Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แนวทางการพัฒนาทักษะชีวิต

แนวทางการพัฒนาทักษะชีวิต

Published by Pakamas Chanmanee, 2023-06-29 06:38:37

Description: แนวทางการพัฒนาทักษะชีวิต

Search

Read the Text Version

(รา่ ง) แนวทางการพัฒนาทกั ษะชวี ติ บรู ณาการการเรียนการสอน 8 กล่มุ สาระการเรยี นรู ้ หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 สำนักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร



คำนำ สภาพสงั คมท่เี ปลี่ยนแปลง ไดส้ ่งผลกระทบต่อเดก็ วยั เรียนเป็นอยา่ งมาก ทง้ั การดำเนนิ ชวี ติ ท่ามกลางกระแสเทคโนโลยีท่ีล้ำสมัย และความคาดหวังของผู้ปกครองต่อการศึกษาต่อของ บุตรหลาน ตลอดจนการเผชิญสิ่งยั่วยุ หรือตัวแบบที่ไม่เหมาะสมต่าง ๆ รอบตัว ท่ีก่อให้เกิดปัญหา เด็กและเยาวชนทวีความรุนแรงเพ่ิมมากข้ึน เด็กและเยาวชนท่ีมีทักษะชีวิตในระดับต่ำหรือ ขาดภูมิคุ้มกันทางสังคม เมื่อเขาพ้นวัยการศึกษาขั้นพ้ืนฐานไปแล้ว อาจเป็นคนที่ไม่ประสบ ความสำเรจ็ ในชวี ิต มปี ัญหาเรอ่ื งการปรบั ตัว และการดำเนินชวี ิตในสังคม สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานตระหนักถึงความจำเป็นในการพัฒนา และสร้างทักษะชีวิตให้กับผู้เรียนในระบบการศึกษาข้ันพ้ืนฐานอย่างเร่งด่วน จึงได้จัดทำแนวทาง การพัฒนาทักษะชีวิตบูรณาการการเรียนการสอนใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ด้วยกระบวนการ จัดการเรียนรู้ท่ีมีประสิทธิภาพขึ้น เพื่อให้ครูนำไปพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะชีวิตเป็นภูมิคุ้มกันให้รอด ปลอดภัยจากการครอบงำของสอื่ และเทคโนโลยี และตงั้ รับตอ่ การกา้ วรุกทางสงั คมอย่างรเู้ ทา่ ทนั สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐานขอขอบคุณองคก์ รไร้ทูเพล (Right To Play) คณะครูเจา้ ของแผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ทัง้ 8 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ท่ีไดอ้ นญุ าตใหน้ ำองคค์ วามรู้ และเอกสารมาใช้ประกอบการจัดทำเอกสารเล่มน้ีและขอขอบคุณคณะผู้จัดทำเอกสาร ตลอดจน ผมู้ ีสว่ นเกี่ยวขอ้ งทุกฝา่ ย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานขอฝากความหวังไว้ว่า ผู้บริหารทุกระดับ คุณครูทุกคน และผู้เก่ียวข้องจะได้ใช้ประโยชน์จากเอกสารน้ีเพ่ือสร้างทักษะชีวิตให้เป็นภูมิคุ้มกัน ท่แี ข็งแกร่งใหแ้ ก่เดก็ และเยาวชนในสถานศกึ ษาอย่างต่อเนอ่ื งสบื ไป สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน



สารบญั หน้า คำนำ คำชแ้ี จง แนวคดิ เร่อื งทกั ษะชวี ติ และการพัฒนาทกั ษะชวี ิตในหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 1 ● ความหมายของทกั ษะชีวิต 1 ● องคป์ ระกอบทกั ษะชีวติ พฤตกิ รรมทกั ษะชีวติ ทคี่ าดหวังและตัวชว้ี ัดระดับประถมศกึ ษา และมัธยมศกึ ษา 2 ● ทักษะชีวิตในหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 10 ● การพฒั นาทกั ษะชีวติ ในหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 14 - ทักษะชีวิตท่ัวไป - ทกั ษะชวี ติ เฉพาะ 15 การพฒั นาทักษะชีวติ บูรณาการการเรียนการสอนในกลมุ่ สาระการเรยี นร ู้ 17 ● การพฒั นาทกั ษะชวี ติ ดว้ ยเทคนิคคำถาม R - C - A 17 ● เทคนิคการใชค้ ำถาม R - C - A 19 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนร้บู รู ณาการทกั ษะชีวิต 21 ● โครงสรา้ งตัวอยา่ งการบูรณาการทกั ษะชีวติ ในการเรยี นการสอน 8 กลุม่ สาระการเรียนร ู้ ตัวอย่างการพัฒนาทกั ษะชีวิตบรู ณาการการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 29 ● พฤติกรรมทักษะชวี ิตทสี่ อดคลอ้ งกับตวั ชวี้ ดั มาตรฐานการเรยี นรู้กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย 30 ● แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรบู้ รู ณาการทักษะชีวติ ในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย 33 ตวั อย่างการพัฒนาทักษะชวี ติ บรู ณาการการเรียนการสอนกลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ 45 ● พฤตกิ รรมทักษะชวี ติ ท่ีสอดคล้องกบั ตวั ชวี้ ัด มาตรฐานการเรยี นรูก้ ลุ่มสาระการเรยี นร ู้ คณติ ศาสตร์ 46 ● แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนร้บู รู ณาการทกั ษะชีวิตในกล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร ์ 53 ตวั อยา่ งการพัฒนาทกั ษะชีวติ บรู ณาการการเรยี นการสอนกล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร ์ 81 ● พฤติกรรมทักษะชวี ิตที่สอดคลอ้ งกับตวั ชวี้ ดั มาตรฐานการเรียนร้กู ลุ่มสาระการเรยี นร้ ู วทิ ยาศาสตร์ 82 ● แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้บรู ณาการทักษะชวี ิตในกล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร ์ 85

สารบัญ (ต่อ) หน้า ตวั อยา่ งการพฒั นาทกั ษะชวี ติ บูรณาการการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม 107 ● พฤตกิ รรมทกั ษะชวี ติ ที่สอดคล้องกับตัวชว้ี ัด มาตรฐานการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 108 ● แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรบู้ รู ณาการทักษะชวี ิต ในกลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม 113 ตัวอยา่ งการพัฒนาทักษะชวี ิตบูรณาการการเรียนการสอนกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 127 ● พฤติกรรมทกั ษะชวี ติ ที่สอดคลอ้ งกบั ตวั ชว้ี ัด มาตรฐานการเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 128 ● แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้บรู ณาการทกั ษะชวี ติ ในกลมุ่ สาระการเรยี นรู ้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา 137 ตัวอยา่ งการพฒั นาทกั ษะชีวิตบรู ณาการการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะ 157 ● พฤติกรรมทกั ษะชวี ติ ท่ีสอดคล้องกับตัวชว้ี ดั มาตรฐานการเรยี นรู้กลุ่มสาระการเรียนรู ้ ศิลปะ 158 ● แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้บูรณาการทักษะชีวติ ในกลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ 163 ตวั อย่างการพัฒนาทกั ษะชีวิตบรู ณาการการเรยี นการสอนกลุ่มสาระการเรียนร้ ู การงานอาชพี และเทคโนโลยี 181 ● พฤตกิ รรมทักษะชีวติ ทส่ี อดคล้องกับตัวชว้ี ัด มาตรฐานการเรียนร ู้ กลุ่มสาระการงานอาชพี และเทคโนโลยี 182 ● แผนการจัดกิจกรรมการเรียนร้บู รู ณาการทักษะชีวติ ในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลย ี 186 ตวั อยา่ งการพฒั นาทกั ษะชวี ติ บูรณาการการเรียนการสอนกลุม่ สาระการเรยี นร ู้ ภาษาต่างประเทศ 201 ● พฤติกรรมทักษะชวี ติ ท่สี อดคลอ้ งกบั ตัวชว้ี ัด มาตรฐานการเรยี นร ู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ 202 ● แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้บรู ณาการทกั ษะชีวติ ในกลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ 206

สารบัญ (ต่อ) หนา้ ประเดน็ คำถาม R - C - A ● คำถาม R - C - A สำหรบั นกั เรยี นระดบั ประถมศึกษา 214 ● คำถาม R - C - A สำหรบั นกั เรียนระดับมัธยมศึกษา 224 บรรณานุกรม 231 รายชอ่ื คณะผูจ้ ดั ทำเอกสาร 233

คำช้ีแจงการใช้เอกสารการพัฒนาทกั ษะชีวติ บูรณาการการเรยี นการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนร้ ู เอกสารแนวทางการพัฒนาทักษะชีวิตบูรณาการการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ เล่มน้ี เป็นเอกสารสำหรับครูใช้เป็นแนวทางการพัฒนาและเสริมสร้างทักษะชีวิตให้กับผู้เรียน ด้วยวิธี การบูรณาการและสอนแทรกในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน หรือกิจกรรมการเรียนรู้ในทุกกลุ่ม สาระการเรยี นรทู้ ่อี ิงมาตรฐานและตวั ช้วี ัดหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 ลักษณะของการบูรณาการและสอนแทรกทักษะชีวิตในการเรียนการสอนที่เป็นจุดเน้นของ เอกสารแนวทางการพัฒนาทักษะชีวิตใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้เล่มนี้ เป็นการจัดกิจกรรมที่กำหนด ให้ผู้เรียนได้อภิปรายแสดงความรู้สึกนึกคิดและประยุกต์ใช้ความคิดอย่างมีประสิทธิภาพ หลังส้ินสุด การเรียนรู้หรือส้ินสุดกระบวนการเรียนการสอนเน้ือหาสาระในหลักสูตรตามปกติแล้ว เพ่ือให้ผู้เรียน เปิดเผยตัวเองผ่านการสะท้อนความรู้สึกหรือมุมมองของตนเอง ได้คิดเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับ ประสบการณ์เดิมของผู้เรียน และได้ประยุกต์ความรู้น้ันไปใช้ในชีวิตจริงของผู้เรียน โดยครูเป็น ผู้ตั้งประเด็นคำถามให้ผู้เรียนได้สะท้อน (Reflect) เชื่อมโยง (Connect) และปรับใช้ (Apply) ซ่งึ เรียกคำถามดงั กลา่ วโดยย่อว่า คำถาม R - C - A การใช้คำถาม R - C - A เพื่อพัฒนาทกั ษะชวี ติ หลงั ส้ินสุดการจดั การเรยี นรูห้ รอื การเรียนการ สอนตามปกติอย่างต่อเนื่อง เป็นการฝึกฝนให้ผู้เรียนได้คิดวิเคราะห์ คิดไตร่ตรอง และคิดหาเหตุผล ทำให้ตนเองฉุกใจคิด รคู้ ิด รจู้ กั แก้ปัญหาด้วยวธิ ีการตา่ ง ๆ ในสถานการณ์ทห่ี ลากหลาย และส่ังสมไว้ เป็นประสบการณ์ท่ีดี ซึมซับเข้าสู่จิตใจอย่างต่อเน่ือง สม่ำเสมอ ผู้เรียนก็จะแสดงออกเป็นพฤติกรรม ที่ดงี าม เป็นความรู้และความตระหนกั ทยี่ งั่ ยืน จากแนวคิดดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐานจึงได้จัดวางระบบ การบูรณาการและสอนแทรกทักษะชีวิตในการเรียนการสอนปกติของครูทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์ ดังนี ้ วัตถุประสงค ์ 1. เพื่อพัฒนากระบวนการจัดการเรียนการสอนที่บูรณาการทักษะชีวิตในกลุ่มสาระ การเรยี นร้หู ลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 2. เพ่ือพัฒนาทักษะชีวิตใหก้ บั ผเู้ รยี นในระดบั การศึกษาขน้ั พ้นื ฐานทกุ ชัน้ ปี

สาระสำคญั ของเอกสาร เอกสารแนวทางการพัฒนาทักษะชีวิตบูรณาการการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 เล่มนี้ มสี าระสำคัญ 4 เร่อื ง ดังน้ี 1. แนวคิดเรื่องทักษะชีวิตและการพัฒนาทักษะชีวิตในหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ประกอบด้วยความหมายของทักษะชีวิต องค์ประกอบทักษะชีวิต พฤติกรรมทักษะชีวิตท่ีคาดหวังและตัวช้ีวัดระดับประถมศึกษา-มัธยมศึกษา และพฤติกรรมทักษะชีวิต ที่คาดหวัง จำแนกรายชั้นปี เพ่ือเป็นความรู้และสร้างความเข้าใจให้ครูผู้สอนได้เห็นถึงความเช่ือมโยง สอดคล้องระหว่างองค์ประกอบ พฤติกรรมและตัวช้ีวัด ที่เป็นเป้าหมายของการพัฒนาผู้เรียน ให้ผู้เรียนมีทักษะชีวิตเป็นภูมิคุ้มกันปัญหาต่าง ๆ รอบตัว ทั้งในปัจจุบันและเตรียมพร้อมสำหรับ อนาคต 2. การพัฒนาทักษะชีวิตบูรณาการการเรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ ประกอบด้วย ความหมายของคำถาม R - C - A การพัฒนาทักษะชวี ติ ด้วยเทคนิคคำถาม R - C - A ลกั ษณะของ คำถาม R - C - A เทคนคิ การใชค้ ำถามและตวั อยา่ งคำถาม R - C - A 3. แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการทักษะชีวิตและแผนการจัดกิจกรรม การเรียนรบู้ รู ณาการทกั ษะชีวิต ประกอบดว้ ย พฤติกรรมทกั ษะชวี ิตทส่ี อดคลอ้ งกับตัวชีว้ ดั มาตรฐาน การเรียนรู้ใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ตัวอย่างแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการทักษะชีวิตในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี และภาษาตา่ งประเทศ 4. ประเด็นคำถาม R - C - A สำหรับครเู ลอื กนำไปต้งั คำถามพัฒนาทกั ษะชีวิตให้กับผเู้ รยี น ประกอบดว้ ย คำถาม R - C - A การตระหนักรู้และเห็นคุณคา่ ในตนเองและผู้อื่น คำถาม R - C - A การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจและแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ คำถาม R - C - A การจัดการกับอารมณ์ และความเครยี ด คำถาม R - C - A การสร้างสัมพนั ธภาพที่ดีกับผู้อน่ื แนวทางการพัฒนาทักษะชีวิตบูรณาการการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ท่ีเสนอ ไวใ้ นเอกสารเล่มน้ี เปน็ กิจกรรมตวั อย่างการใชค้ ำถาม R - C - A เพือ่ พฒั นาทักษะชวี ติ หลังเสรจ็ สนิ้ กระบวนการเรียนรู้ของผเู้ รียน ตามจุดประสงค์ของการเรยี นการสอนปกติ ในทุกกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ แต่ไม่ได้นำเสนอไว้ครบทุกช้ันปี ซึ่งครูผู้สอนทุกท่านสามารถปรับประยุกต์คำถาม R - C - A ให้เหมาะสมตามจุดมุ่งเน้นตามบริบทของนักเรียนในช้ันเรียนท่ีคุณครูรับผิดชอบการสอน โดยยึด องค์ประกอบพฤติกรรม และตัวช้ีวัดทักษะชีวิตรายช้ันปีไว้เป็นหลัก และดำเนินการเรียนการสอน ตามแนวทางและขัน้ ตอนของระบบการเรียนการสอน ดงั ตอ่ ไปน ี้

