา ผสมผสานหรอื บรู ณาการใชใ้ น การจดั การเรยี นรูเ้ พ่ือพฒั นาคณุ ภาพ ของผเู้ รยี นและเพ่อื ให้ ผเู้ รยี นเกิดการเรยี นรูส้ ามารถใช้ กระบวนการวิจยั เป็นสว่ นหน่งึ ของกระบวนการเรยี นรู้

แผนยทุ ธศาสตร์การพฒั นาการศึกษา ศาสนา ศิลปวฒั นธรรม ระยะท่ี 9 (พ.ศ. 2545 – 2549) ไดเ้ นน้ ยา้ มงุ่ ใหส้ งั คมไทยเป็นสงั คมแหง่ ภมู ปิ ัญญาและการเรยี นรูท้ ่ีสรา้ งโอกาสให้ คนไทยทกุ คน คิดเป็น ทาเป็น มเี หตผุ ลสามารถเรยี นรูไ้ ด้ ตลอดชีวิต รูจ้ กั ใชข้ อ้ มลู ทม่ี ีอยอู่ ยา่ ง หลากหลาย เพ่ือสรา้ งองคค์ วามรูแ้ ละพฒั นาตนเอง ซง่ึ การจะหลอ่ หลอมใหเ้ กิดคณุ ลกั ษณะ ดงั กลา่ ว ได้ ตอ้ งฝึกใหร้ ูจ้ กั ใชก้ ระบวนการเรยี นรูท้ ่ีเช่ือถือได้ และกระบวนการท่ี สรา้ งความรู้ ไดอ้ ยา่ งเป็น ระบบระเบียบคือ การวิจยั ซง่ึ ในแผนยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาการศกึ ษาฯ ระยะท่ี 9 ไดร้ ะบไุ ว้ ชดั เจนวา่ การวจิ ยั เป็ นแนวทางดาเนินการหนึ่งทน่ี าไปสู่ การสร้างสังคมแหง่ ภมู ปิ ัญญาและการเรียนรู้

ความต่ืนตวั ของครูผสู้ อนในโรงเรยี นในการทาวจิ ยั เพ่ือพฒั นาการเรยี นการสอนนนั้ มีผลมาจากกระแสการปฏิรูปการศกึ ษา ตงั้ แตท่ ศวรรษแรกซง่ึ เรม่ิ ในปี พ.ศ. 2542

พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ปัจจุบนั หลกั สูตรการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พ.ศ. 2544 หลักสูตรการศึกษาขัน้ แผนยทุ ธศาสตร์การพฒั นาการศึกษาฯ ระยะที่ 9 พนื้ ฐาน พ.ศ. 2551 แผนยุทธศาสตรก์ ารพฒั นา การศกึ ษาฯ ระยะท่ี 20 กระบวนการวจิ ยั เก่ียวขอ้ งทงั้ นักเรียน ครู และผู้จดั การศกึ ษาทุกระดบั จงึ จะทาใหเ้ กิดการปฏิรูปการศกึ ษาท่ีแทจ้ รงิ โดยมีเปา้ หมายมงุ่ การปฏิรูปการเรยี นรูข้ องนกั เรยี นเป็นสาคญั โดยใหน้ กั เรยี นเกิดทกั ษะกระบวนการเรยี นรูท้ ่ีเป็นระบบ และย่งั ยืน นาเอากระบวนการวจิ ัยไปพฒั นาการเรียนรู้ของตนเอง

ความสาคญั ของวจิ ยั กบั ครูผสู้ อน ครูผสู้ อนในฐานะนกั การสอน นกั พฒั นาหลกั สตู ร นกั วิจยั ทาการวจิ ยั เพอ่ื พฒั นาผู้เรียนเพอ่ื แกป้ ัญหาและพฒั นาผู้เรียนใหเ้ กดิ การเรียนรู้เตม็ ตามศกั ยภาพ ❖โดยใชก้ ระบวนการวจิ ยั ในการสง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นเกิดการเรยี นรูโ้ ดยใชก้ ระบวนการวิจยั และพฒั นา ตนเอง ❖โดยการวิจยั ควบคกู่ บั การพฒั นาการเรยี นการสอน ❖โดยทาการบรู ณาการการจดั การเรยี นการสอนใชก้ ารวจิ ยั เป็นสว่ นหน่งึ ของกระบวนการเรยี นรู้ ซ่ึงเป็นการ จดั กิจกรรม การเรยี นรูใ้ น แผนการเรียนรู้ การหาความรูห้ รอื วิธีการใหมๆ่ เพ่ือนามาประยกุ ตใ์ ชก้ บั สถานการณข์ องการเรยี น การสอนในชนั้ เรียน ❖การเปล่ยี นแปลงพฤตกิ รรมของผเู้ รยี น และบคุ ลิกภาพของผเู้ รยี นใหเ้ ป็นไปใน แนวทางท่ีพงึ ประสงคซ์ ง่ึ เป็น การศกึ ษารายกรณี (Case study)

ความสาคญั ของวิจยั กบั ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา พฒั นา สถานศกึ ษาโดยใชก้ ระบวนการวิจยั เพอ่ื นาไปสคู่ ณุ ภาพการศกึ ษาท่ีแทจ้ รงิ และย่งั ยืน

ความสาคญั ของวจิ ยั กบั ผเู้ รยี น มีความคดิ ใหมๆ่ จดั ทา โครงงาน สรา้ งสื่ออปุ กรณ์ ส่งิ ประดิษฐ์ ผลงานท่ีเกิดจากการเรยี นรูห้ รอื สรา้ งสรรค์ นาความรู้ ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวนั แกป้ ัญหา ตรวจสอบความรูข้ องตนเอง แสวงหาความรูใ้ หมต่ า่ งๆ

การวจิ ยั เพ่อื พฒั นาการเรียนรู้

การวจิ ยั ❖ตรงกบั คำวำ่ Research คอื กำรคน้ ควำ้ หำควำมจรงิ (Reliable knowledge) คน้ หำ แลว้ คน้ หำ อกี จนกวำ่ จะไดค้ วำมจรงิ หรอื ขอ้ เทจ็ จรงิ เพอ่ื ใหไ้ ดม้ ำซง่ึ คำตอบทถ่ี ูกตอ้ ง หรอื ควำมรใู้ หม่ เกดิ ขน้ึ ❖กำรวจิ ยั จงึ เป็นกระบวนกำร (Process) เทคนคิ วธิ ี (Techniques) ในกำร แสวงหำควำมรู้ (Knowledge) ควำมจรงิ (Fact) ทน่ี ่ำเชอ่ื ถอื ได้ (Reliable) โดยมจี ดุ มงุ่ หมำย (Objective) ท่ี แน่นอน ❖คำวำ่ “Research” จงึ แตกตำ่ งกบั คำวำ่ “Discovery” (กำรคน้ พบ) เพรำะคำวำ่ “Discovery” คอื กำรคน้ พบโดยบงั เอญิ ไมไ่ ดต้ งั้ ใจ ไมม่ รี ะบบและวธิ กี ำรทถ่ี ูกตอ้ ง ตำมระบบและวธิ กี ำรทำง

การวจิ ัยเพอื่ พฒั นาการเรียนรู้ กระบวนการวจิ ัยทมี่ ุ่งพฒั นาหรือแก้ปัญหาการจัดการเรียนการ สอนใหผ้ ู้เรียนเกดิ การเรียนรู้ เพอ่ื แกป้ ัญหาท่ี เกดิ ในชัน้ เรียนและขณะทสี่ อน นาผลทค่ี ้นพบมาปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ และพฒั นา สถานศกึ ษาไปสู่คุณภาพการศกึ ษาทแ่ี ทจ้ ริงและ ย่ังยนื

ดงั นนั้ กำรวจิ ยั เพอ่ื พฒั นำกำรเรยี นรู้ ในสว่ นของครผู ูส้ อนสว่ นมำกได้ ยนิ คำวำ่ “การวิจยั ใน ชนั้ เรียน” (Classroom Research) ซง่ึ เป็น กำรวจิ ยั ทท่ี ำในบรบิ ทของ ชนั้ เรยี นและมงุ่ นำ ผลกำรวจิ ยั มำใชใ้ นกำร พฒั นำกำรเรยี นกำรสอนของตน เป็นกำรนำกระบวนกำรวจิ ยั ไปใชใ้ น กำร พฒั นำครู ใหไ้ ปสคู่ วำมเป็นเลศิ และมคี วำมอสิ ระทำง วชิ ำกำร กำรวจิ ยั ในชนั้ เรยี นจงึ เป็นกำร วิจยั ลกั ษณะเชิงปฏิบตั ิ (Action Research) จงึ ไดเ้ รยี กวำ่ “วิจยั ปฏิบตั ิการในชนั้ เรียน (Classroom Action Research:CAR)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook