วิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคล ครูสุพัตรา

1 รายงานการวิเคราะห์ผเู้ รียนรายบุคคล ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔

2 รายงานการวิเคราะหผ์ ้เู รียนรายบคุ คล รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ โดย นางสาวสุพตั รา ลัมวฒุ ิ ตาแหนง่ ครูผู้ชว่ ย โรงเรียนบา้ นสามแยก อาเภอเกาะจันทร์ จงั หวัดชลบรุ ี สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศกึ ษาชลบรุ ี เขต 2 สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน รายงานการวิเคราะหผ์ ูเ้ รียนรายบุคคล ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔

3 บันทึกขอ้ ความ ส่วนราชการ โรงเรยี นบา้ นสามแยก ท่ี พเิ ศษ / ๒๕๖๔ วนั ท่ี ๙ เมษายน ๒๕๖๔ เรอื่ ง รายงานการวเิ คราะห์ผู้เรียนรายบคุ คล รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ ประจาปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ เรยี น โรงเรยี นบา้ นสามแยก สง่ิ ที่ส่งมาด้วย รายงานการวิเคราะหผ์ เู้ รยี นรายบคุ คล รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๓ ประจาปีการศึกษา ๒๕๖๓ จานวน ๑ เล่ม ดว้ ยข้าพเจา้ นางสาวสพุ ัตรา ลมั วุฒิ ตาแหน่ง ครูผชู้ ่วย ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าท่ีสอนใน ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี และเปน็ ครูประจาชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๓ ประจาปีการศกึ ษา 256๓ มนี ักเรียนจานวนทง้ั สน้ิ ๑๖ คน ในการวางแผนจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนที่มคี ณุ ภาพและชว่ ยเหลือผู้เรียนนน้ั ครูผ้สู อนตอ้ งจัดทา การวิเคราะหผ์ เู้ รียนเพือ่ ให้ทราบสภาพปัจจบุ ัน ปัญหาอุปสรรคและความสามารถของผเู้ รียน ดงั นน้ั ข้าพเจา้ จงึ รายงานผลการวิเคราะห์ผูเ้ รยี นรายบุคล ดังเอกสารทีแ่ นบมาพร้อมน้ี จึงเรยี นมาเพื่อโปรดทราบ ลงชอ่ื (นางสาวสพุ ัตรา ลัมวฒุ ิ) ตาแหน่ง ครูผู้ช่วย โรงเรียนบา้ นสามแยก ความคดิ เห็นของผบู้ รหิ าร .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................ ลงชือ่ (นางสาวสวิตตา ประเสริฐสาร) ผอู้ านวยการโรงเรียนบา้ นสามแยก รายงานการวิเคราะหผ์ เู้ รียนรายบคุ คล ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔

1 คำนำ การวิเคราะห์ผู้เรียน เพื่อศึกษาผู้เรียนเป็นรายบุคคล มีความสาคัญและจาเป็น จะช่วยให้ครูผู้สอน ได้รู้จกั ผเู้ รียนเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่ม โดยการกาหนดความต้องการที่จะใช้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้เรียน เป็น ข้อมูลสารสนเทศพื้นฐานนาไปสู่การวางแผนการเรียนรู้ หรือจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีมีจุดมุ่งหมายเฉพาะใน เรอ่ื งความสามารถ ทักษะและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลหลากหลาย เพื่อให้ ได้ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตัวผู้เรยี น เช่น การสอบถาม การให้ทาแบบทดสอบ การรวบรวมข้อมูลพื้นฐานการเรียนรู้ แลว้ นามาวเิ คราะห์เปน็ รายบุคคล โดยจาแนกให้เหน็ องคร์ วมของผู้เรียนในแต่ละดา้ น กาหนดเกณฑก์ ารจาแนก คณุ ภาพผเู้ รียน และสรปุ จดั กลุม่ ผูเ้ รียน ซึง่ ขอ้ มลู ดงั กลา่ วสามารถนาไปใช้ประโยชน์เพื่อนาไปช่วยเหลือ แก้ไข ส่งเสริม และสนับสนุนให้ผู้เรียนมีการพัฒนาได้อย่างเหมาะสม เต็มศักยภาพของแต่ละบุคคลและมีความสุข พฒั นาผ้เู รยี นใหผ้ เู้ รียนบรรลุตามจุดเน้นการพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รียน ตามกรอบการปฏิรปู การศึกษาในทศวรรษท่ี สอง (พ.ศ. 2552-2562) เร่ิมต้นค้นวิเคราะห์ ที่ครูและผู้เก่ียวข้องสามารถนาไปวางแผนในการพัฒนาผู้เรียน ด้านต่าง ๆ ได้ต่อไป และช่วยให้ครูผู้สอนในการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนรู้จักแสวงหาความรู้ พัฒนาตนเอง คิดเอง ปฏบิ ัติเอง เพอื่ นาไปสกู่ ารสรา้ งองค์ความรดู้ ว้ ยตนเอง ลงชอื่ (นางสาวสพุ ัตรา ลัมวฒุ ิ) รายงานการวเิ คราะห์ผเู้ รยี นรายบคุ คล ปีการศึกษา ๒๕๖๓

2 สารบญั ท่ี เรือ่ ง หน้า บนั ทึกขอ้ ความ ๑ คานา ๓ สารบัญ ๕ ๗ 1 บทนา............................................................................................................................................ ๑๔ 2 แนวคดิ หลกั การ........................................................................................................................... 3 วธิ ีดาเนินการ................................................................................................................................ 4 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูลสรปุ ............................................................................................................ ๕ สรุปผลและข้อเสนอแนะ............................................................................................................... รายงานการวเิ คราะห์ผเู้ รียนรายบุคคล ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓

1 บทที่ 1 บทนา 1. ความเปน็ มา พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ที่ระบุไว้ว่า “ มาตรา 22 การจัดการศึกษาต้องยึด หลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสาคัญมากท่ีสุด กระบวนการจดั การศกึ ษาต้องสง่ เสรมิ ให้ผเู้ รียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาตแิ ละเตม็ ตามศักยภาพ” การวิเคราะหผ์ ู้เรียน เพือ่ ศกึ ษาผ้เู รียนเป็นรายบุคคล จึงมีความสาคัญและจาเปน็ มาก ประโยชน์ของการวิเคราะหผ์ ูเ้ รียน คอื การนาขอ้ มูลไปช่วยเหลือ แก้ไข ส่งเสริม และสนับสนุนให้ผู้เรียนมีการ พัฒนาได้อยา่ งเหมาะสม เตม็ ศกั ยภาพของแตล่ ะบคุ คลและมีความสขุ ครผู สู้ อนจึงเป็นผู้มบี ทบาทสาคญั เก่ียวกบั การจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนรจู้ กั แสวงหาความรู้ พฒั นาตนเอง คดิ เอง ปฏิบัตเิ อง เพอ่ื นาไปสู่การสร้างองคค์ วามรดู้ ้วยตนเอง ผู้สอนได้รับมอบหมายให้สอน รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว ๑๓๑๐๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๓ จานวน ๑๖ คน ผ้สู อนจงึ ได้ ดาเนนิ การการวเิ คราะห์ผูเ้ รยี นทร่ี บั ผิดชอบเพือ่ ใหท้ ราบข้อมลู พน้ื ฐานของผู้เรียน เพอ่ื นาไปวางแผนในการจดั กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนและจดั กระบวนการเรียนร้ไู ดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ สมศ. ได้กาหนดมาตรฐานคุณภาพครูในดา้ นการจัดการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญอย่างมี ประสทิ ธภิ าพไว้วา่ ครจู ะตอ้ งทากจิ กรรม 7 กจิ กรรม คอื 1. การวิเคราะห์หลกั สูตร 2. การวเิ คราะห์ผ้เู รียนเปน็ รายบุคคล 3. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ี่หลากหลาย 4. การใช้เทคโนโลยเี ปน็ แหล่งและส่ือการเรียนรู้ของตนเองและนักเรยี น 5. การวดั ผลและประเมนิ ผลตามสภาพจริงอยา่ งรอบดา้ นเนน้ องค์รวมและเนน้ พฒั นาการ 6. การใชผ้ ลการประเมินเพ่อื แกไ้ ข ปรบั ปรุงและพัฒนาการจัดการเรยี นการสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้ เตม็ ศกั ยภาพ 7. การใช้การวิจยั ปฏบิ ตั ิการในการพฒั นานวัตกรรมเพอื่ พัฒนาการเรียนรู้ของนกั เรยี นและ การสอนของตนเอง จากมาตรฐานดงั กลา่ ว ครจู งึ ตอ้ งวิเคราะหผ์ ้เู รียนเปน็ รายบคุ คล เพ่ือทีจ่ ะวางแผนการจดั การเรยี น การสอนให้เหมาะสมกบั ผ้เู รียนแต่ละกลมุ่ อย่างมีประสิทธภิ าพ 2. คาถามวิจัย 1) นกั เรียนแตล่ ะคนมลี กั ษณะสาคัญอยา่ งไร 2) นักเรยี นแต่ละคนมีจุดเดน่ จดุ ดอ้ ยทค่ี วรได้รับการพัฒนาและปรบั ปรุงในเร่อื งอะไรบา้ ง 3) ครคู วรออกแบบจดั การเรยี นรู้อยา่ งไรใหส้ ามารถพัฒนาคุณภาพของแต่ละคนและทกุ คนโรงเรียนบ้าน สามแยก รายงานการวเิ คราะห์ผเู้ รยี นรายบุคคล ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓

2 3. วัตถปุ ระสงค์ของการวจิ ัย 1. เพื่อวิเคราะห์ขอ้ มลู พ้ืนฐานดา้ นต่าง ๆ ของนักเรยี นท่เี รียน ในรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ว ๑๓๑๐๑ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๓ โรงเรียนบา้ นสามแยก อาเภอเกาะจันทร์ จงั หวัดชลบรุ ี ปกี ารศกึ ษา 256๓ 2. เพ่ือศกึ ษาจดุ เด่น และจุดด้อย ทคี่ วรได้รบั การพฒั นาและปรับปรงุ นักเรียนแตล่ ะคนใน ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๓ โรงเรยี นบ้านสามแยก อาเภอเกาะจนั ทร์ จังหวัดชลบุรี ปีการศกึ ษา 256๓ 3..เพือ่ ศึกษาแนวทางการออกแบบการจดั การเรียนการสอนของครู ใหส้ ามารถพฒั นาคณุ ภาพของ นกั เรยี นแต่ละคนและทุกคนในชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ โรงเรยี นบา้ นสามแยก อาเภอเกาะจันทร์ จังหวดั ชลบุรี ปีการศึกษา 256๓ 4. ขอบเขตของการวิจัย 4.1 ประชากร คือ โรงเรียนบ้านสามแยก อาเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี ปีการศึกษา 256๓ จานวน ๑๖ คน 4.2 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ โรงเรียนบ้านสามแยก อาเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี ปีการศกึ ษา 256๓ จานวน ๑๖ คน 5. ประโยชนข์ องการวิจยั 5.1 ครรู ูจ้ ักผเู้ รยี นเป็นรายบุคคล และจัดทาข้อมูลสารสนเทศของนกั เรยี นอยา่ งเปน็ ระบบ 5.2 ครนู าผลทไี่ ด้จากการวิเคราะห์วิจัยนี้ ไปวางแผนการจดั การเรียนร้เู พอ่ื พัฒนาผเู้ รยี นต่อไป 5.3 ครแู ละผเู้ กีย่ วขอ้ งมีแนวทางในการพฒั นาผเู้ รียนตามจุดเนน้ คณุ ภาพผู้เรยี น รายงานการวเิ คราะห์ผ้เู รยี นรายบุคคล ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓

3 บทท่ี 2 แนวคดิ หลักการ รายงานผลการวิเคราะห์ผู้เรียน วิชาวิทยาศาสตร์ ว ๑๓๑๐๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนบ้าน สามแยก อาเภอเกาะจันทร์ จงั หวัดชลบุรี ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ได้ทาการศึกษาแนวคิด ทฤษฎีเอกสารและ งานวิจยั ท่เี กยี่ วข้องเมื่อใช้เป็นขอ้ มูลพน้ื ฐานในการดาเนนิ งาน การศึกษาและรายงานผลการดาเนินงาน ดังน้ี 1. แนวคดิ ในการวิเคราะห์ผู้เรยี น 2. วตั ถปุ ระสงค์ของการวเิ คราะหผ์ ูเ้ รียน 3. ขอบเขตของการวิเคราะหผ์ ู้เรยี น 4. การวเิ คราะหผ์ ้เู รียนเปน็ รายบุคคล 5. ดา้ นของข้อมลู ที่จัดเก็บ 6. วิธกี ารจัดเกบ็ ขอ้ มูล 1. แนวคดิ ในการวิเคราะหผ์ ู้เรยี น 1) การจัดการเรยี นร้ใู หป้ ระสบความสาเรจ็ มีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นรสู้ ูง ผเู้ รยี นควรมีความ พร้อมท่ีดีในทกุ ๆ ด้าน ดงั น้นั กอ่ นจะเริม่ ดาเนนิ การสอนวชิ าใด ๆ ควรมีการศกึ ษาวิเคราะห์ ผู้เรียนเปน็ รายบคุ คลท่ีเก่ยี วกบั - ความพร้อมด้านความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ - ความพรอ้ มดา้ นสติปัญญา - ความพรอ้ มด้านร่างกาย - ความพร้อมด้านสงั คม 2) ก่อนจะเริ่มดาเนินการจัดการเรียนรู้วิชาใด ๆ ผู้สอนควรศึกษาวิเคราะห์ผู้เรียนให้รู้ถึงความ แตกตา่ งระหวา่ งบุคคลในแต่ละด้าน หากพบผู้เรียนคนใดมีข้อบกพร่องด้านใดควรปรับปรุง แก้ไข ใหม้ ีความพรอ้ มที่ดีก่อน 3) การเตรยี มความพร้อมหรือการแก้ไขข้อบกพร่อง สาหรบั นักเรยี นท่ยี ังขาดความพร้อมในด้านใด ๆ ควรใชก้ จิ กรรมหลายๆ แบบ หรือใช้เทคนิควิธีการท่ีเหมาะสมจนผู้เรียนมีความพร้อม ดังน้ี 2. วัตถุประสงคก์ ารวเิ คราะห์ผู้เรียน 1) เพื่อศกึ ษาวิเคราะห์แยกแยะเก่ียวกับความพร้อมของผเู้ รยี นในแตล่ ะด้านเป็นรายบุคคล 2) เพ่อื ใหค้ รผู ู้สอนได้รู้จักผู้เรียนเป็นรายบุคคล สาหรับส่งเสริมให้สามารถพัฒนาตามธรรมชาติของ แต่ละบุคคลเต็มตามศกั ยภาพ และหาทางชว่ ยเหลอื ผู้เรียนทมี่ ขี อ้ บกพร่อง ให้มคี วามพรอ้ มทดี่ ีข้ึน 3) เพ่ือใหผ้ ู้สอนไดจ้ ัดเตรียมการสอน สอ่ื หรือนวตั กรรมสาหรับดาเนินการจดั การเรียนรแู้ ก่ผู้เรียน ได้สอดคลอ้ งเหมาะและตรงตามความตอ้ งการของผ้เู รียนมากยงิ่ ขึน้ 3. ขอบเขตของการวเิ คราะหผ์ ้เู รยี น การวเิ คราะห์ผเู้ รียนเพื่อแยกแยะหาความแตกต่างระหวา่ งบคุ คลในเร่อื งต่าง ๆ ดงั ตอ่ ไปน้ี 1) ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ (1) ความรู้พื้นฐานของวชิ าท่ีจะทาการเรียนรู้ในระดับชัน้ นนั้ ๆ รายงานการวิเคราะหผ์ ู้เรยี นรายบคุ คล ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓

4 (2) ความสามารถในการแก้ปญั หา (3) ความสนใจและสมาธใิ นการเรยี นรู้ 2) ความพร้อมด้านสติปญั ญา (1) การคิดรเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ (2) ความมีเหตุผล (3) ความสามารถในการเรยี นร/ู้ การลาดับความ 3) ความพร้อมด้านพฤติกรรม (1) การแสดงออก (2) การควบคมุ อารมณ์ (3) ความมุง่ มน่ั อดทน ขยันหม่นั เพียร (4) ความรบั ผิดชอบ 4) ความพร้อมดา้ นร่างกายและจติ ใจ (1) ดา้ นสุขภาพร่างกายสมบูรณ์ (2) การเจรญิ เติบโตสมวัย (3) ความสมบรู ณด์ ้านสุขภาพจิต 5) ความพรอ้ มดา้ นสังคม (1) การปรับตัวเข้ากับคนอน่ื (2) การช่วยเหลือ เสยี สละแบง่ ปนั (3) การเคารพ ครู กติกา และมีระเบยี บวินยั 4. การวิเคราะห์ผเู้ รยี นเปน็ รายบคุ คล เมอ่ื เปิดภาคเรยี นแตล่ ะปีการศกึ ษา โรงเรียนได้รับมอบหมายความรบั ผดิ ชอบใหค้ รูจดั การเรียนรู้ อยา่ งมคี ุณภาพใหก้ ับนักเรยี นกลุ่มใหม่ ดงั น้ันครแู ต่ละคนจงึ ต้องเรียนรู้ วิเคราะห์ เพ่อื รจู้ ักนักเรียนเปน็ รายบคุ คลใหเ้ พียงพอท่ีจะสามารถวางแผนจดั การเรียนรู้ท่ีเนน้ ผ้เู รยี นเปน็ สาคัญ 5. ดา้ นของขอ้ มูลทีจ่ ดั เกบ็ ประกอบด้วย ด้าน ภมู ิหลังทางครอบครัว, ผลการเรยี นรตู้ ามหลักสูตร,พฒั นาการดา้ นร่างกาย, อารมณ,์ สังคม, จิตใจ, สตปิ ญั ญา, คา่ นิยม, ความถนัด,ความสนใจ, ศกั ยภาพ ขอ้ จากัดสภาพปัญหา และ ความตอ้ งการจาเปน็ 6. วิธกี ารจดั เกบ็ ข้อมูล ใช้วิธกี ารสงั เกต,การสมั ภาษณ์และแบบสอบถาม ,แบบทดสอบวัดความร้พู น้ื ฐานกอ่ นเรยี น และ ผล การเรียนในระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ปกี ารศึกษา 256๓ แลว้ มาวเิ คราะหข์ อ้ มูลโดยวิธี ค่ารอ้ ยละ, SWOT analysis ,PMIA (Plus, Minus, Interesting point, Approach) รายงานการวิเคราะหผ์ ู้เรยี นรายบคุ คล ปีการศึกษา ๒๕๖๓

5 บทที่ 3 วิธีดาเนนิ การ การวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคลคร้ังนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานด้านต่าง ๆ ของ นักเรยี นทเ่ี รียนในรายวชิ า วิชาวิทยาศาสตร์ ว ๑๓๑๐๑ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๓ โรงเรียนบ้านสามแยก อาเภอ เกาะจันทร์ จังหวัดชลบรุ ี ปีการศึกษา ๒๕๖๓ (2) เพ่ือศกึ ษาจดุ เดน่ และจดุ ด้อย ทค่ี วรไดร้ บั การพัฒนาและ ปรับปรุงนกั เรียนแต่ละคน ในช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ โรงเรียนบ้านสามแยก อาเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ และ เพ่ือศึกษาแนวทางการออกแบบการจัดการเรียนการสอนของครูให้สามารถพัฒนา คุณภาพของแต่ละคนและทุกคนในชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๓โรงเรียนบ้านสามแยก อาเภอเกาะจันทร์ จังหวัด ชลบุรี ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ มวี ธิ ีการดาเนนิ งานตามลาดบั ดงั นี้ 1. กลุ่มเป้าหมาย 2. สารสนเทศและขอ้ มูลที่เก็บรวบรวม 3. แหลง่ ข้อมลู 4. เคร่ืองมอื ทใี่ ช้ในการเก็บขอ้ มูล 5. วธิ ีการเกบ็ ขอ้ มูล 6. การวิเคราะหข์ อ้ มูล 1. กลมุ่ เป้าหมาย ทท่ี าการวิจยั ในคร้งั น้ี คอื นกั เรยี นช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๓ ท่เี รียนวิชา วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว ๑๓๑๐๑ ปกี ารศึกษา 256๓ โรงเรียนบ้านสามแยก อาเภอเกาะจนั ทร์ จงั หวัด จานวน 1 ห้อง นักเรียนทั้งหมด จานวน ๑๖ คน 2. สารสนเทศและขอ้ มลู ทเ่ี กบ็ รวบรวม ประกอบดว้ ย 2.1 ภมู หิ ลงั ทางครอบครวั 2.2 ผลการเรียนรู้ตามหลักสตู ร 2.3 พัฒนาการดา้ น รา่ งกาย อารมณ์ สังคม จิตใจ สตปิ ญั ญา ค่านิยม 2.4 ความสนใจ ความถนดั ศกั ยภาพ และความต้องการจาเปน็ 2.5 ปญั หา/ขอ้ จากดั 3. แหลง่ ข้อมลู 3.1 แหล่งข้อมูลเอกสาร เช่น ระเบียนสะสม , ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใน ระดับชั้น ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ปกี ารศกึ ษา 256๓, แบบสารวจ,แบบบนั ทึก 3.2 แหลง่ ข้อมลู บุคคล เชน่ ครูประจาชัน้ , ผูป้ กครอง , เพื่อนนักเรยี น , ตัวนกั เรียน ฯ 3.3 แหล่งข้อมลู เหตุการณ์ เชน่ พฤติกรรมการเข้าแถว พฤตกิ รรมในห้องเรยี น พฤตกิ รรมนอก หอ้ งเรียน ฯลฯ 4. เครอื่ งมือท่ใี ชใ้ นการเก็บข้อมลู 4.1 แบบวิเคราะหผ์ ู้เรียนรายบุคคล 4.2 แบบสงั เกต 4.3 แบบสมั ภาษณ์ 4.4 แบบบนั ทึก รายงานการวเิ คราะห์ผูเ้ รียนรายบคุ คล ปีการศึกษา ๒๕๖๓

6 5. วิธกี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 5.1 ศกึ ษาเอกสารจาก ผลการเรยี นปกี ารศึกษา 25๖3, ระเบยี นสะสม 5.2 สารวจข้อมูลรายบคุ คล 5.3 สงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี น 6. การวเิ คราะห์ข้อมูล - SWOT analysis - คา่ รอ้ ยละ - PMIA (Plus, Minus, Interesting point, Approach) รายงานการวิเคราะหผ์ เู้ รยี นรายบคุ คล ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓

7 บทที่ 4 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู การวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคลใน ปีการศึกษา 256๓ ได้วิเคราะห์ข้อมูลจากนักเรียน ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๓ จานวน ๑๖ คน โดยวิเคราะห์ตามประเด็นการวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคล 4 ด้าน คอื 1) ดา้ นขอ้ มลู ภูมิหลงั ครอบครัว 2) ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น 3) พฒั นาการด้านต่าง ๆ (ร่างกาย, จิตใจ) 4) ความสามารถ ไดแ้ บง่ การนาเสนอดงั นี้ 4.1 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูลด้านภมู ิหลังครอบครัวดงั แสดงในตารางที่ 1 ขอ้ มลู รายการ จานวนนักเรียน 1.สถานภาพบิดา-มารดา คน รอ้ ยละ 2. ท่ีพกั ของนกั เรียน 1.1 อยรู่ ว่ มกนั ๗ 43.75 3. อาชีพผู้ปกครอง 1.2 หยา่ รา้ ง ๓ 18.75 1.3 แยกกันอยู่ ๕ 31.25 1.4 บดิ า/มารดาถึงแกก่ รรม ๑ 6.25 2.1 บ้านพักของตนเอง ๖ 37.5๐ 2.2 พกั บา้ นญาติ ๐0 2.3 หอพกั /บา้ นเช่า ๑๐ 62.5๐ 2.4 อ่นื ๆ ๐0 3.1 เกษตรกรรม ๑ 6.25 3.2 รับราชการ ๐0 3.3 ค้าขาย ๒ 12.5๐ 3.4 ขายลอตเตอร์ร่ี ๐0 3.5 รบั จ้างท่วั ไป ๑๓ 81.25 3.6 อน่ื ๆ ๐0 ตารางที่ 1 แสดงผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู ด้านภมู หิ ลงั ครอบครัว จากตารางท่ี 1 พบวา่ สถานภาพบิดา-มารดา อันดับที่ 1 อยู่ร่วมกัน ร้อยละ 43.75 อันดับที่ 2 แยกกันอยู่ ร้อยละ 31.25 อันดับท่ี 3 หย่าร้าง ร้อยละ 18.75 อันดับท่ี 4 บิดา/มารดาถึงแก่กรรม ร้อยละ 6.25 ท่ีพักของนักเรียน อันดับท่ี 1 หอพัก/บ้านเช่า ร้อยละ 62.5๐ อันดับท่ี 2 บ้านพักของ ตนเอง ร้อยละ 37.5๐ อาชีพผู้ปกครอง อันดับท่ี 1 รับจ้างท่ัวไป ร้อยละ 81.25 อันดับที่ 2 ค้าขาย ร้อยละ 12.5๐ อนั ดบั ที่ 3 เกษตรกรรม รอ้ ยละ 6.25 รายงานการวเิ คราะห์ผู้เรยี นรายบคุ คล ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓

8 4.2 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูลดา้ นผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน ดังตารางที่ 2 ระดบั ผลการเรยี นเฉลี่ย(GPA) ช้ัน/ห้อง ตา่ กว่า1.00 1.00 – 1.500 2.00 – 2.50 3.00-4.00 จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ (คน) (คน) (คน) (คน) ป.๓ ๐ ๐ ๐ ๐ ๕ 31.25 ๑๑ 68.75 รวม ๐ ๐ ๐ ๐ ๕ 31.25 ๑๑ 68.75 ตารางที่ 2 แสดงผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู ดา้ นผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น (GPA) ปีการศกึ ษา 256๓ จากตารางที่ 2 พบว่า ผลการเรยี นเฉลย่ี (GPA) ปีการศึกษา 25๖๓ อันดับที่ 1 3.00-4.00 ร้อยละ 68.75 อนั ดบั ที่ 2 2.00 – 2.50 รอ้ ยละ 31.25 ตาราง แสดงจานวนและรอ้ ยละนกั เรยี นตามการจาแนกผเู้ รยี นตามกลมุ่ ความสามารถ ชน้ั จานวน กลมุ่ พิเศษ กลุม่ ออ่ น กล่มุ ปกติ กลมุ่ ปญั ญาเลศิ จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ ป.๓ ๑๖ ๒ 12.50 ๐ 0.00 ๓ 18.75 ๑๑ 68.75 รวม ๑๖ ๒ 12.50 ๐ 0.00 ๓ 18.75 ๑๑ 68.75 การจาแนกผเู้ รียนตามกลุ่ม 1. กลุ่มเก่ง (ปัญญาเลิศ) หมายถึง นกั เรียนท่ีมีผลการเรียน ในระดับ มากกวา่ 3.00 ขึ้นไป เป็นผู้ที่มีร่างกาย และจิตใจที่สมบูรณ์ ตามเกณฑ์ที่กาหนด มีสภาพครอบครัวที่สนับสนุนในการเรียน มีความรพู้ ้ืนฐานพร้อมในการพฒั นาในการเรียนรายวิชาน้ี อยา่ งเต็มความสามารถ มจี านวน ๑๑ คน รอ้ ยละ 68.75 ลาดับ ช่อื - สกุล ห้อง 1 เด็กชายวัฒนชยั แซเ่ ตียว ป.๓ 2 เด็กชายชัชนนั ท์ ดวงแก้ว ป.๓ 3 เด็กชายธนกร หนเู ข็ม ป.๓ 4 เด็กชายธนกฤติ ใจบญุ ป.๓ 5 เดก็ ชายจิรายุทธ บวั ปลอ้ ง ป.๓ ๖ เดก็ ชายชัชฤทธิ์ ภคนิ วรเศรษฐ์ ป.๓ ๗ เดก็ ชายณฐั วฒุ ิ สายบุตร ป.๓ ๘ เด็กหญงิ พรี ชยา ปะส่ิงชอบ ป.๓ รายงานการวเิ คราะหผ์ ูเ้ รยี นรายบุคคล ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓

9 ๙ เดก็ หญิงสริ วิ ิมล มายอม ป.๓ ๑๐ เด็กหญงิ กรกมล ชีวกมล ป.๓ ๑๑ เดก็ หญิงศภุ านนั ท์ ทองสว่าง ป.๓ แนวทางการจดั กิจกรรมเรยี นเรยี นการสอน สาหรับนกั เรียนกลมุ่ เก่ง ๑. ใหเ้ ด็กจนิ ตนาการต่อ คือ เด็กกลมุ่ น้จี ะสามารถจนิ ตนาการได้โดยต้องดภู าพว่า อะไรเกิดข้ึน กอ่ นหนา้ และ จะเกดิ อะไรขึ้นตอ่ จากน้ี เด็กกลมุ่ นี้สามารถท่ีจะจติ นาการได้หลายรปู แบบ และไมค่ ดิ ว่า คาตอบของเพือ่ นจะถกู เสมอ ซึง่ ต่างจากเด็กกลมุ่ อ่ืนทีคดิ ว่า คาตอบของเพือ่ นนน้ั ถูกเสมอ 2. ตัง้ คาถามปลายเปดิ ซึง่ เดก็ ในกลมุ่ นีจ้ ะสามารถหาคาตอบได้หลากหลายรปู แบบจากโจทย์ เพยี งขอ้ งเดยี ว 3. ให้เดก็ คาดเดาตามหลกั วิทยาศาสตร์ โดยครูตั้งคาถามโดยคาว่า “ถา้ ..” ซ่ึงมนั จะท้าทายกวา่ 2. กลุม่ พอใช้ (กลุ่มปกต)ิ หมายถงึ นกั เรยี นทม่ี ีผลการเรยี น ในระดบั 2.00 – 3.00 เป็น ผ้ทู ่ีมีรา่ งกาย และจติ ใจท่สี มบูรณ์ ตามเกณฑ์ทก่ี าหนด มสี ภาพครอบครวั ที่สนับสนนุ ในการเรียน มคี วามรู้ พืน้ ฐานในระดบั หนึ่ง พร้อมในการพฒั นาในการเรยี นรายวชิ าน้ี มีจานวน ๓ คน ร้อยละ 18.75 ลาดบั ชอ่ื - สกลุ หอ้ ง 1 เดก็ ชายรชั ชานนท์ อ่นุ เสนห่ า ป.๓ 2 เดก็ หญิงธัญชนก แซ่ลิม้ ป.๓ 3 เดก็ หญงิ อนิ ทร์ธมล สลี ม ป.๓ แนวทางการจัดกจิ กรรมเรยี นเรียนการสอน สาหรับนกั เรยี นพอใช้ นกั เรียนกลุ่มปกติ ใหก้ ารส่งเสรมิ ต่อไปตามความสามารถหรือความสนใจของนักเรียน กรณีปัญหา การเรยี นการสอน ครเู ข้าสอนตรงเวลา ตรงตามมาตรฐานสาระการเรยี นรู้ 3. กลมุ่ เน้นการพัฒนา (กลุ่มปัญญาช้า) หมายถงึ นักเรยี นทมี่ ีผลการเรียน ในระดบั ตา่ กวา่ 2.00 เป็นผทู้ ี่ มีร่างกาย และจติ ใจไม่สมบูรณ์ตามเกณฑ์ท่ีกาหนด มีสภาพครอบครวั ทไ่ี มเ่ อือ้ อานวยในการเรยี น มีความรพู้ ้ืนฐานไม่ ถึงเกณฑ์ท่ีกาหนด พร้อมในการพฒั นาในการเรยี นรายวิชาน้ี มจี านวน ๐ คน ร้อยละ ๐ ๔. กลุม่ พิเศษ หมายถงึ นักเรยี นที่มีปญั หาพกพรอ่ งทางด้านรา่ งกาย หรือ บกพรอ่ งด้านการเรยี นรู้ เป็น เด็กพเิ ศษ เด็กเรยี นร่วม มีจานวน ๒ คนรอ้ ยละ 12.50 ลาดบั ชื่อ- สกุล ห้อง 1 เดก็ ชายอนชุ า พรมมา ป.๓ 2 เด็กชายประพจน์ ดีนาน ป.๓ แนวทางการจดั กิจกรรมเรยี นเรียนการสอน สาหรบั นักเรียนกลุม่ กลุม่ พเิ ศษ ครคู วรส่งเสรมิ ผเู้ รยี นที่มีความสูงใหม้ ีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นรู้อยา่ งสร้างสรรค์ ความสามารถ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ความคิดหลากหลาย การสอนเปน็ รายบคุ คล รายงานการวิเคราะหผ์ ู้เรยี นรายบคุ คล ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓

10 ผลการวเิ คราะหผ์ เู้ รียน รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ รหัสวิชา ว ๑๓๑๐๑ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๓ 1. สรุปผลการวิเคราะห์ผ้เู รยี น รายวิชาวิทยาศาสตร์ ช้นั ป. ……๓……… จานวน ……๑๖….. คน ดา้ นท่ี รายการวเิ คราะหผ์ ูเ้ รยี น ดี ปานกลาง ปรับปรงุ หมาย เหตุ จานวน/ รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน/ ร้อยละ คน /คน คน 1 ด้านความร้คู วามสามารถและ ประสบการณ์ 1) ความรูพ้ ้ืนฐาน ๑๑ ๖๘.๗๕ ๕ ๓๑.๒๕ 2) ความสามารถในการ ๑๑ ๖๘.๗๕ ๕ ๓๑.๒๕ แก้ปญั หา 3) ความสนใจ/สมาธิการเรียนรู้ ๑๑ ๖๘.๗๕ ๕ ๓๑.๒๕ 2 ความพรอ้ มด้านสติปัญญา 1) ความคดิ ริเร่ิมสรา้ งสรรค์ ๑๑ ๖๘.๗๕ ๕ ๓๑.๒๕ 2) ความมีเหตผุ ล ๑๑ ๖๘.๗๕ ๕ ๓๑.๒๕ 3) ความสามารถในการ ๑๑ ๖๘.๗๕ ๕ ๓๑.๒๕ เรยี นรู้ 3 ความพร้อมด้านพฤตกิ รรม 1) การแสดงออก ๑๖ ๑๐๐ 2) การควบคมุ อารมณ์ ๑๖ ๑๐๐ 3) ความมุ่งม่นั ๑๖ ๑๐๐ ขยันหม่นั เพียร 4 ความพร้อมดา้ นรา่ งกายและ จิตใจ ๑๖ ๑๐๐ 1) สุขภาพรา่ งกายสมบูรณ์ ๑๖ ๑๐๐ 2) การเจรญิ เตบิ โตสมวยั ๑๖ ๑๐๐ 3) ดา้ นสุขภาพจติ 5 ความพร้อมดา้ นสงั คม 1) การปรับตวั เข้ากบั ผู้อ่ืน ๑๖ ๑๐๐ 2) การเสยี สละไมเ่ หน็ แก่ ๑๖ ๑๐๐ ตัว ๑๖ ๑๐๐@ 3) มรี ะเบยี บวนิ ับเคารพกฎ @QQ กตกิ า รายงานการวเิ คราะหผ์ เู้ รียนรายบคุ คล ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓

๒. ขอ้ มลู เกี่ยวกับผู้เรียนแตล่ ะคน ที่ครูเก็บเพ่อื วเิ คราะห์นกั เรียนเป็นรายบคุ คล ดา้ นค ความส แ ประสบ เลขท่ี ช่อื -สกุล ภมู ิหลงั ครอบครัว ความรู้ ้ืพนฐาน 1 เด็กชายวฒั นชัย แซเ่ ตียว 2 เด็กชายชัชนนั ท์ ดวงแกว้ 3 เด็กชายธนกร หนูเขม็ 4 เด็กชายธนกฤติ ใจบุญ 5 เดก็ ชายจริ ายุทธ บัวปล้อง 6 เด็กชายอนชุ า พรมมา 7 เด็กชายประพจน์ ดีนาน 8 เด็กชายชัชฤทธิ์ ภคนิ วรเศรษฐ์ 9 เด็กชายณัฐวุฒิ สายบตุ ร 10 เด็กชายรัชชานนท์ อนุ่ เสนห่ า 11 เด็กหญิงธัญชนก แซล่ ิ้ม รายงานการวิเคราะห์ผเู้ รียนรายบุคคล ปีการศึกษา ๒๕๖๓

๓ ความสามารถในการแก้ปญั หา ความรู้ ล ความสนใจ/สมาธกิ ารเรยี นรู้ สามารถ และ ความคิดรเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ สบการณ์ ความมีเหตผุ ล ความสามารถในการเรยี นรู้ ความพร้อม ความพร้อม การแสดงออก ด้านสตปิ ญั ญา ด้านพฤตกิ รรม การควบคุมอารมณ์ ความมุง่ มั่นขยันหมน่ั เพยี ร ความพร้อมด้าน สขุ ภาพร่างกายสมบรู ณ์ ร่างกายและ การเจรญิ เตบิ โตสมวยั ดา้ นสุขภาพจิต จติ ใจ การปรับตัวเขา้ กับผูอ้ นื่ ความพร้อม ๑๔ การเสยี สละไมเ่ ห็นแก่ตัว ดา้ นสังคม มรี ะเบยี บวนิ ับเคารพกฎกตกิ า

ดา้ นค ความส แ ประสบ เลขที่ ช่ือ-สกลุ ภมู หิ ลงั ครอบครัว ความรู้ ้ืพนฐาน 12 เดก็ หญิงพรี ชยา ปะส่งิ ชอบ 13 เด็กหญงิ สิริวมิ ล มายอม 14 เดก็ หญงิ กรกมล ชีวกมล 15 เดก็ หญงิ อนิ ทร์ธมล สีลม 16 เดก็ หญิงศุภานนั ท์ ทองสว่าง รายงานการวิเคราะหผ์ ูเ้ รียนรายบคุ คล ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓

๓ ความสามารถในการแก้ปญั หา ความรู้ ความสนใจ/สมาธกิ ารเรยี นรู้ สามารถ และ ความคิดรเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ ความมีเหตผุ ล สบการณ์ ความสามารถในการเรยี นรู้ การแสดงออก ความพร้อม ความพรอ้ ม การควบคุมอารมณ์ ดา้ นสตปิ ญั ญา ดา้ นพฤตกิ รรม ความมุง่ มั่นขยันหมน่ั เพยี ร สขุ ภาพร่างกายสมบรู ณ์ ความพร้อมด้าน การเจรญิ เตบิ โตสมวยั ร่างกายและ ดา้ นสุขภาพจิต จติ ใจ การปรับตัวเขา้ กับผูอ้ นื่ การเสยี สละไมเ่ ห็นแก่ตัว ความพร้อม ๑๔ มรี ะเบยี บวนิ ับเคารพกฎกตกิ า ดา้ นสังคม

๑๔ บทที่ 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ การวิจยั ครง้ั นี้มวี ัตถุประสงคเ์ พอ่ื 1. เพ่ือวเิ คราะหข์ ้อมลู พื้นฐานดา้ นตา่ ง ๆ ของนักเรียนทเี่ รยี น ในรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ว ๑๓๑๐๑ ช้ัน ประถมศึกษาปที ี่ ๓ โรงเรยี นบ้านสามแยก อาเภอเกาะจันทร์ จงั หวัดชลบรุ ี ปีการศึกษา ๒๕๖๓ 2. เพ่อื ศกึ ษาจุดเดน่ และจุดดอ้ ย ท่คี วรไดร้ ับการพัฒนาและปรบั ปรงุ นักเรียนแตล่ ะคนใน ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ โรงเรียนบ้านสามแยก อาเภอเกาะจันทร์ จงั หวัดชลบรุ ี ปกี ารศึกษา 256๓ 3..เพอ่ื ศึกษาแนวทางการออกแบบการจดั การเรยี นการสอนของครู ใหส้ ามารถพฒั นาคณุ ภาพของ นักเรียนแตล่ ะคนและทกุ คนในชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๓ โรงเรยี นบ้านสามแยก อาเภอเกาะจนั ทร์ จังหวัดชลบุรี ปีการศกึ ษา 256๓ สรปุ ผลการวจิ ยั 1. การวเิ คราะหข์ ้อมลู ด้านภูมิหลังครอบครัว 2. การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ด้านผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน (GPA) ปีการศกึ ษา 256๓ 3. การวิเคราะหข์ อ้ มลู ด้านพัฒนาการด้านต่าง ๆ 4. การวิเคราะห์ข้อมูลด้านความสนใจและความสามารถพิเศษ 5. การวเิ คราะห์ผู้เรียนตามแบบ SWOT Analysis 6. การวิเคราะห์ PMIA (Plus, Minus, Interesting point, Approach) (นาข้อมลู ท่ไี ด้จากบทท่ี 4 มาสรุปผล) ข้อเสนอแนะจากการวิจัย 1. ครูตอ้ งศึกษานกั เรียนเปน็ รายบุคคลก่อนเพ่ือวางแผนในการออกแบบการเรยี นรู้ 2. ครคู วรเตรียมส่ือการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับผู้เรียน 3. ครคู วรสอบถามวิธกี ารเรียนร้ทู ี่นกั เรยี นตอ้ งการเรยี น ประโยชน์ทีไ่ ดร้ บั จากการวิจัยคร้ังนี้ 1. ครูผสู้ อนสามารถออกแบบการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนใหเ้ หมาะสมกบั นกั เรียน 2. แนวทางการเตรียมความพร้อมและพื้นฐานของนกั เรยี นจะเรียนเรอื่ งใหม่ 3. แนวทางการวางแผนพัฒนาและปรับปรุง นักเรยี นให้สอดคลอ้ งกบั จุดเด่น จุดด้อยของผูเ้ รียน ต่อไป รายงานการวิเคราะห์ผเู้ รียนรายบคุ คล ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓

๑๔ ภำคผนวก - ขอ้ มูลการใชเ้ ครือ่ งมอื วิเคราะหผ์ ู้เรียน - แบบประเมิน - แบบทดสอบ - ผลการเรยี น - อ่นื ๆ รายงานการวิเคราะห์ผเู้ รยี นรายบุคคล ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓

๑๔ ผลการเรียนนักเรียนช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๓ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ เลข ่ีท ภาษาไทย ค ิณตศาสตร์ ิวทยาศาสตร์ สังคม ึศกษา ประวั ิตศาสตร์ สุข ึศกษา ิศลปะ ก.อ.ท. ัองกฤษ หน้า ่ีทพลเ ืมอง เกรดเฉลี่ย ชือ่ - ชอื่ สกุล 1 เดก็ ชาย วัฒนชยั แซ่เตีย่ ว 3.5 3.5 3 3 3 3.5 3 3 2.5 4 3.11 2 เด็กชาย ชัชนนั ท์ ดวงแก้ว 4 3.5 3 3 3 3.5 3.5 3.5 3 4 3.33 3 เด็กชาย ธนกร หนเู ข็ม 3 3 3 3 3 3.5 4 3 3 3.5 3.17 4 เดก็ ชาย ธนกฤติ ใจบุญ 4 4 3.5 3.5 4 4 3.5 4 3.5 4 3.78 5 เดก็ ชาย จิรายทุ ธ บวั ปล้อง 3 3 3 3 3 3.5 3 3 2.5 3.5 3.00 6 เดก็ ชาย อนุชา พรมมา 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2.5 2.00 7 เด็กชาย ประพจน์ ดีนาน 3 2.5 2.5 3 3 3 3.5 3 3 3.5 2.94 8 เดก็ ชาย ชชั ฤทธิ์ ภคนิ วรเศรษฐ์ 4 4 3.5 3.5 4 4 4 4 3.5 4 3.83 9 เดก็ ชาย ณฐั วุฒิ สายบตุ ร 3.5 3 3 3 3 3 3 3 3.5 3.5 3.11 10 เดก็ ชาย รัชชานนท์ อนุ่ เสนห่ า 2.5 2.5 2.5 2.5 3 3 3.5 3 2 3 2.72 11 เด็กหญงิ ธญั ชนก แซ่ล้ิม 3 3 2.5 3 3 3 3.5 3 2.5 3 2.94 12 เดก็ หญิง พีรชยา ปะสิ่งชอบ 4 4 3.5 4 4 4 4 4 3.5 4 3.89 13 เดก็ หญงิ สิรวิ ิมล มายอม 4 4 3.5 4 4 4 4 4 3.5 4 3.89 14 เด็กหญงิ กรกมล ชวี กมล 4 3.5 3.5 3.5 4 4 4 4 3 4 3.72 15 เด็กหญงิ อนิ ทรธ์ มล สีลม 2.5 2.5 2.5 2.5 3 3 3 3 2 3 2.67 16 เด็กหญงิ ศภุ านนั ทองสวา่ ง 3.5 3 3 3 3 3 3.5 4 3.5 4 3.28 รายงานการวิเคราะห์ผเู้ รียนรายบคุ คล ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓

๑๔ รายงานการวิเคราะหผ์ เู้ รยี นรายบุคคล ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