แผนภมู ิการจดั การเรยี นรแู้ ละการใช้คำถาม R - C - A ทีส่ ร้างทักษะชวี ิตพื้นฐาน ในการเรียนการสอน 8 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี...................... กลุม่ สาระการเรียนรู.้ ................................... ช้ัน.......... แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ รายชัว่ โมง/ครั้ง (ตามปกติของคร)ู วิเคราะหก์ ิจกรรมและทิศทางของพฤติกรรมท่คี าดหวัง/ตัวชี้วัด ทักษะชีวิตรายชนั้ ปที ีส่ อดคลอ้ ง ตั้งคำถาม R - C - A ที่พัฒนาพฤตกิ รรมทักษะชีวิต จดั กจิ กรรมตามแผนการเรียนรู้รายครัง้ /รายชวั่ โม กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ใช้คำถาม R - C - A ในการสนทนา อภิปราย ประเมินผล บันทกึ ผลการสอน ครูผู้สอนจึงควรศึกษาแนวความคิดทักษะชีวิตการพัฒนาทักษะชีวิต และการบูรณาการ หรือสอนแทรกทักษะชีวิตในการเรียนการสอนในรายวิชาปกติ หัวใจสำคัญของการพัฒนาทักษะชีวิต ตามเจตนารมณ์ของเอกสารเล่มน้ีคือ การใช้เทคนิคคำถาม R - C - A ในการสนทนาหรืออภิปราย เพอ่ื ตอบคำถามอย่างเช่อื มโยง และปรับใช้ความรู้ความคิดที่ไดจ้ ากการอภิปราย เตรยี มพรอ้ มสำหรบั การเผชิญสถานการณ์ในชีวิตในอนาคต ซ่งึ มคี วามสำคญั ตอ่ การพฒั นาทักษะชวี ติ อย่างมาก เพราะจะ ทำให้ผู้เรียนมองเห็นความเช่ือมต่อกันระหว่างการเรียนรู้กับประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน มองเห็น ความเป็นจริงในชีวิตของตนและท้าทายให้คิดหาทางออกและสร้างแนวความคิดหรือมุมมองใหม่ ๆ ส่ังสมเป็นภูมคิ ้มุ กนั ปัญหารอบขา้ งอยา่ งต่อเน่ืองย่งั ยืน

หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 1 แนวคดิ เรอ่ื งทักษะชวี ิตและการพัฒนาทักษะชวี ติ ในหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 สภาพสังคมในทศวรรษใหม่ เป็นยุคของความเร็วและความล้ำสมัยของเทคโนโลย ี การส่ือสาร ความหลากหลายทางเช้ือชาติ วัฒนธรรม การหล่อหลอมรวมความคิดและความเช่ือของ กลุ่มคน ที่บุคคลในสังคมจะต้องต้ังรับการมีวิถีชีวิตยุคใหม่อย่างมีวิจารณญาณ ซึ่งจากสภาพสังคม ท่ีเปลี่ยนแปลงอย่างมากนี่เอง ได้ส่งผลกระทบต่อเด็กวัยเรียน ท้ังการดำเนินชีวิตท่ามกลางกระแส เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง และความคาดหวังของผู้ปกครองต่อการศึกษาต่อของบุตรหลาน ตลอดจน การเผชญิ ส่ิงย่ัวยุหรอื ตวั แบบท่ีไมเ่ หมาะสมต่าง ๆ รอบตวั ก่อให้เกดิ ปญั หาเด็กและเยาวชนอย่างมาก ทั้งปัญหาด้านการปรับตัว ปัญหาด้านอารมณ์และจิตใจ ปัญหาสุขภาพ ปัญหาความรุนแรง ปัญหา เด็กติดเกม ปัญหายาเสพติด ปัญหาทางเพศ ฯลฯ โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชนที่มีทักษะชีวิตต่ำ ขาดภูมิคุ้มกันทางสังคมท่ีดี เมื่อจบการศึกษาขั้นพ้ืนฐานไปแล้ว อาจเป็นคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ ในชวี ติ มีปญั หาทางอารมณ์ จติ ใจ และมีความขดั แย้งในชีวติ ไดง้ ่าย ครูจงึ ตอ้ งจดั กระบวนการเรียนรู้ ที่มีประสิทธิภาพให้ผู้เรียนมีทักษะชีวิตเป็นภูมิคุ้มกัน ให้รอดพ้นจากการครอบงำความคิดของส่ือ เทคโนโลยี และตง้ั รบั ตอ่ การก้าวรกุ ทางสงั คมอย่างรเู้ ทา่ กนั ความหมายของทกั ษะชวี ติ เป็นความสามารถของบุคคลท่ีจะจัดการกับปัญหาต่าง ๆ รอบตัวในสภาพสังคมปัจจุบัน และเตรียมพรอ้ มสำหรับการปรบั ตัวในอนาคต องค์ประกอบของทักษะชวี ติ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ได้กำหนดองค์ประกอบทักษะชีวิตที่สำคัญ ที่จะสร้างและพัฒนาเป็นภูมิคุ้มกันชีวิตให้กับเด็กและเยาวชนในสภาพสังคมปัจจุบันและ เตรียมพร้อมสำหรับอนาคตไว้ 4 องค์ประกอบ พร้อมท้ังพฤติกรรมที่คาดหวังและตัวชี้วัดทักษะชีวิต ในแตล่ ะองคป์ ระกอบ ดังน้ ี

แนวทางการพฒั นาทกั ษะชีวิต บรู ณาการการเรยี นการสอน 8 กลุ่มสาระการเรยี นร ู้ องค์ประกอบทักษะชีวิต พฤตกิ รรมทักษะชวี ติ ทคี่ าดหวัง และตัวช้ีวัดระดบั ประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา ระดับประถมศึกษา องคป์ ระกอบที่ 1 การตระหนักรแู้ ละเหน็ คุณค่าในตนเองและผ้อู ืน่ การตระหนักรู้และเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น หมายถึง การรู้ความถนัด ความสามารถ รจู้ ุดเดน่ จุดด้อยของตนเอง เข้าใจความแตกต่างของแต่ละบุคคล รจู้ ักตนเอง ยอมรบั เห็นคุณค่าและ ภาคภมู ิใจในตนเองและผอู้ ื่น มีเปา้ หมายในชีวติ และมคี วามรับผดิ ชอบตอ่ สังคม พฤติกรรมทกั ษะชวี ิตท่ีคาดหวงั ตัวช้วี ัด แบสอดก งสค่ิงวทาตี่ มนสเาอมงาชรื่นถชขออบงแตลนะเอภงาใคหภ้ผูมู้อิใ่ืนจร ับร ู้ 1. รูค้ วามชอบ ความถนดั และ 1.1 ความสามารถของตนเอง 1.2 2. คน้ พบจดุ เดน่ จดุ ด้อยของตนเอง 2.1 บอกจุดเดน่ จดุ ดอ้ ยของตนเอง 2.2 เลอื กทำกจิ กรรมตามความสนใจของตนเองรว่ มกับผูอ้ ื่นได้ 3. ยอมรับความแตกต่างระหวา่ งตนเองและ ยอมรับในความแตกตา่ งทางกาย ทางความคดิ ความรสู้ กึ และ ผอู้ น่ื พฤตกิ รรมของตนเองและผู้อื่น 4. มองตนเองและผู้อนื่ ในแงบ่ วก แสดงความรูส้ กึ ทีด่ ตี ่อตนเองและผ้อู น่ื 5. เคารพสทิ ธขิ องตนเองและผ้อู ื่น 5.1 ใชส้ ิทธขิ องตนเองในโอกาสต่าง ๆ 5.2 ไมล่ ะเมิดสิทธิผู้อนื่ 6. รกั และเหน็ คณุ คา่ ในตนเองและผู้อน่ื 6.1 ชนื่ ชมในความสำเร็จของตนเองและผู้อนื่ 6.2 แสดงความร้สู กึ รกั ตนเองและผู้อื่น 6.3 ปฏิบตั ติ นเป็นประโยชนต์ ่อครอบครวั และสังคม 7. มคี วามภาคภูมใิ จในตนเอง และผู้อ่ืน 7.1 แสดงออกในส่งิ ทตี่ นเองภาคภมู ใิ จอยา่ งเหมาะสม 7.2 บอก/บรรยาย/เลา่ ความดีหรือความภาคภูมใิ จของเพื่อน ใหผ้ ้อู ื่นรบั รู้ 8. มคี วามเช่ือม่ันในตนเองและผ้อู น่ื 8.1 กล้าแสดงออกทางความคิด ความรู้สึกและการกระทำของ ตนเองด้วยความม่นั ใจ 8.2 ยอมรบั ในความคดิ ความรู้สกึ และการกระทำทีด่ ขี องผ้อู ืน่

หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 องค์ประกอบที่ 2 การคิดวเิ คราะห์ ตดั สนิ ใจ และแกป้ ัญหาอย่างสร้างสรรค ์ การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจและแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ หมายถึง การแยกแยะข้อมูล ข่าวสาร ปัญหาและสถานการณ์รอบตัว วิพากษ์วิจารณ์และประเมินสถานการณ์รอบตัวด้วยหลัก เหตุผลและข้อมูลที่ถูกต้อง รับรู้ปัญหา สาเหตุของปัญหา หาทางเลือกและตัดสินใจในการแก้ปัญหา ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ อย่างสรา้ งสรรค ์ พฤตกิ รรมทักษะชวี ติ ทีค่ าดหวัง ตัวช้ีวดั 1.1 ใตน้งั สค ถำถานามกทารี่นณำไ์ตปา่ สงู่คๆำ ต อบท่ีเป็นแนวทางในการแกไ้ ขปญั หา 1. รู้จกั สังเกต ตงั้ คำถาม และแสวงหา คำตอบ 1.2 มที ักษะในการสังเกต และมีแนวทางหาคำตอบ 2. วิเคราะหค์ วามน่าเชอ่ื ถือของขอ้ มูล วิเคราะหจ์ ำแนกแยกแยะข้อมูลขา่ วสารและสถานการณต์ ่าง ๆ ข่าวสารได้สมเหตุสมผล รอบตวั ด้วยเหตุผลทเี่ ช่ือถือได ้ 3. ประเมินสถานการณ์และนำไปประยุกตใ์ ช้ คาดคะเนความเสย่ี งจากสถานการณ์ทีเ่ ผชญิ ในชีวิตประจำวนั ในชีวติ ประจำวันได ้ อย่างมีเหตุผล 4. มีจนิ ตนาการและมคี วามสามารถในการ สร้างผลงานและแสดงผลงานที่เกดิ จากการคิดเชื่อมโยงและ คดิ เชื่อมโยง จนิ ตนาการ 5. รู้จักวพิ ากษว์ ิจารณบ์ นพ้ืนฐานของข้อมูล วิพากษ์วิจารณ์ตามหลักการเหตผุ ลและใชข้ ้อมูลสารสนเทศ สารสนเทศทถี่ กู ต้อง ทถี่ กู ตอ้ งสนับสนนุ 6. รู้จักวิธีการและขัน้ ตอนการตัดสนิ ใจและ วิเคราะห์สาเหตขุ องปัญหา เลือกแกไ้ ขปัญหาไดห้ ลากหลายวิธี แกไ้ ขปัญหาทถี่ ูกตอ้ ง และตัดสินใจเลือกแก้ปญั หาดว้ ยวธิ ีการท่ถี กู ต้อง เหมาะสมและ สร้างสรรค์

แนวทางการพฒั นาทกั ษะชวี ิต บูรณาการการเรยี นการสอน 8 กลุ่มสาระการเรยี นร ู้ องค์ประกอบที่ 3 การจัดการกับอารมณ์และความเครยี ด การจัดการกับอารมณ์และความเครียด หมายถึง ความเข้าใจและรู้เท่าทันภาวะอารมณ ์ ของบุคคล รู้สาเหตุของความเครียด รู้วิธีการควบคุมอารมณ์และความเครียด รู้วิธีผ่อนคลาย หลีกเลยี่ ง และปรับเปลยี่ นพฤตกิ รรมทก่ี อ่ ใหเ้ กิดอารมณไ์ มพ่ ึงประสงคไ์ ปในทางทีด่ ี พฤติกรรมทักษะชีวติ ทีค่ าดหวงั ตัวชว้ี ดั จแำสแด นงอกาอรามรณมณ์ ค์ตวา่ างมๆร้สู ทกึ ่เีขกอดิ งขตนึ้ นกเอับงตไนดเเ้ อหงมไาดะ้ สมกับ 1. รูเ้ ทา่ ทนั อารมณต์ นเอง 1.1 1.2 สถานการณต์ ่าง ๆ 2. ควบคมุ อารมณ์ของตนเองได ้ ควบคมุ อารมณ์ ความร้สู กึ ของตนเองในสถานการณ์ ตา่ ง ๆ ได ้ 3. จดั การกับอารมณต์ นเองไดอ้ ยา่ งเหมาะสม จดั การกับอารมณ์ตนเองท่เี กดิ ข้นึ อย่างฉบั พลนั ท่ีอาจกอ่ ใหเ้ กิด ปญั หาด้วยวิธกี ารทีเ่ หมาะสมและสรา้ งสรรค ์ 4. มีวธิ ีผอ่ นคลายอารมณแ์ ละความเครียด ผ่อนคลายอารมณ์และความเครียดด้วยวธิ ีการท่เี หมาะสมและ ใหก้ ับตนเอง สรา้ งสรรค ์ 5. สรา้ งแรงจงู ใจให้ตนเอง กำหนดแนวทางหรือวธิ กี ารสร้างกำลังใจใหก้ บั ตนเอง 6. ยตุ ิข้อขดั แย้งในกลุม่ เพ่อื นดว้ ยสนั ตวิ ิธี เสนอทางออกของข้อขัดแย้งในกลุ่มเพอ่ื นดว้ ยเหตุผลและ ข้อเท็จจรงิ ท่ีถูกต้องและใชว้ ิธีเชงิ บวก 7. รู้จกั สร้างความสุขให้กับตนเอง 7.1 วเิ คราะหแ์ ละเลือกวธิ กี าร/กจิ กรรม ทที่ ำให้ตนเองม ี ความสุขได้อย่างเหมาะสม 7.2 มอี ารมณข์ ัน

หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 องคป์ ระกอบที่ 4 การสร้างสัมพนั ธภาพทีด่ กี บั ผอู้ น่ื การสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น หมายถึง การเข้าใจมุมมอง อารมณ์ ความรู้สึกของผู้อ่ืน ใช้ภาษาพูดและภาษากายเพ่ือส่ือสารความรู้สึกนึกคิดของตนเอง รับรู้ความรู้สึกนึกคิดและ ความต้องการของผู้อื่น วางตัวได้ถูกต้องเหมาะสมในสถานการณ์ต่าง ๆ ใช้การสื่อสารท่ีสร้าง สัมพันธภาพทดี่ ี สร้างความร่วมมอื และทำงานรว่ มกบั ผอู้ นื่ ได้อยา่ งมคี วามสุข พฤตกิ รรมทกั ษะชีวติ ท่คี าดหวัง ตวั ช้ีวดั 1.1 ขฟองั ผง ผูอ้ ู้พนื่ ดูอ ย่างตั้งใจและรบั ร้ถู งึ ความร้สู กึ และความตอ้ งการ 1. เปน็ ผูฟ้ งั ท่ดี ี 1.2 รกั ษาความลบั ของเพอื่ น 2. ใช้ภาษาและกริ ยิ าทเ่ี หมาะสมในการ ใช้ภาษาพดู ภาษากาย ทที่ ำใหผ้ ู้อ่นื ผอ่ นคลาย สบายใจ ไมก่ ่อให้ สอื่ สาร เกดิ ความขดั แย้งหรอื ความรนุ แรงได ้ 3. รู้จักเอาใจเขามาใสใ่ จเรา แสดงออกหรือสะท้อนความรู้สึกหรอื การกระทำของตนเอง ท่ีแสดงวา่ เขา้ ใจและใส่ใจผู้อน่ื 4. รู้จกั แสดงความคดิ ความรู้สึก 4.1 ชื่นชมความสำเรจ็ ความสามารถ และการกระทำท่ีดีของ ความชืน่ ชม และการกระทำ ที่ดงี าม เพอ่ื นด้วยคำพูด ภาษากาย หรือสัญลักษณไ์ ด้ ใหผ้ ้อู นื่ รบั รู้ 4.2 กล้ายนื ยันความคดิ ความรสู้ กึ และเหตุผลท่ดี ใี ห้ผู้อ่ืนรับร้ไู ด้ 5. รูจ้ ักปฏิเสธ ตอ่ รอง และร้องขอความ 5.1 หลกี เลยี่ งสถานการณ์ท่เี สี่ยงตอ่ ความไม่ปลอดภัยของตนเอง ช่วยเหลือในสถานการณเ์ สีย่ ง 5.2 ปฏเิ สธในส่ิงท่คี วรปฏิเสธได้โดยไม่เสียสมั พนั ธภาพ หรือ เสียนำ้ ใจ 5.3 ขอความช่วยเหลอื เมือ่ อยู่ในภาวะวิกฤตได้ 6. ให้ความร่วมมอื และทำงานรว่ มกบั ผูอ้ ่ืนได้ 6.1 ทำงานร่วมกับผอู้ น่ื บนพน้ื ฐานความเป็นประชาธปิ ไตย อยา่ งสร้างสรรค์ 6.2 ทำงานร่วมกับผู้อ่ืนได้ราบร่ืนและมคี วามสำเร็จหรอื มีผลงาน จากการสรา้ งสรรคร์ ่วมกัน 7. ปฏบิ ัติตามกฎ กตกิ า และระเบียบของ ปฏิบัตติ ามกฎ ขอ้ ตกลงของกลุม่ /ชัน้ เรียน/สงั คม สงั คม

แนวทางการพฒั นาทักษะชวี ติ บรู ณาการการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนร ู้ ระดับมัธยมศึกษา องคป์ ระกอบที่ 1 การตระหนกั รแู้ ละเห็นคณุ ค่าในตนเองและผอู้ น่ื การตระหนักรู้และเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อ่ืน หมายถึง การรู้ความถนัดความสามารถ รจู้ ดุ เดน่ จดุ ด้อยของตนเอง เขา้ ใจความแตกต่างของแตล่ ะบุคคล รจู้ กั ตนเอง ยอมรบั เหน็ คุณค่าและ ภาคภูมิใจในตนเองและผ้อู น่ื มีเปา้ หมายชวี ติ และมีความรับผิดชอบต่อสงั คม พฤตกิ รรมทกั ษะชีวิตท่คี าดหวัง ตัวชี้วัด ววิเเิ คค รราาะะหห์ลค์ กัวาษมณถะนสดั ว่ นคตวนามอสุปามนาิสรยั ถแขลอะงคต่านนเยิอมงขไดอ้ งตนเองได ้ 1. ร้จู ักความถนดั ความสามารถและ 1.1 บุคลิกภาพของตนเอง 1.2 2. รู้จกั จุดเดน่ จุดด้อยของตนเอง 2.1 วเิ คราะห์จุดเดน่ จุดด้อยของตนเองได้ 2.2 กำหนดเปา้ หมายในชีวิตของตนเองไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3. ยอมรบั ความแตกต่างระหวา่ งตนเองและ ยอมรบั ในความแตกต่างทางความคิด ความรู้สกึ และพฤตกิ รรม ผ้อู ่ืน ของตนเองและผ้อู ่นื ได้อย่างมเี หตผุ ล 4. มองตนเองและผอู้ ืน่ ในแงบ่ วก สะท้อนมุมมองท่ดี ีของตนเองและผ้อู ื่นได ้ 5. รักและเห็นคุณคา่ ในตนเองและผอู้ ื่น 5.1 แสดงความรูส้ กึ รักและเหน็ คุณคา่ ในตนเองและผู้อืน่ ได้ 5.2 นำเสนอคณุ ลักษณะท่ดี มี ีคณุ คา่ ของตนเองและผูอ้ ่ืนได ้ 6. มีความภาคภมู ิใจในตนเองและผ้อู ่นื 6.1 แสดงความรสู้ กึ ภาคภูมใิ จในความสามารถ ความดขี อง ตนเองและผูอ้ ื่น 6.2 แสดงความสามารถและความดีงามที่ตนเองภาคภมู ิใจ ใหผ้ ูอ้ นื่ รบั ร้ไู ด้ 7. มีความความเชอื่ ม่ันในตนเองและผอู้ ่นื 7.1 กลา้ แสดงออกทางความคดิ ความรสู้ กึ และการกระทำของ ตนเองด้วยความมั่นใจ 7.2 ยอมรบั ในความคดิ ความรู้สึกและการกระทำที่ดขี องผู้อนื่ 8. เคารพสทิ ธิของตนเองและผูอ้ ่นื 8.1 เคารพในสิทธขิ องตนเองและผู้อืน่ ตามวิถีประชาธิปไตย 8.2 ปฏิบตั ติ ามสิทธิของตนเอง 9. มที กั ษะในการกำหนดเป้าหมายและ 9.1 กำหนดทศิ ทางและวางแผนการดำเนินชวี ิตไปสูเ่ ปา้ หมาย ทศิ ทางสคู่ วามสำเร็จ หรอื ความสำเร็จทต่ี นเองคาดหวังได ้ 9.2 ปฏบิ ตั ิตามแผนการดำเนินชีวติ ท่กี ำหนดไว้และปรับปรงุ ใหม้ โี อกาสประสบความสำเรจ็ ตามเป้าหมายได้

หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 องค์ประกอบที่ 2 การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจ และแกป้ ญั หาอย่างสรา้ งสรรค ์ การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจและแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์ หมายถึง การแยกแยะข้อมูล ข่าวสาร ปัญหาและสถานการณ์รอบตัว วิพากษ์วิจารณ์และประเมินสถานการณ์รอบตัวด้วยหลัก เหตุผลและข้อมูลท่ีถูกต้อง รับรู้ปัญหา สาเหตุของปัญหา หาทางเลือกและตัดสินใจในการแก้ปัญหา ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ อยา่ งสรา้ งสรรค์ พฤตกิ รรมทกั ษะชีวิตทค่ี าดหวัง ตวั ช้ีวดั วขเิา่ ควรสาาะรหเ พป์ อ่ืรสะโรย้าชงภนมู์แคิลวะาคมุณรคแู้ า่ลขะอกงาขรอ้ตมดั ลูสขนิ า่ใวจสเมา่ือรเเลผือชญิกใชข้ ้อมูล 1. เลอื กรบั ข้อมลู ข่าวสารอยา่ งไตรต่ รองและ ร้เู ทา่ ทันสงั คมท่ีเปล่ียนแปลง สถานการณ์รอบตัว 2. ตดั สนิ ใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีเผชิญ 2.1 ประเมนิ สถานการณ์ต่าง ๆ ทีเ่ ผชญิ ด้วยขอ้ มลู และเหตผุ ล อย่างมีเหตผุ ลและรอบคอบ ท่ีถกู ต้อง 2.2 ตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ทเ่ี ผชิญดว้ ยทางเลือก ท่เี หมาะสมและไม่เกดิ ผลกระทบต่อตนเองและผอู้ น่ื 3. แก้ปัญหาในสถานการณ์วิกฤตไดอ้ ยา่ ง 3.1 แก้ปัญหาเม่อื เผชญิ สถานการณว์ กิ ฤตอยา่ งไตรต่ รอง เป็นระบบ ตามขน้ั ตอนหลักการแกป้ ัญหา 3.2 วิเคราะหผ์ ลกระทบและหาทางปอ้ งกันหรือแกป้ ัญหาทเ่ี กดิ จากพฤตกิ รรมไมพ่ ึงประสงค ์ 3.3 วางตัวและกำหนดทา่ ทไี ดเ้ หมาะสมกับสถานการณ์ 4. มจี ินตนาการและความคิดริเร่ิมสรา้ งสรรค์ สร้างสรรค์ผลงานและแสดงพฤตกิ รรมได้เป็นท่ียอมรบั 5. มองโลกในแงด่ ี 5.1 บอกสิ่งทม่ี องเหน็ หรือมุมมองด้านดใี นบรรยากาศหรือ สภาพเหตุการณ์ทีเ่ ป็นปญั หาได ้ 5.1 มคี วามยดื หย่นุ ทางความคิด 6. มีทกั ษะในการแสวงหาขอ้ มลู และใชข้ ้อมูล แสวงหาข้อมลู จากแหล่งเรียนรตู้ ่าง ๆ ดว้ ยวิธีการทม่ี ี ให้เป็นประโยชน ์ ประสทิ ธภิ าพและใช้ประโยชน์กบั ตนเองและผู้อื่น 7. ประเมนิ และสรา้ งขอ้ สรปุ บทเรยี นชวี ิต ประเมนิ และสรปุ ผลการกระทำ การตดั สินใจและการแกป้ ญั หา ของตนเอง ในสถานการณ์คับขนั จากประสบการณ์ทด่ี ขี องตนเองและผู้อ่ืน เป็นบทเรยี นชวี ติ ของตนเอง

แนวทางการพฒั นาทักษะชวี ติ บูรณาการการเรียนการสอน 8 กลุม่ สาระการเรียนร ู้ องค์ประกอบที่ 3 การจดั การกับอารมณแ์ ละความเครียด การจัดการกับอารมณแ์ ละความเครยี ด หมายถึง ความเขา้ ใจและรู้เท่าทนั ภาวะอารมณข์ อง บุคคล รู้สาเหตุของความเครียด รู้วิธีการควบคุมอารมณ์และความเครียด รู้วิธีผ่อนคลาย หลีกเลี่ยง และปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรมท่กี ่อใหเ้ กิดอารมณท์ ่ีไมพ่ งึ ประสงค์ไปในทางทด่ี ี พฤติกรรมทักษะชีวิตที่คาดหวัง ตัวชว้ี ดั 1.1 ตสำนรเ อวจงไแดล ้ ะประเมินอารมณ์ท่มี อี ิทธพิ ลต่อพฤติกรรมของ 1. ประเมนิ และรูเ้ ท่าทนั สภาวะอารมณ์ ทเี่ กิดข้ึนกบั ตนเอง 1.2 เลือกวิธีการจัดการหรอื ควบคุมอารมณ์ของตนเองไดเ้ หมาะสม 2. จัดการความขัดแยง้ ตา่ ง ๆ ไดด้ ว้ ยวธิ ี 2.1 เลอื กวิธกี ารจดั การความขดั แย้งต่าง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม ทเี่ หมาะสม 2.2 ยตุ ิความรุนแรงในสถานการณต์ ่าง ๆ โดยสนั ติวธิ ี 3. คลายเครยี ดดว้ ยวิธกี ารทส่ี ร้างสรรค์ มีวธิ กี ารคลายความเครียดที่ไม่ทำให้เกิดผลกระทบตอ่ ตนเองและ ผู้อนื่ 4. รจู้ กั สร้างความสขุ ให้กบั ตนเองและผู้อนื่ 4.1 มวี ิธีการสร้างความสุขใหก้ บั ตนเองและผู้อื่นได้เหมาะสมกบั เหตุการณ์ 4.2 ปรบั ความคิด ความรสู้ ึก อารมณ์ ทเ่ี กดิ ขึ้นในสถานการณ์ ต่าง ๆ ทีอ่ าจกอ่ ใหเ้ กดิ ความไมพ่ อใจหรอื ความเครียด ไดด้ ้วยวิธกี ารที่ถกู ต้องและสร้างสรรค์

หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 องคป์ ระกอบท่ี 4 การสร้างสมั พันธภาพท่ีดีกบั ผู้อ่ืน การสร้างสัมพันธภาพท่ีดีกับผู้อ่ืน หมายถึง การเข้าใจมุมมอง อารมณ์ ความรู้สึกของผู้อื่น ใช้ภาษาพูดและภาษากายเพ่ือสื่อสารความรู้สึกนึกคิดของตนเอง รับรู้ความรู้สึกนึกคิดและ ความต้องการของผู้อื่น วางตัวได้ถูกต้องเหมาะสมในสถานการณ์ต่าง ๆ ใช้การสื่อสารท่ีสร้าง สัมพันธภาพที่ดี สรา้ งความรว่ มมือและทำงานร่วมกับผูอ้ นื่ ไดอ้ ย่างมีความสขุ พฤตกิ รรมทักษะชีวติ ทคี่ าดหวัง ตัวช้วี ดั 1.1 กปาฏร ิเปสธฏเเิพสอื่ธ นในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ไดถ้ กู ตอ้ งตามข้ันตอน 1. ร้จู ักปฏเิ สธเพือ่ นในสถานการณ์เสยี่ งและ รจู้ กั เตือนเพ่อื นใหห้ ลกี เล่ยี งความเส่ียง หรือเปลีย่ นแปลงพฤตกิ รรมไปในทาง 1.2 เตือนเพอ่ื นหรอื ผ้ใู กลช้ ดิ ท่มี พี ฤติกรรมเสีย่ งในสถานการณ์ ที่ถกู ตอ้ ง ตา่ ง ๆ ไดถ้ กู ตอ้ งตามขัน้ ตอนทกั ษะการเตอื น 2. กล้าแสดงความคิดเหน็ อยา่ งสรา้ งสรรค์ กล้าแสดงความคิดเห็นประกอบเหตุผลด้วยวธิ ีการสอื่ สารทีด่ ี 3. ทำงานร่วมกบั ผอู้ น่ื ตามวิถีประชาธิปไตย ทำงานร่วมกับผู้อื่นบนพนื้ ฐานของความเป็นประชาธิปไตยได้ อยา่ งราบรืน่ 4. มีจติ อาสาชว่ ยเหลอื ผอู้ ่นื อาสาชว่ ยเหลือผู้อื่นดว้ ยความเตม็ ใจโดยไมห่ วังผลตอบแทน 5. สรา้ งสัมพนั ธภาพทีด่ ีกับผู้อื่นดว้ ยการ มีวิธีการสื่อสารกับผู้อื่นท้งั ดา้ นภาษาพูด ภาษากาย ดว้ ยความ ส่อื สารเชงิ บวก สภุ าพและเป็นมติ ร 6. เคารพกฎกตกิ าของสงั คม ปฏบิ ตั ิตนตามกฎกติกาของสงั คมอยา่ งเต็มใจทกุ สถานการณ์ 7. ใหค้ ำปรึกษาแกผ่ ู้อ่นื ได้ ใหค้ ำปรกึ ษาแนะนำทถ่ี กู ต้องแกผ่ ู้อนื่ และผ้อู น่ื สามารถนำไป ปฏบิ ัติให้เกิดประโยชนต์ ่อตนเองได้

แนวทางการพฒั นาทกั ษะชีวติ บูรณาการการเรียนการสอน 8 กลมุ่ สาระการเรียนร ู้ การพัฒนาและเสริมสร้างทักษะชีวิตเป็นภูมิคุ้มกันชีวิตให้แก่เด็กและเยาวชนในสภาพสังคม ที่เปล่ียนแปลงและเตรียมพร้อมสำหรับการดำเนินชีวิตในอนาคต จึงเป็นภารกิจสำคัญของ สถานศึกษาข้ันพื้นฐาน ที่จะต้องจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 โดยเสรมิ สร้างทกั ษะชีวติ ใหม้ ากท่สี ดุ ทั้งใน 8 สาระการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนา ผู้เรียน อันได้แก่ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมโฮมรูม กิจกรรมนักเรียน (กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนาร ี ยุวกาชาด ผู้บำเพ็ญประโยชน์ กิจกรรมชมรม/ชุมนุม) กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน ์ และกิจกรรมที่เสริมสร้างคุณลักษณะตามนโยบายของสถานศึกษา ซึ่งเป็นกิจกรรมท่ีสามารถพัฒนา และเสรมิ สร้างทักษะชวี ิตไดท้ กุ องค์ประกอบของทกั ษะชวี ิต ทักษะชวี ติ ในหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพ มาตรฐานการเรยี นรู้ ท่จี ะช่วยให้ผู้เรยี นเกิดสมรรถนะสำคัญ 5 ประการคอื 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลย ี ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช ้ ในการดำเนนิ ชวี ิตประจำวนั การเรยี นรู้ด้วยตนเอง การเรยี นรู้อยา่ งตอ่ เน่อื ง การทำงานและการอย่รู ่วมกนั ในสังคมด้วยการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จัก หลีกเลย่ี งพฤติกรรมไม่พงึ ประสงค์ท่ีส่งผลกระทบต่อตนเองและผูอ้ นื่ สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพ้ืนฐานมีนโยบายและเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพ ผู้เรียนในด้านความสามารถและทักษะตลอดจนคุณลักษณะท่ีจะช่วยเสริมสร้างให้ผู้เรียนมีคุณภาพ ตามเปา้ หมายของหลกั สูตร และมภี ูมคิ มุ้ กันการดำเนนิ ชีวติ ผู้เรียนจะตอ้ งมคี วามสามารถในการปรับตัว ต่อสภาพแวดล้อมทางสังคมท่ีเปลี่ยนแปลงและท้าทาย ซึ่งต้องใช้กระบวนการคิดและการตัดสินใจ ทีเ่ หมาะสม จงึ จะสามารถอยู่ในสงั คมไดอ้ ยา่ งปลอดภยั และมคี วามสขุ 10

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 สำนักงานคณะกรรมการศึกษาข้ันพ้ืนฐานจึงกำหนดให้สถานศึกษาต้องพัฒนาและ เสริมสร้างทักษะชีวิตให้ผู้เรียนเกิดการตระหนักรู้และเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อ่ืน คิดวิเคราะห์ ตัดสินใจและแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ มีทักษะการจัดการกับอารมณ์และความเครียด รู้จักสร้าง สัมพันธภาพท่ีดีกับผู้อื่น ด้วยการจัดการเรียนการสอนทักษะชีวิตบูรณาการในกลุ่มสาระการเรียนรู้ ต่าง ๆ ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ให้ผู้เรียนเกิดการ เปล่ียนแปลงพฤติกรรมอันจะนำไปสู่การมีทักษะชีวิตตามความคาดหวังของหลักสูตรตามช่วงวัย ในแตล่ ะชน้ั ป ี พฤติกรรมทักษะชวี ิตตามชว่ งวัยรายชน้ั ปี พฤติกรรมทักษะชีวิตท่ีคาดหวังให้เกิดขึ้นในผู้เรียนตามช่วงวัยในระดับประถมศึกษาและ มัธยมศกึ ษา ดังต่อไปน้ี พฤติกรรมทักษะชีวิตทค่ี าดหวังจำแนกรายชนั้ ปีตามองคป์ ระกอบทกั ษะชีวติ องคป์ ระกอบทักษะชีวิต 4 องค์ประกอบ ชัน้ การตระหนักรแู้ ละเหน็ การคิดวเิ คราะห์ การจดั การกบั อารมณ์ การสรา้ งสัมพันธภาพ คณุ คา่ ในตนเองและผ้อู นื่ ตัดสินใจและแก้ปญั หา และความเครยี ด ทดี่ กี ับผูอ้ ื่น อยา่ งสร้างสรรค ์ ป.1 ร้จู กั ความชอบ ความถนดั ร้จู ักสังเกต ตัง้ คำถามและ รูเ้ ท่าทนั อารมณต์ นเอง เป็นผ้ฟู ังทด่ี ี (ฟงั ผ้อู ืน่ อย่าง และความสามารถของ แสวงหาคำตอบ (จำแนกอารมณ์ตา่ ง ๆ ท ี่ ต้ังใจและรับรู้ถึงความรสู้ กึ ตนเอง (รสู้ ง่ิ ที่ตนเองชืน่ ชอบ เกดิ ขึ้นกับตนเอง แสดงอารมณ์ และความตอ้ งการของผ้พู ดู ) รูค้ วามสามารถทีต่ นเอง ความรูส้ ึกของตนเอง ภาคภูมิใจและแสดงความ ได้เหมาะสมกับสถานการณ์) สามารถให้ผอู้ ื่นรับร)ู้ ป.2 • ค้นพบจุดเดน่ จุดด้อยของ วิเคราะหค์ วามนา่ เชือ่ ถอื ควบคมุ อารมณข์ องตนเอง ใช้ภาษาและกริ ยิ า ตนเอง ของขอ้ มูลขา่ วสารได้สมเหตุ ได ้ ทเ่ี หมาะสมในการส่ือสาร • ยอมรับความแตกตา่ ง สมผล ระหวา่ งตนเองและผู้อืน่ ป.3 มองตนเองและผอู้ ืน่ ประเมนิ สถานการณแ์ ละ จดั การกบั อารมณ์ตนเอง รจู้ กั เอาใจเขามาใส่ใจเรา ในแงบ่ วก นำไปประยุกต์ใชใ้ นชีวิต ดว้ ยวธิ กี ารท่เี หมาะสม ประจำวัน ป.4 เคารพสิทธขิ องตนเองและ มจี ินตนาการและมคี วาม มวี ธิ ีผ่อนคลายอารมณแ์ ละ รู้จกั แสดงความคดิ ความรสู้ ึก ผ้อู ืน่ สามารถในการคิดเช่อื มโยง ความเครยี ดให้กบั ตนเอง ความชนื่ ชมและการกระทำ ทด่ี ีงามใหผ้ ู้อ่นื รบั ร ู้ 11

แนวทางการพัฒนาทักษะชีวิต บรู ณาการการเรียนการสอน 8 กล่มุ สาระการเรยี นร ู้ องคป์ ระกอบทักษะชีวติ 4 องคป์ ระกอบ ชัน้ การตระหนกั รู้และเหน็ การคดิ วิเคราะห์ การจดั การกบั อารมณ ์ การสร้างสมั พันธภาพ คณุ ค่าในตนเองและผู้อนื่ ตดั สินใจและแก้ปัญหา และความเครยี ด ทด่ี กี ับผอู้ ืน่ อยา่ งสร้างสรรค ์ ป.5 รักและเหน็ คณุ คา่ ในตนเอง รู้จกั การวพิ ากษว์ ิจารณบ์ น ยตุ ขิ ้อขอ้ แย้งในกล่มุ เพอื่ น รู้จกั ปฏเิ สธ ตอ่ รองและ พนื้ ฐานของขอ้ มลู สาร ด้วยสนั ตวิ ธิ ี ร้องขอความช่วยเหลอื สนเทศท่ีถกู ต้อง ในสถานการณ์เส่ยี ง ป.6 • มคี วามภาคภมู ิใจในตนอง รจู้ ักวิธีการและข้ันตอนการ รจู้ ักสร้างความสุขใหก้ ับ • ใหค้ วามร่วมมือและ และผอู้ ืน่ ตัดสินใจและแกไ้ ขปัญหา ตนเอง ทำงานรว่ มกบั ผอู้ น่ื ได้ • มคี วามเช่อื มั่นในตนเอง ทถี่ ูกต้อง อย่างสร้างสรรค ์ และผอู้ ่ืน • ปฏิบัติตามกฎกตกิ าและ ระเบียบของสงั คม ม.1 • รู้ความถนดั ความสามารถ • เลอื กรบั ข้อมลู ข่าวสาร • ประเมนิ และรูเ้ ท่าทัน รู้จักปฏเิ สธเพือ่ นใน และบุคลิกภาพของตนเอง อยา่ งไตร่ตรอง ภาวะอารมณท์ เ่ี กดิ ข้นึ กบั สถานการณ์เสีย่ งและร้จู ัก • ร้จู กั จุดเด่น จดุ ด้อยของ • รู้เท่าทันสังคมท ่ี ตนเอง เตอื นเพ่อื นใหห้ ลกี เลี่ยงหรอื ตนเอง เปลี่ยนแปลง • จัดการกบั ความขัดแย้ง เปลย่ี นแปลงพฤติกรรมไป • ยอมรับความแตกตา่ ง • ตดั สนิ ใจในสถานการณ์ ตา่ ง ๆ ได้ดว้ ยวธิ ี ในทางที่ถูกตอ้ ง ระหว่างตนเองและผ้อู น่ื ตา่ ง ๆ ท่เี ผชญิ อย่างมี ที่เหมาะสม เหตผุ ล • แกป้ ัญหาในสถาการณ ์ วิกฤตได้อย่างเป็นระบบ ม.2 • มองตนเองและผู้อน่ื • มจี ินตนาการและความคิด รู้จกั คลายความเครียด • ทำงานร่วมกบั ผอู้ ืน่ ในแงบ่ วก รเิ รม่ิ สร้างสรรค ์ ดว้ ยวธิ ีการทส่ี รา้ งสรรค ์ ไดร้ าบรื่น • รกั และเห็นคุณค่า • มองโลกในแง่ด ี • มีจิตอาสาชว่ ยเหลอื ผ้อู นื่ ในตนเองและผูอ้ ื่น • ร้จู กั แก้ปัญหาอยา่ ง สรา้ งสรรค ์ ม.3 • มีความภาคภูมใิ จใน มที ักษะในการแสวงหาข้อมูล รจู้ ักสร้างความสขุ ให้กับ • สร้างสมั พนั ธภาพทดี่ ีกับ ตนเองและผอู้ ืน่ ใช้ขอ้ มูลใหเ้ ป็นประโยชนต์ ่อ ตนเองและผอู้ น่ื ผ้อู น่ื ด้วยการสอื่ สาร • เชื่อมั่นในตนเองและผอู้ น่ื ตนเองและผู้อื่น เชิงบวก • เคารพสทิ ธขิ องตนเองและ • เคารพกฎกตกิ าของสงั คม ผอู้ น่ื ม.4 • มีทกั ษะในการกำหนด มีหลักคดิ ทเี่ ปน็ ระบบ • รูเ้ ท่าทนั อาการทางกาย • สรา้ งความสมั พนั ธ์ท่ีดกี ับ เป้าหมายและทศิ ทาง ท่ีเกดิ จากอารมณ์และ ผูค้ นที่หลากหลายรวมถงึ การดำเนนิ ชวี ิตไปสู่ความ ความเครียด คนทม่ี ีความเชอื่ บนพื้นฐาน สำเร็จ • ร้จู กั การแสดงออกทาง ที่แตกตา่ งกนั • ปฏบิ ตั ิตนตามทิศทาง อารมณ์และคลายความเครยี ด • รจู้ ักเลือกคบคน ทีก่ ำหนด ด้วยวธิ กี ารท่ีเหมาะสม 12

หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 องค์ประกอบทักษะชวี ติ 4 องค์ประกอบ ช้นั การตระหนักรแู้ ละเห็น การคดิ วเิ คราะห์ การจดั การกบั อารมณ ์ การสร้างสัมพันธภาพ คุณค่าในตนเองและผูอ้ ื่น ตัดสนิ ใจและแก้ปัญหา และความเครยี ด ทดี่ กี ับผอู้ ื่น อย่างสร้างสรรค์ ม.5 ปรบั ปรงุ ทศิ ทางการดำเนิน มคี วามยดื หยุน่ ทางความค ิด • รู้จกั สรา้ งความสุขใหก้ ับ • วางตัวและกำหนดท่าทีได้ ชีวติ ให้มีโอกาสประสบ ไมย่ ึดติดกับทางเลือกเดิม ตนเองและผูอ้ ่ืน เหมาะสมกับบคุ คลและ ความสำเร็จตามเปา้ หมาย ทค่ี ุ้นเคย • ปรบั อารมณ์ความรู้สึก สถานการณ์ ทก่ี ำหนดไว้ ในสถานการณต์ า่ ง ๆ • มคี วามสัมพันธ์ทด่ี ีกบั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและ พ่อแม่และผใู้ หญร่ อบตวั เหมาะสม ม.6 ประเมนิ และสร้างขอ้ สรุปจากผลการกระทำ ประสบการณ์ การตดั สินใจ และการแกไ้ ข ใหค้ ำปรึกษาผอู้ น่ื ได้ ปญั หา การสรา้ งสรรคง์ าน การทำงานรว่ มกับผูอ้ ืน่ ในสถานการณต์ ่าง ๆ รวมทง้ั ประสบการณท์ ีด่ ขี องผ้อู ืน่ บนั ทึกเป็นบทเรียนในชวี ติ ของตนเอง และเป็นแนวทาง การใช้ทกั ษะชีวติ ในอนาคต 13

แนวทางการพัฒนาทกั ษะชวี ติ บรู ณาการการเรียนการสอน 8 กลมุ่ สาระการเรยี นร ู้ การพฒั นาทกั ษะชวี ติ ในหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 การพัฒนาทักษะชีวิต เป็นกระบวนการเรียนรู้ท่ีมุ่งให้ผู้เรียนพัฒนาตนเองในด้านความรู้ ทักษะและเจตคติในการเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อ่ืน การคิดวิเคราะห์ตัดสินใจและแก้ไขปัญหา การจัดการกับอารมณ์และความเครียด และการสร้างสัมพันธภาพท่ีดีกับผู้อ่ืน เพื่อการปรับตัว การป้องกันตนเองในสถานการณ์ต่าง ๆ จัดการกับชีวิตตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซ่ึงสอดคล้อง กบั เป้าหมายของหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 ทก่ี ำหนดให้ทักษะชวี ติ เป็นสมรรถนะสำคัญที่ผู้เรียนทุกคนพึงได้รับการพัฒนา โดยสถานศึกษาต้องจัดการศึกษาให้ผู้เรียน มีคุณภาพตามตัวชี้วัดมาตรฐานการเรียนรู้ท้ัง 8 สาระการเรียนรู้และคุณลักษณะอันพึงประสงค ์ ตามเจตนารมณข์ องหลกั สูตร ทักษะชีวิตในสาระการเรยี นรู้ จำแนกไดเ้ ป็น 2 กล่มุ คอื 1. ทักษะชีวิตทว่ั ไป เป็นทกั ษะพนื้ ฐานของผูเ้ รยี นในการเผชิญปัญหาปกติในชวี ติ ประจำวนั เช่น ความขัดแย้งทางความคิด การทะเลาะเบาะแว้ง การส่ือสารท่ีไม่มีประสิทธิภาพ การวิพากษ์ วิจารณ์ การจำแนกแยกแยะข้อมูลข่าวสาร การตัดสินใจเลือกกระทำสิ่งต่าง ๆ การแก้ปัญหาในการ ดำรงชีวิตประจำวัน การคิดวางแผนในการดำรงชีวิตประจำวัน ฯลฯ ซึ่งผู้ท่ีได้รับการพัฒนาทักษะ ชีวติ ท่ัวไป จะเปน็ ผทู้ ่ีมคี วามสามารถในการคดิ วิเคราะห์ คดิ ตัดสนิ ใจ และแกป้ ญั หาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม หรอื ที่เรียกวา่ มคี วามสามารถในการคิด และการส่ือความหมาย ทักษะชีวิตท่ัวไป ถือเป็นทักษะที่เป็นแกนของทักษะต่าง ๆ และเป็นทักษะพ้ืนฐานของ การเกดิ ทักษะชวี ิตองคป์ ระกอบอ่ืน ๆ รวมทัง้ ความรใู้ นเนื้อหาสาระต่าง ๆ อย่างกวา้ งขวาง ครูผู้สอนสามารถจัดการเรียนรู้ที่สร้างทักษะชีวิตท่ัวไปด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่ผู้เรียน เปน็ สำคัญ จากการสอนปกตใิ นชัน้ เรียนด้วยกระบวนการเรยี นรู้เชงิ ประสบการณ์ การเรยี นรแู้ บบมสี ่วนรว่ ม หรือกระบวนการกลุ่มและเทคนิคเกมการศึกษา ที่ให้ผู้เรียนได้มีการอภิปรายแสดงความรู้สึก นึกคิดอย่างมีประสิทธิภาพ หลังการเสร็จสิ้นจัดกิจกรรมตามจุดประสงค์แต่ละครั้ง ด้วยประเด็น คำถามให้เกิดการสะท้อน (Reflect) การเช่ือมโยง (Connect) การปรับประยุกต์ความคิดและนำไป ใช้ (Apply) หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมการเรียนรู้ในช่ัวโมงการเรียนปกติ เป็นการบูรณาการ หรือ สอนแทรกทกั ษะชวี ติ ในกระบวนการเรียนการสอนทุกกล่มุ สาระการเรียนรู้ที่ อิงมาตรฐานและตัวชว้ี ัด หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 นอกจากน้ี ยังพัฒนาทักษะชีวิตท่ัวไปผ่านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เช่น กิจกรรมชมรม กิจกรรมการแสดงความสามารถพิเศษต่าง ๆ การศึกษาแหล่งเรียนรู้ภายในและภายนอกสถานศึกษา เปน็ ตน้ 14

หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 2. ทักษะชีวิตเฉพาะ เป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับใช้ในการเผชิญกับปัญหาในชีวิตที่เฉพาะ เจาะจง เช่น ปัญหายาเสพติด ปัญหาเอดส์ ปัญหาเพศ การต้ังครรภ์ที่ไม่พร้อม ปัญหาการปรับตัว ต่อสภาวะวิกฤต ปัญหาสัมพันธภาพท่ีไม่ดีกับเพื่อนและผู้อ่ืน ผู้ท่ีมีทักษะชีวิตในการเผชิญปัญหา เฉพาะเจาะจง จะเป็นผู้ท่ีมีความเข้มแข็งทางใจ หรือมีพลังสุขภาพจิต ซ่ึงจะช่วยให้สามารถเอาชนะ ปัญหาอปุ สรรคไปสคู่ วามสำเร็จทต่ี ้องการ สามารถปรับตัวในสถานการณว์ ิกฤตและผา่ นพน้ เหตุการณ์ วิกฤตไปไดโ้ ดยไม่เกิดผลกระทบตามมา หรอื สามารถฟื้นตัวกลบั มาดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างรวดเร็ว ทักษะชีวิตเฉพาะ ถือว่าเป็นทักษะขั้นสูงที่มีความสำคัญต่อการจัดการกับชีวิตตนเองของ ผู้เรียน ได้แก่ ทักษะการรู้จักตนเอง เห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น เช่น การรู้ความแตกต่างระหว่าง ชายหญิง คุณค่าและศักด์ิศรีของชายหญิง ทักษะการจัดการกับอารมณ์และความเครียด เช่น การคิดท่ีไม่เครียด การคิดเชิงบวก ทักษะการสร้างสัมพันธภาพท่ีดีกับผู้อื่น เช่น ทักษะการปฏิเสธ การชวนไปมีพฤติกรรมเส่ียง ทักษะการใช้ภาษากายที่สร้างความเข้าใจอันดีต่อกัน การพูดสื่อสาร ที่สร้างมิตร ทักษะชีวิตเฉพาะสามารถพัฒนาได้ด้วยกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม กระบวนการ เรียนรู้จากประสบการณ์และการเรียนรู้ท่ีผู้เรียนเป็นสำคัญ ท่ีผู้เรียนได้เรียนรู้และสร้างความร ู้ ดว้ ยตนเองรว่ มกบั กลุ่ม ไดเ้ รยี นรูจ้ ากเหตกุ ารณ์ สถานการณ์จรงิ ในชีวติ จากสือ่ และแหลง่ เรยี นรู้ที่มี ความหมายกับชวี ติ ของตนเอง เช่อื มโยงชีวติ และการดำเนินชวี ติ ของผูเ้ รยี นในปจั จุบันและอนาคต สาระการเรียนรู้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2554 ที่มีสาระ การเรียนรเู้ ฉพาะเจาะจงทงั้ มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชีว้ ัดได้แก ่ 1. ทักษะชวี ติ ในสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ 1.1 สาระการเรียนร้สู ุขศึกษาและพลศกึ ษา สาระที่ 1 การเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของมนุษย ์ มาตรฐาน พ 1.1 เขา้ ใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์ สาระท่ี 2 ชวี ติ และครอบครวั มาตรฐาน พ 2.1 เขา้ ใจและเหน็ คุณค่าตนเอง ครอบครัว เพศศกึ ษา และมีทกั ษะ ในการดำเนินชีวติ สาระท่ี 5 ความปลอดภัยในชวี ิต มาตรฐาน พ 5.1 ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเส่ียง พฤติกรรมเส่ียงต่อสุขภาพ อุบตั ิเหตุ การใชย้ า สารเสพติด และความรนุ แรง 15

แนวทางการพัฒนาทักษะชวี ิต บรู ณาการการเรียนการสอน 8 กลุม่ สาระการเรียนร ู้ 1.2 สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม สาระท่ี 2 หน้าทพี่ ลเมือง วฒั นธรรมและการดำเนินชวี ติ ในสงั คม มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจและปฏบิ ัติตนตามหน้าท่ขี องการเปน็ พลเมืองดี มีค่านิยม ท่ีดีงามและธำรงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลก อย่างสันติสขุ 1.3 สาระการเรียนร้ภู าษาไทย สาระที่ 3 การฟัง การดู และการพูด มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดง ความคดิ ความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ อยา่ งมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค ์ 2. ทักษะชวี ิตในกิจกรรมระบบการดแู ลช่วยเหลือนกั เรยี น 2.1 จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยหลักสูตรกิจกรรมแนะแนวหรือโฮมรูมเก่ียวกับ กิจกรรมเพศศึกษา กิจกรรมทักษะชีวิต สารเสพติด เอดส์ ความรุนแรง การรู้จักเข้าใจตนเอง และ กิจกรรมตามองค์ประกอบทักษะชวี ติ ในชัว่ โมงกิจกรรมแนะแนว การจัดค่ายทักษะชวี ิต เป็นตน้ 2.2 สร้างทักษะชีวิตเฉพาะปัญหา เพ่ือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการช่วยเหลือ แนะนำ (advisory) โดยครูท่ีปรึกษาหรือครูประจำชั้น เป็นผู้ให้คำปรึกษาผู้เรียนเป็นรายบุคคล ตามสภาพปญั หาและความรนุ แรงของปัญหา 2.3 การสร้างทักษะชีวิตในเด็กท่ีอยู่ในสภาวะวิกฤต ด้วยการใช้จิตวิทยาการแนะแนว หรือการให้คำปรึกษา (Counseling) หรืออาจส่งต่อ (refer) กรณีต้องการบำบัดรักษาจากสถาน บริการทางสาธารณสุขหรือหน่วยงานต่าง ๆ เช่น ภาวะวิกฤตชีวิตติดยาบ้า หรือการมีพฤติกรรม ทางจติ 16

หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 2 การพัฒนาทักษะชวี ิตบูรณาการการเรยี นการสอน ในกล่มุ สาระการเรยี นร ู้ ดังได้กล่าวแล้วว่า ทักษะชีวิตด้านการคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจและแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ และการส่ือสารท่ีมีประสิทธิภาพเป็นทักษะชีวิตพ้ืนฐานที่เป็นแกนของทักษะชีวิตองค์ประกอบอ่ืน ๆ และสามารถพัฒนาได้ด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่ผู้เรียนเป็นสำคัญจากการสอนปกติในช้ันเรียน ด้วยการบูรณาการหรือสอดแทรกทักษะชีวิตในกระบวนการเรียนการสอนทุกกลุ่มสาระการเรียนร ู้ ที่อิงมาตรฐานและตวั ชี้วัด หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐานพุทธศักราช 2551 กิจกรรมบรู ณาการหรือสอดแทรกทักษะชีวิตพ้นื ฐาน เป็นลักษณะของกิจกรรมท่ีกำหนดให้ ผู้เรียนได้อภิปรายแสดงความรู้สึกนึกคิดและการประยุกต์ความคิดอย่างมีประสิทธิภาพหลังส้ินสุด การเรียนรู้ในแต่ละคร้ัง ด้วยประเดน็ คำถามสะท้อน เชื่อมโยง ปรบั ใช้ เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นได้เรียนร้บู ทเรยี น สำคญั ทจ่ี ะพฒั นาทักษะชีวิตให้ผู้เรียนไดต้ ระหนักรูแ้ ละเห็นคณุ ค่าในตนเองและผู้อ่ืน รู้จักการจัดการ กับอารมณ์และความเครียดอย่างเหมาะสมและรู้จักสร้างสัมพันธภาพท่ีดีกับผู้อื่น รู้จักคิดวิเคราะห์ ตัดสนิ ใจและแกป้ ญั หาอย่างสรา้ งสรรค์ โดยวธิ กี ารสะทอ้ น (Reflect) ความรูส้ กึ และความคิดที่ได้รบั จากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม เช่ือมโยง (Connect) กับประสบการณใ์ นชวี ิตทผี่ า่ นมาหรือทีต่ นเองได้เรยี นรู้ มาแลว้ เปน็ องค์ความร้ใู หม่ แล้วนำมาปรบั ใช้ (Apply) ในชวี ติ ประจำวนั ของตนเองทั้งในปจั จุบันและ อนาคต โดยครูหรือผู้จัดกิจกรรมเปน็ ผ้ตู ง้ั ประเดน็ คำถาม หลงั จากเสร็จสน้ิ กระบวนการเรียนการสอน เน้ือหาสาระในหลักสูตรแล้ว เพื่อให้ผู้เรียนเปิดเผยตัวเอง ผ่านการสะท้อนความรู้สึกหรือมุมมอง (Reflect) ได้คิดเช่ือมโยงความรู้ใหม่กับประสบการณ์เดิมของผู้เรียน (Connect) และได้ประยุกต์ ความรู้น้ัน (Apply) ไปใชใ้ นชวี ิตจรงิ ของผเู้ รยี น เรยี กคำถามดังกลา่ วโดยย่อว่า คำถาม R - C - A ซ่ึงยอ่ มาจาก Reflect : สะทอ้ น Connect : เชื่อมโยง Apply : ปรับใชห้ รือประยกุ ต์ใชน้ ่นั เอง การพัฒนาทักษะชวี ิตดว้ ยเทคนิคคำถาม R - C - A เป็นการบูรณาการหรือสอนแทรกทักษะชีวิตพ้ืนฐานในการเรียนการสอนปกติใน 8 กลุ่ม สาระการเรียนรู้ ด้วยการถามเพื่อการสะท้อน (Reflect) การเชื่อมโยง (Connect) การปรับใช้ (Apply) หรือคำถาม R - C - A หลังจากเสร็จสนิ้ กจิ กรรมการเรียนรู้รายครงั้ รายชวั่ โมงหรอื รายกิจกรรม 17

แนวทางการพฒั นาทกั ษะชวี ติ บรู ณาการการเรียนการสอน 8 กลมุ่ สาระการเรยี นร ู้ ลักษณะของคำถาม R - C - A 1. เปน็ คำถามเพอ่ื ให้ผูเ้ รยี นสะท้อนความรู้สกึ หรอื มุมมองของตน (R : Reflect) เปน็ การ ถามถึงสิ่งท่ีผู้เรียนสังเกตเห็นมองเห็นหรือสัมผัสหรือถามถึงความรู้สึกของผู้เรียนที่เกิดขึ้นในขณะ ร่วมกจิ กรรมการเรียนกล่มุ สาระการเรยี นร้ใู นชว่ั โมงนัน้ เช่น - นักเรียนมคี วามร้สู กึ อยา่ งไรท่ีได้เรียนในเรื่องน้ี - นักเรียนได้สังเกตไหมว่า ขณะทำงานร่วมกันกับเพ่ือนมีอะไรเกิดข้ึนบ้าง (ใครทำอะไรอยา่ งไร) - พฤติกรรม/กิริยาอาการในการทำงานของกลุ่มเพ่ือให้งานท่ีรับมอบหมายเสร็จ ทันเวลา เป็นอยา่ งไรบา้ ง ฯลฯ 2. เป็นคำถามเพ่ือให้ผู้เรียนได้คิดเช่ือมโยง (C : Connect) เป็นการถามเพื่อให้เกิด การเชื่อมโยงระหว่างประสบการณ์หรือความรู้ที่มีมาก่อนกับประสบการณ์หรือความคิดที่เกิดจาก การเรียนร้ใู หม่ในชัว่ โมงน้ัน เช่น - ในการทำงานร่วมกันที่ผ่านมาในช่ัวโมงก่อน ๆ นักเรียนเคยมีความรู้สึก เหมือนคร้ังน้ีหรือไม่ และความรสู้ กึ น้ันเปน็ อย่างไร - ในการทำงานร่วมกันในกลุ่มที่ผ่านมา (ในครั้งก่อน) นักเรียนเคยสังเกตบ้าง ไหมว่า มีอะไรเกิดข้ึนขณะช่วยกันทำงาน กิริยาอาการหรือพฤติกรรมของ เพอื่ น ๆ กับตวั เราเปน็ อยา่ งไรบ้าง - ความรู้สึกหรือการกระทำของนักเรียนคร้ังน้ีเหมือนกันกับท่ีนักเรียนเคยรู้สึก หรือเคยทำมาในคร้ังก่อน ๆ อย่างไรบ้าง เพราะอะไร หรือเกิดจากสาเหตุ อะไร ฯลฯ 3. เปน็ คำถามเพ่อื การปรบั ใช้ (A : Apply) เป็นการถามถึงส่งิ ทีไ่ ด้เรียนรู้ใหม่ในปัจจุบันไป ปรับใชเ้ พ่ือเตรยี มความพรอ้ มในการเผชญิ กบั เหตกุ ารณห์ รือสถานการณต์ ่าง ๆ ในอนาคต เช่น - ในอนาคตหากนักเรียนเกิดความรู้สึกอย่างครั้งนี้อีก นักเรียนจะมีแนวทาง การปฏิบัติตนอย่างไรบ้าง จึงจะควบคุมหรือผ่อนคลายความรู้สึกนึกคิดที่ ทำให้เกดิ ความกังวลหรือความเครียดให้หมดไปได้ - ในอนาคตหากนักเรียนพบเห็นพฤติกรรมอย่างน้ีอีกจะมีแนวทางปรับเปลี่ยน พฤติกรรมตนเองและเพือ่ น ๆ อย่างไรบา้ ง - ในอนาคตหากนักเรียนเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้อีก นักเรียนจะมีแนวทาง การปฏบิ ตั ิตนอยา่ งไรหรอื แกไ้ ขเหตุการณ์อย่างไร 18

หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 เทคนิคการใช้คำถาม R - C - A การต้ังคำถาม R - C - A เพ่ือสอบถามผู้เรียนหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการจัดการเรียนรู้ ตามจุดประสงค์หรือตัวชี้วัดการเรียนรู้ของผู้เรียนในแต่ละครั้งแล้วนั้น ครูจะต้องตั้งคำถามเพ่ือการ สนทนาสอบถามให้ผู้เรียนได้สะท้อน เชื่อมโยง และปรับใช้สอดรับกัน ให้เกิดคุณลักษณะทักษะชีวิต องคป์ ระกอบเดยี วกนั อย่างตอ่ เนอื่ งและม่งุ เน้นการพัฒนาองคค์ วามรทู้ ิศทางเดยี วกัน โดยเร่ิมจากการ ถามความรู้สึกหรือมุมมอง (Reflect) จากน้ันถามต่อด้วยคำถามให้คิดเชื่อมโยง (Connect) และจบ ด้วยคำถามให้อภิปรายเพื่อการปรับใช้ (Apply) ด้วยการสร้างความคิด จินตนาการและองค์ความรู้ เตรียมพรอ้ มสำหรับใชใ้ นสถานการณใ์ หมท่ อี่ าจเผชญิ ในอนาคตทงั้ ระยะส้ันและอนาคตระยะยาว ตวั อย่าง การต้ังคำถาม R - C - A เพือ่ สอบถามผเู้ รยี นหลงั จากเสร็จสิน้ กระบวนการจดั กิจกรรมใช้เวลา 5 - 10 นาที ทีแ่ สดงความต่อเน่อื ง สอดรบั ความคิด ความรขู้ องผูเ้ รยี นอย่างมีทิศทางเดียวกัน 1 2 3 คำถามเพ่อื การสะท้อน คำถามเพื่อการเชอ่ื มโยง คำถามเพอ่ื การปรบั ใช้ (R : Reflect) (C : Connect) (A : Apply) • นกั เรยี นมคี วามรูส้ กึ อย่างไรบ้าง • ในชว่ งทผ่ี า่ นมา น กั เรยี นเคยม ี • ในโอกาสตอ่ ไปถ้าหากนกั เรยี นเกดิ ท่ีเราได้เรียนรู้ ได้ทำงานร่วมกัน ความรสู้ กึ อยา่ งน ้ีเกิดข้นึ หรือไม่ แล้ว ความร้สู ึกอยา่ งนีอ้ ีก นกั เรยี นจะมวี ธิ กี าร นกั เรยี นทำอย่างไรกบั ความรู้สึกนนั้ อย่างไรไม่ใหค้ วามรสู้ ึกนร้ี บกวน (มวี ีการอย่างไรจดั การกับความร้สู กึ ตัวเราอีก (ชว่ ยกันคิด) ทางลบที่เกิดขึ้น) • นักเรียนไดส้ ังเกตหรอื ได้เหน็ ไหมว่า • ในการทำงานรว่ มกนั กบั เพ่อื นท่ผี ่านมา • ในการทำงานรว่ มกันในคร้งั ตอ่ ไป สิ่งทเี่ ราแสดงออกตอ่ เพ่ือนในกล่มุ นกั เรยี นเคยแสดงออกหรือเคยเห็น หากมคี วามขดั แย้ง หรอื การเห็น เปน็ อยา่ งไร (ดี/ไม่ดี) เพ่ือนแสดงออกตอ่ เพือ่ นของเราเชน่ ไม่ตรงกันอยา่ งนอี้ กี นักเรยี นจะทำ ครง้ั นห้ี รอื ไม่ อยา่ งไรหรือคลีค่ ลายเหตุการณ ์ • ในการทำงานรว่ มกนั ในครง้ั ต่อไป • นกั เรยี นคิดว่าการแสดงออกน้นั อยา่ งไร หากมคี วามขดั แย้งหรอื การเห็นไม่ ดหี รือไม่ดี ทำความเดือดร้อนให้ผอู้ ืน่ ตรงกนั อย่างนี้อีกนักเรียนจะทำ หรอื ไม่ ใครชอบ/ไมช่ อบบา้ ง อย่างไรหรอื คล่ีคลายเหตกุ ารณ์ • คร้งั น้ันนักเรียนแก้ไขอย่างไร อยา่ งไร 19

แนวทางการพฒั นาทกั ษะชีวติ บรู ณาการการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนร ู้ คำถามเพอื่ การสะท้อน คำถามเพื่อการเช่ือมโยง คำถามเพ่อื การปรับใช้ (R : Reflect) (C : Connect) (A : Apply) • นกั เรียนมีความร้สู กึ หรือมีความคิดเหน็ • ความขดั แยง้ คร้งั น ้ีหรอื เหตุการณ์ • ในการทำงานรว่ มกันในครงั้ ตอ่ ไป อย่างไรกับความขดั แยง้ หรอื แบบครั้งนี้ เหมือน กับคร้งั ก่อน ๆ หากมคี วามขดั แยง้ หรอื การเหน็ การมีความคดิ เหน็ ไมต่ รงกนั ของ • หนกัรอืเรไยีมน่ มทนั ำเอกยิด่าขง้ึนไ รไหดรอ้ ือยปา่ งฏไิบร ัติ ไมต่ รงกันอยา่ งนอี้ กี นกั เรยี นจะทำ เพ่ือน ๆ ในกลมุ่ /ในห้องเรยี น อยา่ งไร หรอื คลคี่ ลายเหตุการณ์ อยา่ งไรกับความรสู้ กึ นน้ั อย่างไร • นกั เรียนทำอย่างไรจงึ หยุดความ ขัดแยง้ การเหน็ ไม่ตรงกันได้ • นักเรียนเคยสังเกตตนเองหรอื ไม่ว่า • นกั เรยี นคิดวา่ ท่ีผา่ นมาความขดั แยง้ • นักเรียนคิดว่าจะทำอะไรหรือปฏบิ ตั ิ ตนเองมีวิธกี ารอยา่ งไรทำให้ตนเอง ความโกรธน้นั มสี าเหตมุ าจากอะไร ตนอยา่ งไร ปฏบิ ัตติ อ่ ผอู้ ื่นอยา่ งไร ไม่โกรธเม่อื เกดิ ความขดั แยง้ กนั กับ ถา้ ย้อนกลบั ไปได้นกั เรียนจะไมท่ ำ/ เพ่อื ให้สัมพันธภาพระหวา่ งเพ่อื นดขี ึ้น เพ่อื น ๆ และทำอย่างไรบ้างความ ปฏบิ ัติ .....(ทางลบ)..... แตจ่ ะทำ/ • นกั เรียนตง้ั ใจจะเปลย่ี นแปลงตนเอง ขัดแยง้ น้ันจงึ ไมร่ กุ ลามไปและยตุ ไิ ด้ ปฏบิ ตั .ิ .... (ทางบวก) ........ อย่างไร เพ่อื ให้การเรยี นดขี ้นึ หรอื มี (ขณะทำกจิ กรรมปจั จุบัน) ชีวิตทีด่ ใี นอนาคต • นักเรียนตัง้ ใจจะเปลี่ยนแปลงหรอื ปรบั วิธีการทำงานรว่ มกนั ในกลมุ่ อยา่ งไรบ้าง เพ่ือให้อยูร่ ว่ มกนั ทำงานร่วมกันไดอ้ ย่างราบรืน่ 1 2 3 การท่ีผู้เรียนได้มีโอกาสสนทนา หรืออภิปรายเพ่ือตอบคำถาม มีความสำคัญต่อการพัฒนา ทักษะชีวิตอย่างมาก เพราะการสนทนาสอบถามและตอบคำถามแบบเชื่อมโยง จะทำให้ผู้เรียนมอง เห็นความเชื่อมต่อกันระหว่างการเรียนรู้และพฤติกรรมการเรียนรู้ กับประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน ของผู้เรียน จะมองเห็นความเป็นจริงในชีวิตของตนและถูกท้าทายให้คิดหาทางออก ให้โอกาสสร้าง แนวความคิดหรือมุมมองใหม่ ๆ ได้ร่วมแบ่งปันความคิดเห็น ความกังวลในใจและประสบการณ์ของ ตนเองร่วมกันอย่างต่อเนื่อง อย่างมีวิจารณญาณ นำไปสู่ความเข้าใจท่ีลึกซ้ึง และยังเป็นการส่งเสริม ความคดิ ขัน้ สงู และพฒั นาทกั ษะการฟงั การพูดของผู้เรียนอีกด้วย ท้ังนี้ ครูหรือผู้สอนจะตอ้ งใช้เทคนิค การต้ังคำถามให้ผู้เรียนสะท้อน-เชื่อมโยง-ปรับใช้ (R - C - A) ในเร่ืองที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิต และการพัฒนาทักษะชีวติ ของผ้เู รียนในดา้ นบวก หลังจากสน้ิ สุดการจดั กิจกรรมการเรียนรูต้ ามเน้อื หา สาระ วตั ถปุ ระสงค์ และตวั ชีว้ ัดในรายวชิ าท่ีหลักสตู รกำหนด ในแตล่ ะกิจกรรมหรอื แต่ละรายชว่ั โมงเรียน เสมอ 20

หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 3 แนวทางจัดกิจกรรมการเรียนรู้ บรู ณาการทกั ษะชวี ติ โครงสร้างตวั อย่างการบรู ณาการทกั ษะชวี ติ ในการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรยี นรู ้ องิ มาตรฐานตัวช้วี ดั หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 กล่มุ สาระ ชอ่ื แผนการ คำถาม R - C - A ทม่ี งุ่ ตวั ชี้วัด/วัตถุประสงค ์ เน้นพฒั นาทักษะชีวิต การเรียนร ู้ จดั กิจกรรมการเรียนรู้ ชั้น ตาม มาตรฐานการเรียนรู้กล่มุ สาระ ตามองค์ประกอบหรือ พฤตกิ รรมทักษะชวี ิต ภาษาไทย 1. ชา้ งกม็ ีหัวใจ ป.1 อ่าน บทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกตอ้ งตาม การรจู้ กั อารมณ์ มเนีม้ือาห รายจาังทหในวะกแาลรฟะทงั ำนอง ความรู้สกึ ของตนเอง 2. นักขา่ วรุน่ เยาว ์ ป.5 การยตุ ิข้อขัดแยง้ ใน กลมุ่ เพ่อื นดว้ ยสันติวธิ ี 3. การอา่ นอยา่ งสร้างสรรค ์ ม.2 พูดโฆษณาให้ผอู้ นื่ คลอ้ ยตามอย่างสมเหตุ การจัดการกับอารมณ์ สมผล และความเครยี ด 4. การใช้ภาษาสภุ าพ ม.4 ใช้ภาษาให้เหมาะสมกับกาลเทศะ สรา้ งสมั พันธภาพท่ดี ีกบั ผู้อืน่ ดว้ ยการสือ่ สาร เชิงบวก คณิตศาสตร ์ 1. การคูณในรูปการบวก ป.2 เม่ือกำหนดจำนวนสองจำนวนคณู กัน การควบคมุ อารมณ์ ให้สามารถเขยี นใหอ้ ยูใ่ นรูปของการบวก ตนเอง จำนวนทีเ่ ท่ากนั และหาคำตอบได้ ป.5 1. เม่ือกำหนดโจทยก์ ารบวกทศนิยม ใช้ภาษาและกริ ยิ า 2. การบวกทศนยิ มไมเ่ กนิ ไม่เกนิ สองตำแหน่งให้สามารถหา ทเ่ี หมาะสมในการ คำตอบพร้อมทั้งตระหนกั ถึง ส่อื สารไมก่ อ่ ให้เกดิ สองตำแหนง่ ความสมเหตุสมผลของคำตอบ ความขัดแยง้ ทไี่ ดแ้ ละแสดงวธิ ที ำได้ 2. ใช้เหตผุ ลประกอบการตดั สนิ ใจ และสรุปไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 21

แนวทางการพฒั นาทักษะชีวิต บูรณาการการเรยี นการสอน 8 กล่มุ สาระการเรยี นร ู้ กลมุ่ สาระ ช่ือแผนการ คำถาม R - C - A ที่มุ่ง การเรยี นรู้ จดั กิจกรรมการเรียนรู้ ตัวชว้ี ัด/วตั ถุประสงค ์ เน้นพัฒนาทักษะชวี ติ ช้นั ตาม มาตรฐานการเรยี นรกู้ ล่มุ สาระ ตามองค์ประกอบหรอื พฤตกิ รรมทกั ษะชวี ติ 3. ความยาวรอบรปู ของ ป.6 1. อ ธบิ ายการหาความยาวรอบ การจัดการกับอารมณ์ รูปสามเหลีย่ ม เรม ูปือ่ สกาำมหเหนลดยี่รมปู ไสดา ้ มเหลี่ยมให้ และความเครยี ด 2. สามารถหาความยาวรอบรูปของ รปู สามเหลยี่ มนั้นได ้ 3. ใชเ้ หตผุ ลประกอบการตดั สนิ ใจ และสรปุ ได้อยา่ งเหมาะสม 4. ปริมาตรของทรงกระบอก ม.3 1. อธบิ ายลักษณะและคณุ สมบัติของ “กำหนดเปา้ หมาย ทรงกระบอก การเรยี น” : ประเมนิ 2. ใชว้ ธิ ีการท่หี ลากหลายแก้ปัญหา อารมณ์ความรสู้ ึกและ 3. ใชภ้ าษาและสัญลกั ษณ ์ ควบคุมตนเองเมื่อเผชิญ ทางคณติ ศาสตรใ์ นการสื่อสาร สถานการณ ์ การสือ่ ความหมายและการนำเสนอ ได้อย่างถูกตอ้ ง 4. ใช้เหตผุ ลประกอบการตดั สินใจ และสรปุ ผลไดอ้ ยา่ งเหมาะสม วทิ ยาศาสตร์ วัสดุท่นี ำมาทำของเลน่ ป.1 1. สังเกตและระบุลกั ษณะท่ีปรากฏ ใชภ้ าษาพดู ภาษากาย หรือคุณสมบัติของวัตถุที่ทำของเล่น ท่ีทำใหผ้ ู้อ่นื ผอ่ ยคลาย ใชใ้ นชีวิตประจำวัน ไมก่ ่อใหเ้ กิดความ 2. จำแนกวัสดุท่ใี ชท้ ำของเล่นและ ขัดแย้ง ระบเุ กณฑ์ทีใ่ ชจ้ ำแนก การเกดิ ดนิ ป.4 1. ระบุชนิดและคุณสมบตั ขิ องดนิ รจู้ ักเอาใจเขา ในท้องถิ่น มาใส่ใจเรา 2. แสดงความคิดเหน็ และสรปุ สงิ่ ท่ไี ด้ เรียนร ู้ วฏั จกั รน้ำ ป.5 ทดลองและอธบิ ายการเกดิ วัฏจักรนำ้ การเห็นคุณค่าในตนเอง และผู้อนื่ 22

หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 กลุม่ สาระ ชอื่ แผนการ คำถาม R - C - A ที่มุ่ง การเรียนร้ ู จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ตัวชี้วัด/วัตถปุ ระสงค ์ เน้นพัฒนาทักษะชีวิต ช้ัน ตาม มาตรฐานการเรยี นรู้กลุ่มสาระ ตามองค์ประกอบหรือ พฤตกิ รรมทักษะชีวิต ธรรมชาติของผลกระทบจาก ม.1 สืบค น้ วิเคราะห์และอธิบายผล มีทกั ษะการแสวงหา การเปล่ียนแปลง แกลาระเ ฝกนิดกสรภดาทวม่ีะโตี ล่อกสรง่ิ อ้ มนชี ีวรติโู หแวล่โะอ โซน สืบค้นข้อมูล สภาพแวดลอ้ ม ความผดิ ปกตแิ ละโรคทาง ม.3 1. จำแนกและอธิบายความผดิ ปกติ การจัดการกบั อารมณ์ พันธุกรรม ทางพนั ธุกรรมท่เี กยี่ วข้องกบั และความเครียด โครโมโซม 2. สบื ค้นข้อมลู ยกตัวอย่างความ ผิดปกติของโรคทางพันธุกรรม ธรรมชาตสิ ง่ิ แวดล้อม ม.6 1. เขียนแผนดำเนนิ งานการเฝา้ ระวงั วางตวั และกำหนดทา่ ที อนุรกั ษ์และพฒั นาธรรมชาติ เหมาะสมกับ สงิ่ แวดลอ้ ม สถานการณ์ 2. ร่วมมอื กับผอู้ ืน่ ในการทำงาน สังคมศกึ ษา 1. ฟังให้รดู้ ใู ห้จำ ป.1 บอกความหมายและประโยชน์ การรู้จกั ควบคุมตนเอง ศาสนาและ ของการมีสต ิ วัฒนธรรม 2. การเปน็ ผนู้ ำและผู้ตามท่ีดี ป.4 1. บอกบทบาทและความรับผดิ ชอบ เหน็ คุณค่าของตนเอง ของผนู้ ำและผตู้ าม และผอู้ น่ื 2. บอกประโยชน์ของการทำงานกลุ่ม ทมี่ ปี ระสิทธภาพและประสทิ ธผิ ล 3. ใหค้ วามร่วมมือกับผ้อู ่ืนอย่าง สร้างสรรคแ์ ละทำงานรว่ มกับ ผอู้ ่ืนได้ 3. ศาสนกิ ชนท่ีด ี ม.1 ปฏิบัตติ นตามหลักธรรมของศาสนา ยอมรบั ความแตกต่าง ท่ีตนนับถอื ตามหลักความพอเพียง ทางความคดิ ความรสู้ ึก และพฤติกรรมของ ตนเองและผู้อนื่ ไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม 23

แนวทางการพฒั นาทกั ษะชวี ิต บรู ณาการการเรยี นการสอน 8 กลุ่มสาระการเรยี นร ู้ กลุ่มสาระ ชอ่ื แผนการ คำถาม R - C - A ทม่ี ุ่ง การเรยี นร ู้ จดั กิจกรรมการเรียนร้ ู ตัวช้ีวัด/วตั ถุประสงค์ เนน้ พัฒนาทกั ษะชีวิต ชั้น ตาม มาตรฐานการเรยี นรู้กล่มุ สาระ ตามองค์ประกอบหรือ พฤติกรรมทกั ษะชีวติ 4. สิทธมิ นษุ ยชน ม.4 1. อ ธิบายและยกตัวอย่างปัญหา ประเมนิ สถานการณ์ กไ ทายรลปะจั เจมบุ ดิ นั ส ทิ ธิมนุษยชนในสงั คม ตา่ ง ๆ ทีเ่ ผชญิ ดว้ ยข้อมลู และเหตุผล 2. เสนอแนวทางแกไ้ ขและป้องกัน ทีถ่ ูกต้อง ปญั หาการละเมดิ สิทธมิ นษุ ยชน ในสังคมไทยปจั จุบนั ไดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 3. เลอื กตดั สนิ ใจแกป้ ญั หา ในสถานการณ์ที่เผชิญอยา่ งมีเหตผุ ล สุขศึกษาและ 1. สุขภาพชอ่ งปากดมี ีความสขุ ป.1 1. เหน็ คณุ ค่าของปากทตี่ นเองมี รักและเหน็ คุณค่า พลศกึ ษา สุขภาพของปากดี ในตนเอง 2. บอกประโยชนข์ องการมสี ขุ ภาพดี ในช่องปากด ี 2. วยั ใสวยั รุ่น ป.5 1. อธิบายการเปล่ียนแปลงทางเพศ คาดคะเนความเส่ียง ของวยั รนุ่ ได ้ ในสถานการณ์ที่เผชิญ 2. ตระหนักถึงการวางตัวทีเ่ หมาะสม ในชวี ิตประจำวนั กับวัย อยา่ งมเี หตุผล 3. พัฒนาการของมนุษย์โลก ม.3 1. สืบคน้ ขอ้ มลู เก่ยี วกับพฒั นาการ วิเคราะห์ผลกระทบ ของมนุษย์จากแหลง่ เรยี นร้ไู ด ้ และหาทางปอ้ งกนั 2. สามารถเปรียบเทียบ หรือแก้ปัญหาทีเ่ กิดจาก การเปล่ยี นแปลงทางด้านร่างกาย พฤติกรรมไมพ่ งึ จติ ใจ อารมณ์ สงั คมและสติปัญญา ประสงค์ ในแตล่ ะชว่ งชวี ิตมนษุ ย์ได้ 4. ชีวติ และส่งิ แวดล้อม ม.4- วิเคราะห์ผลกระทบของส่งิ แวดล้อม ตัดสินใจในสถานการณ์ ม.6 และหาแนวทางป้องกันแก้ไขปญั หา ต่าง ๆ ทีเ่ ผชญิ อย่าง ท่ีเกิดจากพฤติกรรมสงิ่ แวดลอ้ ม มีเหตุผลและรอบคอบ ท่ีไมพ่ ึงประสงค์ 5. การเคลอ่ื นไหวและ ป.4 เลน่ เกมเลยี นแบบและกจิ กรรม การวเิ คราะห์ความนา่ เชอื่ ถือ การเล่นเกม วงิ่ ผลดั ได้ ของขอ้ มลู และตัดสนิ ใจ เลอื กอยา่ งมเี หตุผล 24

หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 กลุม่ สาระ ชือ่ แผนการ คำถาม R - C - A ท่มี ุ่ง การเรียนร ู้ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตัวชว้ี ดั /วตั ถปุ ระสงค ์ เนน้ พฒั นาทักษะชวี ติ ชั้น ตาม มาตรฐานการเรียนรู้กล่มุ สาระ ตามองค์ประกอบหรอื พฤติกรรมทักษะชีวิต 6. เกมนำ้ ด่ืมซอ่ นพษิ ป.6 เลน่ เ กมและกีฬาได้เหมาะสม ควบคุม ความสามารถในการ ตนเอ งได ้ ตงั้ คำถามท่ีนำไปสู ่ คำตอบที่เป็นแนวทาง ในการแก้ไขปญั หา ในสถานการณต์ า่ ง ๆ 7. เกมวิง่ 4 ขา ม.1 1. มวี นิ ยั ปฏิบัตติ ามกฎกตกิ าข้อตกลง ทำงานร่วมกับผ้อู ืน่ ในการเลน่ กีฬา บนพนื้ ฐานความเปน็ 2. เคลือ่ นไหวรา่ งกายมีความ ประชาธปิ ไตย คลอ่ งแคล่ว 8. เกมยงิ เรอื ม.4 อธิบายและปฏิบัติเกี่ยวกบั สิทธ ิ การรจู้ ักเอาใจเขา กฎกตกิ า กลวิธตี ่าง ๆ ระหวา่ ง มาใสใ่ จเรา และเหน็ ใจ การเลน่ กบั ผูอ้ ื่นและนำไปสรปุ เปน็ ผูอ้ ื่น แนวปฏบิ ตั ิและใช้ในชวี ิตประจำวัน อยา่ งต่อเนื่อง ศลิ ปะ ระบายสตี ามความรสู้ ึก ป.1 เขยี นภาพระบายสเี ปน็ ภาพเรือ่ งราว แสดงความสามารถ จากประสบการณไ์ ด ้ และความภาคภูมใิ จ ใหผ้ อู้ นื่ รับรู ้ สวี รรณะสอี ุ่น-สเี ยน็ ป.4 อธบิ ายทัศนธาตเุ รื่องสีและวงจรสี การจัดการกบั อารมณ์ ตามธรรมชาติได ้ และความเครียด ลกั ษณะเสียงในการรอ้ งเพลง ป.5 ออกเสยี งร้องตามสญั ญาณมือไดอ้ ยา่ ง การเคารพสิทธิตนเอง ถกู ตอ้ งตามจังหวะเพลงทร่ี ้อง และผู้อ่นื การรอ้ งเพลงประสานเสยี ง ม.1 ขับร้องเพลงประสานเสียงแบบแซนท์ รเู้ ท่าทันอารมณ์ ได้ถูกตอ้ งสนุกสนาน ประเมนิ อารมณ์ทมี่ ี อิทธิพลตอ่ พฤติกรรม ตนเอง การออกแบบโฆษณา ม.2 ออกแบบจัดการโฆษณาจากความคดิ รู้จกั คลายเครียดดว้ ยวิธี สร้างสรรค์ได ้ สรา้ งสรรค์ เขียนภาพการต์ นู ม.4- เขียนภาพการ์ตนู หรอื ภาพลอ้ เลียน ความรับผดิ ชอบตอ่ (ภาพลอ้ เลยี น) ม.6 เพือ่ แสดงความคิดเห็นได ้ สังคม 25

แนวทางการพฒั นาทักษะชีวิต บูรณาการการเรียนการสอน 8 กลมุ่ สาระการเรยี นร ู้ กล่มุ สาระ ช่ือแผนการ คำถาม R - C - A ท่ีมงุ่ การเรียนรู้ จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ตัวชี้วัด/วตั ถปุ ระสงค ์ เน้นพฒั นาทกั ษะชวี ิต ช้นั ตาม มาตรฐานการเรียนรูก้ ลุ่มสาระ ตามองคป์ ระกอบหรือ พฤติกรรมทักษะชีวิต การงานอาชพี 1. การพับจรวดกระดาษ ป.1 พบั จ รวดกระดาษและนำไปใช้ การคน้ หาจุดเดน่ และเทคโนโลย ี ประ โยชน์ จดุ ดอ้ ยและความ ภาคภูมใิ จในตนเอง 2. ประดษิ ฐ์ดอกตะขาบ ป.5 ประดิษฐด์ อกตะขาบได ้ การส่ือสารเชงิ บวก การพดู ให้กำลงั ใจผอู้ ืน่ 3. ใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตอยา่ งไร ป.6 อธบิ ายปญั หาทีเ่ กดิ จากการใช้ การเลอื กรับข้อมูลขา่ วสาร ใหป้ ลอดภยั อินเทอรเ์ น็ตท่ไี ม่ปลอดภยั อย่างไตรต่ รอง และรู้เท่ากันการ เปล่ียนแปลงของสงั คม 4. ปฏบิ ัติการเกบ็ ขอ้ มลู ม.3 ปฏบิ ัติการเก็บข้อมูลพืน้ ฐานของ แกไ้ ขปญั หาในภาวะ พนื้ ฐานของนักเรียน นักเรยี นบนั ทกึ ลงในไฟลข์ อ้ มลู วกิ ฤต เปน็ บทเรยี นชวี ิต ตนเอง 5. โครงงานประดษิ ฐ์ท่ใี ช้ใน ม.4- 1. อธิบายกระบวนการฝกึ ทกั ษะ ความสามารถในการ ชวี ติ ประจำวนั ม.6 อาชพี ตามโครงงาน สรุปความสำเร็จจาก 2. วางแผลการปรบั ปรงุ ให้มีโอกาส ประสบการณ์การแกไ้ ข ประสบความสำเรจ็ ตามเป้าหมาย ปญั หาในภาวะวิกฤต เป็นบทเรียนชีวิตตนเอง ภาษา 1. My self การพูดเกย่ี วกับ ป.1 1. บอกชื่อ อายุ รูปรา่ ง สว่ นสูงของ รักและเหน็ คณุ ค่า ตา่ งประเทศ รา่ งกายตนเอง ตนเองได ้ ในตนเอง 2. บอกสง่ิ ท่ีดแี ละชนื่ ชอบในตวั นกั เรียนได ้ 2. Funny language ปฏบิ ตั ิ ป.4 1. ปฏิบตั ติ ามคำสัง่ คำแนะนำ รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ตามคำสงั่ คำแนะนำ อยา่ งง่ายที่ฟังหรืออา่ นได้ และกลา้ ยืนยัน 2. ปฏบิ ัติตามคำส่ังโดยไม่ละเมดิ ความคดิ ตนเอง สิทธิผอู้ ื่น 3. Interpersonal Relation ม.2 1. อา่ นออกเสยี งทถี่ ูกตอ้ งตามหลกั ตดั สินใจในสถานกาณ์ ship การอา่ นขา่ ว การอา่ นขา่ ว อยา่ งมีเหตผุ ลและ 2. วเิ คราะหข์ า่ วได้อย่างสร้างสรรค ์ รอบคอบ 3. ทำงานรว่ มกันผอู้ น่ื บนพนื้ ฐาน ประชาธิปไตย 26

หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 กลมุ่ สาระ ชื่อแผนการ คำถาม R - C - A ที่มงุ่ ตวั ช้ีวดั /วตั ถุประสงค์ เนน้ พัฒนาทกั ษะชวี ิต การเรียนรู้ จดั กิจกรรมการเรียนรู ้ ชัน้ ตาม มาตรฐานการเรียนรกู้ ลุ่มสาระ ตามองคป์ ระกอบหรอื พฤติกรรมทกั ษะชีวติ 4. Knowledge language ม.4- 1. พ ดู และเขยี นบรรยายความรู้สกึ การผอ่ นคลายอารมณ์ พดู และเขียนแสดง ม.6 2. สจ ารกา้ งขคา่ ววาไดม ้สขุ ใหก้ บั ตนเองและ และความเครยี ด ผอู้ ่นื ได้ ท่ไี ม่พึงประสงค์ ความร้สู ึก 27



ตวั อย่าง การพัฒนาทกั ษะชีวติ บูรณาการการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรยี นรู ้ ภาษาไทย

แนวทางการพฒั นาทักษะชวี ติ บูรณาการการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนร ู้ พฤตกิ รรมทักษะชีวติ ทสี่ อดคลอ้ งกบั ตัวช้ีวดั มาตรฐานการเรยี นรกู้ ลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (สาระที่ 1 การอา่ น สาระท่ี 2 การเขียน สาระท่ี 3 การฟงั การดู การพูด สาระที่ 5 วรรณคดแี ละวรรณกรรม) องค์ประกอบ รายละเอยี ดองค์ประกอบทักษะชีวิต ท่สี อดคลอ้ ง ที่สอดคลอ้ งกบั ตัวชว้ี ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ ชนั้ 1 2 3 4 1. ตระหนกั รู้และ 2. คิดวเิ คราะห์ 3. การจดั การกับ 4. การสร้าง เห็นคณุ ค่า ตดั สินใจและ อารมณแ์ ละ สมั พนั ธภาพที่ด ี ในตนเองและผ้อู ่ืน แกป้ ญั หาอย่าง ความเครียด สรา้ งสรรค์ กบั ผู้อื่น ป.1 ✓ ✓ - - แสดงความสามารถ ตง้ั คำถา มนำไปสู ่ - ฟังผ้อู น่ื อย่างตงั้ ใจ ของตนเองให้ผอู้ ่นื คำตอบ ทเี่ ปน็ และรบั รคู้ วามรสู้ กึ รบั รู้ แนวทา งในการ และความต้องการ สแกถา้ปนญั กห าารใณน์ ต่าง ๆ ของผ้พู ดู ป.2 - ✓ - ✓ - วเิ คราะหจ์ ำแนก - ใช้ภาษาพูด ภาษากาย แยกแยะขอ้ มูลขา่ วสาร ทีท่ ำให้ผู้อ่นื ผอ่ นคลาย และสถานการณ์ สบายใจไมก่ ่อให้เกดิ ต่าง ๆ รอบตัว ความขัดแย้งหรือ ดว้ ยเหตผุ ลทเ่ี ชอ่ื ถอื ได ้ ความรนุ แรงได ้ ป.3 - - - ✓ - - - แสดงออกหรอื สะทอ้ นความรู้สึก หรือการกระทำของ ตนเองท่แี สดงว่า เขา้ ใจและใส่ใจผ้อู ่ืน ป.4 - ✓ - ✓ - แสดงผลงานทเ่ี กดิ - แสดงความคดิ เห็น จากการคดิ เชือ่ มโยง ความร้สู ึก ความ และจินตนาการ ชนื่ ชมและการกระทำ ทด่ี ีงามใหผ้ ูอ้ น่ื รับร้ไู ด้ ป.5 - ✓ - - - วิพากษว์ ิจารณ์บน - - พ้นื ฐานของขอ้ มูล สารสนเทศทถี่ กู ตอ้ ง 30

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 องค์ประกอบ รายละเอยี ดองค์ประกอบทักษะชวี ิต ท่สี อดคลอ้ ง ที่สอดคลอ้ งกบั ตวั ชีว้ ดั มาตรฐานการเรยี นร ู้ ช้ัน 1 2 3 4 1. ตระหนกั ร้แู ละ 2. คดิ วเิ คราะห์ 3. การจัดการกับ 4. การสรา้ ง เหน็ คุณค่า ตดั สินใจและ อารมณแ์ ละ สมั พันธภาพที่ดี ความเครยี ด ในตนเองและผู้อืน่ แก้ปญั หาอยา่ ง กบั ผู้อ่ืน สรา้ งสรรค ์ ป.6 - ✓ - ✓ - วิพากษ ์วิจารณต์ าม - - ปฏบิ ัติตามกฎ หลักกา รเหตุผลและ กติกาของกลมุ่ ใชข้ ้อมูล สารสนเทศ ช้ันเรยี นและสังคม ท ถ่ี กู ตอ้ งสนับสนนุ - รู้จกั ปฏเิ สธ ตอ่ รอง รอ้ งขอความ ช่วยเหลือไดถ้ กู ต้อง เหมาะสมในแต่ละ สถานการณ ์ ม.1 - ✓ - ✓ - - มจี นิ ตนาการและ - - รูจ้ ักปฏเิ สธเพอ่ื น ความคิดรเิ รม่ิ ในสถานการณ์ สร้างสรรค์ เสยี่ ง - เลือกรับข้อมลู ข่าวสาร - รจู้ กั เตอื นเพอ่ื น อย่างไตร่ตรอง - กลา้ แสดงความ และรเู้ ท่าทนั ชีวติ คดิ เห็นต่อ และสังคมท่ี สถานการณ์ตา่ ง เปลีย่ นแปลง อยา่ งมเี หตุผล ม.2 - ✓ - ✓ - - ตัดสนิ ใจอย่างมี - มีวธิ ีการส่ือสารกบั เหตผุ ลตอ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความสุภาพ สถานการณ์ตา่ ง ๆ และเป็นมติ ร ทเ่ี ผชิญ - มจี นิ ตนาการและ ความคดิ ริเรม่ิ สรา้ งสรรค์ ม.3 ✓ ✓ - - มีความภาคภมู ใิ จใน มีทักษะในการ - - ตนเองและผ้อู ืน่ แสวงหาข้อมูลและ ใช้ข้อมูล 31

แนวทางการพัฒนาทกั ษะชวี ิต บูรณาการการเรียนการสอน 8 กลมุ่ สาระการเรียนร ู้ องคป์ ระกอบ รายละเอยี ดองคป์ ระกอบทักษะชวี ิต ทส่ี อดคล้อง ท่ีสอดคล้องกับตัวชว้ี ัด มาตรฐานการเรียนร้ ู ชั้น 1 2 3 4 1. ตระหนกั รูแ้ ละ 2. คดิ วิเคราะห์ 3. การจดั การกับ 4. การสรา้ ง เหน็ คุณคา่ ตัดสินใจและ อารมณ์และ สมั พันธภาพทดี่ ี ความเครียด ในตนเองและผอู้ นื่ แกป้ ัญหาอย่าง กบั ผอู้ ่ืน สร้างสรรค ์ ม.4- ✓ - - ✓ มที กั ษะการกำหนด - - - กลา้ แสดงความคดิ ม.6 ทิศทางและวางแผน เหน็ ของตนเอง การดำเนินชวี ติ ไปสู่ ต่อสถานการณ์ เปา้ หมายความ ต่าง ๆ อยา่ งมี สำเรจ็ ทีต่ นเอง เหตุผลและหลกั คาดหวัง วชิ าการทเี่ หมาะสม - มีวิธกี ารสอื่ สารกบั ผ้อู นื่ ท้ังดา้ นภาษา พูด ภาษากายด้วย ความสภุ าพและ เป็นมติ ร ในสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สามารถพัฒนาทักษะชีวิตได้ทุกองค์ประกอบ และ องค์ประกอบทักษะชีวิตท่ีไม่สอดคล้องกับตัวช้ีวัดมาตรฐานการเรียนรู้สาระภาษาไทย ครูสามารถ พฒั นาและเสรมิ สรา้ งทักษะชวี ิตด้วยเทคนคิ คำถาม R - C - A 32

หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนร้บู ูรณาการทกั ษะชวี ิตในกล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย ชั้น ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เรอ่ื ง ชา้ งกม็ หี ัวใจ เวลา 1 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนร ู้ - ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่าง เหน็ คณุ คา่ และนำมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตจรงิ 2. สาระ/ตวั ชีว้ ัด - ทอ่ งจำบทอาขยานตามทีก่ ำหนดและบทร้อยกรองตามความสนใจ 3. วัตถุประสงค ์ - อ่านบทรอ้ ยกรองได้ถกู ตอ้ งตามเนอ้ื หา ทำนองเสนาะและจังหวะ 4. องคป์ ระกอบทักษะชีวิต : ตระหนกั รูแ้ ละเหน็ คุณค่าในตนเองและผ้อู นื่ - รูจ้ กั ความถนัดและความสามารถของตนเอง (แสดงความสามารถของตนเองให้ผอู้ ื่นรับร)ู้ 5. สาระเนอื้ หา - อา่ นคลอ่ งร้องเล่น (การอา่ นบทรอ้ ยกรองส้ัน) 6. กจิ กรรมการเรียนร ู้ 6.1 นักเรยี นฟงั ครอู ่านบทร้อยกรอง “อา่ นคล่องร้องเล่น” 2 เทย่ี วและสนทนารว่ มกัน 6.2 นกั เรยี นฝกึ อ่านบทร้อยกรองตามครู 3 เที่ยว จากนน้ั ฝึกอา่ นพร้อมกนั 6.3 นักเรียนแบ่งกล่มุ ๆ ละ 5 คน ฝกึ อ่านบทร้อยกรอง “อา่ นคล่องร้องเล่น” 6.4 นกั เรียนรบั ซองบตั รคำจากครู กลมุ่ ละ 1 ซอง (ซองบัตรคำจากบทรอ้ ยกรองท่ีอ่าน) 6.5 ครูติดกระเป๋าผนังบทร้อยกรองและเว้นคำที่ต้องการให้นำคำจากบทร้อยกรองท่ีอ่าน มาเติม 6.6 ครูให้สัญญาณแต่ละกลุ่มแข่งขันบัตรคำบทร้อยกรองมาเติมในช่องว่างบนกระเป๋าผนัง ให้ถกู ตอ้ งตามเน้ือหาของบทร้อยกรอง 6.7 กลุ่มใดเสร็จกอ่ นและถกู ตอ้ งเป็นผชู้ นะ 33

แนวทางการพฒั นาทักษะชวี ิต บูรณาการการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรยี นร ู้ 6.8 สนทนาด้วยเทคนิคคำถาม R - C - A เพ่ือพัฒนาทักษะชีวิต การรู้จักอารมณ ์ ของตนเอง คำถามเพื่อการสะท้อน (R) - นักเรียนมีความรู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้ฝึกอ่านบทร้อยกรองร่วมกับเพ่ือน (ยาก-ง่าย หรือ ชอบ-ไมช่ อบ อยา่ งไร) - นักเรียนมีอารมณ์ความรู้สึกอย่างไรในขณะแข่งขันเติมคำในบทร้อยกรอง (เปน็ ทุกข-์ สนกุ ไม่พอใจ-พอใจ) - กลุ่มท่ีชนะรสู้ ึกอย่างไร - กลุ่มท่ไี ม่ชนะร้สู กึ อย่างไร คำถามเพอื่ การเช่อื มโยง (C) - ความรสู้ กึ /อารมณ์ทเี่ กดิ ขึ้นเกดิ จากสาเหตอุ ะไรบ้าง - กล่มุ ท่ชี นะทำอย่างไรจึงชนะการแขง่ ขัน - กลุ่มท่เี ติมคำไดไ้ มถ่ ูกต้องเปน็ เพราะอะไร คำถามเพอ่ื การปรบั ใช้ (A) - ในการฝึกอ่านเขียนภาษาไทยคร้ังต่อไป นักเรียนต้องการปรับปรุงวิธีการฝึก หรือการแขง่ ขันอะไรบา้ ง และปรับปรงุ อย่างไร - ทำอยา่ งไรจึงจะไม่ทำให้เราเกดิ อารมณ์หรือความรู้สกึ ท่ีไมด่ ี 34

หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 7. สือ่ การเรียนรู้ 7.1 บทรอ้ ยกรอง 7.2 กระเปา๋ ผนัง ซองบตั รคำจากบทรอ้ ยกรอง 7.3 ประเดน็ คำถาม R - C - A 8. การประเมนิ ผล 8.1 สังเกต ความสามารถในการอ่านบทร้อยกรอง 8.2 สังเกต พฤติกรรม/การตอบคำถามและการแสดงความรู้สึกให้ผู้อ่ืนรับรู้ การฟังผู้อ่ืน อย่างต้ังใจ 8.3 ตรวจสอบ ความสามารถในการส่ือความคิด ความรู้สึกของตนเองให้ผู้อ่ืนเข้าใจและ การคิดปรบั ปรงุ การคิดปฏิบัตติ นในโอกาสตอ่ ไปของผ้เู รยี น 9. พฤติกรรมทผี่ ู้เรยี นควรไดร้ บั การพัฒนาและแสดงออก 9.1 การแสดงความสามารถในการอ่านบทรอ้ ยกรอง 9.2 การแสดความสามารถในการร้จู ัก เข้าใจคำในบทรอ้ ยกรองโดยการแข่งขัน 9.3 การฟงั ผู้อน่ื อยา่ งตั้งใจ และรับรคู้ วามรู้สกึ ของผพู้ ดู 9.4 การรู้สาเหตุของการเกดิ ความรสู้ ึก (อารมณ์) ทด่ี ี/ไมด่ ีของตนเอง บทรอ้ ยกรอง เร่ือง “อ่านคลอ่ งรอ้ งเล่น” พดู เพราะช้างถูกใจ จะว่าง่ายไมด่ อ้ื ดึง ถา้ ดจุ ะมึนตึง เสียงโกรธข้งึ จะดอ้ื ใส ่ ถงึ แม้จะเปน็ ชา้ ง รไู้ วบ้ ้างมีหวั ใจ ใจใครก็ใจใคร พูดเพราะไว้ได้ไมตร ี 35

แนวทางการพัฒนาทักษะชีวิต บรู ณาการการเรยี นการสอน 8 กลุ่มสาระการเรยี นร ู้ แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นร้บู รู ณาการทกั ษะชีวิตในกล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวิชา ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 5 เร่ือง นักข่าวร่นุ เยาว์ เวลา 2 ชัว่ โมง 1. มาตรฐานการเรยี นร ู้ - ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณและพูดแสดงความรู้ ความคิดและ ความรู้สึกในโอกาสตา่ ง ๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค ์ 2. สาระ/ตวั ช้ีวัด - มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด 3. วัตถุประสงค์ - เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นมีมารยาทในการฟัง 4. องค์ประกอบทักษะชวี ติ : การคิด วิเคราะห์ ตดั สนิ ใจ และแก้ปญั หาอย่างสรา้ งสรรค์ 4.1 วพิ ากษ์ วจิ ารณบ์ นพ้ืนฐานของขอ้ มูลทถ่ี ูกตอ้ ง 4.2 คาดคะเนความเสย่ี งจากสถานการณ์ที่เผชญิ ในชีวติ ประจำวันอย่างมีเหตผุ ล 5. สาระเนื้อหา - การวเิ คราะห์ข่าวประจำวนั (ขา่ วอุบตั ภิ ัย ขา่ วภยั สงั คม เชน่ ภัยทางเพศ ภยั ดา้ นสุขภาพ ฯลฯ) 6. กิจกรรมการเรียนร ู้ 6.1 มอบหมายให้ผู้เรียนไปอ่านข่าวและคัดเลือกข่าวท่ีผู้เรียนคิดว่าอาจเกิดขึ้นกับตนเองได้ ถ้าไม่ปอ้ งกันตนเอง 6.2 ตัวแทนผูเ้ รียนแต่ละกลมุ่ ออกมาอา่ นขา่ วทีไ่ ปศึกษามาแล้วและเลอื กมาอ่านกลุ่มละ 1 ขา่ ว 6.3 ผู้เรียนและครูสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับข่าวที่ได้รับฟัง หรือให้อภิปรายกลุ่มตาม ประเดน็ ต่อไปน้ ี 6.3.1 นักเรยี นมคี วามรู้สกึ อย่างไรเก่ยี วกับข่าวท่ีเพ่อื น ๆ นำมาอ่านให้ฟัง 6.3.2 ในชีวิตจริง นักเรียนเคยพบเห็นคนท่ีประสบกับภัยอันตรายเหมือนในข่าว ท่ฟี ังหรอื ไมอ่ ยา่ งไร 36

หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ● นักเรียนคิดว่าจากสถานการณ์ในข่าวจะมีผลกระทบตามมาหรือไม่ ใครได้รับ ผลกระทบบา้ ง รุนแรงหรอื มากน้อยเพยี งใด ● ในวิถีการดำเนินชีวิตจริงของนักเรียนจะมีโอกาสพบหรือเผชิญกับเหตุ การณห์ รอื สถานการณด์ ังในข่าวบา้ งหรอื ไม่ เพราะอะไร ● หากมีโอกาสเผชิญสถานการณ์ดังในข่าว นักเรียนจะมีวิธีการป้องกันหรือ หาทางออกให้กับตัวเองอยา่ งไรบา้ ง เปิดโอกาสให้ผู้เรียนร่วมอภิปรายอย่างอิสระ กระตุ้นให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการแสดง ความคิดเห็นตามหลักการแสดงความคิดเห็น การวิพากษ์วิจารณ์ด้วยเหตุผล ข้ออ้างอิงสนับสนุน ความคิดเห็นและแสดงกริ ยิ าวาจาสุภาพ 6.4 ร่วมกันสรุปสาระสำคัญของประเด็นคำถามข้อคิดเก่ียวกับการรู้จักคาดคะแนน ความเสีย่ งของตนเองท่อี าจเกดิ จากการเผชญิ สถานการณ์ในชวี ติ ประจำวนั ที่ไดร้ ับร้จู ากข้อมลู ขา่ วสาร 6.5 สนทนาด้วยเทคนิคคำถาม R - C - A เพ่ือพัฒนาทักษะชีวิตการยุติข้อขัดแย้ง ในกลุ่มเพ่ือนดว้ ยสันติวธิ ี คำถามเพ่อื การสะทอ้ น (R) - นักเรยี นมคี วามรสู้ ึกอยา่ งไร ในขณะท่ีอภปิ รายแสดงความคิดเหน็ - ในกลมุ่ ของนกั เรียนมีความขัดแย้งกนั บ้างหรอื ไม่ เป็นการขดั แยง้ กันเรอื่ งอะไร คำถามเพื่อการเช่อื มโยง (C) - ในการเรียน การทำงานของนักเรียน มีความขัดแย้งกันเรื่องอะไรมากท่ีสุด สาเหตมุ าจากอะไร - นกั เรยี นสังเกตไหมวา่ นกั เรยี นและเพือ่ น ๆ ทำอย่างไร ความขัดแย้งนนั้ จึงยุติลง - หากความขัดแย้งน้ันไม่ยุติลงจะเกิดผลตามมาอย่างไรบ้าง ทั้งต่อตัวเองและ บุคคลอืน่ ๆ คำถามเพือ่ การปรบั ใช้ (A) - หากนักเรียนหรือกลุ่มของนักเรียนเกิดความขัดแย้งกัน นักเรียนมีแนวทาง การปฏบิ ัติอย่างไรจงึ จะยตุ ิความขัดแย้งนนั้ ได ้ - หากในอนาคตนักเรียนเผชิญกับความขัดแย้งหรือเป็นผู้ร่วมในความขัดแย้ง จะป้องกันไม่ให้เกดิ ขดั แยง้ รุนแรงอย่างไรบา้ ง 37

แนวทางการพัฒนาทกั ษะชวี ติ บูรณาการการเรียนการสอน 8 กล่มุ สาระการเรียนร ู้ 7. สื่อการเรยี นร ู้ 7.1 สงั เกตความสามามารถในการวพิ ากษว์ จิ ารณ์ด้วยเหตุผลและขอ้ มลู ท่ีถกู ต้องเหมาะสม 7.2 การฟังผ้อู ่นื อยา่ งต้ังใจ 7.3 การพูดแสดงความคดิ เหน็ วิพากษ์วิจารณ์อยา่ งมีมารยาท 7.4 การเสนอความคดิ เพ่อื การปรบั ใช้วธิ ีการยุติความขัดแยง้ ดว้ ยสนั ติวธิ ี 38

หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรบู้ ูรณาการทักษะชีวติ ในกลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 เร่ือง การอ่านอยา่ งสรา้ งสรรค ์ เวลา 2 ชว่ั โมง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ - ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหา ในการดำเนินชีวติ และมีนสิ ัยรักการอ่าน 2. สาระ/ตวั ช้วี ัด - ระบขุ ้อสังเกต การชวนเชอื่ โน้มนา้ วหรอื ความสมเหตสุ มผลของงานเขยี น 3. วัตถุประสงค์ - เพื่อใหน้ กั เรยี นทำงานรว่ มกับผอู้ ่ืนได้อยา่ งราบรนื่ และมีความสขุ 4. องค์ประกอบทกั ษะชวี ิต : การคดิ วเิ คราะห์ ตดั สนิ ใจและแกป้ ัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ - รู้จักแกป้ ญั หาอยา่ งสร้างสรรค์ (ทำงานรว่ มกับผู้อื่นไดอ้ ยา่ งราบรน่ื และมีความสุข) 5. สาระเนอ้ื หา - การอ่านจับใจความและสงั เคราะห์แนวคิดจากการอา่ นผลงานเขียนที่ดี 6. กิจกรรมการเรยี นรู้ 6.1 นักเรียนอ่านหนังสือนอกเวลาตามความสนใจมาคนละ 1 เร่ือง เช่น นิยาย นิทาน บทความ วารสาร วรรณคดี วรรณกรรม เรือ่ งสัน้ สารคดี 6.2 นักเรยี นจับกลมุ่ ตามลกั ษณะของหนังสอื ทีอ่ า่ น 6.3 แต่ละกล่มุ สรปุ รว่ มกันเกี่ยวกับประเดน็ สำคญั จากเร่อื งทอี่ ่าน 6.3.1 เรอ่ื งย่อ 6.3.2 ขอ้ คดิ ทไี่ ดร้ บั /ประโยชน์ 6.3.3 ถ้อยคำสำนวนโวหารในเรือ่ ง 6.3.4 การเดนิ เรอื่ ง การวางโครงเรือ่ ง 6.3.5 ความสอดคล้องกับสภาพสังคม สถานการณใ์ นปจั จบุ ัน 39


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook