45 1.4 ปัจจยั ท่ีทาํ ใหเ้ กิดความลม้ เหลวในการนํา เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ 2. การนําเทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสมมาใชง้ าน การนํา เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในองค์การจําเป็ นต้อง พิจารณาใหส้ อดคลอ้ งกบั ลกั ษณะของธรุ กิจหรืองานที่องคก์ าร ดําเนิ นอยู่ หากเลือกใช้เทคโนโลยีที่ไม่สอดรับกับความ ตอ้ งการขององคก์ ารแลว้ จะทําใหเ้ กิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา และเป็ นการส้ินเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ 1.4 ปัจจยั ที่ทาํ ใหเ้ กิดความลม้ เหลวในการนํา เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ 3. การขาดการจดั การหรือสนบั สนุนจากผูบ้ ริหารระดบั สูง การท่ีจะนําเทคโนโลยีสารสนเทศเขา้ มาใชง้ านในองคก์ ร หาก ข า ด ซ่ึ ง ค ว า ม ส นับ ส นุ น จ า ก ผู ้บ ริ ห า ร ร ะ ด ับ สู ง แ ล ้ว ก็ ถื อ ว่ า ลม้ เหลวต้ังแต่ยังไม่ไดเ้ ริ่มตน้ การไดร้ ับความมนั่ ใจจาก ผูบ้ ริหารระดบั สูงเป็ นกา้ วย่างท่ีสําคญั และจําเป็ นท่ีจะทําใหก้ าร นําเทคโนโลยีสารสนเทศมาใชใ้ นองคก์ ารประสบความสําเร็จ
46 1.4 ปัจจยั ท่ีทาํ ใหเ้ กิดความลม้ เหลวในการนํา เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ นอกจากน้ี ปั จจัยอื่น ๆ ท่ีทําให้การนําเทคโนโลยี สารสนเทศมาใชไ้ ม่ประสบความสําเร็จในดา้ นผูใ้ ชง้ านนั้น อาจสรปุ ได้ 3 ประการดงั น้ี 1. ความกลวั การเปล่ียนแปลง กล่าวคือ ผูค้ นกลวั ที่จะ เรียนรกู้ ารใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทง้ั กลวั ว่าเทคโนโลยี สารสนเทศจะเขา้ มาลดบทบาทและความสําคญั ในหนา้ ท่ีการ งานที่รบั ผิดชอบของตนใหล้ ดนอ้ ยลงจนทําใหต้ ่อตา้ นการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ 1.4 ปัจจยั ท่ีทาํ ใหเ้ กิดความลม้ เหลวในการนํา เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ 2. การไม่ติดตามข่าวสารความรูด้ า้ นเทคโนโลยี สารสนเทศอย่ างสมํ่าเสมอ เนื่ องจากเทคโนโลยี สารสนเทศเปล่ียนแปลงรวดเร็วมาก หากไม่มนั่ ติดตาม อย่างสมํา่ เสมอแลว้ จะทําใหก้ ลายเป็ นคนลา้ หลงั และตก ขอบ จนเกิดสภาวะชะงกั งนั ในการเรียนรแู้ ละใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศ
47 1.4 ปัจจยั ท่ีทาํ ใหเ้ กิดความลม้ เหลวในการนํา เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ 3. โครงสรา้ งพ้ืนฐานดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศของ ประเทศกระจายไม่ทวั่ ถึง ทําใหข้ าดความเสมอภาคในการ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ หรือเกิดการใชก้ ระจุกตวั เพียง บางพ้ืนที่ ทําใหเ้ ป็ นอุปสรรคในการใชง้ านดา้ นต่าง ๆ ตามมา เช่น ระบบโทรศพั ท์ อินเทอรเ์ น็ตความเร็วสงู ฯลฯ 2. วิวฒั นาการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พฒั นาการจากยุคอนาลอกสู่ยุคดิจิตอลน้ันมีความ เป็ นมาท่ียาวนานมาก กว่าท่ีจะมาเป็ นเทคโนโลยีท่ีเราท่าน ใช้ งานกนั อยู่ในปัจจุบนั น้ี บางช่วงใชเ้ วลาในการคน้ คิดนานเป็ น พนั ปี โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง บางช่วงก็เร็วมาก ถา้ เราสงั เกต จะเห็นว่าในปัจจุบนั การคน้ คิดเทคโนโลยีเหล่าน้ีเปลี่ยนไป อย่างเร็วมากจนผู้ใช้แทบจะตามไม่ทัน ซ่ึงถ้าเราเข้าใจ พฒั นาการของเร่ืองเหล่าน้ีอยู่บา้ งก็จะช่วยทําใหเ้ รามองภาพใน อนาคตไดด้ ว้ ยตวั ของเราเอง
48 2. วิวฒั นาการเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร การพฒั นาทางดา้ นเทคโนโลยีแบ่งเป็ น 2 ดา้ นที่ ควบคู่กนั มา คือ พฒั นาการทางดา้ นคอมพิวเตอรแ์ ละ พ ัฒ น า ก า ร ท า ง ด ้า น ก า ร สื่ อ ส า ร ซ่ึ ง ก็ จ ะ ห ม า ย ร ว ม ถึ ง ลกั ษณะของขอ้ มูลหรือสารสนเทศท่ีใชใ้ นการสื่อสารกนั ดว้ ย เพ่ือใหเ้ ห็นภาพอย่างชดั เจนเรามาดู ดงั ภาพ
49
50
51 3. สรปุ เทคโนโลยีสารสนเทศเป็ นเทคโนโลยีทุกรปู แบบที่ทาํ มา ประยุกตใ์ ชใ้ นการประมวลผล การจดั เก็บการส่ือสาร การวิเคราะห์ รายงานผล และการส่งผ่านสารสนเทศดว้ ยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดย ระบบทางกายภาพประกอบดว้ ยคอมพิวเตอรอ์ ุปกรณต์ ิดต่อสื่อสาร ระบบเครือข่าย และระบบฐานขอ้ มูล ทงั้ ในระบบนามธรรมเกี่ยวขอ้ ง กบั การจดั รปู แบบของการมีสมั พนั ธ์ ดา้ นสารสนเทศทงั้ ภายใน และ ภายนอกระบบใหส้ ามารถดําเนินการร่วมกนั อย่างมีประสิทธิภาพ จึง เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (ICT) มีความสําคญั และความ จาํ เป็ นอย่างย่ิงต่อการส่งเสริม สนบั สนุนในการบริหารจดั การระบบ สารสนเทศภายในองคก์ ารและภายนอกองคก์ รเพื่อเกิดความสะดวก รวดเร็ว แม่นยําและมีประสิทธิภาพ
52
Search