Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทเรียนสำเร็จรูป กาพย์พระไชยสุริยา e-book

บทเรียนสำเร็จรูป กาพย์พระไชยสุริยา e-book

Published by kunnaipueng, 2020-06-13 14:52:15

Description: บทเรียนสำเร็จรูป กาพย์พระไชยสุริยา e-book

Search

Read the Text Version

โดย คุณครูพริ าวรรณ โฉลกดี ตาแหนง่ ครู โรงเรยี นแนงมดุ วทิ ยา อาเภอกาบเชงิ จงั หวดั สรุ นิ ทร์ สานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาเขต 33

บทเรยี นสาเรจ็ รูป เรอ่ื ง กาพย์เรอ่ื งพระไชยสรุ ยิ า ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 คาแนะนาการใช้บทเรยี นสาเรจ็ รปู ๑. บทเรียนสาเรจ็ รูป เรอ่ื ง กาพย์เรอ่ื งพระไชยสรุ ยิ า ประกอบด้วยเน้ือหา ดงั นี้ ชุดที่ 1 เลา่ เรือ่ งกาพยพ์ ระไชยสุริยา ชดุ ท่ี 2 สรรคาแตง่ กาพย์ยานี ชุดท่ี 3 ฝึกฝนดแี ตง่ กาพย์ฉบัง ชดุ ที่ 4 คลงั คาแตง่ สุรางคนางค์ ๒. นกั เรยี นศึกษาเนื้อหาตามลาดับ แล้วตอบคาถามแตล่ ะกจิ กรรมและตรวจคาตอบ จากบัตรเฉลย ๓. ถ้าตอบผดิ ใหศ้ ึกษาเน้ือหาเร่ืองนั้นใหม่จนเขา้ ใจ แล้วตอบใหม่ จากนั้นจึงผ่านไปเรียน เรือ่ งต่อไป ๔. เมื่อศกึ ษาเนอ้ื หาและทากจิ กรรมครบทกุ สว่ นแล้ว ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น เพื่อ ตรวจสอบวา่ ตนเองมคี วามรูเ้ พม่ิ เติมมากน้อยเพยี งใด ๕. ตรวจคาเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน – หลังเรียน และคาเฉลยกิจกรรมทา้ ยเลม่ ๖. อย่าเปิดดูคาตอบท่เี ฉลยไว้กอ่ นจะตอบคาถามเสร็จเรียบรอ้ ย

มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั สาระท่ี 4 หลกั การใชภ้ าษาไทย มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของ ภาษาและพลังของภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตขิ องชาติ ตวั ชวี้ ดั ม.1/5 แตง่ คาประพนั ธ์ สาระที่ 5 วรรณคดแี ละวรรณกรรม มาตรฐาน ท 5.1 เขา้ ใจและแสดงความคดิ เหน็ วิจารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทย อย่างเหน็ คณุ คา่ และนามาประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จริง ตวั ชว้ี ดั ม.1/1 สรปุ เนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมทอ่ี า่ น ม.1/2 วเิ คราะห์วรรณคดแี ละวรรณกรรมที่อ่าน พร้อมยกเหตผุ ลประกอบ ม.1/3 อธบิ ายคณุ ค่าของวรรณคดแี ละวรรณกรรมท่อี ่าน ม.1/4 สรปุ ความรูแ้ ละขอ้ คดิ จากการอ่านเพอื่ ประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตจริง

ทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรอ่ื ง กาพย์เรอ่ื งพระไชยสรุ ยิ ากนั เถอะ เดก็ ๆ เลอื กคาตอบ ทคี่ ดิ วา่ ถกู ตอ้ งทส่ี ดุ นะคะ 1. ผ้ใู ดแต่งกาพยเ์ รอื่ งพระไชยสรุ ยิ า 1. สุนทรภู่ 2. พระยาอปุ กติ ศลิ ปสาร 3. พระยาศรีสนุ ทรโวหาร 4. สมเด็จพระมหาสมณเจา้ กรมพระปรมานุชิตชิโนรส 2. กาพย์เร่อื งพระไชยสรุ ิยาแต่งในสมัยใด 1. รัชกาลที่ 1 2. รชั กาลที่ 2 3. รัชกาลท่ี 3 4. รัชกาลที่ 4 3. ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้องเกี่ยวกับกาพย์เรือ่ งพระไชยสรุ ิยา 1. แต่งเป็นรา่ ยสภุ าพ 2. แตง่ เปน็ กลอนสุภาพ 3. แต่งเปน็ กาพย์ยานี กาพยฉ์ บัง และกาพย์สรุ างคนางค์ 4. แต่งเปน็ กาพยย์ านี กาพย์ห่อโคลง และกาพย์สุรางคนางค์ 4. กาพย์เรอ่ื งพระไชยสุริยา เร่มิ ต้นดว้ ยบทอะไรกอ่ น 1. บทไหวพ้ ระ 2. บทไหว้เทวดา 3. บทไหวบ้ ดิ ามารดา 4. บทไหวค้ รู 5. ขอ้ ใดเป็นจุดประสงคใ์ นการแต่งกาพยเ์ ร่อื งพระไชยสรุ ยิ า 1. เพื่อเป็นการเผยแพรใ่ ห้ทว่ั ประเทศ 2. เพอ่ื เปน็ ตวั อยา่ งของหนงั สือเรยี น 3. เพื่อเปน็ หนังสือเรยี นสาหรับเดก็ 4. เพือ่ ใช้เป็นหนงั สือเรยี นสาหรับผ้ใู หญ่ 6. “ไกรกรา่ งยางยงู สงู ระหง ตลงิ ปลงิ ปรงิ ประยงค์ คนั ทรงสง่ กลิน่ ฝ่ินฝาง” ข้อความข้างบนน้ี ขอ้ ใดเปน็ สัมผัสพยัญชนะ 1. ไกร - กร่าง, ยาง - ยงู , ปรงิ - ประยงค์, ฝน่ิ - ฝาง 2. กรา่ ง - ยาง, ยูง - สูง, ทรง - ส่ง 3. ระ – ตะ – ปะ 4. ลงิ – ปริง – ปลิง

7. “ขนึ้ กงจงสาคญั ทง้ั กนปนกนั ราพนั มงิ่ ไมใ้ นดง ไกรกรา่ งยางยงู สงู ระหง ตลงิ ปลงิ ปรงิ ประยงค์ คนั ทรงสง่ กลิ่นฝ่นิ ฝาง” กาพย์บททนใี้ ช้คาในแม่อะไร และแตง่ ด้วยคาประพนั ธ์ชนดิ ใด 1. คาในแมก่ ง โดยมคี าในแม่ ก กา และแม่กน ปนอยูด่ ้วย 2. คาในแม่ ก กา โดยมคี าในแม่ กง ปนอยู่ด้วย 3. คาในแม่ กน โดยมคี าในแม่ กม ปนอยู่ดว้ ย 4. คาในแม่ กก โดยมคี าในแม่ เกย ปนอยู่ด้วย 8. “วนั นนั้ จนั ทร มดี ารากร เปน็ บรวิ าร เห็นสนิ้ ดินฟา้ ในปา่ ทา่ ธาร มาลคี ลบี่ าน ใบกา้ นอรชร เยน็ ฉา่ นา้ ฟา้ ช่นื ชะผกา วายพุ าขจร สารพนั จันทน์อนิ รน่ื กลนิ่ เกสร แตนตอ่ คลอรอ่ น วา้ วอ่ นเวยี นระวนั ข้อความข้างบนน้ี ใชถ้ ้อยคาเปน็ อย่างไร 1. ใชถ้ อ้ ยคาใหเ้ กิดจนิ ตนาการ 2. ใชถ้ อ้ ยคาใหเ้ กิดแงค่ ดิ 3. ใช้ถอ้ ยคาใหค้ วามรู้ 4. ใช้ถอ้ ยคาใหค้ าสอน 9. “ขนุ นางตา่ งลกุ วง่ิ ทา่ นผหู้ ญงิ วงิ่ ยดุ หลงั พัลวนั ดนั ดดงึ ตงึ ตงั พลง้ั พลดั ตกหกคะเมน พระสงฆล์ งจากกฏุ ิ์ วง่ิ อตุ ลดุ ฉดุ มอื เณร หลวงชหี นหี ลวงเถร ลงโคลนเคลนเผ่นผาดโผน พวกวพั ลดั เขา้ บา้ น ลา้ นตอ่ ลา้ นซานเซโดน ตน้ ไมไ้ กวเอนโอน ลงิ คา่ งโจนโผนหกหนั ” ข้อความน้ีแสดงอารมณ์อะไร 1. อารมณเ์ ศรา้ 2. อารมณ์ขนั 3. อารมณ์โกรธ 4. อารมณร์ ัก 10. จากเร่อื งกาพยพ์ ระไชยสรุ ยิ า แสดงวา่ บา้ นเมืองล่มจม เพราะอะไร 1. ไม่มที หารรักษาบ้านเมอื ง 2. ผ้นู าชว่ั ประชาชนข้เี กียจ 3. ขา้ ราชการดี แตป่ ระชาชนเลว 4. ขา้ ราชการไม่สุจริต คดโกง ผ้นู าไม่เขม้ แข็ง ประชาชนมวั เมาอบายมขุ

11. ข้อใดเปน็ หน่ึงในกาลกณิ ี 4 ประการ ทท่ี าให้บา้ นเมืองลม่ จม 1. การฆ่าสตั วต์ ัดชวี ติ 2. การคบเพ่ือนชว่ั กลบั จรติ ผดิ โบราณ 3. ประกอบชอบเป็นผดิ สามญั อันธพาล ผลาญคนซ่ือถือสตั ยธ์ รรม 4. เบียดเบยี นเสยี ดส่อฉ้อฉล บาปกรรมนาตน ไปทนทกุ ข์นับกัปกลั ป์ 12. คาว่า “ลอ่ ใจกมุ ารา” ในกาพย์เรื่องพระไชยสรุ ิยา มคี วามมุ่งหมายเพ่ืออะไร 1. เพอ่ื มใิ หเ้ ด็กขี้เกียจอา่ นหนังสือ 2. เพอื่ ใหเ้ ดก็ ๆ มาโรงเรียนทกุ วัน 3. เพ่อื มใิ หเ้ ด็กเบ่ือหนา่ ยการเรยี น 4. เพอ่ื มิใหน้ กั เรยี นหนีเทย่ี ว 13. คาวา่ “เจา้ สภุ า” แปลวา่ อะไร 1. ผ้พู พิ ากษา 2. อยั การ 3. ทนายความ 4. ตารวจ 14. คาวา่ “ภาษาไสย” หมายถงึ อะไร 1. ภาษาไทยศาสตร์ 2. เรอ่ื งไสยศาสตร์ 3. เร่ืองเวทยม์ นต์ 4. ภาษาตา่ งประเทศ 15. คาว่า “ภุมราการุญสนุ ทร” หมายถึงใคร 1. แมลงภู่ 2. สนุ ทรภู่ 3. นายการุญ สุนทร 4. นายมี ศษิ ยข์ องสุนทรภู่ 16. แนวคิดสาคัญทีป่ รากฏในเรอ่ื งกาพย์พระไชยสรุ ยิ า 1. บา้ นเมอื งจะพินาศ ถ้านกั ปราชญ์ไมอ่ าจหาญ 2. บ้านเมืองจะลม่ จม ถา้ คนในสังคมขาดศลี ธรรม 3. บ้านเมอื งจะย่อยยับ ถ้าไมน่ บั ถือระบบอาวุโส 4. บ้านเมอื งจะปัน่ ป่วน ถ้ามีอันธพาลก่อกวนไม่หยุด 17. เรือ่ งใดสาคญั ท่ีสดุ สาหรบั การแตง่ คาประพนั ธป์ ระเภทกาพย์ 1. โวหาร 2. ภาพพจน์ 3. ลลี าของกาพย์ 4. ลกั ษณะฉนั ทลักษณ์ 18. ส่งิ ใดที่กาหนดจานวนคาในแตล่ ะบทของคาประพนั ธป์ ระเภทกาพย์ 1. จานวนคาในแต่ละวรรค 2. จานวนตวั เลขทา้ ยชอื่ กาพย์ 3. จานวนคาในแตล่ ะบาท 4. จานวนพยางค์ในแตล่ ะวรรค

19. กาพยฉ์ บงั 16 เป็นรอ้ ยกรองทีม่ ลี ีลาเช่นใด 1. อ่อนหวาน 2. เช่อื งชา้ 3. คึกคกั โลดโผน 3. เศร้า สะเทอื นใจ 20. สมยั โบราณกาพย์ฉบงั 16 นยิ มใชแ้ ตง่ บทชนดิ ใด 1. บทพากษโ์ ขน 2. บทสดุดี 3. บทปลุกใจ 4. บทชมความงาม 21. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ ลกั ษณะฉนั ทลกั ษณข์ องกาพย์ฉบัง 16 ถูกต้องท่ีสุด 1. นิยมเสยี งสามญั และเสียงโทเปน็ คาส่งสมั ผสั 2. การกาหนดสัมผสั ระหวา่ งบท 1 แหง่ และระหวา่ งวรรค 1 แหง่ 3. คาท้ายของวรรคสามของบทแรกสมั ผัสกบั คาทส่ี ามของวรรคกลาง 4. หน่ึงบท มี 3 วรรค วรรคตน้ 6 คา วรรคกลาง 6 คา และวรรคทา้ ย 4 คา 22. ข้อใดกลา่ วถูกตอ้ งเรื่องการกาหนดสัมผัสของกาพย์สรุ างคนางค์ 28 1. คาทา้ ยวรรคสีส่ ัมผสั กบั คาที่สามวรรคห้า 2. คาท้ายวรรคหกสมั ผสั กบั คาทสี่ องวรรคเจ็ด 3. คาท้ายวรรคสามสมั ผัสกับคาท้ายวรรคห้าและวรรคหก 4. คาท้ายวรรคหน้าสมั ผสั กบั คาแรกหรือคาทส่ี องวรรคสอง 23. “ลงิ คา่ งครางโครกครอก ฝงู จง้ิ จอกออกเหา่ หอน ชะนวี เิ วกวอน นกหกร่อนนอนรงั เรยี ง ลูกนกยกปกี ป้อง อา้ ปากรอ้ งซอ้ งแซเ่ สยี ง แมน่ กปกปกี เคยี ง เลย้ี งลกู ออ่ นปอ้ นอาหาร” จากคาประพันธน์ เี้ ปน็ คาประพนั ธ์ชนิดใด 1. กาพยฉ์ บัง 16 2. กาพยย์ านี 11 3. กาพย์หอ่ โคลง 4. กาพย์สุรางคนางค์ 28 24. “มะมว่ งพลวงพลองชอ้ งนาง หลน่ เกลื่อนเถอ่ื นทาง กนิ พลางเดนิ พลางหวา่ งเนนิ ” จากคาประพันธน์ เ้ี ป็นคาประพนั ธช์ นดิ ใด 1. กาพย์สรุ างคนางค์ 28 2. กาพยย์ านี 11 3. กาพย์หอ่ โคลง 4. กาพย์ฉบงั 16 25. เพราะเหตุใด ฉันทลกั ษณ์จงึ มีส่วนสาคญั ในการแต่งคาประพันธ์ 1. เพราะฉนั ทลักษณช์ ่วยให้เกิดความไพเราะ 2. เพราะฉันทลักษณ์ชว่ ยให้แตง่ คาประพนั ธ์ไดง้ ่ายข้ึน 3. เพราะฉนั ทลักษณช์ ว่ ยให้สานวนภาษาดีมคี วามสละสลวย 4. เพราะฉันทลักษณช์ ่วยใหแ้ ยกประเภทของคาประพันธ์ได้ สรปุ คะแนนของหนู คะแนน

ทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นเสรจ็ แลว้ ทดลองแตง่ กาพยย์ านี 11 เรอื่ ง................................................................................... ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ....................................................................................................................... ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ....................................................................................................................... ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ...................................................................................................................... สรปุ คะแนนของหนู คะแนน

พอี่ มยม้ิ กบั น้องหมชี มพู กรอบนาเขา้ สบู่ ทเรยี น พอ่ี มยม้ิ ครบั ภาคเรยี นนน้ี ้องหมตี อ้ งเรยี น เรอื่ ง กาพย์พระไชยสรุ ยิ า เรอ่ื งนเี้ ป็นยงั ไงครบั พ่ีอมยมิ้ เลา่ ใหน้ อ้ งหมฟี งั หนอ่ ยไดม้ ย้ั ครบั อ๋อ ไดส้ คิ ะน้องหมชี มพู กาพยเ์ รอ่ื งพระไชยสรุ ยิ า ทจ่ี รงิ เปน็ แลว้ สนุ ทรภแู่ ตง่ เปน็ แบบเรยี นของนกั เรยี น ในสมยั รชั กาลท่ี 3 จะ้ เนอื้ เรอื่ งเปน็ นทิ านทอ่ี า่ นสนกุ มาก พอ่ี มยมิ้ วา่ เราไปอา่ นรายละเอยี ดพรอ้ มกนั ดกี วา่ นะ

กรอบท่ี 1 เลา่ เรอื่ งกาพย์พระไชยสรุ ยิ า นอ้ งๆ อยากรเู้ รอ่ื งราว กาพยเ์ รอ่ื งพระไชยสรุ ยิ าไหมคะ ? ถา้ อยากรพู้ ่อี มยมิ้ จะเลา่ ใหฟ้ งั นะคะ กาพยเ์ รอื่ งพระไชยสรุ ยิ า หนงั สอื สาหรบั เดก็ หดั อา่ นเขยี น ในรชั กาลพระบาลสมเด็จพระน่งั เกลา้ เจ้าอยูห่ ัว สุนทรภู่ได้แต่งกาพยเ์ ร่ืองพระไชยสรุ ยิ าเพื่อใช้เป็นหนังสอื เรยี น สาหรับเด็กทท่ี า่ นเปน็ ครูสอน กล่าวกันวา่ อาจใชส้ อนขณะทที่ ่านอยูใ่ นสมณเพศเมือ่ บวชคร้งั แรกและจาพรรษาอยู่ท่ีเมือง เพชรบุรีใน พ.ศ. ๒๓๖๘ หรือเมื่อบวชอยู่ท่ีวัดเทพธดิ ารามระหว่าง พ.ศ. ๒๓๘๒ - ๒๓๘๕ แต่บ้างกว็ ่าน่าจะแต่งขณะเปน็ ฆราวาสและไปเปน็ ครูอยูท่ เ่ี พชรบรุ ใี นภายหลงั กาพยเ์ รือ่ งพระไชยสุริยาเป็นหนังสือสาหรบั เด็กหัดอ่านและหดั เขียนคาท่ี สะกดตามมาตราตา่ งๆ กาพย์เร่ืองพระไชยสรุ ิยาเป็นหนังสอื เรยี นท่ใี ชไ้ ด้ผลและเป็นทรี่ ู้จักกันดีในหมู่ครูและนกั เรียนในรัชกาลที่ ๓ เป็น ต้นมา ตอ่ มาในรชั กาลท่ี ๕ เม่ือมกี ารจดั ตั้งโรงเรยี นหลวงขน้ึ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หวั ทรงพระกรุณาโปรด เกล้าโปรดกระหม่อมให้พระยาศรีสนุ ทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) จดั ทาแบบเรียนภาษาไทยขึน้ ชุดหนึ่งมี ๖ เล่ม คือ มูลบทบรรพกิจ วาหนติ น์ิ กิ ร อักษรประโยค สังโยคพธิ าน ไวพจนพ์ ิจารณ์ พิศาลการนั ต์ ในหนังสือมลู บทบรรพกิจ พระ ยาศรีสุนทรโวหารได้นากาพย์พระไชยสรุ ิยาของสุนทรภูม่ าแทรกไว้เพ่ือให้เดก็ หดั อ่านและเขยี นหนังสือไดถ้ กู ตอ้ งและ คลอ่ งแคล่ว กาพยเ์ รอื่ งพระไชยสรุ ยิ า หนงั สอื นทิ านสอนคตธิ รรม สุนทรภูต่ ัง้ ใจแต่งกาพยเ์ รอ่ื งพระไชยสรุ ยิ าไว้เป็นหนังสือเรียนภาษาไทยสาหรับ “เดก็ ออ่ นอนั เยาว์เลา่ เรียน” โดย ธรรมชาติเด็กๆ มกั จะชอบเร่ืองสนุกๆ ด้วย เพอื่ มใิ หเ้ ด็กรูส้ ึกเบ่อื หนา่ ยการเรียน สุนทรภู่จึงดาเนินเรอ่ื งเป็นนทิ านซึง่ จะ “พอลอ่ ใจกมุ ารา” ได้บ้าง นิทานเรื่องพระไชยสรุ ยิ าเล่าว่า มีมหากษตั ริยพ์ ระองค์หน่ึงมีพระนามวา่ พระไชยสุริยาครองเมอื งสาวัตถมี มี เหสที รงพระนามว่า พระนางสุมาลี พระไชยสุริยาครองบา้ นเมืองมาด้วยความผาสุกบา้ นเมอื งรม่ เยน็ เป็นสุขอดุ มสมบูรณ์ ขุนนางท้ังหลายอยู่ในศลี ธรรม พ่อค้า ชาวเมอื ง ชาวไร่ ชาวนา มคี วามสขุ กันถ้วนหน้า ต่อมาได้เกิดเหตุอาเพศถงึ คราวบ้านเมอื งต้องพนิ าศ ลม่ จม เพราะพวกข้าราชการ เสนาอามาตย์ ขาดศลี ธรรมไม่ประพฤติตนตามทานองคลองธรรม มัวเมา ลุ่มหลงในอสิ ตรี (ผหู้ ญิง) และความโลภไมน่ ับถือศาสนา ใฝใ่ จ ในไสยศาสตร์ ถอื อานาจไมม่ คี วามเมตตา พวกตุลาการกร็ บั สนิ บนไมป่ ฏิบัตติ ามหน้าที่ของตนเอง ไมย่ ตุ ิธรรม ดูถกู ดู หมิน่ ผู้ทีย่ ึดมนั่ ในศาสนา พระสงฆ์ก็มีพฤตกิ รรมผิดแบบแผน ไม่สนใจธรรมะ ไม่ปฏิบตั ิกจิ ของสงฆ์ และถือดี ไม่เช่ือฟัง ผ้ใู หญ่ ในช่วงเวลาน้ันเมอื งสาวตั ถีมีสภาพสงั คมท่ีเลวรา้ ยเพราะไมม่ คี วามเมตตาปราณตี อ่ กนั ผมู้ อี านาจมากกว่าจะข่มเหง รังแกผ้ทู ีอ่ ่อนแอกวา่ ต่างประพฤตติ นไม่ถูกตอ้ งตามทานอง คลองธรรม ไม่ยดึ ถอื ประเพณีเห็นแกต่ ัว หาเอาเขา้ พกเข้าห่อ ของตนเอง พวกข้าเฝา้ เหล่าเสนา กไ็ มค่ วบคุม ข้าทาสของตวั ซา้ ตัวขนุ นางเองกไ็ ม่ซอื่ สตั ย์เหมือนดงั ถอ้ ยคาท่ไี ดส้ าบานไวใ้ น พธิ ีถือนา้ พระพิพัฒน์สัตยา

เมื่อบ้านเมืองมีศีลธรรมเส่อื มโทรม จงึ เกิดอาเพศ มผี ีป่าเข้ามายา่ ยีในเมอื ง ทาให้ผ้คู นลม้ ตายเป็นอันมาก น้าป่าก็ ไหลเข้าทว่ มบ้านเมอื ง ทาให้ประชาชนไมม่ ีท่ีอยู่อาศยั ตา่ งหลบหนีล้ีภัยออกจากเมอื งจนหมด ท้งิ ใหเ้ มืองสาวตั ถเี ป็นเมอื งร้าง พระไชยสรุ ยิ าและพระมเหสีสุมาลีพรอ้ มดว้ ยเหล่านางกานลั เสด็จหนีลงเรือสาเภาทิ้งบา้ นเมอื งออกสูท่ ะเล แตไ่ ปถกู พายุใหญพ่ ัดสาเภาแตก พระไชยสรุ ิยาพามเหสีพยายามวา่ ยน้าไปข้นึ ฝั่ง เดินทางซดั เซพเนจรไปในปา่ ประสบความทกุ ข์ ยากลาบาก คา่ ท่ีไหนนอนท่นี ่ัน ใช้แผ่นดินเป็นทีน่ อน ไมข้ อนเป็นหมอนและมีเผอื กมันเปน็ อาหาร พระไชยสุริยาและพระ นางสุมาลีมเหสตี ้องรอนแรมอยูใ่ นปา่ เป็นเวลานาน จนกระท่งั ได้พบกับพระดาบส ซ่งึ ได้ชสี้ าเหตุแห่งความวิบตั ขิ องบ้านเมือง ว่าเป็นเพราะ “กาลกณิ สี ่ีประการ” คือ ประกอบชอบเปน็ ผดิ กลับจรติ ผิดโบราณ สามญั อนั ธพาล ผลาญคนซ่ือถอื สัตยธ์ รรม์ ลกู ศิษยค์ ดิ ล้างครู ไมร่ ู้คุณพ่อมัน สอ่ เสียดเบยี ดเบยี นกัน ลอบฆ่าฟันคือตัณหา โลภลาภบาปบค่ ดิ โจทย์ผดิ รษิ ยา อุระพสธุ า ป่วนเปน็ บ้าฟ้าบดบัง บรรดาสามญั สตั ย์ เกิดวิบตั ปิ ัตติปาปัง ไตรยุคทกุ ขตะรัง สังวัจฉระอวสาน ด้วยความเมตตาพระไชยสุริยาซ่งึ เปน็ ผซู้ ่ือสตั ยต์ รงแตไ่ ด้รับความวิบตั ิเพราะหลงเชือ่ ขนุ นางชั่ว พระดาบสจึงได้ เทศนาโปรดกษัตรยิ ท์ ั้งสองพระองค์วา่ “คนเราทุกคนเกดิ มาแล้วตอ้ งตาย เพราะฉะนน้ั อยา่ เบียดเบียน ฉอ้ โกงผูอ้ ื่น บาปจะ ทาให้ได้รบั ความทุกข์ หากมเี มตตากรณุ าจะไดไ้ ปสวรรค์ ซ่ึงเป็นความสุขทย่ี ่งั ยืน” เมือ่ พระไชยสุรยิ าและพระนางสมุ าลีได้ฟังคาสั่งสอนของพระดาบสแลว้ ทรงเลอื่ มใส ศรทั ธาเป็นอยา่ งย่งิ จึงบวช เปน็ ฤาษี แลว้ ทรงปฏิบัติธรรม ถือศลี ภาวนา ทาพิธบี ูชาไฟ ครัน้ วายชนม์จึงไดเ้ สด็จไปสู่สวรรค์ มชี วี ติ ทมี่ ีความสขุ ตลอดไป แนวคดิ ของเรื่อง : แนวคดิ ของเรือ่ งกาพย์พระไชยสุรยิ า คอื ธรรมะมคี วามสาคัญต่อสงั คมบ้านเมืองจะลม่ จมวบิ ัติ ถา้ คนท่ีปฏบิ ตั หิ น้าทีห่ ลกั ในสงั คมเสื่อมศลี ธรรม สนกุ จงั เลยครบั พอ่ี มยม้ิ อยากรจู้ งั วา่ นอ้ งหมจี าไดไ้ หม ถา้ จาได้ ลองตอบคาถามพอี่ มยมิ้ ดสู คิ ะ

กรอบท่ี 2 ตอบคาถาม ตอบคาถามพอ่ี มยม้ิ ดูนะคะเดก็ ๆ ผแู้ ตง่ ………………………………………………………………… ลกั ษณะคาประพนั ธ์ กาพย์ เรือ่ ง พระไชยสรุ ยิ า .................................................................. คณุ คา่ และข้อคดิ ทไ่ี ดร้ บั จากเรอื่ ง เนอื้ เรอ่ื งโดยสรปุ ....................................................................... .......................................................................... ....................................................................... .......................................................................... ........................................................................ .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ........................................................................ .......................................................................... ........................................................................ .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... ......................................................................... .......................................................................... . คะแนน ผลคะแนนทง้ั หมดของหนู

กรอบท่ี 3 เฉลย ผแู้ ตง่ …………………สนุ ทรภ…ู่ …………… ลกั ษณะคาประพนั ธ์ กาพย์ เรื่อง ...กาพยย์ านี 11......กาพยฉ์ บงั 16.... พระไชยสรุ ิยา .......กาพยส์ รุ างคนางค์ 28.... คณุ คา่ และขอ้ คดิ ทไี่ ดร้ บั จากเรอ่ื ง เนอื้ เรอื่ งเโนดอ้ืยเสรรอื่ ปุงโดยสรปุ 1. ให้ความรู้ด้านจดุ ประสงค์ของผู้แต่ง คอื แต่ง เปน็ แบบเรยี นสาหรับหดั อ่าน พระไชยสุริยาเป็นกษัตริย์ครองเมืองสาวะถี มี 2. สะท้อนสภาพสังคมไทยกอ่ นเสียกรงุ มเหสชี ่ือสุมาลี บา้ นเมืองอุดมสมบูรณ์และเปน็ สุข 3. แสดงความคิด ความเชอ่ื และคา่ นยิ มในสงั คม มาช้านาน จนกระทั่งเม่ือข้าราชบริพารและผู้มี เช่น อานาจพากันลุ่มหลงในอบายมุขและเท่ียวข่มเหง ราษฎรจนเดือดร้อนไปท่ัว ในที่สุดน้าป่าก็ไหล 3.1 ความเช่ือเร่ืองไสยศาสตร์ บ่าทว่ มเมืองจนผู้คนลม้ ตาย พระไชยสุริยาพา 3.2 ความเช่ือเรื่องค่านิยมเรอ่ื งครอบครัว มเหสีและข้าทาสบริวารหนีลงเรือสาเภา แต่ถูก 3.3 แสดงความเคารพในสิ่งทคี่ วรเคารพ พายุใหญ่พัดเรือแตก พระไชยสุริยากับนาง 3.4 ใหข้ อ้ คิดคติธรรม สาหรับนาไปใช้ใน สุมาลีว่ายน้าไปข้ึนฝ่ังแล้วรอนแรมไปในป่าใหญ่ การดาเนนิ ชีวติ พระดาบสรูปหน่ึงเข้าฌานเห็นพระไชยสุริยากับ - ข้าราชการท่ีดีต้องไมค่ ดโกง นางสมุ าลีตอ้ งทนทุกข์ทรมานก็เวทนาเพราะเห็นว่า - คนไทยไม่ควรหลงระเรงิ พระไชยสุริยาทรงเป็นกษัตริย์ที่ดี แต่ประสบ - ผู้นาต้องควบคุมไม่ให้ข้าราชการรังแก เคราะห์กรรมเพราะหลงเช่ือเสนาอามาตย์ จึง ประชาชน เทศนาโปรดจนท้ังสององค์ศรัทธาและบาเพ็ญธรรม - บา้ นเมืองจะเกิดภัยพบิ ัติ หากเกิดกาลกิณี จนไดไ้ ปเกดิ ในสวรรค์ 4 ประการ - ทกุ คนต้องตายไม่มใี ครอยูค่ ้าฟ้า

กรอบท่ี 4 แบบฝกึ หดั ลองอกี สกั แบบฝึกหดั นะคะ ตอนที่ ๒ จงเขยี นเครอ่ื งหมาย / หนา้ ขอ้ ทถกู และเครอ่ื งหมาย x หนา้ ขอ้ ทผ่ี ดิ ................. ๑. กาพยพ์ ระไชยสรุ ยิ าประกอบดว้ ยกาพย์ ๓ ชนดิ ไดแ้ ก่ กาพยย์ านี กาพยฉ์ บงั และกาพยห์ ่อโคลง ................. ................. ๒. บทไหวค้ รแู ตง่ เปน็ กาพยฉ์ บงั เพยี งบทเดยี ว ................. ๓. นา้ ปา่ ไหลทว่ มเมอื งสาวตั ถี ................. ๔. ตลุ าการในเมอื งสาวตั ถรี บั สนิ บน ................. ๕. สนุ ทรภแู่ ตง่ เรอื่ งนี เพื่อเปน็ แบบหดั อา่ นแกเ่ ดก็ ................. ................. ๖. กาพยพ์ ระไชยสรุ ยิ าเปน็ แบหดั อา่ นเขยี นมาตราตวั สะกด ๕ มาตรา ................. ๗. ลกู ศษิ ยค์ ดิ ลา้ งครเู ปน็ ๑ ในเหตกุ าลกิณี ๔ ประการ ................. ๘. แนวคดิ สา้ คญั ของเรื่องคอื “โลภมากลาภหาย” ๙. พระอินทรล์ งมาชว่ ยพระไชยสรุ ยิ า และนางสมุ าลี ๑๐. กาพยพ์ ระไชยสรุ ยิ าแทรกบทพรรณนาธรรมชาตขิ ณะดาเนนิ เรอื่ ง คะแนนทงั้ หมดของหนู คะแนน

กรอบที่ 5 เฉลย เฉลย ตอนท่ี ๒ จงเขยี นเครอ่ื งหมาย / หนา้ ขอ้ ที่ถกู และเครอื่ งหมาย x หนา้ ขอ้ ที่ผดิ ......X....... ๑. กาพยพ์ ระไชยสรุ ยิ าประกอบดว้ ยกาพย์ ๓ ชนดิ ไดแ้ ก่ กาพยย์ านี กาพยฉ์ บงั และกาพยห์ อ่ โคลง ......X....... ......./....... ๒. บทไหวค้ รแู ตง่ เปน็ กาพยฉ์ บงั เพยี งบทเดยี ว ......./....... ๓. นา้ ปา่ ไหลทว่ มเมอื งสาวตั ถี ......./....... ......X....... ๔. ตลุ าการในเมอื งสาวตั ถรี บั สนิ บน ......./....... ๕. สนุ ทรภแู่ ตง่ เรอื่ งนี เพ่อื เปน็ แบบหดั อา่ นแกเ่ ดก็ ......X....... ๖. กาพยพ์ ระไชยสรุ ยิ าเปน็ แบหดั อา่ นเขยี นมาตราตวั สะกด ๕ มาตรา ......X....... ๗. ลกู ศษิ ยค์ ดิ ลา้ งครเู ปน็ ๑ ในเหตกุ าลกณิ ี ๔ ประการ ......./....... ๘. แนวคดิ สา้ คญั ของเรอ่ื งคอื “โลภมากลาภหาย” ๙. พระอินทรล์ งมาชว่ ยพระไชยสรุ ยิ า และนางสมุ าลี ๑๐. กาพยพ์ ระไชยสรุ ยิ าแทรกบทพรรณนาธรรมชาตขิ ณะดาเนนิ เรอ่ื ง

กรอบที่ 6 นาเขา้ สบู่ ทเรยี น น้องหมรี เู้ รอ่ื งราวของพระไชยสรุ ยิ าแลว้ แตย่ งั ไมเ่ ขา้ ใจวธิ กี ารแตง่ เลย พี่อมยมิ้ อธบิ ายให้ฟงั หน่อยไดม้ ย้ั ครบั ออ๋ ไดส้ คิ ะนอ้ งหมี กาพยพ์ ระไชยสรุ ยิ าแตด่ ว้ ยคาประพนั ธ์ ท่เี รยี กวา่ “กาพย”์ มี 3 ชนดิ ดว้ ยกนั คอื กาพยย์ านี 11 กาพยฉ์ บงั 16 และกาพยส์ รุ างคนางค์ 28 จะ้ เรามารู้จกั กาพยช์ นดิ แรกกอ่ นดกี วา่ นะจะ๊

กรอบท่ี 7 สรรคาแตง่ กาพยย์ านี กาพยย์ านี 11 กาพยย์ านีลานา สบิ เอ็ดคาจาอยา่ คลาย วรรคหนา้ ห้าคาหมาย วรรคหลงั หกยกแสดง ครุลหนุ นั้ ไมส่ าคญั อย่าระแวง สมั ผสั ต้องจัดแจง ให้ถูกต้องตามวิธี (หลกั ภาษาไทย: กาชัย ทองหล่อ)  ลกั ษณะทางฉันทลกั ษณ์ คณะ บทหนึง่ มี 4 วรรค แบ่งออกเป็น 2 บาท คอื บาทเอกและบาทโท บาทหน่ึงมี 2 วรรค วรรคแรกมี 5 คา วรรคหลังมี 6 คา รวม 11 คา สมั ผสั สง่ สมั ผสั กนั แห่งเดยี ว คือ คาสดุ ทา้ ยของวรรคท่ี 2 สมั ผัสกับคาสุดท้ายของวรรคท่ี 3 ถา้ แตง่ หลายบท คาสดุ ท้ายของบทแรกต้องส่งสัมผสั กับคาสุดทา้ ยของวรรคที่ 2 ในบทต่อไปด้วย แต่เวลาแต่งจริงๆ กวีมกั เพิ่มสมั ผัสเข้าไปอกี 2 แห่ง คอื คาสดุ ท้ายของวรรคแรก ส่งสมั ผสั กับคาท่ี 1, 2 หรือ 3 ของวรรคท่ี 2 สัมผัสตรงนใี้ ช้กนั มาก จนกลายเป็นขอ้ บงั คับโดยปริยายแลว้ อกี แหง่ หนง่ึ คือคาสดุ ทา้ ยวรรค ที่ 3 สง่ สัมผสั มายงั คาที่ 1 หรือ 2 หรือ 3 ในวรรคท่ี 4 แต่สมั ผัสตรงนี้มิไดเ้ ครง่ ครดั นัก จะมีหรือไม่มกี ็ได้ ความนยิ มในการแต่ง เนื่องจากกาพยย์ านเี ป็นคาประพนั ธ์ท่ีมลี ีลาไพเราะออ่ นหวานชนดิ หนง่ึ กวีจึงนยิ มนาไป แตง่ เป็นบทพรรณนาความต่างๆ เปน็ บทเห่กล่อม และบทพากยโ์ ขน ฯลฯ นอกจากน้ยี ังนิยมนาไปแต่งสลบั กับโคลงส่ี สุภาพ กลายเป็นคาประพนั ธ์ประเภทใหม่ขน้ึ มา ไดแ้ ก่ กาพยเ์ ห่เรอื กาพยห์ อ่ โคลง กาพยข์ ับไม้ ฯลฯ

กรอบท่ี 8 กาพยย์ านี 11 กาพยย์ านี 11 เปน็ แบบนนี้ เ่ี อง แบบฝกึ หดั กไ็ มย่ าก ลงมอื ทาเลยดกี วา่ เรม่ิ จาก “โยงสมั ผสั กาพยย์ านี 11 กอ่ นกแ็ ลว้ กัน ตอนที่ 1 กาพยย์ านี ๑๑                         ตอนท่ี 2 โยงสมั ผสั ไดแ้ ล้ว ลองแบง่ คาดนู ะคะ   1. โมงเช้าแลว้ เจ้าพ่เี จ้าถ้วนถีด่ กี ารเรอื นหญิงใดไมม่ เี หมือนใช้สอยดพี เ่ี คยชม .......................................................................................................................... .......................................................................................................................... 2. สะธุสะจะขอไหว้พระศรไี ตรสรณาพอ่ แมแ่ ลครูบาเทวดาในราศีข้าเจ้าเอากขเขา้ มาต่อกกามแี ก้ไขในเท่าน้ดี ีมดิ ีอย่าตรชี า ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… คะแนนที่หนไู ด้ คะแนน    

กรอบที่ 9 เฉลย เฉลย ตอนที่ 1 คะแนนเตม็ 10 คะแนน รปู แบบผงั ทางฉันทลกั ษณข์ องกาพย์ยานี  ตอนท่ี 2 1. โมงเชา้ แลว้ เจา้ พ่ี เจา้ ถว้ นถดี่ กี ารเรอื น หญงิ ใดไมม่ เี หมอื น ใชส้ อยดพี เ่ี คยชม (5 คะแนน) 2. สะธสุ ะจะขอไหว้ พระศรไี ตรสรณา พอ่ แมแ่ ลครบู า เทวดาในราศี ขา้ เจา้ เอา ก ข เขา้ มาตอ่ ก กา มแี กไ้ ขในเทา่ น้ี ดมี ดิ อี ยา่ ตรชี า (5 คะแนน)

กรอบที่ 10 ฝกึ ฝนดแี ตง่ กาพยฉ์ บงั กาพยฉ์ บงั 16 มะม่วงพวงพลองช้องนาง หลน่ เกล่ือนเถ่ือนทาง กินพลางเดนิ พลางหวา่ งเนิน เหมอื นอย่างนางเชิญ เหน็ กวางยา่ งเย้ืองชาเลืองเดนิ พระแสงสาอางขา้ งเคยี ง ฉันทลกั ษณ์ คณะ กาพย์ฉบงั ไดช้ ่ือว่าฉบัง ๑๖ เพราะ ๑ บท มี ๑๖ พยางค์ หน่ึงบทมีสามวรรค วรรคทีห่ นึง่ หกพยางค์ วรรคท่ีสองมสี ี่พยางค์ และวรรคที่สามเป็นวรรคสดุ ท้ายมหี กพยางค์ รวมเป็นสิบหกพยางค์ การวางคณะใหส้ งั เกตแผนผงั จะเห็นบรรทดั ทห่ี น่ึงมสี องวรรค และบรรทัดที่สองมี ๑ วรรค วางเช่นน้ี ต่อไปเรื่อยๆ สมั ผสั สัมผสั ระหวา่ งวรรค ในหน่ึงบทมคี ู่สมั ผสั เพียงคูเ่ ดยี ว คือ พยางค์สุดท้ายของวรรคที่หนึ่งสมั ผสั กบั พยางค์สดุ ท้ายของวรรคที่ สอง สัมผัสระหว่างบท เม่อื แตง่ มากกว่า ๑ บท ตอ้ งมีสมั ผัสระหวา่ งบท พยางคส์ ดุ ท้ายของบทตน้ สัมผสั กบั พยางคส์ ดุ ท้าย ของวรรคที่สองของบทถดั ไป

กรอบที่ 11 แบบฝกึ หดั ตอนที่ 1 กาพยฉ์ บงั ๑๖                    ลองโยงเสน้ สมั ผสั กาพยฉ์ บงั ดไี หมครบั พอี่ มยมิ้  ดคี ะ่ นอ้ งหมชี มพู โยงเสน้ แลว้  เตมิ คาใหถ้ กู ตอ้ งดว้ ยนะคะ   สาเภา คา่ เชา้ มเหสี นา้ ไหล มา้ ลอ่  เยาว์ ชาวแม่ ขา้ วปลา  เพลา วารี  พาพระ...........................  พระไชยสรุ ยิ าภมู ี นารที .ี่ ........................... มาทใ่ี นลา......................  ....................หาไปไมเ่ บา กเ็ อาไปในเภตรา  เถา้ แก.่ ....................แซม่ า กม็ าในลาสาเภา ต.ี ................ชอ่ ใบใสเ่ สา รวมคะแนนของหนู สาเภากใ็ ชใ้ บไป เภตรามาใน...................... เสนเี สนา คะแนน ทใ่ี นมหา.......................... วายพุ ย.ุ ....................... ...........................เปลา่ ใจ

 กรอบท่ี 11 เฉลย เฉลย ตอนท่ี 1 (10 คะแนน) รปู แบบผงั ทางฉันทลกั ษณข์ องกาพย์ฉบงั        ตอนท่ี 2 (10 คะแนน) พระไชยสรุ ยิ าภมู ี พาพระ..........มเหส.ี ................ มาทใี่ นลา..........สาเภา............ นารที .่ี .........เยาว.์ ................. .......ขา้ วปลา.............หาไปไมเ่ บา เสนีเสนา กเ็ อาไปในเภตรา วายพุ ย.ุ ........เพลา............... เถา้ แก.่ ........ชาวแม.่ ...........แซม่ า ..........คา่ เชา้ ..............เปลา่ ใจ กม็ าในลาสาเภา ต.ี .....มา้ ลอ่ ...........ชอ่ ใบใสเ่ สา สาเภากใ็ ชใ้ บไป เภตรามาใน.........นา้ ไหล............. ทใ่ี นมหา........วาร.ี .................    

กรอบที่ 12 สรรคาแตง่ สรุ างคนางค์   กาพยส์ รุ างคนางค์ 28    สรุ างคนางค์ เจ็ดวรรคจักวาง ให้ถูกวิธี ยีส่ บิ แปดคา วรรคหนึง่ สคี่ า จงจาให้ดี บทหนึง่ จึงมี จงให้แมน่ ยา หากแต่งต่อไป สัมผัสตรงไหน ทา้ ยบทต้นแล คาท้ายวรรคสาม ตดิ ตามประจา สัมผสั กับคา (ฐปนีย์ นาครทรรพ)          ฉันทลกั ษณ์(ลักษณะขอ้ บงั คบั ในการแต่ง) คณะ ๑ บท มี ๗ วรรค วรรคละ ๔ คา รวม หน่ึงบทมี ๒๘ คา จึงเรยี กว่ากาพยส์ รุ างคนางค์ ๒๘ สมั ผสั คาท่ี 4 วรรคท่ี 1 ส่งสัมผัสไปยังคาท่ี 4 วรรค 2 คาที่ 4 วรรค 3 ส่งสัมผสั ไปยังคาท่ี 4 วรรค 5 คาท่ี 4 วรรค 4 ส่งสมั ผสั ไปยงั คาท่ี 2 วรรค 5 คาที่ 4 วรรค 5 ส่งสมั ผัสไปยังคาท่ี 4 วรรค 6 และถา้ แต่งตอ่ ไปหลายบทคาท่ี 4 วรรค 7 สง่ สมั ผัสไปยังคาที่ 4 วรรค 3 ในบทต่อไป เปน็ สัมผัสเชอื่ มระหว่างบทเปน็ ไปโดยนยั นีจ้ นกวา่ จะยตุ ลิ ความนิยมในการแต่ง ไมน่ ิยมแตง่ ตามลาพัง กวนี ิยมนาไปแตง่ สลบั กบั ฉันท์ และใชเ้ ปน็ ตอนบรรยายความเลา่ เร่ืองหรือแถลงการณ์เพ่ือรวบรดั เน้ือเร่ือง ให้รวดเรว็ ย่ิงข้ึน

กรอบที่ 13 แบบฝกึ หดั   กาพยส์ รุ างคนางค์ ๒๘   โยงเสน้ อกี ครงั้      นะครบั           โยงเสน้ เสรจ็ แลว้ เลือกประโยคทก่ี าหนดให้ เตมิ ลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ กู ตอ้ งดว้ ยนะคะ ช่ืนชะผกา วา้ วอ่ นเวยี นระวนั รน่ื กลน่ิ เกสร ปเู่ จา้ เขาเขนิ เตอื นเพอ่ื ขานขนั แตนตอ่ คลอรอ่ น สารพนั จนั อิน สนิ ธพุ ลุ นั่ กเู่ กรน่ิ หากนั กระเวนไพรไกเ่ ถอ่ื น ............................................ เย็นฉา่ นา้ ฟา้ ............................................ วายพุ าขจร ............................................ ............................................ ............................................ ............................................ ............................................ จันทราคลาเคล่ือน ............................................ ............................................ ............................................ ครน้ื ครนั่ หวน่ั ไหว สรปุ คะแนนของหนู คะแนน

เฉลย กรอบที่ 14 เฉลย ตอนท่ี 1 (10 คะแนน) รปู แบบผังทางฉันทลกั ษณ์ของกาพยส์ ุรางคนางค์ ตอนที่ 2 (10 คะแนน) ชนื่ ชะผกา เยน็ ฉา่ นา้ ฟา้ สารพนั จนั อนิ วายพุ าขจร แตนตอ่ คลอรอ่ น รน่ื กลนิ่ เกสร วา้ วอ่ นเวยี นระวนั กระเวนไพรไกเ่ ถอื่ น จนั ทราคลาเคลอ่ื น ปเู่ จา้ เขาเขนิ เตอื นเพอ่ื นขานขนั สนิ ธพุ ลุ น่ั กเู่ กรน่ิ หากนั ครนื้ ครน่ั หวนั่ ไหว

กรอบท่ี 15 แตง่ กาพยย์ านี 11 ตอนนพี้ อ่ี มยม้ิ และนอ้ งหมชี มพเู ขา้ ใจเรอื่ งราวกาพยพ์ ระไชยสรุ ยิ าแลว้ นอ้ งๆ เปน็ อยา่ งไรบา้ ง เขา้ ใจไหม? ทดสอบความเขา้ ใจ และความสามารถในการแตง่ กาพย์ยานี 11 ความยาว 2 บท ดสู คิ รบั กาพยย์ านี 11 เรอื่ ง................................................................................... ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ....................................................................................................................... ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ....................................................................................................................... ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ....................................................................................................................... คอ่ ยๆ คดิ คอ่ ยๆ ทานะคะ ทาเสรจ็ แลว้ ใหค้ ณุ ครตู รวจใหค้ ะแนนนะคะ คะแนนของหนู คะแนน

แบบทดสอบหลงั เรยี น เรอื่ ง กาพย์เรอ่ื งพระไชยสรุ ยิ า กรอบที่ 16 ทดสอบหลงั เรยี น หลงั จากฝึกฝนแลว้ ดสู คิ ะ วา่ หนตู อบคาถามไดไ้ หม 1. ผใู้ ดแต่งกาพย์เร่ืองพระไชยสรุ ยิ า 1. สนุ ทรภู่ 2. พระยาอุปกติ ศลิ ปสาร 3. พระยาศรสี นุ ทรโวหาร 4. สมเด็จพระมหาสมณเจา้ กรมพระปรมานุชติ ชโิ นรส 2. กาพย์เรอ่ื งพระไชยสรุ ยิ าแตง่ ในสมยั ใด 1. รชั กาลท่ี 1 2. รชั กาลท่ี 2 3. รชั กาลท่ี 3 4. รชั กาลที่ 4 3. ข้อใดกล่าวถูกต้องเก่ยี วกับกาพยเ์ ร่ืองพระไชยสุรยิ า 1. แตง่ เป็นร่ายสุภาพ 2. แตง่ เปน็ กลอนสภุ าพ 3. แตง่ เป็นกาพย์ยานี กาพย์ฉบงั และกาพยส์ ุรางคนางค์ 4. แตง่ เปน็ กาพย์ยานี กาพยห์ อ่ โคลง และกาพย์สรุ างคนางค์ 4. กาพยเ์ รอ่ื งพระไชยสรุ ยิ า เรม่ิ ตน้ ด้วยบทอะไรกอ่ น 1. บทไหว้พระ 2. บทไหว้เทวดา 3. บทไหวบ้ ิดามารดา 4. บทไหวค้ รู 5. ขอ้ ใดเปน็ จุดประสงค์ในการแตง่ กาพยเ์ รือ่ งพระไชยสรุ ิยา 1. เพอ่ื เป็นการเผยแพร่ใหท้ ่ัวประเทศ 2. เพือ่ เป็นตวั อย่างของหนังสือเรียน 3. เพื่อเปน็ หนังสอื เรียนสาหรับเดก็ 4. เพื่อใช้เป็นหนังสือเรียนสาหรบั ผ้ใู หญ่ 6. “ไกรกรา่ งยางยงู สงู ระหง ตลงิ ปลงิ ปรงิ ประยงค์ คนั ทรงสง่ กลิน่ ฝ่ินฝาง” ข้อความขา้ งบนนี้ ขอ้ ใดเปน็ สมั ผัสพยัญชนะ 1. ไกร - กรา่ ง, ยาง - ยงู , ปริง - ประยงค์, ฝิ่น - ฝาง 2. กร่าง - ยาง, ยูง - สูง, ทรง - สง่ 3. ระ – ตะ – ปะ 4. ลิง – ปรงิ – ปลงิ

7. “ขน้ึ กงจงสาคญั ทง้ั กนปนกัน ราพนั มงิ่ ไมใ้ นดง ไกรกรา่ งยางยงู สงู ระหง ตลงิ ปลงิ ปรงิ ประยงค์ คนั ทรงสง่ กล่นิ ฝ่นิ ฝาง” กาพยบ์ ททนใ้ี ชค้ าในแม่อะไร และแต่งดว้ ยคาประพนั ธ์ชนดิ ใด 1. คาในแม่ กง โดยมคี าในแม่ ก กา และแม่กน ปนอยูด่ ว้ ย 2. คาในแม่ ก กา โดยมคี าในแม่ กง ปนอยู่ดว้ ย 3. คาในแม่ กน โดยมคี าในแม่ กม ปนอยู่ด้วย 4. คาในแม่ กก โดยมคี าในแม่ เกย ปนอยู่ด้วย 8. “วนั นนั้ จนั ทร มดี ารากร เปน็ บรวิ าร เหน็ สน้ิ ดินฟา้ ในปา่ ทา่ ธาร มาลคี ลบี่ าน ใบกา้ นอรชร เย็นฉา่ นา้ ฟา้ ชืน่ ชะผกา วายพุ าขจร สารพันจันทน์อนิ รนื่ กลน่ิ เกสร แตนตอ่ คลอรอ่ น วา้ วอ่ นเวยี นระวนั ขอ้ ความขา้ งบนนี้ ใช้ถอ้ ยคาเปน็ อยา่ งไร 1. ใชถ้ ้อยคาใหเ้ กิดจนิ ตนาการ 2. ใช้ถอ้ ยคาใหเ้ กิดแงค่ ิด 3. ใชถ้ ้อยคาใหค้ วามรู้ 4. ใชถ้ อ้ ยคาใหค้ าสอน 9. “ขนุ นางตา่ งลกุ วง่ิ ทา่ นผหู้ ญงิ วง่ิ ยดุ หลงั พลั วนั ดนั ดดงึ ตงึ ตงั พลง้ั พลดั ตกหกคะเมน พระสงฆล์ งจากกฏุ ์ิ วง่ิ อตุ ลดุ ฉดุ มอื เณร หลวงชหี นหี ลวงเถร ลงโคลนเคลนเผ่นผาดโผน พวกวพั ลดั เขา้ บา้ น ลา้ นตอ่ ลา้ นซานเซโดน ตน้ ไมไ้ กวเอนโอน ลงิ คา่ งโจนโผนหกหนั ” ข้อความนีแ้ สดงอารมณอ์ ะไร 1. อารมณเ์ ศร้า 2. อารมณ์ขัน 3. อารมณ์โกรธ 4. อารมณ์รัก 10. จากเรอ่ื งกาพย์พระไชยสรุ ิยา แสดงวา่ บา้ นเมอื งลม่ จม เพราะอะไร 1. ไมม่ ีทหารรักษาบา้ นเมือง 2. ผ้นู าชว่ั ประชาชนข้เี กียจ 3. ขา้ ราชการดี แตป่ ระชาชนเลว 4. ข้าราชการไมส่ ุจรติ คดโกง ผ้นู าไม่เขม้ แขง็ ประชาชนมวั เมาอบายมขุ

11. ข้อใดเปน็ หน่ึงในกาลกณิ ี 4 ประการ ทท่ี าให้บ้านเมืองลม่ จม 1. การฆ่าสตั วต์ ัดชวี ิต 2. การคบเพ่ือนชว่ั 3. ประกอบชอบเป็นผิด กลบั จรติ ผดิ โบราณ สามญั อันธพาล ผลาญคนซ่ือถือสตั ยธ์ รรม 4. เบียดเบยี นเสยี ดส่อฉ้อฉล บาปกรรมนาตน ไปทนทกุ ข์นับกัปกลั ป์ 12. คาว่า “ลอ่ ใจกมุ ารา” ในกาพย์เรื่องพระไชยสุริยา มคี วามมุ่งหมายเพ่ืออะไร 1. เพ่ือมใิ หเ้ ด็กขี้เกยี จอา่ นหนังสือ 2. เพอ่ื ใหเ้ ดก็ ๆ มาโรงเรียนทกุ วัน 3. เพ่อื มใิ หเ้ ด็กเบ่ือหนา่ ยการเรยี น 4. เพื่อมิใหน้ กั เรยี นหนีเทย่ี ว 13. คาวา่ “เจา้ สภุ า” แปลวา่ อะไร 1. ผ้พู พิ ากษา 2. อยั การ 3. ทนายความ 4. ตารวจ 14. คาวา่ “ภาษาไสย” หมายถงึ อะไร 2. เรอ่ื งไสยศาสตร์ 1. ภาษาไทยศาสตร์ 3. เรอ่ื งเวทยม์ นต์ 4. ภาษาตา่ งประเทศ 15. คาว่า “ภุมราการุญสนุ ทร” หมายถึงใคร 1. แมลงภู่ 2. สนุ ทรภู่ 3. นายการุญ สนุ ทร 4. นายมี ศษิ ยข์ องสุนทรภู่ 16. แนวคิดสาคัญทีป่ รากฏในเรอ่ื งกาพย์พระไชยสรุ ิยา 1. บา้ นเมอื งจะพินาศ ถ้านกั ปราชญ์ไมอ่ าจหาญ 2. บ้านเมืองจะลม่ จม ถา้ คนในสังคมขาดศลี ธรรม 3. บ้านเมอื งจะย่อยยบั ถ้าไมน่ ับถือระบบอาวุโส 4. บ้านเมอื งจะปัน่ ป่วน ถ้ามีอันธพาลก่อกวนไม่หยุด 17. เรือ่ งใดสาคญั ท่ีสดุ สาหรบั การแตง่ คาประพันธ์ประเภทกาพย์ 1. โวหาร 2. ภาพพจน์ 3. ลลี าของกาพย์ 4. ลกั ษณะฉนั ทลักษณ์ 18. ส่งิ ใดที่กาหนดจานวนคาในแตล่ ะบทของคาประพันธป์ ระเภทกาพย์ 1. จานวนคาในแต่ละวรรค 2. จานวนตวั เลขทา้ ยชอื่ กาพย์ 3. จานวนคาในแตล่ ะบาท 4. จานวนพยางค์ในแตล่ ะวรรค

19. กาพยฉ์ บัง 16 เปน็ ร้อยกรองท่ีมลี ีลาเช่นใด 1. ออ่ นหวาน 2. เช่อื งชา้ 3. คกึ คกั โลดโผน 3. เศรา้ สะเทอื นใจ 20. สมยั โบราณกาพยฉ์ บงั 16 นยิ มใชแ้ ตง่ บทชนดิ ใด 1. บทพากษโ์ ขน 2. บทสดุดี 3. บทปลุกใจ 4. บทชมความงาม 21. ข้อใดกลา่ วถึงลักษณะฉนั ทลักษณข์ องกาพย์ฉบัง 16 ถูกต้องท่ีสดุ 1. นยิ มเสียงสามัญและเสียงโทเปน็ คาส่งสมั ผสั 2. การกาหนดสัมผัสระหวา่ งบท 1 แหง่ และระหวา่ งวรรค 1 แหง่ 3. คาทา้ ยของวรรคสามของบทแรกสมั ผัสกบั คาทสี่ ามของวรรคกลาง 4. หน่งึ บท มี 3 วรรค วรรคตน้ 6 คา วรรคกลาง 6 คา และวรรคทา้ ย 4 คา 22. ข้อใดกล่าวถูกตอ้ งเรื่องการกาหนดสัมผัสของกาพย์สรุ างคนางค์ 28 1. คาท้ายวรรคสี่สัมผสั กบั คาท่สี ามวรรคห้า 2. คาทา้ ยวรรคหกสมั ผัสกบั คาทสี่ องวรรคเจ็ด 3. คาทา้ ยวรรคสามสัมผสั กับคาท้ายวรรคห้าและวรรคหก 4. คาทา้ ยวรรคหน้าสัมผสั กบั คาแรกหรือคาทส่ี องวรรคสอง 23. “ลงิ คา่ งครางโครกครอก ฝงู จง้ิ จอกออกเหา่ หอน ชะนวี เิ วกวอน นกหกร่อนนอนรงั เรยี ง ลูกนกยกปกี ป้อง อา้ ปากรอ้ งซอ้ งแซเ่ สยี ง แมน่ กปกปกี เคยี ง เลย้ี งลกู ออ่ นปอ้ นอาหาร” จากคาประพันธ์น้ีเป็นคาประพันธช์ นดิ ใด 1. กาพยฉ์ บัง 16 2. กาพยย์ านี 11 3. กาพยห์ ่อโคลง 4. กาพย์สุรางคนางค์ 28 24. “มะมว่ งพลวงพลองช้องนาง หลน่ เกลื่อนเถอ่ื นทาง กนิ พลางเดนิ พลางหวา่ งเนนิ ” จากคาประพันธ์นเ้ี ปน็ คาประพนั ธ์ชนดิ ใด 1. กาพยส์ ุรางคนางค์ 28 2. กาพยย์ านี 11 3. กาพย์ห่อโคลง 4. กาพย์ฉบงั 16 25. เพราะเหตใุ ด ฉันทลกั ษณ์จึงมสี ่วนสาคญั ในการแต่งคาประพันธ์ 1. เพราะฉันทลกั ษณ์ช่วยให้เกิดความไพเราะ 2. เพราะฉันทลกั ษณ์ช่วยให้แต่งคาประพนั ธ์ไดง้ ่ายข้ึน 3. เพราะฉนั ทลักษณ์ชว่ ยให้สานวนภาษาดีมีความสละสลวย 4. เพราะฉันทลักษณช์ ว่ ยใหแ้ ยกประเภทของคาประพันธ์ได้ สรปุ คะแนนของหนู คะแนน

กรอบที่ 17 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น ตอนท่ี 1 แตง่ คาประพนั ธ์ (5 คะแนน) พิจารณาตามเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั นี้ คะแนน เกณฑ์ 1.เสนอแนวคิดเชิงสร้างสรรค์แปลกใหม่เน้ือหาดีมีแง่คดิ เป็นประโยชน์ เช่น แง่คดิ ในการดาเนนิ ชีวติ การเขา้ สังคมการทาประโยชน์ 5 2. แต่งครบ 2 บท 3. การส่งสมั ผัสนอกครบ 4. เขียนสะกดคาถูกตอ้ งสะอาดเป็นระเบียบ 1. เสนอแนวคดิ สรา้ งสรรคแ์ ปลกใหม่ 4 2. แต่งครบ 2 บท 3. การส่งสมั ผัสนอก (มบี ้างแต่ไม่ครบ) 4. เขยี นสะกดคาถูกต้องสะอาดเป็นระเบียบ 3 1. เสนอเร่ืองราวทัว่ ๆ ไปไม่มีแงค่ ิด 2. แต่งครบ 2 บท 3. ไมม่ กี ารส่งสัมผสั นอก 2 1. แตง่ ไม่ครบบท ( มี 1 – 2 บาท) 2. ไม่มีการส่งสัมผัสนอก 3. มจี านวนคาในบาทครบ 1 1. แตง่ กาพย์ได้ครบ 1 บาทมีจานวนคาครบ ตอนท่ี 2 ขอ้ สอบปรนยั 25 ขอ้ (25 คะแนน) ข้อ ขอ้ ขอ้ ข้อ ขอ้ 2 3 1. 1 6. 1 11. 3 16. 2 21. 2 2. 3 7. 1 12. 3 17. 3 22. 4 3. 3 8. 1 13. 1 18. 2 23. 4 4. 4 9. 2 14. 2 19. 3 24. 5. 3 10. 4 15. 2 20. 1 25.

จบบทเรยี นน้แี ลว้ คะ่ เดก็ ๆ พอใจกบั คะแนนของตวั เองไหมคะ ? สาหรบั ใครทคี่ ะแนนนอ้ ยไมเ่ ปน็ ทน่ี า่ พอใจกไ็ มเ่ ปน็ ไรนะคะ ขยนั มากขนึ้ ตง้ั ใจอา่ นเขยี นมากขน้ึ แลว้ จะไดค้ ะแนนดขี นึ้ คะ่ พบกนั ใหมใ่ นบทเรยี นหนา้ นะคะ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook