ในการบนั ทึกบญั ชโี ดยท่ัวไป อาจจาเป็นต้องมีการปรบั ปรงุ บัญชกี ่อนหาผลการดาเนินงาน หรือในการจัดทางบการเงนิ ตา่ งๆ เพอื่ แสดงยอดให้ถกู ต้องและเป็นปจั จบุ ัน ซง่ึ รายการที่ ต้องปรบั ปรุง ไดแ้ ก่รายไดร้ บั ลว่ งหนา้ รายได้ค้างรบั ค่าใชจ้ ่าย จ่ายล่วงหน้า ค่าใช้จ่ายค้างจา่ ย หนสี้ งสยั จะสูญ วัสดุสานักงาน ค่าเสือ่ มราคา เป็นตน้ ซึง่ อาจมียอดบญั ชีเพิ่มขึ้นหรอื ลดลงของ จานวนเงนิ ในสมดุ รายวันทัว่ ไป และสมดุ บัญชีแยกประเภท ทวั่ ไปโดยในการปรับปรุงบัญชจี ะบนั ทกึ รายการในสมดุ รายวนั ทว่ั ไป แลว้ ผ่านรายการไปยงั บญั ชแี ยกประเภททวั่ ไป
รายการปรับปรุงบัญชี (Adjusting Entrips) หมายถึง การปรับปรุงจานวนเงินที่บันทึกไว้ในบัญชีให้ถูกต้องก่อนการจัดทางบ การเงิน ซงึ่ จะตอ้ งบันทกึ ในสมดุ รายวันท่วั ไปและผ่านไปยงั สมุดบัญชแี ยกประเภททั่วไปท่ีเก่ียวข้อง โดยรายการปรับปรุงเป็นรายการที่ สาคัญรายการหน่ึงท่ีจะต้องทาในวันสิ้นงวดบัญชี เนื่องจากจะมีผลทาให้งบการเงินแสดงว่ากิจการมีสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของ เจา้ ของ ณ วนั สน้ิ งวดจานวนเท่าใด นอกจากนั้น ยงั ทาใหท้ ราบว่ากจิ การมีผลการดาเนินงานอย่างไรบ้างประเภทของรายการปรับปรุง ได้แก่ 1. ค่าใช้จ่ายจา่ ยลว่ งหนา้ (Prepaid expenses) 2. รายได้รับล่วงหน้า (Deferred revenue) 3. ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย (Accrued expenses) 4. รายไดค้ ้างรบั (Accrued revenue) 5. หน้สี งสัยจะสูญ (Doubtful Account) 6. วัสดสุ ิ้นเปลอื ง (Supplies) 7. ค่าเส่อื มราคา (Depreciation)
ค่าใช้จ่ายจา่ ยลว่ งหน้า หมายถงึ คา่ ใชจ้ ่ายทก่ี ิจการไดจ้ ่ายไปแล้ว แต่มีบางส่วนท่ีเป็นของงวดบัญชีถัดไปรวมอยู่ด้วย เช่น ค่าเบี้ย ประกันจ่ายล่วงหน้า ค่าเช่าจ่ายล่วงหน้า เป็นต้นบัญชีค่าใช้จ่ายจ่ายล่วงหน้าเป็นบัญชีสินทรัพย์หมุนเวียน ต้องแสดงยอดในงบแสดง ฐานะการเงนิ ณ วันสน้ิ งวดบัญชี มีวิธีบนั ทกึ รายการปรับปรุงได้ 2 วธิ ี ดงั นี้ 1. เม่ือมีค่าใชจ้ า่ ยเกิดขน้ึ ให้บันทึกไว้ในบัญชีค่าใชจ้ ่าย 2. เม่อื มีคา่ ใชจ้ า่ ยจ่ายลว่ งหน้าเกดิ ข้นึ ให้บนั ทึกไวใ้ นบญั ชสี นิ ทรพั ย์ วธิ ที ่ี 1 บนั ทกึ ไว้เปน็ คา่ ใช้จ่าย ณ วนั ทีก่ ิจการจา่ ยเงนิ เม่ือกิจการจ่ายเงินสดจะบันทึกบัญชีเป็นค่าใช้จ่ายทั้งจานวน เมื่อสิ้นงวดบัญชีจึงปรับปรุงเฉพาะส่วนท่ียังไม่ถึงกาหนดเวลาที่จะ ได้รับประโยชนต์ อบแทนเป็นค่าใชจ้ ่ายจา่ ยลว่ งหนา้ วิธที ่ี 2 บนั ทึกไวเ้ ป็นสินทรัพย์ ณ วนั ทกี่ ิจการจา่ ยเงิน เมื่อกิจการจ่ายเงินสดก็จะบันทึกบัญชีค่าใช้จ่ายล่วงหน้าทั้งจานวน หรือ ณ วันที่กิจการจ่ายเงินบันทึกบัญชีค่าใช้จ่ายไปเป็น สนิ ทรพั ยท์ ัง้ จานวน จงึ ตอ้ งปรับปรุงบัญชีเมือ่ สน้ิ งวดบญั ชี เฉพาะสว่ นทไี่ ด้รบั ผลประโยชนต์ อบแทนไปแล้วเปน็ ค่าใช้จ่าย
รายไดร้ บั ลว่ งหน้า หมายถึง รายได้ทีก่ ิจการไดร้ บั มาล่วงหน้าจากลูกค้าแล้ว แต่กิจการยังไม่ได้ส่งมอบสินค้าโดยโอนกรรมสิทธ์ิใน สินค้าหรือบริการแก่ลูกค้ายังไม่แล้วเสร็จ เม่ือรับเงินมาแล้ว จะยังไม่ถือว่าเป็นรายได้ของกิจการ แต่ถือว่ากิจการ มีพนั ธะในหน้ีสนิ เกิดขึ้น ซึ่งต้องมกี ารใช้คนื เมอ่ื ถงึ กาหนดระยะเวลาที่ไดท้ าสญั ญากนั ไว้ เชน่ ค่าเช่ารับล่วงหน้า รายได้รับล่วงหน้า เป็น บัญชีหนสี้ ินหมนุ เวยี น แสดงยอดไว้ในงบแสดงฐานะการเงิน ณ วันสิ้นงวดบัญชี รายไดร้ ับลว่ งหนา้ มวี ิธีการบนั ทกึ รายการได้ 1. เมือ่ รบั รายไดล้ ่วงหนา้ มากิจการจะบนั ทึกไว้ในบัญชรี ายได้ 2. เม่ือรับรายได้ลว่ งหน้ามากิจการจะบันทกึ ไว้เป็นรายได้รบั ล่วงหน้า วิธีที่ 1 บันทึกไวเ้ ปน็ รายได้ ณ วนั ท่กี ิจการได้รับเงนิ สด เม่ือกิจการบันทึกบัญชีเปน็ รายได้ทั้งจานวน ณ วันท่ีได้รับเงิน กิจการต้องทาการปรับปรุงบัญชีเม่ือวันสิ้นงวดบัญชี เฉพาะส่วน ที่ยงั ไมไ่ ดใ้ ห้บริการตอบแทนเป็นรายไดร้ ับล่วงหน้า วธิ ที ี่ 2 บนั ทึกไว้เป็นรายไดร้ ับล่วงหน้า ณ วันที่กิจการไดร้ ับเงินสด ณ วันที่รับเงิน กิจการจะบันทึกบัญชีเป็นหนี้สินท้ังจานวน ดังน้ันจึงต้องปรับปรุงบัญชีเมื่อสิ้นงวดบัญชี เฉพาะส่วน ที่ให้บรกิ ารตอบแทนแลว้ เปน็ รายได้
คา่ ใช้จ่ายค้างจ่าย หมายถึง ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นแล้วในระหว่างงวดบัญชี แต่กิจกายังมิได้ทาการจ่ายเงินและยังมิได้ทาการบันทึก รายการลงสมุดบัญชี จึงทาให้กิจการมีหนี้สินเกิดข้ึน เช่น ดอกเบ้ียค้างจ่าย ค่าแรงงานค้างจ่าย ค่าเช่าค้างจ่าย เป็นต้น ค่าใช้จ่ายค้าง จา่ ย ถอื เป็นหน้สี นิ หมนุ เวียนที่ต้องแสดงไวใ้ นงบแสดงฐานะการเงนิ
รายได้ค้างรับ หมายถึง รายไดซ้ ่ึงเกิดข้ึนแลว้ ในงวดบญั ชีน้ี แต่กิจการยงั ไม่ไดร้ ับเงินสด เพราะยงั ไม่ถึงวนั ครบกาหนดรับเงิน จนกวา่ จะถึงงวดบญั ชีหนา้ เช่น ดอกเบ้ียเงินฝากคา้ งรับ รายไดค้ า่ เช่าคา้ งรับเป็ นตน้ บญั ชีรายไดค้ า้ งรับเป็ นบญั ชีสินทรัพย์หมนุ เวียน ท่ีแสดงยอดไวใ้ นงบแสดงฐานะการเงิน ณ วนั สิ้นงวดบญั ชี รายไดค้ า้ งรับมีวธิ ีการปรับปรุงในสมดุ รายวนั
ตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 101 เรื่อง หนส้ี งสัยจะสญู และหนี้สญู ของสภาวิชาชพี บญั ชไี ดใ้ หค้ านิยามและขอ้ พึงปฏิบัติเกี่ยวกับ หนีส้ งสยั จะสูญและหนสี้ ูญไวด้ ังน้ี ลกู หนีก้ ารค้า (Trade Receivable) หมายถงึ ลูกหน้ีท่ีเกดิ จากการดาเนินการคา้ ตามปกตขิ องธุรกิจ และจะมีชอ่ื บัญชแี ตกต่างกัน ได้ตามประเภทของธุรกิจ เช่น ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ หมายถึงบัญชีระหว่างธนาคารที่มีดอกเบี้ย เงินให้สินเช่ือและดอกเบี้ยค้างรับ กจิ การประกันภยั หมายถงึ บัญชีเบยี้ ประกนั ภัยคา้ งรบั เงินค้างรบั เกย่ี วกบั การประกันต่อ และเงนิ ให้ก้ยู มื ลกู หนีอ้ ่นื (Other Receivable) หมายถงึ ลูกหน้ีทไ่ี ม่ไดเ้ กดิ จากการดาเนนิ การค้าตามปกติของธุรกจิ เช่น - ลกู หนแี้ ละเงินให้กยู้ ืมแก่กรรมการและลกู จา้ ง - เงินให้กูย้ มื แก่บรษิ ทั ในเครอื และบริษัทร่วม - รายไดอ้ ่นื ค้างรับ หนี้สูญ (Bad Debt) หมายถึง ลูกหน้ีที่ได้ติดตามทวงถามจนถึงท่ีสุดแล้ว แต่ไม่ได้รับชาระหน้ีและได้ตัดจาหน่ายออกจากบัญชี ดังน้ัน หน้ีสญู จงึ เป็นบัญชคี ่าใชจ้ ่ายที่แสดงในงบกาไรขาดทนุ หนีส้ งสยั จะสูญ (Doubtful Accounts) หมายถงึ ลูกหนี้ที่คาดว่าจะเรยี กเก็บไม่ได้ และถอื เป็นค่าใชจ้ า่ ยของรอบระยะเวลาบัญชี นน้ั ดังน้นั จึงบนั ทกึ เปน็ บัญชีคา่ ใช้จ่าย แต่เน่ืองจากเป็นค่าใช้จ่ายท่ียังไม่เกิดขึ้นจึงให้ถือเป็นรายการปรับปรุงในวันส้ินงวดบัญชี บัญชี หน้ีสงสัยจะสูญเป็นบญั ชคี า่ ใช้จา่ ย แสดงในงบกาไรขาดทุน
คา่ เผื่อหนส้ี ญู หรือคา่ เผอ่ื หนส้ี งสยั จะสญู (Allowance for Doubtful Accounts) หมายถงึ จานวนท่กี ันไว้สาหรบั ลูกหนี้ ท่คี าด วา่ จะเรยี กเก็บไม่ได้ และถือเปน็ บญั ชีปรับมูลคา่ (Valuation Account) ทตี่ ง้ั ขน้ึ เพอ่ื แสดงเปน็ รายการหักจากบัญชีลูกหนี้ ในงบการเงินเพ่ือใหค้ งเหลือเปน็ มูลคา่ สุทธิของลูกหน้ีทีค่ าดหมายวา่ จะเกบ็ ได้ ดงั นัน้ เม่อื เปน็ บญั ชีปรบั มูลคา่ จงึ ตอ้ งนาไป หักออกจากบัญชลี ูกหน้ใี นงบแสดงฐานะการเงิน เพอื่ ให้คงเหลือลูกหน้ีสทุ ธิทคี่ าดว่าจะเกบ็ เงนิ ได้ ถ้าคิดคา่ เผ่อื หน้ีสงสยั จะสูญจากยอด ลูกหน้ปี ลายงวดต้องดูบญั ชคี ่าเผ่ือหน้ีสงสยั จะสูญเดิมในบญั ชดี ว้ ย ถา้ คิดจากยอดขายก็คดิ จากยอดขายของปนี ้นั การบนั ทึกลูกหนี้ท่ีเก็บเงนิ ไมไ่ ด้ 1. วธิ ตี ัดจาหน่ายโดยตรง (Direct Write-off method) จะไมบ่ ันทึกรายการจนกวา่ ในรอบระยะเวลาบัญชีที่มีลูกหนี้สูญจริง จึง บนั ทกึ เปน็ ผลเสยี หายในรอบระยะเวลาบญั ชีนน้ั ในทางปฏบิ ตั ิวิธีน้ีเปน็ วิธีที่งา่ ยและสะดวก แตม่ ขี อ้ บกพร่องท่ีไม่เป็นไปตามหลักทฤษฎี ว่าดว้ ยการเปรยี บเทียบคา่ ใชจ้ า่ ยกับรายได้ของระยะเวลาบญั ชี อีกทงั้ มูลคา่ ของลูกหนี้ที่แสดงในงบแสดงฐานะการเงิน กม็ ไิ ด้อยู่ในมลู ค่า ทคี่ าดวา่ จะได้รบั จรงิ วธิ นี ้ีจึงเปน็ วิธที ไ่ี มเ่ ป็นที่ยอมรบั เวน้ แต่ว่าหน้ีที่คาดวา่ จะเกบ็ ไม่ไดม้ ีจานวนที่ไมม่ นี ัยสาคญั 2. วิธีต้ังค่าเผื่อ (Allowance method) จะประมาณหนี้ท่ีคาดว่าจะเก็บไมไ่ ด้ โดยคานวณจากยอดขายหรือจากยอดลูกหน้ี แล้ว บันทกึ จานวนท่ีประมาณขึน้ นน้ั รายการนี้ทาในรอบระยะเวลาบัญชีทบ่ี นั ทึกรายการขาย วธิ นี ีเ้ ปน็ วิธีที่ถูกต้องตามหลักการบัญชีว่าด้วย การเปรยี บเทยี บค่าใช้จา่ ยกับรายได้ของรอบระยะเวลาบญั ชี และบญั ชีลกู หน้ี ณ วันส้ินรอบระยะเวลาบัญชี จะแสดงในมูลคา่ ที่ใกล้เคยี ง กบั ความเปน็ จรงิ แมว้ ่าวธิ ีนี้จะตอ้ งมีการประมาณจานวนหนสี้ งสัยจะสญู ขึน้ กต็ าม การประมาณอาจจะทาได้ โดยอาศัยประสบการณ์ท่ี ผา่ นมาในอดตี สภาพของตลาดในปัจจุบันและการวเิ คราะห์ยอดลูกหน้ีคา้ งชาระ
เน่ืองจากจานวนเงินของลูกหนี้ที่คาดว่าจะเก็บไม่ได้มีลักษณะเป็นผลเสียหายท่ีอาจจะเกิดข้ึนวิธีตั้งค่าเผ่ือจะเป็นวิธี ที่เหมาะสมก็ต่อเมื่ออยู่ในสภาพการณ์ที่มีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่ว่าทรัพย์สินจะมีมูลค่าลดน้อยลงและผลเสียหายน้ันสามารถ ประมาณได้โดยสมเหตุสมผล วธิ ีการประมาณหนี้สงสยั จะสญู วธิ ีการประมาณหนส้ี งสัยจะสูญ ท่นี ิยมใชม้ ี 3 วิธดี ังน้ี 1. คานวณเปน็ ร้อยละของยอดขาย (Percentage of Sales) 1.1 คานวณเปน็ ร้อยละของยอดขายรวม 1.2 คานวณเปน็ ร้อยละของยอดขายเช่ือ 2. คานวณเปน็ รอ้ ยละของยอดลูกหนี้ (Percentage of Outstanding Receivable) 2.1 คานวณเปน็ รอ้ ยละของยอดลกู หนี้ โดยถือวา่ อตั ราสว่ นของจานวนหนี้สงสยั จะสูญสาหรับลูกหนท้ี ั้งหมดจะคงที่ 2.2 คานวณโดยจัดกลุ่มลูกหน้ีจาแนกตามอายุของหน้ีท่ีค้างชาระ โดยถือว่าลูกหนี้ที่ค้างชาระนานจะมีโอกาสไม่ชาระหน้ี มากกว่าลูกหนที้ เ่ี ริ่มเกิดขนึ้ 3. คานวณโดยพจิ ารณาลูกหนี้แต่ละราย วิธนี จ้ี ะทาได้ยากในธุรกิจที่มลี กู หนห้ี ลายราย หนี้สูญรับคืน ถ้ากิจการได้ตัดบัญชีหน้ีสูญออกจากบัญชีลูกหน้ีแล้ว ต่อมาถ้าลูกหนี้นาเงินมาชาระหนี้ก็บันทึกถือเป็นรายได้ของ กิจการ
วัสดุสิ้นเปลืองเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีอายุการใช้งาน ส่วนใหญ่ซ้ือมาแล้วหมดสภาพไปทันทีไม่สามารถนากลับมาใช้ได้อีก วัสดุ สิน้ เปลืองนัน้ อาจแบ่งไดเ้ ปน็ วสั ดุสานกั งาน วสั ดุในการโฆษณา มลี ักษณะเปน็ สินทรัพย์หมนุ เวยี นท่ใี ช้แล้วหมดไป เช่น ยางลบ กระดาษ ดนิ สอ ปากกา เปน็ ต้น สามารถบนั ทกึ บัญชีได้ 2 วิธีคอื 1. ณ วนั ทีซ่ อื้ บันทกึ เป็นบญั ชสี ินทรัพย์ 2. ณ วนั ท่ซี ้อื บันทกึ เป็นค่าใชจ้ า่ ย การคานวณวัสดุสิ้นเปลอื งใชไ้ ป วัสดุส้นิ เปลืองตน้ งวด XX บวก วัสดุส้นิ เปลอื งท่ซี อ้ื ระหวา่ งปี XX วสั ดสุ ิ้นเปลอื งที่มีอยู่ทง้ั สนิ้ XX หัก วัสดสุ ิ้นเปลอื งปลายงวด XX วสั ดสุ นิ้ เปลืองใช้ไป XX
กรณีท่ี 1 บนั ทกึ ไวเ้ ปน็ สนิ ทรัพย์ ณ วันทซี่ อื้ ณ วันที่ซ้ือมากิจการบันทึกวัสดุส้ินเปลืองเป็นสินทรัพย์ท้ังจานวน เมื่อวันสิ้นงวดบัญชีกิจการต้องตรวจนับวัสดุสิ้นเปลือง ว่ามีจานวนคงเหลอื เทา่ ใดและจะปรับปรุงบัญชีวัสดุสิน้ เปลืองใหม้ ยี อดคงเหลือเทา่ กบั จานวนจรงิ ท่ีตรวจนบั ได้ และบนั ทึกวัสดสุ ้ินเปลือง ทใี่ ชไ้ ปเปน็ ค่าใช้จ่าย กรณีที่ 2 บันทึกไวเ้ ป็นค่าใช้จ่าย ณ วนั ทีก่ จิ การซ้อื ณ วนั ที่ซ้ือมากิจการบันทกึ วัสดสุ ้นิ เปลืองเป็นค่าใช้จ่ายทั้งจานวน เม่ือวันส้ินงวดบัญชี กิจการต้องทาการตรวจนับวัสดุสิ้นเปลือง คงเหลือว่ามีจานวนเท่าใด และต้องปรับปรุงวัสดุส้ินเปลืองใช้ไปให้ถูกต้องและบันทึกวัสดุสิ้นเปลืองคงเหลือตามที่ตรวจนับได้เป็น สนิ ทรัพย์
ค่าเสื่อมราคา (Depreciation Expense) หมายถึง การปันส่วนจานวนที่ ค่าเสื่อมราคาของสินทรัพยอ์ ยา่ งมี ระบบ ตลอดอายกุ ารให้ ประโยชนข์ องสินทรัพยน์ ้นั
จานวนท่คี ดิ ค่าเส่ือมราคา หมายถึง ราคาทุนของ สินทรัพย์หรือมูลค่าอื่น ท่ีใช้ แทนราคาทุนหักด้ วยมูลค่ า คงเหลือของสินทรัพย์
มูลค่ าตามบัญชี หมายถึง มู ล ค่ า ข อ ง สิ น ท รั พ ย์ ท่ี รั บ รู้ หลังจากหักค่าเส่ือมราคาสะสม และผลขาดทุนจากการด้อยค่า สะสมของสินทรัพย์
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ หมายถึง สิ น ท รั พ ย์ ท่ีมี ตั ว ต น ซ่ึ ง เ ข้ า เ งื่ อ น ไ ข ทุ ก ข้ อ ต่อไปนี้ 1 ) กิ จ ก า ร มี ไ ว้ เ พ่ื อ ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ ในการผลิต ในการจาหน่ ายสิ นค้ าหรื อ ให้ บริการ เพ่ือให้ เช่ า หรือเพื่อใช้ ในการ บริหารงาน 2) กิจการคาดว่าจะใช้ประโยชน์มากกว่า หน่ึงรอบระยะเวลาบญั ชี
ประเภทของทดี่ นิ อาคารและอปุ กรณ์ หมายถึง กลุ่มของสิ นทรัพย์ที่มี ลั ก ษ ณ ะ แ ล ะ ป ร ะ โ ย ช น์ ก า ร ใ ช้ ง า น ท่ี คลา้ ยคลึงกนั ต่อการดาเนินงานของกิจการ ตวั อยา่ งการแบ่งประเภทของท่ีดิน อาคาร และอุปกรณ์ ไดแ้ ก่ 1. ทด่ี ิน 5. เคร่ืองบนิ 2. ทด่ี ินและอาคาร 6. ยานพาหนะ 3. เคร่ืองจกั ร 7. เคร่ืองตกแต่งและตดิ ตั้ง 8. อุปกรณส์ านักงาน 4. เรือ
มูลค่าคงเหลือ หมายถึง จานวนเงิน ท่ีกิจการคาดว่าจะได้รับในปั จจุบัน จากการจาหน่ายสินทรัพย์หลังจากหัก ต้น ทุนท่ี ค า ด ว่ า จ ะเ กิ ด ขึ้น จ าก ก า ร จาหน่ายสินทรัพย์นั้นหากสินทรัพย์นั้น มีอายุและสภาพท่ีคาดว่าจะเป็น ณ วัน สนิ้ สดุ อายกุ ารใหป้ ระโยชน์
อายกุ ารใหป้ ระโยชน์ หมายถึง กรณีใดกรณี หน่งึ ตอ่ ไปนี้ 1. ระยะเวลาท่ีกิจการคาดว่าจะมี สินทรพั ยไ์ วใ้ ช้ 2. จานวนผลผลิตหรือจานวนหน่วยใน ลกั ษณะอ่ืนท่ีคลา้ ยคลงึ กนั ซ่งึ กิจการคาด ว่าจะไดร้ บั จากสนิ ทรพั ย์
วิธีการคดิ ค่าเสอื่ มราคา กิจการสามารถใช้วิธีการคิดค่าเส่ือมราคา ซ่ึงมีหลายวิธีปันส่วนจากจานวนท่ีคิด คา่ เส่ือมราคาของสนิ ทรัพย์อยา่ งมีระบบตลอดอายุการใหป้ ระโยชน์ของสินทรัพย์ ซ่ึงมีหลายวิธี เชน่ 1. วิธีเส้นตรง (Straight line Method) วิธีนี้มีผลทาให้ค่าเสื่อมราคามีจานวนคงที่ ตลอดอายุการให้ประโยชนข์ องสนิ ทรัพย์ หากมูลคา่ คงเหลอื ของสนิ ทรพั ย์นนั้ ไม่เปลีย่ นแปลง 2. วิธียอดคงเหลือลดลง (Diminishing balance Method) วิธีนี้มีผลทาให้ค่าเส่ือม ราคาลดลงตลอดอายุการใหป้ ระโยชนข์ องสนิ ทรัพย์ 3. วิธีจำนวนผลผลิต (Unit output Method) วิธีจานวนผลผลิตมีผลทาให้ค่าเส่ือม ราคาขึ้นอยกู่ บั ประโยชน์หรอื ผลผลิตทคี่ าดวา่ จะไดร้ ับจากสนิ ทรัพย์ ซึ่งในหน่วยการเรียนน้ี จะนาเฉพาะวิธีคิดค่าเส่ือมราคาแบบเส้นตรง มาใช้เท่านั้น สามารถคานวณได้ดงั นี้ ค่าเส่ือมราคาต่อปี = ราคาทุนของสินทรัพย์-ราคาซาก/อายุการให้ประโยชน์ หรือคา่ เส่ือมราคา = (ราคาทนุ ของสินทรพั ย์-ราคาซาก) X อัตราค่าเสื่อมราคา
Search
Read the Text Version
- 1 - 31
Pages: