ก
ก บทสรุปสำหรับฝ่ำยบริหำร (Executive Summary) สำระสำคัญ การดาเนินการตามโครงการสืบสานศลิ ปวฒั นธรรมท้องถิน่ อาเภอธาตพุ นม จังหวดั นครพนม มสี าระสาคัญคือ เปน็ การดาเนินงานด้านการสง่ เสรมิ การสรา้ งงานศิลปะร่วมสมยั จาก ผลิตภัณฑ์ชมุ ชน ทีม่ ีฐานรากจากงานศลิ ปวฒั นธรรมกลุม่ ชาติพันธ์ุในชุมชนทอ้ งถนิ่ โดยอาศัยบุคลากร หลากหลายทั้งผสู้ ร้างงานศิลปะ ผู้เก็บรวบรวมงานศลิ ปะ ผู้ถ่ายทอดงานสสู่ าธารณะ และผู้จัดการ โครงการ ผ่านกลไกประชาสงั คม ปฏบิ ตั ิการทางสังคมทั้งในหมบู่ า้ นวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์ และ พ้ืนท่วี ัฒนธรรมอ่ืนๆ ในชมุ ชนท้องถน่ิ เป็นต้น บทวเิ ครำะห์ การทโ่ี ครงการสบื สานศลิ ปวัฒนธรรมทอ้ งถ่ิน อาเภอธาตุพนมจงั หวดั นครพนม มีผล การดาเนนิ งานตรงตามวัตถปุ ระสงค์อาจเกดิ จากงานถูกพัฒนาตอ่ ยอดจากท่ผี ู้รายงานรว่ มกบั เครือข่าย ศิลปวฒั นธรรมท้องถิน่ ธาตุพนม ไดด้ าเนินงานมาแล้วในระยะท่ผี า่ นมาโดยมีขอ้ มลู นาเข้าคือสมั ฤทธผิ ล ของงานเกดิ จากปจั จยั เชิงปฏิสัมพนั ธ์ (interaction factors) รว่ มกันระหวา่ งปจั จยั การบรหิ ารจัดการ ประสิทธิผลของงาน ปัจจัยบทบาทการมสี ่วนร่วมของชุมชน-ประสิทธิผลของงาน และปัจจยั บทบาท การมีส่วนรว่ มของชุมชน-การบรหิ ารจัดการซง่ึ ปัจจัยดงั กลา่ วถูกใช้เพ่ือจัดการทรพั ยากรด้านภมู ิปญั ญา ท่ีเกยี่ วข้องกบั การดารงชวี ติ เปน็ หลักรว่ มกับกจิ กรรมทางเศรษฐกิจชุมชนในสมยั ปัจจุบัน โดยสามารถ คดั สรรนาเสนอการพัฒนาต่อยอดท่ีชว่ ยเสริมสรา้ งอตั ลักษณ์ และมลู ค่าใหมใ่ ห้กบั งานศิลปะร่วมสมยั ปรากฏโครงสรา้ งแบบรปู อตั ลกั ษณ์ และการพัฒนาต่อยอดงาน อย่างชดั เจน สอดรบั กับการใช้เทคนิค แผนทีค่ นดี (People Mapping) การเปน็ กระบวนงานสร้างสรรค์ แล้วนามาจดั แสดงและแลกเปล่ียน งานศิลปวัฒนธรรม แบบแบ่งปนั แรงบนั ดาลใจที่ผู้รว่ มกิจกรรมของโครงการมกี ารรับรู้ตรงตามสาระ สาคัญทผี่ ู้นาเสนอได้สือ่ สารออกไป จนอยูใ่ นระดับสร้างแรงบันดาลใจรว่ มชว่ ยกนั เตมิ เตม็ ชิน้ งานได้ จึงส่งผลถึงการมีความคิดเห็นต่อโครงการในระดับมากท่สี ุด ทั้งรายด้าน และภาพรวม และการท่ี ความคดิ เห็น ของผู้เข้ารว่ มงานโครงการสบื สานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ อาเภอธาตุพนม จังหวัด นครพนม ไม่แตกตา่ งกนั ไม่ว่าจะพิจารณาจากตัวแปรสถานภาพ หรอื ประสบการณ์การเข้าร่วมงาน ในลกั ษณะเดียวกนั เป็นการสะท้อนภาพการเกิดการแลกเปลีย่ นเรียนรู้เชื่อมโยงขอ้ มูลระหวา่ งกนั โดยที่ ส่วนใหญ่เป็นประสบการณร์ ะดบั รูปธรรม จงึ สามารถเช่ือมโยงถ่ายโอนได้ไมย่ าก โดยมีขอ้ สังเกตว่า ประเด็นคาถามงานศิลปวฒั นธรรมทอ้ งถิ่นสามารถพฒั นาต่อยอดใหม้ คี ุณคา่ ทางใจ และสามารถสร้าง รายได้ชมุ ชน มคี ่าเฉล่ียสูงสดุ สอดคลอ้ งผลการวเิ คราะห์องค์ประกอบท่ีใช้เป็นข้อมลู นาเข้าจากรอบปี ที่ผา่ นมา ผ้สู ร้างงานศลิ ปะทุกประเภทและทุกกล่มุ ชาติพนั ธุ์ในพ้นื ทมี่ ีรายไดเ้ พ่มิ ขน้ึ มคี วามสอดคล้อง กบั การได้รับผลดีจากการเข้าถงึ งานผา่ นสื่อสังคมออนไลนเ์ ปน็ จานวนมากตามกระบวนงานท่ีผ้รู ายงาน ในฐานะผเู้ สนอโครงการพัฒนาให้สอดคล้องกบั สถานการณ์ทางสังคม ซึ่งภาพรวมของงานทั้งหมด ได้ช่วยสะท้อนรากเหง้าอัตลักษณท์ จ่ี ริงแทข้ องตวั ตนคนทอ้ งถิน่ จนเกิดเปน็ สง่ิ ดงึ ดูดสาคัญในโมเดล การทอ่ งเท่ยี ว ซ่ึงถูกคดั สรรมาใชเ้ ป็นเครือ่ งมืออีกชนิ้ หน่งึ ในการเพ่ิมมลู คา่ ให้กบั ทนุ ทางวัฒนธรรม สมควรไดร้ ับการพัฒนาท้ังในด้านรูปแบบ ระบบหรือกระบวนการ ให้เกดิ ความยั่งยนื
ข ลุ่มใหญ่เปน็ กลมุ่ ทมี่ ีประสบการณ์การ บทคัดยอ่ (Abstracts) ชอ่ื เร่ือง : รายงานผลการดาเนนิ งานโครงการสบื สานศลิ ปวัฒนธรรมทอ้ งถิ่น อาเภอธาตพุ นม จังหวัดนครพนม โดย : นายเดชา จนั ทศ ปีทด่ี ำเนินงำน : พ.ศ.2565 คำสำคัญ : การสรา้ งศลิ ปะร่วมสมยั จากผลติ ภัณฑ์ชมุ ชน,การสืบสานศลิ ปวัฒนธรรมกลุ่มชาตพิ นั ธุ์ ,ศลิ ปะกบั ชมุ ชน , รายงานผลการดาเนนิ งาน โครงการสบื สานศิลปวฒั นธรรมท้องถนิ่ อาเภอธาตุพนม จังหวดั นครพนม น้ีมวี ัตถปุ ระสงค์ 1) เพือ่ รวบรวมประเด็นการพฒั นาทนุ ทางศลิ ปวฒั นธรรม หรอื สังคม วฒั นธรรม ของงานศลิ ปะร่วมสมยั ทส่ี ามารถสรา้ งมลู คา่ ทางเศรษฐกิจแก่ชมุ ชนของเครือข่ายภาค ประชาสังคม 2) เพื่ออธบิ ายรายการเฉพาะของผลงานสรา้ งสรรค์ศิลปะพน้ื ถิ่น/กระบวนงานสร้างสรรค์ 3) เพ่ือประเมินความคดิ เห็นของผู้เขา้ ร่วมงาน โครงการสืบสานศิลปวฒั นธรรมท้องถน่ิ อาเภอธาตุพนม จงั หวดั นครพนม รายดา้ น และภาพรวม 4) เพื่อเปรยี บเทียบความคดิ เห็นของผู้เขา้ ร่วมงานโครงการ สืบสานศลิ ปวัฒนธรรมท้องถ่ิน อาเภอธาตุพนม จงั หวัดนครพนม จาแนกตามประสบการณเ์ ขา้ รว่ มงาน และสถานภาพ 4) เพื่อสารวจรายได้เพิ่มของชุมชน และ 5) เพ่ือสารวจปรมิ าณผู้เย่ียมชมกจิ กรรมของ โครงการตามกระบวนงานท่ีกาหนด เครือ่ งมอื ท่ีใชป้ ระกอบดว้ ยการสมั ภาษณ์ การสงั เกตแบบมีสว่ นร่วม ขณะปฏิบตั ิงาน เวทชี วนคยุ การเกบ็ รวบรวมเอกสาร แบบประเมนิ ความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมงาน โครงการ แบบลงทะเบียนผู้เขา้ รว่ มงานโครงการและบนั ทึกสถิตปิ รมิ าณผูเ้ ย่ียมชมกจิ กรรมของโครงการ และแบบบันทึกรายได้จากการจาหน่ายผลิตภัณฑช์ มุ ชนในกจิ กรรมแสดงทางศิลปวัฒนธรรม วเิ คราะห์ ข้อมลู เชงิ คุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนอ้ื หา และวิเคราะหข์ ้อมูลเชิงปริมาณโดยใชส้ ถติ ิบรรยาย การ วิเคราะหค์ ่าสถิติที (t-test) และการวเิ คราะหค์ วามแปรปรวนแบบทางเดยี ว (Analysis of Variance : one way ANOVA) และทาการวิเคราะห์ความแตกตา่ งรายคู่ภายหลงั (Post- hoc Comparison) ดว้ ยเทคนคิ ของ Scheffe’ โดยใชโ้ ปรแกรมคอมพิวเตอร์สาเร็จรปู SPSS for Windows (Statistical Package for the Social Sciences for Windows) Standard Version ผลการรายงานพบวา่ 1)ประเดน็ การพฒั นาทนุ ทางศลิ ปวัฒนธรรมหรอื สงั คมวัฒนธรรมคอื การจดั การทรัพยากรดา้ นภมู ิปัญญา ด้านทเ่ี กย่ี วข้องกับการดารงชวี ิตเปน็ หลกั รว่ มกบั กิจกรรมทางเศรษฐกิจในสมยั ปจั จบุ ัน 2)รายการเฉพาะ ของผลงานสร้างสรรค์ศลิ ปะพนื้ ถ่ิน คอื ขนั หมากเบง็ และฮูปแตม้ ซึ่งวเิ คราะห์เนื้อหาพบประเดน็ โครงสรา้ ง แนวคิดพื้นฐานท่ีใชอ้ อกแบบงานศลิ ปะ โครงสร้างแบบรปู อัตลักษณ์และการพฒั นาต่อยอดงาน สว่ น กระบวนงานสร้างสรรค์ คอื การใชเ้ ทคนิคแผนทค่ี นดี 3)ผู้เข้าร่วมงานโครงการสืบสานศลิ ปวัฒนธรรม ท้องถน่ิ อาเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม มีความคดิ เห็นต่องานโครงการ รายด้านและภาพรวมในระดับ มากทีส่ ุด 4) ผูเ้ ข้ารว่ มงานโครงการสืบสานศลิ ปวฒั นธรรมท้องถิ่น อาเภอธาตุพนม จงั หวัดนครพนม ที่มี ประสบการณ์การเข้ารว่ มงานแตกตา่ งกนั และ สถานภาพแตกตา่ งกัน มีความคดิ เหน็ ตอ่ งานโครงการ แตกต่างกนั อย่างไมม่ ีนัยสาคัญทางสถติ ิท่ีระดบั .05 4) รายไดจ้ ากการจดั แสดงและจาหนา่ ยผลติ ภัณฑ์ สินคา้ ชุมชนกลุ่มชาติพันธ์ุ ท่ีปฺฏิบัติการรว่ มภายใตโ้ ครงการ เพม่ิ ขึ้น 571,020 บาท 5)ปรมิ าณผู้เย่ียมชม กจิ กรรมของโครงการตามกระบวนงานทกี่ าหนด เพิ่มขึ้นร้อยละ 99.87 และ
ค คำนำ รายงานผลการดาเนินงาน โครงการสืบสานศิลปวัฒนธรรมทอ้ งถิน่ อาเภอธาตุพนม จผั งหวัดนครพนม เป็นการประเมนิ ทช่ี ว่ ยสะท้อนผลทเ่ี กิดขึน้ จากการปฏบิ ตั งิ าน ตามวตั ถุประสงค์ ของโครงการ รปู แบบการรายงานเปน็ การสรุปย่อเชิงประเมิน โดยยดึ วัตถุประสงค์ของโครงการ เป็นหลกั ภายใต้การขยายแงม่ ุมให้หลากหลาย โดยอนวุ ัตตามโครงสรา้ งของการจัดทารายงาน ท่ีสานกั งานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ไดก้ าหนดแนวทางไว้ ผรู้ ายงานได้รายงานประเด็นตา่ ง ๆ ตามโครงสรา้ ง โดยแบ่งเปน็ 4 หมวดหมู่ ได้แก่ ส่วนท่ี 1 ความนา ส่วนท่ี 2 วิธีดาเนินการ สว่ นที่ 3 การประเมนิ ผลการดาเนินงานและอภิปราย ส่วนที่ 4 สรุปผลการดาเนินงานและข้อเสนอแนะ รวมทัง้ ภาคผนวก บทคดั ย่อ และบทสรปุ สาหรบั ฝา่ ยบริหาร ในภาพรวมรายงานฉบบั น้ีจึงเปน็ การช่วยสะท้อนงาน ลักษณะอธิบาย และคน้ หาเพ่ือ พัฒนางานเชิงเสรมิ พลงั และใคร่ขอขอบคุณสานักงานศิลปวฒั นธรรมร่วมสมัย เป็นอย่างสงู ทกี่ รณุ า ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนทางการเงนิ แก่โครงการ และคาแนะนาที่เป็นประโยชน์ และขอขอบ พระคณุ วัดพระธาตพุ นมวรมหาวหิ าร ท่เี มตตาให้ใชส้ ถานทส่ี าหรับการจดั งาน เพอ่ื ใหง้ านสร้างสรรค์ ต่าง ๆ เป็นประโยชนแ์ ก่ประชาชนเปา้ หมายอยา่ งแทจ้ ริง ผู้รายงานหวงั วา่ กิจกรรม และรายงานโครงการจะอานวยประโยชนแ์ ก่ชมุ ชนท้องถน่ิ ได้ตามสมควร รวมถึงการรังสรรค์งานในโอกาสตอ่ ไป เดชำ จันทศ มิถุนายน 2565
ง สำรบัญ เรอ่ื ง หน้ำ บทสรปุ สาหรับฝ่ายบริหาร ก บทคัดย่อ ข คานา ค สารบัญ ง สารบัญตาราง ฉ สารบญั ภาพ ช สว่ นที่ 1 ความนา 1 1 หลักการและเหตผุ ล 3 วัตถปุ ระสงคข์ องโครงการ 3 ความสัมพันธร์ ะหว่างวตั ถุประสงค์ ตัวชวี้ ดั และผลผลติ ของโครงการ 4 ส่วนท่ี 2 วิธดี าเนินการ 4 ระยะเวลาดาเนินงาน 4 กลุ่มเป้าหมาย 4 งบประมาณท่ีไดร้ ับการสนบั สนนุ 5 ประโยชนท์ ีไ่ ดร้ ับจากโครงการ 6 เครือข่ายทีร่ ่วมดาเนนิ โครงการ 6 ข้ันตอนการดาเนินงาน 7 รายชอ่ื ผ้เู ขา้ รว่ มโครงการ 8 การลงสื่อประชาสัมพนั ธ์ 9 11 ส่วนท่ี 3 การประเมินผลการดาเนนิ งานและอภปิ ราย 12 เครอื่ งมือและการสรา้ งเคร่อื งมอื 12 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 13 การวิเคราะห์ข้อมลู 43 ผลการประเมินงานโครงการ 45 อภปิ ราย 45 46 สว่ นที่ 4 สรุปผลการดาเนนิ งานและข้อเสนอแนะ 47 สรปุ ผลการดาเนนิ งาน 48 ขอ้ เสนอแนะ ภาคผนวก ภาคผนวก ก หนังสือสานักงานศลิ ปวัฒนธรรมรว่ มสมัยแจง้ ผลการขอรบั การสนับสนนุ การจัด โครงการสืบสานศลิ ปวัฒนธรรมท้องถน่ิ อาเภอธาตุพนม จังหวัด นครพนม
สำรบญั (ต่อ) จ เร่อื ง หน้ำ 54 ภาคผนวก ข เอกสารใชใ้ นงานกจิ กรรมโครงการสืบสานศิลปวฒั นธรรมท้องถน่ิ 62 ภาคผนวก ค อาเภอธาตุพนม จงั หวัดนครพนม คาสง่ั และกระดาษพิมพผ์ ลการวิเคราะห์ข้อมลู ดว้ ยโปรแกรม คอมพิวเตอรส์ าเรจ็ รูป SPSS for Windows
ฉ สำรบัญตำรำง ตำรำง หน้ำ 1 ความสัมพันธ์ระหว่างวตั ถุประสงค์ ตัวชี้วัดและผลผลิตของโครงการาองการประเมนิ 3 4 2 ขอบเขตการใช้จ่ายเงนิ ท่ีไดร้ บั การอุดหนุนการดาเนินงานโครงการ 6 3 บทบาทของเครือขา่ ยทรี่ ว่ มดาเนนิ โครงการ 9 4 การกาหนดวัตถปุ ระสงค์ของการประเมิน 10 5 ผลการออกแบบการประเมนิ ผลการดาเนนิ งาน 40 6 ผลการประเมินความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมงานโครงการสบื สานศลิ ปวฒั นธรรม 41 ท้องถน่ิ อาเภอธาตุพนม จงั หวัดนครพนม รายด้าน และภาพรวม 7 ผลการเปรียบเทยี บความคิดเห็นของผูเ้ ข้ารว่ มงานโครงการสืบสานศลิ ปวัฒนธรรม 41 ทอ้ งถิ่น อาเภอธาตุพนม จังหวดั นครพนม จาแนกตามประสบการณ์เข้าร่วมงาน 42 8 ผลการเปรียบเทยี บความคิดเหน็ ของผู้เข้าร่วมงานโครงการสบื สานศลิ ปวัฒนธรรม 43 ทอ้ งถิ่น อาเภอธาตุพนม จงั หวดั นครพนม จาแนกตามสถานภาพ 45 9 ผลการสารวจรายไดเ้ พ่ิมชองชุมชนกล่มุ ชาติพนั ธุ์ท่ปี ฏบิ ตั ิการรว่ มภายใตโ้ ครงการ 8 ในบริบทของพื้นที่ 10 10 ผลการสารวจปริมาณผเู้ ย่ยี มชมกิจกรรมของโครงการตามกระบวนงานที่กาหนด 11 สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการ 10 6 ความรู้ ความเขา้ ใจ ในสาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ของนักเรยี นทเี่ ข้ารว่ มโครงการ รายดา้ น และภาพรวม 7 ผลการเปรยี บเทียบความรู้ความเขา้ ใจในสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ของนกั เรยี น ท่เี ข้าร่วมโครงการจาแนกตามความสามารถทางการเรยี น 8 ผลการแจกแจงมาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชีว้ ดั และสาระการเรียนรขู้ อง ประสบการณ์ คดั สรร
สำรบัญภำพ ช ภำพ หนำ้ 1 วาไรต้ีงานภูมใิ จและไปตอ่ ของศิลปินพ้นื บ้าน 15 2 พื้นท่ใี หม่ของงานศลิ ปหัตถกรรมพนื้ ถิ่น 16 3 หัตถกรรมจกั สานและผลงานชุมชนเขม้ แขง็ 17 4 งานศลิ ปะสร้างสรรค์พื้นถิน่ กบั ยวุ ศลิ ปินพ้ืนบา้ น 18 5 งานศลิ ปะสร้างสรรค์พื้นถนิ่ กับศิลปินพน้ื บ้าน 19 6 ดนตรีพ้ืนถนิ่ พณิ พาทย์พระธาตุพนม 20 7 พิธเี ปิดงานโครงการ 21 8 ผ้ดู าเนนิ รายการกบั ราชุด 8 ชนเผ่าสาวนครพนม ในพิธีเปิดงาน 22 9 บรรยากาศท่วั ไปพิธีเปิดงาน 23 10 บรรยากาศทั่วไปของงาน 24 11 ภาพสเกตซแ์ บบกบั ชนิ้ งานสร้างสรรคข์ ันหมากเบง็ 26 12 ความก้าวหนา้ ของการพัฒนาชิน้ งานขนั หมากเบ็งสร้างสรรค์ 28 13 ความกา้ วหน้าของการพัฒนาชิน้ งานขนั หมากเบ็งจากต้นกกและจากตน้ ไมไ้ ผ่ 29 14 ภาพฮูปแต้มงานจิตรกรรมผนงั โบสถ์วัดในพน้ื ท่ีอาเภอธาตุพนม จงั หวดั นครพนม 30 15 ภาพฮปู แตม้ ร่วมสมยั 31 16 ภาพการตอ่ ยอดงานฮูปแต้มงานในพื้นที่ใหม่ 32 17 ภาพแผนที่คนดี (People Mapping) ในการสรา้ งสรรคช์ ้นิ งาน 33 ขนั หมากเบ็ง สร้างสรรค์ 34 18 ภาพแผนท่คี นดี (People Mapping) ในการสร้างสรรค์ช้ินงาน 35 ฮปู แตม้ สร้างสรรค์ 19 ภาพบนั ทึกหน้าจอถ่ายทอดสดบรรยากาศงานชว่ งเชา้ ผา่ นเพจเฟซบุค๊ 35 เทีย่ วนครพนม จานวนผู้เขา้ ถงึ 6,220 คน 36 20 ภาพบันทกึ หนา้ จอถา่ ยทอดสดพิธเี ปดิ งานโครงการ ผา่ นเพจเฟซบุ๊ค 37 เท่ยี วนครพนม จานวนผ้เู ข้าถงึ 2,921 คน 21 ภาพบนั ทกึ หนา้ จอถา่ ยทอดสดบรรยากาศงานช่วงเชา้ ผา่ นเพจเฟซบคุ๊ 38 นครพนมบา้ นเฮา จานวนผเู้ ขา้ ถึง 9,770 คน 39 22 ภาพบันทกึ หนา้ จอถา่ ยทอดสดพิธเี ปิดงานโครงการ ผา่ นเพจเฟซบุ๊ค นครพนมบ้านเฮา จานวนผ้เู ขา้ ถึง 9,216 คน 23 ภาพบันทึกหนา้ จอข้อมูลถ่ายทอดสดพิธีเปดิ งานโครงการ ผา่ นเพจเฟซบุ๊ค ThatphanomNews จานวนผ้เู ขา้ ถงึ 2,700 คน 24 ภาพการประชมุ ปฏบิ ตั ิการ สร้างแอดมินเพจเฟซบุ๊คโครงการ รองการประเมิน
ส่วนท่ี 1 ควำมนำ หลกั การและเหตุผล ในข้อเสนอโครงการ เพื่อขอรบั การสนับสนุนเงินอุดหนุนการดาเนนิ โครงการสืบสาน ศลิ ปวัฒนธรรมท้องถนิ่ อาเภอธาตุพนม จงั หวัดนครพนม ของผู้รายงานไดร้ ะบุถงึ งานด้านศิลปวฒั นธรรม ทส่ี ง่ ผลต่อบทบาทหนา้ ทีข่ องเมืองธาตุพนม ซงึ่ เป็นพื้นทป่ี ฏิบัติงานโครงการสรุปว่า การประดษิ ฐาน องคพ์ ระธาตุพนมมีอิทธิพล ตอ่ พฒั นาการของเมอื งที่มคี วามเจรญิ รุง่ เรืองก้าวหน้าในหลากหลายมิติ สอดรับสัมพัทธ์ กับพลวัตขิ องพัฒนาการของรัฐชาตมิ าหลายยุคสมัยทง้ั ด้านเศรษฐกจิ และสงั คม ทั้งนี้ กจิ กรรมทางพทุ ธศาสนา และความเล่ือมใสศรัทธาตอ่ องคพ์ ระธาตุพนม ซ่ึงเปน็ ศนู ยก์ ลางของสงั คมมี อิทธพิ ลอยา่ งสงู ตอ่ ระบบ ระเบยี บ และการจดั หน้าที่ของการพัฒนาเมอื งธาตุพนมมาอยา่ งตอ่ เนื่อง การดารงอยู่และการพฒั นาเมอื งธาตพุ นมภายใตบ้ ริบทของรัฐชาติ โดยเฉพาะอย่างยงิ่ การก้าวเข้าสสู่ ังคม โลกาภวิ ัตน์ สง่ ผลทางตรงต่อโลกทัศน์ ของผ้ทู ่ีต้องการความทนั สมัยแตข่ าดการคัดกรองให้สอดคลอ้ งกับ รากเหง้าวฒั นธรรมด้งั เดมิ ของตนเอง ทาใหก้ ิจกรรมทางเศรษฐกจิ และสังคมหลายๆ ด้าน ถูกลดทอน บทบาทลง เชน่ กจิ กรรมการคา้ พื้นถ่นิ การเกิดพนื้ ทีท่ างวฒั นธรรมใหมท่ ่ีไม่เหมาะสมสอดคล้องกับชมุ ชน ซงึ่ ลว้ นสร้างผลกระทบเชงิ ลบต่อการดารงอยู่ การสบื ทอดมรดกทางวัฒนธรรม และสง่ ผลตอ่ วถิ ีชวี ิต ความเจรญิ งอกงามของประชาชนท้งั สน้ิ แนวคิดทอ้ งถนิ่ ภวิ ัตน์ เป็นงานท่ใี ช้แกไ้ ขผลด้านลบของแนวคดิ โลกาภิวตั น์ได้ ในระนาบท่ี ไมข่ ัดแยง้ โดยใช้กลไกการอนุรกั ษ์ พฒั นาตอ่ ยอด สรา้ งมลู ค่าเพ่ิมใหมๆ่ ให้กับทนุ ทางสงั คมวฒั นธรรม ดัง้ เดมิ ผา่ นงานศิลปะทผี่ ้คู นท้องถ่นิ รังสรรค์ข้นึ ในหลายแขนง ท้ังงานวรรณกรรม ดนตรี ประติมากรรม และสถาปัตยกรรมฯลฯ แตก่ รณเี มืองธาตพุ นมพบว่า งานศิลปะรงั สรรค์ของผู้คนทอ้ งถ่ินยังไมม่ ีกลไกการ อนุรักษ์ พฒั นา ตอ่ ยอดดังกล่าวข้างตน้ ท้งั ด้านเน้ือหาสาระและการจดั การบรู ณาการเช่ือมโยงกบั ขอบขา่ ย งานพัฒนาอนื่ ๆ โดยปรากฏวา่ ผลิตภาพของสินค้า และบรกิ ารอันเกีย่ วเน่ืองกบั วฒั นธรรมชุมชนทอ้ งถ่นิ มนี ้อยและไม่เช่อื มโยงกับกจิ กรรมการทอ่ งเทีย่ วในฐานะเคร่อื งมือการพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมอย่างนอ้ ย เพ่ือการทดแทนมูลค่าทางเศรษฐกิจของสังคมทีถ่ กู ลดทอน หรอื พัฒนาเพมิ่ มูลค่าใหม่ให้เหมาะสมจงึ ไม่อาจ รับประโยชนเ์ ตม็ ท่ีจากนกั ทอ่ งเท่ยี วจานวน 1.02 ลา้ นคนต่อปี ทีเ่ ดินทางเขา้ มาในพ้ืนที่ท่องเท่ยี วทม่ี อี งค์ พระธาตพุ นมเปน็ สิ่งดึงดูดสาคัญอยู่แลว้ ซึง่ สานักงานสถิตจิ งั หวัดนครพนมและสานกั งานการทอ่ งเท่ียวและ กีฬาจงั หวดั นครพนมเกบ็ รวบรวมข้อมลู ไว้ แตย่ ังไมม่ ีการจัดระบบทอ่ งเทยี่ วทีม่ คี ุณภาพในพื้นทเี่ ลย ผู้พัฒนา/รับผดิ ชอบโครงการตระหนักถึงความสาคญั ของกระบวนการใน การอนุรกั ษ์ สงวน รักษา และพัฒนาต่อยอดทนุ ทางสังคมวัฒนธรรม โดยใช้วิธีการหลากหลายหลายอาทีเรียนรู้ ให้เข้าถงึ สารัตถะของงานศลิ ปวัฒนธรรมท้องถน่ิ หลายแขนงหลายดา้ น เช่นในดา้ นระบบความคิด และคุณคา่ ด้งั เดิม ผ่านการตคี วาม ประยกุ ต์ ต่อยอดใหร้ ะบบความคดิ และคณุ ค่าด้งั เดมิ สามารถปฏบิ ตั กิ ารรว่ มสมัยในระบบ คดิ และคุณค่าใหม่ อย่างสอดคลอ้ งเช่ือมโยง ซ่ึงเปน็ การทาหนา้ ทข่ี องปวงชนชาวไทยและมีสว่ นร่วมในการ ทาหน้าทีข่ องรฐั ท่ีบัญญัติไวใ้ นรฐั ธรรมนญู ฉบบั ปจั จบุ ัน อีกทัง้ ยงั สอดคล้องกับหลกั คิดดา้ นนโยบาย ที่ สอดคลอ้ งเชอื่ มโยงกันหลายระดบั เช่นยุทธศาสตรช์ าติระยะ 20 ปีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ ฉบับที่ 12 ยทุ ธศาสตร์ 20 ปี ด้านวฒั นธรรม และข้อเสนอขอข้นึ ทะเบียนพระธาตพุ นมเป็นมรดกโลก ทางวฒั นธรรมต่อองคก์ ารการศึกษาวิทยาศาสตรแ์ ละวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ซ่งึ เป็นบรบิ ทการพฒั นา ในพ้ืนที่ โดยมกี ารสบื ค้นด้านอัตลกั ษณท์ างศิลปวัฒนธรรมของชมุ ชนทอ้ งถ่นิ ท่ผี นวกการสง่ เสรมิ อาชพี เปน็ 1 ใน 3 โครงการจาเปน็ เร่งด่วนในสังกัปของงาน ทงั้ น้ผี ูผ้ ู้พฒั นา/รบั ผดิ ชอบโครงการนี้ ได้รบั แต่งต้งั
2 ใหเ้ ปน็ คณะกรรมการขบั เคล่อื นยุทธศาสตร์การดาเนนิ งานเพื่อขอขึ้นทะเบยี นพระธาตุพนมเป็นมรดกโลก ตามประกาศของจงั หวัดนครพนมด้วย แนวคดิ ดังกล่าว ได้ถกู นามาปฏบิ ตั กิ ารทางสังคม โดยใชก้ ระบวนการมสี ว่ นรว่ มของชมุ ชน ในมิตขิ องการเรียนรแู้ ละปฏิบตั กิ ารทางสังคมร่วมกันผ่านสถาบัน องค์กร หรือปัจเจกชนโดยการบรู ณาการ งานผา่ นการสรา้ ง และพัฒนาเครือขา่ ยสืบสานศลิ ปวัฒนธรรมท้องถิ่นอาเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม รังสรรคง์ านศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถ่ินหลากหลายแขนง ที่สามารถเชอ่ื มโยงถงึ รากเหง้าดา้ นวัฒนธรรมชมุ ชน ดว้ ยการสร้างพ้นื ที่ทางวฒั นธรรมสร้างสรรค์ในสวนสาธารณะ “สวนศรโี คตรบรู ” ซึง่ เป็นพนื้ ทีเ่ ปิดโล่งเพ่อื การนนั ทนาการ เรียกว่า “สวนศิลป์” รวมท้งั แหลง่ วัฒนธรรมอนื่ ในพน้ื ทอี่ าเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ผ่านกรอบวิสัยทศั น์ “สบื สานงานศลิ ปถ์ ่ินศรทั ธาเพิ่มคณุ ค่าใหส้ งั คม” นารอ่ งกิจกรรมของโครงการ ดว้ ย การ “รงั สรรคง์ านวิถชี าติพนั ธุ์นทิ ัศนศ์ รัทธา” สูง่ านศลิ ปะร่วมสมัยไลฟส์ ไตล์ โดยการบูรณาการงานการ ทอ่ งเที่ยวแบบสร้างสรรค์สร้างแรงบนั ดาลใจ ถ่ายทอดเนอ้ื หา และช่วยกาหนดตาแหน่งของงานท่มี คี วาม โดดเด่น สามารถดงึ ดูดเช่ือมโยงใหบ้ ุคคลเขา้ ร่วมกจิ กรรมทอ่ งเที่ยวเชงิ วัฒนธรรม ในแหล่งทพ่ี ฒั นาข้นึ ดังกล่าวในฐานะเครอ่ื งมอื เปลี่ยนคณุ ค่าสมู่ ูลค่า ดว้ ยการจดั การทนุ ทางศิลปวัฒนธรรมท่หี ลากหลายของ ทกุ กลุ่มชาตพิ ันธ์ุในพน้ื ที่ เช่น กลุ่มชาตพิ ันธุ์ผู้ไท กลมุ่ ชาติพนั ธุ์ไทขา่ กล่มุ ชาติพันธ์ุไทยกวน กลมุ่ คนไทย เชอ้ื สายจีนและกลุม่ คนไทยเช้ือสายเวียดนามเป็นต้น ซ่งึ มีความสามารถสร้างสรรคง์ านศลิ ปะได้หลายแขนง ได้แก่ งานทอและสร้างสรรค์ผลติ ภณั ฑ์ผ้าพน้ื ถ่นิ หลากหลายเทคนิควิธกี าร มอี ตั ลกั ษณโ์ ดดเด่น งาน หัตถกรรมจกั สาน งานไม้ งานดา้ นประติมากรรม การหล่อและตขี ้ึนรปู ผลิตภัณฑ์จากเหลก็ เคร่อื งใช้ ในการประกอบอาชพี การดุนลายโลหะของท่รี ะลกึ การทาเครอื่ งประดับ การทาผลิตภัณฑ์แปรรปู จากข้าว การทาอาหารและขนม การทาประมงพื้นบา้ น เปน็ ต้น โดยใชก้ จิ กรรมการท่องเที่ยว ช่วยให้เกดิ มูลคา่ ทาง เศรษฐกิจสง่ เสรมิ รายได้ผคู้ นในชุมชน และสร้างความเข้มแขง็ จากฐานรากของชุมชน โดยมคี วามสอดคลอ้ ง และชว่ ยขบั เคล่ือนแนวคดิ และงานพฒั นาท่ีย่งั ยนื สมดลุ ระหวา่ งอัตลักษณว์ ิถสี ังคมดัง้ เดิมกบั พัฒนาการ ใหม่ ๆ ทั้งนีเ้ ครอื ขา่ ยสืบสานศลิ ปวัฒนธรรมทอ้ งถนิ่ อาเภอธาตุพนมมผี ลการดาเนินงานมาระยะหนึง่ แลว้ เช่น การทางานรว่ มกับชุมชนหมู่บา้ นวัฒนธรรม กลุม่ ชาติพนั ธผ์ุ ู้ไทบา้ นอ่มุ เหม้า ต.อมุ่ เหม้า อ.ธาตพุ นม จ.นครพนม เปิดพนื้ ท่งี านต่อยอดมูลค่าผลติ ภัณฑ์ผ้าย้อมครามพ้นื ถ่นิ ด้วยการจัดการแสดงประกอบแสง เสยี ง และเสนอผา่ นส่ือสารมวลชน ทางานรว่ มกับชมุ ชนหมบู่ ้านวัฒนธรรมกล่มุ ชาตพิ ันธุ์ไทกวน ต.นาถอ่ น อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ด้วยการแสดงสนิ ค้าและจาหน่ายผลิตภณั ฑจ์ ากเหล็ก และการบรกิ ารทาง วัฒนธรรม งานสปาเกลอื และการทางานรว่ มกับกลุ่มคนไทยเชอื้ สายจนี และกลมุ่ คนไทยเชื้อสายเวยี ดนาม ในการฟ้ืนคืนย่านคา้ เก่าท่ีถูกลดทอนคุณค่าลงให้ปฏิบัติการทางเศรษฐกิจร่วมสมยั ได้ รวมทง้ั ดาเนินงาน โครงการสบื สานศิลปวฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยได้รบั การสนบั สนุนจากสานกั งาน ศิลปวัฒนธรรมรว่ มสมัย กระทรวงวัฒนธรรม 2 ปี ต่อเน่ือง ปรากฏสัมฤทธผิ ลดีทัง้ ด้านสงั คม และเศรษฐกิจ โดยชุมชนทอ้ งถ่นิ ได้ตระหนกั รู้ และมีทศั นคติเชงิ บวกต่อการสรา้ งความเข้มแขง็ จากฐานราก และสามารถ สรา้ งรายได้เพม่ิ ขน้ึ จากการสร้างสรรค์งานศลิ ปะรว่ มสมยั ตามตัวชวี้ ัด ท่กี าหนดไว้ในโครงการ ซึง่ การ ดาเนนิ งานในปีที่ผา่ นมาเปน็ งาน แนะนา และรเิ ริ่ม สว่ นการดาเนนิ งานตอ่ เนือ่ งในปีที่ 3 ครง้ั นี้ จะเปน็ งาน สร้างสรรค์ พฒั นา มกี ารเพมิ่ แนวทางพัฒนาคณุ ภาพสนิ ค้า และบรกิ ารทางวัฒนธรรมของชุมชนท้องถ่นิ ภายใต้แนวคดิ “ฮีตคอง : ศลิ ป์ศรัทธา บชู าพระธาตุ” บูรณาการกบั หลกั คิด และวิธปี ฏบิ ัติในการสร้าง ส่วนผสมทางการตลาด โดยจัดแสดงผลงาน แลกเปล่ยี น ผลงานศลิ ปะสร้างสรรค์ของชมุ ชนท้องถิน่ ในพ้ืนท่ี โดยดาเนินการตามท่ีไดร้ บั อนมุ ตั ิ
3 วัตถปุ ระสงค์ของโครงกำร 1. เพื่อสง่ เสริมการพัฒนาและแลกเปลีย่ นงานศิลปะของชมุ ชนทอ้ งถิ่น 2. เพ่อื สร้างรายได้ใหช้ ุมชน โดยใช้กิจกรรมบูรณาการงานพฒั นาด้านวัฒนธรรม ควำมสัมพันธร์ ะหวำ่ งวตั ถปุ ระสงค์ ตัวชวี้ ดั และผลผลิตของโครงกำร ตำรำง 1 ความสัมพนั ธ์ระหว่างวัตถปุ ระสงค์ ตวั ชี้วัดและผลผลิตของโครงการ วตั ถุประสงค์ ตัวช้วี ดั ของวตั ถปุ ระสงค์ หน่วยนบั / ค่าเป้าหมาย 1.เพ่อื ส่งเสรมิ การพฒั นาและ 1.เครอื ขา่ ย ของภาคประชาสังคม ประเมิน สามารถนาสมรรถนะดา้ นต่าง ๆ ของ เน้ือหาตรง แลกเปลีย่ นงานศิลปะ งานศลิ ปะรว่ มสมัยทเี่ กิดขึ้นไปสร้าง ประเดน็ ตามสภาพ ของชมุ ชนท้องถนิ่ ประเด็นการพฒั นาทุนทาง การพฒั นา ศิลปวัฒนธรรม หรือสังคมวฒั นธรรม อย่างนอ้ ย 2.เพ่ือสรา้ งรายไดใ้ หช้ ุมชน ให้เกิดมลู คา่ ทางเศรษฐกิจแก่ชุมชน ชิ้นงาน/ อบ่างละ โดยใชก้ จิ กรรมบรู ณาการ 2.การพฒั นาต่อยอดผลงานศิลปะ กระบวนงาน 1 รายการ งานพัฒนาดา้ นวัฒนธรรม พื้นถ่นิ /กระบวนงาน 3.ความคดิ เห็นของผ้เู ขา้ รว่ มงาน ระดบั มาก โครงการสบื สานศิลปวฒั นธรรม ความคดิ เห็น รายได้ ทอ้ งถ่ิน อาเภอธาตุพนม จังหวัด รายได้เพ่ิม เพ่ิมข้ึน นครพนม 1 รายไดเ้ พ่ิมของชมุ ชน ร้อยละ 5 2.ผู้เย่ยี มชมกิจกรรมของโครงการตาม กระบวนงานทก่ี าหนดเพิม่ ข้ึนจากเดมิ
สว่ นที่ 2 วิธดี ำเนินกำร ระยะเวลำกำรดำเนนิ งำน เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2565 กลุ่มเปำ้ หมำย 1. กลมุ่ เป้าหมายเชงิ ปรมิ าณ 1.1 ประชากรในชุมชน/ในสถานท่จี ดั กิจกรรมตามโครงการ จานวน 10,376 คน 1.2 ศลิ ปนิ /ปราชญ์ชาวบ้าน จานวน 500 คน 1.3 นกั เรยี น นิสิต นักศกึ ษา จานวน 2,500 คน 2. กลุม่ เปา้ หมายเชิงคุณภาพ 2.1 การพฒั นาต่อยอดผลงานศลิ ปะพืน้ ถิ่นมีสาระสาคญั สอดคล้องกบั โจทย์การพัฒนา ชุมชนท้องถ่ิน 2.2 ผู้เข้าร่วมโครงการมีความพงึ พอใจในระดับมาก 2.3 เครอื ข่ายภาคประชาสงั คมที่เข้ารว่ มกิจกรรมโครงการสามารถถอดบทเรียนการ สรา้ งสรรคง์ านศลิ ปะร่วมสมยั ของชุมชนท้องถ่ินและการบรู ณาการงานพัฒนาสงั คมและเศรษฐกจิ ไป สรา้ งโจทย์การพฒั นาชมุ ชนท้องถนิ่ ไดอ้ ย่างมีประสิทธผิ ล งบประมำณทีไ่ ดร้ บั กำรสนับสนนุ ผรู้ ายงานไดร้ บั การจดั สรรจาก สานกั งานศลิ ปวฒั นธรรมรว่ มสมัย กระทรวงวฒั นธรรม เพือ่ การจดั งานก่อใหเ้ กิดรายได้ตอ่ ชุมชนอย่างตอ่ เนื่อง และเผยแพร่ศิลปวฒั นธรรมในท้องถ่นิ ให้เกดิ การซ้อื งานศิลปะในท้องถนิ่ ซง่ึ เป็นการบูรณาการงานร่วมกับหลายภาคส่วน ตามหนังสือแจง้ ผลการ ขอรับการสนับสนุน ของสานักงานศิลปวฒั นธรรมรว่ มสมัย ท่ี วธ 0602/1024 ลว 29 พฤศจิกายน 2565 และหนงั สืออนุญาตเล่ือนการจัดงานโครงการ ดว่ น ท่ี วธ 0602/143 ลว 28 กมุ ภาพันธ์ 2565 (ภาคผนวก ก ) กจิ กรรมแสดงในตาราง 2 ตำรำง 2 ขอบเขตการใช้จ่ายเงินทีไ่ ดร้ ับการอุดหนุนการดาเนนิ งานโครงการ ท่ี ขอบเขตการใช้จา่ ยเงิน เง่อื นไข 1. การแลกเปลยี่ นเรียนรทู้ างวฒั นธรรม และแลกเปลี่ยนงานศลิ ปะ 1. สร้างรายไดใ้ ห้แกช่ มุ ชน ทอ้ งถ่ิน 2. การเขา้ ถึงของผเู้ ย่ียมชมกิจกรรมของโครงการตามกระบวนงาน 2. มกี ารพัฒนาต่อยอดงาน ที่กาหนด เพม่ิ ขนึ้ จากเดมิ
5 ประโยชนท์ ่ไี ดร้ บั จำกโครงกำร 1. ผลผลติ (output) และผลลัพธ์ (outcome) ของงานโครงการตรงตามสาระสาคัญ และคา่ เปา้ หมายของงาน บรรลุตามทกี่ าหนดไว้ เชน่ มีพฒั นาและแลกเปลย่ี นงานศลิ ปะของชุมชนท้องถิน่ ผ่าน กลไกการท่องเทย่ี วชุมชนในฐานะเคร่ืองมือการสร้างรายได้จากสินค้าผลติ ภณั ฑ์ และการบริการชอง ชุมชนซง่ึ ผ้รู ายงานปฏบิ ตั กิ ารรว่ มกบั เครือขา่ ยศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ ธาตพุ นมได้พยายามผลักดันงานใน กรอบแนวทาง “สืบสานงานศิลป์ถนิ่ ศรทั ธาเพ่ิมคุณคา่ ใหส้ งั คม”ปฏิบัติการผ่านพนื้ ท่ีวฒั นธรรมในชมุ ชน ท้องถน่ิ และนาผลงานจัดแสดงภายในบริเวณวดั พระธาตุพนมวรมหาวหิ าร ซึ่งเป็นแหลง่ ทอ่ งเที่ยว เชงิ ศาสนาทสี่ าคญั ผา่ นงานศิลปะร่วมสมยั ใชก้ รอบแนวคิด “ฮตี คอง:ศลิ ป์ศรทั ธา บูชาพระธาตุ” ทาให้ ชว่ ยสนับสนุนใหเ้ กดิ การพัฒนาต่อยอดผลงานศิลปะพน้ื ถิ่น และการแลกเปลี่ยนผลงานในพ้ืนท่ี ทีม่ ี ปรมิ าณนกั ทอ่ งเท่ียว ผู้สนใจในท้องถ่นิ อาเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม และพื้นท่ใี กลเ้ คยี งเป็น จานวนมากสามารถสร้างรายไดเ้ พม่ิ ให้กบั งานสรา้ งสรรค์ศลิ ปะพื้นถน่ิ ของศลิ ปินพ้ืนบ้าน หลายกลุม่ เช่น กลุ่มงานประดษิ ฐ์ดอกไม้ กลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าทอพนื้ เมืองและผลิตภณั ฑ์ กลุม่ งานหตั ถกรรมของทร่ี ะลึก และกลมุ่ งานทศั นศลิ ป์และบริการถ่ายภาพ เป็นตน้ และในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้ือ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ลักษณะการดาเนนิ งานคลา้ ยคลงึ กบั รปู แบบเดิม คือยังคงจัดงานในบริเวณ พื้นท่จี ัดงานท่กี าหนดไวเ้ ดิม และมีการนาเสนอ การสร้างสรรคง์ านศิลปะชุมชนดว้ ยสื่อสงั คมออนไลน์ ทงั้ การ ไลฟส์ ดกิจกรรมในวันจดั งาน และการใชส้ ื่อสมัยใหมช่ ่วยเลา่ เร่ือง โปรโมทผลิตภัณฑช์ มุ ชนจากชมุ ชนของ ศลิ ปินพน้ื บา้ น และชว่ ยเพิ่มชอ่ งทางการเข้าถึงการแลกเปลย่ี นชน้ิ งานผลติ ภัณฑช์ ุมชน จากเพจของโครงการ ชอื่ “สืบสานศลิ ปวัฒนธรรมธาตพุ นม” และเพจอื่นๆ ได้แก่ เพจ “เทย่ี วนครพนม” “นครพนมบ้านเฮา” และ เพจ “ธาตุพนมนวิ ส์” ทีทาให้มคี นเข้าถงึ ได้มากขน้ึ ในวนั จัดงานโครงการ ดงั นน้ั การช่วยสง่ เสริมการสรา้ งรายได้ จากงานศิลปะชมุ ชน จงึ เกดิ ขึน้ ได้ทัง้ ในส่วนการจัดงานในบรเิ วณพ้ืนท่จี ัดงาน (on site) และการจาหน่ายผา่ น สือ่ สังคมออนไลน์ (social media) ทง้ั น้ีการจดั งานตามโครงการในพ้นื ทบี่ รเิ วณจดั งานไดป้ ฏบิ ตั ติ ามาตรการ ปอ้ งกันการแพร่ระบาดของโรคระบาดอยา่ งเคร่งครดั 2. ผลลพั ธข์ องโครงการสง่ ผลในประเดน็ ตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ 2.1 การพัฒนาสงั คมที่อาศยั ชอ่ งทางการจดั การทรัพยากรชุมชนท้องถ่นิ เพือ่ ขับเคล่ือน เศรษฐกิจชุมชนทีน่ าไปสกู่ ารเสริมสร้างความสามัคคี อย่ดู ี มีสุข รว่ มกนั ของคนในสงั คม ตามประเดน็ ยุทธศาสตร์การพัฒนารปู แบบ หรือแนวทางการดาเนนิ งานเพื่อจัดการทรัพยากรชุมชนรว่ มกนั อยา่ งมี คณุ ภาพของเครอื ข่ายศลิ ปวัฒนธรรมทอ้ งถิ่นธาตุพนม ซ่ึงผ้รู ายงานปฏบิ ัตกิ ารร่วมดังกรณีกลุ่มชาติพันธุ์ ท่ปี ฏบิ ัติการรว่ มในโครงการสามารถผา่ นหลกั เกณฑก์ ารคัดเลือกให้ร่วมจัดแสดงและจาหน่ายผลติ ภัณฑ์ ชุมชนในเวทใี หมๆ่ เช่น งาน 8 ชนเผา่ จังหวัดนครพนม ถูกรบั เชิญให้รว่ มเวทแี สดงสดช่องทางสื่อวิทยุ โทรทศั น์ ผา่ นรายการ “เช้านี้ทหี่ มอชิต” สถานีโทรทัศนก์ องทัพบก ชอ่ ง 7 และได้ร่วมจัดนิทรรศการ ในหอ้ งนิทรรศการวิถีชมุ ชนคนธาตุพนม ในคราวทีส่ มเด็จพระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรตั น ราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี เสดจ็ พระราชดาเนินไปทรงเปดิ หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ ารี” อาเภอธาตุพนม จังหวดั นครพนม ในวันท่ี 5 พฤษภาคม 2565 (เป็นการส่วนพระองค์) 2.2 เกิดชอ่ งทางของการพฒั นากลไกการพัฒนาทรัพยากรบคุ คลทางศลิ ปะทงั้ ผูส้ ร้างงาน ศลิ ปะ ผู้เกบ็ รวบรวมงานศิลปะ ผูถ้ า่ ยทอดงานส่สู าธารณะ และผจู้ ดั การทัว่ ไป เป็นตน้ ดงั ตวั อยา่ ง กรณกี ารแจ้งจดทะเบียนกลุ่มผู้ผลติ ผลติ ภณั ฑพ์ ื้นเมืองในพื้นท่ตี าบลอุ่มเหม้า จานวน 12 ราย ในงาน ผลติ ไมก้ วาด ทอผ้าพนื้ เมือง งานจักสาน งานทอผ้าย้อมคราม งานทอเสื่อ และ แปรรูปผ้าขาวม้า เป็นตน้ และ มกี ารแบ่งปันแรงบนั ดาลใจระหวา่ งบุคลากรทางศิลปะกับผูเ้ ข้าชมงานท้งั ในสถานที่จัดงาน โครงการ และ การชมผา่ นสอ่ื สงั คมออนไลน์ ทาให้ผรู้ ายงานสามารถเก็บรวบรวมขอ้ มูลทีเ่ ป็นประโยชน์ ตอ่ การพัฒนางานในโอกาสต่อไป
6 2.3 เกดิ ช่องทางให้เครือขา่ ยประชาสงั คม มีส่วนชว่ ยสนบั สนนุ การพฒั นาพื้นทีเ่ ชิงประเด็น กรณขี ้อเสนอขอขึ้นทะเบียนพระธาตุพนม เป็นมรดกโลก ต่อองคก์ ารศกึ ษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แหง่ สหประชาชาติ (UNESCO) ซง่ึ คณะรฐั มนตรมี ีมติเห็นชอบให้นาเสนอพระธาตุพนมขน้ึ บัญชเี บื้องตน้ (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก เม่ือวนั ท่ี 24 มกราคม 2560 และคณะกรรมการมรดกโลกมีมติ เห็นชอบบรรจไุ ว้ในบญั ชรี ายชอ่ื เบอ้ื งต้นแลว้ ในคราวประชุมสมัยสามัญ คร้งั ท่ี 41 ณ เมืองคราคูฟ สาธารณรฐั โปแลนด์ เมื่อวันท่ี 12 กรกฎาคม 2560 โดยมีสงั กัปของงานดา้ นการจดั ทากจิ กรรมด้าน เศรษฐกิจสร้างสรรค์ในชุมชนพ้ืนที่พระธาตุพนมและพน้ื ทโ่ี ดยรอบ และการสบื คน้ พัฒนาดา้ นวัฒนธรรม ความเชอ่ื และประเพณผี นวกในสังกปั งานทง้ั หมดดว้ ย เครือข่ำยทร่ี ่วมดำเนินโครงกำร เครอื ข่ายที่ร่วมดาเนนิ โครงการสบื สานศิลปวฒั นธรรมทอ้ งถ่ินอาเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ในคร้ังนีป้ ระกอบด้วยวดั พระธาตุพนมวรมหาวหิ าร และกลมุ่ ชมรมภาคประชาชนในบทบาทต่าง ๆ ตาม ตาราง 3 ตำรำง 3 บทบาทของเครือขา่ ยทร่ี ว่ มดาเนินโครงการ ท่ี เครือข่ายร่วมดาเนนิ งาน ตราสัญลกั ษณ์ บทบาทสาคัญ หมายเหตุ 1. วัดพระธาตพุ นมวรมหาวิหาร ใหค้ าปรึกษา สนบั สนุน สถานท่ีจดั แสดงงาน ศิลปะและสง่ิ อานวย ความสะดวก 2. เครอื ข่ายศิลปวฒั นธรรมทอ้ งถ่ิน ร่วมดาเนนิ งานส่งเสริม ธาตุพนม การสร้างงานสร้างรายได้ จากงานศิลปะรว่ มสมัย ของผลิตภณั ฑ์ชุมชน 3. กลุ่มไทธาตุพนม ร่วมปฏบิ ัติงานกิจกรรม ของโครงการ ข้นั ตอนกำรดำเนินงำน 1. ศึกษาชุมชน เพื่อรวบรวมข้อมูลพ้ืนฐานท่ัวไป ข้อมูลด้านสังคมวัฒนธรรม และ ศิลปวัฒนธรรม ของหมู่บ้านวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์ และพื้นที่ทางวัฒนธรรมอ่ืน ๆ ในเขตอาเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม และพื้นที่ต่อเนื่อง โดยใช้การสังเกตอย่างไม่เป็นทางการ การพูดคุย เสวนา ในเทศกาล งานประเพณี วิถีชีวิต กิจกรรมของบุคคล และกลุ่มบุคคลในชุมชนท้องถ่ิน พร้อมกับสอบทานข้อมูลจาก ขอ้ มลู เชิงวิชาการ 2. ใชก้ ระบวนการและเทคนิคการมสี ่วนร่วมของกล่มุ คนในพ้ืนที่ทางวัฒนธรรม ชว่ ยกัน สบื ค้น ตคี วาม งานสรา้ งสรรคด์ า้ นศิลปวฒั นธรรมของตนเอง ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจรากเหงา้ สารตั ถะ ของงานสร้างสรรค์ ดงั กลา่ วจนทาใหม้ องเหน็ แนวทางในการพฒั นาต่อยอด ด้วยเทคนิคการสรา้ งแผนท่ีคนดี (People Mapping)
7 3. จดั ประชมุ /อบรมเชิงปฏบิ ตั ิการร่วมกับเครอื ข่ายทเี่ กย่ี วข้อง หรือวทิ ยากรเพื่อสร้าง แรงบันดาลใจในการออกแบบช้ินงานสร้างสรรค์ การดาเนินงานทีผ่ ่านมาผรู้ ายงานได้ร่วมเปน็ เครอื ขา่ ยงาน โครงการถ่ายทอดองค์ความรกู้ ารละเลน่ ผีโผนกล่มุ ชาตพิ ันธผุ์ ู้ไทอุ่มเหมา้ โดยมบี ทบาทเป็นผสู้ ังเกตการณ์ และประเมนิ เพื่อค้นหาและเสริมพลังการพฒั นาเชิงประเด็น พบข้อมูลดังน้ีประเดน็ องค์ความร้ทู ีถ่ ่ายทอด ไดแ้ ก่ ประวตั คิ วามเป็นมาของการละเลน่ ผีโผน เทคนิคการเขยี นหนา้ กากผโี ผน และการฝกึ ปฏบิ ตั กิ าร การละเลน่ สว่ นประเด็นปฏิกิรยิ าของคนในชุมชนปรากฏผลดังน้ี ความคิดเหน็ ตอ่ กิจกรรมโครงการ ชดุ ตวั แปรการมีส่วนร่วมการพฒั นา และเจตนาสรา้ งคณุ ค่าทางใจและสร้างรายได้ มีความสัมพนั ธก์ บั การ ประยุกต์ใชค้ วามรู้จากการรว่ มกิจกรรมโครงการในการประยุกต์ใช้ความรู้ แปลความไดว้ า่ ชมุ ชนทอ้ งถ่นิ ประยกุ ตใ์ ช้ความร้ใู นกรณีทีง่ านศิลปะพ้ืนถ่นิ สามารถสร้างรายได้ โดยขนาดของผลซ่งึ ช่วยบง่ ช้ีประเดน็ และการจัดลาดบั เพื่อการออกแบบกจิ กรรมท่ีพัฒนาต่อยอด ซงึ่ ผรู้ ายงานได้นาไปใช้กาหนดแนวทางการ สนบั สนุนให้มกี ารประดษิ ฐช์ ิ้นงานศลิ ปะสร้างสรรค์ เชน่ ผลติ ภัณฑข์ ันหมากเบ็งของทร่ี ะลึก ผลิตภัณฑ์ หอผ้งึ ของท่ีระลึก พวงกญุ แจผโี ผน และเช่อื มโยงไปถึง ฮูปแต้ม:เทคนิคโบราณ งานรว่ มสมยั เชน่ ฮูปแตม้ บนกระปุกออมสินไม้ไผ่ และ ฮูปแตม้ เข้ากรอบบนั ทึกศรทั ธาพระธาตพุ นม รวมท้ังการบรู ณาการงาน สบื สานศิลปวัฒนธรรมท้องถ่ินในภาคการศึกษาระดบั มธั ยมศึกษา โดยนกั เรียนสรา้ งโจทยก์ ารศึกษา ค้นควา้ อสิ ระในรายวิชาการศึกษาคน้ ควา้ และสร้างองคค์ วามรู้ (Independent Study : IS1) โดยใช้ ชมุ ชนเป็นฐานการเรยี นรู้ และนาผลงานมารว่ มเผยแพร่ต่อสาธารณะในวนั กาหนดจดั งานด้วย ซงึ่ เป็น ภาระงานทส่ี อดคลอ้ งกับสาระสาคัญ ทสี่ ว่ นราชการผใู้ ห้ทุนสนับสนุนการดาเนนิ งาน กาหนดให้แสดง ให้เห็นถึงการพฒั นาต่อยอด 4.จัดการสาธิตและแสดงผลงานสร้างสรรค์ ในพนื้ ท่ีปฏบิ ตั กิ ารเป้าหมาย ภายในบริเวณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร จังหวดั นครพนม และ หมู่บา้ นวฒั นธรรมกลุ่มชาติพันธใุ์ นเขตอาเภอธาตุพนม จังหวดั นครพนม เพ่ือเผยแพร่ กระบวนการและผลงานสรา้ งสรรคภ์ ูมิปญั ญา ดว้ ยงานศิลปะรว่ มสมยั และช่วยเปิดพ้นื ทแ่ี ลกเปลี่ยนใหเ้ กดิ มลู ค่าทางเศรษฐกิจ ภายใต้แนวคิด “สืบสาน สร้างสรรค์ แบง่ ปนั แรง บนั ดาลใจ สร้างมุมมองใหม่ทใี่ ช่กว่าเดิม” โดยจัดงานในบริเวณพื้นที่จัดงานท่ีกาหนดไว้ และมกี ารนาเสนอ การสร้างสรรค์งานศิลปะชมุ ชนดว้ ยสื่อสังคมออนไลนท์ ้งั การไลฟส์ ดกจิ กรรมในวนั จดั งานและการใช้สือ่ สมัยใหม่ ชว่ ยเล่าเรือ่ ง โปรโมทผลติ ภณั ฑ์ชุมชนจากชุมชนของศลิ ปนิ พน้ื บา้ น และชว่ ยเพมิ่ ชอ่ งทางการเขา้ ถงึ การ แลกเปล่ยี นชน้ิ งานผลิตภณั ฑช์ ุมชน จากเพจของโครงการ และเพจอื่นๆ ทที าให้มคี นเข้าถงึ ไดม้ ากขนึ้ ในวนั จดั งานโครงการ ดังน้ันการชว่ ยส่งเสรมิ การสรา้ งรายไดจ้ ากงานศิลปะชมุ ชน เกิดขนึ้ ไดท้ ั้งในสว่ นการจัดงานใน บรเิ วณพนื้ ท่จี ดั งาน (on site) และการจาหนา่ ยผา่ นสอื่ สงั คมออนไลน์ 5.ประเมนิ โครงการโดยใชร้ ปู แบบการประเมนิ ท่เี หมาะสมกบั สาระสาคญั ของโครงการ โดยใชต้ รรกะวทิ ยาศาสตรช์ ่วยบรรยาย อธิบายสภาพ และทานายจากการวเิ คราะห์องค์ประกอบ แลว้ จดั ทารายงานสรปุ ภาพรวมของโครงการ พรอ้ มบทสรปุ ย่อ และบทสรุปสาหรบั ฝ่ายบรหิ ารโครงการ ในรปู ส่ือส่ิงพิมพ์ และสือ่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ รำยชอื่ ผู้เข้ำร่วมโครงกำร 1. คณะกรรมการจดั งาน 2. กลมุ่ ชาตพิ ันธุใ์ นชุมชนทอ้ งถน่ิ อาเภอธาตุพนม จังหวดั นครพนม 3. นกั ทอ่ งเท่ยี ว ประชาชนผูส้ นใจในชุมชนท้องถิ่นอาเภอธาตุพนมจังหวัดนครพนม และพ้นื ทใ่ี กล้เคียง 4. สว่ นราชการในพนื้ ท่ีจังหวัดนครพนม และกลุ่มบุคคล ภาคประชาชนในชุมชน ทอ้ งถ่ินอาเภอธาตพุ นม จงั หวัดนครพนม ไดแ้ ก่ มูลนิธิ สโมสร และชมรม เป็นต้น
8 กำรลงส่ือประชำสัมพันธ์ 1. ส่อื พ้นื ฐาน แผ่นปลิว ปา้ ยประกาศ และสื่อวิทยุกระจายเสียง ในสถานีวทิ ยุชมุ ชน 2. ส่อื ใหม่ในกระบวนงาน (Plateform) ของโครงการ คือเพจเฟซบุ๊ค “สบื สาน ศลิ ปวัฒนธรรมธาตพุ นม” และกระบวนงานท่องเทีย่ วเชงิ วฒั นธรรม คือเพจเฟซบคุ๊ “เทย่ี วนครพนม” “นครพนมบ้านเฮา” กระบวนงานเชงิ ขา่ ว คอื เพจเฟซบุ๊ค “ธาตุพนมนวิ ส์” และกลุ่มแอพพลเิ คชันไลน์ “สบื สานศลิ ปวัฒนธรรมธาตพุ นม”
สว่ นท่ี 3 กำรประเมนิ ผลกำรดำเนินงำนและอภิปรำย ผู้รายงานออกแบบวิธีการประเมิน โดยการจัดทา TOR (Term of Reference) ใน ด้านวัตถุประสงค์ของการประเมิน ตัวแปรที่ศึกษา แหล่งข้อมูล วิธีการเก็บข้อมูล วิธีวิเคราะห์ข้อมูล และเกณฑ์การประเมินผลเพ่ือใช้เป็นแนวทางการใช้องค์ความรู้ของแต่ละด้านตามหลักวิชาการ รายละเอยี ดแสดงในตาราง 4 และตาราง 5 ตำรำง 4 การกาหนดวตั ถุประสงค์ของการประเมิน วตั ถปุ ระสงค์ของโครงการ วัตถปุ ระสงค์ท่ัวไป วตั ถุประสงคเ์ ฉพาะของการ ของการประเมิน ประเมนิ 1.เพอ่ื ส่งเสริมการแลกเปลยี่ น 1.เพอ่ื รวบรวมประเดน็ การ เรียนรู้ และแลกเปลยี่ นงาน พัฒนาทุนทางศิลปวัฒนธรรม 1.เพ่ือรวบรวมประเดน็ การพัฒนา ศิลปะ หรือสังคมวฒั นธรรม ของงาน ทนุ ทางศิลปวฒั นธรรมหรือสงั คม ศิลปะรว่ มสมยั ทสี่ ามารถสรา้ ง วฒั นธรรม ของงานศิลปะร่วมสมัย มลู คา่ ทางเศรษฐกิจแก่ชุมชน ที่สามารถสร้างมลู ค่าทางเศรษฐกิจ ของเครือข่ายภาคประชาสังคม แก่ชุมชนของเครือขา่ ยภาค ประชาสังคม 2.เพ่อื นาเสนอการพัฒนา 2.เพอ่ื อธบิ ายรายการเฉพาะของ ตอ่ ยอดผลงานศิลปะพ้นื ถิ่น/ ผลงานสร้างสรรค์ศิลปะพื้นถ่ิน/ กระบวนงานสร้างสรรค์ กระบวนงานสรา้ งสรรค์ 3.เพอ่ื ประเมนิ ความคดิ เห็น 3.เพ่ือประเมินความคดิ เห็นของ ของผู้เข้ารว่ มงานโครงการ ผู้เข้าร่วมงานโครงการสบื สาน สืบสานศิลปวฒั นธรรมท้องถน่ิ ศิลปวฒั นธรรมท้องถิ่น อาเภอ อาเภอธาตพุ นม จังหวัด ธาตุพนม จงั หวัดนครพนม นครพนม รายด้าน และภาพรวม 4.เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็น ของผู้เขา้ ร่วมงานโครงการสืบสาน ศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ อาเภอ ธาตพุ นม จังหวดั นครพนมจาแนก ตามประสบการณเ์ ข้าร่วมงานและ สถานภาพ 1.เพอ่ื สารวจรายไดเ้ พม่ิ 5.เพ่ือสารวจรายได้เพมิ่ ของชุมชน 2.เพื่อสร้างรายได้ใหช้ ุมชน ของชมุ ชน โดยใชก้ ิจกรรมบรู ณาการ 2.เพื่อสารวจปริมาณผู้เย่ียมชม 6.เพื่อสารวจปริมาณผเู้ ยี่ยมชม งานพฒั นาดา้ นวฒั นธรรม กิจกรรมของโครงการตาม กจิ กรรมของโครงการตาม กระบวนงานทกี่ าหนดเพิ่มขึ้น กระบวนงานที่กาหนด จากเดิม
10 ตำรำง 5 ผลการออกแบบการประเมนิ ผลการดาเนนิ งาน วัตถุประสงค์ ตัวแปร แหลง่ ข้อมูล วธิ ีการเก็บขอ้ มลู วธิ วี เิ คราะหข์ ้อมลู เกณฑก์ าร ของการประเมนิ ท่ศี กึ ษา -ชมุ ชนกลุม่ -บันทกึ รายการ -วเิ คราะหเ์ นื้อหา ประเมิน 1.เพื่อรวบรวม -ประเด็น ชาตพิ ันธุใ์ น 1) ตัวแปรไร้การ (content -ความตรง ประเดน็ การพฒั นา การพฒั นา อาเภอ ตอบโต้ analysis) ตามสภาพ ทุนทาง ธาตพุ นม (unobstructive ศิลปวฒั นธรรม รายการ variable) -วิเคราะหเ์ นื้อหา -ความตรง หรือสังคม เฉพาะของ ผลงาน/ 2)บันทกึ ความ (content ตามสภาพ วฒั นธรรม ของงาน ผลงาน/ กระบวนงาน คดิ เห็นท้าย analysis) ค่าเฉล่ีย ศลิ ปะรว่ มสมยั กระบวนงาน สรา้ งสรรค์ แบบประเมนิ -ใช้สถิตบิ รรยาย 1.00–1.49 ทสี่ ามารถสร้าง สรา้ งสรรค์ ศิลปะพืน้ ถิ่น 3)บันทกึ ความ อธิบายความ 1.50-2.49 มลู คา่ ทางเศรษฐกิจ ศิลปะพนื้ ถ่นิ -ผู้เข้าร่วมงาน คดิ เห็นเวที คดิ เหน็ ของผู้ที่ 2.50-3.49 แก่ชุมชนของ -ความ โครงการ ชาวบ้าน เข้าร่วมงาน 3.50-4.49 เครือข่าย คิดเหน็ ของ 1.สังเกต โครงการ 4.50-5.00 ภาคประชาสงั คม ผู้เข้ารว่ มงาน -ผู้เข้าร่วมงาน 2.สมั ภาษณ์ หมายถึง 2.เพ่อื อธิบาย โครงการ โครงการ ศลิ ปินพน้ื บ้าน -ใช้สถิติที (t-test) ผ้เู ขา้ รว่ มงาน รายการเฉพาะของ 3.บนั ทึกรายการ เปรยี บเทยี บความ โครงการมคี วาม ผลงานสรา้ งสรรค์ -ความ 4.วิเคราะห์ คิดเห็นของตวั แปร คดิ เหน็ ตอ่ งาน ศิลปะพืน้ ถนิ่ คิดเหน็ ของ เอกสาร ประสบการณ์ โครงการใน 3.เพือ่ ประเมนิ ความ ผู้เขา้ รว่ มงาน -นาแบบ ร่วมงาน -ใช้การ ระดบั น้อยทสี่ ดุ คดิ เห็นของ โครงการ ประเมินความ วิเคราะหค์ วาม นอ้ ย ปานกลาง ผเู้ ขา้ ร่วมงาน คดิ เห็นไปเรา้ ให้ แปรปรวนแบบ มาก และ มาก โครงการสบื สาน ผู้ทเ่ี ขา้ ร่วมงาน ทางเดียว ท่สี ุดตามลาดับ ศลิ ปวฒั นธรรม โครงการตอบ (Analysis of -ความมี ท้องถิ่น อาเภอ Variance : one นัยสาคญั ทาง ธาตุพนม จงั หวัด -นาแบบ way ANOVA) สถิตขิ องการ นครพนม ประเมนิ ความ เปรียบเทยี บความ วเิ คราะห์ รายด้าน และ คดิ เหน็ ไปเร้าให้ คิดเห็นของตวั แปร ความแตกตา่ ง ภาพรวม ผู้ท่เี ขา้ รว่ มงาน สถานภาพ โครงการตอบ 4.เพ่ือเปรยี บเทียบ ความคดิ เห็นของ ผเู้ ขา้ รว่ มงาน โครงการสบื สาน ศิลปวัฒนธรรม ท้องถิ่น อาเภอ ธาตุพนม จงั หวัด นครพนม จาแนก ตามประสบการณ์ เข้ารว่ มงานและ สถานภาพ
11 ตำรำง 5 ผลการออกแบบการประเมินผลการดาเนนิ งาน (ต่อ) วัตถปุ ระสงค์ ตัวแปร แหล่งขอ้ มลู วธิ ีการเกบ็ วิธีวิเคราะหข์ ้อมลู เกณฑ์การประเมิน ของการประเมนิ ทีศ่ กึ ษา ข้อมูล รายไดเ้ พ่มิ รายได้เพ่ิมของ -บนั ทกึ ขอ้ มูล -วิเคราะหเ์ นอื้ หา -ความตรง 5.เพื่อสารวจรายได้ ของชมุ ชน ชมุ ชน ภาคสนาม -สถิตบิ รรยาย ตามสภาพ ปรมิ าณ -แบบบนั ทึก -สตู รคานวณ รอ้ ยละ 5 เพ่มิ ของชมุ ชน ปรมิ าณ ผู้เย่ียมชม รายการ รอ้ ยละ ทเ่ี พม่ิ ขน้ึ 6.เพ่อื สารวจ ผู้เยย่ี มชม กิจกรรมของ ปริมาณผ้เู ยีย่ มชม กจิ กรรมของ โครงการ กจิ กรรมของ โครงการ โครงการตาม กระบวนงานที่ กาหนด เครอื่ งมือและกำรสร้ำงเครือ่ งมอื ผู้รายงานไดพ้ ิจารณาธรรมชาติของข้อมูลท่ีต้องการ ในโครงการสบื สานศิลปวัฒนธรรม ท้องถ่ิน อาเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ได้แก่ ประเด็นการพัฒนา ความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมงาน โครงการ ปริมาณนักท่องเท่ียว และ รายได้ของชุมชน แล้วเลือกเคร่ืองมือเก็บรวบรวมข้อมูลให้ สอดคลอ้ งกนั ลักษณะเคร่อื งมือ ได้แก่ 1.เครื่องมือรวบรวมประเด็นการพัฒนาทุนทางศิลปวัฒนธรรม หรือสังคมวัฒนธรรม ของงานศลิ ปะรว่ มสมยั ท่ีสามารถสร้างมูลคา่ ทางเศรษฐกจิ แกช่ มุ ชน มโี ครงสร้าง ดงั น้ี 1.1 จดุ เน้น เป็นการสรา้ งคาอธบิ ายเฉพาะกรณี ตามบริบทของแตล่ ะกลุ่มชาติพันธ์ุ 1.2 ลกั ษณะของประเด็นที่รวบรวม เป็นการอธิบายชอ่ื ประเดน็ และลกั ษณะ เปน็ อย่างไร 1.3 หนว่ ยของการวเิ คราะห์ขอ้ มลู คอื กลุ่มคนในชาตพิ นั ธ์ุ 1.4 การเกบ็ และรวบรวมขอ้ มูล ใชห้ ลายวธิ กี ารรวมกบั เช่น การสมั ภาษณ์ การสงั เกตแบบมสี ่วนร่วมขณะปฏบิ ัตงิ าน เวทีชวนคุย และการเก็บรวบรวมเอกสาร เป็นต้น 1.5 การวิเคราะห์ข้อมูล กระทาโดยการหาคาอธิบายและประเด็น ภายในกรณีของ แต่ละกลุ่มชาติพันธุ์ หรือข้ามกรณี เช่น ประเด็นและคาอธิบายในสาระสาคัญระหว่างกลุ่มชาตพิ ันธุ์หรือ เปรียบเทยี บกบั ยทุ ธศาสตร์การพฒั นาจังหวัด เป็นตน้ 1.6 การเขียนรายงาน เปน็ การเขียนคาอธิบายตามสภาพองิ บริบท และเงือ่ นไข ท่ปี รากฏในกลมุ่ ชาตพิ ันธุ์ 2. เครือ่ งมืออธบิ ายรายการเฉพาะของผลงาน/กระบวนงานสรา้ งสรรค์ศิลปะพน้ื ถ่ิน มี โครงสร้างคล้ายกันกบั โครงสรา้ งของเคร่ืองมือในข้อ 1 แต่มีจดุ เนน้ และหน่วยของการวิเคราะห์ข้อมลู เป็นศลิ ปินพน้ื บ้าน ชน้ิ งาน และกระบวนงานสร้างสรรคท์ างศิลปะ ตามลาดบั 3. เครอ่ื งมือประเมินความคดิ เห็นของผู้เขา้ ร่วมงานโครงการ เป็นแบบประเมินงานโครงการซ่งึ สรา้ งขึ้นวัดคุณลกั ษณะที่มีความเข้มและทิศทาง ตามแนวของ Likert 5 ระดับ ตามขัน้ ตอนดังต่อไปน้ี 3.1 กาหนดวัตถุประสงค์ เป็นการมุ่งประเมินคุณลักษณะด้านต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนตาม วัตถปุ ระสงคข์ องโครงการ 3.2 คาถามประเมนิ มงุ่ ถามระดับความคิดเหน็ ของผเู้ ขา้ ร่วมงานโครงการ วา่ อยใู่ น ระดับใด 3.3 แหล่งขอ้ มูล คือ ผทู้ ่ีเข้าร่วมงานโครงการ 3.4 วิธกี าร ไดม้ าโดยนาแบบประเมนิ ความคดิ เห็นไปเรา้ ให้กลุ่มตวั อย่างตอบสนอง
12 3.5 คาตอบ คาตอบของคาถามปรากฏอยูใ่ นแบบประเมินโครงการ ซง่ึ มี 3 ตอน 3.5.1 ตอนท่ี 1 ข้อมูลท่ัวไปของผตู้ อบแบบประเมนิ 3.5.2 ตอนที่ 2 ความคดิ เห็นต่อโครงการ ประกอบดว้ ย ก. ความคาดหวงั กอ่ นเข้ารว่ มกจิ กรรมโครงการ ปรากฏอยใู่ นข้อ 1-5 ข. ผลท่ีได้รับหลงั เข้าร่วมกจิ กรรมโครงการ ปรากฏอยใู่ นขอ้ 6-10 ค. การบริหารจดั การกิจกรรมของโครงการ ปรากฏอยใู่ นขอ้ 11-15 3.5.3 ตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะ 4. เคร่ืองมอื สารวจรายไดข้ องชมุ ชน แบบบนั ทึกรายได้จากการจาหน่ายผลิตภณั ฑ์ชุมชน ในกิจกรรมแสดงทาง ศิลปวัฒนธรรม 5. เคร่อื งมือสารวจปรมิ าณผ้เู ยีย่ มชมกจิ กรรมของโครงการ ใชแ้ บบลงทะเบียน การ แจงนับผู้เขา้ ร่วมงานโครงการในพ้ืนทีจ่ ดั กจิ กรรม และบันทึกการแจงนับตามกระบวนงานของสื่อสังคม ออนไลน์ทใ่ี ชภ้ ายใต้กิจกรรมของโครงการ กำรเกบ็ รวบรวมข้อมลู ผู้รายงานเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง ทั้งด้านประเด็นการพัฒนาทุนทาง ศิลปวัฒนธรรม หรือสังคมวัฒนธรรม ของงานศิลปะร่วมสมัย ที่สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแก่ ชมุ ชน ด้านการอธบิ ายรายการเฉพาะของผลงานสร้างสรรค์ศลิ ปะพนื้ ถนิ่ ดา้ นการประเมินความคิดเห็น ของผู้เข้าร่วมงานโครงการ ดา้ นรายไดเ้ พ่ิมของชุมชน และด้านปรมิ าณผู้เยีย่ มชมกจิ กรรมของโครงการ กำรวิเครำะหข์ อ้ มลู ผรู้ ายงานทาการวิเคราะห์ข้อมูลดา้ นตา่ ง ๆ ดังนี้ 1.วิเคราะห์เนื้อหาเพื่อค้นหาประเด็นและคาอธิบาย ภายในขอบเขตการดาเนินงาน โครงการ โดยวิเคราะห์ท้ังภายในและภายนอก ของแต่ละกลุ่มชาติพนั ธุ์ หรอื ขา้ มกรณี เช่น ประเด็นและ คาอธิบายในสาระสาคัญระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ หรือเปรียบเทียบกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด สาหรับตวั แปรประเด็นการพฒั นา 2. วเิ คราะหเ์ นอ้ื หาเพือ่ อธบิ ายรายการเฉพาะของผลงานสร้างสรรค์ศิลปะพ้ืนถิน่ ได้แก่ แนวคดิ พื้นฐานที่ใช้ออกแบบงานศิลปะ โครงสร้างแบบรูป อัตลักษณแ์ ละการพัฒนาตอ่ ยอดงาน 3. วิเคราะห์ระดับความคิดเห็นรายด้าน และภาพรวม ด้วยสถิติบรรยาย และ เปรยี บเทียบความคดิ เห็นของผเู้ ขา้ ร่วมงานโครงการ โดยใช้สถิติที (t-test) เปรียบเทยี บความคิดเห็น ของตัวแปรประสบการณ์ร่วมงาน ใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (Analysis of Variance : one way ANOVA) เปรียบเทียบความคดิ เหน็ ของตวั แปรสถานภาพ และทาการวิเคราะห์ ความแตกต่างรายคู่ภายหลัง (Post- hoc Comparison) ด้วยเทคนิคของ Scheffe’ กรณีพบความ แตกตา่ งของตวั แปรโดยนาแบบประเมนิ โครงการท่ไี ด้รับมาตรวจความสมบูรณ์ ฉบับท่ไี ม่สมบูรณ์ได้ ตัดออกแล้วนาแบบประเมินโครงการแต่ละฉบับมาลงรหัสข้อมูล จัดทาสมุดข้อมูล โดยใช้โปรแกรม คอมพิวเตอร์สาเร็จรูป SPSS for Windows (Statistical Package for the Social Sciences for Windows) Standard Version 4. แจงนับปริมาณรายได้เพ่ิมของชุมชน ด้วยสถิติบรรยายจาแนกประเภทตามช้ินงาน ศิลปะ
13 5. แจงนับความถ่ีและคานวณค่าร้อยละ ปริมาณผู้เยี่ยมชมกิจกรรมของโครงการตาม กระบวนงานทกี่ าหนดทเ่ี พิม่ ข้นึ ตามสูตร ร้อยละทเี่ พิ่มข้ึน = (คา่ ปจั จุบัน−คา่ เริม่ ตน้ ) X 100 ค่าเริ่มตน้ ผลกำรประเมนิ งำนโครงกำร จากการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล สามารถเสนอผลการประเมินงานโครงการ ได้ ดงั นี้ 1. เพื่อรวบรวมประเด็นการพัฒนาทุนทางศิลปวัฒนธรรม หรือสังคมวัฒนธรรมของงาน ศลิ ปะร่วมสมัย ท่ีสามารถสรา้ งมูลคา่ ทางเศรษฐกจิ แกช่ ุมชนของเครือขา่ ยภาคประชาสงั คม 2. เพอื่ อธิบายรายการเฉพาะของผลงานสร้างสรรค์ศลิ ปะพ้ืนถิน่ 3. เพื่อประเมินความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมงานโครงการสืบสานศิลปวัฒนธรรมท้องถ่ิน อาเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม รายด้าน และภาพรวม 4. เพ่ือเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมงาน โครงการสืบสานศิลปวัฒนธรรม ทอ้ งถ่ิน อาเภอธาตุพนม จงั หวดั นครพนม จาแนกตามประสบการณ์เขา้ ร่วมงานและสถานภาพ 5. เพอ่ื สารวจรายได้เพิ่มของชุมชน 6. เพอื่ สารวจปริมาณผู้เย่ียมชมกจิ กรรมของโครงการตามกระบวนงานทก่ี าหนด ดงั ต่อไปนี้ ในการเสนอผลของโครงการคร้งั นี้ ผรู้ ายงานใชส้ ัญลกั ษณ์ต่าง ๆ ในความหมาย X แทน ค่าเฉล่ียเลขคณิต n แทน จานวนประชากรตัวอยา่ ง S.D. แทน ค่าความเบย่ี งเบนมาตรฐาน Sig. แทน ระดับความมนี ัยสาคัญทางสถติ ิ df แทน ระดับชน้ั แหง่ ความเป็นอิสระ (Degree of Freedom) SS แทน ค่า Sum Square MS แทน คา่ Mean Square t แทน ค่าสถิติ t F แทน คา่ สถิติ F % แทน คา่ iร้อยละ รายละเอยี ดการประเมินผลการดาเนนิ งานโครงการสืบสานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ อาเภอ ธาตุพนม จังหวัดนครพนม มีดังต่อไปนี้
14 1. ผลกำรรวบรวมประเด็นกำรพฒั นำทนุ ทำงศิลปวฒั นธรรม หรือสงั คมวฒั นธรรม ของงำนศลิ ปะ รว่ มสมัย ที่สำมำรถสรำ้ งมลู คำ่ ทำงเศรษฐกจิ แกช่ ุมชนของภำคเี ครือขำ่ ยภำคประชำสังคม ผู้รายงานเสนอผลการรวบรวมประเด็นการพัฒนาทุนทางศิลปวัฒนธรรม หรือสังคม วัฒนธรรม ของงานศลิ ปะร่วมสมัย ทส่ี ามารถสร้างมลู ค่าทางเศรษฐกจิ แก่ชุมชน ของเครือขา่ ยภาค ประชาสังคมด้วยการวิเคราะห์เน้ือหาโดยอาศัยการจาแนกข้อมูลในระดับภาพรวมตามเหตุการณ์ หรือ เรื่องราวท่ีปรากฏ โดยพยายามอธิบายถึงความเป็นมา สาเหตุ และผลลัพธ์ ด้วยการอาศัยแนวการ วิเคราะห์ปฏิสัมพันธ์โดยรวมของปรากฏการณ์ ได้แก่ การกระทา หรือกิจกรรม ความหมายของการ กระทา หรอื กจิ กรรม การมสี ว่ นรว่ มในกิจกรรม ความสัมพันธ์หรือความเชื่อมโยงของคน หรือประเด็น ในสนามการปฏบิ ัติงาน เสนอสาระสาคัญไดด้ งั ตอ่ ไปน้ี ภูมิหลังสังเขปของกลุ่มชาติพันธ์ใุ นพื้นท่ีคัดสรรปฏิบัติงานตามโครงการคร้ังนี้ คือกลุ่ม ชาติพันธผ์ุ ้ไู ท กลุ่มชาติพันธไ์ุ ทขา่ ตาบลอ่มุ เหม้า อาเภอธาตพุ นม จังหวัดนครพนม และกล่มุ ชาติพนั ธุ์ ไทกวน ชุมชนดงป่ายูง ตาบลนาถ่อน อาเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม กลุ่มคนไทยอีสานพื้นถ่ิน กลุ่ม คนไทยเช้ือสายจีน และกลุ่มคนไทยเช้ือสายเวียดนาม ซึ่งมีภูมิหลังการตั้งถิ่นฐานคล้ายคลงึ กัน คือเป็น ผลมาจากเคล่ือนย้ายหาถิ่นฐานใหม่เพ่ือหลีกเล่ียงแรงผลักดันเชิงลบที่เกิดข้ึนในถ่ินฐานเดิม ภูมิหลัง สังเขปดังกล่าวนี้ถูกส่งถึงผู้รายงานผ่านการศึกษาชุมชน ในหลายระดับ หรือลักษณะ เช่นกิจกรรมชวน คุย เวทีไทบ้าน งานแสดงศิลปวัฒนธรรม หรืองานบอกเล่าเรื่องราวผ่านส่ือสารมวลชน เป็นต้น ดังท่ี รุ่งโรจน์ ตมุ้ ออ่ น ประธานสภาวัฒนธรรมตาบลอุม่ เหมา้ ไดบ้ อกเล่าประวัตกิ ารต้งั ถิน่ ฐานกลุม่ ชาติพันธ์ุ ผู้ไท บ้านอุ่มเหม้า ภายใต้การนาของผู้นาท้ัง 3 ท่าน ได้แก่ นางศรีป่าคา นายคาวงษา และท้าวเพียรศรี ตน้ ตระกูล ตมุ้ ออ่ น ตะวังทัน และ อ่นุ ชยั ตามลาดบั คล้ายคลงึ กบั ท่ีสุระเวศม์ คามงุ คุณ ผ้นู ากล่มุ งาน หัตถกรรมพน้ื บา้ น กลุม่ ชาตพิ นั ธไุ์ ทขา่ บอกเลา่ การเคลอื่ นยา้ ยของสายตระกลู คามุงคณุ เข้ามาอยู่ใน พนื้ ทใ่ี กลเ้ คียงกนั และ ธนกฤต จุรีมาศ ประธานชมรมการกศุ ลธาตุพนม ทวี รงุ่ โรจนอ์ ุดมผล นายก สมาคมคนไทยเชื้อสายเวียดนามอาเภอธาตุพนม ได้บอกเล่าภูมิหลังการเข้ามาต้ังถ่ินฐานของคนจีน15 ตระกูลแซ่ และคนเวียดนาม โดยคาดว่าแรงจูงใจสาคัญในการตัดสินใจต้ังถ่ินฐานคือองค์พระธาตุพนม ซ่ึงเป็นศูนย์กลางและศูนย์รวมจิตใจของผู้คนท้ังในถ่ินฐานเดิม หรือถิ่นฐานใหม่ประกอบกับมีการ จดั ระบบ ระเบียบ ความสัมพันธภ์ ายในกลุ่มไดด้ ี จึงมีความสามารถในการปรบั ตัวเข้ากับระบบการเมือง การปกครอง และเป็นพลเมืองที่ดีของรัฐไทย สามารถดารงรักษาอัตลักษณ์ของตนเอง แลกเปลี่ยนและ เคารพในความแตกต่างได้อย่างเสมอภาค ผ่านงานด้านวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ โดยปรากฏชัดใน ลักษณะของศิลปะพ้ืนบ้าน (Folk Art) งานศิลปหัตถกรรม (Handicraft Art) หรืองานคหกรรมศาสตร์ (Home Economics Art)ท่ีทาด้วยฝีมือสืบๆ ต่อกันมา เพื่อมุ่งประโยชน์ใช้สอยและการดารงชีพในวิถี ประจาวันเปน็ หลัก และมคี วามสามารถตอ่ ยอดงานใหม้ ี ความงาม ความประณตี เพือ่ ส่งตอ่ ใชใ้ นงาน ทม่ี ีคุณค่า เช่นพธิ กี รรมหรือประเพณีเป็นตน้ ดงั ปรากฏเป็นลวดลายผ้าทอท่บี ันทึก และสง่ ต่อความหมาย ที่มีคุณค่าทางใจ หรืองานประดษิ ฐข์ ันกะหย่อง และหมากเบ็ง ซ่ึงเป็นเคร่ืองสูงสาหรับใช้ในงานศาสนพิธี เป็นต้น ต่อมาภายหลังลูกหลาน ของกลุ่มคนดังกล่าวมีส่วนช่วยอนุรักษ์ และสืบสานงานศิลปะพ้ืนบ้าน ท้งั ท่สี ง่ ตอ่ ภายในสายตระกลู หรือการแลกเปล่ียน เรียนรู้ ภายในชมุ ชน ทง้ั แบบไม่เปน็ ทางการ ครูพัก ลักจา หรือในรูปการณ์ประกอบอาชีพอิสระ หรือจัดการร่วมกับส่วนราชการ ในรูปวิสาหกิจชุมชน กลมุ่ ผผู้ ลิตผลิตภณั ฑ์ชมุ ชน ซ่ึงในรอบ 5 ปยี อ้ นหลงั มจี ดจดั ตงั้ จานวน 12 กลมุ่ ในทง้ั หมด 9 หมูบ่ า้ นของ ตาบล ที่มีประชากร 5,800 คน ซึ่งร้อยละ 87 ประกอบอาชีพเกษตรกรรม จึงมีข้อสังเกตว่างานด้าน ศิลปหัตถกรรมเป็นงานสร้างสรรค์ท่ีทายามว่าง ผนวกเข้าไปในอาชพี หลัก ดังนั้นการดาเนินงานกิจกรรม ของโครงการ ด้วยการทวนสอบขอบเขต สาระสาคญั และประเดน็ ตา่ ง ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของกลุ่ม
15 ชาติพันธุ์เป็นการเข้าร่วมทาให้ระบบความคิดและคุณค่าดั้งเดิมถูกตีความ ประยุกต์ ต่อยอดให้ระบบ ความคดิ และคุณค่าดัง้ เดิม สามารถปฏิบตั ิการรว่ มสมยั ในระบบคิด และคุณค่าใหม่ผา่ นงานศลิ ปะรว่ มสมยั ในระดับปฏิบัติผู้รายงานปฏิบัติการทางสังคม ร่วมกับเครือข่ายทางสังคม จัดพื้นท่ีทางวัฒนธรรมใน ชุมชนท้องถ่ินท้ังด้าน ส่งเสริมงานผลิต แสดง และจาหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน และการบริการทาง วัฒนธรรม การประมวลสารสนเทศที่เกิดจากการปฏิบัติการ เพ่ือปรับเหมาะรูปแบบ หรือกระบวนงาน และสรา้ งพลวัตกิ ารพัฒนาที่เหมาะกบั บรบิ ทของพ้นื ที่ มีประเด็นสาคัญดังนี้ ภำพ 1 วาไรตี้งานภูมิใจ และไปต่อของศลิ ปนิ พื้นบ้าน ท้ังงาน “หัตถกรรม” อย่างของใช้ และงาน “หัตถศิลป์” อย่างของชม ของสูง ท่ีศิลปินพ้ืนบ้านรังสรรค์ ข้ึนหลากหลายมีความหมายท้ังงานอนุรักษ์ สืบสาน เพื่อสร้างคุณค่าใหม่ที่มุ่ง พัฒนาท้ังในแง่ “กระบวนการ” “ผลผลิต” และ “ผลลพั ธ์”
16 ขันหมำกเบ็งผำ้ ของทร่ี ะลกึ 1 ภำพ 2 พื้นทีใ่ หม่ของงาน ศลิ ปหัตถกรรมพ้ืนถ่นิ งำนฟื้นคืนขันหมำกเบ็งอสี ำนพนื้ ถน่ิ การเสนอ “มมุ มอง” และ ทดลอง ”ตลาดใหม”่ ด้วยงาน “ศลิ ปะรว่ มสมัย” ทัง้ ในแง่ “เทคนิคโบราณ-งานร่วมสมัย” หรือ “การสร้างอัตลักษณ์ใหม่” เพ่อื เพิม่ มลู คา่ ใหมใ่ ห้กับ ทุนทางศิลปวฒั นธรรมดั้งเดิม
17 กรณีคัดสรร การพัฒนา “มาตรฐาน” งานศลิ ป์ ทัง้ “กระบวนวธิ ี” “บุคคล” และ “ผลงานสรา้ งสรรค์” ทีม่ ี “คนใน”และ “โจทยภ์ ายใน” เปน็ “แกน” ของ “พลวัติ” ในการพัฒนา กระเปา๋ ไมไ้ ผส่ าน พานไมไ้ ผ่สาน ภำพ 3 หตั ถกรรมจักสาน และผลงานชุมชนเข้มแข็ง
18 ภำพ 4 งานศิลปะสรา้ งสรรคพ์ น้ื ถิ่นกบั ยวุ ศิลปนิ พื้นบ้าน มมุ มองของเยาวชนในการสืบคน้ อตั ลกั ษณ์ ผ่านการนาเสนอชิ้นงานฮปู แตม้ สร้างสรรค์
19 ภำพ 5 งานศลิ ปะสร้างสรรคพ์ ื้นถนิ่ กบั ศิลปนิ พ้ืนบ้าน พนติ แพงดี ผู้ เติมลมหำยใจ“ฮปู แตม้ ” จากภาพเขียนฝาสิมอีสาน สู่งำนฮปู แตม้ รว่ มสมยั บุญเทยี ม คามงุ คณุ ผรู้ ังสรรค์งำน หน้ำกำกผโี ผน สไตลช์ ำติพันธุ์อมุ่ เหม้ำ สู่งำนฮปู แตม้ รว่ มสมัย
20 ภำพ 6 ดนตรีพน้ื ถน่ิ พณิ พาทย์พระธาตุพนม ดนตรโี บราณฉบับราชสานกั ล้านช้าง ทีถ่ กู กลั ปนาอุทศิ ถวายไวบ้ ูชาพระธาตุพนม พร้อมขา้ โอกาสพระธาตพุ นม ความเป็น ดนตรพี ิธกี รรมจงึ ทาหนา้ ทเ่ี ป็น “กาลเทศ วภิ าค” เสริมความ“ศักดสิ์ ิทธ์ิ” และ “ความเรียบรอ้ ยงดงาม” ตามจารีต
21 วดิ ีโอคลิปสรุปกิจกรรม พระครพู นมปรชี ากร,ดร. โครงการ ผจล.วดั พระธาตพุ นมวรมหาวิหาร นายเดชา จันทศ นายปิตานนท์ ปญั ญา ผเู้ สนอโครงการฯ นายอาเภอธาตุพนม ภำพ 7 พธิ เี ปิดงานโครงการ พิธีเปดิ งานโครงการสืบสานศลิ ปวฒั นธรรมท้องถิ่นอาเภอธาตุพนม จงั หวดั นครพนม ซ่งึ ไดร้ ับการจดั สรรเงนิ อดุ หนุนการพัฒนา และส่งเสริมศิลปะรว่ มสมัย จากสานักงานศิลปวฒั นธรรมรว่ มสมัย กระทรวงวัฒนธรรม พระครพู นมปรชี ากร,ดร. ผชู้ ว่ ยเจา้ อาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวหิ าร เมตตาเยยี่ มงานโครงการ นายเดชา จนั ทศ ผู้เสนอโครงการ กลา่ วรายงาน นายปติ านนท์ ปญั ญา นายอาเภอธาตุพนม กลา่ วเปิดงาน
22 ณวอดั.ธพหาตรอะุพจธดนาหมตมุพจานย.นมเหควตรรุพมนหมาวิหาร 1255พ6.ค5. ภำพ 8 ผดู้ าเนินรายการ กบั ราชุด 8 ชนเผา่ สาวนครพนม ในพธิ เี ปดิ งาน
23 ภำพ 9 บรรยากาศทั่วไปพธิ ีเปิดงาน ผชู้ ว่ ยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร นายอาเภอธาตุพนม นายกเทศมนตรตี าบลธาตพุ นม ผู้แทนวัฒนธรรมจงั หวัดนครพนม ผู้แทนสานักงานพฒั นาชมุ ชนอาเภอ ธาตุพนม ประธานชมรมองคก์ รเอกชนในอาเภอธาตพุ นม แขกผมู้ เี กียรติ นกั ทอ่ งเทย่ี ว และประชาชนท่ัวไป ให้เกยี รติร่วมแลกเปลยี่ นและสรา้ งแรงบันดาลใจในงานศิลปะทอ้ งถน่ิ ณ บริเวณจัดงาน
24 ภำพ 10 บรรยากาศทั่วไปของงาน ผ้สู ร้างงานศิลปะ ผเู้ กบ็ รวบรวมงานศลิ ปะ ผถู้ า่ ยทอดงานสสู่ าธารณะ และผจู้ ัดการโครงการ รว่ มแลกเปลย่ี นและสรา้ งแรงบันดาลใจในงานศลิ ปะท้องถ่นิ ท้งั ณ จดุ จัดแสดง และ การถา่ ยทอดสสู่ าธารณะผา่ นส่ือสงั คมออนไลน์
25 2. ผลกำรอธบิ ำยรำยกำรเฉพำะของผลงำนสร้ำงสรรคศ์ ิลปะพ้นื ถน่ิ ผูร้ ายงานไดว้ เิ คราะหเ์ นอ้ื หา เพอื่ อธิบายรายการเฉพาะ ของผลงานสรา้ งสรรค์ศลิ ปะ พื้นถ่ินเฉพาะกรณี คือ ขันหมากเบ็ง และ ฮูปแต้ม ได้แก่ แนวคิดพื้นฐานที่ใช้ออกแบบงานศิลปะ โครงสรา้ งแบบรูป อตั ลกั ษณแ์ ละการพัฒนาตอ่ ยอดงาน พบสาระสังเขป ดงั น้ี 2.1 แนวคิดพน้ื ฐานทใี่ ชอ้ อกแบบงานศลิ ปะสรา้ งสรรค์ 2.1.1ขนั หมากเบ็ง ใช้คตคิ วามเชอ่ื ทางพุทธศาสนา เปน็ รากฐานในการออกแบบงานศิลปะ ทส่ี ่ือความ หมายถึงการเคารพบูชา ซึ่งอาจเลือกใช้มโนทัศน์ใดมโนทัศน์หน่ึงหรือหลายมโนทัศน์รวมกัน แต่ใช้ จุดอ้างอิงเดียวกัน คือ “หมากเบ็ง” ที่เลือนเสียงจาก “หมากเบ็ญจ์” อันหมายถึงการเคารพ สักการะใน องค์คุณทง้ั ห้า ได้แก่ พระพุทธเจ้าหา้ พระองค์1/ ในภทั รกปั หรอื คติแกน่ สารสารัตถะของคาสอนเร่ือง ขันธ์ 52/ และไตรลักษณ์ ซึ่งปราชญ์อีสานโบราณจึงเอาขันธ์ท้ัง 5 ในตนประดิษฐ์ถ่ายทอดออกมาเป็น หมากเบ็ง เพื่อน้อมสักการะพระไตรรัตน์ท้ัง 3 เป็นการราลึกถึงพระพุทธองค์ท่ีทรงตรัสสอนให้สัตว์ ทง้ั หลายรูจ้ กั รูปขนั ธ์ทั้ง 5 จึงเอาหมากเบง็ ตวั แทนแห่งขันธ์ 5 ไหวธ้ รรม คือ ไหว้พระรตั นตรัย คาว่าหมาก หมายถึง กอง, หน่วย, ผล คาวา่ หมาก ในท่นี ้ไี ม่เกยี่ วกบั หมากสาหรบั เคี้ยวหรือหมากทใี่ ช้ทา “หมากเบ็ง” หรอื “หมากสมุ่ ” ทห่ี มายถงึ การนาหมากมา “เบ็ง” คอื ตดิ ตรึง เรียงกันให้สวยงาม หรือ “สุ่ม” คือติดแบบสุ่มบนโครงที่ทาไว้จนเต็มตามแบบวัฒนธรรมล้านนา ส่วน การท่ีนาใบตองมาประดิษฐ์เป็นการใช้ปรัชญาธรรมแฝงคติสื่อถึง “ไตรลักษณ์” อันเป็นลักษณะสาคัญ ของขันธ์ 5 ที่ถือเอาว่าต้นกล้วยและใบกล้วยเป็นตัวแทนของไตรลักษณ์เวลาปลูกกล้วยก็ไม่มีรากให้เกิด ไม่มีแก่นให้หา แกะเปลือกออกก็แกะไปเร่ือยๆ หาแก่นไม่พบ ไม่มีสารัตถะ อันใดให้ยึดถือ ต่างจากไม้ อื่นทม่ี รี าก มีเปลอื ก มีแกน่ 2.1.2 ฮูปแตม้ สารตั ถะและความคดิ ในฮูปแต้มจิตรกรรมอสี านมีหลายมิติ ไดแ้ ก่ จติ รกรรมพุทธ ประวัติ จิตรกรรมทศชาดก จติ รกรรมวรรณกรรมเรอ่ื งเล่า และนิทานพื้นบ้าน จิตรกรรมพระมาลยั จติ รกรรมรามเกียรต์ิ จติ รกรรมวถิ ีชุมชน และ จิตรกรรมบันทกึ เหตุการณ์ แบ่งสารัตถะ ไดเ้ ปน็ 2 ความคิด ได้แก่ พระพทุ ธศาสนาและวิถชี ุมชน ซง่ึ ความคิดท้ังทางโลก และทางธรรม ได้รบั การนาเสนอ อยา่ งมนี ยั ยะสาคญั คอื การให้พ้นื ทกี่ ับการนาเสนอเรอื่ งท้งั สองไมน่ อ้ ยกวา่ กัน คือการให้พื้นท่ีในการเขียน เร่อื งราวทางพระพทุ ธศาสนาและวถิ ชี ุมชนอย่างกลมกลืนกัน สะทอ้ นแนวคิดที่ว่า วิถธี รรมและวิถโี ลก เปน็ ส่ิงทอ่ี ยคู่ ู่กนั อย่างอยากแยกไม่ออก 2.2 โครงสรา้ งแบบรปู 2.2.1 ขนั หมากเบ็ง ช่างโบราณถอื ว่าขนั หมากเบ็งเป็นพุทธศิลป์อยา่ งหนึ่ง ต้องประกอบด้วย องค์ประกอบที่ทาให้สมบูรณ์ ดงั น้ี ------------------------------------------------ 1/ หมายถงึ พระกกสุ ันโธ พระโกนาคมโน พระกสั สโป พระโคตโม และ พระศรีอริยเมตไตร
26 2/ หมายถึง รูป เวทนา สัญญา สงั ขาร และวิญญาณ 1. ตนี คอื ใบตองหุ้มแกน่ กล้วยตนี หมากเบ็ง 2. แกน่ คอื ลากล้วยที่ถูกใบตองหมุ้ เปน็ ตนี หมากเบ็ง 3. กีบ คอื กลบี ใบตองพบั เปน็ เหล่ยี มปลายแหลมประดับทศิ เป็นช่อชน้ั ของหมากเบ็ง 4. ซวย คือกรวยแกนกลางของหมากเบง็ มลี ักษณะ“ปลายแหลมตนี กวา้ งปากกลวง” 5. แซม คอื มวลบุปผามงคลท่ี “แซมปลายกีบสอดตีนกวย” ของหมากเบง็ ได้แก่ เกสรดอกรัก ดอกพุด จาปา จาปี สามปี และดาวเฮือง เป็นตน้ 6. แส้ คอื กา้ นพร้าวยาวตรงปลายยอดสาหรับรอ้ ยดอกไม้ประดบั หมากเบง็ 7. ขัด คอื กา้ นพร้าวส้ันตัดปลายแหลมเป็นเขม็ ใชแ้ ทงหรือกลัดส่วนทงั้ หลาย ให้ติดกัน 8. จอม คอื สว่ นยอดทป่ี ระดับร้อยดอกไม้ทงั้ หลายให้ยาวเรียวขนึ้ ไป อย่างไรก็ตามศลิ ปหัตถกรรมท่เี ป็นอตั ลกั ษณ์ของชมุ ชนทอ้ งถิน่ เป็นการผสมผสาน ปรบั เหมาะกบั สภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาติ และสภาพความเปน็ อยู่ จงึ อาจมรี ายละเอยี ดปลีกยอ่ ย แตกต่างกนั ไปได้แต่เพื่อให้สง่ิ สักการะทาหนา้ ท่ีทมี่ ีสารตั ถะสาคญั ครบถ้วน สมบรู ณ์ และเกดิ พลังการ สรา้ งสรรคง์ านศิลปะท่มี สี ุนทรียภาพและคุณค่าทางใจ อีกทัง้ สามารถสรา้ งสมดลุ ระหว่างการอนุรักษ์ เพื่อรักษาอตั ลักษณ์อันดีงามกับพลวตั ิการเปล่ยี นแปลง ปฏบิ ัติการสืบสานศิลปวฒั นธรรมท้องถนิ่ ตามโครงการนีจ้ งึ ได้ขบั เคล่อื นงานศลิ ปะสรา้ งสรรค์ “ขันหมากเบง็ ” และ “หมากเบง็ ” อัตลักษณ์ พระธาตุพนม ภายใต้กรอบแนวคิด “ศลิ ปศ์ รทั ธา บูชาพระธาตุ” รว่ มกับศลิ ปนิ พื้นบา้ นกล่มุ งานสาน วัสดุจากตอกไม้ไผ่ และต้นกก และศิลปนิ พ้ืนบา้ นกลุ่มประดิษฐห์ มากเบ็ง เพือ่ นาเสนอ และเปลีย่ น ให้เกิดท้งั คุณค่า และ มลู ค่า ผลที่ปรากฏคือ มผี ลงานหมากเบ็งใบตองกอกไม้สด และขนั หมากเบ็ง ประดษิ ฐจ์ ากผา้ ขนาดย่อส่วน ในบรรจุภณั ฑ์ เปน็ ช้ินงานของที่ระลึก ตามโครงสร้างแบบรูปดงั ภาพ ภำพ 11 ภาพสเกตซแ์ บบกบั ชิ้นงานสร้างสรรคข์ นั หมากเบ็ง 2.2.2 ฮุปแต้ม โครงสร้างทม่ี ีอัตลกั ษณ์จากการการผสมผสาน แสดงผา่ นการใชส้ ใี นการนาเสนอ ระหว่างสีสด เชน่ สีแดง สีฟา้ ตัดกบั การใชส้ ฝี ุ่น สคี รามอ่อน และสีดา ซ่งึ เปน็ ลักษณะพน้ื ถิ่น รวมท้งั ยงั มกี ารวาดภาพทิวทศั น์ธรรมชาติ ทัง้ แบบภาคกลางและแบบท้องถิ่น ใชก้ ารวาดรปู รา่ งด้วยเส้นสีดา หรอื สเี ข้มและใชส้ ีไม่มากนัก การผสมผสานจงึ นบั เป็นเอกลกั ษณส์ าคัญของจิตรกรรมในพื้นท่ี ปรากฏ
27 ลกั ษณะเดน่ ของความงามได้แก่ความเรียบงา่ ยคือความงาม มุ่งเน้นการสื่อสารทงั้ ภาพและเนอ้ื หาอยา่ ง ตรงไปตรงมา นาเสนอเน้อื หาเชิงศาสนาและสงั คมได้อย่างมีนัยสาคญั องค์ประกอบภาพอย่างมีอิสระ ไม่ติดกับความเคร่งครดั ของรูปแบบ หรือการลาดบั เรอื่ ง 2.3 อัตลกั ษณ์และการพฒั นาต่อยอดงาน 2.3.1 ขันหมากเบ็ง ดังกลา่ วแลว้ วา่ โจทย์งานการพัฒนาเฉพาะกรณี ขนั หมากเบ็ง ควรสร้างสมดลุ ระหวา่ งการอนุรักษ์เพ่ือรกั ษาอัตลกั ษณอ์ นั ดีงามกบั พลวัติการเปลี่ยนแปลง แม้ผ้รู ายงานในฐานะ ผเู้ สนอโครงการสบื สานศิลปวัฒนธรรมทอ้ งถน่ิ ตระหนักร้วู า่ การขับเคล่อื นงานใด ๆ ต้องเคารพ ไม่ทาให้ศิลปินสูญเสียแรงบนั ดาลใจ และควรสนบั สนุน ส่งเสริม ให้ศลิ ปนิ สามารถสร้างรายได้จาก งานศลิ ปะของตน ตามเจตนาของการใชเ้ งนิ อดุ หนุนโครงการท่เี สนอขอ ซ่งึ สอดคล้องกับข้อมูลเชงิ ประเมนิ ในพนื้ ทีโ่ ครงการพบว่าเจตนาสร้างคุณคา่ ทางใจและสรา้ งรายได้ เป็นประเดน็ หลักสาคัญในการ สร้างสรรค์งานศลิ ปหตั ถกรรมพน้ื ถ่ินของศลิ ปินพ้นื บ้าน ทั้งยังสอดคลอ้ งกับการพัฒนาพน้ื ทีเ่ ชิงประเดน็ การขนึ้ ทะเบียนพระธาตุพนมเป็นมรดกโลก ทีม่ ีสังกปั ของงานดา้ นการจัดทากิจกรรมด้านเศรษฐกจิ สร้างสรรคใ์ นชุมชนพน้ื ท่ีพระธาตุพนมและพ้ืนทีโ่ ดยรอบและการสบื คน้ พัฒนาดา้ นวัฒนธรรม ความเช่อื และประเพณผี นวกในสังกปั งานท้ังหมดด้วย ดังน้ัน ชุมชนทอ้ งถนิ่ และผูน้ าชุมชนท้องถ่นิ ควรมวี ิสยั ทศั น์ ในการสร้างฉนั ทามตริ ่วมในแนวทางการส่งเสรมิ อัตลักษณ์และและพัฒนาต่อยอดงาน ได้แก่การจดั การ ถ่ายทอด ทานบุ ารงุ สบื ทอด พัฒนา การทาขอ้ มูลสารสนเทศ การผนวกงานเขา้ ไปในภาค การศกึ ษา และการท่องเทย่ี ว โดยบูรณาการงานรว่ มกบั หลายภาคส่วน บคุ ลากรทางศลิ ปะหลากหลาย และการบริหารจัดการทเ่ี หมาะสม ทั้งนมี้ ีการพัฒนาต่อยอดงาน ดังแผนภาพ
28 ชมุ ชนทอ้ งถน่ิ กลมุ่ ชาตพิ นั ธุ์ สนใจประดษิ ฐช์ ้นิ งานประดษิ ฐ์ ใหป้ ระณีต มากข้นึ หรอ้ มกบั สรา้ งอตั ลกั ษณใ์ หมใ่ หก้ บั พ้นื ทว่ี ฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ ชมุ ชนทอ้ งถน่ิ กลมุ่ ชาตพิ นั ธุ์ ร่วมกนั ยกร่างความคดิ เสนอผลติ ภณั ฑข์ องทร่ี ะลกึ เพอ่ื ใหเ้กดิ การและเปลย่ี น ผลงานศิลปะใหส้ ามารถสรา้ งรายไดจ้ ากการท่องเทย่ี ว เชงิ วฒั นธรรม ในพ้นื ท่ี งานคน้ หา \"อตั ลกั ษณฺ์\" ขนั หมากเบง็ ดว้ ยงานประดษิ ฐ์ จากวสั ดุในสง่ิ แวดลอ้ ม วฒั นธรรม แทนตนคือเบญจขนั ธ์ อยา่ งใบตอง และวสั ดุทดแทนใบตอง เพอ่ื สอ่ื ศรทั ธาบูชาพระ งาน \"หตั ถกรรม\" ของใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั จากงาน \"หตั ถกรรม\" สูง่ าน \"หตั ถศิลป์\" ดว้ ยการนา \"ตน้ กก\" มาคดั ตอกสานทร่ี อง เป็นการถา่ ยโอนประสบการณ์ สรา้ ง แกว้ นา้ ดว้ ย \"ลายขดั ตาแหลว\" และปิดขอบ up stream เพอ่ื คุณค่าใหมภ่ ายใต้ บน ลา่ ง เสรมิ ความแขง็ แรงและช่วยสรา้ ง โครงการสบื สานศิลปวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ อาเภอธาตพุ นม จงั หวดั นครพนม ไฮไลทใ์ หล้ ายขดั ดว้ ยลายเก้ยี ว สนบั สนุนโดย สานกั งานศิลปวฒั นธรรม ร่วมสมยั กระทรวงวฒั นธรรม ภำพ 12 ความก้าวหนา้ ของการพัฒนา ชน้ิ งานขันหมากเบ็งสร้างสรรค์
กะหยอ่ งตน้ กกสา ตวั ขนั ลายขดั ตาแหล ขอบบนกบั ตนี ของข สานลายเก้ยี วมสี มด รูปทรงมากข้นึ กะหยอ่ งตน้ กกสาน ตวั ขนั ลายขดั ตาแหลว ขอบบนกบั ตนี ของขนั สาน ลายเก้ยี วยงั ขาดสมดุลรูปทรง ภำพ 13 ความก้าวหน จากต้นกก และจากต้นไม้ไผ
29 กะหยอ่ งไมไ้ ผ่สาน ตวั ขนั ใชต้ อกยนื รูปร่างแบน าน และใชต้ อกเลก็ กลมสาน ลว ลายเก้ยี วเสรมิ ความ ขนั แขง็ แรงขอบบนกบั ดุล ตนี ของขนั สานลายสอง มสี มดุลรูปทรงเก็บขอบ เรยี บรอ้ ยมากข้นึ กะหย่องไมไ้ ผ่สาน ตวั ขนั ลายขดั ตาแหลว ขอบบนกบั ตนี ของขนั สานลายสอง ยงั ขาดสมดุล รูปทรง และเก็บขอบ ไมเ่ รยี บรอ้ ย น้าของการพัฒนาช้ินงานขันหมากเบง็ ผ่
30 2.3.2 ฮปู แต้ม ฮปู แต้มมีคุณค่า และความสาคัญของงานจติ รกรรมอีสานในมติ ิ ทม่ี ีความ หลากหลาย สงั เคราะห์เปน็ แนวคิดทีม่ คี วามหลากหลายท้งั รปู แบบศิลปะ เน้ือหา แนวคิด สามารถนาไป ปรับใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ได้ในปัจจุบนั ที่เดน่ ชดั ไดแ้ ก่การที่จติ รกรรมเป็นมรดกทางภมู ิปัญญา และมรดก ทางวัฒนธรรมของชุมชน เป็นพุทธศลิ ปท์ ใี ชส้ ุนทรียภาพ หรือความงามจากภาพจติ รกรรมสื่อสารเนอื้ หา ทางพระพุทธศาสนาทงั้ ในแง่พทุ ธธรรม คุณธรรมจริยธรรม ประสานกับเนื้อหาท่ีเก่ยี วกบั วิถีชมุ ชนอยา่ ง กลมกลนื ทาใหเ้ ขา้ ใจชวี ิตและสงั คมไปพรอ้ มกัน ซ่ึงศิลปนิ พื้นบ้านอาจรงั สรรคง์ านบันทึกเรื่องราวเชิง จดหมายเหตุ หรือเล่าเรื่องราวผา่ นกรอบแนวคิด จินตนาการ หรือโลกทศั นข์ องตนคนพื้นที่ เพื่อสื่อสาร ถงึ สงั คม ด้วยผลงาน “ฮปู แต้มสรา้ งสรค์” ซง่ึ สอดคลอ้ งกบั แนวคดิ ของผู้รายงานในฐานะผ้เู สนอโครงการ ทป่ี ระสงคส์ บื สานและขับเคล่ือนงานศลิ ปะดังกลา่ วให้สามารถสรา้ งรายไดแ้ กช่ ุมชน ดว้ ยเทคนคิ การใช้ “เทคนิคโบราณ-งานร่วมสมยั ”หรือ “ทาใหมไ่ มไ่ รร้ ากเหงา้ ”โดยการใชง้ านทัศนศลิ ป์สาขานี้เปน็ ส่วนหนึ่ง ของการออกแบบ หรอื ทดลองแบบ ผลิตภัณฑ์ของทร่ี ะลกึ ซึง่ เป็นสินคา้ ทางด้านการท่องเที่ยวในแหลง่ ทอ่ งเท่ยี วเชงิ ศาสนาทีส่ าคัญ ในพ้นื ทีป่ ฎบิ ัติการของโครงการสบื สานศลิ ปวัฒนธรรมทอ้ งถ่ินอาเภอ ธาตุพนม จังหวัดนครพนม เชน่ วัดพระธาตพุ นมวรมหาวิหาร โดยท่ีการปฎิบตั ิงานโครงการได้ชว่ ยให้ มีการขับเคลอ่ื น เกดิ ความก้าวหน้าของงาน ดงั น้ี ภำพ 14 ภาพฮปู แต้มงานจิตรกรรมผนงั โบสถ์วัดในพื้นทอ่ี าเภอธาตุพนม จงั หวดั นครพนม
31 นคิ : พนิต แพงดี ผู้ เตมิ ลมหำยใจ“ฮูปแต้ม” จากภาพเขียนฝาสมิ อีสาน สูง่ ำนฮปู แต้มร่วมสมัย ภำพ 15 ภาพฮูปแต้มรว่ มสมัย
32 นาฬกิ าแขวนผนัง ฮปู แตม้ กระดาษโฟโต เข้ากรอบ กระปกุ ออมสนิ ฮปู แตม้ ไม้ไผ่ ยุวศิลปนิ กับงานฮปู แต้ม โคมไฟฮปู แต้ม ฮปู แต้มหน้ากากผโี ผน กลุม่ ชาติพนั ธ์ผุ ู้ไทบา้ นอุม่ เหมา้ ภำพ 16 ภาพการต่อยอดงานฮูปแต้มงานในพนื้ ท่ีใหม่
33 2.4 กระบวนงานสร้างสรรค์ 2.4.1 แผนท่ีคนดี (People Mapping) เป็นเครอื่ งมือได้ถูกนามาปฏิบัตกิ ารทาง สังคม โดยใชก้ ระบวนการมีส่วนรว่ มของชุมชนในมิติของการเรียนรู้ และปฏบิ ัติการทางสงั คมร่วมกัน ผ่าน สถาบัน องคก์ ร หรือปจั เจกชน โดยการบรู ณาการงานผา่ นการสร้าง และพฒั นาเครอื ขา่ ยสืบสาน ศลิ ปวัฒนธรรมท้องถ่นิ อาเภอธาตุพนม จังหวดั นครพนม รงั สรรคง์ านศลิ ปวัฒนธรรมท้องถ่ินหลากหลาย แขนงท่สี ามารถเชื่อมโยงถงึ รากเหง้าด้านวัฒนธรรมชุมชนดว้ ยการสร้างพื้นที่ทางวฒั นธรรมสร้างสรรค์ ดงั ที่ ไดร้ ะบุไวเ้ ป็นหนึง่ ในหลกั การสาคญั ของโครงการ หรอื เปน็ เทคนคิ การสร้าง และใชเ้ ครอื ข่ายผู้คนเพื่อ ขบั เคลอื่ นงานในกลไกประชาสงั คม ซ่งึ ในโครงการฯ คร้งั น้ี แผนทคี่ นดีเป็นกระบวนงานทีใ่ ชใ้ นการพัฒนา ต่อยอดผลงานศลิ ปะพนื้ ถิ่นจานวน 2 รายการ คือ ชิน้ งานศิลปะขันหมากเบ็งสร้างสรรค์ กบั ชิ้นงาน ศลิ ปะฮูปแตม้ สร้างสรรค์ ตามภาพ 17-18 ภำพ 17 ภาพแผนท่คี นดี (People Mapping) ในการสร้างสรรค์ชิ้นงานขนั หมากเบ็งสร้างสรรค์ สร้างสรรค์
34 ภำพ 18 ภาพแผนทค่ี นดี (People Mapping) ในการสร้างสรรค์ชน้ิ งานฮูปแตม้ สรา้ งสรรค์ 2.4.2 งานแสดงและแลกเปลยี่ นงานศิลปะผา่ นส่อื สังคมออนไลน์ สถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นอปุ สรรคต่อการดาเนินงานได้ช่วย กระตุน้ ให้เกดิ การสร้างสรรค์งานศิลปะชุมชนด้วยสอื่ สงั คมออนไลน์ ทง้ั การไลฟส์ ดกจิ กรรมในวันจดั งาน และการใชส้ ่ือสมัยใหม่ชว่ ยเล่าเรือ่ ง โปรโมทผลติ ภัณฑ์ชุมชนจากชมุ ชนของศิลปินพนื้ บ้าน และชว่ ยเพิม่ ชอ่ งทางการเขา้ ถงึ การแลกเปลย่ี นชิ้นงานผลติ ภัณฑ์ชมุ ชน จากเพจของโครงการและเพจอืน่ ๆ ทที าใหม้ ี คนเขา้ ถึงได้มากขึ้นในวันจดั งานโครงการ ดังนัน้ การชว่ ยสง่ เสรมิ การสรา้ งรายได้จากงานศลิ ปะชุมชน จึง เกิดขนึ้ ได้ท้งั ในสว่ นการจดั งานในบริเวณพืน้ ทีจ่ ดั งาน (on site) และการจาหน่ายผ่านสอ่ื สงั คมออนไลน์ ซง่ึ นบั เปน็ การสร้างโอกาสใหม่ในวิกฤติ และสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ปกติ โดยมคี วาม เหมาะสมกบั ยคุ พาณิชย์อิเลก็ ทรอนิกส์ ภายใต้โครงการนีไ้ ด้ดาเนนิ การดงั น้ี 2.4.1 การถ่ายทอดสด (ไลฟ์สด) ผ่านกระบวนงาน (Plateform) เพจ เฟซบคุ๊ ด้านท่องเทยี่ วเชงิ วัฒนธรรมคอื เพจเฟซบุ๊ค“เที่ยวนครพนม”และ “นครพนมบ้านเฮา”กระบวนงาน เชิงขา่ ว คือเพจเฟซบุ๊ค “ธาตพุ นมนิวส์” ปรากฏว่ามีผู้เขา้ ชมบรรยากาศงานโครงการโดยทวั่ ไป และ ชมบรรยากาศพธิ เี ปิดงานโครงการผ่านกระบวนงานดงั กล่าว รวมจานวน 15,990 คน และ 12,137 คน ตามลาดับ ผลดังภาพ 19-23
35 ภำพ 19 ภาพบันทกึ หน้าจอถา่ ยทอดสดบรรยากาศงานชว่ งเชา้ ผา่ นเพจเฟซบ๊คุ เที่ยวนครพนม จานวนผู้เข้าถงึ 6,220 คน ภำพ 20 ภาพบนั ทกึ หนา้ จอถ่ายทอดสดพิธเี ปดิ งานโครงการ ผ่านเพจเฟซบุ๊คเทีย่ วนครพนม จานวนผ้เู ข้าถึง 2,921 คน
36 ภำพ 21 ภาพบนั ทึกหน้าจอถา่ ยทอดสดบรรยากาศงานช่วงเช้า ผ่านเพจเฟซบุ๊คนครพนมบา้ นเฮา จานวนผู้เข้าถึง 9,770 คน
37 2.4.2 ประชุมปฏบิ ัตกิ าร สร้างทีมผ้ดู ูแล (แอดมิน) เพจเฟซบคุ๊ ของ ทุกกลมุ่ ชาติพันธุใ์ นขอบเขตพ้ืนที่ ปฏิบตั ิการโครงการ ตามภาพ xx-XXX ภำพ 22 ภาพบันทึกหน้าจอถ่ายทอดสดพธิ ีเปดิ งานโครงการ ผ่านเพจเฟซบคุ๊ นครพนมบา้ นเฮา จานวนผเู้ ข้าถึง 9,216 คน
38 ภำพ 23 ภาพบันทกึ หนา้ จอขอ้ มลู ถา่ ยทอดสดพธิ เี ปิดงานโครงการ ผ่านเพจเฟซบุ๊ค ThatphanomNews จานวนผเู้ ข้าถึง 2,700 คน 2.4.2 การสร้างเพจเฟซบุ๊คของโครงการ ชอื่ เพจ “สบื สานวัฒนธรรม ธาตุพนม” เป็นการออกแบบกระบวนงานในลักษณะการนาเสนอสาระของงานศลิ ปวัฒนธรรมด้วยส่ือใหม่ (New Media) ภายใต้กระบวนงานของสอ่ื สงั คมออนไลน์ ในพื้นทปี่ ฏิบัตกิ ารของโครงการและพนื้ ทที่ ่ี เกย่ี วข้อง โดยริเรม่ิ พฒั นากล่มุ ผดู้ แู ล (แอดมิน) เพจ จากทกุ กล่มุ ชาตพิ นั ธใ์ุ นพืน้ ท่ี ชว่ ยกันกาหนดขอบขา่ ย โครงสร้าง และผังการนาเสนอ ด้วยการประชมุ ปฏบิ ตั กิ าร ดงั แสดงด้วยภาพ 24
39 ภำพ 24 ภาพการประชุมปฏิบตั กิ ารสร้างแอดมนิ เพจเฟซบุคโครงการ
40 3. ผลกำรประเมินควำมคิดเห็นของผ้เู ขำ้ รว่ มงำนโครงกำรสืบสำนศิลปวัฒนธรรมท้องถน่ิ อำเภอ ธำตพุ นม จงั หวดั นครพนม รำยด้ำน และภำพรวม ผู้รายงานได้วิเคราะห์ข้อมูล ความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมงานโครงการสืบสาน ศิลปวัฒนธรรมท้องถ่ิน อาเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม รายด้านและภาพรวม จาแนกตาม ประสบการณ์ด้วยสถิติบรรยาย ปรากฏผลและความหมาย ดังแสดงในตาราง 6 ตำรำง 6 ผลการประเมินความคดิ เห็นของผู้เข้าร่วมงานโครงการสืบสานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถ่ิน อาเภอ ธาตุพนม จงั หวดั นครพนม รายด้าน และภาพรวม ท่ี ประเดน็ คาถาม X S.D. ความหมาย 1. มจี ิตสานกึ ในการสบื สานศิลปวฒั นธรรมท้องถิน่ 4.92 .26 ความคดิ เห็นระดับมากทส่ี ดุ 2. ศลิ ปวัฒนธรรมท้องถ่นิ มคี วามสาคัญต่อชีวติ ประจาวนั 4.92 .33 ความคดิ เหน็ ระดบั มากทส่ี ดุ 3. ศลิ ปวัฒนธรรมท้องถ่นิ สามารถสร้างรายชุมชน 4.91 .35 ความคดิ เหน็ ระดบั มากทส่ี ดุ 4. ศิลปวฒั นธรรมท้องถิ่นสามารถพัฒนาต่อยอดมคี ุณค่าทางใจ 4.96 .27 ความคดิ เห็นระดับมากทส่ี ดุ 5. ศลิ ปวัฒนธรรมทอ้ งถน่ิ สามารถพัฒนาตอ่ ยอดให้มมี ูลค่า 4.94 .23 ความคิดเหน็ ระดบั มากทส่ี ดุ ทางเศรษฐกิจ ด้ำนควำมคำดหวัง “ก่อน” เข้ำร่วมกจิ กรรมโครงกำร 4.93 .25 ควำมคดิ เหน็ ระดบั มำกที่สดุ 6. มจี ติ สานึกในการสืบสานศิลปวฒั นธรรมทอ้ งถิ่น 4.94 .30 ความคดิ เห็นระดับมากทส่ี ดุ 7. ศลิ ปวัฒนธรรมท้องถิ่นมคี วามสาคญั ตอ่ ชวี ติ ประจาวัน 4.94 .30 ความคดิ เห็นระดบั มากทส่ี ดุ 8. ศิลปวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ สามารถสร้างรายชุมชน 4.96 .19 ความคิดเห็นระดบั มากทส่ี ดุ 9. ศิลปวัฒนธรรมท้องถ่นิ สามารถพฒั นาตอ่ ยอดมีคุณคา่ ทางใจ 4.98 .13 ความคดิ เห็นระดับมากทส่ี ดุ 10. ศลิ ปวัฒนธรรมท้องถน่ิ สามารถพฒั นาตอ่ ยอดใหม้ มี ูลค่า 4.94 .30 ความคิดเห็นระดบั มากทส่ี ดุ ทางเศรษฐกจิ ดำ้ นผลท่ไี ด้รับ “หลัง” เข้ำร่วมกิจกรรมโครงกำร 4.95 .19 ควำมคิดเหน็ ระดับมำกท่สี ุด 11. การประชาสัมพันธ์กจิ กรรมโครงการนี้ 4.74 .48 ความคดิ เหน็ ระดับมากทส่ี ดุ 12. รูปแบบการจดั กจิ กรรมโครงการน้ี 4.79 .40 ความคิดเห็นระดบั มากทส่ี ดุ 13. การประสานงานและอานวยความสะดวก 4.66 .47 ความคิดเหน็ ระดับมากทส่ี ดุ 14. ความพึงพอใจโดยภาพรวมตอ่ การจดั โครงการ 4.81 .39 ความคิดเหน็ ระดับมากทส่ี ดุ 15. ควรพัฒนากจิ กรรมโครงการอยา่ งตอ่ เนื่อง 4.81 .39 ความคดิ เหน็ ระดับมากทส่ี ดุ ดำ้ นกำรบรหิ ำรจดั กำรกจิ กรรมโครงกำร 4.76 .39 ควำมคดิ เหน็ ระดบั มำกที่สุด ภำพรวม 4.88 .18 ควำมคิดเห็นระดับมำกที่สุด จากตาราง 6 ผู้เข้าร่วมงานโครงการสืบสานศิลปวัฒนธรรมท้องถ่ิน อาเภอธาตุพนม จังหวัด นครพนม มีความคดิ เห็นต่องานโครงการ รายดา้ นและภาพรวม ในระดับมาก (=3.71 , 3.74 ,3.81 , 69 ,3.6 ,.76 และ 3.72 S.D.= 0.46 , 0.45 , 0.4 ,0.47 ,0.48 ,0.43 และ 0.31 ตามลาดับ
41 4. ผลกำรเปรยี บเทยี บควำมคิดเหน็ ของผเู้ ข้ำรว่ มงำนโครงกำรสบื สำนศลิ ปวัฒนธรรมท้องถ่นิ อำเภอ ธำตพุ นม จงั หวัดนครพนม จำแนกตำมประสบกำรณเ์ ขำ้ รว่ มงำนและสถำนภำพ ผรู้ ายงานไดว้ เิ คราะหข์ อ้ มูล เปรยี บเทยี บความคดิ เห็นของผู้เขา้ รว่ มงานโครงการสืบ สานศลิ ปวัฒนธรรมท้องถนิ่ อาเภอธาตุพนม จงั หวดั นครพนม จาแนกตามประสบการณ์เข้ารว่ มงานและ สถานภาพ ดว้ ยสถิติ t (t-test) และสถติ ิ F (One-Way ANOVA) ปรากฏผลและความหมาย ดังแสดง ในตาราง 7-8 ตำรำง 7 ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมงานโครงการสืบสานศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น อาเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม จาแนกตามประสบการณ์เข้าร่วมงาน ประสบการณ์การเข้าร่วมงาน n X S.D. df t Sig. (2-tailed) เคยเขา้ ร่วมงาน 15 4.81 0.24 51 -1.640* ไมเ่ คยเข้ารว่ มงาน 38 4.90 0.15 .107 * แตกตา่ งอยา่ งไมม่ นี ยั สาคัญทางสถิติท่รี ะดับ .05 จากตาราง 7 พบว่า ผู้เข้าร่วมงานโครงการสืบสานศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น อาเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ท่ีมีประสบการณ์การเข้าร่วมงานแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่องานโครงการ แตกต่าง กนั อย่างไม่มีนยั สาคัญทางสถติ ทิ ่รี ะดบั .05 (t= -1.640 Sig. 2-tailed = .107) ตำรำง 8 ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมงานโครงการสืบสานศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น อาเภอธาตุพนม จังหวดั นครพนม จาแนกตามสถานภาพ สถานภาพ SS df MS F Sig. (2-tailed) ระหว่างสถานภาพ 0.013 2 .007 ภายในสถานภาพ 1.764 50 .035 .190* .828 รวม 1.777 52 * แตกต่างอย่างไมม่ นี ยั สาคัญทางสถิติท่รี ะดบั .05 จากตาราง 8 พบว่า ผู้เข้าร่วมงานโครงการสืบสานศิลปวัฒนธรรมท้องถ่ิน อาเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ท่ีมีสถานภาพแตกต่างกันมีความคิดเห็นต่องานโครงการ แตกต่างกันอย่างไม่มี นยั สาคัญทางสถติ ิทร่ี ะดบั .05 (F= .190 Sig. 2-tailed = .828)
Search