01Lesson1(2-2017)_handout

GE1403 Rachanee K. บทที่ 1 จุดมงุ่ หมายของการฟงั การฟงั 1. เพอ่ื จับใจความสาคญั 2. เพอื่ จับใจความโดยละเอียด 3. เพอ่ื หาเหตุผลมาโตแ้ ยง้ หรือคล้อยตาม 4. เพือ่ ส่งเสริมจินตนาการและความคิด สรา้ งสรรค์ 5. เพอ่ื ความสนกุ สนานเพลดิ เพลนิ 1. การฟงั เพอ่ื จบั ใจความสาคญั มักใชแ้ กก่ ารฟงั เป็นการฟังเพอ่ื เก็บสว่ นทเ่ี ป็นใจความ  ความรู้ท่วั ไปในการดาเนินชีวิตประจาวนัสาคัญหลกั ของเรือ่ ง  ข่าวสาร  เหตกุ ารณค์ วามเปน็ ไปในสังคม  โฆษณา ตวั อยา่ ง สมสุขแสดงความคิดเห็นวา่ ปัญหาการจราจร ในกรุงเทพฯสามารถแก้ไขได้ หากรัฐบาลสร้าง • การฟงั เพอื่ จบั ใจความสาคญั ถนนลอยฟ้าเหมือนประเทศญี่ปุ่น กรุงเทพฯจะมี ถน น ม า ก ขึ้ น กา ร จ ร า จ ร จ ะ คล่ อ ง ตั ว ปั ญ ห าRachanee K. การจราจรติดขัดอย่างที่เป็นอยู่จะหมดไป แต่สีดา ไม่เหน็ ด้วยกบั ความคิดดังกล่าว เธอคิดว่าเป็นเร่ือง ไม่ถูกต้องที่จะนางบประมาณของประเทศมาสร้าง ถนนลอยฟ้าให้คนในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการไม่ ยุติธรรมต่อคนไทยในท้องทอ่ี ่ืน 1

GE1403 Rachanee K. ใจความสาคญั หลกั ของเรอื่ งคอื 2. การฟงั เพอื่ จบั ใจความโดยละเอยี ด สีดาไม่เหน็ ดว้ ยกับวธิ แี กป้ ญั หาจราจรของสม  เป็นการฟงั เพอื่ จบั ใจความสาคัญหลัก สุข และใจความสาคญั รองของเร่อื ง  มักใช้แกก่ ารฟัง • เพื่อย่อความหรือตอบคาถามต่างๆ มักใชแ้ ก่การฟงั ตัวอยา่ ง • บรรยาย • การฟงั เพอื่ จบั ใจความโดยละเอยี ด • ปาฐกถา • ประกาศ • การแนะนาตัว • การสัมภาษณ์ สมสขุ แสดงความคิดเห็นวา่ ปัญหาการจราจร ประเดน็ หลกั และพลความทส่ี าคญั คอื ในกรุงเทพฯสามารถแก้ไขได้ หากรัฐบาลสร้าง ถนนลอยฟ้าเหมือนประเทศญี่ปุ่น กรุงเทพฯจะมี สีดาไมเ่ หน็ ดว้ ยกบั วิธีแกป้ ัญหาจราจรของ ถน น ม า ก ข้ึ น กา ร จ ร า จ ร จ ะ คล่ อ ง ตั ว ปั ญ ห า สมสุข เพราะการนางบประมาณของประเทศ การจราจรติดขัดอย่างท่ีเป็นอยู่จะหมดไป แต่สีดา มาสร้างถนนลอยฟ้าเพ่ือแก้ปัญหาจราจรให้ ไมเ่ หน็ ดว้ ยกับความคิดดังกล่าว เธอคิดว่าเป็นเร่ือง ค น ใ น ก รุ ง เ ท พ ฯ ไ ม่ ยุ ติ ธ ร ร ม ต่ อ ค น ไ ท ย ใ น ไม่ถูกต้องท่ีจะนางบประมาณของประเทศมาสร้าง ท้องทอ่ี ่นื ถนนลอยฟ้าให้คนในกรุงเทพฯ ซ่ึงเป็นการไม่ ยตุ ิธรรมต่อคนไทยในท้องที่อืน่Rachanee K. 2

GE1403 Rachanee K. 3. การฟังเพอ่ื หาเหตุผลมาโตแ้ ย้งหรอื คล้อยตาม มกั ใชแ้ กก่ ารฟงั  เป็นการฟังทต่ี อ้ งวเิ คราะห์ • การสนทนาทางธุรกจิ  มกั ใชแ้ กก่ ารฟัง • รายงาน • การนาเสนอผลงาน • การอภิปราย • การประชุม ตัวอยา่ ง โสนริมน้าก็ช้ากลีบเฉา สะแกตน้ เกา่ ก็แตกกงิ่ กอ จากคาประพนั ธ์ต่อไปน้ขี ้อความใดเปน็ ความ กระเพ่อื มลมกราวจะหนาวแล้วหนอ คิดเหน็ วะหววิ ขลยุ่ คลอประเลงเพลงรัก กระเดื่องไม้ขอนกระดอนตาข้าว เขยง่ เก็งกา้ วกระตกึ ตึกตกั เพราะแรงสาวเหยียบขยับเยื้องยัก สะเท้ินคาทักสิหนักใจสาว 4. การฟงั เพอ่ื สง่ เสรมิ จนิ ตนาการและ เชน่ เกดิ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ • ในด้านการใช้คา  เปน็ การฟังทผ่ี ู้ฟังจะต้องใช้ความนึกคิด • ในด้านฉนั ทลกั ษณ์ สรา้ งภาพขึ้นในใจเพ่ือใหเ้ กดิ จนิ ตนาการ • ในดา้ นแก่นเรอ่ื ง และความคิดสร้างสรรค์ • ในดา้ นการนาเสนอRachanee K. 3

GE1403 Rachanee K. มกั ใชแ้ ก่การฟงั 5. การฟงั เพอ่ื ความสนกุ สนานเพลดิ เพลนิ  เป็นการฟังเพื่อความสนุกสนานเพลดิ • สนุ ทรพจน์ • โอวาท เพลนิ • ปราศรยั  ผูฟ้ ังจะตอ้ งจนิ ตนาการไปพร้อมๆกบั • เรอ่ื งสั้นและนวนิยาย • เร่ืองเล่าจากประสบการณ์ การถ่ายทอดของผู้พูด มกั ใชแ้ ก่การฟงั ประเภทของการฟงั• การฟังละครวิทยุ 1. การฟงั การส่ือสารระหวา่ งบคุ คล• การฟังวรรณคดี 2. การฟังในกลมุ่ ขนาดเลก็• การฟงั เพลง 3. การฟงั ในทป่ี ระชุมชน 4. การฟังจากสอ่ื มวลชน 1. การฟงั การสอื่ สารระหวา่ งบคุ คล ประโยชน์ เปน็ การฟงั ท่เี กดิ จากการสือ่ สารของบคุ คล 1. เปน็ การสร้างความสมั พนั ธ์ที่ดกี ับผู้อน่ื 2 คน 2. กระชบั ความสมั พนั ธก์ บั ผู้อืน่ 3. ช่วยฝึกฝนในการจับประเด็นและตอบโต้ อยา่ งรวดเร็ว 4. นาไปสกู่ ารพัฒนาตนเองในด้านอน่ื ๆRachanee K. 4

GE1403 Rachanee K. ขอ้ ปฏบิ ตั ิ ขอ้ ปฏบิ ตั ิ (ต่อ) 1. ปรับตวั ใหเ้ ข้ากับคูส่ นทนา 4. รกั ษามารยาทในการฟงั 2. แสดงกริ ยิ าอาการเปน็ มติ ร 5. มีสว่ นร่วมในการสนทนา 3. แสดงความสนใจผ้พู ูดและเรื่องท่เี ขาพูด 6. จูงใจให้คสู่ นทนาพูดในประเด็น 7. ใช้ไหวพริบให้การสนทนาดาเนนิ ไป อยา่ งสม่าเสมอ อยา่ งราบรื่น 2. การฟงั ในกลมุ่ ขนาดเลก็ ประโยชน์  เปน็ การฟังการสอ่ื สารของบคุ คลตงั้ แต่ 1. เปน็ การสรา้ งสัมพนั ธท์ ดี่ ีตอ่ กัน 3 คนขึ้นไป 2. ทาให้เข้าใจกลมุ่ มากขึน้ 3. ทาใหร้ จู้ กั การร่วมมอื กับผ้อู ื่น ข้อปฏบิ ตั ิ 3. การฟงั ในทป่ี ระชมุ ชน 1. ทาความเขา้ ใจเร่อื งทจี่ ะฟังมาก่อน  การฟังในที่ประชุมชนเป็นการฟังที่มีผู้ฟัง 2. ตัง้ ใจฟังอย่างสม่าเสมอ เปน็ จานวนมาก 3. แสดงความรคู้ วามคดิ ของตนเอง 4. ใชศ้ ิลปะในการโต้แย้งRachanee K. 5

GE1403 Rachanee K. ประโยชน์ ขอ้ ปฏบิ ตั ิ 1. ไดร้ ับความรู้ ความคิดเห็น และความ 1. ทาความเขา้ ใจหัวขอ้ ท่ีจะฟงั มากอ่ น เพลิดเพลนิ 2. แสดงปฏกิ ริ ิยาตอบสนองผพู้ ดู ตามความ 2. ได้ศกึ ษาวธิ กี ารพูดและการเสริมสรา้ ง เหมาะสม บคุ ลกิ ภาพ 3. สังเกตลักษณะเฉพาะตัวของผพู้ ดู เพื่อ 3. นาความรแู้ ละความคิดท่ไี ดไ้ ปพฒั นา ช่วยให้จับประเดน็ ได้แมน่ ยาข้นึ และ ชีวติ ตนเองในดา้ นตา่ งๆ เขา้ ใจความคิดของผู้พดู ได้งา่ ยขึน้ ขอ้ ปฏบิ ตั ิ 4. การฟงั จากสอื่ มวลชน 4. สรา้ งสมาธิในการฟงั เป็นการฟงั ผ่านสอื่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์โดยผู้พูด 5. จดบนั ทึกสาระสาคญั กบั ผฟู้ ังจะอย่คู นละสถานท่ี 6. รกั ษามารยาทในการฟงั อย่างเคร่งครดั ประโยชน์ ข้อปฏบิ ตั ิ 1. ไดร้ ับความรู้ 1. เลอื กฟังรายการท่ีมีประโยชน์ 2. เปน็ ที่ยอมรับของสงั คม 2. ใชว้ ิจารณญาณในการฟัง ได้แก่ 3. นาความคดิ ทีไ่ ด้จากการฟงั ไปประยุกต์ใช้ 4. ช่วยผ่อนคลายความเครียด 1) รู้จกั วเิ คราะห์และประเมินวา่ นา่ เชอ่ื ถอื หรอื ไม่ 2) ร้จู ักประเมินเจตนา จดุ มุ่งหมายและ ความจรงิ ใจของผู้พดูRachanee K. 6

GE1403 Rachanee K. ขอ้ ปฏบิ ตั ิ ประโยชนข์ องการฟงั 3. ฟงั อยา่ งมสี ติ 1. ประโยชน์ต่อตวั ผู้ฟงั 4. ฟงั สื่อทห่ี ลากหลาย 2. ประโยชนต์ ่อสังคม 5. พจิ ารณาความสมั พันธร์ ะหว่างสารเพือ่ รับสารอย่างครบถ้วน ขั้นตอนการฟงั ขนั้ ตอนการฟงั มี 10 ขัน้ ตอนคือ 3. ขั้นทาความเข้าใจ ผู้ฟังเกิดความรู้สึกว่า 1. ข้นั ได้ยนิ เปน็ การรับเสยี งเข้าส่ปู ระสาทหู เ ข้ า ใ จ ห รื อ ไ ม่ เ ข้ า ใ จ ภ า ษ า ท่ี ผู้ พู ด ใ ช้ 2. ข้ันให้ความสนใจ ผู้ฟังเริ่มให้ความสน สื่อสาร ใจและตง้ั ใจฟังเสียงน้นั 4. ขน้ั แยกเรือ่ ง เป็นข้ันการเทียบเสียงต่างๆ ทีไ่ ดย้ ินว่าเหมือนหรอื ต่างกันอยา่ งไร ข้นั ตอนการฟงั ขนั้ ตอนการฟงั 5. ขั้นยอมรับ เป็นข้ันที่ผู้ฟังยอมรับว่าข้อ 7. ข้ันเกิดความเข้าใจ เป็นข้ันท่ีผู้ฟังเก็บ ความที่ได้ฟังน้ันสื่อความหมายได้หรือ ใ จ ค ว า ม ส า คั ญ ข อ ง เ ร่ื อ ง ท่ี ฟั ง ไ ด้ อ ย่ า ง ปฏิเสธว่าสอื่ ความหมายไม่ได้ ถ่องแท้ 6. ข้ันคิดตีความ เป็นการแปลความหมาย 8. ขน้ั ตอบสนอง เมือ่ เข้าใจแล้วผู้ฟังจะตอบ หรอื ตคี วามขอ้ ความที่ไดฟ้ งั สนอง เช่น หัวเราะ ยิ้ม พยักหน้าตลอด จนการพูดโต้ตอบกบั ผ้พู ูดRachanee K. 7

GE1403 Rachanee K. ขนั้ ตอนการฟงั การฟงั ทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ 9. ขน้ั เชื่อถอื เปน็ ขั้นของการตัดสินใจที่จะ 1. เขา้ ใจเรือ่ ง คอื สามารถจบั ประเด็นสาคัญ เชื่อหรอื ไม่เชอ่ื เรอ่ื งทฟ่ี งั ของเรอื่ งได้ 10. ข้ันนาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เป็นข้ัน 2. จับประเดน็ ได้ คอื สามารถจับประเด็นหลัก และประเด็นรอง สามารถเรยี บเรียงเร่ือง สุดท้าย ผู้ฟังจะนาความรู้ที่ได้ไป อย่างย่อ ๆ ได้ ประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจาวนั ต่อไป การฟงั ทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ การฟงั ทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ 3. วเิ คราะห์ได้ เมื่อฟงั แล้วสามารถ 4. ตีความได้ สามารถเข้าใจข้อความที่มี 1) แยกส่วนทีเ่ ป็นเหตุและเปน็ ผล ความหมายไมต่ รงตามตวั อกั ษร 2) แยกส่วนท่เี ปน็ ข้อเท็จจริงและเป็น ความคดิ เหน็ 5. ประเมนิ ค่าได้ สามารถบอกได้ว่าดีหรอื 3) บอกเจตนาของผู้พูด ไมด่ ี 6. จดบันทึกได้ สามารถจดสาระสาคัญ ของสารทีฟ่ งั ได้Rachanee K. 8