Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 3

หน่วยที่ 3

Published by 6032040034, 2018-08-28 04:55:19

Description: หน่วยที่ 3

Search

Read the Text Version

หนว่ ยท่ี 3โครงสร้างเครอื ขา่ ย

โครงสร้างเครือขา่ ย (Topology)1. ลกั ษณะการเชอื่ มตอ่ เครอื ขา่ ย 1.1 การเชื่อมต่อแบบจุดตอ่ จุด(Point to Point) ตอบ วธิ ีเชื่อมต่อส่อื ส่งข้อมลู ระหว่างอปุ กรณ์ 2 อปุ กรณ์ โดยมีเสน้ ทางเพยี ง 1 เส้นเท่าน้ัน เชน่ ลกั ษณะการเชื่อมต่อระหวา่ งเครือ่ งคอมพวิ เตอรพ์ ีซีแตล่ ะเครอ่ื งมเี พียงสายเพียง 1 สายต่อเชื่อมโยงกัน ในการทางาน หรือในเครือ่ งท่ีทาหนา้ ที่เปน็ เคร่ืองปลายทาง 1 เคร่อื ง เช่อื มตอ่ กับเคร่ืองเมนเฟรมโดย ใช้สาย 1 เสน้ หรือในอกี กรณีหน่งึ เครื่องคอมพวิ เตอร์ 2 เคร่อื งสอ่ื สารกนั โดยใชก้ ารส่งข้อมลู ผ่านคลนื่ ไมโครเวฟ ดงั รูป 1.2 การเช่อื มต่อแบบหลายจุด (Multipoint or Multidrop) ตอบ ส่ือส่งขอ้ มลู 1 สื่อ มีอปุ กรณ์หลายๆ อุปกรณ์ ใชส้ ื่อส่งขอ้ มูลหรอื สายร่วมกันดังรปู นอกจากนถี้ า้ ส่อื ส่งขอ้ มูลเปน็ คล่ืนวทิ ยุ แบบหลายจดุ ใชค้ ลนื่ วิทยุในอากาศร่วมกนั การใชค้ ลื่นวิทยุร่วมกัน ทาได้โดย แบง่ ความถ่ีออกเป็นชว่ งความถข่ี องอปุ กรณแ์ ต่ละตัวซง่ึ ถือว่าเปน็ การใชส้ ื่อส่งขอ้ มูลรว่ มกันในแบบแบง่ ส่วนทีเ่ รียกวา่ การแบ่งปนั สว่ น (spatially share) หรืออาจผลัดกนั ใชส้ ื่อสง่ ข้อมลู โดยกาหนด ระยะเวลาการใชท้ เี่ รยี กวา่ การแบ่งปนั เวลา (time share)

2. โครงสรา้ งของเครือข่าย (Network Topology) แบง่ เป็น 6 ชนิด 2.1 โครงสร้างแบบบสั (Bus Topology) ตอบ เครือข่ายที่ต่อระบบคอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ด้วยสายเคเบิลไปยาวโดยมตี ัวคอนเน็กเตอรเ์ ปน็ ตัว เชอ่ื มต่อคอมพวิ เตอร์และอปุ กรณีเข้ากับสายเคเบิล ในการสง่ ขอ้ มลู น้นั จะสามารถส่งขอ้ มลู ได้แค่เครือ่ งเดียว เพราะข้อมลู จะได้ไม่เกิดการชนกนั ข้อดี คือ ของการเช่ือมต่อแบบบัส คือ ใช้สอ่ื นาข้อมลู น้อย ช่วยให้ประหยัดคา่ ใชจ้ า่ ย และถา้ เครื่องคอมพวิ เตอร์ เครอ่ื งใดเคร่ืองหนง่ึ เสยี ก็จะไม่สง่ ผลต่อการทางาน ขอ้ เสีย คือ การตรวจจดุ ที่มีปัญหา กระทาได้ค่อนขา้ งยาก และถ้ามีจานวนเครื่องคอมพิวเตอรใ์ นเครือข่ายมาก เกนิ ไป จะมกี ารส่งขอ้ มลู ชนกันมากจนเป็นปญั หา ขอ้ จากัด คือ จาเป็นต้องใช้วงจรส่อื สารและซอฟต์แวรเ์ ข้ามาชว่ ยหลีกเล่ียงการชนกันของ สัญญาณข้อมลู และ ถา้ มอี ุปกรณต์ วั ใดตวั หนง่ึ เสียหาย อาจส่งผลใหท้ ้งั ระบบหยุดทางานได้ 2.2 โครงสรา้ งแบบดาว (Star Topology) ตอบ เป็นการตอ่ เครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์และอปุ กรณท์ ี่เป็นจุดศนู ย์กลางของเครือข่ายโดยการนาสถานตี า่ ง ๆ มา ต่อร่วมกันกับหนว่ ยสลับสายกลางการติดต่อสือ่ สารระหว่างสถานจี ะกระทาได้ ด้วยการ ติดต่อผ่านทางวงจร ของหนว่ ยสลบั สายกลางการทางานของหนว่ ยสลับสายกลางจึงเป็น ศนู ย์กลางของการติดต่อ วงจรเชอ่ื มโยง ระหว่างสถานีต่าง ๆ ที่ตอ้ งการตดิ ต่อกัน

ข้อดี คือ ถ้าต้องการเชอื่ มตอ่ คอมพวิ เตอรเ์ ครอ่ื งใหม่ก็สามารถทาได้งา่ ยและไมก่ ระทบต่อ เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ อน่ื ๆ ในระบบ ข้อเสีย คือ คา่ ใชจ้ า่ ยในการใช้สายเคเบ้ลิ จะค่อนขา้ งสงู และเมือ่ ฮบั ไม่ทางาน การสอ่ื สารของคอมพิวเตอรท์ ั้ง ระบบกจ็ ะหยุดตามไปดว้ ย ขอ้ จากดั ถ้าฮับเสยี หายจะทาใหท้ ้งั ระบบตอ้ งหยุดซะงัก และมีความสิน้ เปลืองสายสญั ญาณมากกว่าแบบอืน่ ๆ2.3 โครงสร้างแบบวงแหวน (Ring Topology) ตอบ เปน็ เครือขา่ ยที่เชอ่ื มตอ่ คอมพิวเตอร์ดว้ ยสายเคเบิลยาวเสน้ เดียว ในลักษณะวงแหวน การรับส่งข้อมลู ใน เครอื ข่ายวงแหวน จะใชท้ ิศทางเดียวเท่าน้ัน เม่ือคอมพวิ เตอรเ์ ครื่องหนง่ึ สง่ ข้อมูล มันกจ็ ะส่งไปยังคอมพิวเตอร์ เครื่องถดั ไป ถ้าข้อมูลที่รบั มาไม่ตรงตามท่คี อมพิวเตอรเ์ คร่ืองตน้ ทางระบุ มันก็จะสง่ ผ่านไปยัง คอมพิวเตอร์ เครือ่ งถดั ไปซึง่ จะเปน็ ขนั้ ตอนอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงคอมพิวเตอร์ปลายทางที่ถกู ระบุตามท่ีอยู่ ขอ้ ดี ของโครงสร้าง เครอื ข่ายแบบวงแหวนคือ ใช้สายเคเบิ้ลน้อย และถา้ ตัดเครื่องคอมพิวเตอร์ทีเ่ สียออกจาก ระบบ กจ็ ะไมส่ ง่ ผลต่อการทางานของระบบเครือข่ายนี้ และจะไมม่ ีการชนกนั ของข้อมูลท่แี ตล่ ะเครื่องสง่ ขอ้ เสยี ถา้ เครอ่ื งใดเครื่องหนงึ่ ในเครอื ขา่ ยเสยี หาย อาจทาใหท้ ั้งระบบหยดุ ทางานได้2.4 โครงสร้างแบบต้นไม้ (Tree Topology) ตอบ มลี ักษณะเชอื่ มโยงโครงสรา้ งคลา้ ยแบบดาว แต่จะมีโครงสร้างออกมาแบบตน้ ไม้ โดยมีสายนาสัญญาณ แยกออกไปเปน็ แบบกิ่งไม่เปน็ วงรอบ โครงสร้างแบบนจ้ี ะเหมาะกบั การประมวลผลแบบกลมุ่ จะประกอบด้วย เครอื่ ง คอมพวิ เตอร์ระดับต่างๆกันอยหู่ ลายเครือ่ งแลว้ ต่อกันเปน็ ชั้น ๆ ดูราวกับแผนภาพองค์กร

ข้อดี รองรบั การขยายเครือขา่ ยในแตล่ ะจุด และรองรบั อุปกรณ์จากผูผ้ ลติ ทีแ่ ตกตา่ งกนั ขอ้ เสีย ความยาวของแตล่ ะเซ็กเมนต์อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสายสญั ญาณทใี่ ช้ หากสายสญั ญาณแบ๊กโบน เสยี หาย เครอื ขา่ ยจะไม่สามารถส่ือสารกันได้ การติดตงั้ ทาได้ยากกวา่ โพโลยีแบบอ่ืน2.5 โครงสร้างแบบผสม (Hybrid Topology) ตอบ เป็นเครอื ข่ายที่ผสมกันทัง้ แบบ บัส แบบดาว แบบวงแหวน เชน่ วิทยาเขตขนาดเล็กทีม่ หี ลาย อาคาร เครือข่ายของแต่ละอาคารอาจใช้แบบบสั เช่ือมต่อกับอาคารอ่นื ๆที่ใชแ้ บบดาว และแบบวงแหวน2.6 โครงสร้างแบบเมซ (Mesh Topology) ตอบ เคร่ืองคอมพวิ เตอรแ์ ต่ละเคร่ืองจะมชี ่องสญั ญาณจานวนมาก เพื่อที่จะเชือ่ มต่อกับเคร่ือง คอมพิวเตอร์เครื่องอืน่ ๆ ทกุ เครือ่ งส่งข้อมลู ได้อิสระไม่ต้องรอการสง่ ข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพวิ เตอร์ เคร่ืองอนื่ ๆ สามารถป้องกันการผิดพลาดที่อาจจะเกดิ ขึ้นกับระบบได้ดที ่สี ุด เป็นรปู แบบทใ่ี ชว้ ธิ กี าร เดินสายของแตเ่ คร่ืองไปเชื่อมการตดิ ต่อกับทุกเคร่ืองในระบบเครอื ข่าย คอื เคร่อื งทุกเครอื่ งในระบบ เครือข่ายน้ี ตอ้ งมีสายไปเชื่อมกบั ทกุ ๆ เครอ่ื ง ข้อดี อตั ราความเรว็ ในการสง่ ขอ้ มลู ความเชือ่ ถือไดข้ องระบบ งา่ ยต่อการตรวจสอบความผดิ พลาด ข้อมูลมี ความปลอดภัยและมคี วามเป็นส่วนตัว ข้อเสีย คา่ ใช้จา่ ยสายเคเบ้ิลสูง เช่น ถ้าในกรณีที่จานวนโหนดมากเช่นถ้าจานวนโหนดทัง้ หมด ในเครือขา่ ยมีอยู่ 100 โหนด จะตอ้ งมจี านวนจุดเช่อื มต่อถึง 4,950 เสน้ เป็นต้น นายวิชรัตน์ ธนพงศ์พิพัฒน์ ช้นั ปวส.2 เลขท่ี 34

ใบงานรปู แบบการเชื่อมตอ่ เพ่ิมเตมิ1. ใหน้ ักศกึ ษาอธบิ ายเก่ียวกับรูปแบบเครือขา่ ย 2 ประเภท 1.1. Client/Server มีลักษณะอย่างไร และมีข้อดี-ข้อเสียอยา่ งไร เป็นรูปแบบหนงึ่ ของเครือข่ายแบบ server-based โดยจะมคี อมพิวเตอรห์ ลักเคร่ืองหน่ึงเปน็เซริ ์ฟเวอร์ ซง่ึ จะไมไ่ ด้ทาหนา้ ทีป่ ระมวลผลทงั้ หมดใหเ้ ครื่องลูกขา่ ย หรอื ไคลเอนต์ (client) เซริ ฟ์ เวอร์ทาหน้าที่เสมอื นเป็นทีเ่ ก็บข้อมูลระยะไกล (remote disk) และประมวลผลบางอยา่ งใหก้ ับไคลเอนต์เท่านัน้ เช่นประมวลผลคาส่ังในการดงึ ข้อมลู จากเซริ ฟ์ เวอร์ฐานข้อมลู (database server) เป็นตน้ข้อดี1. ให้ประสิทธภิ าพในการแบง่ ปนั การใช้งานทรัพยากรแก่ไคลเอนตไ์ ด้ดีกวา่ เนือ่ งจากคอมพิวเตอรท์ ี่ถูกนามาใช้เป็นเซริ ์ฟเวอร์มกั เปน็ เครอ่ื งท่ีมปี ระสทิ ธิภาพสงู2. การรกั ษาความปลอดภัยสามารถทาไดด้ ีกว่า เน่ืองจากการดแู ลความปลอดภยั เปน็ ไปในรปู แบบรวมศูนย์(Centralized) ผู้ใช้งานท่ีจะเขา้ มาสู่เครือข่ายเพื่อใชง้ านเซิรฟ์ เวอร์จะต้องไดร้ บั อนุญาตเสยี ก่อน3. ง่ายตอ่ การบริหารจดั การหากเครือขา่ ยถูกขยายขนาด รวมท้งั มผี ู้ใชง้ านเพิม่ ข้นึ4. สามารถติดตงั้ แอพพลเิ คชัน (Application) ไวท้ ่เี ซิร์ฟเวอรเ์ พียงชดุ เดียว และแบ่งใช้งานแกผ่ ้ใู ช้งานเปน็จานวนมาก ทาให้ประหยดั ค่าใชจ้ ่ายในเรื่องซอฟต์แวรไ์ ดด้ ี5. สามารถสารองหรือทาสาเนาข้อมูลท่ีศนู ย์กลาง ทาให้สะดวกรวดเรว็ข้อเสีย1. คา่ ใช้จา่ ยในการติดตั้งเซริ ฟ์ เวอร์ 1 ตวั สงู กวา่ คอมพวิ เตอร์ท่วั ไป อีกทงั้ ผู้ดูแลจะตอ้ งมคี วามรพู้ อสมควร2. จะตอ้ งมีผูด้ ูแลและจดั การเซริ ฟ์ เวอรเ์ ป็นการเฉพาะ

1.1.1 Web Server ทาหน้าทอี่ ย่างไร ทาหนา้ ที่ในการรบั คาส่ังจากการรอ้ งขอของฝงั่ Client (โดยผ่านทาง Browser) และประมวลผลการทางานจากการร้องขอดงั กล่าว แล้วสง่ ข้อมูลกลบั ไปยังเคร่ืองของ Client ท่รี ้องขอสรุปคือ Web server คอื โปรแกรมท่ีคอยให้บริการแก่ Client ทร่ี อ้ งขอข้อมูลเข้ามาโดยผ่านBrowser1.1.2 Mail server ทาหน้าท่อี ยา่ งไร1. เกบ็ ข้อมูล Email ทงั้ หมด เช่น Inbox เป็นตน้ เมล์เซิรฟ์ เวอร์ (Mail Server) มหี น้าท่ใี นการเกบ็ข้อมลู ตัง้ แต่ข้อความธรรมดา, ไฟลแ์ นบทุกประเภท ไวใ้ น Harddisk ของ เมล์เซริ ์ฟเวอร์ (Mail Server)2. รับอีเมล์ (Inbound) เมลเ์ ซริ ์ฟเวอร์ (Mail Server) ถอื เปน็ ดา่ นแรกทจี่ ะต้องทาการรับอเี มล์ ท่ถี ูกสง่ จากภายนอกท้งั หมดและนามาเกบ็ ไว้ในเครื่อง, หาก เคร่ืองเมลเ์ ซิร์ฟเวอร์ (Mail Server) มีการลม่จะส่งทาให้ บุคคลภายนอกส่งอเี มลเ์ ข้ามาไม่ได้3. กรองอีเมลโ์ ฆษณา (Spam&Junk Mail) ในส่วนของขาเขา้ ก่อนท่ีจะส่งเข้าไปใน Inbox เมล์เซริ ฟ์ เวอร์ (Mail Server) ที่มีมาตรฐานต้องมกี ารกรอง Email ขาเข้าทง้ั หมด และ ต้องแยกให้ไดว้ ่าEmail ไหน สมควรนาส่งเข้าไปใน INBOX และ Email ไหนเป็น Junk หรือ Spam mail, หากเมล์เซิรฟ์ เวอร์ (Mail Server) ไม่สามารถกรอง Spam ได้ดี Inbox ก็จะเต็มไปด้วย อเี มล์โฆษณา4. สง่ อีเมล์ (Outbound หรือ SMTP) เมลเ์ ซริ ์ฟเวอร์ (Mail Server) มีหนา้ ท่สี ง่ เนื้อหา และ ไฟล์แนบ ไปยัง Email ปลายทาง ตามท่ผี ู้ใชง้ านได้ระบุเอาไวใ้ นชอ่ ง TO:, เมล์เซริ ์ฟเวอร์ (Mail Server) ท่ีไมไ่ ด้มาตรฐานโดยสว่ นใหญ่มักประสบปัญหา ไมส่ ามารถสง่ อีเมล์ไปยังปลายทาง เชน่ @hotmail,@gmail, @yahoo ไม่ได้ เน่อื งจากประสบปัญหา IP ของ Mail Server น้ันติด Blacklist

1.1.3 File Server ทาหนา้ ท่ีอย่างไร เซริ ฟ์ เวอร์ที่จัดทาขน้ึ เพ่ือใช้ในการเก็บไฟลต์ ่าง ๆ มาไว้ทเี่ ซริ ์ฟเวอร์ และเปิดให้บรกิ ารดงึ ขอ้ มลู นน้ั ๆ ลงมาใช้ (ดาวน์โหลด)ซึ่งมีทงั้ แบบให้ใช้ฟรี และแบบจา่ ยเงินค่าสมาชกิ เพ่ือการดาวน์โหลด 1.1.4 Print server ทาหน้าทอี่ ยา่ งไร ทาหนา้ ทีใ่ หบ้ ริการเครื่องพิมพ์ ในการพิมพเ์ อกสารตา่ งๆโดยแต่ละเครือข่ายคอมพิวเตอรอ์ าจ มเี ครอื่ งพิมพ์เพยี ง 1 เครื่องท่ีเช่อื มตอ่ เข้ากบั print server ซึ่งเครื่องคอมพวิ เตอร์อ่นื ในเครอื ขา่ ย สามารถพิมพ์เอกสารท่ีเคร่ืองพมิ พน์ ไ้ี ด้ 1.2. Peer to Peer มีลกั ษณะอย่างไร และมขี ้อดี-ข้อเสียอย่างไร เครอื ข่ายแบบน้ีจะเกบ็ ไฟลแ์ ละการเช่อื มต่อกับอปุ กรณต์ ่างๆ ไว้ท่ีเครื่องคอมพวิ เตอร์ของผใู้ ชแ้ ตล่ ะคนโดยไม่มคี อมพิวเตอรส์ ่วนกลางท่ที าหน้าที่น้ี เรียกไดว้ า่ ต่างคนต่างเก็บ ต่างคนตา่ งใช้ แตผ่ ้ใู ช้ในเครอื ข่ายสามารถเรยี กใช้ไฟลจ์ ากคอมพวิ เตอร์เครื่องอื่นได้ ถ้าคอมพิวเตอรเ์ คร่อื งน้นั ทาการแชร์ไฟลเ์ หลา่ นัน้ ไว้เครอื ข่ายแบบ Peer-to-Peer น้ีเหมาะสาหรับองคก์ รขนาดเลก็ ทม่ี คี อมพวิ เตอรเ์ ช่ือมต่อกันไมเ่ กิน 10 เคร่ืองเน่ืองจากตดิ ตัง้ งา่ ย ราคาไม่แพง และการดแู ลไมย่ ุง่ ยากนัก แต่ถ้าคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายมมี ากกว่า 10 เคร่ืองข้นึ ไปควรจะใชเ้ ครือข่ายแบบอืน่ ดกี ว่า ขอ้ ดี 1. สามารถใช้งานทรัพยากรซ่ึงเช่อื มอยู่กับเคร่ืองใดๆ ในเครือขา่ ย 2. ประหยดั ค่าใช้จ่ายในส่วนของ Server

3. สามารถกระจายโปรแกรมประยกุ ต์ไปไวย้ งั เคร่อื งตา่ งๆ เพอื่ ลดการจราจรในเครือขา่ ยได้ 4. ติดต้ังง่าย ใชง้ านงา่ ย ข้อเสยี 1. การดูแลระบบทาได้ยาก เนอ่ื งจากทรัพยากรกระจัดกระจายกนั ไปในเคร่ืองตา่ งๆ 2. มีประสทิ ธิภาพทีต่ ่ากวา่ แบบ Server based มาก 3. เครือ่ งทุกเคร่ืองต้องมีหน่วยความจาและประสทิ ธภิ าพสูงกว่าเครอ่ื ง workstaion ในแบบ Server-based 4. ความเรว็ ไม่สูงเท่าแบบ Server-based 5. ระบบความปลอดภยั ไม่ค่อยดี2. ระบบเครอื ขา่ ยท้องถน่ิ (Local Area Network :LAN) ทีน่ ิยมสงู สดุ มีอยู่ 3 ชนดิ คือ 2.1 อเี ทอรเ์ น็ต (Ethernet) ให้นกั ศึกษาสรุป ข้อแตกตา่ งรูปแบบการเช่อื มโยงเครอื ขา่ ยอีเทอร์เนต็ ตามมาตรฐานตอ่ ไปน้ี 2.1.1 10Base5 ความหมาย 10 คือ ความเรว็ ในการส่งข้อมูล 10 Mbps Base คือ การสง่ข้อมูลแบบ Baseband 5 คือ ความยาวสงู สุด 500 เมตร 10 Base 5 เปน็ เครือข่ายแบบท่ีมลี ักษณะคลา้ ยกับ10 Base 2 แต่จะใชส้ าย Coaxial แบบหนา เป็นสายชนดิ RG-8 ซ่ึงสายจะเปน็ สีเหลืองและ มขี นาดใหญโ่ ดยTerminator เปน็ ตัวปดิ หวั และท้ายของเครือข่าย เครือขา่ ยชนิด 10 Base 5 นี้ จะมตี ่อจานวนเครอื่ งได้มากกว่า และตอ่ ในระยะได้ ไกลกว่าแบบ 10 Base 2ขอ้ กาหนดของ 10 Base 5 1. ใชส้ าย Thick coaxial ชนิด RG-8 2. หวั ทใ่ี ช้ต่อกับสายคือหวั DIX หรอื บางทีอาจจะเรยี กว่า หวั AUI 3. เครอ่ื งตังแรกตัวสดุ ทา้ ยในเครือข่ายต้องปดิ ดว้ ย N-Series Terminator ขนาด 50 โอมห์ 4. ระยะหา่ งระหวา่ ง Transceiver ต้องไม่ตา่ กวา่ 2.5 เมตร 5. Transceiver Cable จะมีความยาวได้ไมเ่ กนิ 50 เมตร 6. ใน 1 Segment สามารถต่อเปน็ เครือข่ายได้ไม่เกิน 100 เครือ่ ง 7. สายสญั ญาณต่อ 1 Segment ยาวไมเ่ กนิ 500 เมตร 8. ในกรณที ี่ต้องการต่อมากกว่า 100 เครื่อง ตอ้ งมีอุปกรณ์ทเ่ี รียกวา่ Repeater เพื่อเพิม่ Segment โดย สามารถต่อ Repeater ได้ไม่เกนิ 4 Repeater 9. ความยาวของสายสญั ญาณทงั้ หมด สงู สดุ 2,500 เมตร 10. จานวนเครือ่ งสูงสดุ ในเครอื ขา่ ย 500 เครอ่ื ง

2.1.2 10Base2 เปน็ รูปแบบตอ่ สายโดยใชส้ าย Coaxial มีเสน้ ศนู ย์กลาง 1/4 นว้ิ เรียกว่าThin Coaxial สายจะมีความยาวไมเ่ กิน 180 เมตร มาตรฐาน 10 Base 2 ความหมาย 10 คอื ความเรว็ ในการสง่ข้อมลู 10 Mbps Base คือการสง่ ขอ้ มลู แบบ Baseband 2 คอื ความยาวสูงสุด 200 เมตร (185 – 200 เมตร)10 Base 2 เป็นแบบเครือข่ายที่ใช้สาย Coaxial แบบบาง (Thin Coaxial) ชนิด RG-58 A/U โดยจะมีTeminator (50 โอมห์ ) เปน็ ตัวปดิ หัว และทา้ ยของเครือข่ายข้อกาหนดของ 10 Base 2 1. ใช้สาย Thin Coaxial ชนิด RG-58 A/U 2. หวั ทใี่ ชต้ อ่ กับสายคือ หวั BNC 3. หา้ มต่อหัว BNC เขา้ กับ LAN Card โดยตรง ต้องต่อดว้ ย T-Connector เทา่ นน้ั 4. เครอื่ งตัวแรกและตวั สดุ ท้ายในเครอื ข่าย ต้องปิดดว้ ย Terminator ขนาด 50 โอมห์ 5. ความยาวของสายแต่ละเสน้ ที่ต่อระหวา่ ง Workstation ตอ้ งมีความยาวไม่ต่ากว่า 0.5 เมตร 6. สายสัญญาณต่อ 1 Segment ยาวไมเ่ กิน 200 เมตร (185 – 200 เมตร ) 7. ใน 1 Segment สามารถตอ่ เป็นเครือข่ายได้ไม่เกิน 30 เครอื่ ง 8. ในกรณีที่ต้องการต่อมากกว่า 30 เครื่อง ตอ้ งมีอปุ กรณท์ ี่เรยี กว่า Repeater เพือ่ เพมิ่ Segment โดย สามารถต่อ Repeater ไดไ้ ม่เกิน 4 Repeater ( ดังนนั้ 4 Repeater = 5 Segment 9. ความยาวของสายสัญญาณท้ังหมด สูงสดุ 1000 เมตร (200 เมตรตอ่ 1 Segment คูณดว้ ย 5 Segment) 10. จานวนเครื่องสงู สุดในเครือข่าย 150 เครือ่ ง (30 เคร่ืองต่อ 1 Segment คณู ด้วย 5 Segment) 2.1.3 10BaseT ความหมาย 10 คือ ความเรว็ ในการส่งข้อมลู 10 Mbps Base คอื การส่งขอ้ มลู แบบ Baseband T คอื Twisted Pair (UTP)ขอ้ กาหนดของ 10 Base T 1. ใช้สาย UTP ชนดิ CAT-3 หรอื CAT-5 2. หัวท่ใี ชต้ ่อกับสายคือหัวชนดิ RJ-45 3. ระยะระหว่างเครื่อง หรือระหวา่ ง HUB กับ HUB จะยาวไม่เกิน 100 เมตร 4. 1 Segment = 4 Hub] 5. ใน 1 Segment สามารถต่อเปน็ เครอื ข่ายได้ 512 เครอื่ ง 6. ในกรณีทีต้องการต่อมากกวา่ 52 เคร่ือง ต้องเพิม่ HUB ไดไ้ ม่เกนิ 4 ตวั 7. จานวนเคร่อื งสูงสดุ ในเครือขา่ ย 2,560 เครอื่ ง

2.2 ไอบเี อม็ โทเคน็ รงิ (IBM Token Ring) ใหน้ ักศกึ ษาสรุปกลไกการสง่ ข้อมูล ในช่วงเลาหนึ่งจะมเี พียงโหนดเดยี วท่ีสามารถส่งข้อมลู ในขณะน้ันได้ นัน่ กค็ ือโหนดท่ีครอบครองโทเคน็โดยโทเคน็ จะไปพร้อมกบั ข้อมูลที่สง่ ไปยงั โหนดภายในวงแหวน หากโหนดใดไดร้ บั ข้อมลู พรอ้ มรหัสโทเค็นแลว้ตรวจสอบพบวา่ ไม่ใชข่ ้อมูลท่ีสง่ มายงั ตน กจ็ ะส่งทอดไปยังโหนดถัดไปภายในวงแหวนไปเร่อื ย ๆ จนกระทัง่ ถงึโหนดปลายทางท่ตี อ้ งการ เม่ือครบรอบวงแลว้ รหสั โทเค็นก็จะเขา้ ส่สู ภาวะวา่ งอีกคร้งั หน่ึง ดว้ ยการสง่ ทอดรหสัวา่ งไปตามวงแหวนผา่ นโหนดตา่ ง ๆ เป้นวงรอบและพร้อมทจี่ ะให้โหนดอืน่ ๆ ครอบครองโทเค็นเพ่ือการส่งข้อมลู ในรอบต่อไป สาหรบั สายเคเบ้ิลท่ีใชง้ านบนเครอื ข่ายไอบีเอ็มโทเค็นรงิ สามารถใชส้ ายแบบเอสทีพหี รือยูทพี ีก็ได้ พร้อมหัวปลัก๊ เชื่อมต่ชนิด IBM-Type1 2.3 เอฟดีดีไอ (Fiber Data Distributed Interface :FDDI) ให้นกั ศกึ ษาสรุปหน่วยงานใดเปน็ ผู้กาหนดมาตรฐาน และอธบิ ายลักษณะของการส่งข้อมูลบนเครอื ขา่ ย เอฟดีดไี อ รวมทั้งอธบิ ายการทางานของวงแหวนทัง้ 2 วงด้วย ANSI (American National Standards Institute) เป็นสถาบันท่ีจดั ตง้ั ขนึ้ โดยไม่แสวงผลกาไรทางธุรกจิ ทาหน้าทีป่ ระสานงานระหวา่ งองคก์ รกาหนดมาตรฐานอนื่ ๆ เปน็ ผู้กาหนดมาตรฐาน FDDI คือเครอื ข่ายความเร็วสงู รุ่นใหม่ Fiber Distributed Data Interface การเชอ่ื มต่อจะมีความเร็วประมาณ 100-200 เมกะบิตต่อวนิ าที เครือข่าย FDDI จะใช้สายใยแก้วนาแสงโดยแปลงจาก โทโปโลยีแบบวงแหวน เพยี งแต่มวี งแหวน 2 วงแหวนดว้ ยกัน ซึ่งประกอบด้วยวงแหวนปฐมภมู แิ ละวงแหวนทุติยภูมิ วงแหวนปฐมภูม(ิ PrimaryRing) คอื วงแหวนหลักดา้ นนอกซ่งึ ใชเ้ ปน็ สายสง่ ข้อมูลหลักภายในระบบเครือข่าย โดยรหัสโทเค็นจะวงิ่ วนรอบวงแหวนทิศทางใดกท็ ิศทางหนง่ึ วงแหวนทุติยภมู ิ(Secondary Ring) คอื วงแหวนสารองที่อยู่ดา้ นในสุด โทเค็นที่อยู่ในวงแหวนดา้ นในจะว่ิงในทิศทางตรงกันข้ามกับวงแหวนดา้ นนอก โดยวงแหวนทุติยภมู ิจะถูกใช้งานก็ต่อเม่ือวงแหวนปฐมภมู ิเกิดปัญหาเท่านัน้ เชน่ สายเคเบิลที่วงแหวนในปฐมภมู ิเกิดการขาด และเมื่อเหตุการณ์เช่นนเี้ กิดขนึ้ วงจรภายในวงแหวนทตุ ยิ ภูมิกจ็ ะเรม่ิ ทางานทันทีดว้ ยการเช่อื มต่อเข้ากบั วงแหวนปฐมภมู ิ ทาให้สามารถประคับประคองระบบใหย้ งั คงสามารถทางานตอ่ ไปได้ โดยโทเค็นเองก็ยังคงสามารถวิง่ ภายในรอบวงแหวนได้เช่นเดิม ทาให้เครือข่ายสามารถดาเนนิ การต่อได้ตามปกติ --------------------------------------------------------------------------- นายวิชรตั น์ ธนพงศพ์ ิพฒั น์ ช้นั ปวส.2 เลขท่ี 34

นายวชิ รัตน์ ธนพงศพ์ พิ ฒั น์ ช้นั ปวส.2 เลขท่ี 34


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook