ระบบโทรศพั ท์ 2119-2101 บทท่ี 16การตรวจแก้เคเบลิ โทรศพั ท์
สาระการเรยี นรู้1. ลกั ษณะของงานตรวจแก้เคเบลิ โทรศพั ท์2. ขน้ั ตอนในการดาเนนิ การตรวจแก้เคเบิลโทรศพั ท์
ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวัง1. จาแนกเหตเุ สยี ในเคเบิลโทรศพั ท์ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง2. บอกคา่ มาตรฐานตา่ งๆเกยี่ วกับเคเบลิ โทรศพั ท์ไดอ้ ย่างถูกต้อง3. วิเคราะหห์ าเหตุเสียเคเบลิ โทรศัพท์ไดอ้ ย่างถูกต้อง4. บอกหลักการทางานของเครื่องมอื วัดเคเบลิ โทรศพั ท์ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง
การตรวจแก้เคเบลิ โทรศัพท์
เม่ือผ้เู ช่าแจง้ เหตเุ สียหรอื เหตุขัดขอ้ งในระบบโทรศพั ท์ หรือจากการตรวจสอบจากเครื่องทดสอบ Subscriber Line Test ทชี่ มุ สายโทรศัพท์ ในข้นั ตอนแรกชา่ งผู้ปฏบิ ัตงิ านจะต้องตรวจสอบหาเหตเุ สยี ว่าเกิดข้ึนท่ีระบบชมุ สายหรือข่ายสายโทรศพั ท์ โดยใช้เครือ่ ง ทดสอบSubscriber Line Test โดยเหตเุ สียจะทราบไดว้ ่าเกิดข้นึ ทีเ่ คเบิลต้นทาง ( Primary Cable )เคเบิลปลายทาง ( Secondary Cable ) สายกระจาย ( Drop Wire ) สายภายในอาคาร (Station Wire )หรือตวั เครื่องโทรศัพท์ ( Telephone Set ) เปน็ ตน้ เพ่อื ให้การทางานเปน็ ไปอยา่ งรวดเรว็ มีประสิทธิภาพ ใช้เวลาน้อยที่สุดในการแก้ไขใหก้ ลบั สู่สภาพเดมิ การตรวจสอบกระทาได้ไม่ยาก สามารถทาได้โดยใช้ Line Man Test Set ( Head Set ) ทาการตรวจสอบตามจดุ ต่างๆทส่ี ามารถกระทาได้ในทันที เช่น ตรวจสอบท่ี MDF ตูผ้ ่าน (Cross Connection Cabinet ) กล่องกันฟ้า หรอื ตรวจสอบท่ตี วั เคร่ืองโทรศัพท์ เพ่ือเปน็ข้อมลู เบ้อื งตน้ ในการตรวจสอบแก้ไขต่อไป
ลักษณะของงานตรวจแกเ้ คเบลิงานตรวจแโทกรส้ ศาพั ยทจ์ะแบง่ ออกเป็น2 ลกั ษณะ คอื 1. งานตรวจแก้เคเบลิ 2. งานตรวจแก้สายกระจาย
ขนั้ ตอนในการดาเนินการตรวจแก้เคเบลิ โทรศัพท์
ข้ันตอนที่ 1การตรวจหาเหตเุ สยี( Faults Detection )
ขั้นตอนท่ี 1 การตรวจหาเหตุเสีย ( Faults Detection )1. Series Fault คือ เหตเุ สียท่ีเกิดข้นึ กบั ตวั นาของคูส่ าย เชน่ เกิดออกไซดข์ ้ึนท่ีจุดตอ่ จดุ ตอ่ หลวม หรอื สายขาด เหตุเสียประเภทนจี้ ะทาให้คา่ ความตา้ นทานของลปู ( Loop Resistance ) ของคสู่ ายมคี ่าเพ่มิ ข้นึ มากกว่าคา่ มาตรฐาน คือมากกวา่ 1,500 โอห์ม
หวั ตอ่ ตะก่วั
ข้ันตอนท่ี 1 การตรวจหาเหตุเสีย ( Faults Detection )1. Shunt Fault คือ เหตเุ สียที่เกิดขน้ึ จากการทฉ่ี นวนเสอื่ มสภาพหรือมีค่าต่ากวา่ มาตรฐาน ซ่งึ จะส่งผลให้กระแสไฟฟ้าลดั วงจร ( Short ) หรือไหลลงดนิ( Ground ) หรือเกดิ การแตะกบั คูส่ ายอื่นได้ ( Battery Cross )
จดุ ต่อสาย
ขั้นตอนท่ี 2การวิเคราะห์หาเหตเุ สยี ( Fault Analysis )
การวิเคราะห์หาเหตุเสยี
เมื่อทราบถึงเงื่อนไขตา่ งๆ ชนิดเหตุเสยี แล้ว จะตอ้ งพจิ ารณาวา่ เหตเุ สยี ดงั กลา่ วสามารถวดั หาตาแหน่งเสียได้หรือไม่ และจะใชเ้ ครือ่ งมืออะไรวัด เครอื่ งมือวัดหาตาแหนง่ เสียจะมีอยหู่ ลายแบบ แตท่ นี่ ิยมใช้โดยท่ัวไป ไดแ้ ก่ TDR : Time DomainReflectometer ( รปู ขวา ) และ Resistance Fault Locator ( รูปซ้าย )
เปรียบเทยี บการวดั โดยใช้ Resistance Fault Locator และTime Domain Reflectometer
ข้นั ตอนที่ 3การวดั ตาแหน่งเสยี( Fault Location )
Tone Test SetTone Test Set เปน็ เครอื่ งมอื วดั หาตาแหน่งเสยี ของเคเบิลทใี่ ช้ โดยใชห้ ลักการสง่ สญั ญาณเขา้ ไปในคสู่ าย ซึง่ สัญญาณทส่ี ่งไปเปน็ ย่านความถี่เสยี ง เราสามารถทราบถงึ ตาแหน่งเสียงของเคเบิลไดโ้ ดยการฟังเสยี งจากตัวรบั สญั ญาณซ่งึ ต้องรดู ไปกับเคเบิล จดุ ทีส่ ัญญาณเสียงเรม่ิ หายไป จะเป็นตาแหนง่ จุดที่เสียนัน่ เอง โดยเหตเุ สียทส่ี ามารถวัดได้คือ Short , Crossและ Ground สาหรบั ชนิดที่ใชว้ ัดหาตาแหน่งที่เปลือกเคเบิล ( Sheath ) ชารดุ หรือทเี่ รยี กว่า SheathFault Locator นน้ั จะใช้เคเบิลทฝี่ ังดนิ โดยตรง ( Direct Buried ) โดยการสง่ สญั ญาณเข้าไปในในระหว่างชีลด์ของดนิ และมตี ัวรับสญั ญาณเหนอื พ้ืนดนิ ซึง่ จะทาใหท้ ราบแนวสายใต้ดนิความลกึ และจุดเสยี
Tone Test Set
Resistance BridgeResistance Bridge เป็นเคร่ืองมอื วดั หาตาแหนง่ เสียของเคเบิลท่ีใชห้ ลกั การของบริดจ์ วดัคา่ ความตา้ นทานของตวั นาจากจุดวดั ถงึ จดุ เสยี หรือจากปลายสายถึงจดุ เสยี โดยจะคานวณคา่ ทีว่ ดั ไปออกมาเป็นระยะทาง ทาใหท้ ราบว่าเหตเุ สียเกดิ ขึน้ ท่ตี าแหน่งใด ซ่งึ เรียกเครอ่ื งมือชนิดนี้วา่ Resistance Fault Locator
Capacitance BridgeCapacitance Bridge เป็นเครื่องมอื วัดหาตาแหนง่ เสยี ของเคเบิลทีใ่ ชห้ ลักการของบรดิ จ์เช่นกัน เพียงแต่จะใชว้ ดั คูส่ ายจากจดุ วดั ถงึ จดุ เสยี แล้วคานวณออกมาเปน็ ระยะทาง เหตุเสียท่เี ครอ่ื งมือชนดิ นสี้ ามารถวัดได้มีเพยี ง 2 ชนดิ คือ ขาด และ Split ดังน้ัน ส่วนใหญจ่ ะเรยี กเคร่อื งมอื ชนดิ น้วี า่ Open/Split Fault Locator Capacitance Bridge
Time Domain Reflectometer : TDR Time Domain Reflectometer : TDR เป็นเคร่ืองมือวัดหาตาแหน่ง เสียของเคเบลิ โดยใช้หลักการของการสะทอ้ นของสญั ญาณพัลส์ ( Pulse Echo ) โดยการส่งสัญญาณเข้าไปในคูส่ ายและสญั ญาณน้จี ะ สะท้อนกลบั ที่ตาแหนง่ จุดเสีย ซึ่งเครือ่ งสามารถทจี่ ะคานวณ ระยะทางจากจดุ วัดถงึ จดุ เสยี ได้ โดยคานวณจากการท่ีใช้เวลาเคลอ่ื นที่ ของสัญญาณถึงจุดเสีย เหตุเสยี ท่ีสามารถวดั ได้อาจจะเป็น Shunt หรอื Series ก็ได้ แต่ Series Fault จะวดั ได้ดีกว่า Shunt Fault ส่วน กรณีของ Shunt Fault จะวดั ได้ดหี ากคา่ ของ Fault Resistance มคี ่า นอ้ ยมากๆหรือเหตุเสยี มคี วามรนุ แรงมาก
ขดี ความสามารถของเครื่องมอื วดั แตล่ ะชนดิ
ข้นั ตอนท่ี 4 การแก้ไขเหตุเสยี ( Fault Repair )
ข้ันตอนที่ 4 การแก้ไขเหตเุ สยีเม่อื เราเจอเหตุเสยี แล้วจะต้องดาเนนิ การแกไ้ ขตามลกั ษณะเหตเุ สยี ที่เกดิ ข้นึ เช่น หากเกดิ ข้นึ ในเคเบิล อาจจะต้องดาเนนิ การเปล่ยี นเคเบิลในช่วงที่เสยี หากเกดิ ขึน้ ทีห่ ัวต่อ อาจจะตอ้ งมกี ารตดั สายแล้วตอ่ ใหม่ หากเกิดข้ึนจดุ ตอ่ ใดๆก็ต้องเปลยี่ นจุดตอ่ นั้นใหม่ ดังนนั้ จะตอ้ งมกี ารวางแผนการทางาน เนื่องจากต้องใช้งบประมาณ กาลงั คน วัสดุ และเวลา ในการดาเนินการ เป็นต้นเพอื่ ให้คู่สายกลบั มาใช้งานไดต้ ามปกตเิ หมือนเดิม
ข้ันตอนท่ี 5การตรวจสอบความเรียบรอ้ ย ( Test and Verify )
การตรวจสอบความเรียบร้อย ( Test and Verify )หลงั จากทีม่ ีการแก้ไขจดุ เสยี เรยี บร้อยแลว้ จะต้องมกี ารตรวจสอบอีกครั้งหน่ึง เพื่อให้มั่นใจว่าคู่สายที่เราแกไ้ ขนั้นอยู่ในสภาพดี พรอ้ มท่จี ะใช้งานได้ โดยมีการตรวจสอบเหมือนกับการตรวจสอบค่สู ายทัว่ ๆไป กล่าวคอื จะตอ้ งตรวจสอบสภาพฉนวนโดยการวัดระหว่างสาย A-B, A-G และB-G นอกจากนน้ั ต้องวดั Loop Resistance และจะต้องไมม่ ีแรงดนั เหนี่ยวนาจากภายนอก เปน็ ต้น นัน่ หมายถึง สายเคเบิลอย่ใู นสภาพปกตแิ ลว้
THE END
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: